From 8b7f5ad9297188814296debd1b7e09615da7e2e8 Mon Sep 17 00:00:00 2001 From: Somchai Date: Fri, 9 Nov 2018 15:08:44 +0700 Subject: [PATCH] Fri Nov 09 2018 15:08:30 GMT+0700 (SE Asia Standard Time) --- 01/hour.txt | 2 +- 01/house.txt | 2 +- 01/hypocrite.txt | 2 +- 3 files changed, 3 insertions(+), 3 deletions(-) diff --git a/01/hour.txt b/01/hour.txt index 1191f196..89135821 100644 --- a/01/hour.txt +++ b/01/hour.txt @@ -1,6 +1,6 @@ [ { "title": "ชั่วโมง, ยาม", - "body": "นอกเหนือจากการใช้เพื่อหมายถึงเวลาหรือระยะเวลาที่บางอย่างเกิดขึ้น คำว่า \"ชั่วโมง\" ยังถูกใช้ในเชิงอุปมาอุปไมยหลายอย่าง\n* บางครั้ง \"ชั่วโมง\" หมายถึงเวลาที่กำหนดไว้เป็นประจำในการทำบางอย่างเช่น \"ชั่วโมงแห่งการอธิษฐาน\n* เมื่อข้อความนั้นบอกว่า \"ชั่วโมงนั้นมาถึงแล้ว\" สำหรับพระเยซูในการทนทุกข์และถูกประหาร นี่หมายความว่าเป็นเวลาที่ถูกกำหนดไว้ซึ่งพระเจ้าได้ทรงตัดสินพระทัยมานานแล้วว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น\nคำว่า \"โมงยาม\" ยังถูกใช้หมายถึง \"ในช่วงเวลานั้น\" หรือ \"ตอนนั้น\"\n-เมื่อข้อความนั้นพูดถึง \"โมงยาม\" ที่ล่วงเลยมามาก นี่หมายความว่าเป็นเวลาค่ำของวันที่ดวงอาทิตย์กำลังจะตกดิน\nข้อแนะนำในการแปล" + "body": "นอกเหนือจากการใช้เพื่อหมายถึงเวลาหรือระยะเวลาที่บางอย่างเกิดขึ้น คำว่า \"ชั่วโมง\" ยังถูกใช้ในเชิงอุปมาอุปไมยหลายอย่าง\n* บางครั้ง \"ชั่วโมง\" หมายถึงเวลาที่กำหนดไว้เป็นประจำในการทำบางอย่างเช่น \"ชั่วโมงแห่งการอธิษฐาน\n* เมื่อข้อความนั้นบอกว่า \"ชั่วโมงนั้นมาถึงแล้ว\" สำหรับพระเยซูในการทนทุกข์และถูกประหาร นี่หมายความว่าเป็นเวลาที่ถูกกำหนดไว้ซึ่งพระเจ้าได้ทรงตัดสินพระทัยมานานแล้วว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น\n* คำว่า \"ชั่วโมง\" ยังถูกใช้หมายถึง \"ในช่วงเวลานั้น\" หรือ \"ตอนนั้น\"\n* เมื่อข้อความนั้นพูดถึง \"ชั่วโมง\" ที่ล่วงเลยมามาก นี่หมายความว่าเป็นเวลาค่ำของวันที่ดวงอาทิตย์กำลังจะตกดิน\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* " } ] \ No newline at end of file diff --git a/01/house.txt b/01/house.txt index 68f9b6e3..81a76707 100644 --- a/01/house.txt +++ b/01/house.txt @@ -1,6 +1,6 @@ [ { "title": "บ้าน", - "body": "คำว่า \"บ้าน\" มักจะถูกใช้ในเชิงอุปมาอุปไมยในพระคัมภีร์\n* บางครั้งหมายความว่า \"ครัวเรือน ซึ่งหมายถึงคนที่อาศัยอยู่ด้วยกันในบ้านหลังหนึ่ง\n* บ่อยครั้งที่ \"บ้าน\" อ้างถึงบรรพบุรุษ เชื้อสายหรือญาติพี่น้องคนอื่นๆ ของคนหนึ่งตัวอย่างเช่น \"ตระกูลของดาวิด\" อ้างถึงผู้สืบเชื้อสายทั้งหมดของกษัตริย์ดาวิด\n* คำว่า \"นิเวศของพระเจ้า\" และ \"นิเวศของพระยาห์เวห์\" อ้างถึงพลับพลาหรือพระวิหาร