Mon Nov 12 2018 20:21:03 GMT+0700 (SE Asia Standard Time)

This commit is contained in:
chayan 2018-11-12 20:21:04 +07:00
parent 518ce84d51
commit 78ee550303
8 changed files with 7 additions and 8 deletions

View File

@ -1,6 +1,6 @@
[
{
"title": "เบธเชเมช",
"body": "เบธเชเมช เป็นชื่อเมืองในแคว้นคานาอัน อยู่ห่างไปทางตะวันตกของกรุงเยรูซาเล็มประมาณ 30 กิโลเมตร\n* ชนชาติอิสราเอลได้ยึดครองเมืองเบธเชเมชในสมัยที่โยชูวาเป็นผู้นำ\n* เบธเชเมช เป็นเมืองที่ถูกแยกออกมาเป็นพื้นที่สำหรับปุโรหิตคนเลวีได้อาศัยอยู่\n* เมื่อพวกฟิลิสเตียได้กำลังนำเอาหีบแห่งพันธสัญญากลับคืนมายังกรุงเยรูซาเล็ม เมืองเบธเชเมชเป็นเมืองแรกที่หีบนั้นหยุดอยู่ที่นั่น"
"body": "เบธเชเมช เป็นชื่อเมืองในแคว้นคานาอัน อยู่ห่างไปทางตะวันตกของกรุงเยรูซาเล็มประมาณ 30 กิโลเมตร\n\n* ชนชาติอิสราเอลได้ยึดครองเมืองเบธเชเมชในสมัยที่โยชูวาเป็นผู้นำ\n* เบธเชเมช เป็นเมืองที่ถูกแยกออกมาเป็นพื้นที่สำหรับปุโรหิตคนเลวีได้อาศัยอยู่\n* เมื่อพวกฟิลิสเตียได้กำลังนำเอาหีบแห่งพันธสัญญากลับคืนมายังกรุงเยรูซาเล็ม เมืองเบธเชเมชเป็นเมืองแรกที่หีบนั้นหยุดอยู่ที่นั่น"
}
]

View File

@ -1,6 +1,6 @@
[
{
"title": "เบธูเอล",
"body": "เบธูเอลเป็นบุตรชายของนาโฮร์น้องชายของอับราฮัม\n* เบธูเอลเป็นบิดาของเรเบคาห์และลาบัน\n* มีอีกเมืองหนึ่งที่ชื่อเบธูเอล ซึ่งอาจจะตั้งอยู่ทางใต้ของยูดาห์ ไม่ไกลจากเมืองเบเออร์เชบา"
"body": "เบธูเอลเป็นบุตรชายของนาโฮร์น้องชายของอับราฮัม\n\n* เบธูเอลเป็นบิดาของเรเบคาห์และลาบัน\n* มีอีกเมืองหนึ่งที่ชื่อเบธูเอล ซึ่งอาจจะตั้งอยู่ทางใต้ของยูดาห์ ไม่ไกลจากเมืองเบเออร์เชบา"
}
]

View File

@ -1,6 +1,6 @@
[
{
"title": "ทรยศ, คนทรยศ",
"body": "คำว่า \"ทรยศ\" หมายถึงการกระทำที่หลอกลวงและทำร้ายคนใดคนหนึ่ง \"คนทรยศ\" เป็นบุคคลที่ทรยศเพื่อนที่ไว้วางใจเขา\n* ยูดาสเป็น \"คนทรยศ\" เพราะเขาบอกพวกผู้นำยิวถึงวิธีการจับกุมพระเยซู\n* การทรยศของยูดาสเป็นความชั่วร้ายอย่างยิ่ง เพราะเขาเป็นอัครสาวกของพระเยซู เขาได้รับเงินเพื่อแลกเปลี่ยนกับการให้ข้อมูลกับพวกผู้นำยิว ซึ่งจะเป็นผลต่อการสวรรคตอย่างไม่เป็นธรรมของพระเยซู\n\n# ข้อแนะนำในการแปล\n* การแปลขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า \"ทรยศ\" สามารถแปลว่า \"หลอกลวง และทำให้ได้รับบาดเจ็บ\" หรือ \"มอบให้แก่ศัตรู\" หรือ \"การกระทำที่อกตัญญู\"\n* คำว่า \"คนทรยศ\" สามารถแปลได้ว่า \"คนที่ไม่สัตย์ซื่อ\" หรือ \"คนที่ติดต่อสองทาง\" หรือ \"ผู้หักหลัง\""
"body": "คำว่า \"ทรยศ\" หมายถึงการกระทำที่หลอกลวงและทำร้ายคนใดคนหนึ่ง \"คนทรยศ\" เป็นบุคคลที่ทรยศเพื่อนที่ไว้วางใจเขา\n\n* ยูดาสเป็น \"คนทรยศ\" เพราะเขาบอกพวกผู้นำยิวถึงวิธีการจับกุมพระเยซู\n* การทรยศของยูดาสเป็นความชั่วร้ายอย่างยิ่ง เพราะเขาเป็นอัครสาวกของพระเยซู เขาได้รับเงินเพื่อแลกเปลี่ยนกับการให้ข้อมูลกับพวกผู้นำยิว ซึ่งจะเป็นผลต่อการสวรรคตอย่างไม่เป็นธรรมของพระเยซู\n\n# ข้อแนะนำในการแปล\n\n* การแปลขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า \"ทรยศ\" สามารถแปลว่า \"หลอกลวง และทำให้ได้รับบาดเจ็บ\" หรือ \"มอบให้แก่ศัตรู\" หรือ \"การกระทำที่อกตัญญู\"\n* คำว่า \"คนทรยศ\" สามารถแปลได้ว่า \"คนที่ไม่สัตย์ซื่อ\" หรือ \"คนที่ติดต่อสองทาง\" หรือ \"ผู้หักหลัง\""
}
]

View File

@ -1,6 +1,6 @@
[
{
"title": "เวลาในพระคัมภีร์ : วัน",
"body": "คำว่า \"วัน\" ตามตัวอักษรหมายถึงช่วงเวลาต่อเนื่องกัน 24 ชั่วโมง เริ่มนับเมื่อดวงอาทิตย์ตกดิน คำนี้ยังใช้เป็นคำเปรียบเทียบด้วย\n* สำหรับชนชาติอิสราเอลและพวกยิว หนึ่งวันเริ่มนับจากตอนที่ตะวันตกดินของวันหนึ่ง และไปสิ้นสุดตอนที่ตะวันตกดินของวันต่อมา\n* บางครั้ง คำว่า \"วัน\" ใช้เป็นคำเปรียบเทียบในการกล่าวถึงช่วงเวลาที่ยาวนานกว่า อย่างเช่น \"วันแห่งพระยาเวห์\" หรือ \"วันสุดท้าย\"\n* บางภาษาจะใช้สำนวนที่แตกต่างกันในการแปลคำเปรียบเทียบเหล่านี้ หรือจะแปลว่า \"วัน\" ที่ไม่ได้ใช้เป็นคำเปรียบเทียบ\n* การแปลในรูปแบบอื่นๆ ของ \"วัน\" สามารถรวมถึงคำว่า \"เวลา\" หรือ \"ฤดู\" หรือ \"โอกาส\" หรือ \"เหตุการณ์\" ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริบทนั้นๆ\n"
"body": "คำว่า \"วัน\" ตามตัวอักษรหมายถึงช่วงเวลาต่อเนื่องกัน 24 ชั่วโมง เริ่มนับเมื่อดวงอาทิตย์ตกดิน คำนี้ยังใช้เป็นคำเปรียบเทียบด้วย\n\n* สำหรับชนชาติอิสราเอลและพวกยิว หนึ่งวันเริ่มนับจากตอนที่ตะวันตกดินของวันหนึ่ง และไปสิ้นสุดตอนที่ตะวันตกดินของวันต่อมา\n* บางครั้ง คำว่า \"วัน\" ใช้เป็นคำเปรียบเทียบในการกล่าวถึงช่วงเวลาที่ยาวนานกว่า อย่างเช่น \"วันแห่งพระยาเวห์\" หรือ \"วันสุดท้าย\"\n* บางภาษาจะใช้สำนวนที่แตกต่างกันในการแปลคำเปรียบเทียบเหล่านี้ หรือจะแปลว่า \"วัน\" ที่ไม่ได้ใช้เป็นคำเปรียบเทียบ\n* การแปลในรูปแบบอื่นๆ ของ \"วัน\" สามารถรวมถึงคำว่า \"เวลา\" หรือ \"ฤดู\" หรือ \"โอกาส\" หรือ \"เหตุการณ์\" ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริบทนั้นๆ"
}
]

