diff --git a/01/12tribesofisrael.txt b/01/12tribesofisrael.txt index d1b6dd54..16a222af 100644 --- a/01/12tribesofisrael.txt +++ b/01/12tribesofisrael.txt @@ -1,6 +1,11 @@ [ { +<<<<<<< HEAD "title": "อิสราเอลสิบสองเผ่า", "body": "อิสราเอลสิบสองเผ่าหมายถึงบุตรชายสิบสองคนของยาโคบและพงศ์พันธ์ุของพวกเขา\n\n* ยาโคบเป็นหลานชายของอับราฮัม ต่อมาพระเจ้าทรงได้เปลี่ยนชื่อของยาโคบเป็น อิสราเอล\n* เหล่านี้เป็นชื่อเผ่าต่างๆ คือ รูเบน สิเมโอน เลวี ยูดาห์ ดาน นัฟทาลี กาด อาเชอร์ อิสสาคาร์ เศบูลุน โยเซฟและเบนยามิน\n* พงศ์พันธ์ุของเลวีไม่ได้รับแผ่นดินคานาอันเป็นมรดกเลยเพราะพวกเขาเป็นชนเผ่าปุโรหิตที่ได้แยกออกโดยเฉพาะเพื่อรับใช้พระเจ้าและชนชาติของพระองค์\n* โยเซฟได้รับแผ่นดินเป็นมรดก เป็นสองเท่า ซึ่งได้โอนไปให้แก่บุตรชายทั้งสองของเขาคือเอฟราอิมและมนัสเสห์\n* มีหลายแห่งในพระคัมภีร์ที่มีรายชื่อชนเผ่าแตกต่างกันเล็กน้อย บางครั้ง เลวี โยเซฟ หรือดานไม่มีอยู่ในบัญชีรายชื่อ บางครั้งบุตรชายทั้งสองคนของโยเซฟ คือเอฟราอิมและมนัสเสห์จะมีอยู่ในบัญชีรายชื่อ" +======= + "title": "สิบสองเผ่าของอิสราเอล", + "body": "สิบสองเผ่าของอิสราเอลหมายถึงบุตรชายสิบสองคนของยาโคบและพงศ์พันธ์ุของพวกเขา\n-ยาโคบเป็นหลานชายของอับราฮัม ต่อมาพระเจ้าเปลี่ยนชื่อของยาโคบให้ว่า อิสราเอล\n-เหล่านี้เป็นชื่อของชนเผ่าต่างๆ คือ รูเบน สิเมโอน เลวี ยูดาห์แดน แนฟทาลี กาด อาเชอร์ อิสสาคาร์ เศบูลุนและ โยเซฟและเบนยามิน\n-พงศ์พันธ์ุของเลวีไม่ได้รับมรดกในแผ่นดินคานาอันเลยเพราะพวกเขาเป็นชนเผ่าปุโรหิตที่ได้แยกออกโดยเฉพาะเพื่อรับใช้พระเจ้าและชนชาติของพระองค์\n-โยเซฟได้รับมรดกเป็นสองเท่าของแผ่นดินซึ่งได้โอนไปให้แก่บุตรชายทั้งสองของเขาคือเอฟราอิมและมนัสเสห์\n-มีหลายแห่งในพระคัมภีร์ที่มีรายชื่อชนเผ่าแตกต่างกันเล็กน้อย ตัวอย่างเช่นบางครั้ง เลวี โยเซฟ หรือแดนไม่มีชื่อในรายการและบางครั้งบุตรชายสองคนของโยเซฟทั้งสองคนคือเอฟราอิมและมนัสเสห์จะอยู่ในรายการ" +>>>>>>> 9f875c462bdd983897e2e9690cad42ff380699b8 } ] \ No newline at end of file diff --git a/01/freewilloffering.txt b/01/freewilloffering.txt index bbf62333..12f95d7e 100644 --- a/01/freewilloffering.txt +++ b/01/freewilloffering.txt @@ -1,6 +1,6 @@ [ { - "title": "เครื่องถวายตามใจสมัคร", - "body": "เครื่องถวายตามใจสมัครคืออีกประเภทหนึ่งของเครื่องถวายบูชาที่เป็นการถวายที่ให้มากกว่าหรือเหนือกว่าสิ่งที่ธรรมบัญญัติของคนยิวเรียกร้อง\n- ถ้าเครื่องถวายตามใจสมัครเป็นสัตว์ที่เอามาถวาย สามารถมีตำหนิได้นิดหน่อยเนื่องจากว่าเป็นการถวายตามใจสมัคร\n- การถวายเครื่อสัตวบูชาของชนชาติอิสราเอล (เครื่องถวายตามใจสมัคร) ก็เป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองเทศกาล\n- หนังสือพระธรรมเอสราได้บันทึกประเภทต่างๆ ของเครื่องถวายตามใจสมัครที่ถูกนำมาถวายเพื่อทำการบูรณะพระวิหาร สิ่งเหล่านี้ประกอบด้วยเหรียญทองและเงินและเครื่องแต่งกายของปุโรหิต\n- เครื่องถวายตามใจสมัครคือผลของความชื่นชมยินดีของชนชาติอิสราเอลเพื่อสะท้อนถึงความอุดมสมบูรณ์และความสำเร็จของการปลูกพืชผล" + "title": "การถวายตามความสมัครใจ", + "body": "การถวายตามความสมัครใจคือชนิดของเครื่องถวายบูชาที่ถวายแด่พระเจ้าที่ไม่ถูกกำหนดไว้โดยบัญญัติของโมเสส มันเป็นทางเลือกของบุคคลที่จะถวายแบบนี้\n\n\n* ถ้าเครื่องถวายตามความสมัครใจเป็นสัตว์ที่เอามาถวาย สัตว์ได้รับอนุญาตให้มีตำหนิได้บ้างเนื่องจากว่าเป็นการถวายตามความสมัครใจ\n* คนอิสราเอลได้กินสัตว์ที่นำมาถวายบูชาถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของงานเลี้ยงฉลอง\n* เมื่อเครื่องถวายตามความสมัครใจสามารถแจกจ่ายได้ นี่เป็นเหตุให้เกิดความยินดีในอิสราเอล เนื่องจากได้แสดงว่าการเก็บเกี่ยวได้ผลดีดังนั้นประชาชนก็มีอาหารมากมาย\n* พระธรรมเอสราได้อธิบายถึงประเภทต่างๆ ของเครื่องถวายตามความสมัครใจที่ถูกนำมาถวายเพื่อทำการบูรณะพระวิหาร การถวายนี้ประกอบด้วยเหรียญทองและเงินเช่นเดียวกับถ้วยชามและวัตถุอื่นๆ ที่ทำด้วยทองคำและเงิน\n" } ] \ No newline at end of file diff --git a/01/fruit.txt b/01/fruit.txt index 28b06c5f..16d940cb 100644 --- a/01/fruit.txt +++ b/01/fruit.txt @@ -1,6 +1,11 @@ [ { +<<<<<<< HEAD "title": "ผลไม้, เกิดผลมาก", "body": "คำว่า \"ผลไม้\" ตามตัวอักษรกล่าวถึงส่วนหนึ่งของพืชที่สามารถกินได้ บางอย่างที่ \"เกิดผลมาก\" คือมีผลมากมาย คำเหล่านี้สามารถใช้แบบเปรียบเทียบในพระคัมภีร์\n\n* พระคัมภีร์มักใช้ \"ผล\" เพื่อกล่าวถึงการกระทำและความคิดของบุคคล เหมือนกับผลของพืชที่แสดงให้เห็นว่าพืชนั้นคือต้นอะไร เช่นเดียวกับคำพูดและการกระทำของบุคคลที่เปิดเผยว่าเขามีลักษณะอย่างไร\n* บุคคลสามารถผลิตผลฝ่ายวิญญาณได้ทั้งดีและไม่ดี แต่คำว่า \"เกิดผลมาก\" มักมีความหมายในเชิงบวกของการเกิดผลดีมากมาย\n* คำว่า \"เกิดผลมาก\" ก็ใช้แบบเปรียบเทียบเพื่อหมายถึง \"ความเจริญรุ่งเรือง\" คำนี้มักบ่งบอกถึงการมีบุตร และเชื้อสายจำนวนมาก เช่นเดียวกันกับการมีอาหารมากและความอุดมสมบูรณ์อย่างอื่น ๆ\n* โดยทั่วไป ประโยคที่ว่า \"ผลของ\" กล่าวถึงอะไรก็ตามที่ออกมาหรือผลิตโดยบางสิ่ง ตัวอย่างเช่น \"ผลของสติปัญญา\" กล่าวถึงสิ่งที่ดีที่เกิดจากความฉลาด\n* ประโยคที่ว่า \"ผลของแผ่นดิน\" กล่าวถึงทุกสิ่งโดยทั่วไปที่แผ่นดินให้ผลออกมาเพื่อให้มนุษย์ได้กิน สิ่งนี้ไม่ได้หมายถึงแค่ผลไม้เช่น ผลองุ่น หรืออิทผลัมเท่านั้น แต่รวมทั้งพืชผัก ถั่วและธัญพืชต่าง ๆ ด้วย\n* การใช้แบบอุปมาของคำว่า \"ผลของพระวิญญาณ\" กล่าวถึงคุณภาพศาสนาที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ประทานให้ในการดำเนินชีวิตของประชากรผู้ที่เชื่อฟังพระองค์\n* สำนวนว่า \"ผลของครรภ์\" กล่าวถึง \"สิ่งที่ครรภ์ได้ให้ออกมา\" นั่นก็คือเด็ก\n\n# คำแนะนำการแปล\n\n* เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่จะแปลคำนี้โดยการใช้คำทั่วไปสำหรับคำว่า \"ผล\" ที่เป็นคำที่ใช้ในภาษาที่จะแปลเพื่อกล่าวถึงผลที่บริโภคได้คือผลไม้ ในหลายๆ ภาษาอาจจะเป็นธรรมชาติมากกว่าหากใช้คำที่เป็นพหูพจน์\n* \"บรรดาผล\" เมื่อใดก็ตามที่กล่าวถึงมากกว่าหนึ่งผล\n* คำว่า \"เกิดผล\" สามารถแปลได้อีกว่า \"เกิดผลฝ่ายวิญญาณอย่างมากมาย\" หรือ \"มีบุตรมาก\" หรือ \"เจริญรุ่งเรือง\" ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริบทนั้น ๆ \n* ประโยค \"ผลของแผ่นดิน\" สามารถแปลได้อีกอย่างว่า \"อาหารที่เกิดจากแผ่นดิน\" หรือ \"ธัญพืชที่งอกงามในแผ่นดินนั้น\"\n* เมื่อพระเจ้าทรงได้สร้างมนุษย์และสัตว์ พระองค์ทรงได้บัญชาสรรพสิ่งนั้นว่า \"จงเกิดผลและทวีคูณ\" ซึ่งกล่าวถึงการเกิดผลจำนวนมากมาย คำนี้สามารถแปลได้อีกว่า \"เกิดผลมากมาย\" หรือ \"เกิดบรรดาบุตรและเชื้อสายมากมาย\" หรือ \"จงมีบุตรมากเพื่อที่เจ้าจะได้มีเชื้อสายมากมาย\"\n* สำนวน \"ผลของครรภ์\" สามารถแปลได้อีกว่า \"สิ่งที่ครรภ์ได้ให้ออกมา\" หรือ \"บรรดาเด็กที่ผู้หญิงให้กำเนิด\" หรือแค่ \"บรรดาบุตร\" เมื่ออลิซาเบธพูดกับนางมารีย์ว่า \"พระพรคือสิ่งที่อยู่ในครรภ์ของเจ้า\" เธอหมายถึง \"พระพรคือเด็กที่เจ้าจะให้กำเนิด\" คำในภาษาที่จะแปลอาจจะมีสำนวนที่แตกต่างสำหรับคำนี้\n* อีกสำนวนคือ \"ผลขององุ่น\" สามารถแปลได้อีกว่า \"ลูกองุ่น\" หรือ \"องุ่น\"\n* ประโยคที่ว่า \"จะมีผลมากขึ้น\" สามารถแปลได้อีกว่า \"จะเกิดผลมากขึ้น\" หรือ \"จะมีบุตรมากขึ้น\" หรือ \"จะเจริญรุ่งเรือง\" ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริบทนั้น ๆ \n* การกล่าวของอัครทูตเปาโล \"งานที่เกิดผลมาก\" สามารถแปลได้อีกว่า \"งานที่ทำให้เกิดผลดี\" หรือ \"ความพยายามที่เห็นผลในบรรดาผู้ศรัทธาในพระเยซู\"\n* \"ผลของพระวิญญาณ\" สามารถแปลได้อีกว่า \"การงานที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงได้กระทำ\" หรือ \"บรรดาถ้อยคำและการกระทำที่แสดงให้เห็นว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงกำลังทำงานในตัวท่าน\"" +======= + "title": "ผลไม้, เกิดผล", + "body": "คำว่า \"ผลไม้\" ตามตัวอักษรหมายถึงส่วนหนึ่งของต้นไม้ที่สามารถกินได้ บางอย่างที่ \"เกิดผล\" คือมีผลมากมาย คำเหล่านี้สามารถถูกใช้ในเชิงเปรียบเปรยในพระคัมภีร์\n\n\n* พระคัมภีร์บ่อยครั้งใช้ \"ผล\" เพื่ออ้างถึงการกระทำและความคิดของบุคคล เหมือนกับผลบนต้นไม้ที่แสดงให้เห็นว่าต้นนั้นคือต้นอะไร เช่นเดียวกับคำพูดของบุคคลและการกระทำเปิดเผยว่าเขามีลักษณะอย่างไร\n* บุคคลสามารถผลิตผลฝ่ายวิญญาณได้ทั้งดีและไม่ดี แต่คำว่า \"เกิดผล\" มักมีความหมายในเชิงบวกเพื่อเกิดผลมากมาย\n* คำว่า \"เกิดผล\" ก็ใช้ในเชิงเปรียบเปรยเพื่อหมายถึง \"ความเจริญรุ่งเรือง\" คำนี้มักบ่งบอกถึงการมีลูกหลานและทายาทเยอะ เช่นเดียวกันกับการมีอาหารและความอุดมสมบูรณ์และความมั่งคั่งอย่างอื่น\n* โดยทั่วไป คำกล่าว \"ผลของ\" อ้างถึงอะไรก็ตามที่ออกมาหรือผลิตโดยบางสิ่งบางอย่าง ตัวอย่างเช่น \"ผลของสติปัญญา\" อ้างถึงสิ่งที่ดีที่เกิดจากการเป็นคนมีสติปัญญา\n* คำกล่าว \"ผลของแผ่นดิน\" อ้างถึงทุกสิ่งโดยทั่วไปที่แผ่นได้เกิดผลออกมาเพื่อให้มนุษย์ได้กิน สิ่งนี้ไม่ได้รวมแค่ผลองุ่นหรืออิทผลัมเท่านั้นแต่รวมทั้งพืชผัก ถั่วและธัญพืชทั้งหลาย\n* การแสดงออกเชิงเปรียบเทียบของคำว่า \"ผลของพระวิญญาณ\" อ้างถึงคุณภาพความชอบธรรมที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ทำอยู่ภายในมนุษย์ให้เชื่อฟังพระองค์\n* คำกล่าว \"ผลของการมีครรภ์\" หมายถึง \"สิ่งที่ครรภ์จะผลิตออกมา\" นั่นก็คือเด็กๆ \n\n# คำแนะนำการแปล\n\n* เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่จะแปลคำนี้โดยการใช้คำทั่วไปสำหรับคำว่า \"ผล\" ที่เป็นคำที่ใช้ในภาษาของโครงการเพื่อหมายถึงผลที่บริโภคได้คือผลไม้ ในหลายภาษาอาจจะเป็นธรรมชาติมากกว่าหากใช้คำพหูพจน์\n* \"หลายผล\" เมื่อใดก็ตามอ้างถึงการที่มีมากกว่าหนึ่งผล\n* ขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า \"เกิดผลดี\" สามารถแปลได้อีกว่า \"เกิดผลฝ่ายวิญญาณอย่างมากมาย\" หรือ \"มีลูกมาก\" หรือ \"เจริญรุ่งเรือง\"\n* คำกล่าว \"ผลของแผ่นดิน\" สามารถแปลได้อีกอย่างว่า \"อาหารที่เกิดจากแผ่นดิน\" หรือ \"พืชผลที่เติบโตในแผ่นดินนั้น\"\n* เมื่อพระเจ้าทรงสร้างมนุษย์และสัตว์ พระองค์ทรงสั่งสรรพสิ่งนั้นว่า \"จงเกิดผลและทวีคูณ\" ซึ่งหมายถึงการเกิดผลจำนวนมากมาย คำนี้สามารถแปลได้อีกว่า \"เกิดผลดก\" หรือ \"เกิดลูกหลานและทายาทมากมาย\" หรือ \"จงมีลูกดกเพื่อที่เจ้าจะได้มีทายาทมากมาย\"\n* คำกล่าว \"ผลของครรภ์\" สามารถแปลได้อีกว่า \"สิ่งที่ครรภ์ได้ผลิตออกมา\" หรือ \"เด็กที่ผู้หญิงให้กำเนิด\" หรือแค่ \"ลูก\" เมื่ออลิซาเบธพูดกับมารีย์ว่า \"พระพรคือผลในครรภ์ของเจ้า\" เธอหมายถึง \"พระพรคือเด็กที่เจ้าจะให้กำเนิด\" คำในภาษาโครงการอาจจะมีคำกล่าวที่แตกต่างสำหรับคำนี้\n* อีกคำกล่าวหนี่ง \"ผลองุ่น\" สามารถแปลได้อีกว่า \"ลูกองุ่น\" หรือ \"องุ่น\"\n* ขึ้นอยู่กับบริบท คำกล่าวว่า \"จะเกิดผลมากมาย\" สามารถแปลได้อีกว่า \"จะผลิตผลมากมาย\" หรือ \"จะเกิดลูกหลานมากมาย\" หรือ \"จะเจริญรุ่งเรือง\"\n* คำกล่าวของอัครสาวกเปาโล \"ผลของการงาน\" สามารถแปลได้อีกว่า \"การงานที่ทำให้เกิดผลที่ดี\" หรือ \"ความพยายามที่เห็นผลในผู้เชื่อทั้งหลายในพระเยซู\"\n* \"ผลของพระวิญญาณ\" สามารถแปลได้อีกว่า \"การงานที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ผลิต\" หรือ \"ถ้อยคำและการกระทำที่แสดงให้เห็นว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์ทำงานในตัวท่าน\"" +>>>>>>> 9f875c462bdd983897e2e9690cad42ff380699b8 } ] \ No newline at end of file diff --git a/01/fulfill.txt b/01/fulfill.txt index 6ca10125..881cf90b 100644 --- a/01/fulfill.txt +++ b/01/fulfill.txt @@ -1,6 +1,10 @@ [ { "title": "ทำให้สำเร็จ", +<<<<<<< HEAD "body": "คำว่า \"ทำให้สำเร็จ\" หมายถึงทำให้บางสิ่งสมบูรณ์ หรือทำให้บางสิ่งเสร็จตามที่คาดหวังไว้\n\n* เมื่อการเผยพระวจนะได้รับการทำให้สำเร็จ นั่นหมายถึงว่าพระเจ้าทรงได้ทำให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นตามที่ได้พยากรณ์ไว้ในคำพยากรณ์\n* ถ้าใครคนทำให้คำสัญญาหรือคำปฏิญาณสำเร็จ นั่นหมายความว่าเขาทำในสิ่งที่เขาได้ให้สัญญาไว้\n* เพื่อความรับผิดชอบสำเร็จหมายถึงการทำงานที่ได้รับมอบหมาย หรือร้องขอ\n\n# คำแนะนำการแปล\n\n* คำว่า \"ทำให้สำเร็จ\" สามารถแปลได้อีกว่า \"เสร็จ\" หรือ \"สมบูรณ์\" หรือ \"ทำให้เกิดขึ้น\" หรือ \"เชื่อฟัง\" หรือ \"ปฏิบัติการ\" ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริบท\n* วลีที่ว่า \"ได้รับการทำให้สำเร็จแล้ว\" สามารถแปลได้อีกว่า \"เป็นจริง\" หรือ \"ได้เกิดขึ้นแล้ว\" หรือ \"เกิดขึ้นแล้ว\"\n* แนวทางการแปล \"ทำให้สำเร็จ\" เหมือนใน \" การรับใช้ของท่านสำเร็จ\" สามารถรวมทั้ง \"สมบูรณ์\" หรือ \"ปฏิบัติการ\" หรือ \"ฝึก\" หรือ \"รับใช้ผู้อื่นอย่างที่พระเจ้าได้เรียกให้ท่านทำ\"" +======= + "body": "คำว่า \"ทำให้สำเร็จ\" หมายถึงทำให้สำเร็จหรือทำให้บางสิ่งบางสิ่งสำเร็จตามที่คาดหวังไว้\n\n* เมื่อการเผยพระวจนะได้รับสำเร็จ นั่นหมายถึงว่าพระเจ้าทำให้สิ่งนั้นที่ได้เกิดขึ้นตามที่คาดไว้ในพยากรณ์\n* ถ้าบุคคลสำเร็จคำสัญญาหรือคำปฏิญาณ นั่นหมายความว่าเขาทำในสิ่งที่เขาได้ให้สัญญาเอาไว้\n* เพื่อให้ความรับผิดชอบได้สำเร็จหมายถึงการทำงานที่ได้รับมอบหมายหรือได้รับการเรียกร้อง\n\n# คำแนะนำการแปล\n\n* ขึ้นอยู่กับบริบทคำว่า \"ทำให้สำเร็จ\" สามารถแปลได้อีกว่า \"ลุล่วง\" หรือ \"เสร็จ\" หรือ \"สมบูรณ์\" หรือ \"ทำให้เกิดขึ้น\" หรือ \"เชื่อฟัง\" หรือ \"ปฏิบัติการ\"\n* วลีที่ว่า \"ได้รับความสำร็จแล้ว\" สามารถแปลได้อีกว่า \"ได้เป็นจริง\" หรือ \"ได้เกิดขึ้นแล้ว\" หรือ \"ได้เกิดขึ้น\"\n* แนวทางการแปล \"ทำให้สำเร็จ\" เช่นใน \"การรับใช้ของท่านให้สำเร็จ\" สามารถรวม \"สมบูรณ์\" หรือ \"กระทำ\" หรือ \"ฝึกฝน\" หรือ \"รับใช้ผู้อื่นอย่างที่พระเจ้าได้เรียกให้ท่านมารับใช้\"" +>>>>>>> 9f875c462bdd983897e2e9690cad42ff380699b8 } ] \ No newline at end of file diff --git a/01/furnace.txt b/01/furnace.txt index 50fc62db..5cfddf1e 100644 --- a/01/furnace.txt +++ b/01/furnace.txt @@ -1,6 +1,11 @@ [ { +<<<<<<< HEAD "title": "เตา, เตาอบ", "body": "เตาคือที่อบขนาดใหญ่ ใช้สำหรับการทำให้สิ่งของร้อน ด้วยอุณหภูมิความร้อนที่สูง\n\n* ในสมัยโบราณ เตาอบส่วนมากเอาไว้ใช้หลอมโลหะเพื่อทำสิ่งของ เช่น หม้อทำอาหาร เครื่องประดับ อาวุธและรูปเคารพ\n* เตาอบยังเอาไว้ใช้สำหรับการทำเครื่องปั้นดินเผา\n* บางครั้งเตาอบก็เอาไว้ใช้อ้างเปรียบเทียบเพื่ออธิบายถึงบางสิ่งที่ร้อนมากๆ" +======= + "title": "เตาหลอม, เตาอบ", + "body": "เตาหลอมคือเตาขนาดใหญ่ ใช้สำหรับการทำให้วัตถุร้อนด้วยอุณหภูมิความร้อนสูง\n\n* ในสมัยโบราณ เตาหลอมส่วนมากเอาไว้ใช้หลอมโลหะเพื่อทำเป็นเครื่องเหล็ก เช่น หม้อ เครื่องประดับ อาวุธและรูปเคารพ\n* เตาหลอมยังเอาไว้ใช้สำหรับทำเครื่องปั้นดินเผา\n* บางครั้งเตาหลอมก็อ้างถึงเชิงอุปมาอุปไมยถึงบางสิ่งที่ร้อนมาก" +>>>>>>> 9f875c462bdd983897e2e9690cad42ff380699b8 } ] \ No newline at end of file diff --git a/01/gabriel.txt b/01/gabriel.txt new file mode 100644 index 00000000..dd83b53b --- /dev/null +++ b/01/gabriel.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "กาเบรียล", + "body": "กาเบรียลคือชื่อของทูตสวรรค์องค์หนึ่งของพระเจ้า เขาถูกกล่าวถึงโดยชื่อนี้อีกหลายครั้งในพั้นธสัญญาเดิมและพันธสัญญาใหม่\n\n* พระเจ้าได้ส่งกาเบรียลมาแจ้งข่าวแก่ผู้เผยพระวจนะดาเนียลถึงความหมายของนิมิตที่เขาได้เห็น\n* อีกครั้งหนึ่ง ขณะที่ดาเนียลกำลังอธิษฐาน ทูตสวรรค์กาเบรียลได้บินมาหาเขาและให้คำพยากรณ์เกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดในอนาคต ดาเนียลได้บรรยายถึงเขาว่า \"ผู้ชาย\" \n* ในพันธสัญญาใหม่มีการบันทึกว่ากาเบรียลได้มาหาเศคาริยาห์ให้คำพยากรณ์ว่าภรรยาสูงอายุของเขาเอลิซาเบธจะมีบุตรชายคือ ยอห์น\n* หลังจากนั้นอีกหกเดือน กาเบรียลได้ถูกส่งมาหามารีย์เพื่อบอกกับเธอว่าพระเจ้าจะทำการอัศจรรย์ให้เธอตั้งครรภ์ซึ่งจะเป็น \"พระบุตรของพระเจ้า\" กาเบรียลได้บอกมารีย์ว่าชื่อของบุตรชายคือ \"พระเยซู\"\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/gad.txt b/01/gad.txt new file mode 100644 index 00000000..a7e1596d --- /dev/null +++ b/01/gad.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "กาด", + "body": "กาดเป็นชื่อของหนึ่งในบุตรชายของยาโคบหรืออิสราเอล\n\n* ตระกูลของกาดกลายเป็นหนึ่งในสิบสองเผ่าของชนชาติอิสราเอล\n* มีชายอีกคนหนึ่งในพระคัมภีร์ชื่อกาดเป็นผู้เผยพระวจนะผู้ที่เผชิญหน้ากับกษัตริย์ดาวิดด้วยเรื่องความบาปของดาวิดที่ทำการสำรวจสำมะโนครัวประชากรชนชาติอิสราเอล\n* เมืองบาอัลกาดและมิกดัลกาด เป็นคำสองคำที่อยู่ในพระคัมภีร์ต้นฉบับและบางครั้งงก็เขียนว่า \"บาอัล กาด\" และ \"มิกดัล กาด\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/galatia.txt b/01/galatia.txt new file mode 100644 index 00000000..c524d2d1 --- /dev/null +++ b/01/galatia.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "กาลาเทีย", + "body": "ในพันธสัญญาใหม่ กาลาเทียเป็นแคว้นหนึ่งของกรุงโรมตั้งอยู่ใจกลางเมืองตุรกีในปัจจุบันนี้\n\n* ส่วนของกาลาเทียเป็นชายเขตแดนทะเลดำไปทางเหนือ และมันยังเป็นชายเขตของเมืองต่างๆ ของเอเซีย บิไธเนีย คัปปะโดเซีย เซลลิเซีย และ พัมฟิเลีย\n* อัครทูตเปาโลเขียนจดหมายถึงคริสเตียนคนที่อาศัยอยู่ในแคว้นกาลาเทีย จดหมายนั้นอยู่ในพันธสัญญาใหม่ชื่อพระธรรม \"กาลาเทีย\"\n* หนึ่งในเหตุผลที่เปาโลเขียนจดหมายถึงพี่น้องในกาลาเทียก็เพื่อเน้นย้ำในเรื่องพระกิตติคุณของความรอดโดยพระคุณ ไม่ใช่ด้วยงานที่ทำ\n* คริสเตียนต่างชาติในเมืองกาลาเทียได้รับการสอนจากคริสเตียนที่เป็นคนยิวให้รักษากฏบัญญัติของคนยิว\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/galilee.txt b/01/galilee.txt new file mode 100644 index 00000000..5942d3a3 --- /dev/null +++ b/01/galilee.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "กาลิลี, ชาวกาลิลี", + "body": "แคว้นกาลิลีตั้งอยู่ทิศเหนือสุดของอิสราเอล ทางทิศเหนือของแคว้นสะมาเรีย \"ชาวกาลิลี\" คือคนที่อาศัยอยู่ในเมืองกาลิลี\n\n* แคว้นกาลิลี สะมาเรียและยูเดียคือแคว้นหลักสามแคว้นของอิสราเอลในช่วงเวลาของภาคพันธสัญญาใหม่\n* แคว้นกาลิลีเป็นชายเขตด้านตะวันออกของทะเลสาบที่เรียกว่า \"ทะเลกาลิลี\"\n* พระเยซูได้เติบโตและได้อาศัยอยู่ในเมืองนาซาเร็ธแคว้นกาลิลี\n* การอัศจรรย์ส่วนมากและการสั่งสอนของพระเยซูเกิดขึ้นในแคว้นกาลิลี" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/gate.txt b/01/gate.txt new file mode 100644 index 00000000..95ff030b --- /dev/null +++ b/01/gate.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ประตู, ราวประตู", + "body": "\"ประตู\" คือเครื่องกีดขวางที่ทางเข้าที่รั้วหรือกำแพงล้อมรอบบ้านหรือเมือง \"ราวประตู\" อ้างถึงราวไม้หรือราวเหล็กที่สามารถเลื่อนมาล็อกที่ประตู\n\n* ประตูเมืองสามารถเปิดเพื่อให้คน สัตว์และรถขนของที่เดินทางเข้าออกในเมือง\n* เพื่อปกป้องเมือง กำแพงและประตูจะหนาและแข็งแรง ประตูปิดแล้วจะถูกล็อกด้วยท่อนเหล็กหรือไม้เพื่อป้องกันศัตรูทหารจากเมืองอื่นเข้าไปในเมือง\n* ประตูเมืองบ่อยครั้งมักเป็นที่ข่าวสารและศูนย์ทางสังคมของหมู่บ้าน และยังเป็นสถานที่การแลกเปลี่ยนทางการค้าได้เกิดขึ้นและการวินิจฉัยได้เกิดขึ้น เพราะกำแพงเมืองหนั้นหนาเพียงพอที่จะมีทางเข้าที่ทำให้เกิดร่มจากความร้อนของดวงอาทิตย์ พลเมืองได้พบว่านั่งสบายในร่มเพื่อทำธุรกิจและตัดสินคดีทางกฎหมาย\n\n# คำแนะนำการแปล\n\n* ขึ้นอยู่กับบริบท อีกแนวทางในการแปลคำว่า \"ประตูรั้ว\" แปลได้อีกว่า \"ประตู\" หรือ \"ผนังเปิด\" หรือ \"เครื่องกั้น\" หรือ \"ทางเข้า\"\n* วลีที่ว่า \"ที่กั้นของประตู\" สามารถแปลได้อีกว่า \"กลอนประตู\" หรือ \"ไม้คานเพื่อล็อกประตู\" หรือ \"แท่งโลหะเพื่อล็อกประตู\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/gath.txt b/01/gath.txt new file mode 100644 index 00000000..7eef552f --- /dev/null +++ b/01/gath.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "กัท", + "body": "กัทคือหนึ่งในห้าเมืองหลักของชนชาติฟิลิสเตีย ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเมืองเอโครนและทิศตะวันออกของเมืองอัชโดดและอัชเคโลน\n\n* นักรบชาวฟิลิสเตียชื่อโกลิอัท มาจากเมืองกัท\n* ระหว่างช่วงเวลาของซามูเอล คนฟิลิสเตียได้ขโมยหีบพันธสัญญาจากชนชาติอิสราเอลและเอาไปไว้พระวิหารของพระนอกรีตของพวกเขาที่อัชโดด แล้วก็ได้ย้ายไปที่กัทและต่อมาก็ได้ย้ายไปที่เอโครน แต่พระเจ้าทรงลงโทษคนของเมืองนั้นด้วยโรคร้าย ดังนั้นพวกเขาจึงได้ส่งหีบแห่งพันธสัญญากลับมาที่ชนชาติอิสราเอลอีกครั้ง\n* เมื่อดาวิดได้หนีจากกษัตริย์ซาอูล พระองค์ได้หนีไปที่เมืองกัทและอยู่ที่นั่นพักหนึ่งกับภรรยาของท่านสองคนและทหารอีกหกร้อยคนผู้ที่จงรักภักดีต่อพระองค์" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/gaza.txt b/01/gaza.txt new file mode 100644 index 00000000..f0d06797 --- /dev/null +++ b/01/gaza.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "กาซา", + "body": "ในช่วงเวลาของพระคัมภีร์ กาซาเคยเป็นเมืองที่รุ่งเรืองของชาวฟิลิสเตีย ตั้งอยู่ที่ชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ประมาณ 38 กิโลเมตรจากทางใต้ของอัชโดด เป็นเมืองหนึ่งในห้าเมืองหลักของชาวฟิลิสเตีย\n\n* เพราะทำเลที่ตั้งของเมือง กาซาเป็นท่าเรือกุญแจสำคัญในเรื่องการค้าซึ่งเกิด\nขึ้นระหว่างประชาชนจำนวนมากและจากหลายประเทศ\n* ปัจจุบันนี้ เมืองกาซายังคงเป็นเมืองท่าที่สำคัญในตามชายฝั่งของกาซาซึ่งเป็นภาคแผ่นดินที่ตั้งอยู่ตามแนวชายฝั่งของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งมีคนอิสราเอลทางเหนือและตะวันออก และทางใต้มีอียิปต์\n* กาซาคือเมืองที่ชาวฟิลิสเตียเอาตัวแซมสันไปหลังจากที่พวกเขาจับแซมสันแล้ว\n* ฟิลิปนักประกาศได้เดินตามถนนทะเลทรายไปยังเมืองกาซาเมื่อเขาเจอกับขันทีชาวเอธิโอเปีย" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/generation.txt b/01/generation.txt new file mode 100644 index 00000000..a36ff172 --- /dev/null +++ b/01/generation.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "รุ่นอายุ, คนรุ่นเดียวกัน", + "body": "คำว่า \"รุ่นอายุ\" อ้างถึงกลุ่มคนที่ทุกคนได้เกิดและอาศัยอยู่ในช่วงเวลาเดียวกัน\n\n* คนรุ่นเดียวกันสามารถอ้างถึงการขยายเวลา ในพระคัมภีร์ ช่วงเวลาการนับแต่ละรุ่นนั้นโดยปกติพิจารณาอยู่ที่ประมาณ 40 ปี\n* บิดามารดาและลูกหลานของพวกเขาเป็นสองรุ่นที่ต่างกัน\n* ในพระคัมภีร์ คำว่า \"รุ่นอายุ\" ยังใช้ในเชิงอุปมาอุปไมยอ้างถึงกลุ่มคนทั่วไปที่แบ่งปันบุคลิกลักษณะที่เหมือน\n\n# คำแนะนำการแปล\n\n* วลี \"ชนรุ่นอายุนี้\" หรือ \"กลุ่มคนรุ่นอายุนี้\" สามารถแปลว่า \"คนที่อาศัยอยู่ตอนนี้\" หรือ \"คนของท่าน\"\n* \"รุ่นอายุที่ชั่วร้าย\" สามารถแปลได้อีกว่า \"คนชั่วร้ายเหล่านี้ที่อาศัยอยู่ตอนนี้\"\n* คำกล่าว \"จากรุ่นอายุนี้สู่อีกรุ่น\" หรือ \"จากรุ่นหนึ่งไปยังรุ่นต่อไป\" สามารถแปลได้อีกว่า \"คนที่อาศัยอยู่ตอนนี้ เช่นเดียวกับลูกของพวกเขาและหลานของพวกเขา\" หรือ \"ผู้คนที่อยู่ทุกช่วงเวลา\" หรือ \"ผู้คนที่อยู่ในช่วงเวลานี้และช่วงเวลาแห่งอนาคต\" หรือ \"ประชาชนทุกคนและผู้ที่สืบเชื้อสายของพวกเขา\"\n* \"รุ่นอายุที่จะมานั้นจะรับใช้เขา พวกเขาจะบอกรุ่นอายุต่อไปเกี่ยวกับพระยาห์เวห์\" สามารถแปลได้ว่า \"คนมากมายในอนาคตจะรับใช้พระยาห์เวห์และจะบอกเล่าแก่ลูกและหลานเกี่ยวกับพระองค์\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/gentile.txt b/01/gentile.txt new file mode 100644 index 00000000..93f854e8 --- /dev/null +++ b/01/gentile.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "คนต่างชาติ", + "body": "คำว่า \"คนต่างชาติ\" อ้างถึงคนที่ไม่ได้เป็นยิว คนต่างชาติคือประชาชนผู้ที่ไม่ได้สืบเชื้อสายมาจากยาโคบ\n\n* ในพระคัมภีร์ คำว่า \"พวกที่ไม่ได้เข้าสุหนัต\" ก็ใช้ในเชิงอุมาอุปไมยอ้างถึงคนต่างชาติเพราะว่าพวกเขาหลายคนไม่ได้ให้ลูกหลานที่เป็นผู้ชายเข้าสุหนัตเหมือนอย่างที่ชนชาติอิสราเอลได้ทำ\n* เพราะว่าพระเจ้าได้เลือกคนยิวเพื่อเป็นชนชาติที่พิเศษสำหรับพระเจ้า พวกเขาได้คิดว่าพวกคนต่างชาติคือพวกคนนอกที่ไม่มีวันจะได้เป็นคนของพระเจ้า\n* คนยิวหรือที่เรียกว่าชนชาติอิสราเอลหรือคนฮีบรูในช่วงเวลาที่แตกต่างของประวัติศาสตร์ พวกเขาอ้างถึงคนอื่นๆ ที่เหลือเป็น \"คนต่างชาติ\"\n* คนต่างชาติสามารถแปลได้อีกว่า \"คนที่ไม่ใช่คนยิว\" หรือ \"ไม่ใช่คนยิว\" หรือ \"ไม่ใช่คนอิสราเอล\" (พันธสัญญาเดิม) หรือ \"ไม่ใช่ยิว\"\n* ตามประเพณีแล้ว คนยิวจะไม่รับประทานอาหารร่วมกับคนต่างชาติหรือคบค้าสมาคมกับพวกเขา ซึ่งในตอนแรกทำให้เกิดปัญหามากมายในช่วงยุคคริสตจักรแรกๆ" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/gerar.txt b/01/gerar.txt new file mode 100644 index 00000000..0958e163 --- /dev/null +++ b/01/gerar.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เกราร์", + "body": "เกราร์คือเมืองในแผ่นดินคานาอัน ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองเฮโบรนและทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเบเออร์เชบา\n\n* กษัตริย์อาบีเมเลคคือผู้ปกครองของเมืองเกราร์เมื่ออับราฮัมและซาราห์มาตั้งรกรากที่นั่น\n* คนฟิลิสเตียได้เข้ายึดครองเมืองเกราร์ระหว่างช่วงเวลาที่ชนชาติอิสราเอลอาศัยอยู่ในแผ่นดินคานาอัน" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/geshur.txt b/01/geshur.txt new file mode 100644 index 00000000..0312a785 --- /dev/null +++ b/01/geshur.