คำกล่าวนี้สามารถอ้างถึงโดยทั่วไปสถานที่ที่พระเจ้าสถิตหรือประทับอยู่\n* ในพระธรรมฮีบรู 3 \"ครอบครัวของพระเจ้า\" ถูกใช้เป็นคำอุปมาเพื่ออ้างถึงคนของพระเจ้าหรือโดยทั่วไปแล้วคือทุกสิ่งที่เป็นของพระเจ้า\n* วลี \"เชื้อสายของอิสราเอล\" สามารถอ้างถึงประเทศอิสราเอลทั้งประเทศหรือเฉพาะเจาะจงลงไปอีกคือเผ่าที่อยู่ในอาณาจักรของอิสราเอลทางตอนเหนือ\n\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n\n* ขึ้นอยู่กับบริบท \"บ้าน\" สามารถแปลว่า \"ครัวเรือน\" หรือ \"ผู้คน\" หรือ \"ครอบครัว\" หรือ \"เชื้อสาย\" หรือ \"พระวิหาร\" หรือ \"สถานที่อยู่อาศัย\"\n* วลี \"ตระกูลของดาวิด\" อาจจะแปลว่า \"เผ่าพันธุ์ของดาวิด\" หรือ \"ครอบครัวของดาวิด\" หรือ \"เชื้อสายของดาวิด\" สำนวนที่เกี่ยวข้องกันสามารถจะแปลได้ในทางที่ใกล้เคียงกัน\n* วิธีอื่นที่จะแปล \"เชื้อสายของอิสราเอล\" อาจรวมถึง \"ประชากรของอิสราเอล\" หรือ \"ลูกหลานของอิสราเอล\" หรือ \"คนอิสราเอล\"\n* \"นิเวศของพระยาห์เวห์\" สามารถแปลได้ว่า \"วิหารของพระยาห์เวห์\" หรือ \"สถานที่ที่มีการนมัสการพระยาห์เวห์\" หรือ \"สถานที่ที่พระยาห์เวห์เสด็จมาพบกับคนของพระองค์\" หรือ \"สถานที่ที่พระยาห์เวห์ประทับอยู่\"\n* \"พระนิเวศของพระเจ้า\" สามารถแปลได้ในแบบคล้ายคลึงกัน" + "body": "คำว่า \"บ้าน\" มักจะถูกใช้ในเชิงอุปมาอุปไมยในพระคัมภีร์\n* บางครั้งหมายความว่า \"ครัวเรือน ซึ่งหมายถึงคนที่อาศัยอยู่ด้วยกันในบ้านหลังหนึ่ง\n* บ่อยครั้งที่ \"บ้าน\" อ้างถึงบรรพบุรุษ เชื้อสายหรือญาติพี่น้องคนอื่นๆ ของคนหนึ่งตัวอย่างเช่น \"ตระกูลของดาวิด\" อ้างถึงผู้สืบเชื้อสายทั้งหมดของกษัตริย์ดาวิด\n* คำว่า \"นิเวศของพระเจ้า\" และ \"นิเวศของพระยาห์เวห์\" อ้างถึงพลับพลาหรือพระวิหาร คำกล่าวนี้สามารถอ้างถึงโดยทั่วไปสถานที่ที่พระเจ้าสถิตหรือประทับอยู่\n* ในพระธรรมฮีบรู 3 \"ครอบครัวของพระเจ้า\" ถูกใช้เป็นคำอุปมาเพื่ออ้างถึงคนของพระเจ้าหรือโดยทั่วไปแล้วคือทุกสิ่งที่เป็นของพระเจ้า\n* วลี \"เชื้อสายของอิสราเอล\" สามารถอ้างถึงประเทศอิสราเอลทั้งประเทศหรือเฉพาะเจาะจงลงไปอีกคือเผ่าที่อยู่ในอาณาจักรของอิสราเอลทางตอนเหนือ\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ขึ้นอยู่กับบริบท \"บ้าน\" สามารถแปลว่า \"ครัวเรือน\" หรือ \"ผู้คน\" หรือ \"ครอบครัว\" หรือ \"เชื้อสาย\" หรือ \"พระวิหาร\" หรือ \"สถานที่อยู่อาศัย\"\n* วลี \"ตระกูลของดาวิด\" อาจจะแปลว่า \"เผ่าพันธุ์ของดาวิด\" หรือ \"ครอบครัวของดาวิด\" หรือ \"เชื้อสายของดาวิด\" สำนวนที่เกี่ยวข้องกันสามารถจะแปลได้ในทางที่ใกล้เคียงกัน\n* วิธีอื่นที่จะแปล \"เชื้อสายของอิสราเอล\" อาจรวมถึง \"ประชากรของอิสราเอล\" หรือ \"ลูกหลานของอิสราเอล\" หรือ \"คนอิสราเอล\"\n* \"นิเวศของพระยาห์เวห์\" สามารถแปลได้ว่า \"วิหารของพระยาห์เวห์\" หรือ \"สถานที่ที่มีการนมัสการพระยาห์เวห์\" หรือ \"สถานที่ที่พระยาห์เวห์เสด็จมาพบกับคนของพระองค์\" หรือ \"สถานที่ที่พระยาห์เวห์ประทับอยู่\"\n* \"พระนิเวศของพระเจ้า\" สามารถแปลได้ในแบบคล้ายคลึงกัน" } ] \ No newline at end of file diff --git a/01/hypocrite.txt b/01/hypocrite.txt index 9d6fd093..3306d7f3 100644 --- a/01/hypocrite.txt +++ b/01/hypocrite.txt @@ -1,6 +1,6 @@ [ { "title": "คนหน้าซื่อใจคด, การหน้าซื่อใจคด", - "body": "คำว่า \"คนหน้าซื่อใจคด\" อ้างถึงคนที่ทำสิ่งที่ดูเหมือนชอบธรรม แต่แอบประพฤติในสิ่งที่ชั่วร้าย คำว่า \"การหน้าซื่อใจคด\" อ้างถึงพฤติกรรมที่หลอกลวงผู้คนให้คิดว่าคนนั้นเป็นคนชอบธรรม\n* คนหน้าซื่อใจคดต้องการให้คนอื่นเห็นว่าตนเองทำสิ่งที่ดีเพื่อที่ว่าคนอื่นจะคิดว่าพวกเขาเป็นคนดี\n* คนหน้าซื่อใจคดมักจะวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นว่าทำสิ่งที่เป็นความบาปซึ่งพวกเขาเองก็ทำ\n* พระเยซูทรงเรียกพวกฟาริสีว่าคนหน้าซื่อในคดเพราะพวกเขาทำประพฤติตามหลักศาสนาเช่น ใส่เสื้อผ้าบางอย่างและรับประทานอาหารบางอย่าง แต่พวกเขาไม่ได้เมตตาหรือยุติธรรมต่อคนอื่น\n* คนหน้าซื่อใจคดชี้ความผิดในตัวคนอื่นได้ แต่ไม่ยอมรับความผิดของตนเอง\n\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n\n* บางภาษามีคำกล่าวเช่น \"สองหน้า\" ที่อ้างถึงคนหน้าซื่อใจคดหรือการประพฤติของคนหน้าซื่อใจคด\n* วิธีอื่นที่จะแปล\"คนหน้าซื่อใจคด\" สามารถรวมถึง \"คนหลอกลวง\" หรือ \"คนเสแสร้ง\" หรือ \"คนเย่อหยิ่งหลอกลวง\"\n* คำว่า \"การหน้าซื่อใจคด\" สามารถแปลได้ว่า \"การหลอกลวง\" หรือ \"การกระทำที่จอมปลอม\" หรือ \"การเสแสร้ง\" " + "body": "คำว่า \"คนหน้าซื่อใจคด\" อ้างถึงคนที่ทำสิ่งที่ดูเหมือนชอบธรรม แต่แอบประพฤติในสิ่งที่ชั่วร้าย คำว่า \"การหน้าซื่อใจคด\" อ้างถึงพฤติกรรมที่หลอกลวงผู้คนให้คิดว่าคนนั้นเป็นคนชอบธรรม\n* คนหน้าซื่อใจคดต้องการให้คนอื่นเห็นว่าตนเองทำสิ่งที่ดีเพื่อที่ว่าคนอื่นจะคิดว่าพวกเขาเป็นคนดี\n* คนหน้าซื่อใจคดมักจะวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นว่าทำสิ่งที่เป็นความบาปซึ่งพวกเขาเองก็ทำ\n* พระเยซูทรงเรียกพวกฟาริสีว่าคนหน้าซื่อในคดเพราะพวกเขาทำประพฤติตามหลักศาสนาเช่น ใส่เสื้อผ้าบางอย่างและรับประทานอาหารบางอย่าง แต่พวกเขาไม่ได้เมตตาหรือยุติธรรมต่อคนอื่น\n* คนหน้าซื่อใจคดชี้ความผิดในตัวคนอื่นได้ แต่ไม่ยอมรับความผิดของตนเอง\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* บางภาษามีคำกล่าวเช่น \"สองหน้า\" ที่อ้างถึงคนหน้าซื่อใจคดหรือการประพฤติของคนหน้าซื่อใจคด\n* วิธีอื่นที่จะแปล\"คนหน้าซื่อใจคด\" สามารถรวมถึง \"คนหลอกลวง\" หรือ \"คนเสแสร้ง\" หรือ \"คนเย่อหยิ่งหลอกลวง\"\n* คำว่า \"การหน้าซื่อใจคด\" สามารถแปลได้ว่า \"การหลอกลวง\" หรือ \"การกระทำที่จอมปลอม\" หรือ \"การเสแสร้ง\" " } ] \ No newline at end of file