View File

@ -1,6 +1,6 @@
[
{
"title": "เวลาในพระคัมภีร์ : ชั่วโมง",
"body": "คำว่า \"ชั่วโมง\" มักจะใช้ในพระคัมภีร์เพื่อบอกว่าเป็นเวลาอะไรของวันที่เหตุการณ์บางอย่างได้เกิดขึ้น และสามารถใช้เป็นคำเปรียบเทียบที่หมายถึง \"เวลา\" หรือ\"ชั่วขณะหนึ่ง\"\n* พวกยิวนับชั่วโมงในเวลากลางวัน เริ่มตอนที่ดวงอาทิตย์ขึ้น (ประมาณ 6 นาฬิกา) ตัวอย่างเช่น \"ชั่วโมงที่เก้า\" หมายถึง \"เวลาประมาณบ่ายสามโมง\" ในระบบปัจจุบัน\n* ชั่วโมงในเวลากลางคืน เริ่มนับตอนดวงอาทิตย์ตก (ประมาณ 18 นาฬิกา) ตัวอย่างเช่น \"ชั่วโมงที่สามของตอนกลางคืน\" หมายถึง \"เวลาประมาณสามทุ่ม\" ในระบบปัจจุบัน\n* เมื่ออ้างอิงถึงเวลาในพระคัมภีร์จะไม่ตรงพอดีกับระบบเวลาในปัจจุบันนี้ อย่างเช่นคำวลีว่า \"เวลาประมาณเก้าโมง\" หรือ \"ประมาณหกนาฬิกา\" สามารถนำมาใช้ได้\n* การแปลบางครั้งอาจะเพิ่มวลีอย่างเช่น \"ในตอนเย็น\" หรือ \"ในตอนเช้า\" หรือ \"ในตอนบ่าย\" เพื่อทำให้ชัดเจนว่าเป็นเวลาไหนของวันที่กำลังพูดถึง\n* วลีที่ว่า \"ในชั่วโมงนั้น\" สามารถแปลได้ว่า \"เวลานั้น\" หรือ \"ชั่วขณะนั้น\"\n* การกล่าวถึงพระเยซู เพื่ออธิบาย \"ชั่วโมงที่พระองค์เสด็จมา\" สามารถแปลได้ว่า \"เวลาได้มาถึงสำหรับพระองค์\" หรือ \"กำหนดเวลาสำหรับพระองค์ได้มาถึง\""
"body": "คำว่า \"ชั่วโมง\" มักจะใช้ในพระคัมภีร์เพื่อบอกว่าเป็นเวลาอะไรของวันที่เหตุการณ์บางอย่างได้เกิดขึ้น และสามารถใช้เป็นคำเปรียบเทียบที่หมายถึง \"เวลา\" หรือ\"ชั่วขณะหนึ่ง\"\n\n* พวกยิวนับชั่วโมงในเวลากลางวัน เริ่มตอนที่ดวงอาทิตย์ขึ้น (ประมาณ 6 นาฬิกา) ตัวอย่างเช่น \"ชั่วโมงที่เก้า\" หมายถึง \"เวลาประมาณบ่ายสามโมง\" ในระบบปัจจุบัน\n* ชั่วโมงในเวลากลางคืน เริ่มนับตอนดวงอาทิตย์ตก (ประมาณ 18 นาฬิกา) ตัวอย่างเช่น \"ชั่วโมงที่สามของตอนกลางคืน\" หมายถึง \"เวลาประมาณสามทุ่ม\" ในระบบปัจจุบัน\n* เมื่ออ้างอิงถึงเวลาในพระคัมภีร์จะไม่ตรงพอดีกับระบบเวลาในปัจจุบันนี้ อย่างเช่นคำวลีว่า \"เวลาประมาณเก้าโมง\" หรือ \"ประมาณหกนาฬิกา\" สามารถนำมาใช้ได้\n* การแปลบางครั้งอาจะเพิ่มวลีอย่างเช่น \"ในตอนเย็น\" หรือ \"ในตอนเช้า\" หรือ \"ในตอนบ่าย\" เพื่อทำให้ชัดเจนว่าเป็นเวลาไหนของวันที่กำลังพูดถึง\n* วลีที่ว่า \"ในชั่วโมงนั้น\" สามารถแปลได้ว่า \"เวลานั้น\" หรือ \"ชั่วขณะนั้น\"\n* การกล่าวถึงพระเยซู เพื่ออธิบาย \"ชั่วโมงที่พระองค์เสด็จมา\" สามารถแปลได้ว่า \"เวลาได้มาถึงสำหรับพระองค์\" หรือ \"กำหนดเวลาสำหรับพระองค์ได้มาถึง\""
}
]