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เกชูร์", + "body": "ช่วงเวลาของกษัตริย์ดาวิด เมืองเกชูร์เป็นอาณาจักรเล็กๆ ตั้งอยู่ทางฟากตะวันออกของทะเลกาลิลี ระหว่างประเทศอิสราเอลและอารัม\n\n* กษัตริย์ดาวิดได้สมรสกับมาอาคาห์ธิดาของกษัตริย์แห่งเกชูร์และได้กำเนิดบุตรชายให้พระองค์คืออับซาโลม\n* หลังจากที่ฆ่าอัมโนนพี่ชายต่างแม่ อับซาโลมก็หนีไปทิศตะวันออกเฉียงเหนือจากเยรูซาเล็มถึงเกชูร์ ระยะทางประมาณ 88 ไมล์ เขาได้อาศัยอยู่ที่นั่นสามปี" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/gethsemane.txt b/01/gethsemane.txt new file mode 100644 index 00000000..e33dc58f --- /dev/null +++ b/01/gethsemane.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เกทเสมาเน", + "body": "เกทเสมาเนคือสวนของต้นมะกอกเทศทางตะวันออกของกรุงเยรูซาเล็มเหนือหุบเขาขิดโรนและใกล้กับภูเขามะกอกเทศ\n\n* สวนเกทเสมาเนคือสถานที่ที่พระเยซูและเหล่าสาวกของพระองค์มักจะไปที่นั่นเพื่อพักผ่อนจากฝูงชน\n* ที่สวนเกทเสมาเนที่พระเยซูได้อธิษฐานในความโศกเศร้าอย่างสุดซึ้ง ก่อนการถูกจับที่นั่นโดยผู้นำชาวยิวทั้งหลาย" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/giant.txt b/01/giant.txt new file mode 100644 index 00000000..e264cc5f --- /dev/null +++ b/01/giant.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ยักษ์", + "body": "ยักษ์โดยปกติอ้างถึงบุคคลที่ตัวใหญ่ผิดปกติทั้งความสูงและกำลัง\n\n* โกลิอัท ทหารชาวฟิลิสเตียที่ต่อสู้กับดาวิด ถูกเรียกว่ายักษ์เพราะว่าเขาสูงมาก ตัวใหญ่และเป็นชายที่สูง ใหญ่และแข็งแรง\n* ชนชาติอิสราเอลที่ไปสอดแนมแผ่นดินคานาอันบอกว่าคนที่อาศัยอยู่ที่นั่นเหมือนยักษ์" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/gibeah.txt b/01/gibeah.txt new file mode 100644 index 00000000..0fa2bb46 --- /dev/null +++ b/01/gibeah.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "กิเบอาห์", + "body": "กิเบอาห์คือชื่อเมืองที่ตั้งอยู่ทางเหนือของกรุงเยรูซาเล็มและทางใต้ของเมืองเบธเอล\n\n* กิเบอาห์อยู่ในเขตแดนของตระกูลเบนยามิน\n* เป็นสถานที่ของการสู้รบครั้งใหญ่ระหว่างคนเผ่าเบนยามินและอิสราเอล" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/gibeon.txt b/01/gibeon.txt new file mode 100644 index 00000000..92f4e95a --- /dev/null +++ b/01/gibeon.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "กิเบโอน, ชาวกิเบโอน", + "body": "กิเบโอนคือเมืองที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงเยรูซาเล็มประมาณ 13 กิโลเมตร คนที่อาศัยอยู่ที่เมืองกิเบโอนเรียกว่าชาวกิเบโอน\n\n* เมื่อชาวกิเบโอนได้ยินเรื่องที่ชนชาติอิสราเอลทำลายเมืองเยรีโคและเมืองอัย พวกเขาก็กลัว\n* ดังนั้นชาวกิเบโอนจึงมาหาผู้นำของชนชาติอิสราเอลที่กิลกาลและแสร้งทำเป็นคนที่มาจากเมืองไกลแสนไกล\n* ผู้นำของชนชาติอิสราเอลถูกหลอกและทำข้อตกลงกับคนกิเบโอนว่าพวกเขาจะปกป้องคนกิเบโอนและไม่ทำลายพวกเขา" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/gideon.txt b/01/gideon.txt new file mode 100644 index 00000000..792aa6d2 --- /dev/null +++ b/01/gideon.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "กิเดโอน", + "body": "กิเดโอนคือผู้ชายอิสราเอลคนที่พระเจ้าได้ยกขึ้นให้ช่วยกู้ชนชาติอิสราเอลจากศัตรูของพวกเขา\n\n* ช่วงเวลาที่กิเดโอนมีชีวิตอยู่ กลุ่มคนที่เรียกว่ามีเดียนพยายามโจมตีชนชาติอิสราเอลและทำลายพืชผลของพวกเขา\n* ถึงแม้ว่ากิเดโอนจะกลัว พระเจ้าได้ทรงใช้เขาให้นำชนชาติอิสราเอลที่จะต่อสู้คนมีเดียนและปราบปรามพวกเขา\n* กิเดโอนเองก็ได้เชื่อฟังพระเจ้าโดยการทำลายแท่นบูชาพระเทียมเท็จบาอัลและพระอาเชราห์\n* เขาไม่เพียงแค่นำคนเหล่านั้นในการโจมตีศัตรูของพวกเขา แต่ยังได้หนุนใจพวกเขาให้เชื่อพระเจ้าและนมัสการพระยาเวห์ พระเจ้าเที่ยงแท้แต่ผู้เดียว" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/gift.txt b/01/gift.txt new file mode 100644 index 00000000..d7a5bc46 --- /dev/null +++ b/01/gift.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ของขวัญ, ของประทาน", + "body": "คำว่า \"ของขวัญ\"อ้างถึงอะไรก็ได้ที่คนหนึ่งได้รับหรือให้แก่บางคน ของขวัญคือสิ่งที่ให้โดยไม่ได้คาดหวังว่าจะได้อะไรกลับคืนมา\n\n* เงิน อาหาร เสื้อผ้าหรืออะไรก็ตามที่ให้แก่คนยากจนเรียกว่า \"ของขวัญ\"\n* ในพระคัมภีร์ ของถวายหรือเครื่องบูชาที่ให้แก่พระเจ้าก็เรียกว่าของขวัญ\n* ของขวัญของความรอดคือบางสิ่งที่พระเจ้าให้เราผ่านทางความเชื่อในพระเยซู\n* ในพันธสัญญาใหม่ คำว่า \"ของประทาน\" ก็ใช้เพื่อบ่งบอกถึงความสามารถพิเศษฝ่ายวิญญาณที่พระเจ้าให้แก่คริสเตียนทั้งหลายเพื่อรับใช้ผู้อื่น\n\n# คำแนะนำการแปล\n\n* ความหมายทั่วไปของคำว่า \"ของขวัญ\" สามารถแปลด้วยคำหรือวลีที่หมายถึง \"ของบางสิ่งที่ได้รับมา\"\n* ในบริบทที่ใครสักคนมีของขวัญหรือความสามารถดิเศษที่มาจากพระเจ้าคำว่า \"ของขวัญจากพระวิญญาณ\" สามารถแปลได้อีกว่า \"ความสามารถฝ่ายวิญญาณ\" หรือ \"ความสามารถพิเศษจากพระวิญญาณบริสุทธิ์\" หรือ \"ความสามารถฝ่ายวิญญาณจิตที่พระเจ้าประทานให้\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/gilead.txt b/01/gilead.txt new file mode 100644 index 00000000..93a7f43b --- /dev/null +++ b/01/gilead.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "กิเลอาด", + "body": "กิเลอาดคือชื่อของภูเขาในดินแดนทางตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน ที่เผ่ากาด รูเบนและมนัสเสห์ของชนชาติอิสราเอลอาศัยอยู่\n\n* บริเวณที่แห่งนี้ได้ถูกอ้างถึงด้วยว่า \"เนินเขากิเลอาด\" หรือ \"ภูเขากิเลอาด\" \n* \"กิเลอาด\" คือชื่อของผู้ชายหลายคนในพันธสัญญาเดิม หนึ่งในผู้ชายเหล่านี้นั้นคือหลานชายของมนัสเสห์ กิเลอาดอีกคนคือพ่อของเยฟธาห์" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/gilgal.txt b/01/gilgal.txt new file mode 100644 index 00000000..a05d806f --- /dev/null +++ b/01/gilgal.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "กิลกาล", + "body": "คำว่ากิลกาลคือเมืองทางตอนเหนือของเยรีโคและเป็นสถานที่แรกที่ชนชาติอิสราเอลตั้งค่ายหลังจากข้ามแม่จอร์แดนเพื่อเข้าไปยังแผ่นดินคานาอัน\n\n* ที่กิลกาล โยชูวาได้ตั้งหินสิบสองก้อนที่เอามาจากแม่น้ำจอร์แดนตอนที่พวกเขาเพิ่งจะข้ามมา\n* กิลกาลคือเมืองที่เอลียาห์และเอลีชาได้จากมาในขณะที่พวกเขาข้ามแม่น้ำจอร์แดน เมื่อเอลียาห์ถูกรับขึ้นไปบนสวรรค์\n* ยังมีอีกหลายสถานที่ที่เรียกว่า \"กิลกาล\" ด้วยในพันธสัญญาเดิม\n* คำว่า \"กิลกาล\" หมายถึง \"หินวงกลม\" บางทีอ้างถึงสถานที่ที่แท่นบูชาได้ถูกสร้างขึ้น \n* ในพันธสัญญาเดิม ชื่อนี้มักจะเกิดขึ้นเสมอ คือ \"กิลกาล\" นี่อาจบ่งชี้ว่ามันไม่ได้เป็นชื่อของสถานที่แน่นอน แต่เป็นคำอธิบายถึงสถานที่ที่แน่นอนบางแห่งมากกว่า" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/gird.txt b/01/gird.txt new file mode 100644 index 00000000..03bb2e5e --- /dev/null +++ b/01/gird.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "คาด, รัด", + "body": "คำว่า \"คาด\" หมายถึงใช้สายคาดเพื่อรัดรอบๆ ของบางสิ่ง มันอ้างถึงการใช้เข็มขัดหรือสายสะพัดรอบเอวเพื่อทำให้เสื้อขั้นนอกหรือเสื้อคลุมเข้าที่\n\n* คำกล่าวทั่วไปในพระคัมภีร์ \"คาดเอวของท่าน\" หมายถึงเอาเสื้อคลุมสอดเข้าไปในเข็มขัดเพื่อให้สามารถเดินได้สะดวก\n* คำกล่าวนี้หมายความว่าให้เตรียมพรอ้มสำหรับการทำงานหรือให้เตรียมที่จะทำบางสิ่งที่ยาก\n* คำกล่าว \"คาดเอวของท่าน\" สามารถแปลได้โดยใช้สำนวนในภาษาเป้าหมายที่มีความหมายเหมือนกัน หรือสามารถแปลโดยไม่ต้องมีการเปรียบเปรย เช่น \"เตรียมตัวเองให้พร้อมสำหรับการกระทำ\" หรือ \"เตรียมตัวเองให้พร้อม\"\n* คำว่า \"คาดด้วย\" สามารถแปลว่า \"ล้อมรอบด้วย\" หรือ \"พันด้วย\" หรือ \"รัดด้วย\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/girgashites.txt b/01/girgashites.txt new file mode 100644 index 00000000..bd4c2f29 --- /dev/null +++ b/01/girgashites.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เกอกาชี, ชาวเกอกาชี", + "body": "เกอกาชีคือกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ใกล้กับทะเลกาลิลี ในแผ่นดินคานาอัน\n\n* พวกเขาคือผู้สืบเชื้อสายของลูกชายของฮามคือคานาอันและเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่รู้จักกันว่าเป็น \"ชาวคานาอัน\" \n* พระเจ้าได้ทรงสัญญากับชนชาติอิสราเอลว่าพระองค์จะช่วยพวกเขาต่อสู้กับคนเกอกาชีและคนคนนาอันกลุ่มอื่นๆ\n* เหมือนกับคนคานาอันอื่นๆ คนเกอกาชีนมัสการพระเทียมเท็จและได้ทำสิ่งที่ผิดศีลธรรมซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการนมัสการของพวกเขา" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/glean.txt b/01/glean.txt new file mode 100644 index 00000000..4f41bd11 --- /dev/null +++ b/01/glean.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เก็บรวงข้าวที่ร่วงหล่น", + "body": "คำว่า \"เก็บรวงข้าวที่ร่วงหล่น\" หมายความว่าการเข้าไปในไร่นาเพื่อเก็บเมล็ดข้าวใดๆ ก็ตามหรือผลไม้ที่คนเก็บเกี่ยวได้เหลือทิ้งไว้\n\n* พระเจ้าทรงบอกให้ชนชาติอิสราเอลปล่อยหญิงม่าย คนยากจนและคนต่างชาติเก็บรวบรวมเมล็ดข้าวที่ตกเหลือไว้เพื่อเตรียมอาหารสำหรับตัวเขาเอง\n* บางครั้งเจ้าของนาจะให้คนเก็บข้าวที่ร่วงหล่นเดินตามหลังคนเก็บเกี่ยวเพื่อรวบรวม นั่นทำให้พวกเขาสามารถเก็บรวงข้าวที่ร่วงหล่นได้มากยิ่งขึ้น\n* ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนในเรื่องนี้คือในเรื่องของนางรูธ ที่นางได้รับอนุญาตให้เก็บรวงข้าวร่วงหล่นท่ามกลางคนเก็บเกี่ยวในนาของญาติคือโบอาส\n* อีกทางในการแปลคำว่า \"เก็บรวงข้าที่ร่วงหล่น\" สามารถเป็นคำว่า \"เก็บ\" หรือ \"รวบรวม\" หรือ \"เก็บสะสม\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/glorify.txt b/01/glorify.txt new file mode 100644 index 00000000..63a76221 --- /dev/null +++ b/01/glorify.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ถวายพระสิริ, ถวายเกียรติ", + "body": "คำว่า \"ถวายพระสิริ\" หมายถึงการแสดงหรือบอกถึงความยิ่งใหญ่และความสำคัญในบางสิ่งหรือบางคน ความหมายตามตัวอักษรคือ \"ให้เกียรติ\"\n\n* มนุษย์สามารถถวายเกียรติแด่พระเจ้าโดยการบอกถึงสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่พระองค์ได้ทำ\n* พวกเขาสามารถให้เกียรติพระเจ้าโดยการดำเนินชีวิตในแบบที่ถวายเกียรติแก่พระองค์และแสดงให้เห็นว่าพระองค์ยิ่งใหญ่และอัศจารรย์แค่ไหน\n* เมื่อพระคัมภีร์พูดว่าพระเจ้าให้พระองค์เองได้รับเกียรติ นั่นหมายความว่าพระองค์เปิดเผยแก่มนุษย์ได้เห็นถึงความยอดเยี่ยม ยิ่งใหญ่ของพระองค์ บ่อยครั้งสำแดงผ่านการอัศจรรย์ต่างๆ\n* พระเจ้าพระบิดาจะให้พระบุตรพระเจ้าได้รับเกียรติโดยการเปิดเผยแก่มนุษย์ถึงความยอดเยี่ยมสมบูรณ์ในพระบุตร ความสง่างามและความยิ่งใหญ่\n* ทุกคนที่เชื่อในพระคริสต์จะให้เกียรติแก่พระองค์ เมื่อพวกเขาถูกทำให้ฟื้นจากความตาย พวกเขาจะถูกเปลี่ยนให้สะท้อนพระสิริของพระองค์และสำแดงพระคุณของพระองค์แก่สรรพสิ่งทั้งปวง\n\n# คำแนะนำการแปล\n\n* คำนี้สามารถแปลว่า \"ถวายพระสิริแก่\" หรือ \"นำพระสิริมาสู่\" หรือ \"ทำให้ความยิ่งใหญ่เกิดขึ้น\n* วลี \"ถวายเกียรติแด่พระเจ้า\" สามารถแปลว่า \"สรรเสริญพระเจ้า \" หรือ \"พูดถึงความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า\" หรือ \"สำแดงว่าพระเจ้ายิ่งใหญ่ขนาดไหน\" หรือ \"ให้เกียรติพระเจ้า\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/glory.txt b/01/glory.txt new file mode 100644 index 00000000..01476122 --- /dev/null +++ b/01/glory.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "พระสิริ, สง่าราศี", + "body": "่้ทั่วไปแล้วคำว่า \"พระสิริ\" หมายถึงเกียรติ ความสง่างามและความยิ่งใหญ่ที่สุด สิ่งใดก็ตามที่มีพระสิริก็คือการมี \"สง่าราศี\"\n\n* บางครั้ง \"พระสิริ\" อ้างถึงบางสิ่งที่มีคุณค่ายิ่งใหญ่และสำคัญ ในบริบทอื่นคือการสื่อสารถึงความสง่างาม ความสว่าง และการพิพากษา\n* ตัวอย่างเช่น ประโยคที่ว่า \"เกียรติของคนเลี้ยงแกะ\" หมายถึงทุ่งหญ้าเขียวชอุ่มที่แกะของเขาได้มีกินอย่างสมบูรณ์\n* พระสิริโดยเฉพาะแล้วจะใช้เพื่ออธิบายถึงพระเจ้า ผู้ที่ทรงมีสง่าราศีมากยิ่งกว่าผู้ใดหรือสิ่งใดในจักรวาลนี้ ทุกสิ่งในพระลักษณะของพระองค์เปิดเผยพระสิริและสง่าราศีของพระองค์\n* คำกล่าว \"ถวายพระสิริใน\" หมายถึงการโอ้อวดในสิ่งนั้นหรือการภาคภูมิใจในบางสิ่ง\n\n# คำแนะนำการแปล\n\n* ขึ้นอยู่กับบริบท ;bTuที่แตกต่างในการแปล \"พระสิริ\" สามารถรวมทั้ง \"สง่าราศี\" หรือ \"ความสว่าง\" หรือ \"โอ่อ่าตระการ\" หรือ \"ยิ่งใหญ่\" หรือ \"มีคุณค่ายิ่ง\"\n* คำว่า \"สง่าราศี\" สามารถแปล \"เต็มด้วยพระสิริ\" หรือ \"มีค่ายิ่งนัก\" หรือ \"สว่างไสว\" หรือ \"ยอดเยี่ยมโอ่อ่า\"\n* คำกล่าวที่ว่า \"ถวายพระสิริแด่พระเจ้า\" สามารถแปลได้ว่า \"ถวายเกียรติแด่ความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า\" หรือ \"สรรเสริญพระเจ้าเพราะความโอ่อ่าตระการของพระองค์\" หรือ \"บอกคนอื่นถึงความยิ่งใหญ่ของพระองค์\"\nคำกล่าว \"พระสิริใน\" สามารถแปลว่า \"สรรเสริญ\" หรือ \"ภูมิใจใน\" หรือ \"โอ้อวดเรื่อง\" หรือ \"ชื่นชมใน\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/gnashteeth.txt b/01/gnashteeth.txt new file mode 100644 index 00000000..b48746ca --- /dev/null +++ b/01/gnashteeth.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน", + "body": "ขบเขี้ยวหรือเคี้ยวฟันหมายถึงการขบฟันและถูฟันไปมา สิ่งนี้แสดงถึงความเจ็บปวดหรือความโกรธที่รุนแรง\n\n* พระคัมภีร์บอกเราถึงการขบเขี้ยวเคี้ยวฟันคือสิ่งหนึ่งที่คนเหล่านั้นจะทำในนรกเมื่อพวกเขาทนทุกข์สาหัส\n* ถ้าหากในวัฒนธรรมของท่านไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเขี้ยวฟันด้วยความโกรธ สามารถแปลได้อีกว่า \"ขบฟันด้วยความโกรธ\" หรือท่านสามารถใช้คำที่แสดงถึงเวลาที่คนหนึ่งโกรธและแสดงออกมาในวัฒนธรรมของท่าน เช่น \"กระทืบเท้า\" หรือ \"ขบฟัน\" หรือ \"คำราม\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/goat.txt b/01/goat.txt new file mode 100644 index 00000000..e3ea336e --- /dev/null +++ b/01/goat.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "แพะ", + "body": "แพะเป็นสัตว์ขนาดกลางๆ เป็นสัตว์สีขา คล้ายกับแกะและเป็นสัตว์ที่ให้นมและเอาไว้กินเนื้อ ลูกอ่อนของแพะเรียกว่า \"ลูกแพะ\"\n\n* เหมือนกับแกะ แพะเป็นสัตว์ที่สำคัญสำหรับการเผาบูชา โดยเฉพาะเทศกาลปัสกา\n* ถึงแม้ว่าแพะมีความคล้ายคลึงกับแกะ แต่ก็มีความแตกต่างบางอย่างที่เห็นได้ชัด\n* แพะมีขนสีเข้มและหยาบ แต่แกะมีขนปุย\n* แพะมีหางที่ตั้งชี้ แต่หางแกะห้อยลง\n* แกะโดยปกติชอบอยู่อย่างปลอดภัยกับฝูงของพวกมัน แต่แพะจะมีความเป็นเอกเทศและชอบที่จะท่องเที่ยวไปจากฝูง\n* ในสมัยพระคัมภีร์ แพะเป็นแหล่งให้นมหลักๆ กับคนอิสราเอล\n* หนังแพะถูกใช้เป็นเต็นท์เพื่อปกคลุมและถุงหนังสำหรับเหล้าใส่องุ่น\n* ทั้งในภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ แพะถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของคนอธรรม บางทีอาจจะเป็นเพราะแนวโน้มของพวกมันที่จะเดินออกห่างจากคนที่ดูแลพวกมัน\n* ชนชาติอิสราเอลใช้แพะเป็นสัญลักษณ์แบกรับความบาปด้วย เมื่อแพะตัวหนึ่งถูกถวายเป็นสัตวบูชา ปุโรหิตจะเอามือวางบนแพะตัวที่สองและส่งเข้าไปในทะเลทรายเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของสัตว์ที่แบกรับความบาปของมนุษย์" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/god.txt b/01/god.txt new file mode 100644 index 00000000..e8fd097a --- /dev/null +++ b/01/god.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "พระเจ้า", + "body": "ในพระคัมภีร์คำว่า \"พระเจ้า\" อ้างถึงผู้ที่มีชีวิตนิรันดร์ ผู้ทรงสร้างจักรวาลจากความว่างเปล่า พระเจ้าทรงเป็นอยู่ในฐานะ พระบิดา พระบุตร พระวิญญาณบริสุทธิ์ พระนามของพระเจ้าคือ \"พระยาห์เวห์\"\n\n* พระเจ้าทรงเป็นอยู่เสมอ พระองค์อยู่ก่อนสิ่งอื่นใดจะเกิดขึ้น และพระองค์จะอยู่เสมอเป็นนิตย์\n* พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้เพียงผู้เดียวที่มีอำนาจเหนือทุกสิ่งในจักรวาล\n* พระเจ้าเที่ยงธรรมดีพร้อม สติปัญญาอนันต์ บริสุทธิ์ ไม่มีบาป ยุติธรรม เมตตาและมีความรัก\n* พระองค์เป็นพระเจ้าที่รักษาคำสัญญา และเติมเต็มคำสัญญาของพระองค์เสมอ\n* มนุษย์ถูกสร้างมาเพื่อนมัสการพระเจ้าและพระองค์เป็นผู้เดียวที่พวกเขาควรสรรเสริญ\n* พระเจ้าทรงเปิดเผยพระนามของพระองค์คือ \"พระยาห์เวห์\" หมายถึง\" พระองค์เป็น\" หรือ \"เราเป็น\" หรือ \"ผู้ทรงเป็นอยู่เป็นนิตย์\"\n* พระคัมภีร์ก็สอนถึง \"พระ\" เทียมเท็จด้วยซึ่งก็คือรูปเคารพที่ไม่มีชีวิตที่ผู้คนหลงไปนมัสการแบบผิดๆ\n\n# คำแนะนำการแปล\n\n*แนวทางในการแปลคำว่า \"พระเจ้า\" สามารถรวมทั้ง \"เทพ\" หรือ \"พระผู้สร้าง\" หรือ \"ผู้เลอเลิศ\"\n* อีกแนวทางในการแปลคำว่า \"พระเจ้า\" สามารถรวม \"พระผู้สร้างเลอเลิศ\" หรือ \"องค์อธิปไตยนิรันดร์\" หรือ \"พระผู้ทรงดำรงอยู่และเลอเลิศ\"\n* พิจารณาว่าพระเจ้าจะถูกอ้างถึงใช้ภาษาท้องถิ่นหรือระดับชาติอย่างไร นอกจากนี้อาจมีคำว่า \"พระเจ้า\" อยู่ในภาษาที่แปลแล้ว ถ้าเป็นเช่นนั้นสิ่งสำคัญคือต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าคำนี้ตรงกับลักษณะเฉพาะของพระเจ้าองค์เดียวอย่างที่อธิบายไว้ข้างต้น\n* หลายภาษาใช้อักษรตัวแรกเป็นตัวใหญ่เพื่อบ่งบอกถึงพระเจ้าผู้เที่ยงแท้แต่ผู้เดียว เพื่อแยกความแตกต่างจากคำพูดของพระเทียมเท็จหรือพระเจ้า\n* อีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้เห็นความแตกต่างนี้คือการใช้คำที่แตกต่างคือคำว่า \"พระเจ้า\" และคำว่า \"พระ\" \n* วลี \"เราจะเป็นพระเจ้าของพวกเขาและพวกเขาจะเป็นคนของเรา\" แปลได้อีกว่า \"เราคือพระเจ้าจะปกครองเหนือคนเหล่านี้และพวกเขาจะนมัสการเรา\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/godly.txt b/01/godly.txt new file mode 100644 index 00000000..f6f7d67e --- /dev/null +++ b/01/godly.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ตามทางพระเจ้า, อยู่ในทางธรรม", + "body": "คำว่า \"ตามทางพระเจ้า\" ใช้เพื่อบรรยายถึงการกระทำของคนที่แสดงออกแบบให้เกียรติพระเจ้าและสำแดงว่าพระเจ้าทรงเป็นอย่างไร \"เป็นเหมือนพระเจ้า\" คือคุณภาพของบุคลิกลักษณะที่ถวายเกียรติแด่พระเจ้าโดยการทำตามพระทัยของพระเจ้า\n\n* คนที่มีบุคลิกลักษณะตามทางพระเจ้าจะแสดงให้เห็นผลของพระวิญญาณบริสุทธิ์เช่น ความรัก ความชื่นชมยินดี สันติสุข ความอดทน ความสุภาพและการบังคับตน\n* คุณภาพของคนที่อยู่ในทางธรรมแสดงว่าบุคคลนั้นมีพระวิญญาณบริสุทธิ์และเชื่อฟังพระองค์\n\n# คำแนะนำการแปล\n\nวลีที่ว่า \"ตามทางพระเจ้า\" สามารถแปลได้อีกว่า \"คนที่อยู่ตามทางพระเจ้า\" หรือ \"คนที่เชื่อฟังพระเจ้า\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/godthefather.txt b/01/godthefather.txt new file mode 100644 index 00000000..a0c455ea --- /dev/null +++ b/01/godthefather.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "พระเจ้าพระบิดา, พระบิดาในสวรรค์, พระบิดา", + "body": "คำว่า \"พระเจ้าพระบิดา\" และ \"พระบิดาในสวรรค์\" อ้างถึงพระยาห์เวห์ พระเจ้าผู้เที่ยงแท้แต่ผู้เดียว คำนี้บางครั้งก็เกิดขึ้นด้วยคำว่า \"พระบิดา\" โดยเฉพาะเวลาที่พระเยซูกำลังอ้างถึงพระองค์\n\n* พระเจ้าทรงเป็นอยู่ในฐานะพระเจ้าพระบิดา พระเจ้าพระบุตรและพระเจ้าพระวิญญาณบริสุทธิ์ แต่ละพระองค์ก็คือพระเจ้าอย่างสมบูรณ์และเป็นพระเจ้าองค์เดียวกัน นี่เป็นเรื่องลี้ลับที่มนุษย์ไม่สามารถเข้าใจได้\n* พระเจ้าพระบิดาได้ส่งพระเจ้าพระบุตร (พระเยซู) มาในโลกนี้และพระองค์ได้ส่งพระวิญญาณบริสุทธิ์มายังคนของพระองค์\n* ผู้ใดที่เชื่อในพระเจ้าพระบุตรจะได้เป็นบุตรของพระเจ้าพระบิดาและพระเจ้าพระวิญญาณบริสุทธิ์จะมาอยู่ในคนนั้น นี่ก็เป็นอีกเรื่องลี้ลับที่มนุษย์ไม่สามารถเข้าใจได้ทั้งหมด\n\n# คำแนะนำการแปล\n\n* ในวลีที่ว่า \"พระเจ้าพระบิดา\" จะดีที่สุดถ้าแปลเป็น \"พระบิดา\" ด้วยคำเดียวกันกับภาษาที่เป็นธรรมชาติที่ใช้เพื่ออ้างถึงพ่อในแบบมนุษย์\n* คำว่า \"พระบิดาในสวรรค์\" สามารถแปลได้อีกว่า \"พระบิดาผู้ทรงสถิตในสวรรค์\" หรือ \"พระเจ้าพระบิดาผู้ทรงสถิตในสวรรค์\" หรือ \"พระเจ้าพระบิดาของเราผู้มาจากสวรรค์\"\n* ปกติแล้ว \"พระบิดา\" จะใช้ตัวอักษรใหญ่เพื่อแสดงให้เห็นว่าอ้างถึงพระเจ้า" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/gold.txt b/01/gold.txt new file mode 100644 index 00000000..0072d667 --- /dev/null +++ b/01/gold.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ทองคำ", + "body": "ทองคำเป็นโลหะสีเหลืองที่มีค่ามาก ที่ใช้ทำเครื่องประดับและสิ่งของในศาสนา เป็นโลหะที่มีค่ามากที่สุดในโลกยุคโบราณ\n\n* ในสมัยพระคัมภีร์ มีวัตถุหลายชนิดที่ทำด้วยทองคำหรือ หุ้มด้วยทองคำบางๆ\n* สิ่งของเหล่านี้รวมถึง ตุ้มหู และเครื่องประดับอื่นๆ รูปเคารพ แท่นบูชาและวัตถุที่ใช้ในพลับพลาหรือพระวิหาร อย่างเช่นหีบพระบัญญัติ\n* ในสมัยพันธสัญญาเดิม ทองคำถูกใช้เป็นวิธีแลกเปลี่ยนในการซื้อและขาย มันจะถูกชั่งบนตาชั่งเพื่อวินิจฉัยคุณค่า\n* ต่อมาทองคำและโลหะอื่นๆ อย่างเช่น เงินได้ถูกทำเป็นเหรียญเพื่อใช้ในการซื้อและขาย\n* เมื่ออ้างถึงบางสิ่งที่ไม่ใช่ทองคำ แต่มีทองเปลวบางๆ หุ้มไว้ด้วยทองคำ คำว่า \"ทองคำ\" หรือ \"หุ้มทอง\" หรือ \"ทับซ้อนด้วยทองคำ\" ก็สามารถใช้ได้\n* บางครั้งวัตถุได้ถูกอธิบายว่า \"สีทอง\" ซึ่งหมายความว่ามันมีสีเหลืองของทองคำ แต่อาจจะไม่ได้ทำด้วยทองจริงๆ" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/golgotha.txt b/01/golgotha.txt new file mode 100644 index 00000000..a2dfc774 --- /dev/null +++ b/01/golgotha.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "โกลโกธา", + "body": "คำว่า \"โกลโกธา\" คือชื่อของสถานที่ที่พระเยซูถูกตรึง คำนี้มาจากภาษาอารามหมายถึง \"กะโหลก\" หรือ \"สถานที่แห่งหัวกะโหลก\"\n\n* โกลโกธาตั้งอยู่ด้านนอกกำแพงเมืองบางแห่งใกล้กับกรุงเยรูซาเล็ม บางทีอาจจะตั้งอยู่บนทางลาดของภูเขามะกอกเทศ\n* ในพระคัมภีร์ฉบับภาษาอังกฤษดั้งเดิม โกลโกธาถูกแปลว่า \"แคลวารี\" ซึ่งมาจากภาษาลาตินแปลว่า \"กะโหลก\"\n* พระคัมภีร์หลายฉบับใช้คำที่เหมือนกันคือคำว่า \"โกลโกธา\" ความหมายของคำนี้ก็ได้อธิบายไว้ในข้อพระคัมภีร์ และสามารถดูลิงค์ด้านล่างได้ว่าจะแปลคำนี้อย่างไร\n[How to Translate Names](https://git.door43.org/Door43/en-ta-translate-vol1/src/master/content/translate_names.md)\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/goliath.txt b/01/goliath.txt new file mode 100644 index 00000000..33a79502 --- /dev/null +++ b/01/goliath.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "โกลีอัท", + "body": "โกลีอัทเป็นทหารตัวสูงใหญ่มากในกองทัพของคนฟิลิสเตียที่ถูกดาวิดฆ่าตาย\n\n* โกลิอัทสูงประมาณสองถึงสามเมตร หลายครั้งจะถูกเอ่ยถึงว่าเหมือนยักษ์เพราะด้วยขนาดตัวที่ใหญ่โตของเขา\n* ถึงแม้ว่าโกลีอัทได้มีอาวุธที่ดีกว่าและตัวใหญ่มากกว่าดาวิด พระเจ้าได้ทรงให้กำลังแก่ดาวิดและความสามารถที่จะปราบโกลีอัท\n* ชนชาติอิสราเอลได้ประกาศชัยชนะเหนือคนฟิลิสเตียด้วยผลของชัยชนะของดาวิดเหนือโกลีอัท" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/gomorrah.txt b/01/gomorrah.txt new file mode 100644 index 00000000..b5c934c6 --- /dev/null +++ b/01/gomorrah.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "โกโมราห์", + "body": "โกโมราห์เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในหุบเขาที่อุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่งทางตะวันออกของเมืองบาบิโลนสถานที่ที่หลานของอับราฮัมคือโลทได้เลือกที่จะมีชีวิต\n\n* สถานที่ที่แน่นอนของโกโมราห์และเมืองโสโดมไม่เป็นที่ทราบ แต่มีข้อบ่งชี้หลายอย่างที่ทั้งสองเมืองนี้อาจจะตั้งอยู่ทางตอนใต้ของทะเลเกลือใกล้กั้บหุบเขาซิดดิม\n* มีกษัตริย์หลายองค์ที่ทำสงครามในบริเวณที่ตั้งของเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์\n* เมื่อครอบครัวของโลทถูกจับในข้อขัดแย้งระหว่างเมืองโสโดมและเมืองอื่น อับราฮัมและคนของเขาช่วยชีวิตพวกเขาเอาไว้\n* ไม่นานหลังจากนั้น พระเจ้าได้ทำลายเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์เพราะความชั่วร้ายของผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นั่น" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/good.txt b/01/good.txt new file mode 100644 index 00000000..760b07bc --- /dev/null +++ b/01/good.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ดี, ความดี", + "body": "คำว่า \"ดี\" มีความหมายแตกต่างกันขึ้นอยู่กับบริบท หลายภาษาจะใช้คำอื่นในการแปลความหมายที่แตกต่างกันเหล่านี้ \n\n* โดยทั่วไปสิ่งที่ดีคือถ้าสิ่งนั้นเหมาะสมกับพระลักษณะของพระเจ้า วัตถุประสงค์และน้ำพระทัยของพระองค์\n* บางสิ่งที่ \"ดี\" สามารถเป็นความพอใจ ดีเยี่ยม เป็นประโยชน์ เหมาะสม มีกำไรหรือถูกต้องตามหลักศีลธรรม\n* ที่ดินที่ \"ดี\" สามารถเรียกได้อีกว่า \"สมบูรณ์\" หรือ \"ประสิทธิผล\"\n* พืชผลที่ \"ดี\" สามารถเป็นพืชผลที่ \"สมบูรณ์\"\n* บุคคลสามารถ \"ดี\" ในสิ่งที่พวกเขาทำถ้าพวกเขาชำนาญในงานหรืออาชีพของพวกเขาเช่นเดียวกับใน \"ชาวนาที่ดี\" \n* ในพระคัมภีร์ ความหมายทั่วไปของคำว่า \"ดี\" มักตรงข้ามกับคำว่า \"ชั่วร้าย\"\n* คำว่า \"ความดี\" ปกติแล้วหมายถึงการเป็นคนที่อยู่ในศีลธรรมที่ดีหรือมีความคิดและการกระทำที่ชอบธรรม\n* ความดีของพระเจ้าอ้างถึงว่าพระองค์ได้อวยพรแก่มนุษย์อย่างไรโดยการให้สิ่งดีๆ และประโยชน์ที่ดี นอกจากนี้ยังสามารถอ้างถึงความสมบูรณ์แบบทางจริยธรรมของพระองค์\n\n# คำแนะนำการแปล\n\n* คำทั่วไปสำหรับคำว่า \"ดี\" ในภาษาเป้าหมายควรใช้คำใดก็ตามที่มีความหมายทั่วไปที่ถูกต้องและเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทที่แตกต่างจากความชั่วร้าย\n* ขึ้นอยู่กับบริบท วิธีอื่นในการแปลคำนี้อาจรวมถึง \"ใจดี\" หรือ \"ดีเยี่ยม\" หรือ \"ที่ชื่นชอบต่อพระเจ้า\" หรือ \"ชอบธรรม\" หรือ \"ศีลธรรมที่ตั้งขึ้น\" หรือ \"ทำกำไรได้\"\n* \"ดินแดนที่ดี\" สามารถแปลได้ว่า \"แผ่นดินอุดมสมบูรณ์\" หรือ \"ที่ดินที่มีการผลิต\" \"พืชที่ดี\" อาจแปลได้อีกว่า \"การเก็บเกี่ยวที่อุดมสมบูรณ์\" หรือ \"พืชผลจำนวนมาก\"\n* วลี \"ทำดีต่อ\" หมายถึงการทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นและสามารถแปลเป็นคำว่า \"ใจดี\" หรือ \"ช่วย\" หรือ \"ประโยชน์\" ต่อใครสักคนได้\n* \"ทำดีในวันสะบาโต\" หมายความว่า \"ทำสิ่งที่ช่วยคนอื่นในวันสะบาโต\"\n* ขึ้นอยู่กับบริบท วิธีการแปลคำว่า \"ความดี\" สามารถรวมถึง \"พระพร\" หรือ \"ความเมตตา\" หรือ \"ความสมบูรณ์แบบทางจริยธรรม\" หรือ \"ความชอบธรรม\" หรือ \"ความบริสุทธิ์\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/goodnews.txt b/01/goodnews.txt new file mode 100644 index 00000000..c6543ab6 --- /dev/null +++ b/01/goodnews.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ข่าวดี, ข่าวประเสริฐ, พระกิตติคุณ", + "body": "คำว่า \"พระกิตติคุณ\" ตามตัวอักษรหมายถึง \"ข่าวดี\" อ้างถึงข้อความหรือการประกาศที่บอกแก่ผู้คนที่เป็นประโยชน์สำหรับพวกเขาและทำให้พวกเขายินดี\n\n* ในพระคัมภีร์คำนี้มักจะหมายถึงข้อความเกี่ยวกับความรอดของพระเจ้าสำหรับผู้คนโดยทางการถวายบูชาของพระเยซูบนไม้กางเขน\n* ในพระคัมภีร์ภาษาอังกฤษส่วนใหญ่ \"ข่าวดี\" มักแปลว่า \"พระกิตติคุณ\" และใช้ในวลีเช่น \"พระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์\" \"พระกิตติคุณของพระเจ้า\" และ \"พระกิตติคุณของอาณาจักร\"\n\n# คำแนะนำการแปล\n\n* วิธีต่างๆในการแปลคำนี้อาจรวมถึง \"ข่าวสารที่ดี\" หรือ \"คำประกาศที่ดี\" หรือ \"ข้อความแห่งความรอดของพระเจ้า\" หรือ \"สิ่งดีที่พระเจ้าสอนเกี่ยวกับพระเยซู\"\n* ขึ้นอยู่กับบริบทวิธีการแปลวลีที่ว่า \"ข่าวดีของ\" สามารถรวมถึง \"ข่าวดี/ข่าวสารเกี่ยวกับ\" หรือ \"ข่าวสารที่ดีๆจาก\" หรือ \"สิ่งดีๆที่พระเจ้าทรงบอกเราเกี่ยวกับ\" หรือ \"สิ่งที่พระเจ้าตรัสเกี่ยวกับการช่วยเหลือมนุษย์\" " + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/goshen.txt b/01/goshen.txt new file mode 100644 index 00000000..ddc2ed34 --- /dev/null +++ b/01/goshen.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "โกเชน ", + "body": "โกเชนเป็นชื่อของดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ที่ตั้งเลียบตามฝั่งแม่น้ำไนล์ ในส่วนตอนเหนือของอียิปต์\n\n* เมื่อโยเซฟเป็นผู้ปกครองในอียิปต์ บิดาและพี่น้องของเขาและครอบครัวของเขาได้มาอาศัยอยู่ที่เมืองโกเชนเพื่อหนีการกันดารอาหารในคานาอัน\n* พวกเขาและลูกหลานของพวกเขาได้อาศัยอยู่ในเมืองโกเชนอย่างดีมานานกว่า 400 ปี แล้วถูกพวกเขาบังคับให้เป็นทาสโดยฟาโรห์กษัตริย์ของอียิปต์\n* ในที่สุดพระเจ้าได้ส่งโมเสสให้ช่วยคนอิสราเอลออกจากเมืองโกเชนและหนีจากการเป็นทาสนี้" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/gossip.txt b/01/gossip.txt new file mode 100644 index 00000000..d4c27da1 --- /dev/null +++ b/01/gossip.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ซุบซิบนินทา", + "body": "คำว่า \"ซุบซิบนินทา\" หมายถึงการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องปัญหาส่วนตัวของคนอื่นลับหลังพวกเขาในแง่ลบและไม่เกิดผลดีใดเลย บ่อยครั้งสิ่งที่พูดถึงก็ไม่ได้รับการยืนยันว่าเป็นความจริง\n\n* พระคัมภีร์ใหม่บอกว่าการกระจายข้อมูลเชิงลบเกี่ยวกับคนอื่นนั้นไม่ถูกต้อง การนินทาและใส่ร้ายเป็นตัวอย่างของคำพูดในแง่ลบ\n* การนินทาเป็นอันตรายต่อบุคคลที่ถูกพูดถึง เพราะว่าบ่อยครั้งมันทำร้ายความสัมพันธ์ของบางคนกับประชาชนคนอื่นๆ" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/governor.txt b/01/governor.txt new file mode 100644 index 00000000..b70857d2 --- /dev/null +++ b/01/governor.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ผู้ปกครอง, ผู้ว่าการ, ผู้ทำหน้าที่แทนกงสุล, รัฐบาล", + "body": "\"ผู้ปกครอง\" คือบุคคลที่ปกครองเหนือรัฐ ภูมิภาค หรือเขตแดน คำว่า \"ปกครอง\" หมายถึงการให้คำแนะนำ นำทาง หรือบริหารจัดการประชาชน\n\n* คำว่า \"ผู้ทำหน้าที่แทนกงสุล\" เป็นตำแหน่งพิเศษเฉพาะสำหรับผู้ปกครองผู้ที่ปกครองจังหวัดของโรมัน\n* ในช่วงเวลาพระคัมภีร์ ผู้ว่าการจะถูกแต่งตั้งโดยกษัตริย์หรือจักรพรรดิและอยู่ภายใต้อำนาจสิทธิ์ขาดของเขา\n* \"รัฐบาล\" ประกอบไปด้วยผู้ปกครองทั้งหมดที่ปกครองประเทศหรือ อาณาจักร ผู้ปกครองเหล่านี้จะบัญญัติกฏหมายเพื่อเป็นการนำความประพฤติของประชาชนของพวกเขา ดังนั้นจึงมีสันติสุข ความปลอดภัย และความมั่งคั่งหรือหรับประชาชนทุกคนในประเทศนั้น\n\n# คำแนะนำการแปล\n\n* คำว่า \"ผู้ว่าการ\" สามารถแปลได้อีกว่า \"ผู้ปกครอง\" หรือ \"ผู้ดูแลท้องถิ่น\" หรือ \"ผู้นำทั่วไป\" หรือ \"ผู้ปกครองเหนือดินแดนเล็กๆ\"\n* ขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า \"ผู้ว่าการ\" สามารถแปลได้อีกว่า \"ปกครองเหนือ\" หรือ \"นำ\" หรือ \"จัดการ\" หรือ \"กำกับดูแล\"\n* คำว่า \"ผู้ว่าการ\" ควรแปลให้แตกต่างจากคำว่ากษัตริย์หรือจักรพรรดิ์ เพราะผู้ว่าการเป็นผู้ปกครองที่มีอำนาจน้อยกว่าที่อยู่ภายใต้อำนาจสิทธิ์ขาดของพวกเขาเหล่านั้น\n* คำว่า \"ผู้ทำหน้าที่แทนกงสุล\" สามารถแปลว่า \"ผู้ว่าราชการโรมัน\" หรือ \"ผู้ว่าราชการจังหวัดของโรม\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/grace.txt b/01/grace.txt new file mode 100644 index 00000000..b7077590 --- /dev/null +++ b/01/grace.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "พระคุณ, มีพระคุณ", + "body": "คำว่า \"พระคุณ\" อ้างถึงการช่วยเหลือหรือคำอวยพรแก่ผู้ที่ยังไม่ได้รับ คำว่า \"มีพระคุณ\" จะอธิบายถึงคนที่แสดงพระคุณต่อผู้อื่น\n\n* พระคุณของพระเจ้าต่อมนุษย์ที่เต็มไปด้วยความบาปคือของขวัญที่ให้โดยหวังไม่หวังการตอบแทน\n* แนวคิดเรื่องพระคุณยังอ้างถึงการเป็นคนที่ใจดีและให้อภัยบางคนที่ทำผิดหรือทำสิ่งที่เจ็บปวดแก่ผู้อื่น\n* ตำกล่าว \"แสวงหาพระคุณ\" เป็นคำกล่าวที่หมายถึงได้รับความช่วยเหลือและความเมตตาจากพระเจ้า บ่อยครั้งรวมถึงพระเจ้าทรงพอพระทัยในบางคนและช่วยคนนั้น\n\n# คำแนะนำการแปล\n\n* อีกแนวทางในการแปล \"พระคุณ\" สามารถแปลได้อีกว่า \"ความเมตตาของพระเจ้า\" หรือ \"เป็นที่ชอบใจของพระเจ้า\" หรือ \"ความเมตตาและการอภัยของพระเจ้าแก่คนบาป\" หรือ \"ความเมตตาคุณ\"\n* คำว่า \"มีพระคุณ\" สามารถแปลว่า \"เต็มไปด้วยพระคุณ\" หรือ \"กรุณา\" หรือ \"เมตตา\" หรือ \"เมตตากรุณา\"\n* คำกล่าวว่า \"เขาพบพระคุณในสายพระเนตรของพระเจ้า\" สามารถแปลได้อีกว่า \"เขาได้รับพระเมตตาจากพระเจ้า\" หรือ \"พระเจ้าทรงพระเมตตาช่วยเหลือเขา\" หรือ \"พระเจ้าทรงสำแดงความชอบใจแก่เขา\" หรือ \"พระเจ้าชอบใจเขาและช่วยเขา\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/grain.txt b/01/grain.txt new file mode 100644 index 00000000..4c550338 --- /dev/null +++ b/01/grain.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เมล็ดข้าว", + "body": "คำว่า \"เมล็ดข้าว\" โดยปกติอ้างถึงเมล็ดของพืชเช่นข้าวสาลี บาร์เลย์ ข้าวโพด ลูกเดือยหรือข้าว และยังอ้างถึงต้นข้าวด้วย\n\n* ในพระคัมภีร์เมล็ดข้าวหลักๆ ที่มักอ้างถึงคือข้าวสาลีและบาร์เลย์\n* หัวของเมล็ดข้าวเป็นส่วนหนึ่งของต้นพืชที่ถือเมล็ดข้าวในนั้น\n* หมายเหตุในพระคัมภีร์ฉบับเก่าๆบางฉบับใช้คำว่า \"ข้าวโพด\" เพื่ออ้างถึงธัญพืชโดยทั่วไป อย่างไรก็ตามในภาษาอังกฤษสมัยใหม่ \"ข้าวโพด\" อ้างถึงเมล็ดพืชเพียงชนิดเดียว" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/grainoffering.txt b/01/grainoffering.txt new file mode 100644 index 00000000..290ec84f --- /dev/null +++ b/01/grainoffering.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "การถวายธัญบูชา", + "body": "การถวายธัญบูชาคือของขวัญที่เป็นข้าวสาลีหรือแป้งธัญพืชที่ถวายแด่พระเจ้า บ่อยครั้งคือหลังจากการเผาเครื่องเผาบูชา\n\n* ธัญพืชที่ใช้สำหรับการถวายธัญบูชาจะถูกบดจนเป็นผงมาอย่างปราณีตและบางครั้งก็ถูกปรุงสุกก่อนที่จะนำมาถวาย แต่เวลาอื่น ๆ ก็ปล่อยไว้แบบไม่ต้องปรุง\n* น้ำมันและเกลือจะถูกเติมลงไปในแป้งธัญพืช แต่ไม่อนุญาตให้ใส่เชื้อขนมปังหรือน้ำผึ้ง\n* ส่วนของการถวายธัญบูชาจะถูกเผาและบางส่วนจะให้พวกปุโรหิตไว้รับประทาน" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/grape.txt b/01/grape.txt new file mode 100644 index 00000000..ca2316fc --- /dev/null +++ b/01/grape.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "องุ่น", + "body": "องุ่นเป็นผลไม้ขนาดเล็กกลม ผิวเรียบที่เติบโตในพวงองุ่น น้ำของลูกองุ่นถูกนำมาใช้ในการทำเหล้าองุ่น\n\n* ผลองุ่นมีหลายสีแตกต่างกัน เช่นสีเขียวใส สีม่วง หรือ สีแดง\n* ผลองุ่นสามารถมีขนาดประมาณหนึ่งถึงสามเซ็นติเมตร\n* คนปลูกองุ่นในสวนที่เรียกว่าสวนองุ่น โดยปกติจะประกอบด้วยเถาองุ่นเป็นแถวยาว\n* ผลองุ่นเป็นอาหารสำคัญในสมัยพระคัมภีร์และการมีสวนองุ่นเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งมี\n* เพื่อที่จะเก็บผลองุ่นจากการเน่าเสีย ประชาชนจะตากแห้งพวกมัน องุ่นแห้งเรียกว่า \"ลูกเกด\" และพวกมันถูกใช้ทำขนมเค็กลูกเกด\n* พระเยซูทรงเล่าคำอุปมาเกี่ยวกับสวนองุ่นเพื่อสอนพวกสาวกของพระองค์เกี่ยวกับอาณาจักรของพระเจ้า\n " + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/greece.txt b/01/greece.txt new file mode 100644 index 00000000..d5872d4c --- /dev/null +++ b/01/greece.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "กรีซ", + "body": "ในสมัยพันธสัญญาใหม่ กรีซเป็นเมืองในอาณาจักรโรมัน\n\n* เช่นเดียวกับประเทศกรีซสมัยใหม่ ประเทศนี้ตั้งอยู่บนคาบสมุทรที่ล้อมรอบด้วยทะเลเมดิเตอเรเนียนทะเลเอเจียน และทะเลไอโอเนียน\n* อัครสาวกเปาโลได้เยี่ยมเยียนเมืองต่างๆ ในกรีซและตั้งคริสตจักรในเมืองโครินธ์ เธสะโลนิกาและเมืองฟิลิปปิ และบางทีเมืองอื่นๆ ด้วย\n* คนที่มาจากกรีซเรียกว่า \"คนกรีก\" และภาษาของพวกเขาคือ \"ภาษากรีก\" มีหลายคนจากเขตโรมอื่น ๆ ก็พูดภาษากรีกด้วย รวมทั้งชาวยิวหลายคน\n* บางครั้งคำว่า \"คนกรีก\" ก็ใช้อ้างถึงคนต่างประเทศ" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/greek.txt b/01/greek.txt new file mode 100644 index 00000000..2e4857d5 --- /dev/null +++ b/01/greek.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "กรีก, ชาวกรีก", + "body": "คำว่า \"กรีก\" อ้างถึงภาษาที่ใช้พูดในประเทศกรีซ กาษากรีกใช้พูดทั่วอาณาจักรโรมัน คำว่า \"ชาวกรีก\" หมายถึง \"การพูดภาษากรีก\"\n* เนื่องจากคนที่ไม่ใช่ยิวส่วนมากในอาณาจักโรมันพูดภาษากรีก พวกคนาต่างชาติบ่อยครั้งอ้างถึง คน \"กรีก\" ในพันธสัญญาใหม่ เฉพาะอย่างยิ่งเพื่อให้แตกต่างจากคนยิว\n* วลี \"คนยิวกรีก\" อ้างถึงคนยิวผู้พูดภาษากรีกเพื่อให้ตรงข้ามกับคำว่า \"คนยิวฮีบรู\" ผู้พูดเฉาะภาษาฮีบรูหรือบางทีภาษาอาราม\n* วิธีอื่นในการแปล \"ชาวกรีก\" สามารถรวมถึง \"การพูดภาษากรีก\" หรือ \"กรีกตามวัฒนธรรม\" หรือ \"กรีก\"\n* เมื่ออ้างถึงพวกที่ไม่ใช่ยิว \"กรึก\" สามารถแปลว่า \"คนต่างชาติ\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/groan.txt b/01/groan.txt new file mode 100644 index 00000000..d21aff08 --- /dev/null +++ b/01/groan.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "คร่ำครวญ", + "body": "คำว่า \"คร่ำครวญ\" อ้างถึงการเปล่งเสียงลึกเสียงต่ำซึ่งเกิดจากความทุกข์ทางร่างกายหรือจิตใจ โดยปกติมักจะคร่ำครวญโดยไม่มีคำใด ๆ \n\n* บุคคลสามารถคร่ำครวญเพราะรู้สึกเศร้าโศกเสียใจ\n* การคร่ำครวญสามารถเกิดจากสาเหตุของความรู้สึกเลวร้าย หรือภาระที่กดดัน\n* วิธีอื่นในการแปลคำว่า \"คร่ำครวญ\" นี้สามารถรวมถึง \"ร้องไห้ด้วยเสียงต่ำ\" หรือ \"เสียใจอย่างสุดซึ้ง\"\n* ถ้าเป็นคำนามแปลว่า \"เสียงร้องไห้เป็นทุกข์ต่ำๆ\" หรือ \"เสียงพึมพำของความเจ็บปวด\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/guilt.txt b/01/guilt.txt new file mode 100644 index 00000000..9c0c6c04 --- /dev/null +++ b/01/guilt.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ความผิด, มีความผิด", + "body": "คำว่า \"ความผิด\" อ้างถึงข้อเท็จจริงของการทำบาปหรือทำความผิด\n\n* การ \"ทำผิด\" หมายถึงการได้ทำผิดทางศีลธรรมซึ่งก็คือการไม่ได้เชื่อฟังพระเจ้า\n* สิ่งที่ตรงกันข้ามกับ \"ความผิด\" ก็คือ \"บริสุทธิ์\"\n\n# คำแนะนำการแปล\n\n* บางภาษาอาจแปลว่า \"ความผิด\" เป็น \"น้ำหนักของบาป\" หรือ \"ความผิดบาปที่นับได้\"\n* การแปลคำว่า \"ทำความผิด\" สามารถรวมถึงคำหรือวลีที่แปลว่า \"ผิด\" หรือ \"ทำอะไรผิดศีลธรรม\" หรือ \"กระทำบาป\" \n\nULB ตัวอย่าง: กำจัดความผิดของบาปของท่าน เอาความผิดของท่านออกไป การถวายบูชาความผิด ลงโทษความผิดของท่าน ไม่มีความผิดสำหรับการฆาตกรรมจะติดตามเขา แบกรับความผิดของตัวเอง ชำระความผิดของเขา เป็นความผิดที่ใหญ่หลวง ความผิดของเราขึ้นไปยังสวรรค์" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/guiltoffering.txt b/01/guiltoffering.txt new file mode 100644 index 00000000..cd652e2f --- /dev/null +++ b/01/guiltoffering.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "การถวายบูชาความผิด", + "body": "การถวายบูชาความผิดคือการถวายหรือถวายบูชาที่พระเจ้าทรงได้กำหนดให้ชาวอิสราเอลทำขึ้น เป็นถ้าพวกเขาได้ทำบางสิ่งผิดโดยไม่เจตนา อย่างเช่นไม่เคารพพระเจ้าหรือการทำลายทรัพย์สินของบุคคลอื่น\n\n* การถวายนี้เกี่ยวข้องกับการถวายบูชาสัตว์จ่ายค่าปรับด้วยเงินหรือทอง\n* นอกจากนี้บุคคลที่ทำผิดพลาดยังต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/habakkuk.txt b/01/habakkuk.txt new file mode 100644 index 00000000..73662cf6 --- /dev/null +++ b/01/habakkuk.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ฮาบากุก", + "body": "ฮาบากุกเป็นผู้เผยพพระวจนะในพันธสัญญาเดิมซึ่งได้มีชีวิตอาศัยอยู่ประมาณในรัชสมัยของกษัตริย์เยโฮยาคิมแห่งเผ่ายูดาห์ ผู้เผยพระวจนะเยเรมีห์ก็ได้มีชีวิตอยู่ในบางช่วงของเวลานี้\n\n* ผู้เผยพระวจนะคนนี้ได้เขียนหนังสือฮาบากุกก่อนที่กรุงเยรูซาเล็มจะถูกยึดครองโดยชาวบาบิโลนประมาณ 600 ปีก่อนคริสตศักราช\n* พระยาห์เวห์ทรงให้ฮาบากุกได้ทำนายเกี่ยวกับ \"ชาวเคลเดีย\" (ชาวบาบิโลน) จะมาและมีชัยชนะเหนือคนยูดาห์อย่างไร\n* หนึ่งในคำพูดที่เป็นที่รู้จักกันดีคือคำกล่าว : \"คนชอบธรรมจะมีชีวิตอยู่โดยความเชื่อของเขา\"\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/hades.txt b/01/hades.txt new file mode 100644 index 00000000..caad1d62 --- /dev/null +++ b/01/hades.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "แดนคนตาย", + "body": "คำว่า \"แดนคนตาย\" และ \"แดนมรณา\" ใช้ในพระคัมภีร์เพื่ออ้างถึงความตายและสถานที่ที่ดวงวิญญาณของผู้คนไปที่นั่นเมื่อพวกเขาตาย ความหมายของทั้งสองคำคล้ายคลึงกัน\n\n* ภาษาฮีบรูคำว่า \"แดนมรณา\" มักใช้ในพันธสัญญาเดิมเพื่ออ้างถึงสถานที่แห่งความตาย\n* ในพันธสัญญาใหม่คำในภาษากรีกว่า \"แดนคนตาย\" หมายถึงสถานที่สำหรับดวงวิญญาณที่ต่อต้านพระเจ้า วิญญาณเหล่านี้บ่งบอกถึงการ \"ลง\" ไปสู่แดนคนตาย บางครั้งก็แตกต่างกับการ \"ขึ้นไปสวรรค์\" สถานที่วิญญาณของคนที่เชื่อในพระเยซูอาศัยอยู่\n* คำว่า \"แดนมรณา\" จะถูกจับคู่กับคำว่า \"ความตาย\" ในพระธรรมวิวรณ์ ในเวลาสุดท้ายทั้งความตายและแดนมรณาจะถูกโยนลงไปในทะเลสาบแห่งไฟนรกซึ่งก็คือนรก\n\n# คำแนะนำการแปล\n\n* พันธสัญญาเดิมคำว่า \"แดนคนตาย\" สามารถแปลว่า \"สถานที่แห่งความตาย\" หรือ \"สถานที่สำหรับวิญญาณที่ตายแล้ว\" การแปลบางสำนวนคือ \"หลุม\" หรือ \"ความตาย\" ขึ้นอยู่กับบริบท\n * ในพันธสัญญาใหม่ คำว่า \"แดนมรณา\" สามารถแปลว่า \"สถานที่สำหรับคนตายที่ไม่เชื่อ\" หรือ \"สถานที่แห่งความทุกข์ยากสำหรับคนตาย\" หรือ \"สถานที่สำหรับวิญญาณของคนตายที่ไม่เชื่อ\"\n* คำแปลบางฉบับยังรักษาคำว่า \"แดนคนตาย\" หรือ \"แดนมรณา\" การสะกดคำให้เหมาะกับรูปแบบเสียงของภาษาในการแปล" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/hagar.txt b/01/hagar.txt new file mode 100644 index 00000000..680471a2 --- /dev/null +++ b/01/hagar.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ฮาการ์", + "body": "ฮาการ์เป็นผู้หญิงชาวอียิปต์ที่เป็นทาสรับใช้ส่วนตัวของซาราย\n\n* เมื่อซารายไม่สามารถให้กำเนิดบุตรได้ เธอได้มอบฮาการ์ให้แก่อับรามสามีของเธอเพื่อให้มีบุตรโดยอับรามนั้น\n* ฮาการ์ตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรชายให้แก่อับราม คืออิชมาเอล\n* พระเจ้าทรงปกป้องดูแลฮาการ์เมื่อนางประสบความทุกข์ยากในทะเลทรายและได้สัญญาที่จะอวยพระพรแก่เชื้อสายของเธอ" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/haggai.txt b/01/haggai.txt new file mode 100644 index 00000000..e7789f02 --- /dev/null +++ b/01/haggai.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ฮักกัย", + "body": "ฮักกัยเป็นผู้เผยพระวจนะของยูดาห์ในช่วงเวลาที่คนยิวกลับมาจากถูกจับไปเป็นเชลยที่บาบิโลน\n\n* ในสมัยที่ฮักกัยเผยพระวจนะ กษัตริย์อุสซียาห์กำลังปกครองเหนือยูดาห์\n* ผู้เผยพระวจนะเศคาริยาห์ก็กำลังเผยพระวจนะอยู่ในช่วงเวลานี้ด้วย\n* ฮักกัยและเศคาริยาห์ได้กระตุ้นชาวยิวให้สร้างพระวิหารอีกครั้งที่ได้ถูกทำลายไปโดยชาวบาบิโลนที่อยู่ภายใต้การปกครองของกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/hail.txt b/01/hail.txt new file mode 100644 index 00000000..5398090c --- /dev/null +++ b/01/hail.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ลูกเห็บ", + "body": "คำนี้มักจะอ้างถึงน้ำที่แข็งตัวก้อนเล็กหรือก้อนใหญ่ที่ตกลงลงมาจากฟ้า คำที่ต่างกัน \"ลูกเห็บ\" ที่ใช้ในการทักทายกับบางคนและสามารถหมายความว่า \"ฮัลโล่\" หรือ \"สวัสดี\"\n\n* ลูกเห็บที่ตกลงมาจากฟ้าเป็นนรูปแบบของลูกกลมๆ หรือก้อนน้ำแข็งซึ่งเรียกว่า \"ก้อนลูกเห็บ\" * * โดยปกติก้อนลูกเห็บมักจะมีขนาดเล็กๆ (กว้างไม่กี่เซนติเมตร) แต่ก็ยังมีลูกเห็บก้อนใหญ่มากซึ่งมีขนาดกว้างถึง 20 เซนติเมตรและหนักมากกว่าหนึ่งกิโลกรัม\n* หนังสือวิวรณ์ในพันธสัญญาใหม่อธิบายถึงก้อนลูกเห็บขนาดใหญ่ที่หนัก 50 กิโลกรัมที่พระเจ้าทำให้ตกลงมาในโลกเมื่อพระองค์พิพากษาประชาชนสำหรับความชั่วร้ายของพวกเขาในเวลาสุดท้าย\n* คำว่า \"เฮล\" เป็นคำทักทายในภาษาอังกฤษแบบเก่า ตามตัวอักษรหมายความว่า \"ยินดี\" และสามารถแปลว่า \"ทักทาย\" หรือ \"เฮลโล\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/ham.txt b/01/ham.txt new file mode 100644 index 00000000..dcbf51d4 --- /dev/null +++ b/01/ham.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ฮาม", + "body": "ฮามเป็นบุตรชายคนที่สองในจำนวนบุตรชายสามคนของโนอาห์ \n\n* ในช่วงเวลาน้ำท่วมโลกที่ปกคลุมทั่วทั้งโลกนั้น ฮามและพี่น้องของเขาอยู่กับโนอาห์ในเรือ พร้อมด้วยภรรยาของพวกเขา\n* หลังจากน้ำท่วมโลกแล้ว เกิดเหตุการณ์ที่ฮามไม่ให้เกียรติแก่โนอาห์บิดาของเขา ผลที่ตามมา โนอาห์จึงสาปแช่งคานาอันบุตรของฮามและเชื้อสายของเขาทั้งหมด ที่ในท้ายที่สุดแล้วรู้จักกันในนามชาวคานาอัน" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/hamath.txt b/01/hamath.txt new file mode 100644 index 00000000..e33bb073 --- /dev/null +++ b/01/hamath.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ฮามัธ, เลโบ ฮามัธ, คนฮามัธ", + "body": "ฮามัธเป็นเมืองสำคัญในซีเรียตอนเหนือ ซึ่งอยู่ทางเหนือของแผ่นดินคานาอัน คนฮามัธเป็นผู้สืบเชื้อสายของคานาอันบุตรชายของโนอาห์\n\n* คำว่า \"เลโบ ฮามัธ\" บางทีอ้างถึงทางผ่านภูเขาที่อยู่ใกล้กับเมืองฮามัธ\n* ในบางฉบับแปล \"เลโบ ฮามัธ\" ว่า \"ทางผ่านเข้าสู่เมืองฮามัธ\"\n* กษัตริย์ดาวิดเอาชนะศัตรูของกษัตริย์โทอูแห่งฮามัธซึ่งทำให้พวกเขาเป็นมิตรต่อกัน\n* ฮามัธเป็นเมืองหนึ่งที่เป็นสถานที่เก็บรักษาเสบียงของซาโลมอน\n* แผ่นดินฮามัธเป็นสถานที่ที่กษัตริย์เศเดคียาห์ถูกฆ่าโดยกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์และเป็นสถานที่ที่กษัตริย์เยโฮอาอาสถูกจับไปโดยฟาโรห์ของอียิปต์\n* คำว่า \"คนฮามัธ\" สามารถแปลว่า \"ประชาชนจากฮามัธ\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/hamor.txt b/01/hamor.txt new file mode 100644 index 00000000..c2c4142b --- /dev/null +++ b/01/hamor.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ฮาเมอร์", + "body": "ฮาเมอร์เป็นผู้ชายคนคานาอันที่อาศัยอยู่ในเมืองเชเคมเมื่อยาโคบและครอบครัวของเขาได้อาศัยอยู่ใกล้เมืองสุคคท เขาเป็นคนฮีไวท์\n\n* ยาโคบได้ซื้อที่ฝังศพสำหรับครอบครัวจากบุตรชายของฮาเมอร์\n* ขณะที่พวกเขาได้อยู่ที่นั่น เชเคมบุตรชายของฮาเมอร์ได้ข่มขืนดีนาห์บุตรสาวของยาโคบ\n* พี่ชายของนางจึงได้แก้แค้นฮาเมอร์และครอบครัวของเขา และได้ฆ่าผู้ชายทั้งหมดในเมืองเชเคม\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/hananiah.txt b/01/hananiah.txt new file mode 100644 index 00000000..24d0f212 --- /dev/null +++ b/01/hananiah.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ฮานานิยาห์", + "body": " ฮานานิยาห์เป็นชื่อของผู้ชายหลายคนในพันธสัญญาเดิม\n\n* ฮานานิยาห์คนหนึ่งเป็นเชลยอิสราเอลในบาบิโลนชื่อของเขาได้เปลี่ยนเป็น \"ชัดรัค\"\n* เขาได้ถูกมอบตำแหน่งผู้รับใช้กษัตริย์เนื่องจากเขามีบุคลิกลักษณะที่เป็นเลิศและมีความสามารถ\n* ครั้งหนึ่งฮานานิยาห์ (ชัดรัค) และเพื่อนคนหนุ่มคนอิสราเอลอีกสองคนถูกโยนลงไปในไฟในเตาหลอมเพราะพวกเขาปฎิเสธที่จะนมัสการกษัตริย์ พระเจ้าทรงสำแดงฤทธิ์อำนาจของพระองค์โดยการปกป้องพวกเขาไว้จากอันตราย\n* มีชายคนอื่นที่ชื่อฮานานิยาห์ ถูกเรียงลำดับเป็นผู้สืบเชื้อสายของกษัตริย์ซาโลมอน\n* ฮานานิยาห์อีกคนหนึ่งเป็นผู้เผยพระวจนะเท็จในสมัยของผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์\n* ผู้ชายอีกคนหนึ่งที่ชื่อฮานานิยาห์เป็นปุโรหิตผู้ที่ได้ช่วยนำการฉลองระหว่างเวลาของเนหะมียห์\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/hand.txt b/01/hand.txt new file mode 100644 index 00000000..50fbcc20 --- /dev/null +++ b/01/hand.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "มือ, มือขวา, ส่งมอบให้", + "body": "มีวิธีอุปมาอุปไมยหลายอย่างที่ \"มือ\" ถูกใช้ในพระคัมภีร์\n\n* คำว่า \"ส่งมอบให้\" บางสิ่งแก่บางคนหมายถึงการวางบางสิ่งในมือของบุคคล\n* คำว่า \"ส่งให้\" มักจะถูกใช้ในการอ้างอิงถึงฤทธิ์อำนาจและการกระทำของพระเจ้า อย่างเช่น เมื่อพระเจ้าตรัสว่า \"มือของเราไม่ได้สร้างสิ่งทั้งหมดเหล่านี้หรือ ? \" (ดู: [metonymy](https://git.door43.org/Door43/en-ta-translate-vol2/src/master/content/figs_metonymy.md))\n* คำกล่าว \"ส่งมอบให้\" หรือ \"มอบไว้ในมือของ\" อ้างถึงการทำให้บางคนอยู่ภายใต้การควบคุมหรืออำนาจของคนอื่น\n* การวางมือบนคนหนึ่งบ่อยครั้งได้กระทำขณะที่อวยพรเหนือบุคคลนั้น\n* คำว่า \"วางมือ\" อ้างถึงการวางมือบนบุคคลเพื่อที่จะมอบหมายให้บุคคลนั้นในการบริการถวายแด่หรืออธิษฐานเผื่อสำหรับการรักษาโรค\n* การใช้คำว่า \"มือ\" ในเชิงอุปมาอุปไมยอื่นๆ รวมถึง\n* \"วางมือบน\" หมายถึง \"ทำอันตราย\"\n* การ \"ช่วยเหลือให้พ้นจากมือของ\" หมายถึงการหยุดบางคนจากการทำอันตรายแก่คนอื่น\n* การ \"อยู่ใกล้มือ\" หมายถึงการ \"อยู่ใกล้\"\n* ตำแหน่งของการอยู่ที่ \"มือขวา\" หมายถึง \"อยู่ที่ฝั่งขวา\" หรือ \"ข้างขวา\"\n* วลี \"โดยมือของ\" บางคนหมายถึง \"โดย\" หรือ \"ผ่านทาง\" การกระทำของคนนั้น ยกตัวอย่างเช่น \"โดยพระหัตถ์ของพระผู้เป็นเจ้า\" หมายถึงว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นผู้ที่กระทำให้บางสิ่งเกิดขึ้น\n* เมื่อเปาโลกล่าวว่า \"เขียนโดยมือของข้าพเจ้า\" หมายความว่าส่วนนี้ของจดหมายถูกเขียนขึ้นโดยตัวท่านเอง ไม่ใช่ให้คนอื่นเขียนตามคำบอก\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* สำนวนเหล่านี้และโวหารอื่นๆ สามารถแปลโดยการใช้สำนวนอุปมาอุปไมยอื่นๆ ที่มีความหมายเดียวกัน หรือความหมายสามารถถูกแปลโดยการใช้ภาษาตรงตามตัวอักษร\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/hang.txt b/01/hang.txt new file mode 100644 index 00000000..12631bb6 --- /dev/null +++ b/01/hang.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "แขวน", + "body": "คำว่า \"แขวน\" หมายถึงการห้อยบางอย่างหรือบางคนไว้เหนือพื้นดิน\n\n* ความตายโดยการแขวนคอจะทำโดยการใช้ห่วงเชือกผูกไว้รอบๆ คอของบุคคลและห้อยลงมาจากสิ่งที่อยู่สูงกว่า เช่น กิ่งไม้ ยูดาสฆ่าตัวตายโดยการแขวนคอ\n* ความตายของพระเยซูโดยการแขวนบนไม้กางเขนเป็นการกระทำที่แตกต่างไป ทหารแขวนพระองค์โดยการตอกตะปูที่มือ (หรือข้อมือ) ของพระองค์และเท้าของพระองค์กับกางเขน\n* การแขวนบางคนอ้างถึงเสมอถึงการฆ่าบางคนโดยการแขวนพวกเขาด้วยเชือกรอบคอพวกเขา" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/hannah.txt b/01/hannah.txt new file mode 100644 index 00000000..25ce2dc1 --- /dev/null +++ b/01/hannah.