View File

@ -1,6 +1,6 @@
[
{
"title": "เวลาในพระคัมภีร์ : เดือน",
"body": "คำว่า \"เดือน\" หมายถึง ช่วงเวลาต่อเนื่องประมาณสี่สัปดาห์ จำนวนวันในแต่ละเดือนจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปฎิทินทางจันทรคติ หรือปฏิทินทางสุริยคติที่ใช้\n* ในปฏิทินทางจันทรคติ ความยาวของแต่ละเดือนยึดหลักจำนวนเวลาที่ดวงจันทร์หมุนรอบโลกเป็นหลัก ประมาณ 29 วัน ในระบบนี้มี 12 หรือ 13 เดือนในหนึ่งปี อย่างไรก็ตามไม่ว่าหนึ่งปีจะมี 12 เดือน หรือ 13 เดือน เดือนที่หนึ่งก็จะถูกเรียกชื่อเดียวกันตลอดถึงแม้ว่าฤดูจะแตกต่างกัน\n* \"ดวงจันทร์ข้างขึ้น\" หรือ วลีเริ่มต้นที่ดวงจันทร์เริ่มเปล่งแสงออกมา เป็นเครื่องหมายของการเริ่มต้นของแต่ละเดือนในปฏิทินทางจันทรคติ\n* ชื่อของเดือนทั้งหมดที่กล่าวถึงในพระคัมภีร์เป็นปฏิทินทางจันทรคติ เนื่องจากเป็นระบบที่ชนชาติอิสราเอลใช้ คนยิวสมัยใหม่ยังคงใช้ปฏิทินนี้เพื่อวัตถุประสงค์ทางด้านศาสนา\n* ปฏิทินสุริยคติสมัยนี้ยึดหลักของการที่โลกใช้เวลาหมุนรอบดวงอาทิตย์ (ประมาณ 365 วัน) ในระบบนี้ หนึ่งปีจะแบ่งเป็น 12 เดือนเสมอ และความยาวของแต่ละเดือนอยู่ในช่วง 28 ถึง 31 วัน"
"body": "คำว่า \"เดือน\" หมายถึง ช่วงเวลาต่อเนื่องประมาณสี่สัปดาห์ จำนวนวันในแต่ละเดือนจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปฎิทินทางจันทรคติ หรือปฏิทินทางสุริยคติที่ใช้\n\n* ในปฏิทินทางจันทรคติ ความยาวของแต่ละเดือนยึดหลักจำนวนเวลาที่ดวงจันทร์หมุนรอบโลกเป็นหลัก ประมาณ 29 วัน ในระบบนี้มี 12 หรือ 13 เดือนในหนึ่งปี อย่างไรก็ตามไม่ว่าหนึ่งปีจะมี 12 เดือน หรือ 13 เดือน เดือนที่หนึ่งก็จะถูกเรียกชื่อเดียวกันตลอดถึงแม้ว่าฤดูจะแตกต่างกัน\n* \"ดวงจันทร์ข้างขึ้น\" หรือ วลีเริ่มต้นที่ดวงจันทร์เริ่มเปล่งแสงออกมา เป็นเครื่องหมายของการเริ่มต้นของแต่ละเดือนในปฏิทินทางจันทรคติ\n* ชื่อของเดือนทั้งหมดที่กล่าวถึงในพระคัมภีร์เป็นปฏิทินทางจันทรคติ เนื่องจากเป็นระบบที่ชนชาติอิสราเอลใช้ คนยิวสมัยใหม่ยังคงใช้ปฏิทินนี้เพื่อวัตถุประสงค์ทางด้านศาสนา\n* ปฏิทินสุริยคติสมัยนี้ยึดหลักของการที่โลกใช้เวลาหมุนรอบดวงอาทิตย์ (ประมาณ 365 วัน) ในระบบนี้ หนึ่งปีจะแบ่งเป็น 12 เดือนเสมอ และความยาวของแต่ละเดือนอยู่ในช่วง 28 ถึง 31 วัน"
}
]