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ฮันนาห์", + "body": "ฮันนาห์เป็นมารดาของผู้เผยพระวจนะซามูเอลในพันธสัญญาเดิม เธอเป็นหนึ่งในภรรยาสองคนของเอลคานาห์\n\n* ฮันนาห์ไม่สามารถมีบุตรได้ ซึ่งเป็นเรื่องเศร้าอย่างมากสำหรับเธอ\n* ในพระวิหาร ฮันนาห์ได้อธิษฐานต่อพระเจ้าด้วยใจร้อนรนให้พระองค์ประทานบุตรให้ โดยปฎิญาณว่าจะมอบถวายเขาให้รับใช้พระเจ้า\n* พระเจ้าได้ประทานให้ตามที่เธอขอและเมื่อเด็กชายซามูเอลโตพอแล้ว เธอได้พาเขามารับใช้ในพระวิหาร\n* พระเจ้ายังประทานบุตรคนอื่นๆ ให้แก่ฮันนาห์หลังจากนั้น" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/haran.txt b/01/haran.txt new file mode 100644 index 00000000..51d29d0a --- /dev/null +++ b/01/haran.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ฮาราน", + "body": "ฮารานเป็นน้องชายของอับราฮัมและเป็นบิดาของโลท\n\n* ฮารานยังเป็นชื่อของเมืองที่อับรามและครอบครัวของเขาได้อาศัยอยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่งระหว่างการเดินทางจากเมืองอูร์ไปยังแผ่นดินคานาอัน\n* มีผู้ชายอีกคนที่ชื่อว่าฮารานเป็นลูกชายของคาเรบ\n* ผู้ชายคนที่สามในพระคัมภีร์ที่ชื่อว่าฮารานเป็นเชื้อสายของเลวี" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/hard.txt b/01/hard.txt new file mode 100644 index 00000000..a2e5c7d0 --- /dev/null +++ b/01/hard.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ยากลำบาก, ความยากลำบาก", + "body": "คำว่า \"ยากลำบาก\" มีความหมายหลายอย่างขึ้นอยู่กับบริบท คำนี้มักจะอธิบายบางสิ่งที่ยาก คงทน หรือไม่ยอมยืดหยุ่น\n\n* คำกล่าว \"ใจแข็ง\" หรือ \"หัวแข็ง\" หมายถึงคนที่ไม่ยอมสำนึกผิดแบบหัวชนฝา คำกล่าวเหล่านี้อธิบายคนที่ยืนกรานว่าจะไม่ยอมเชื่อฟังพระเจ้า \n* คำกล่าวเชิงอุปมาอุปไมย \"ความแข็งกระด้างของหัวใจ\" และ \"ความแข็งกระด้างของหัวใจของพวกเขา\" อ้างความถึงการไม่เชื่อฟังด้วยความดื้อรั้นด้วย\n* ถ้าบางคนใจ \"แข็ง\" นี่หมายความว่าบุคคลนั้นปฎิเสธที่จะเชื่อฟังและยังคงไม่กลับใจ\n* เมื่อใช้เป็นคำวิเศษณ์ \"ทำงานหนัก\" หรือ \"พยายามอย่างมาก\" คำนี้หมายความว่าการทำบางอย่างด้วยความแข็งขันและอุตสาหะ การพยายามที่จะทำบางอย่างให้ดีที่สุด\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำว่า \"แข็ง\" สามารถแปลได้ว่า \"ยาก\" หรือ \"ดื้อรั้น\" หรือ \"ท้าทาย\" ขึ้นอยู่กับบริบท\n* คำว่า \"ความแข็ง\" หรือ \"ความแข็งของใจ\" หรือ \"ใจแข็ง\" สามารถแปลว่า \"ความดื้อรั้น\" หรือ \"การกบฎต่อต้าน\" หรือ \"ทัศนคติที่กบฎ\" หรือ \"การดื้อรั้นที่ไม่เชื่อฟัง\" หรือ \"ดื้อไม่เสียใจในความผิดบาป\"\n* คำว่า \"ทำให้แข็ง\" สามารถแปลว่า \"ดื้อไม่เสียใจในความผิดบาป\" หรือ \"ปฎิเสธที่จะเชื่อฟัง\"\n* \"อย่าทำให้ใจท่านแข็ง\" สามารถแปลว่า \"อย่าปฎิเสธที่จะเสียใจในความผิดบาป\" หรือ \"อย่าถื้อรั้นไม่ยอมเชื่อฟัง\"\n* วิธีอื่นที่จะแปล \"หัวแข็ง\" หรือ \"ใจแข็ง\" สามารถรวม \"ไม่เชื่อฟังด้วยความดื้อรั้น\" หรือ \"ไม่เชื่อฟังอย่างต่อเนื่อง\" หรือ \"ปฎิเสธที่จะกลับใจ\" หรือ \"กบฎอยู่เสมอ\"\n* ในคำกล่าวเช่น \"ทำงานหนัก\" หรือ \"พยายามอย่างมาก\" คำว่า \"แข็ง\" อาจจะแปลได้ว่า \"ด้วยความพากเพียร\" หรือ \"อย่างมุมานะ\"\n* คำกล่าว อย่างเช่น \"กดดันอย่างหนัก\" สามารถแปลว่า \"ผลักดันด้วยกำลัง\" หรือ\"ผลักอย่างแรงต่อ\"\n* \"กดขี่ข่มเหงประชาชนด้วยงานหนัก\" สามารถแปลว่า \"บังคับประชาชนให้ทำงานอย่างหนักให้พวกเขาทนทุกข์\" หรือ \"เป็นเหตุให้ประชาชนทนทุกข์โดยการบังคับพวกเขาให้ทำงานที่ยาก\"\n* ชนิดต่างๆ ของ \"งานที่ยาก\" ได้ทำให้มีประสบการณ์โดยผู้หญิงที่กำลังจะคลอดลูก ให้ดูเรื่อง \"เจ็บครรภ์\" " + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/harp.txt b/01/harp.txt new file mode 100644 index 00000000..c9cb74f8 --- /dev/null +++ b/01/harp.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "พิณ", + "body": "พิณเป็นเครื่องดนตรีประเภทสาย ซึ่งมักจะเป็นโครงขนาดใหญ่ซึ่งตรงกลางเปิดโล่งและมีสายหลายเส้นขึงเป็นแนวตั้ง\n\n* ในสมัยพระคัมภีร์ ไม้ต้นสนมักจะถูกใช้ในการทำพิณและเครื่องดนตรีอื่นๆ\n* พิณบ่อยครั้งนักดนตรีมักจะถือพิณไว้ในมือและบรรเลงในขณะที่เดินไป\n* มีหลายแห่งในพระคัมภีร์ พิณมกจะถูกกล่าวถึงว่าเป็นเครื่องมื่อที่ใช้ในการสรรเสริญและการนมัสการพระเจ้า\n* ดาวิดได้บันทึกหลายเพลงสดุดีซึ่งสำหรับใช้ร้องกับเครื่องดนตรีพิณ\n* เขาได้เล่นพิณสำหรับกษัตริย์ซาอูลเพื่อช่วยผ่อนคลายปั้ญหารบกวนจิตใจของกษัตริย์ " + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/harvest.txt b/01/harvest.txt new file mode 100644 index 00000000..d02a02bb --- /dev/null +++ b/01/harvest.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เก็บเกี่ยว, การเก็บเกี่ยว", + "body": "คำว่า \"การเก็บเกี่ยว\" อ้างถึงการรวบรวมผลไม้สุกหรือพืชผักจากสวนที่พืชนั้นเจริญเติบโต\n\n* เวลาของการเก็บเกี่ยวมักจะเกิดขึ้นในตอนท้ายของฤดูแห่งการเจริญเติบโต\n* ชาวอิสราเอลได้จัด \"เทศกาลแห่งการเก็บเกี่ยว\" หรือ \"เทศกาลแห่งการเก็บพืชผล\" เพื่อฉลองการเก็บเกี่ยวพืชผลที่ใช้เป็นอาหาร พระเจ้าได้ทรงบัญชาให้พวกเขาถวายผลแรกของพืชผลเหล่านี้เพื่อเป็นเครื่องบูชาแด่พระองค์\n* ในความหมายเชิงอุปมาอุปไมย คำว่า \"การเก็บเกี่ยว\" สามารถอ้างถึงการที่คนมาเชื่อในพระเยซูหรืออาจจะอธิบายการเจริญเติบโตในฝ่ายวิญญาณของบุคคล\n* แนวคิดเรื่องการเก็บเกี่ยวพืชผลฝ่ายวิญญาณเข้ากันได้กับภาพในเชิงอุปมาอุปไมยของผลไม้ที่เป็นภาพของคุณลักษณะทางบุคลิกลักษณะที่มีคุณภาพในทางของพระเจ้า\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* จะเป็นการดีที่สุดที่จะแปลคำนี้ด้วยคำที่ใช้กันทั่วไปในภาษาเพื่อจะสื่อความหมายถึงการเก็บเกี่ยวพืชผล\n* เหตุการณ์ของการเก็บเกี่ยวอาจจะแปลได้ว่า \"เวลาแห่งการเก็บเกี่ยว\" หรือ \"เวลาเก็บเกี่ยวพืชผล\" หรือ \"เวลาเก็บผล\"\n* คำกริยา \"เก็บเกี่ยว\" สามารถแปลได้ว่า \"เก็บรวบรวม\" หรือ \"เก็บมา\" หรือ \"รวบรวม\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/haughty.txt b/01/haughty.txt new file mode 100644 index 00000000..91889d82 --- /dev/null +++ b/01/haughty.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "หยิ่งยโส", + "body": "คำว่า \"หยิ่งยโส\" หมายความว่าหยิ่งหรือยะโส อ้างถึงบางคนที่คิดว่าตนเองดีเลิศกว่าที่ควรจะเป็น \n\n* บ่อยครั้งคำนี้อธิบายถึงความหยิ่งของบุคคลผู้ที่ยืนกรานในการทำบาปต่อพระเจ้า\n* โดยปกติบุคคลที่หยิ่งยะโสจะคุยโม้เกี่ยวกับตัวเขาเอง\n* บุคคลที่หยิ่งยะโสคือคนโง่ ไม่ฉลาด\n* คำนี้สามารถแปลว่า \"หยิ่ง\" หรือ \"โอหัง\" หรือ \"เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง\"\n* คำกล่าวเชิงอุปมาอุปไมย \"ตาที่เย่อหยิ่ง\" สามารถแปลว่า \"การมองแบบเย่อหยิ่ง\" หรือ \"การมองดูคนอื่นว่ามีความสำคัญน้อย\" หรือ \"บุคคลที่หยิ่งผู้ที่ดูถูกผู้อื่น\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/head.txt b/01/head.txt new file mode 100644 index 00000000..68906acd --- /dev/null +++ b/01/head.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ศีรษะ", + "body": "ในพระคัมภีร์ คำว่า \"ศีรษะ\" ถูกใช้ในความหมายเชิงอุปมาอุปไมยหลายความหมาย\n\n* บ่อยครั้งคำนี้ถูกใช้เพื่ออ้างถึงการมีอำนาจเหนือผู้คน เช่นใน \"ท่านได้ทำให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำเหนือประชาชาติ\" นี่สามารถแปลได้ว่า \"ท่านได้ทำให้ข้าพเจ้าเป็นผู้ปกครอง...\" หรือ \"ท่านได้ให้ข้าพเจ้ามีอำนาจเหนือ...\"\n* พระเยซูถูกเรียกว่า \"ศีรษะของคริสตจักร\" เช่นเดียวกับที่ศีรษะของคนหนึ่งนำทางและชี้นำอวัยวะส่วนอื่นๆ ของร่างกาย พระเยซูก็ทรงนำทางและชี้นำสมาชิกของ \"พระกาย\" ของพระองค์ นั่นคือคริสตจักร\n* พันธสัญญาใหม่สอนว่าสามีเป็น \"ศีรษะ\" หรือสิทธิอำนาจของภรรยาของเขา เขาได้รับหน้าที่ในการนำและชี้แนะภรรยาและครอบครัว\n* คำกล่าว \"มีดโกนจะไม่มีวันได้แตะต้องศีรษะของเขา\" หมายถึง \"เขาจะไม่มีวันตัดหรือโกนผมของเขา\"\n* คำว่า \"ศีรษะ\"สามารถหมายถึงจุดเริ่มต้นหรือแหล่งกำเนิดของบางสิ่งเช่นใน \"หัวถนน\"\n* คำกล่าว \"หัวของเมล็ดข้าว\" อ้างถึงส่วนยอดของข้าวฟ่างหรือบ้าวบาร์เล่ที่บรรจุเมล็ดพืช\n* คำกล่าวในเชิงอุปมาอุปไมยอีกอย่างหนึ่งคือเมื่อใช้ในการแสดงถึงคนทั้งตัว เช่น \"คนศีรษะสีเทาคนนี้\" อ้างถึงคนสูงอายุ หรือ \"ศีรษะของโยเซฟ\" อ้างถึงโยเซฟ (ดู : [synecdoche](https://git.door43.org/Door43/en-ta-translate-vol2/src/master/content/figs_synecdoche.md))\n* คำกล่าว \"ให้เลือดของพวกเขาอยู่บนศีรษะของเขาเอง\" หมายความว่าคนนั้นต้องรับผิดชอบการตายของคนทั้งหลายและจะได้รับการลงโทษจากการกระทำนั้น\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า \"ศีรษะ\" สามารถแปลได้ว่า \"สิทธิอำนาจ\" หรือ \"คนที่นำและสั่งการ\" หรือ \"คนที่รับผิดชอบ\" \n* คำกล่าว \"ศีรษะของ\" สามารถอ้างถึงบุคคลทั้งตัว ดังนั้นคำกล่าวนี้สามารถแปลได้โดยการใช้ชื่อของคนนั้น ยกตัวอย่างเช่น \"ศีรษะของโยเซฟ\" อาจจะแปลได้ว่า \"โยเซฟ\"\n* คำกล่าว \"จะอยู่บนศีรษะของเขาเอง\" สามารถแปลว่า \"จะอยู่บนเขา\" หรือ \"เขาจะถูกลงโทษ\" หรือ \"เขาจะต้องรับผิดชอบสำหรับ\" หรือ \"เขาจะถูกนับว่ามีความผิด\"\n* ขึ้นอยู่กับริบท วิธีอื่นที่จะแปลคำนี้สามารถรวมถึง \"เริ่มต้น\" หรือ \"แหล่ง\" หรือ \"ผู้ปกครอง\" หรือ \"ผู้นำ\" หรือ \"ยอด\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/heal.txt b/01/heal.txt new file mode 100644 index 00000000..1464b836 --- /dev/null +++ b/01/heal.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "รักษา, เยียวยา", + "body": "คำว่า \"การรักษา\" และ \"เยียวยา\" ทั้งสองคำหมายความว่า เป็นเหตุให้ความเจ็บป่วย บาดแผล หรือบุคคลพิการ กลับมามีสุขภาพดีอีกครั้ง \n\n* บุคคลที่ได้รับการ \"รักษา\" หรือ \"เยียวยา\" ได้ถูกทำให้ \"หายดี\" หรือ \"ทำให้สุขภาพดี\"\n* การรักษาสามารถเกิดโดยธรรมชาติ เนื่องจากพระเจ้าได้ให้ร่างกายของเรามีความสามารถที่จะพักฟื้นจากบาดแผลหลายชนิดและหลายโรค การรักษาให้หายแบบนี้โดยปรกติจะเกิดขึ้นอย่างช้าๆ\n* อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขที่แน่นอนอย่างเช่นตาบอดหรือเป็นง่อยและโรคที่สาหัส อย่างเช่นโรคเรื้อนที่ไม่หายด้วยตัวเอง เมื่อประชาชนได้รับการรักษาให้หายจากโรคเหล่านี้ เป็นสิ่งมห้ศจรรย์ที่ปกติจะเกิดขึ้นทันทีทันใด\n* ตัวอย่างเช่น พระเยซูทรงรักษาประชาชนเป็นจำนวนมากที่ตาบอด เป็นง่อย หรือโรคต่างๆ และพวกเขาได้หายโดยทันที\n* พวกสาวกก็รักษาประชาชนให้หายด้วยการอัศจรรย์ด้วยเช่นกัน เช่นเปโตรทำให้คนง่อยสามารถเดินได้ทันที" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/heart.txt b/01/heart.txt new file mode 100644 index 00000000..ba9f55ed --- /dev/null +++ b/01/heart.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "หัวใจ", + "body": "ในพระคัมภีร์ คำว่า \"หัวใจ\" มักจะถูกใช้ในเชิงอุปมาอุปไมยซึ่งอ้างถึงความคิด อารมณ์ ความปรารถนาหรือความตั้งใจของบุคคล\n\n* การมี \"หัวใจแข็งกระด้าง\" เป็นคำกล่าวทั่วไปที่หมารยถึงบุคคลที่ปฎิเสธที่จะเชื่อฟังพระเจ้าด้วยความดื้อรั้น \n* คำกล่าว \"ด้วยสุดใจของข้าพเจ้า\" หรือ \"ด้วยหัวใจทั้งหมดของข้าพเจ้า\" หมายถึงการทำบางอย่างโดยเต็มกำลัง โดยการทุ่มเทและตั้งใจอย่างเต็มที่ \n* คำกล่าว \"เอามาใส่ใจ\" หมายถึงการปฏิบัติต่อบางอย่างด้วยความจริงจังและนำมาใช้ในชีวิตของตนเอง\n* คำว่า \"ใจแตกสลาย\" อธิบายถึงคนที่โศกเศร้าอย่างมาก พวกเขาถูกทำร้ายลึกด้านอารมณ์ความรู้สึก\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* บางภาษาใช้ส่วนอื่นของร่างกาย เช่น \"กระเพาะ\" หรือ \"ตับ\" เพื่ออ้างถึงความคิดเหล่านี้\n* ภาษาอื่นๆอาจจะใช้คำเดียวในการอธิบายแนวคิดบางอย่างเหล่านี้และใช้อีกคำหนึ่งในการอธิบายแนวคิดอื่นๆ \n* ถ้า \"หัวใจ\" หรือร่างกายส่วนอื่นๆ ไม่ได้มีความหมายนี้ บางภาษาอาจจำเป็นต้องแปลตรงๆ ไม่ต้องเปรียบเทียบ และใช้คำว่า \"ความคิด\" หรือ \"อารมณ์ความรู้สึก\" หรือ \"ความปรารถนา\" \n* ขึ้นอยู่กับบริบท \"ด้วยสุดใจของข้าพเจ้า\" หรือ \"ด้วยหัวใจทั้งหมดของข้าพเจ้า\" สามารถแปลได้ว่า \"ด้วยพลังทั้งหมดของข้าพเจ้า\" หรือ \"ด้วยการทุ่มเทอย่างเต็มกำลัง\" หรือ \"อย่างเต็มที่\"\n* วลี \"เอามาใส่ใจ\" อาจจะแปลได้ว่า \"ปฎิบัติต่อสิ่งนั้นด้วยความจริงจัง\" หรือ \"คิดอย่างรอบคอบเกี่ยวกับสิ่งนั้น\"\n* คำกล่าว \"หัวใจแข็งกระด้าง\" อสามารถแปลได้ว่า \"กบฎด้วยความดื้อดึง\" หรือ \"ปฎิเสธที่จะเชื่อฟัง\" หรือ \"ไม่เชื่อฟังพระเจ้าต่อไปเรื่อยๆ\"\n* วิธีที่จะแปล \"ใจแตกสลาย\" สามารถรวมถึง \"เสียใจมาก\" หรือ \"รู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/heaven.txt b/01/heaven.txt new file mode 100644 index 00000000..377b5c52 --- /dev/null +++ b/01/heaven.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "สวรรค์, ท้องฟ้า, ท้องฟ้าทั้งมวล, ดังสวรรค์", + "body": "คำที่แปลว่า \"สวรรค์\" อ้างถึงสถานที่ที่พระเจ้าประทับอยู่ คำเดียวกันอาจจะหมายถึง \"ท้องฟ้า\" ขึ้นอยู่กับบริบท\n\n* คำว่า \"ท้องฟ้าทั้งมวล\" อ้างถึงทุกสิ่งที่เราเห็นเหนือแผ่นดินโลก รวมถึงดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาว ซึ่งรวมถึงสิ่งต่างๆในท้องฟ้า เช่น ดาวเคราะห์ที่อยู่ห่างออกไป ซึ่งเราไม่สามารถมองเห็นได้โดยตรงจากโลก\n* คำว่า \"ท้องฟ้า\" อ้างถึงพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลสีฟ้าเหนือแผ่นดินโลกที่มีเมฆและอากาศที่เราหายใจเข้าไป ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์มักจะถูกกล่าวถึงว่าอยู่ \"บนท้องฟ้า\"\n* ในบางบริบทในพระคัมภีร์ คำว่า \"สวรรค์\" อาจหมายถึงท้องฟ้าหรือสถานที่ที่พระเจ้าประทับอยู่\n* เมื่อ \"สวรรค์\" ถูกใช้ในเชิงอุปมาอุปไมย นั่นเป็นวิธีที่กล่าวถึงพระเจ้า ยกตัวอย่างเช่น เมื่อมัทธิวเขียนเกี่ยวกับ \"อาณาจักรแห่งสวรรค์\" เขากำลังอ้างถึงอาณาจักรของพระเจ้า \n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* เมื่อ \"สวรรค์\" ถูกใช้ในเชิงอุปมาอุปไมย สามารถแปลได้ว่า \"พระเจ้า\"\n* สำหรับ \"อาณาจักรแห่งสวรรค์\" ในหนังสือมัทธิวนั้น เป็นการดีที่สุดที่จะรักษาคำว่า \"สวรรค์\" ไว้เนื่องจากนี่เป็นลักษณะเฉพาะของพระกิตติคุณมัทธิว\n* คำว่า \"สวรรค์\" หรือ \"ดวงดาวในท้องฟ้า\" สามารถแปลได้ว่า \"ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาว\" หรือ \"ดวงดาวทั้งหมดในจักรวาล\"\n* วลี \"ดวงดาวทั้งหลายแห่งสวรรค์\" สามารถแปลได้ว่า \"ดวงดาวทั้งหลายในท้องฟ้า\" หรือ \"ดวงดาวทั้งหลายในทางช้างเผือก\" หรือ \"ดวงดาวทั้งหลายในจักรวาล\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/hebrew.txt b/01/hebrew.txt new file mode 100644 index 00000000..e4eae735 --- /dev/null +++ b/01/hebrew.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ฮีบรู", + "body": "ชาว \"ฮีบรู\" คือคนที่สืบเชื้อสายมาจากอับราฮัมผ่านทางสายของอิสอัคและยาโคบ อับราฮัมเป็นคนแรกในพระคัมภีร์ที่ถูกเรียกว่า \"ฮีบรู\" \n\n* คำว่า \"ฮีบรู\" ยังอ้างถึงภาษาที่คนฮีบรูพูด พระคัมภีร์เดิมนั้นแรกเริ่มเขียนในภาษาฮีบรู\n* ในที่ต่างๆ กันในพระคัมภีร์ ชาวฮีบรูถูกเรียกว่า \"คนยิว\" หรือ \"คนอิสราเอล\" จะเป็นการดีที่สุดที่จะรักษาคำทั้งสามไว้ในบริบทต้นฉบับ ตราบใดที่ชัดเจนว่าคำเหล่านี้อ้างถึงคนกลุ่มเดียวกัน" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/hebron.txt b/01/hebron.txt new file mode 100644 index 00000000..c6eda1da --- /dev/null +++ b/01/hebron.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เฮโบรน", + "body": "เฮโบรนเป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนเนินเขาหินสูงห่างจากกรุงเยรูซาเล็มไปทางใต้ประมาณ 20 ไมล์ \n\n* เมืองนี้ถูกสร้างประมาณ 2000 ปีก่อนคริสตกาล ในสมัยของอับราม เป็นเมืองที่ถูกกล่าวถึงหลายครั้งในเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่มีระบุในพันธสัญญาเดิม\n* เฮโบรนมีบทบาทสำคัญมากในชีวิตของกษัตริย์ดาวิด ลูกหลายคนของพระองค์รวมถึงอับซาโลมก็เกิดที่นั่น\n* เมืองนี้ถูกทำลายประมาณปีคริสตศักราชที่ 70 โดยชาวโรมัน" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/heifer.txt b/01/heifer.txt new file mode 100644 index 00000000..dee3e7e7 --- /dev/null +++ b/01/heifer.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "วัวสาว", + "body": "วัวสาวคือวัวตัวเมียที่โตแล้วแต่ยังไม่ได้ให้กำเนิดลูกวัว" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/heir.txt b/01/heir.txt new file mode 100644 index 00000000..9c6353ad --- /dev/null +++ b/01/heir.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ทายาท", + "body": "คำว่า \"ทายาท\" คือบุคคลที่ได้รับทรัพย์สินหรือเงินอย่างถูกกฏหมายที่เป็นของบุคคลที่ได้ตายไปแล้ว\n\n* ในสมัยพระคัมภีร์ ทายาทหลักคือบุตรชายคนแรก ผู้ที่ได้รับทรัพย์สินและเงินส่วนใหญ่ของบิดาของเขา\n* พระคัมภีร์ใช้คำว่า \"ทายาท\" ในเชิงอุปมาอุปไทยอ้างถึงคริสเตียนได้รับผลฝ่ายวิญญาณจากพระเจ้าในฐานะที่เป็นพระบิดาฝ่ายวิญญาณของพวกเขา\n* ในฐานะที่เป็นบุตรของพระเจ้า คริสเตียนจึงได้ชื่อว่าเป็น \"ทายาทร่วมกัน\" กับพระเยซูคริสต์ นี่สามารถแปลว่า \"ทายาทร่วม\" หรือ \"เพื่อนทายาท\" หรือ \"ทายาทด้วยกันกับ\"\n* คำว่า \"ทายาท\" สามารถแปลว่า \"บุคคลที่กำลังได้รับผลประโยชน์\" หรือคำล่าวอะไรก็ตามที่ใช้ในภาษาที่สื่อความหมายถึงบางคนผู้ที่กำลังได้รับทรัพย์สินและสิ่งอื่นๆ เมื่อบิดามารดาหรือญาติคนอื่นๆ เสียชีวิต\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/hell.txt b/01/hell.txt new file mode 100644 index 00000000..31af09e6 --- /dev/null +++ b/01/hell.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "นรก บึงไฟนรก", + "body": "นรกเป็นสถานที่สุดท้ายแห่งความเจ็บปวดและการทนทุกข์ที่ไม่มีวันจบสิ้น ที่ซึ่งพระเจ้าจะทรงลงโทษทุกคนที่กบฏต่อพระองค์และปฎิเสธแผนการณ์ของพระองค์ในการช่วยพวกเขาให้รอดโดยทางของพระเยซู คำนี้ยังมีการอ้างถึงว่าเป็น \"บึงไฟนรก\"\n\n* นรกได้ถูกอธิบายว่าเป็นสถานที่แห่งไฟและการทนทุกข์อย่างสาหัส\n* ซาตานและวิญญาณชั่วทั้งหลายที่ติดตามมันจะถูกโยนลงไปในนรกเพื่อรับโทษตลอดกาล\n* คนที่ไม่เชื่อในการถวายบูชาของพระเยซูเพื่อความบาปของพวกเขา และไม่เชื่อวางใจในพระองค์ให้ช่วยพวกเขาให้รอดจะถูกลงโทษในนรกอย่างนิรันดร์\n\n # คำแนะนำในการแปล\n\n* คำเหล่านี้ควรจะถูกแปลต่างกันเนื่องจากคำพวกนี้ปรากฏในบริบทที่แตกต่างกัน \n* บางภาษาไม่สามารถใช้ \"บึง\" ในวลี \"บึงไฟนรก\" ได้ เพราะเป็นคำที่อ้างถึงน้ำ\n* คำว่า \"นรก\" สามารถแปลว่า \"สถานที่แห่งการทนทุกข์\" หรือ \"สถานที่สุดท้ายแห่งความมืดและความเจ็บปวด\"\n* คำว่า \"บึงไฟนรก\" สามารถแปลได้ว่า \"ทะเลแห่งไฟ\" หรือ \"ไฟมหึมา\"\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/herodantipas.txt b/01/herodantipas.txt new file mode 100644 index 00000000..32e9e073 --- /dev/null +++ b/01/herodantipas.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เฮโรด อันทิปัส", + "body": "ระหว่างเกือบชั่วชีวิตของพระเยซู เฮโรด อันทิปัสเป็นผู้ปกครองส่วนของอาณาจักรโรมันซึ่งรวมทั้งแคว้นกาลิลี\n\n* เหมือนกับบิดาของเขาคือเฮโรดมหาราช บางครั้งอันทิปัสได้ถูกอ้างถึงในนาม \"กษัตริย์เฮโรด\" แม้ว่าเขาจะไม่ใช่กษัตริย์ที่แท้จริงก็ตาม\n* เฮโรด อันทิปัสปกครองหนึ่งในสี่ของอาณาจักรโรมัน และเขายังถูกเรียกว่า \"เฮโรดเจ้าเมือง\" \n* อันทิปัสคือ \"เฮโรด\" ที่สั่งให้ประหารยอห์นผู้ให้บัพติศมาโดยการตัดศีรษะ\n* เป็นเฮโรด อันทิปัส ผู้ที่ได้ซักถามพระเยซูก่อนที่พระองค์จะถูกตรึงที่กางเขน\n* \"เฮโรด\" อีกคนหนึ่งในพันธสัญญาใหม่ คือ บุตรชายของอันทิปัส (อากริปปา) และหลาน (อากริปปา ที่ 2) ผู้ได้ปกครองระหว่างเวลาของบรรดาอัตรสาวก \n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/herodias.txt b/01/herodias.txt new file mode 100644 index 00000000..64d5e497 --- /dev/null +++ b/01/herodias.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เฮโรเดียส", + "body": "เฮโรเดียสเป็นมเหสีของกษัตริย์เฮโรด อันทิปัส ในแคว้นยูเดียในสมัยของยอห์น ผู้ให้บัพติศมา\n\n* แต่เดิมเฮโรเดียสเป็นมเหสีของฟิลิป พี่ชายของเฮโรด อันทิปัส แต่ต่อมาได้สมรสอย่างไม่ถูกต้องตามกฏหมายกับเฮโรด อันทิปัส\n* ยอห์นผู้ให้บัพติศมาได้ตำหนิเฮโรดและเฮโรเดียสในเรื่องการสมรสอย่างไม่ถูกต้องตามกฏหมาย ด้วยเหตุนี้ เฮโรดจึงขังยอห์นไว้ในคุกและในที่สุดก็สั่งให้ตัดศีรษะเขา" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/herodthegreat.txt b/01/herodthegreat.txt new file mode 100644 index 00000000..ed5472d1 --- /dev/null +++ b/01/herodthegreat.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เฮโรด มหาราช", + "body": "เฮโรดมหาราช ได้ปกครองหนือยูดาห์ในเวลาที่พระเยซูทรงบังเกิด เขาเป็นพวกผู้ปกำครองชาวเอโดมคนแรกที่มีชื่อว่าเฮโรดผู้ได้ปกครองเหนือหลายส่วนของอาณาจักรโรมัน\n\n* บรรพบุรุษของเขาได้เปลี่ยนมานับถือลัทธิยูดาห์และเขาถูกเลี้ยงดูมาเหมือนคนยิว \n* ซีซาร์ออกัสตัสได้ตั้งชื่อเขาว่า \"กษัตริย์เฮโรด\" ถึงแม้ว่าเขาไม่ได้เป็นกษัตริย์ที่แท้จริงก็ตาม เขาได้ปกครองเหนือชาวยิวในยูเดียเป็นเวลา 33 ปี\n* เฮโรดมหาราชได้เป็นที่รู้จักกันในฐานะที่ได้สั่งให้มีการก่อสร้างอาคารที่สวย รวมทั้งการบูรณะพระวิหารของพวกยิวในกรุงเยรูซาเล็ม\n* เฮโรดองค์นี้โหดร้ายมากและเขาได้สั่งให้ประหารประชาชนหลายคน เมื่อเขาได้ยินว่า \" กษัตริย์ของยิว\" อีกองค์หนึ่งได้ประสูติในเบธเลเฮ็ม เขาได้สั่งให้ประหารทารกชายทั้งหมดในเมืองนั้น\n* บุตรชายของเขา เฮโรด อันทิปัสและเฮโรด ฟิลิปและหลานชายของเขา เฮโรด อากริปปาได้กลายมาเป็นผู้ปกครองโรมัน เหลนชายของเขา เฮโรด อากริปปาที่สอง (เรียกกันว่า \"กษัตริย์อากริปปา\") ได้ปกครองทั่วทั้งอาณาเขตยูเดีย" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/hezekiah.txt b/01/hezekiah.txt new file mode 100644 index 00000000..e3910cec --- /dev/null +++ b/01/hezekiah.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เฮเซคียาห์", + "body": "เฮเซคียาห์เป็นกษัตริย์องค์ที่ 13 แห่งอาณาจักรยูดาห์ เขาเป็นกษัตริย์ผู้ที่ได้ไว้วางใจและเชื่อฟังพระเจ้า\n\n* ไม่เหมือนกับกับอาหัสบิดาของเขาที่เป็นกษัตริย์ชั่วร้าย กษัตริย์เฮเซคียาห์เป็นกษัตริย์ที่ดีผู้ได้ทำลายสถานนมัสการรูปเคารพทั้งหมดในยูดาห์\n* ครั้งหนึ่งเมื่อเฮเซคียาห์ได้ป่วยมากและเกือบเสียชีวิต พระองค์ได้อธิษฐานอย่างร้อนรน พระเจ้าทรงรักษาเขาจากโรคร้ายแรงและให้เขามีชีวิตอยู่อีก 15 ปี\n* และเป็นสัญญาณต่อเฮเซคียาห์ว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น พระเจ้าาทรงได้กระทำการอัศจรรย์และทรงทำให้เวลาได้ย้อนกลับ\n* พระเจ้าทรงตอบคำอธิษฐานของเฮเซคียาห์เพื่อช่วยประชาชนของเขาจากกษัตริย์เซนนาเคอริบแห่งอัสสิเรียผู้ทีกำลังโจมตีพวกเขา" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/highplaces.txt b/01/highplaces.txt new file mode 100644 index 00000000..c98890e6 --- /dev/null +++ b/01/highplaces.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "สถานสูง ", + "body": "คำว่า \"สถานสูง\" อ้างถึงแท่นบูชาและปูชนียสถานที่สำหรับนมัสการรูปเคารพ สถานสูงเหล่านี้จะถูกสร้างบนพื้นที่สูง เช่น บนหุบเขาหรือข้างภูเขา\n\n* กษัตริย์ของอิสราเอลหลายพระองค์ได้ทำความบาปต่อพระเจ้าโดยการสร้างแท่นบูชาแก่พระเทียมเท็จในสถานสูงเหล่านี้ นี่ทำให้ผู้คนมีส่วนร่วมอย่างมากในการนมัสการรูปเคารพ\n* เมื่อกษัตริย์ที่เกรงกลัวพระเจ้าได้เข้ามาปกครองในอิสราเอลหรือยูดาห์ เขามักจะทำลายสถานสูงและล้มเลิกการนมัสการรูปเคารพเหล่านี้\n* อย่างไรก็ตาม กษัตริย์ที่ดีบางคนได้ประมาทและไม่ได้ทำลายสถานสูง ซึ่งเป็นผลทำให้ประเทศอิสราเอลทั้งประเทศยังคงนมัสการรูปเคารพต่อไป\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* วิธีการอื่นที่จะแปลคำนี้สามารถรวมถึง \"สถานที่ถูกยกขึ้นสำหรับการนมัสการรูปเคารพ\" หรือ \"ปูชนียสถานรูปเคารพบนยอดเขา\" หรือ \"เนินแท่นบูชารูปเคารพ\"\n* ให้แน่ใจว่านี่ชัดเจนว่าคำนี้อ้างถึงแท่นบูชารูปเคารพ ไม่ใช่เพียงแต่สถานสูงที่แท่นบูชาตั้งอยู่" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/highpriest.txt b/01/highpriest.txt new file mode 100644 index 00000000..536d864a --- /dev/null +++ b/01/highpriest.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "มหาปุโรหิต", + "body": "คำว่า \"มหาปุโรหิต\"อ้างถึงปุโรหิตพิเศษที่ได้รับการแต่งตั้งให้รับใช้เป็นเวลาหนึ่งปีในฐานะผู้นำของปุโรหิตอิสราเอลคนอื่นทั้งหมด\n\n* มหาปุโรหิตมีหน้าที่ความรับผิดชอบพิเศษ เขาเป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในส่วนของวิหารที่บริสุทธิ์ที่สุดเพื่อจะถวายเครื่องบูชาพิเศษปีละครั้ง\n* อิสราเอลได้มีปุโรหิตหลายคน แต่มีมหาปุโรหิตเพียงคนเดียวในช่วงเวลาหนึ่ง\n* เมื่อพระเยซูทรงถูกจับ คายาฟาสเป็นมหาปุโรหิตอย่างเป็นทางการ พ่อตาของคายาฟาส อันนาสถูกกล่าวถึงในบางครั้งเพราะเขาเคยเป็นมหาปุโรหิตคนก่อนที่อาจจะยังมีอำนาจและอำนาจสิทธิขาดเหนือผู้คน\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* \"มหาปุโรหิต\" สามารถแปลได้ว่า \"ปุโรหิตสูงสุด\" หรือ \"ปุโรหิตที่มีตำแหน่งสูงสุด\"\n* ให้แน่ใจว่าคำนี้ใช้คำแปลต่างจากคำว่า \"หัวหน้าปุโรหิต\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/hilkiah.txt b/01/hilkiah.txt new file mode 100644 index 00000000..c5b1ed62 --- /dev/null +++ b/01/hilkiah.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ฮิลคียาห์", + "body": "ฮิลคียาห์เป็นชื่อของมหาปุโรหิตในรัชสมัยของกษัตริย์โยสิยาห์\n\n* เมื่อมีการซ่อมแซมวิหาร มหาปุโรหิตฮิลคียาห์ได้พบหนังสือธรรมบัญญัติและสั่งให้นำไปให้กษัตริย์โยสิยาห์ \n* หลังจากได้มีการอ่านหนังสือธรรมบัญญัติให้เขาฟัง โยสิยาห์รู้สึกโศกเศร้าและเป็นต้นเหตุให้ผู้คนในยูดาห์มานมัสการพระยาห์เวห์อีกครั้งและเชื่อฟังธรรมบัญญัติของพระองค์\n* ผู้ชายอีกคนหนึ่งที่ชื่อฮิลคียาห์เป็นบุตรของเอลียาคิมและทำงานในพระราชวังในสมัยของกษัตริย์เฮเซคียาห์" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/hittite.txt b/01/hittite.txt new file mode 100644 index 00000000..c7f10eba --- /dev/null +++ b/01/hittite.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ฮิตไทต์", + "body": "ฮิตไทต์เป็นผู้สืบเชื้อสายของฮามผ่านทางบุตรชายของเขาคานาอัน พวกเขาได้กลายมาเป็นอาณาจักรใหญ่ตั้งอยู่ในสถานที่ที่ปัจจุบันคือตุรกีและปาเลสไตน์เหนือ\n\n* อับราฮัมได้ซื้อที่ดินจากเอโฟรนคนฮิตไทต์ ดังนั้นเขาจะได้ฝังศพภรรยาที่เสียชีวิตไปของเขาคือซาราห์ในถ้ำที่นั่น ในที่สุดอับราฮัมและเชื้อสายของเขาหลายคนได้ถูกฝังไว้ในถ้ำนั้นเช่นกัน\n* พ่อแม่ของเอซาวได้เศร้าโศกเมื่อเขาแต่งงานกับหญิงคนฮิตไทต์สองคน\n* หนึ่งในบรรดาคนเก่งกล้าของดาวิดคนหนึ่งมีชื่อว่าอุรีอาห์คนฮิตไทต์\n* หญิงต่างด้าวส่วนหนึ่งที่เป็นนางสนมของซาโลมอนเป็นคนฮิตไทต์ หญิงเหล่านี้ได้ทำให้ใจของซาโลมอนออกห่างจากพระเจ้าเพราะพระเทียมเท็จที่พวกนางได้นมัสการ\n* พวกฮิตไทต์มักจะคุกคามพวกคนอิสราเอลบ่อยครั้ง ทั้งด้านร่างกายและจิตวิญญาณ" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/hivite.txt b/01/hivite.txt new file mode 100644 index 00000000..c0695f30 --- /dev/null +++ b/01/hivite.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ฮีไวต์", + "body": "คนฮีไวต์เป็นหนึ่งในกลุ่มคนใหญ่เจ็ดกลุ่มที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินคานาอันเมื่อโยชูวาได้นำคนอิสราเอลมาครอบครองแผ่นดินนั้น\n\n* เหมือนกับคนทั้งหมดในกลุ่มนี้ คนฮีไวต์สืบเชื้อสายมาจากคานาอัน ผู่ซึ่งเป็นหลานชายของโนอาห์\n* เชเคม คนฮีเวต์ได้ข่มขืนดินาห์บุตรสาวของยาโคบ และพี่ชายของเธอได้ฆ่าคนฮีไวต์หลายคนเป็นการแก้แค้น\n* เมื่อโยชูวาได้นำคนอิสราเอลมาครอบครองแผ่นดินคานาอัน พวกอิสราเอลได้เล่นเล่ห์เหลี่ยมทำสัญญากับคนฮีไวต์แทนที่จะปราบเอาชนะพวกเขา\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/holy.txt b/01/holy.txt new file mode 100644 index 00000000..c5cf936b --- /dev/null +++ b/01/holy.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "บริสุทธิ์, ความบริสุทธิ์", + "body": "คำว่า \"บริสุทธิ์\" และ \"ความบริสุทธิ์\" อ้างถึงพระลักษณะของพระเจ้าที่แยกออกมาโดยสิ้นเชิงและแยกจากทุกสิ่งที่เป็นความบาปและไม่สมบูรณ์แบบ\n\n* พระเจ้าเท่านั้นที่ทรงบริสุทธิ์โดยสิ้นเชิง พระองค์ทรงกระทำให้คนและสิ่งต่างๆ บริสุทธิ์\n* บุคคลที่บริสุทธิ์เป็นของพระเจ้าและได้รับการแยกไว้เพื่อเป้าหมายในการรับใช้พระเจ้าและนำพระสิริมาสู่พระองค์\n* สิ่งที่พระเจ้าได้ทรงประกาศให้บริสุทธิ์คือสิ่งที่พระองค์ได้ทรงแยกไว้เพื่อพระสิริของพระองค์และให้พระองค์ใช้ได้ เช่นแท่นบูชาที่มีไว้เพื่อถวายเครื่องบูชาแด่พระองค์\n* เนื่องจากพระเจ้าทรงบริสุทธิ์ คนไม่สามารถเข้าใกล้พระองค์ได้เว้นเสียแต่ว่าพระองค์ทรงอนุญาตให้เขาเข้าใกล้ได้ เพราะพวกเขาเป็นเพียงมนุษย์ มีความบาปและไม่สมบูรณ์แบบ\n* ในพันธสัญญาเดิม พระเจ้าทรงแยกปุโรหิตไว้ให้บริสุทธิ์เพื่อรับใช้พระองค์เป็นการพิเศษ พวกเขาต้องผ่านพิธีการชำระให้สะอาดจากความบาปเพื่อที่จะเข้าใกล้พระเจ้า\n* พระเจ้ายังทรงแยกสถานที่บางแห่งและสิ่งของบางอย่างที่เป็นของพระองค์หรือเป็นที่ที่พระองค์ทรงสำแดงพระองค์ เช่นพระวิหารของพระองค์\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* วิธีการที่จะแปล \"บริสุทธิ์\" อาจรวมถึง \"แยกไว้สำหรับพระเจ้า\" หรือ \"เป็นของพระเจ้า\" หรือ \"บริสุทธิ์อย่างสิ้นเชิง\" หรือ \"ปราศจากความบาปโดยสมบูรณ์\" หรือ \"แยกจากความบาป\"\n* การ \"ทำให้บริสุทธิ์\" มักจะได้รับการแปลว่า \"ชำระให้บริสุทธิ์\" ในภาษาอังกฤษ และอาจจะแปลได้ว่า \"แยกไว้\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/holycity.txt b/01/holycity.txt new file mode 100644 index 00000000..293f978d --- /dev/null +++ b/01/holycity.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "นครบริสุทธิ์", + "body": "ในพระคัมภีร์ \"นครบริสุทธิ์\" อ้างถึงกรุงเยรูซาเล็ม\n\n* คำนี้ถูกใช้เพื่ออ้างถึงนครโบราณแห่งเยรูซาเล็มเช่นเดียวกับเยรูซาเล็มใหม่จากสวรรค์ที่พระเจ้าจะประทับและทรงปกครองท่ามกลางคนของพระองค์\n* คำนี้สามารถแปลโดยเชื่อมคำว่า \"บริสุทธิ์\" และ \"เมือง\" ที่ถูกใช้ในการแปลส่วนอื่นๆ ของการแปล" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/holyone.txt b/01/holyone.txt new file mode 100644 index 00000000..c8d4155a --- /dev/null +++ b/01/holyone.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "องค์บริสุทธิ์", + "body": "คำว่า \"องค์บริสุทธิ์\" เป็นตำแหน่งในพระคัมภีร์ที่เกือืบจะอ้างถึงพระเจ้าเสมอ\n\n* ในพันธสัญญาเดิม ตำแหน่งนี้มักจะปรากฏในวลี \"องค์บริสุทธิ์ของอิสราเอล\"\n* ในพันธสัญญาใหม่ พระเยซูได้รับการอ้างถึงว่าเป็น \"องค์บริสุทธิ์\" เช่นกัน\n* คำว่า \"องค์บริสุทธิ์\" บางครั้งใช้ในพระคัมภีร์เพื่ออ้างถึงทูตสวรรค์\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำแปลตรงตามตัวคือ \"ผู้บริสุทธิ์\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/holyplace.txt b/01/holyplace.txt new file mode 100644 index 00000000..55d37065 --- /dev/null +++ b/01/holyplace.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "วิสุทธิสถาน, อภิสุทธิสถาน", + "body": "ในพระคัมภีร์ คำว่า \"วิสุทธิสถาน\" และ \"อภิสุทธิสถาน\" อ้างถึงห้องสองห้องในพลับพลาหรืออาคารพระวิหาร\n\n* \"วิสุทธิสถาน\" เป็นห้องแรกและประกอบด้วยแท่นบูชาสำหรับเครื่องหอมและโต๊ะที่มี \"ขนมปังศักดิ์สิทธิ์\" วางอยู่\n* \"อภิสุทธิสถาน\" เป็นห้องที่สองที่อยู่ในสุดและมีหีบพันธสัญญาตั้งอยู่\n* ผ้าม่านที่หนาและหนักจะแยำห้องที่อยู่ทางด้านนอกออกจากห้องที่อยู่ทางด้านใน\n* มหาปุโรหิตเป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในอภิสุทธิสถาน \n* บางครั้ง \"วิสุทธิสถาน\" อ้างอาคารทั้งสองแห่งและบริวเณล้อมรอบของพระวิหารหรือพลับพลา และยังสามารถอ้างถึงสถานที่ใดก็ได้ที่แยกไว้สำหรับพระเจ้า \n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* \"อภิสุทธิสถาน\" เป็นห้องที่สองที่อยู่ในสุดและมีหีบพันธสัญญาตั้งอยู่\n-บางครั้ง \"วิสุทธิสถาน\" หมายถึงอาคารที่มีหลายห้องทั้งอาคารของวิหารหรือพลับพลา\nข้อแนะนำในการแปล\n* คำว่า \"วิสุทธิสถาน\" สามารถแปลว่า \"ห้องที่แยกไว้สำหรับพระเจ้า\" หรือ \"ห้องพิเศษสำหรับการพบกับพระเจ้า\" หรือ \"สถานที่ที่สงวนไว้สำหรับพระเจ้า\"\n* คำว่า \"อภิสุทธิสถาน\" สามารถแปลว่า \"ห้องที่แยกไว้สำหรับพระเจ้าโดยเฉพาะ\" หรือ \"ห้องที่พิเศษที่สุดสำหรับการพบพระเจ้า\"\n* ขึ้นกับบริบท วิธีที่จะแปลคำกล่าวดดยทั่วไป \"วิสุทธิสถาน\" สามารถรวม \"สถานที่ศักดิ์สิทธิ์\" หรือ \"สถานที่ที่พระเจ้าทรงแยกไว้\" หรือ \"สถานที่ในบริเวณพระวิหาร\" ซึ่งศักดิ์สิทธิ์\" หรือ \"ลานแห่งพระวิหารของพระเจ้าองค์บริสุทธิ์\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/holyspirit.txt b/01/holyspirit.txt new file mode 100644 index 00000000..4b2fd4f9 --- /dev/null +++ b/01/holyspirit.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "พระวิญญาณบริสุทธิ์, พระวิญญาณของพระเจ้า, พระวิญญาณขององค์พระผู้เป็นเจ้า", + "body": "คำเหล่านี้ล้วนหมายถึงพระวิญญาณบริสุทธิ์ผู้ซึ่งเป็นพระเจ้า พระเจ้าเที่ยงแท้เพียงองค์เดียวทรงเป็นอยู่ตลอดกาลในฐานะพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์\n\n* พระวิญญาณบริสุทธิ์ยังมีการอ้างถึงว่าเป็น \"พระวิญญาณ\" และ \"พระวิญญาณแห่งพระยาห์เวห์\" และ \"พระวิญญาณแห่งความจริง\"\n* เพราะพระวิญญาณบริสุทธิ์คือพระเจ้า พระองค์จึงทรงบริสุทธิ์อย่างแท้จริง ไร้มลทินอย่างยิ่ง และสมบูรณ์แบบในทางศีลธรรมในพระลักษณะโดยธรรมชาติทั้งหมดของพระองค์และทุกสิ่งที่พระองค์ทรงกระทำ\n* ร่วมกับพระบิดา และพระบุตร พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงเนรมิตสร้างโลก\n* เมื่อพระบุตรของพระเจ้า พระเยซูเสด็จกลับสู่สวรรค์ พระเจ้าทรงส่งพระวิญญาณบริสุทธิ์มายังคนของพระองค์เพื่อจะนำพวกเขา สอนพวกเขา ปลอบโยนพวกเขา และช่วยให้พวกเขาทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้าได้\n* พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงนำพระเยซูและพระองค์ทรงนำคนเหล่านั้นที่เชื่อในพระเยซู\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำนี้สามารถแปลได้ง่ายๆ ด้วยคำที่ใช้ในการแปล \"บริสุทธิ์\" และ \"พระวิญญาณ\"\n* วิธีการที่จะแปลคำนี้อาจรวมถึง \"พระวิญญาณบริสุทธิ์\" หรือ \"พระวิญญาณที่ทรงบริสุทธิ์\" หรือ \"พระเจ้าพระวิญญาณ\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/honey.txt b/01/honey.txt new file mode 100644 index 00000000..b8fae195 --- /dev/null +++ b/01/honey.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "น้ำผึ้ง, รวงผึ้ง", + "body": "น้ำผึ้งคือสารที่หวาน เหนียว รับประทานได้ที่ผึ้งสร้างขึ้นจากน้ำหวานของเกสรดอกไม้ รวงผึ้งคือกรอบขี้ผึ้งที่ผึ้งเก็บน้ำผึ้งไว้\n\n* ขึ้นอยู่กับพันธุ์ น้ำผึ้งสามารถจะมีสีเหลืองหรือสีน้ำตาล\n* น้ำผึ้งสามารถจะได้พบในป่า เช่น ในโพรงของต้นไม้ หรือที่ใดก็ได้ที่ผึ้งทำรัง คนเลี้ยงผึ้งไว้ในรังผึ้งเพื่อที่จะผลิตน้ำผึ้งไว้กินหรือขาย บางทีน้ำผึ้งที่ถูกกล่าวถึงในพระคัมภีร์อาจจะเป็นน้ำผึ้งป่า\n* มีผู้ชายสามคนในพระคัมภีร์ที่ถูกกล่าวถึงเป็นพิเศษว่าได้กินน้ำผึ้งป่า ได้แก่ โยนาธาน แซมสัน และยอห์นผู้ให้บัพติศมา\n* คำนี้ถูกใช้ในเชิงอุปมาอุปไมยเพื่ออธิบายถึงบางสิ่งที่หวานหรือน่าพึงพอใจมาก ยกตัวอย่าง เช่น พระคำของพระเจ้าและคำประกาศของพระองค์นั้น \"หวานเหมือนน้ำผึ้ง\" (ดู : [Simile](https://git.door43.org/Door43/en-ta-translate-vol1/src/master/content/figs_simile.md), [Metaphore](https://git.door43.org/Door43/en-ta-translate-vol1/src/master/content/figs_metaphore.md))\n* บางครั้งคำของบุคคลได้บรรยายว่าหวานปานน้ำผึ้ง แต่ผลเป็นการหลอกลวงและเป็นภัยต่อคนอื่น\n\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/honor.txt b/01/honor.txt new file mode 100644 index 00000000..26817884 --- /dev/null +++ b/01/honor.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เกียรติ, ให้เกียรติ", + "body": "คำว่า \"เกียรติ\" และ \"ให้เกียรติ\" อ้างถึงบางคน เคารพ นับถือ ยกย่อง หรือการคารวะ\n\n* เกียรติดดยปกติจะให้แก่บางคนผู้ที่อยู่ในฐานะที่สูงกว่าและมีความสำคัญ อย่างเช่นกษัตริย์ปรือ พระเจ้า\n* พระเจ้าทรงสอนให้คริสเตียนให้เกียรติผู้อื่น แต่ไม่ให้แสวงหาเกียรติสำหรับตนเอง\n* เด็กๆ ถูกสอนให้เกียรติพ่อแม่ของพวกเขา ซึ่งรวมถึงความเคารพและการเชื่อฟัง\n คำว่า \"เกียรติ\" และ \"สิริ\" มักจะถูกใช้ด้วยกัน เฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกล่าวถึงพระเยซู นี่อาจจะเป็นวิธีการสองอย่างที่แตกต่างกันในการกล่าวถึงสิ่งเดียวกัน\n* เกียรติที่ให้แด่พระเจ้ารวมถึงการขอบคุณและสรรเสริญพระองค์ และแสดงความเคารพต่อพระองค์โดยเชื่อฟังพระองค์และใช้ชีวิตในทางที่แสดงว่าพระองค์ทรงยิ่งใหญ่เพียงใด\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* วิธีอื่นที่จะแปล \"เกียรติ\" อาจรวมถึง \"เคารพ\" หรือ \"การยกย่อง\" หรือ \"นับถืออย่างสูง\" \n* คำว่า \"ให้เกียรติ\" สามารถแปลว่า \"แสดงความเคารพพิเศษแก่\" หรือ \"ทำให้ได้รับการสรรเสริญ\" หรือ \"แสดงความนับถืออย่างสูงสำหรับ\" หรือ \"ให้ความสำคัญอย่างสูง\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/hooves.txt b/01/hooves.txt new file mode 100644 index 00000000..8f76f769 --- /dev/null +++ b/01/hooves.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "กีบเท้าสัตว์, มีกีบเท้า, หลายกีบ", + "body": "คำนี้อ้างถึงวัสดุแข็งที่ครอบฝ่าเท้าส่วนล่างของสัตว์บางชนิดเช่น อูฐ วัวควาย กวาง ม้า ลา หมู วัว แกะ และแพะ\n\n* กีบเท้าสัตว์ช่วยป้องกันเท้าเมื่อเวลาเดิน\n* สัตว์บางชนิดมีกีบเท้าแยกเป็นสองกีบและสัตว์ชนิดอื่นมีกีบเท้าเดียว\n* พระเจ้าได้ตรัสกับชาวอิสราเอลว่าสัตว์ที่มีสองกีบและสัตว์เคี้ยวเอื้องจะถือว่าเป็นสัตว์ที่สะอาดในการรับประทาน นี่รวมทั้งวัวควาย แกะ กวาง และ วัว" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/hope.txt b/01/hope.txt new file mode 100644 index 00000000..733e862e --- /dev/null +++ b/01/hope.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ความหวัง", + "body": " คำว่า \"ความหวัง\" อ้างถึงการคาดหวังและความปรารถนาอย่างมากให้บางสิ่งเกิดขึ้น และยังสามารถแปลว่าไม่แน่นอนว่าสิ่งนั้นจะเกิดขึ้น\n\n* ในพระคัมภีร์ คำว่า \"ความหวัง\" มีความหมายว่า \"เชื่อมั่นใน\" อย่างเช่น \"ความหวังของข้าพเจ้าอยู่ในองค์พระผู้เป็นเจ้า\" นี่อ้างถึงการคาดหวังอย่างแน่นอนว่าจะได้รับสิ่งที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้กับประชากรของพระองค์\n* บางครั้ง ULB ได้แปลคำว่า \"ความหวัง\" เป็น \"ความมั่นใจ\" เฉพาะอย่างยิ่งในพันธสัญญาใหม่ ในบริบทที่อ้างถึงความมั่นใจที่จะได้รับสิ่งที่พระเจ้าได้ทรงสัญญาไว้กับประชาชนผู้ที่เชื่อในพระเยซูเป็นพระผู้ช่วยให้รอด\n* การ \"ไม่มีความหวัง\" หมายถึงการไม่มีความคาดหวังว่าสิ่งที่ดีจะเกิดขึ้น นี่หมายความว่ามันเป็นเรื่องจริงแน่นอนที่มันจะไม่เกิดขึ้น\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ในบางบริบท คำว่า \"หวัง\" สามารถแปลได้ว่า \"ปรารถนา\" หรือ \"ต้องการ\" หรือ \"คาดหวัง\"\n* คำกล่าว \"ไม่มีอะไรให้หวัง\" สามารถแปลได้ว่า \"ไม่มีอะไรให้เชื่อ\" หรือ \"ไม่มีความคาดหวังในสิ่งที่ดีอะไรเลย\"\n* การ \"ไม่มีความหวัง\" สามารถแปลได้ว่า \"ไม่มีความคาดหวังในสิ่งที่ดีอะไรเลย\" หรือ \"ไม่มีหลักประกัน\" หรือ \"มั่นใจว่าจะไม่มีอะไรดีเกิดขึ้น\"\n* คำกล่าว \"จงตั้งความหวังของท่านใน\" สามารถแปลว่า \"ได้วางความมั่นใจของท่านใน\" หรือ \"ได้เชื่อมันใน\"\n* วลี \"ข้าพเจ้าพบความหวังในพระคำของพระองค์\" สามารถแปลว่า \"ข้าพเจ้ามั่นใจว่าพระคำของพระองค์เป็นความจริง\" หรือ \"พระคำของพระองค์ช่วยข้าพเจ้าใด้เชื่อมั่นในพระองค์\" หรือ \"เมื่อข้าพเจ้าเชื่อฟังพระคำของท่าน ข้าพเจ้าแน่ใจว่าจะได้รับพระพร\"\n* คำวลีต่างๆ เช่น \"หวังใน\" พระเจ้าสามารถแปลว่า \"เชื่อมั่นในพระเจ้า\" หรือ \"รู้แน่นอนว่าพระเจ้าจะกระทำสิ่งที่พระองค์ได้ทรงสัญญาไว้\" หรือ \"แน่ใจว่าพระเจ้าทรงสัตย์ซื่อ\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/horeb.txt b/01/horeb.txt new file mode 100644 index 00000000..63b8b38c --- /dev/null +++ b/01/horeb.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "โฮเรบ", + "body": "ภูเขาโฮเรบเป็นอีกชื่อหนึ่งของภูเขาซีนาย ที่พระเจ้าได้ประทานแผ่นหินจารึกพระบัญญัติสิบประการให้แก่โมเสส\n\n* ภูเขาโฮเรบได้ชื่อว่า \"ภูเขาของพระเจ้า\"\n* โฮเรบเป็นสถานที่ที่โมเสสได้มองเห็นพุ่มไม้ที่ไฟลุกโชนอยู่เมื่อเขากำลังเลี้ยงดูฝูงแกะ\n* ภูเขาโฮเรบเป็นสถานที่พระเจ้าได้เปิดเผยพันธสัญญาแก่คนอิสราเอลดดยให้พวกเขาได้รับแผ่นหินที่มีพระบัญญัติของพระองค์เขียนบนแผ่นหินเหล่านั้น\n* นี่เป็นสถานที่ที่พระเจ้าต่อมาได้ตรัสกับโมเสสให้ตีหินเพื่อจัดหาน้ำให้กับคนอิสราเอลที่กระหายน้ำขณะที่เขากำลังเดินทางอยู่ในทะเลทราย\n* สถานที่แน่นอนของภูเขานี้ไม่เป็นที่ทราบกัน แต่อาจจะอยู่ทางตอนใต้ของคาบสมุทรซีนาย\n* เป็นไปได้ว่า \"โฮเรบ\" เป็นชื่อที่แท้จริงของภูเขาและ \"ภูเขาซีนาย\" หรือ \"ภูเขาแห่งซีนาย\" อ้างถึงข้อเท็จจริงว่าภูเขาโฮเรบตั้งที่อยู่ในทะเลทรายซีนาย" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/horn.txt b/01/horn.txt new file mode 100644 index 00000000..71d9281c --- /dev/null +++ b/01/horn.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เขาสัตว์", + "body": "เขาสัตว์คือสิ่งถาวร แข็ง ที่งอกออกมามีลักษณะแหลม บนหัวของสัตว์ต่างๆ เช่น แพะแกะและกวาง\n\n* เขาของแกะ (ตัวผู้) จะถูกใช้เป็นเครื่องดนตรีเรียกว่า \"แตรเขาแกะ\" หรือ \"โชฟาร์\" ที่จะถูกเป่าในงานพิเศษเช่น เทศกาลทางศาสนา\n* พระเจ้าตรัสกับคนอิสราเอลให้สร้างเชิงงอนที่รูปร่างเหมือนเขาสัตว์ที่ทั้งสี่มุมของแท่นบูชาเครื่องหอมและทองสัมฤทธิ์ ถึงแม้ว่าเชิงงอนเหล่านี้จะถูกเรียกว่า \"เขาสัตว์\" แต่ก็ไม่ใช่เขาของสัตว์อย่างแท้จริง\n* บางครั้งคำว่า \"เขาสัตว์\" ถูกใช้หมายถึง \"กระบอกน้ำ\" ที่รูปร่างเหมือนเขาสัตว์และใช้ในการเก็บน้ำหรือน้ำมัน ขวดน้ำมันถูกใช้ในการเจิมกษัตริย์ ดังเช่นที่ซามูเอลกระทำกับดาวิด\n* คำนี้ควรแปลด้วยคำที่แตกต่างจากคำที่อ้างถึงแตร\n* คำว่า \"เขาสัตว์\" นี้ใช้ในเชิงอุปมาอุปไมยเป็นสัญลักษณ์ของความเข้มแข็ง พลัง อำนาจสิทธิ์ขาด และความจงรักภักดี\n\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/horror.txt b/01/horror.txt new file mode 100644 index 00000000..f58bc599 --- /dev/null +++ b/01/horror.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ความหวาดกลัว, หวาดกลัว", + "body": "คำว่า \"ความหวาดกลัว\" อ้างถึงความรู้สึกเครียดอย่างมากของความกลัวและเกรงกลัวอย่างมาก บุคคลที่กำลังรู้สึกถึงความหวาดกลัวจะอยู่ในสภาพที่เรียกว่า \"หวาดกลัว\"\n\n* ความหวาดกลัวจะสะเทือนใจและเข้มข้นมากกว่าความกลัวธรรมดา\n*โดยปกติเมื่อบางคนหวาดกลัว เขาจะอยู่ในอาการตกใจสุดขีดหรือตะลึงด้วย" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/horse.txt b/01/horse.txt new file mode 100644 index 00000000..e5e82473 --- /dev/null +++ b/01/horse.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ม้า", + "body": "ม้าคือสัตว์สี่ขาขนาดใหญ่ที่ในสมัยพระคัมภีร์ถูกใช้ในการทำสวนและขนส่งผู้คน\n\n* ม้าบางตัวถูกใช้ในการลากเกวียนหรือรถม้าศึก ในขณะที่ตัวอื่นๆ ถูกใช้ในการบรรทุกคนขี่แต่ละคน\n* ม้ามักจะมีบังเหียนไว้บนหัวของพวกมันเพื่อที่จะควบคุมได้\n* ในพระคัมภีร์จะถือว่าม้าเป็นทรัพย์สมบัติที่มีค่าและเป็นสิ่งที่วัดความร่ำรวย เพราะว่ามันถูกใช้ในสงครามเป็นหลัก ยกตัวอย่างเช่น กษัตริย์ซาโลมอนมีม้าหลายพันตัวและรถม้าศึกจำนวนมากมาย\n* สัตว์ที่คล้ายกับม้าคือลาและล่อ" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/horsemen.txt b/01/horsemen.txt new file mode 100644 index 00000000..c680d44a --- /dev/null +++ b/01/horsemen.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "คนขี่ม้า", + "body": "ในสมัยพระคัมภีร์ คำว่า \"คนขี่ม้า\" อ้างถึงพวกผู้ชายที่ขี่ม้าไปในการสู้รบ\n\n* นักรบที่บังคับม้าถูกใช้ในการลากรถม้ารบก็ถูกเรียกว่า \"คนขี่ม้า\" ถึงแม้ว่าคำนี้โดยปกติอ้างถึงผู้ชายที่ขี่ม้า\n* อย่างไรก็ตาม คนอิสราเอลไม่ได้รักษาคนขี่ม้าจำนวนมากไว้\n* พวกอิสราเอลเชื่อว่าการใช้ม้าในการสู้รบเป็นธรรมเนียมปฎิบัติของคนนอกศาสนาที่เน้นความสำคัญในเรื่องของพลังอำนาจในชัยชนะมากกว่าพระยาห์เวห์\n* คำนี้สามารถแปลว่า \"คนขี่ม้า\" หรือ \"คนบนหลังม้า\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/hosea.txt b/01/hosea.txt new file mode 100644 index 00000000..4f49aa4b --- /dev/null +++ b/01/hosea.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "โฮเชยา", + "body": "โฮเชยาเป็นผู้เผยพระวจนะของอิสราเอลประมาณ 750 ปีก่อนพระคริสต์\n\n* พันธกิจของเขาคงอยู่เป็นเวลาหลายปีตลอดรัชสมัยของกษัตริย์หลายพระองค์ เช่น เยโรโบอัม เศคาริยาห์ อุสซียาห์ โยธาม อาหัส โฮเชยา อูซียาห์ และเฮเซคียาห์\n* พระเจ้าตรัสกับโฮเชยาให้แต่งงานกับหญิงโสเภณีที่ชื่อว่าโกเมอร์และรักนางต่อไป แม้ว่านางจะไม่ซื่อสัตย์กับเขา\n* นี่เป็นภาพของความรักของพระเจ้าสำหรับคนของพระองค์ที่ไม่สัตย์ซื่อคืออิสราเอล\n* โฮเชยาได้กล่าวคำเผยพระวจนะต่อประชากรอิสราเอลโดยการเตือนพวกเขาให้เลิกบูชารูปเคารพ" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/hoshea.txt b/01/hoshea.txt new file mode 100644 index 00000000..827b6c34 --- /dev/null +++ b/01/hoshea.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "โฮเชยา", + "body": "โฮเชยาเป็นชื่อกษัตริย์ของอิสราเอลเป็นเวลาเก้าปีในระหว่างส่วนหนึ่งของรัชสมัยของอาหัสและเฮเซคียาห์ กษัตริย์แห่งยูดาห์\n\n* โยชูวาบุตรชายของนูนก่อนหน้านั้นเคยชื่อว่าโฮเชยา โมเสสได้เปลี่ยนชื่อโฮเชยาเป็นโยเชวาก่อนที่จะส่งเขาและผู้ชายอีกสิบเอ็ดคนไปสอดแนมในแผ่นดินคานาอัน\n* หลังจากที่โมเสสเสียชีวิตแล้ว โยชูวานำประชากรอิสราเอลเข้าไปครอบครองแผ่นดินคานาอัน\n* ผู้ชายอีกคนหนึ่งที่ชื่อโยเชวาเป็นบุตรชายของอาซาไซอาห์และเป็นผู้นำคนหนึ่งของเผ่าเอฟราอิม" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/hour.txt b/01/hour.txt new file mode 100644 index 00000000..0c96757c --- /dev/null +++ b/01/hour.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ชั่วโมง, ยาม", + "body": "นอกเหนือจากการใช้เพื่อหมายถึงเวลาหรือระยะเวลาที่บางอย่างเกิดขึ้น คำว่า \"ชั่วโมง\" ยังถูกใช้ในเชิงอุปมาอุปไมยหลายอย่าง\n\n* บางครั้ง \"ชั่วโมง\" หมายถึงเวลาที่กำหนดไว้เป็นประจำในการทำบางอย่างเช่น \"ชั่วโมงแห่งการอธิษฐาน\n* เมื่อข้อความนั้นบอกว่า \"ชั่วโมงนั้นมาถึงแล้ว\" สำหรับพระเยซูในการทนทุกข์และถูกประหาร นี่หมายความว่าเป็นเวลาที่ถูกกำหนดไว้ซึ่งพระเจ้าได้ทรงตัดสินพระทัยมานานแล้วว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น\n* คำว่า \"ชั่วโมง\" ยังถูกใช้หมายถึง \"ในช่วงเวลานั้น\" หรือ \"ตอนนั้น\"\n* เมื่อข้อความนั้นพูดถึง \"ชั่วโมง\" ที่ล่วงเลยมามาก นี่หมายความว่าเป็นเวลาค่ำของวันที่ดวงอาทิตย์กำลังจะตกดิน\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* เมื่อใช้ในเชิงอุปมาอุปไมย คำว่า \"ชั่วโมง\" สามารถแปลว่า \"เวลา\" หรือ \"ขณะนั้น\" หรือ \"เวลาที่นัดหมาย\"\n* วลี \"ในเวลานั้น\" หรือ \"ในเวลาเดียวกัน\" สามารถแปลว่า \"ในขณะนั้น\" หรือ \"ในเวลานั้น\" ทันทีทันใด\" หรือ \"ขณะนี้\"\n* คำกล่าว \"เวลาล่วงไป\" สามารถแปลว่า \"มันเป็นเวลาตอนคำของวันแล้ว\" หรือ \"มันจะมืดแล้วในไม่ช้า\" หรือ \"มันเป็นเวลาบ่ายมากแล้ว\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/house.txt b/01/house.txt new file mode 100644 index 00000000..87c945f6 --- /dev/null +++ b/01/house.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "บ้าน", + "body": "คำว่า \"บ้าน\" มักจะถูกใช้ในเชิงอุปมาอุปไมยในพระคัมภีร์\n\n* บางครั้งหมายความว่า \"ครัวเรือน ซึ่งหมายถึงคนที่อาศัยอยู่ด้วยกันในบ้านหลังหนึ่ง\n* บ่อยครั้งที่ \"บ้าน\" อ้างถึงบรรพบุรุษ เชื้อสายหรือญาติพี่น้องคนอื่นๆ ของคนหนึ่งตัวอย่างเช่น \"ตระกูลของดาวิด\" อ้างถึงผู้สืบเชื้อสายทั้งหมดของกษัตริย์ดาวิด\n* คำว่า \"นิเวศของพระเจ้า\" และ \"นิเวศของพระยาห์เวห์\" อ้างถึงพลับพลาหรือพระวิหาร คำกล่าวนี้สามารถอ้างถึงโดยทั่วไปสถานที่ที่พระเจ้าสถิตหรือประทับอยู่\n* ในพระธรรมฮีบรู บทที่ 3 \"ครอบครัวของพระเจ้า\" ถูกใช้เป็นคำอุปมาเพื่ออ้างถึงคนของพระเจ้าหรือโดยทั่วไปแล้วคือทุกสิ่งที่เป็นของพระเจ้า\n* วลี \"เชื้อสายของอิสราเอล\" สามารถอ้างถึงประเทศอิสราเอลทั้งประเทศหรือเฉพาะเจาะจงลงไปอีกคือเผ่าที่อยู่ในอาณาจักรของอิสราเอลทางตอนเหนือ\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ขึ้นอยู่กับบริบท \"บ้าน\" สามารถแปลว่า \"ครัวเรือน\" หรือ \"ผู้คน\" หรือ \"ครอบครัว\" หรือ \"เชื้อสาย\" หรือ \"พระวิหาร\" หรือ \"สถานที่อยู่อาศัย\"\n* วลี \"ตระกูลของดาวิด\" อาจจะแปลว่า \"เผ่าพันธุ์ของดาวิด\" หรือ \"ครอบครัวของดาวิด\" หรือ \"เชื้อสายของดาวิด\" สำนวนที่เกี่ยวข้องกันสามารถจะแปลได้ในทางที่ใกล้เคียงกัน\n* วิธีอื่นที่จะแปล \"เชื้อสายของอิสราเอล\" อาจรวมถึง \"ประชากรของอิสราเอล\" หรือ \"ลูกหลานของอิสราเอล\" หรือ \"คนอิสราเอล\"\n* \"นิเวศของพระยาห์เวห์\" สามารถแปลได้ว่า \"วิหารของพระยาห์เวห์\" หรือ \"สถานที่ที่มีการนมัสการพระยาห์เวห์\" หรือ \"สถานที่ที่พระยาห์เวห์เสด็จมาพบกับคนของพระองค์\" หรือ \"สถานที่ที่พระยาห์เวห์ประทับอยู่\"\n* \"พระนิเวศของพระเจ้า\" สามารถแปลได้ในแบบคล้ายคลึงกัน" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/household.txt b/01/household.txt new file mode 100644 index 00000000..eb1f9450 --- /dev/null +++ b/01/household.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ครัวเรือน", + "body": "คำว่า \"ครัวเรือน\" หมายถึงทุกคนที่อาศัยอยู่ด้วยกันในบ้านหลังหนึ่ง รวมถึงสมาชิกครอบครัวและคนรับใช้ทุกคนที่พวกเขามี\n\n* ถ้าบางคนบริหารจัดการในครัวเรือน นี่รวมถึงการสั่งการคนรับใช้เช่นเดียวกับการดูแลทรัพย์สินด้วย\n* บางครั้ง \"ครัวเรือน\" สามารถมีความหมายเชิงอุปมาอุปมัยหมายถึงลำดับวงศ์ตระกูลทั้งหมดของบางคน เฉพาะอย่างยิ่งลูกหลานของเขา" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/houseofdavid.txt b/01/houseofdavid.txt new file mode 100644 index 00000000..d99549c6 --- /dev/null +++ b/01/houseofdavid.