View File

@ -1,6 +1,6 @@
[
{
"title": "เวลาในพระคัมภีร์ : ยาม",
"body": "ในสมัยพระคัมภีร์ คำว่า \"ยาม\" คือช่วงเวลาตอนกลางคืนระหว่างที่คนยาม หรือคนรักษาความปลอดภัยให้กับเมืองอยู่ในหน้าที่ในการเฝ้าระวังอันตรายจากศัตรู\n* ในพันธสัญญาเดิม คนอิสราเอลมีสามยามที่เรียกว่า \"ยามต้น\" (ดวงอาทิตย์ตกดินถึงเวลา 22:00 นาฬิกา) \"ยามกลาง\" (เวลา 22:00 นาฬิกาถึง 2:00 นาฬิกา) และ \"ยามเช้า\" (2:00 นาฬิกาถึงดวงอาทิตย์ขึ้น)\n* ในพันธสัญญาใหม่ คนยิวใช้ปฏิทินตามอย่างระบบของโรมัน ซึ่งมีสี่ยาม ที่มีชื่อง่ายๆ ว่า \"ยามที่หนึ่ง\" (ดวงอาทิตย์ตก ถึง 21:00 นาฬิกา) \"ยามที่สอง\" (เวลา 21:00 นาฬิกาถึง 24:00 นาฬิกา) \"ยามที่สาม\" (เวลา 24:00 นาฬิกา ถึง 3:00 นาฬิกา) และ \"ยามที่สี่\" (เวลา 3:00 นาฬิกาถึง ดวงอาทิตย์ขึ้น)\n* คำเหล่านี้สามารถแปลเพื่อขยายความได้ด้วย อย่างเช่น \"ดึก\" หรือ \"ตอนเที่ยงคืน\" หรือ \"ในเวลาเช้ามืด\" ขึ้นอยู่กับยามที่กำลังกล่าวถึง"
"body": "ในสมัยพระคัมภีร์ คำว่า \"ยาม\" คือช่วงเวลาตอนกลางคืนระหว่างที่คนยาม หรือคนรักษาความปลอดภัยให้กับเมืองอยู่ในหน้าที่ในการเฝ้าระวังอันตรายจากศัตรู\n\n* ในพันธสัญญาเดิม คนอิสราเอลมีสามยามที่เรียกว่า \"ยามต้น\" (ดวงอาทิตย์ตกดินถึงเวลา 22:00 นาฬิกา) \"ยามกลาง\" (เวลา 22:00 นาฬิกาถึง 2:00 นาฬิกา) และ \"ยามเช้า\" (2:00 นาฬิกาถึงดวงอาทิตย์ขึ้น)\n* ในพันธสัญญาใหม่ คนยิวใช้ปฏิทินตามอย่างระบบของโรมัน ซึ่งมีสี่ยาม ที่มีชื่อง่ายๆ ว่า \"ยามที่หนึ่ง\" (ดวงอาทิตย์ตก ถึง 21:00 นาฬิกา) \"ยามที่สอง\" (เวลา 21:00 นาฬิกาถึง 24:00 นาฬิกา) \"ยามที่สาม\" (เวลา 24:00 นาฬิกา ถึง 3:00 นาฬิกา) และ \"ยามที่สี่\" (เวลา 3:00 นาฬิกาถึง ดวงอาทิตย์ขึ้น)\n* คำเหล่านี้สามารถแปลเพื่อขยายความได้ด้วย อย่างเช่น \"ดึก\" หรือ \"ตอนเที่ยงคืน\" หรือ \"ในเวลาเช้ามืด\" ขึ้นอยู่กับยามที่กำลังกล่าวถึง"
}
]

View File

@ -163,7 +163,6 @@
"01-biblicaltimehour",
"01-biblicaltimemonth",
"01-biblicaltimewatch",
"01-biblicaltimeweek",
"01-biblicaltimeyear",
"01-birthright",
"01-blameless",