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ตระกูลของดาวิด", + "body": "สำนวน \"ตระกูลของดาวิด\" อ้างถึงครอบครัวหรือลูกหลานของกษัตริย์ดาวิด\n\n* คำนี้สามารถแปลได้ว่า \"ลูกหลานของดาวิด\" หรือ \"ครอบครัวของดาวิด\" หรือ \"เผ่าพันธุ์ของกษัตริย์ดาวิด\"\n* เนื่องจากพระเยซูทรงสืบเชื้อสายมาจากดาวิด พระองค์จึงทรงเป็นส่วนหนึ่งของ \"ตระกูลของดาวิด\"\n* บางครั้ง \"ตระกูลของดาวิด\" หรือ \"ครัวเรือนของดาวิด\" อ้างถึงคนในครอบครัวของดาวิดที่ยังคงมีชีวิตอยู่\n* ในเวลาอื่นๆ คำนี้จะมีความหมายโดยทั่วไปและหมายถึงเชื้อสายทั้งหมดของเขา รวมถึงคนเหล่านั้นที่เสียชีวิตไปแล้ว\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/houseofgod.txt b/01/houseofgod.txt new file mode 100644 index 00000000..0a8c743b --- /dev/null +++ b/01/houseofgod.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "นิเวศของพระเจ้า, นิเวศของพระยาเวห์", + "body": "ในพระคัมภีร์ วลี \"นิเวศของพระเจ้า\" (บ้านของพระเจ้า) และ \"นิเวศของพระยาห์เวห์\" (บ้านของพระยาห์เวห์) อ้างถึงสถานที่ที่มีการนมัสการพระเจ้า\n\n* คำนี้ถูกใช้อย่างเฉพาะเจาะจงในการหมายถึงพลับพลาหรือพระวิหาร\n* บางครั้ง \"นิเวศของพระเจ้า\" ถูกใช้เพื่อหมายถึงคนของพระเจ้า\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* เมื่ออ้างถึงสถานที่ในการนมัสการ คำนี้สามารถแปลได้ว่า \"นิเวศสำหรับนมัสการพระเจ้า\" หรือ \"สถานที่สำหรับนมัสการพระเจ้า\"\n* ถ้าหมายถึงพระวิหารหรือพลับพลา คำนี้อาจจะแปลได้ว่า \"พระวิหาร\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/humble.txt b/01/humble.txt new file mode 100644 index 00000000..abd763c3 --- /dev/null +++ b/01/humble.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ถ่อมใจ, ความถ่อมใจ", + "body": "คำว่า \"ถ่อมใจ\" อธิบายถึงบุุคคลที่ไม่คิดว่าตนเองดีกว่าคนอื่น เขาไม่ได้หยิ่งหรือทะนงตัว การถ่อมใจคือคุณภาพของการเป็นคนถ่อม\n\n* การถ่อมใจต่อพระเจ้าหมายถึงการเข้าใจความอ่อนแอและความไม่สมบูรณ์แบบเมื่อเปรียบเทียบกับความยิ่งใหญ่ พระปัญญาและความสมบูรณ์แบบของพระองค์\n* ถ้าคนหนึ่งถ่อมตนเองลง เขาให้ตนเองอยู่ในตำแหน่งที่สำคัญน้อยกว่า\n* ความถ่อมใจคือการคิดถึงความจำเป็นของคนอื่นก่อนความต้องการของตนเอง\n* ความถ่อมใจยังหมายถึงการรับใช้ด้วยท่าทีสงบเสงี่ยมในขณะที่ใช้ของประทานและความสามารถของตนเอง\n* วลี \"ถ่อมใจ\" สามารถแปลได้ว่า \"อย่าเย่อหยิ่ง\"\n* \"ถ่อมใจลงต่อพระเจ้า\" สามารถแปลได้ว่า \"ยอมมอบความประสงค์ของตนเองให้แก่พระเจ้าโดยรับรู้ถึงความยิ่งใหญ่ของพระองค์\" \n\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/humiliate.txt b/01/humiliate.txt new file mode 100644 index 00000000..8a56e17a --- /dev/null +++ b/01/humiliate.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ทำให้ละอาย, การทำให้ละอาย", + "body": "คำว่า \"ทำให้ละอาย\" หมายถึงการทำให้บางคนรู้สึกอับอายหรือเสื่อมเสียซึ่งมักจะทำในที่สาธารณะ การกระทำที่ทำให้คนอื่นอับอายเรียกว่า \"การทำให้ละอาย\"\n\n* เมื่อพระเจ้าทำให้คนหนึ่งถ่อมลง หมายความว่าพระองค์ทรงทำให้คนเย่อหยิ่งต้องพบกับความล้มเหลวเพื่อช่วยเขาให้เอาชนะความเย่อหยิ่งของตน สิ่งนี้แตกต่างจากการทำให้บางคนรู้สึกละอายซึ่งมักจะทำเพื่อทำร้ายจิตใจคนนั้น\n* การ \"ทำให้ละอาย\" สามารถแปลได้ว่า \"ทำให้ขายหน้า\" หรือ \"ทำให้รู้สึกขายหน้า\" หรือ \"ทำให้อาย\"\n* ขึ้นอยู่กับบริบท วิธีที่จะแปล \"การทำให้ละอาย\" สามารถรวมถึง \"การทำให้ขายหน้า\" หรือ \"การทำให้ต่ำต้อย\" หรือ \"การทำให้เสื่อมเสีย\"\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/hypocrite.txt b/01/hypocrite.txt new file mode 100644 index 00000000..b779c95c --- /dev/null +++ b/01/hypocrite.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "คนหน้าซื่อใจคด, การหน้าซื่อใจคด", + "body": "คำว่า \"คนหน้าซื่อใจคด\" อ้างถึงคนที่ทำสิ่งที่ดูเหมือนชอบธรรม แต่แอบประพฤติในสิ่งที่ชั่วร้าย คำว่า \"การหน้าซื่อใจคด\" อ้างถึงพฤติกรรมที่หลอกลวงผู้คนให้คิดว่าคนนั้นเป็นคนชอบธรรม\n\n* คนหน้าซื่อใจคดต้องการให้คนอื่นเห็นว่าตนเองทำสิ่งที่ดีเพื่อที่ว่าคนอื่นจะคิดว่าพวกเขาเป็นคนดี\n* คนหน้าซื่อใจคดมักจะวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นว่าทำสิ่งที่เป็นความบาปซึ่งพวกเขาเองก็ทำ\n* พระเยซูทรงเรียกพวกฟาริสีว่าคนหน้าซื่อในคดเพราะพวกเขาทำประพฤติตามหลักศาสนาเช่น ใส่เสื้อผ้าบางอย่างและรับประทานอาหารบางอย่าง แต่พวกเขาไม่ได้เมตตาหรือยุติธรรมต่อคนอื่น\n* คนหน้าซื่อใจคดชี้ความผิดในตัวคนอื่นได้ แต่ไม่ยอมรับความผิดของตนเอง\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* บางภาษามีคำกล่าวเช่น \"สองหน้า\" ที่อ้างถึงคนหน้าซื่อใจคดหรือการประพฤติของคนหน้าซื่อใจคด\n* วิธีอื่นที่จะแปล\"คนหน้าซื่อใจคด\" สามารถรวมถึง \"คนหลอกลวง\" หรือ \"คนเสแสร้ง\" หรือ \"คนเย่อหยิ่งหลอกลวง\"\n* คำว่า \"การหน้าซื่อใจคด\" สามารถแปลได้ว่า \"การหลอกลวง\" หรือ \"การกระทำที่จอมปลอม\" หรือ \"การเสแสร้ง\" " + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/iconium.txt b/01/iconium.txt new file mode 100644 index 00000000..69be5323 --- /dev/null +++ b/01/iconium.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "อิโคนิยูม", + "body": "อิโคนิยูมเป็นเมืองในทางใต้ของตอนกลางซึ่งปัจจุบันนี้คือประเทศตุรกี\n\n* ในการเดินทางเป็นมิชชันนารีครั้งแรกของเปาโล เขาและบาร์นาบัสได้เดินทางไปยังเมืองอิโคนิยูมหลังจากที่พวกยิวได้บังคับให้พวกเขาออกจากเมืองอันทิโอก\n* แล้วคนยิวและคนต่างชาติที่ไม่เชื่อในเมืองอิโคนิยูมๆก้วางแผนที่จะเอาหินขว้างเปาโลและเพื่อนร่วมงานของเขา แต่พวกเขาได้หลบหนีไปยังเมืองใกล้เคียงที่ชื่อลิสตรา\n* หลังจากนั้นผู้คนจากเมืองอิโคนิยูมและอันทิโอกได้มายังเมืองลิสตราและยุยงให้ผู้คนที่นั่นเอาหินขว้างเปาโล\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/idol.txt b/01/idol.txt new file mode 100644 index 00000000..5d03f02a --- /dev/null +++ b/01/idol.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "รูปเคารพ, การไหว้รูปเคารพ", + "body": "รูปเคารพเป็นวัตถุที่คนสร้างขึ้นเพื่อที่ว่าเขาจะได้นมัสการมัน บางสิ่งจะถูกอธิบายว่าเป็น \"ที่บูชารูปเคารพ\" ถ้าเกี่ยวข้องกับการให้เกียรติสิ่งอื่นนอกเหนือจากพระเจ้าเที่ยงแท้พระองค์เดียว\n\n* ผู้คนทำรูปเคารพเพื่อเป็นตัวแทนของพระเจ้าที่พวกเขานมัสการ\n* พระเทียมเท็จเหล่านี้ไม่ได้มีอยู่จริง ไม่มีพระเจ้าอื่นนอกเหนือจากพระยาห์เวห์\n* บางครั้งมารก็ทำงานผ่านรูปเคารพเพื่อทำให้ดูเหมือนว่ามันมีอำนาจ แม้ว่ามันจะไม่มีอำนาจอยู่จริง\n* รูปเคารพมักจะทำจากวัสดุที่มีค่าเช่น ทองคำ เงิน ทองสัมฤทธิ์ หรือไม้ราคาแพง\n* \"อาณาจักรที่บูชารูปเคารพ\" หมายถึง \"อาณาจักรของคนที่นมัสการรูปเคารพ\" หรือ \"อาณาจักรที่บูชาสิ่งของฝ่ายโลก\"\n* คำว่า \"รูปสลักที่เป็นที่เคารพบูชา\" คืออีกคำหนึ่งสำหรับคำว่า \"รูปปั้นแกะสลัก\" หรือ \"รูปเคารพ\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/image.txt b/01/image.txt new file mode 100644 index 00000000..58d15cbf --- /dev/null +++ b/01/image.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "รูปปั้น, รูปปั้นแกะสลัก, รูปแกะสลัก, รูปหล่อโลหะ", + "body": "คำเหล่านี้ทุกคำใช้ในการอ้างถึงรูปเคารพที่ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อการนมัสการพระเทียมเท็จ ในบริบทของการนมัสการรูปเคารพ คำว่า \"รูปปั้น\" เป็นรูปย่อของ \"รูปปั้นแกะสลัก\"\n\n* \"รูปปั้นแกะสลัก\" เป็นวัตถุทำจากไม้ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้เหมือนสัตว์ คน หรือ สิ่งของ\n* \"รูปหล่อโลหะ\" เป็นวัตถุหรือรูปปั้นที่สร้างขึ้นโดยการเทโลหะหลอมเหลวลงไปในเบ้าหล่อซึ่งมีรูปร่างเหมือนวัตถุ สัตว์ หรือคน\n* วัตถุที่เป็นไม้และโลหะเหล่านี้ถูกใช้ในการนมัสการพระเทียมเท็จ\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* เมื่ออ้างถึงรูปเคารพ คำว่า \"รูปปั้น\" สามารถแปลได้ว่า \"รูปหล่อ\" หรือ \"รูปเคารพที่แกะสลัก\" หรือ \"วัตถุแกะสลักทางศาสนา\"\n* ในบางภาษาอาจจะชัดเจนกว่าที่จะใช้คำอธิบายด้วยคำอย่างเช่นว่า \"รูปปั้นแกะสลัก\" หรือ \"รูปหล่อโลหะ\" แม้ในสถานที่นั้นรำว่า \"รูปปั้น\" หรือ \"รูปหล่อ\" มีอยู่ในต้นฉบับที่จะแปลแล้ว\n* ให้แน่ใจว่าคำนี้แตกต่างอย่างชัดเจนจากคำที่ใช้ในการอ้างถึงสิ่งที่เป็นตามพระฉายาของพระเจ้า" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/imageofgod.txt b/01/imageofgod.txt new file mode 100644 index 00000000..fc19605a --- /dev/null +++ b/01/imageofgod.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "พระฉายาของพระเจ้า, ฉายา", + "body": "คำว่า \"ฉายา\" อ้างถึงบางสิ่งที่ดูเหมือนสิ่งอื่นหรือเหมือนบางคนในบุคลิกลักษณะหรือสาระ วลีที่ว่า \"พระฉายาของพระเจ้า\" ถูกใช้ในหลายวิธี ขึ้นอยู่กับบริบท\n\n* เมื่อเดิมนั้น พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ \"ตามพระฉายาของพระองค์\" นั่นคือ \"ให้เหมือนกับพระองค์\" นี่หมายความว่าคนเรามีลักษณะพิเศษบางอย่างที่สะท้อนถึงพระฉายาของพระเจ้า เช่น ความสามารถในการรับรู้ถึงอารมณ์ต่างๆ ความสามารถในการให้เหตุผลและสื่อสาร และวิญญาณที่ดำรงอยู่ตลอดกาล\n* พระคัมภีร์สอนว่าพระเยซู พระบุตรของพระเจ้า คือ \"พระฉายาของพระเจ้า\" นั่นคือ พระองค์เองทรงเป็นพระเจ้า ไม่เหมือนกับมนุณษย์ พระเยซูไม่ได้ถูกเนรมิตขึ้นมา ตลอดนิรันดร์กาล พระเจ้าพระบุตรทรงมีพระลักษณะของพระเจ้าทั้งหมดเพราะว่าพระองค์ทรงมีสาระเดียวกันกับพระเจ้าพระบิดา\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* เมื่ออ้างอิงถึงพระเยซู \"พระฉายาของพระเจ้า\" สามารถแปลได้ว่า \"ความเหมือนกับพระเจ้าทุกประการ\" หรือ \"สาระเดียวกันกับพระเจ้า\" หรือ \"การดำรงอยู่เช่นเดียวกันกับพระเจ้า\"\n* เมื่ออ้างอิงถึงมนุษย์ \"พระเจ้าทรงสร้างพวกเขาตามพระฉายาของพระองค์\" สามารถแปลได้ด้วยวลีที่หมายความว่า \"พระเจ้าทรงสร้างพวกเขาให้เหมือนกับพระองค์\" หรือ \"พระเจ้าทรงสร้างพวกเขาให้มีบุคลิกลักษณะเหมือนพระองค์เอง\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/imitate.txt b/01/imitate.txt new file mode 100644 index 00000000..20a116fd --- /dev/null +++ b/01/imitate.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เลียนแบบ, ผู้เลียนแบบ", + "body": "คำว่า \"เลียนแบบ\" หรือ \"ผู้เลียนแบบ\" หมายถึงการลอกเลียนแบบคนอื่นและทำอย่างที่คนนั้นปฎิบัติทุกประการ \n\n* คริสเตียนถูกสอนให้เลียนแบบพระเยซูคริสต์โดยการเชื่อฟังพระเจ้าและรักคนอื่นอย่างที่พระเยซูทรงทำ\n* อัครทูตสาวกเปาโลได้บอกคริสตจักรในยุคแรกให้เลียนแบบเขา อย่างที่เขาเลียนแบบพระคริสต์\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำว่า \"เลียนแบบ\" สามารถจะแปลได้ว่า \"ทำอย่างเดียวกันกับ\" หรือ \"ทำตามแบบอย่างของเขา\"\n* คำกล่าว \"จงเป็นผู้เลียนแบบของพระเจ้า\" สามารถแปลได้ว่า \"จงเป็นคนที่ปฎิบัติเหมือนที่พระเจ้าทรงปฎิบัติ\" หรือ \"จงเป็นคนที่ทำสิ่งต่างๆ ในแบบที่พระเจ้าทรงทำ\"\n* \"ท่านได้กลายมาเป็นผู้เลียนแบบเรา\" สามารถแปลได้ว่า \"ท่านทำตามแบบอย่างของเรา\" หรือ \"ท่านกำลังทำสิ่งต่างๆ ในทางของพระเจ้าแบบเดียวกับที่ท่านเห็นเราทำ\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/incense.txt b/01/incense.txt new file mode 100644 index 00000000..a903e693 --- /dev/null +++ b/01/incense.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เครื่องหอม", + "body": "คำว่า \"เครื่องหอม\" อ้างถึงส่วนผสมของเครื่องเทศที่มีกลิ่นหอมที่เมื่อเผาแล้วจะทำให้เกิดควันที่มีกลิ่นน่าพึงพอใจ\n\n* พระเจ้าได้ตรัสกับชาวอิสราเอลให้เผาเครื่องหอมเพื่อเป็นเครื่องบูชาแด่พระองค์ \n* เครื่องหอมจะต้องทำโดยการผสมเครื่องเทศอย่างเฉพาะเจาะจงห้าชนิดในจำนวนที่เท่ากันตามที่พระเจ้าได้ทรงสั่งทุกประการ นี่คือเครื่องหอมอันบริสุทธิ์ ดังนั้นจึงไม่อนุญาตให้ใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น\n* \"แท่นของเครื่องหอม\" เป็นแท่นพิเศษที่ใช้สำหรับการเผาเครื่องหอมเท่านั้น\n* มีการถวายเครื่องหอมอย่างน้อยสี่ครั้งต่อวันในแต่ละชั่วโมงแห่งการอธิษฐาน\nนอกจากนี้ จะมีการเผาเครื่องหอมทุกครั้งที่มีการถวายเครื่องเผาบูชาสัตว์\n* การเผาเครื่องหอมจะเป็นตัวแทนของคำอธิษฐานและการนมัสการที่ยกขึ้นไปถึงพระเจ้าจากคนของพระองค์\n* วิธีอื่นที่จะแปลคำว่า \"เครื่องหอม\" คือ \"เครื่องเทศที่มีกลิ่นหอม\" หรือ \"พืชที่มีกลิ่นหอม\"\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/inchrist.txt b/01/inchrist.txt new file mode 100644 index 00000000..cd731bbf --- /dev/null +++ b/01/inchrist.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ในพระคริสต์, ในพระเยซู, ในองค์พระผู้เป็นเจ้า, ในพระองค์", + "body": "วลี \"ในพระคริสต์\" และคำต่างๆที่เกี่ยวข้องหมายถึงภาวะหรือสภาพของการมีความสัมพันธ์กับพระเยซูคริสต์ผ่านทางความเชื่อในพระองค์\n\n* คำอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องรวมถึง \"ในพระคริสต์ พระเยซู ในพระเยซูคริสต์ ในองค์พระเยซูเจ้า ในองค์พระเยซูคริสต์เจ้า\"\n* ความหมายที่เป็นไปได้ของคำว่า \"ในพระคริสต์\" สามารถรวมถึง \"เพราะท่านเป็นของพระคริสต์\" หรือ \"โดยทางความสัมพันธ์ที่ท่านมีกับพระคริสต์\" หรือ \"ขึ้นอยู่กับความเชื่อของท่านในพระคริสต์\"\n* คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องเหล่านี้ทั้งหมดมีความหมายเดียวกันคือการอยู่ในสภาพของการเชื่อในพระเยซูและเป็นสาวกของพระองค์\n* หมายเหตุ: บางครั้งคำว่า \"ใน\" จะใช้คู่กับคำกริยา ยกตัวอย่างเช่น \"มีส่วนร่วมในพระคริสต์\" หมายถึงการ \"มีส่วนร่วมใน\" ผลประโยชน์ที่มาจากการรู้จักพระคริสต์ การ \"มีความยินดีใน\" พระคริสต์หมายถึงการรู้สึกปีติยินดีและสรรเสริญพระเจ้าสำหรับสิ่งที่พระเยซูทรงเป็นและสิ่งที่พระองค์ได้ทรงกระทำ การ \"เชื่อใน\" พระคริสต์หมายถึงการไว้วางใจพระองค์ในฐานะที่เป็นพระผู้ช่วยให้รอดและรู้จักพระองค์\n\n# คำแนะนำในการแปล\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/inherit.txt b/01/inherit.txt new file mode 100644 index 00000000..f305504a --- /dev/null +++ b/01/inherit.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "รับมรดก, มรดก, สิ่งที่สืบทอด, ทายาท", + "body": "คำว่า \"รับมรดก\" และ \"การรับมรดก\" อ้างถึงการรับบางอย่างที่มีค่าจากพ่อแม่หรือบุคคลอื่นเพราะความสัมพันธ์พิเศษที่มีกับคนนั้น คำว่า \"ทายาท\" คือคนที่รับมรดก\n\n* มรดกทางกายภาพที่ได้รับอาจจะเป็นเงิน ที่ดิน หรือทรัพย์สินประเภทอื่นๆ\n* มรดกฝ่ายวิญญาณคือทุกสิ่งที่พระเจ้าประทานให้แก่คนที่เชื่อในพระเยซู รวมถึงพระพรในชีวิตปัจจุบันเช่นเดียวกับชีวิตนิรันดร์กับพระองค์\n* พระคัมภีร์ยังเรียกคนของพระเจ้าว่าเป็นมรดกของพระองค์ ซึ่งหมายความว่าพวกเขาเป็นของพระองค์ พวกเขาเป็นสมบัติอันล้ำค่าของพระองค์\n * พระเจ้าได้ทรงสัญญากับอับราฮัมและเชื้อสายของเขาว่าพวกเขาจะได้รับแผ่นดินคานาอันเป็นมรดกและแผ่นดินนั้นจะเป็นของพวกเขาตลอดไป\n* ยังมีความหมายในเชิงอุปมาอุปมัยฝ่ายวิญญาณที่ว่าคนที่เป็นของพระเจ้าจะได้ชื่อว่า \"ได้รับแผ่นดินเป็นมรดก\" สิ่งนี้หมายความว่าพวกเขาจะเจริญรุ่งเรืองและได้รับการอวยพรจากพระเจ้าทั้งในทางร่างกายและวิญญาณ\n* ในพันธสัญญาใหม่ พระเจ้าทรงสัญญาว่าคนเหล่านั้นที่เชื่อในพระเยซูจะ \"ได้รับความรอดเป็นมรดก\" และ \"ได้รับชีวิตนิรันดร์เป็นมรดก\" รวมถึงมีการแสดงออกว่า \"ได้รับอาณาจักรของพระเจ้าเป็นมรดก\" นี่เป็นมรดกฝ่ายวิญญาณที่คงอยู่ตลอดไป\n* ยังมีความหมายเชิงอุปมาอุปมัยอื่นๆสำหรับคำเหล่านี้\n* พระคัมภีร์กล่าวว่าคนฉลาดจะ \"ได้รับสง่าราศีเป็นมรดก\" และคนชอบธรรมจะ \"ได้รับสิ่งดีเป็นมรดก\"\n* \"ได้รับพระสัญญาเป็นมรดก\" หมายถึงการได้รับสิ่งดีที่พระเจ้าได้ทรงสัญญาที่จะประทานให้แก่คนของพระองค์\n* คำนี้ยังใช้ในความหมายเชิงลบอ้างถึงคนโง่หรือคนไม่เชื่อฟังที่ \"ได้รับลมเป็นมรดก\" หรือ \"ได้รับความโง่เขลาเป็นมรดก\" นี่หมายความว่าพวกเขาได้รับผลจากการประพฤติในความบาป รวมถึงการลงโทษและการดำเนินชีวิตอย่างไร้ประโยชน์\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n*เหมือนเช่นเคย ให้พิจารณาก่อนว่ามีคำที่ใช้กันอยู่แล้วในภาษาเป้าหมายสำหรับแนวคิดในเรื่องทายาทหรือมรดกอยู่แล้วหรือไม่แล้วใช้คำเหล่านั้น\n* ขึ้นอยู่กับบริบท วิธีอื่นที่คำว่า \"รับมรดก\" สามารถแปลได้อาจรวมถึง \"ได้รับ\" หรือ \"เป็นเจ้าของ\" หรือ \"เข้ามาเป็นเจ้าของ\"\n* วิธีที่จะแปล \"มรดก\"สามารถรวมถึง \"ของประทานที่สัญญาไว้\" หรือ \"สมบัติที่แน่นอน\"\n* เมื่อคนของพระเจ้าถูกกล่าวถึงในฐานะที่เป็นมรดกของพระองค์ นี่สามารถแปลได้ว่า \"คนที่มีค่าที่เป็นของพระองค์\" \n* คำว่า \"ทายาท\" สามารถแปลได้ด้วยคำหนึ่งคำหรือวลีที่หมายถึง \"บุตรผู้มีสิทธิพิเศษที่จะได้รับทรัพย์สมบัติของบิดา\" หรือ \"บุคคลที่ได้รับเลือกให้เป็นผู้รับ\"\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/iniquity.txt b/01/iniquity.txt new file mode 100644 index 00000000..24aa07b3 --- /dev/null +++ b/01/iniquity.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ความชั่วช้า", + "body": "คำว่า \"ความชั่วช้า\" คือคำที่คล้ายกันมากกับคำว่า \"บาป\" แต่อาจเจาะจงอ้างถึงการทำความผิดหรือความชั่วร้ายอย่างมาก\n\n* คำว่า \"ความชั่วช้า\" มีความหมายตรงตัวคือบิดเบี้ยวหรือทำให้เพี้ยนไป (ในเรื่องธรรมบัญญัติ) คำนี้อ้างถึงความล่วงละเมิดร้ายแรง\n* ความชั่วช้าสามารถอธิบายได้ว่าเป็นการกระทำโดยเจตนาอันจะก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้อื่น\n* คำนิยามอื่นๆ ของความชั่วช้ารวมถึง \"ความวิปริต\" และ \"ความเลวทราม\" ซึ่งทั้งสองคำใช้อธิบายสภาพของความบาปอันร้ายแรง\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำว่า \"ความชั่วช้า\" สามารถแปลได้ว่า \"ความชั่วร้าย\" หรือ \"การกระทำอันวิปริต\" หรือ \"การประพฤติที่อันตราย\"\n* หลายครั้ง \"ความชั่วช้า\" ปรากฏในข้อความเดียวกันกับคำว่า \"บาป\" และ \"การละเมิด\" ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องมีวิธีที่แตกต่างกันในการแปลคำเหล่านี้" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/innocent.txt b/01/innocent.txt new file mode 100644 index 00000000..bd812f69 --- /dev/null +++ b/01/innocent.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ผู้ไร้เดียงสา, ผู้บริสุทธิ์", + "body": "คำว่า \"ผู้ไร้เดียงสา\" หมายถึงไม่มีความผิดในอาชญากรรมหรือการกระทำผิดอื่นๆ คำนี้โดยทั่วไปยังอาจอ้างถึงคนที่ไม่ได้มีส่วนในการทำสิ่งชั่ว\n\n* คนหนึ่งที่ถูกกล่าวหาว่าทำบางอย่างผิดจะปราศจากความผิดถ้าเขาไม่ได้ทำความผิดนั้น\n* บางครั้ \"ผู้ไร้เดียงสา\" ถูกใช้เพื่ออ้างถึงคนที่ไม่ได้ทำอะไรผิดที่จะต้องได้รับการปฎิบัติอันเลวร้ายที่พวกเขาได้รับอยู่ เช่นการที่กองทัพศัตรูโจมตี \"ผู้บริสุทธิ์\"\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ในบริบทส่วนใหญ่ คำว่า \"ผู้ไร้เดียงสา\" สามารถแปลได้ว่า \"ไม่มีความผิด\" หรือ \"ไม่ต้องรับผิดชอบ\" หรือ \"ไม่ควรถูกตำหนิ\" สำหรับบางอย่าง\n* เมื่ออ้างถึงคนที่ปราศจากความผิดโดยทั่วไป คำนี้สามารถแปลได้ว่า \"ผู้ที่ไม่ได้ทำอะไรผิด\" หรือ \"ผู้ที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในความชั่ว\"\n* คำกล่าวที่ปรากฏบ่อยอย่าง \"เลือดของผู้บริสุทธิ์\" สามารถแปลได้ว่า \"คนที่ไม่ได้ทำอะไรผิดที่สมควรจะต้องถูกฆ่า\"\n* คำกล่าว \"ทำให้เลือดบริสุทธิ์หลั่งออกมา\" อาจจะแปลได้ว่า \"ฆ่าผู้บริสุทธิ์\" หรือ \"ฆ่าคนที่ไม่ได้ทำอะไรผิดที่จะต้องถูกฆ่า\" \n* ในบริบทที่คนหนึ่งที่กำลังถูกฆ่า \"บริสุทธิ์ในเรื่องความตายของ\" สามารถแปลได้ว่า \"ไม่ได้มีความผิดในการตายของ\"\n* เมื่อพูดถึงคนที่ไม่ยอมรับข่าวประเสริฐเกี่ยวกับพระเยซู แต่ไม่ยอมรับนั้น \"บริสุทธิ์ในเรื่องความตายของ\" สามารถแปลได้ว่า \"ไม่รับผิดชอบไม่ว่าพวกเขาจะตายในฝ่ายวิญญาณต่อไปหรือไม่\" หรือ \"ไม่รับผิดชอบไม่ว่าพวกเขาจะรับข่าวนี้หรือไม่\"\n* เมื่อยูดาสได้พูดว่า \"ข้าพเจ้าได้ทรยศโลหิตอันบริสุทธิ์\" เขากำลังพูดว่า \"ข้าพเจ้าได้ทรยศคนที่ไม่ได้ทำอะไรผิด\" หรือ \"ข้าพเจ้าได้เป็นสาเหตุแห่งการตายของคนที่ไม่มีบาป\"\n* เมื่อปีลาตได้พูดเกี่ยวกับพระเยซูว่า \"เราบริสุทธิ์ในโลหิตของคนบริสุทธิ์นี้\" ประโยคนี้อาจจะแปลได้ว่า \"เราไม่ขอรับผิดชอบต่อการประหารผู้ชายคนนี้ที่ไม่ได้ทำอะไรผิดจนต้องถูกประหาร\"\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/inquire.txt b/01/inquire.txt new file mode 100644 index 00000000..0eaf7336 --- /dev/null +++ b/01/inquire.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ถามถึง", + "body": "คำว่า \"ถามถึง\" หมายถึงการถามบางคนเพื่อให้ได้ข้อมูลบางอย่าง คำกล่าว \"ถามถึง\" มักจะใช้เพื่ออ้างถึงการขอสติปัญญาและความช่วยเหลือจากพระเจ้า\n\n* ในพันธสัญญาเดิมมีการบันทึกหลายเหตุการณ์ที่ประชาชนถามถึงพระเจ้า\n* คำนี้ยังใช้กับกษัตริย์หรือข้าราชการที่ทำการค้นหาในบันทึกที่เป็นลายลักษณ์อักษรของทางการ\nขึ้นอยู่กับบริบท \"ถามถึง\" อาจจะแปลได้ว่า \"ถาม\" หรือ \"ถามถึงข้อมูล\"\n* คำกล่าว \"ทูลถามพระยาห์เวห์\" สามารถแปลได้ว่า \"ทูลขอการทรงนำจากพระยาห์เวห์\" หรือ \"ทูลถามพระยาห์เวห์ว่าจะทำอะไร\"\n* \"ไต่ถามทุกข์สุขของ\" บางอย่างสามารถจะแปลได้ว่า \"ถามคำถามเกี่ยวกับ\" หรือ \"ถามถึงข้อมูลเกี่ยวกับ\"\n* เมื่อพระยาห์เวห์ตรัสว่า \"เราจะไม่ยอมให้เจ้ามาถามเรา\" ประโยคนี้สามารถแปลได้ว่า \"เราจะไม่อนุญาตให้เจ้าถามข้อมูลอะไรจากเรา\" หรือ \"เจ้าจะไม่ได้รับอนุญาตให้ขอความช่วยเหลือจากเรา\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/instruct.txt b/01/instruct.txt new file mode 100644 index 00000000..7fecda48 --- /dev/null +++ b/01/instruct.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ชี้แนะ, คำชี้แนะ", + "body": "คำว่า \"ชี้แนะ\" และ \"คำชี้แนะ\"อ้างถึงการให้คำแนะนำอย่างเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับว่าจะทำอะไร\n\n* \"การให้คำชี้แนะ\" หมายถึงการบอกให้บางคนโดยเฉพาะว่าเขาควรทำอะไร\n* เมื่อพระเยซูประทานขนมปังและปลาแก่เหล่าสาวกเพื่อให้แจกจ่ายให้กับประชาชน พระองค์ได้ทรงให้คำชี้แนะอย่างเฉพาะเจาะจงแก่พวกเขาว่าจะต้องทำอย่างไร\n* ขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า \"ชี้แนะ\"สามารถแปลว่า \"บอก\" หรือ \"นำทาง\" หรือ \"สอน\" หรือ \"ให้คำชี้แนะแก่\"\n* คำว่า \"คำชี้แนะ\" สามารถแปลได้ว่า \"ทิศทาง\" หรือ \"คำอธิบาย\" หรือ \"อะไรที่เขาได้บอกให้ท่านทำ\"\n* เมื่อพระเจ้าทรงให้คำชี้แนะต่างๆ คำนี้บางครั้งแปลว่า \"ออกคำสั่ง\" หรือ \"สั่งให้ทำ\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/integrity.txt b/01/integrity.txt new file mode 100644 index 00000000..e502e2da --- /dev/null +++ b/01/integrity.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ความซื่อสัตย์ถูกต้อง", + "body": "คำว่า \"ความซื่อสัตย์ถูกต้อง\" อ้างถึงการซื่อสัตย์ ด้วยหลักการศีลธรรมจรรยาและการประพฤติ\n\n* การมีความซื่อสัตย์กูกต้องหมายความว่าเลือกกระทำสิ่งที่สัตย์ซื่อและเป็นสิ่งถูกต้อง แม้ในเวลาที่ไม่มีผู้ใดมองอยู่\n* บุคลิกลักษณะที่แน่นอนในพระคัมภีร์ เช่น โยเซฟและดาเนียลได้แสดงให้เห็นถึงความซื่อสัตย์ถูกต้องเมื่อพวกเขาปฎิเสธที่จะทำชั่ว แต่เลือกที่จะเชื่อฟังพระเจ้า\n* หนังสือสุภาษิตกล่าวว่าการเป็นคนยากจนแต่ความซื่อสัตย์ถูกต้องก็ดีกว่าการเป็นคนมั่งคั่งแต่คดโกงหรือไม่สัตย์ซื่อ\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำว่า \"มีความซื่อสัตย์ถูกต้อง\" สามารถแปลว่า \"ความสัตย์ซื่อ\" หรือ \"การมีศีลธรรมสูง\" หรือ \"การประพฤติที่ซื่อสัตย์\" หรือ \"กระทำอย่างน่าเชื่อถือ ท่าทีสัตย์ซื่อ\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/intercede.txt b/01/intercede.txt new file mode 100644 index 00000000..da340ff2 --- /dev/null +++ b/01/intercede.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "วิงวอนเพื่อคนอื่น, การวิงวอนเพื่อคนอื่น", + "body": "คำว่า \"วิงวอนให้คนอื่น\" และ \"การวิงวอนให้คนอื่น\" อ้างถึงการขอร้องต่อบางคนในนามของอีกคนหนึ่ง ในพระคัมภีร์คำนี้มักจะหมายถึงการอธิษฐานเผื่อคนอื่น\n\n* คำว่า \"ทำการวิงวอนเพื่อ\" และ \"วิงวอนเพื่อ\" หมายถึงการขอร้องต่อพระเจ้าเพื่อผลประโยชน์ของคนอื่น\n* พระคัมภีร์สอนว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์วิงวอนเพื่อเรา นั่นคือ พระองค์อธิษฐานต่อพระเจ้าเพื่อเรา\n* บุคคลวิงวอนเพื่อคนอื่นโดยการขอร้องเพื่อพวกเขาต่อคนที่มีสิทธิอำนาจ\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* วิธีอื่นที่จะแปล \"วิงวอนเพื่อ\" สามารถรวมถึง \"ขอร้องกับ\" หรือ \"กระตุ้น\"\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/interpret.txt b/01/interpret.txt new file mode 100644 index 00000000..1d0f72a6 --- /dev/null +++ b/01/interpret.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ตีความ, การตีความ", + "body": "คำว่า \"ตีความ\" และ \"การตีความ\" อ้างถึงการเข้าใจและการอธิบายความหมายของบางสิ่งที่ไม่ชัดเจน\n\n* บ่อยครั้งในพระคัมภีร์ คำเหล่านี้ถูกใช้เกี่ยวเนื่องกับการอธิบายความหมายของความฝันหรือนิมิต\n* เมื่อกษัตริย์แห่งบาบิโลนได้ฝันถึงสิ่งที่ซับซ้อน พระเจ้าทรงช่วยดาเนียลให้ตีความและอธิบายความหมายของความฝันเหล่านั้น\n* คำว่า \"การตีความ\" ของความฝันคือ \"การอธิบาย\" ความหมายของความฝัน \n* ในพันธสัญญาเดิม พระเจ้าจะทรงสำแดงแก่ผู้คนว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต ดังนั้นการตีความของความฝันเหล่านั้นก็เป็นคำพยากรณ์ด้วย\n* คำว่า \"ตีความ\" สามารถใช้เพื่อคาดคะเนความหมายของสิ่งอื่น เช่น คาดคะเนว่าอากาศจะเป็นอย่างไรโดยใช้ข้อมูลจากความร้อนหรือความหนาว มีลมแรง หรือเมฆมีลักษณะอย่างไร\n* วิธีแปลคำว่า \"ตีความ\" สามารถรวม \"คาดคะเนความหมายของ\" หรือ \"อธิบาย\" หรือ \"ให้ความหมายของ\"\n* คำว่า \"การตีความหมาย\" สามารถแปลว่า \"คำอธิบาย\" หรือ \"ความหมาย\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/isaac.txt b/01/isaac.txt new file mode 100644 index 00000000..b90257a4 --- /dev/null +++ b/01/isaac.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "อิสอัค", + "body": "อิสอัคเป็นบุตรชายคนเดียวของอับราฮัมและซาราห์ พระเจ้าได้ทรงสัญญาว่าจะประทานบุตรชายให้แก่พวกเขาแม้ว่าพวกเขาจะชราแล้ว\n\n* ชื่อ \"อิสอัค\" หมายความว่า \"เขาหัวเราะ\" เมื่อพระเจ้าตรัสกับอับราฮัมว่าเขาและซาราห์จะมีบุตรชาย อับราฮัมได้หัวเราะเพราะเขาทั้งสองชรามากแล้ว ต่อมาภายหลัง ซาราห์ก็ได้หัวเราะเช่นกันเมื่อเธอได้ทราบข่าวนี้\n* แต่พระเจ้าทรงทำให้คำสัญญาของพระองค์สำเร็จและอิสอัคก็ได้เกิดให้อับราฮัมและซาราห์ในวัยชราของพวกเขา\n* พระเจ้าได้ทรงบอกอับราฮัมว่าพันธสัญญาที่พระองค์ได้ทำกับอับราฮัมจะเป็นของอิสอัคและผู้สืบเชื้อสายของเขาตลอดกาล\n* เมื่ออิสอัคเป็นหนุ่ม พระเจ้าทรงทดสอบความเชื่อของอับราฮัมโดยสั่งเขาให้ถวายบูชาอิสอัค\n* บุตรของอิสอัคคือยาโคบผู้ซึ่งมีบุตรชายสิบสองคน ภายหลังเชื้อสายของพวกเขาได้กลายมาเป็นสิบสองเผ่าของชนชาติอิสราเอล\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/isaiah.txt b/01/isaiah.txt new file mode 100644 index 00000000..238b6480 --- /dev/null +++ b/01/isaiah.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "อิสยาห์", + "body": "อิสยาห์เป็นผู้เผยพระวจนะของพระเจ้าผู้เผยพระวจนะในช่วงการครองราชย์ของกษัตริย์สี่พระองค์ของยูดาห์ คือ อูซียาห์ โยธาม อาหัส และเฮเซคียาห์\n\n* เขาได้อาศัยอยู่ในกรุงเยรูซาเล็มในช่วงเวลาที่อัสซีเรียกำลังโจมตีเมืองหลวงระหว่างการปกครองของเฮเซคียาห์\n* ในพันธสัญญาเดิมพระธรรมอิสยาห์เป็นหนังสือสำคัญในพระคัมภีร์\n* อิสยาห์เขียนคำเผยพระวจนะมากมายที่ได้เกิดขึ้นจริงในขณะที่เขายังมีชีวิตอยู่\n* อิสยาห์เป็นที่รู้จักจากคำเผยพระวจนะที่เขาเขียนเกี่ยวกับพระเมสสิยาห์ที่เกิดขึ้นจริง 700 ปีต่อมาเมื่อพระเยซูได้ทรงมีชีวิตอยู่บนโลก\n* พระเยซูและสาวกของพระองค์ได้อ้างถึงคำเผยพระวจนะของอิสยาห์เพื่อสอนผู้คนเกี่ยวกับพระเมสสิยาห์\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/ishmael.txt b/01/ishmael.txt new file mode 100644 index 00000000..b9965970 --- /dev/null +++ b/01/ishmael.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "อิชมาเอล", + "body": "อิชมาเอลเป็นบุตรชายของอับราฮัมและคนรับใช้ของซาราห์คือฮาการ์ มีผู้ชายหลายคนในพันธสัญญาเดิมที่มีชื่อว่าอิชมาเอล\n\n* คำว่า \"อิชมาเอล\" หมายถึง \"พระเจ้าทรงได้ยิน\"\n* พระเจ้าทรงสัญญาว่าจะอวยพรบุตรชายของอับราฮัมคืออิชมาเอล แต่เขาไม่ใช่บุตรชายที่พระเจ้าได้ทรงสัญญาว่าจะพันธสัญญาด้วย\n* พระเจ้าทรงปกป้องฮาการ์และอิชมาเอลเมื่อพวกเขาถูกส่งออกไปในทะเลทราย\n* อิชมาเอลบุตรชายของเนธันอาห์เป็นเจ้าหน้าที่กองทัพจากยูดาห์ผู้ที่ได้นำกลุ่มผู้ชายไปฆ่าผู้ว่าราชการผู้ที่ถูกแต่งตั้งโดยกษัตริย์บาบิโลนคือ เนบูคัดเนสซาร์\n* มีผู้ชายอีกสี่คนที่มีชื่อว่าอิชมาเอลในพันธสัญญาเดิม" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/israel.txt b/01/israel.txt new file mode 100644 index 00000000..49472161 --- /dev/null +++ b/01/israel.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "อิสราเอล, คนอิสราเอล, ชนชาติอิสราเอล", + "body": "คำว่า \"อิสราเอล\" เป็นชื่อที่พระเจ้าประทานให้แก่ยาโคบ อิสราเอลหมายความว่า \"เขาปล้ำสู้กับพระเจ้า\"\n\n* เชื้อสายของยาโคบกลายเป็นที่รู้จักในว่า \"ประชากรอิสราเอล\" \"ชนชาติอิสราเอล\" หรือ \"คนอิสราเอล\"\n* พระเจ้าทรงทำพันธสัญญากับประชากรอิสราเอล พวกเขาเป็นประชากรที่พระองค์ทรงเลือก\n* ประเทศอิสราเอลประกอบด้วยสิบสองเผ่า\n* หลังจากที่กษัตริย์ซาโลมอนสิ้นพระชนม์ไม่นาน อิสราเอลถูกแบ่งเป็นสองอาณาจักรคืออาณาจักรทางใต้เรียกว่า \"ยูดาห์\" และอาณาจักรทางเหนือเรียกว่า \"อิสราเอล\"\n* บ่อยครั้ง คำว่า \"อิสราเอล\" สามารถแปลว่า \"ประชากรอิสราเอล\" หรือ \"ชนชาติอิสราเอล\" ขึ้นอยู่กับบริบท" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/issachar.txt b/01/issachar.txt new file mode 100644 index 00000000..178cffc1 --- /dev/null +++ b/01/issachar.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "อิสสาคาร์", + "body": "อิสสาคาร์เป็นบุตรชายคนที่ห้าของยาโคบ มารดาของเขาคือเลอาห์\n\n* เผ่าอิสสาคาร์เป็นหนึ่งในสิบสองเผ่าของอิสราเอล\n* แผ่นดินของอิสสาคาร์ถูกล้อมรอบโดยเนฟทาลี เศบูลุน มนัสเสห์ และ กาด\n* แผ่นดินนี้ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของทะเลกาลิลี\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/iyahweh.txt b/01/iyahweh.txt new file mode 100644 index 00000000..42e2892e --- /dev/null +++ b/01/iyahweh.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เรา พระยาห์เวห์ ", + "body": "หลายครั้งในพันธสัญญาเดิม เมื่อพระเจ้าทรงตรัสเกี่ยวกับพระองค์เอง พระองค์ทรงใช้พระนามของพระองค์แทนคำสรรพนาม\n\n* ยกตัวอย่างเช่น แทนที่จะพูดว่า \"จงให้เกียรติแก่เรา\" พระองค์ตรัสว่า \"จงให้เกียรติแก่พระยาห์เวห์\"\n* ทำให้ชัดเจนว่าพระเจ้าทรงเป็นผู้ที่กำลังกล่าวเกี่ยวกับพระองค์เอง ฉบับ ULB มักจะแปลคำนี้โดยการเติมคำสรรพนามเช่นใน \"จงให้เกียรติแก่เรา พระยาห์เวห์\" หรือ \"เรา พระยาห์เวห์กล่าว\" \n* โดยการเติมคำสรรพนาม \"เรา\" ULB ได้ชี้ให้ผู้อ่านเห็นว่าพระเจ้าเป็นผู้ตรัส\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ผู้แปลบางคนอาจตัดสินใจว่ามันจะเป็นธรรมชาติและชัดเจนมากกว่าในภาษาของตนหากแปลตรงตามข้อความที่ปรากฏและใช้คำว่า \"พระยาห์เวห์\" โดยไม่เพิ่มคำสรรพนามลงไป\n* บางคนอาจตัดสินใจที่จะใช้คำสรรพนามกับพระยาห์เวห์เพียงไม่กี่ครั้งในช่วงเริ่มต้นของข้อความ แต่ต่อมาก็ละคำสรรพนามในส่วนที่เหลือของส่วนนั้น ตัวอย่างของ ULB ในตรงนี้คือเฉลยธรรมบัญญัติ 5:9-16\n* จะเป็นการดีที่สุดถ้าสามารถรักษาพระนามพระยาห์เวห์ไว้ในจุดที่ปรากฏตรงตามตัวอักษรในข้อความ แต่ฉบับแปลบางฉบับอาจตัดสินใจที่จะใช้เพียงคำสรรพนามในบางจุด เพื่อให้ข้อความเป็นธรรมชาติและชัดเจนมากขึ้น\n* นี่เป็นข้อสรุปของวิธีที่สามารถจะแปลคำว่า \"พระยาห์เวห์\" เมื่อพระเจ้ากำลังตรัส\n* \"พระยาห์เวห์\"\n\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/jacob.txt b/01/jacob.txt new file mode 100644 index 00000000..5c22280e --- /dev/null +++ b/01/jacob.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ยาโคบ, อิสราเอล", + "body": "ยาโคบเป็นบุตรฝาแฝดผู้น้องของอิสอัคและเรเบคาห์\n\n* ชื่อของยาโคบหมายความว่า \"เขาฉวยข้อเท้า\" ซึ่งเป็นกำกล่าวที่หมายความว่า \"เขาโกง\" เมื่อยาโคบกำลังเกิด เขาได้จับข้อเท้าของคู่ผาแฝดของเขาคอื เอซาว\n* หลายปีต่อมา พระเจ้าทรงเปลี่ยนชื่อของยาโคบเป็น \"อิสราเอล\" ซึ่งหมายความว่า \"เขาปล้ำสู้กับพระเจ้า\"\n* ยาโคบเป็นคนฉลาดและเจ้าเล่ห์ เขาพบวิธีที่จะเอาพรเกิดคนแรกและสิทธิการรับมรดกจากพี่ชายของเขาคือเอซาว\n* เอซาวรู้สึกโกรธและได้วางแผนจะฆ่าเขา ดังนั้นยาโคบจึงได้ออกจากบ้านเกิดไป แต่ในภายหลังเขากลับมาพร้อมกับภรรยาและลูกหลานในแผ่นดินคานาอันที่เอซาวได้ใช้ชีวิตอยู่ และครอบครัวของเขาทั้งสองก็ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างสงบสุข\n* ยาโคบมีบุตรชายสิบสองคน เชื้อสายของพวกเขากลายมาเป็นคนสิบสองเผ่าของอิสราเอล\n* มีผู้ชายอื่นที่มีชื่อยาโคบในรายชื่อในฐานะบรรพบุรูษของโยเซฟในพระธรรมมัทธิว\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/jamesbrotherofjesus.txt b/01/jamesbrotherofjesus.txt new file mode 100644 index 00000000..ff42b0d8 --- /dev/null +++ b/01/jamesbrotherofjesus.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ยากอบ (น้องชายของพระเยซู)", + "body": "ยากอบเป็นบุตรชายของมารีย์และโยเซฟ และเป็นหนึ่งในน้องครึ่งหนึ่งของพระเยซู\n\n* น้องครึ่งหนึ่งคนอื่นๆ ของพระเยซูคือ โยเซฟ ยูดาส และ ซีโมน\n* ในช่วงชีวิตของพระเยซู ยากอบและพี่น้องของเขาไม่เชื่อว่าพระเยซูเป็นพระเมสสิยาห์\n* ต่อมาหลังจากที่พระเยซูทรงเป็นขึ้นมาจากความตาย ยากอบเชื่อในพระองค์และกลายมาเป็นผู้นำของคริสตจักรในกรุงเยรูซาเล็ม\n* ในพันธสัญญาใหม่พระธรรมยากอบเป็นนจดหมายที่ยากอบได้เขียนไปให้หคริสเตียนที่ได้หนีไปประเทศอื่นๆ เพื่อหนีจากการกดขี่ข่มเหง\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/jamessonofalphaeus.txt b/01/jamessonofalphaeus.txt new file mode 100644 index 00000000..5e5936db --- /dev/null +++ b/01/jamessonofalphaeus.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ยากอบ (บุตรชายของอัลเฟอัส)", + "body": "ยากอบ บุตรชายของอัลเฟอัส เป็นหนึ่งในอัครสาวกสิบสองคนของพระเยซู\n\n* ชื่อของเขามีอยู่ในรายชื่อของสาวกของพระเยซูในพระกิตติคุณมัทธิว มาระโกและลูกา\n* เขายังถูกกล่าวถึงในหนังสือกิจการในฐานะที่เป็นหนึ่งในสาวกสิบเอ็ดคนที่มาอธิษฐานด้วยกันในกรุงเยรูซาเล็มหลังจากพระเยซูเสด็จขึ้นสู่สวรรค์แล้ว\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/jamessonofzebedee.txt b/01/jamessonofzebedee.txt new file mode 100644 index 00000000..b87a2c16 --- /dev/null +++ b/01/jamessonofzebedee.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ยากอบ (บุตรชายของเศเบดี)", + "body": "ยากอบ บุตรชายของเศเบดีเป็นหนึ่งในอัครสาวกสิบสองคนของพระเยซู เขามีน้องชายคนหนึ่งชื่อยอห์นซึ่งเป็นหนึ่งในอัครสาวกของพระเยซูเช่นกัน\n\n* ยากอบและยอห์นน้องชายของเขาทำงานโดยการหาปลากับเศเบดีบิดาของเขา\n* ยากอบและยอห์นมีชื่อเล่นว่า \"ลูกฟ้าร้อง\" บางทีอาจเป็นเพราะว่าพวกเขาโกรธง่าย\n* เปโตร ยากอบ และยอห์นเป็นอัครสาวกที่ใกล้ชิดพระเยซูมากที่สุดและได้อยู่กับพระองค์ในเหตุการณ์ที่น่าอัศจรรย์ อย่างเช่น พระเยซูทรงอยู่บนภูเขากับเอลียาห์และโมเสส และเมื่อพระเยซูทรงทำให้เด็กหญิงฟื้นชีพ\n* นี่เป็นคนละคนกับยากอบที่เขียนหนังสือในพระคัมภีร์ ในบางภาษาอาจต้องเขียนชื่อของพวกเขาแตกต่างกันเพื่อทำให้ชัดเจนว่าพวกเขาเป็นคนละคนกัน" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/japheth.txt b/01/japheth.txt new file mode 100644 index 00000000..ce5a6e76 --- /dev/null +++ b/01/japheth.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ยาเฟท", + "body": "ยาเฟทเป็นหนึ่งในบุตรชายสามคนของโนอาห์\n\n* ในช่วงน้ำท่วมโลกที่ปกคลุมไปทั่วแผ่นดินโลกนั้น ยาเฟทและพี่น้องสองคนของเขาอยู่กับโนอาห์ในเรือพร้อมด้วยภรรยาของพวกเขา\n* บุตรชายทั้งหลายของโนอาห์โดยปกติจะลำดับรายชื่อ \"เชม ฮาม และยาเฟท\" นี่แสดงว่ายาเฟทเป็นบุตรชายคนสุดท้อง" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/jealous.txt b/01/jealous.txt new file mode 100644 index 00000000..c9a371c7 --- /dev/null +++ b/01/jealous.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "หึงหวง, ความหึงหวง", + "body": "คำว่า \"หึงหวง\" และ \"ความหึงหวง\" อ้างถึงความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะปกป้องความบริสุทธิ์ของความสัมพันธ์ และยังสามารถอ้างถึงความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะรักษาความเป็นเจ้าของของบางสิ่งหรือบางคน\n\n* คำเหล่านี้มักจะใช้เพื่ออธิบายความรู้สึกโกรธที่บุคคลมีต่อคู่สมรสที่ไม่สัตย์ซื่อในการสมรสของพวกเขา\n* เมื่อใช้ในพระคัมภีร์ คำเหล่านี้มักจะหมายถึงความปรารถนาอย่างแรงกล้าของพระเจ้าที่จะให้คนของพระองค์รักษาความบริสุทธิ์และไร้มลทินความบาป\n*พระเจ้ายังทรง \"หึงหวง\" สำหรับพระนามของพระองค์ เพื่อที่ว่าพระนามนั้นจะได้รับการปฎิบัติด้วยเกียรติและความเคารพนับถือ\n* อีกความหมายหนึ่งของคำว่าหึงหวงเกี่ยวข้องกับการรู้สึกโกรธที่คนอื่นประสบความสำเร็จหรือมีชื่อเสียงมากกว่า สิ่งนี้มีความหมายใกล้กับคำว่า \"อิจฉา\"\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* วิธีที่จะแปล \"หึงหวง\" สามารถรวมถึง \"ความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะปกป้อง\" หรือ \"ความปรารถนาที่จะเป็นเจ้าของ\"\n* คำว่า \"ความหึงหวง\" สามารถแปลได้ว่า \"ความรู้สึกอย่างแรงกล้าที่จะปกป้อง\" หรือ \"ความรู้สึกในการเป็นเจ้าของ\"\n* เมื่อพูดถึงพระเจ้า ให้แน่ใจว่าคำแปลของคำเหล่านี้ไม่ได้มีความหมายในเชิงลบของการรู้สึกขุ่นเคืองใจกับคนอื่น\n* ในบริบทของคนมีความรู้สึกที่ผิดในความโกรธที่มีต่อคนอื่นที่ประสบความสำเร็จมากกว่า คำว่า \"อิจฉา\" หรือ \"ริษยา\" สามารถใช้ได้ แต่คำเหล่านี้ไม่ควรจะใช้สำหรับพระเจ้า" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/jebusites.txt b/01/jebusites.txt new file mode 100644 index 00000000..ea14cedd --- /dev/null +++ b/01/jebusites.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "คนเยบุส", + "body": "คนเยบุสเป็นกลุ่มชนในแผ่นดินคานาอัน พวกเขาเป็นพวกที่สืบเชื้อสายมาจากบุตรชายของฮาม คือ คานาอัน\n\n* คนเยบุสได้อาศัยอยู่ในเมืองเยบุส ซึ่งต่อมาชื่อนี้ได้ถูกเปลี่ยนเป็น เยรูซาเล็มเมื่อกษัตริย์ดาวิดได้ชัยชนะเหนือเมืองนี้\n* เมลลีเซเดค กษัตริย์ของซาเลม บางทีอาจเป็นต้นกำเนิดของคนเยบุส" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/jehoiachin.txt b/01/jehoiachin.txt new file mode 100644 index 00000000..58a9871d --- /dev/null +++ b/01/jehoiachin.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เยโฮยาคิน", + "body": "เยโฮยาคินเป็นหนึ่งในกษัตริย์ที่ปกครองเหนืออาณาจักรยูดาห์\n\n* เยโฮยาคินได้เป็นกษัตริย์เมื่ออายุได้ 18 ปี พระองค์ทรงครองราชย์เพียงสามเดือนและหลังจากนั้นพระองค์ทรงถูกจับโดยกองทัพบาบิโลนและถูกนำตัวไปยังบาบิโลน\n* ในช่วงสั้นๆที่ทรงครองราชย์นั้น เยโฮยาคินได้ทรงกระทำสิ่งชั่วร้ายเหมือนอย่างที่กษัตริย์มนัสเสห์ผู้เป็นปู่และกษัตริย์เยโฮยาคิมผู้เป็นพ่อได้กระทำ\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/jehoiada.txt b/01/jehoiada.txt new file mode 100644 index 00000000..de48ff5e --- /dev/null +++ b/01/jehoiada.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เยโฮยาดา", + "body": "เยโฮยาดาเป็นปุโรหิตที่ช่วยซ่อนและปกป้องโอรสของกษัตริย์อาหัสยาห์คือโยอาชจนพระองค์โตพอที่จะได้รับการประกาศให้เป็นกษัตริย์\n\n* เยโฮยาดาได้จัดทหารหลายร้อยคนเพื่อปกป้องโยอาชที่อายุยังน้อยในขณะที่พระองค์ได้รับการประกาศให้เป็นกษัตริย์โดยประชาชนในวิหาร\n* เยโฮยาดาได้นำประชาชนให้ทำลายแท่นบูชาทั้งหมดที่เป็นของพระเทียมเท็จคือพระบาอัล\n* ในช่วงชีวิตที่เหลือของเขา ปุโรหิตเยโฮยาดาได้ให้คำแนะนำแก่กษัตริย์โยอาชเพื่อช่วยให้พระองค์เชื่อฟังพระเจ้าและปกครองประชาชนด้วยความฉลาด\n* ผู้ชายอีกคนหนึ่งที่ชื่อเยโฮยาดาคือบิดาของเบไนยาห์\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/jehoiakim.txt b/01/jehoiakim.txt new file mode 100644 index 00000000..ced93790 --- /dev/null +++ b/01/jehoiakim.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เยโฮยาคิม", + "body": "เยโฮยาคิมเป็นกษัตริย์ชั่วร้ายที่ครองราชย์เหนืออาณาจักรยูดาห์ เริ่มต้นประมาณ 608 ปีก่อนคริสตกาล พระองค์เป็นโอรสของกษัตริย์โยสิยาห์ เดิมทีพระนามของพระองค์คือเอลียาคิม\n\n* เนโค ฟาโรห์ของอียิปต์ได้เปลี่ยนชื่อของเอลียาคิมเป็นเยโฮยาคิมและแต่งตั้งให้พระองค์เป็นกษัตริย์แห่งยูดาห์\n* เนโคบังคับให้เยโฮยาคิมจ่ายภาษาในอัตราที่สูงแก่อียิปต์\n* ต่อมาเมื่อยูดาห์ถูกรุกรานโดยกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ เยโฮยาคิมเป็นหนึ่งในคนเหล่านั้นที่ถูกจับและถูกนำตัวไปยังบาบิโลน\n* เยโฮยาคิมเป็นกษัตริย์ที่ชั่วร้ายที่ได้นำยูดาห์ออกห่างจากพระยาห์เวห์ ผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์ได้กล่าวคำเผยพระวจนะตักเตือนพระองค์\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/jehoram.txt b/01/jehoram.txt new file mode 100644 index 00000000..b9e6a8fc --- /dev/null +++ b/01/jehoram.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เยโฮรัม, โยรัม", + "body": "เยโฮรัมเป็นชื่อของกษัตริย์ที่สองพระองค์ในพันธสัญญาเดิม ทั้งสองพระองค์ทรงมีพระนามว่า \"โยรัม\"\n\n* กษัตริย์เยโฮรัมพระองค์หนึ่งทรงปกครองเหนือยูดาห์เป็นเวลาแปดปี พระองค์เป็นบุตรชายของกษัตริย์เยโฮชาฟัท นี่เป็นกษัตริย์ที่รูัจักกันในพระนาม เยโฮรัม\n* กษัตริย์เยโฮรัมอีกพระองค์หนึ่งทรงปกครองอาณาจักรอิสราเอลเป็นเวลาสิบสองปี พระองค์ทรงเป็นบุตรชายของกษัตริย์อาหับ\n* กษัตริย์เยโหโบรัมแห่งยูดาห์ทรงปกครองระหว่างช่วงเวลาของผู้เผยพระวจนะเยเรมีห์ ดาเนียล โอบัดยาห์ และเอเสเคียลที่ทำการเผยพระวจนะในอาณาจักรยูดาห์\n* เยโฮรัมทรงปกครองระหว่างเวลาที่พระบิดาของพระองค์คือกษัตริย์เยโอชาฟัททรงปกครองเหนือยูดาห์\n* คำแปลบางฉบับอาจเลือกใช้ชื่อ \"เยโฮรัม\" อย่างต่อเนื่อง เมื่อกษัตริย์พระองค์นี้ของอิสราเอลได้ถูกเอ่ยในชื่อว่า \"โยรัม\" สำหรับกษัตริย์แห่งยูดาห์\n* อีกวิธีหนึ่งในการทำให้ชัดเจนแต่ละชื่อควรจะรวมชื่อบิดาของเขาต่อท้ายชื่อด้วย" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/jehoshaphat.txt b/01/jehoshaphat.txt new file mode 100644 index 00000000..f5a721ed --- /dev/null +++ b/01/jehoshaphat.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เยโฮชาฟัท", + "body": "เยโฮชาฟัทเป็นชื่อของผู้ชายอย่างน้อยสองคนในพันธสัญญาเดิม\n\n* คนที่มีชื่อเสียงมากที่สุดที่มีชื่อนี้คือกษัตริย์เยโฮชาฟัทผู้เป็นกษัตริย์องค์ที่ 4 ที่ปกครองเหนืออาณาจักรยูดาห์\n* พระองค์ทรงนำสันติภาพระหว่างยูดาห์และอิสราเอลกลับคืนมา และทำลายแท่นบูชาของพระเทียมเท็จ\n* เยโฮชาฟัทอีกคนหนึ่งคือ \"ผู้จดบันทึก\" ของดาวิดและซาโลมอน หน้าที่ของเขารวมถึงการเขียนเอกสารสำหรับกษัตริย์ให้ลงพระนามและบันทึกประวัติศาสตร์ในเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในอาณาจักร" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/jehu.txt b/01/jehu.txt new file mode 100644 index 00000000..22adabd6 --- /dev/null +++ b/01/jehu.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เยฮู", + "body": "เยฮูเป็นชื่อของผู้ชายสองคนในพันธสัญญาเดิม\n\n* เยฮูบุตรชายของฮันนานิเป็นผู้เผยพระวจนะในรัชสมัยของกษัตริย์อาหับแห่งอิสราเอลและกษัตริย์เยโฮชาฟัทแห่งยูดาห์\n* เยฮูบุตรชาย (หรือผู้สืบเชื้อสาย) ของ เยโฮชาฟัท เป็นนายพลในกองทัพอิสราเอล\nผู้ได้ถูกเจิมเป็นกษัตริย์โดยคำสั่งของผู้เผยพระวจนะเอลิชา\n* เยฮูได้ฆ่ากษัตริย์ชั่วร้ายสองพระองค์คือโยรัมแห่งอิสราเอลและอาหัสยาห์แห่งยูดาห์\n* เยฮูยังได้ฆ่ากษัตริย์บรรดาญาติทั้งหมดของอาหับกษัตริย์คนก่อนรวมถึงราชินีชั่วร้ายเยเซเบล\n* เยฮูได้ทำลายสถานมัสการพระบาอัลทั้งหมดในสะมาเรียและได้ฆ่าผู้เผยพระวจนะของบาอัล\n* กษัตริย์เยฮูได้รับใช้พระเจ้าเที่ยงแท้เพียงพระองค์เดียว และได้เป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอลเป็นเวลายี่สิบแปดปี\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/jephthah.txt b/01/jephthah.txt new file mode 100644 index 00000000..6fdbd1fc --- /dev/null +++ b/01/jephthah.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เยฟธาห์", + "body": "เยฟธาห์เป็นนักรบจากกิเลอาดที่ทำหน้าที่เป็นผู้วินิจฉัย เหนืออิสราเอล\n\n* ในฮีบรู 11:32 เยฟธาร์เป็นที่สรรเสริญ ในฐานะที่เป็นผู้นำคนสำคัญผู้ที่ปลดปล่อยประชาชนของเขาจากข้าศึก\n* เขาได้ช่วยกู้คนอิสราเอลจากคนอัมโมนและกได้นำประชาชนของเขาในการเอาชนะคนเอฟราอิม\n* อย่างไรก็ตาม เยฟธาร์ได้ให้คำสาบานอันโง่เขลาบ้าบิ่นแก่พระเจ้าซึ่งทำให้เขาต้องถวายบุตรสาวเป็นเครื่องเผาบูชา\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/jeremiah.txt b/01/jeremiah.txt new file mode 100644 index 00000000..101c5802 --- /dev/null +++ b/01/jeremiah.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เยเรมีย์", + "body": "เยเรมีย์เป็นผู้เผยพระวจนะของพระเจ้าในอาณาจักรยูดาห์ พันธสัญญาเดิมพระธรรมเยเรมีย์ได้บันทึกคำเผยพระวจนะของเขา\n\n* เช่นเดียวกับผู้เผยพระวจนะส่วนใหญ่ เยเรมีย์มักจะตักเตือนผู้คนอิสราเอลว่าพระเจ้าจะทรงลงโทษพวกเขาสำหรับความบาปของพวกเขา\n* เยเรมีย์ได้เผยพระวจนะว่าชาวบาบิโลนจะเข้ามายึดครองกรุงเยรูซาเล็ม ซึ่งทำให้ประชาชนบางคนในยูดาห์โกรธ ดังนั้นพวกเขาจึงได้โยนเขาลงไปในบ่อลึกแห้งและปล่อยเขาไว้ที่นั่นให้ตาย แต่กษัตริย์แห่งยูดาห์ได้ทรงสั่งให้คนรับใช้ไปช่วยเยเรมีย์ออกมาจากบ่อ\n* เยเรมีย์ได้เขียนว่าเขาได้ปรารถนาให้ตากทั้งสองข้างเป็น \"บ่อน้ำพุแห่งน้ำตา\" เพื่อแสดงความเศร้าอย่างสุดซึ้งเหนือการกบฎและการทุกข์ยากของประชาชนของเขา" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/jericho.txt b/01/jericho.txt new file mode 100644 index 00000000..8ef2e211 --- /dev/null +++ b/01/jericho.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เยรีโค", + "body": "เยรีโคเป็นเมืองที่แข็งแกร่งในแผ่นดินคานาอัน มันตั้งอยู่ทางตะวันตกของแม่น้อจอร์แดนและเหนือทะเลเกลือ\n\n* เช่นเดียวกับชาวคานาอันทั้งหมด ประชาชนเยรีโคนมัสการรูปเคารพเทียมเท็จ\n* เมืองเยรีโคเป็นเมืองแรกในแผ่นดินคานาอันที่พระเจ้าได้ตรัสกับชาวอิสราเอลให้ยึดครอง\n* เมื่อโยชูวาได้นำคนอิสราเอลให้ต่อสู้กับเยรีโค พระเจ้าทรงกระทำการอัศจรรย์อันยิ่งใหญ่ในการช่วยเหลือพวกเขาให้เอาชนะเมืองนั้นได้\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/jeroboam.txt b/01/jeroboam.txt new file mode 100644 index 00000000..cb373420 --- /dev/null +++ b/01/jeroboam.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เยโรโบอัม", + "body": "เยโรโบอัมบุตรชายเนบัทเป็นกษัตริย์องค์แรกของอาณาจักรทางเหนือของอิสราเอลประมาณ 900-910 ปีก่อนคริสตกาล กษัตริย์ชื่อเยโรโบอัมอีกองค์หนึ่งบุตรชายของเยโฮอาชปกครองเหนืออิสราเอลประมาณ 120 ปีต่อมา \n\n* พระยาห์เวห์ประทานคำเผยพระวจนะแก่เยโรโบอัมบุตรชายเนบัทว่าเขาจะเป็นกษัตริย์ต่อจากซาโลมอนและเขาจะได้ปกครองเหนือชนสิบเผ่าของอิสราเอล\n* เมื่อซาโลมอนตาย ชนสิบเผ่าของอิสราเอลได้กบฎต่อบุตรชายของซาโลมอนคือ เรโหโบอัมและได้ทำให้เยโรโบอัมเป็นกษัตริย์ของพวกเขา ปล่อยให้เรโหโบอัมเป็นกษัตริย์สำหรับสองเผ่าทางใต้ คือ ยูดาห์และเบนยามิน\n* เยโรโบอัมเป็นกษัตริย์ที่ชั่วร้ายมากเป็นผู้ที่ได้สนับสนุนให้ประชาชนของอาณาจักรอิสราเอลนมัสการรูปเคารพแทนที่จะนมัสการพระยาห์เวห์ กษัตริย์ของอิสราเอลทั้งหมดก็ทำตามตัวอย่างและชั่วร้ายเหมือนกับเยโรโบอัม\n* เกือบ 120 ปีต่อมา กษัตริย์อีกองค์หนึ่งชื่อเยโรโบอัมเริ่มต้นปกครองอาณาจักรทางเหนือแห่งอิสราเอล เยโรโบอัมพระองค์นี้เป็นบุตรชายของกษัตริย์เยโฮอาชและชั่วร้ายเหมือนกษัตริย์อิสราเอลองค์ก่อนๆ ทุกพระองค์\n* แม้จะเป็นเช่นนั้น พระเจ้ายังทรงมีพระเมตตาต่ออิสราเอลและช่วยเหลือกษัตริย์เยโรโบอัมนี้ให้ได้แผ่นดินมาและก่อตั้งเขตแดนสำหรับดินแดนของตน\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/jerusalem.txt b/01/jerusalem.txt new file mode 100644 index 00000000..dd350b09 --- /dev/null +++ b/01/jerusalem.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เยรูซาเล็ม", + "body": "เยรูซาเล็มแต่เดิมนั้นเป็นเมืองโบราณของคานาอันที่ต่อมากลายเป็นเมืองที่สำคัญที่สุดในอิสราเอล ๙ึ่งตั้งอยู่ประมาณ 34 กิโลเมตรทางตะวันตกของทะเลเกลือเหนือเมืองเบธเลเฮ็ม เมืองนี้ยังคงเป็นเมืองหลวงของอิสราเอลในปัจจุบัน\n\n* ชื่อ \"เยรูซาเล็ม\" นี้กูกกล่าวถึงครั้งแรกในพระธรรมโยชูวา ชื่ออื่นในพันธสัญญาเดิมของเมืองนี้รวมถึง \"ซาเล็ม\" \"เมืองของเยบุส\" และ \"ซีโอน\" คำว่า\" เยรูซาเล็ม\" และ\"ซาเล็ม\" มาจากรากศัพท์เดียวกั้นหมายความว่า \"สันติสุข\"\n* เยรูซาเล็มแต่เดิมเป็นเมืองป้อมของคนเยบุทเรียกว่า \"ซีโอน\" ซึงกษัตริย์ดาวิดยึดเอาและทำให้เป็นเมืองหลวง\n* ซาโลมอนบุตรชายของดาวิดได้สร้างวิหารแห่งแรกบนภูเขาโมไรยาห์ในเยรูซาเล็ม ซึ่งเป็นภูเขาที่อับราฮัมได้ถวายบุตรชายของเขาอิสอัคต่อพระเจ้า พระวิหารได้ถูกสร้างที่นั่นอีกครั้งภายหลังจากที่ถูกทำลายดยชาวบาบิโลน\n* เนื่องจากวิหารตั้งอยู่ในกรุงเยรูซาเล็มการเฉลิมฉลองเทศกาลของชาวยิวที่สำคัญๆ จึงได้จัดที่นั่น\n* ประชาชนมักจะอ้างถึงการเดินทาง \"ขึ้นไป\" กรุงเยรูซาเล็ม เพราะเหตุว่าเมืองนี้ตั้งอยู่บนภูเขา" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/jesse.txt b/01/jesse.txt new file mode 100644 index 00000000..0034b13b --- /dev/null +++ b/01/jesse.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เจสซี", + "body": "เจสซีเป็นบิดาของกษัตริย์ดาวิด และเป็นหลานชายของรูธ และโบอาส\n\n* เจสซีมาจากเผ่ายูดาห์\n* เขาเป็น \"คนเอฟราไธท์\" ซึ่งหมายความว่าเขามาจากเมืองเอฟราธาท (เบธเลเฮ็ม)\n* ผู้เผยพระวจนะอิสยาห์ได้เผยพระวจนะเกี่ยวกับ \"หน่อ\" หรือ \"กิ่ง\" มี่จะมาจาก \"รากของเจสซี\" และเกิดผล นี่อ้างถึงพระเยซูผู้เป็นเชื้อสายของเจสซี" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/jesus.txt b/01/jesus.txt new file mode 100644 index 00000000..149cb366 --- /dev/null +++ b/01/jesus.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "พระเยซู, พระเยซูคริสต์, พระคริสต์เยซู", + "body": "พระเยซูทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า พระนาม \"เยซู\" หมายถึง \"พระยาห์เวห์ทรงช่วยให้รอด\" คำว่า \"พระคริสต์\" เป็นตำแหน่งที่หมายถึง \"ผู้ได้รับการเจิม\" และเป็นอีกคำหนึ่งที่แปลว่าพระเมสสิยาห์\n\n* ทั้งสองชื่อมักจะรวมกันเป็น \"พระเยซูคริสต์\" หรือ \"พระคริสต์เยซู\" พระนามเหล่านี้เน้นว่าพระบุตรของพระเจ้าคือพระเมสสิยาห์ผู้เสด็จมาช่วยผู้คนจากการถูกลงโทษนิรันดร์สำหรับความบาปของพวกเขา\n* ในทางการอัศจรรย์ พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ทรงทำให้พระบุตรนิรันดร์ของพระเจ้าลงมาบังเกิดเป็นเช่นมนุษย์ บิดามารดาบนโลกได้รับการบอกกล่าวจากทูตสวรรค์ให้เรียกพระองค์ว่า \"พระเยซู\" เพราะพระองค์ได้ทรงถูกกำหนดให้มาช่วยผู้คนจากความบาปของพวกเขา\n* พระเยซูทรงกระทำการอัศจรรย์หลายอย่างที่แสดงว่าพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าและพระองค์ทรงเป็นพระคริสต์หรือพระเมสสิยาห์\n\n# ตำแนะนำในการแปล\n\n* หลายภาษาสะกด \"พระเยซู\" และ \"พระคริสต์\" ในวิธีที่รักษาการออกเสียงหรือตัวสะกดไว้ให้เหมือนกับภาษาต้นฉบับมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ยกตัวอย่างเช่น \"เจสูคริสโต\" เจซูส คริสตุส\" \"เยซุส คริสตุส\" และ \"เฮสูคริสโต\" นี่เป็นบางวิธีที่พระนามเหล่านี้ได้รับการแปลให้เป็นภาษาต่างๆ \n* สำหรับคำว่า \"พระคริสต์\" บางภาษาอาจต้องการใช้รูปแบบของคำว่า \"พระเมสสิยาห์\" ตลอดทั้งฉบับ\n* ให้พิจารณาถึงวิธีการสะกดพระนามเหล่านี้ในภาษาท้องถิ่นหรือประจำชาติด้วย" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/jethro.txt b/01/jethro.txt new file mode 100644 index 00000000..e97d4dfa --- /dev/null +++ b/01/jethro.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เยโธร, เรอูเอล", + "body": "ชื่อ \"เยโธร\" และ \"เรอูเอล\" ถูกใช้ในการอ้างถึงบิดาของภรรยาของโมเสสคือศิปโปราห์ มีผู้ชายอีกสองคนที่ชื่อว่า \"ราอูเอล\" ในพันธสัญญาเดิม\n\n* เมื่อโมเสสเป็นคนเลี้ยงแกะในดินแดนมีเดียน เขาได้แต่งงานกับบุตรสาวของชายมีเดียนชื่อเรอูเอล \n* ต่อมาภายหลังเรอูเอลได้ถูกอ้างถึงในนาม \"เยโธร ปุโรหิตแห่งมีเดียน\" มันอาจจะเป็นได้ว่า \"เรอูเอล\" เป็นชื่อของเผ่าของเขา\n* พระเจ้าได้ตรัสกับโมเสสจากพุ่มไม้ที่ไฟลุกโชน เมื่อโมเสสกำลังเลี้ยงฝูงแกะของเยโธรอยู่\n* จากนั้นระยะหนึ่ง หลังจากที่พระเจ้าได้ช่วยกู้คนอิสราเอลจากอียิปต์แล้ว เยโธรออกมาหาโมเสสในถิ่นทุรกันดารและให้คำแนะนำที่ดีแก่เขาในเรื่องการตัดสินเรื่องราวของประชาชนห\n* เขาได้เชื่อในพระเจ้าเมื่อเขาได้ยินเกี่ยวกับการอัศจรรย์ทั้งหมดที่พระเจ้าได้ทรงกระทำให้แก่อิสราเอลในอียิปต์\n* หนึ่งในบุคชายของเอซาวมีชื่อว่า เรอูเอล \n* ผู้ชายอีกคนที่ชื่อเรอูเอลทได้ถูกอ้างชื่อถึงในลำดับวงศ์ของอิสราเอลผู้ที่ได้กลับไปตั้งรกรากในยูดาห์หลังจากที่ถูกจับไปเป็นเชลยที่กรุงบาบิโลนได้จบลง" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/jew.txt b/01/jew.txt new file mode 100644 index 00000000..16e5acd8 --- /dev/null +++ b/01/jew.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ชาวยิว, ความเป็นยิว", + "body": "ยิวคือคนที่เป็นเชื้อสายของหลานอับราฮัมคือยาโคบ คำว่า \"ยิว\" มาจากคำว่า \"ยูดาห์\"\n\n* ผู้คนเริ่มเรียกคนอิสราเอลว่า \"ยิว\" หลังจากที่พวกเขากลับมายังยูดาห์จากที่ถูกเนรเทศไปบาบิโลน\n* พระเยซูพระเมสสิยาห์ทรงเป็นชาวยิว อย่างไรก็ตาม ผู้นำทางศาสนาชาวยิวปฎิเสธพระเยซูและต้องการให้พระองค์ถูกประหาร\n* บ่อยครั้งวลี \"ชาวยิว\" อ้างถึงผู้นำของชาวยิว ไม่ได้หมายถึงชาวยิวทั้งหมด ในบริบทเหล่านั้น คำแปลบางฉบับได้เพิ่ม \"พวกผู้นำของ\" เพื่อให้ชัดเจนขึ้น\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/jewishleaders.txt b/01/jewishleaders.txt new file mode 100644 index 00000000..c30ca7db --- /dev/null +++ b/01/jewishleaders.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ผู้นำชาวยิว, ผู้มีอำนาจชาวยิว, ผู้นำทางศาสนา", + "body": "คำว่า \"ผู้นำชาวยิว\" หรือ\"ผู้มีอำนาจชาวยิว\" อ้างถึงผู้นำทางศาสนา เช่น พวกปุโรหิตและผู้เชี่ยวชาญในธรรมบัญญัติของพระเจ้า พวกเขามีสิทธิอำนาจทำการตัดสินเกี่ยวกับเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับศาสนาเช่นกัน\n\n* ผู้นำทางศาสนาหลายคนเป็นมหาปุโรหิต หัวหน้าปุโรหิต และเลวี (ครูศาสนาเกี่ยวกับกฏหมายของพระเจ้า)\n* ผู้นำของยิวสองกลุ่มใหญ่คือพวกฟาริสีและสะดูสี\n* ผู้นำชาวยิวเจ็ดสิบคนได้พบปะกันในสภาของยิวในกรุงเยรูซาเล็มเพื่อตัดสินเกี่ยวกับกฏหมาย\n* ผู้นำทางศาสนาหลายคนหยิ่งและคิดว่าพวกเขาชอบธรรม พวกเขาอิจฉาพระเยซูและต้องการทำร้ายพระองค์ พวกเขาอ้างว่ารู้จักพระเจ้าแต่ไม่ได้เชื่อฟังพระองค์\n* บ่อยครั้งวลี \"พวกยิว\" อ้างถึงผู้นำชาวยิว เฉพาะอย่างยิ่งในบริบทที่พวกเขาโกรธพระเยซูและได้พยายามเล่นเล่ห์เหลี่ยมหรือทำร้ายพระองค์\n* คำเหล่านี้สามารถแปลว่า \"ผู้ปกครองชาวยิว\" หรือ \"ผู้ชายที่ปกครองเหนือประชาชนยิว\" หรือ \"ผู้นำศาสนาชาวยิว\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/jezebel.txt b/01/jezebel.txt new file mode 100644 index 00000000..0bc2180e --- /dev/null +++ b/01/jezebel.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เยเซเบล", + "body": "เยเซเบลเป็นมเหสีที่ชั่วร้ายของกษัตริย์อาหับแห่งอิสราเอล \n\n* เยเซเบลมีอิทธิพลในการทำให้อาหับและอิสราเอลทั้งหมดบูชารูปเคารพ\n* นางได้ฆ่าผู้เผยพระวจนะของพระเจ้าหลายคน\n* เยเซเบลได้ทำให้ผู้ชายบริสุทธิ์ชื่อนาโบทถูกฆ่าเพื่อที่ว่าอาหับจะได้ขโมยสวนองุ่นของนาโบท\n* ในที่สุดเยเซเบลก็ถูกฆ่าเนื่องจากสิ่งชั่วร้ายทั้งหมดที่นางได้กระทำ เอลียาห์ได้เผยพระวจนะว่างนางจะตายอย่างไรและทุกสิ่งก็เกิดขึ้นอย่างที่เขาได้ทำนายทุกประการ\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/jezreel.txt b/01/jezreel.txt new file mode 100644 index 00000000..0b6ff73c --- /dev/null +++ b/01/jezreel.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ยิซเรเอล", + "body": "ยิซเรเอลเป็นชื่อของเมืองอิสราเอลที่สำคัญในดินแดนของเผ่าอิสสาคาร์ ซึ่งตั้งอยู่ในฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของทะเลเกลือ \n\n \n* เมืองยิซเรเอลเป็นหนึ่งในที่ทางตะวันตกในที่ราบเมกิดโด ซึ่งเรียกได้อีกอย่างว่า \"หุบเขาแห่งยิซเรเอล\"\n* กษัตริย์ของอิสราเอลหลายคนได้สร้างพระราชวังของเขาที่นั่น\n* สวนองุ่นของนาโบทตั้งอยู่ใกล้กับพระราชวังของกษัตริย์อาหับในยิซเรเอล ผู้เผยพระวจนะเอลียาห์ได้เผยพระวจนะตักเตือนอาหับที่นั่น\n* มเหสีที่ชั่วร้ายของอาหับถูกฆ่าในยิซเรเอล\n* เหตุการณ์สำคัญอื่นๆมากมายเกิดขึ้นในเมืองนี้รวมถึงการสู้รบหลายครั้ง\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/joab.txt b/01/joab.txt new file mode 100644 index 00000000..89be5d35 --- /dev/null +++ b/01/joab.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "โยอาบ", + "body": "โยอาบเป็นผู้นำทางทหารคนสำคัญสำหรับกษัตริย์ดาวิดตลอดรัชสมัยของพระองค์\n\n* ก่อนที่ดาวิดจะเป็นกษัตริย์ โยอาบก็เป็นผู้ติดตามที่จงรักภักดีของพระองค์แล้ว\n* ภายหลัง ในช่วงที่ดาวิดครองราชย์เป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอลแล้ว โยอาบได้กลายมาเป็นผู้บัญชาการเหนือกองทัพของกษัตริย์ดาวิด\n* โยอาบเป็นหลานชายของดาวิดด้วย เพราะมารดาของโยอาบเป็นหนึ่งในน้องสาวของกษัตริย์ดาวิด \n* เมื่อบุตรชายของดาวิดคืออับซาโลมได้ทรยศพระองค์โดยพยายามที่จะยึดครองความเป็นกษัตริย์ โยอาบได้ฆ่าอับซาโลมเพื่อที่จะปกป้องกษัตริย์\n* โยอาบเป็นนักรบที่แข็งกร้าวและได้ฆ่าหลายคนที่เป็นศัตรูของอิสราเอล\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/joash.txt b/01/joash.txt new file mode 100644 index 00000000..d903b551 --- /dev/null +++ b/01/joash.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "โยอาช", + "body": "โยอาชเป็นชื่อของผู้ชายหลายคนในพันธสัญญาเดิม\n\n* โยอาชคนหนึ่งเป็นบิดาของผู้ปลดปล่อยคนอิสราเอลคือกิเดโอน\n* ผู้ชายอีกคนหนึ่งที่ชื่อโยอาชเป็นเชื้อสายของบุตรชายคนสุดท้องของยาโคบคือเบนยามิน\n* โยอาชคนที่มีชื่อเสียงมากที่สุดได้กลายมาเป็นกษัตริย์แห่งยูดาห์เมื่ออายุได้เจ็ดปี พระองค์เป็นบุตรชายของอาหัสยาห์กษัตริย์แห่งยูดาห์ผู้ถูกปลงพระชนม์\n* ตอนที่โยอาชยังเป็นเด็กอยู่ ป้าของพระองค์ได้ช่วยพระองค์ให้รอดจากการถูกฆ่าโดยซ่อนไว้จนพระองค์เติบโตพอที่จะครองราชย์เป็นกษัตริย์\n* กษัตริย์โยอาชได้เป็นกษัตริย์ที่ดีในตอนต้น เชื่อฟังพระเจ้า แต่ พระองค์ไม่ได้ย้ายสถานสูงและพวกอิสราเอลได้เริ่มต้นนมัสการรูปเคารพอีกครั้ง\n* กษัตริย์โยอาชทรงปกครองยูดาห์ระหว่างบางช่วงกับปีที่กษัตริย์เยโฮอาชทรงปกครองอิสราเอล ทั้งสองเป็นกษัตริย์คนละองค์\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/job.txt b/01/job.txt new file mode 100644 index 00000000..dae4a156 --- /dev/null +++ b/01/job.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "โยบ", + "body": "โยบคือชายคนหนึ่งที่ได้รับการอธิบายในพระคัมภีร์ว่าเป็นคนที่ไร้ตำหนิและชอบธรรมต่อพระเจ้า เขามีชื่อเสียงดีที่สุดเรื่องการยืนหยัดในความเชื่อในพระเจ้าผ่านช่วงเวลาแห่งการทนทุกข์อย่างเลวร้าย\n\n* โยบได้อาศัยอยู่ในดินแดนอูสซึ่งตั้งอยู่ในบางพื้นที่ทางด้านตะวันออกของดินแดนคานาอัน เป็นไปได้ว่าตั้งอยู่ใกล้กับแคว้นเอโดม\n* คิดกันว่าเขาอาศัยอยู่ในช่วงเวลาหนึ่งในสมัยของเอซาวและยาโคบเพราะหนึ่งในเพื่อนของเขาเป็นคน \"เทมาไนท์\" ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มาจากเชื้อสายของหลานชายของเอซาว\n* ในพันธสัญญาเดิม พระธรรมโยบบอกเล่าถึงวิธีการที่โยบและคนอื่นๆ ตอบสนองต่อการทนทุกข์ของเขา และยังให้มุมมองของพระเจ้าในฐานะผู้สร้างผู้เป็นองค์อธิปไตยและผู้ครอบครองจักรวาลด้วย\n* หลังจากภัยพิบัติทั้งหมด พระเจ้าทรงรักษาโยบและประทานบุตรทั้งหลายกับความมั่งคั่งให้แก่เขา\n* พระธรรมโยบกล่าวว่าเขาชรามากตอนที่เขาตาย\n\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/joel.txt b/01/joel.txt new file mode 100644 index 00000000..6ef8bfa9 --- /dev/null +++ b/01/joel.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "โยเอล", + "body": "โยเอลคือชื่อของผู้เผยพระวจนะคนหนึ่งที่มีชีวิตอยู่สมัยการครองราชย์ของกษัตริย์โยอัสของยู\nดาห์ ยังมีผู้ชายหลายคนในพันธสัญญาเดิมที่ใช้ชื่อว่า โยเอล\n\n* พระธรรมโยเอลคือพระธรรมที่สั้นหนึ่งในสิบสองเล่นในส่วนสุดท้ายของพันธสัญญาเดิม\n* ข้อมูลส่วนตัวอย่างเดียวที่เรามีเกี่ยวกับผู้เผยพระวจนะโยเอลคือบิดาของเขาชื่อว่า เปธูเอล\n* ในคำเทศนาของเปโตรในวันเพ็นเทคอส อัครสาวกเปโตรได้อ้างจากพระธรรมโยเอล\n\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/johnmark.txt b/01/johnmark.txt new file mode 100644 index 00000000..9bffb992 --- /dev/null +++ b/01/johnmark.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ยอห์น มาระโก", + "body": "ยอห์น มาระโก หรือเป็นที่รู้จักว่า \"มาระโก\" เป็นหนึ่งในบรรดาผู้ที่เดินทางร่วมกับเปาโลบนเส้นทางแห่งการเป็นมิชชันนารี เขาน่าจะเป็นผู้ที่เขียนพระกิตติคุณมาระโก\n\n* ยอห์น มาระโก ได้เดินทางเป็นครั้งแรกร่วมกับญาติของเขาคือบารนาบัสและเปาโลในฐานะมิชชันนารี\n* เมื่อเปโตรถูกกุมขังในคุณที่กรุงเยรูซาเล็ม มีพวกผู้เชื่อที่นั่นกำลังอธิษฐานเผื่อเขาที่บ้านมารดาของ ยอห์น มาระโก\n* มาระโกไม่ได้เป็นอัครสาวกดั้งเดิม แต่ได้รับการสอนโดยเปาโลและเปโตร และได้ทำงานรับใช้ร่วมกันกับพวกเขา\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/johntheapostle.txt b/01/johntheapostle.txt new file mode 100644 index 00000000..402c1aea --- /dev/null +++ b/01/johntheapostle.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ยอห์น (อัครสาวก)", + "body": "ยอห์นเป็นหนึ่งในอัครสาวกสิบสองคนและหนึ่งในพระสหายที่ใกล้ชิดที่สุดของพระเยซู \n\n* ยอห์นและน้องชายของเขาเป็นบุตรชายของชาวประมงที่ชื่อว่าเศเบดี\n* ในพระกิตติคุณที่เขาได้เขียนเกี่ยวกับชีวิตของพระเยซู ยอห์นได้อ้างถึงตัวเองว่า \"สาวกที่พระเซูทรงรัก\" นี่ดูเหมือนวจะบ่งชี้ว่ายอห์นเป็นสหายที่สนิทของพระเยซู\n* อัครสาวกยอห์นได้เขียนพระคัมภีร์ห้าเล่มในพันธสัญญาใหม่ คือ พระกิตติคุณยอห์น วิวรณ์ของพระเยซูคริสต์ และจดหมายอีกสามฉบับที่เขียนถึงบรรดาผู้เชื่อทั้งหลาย\n* หมายเหตุ อัครสาวกเป็นบุคคลคนละคนกับ ยอห์ผู้ให้บัพติศมา\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/johnthebaptist.txt b/01/johnthebaptist.txt new file mode 100644 index 00000000..5dde37b5 --- /dev/null +++ b/01/johnthebaptist.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ยอห์น (ผู้ให้บัพติศมา)", + "body": "ยอห์นเป็นบุตรของเศคาริยาห์และเอลิซาเบธ เนื่องจากชื่อ \"ยอห์น\" เป็นชื่อที่ใช้กันทั่วไป เขาจึงถูกเรียกว่า \"ยอห์นผู้ให้บัพติศมา\" เพื่อให้แตกต่างจากคนอื่นที่ชื่อว่ายอห์น เช่น แตกต่างจากอัครสาวกยอห์น \n\n* ยอห์นเป็นผู้เผยพระวจนะที่พระเจ้าส่งมาเพื่อเตรียมประชากรให้เชื่อและติดตามพระเมสสิยาห์\n* ยอห์นได้บอกให้ผู้คนกลับใจจากความบาปของพวกเขาและหันมาหาพระเจ้า ให้พวกเขาหยุดทำบาป เพื่อพวกเขาจะพร้อมสำหรับการต้อนรับพระเมสสิยาห์\n* ยอห์นได้ให้บัพติศมาในน้ำแก่ผู้คนมากมายเพื่อเป็นหมายสำคัญว่าพวกเขาเสียใจต่อการทำบาปของตนและหันกลับจากความบาปเหล่านั้น\n* ยอห์นถูกเรียกว่า \"ยอห์นผู้ให้บัพติศมา\" เพราะเขาให้บัพติศมาแก่คนมากมาย\n* เพื่อให้แนใจว่าประชาชนจะเข้าใจว่า \"บัพติศมา\" ไม่ได้อ้างถึงคริสตจักรที่ใช้ชื่อนี้ จึงจำเป็นที่จะต้องใช้ชื่อว่า \"ยอห์นบัพติศมา\" หรือ \"ยอห์นผู้ให้บัพติศมา\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/jonah.txt b/01/jonah.txt new file mode 100644 index 00000000..259a0053 --- /dev/null +++ b/01/jonah.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "โยนาห์", + "body": "โยนาห์เป็นผู้เผยพระวจนะชาวฮีบรูในพันธสัญญาเดิม\n\n* พระธรรมโยนาห์พูดถึงเรื่องเมื่อพระเจ้าส่งโยนาห์ไปเทศนาให้แก่ประชาชนในเมืองนีนะเวห์\n* โยนาห์ได้ปฏิเสธที่จะไปนีนะเวห์และและลงเรือที่มุ่งหน้าไปยังอีกประเทศหนึ่งแทน\n* พระเจ้าทรงทำให้เกิดพายุใหญ่เพื่อทำให้เกิดเรือล่ม\n* เมื่อพวกผู้ชายที่อยู่ในเรือพบว่าโยนาห์ไม่เชื่อฟังพระเจ้า พวกเขาได้โยนเขาลงไปในทะเลและพายุก็หยุด\n* โยนาห์ถูกกลืนโดยปลาใหญ่และเขาได้อยู่ในท้องปลาเป็นเวลาสามวันและหลายคืน\n* หลังจากนั้น โยนาห์ได้ไปที่นีนะเวห์และได้เทศนาต่อผู้คนที่นั่น และพวกเขาหันกลับจากความบาปของพวกเขา" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/jonathan.txt b/01/jonathan.txt new file mode 100644 index 00000000..13dc8e68 --- /dev/null +++ b/01/jonathan.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "โยนาธาน", + "body": "โยนาธานเป็นชื่อของผู้ชายอย่างน้อยสิบคนในพันธสัญญาเดิม ชื่อนี้หมายความว่า \" \"พระยาห์เวห์ได้ประทาน\"\n\n* เพื่อที่ดีที่สุดของดาวิด โยนาธานเป็นที่รู้จักกันดีมากในพระคัมภีร์ในชื่อนี้ โยนาธาน คือบุตรชายคนโตของกษัตริย์ซาอูล \n* โยนาธานคนอื่นๆ ที่ถูกกล่าวถึงในพันธสัญญาเดิม เช่น ลูกหลานของโมเสส หลานชายของกษัตริย์ดาวิด ปุโรหิตหลายคน รวมทั้งบุตรชายของอาบียาธา และอาลักษณ์ในพันธสัญญาเดิมที่บ้านของเขาเป็นที่คุมขังเยเรมีย์" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/joppa.txt b/01/joppa.txt new file mode 100644 index 00000000..65ddb371 --- /dev/null +++ b/01/joppa.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ยัฟฟา", + "body": "ในสมัยพระคัมภีร์ เมืองยัฟฟาเป็นเมืองท่าทางการค้าที่สำคัญตั้งอยู่บนทะเลเมดิเตอเรเนียนทางตอนใต้ของที่ราบแห่งชารอน\n\n* แหล่งที่ตั้งโบราณของยัฟฟานั้น ปัจจุบันเป็นเมืองยัฟฟาซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของเมืองเทลอาวีฟ\n* ในพันธสัญญาเดิม ยัฟฟาเป็นเมืองที่โยนาห์นั่งเรือไปยังทารชิช\n* ในพันธสัญญาใหม่ ผู้หญิงคริสเตียนที่ชื่อทาบิธาเสียชีวิตในยัฟฟาและเปโตรชุบชีวิตให้แก่เธอ" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/joram.txt b/01/joram.txt new file mode 100644 index 00000000..9f941bc6 --- /dev/null +++ b/01/joram.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "โยราม", + "body": "โยรามเป็นบุตรชายของอาหับกษัตริย์ของอิสราเอล เขาถูกอ้างถึงในบางครั้งในชื่อ \"เยโฮราม\"\n\n* กษัตริย์โยรามแห่งอิสราเอลครองราชย์ในช่วงเวลาเดียวกันกับกษัตริย์เยโฮรามแห่งยูดาห์\n* โยรามเป็นกษัตริย์ที่ชั่วร้ายที่ได้นมัสการพระเทียมเท็จและนำอิสราเอลให้ทำบาป\n* กษัตริย์โยรามแห่งอิสราเอลได้ครองราชย์ในช่วงเวลาของผู้เผยพระวจนะเอลียาห์และโอบัดยาห์\n* ผู้ชายอีกคนที่ชื่อโยรามเป็นบุตรชายของกษัตริย์เทาแห่งฮามาธเมื่อดาวิดได้เป็นกษัตรย์\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/jordanriver.txt b/01/jordanriver.txt new file mode 100644 index 00000000..8419e728 --- /dev/null +++ b/01/jordanriver.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "แม่น้ำจอร์แดน, จอร์แดน", + "body": "แม่น้ำจอร์แดนเป็นแม่น้ำที่ไหลจากทางทิศเหนือไปสู่ทิศใต้ และกั้นขอบเขตทางตะวันออกของแผ่นดินคานาอัน \n\n* ปัจจุบันนี้ แม่น้ำจอร์แดนได้แบ่งอิสราเอลทางฝั้งตะวันตกและประเทศจอร์แดนทางฝั่งตะวันออก\n* แม่น้ำจอร์แดนไหลผ่านทะเลกาลิลีแล้วจึงไหลลงไปในทะเลตาย\n* เมื่อโยชูวาได้นำชาวอิสราเอลเข้าสู่คานาอัน พวกเขาได้ข้ามแม่น้ำจอร์แดน เพราะน้ำนั้นลึกมาก พระเจ้าได้หยุดน้ำไม่ให้ไหลด้วยการอัศจรรย์ ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถข้ามไปได้\n* บ่อยครั้งในพระคัมภีร์แม่น้ำจอร์แดนถูกอ้างถึงว่า \"จอร์แดน\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/josephnt.txt b/01/josephnt.txt new file mode 100644 index 00000000..f34ffd44 --- /dev/null +++ b/01/josephnt.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "โยเซฟ (ในพันธสัญญาใหม่)", + "body": "โยเซฟเป็นบิดาในโลกนี้ของพระเยซูและได้รับเลี้ยงพระเยซูในฐานะบุตรชายคนหนึ่ง เขาเป็นคนชอบธรรมผู้ที่ทำงานเป็นช่างไม้\n\n* โยเซฟได้หมั้นกับผู้หญิงสาวชาวยิวที่ชื่อว่า มารีย์ ผู้ซึ่งพระเจ้าได้เลือกให้เป็นมารดาของพระเยซูพระเมสสียาห์\n* ทูตสวรรค์องค์หนึ่งได้บอกแก่โยเซฟว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ทำการอัศจรรย์ด้วยการทำให้มารีย์ตั้งครรภ์ และบุตรของมารีย์คือพระบุตรของพระเจ้า\n* ภายหลังเมื่อพระเยซูกได้บังเกิดแล้ว ทูตสวรรค์ได้เตือนโยเซฟให้นำกุมารและมารีย์ไปอียิปต์เพื่อที่จะหนีจากเฮโรด\n* โยเซฟและครอบครัวของเขาใช้ชีวิตอยู่ในเมืองนาซาเร็ธแห่งกาลิลีที่เขาหาเลี้ยงชีพโดยการเป็นช่างไม้" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/josephot.txt b/01/josephot.txt new file mode 100644 index 00000000..6d23855a --- /dev/null +++ b/01/josephot.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "โยเซฟ (ในพันธสัญญาเดิม)", + "body": "โยเซฟเป็นบุตรชายคนที่สิบเอ็ดของยาโคบและเป็นบุตรชายคนแรกของราเชลผู้เป็นมารดาของเขา\n\n* โยเซฟเป็นบุตรชายที่บิดาของเขารักมาก ดังนั้นพวกพี่ชายของเขาจึงอิจฉาเขา พวกเขาขายโยเซฟไปเป็นทาส\n* ขณะที่อยู่ในอียิปต์ โยเซฟถูกกล่าวหาผิดๆ และถูกจับเข้าคุก\n* พระเจ้าได้นำเขาให้มีตำแหน่งสูงรองจากอำนาจสูงสุดในอียิปต์และได้ใช้เขาเพื่อช่วยประชาชนในเวลาที่มีอาหารไม่พอเพียง ประชาชนอียิปต์ และครอบครัวของเขาได้รับการช่วยให้พ้นจากจากความอดอยาก" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/joshua.txt b/01/joshua.txt new file mode 100644 index 00000000..07b89f43 --- /dev/null +++ b/01/joshua.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "โยชูวา", + "body": "มีผู้ชายอิสราเอลหลายคนที่ชื่อว่าโยชูวาในพระคัมภีร์ แต่คนที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดคือ โยชูวา บุตรของนูนผู้ที่เป็นผู้ช่วยของโมเสส และผู้ที่ต่อมาได้กลายเป็นผู้นำที่สำคัญคนหนึ่งของประชากรของพระเจ้า\n\n* โยชูวาเป็นหนึ่งในผู้สอดแนมสิบสองคนที่โมเสสส่งไปสำรวจแผ่นดินแห่งพันธสัญญา\n* พร้อมกันกับคาเลบ โยชูวาได้แสดงความกล้าหาญและไว้วางใจในพระเจ้าเมื่อเขาหนุนใจชาวอิสราเอลเพื่อให้เชื่อฟังพระบัญชาของพระเจ้าเพื่อเข้าสู่แผ่นดินแห่งพันธสัญญาและปราบคนคานาอันให้พ่ายแพ้\n* หลายปีต่อมา หลังจากที่โมเสสสิ้นชีวิต พระเจ้าได้ทรงแต่งตั้งให้โยชูวานำประชากรของอิสราเอลเข้าสู่แผ่นดินแห่งพันธสัญญา\n* ในสงครามครั้งแรกและเป็นสงครามที่โด่งดังมากที่สุดในการสู้รบกับคนคานาอัน โยชูวาได้นำชาวอิสราเอลทำลายเมืองเยรีโค\n* พระธรรมโยชูวาในพันธสัญญาเดิมได้ถูกบันทึกเอาไว้เกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงการนำของโยชูวา ซึ่งรวมถึงการพิชิตแผ่นดินแห่งพันธสัญญาและการแบ่งดินแดนให้กับอิสราเอลเผ่าต่างๆ \n* โยชูวาบุตรชายของโยซาดักถูกกล่าวถึงในพระธรรมฮักกัยและพระธรรมเศคารียาห์ในพันธสัญญาเดิม เขาเป็นมหาปุโรหิตที่ช่วยสร้างกำแพงกรุงเยรูซาเล็ม \n* มีผู้ชายอีกหลายคนที่ชื่อว่าโยชูวาที่ถูกกล่าวถึงในลำดับวงศ์และที่อื่นๆ ในพระคัมภีร์" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/josiah.txt b/01/josiah.txt new file mode 100644 index 00000000..b1056cb3 --- /dev/null +++ b/01/josiah.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "โยสิยาห์", + "body": "โยสิยาห์เป็นกษัตริย์ที่ชอบธรรมผู้ครองราชย์เหนืออาณาจักรยูดาห์เป็นเวลาสามสิบเอ็ดปี เขาทำหลายสิ่งหลายอย่างเพื่อหนุนใจประชากรของยูดาห์ให้กลับใจและนมัสการพระยาเวห์\n\n* หลังจากพระบิดาของเขาคือกษัตริย์อาโมนถูกปลงพระชนม์ โยสิยาห์ได้กลายมาเป็นกษัตริย์ปกครองยูดาห์เมื่อเขามีอายุได้เพียงแปดขวบ\n* ในช่วงปีที่สิบแปดแห่งการครองราชย์ของพระองค์ กษัตริย์โยสิยาห์สั่งให้ฮีลคียาห์ผู้เป็นมหาปุโรหิตรื้อฟื้นการสร้างพระวิหารของพระเจ้า ในขณะที่กำลังดำเนินการนี้ หนังสือธรรมบัญญัติต่างๆ ก็ถูกค้นพบ \n* เมื่อหนังสือแห่งธรรมบัญญัติต่างๆ ได้รับการอ่านให้แก่โยสิยาห์ เขาร่ำไห้ถึงการไม่เชื่อฟังพระเจ้าของประชากรของเขา เขาสั่งให้ทำลายทุกสถานนมัสการของรูปเคารพทั้งหมดและให้ฆ่าพวกปุโรหิตของพระเทียมเท็จ \n* เขายังสั่งให้ประชากรเริ่มเฉลิมฉลองเทศกาลปัสกาอีกครั้ง" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/jotham.txt b/01/jotham.txt new file mode 100644 index 00000000..e32724ba --- /dev/null +++ b/01/jotham.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "โยธาม", + "body": "ในพันธสัญญาเดิม มีผู้ชายสามคนที่ชื่อว่าโยธาม\n\n* โยธามคนที่หนึ่ง เป็นบุตรชายคนเล็กของกิเดโอน โยธามได้ช่วยปราบพี่ชายคนโตของเขาให้พ่ายแพ้ คืออาบีเมเลคผู้ที่ทรยศและฆ่าพี่น้องที่เหลือทั้งหมดของเขา \n* โยธามอีกคนหนึ่งเป็นกษัตริย์ปกครองเหนือยูดาห์เป็นเวลาสิบหกปีหลังจากการตายของบิดาของเขาคืออุสซียาห์ ( อาซาริยาห์)\n* เหมือนกับบิดาของเขา กษัตริย์โยธามเชื่อฟังพระเจ้าและเป็นกษัตริย์ที่ดี\n* อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้กำจัดสถานนมัสการของรูปเคารพและนี่เป็นสาเหตุที่ทำให้ประชาชนของยูดาห์ของเขาหันออกจากพระเจ้าอีกครั้ง \n* โยธามเป็นหนึ่งในรายชื่อของบรรพบุรุษในลำดับพงศ์ของพระเยซูคริสต์ในพระธรรมมัทธิว" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/joy.txt b/01/joy.txt new file mode 100644 index 00000000..5b3dcf79 --- /dev/null +++ b/01/joy.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ความยินดี, ปีติยินดี", + "body": "ความยินดีเป็นความรู้สึกอย่างหนึ่งของความปลื้มปีติหรือมีความพึงพอใจอย่างลึกซึ้งที่มาจากพระเจ้า คำที่เกี่ยวข้องกันคือคำว่า \"ปีติยินดี\" อธิบายถึงบุคคลหนึ่งที่รู้สึกดีใจอย่างมากและเต็มไปด้วยความสุขอย่างลึกซึ้ง \n\n* บุคคลที่รู้สึกชื่นชมยินดีเมื่อเขาสัมผัสอย่างลึกซึ้งว่าสิ่งที่เขากำลังประสบอยู่นั้นดีมาก\n* พระเจ้าเป็นผู้ที่ให้ความยินดีที่แท้จริงแก่ผู้คน\n* การมีความยินดีไม่ได้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่น่าพึงพอใจ พระเจ้าสามารถให้ความยินดีแก่ผู้คนได้แม้เมื่อสิ่งที่ยากลำบากอย่างยิ่งกำลังเกิดขึ้นในชีวิตของพวกเขาก็ตาม\n* บางครั้งสถานที่ก็ได้รับการอธิบายว่าเป็นความยินดี เช่น บ้าน หรือ เมืองต่างๆ นี่หมายความว่าผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นั่นมีความยินดี\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำว่า \"ความยินดี\" สามารถแปลได้อีกว่าเป็น \"ความดีใจ\" หรือ \"ปลื้มปีติ\" หรือ \"ความสุขอย่างเต็มล้น\"\n* วลี \"จงยินดี\" สามารถแปลได้ว่า \"ชื่นชมยินดี\" หรือ \"จงดีใจอย่างยิ่ง\" หรือด้วยวลีที่มีความหมายว่า \"จงมีความสุขอย่างมากในความดีของพระเจ้า\" \n* บุคคลหนึ่งที่มีความปีติยินดีสามารถอธิบายได้ว่ามี \"ความสุขอย่างมาก\" หรือ \"ปลื้มปีติ\" หรือ \"ดีใจอย่างมาก\" \n* วลีเช่น \"ส่งเสียงโห่ร้องด้วยความยินดี\" สามารแปลได้ว่า \"โห่ร้องเพื่อแสดงให้เห็นว่าท่านมีความสุขอย่างมาก\" \n* \"เมืองแห่งความยินดี\" หรือ \"บ้านแห่งความยินดี\" สามารถแปลได้ว่าเป็น \"เมืองที่มีผู้คนที่มีความยินดีอาศัยอยู่\" หรือ \"บ้านที่เต็มไปด้วยคนที่มีความยินดี\" หรือ \"เมืองที่ผู้คนมีความสุขอย่างมาก\" \n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/judah.txt b/01/judah.txt new file mode 100644 index 00000000..7ef12bf3 --- /dev/null +++ b/01/judah.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ยูดาห์", + "body": "ยูดาห์เป็นบุตรชายคนโตของยาโคบ มารดาของเขาคือเลอาห์ ลูกหลานของเขาถูกเรียกว่า \"เผ่ายูดาห์\n\n* ยูดาห์เป็นคนที่ได้บอกให้พี่ชายของเขาให้ขายน้องของพวกเขาดยเซฟให้เป็นทาสแทนที่จะปล่อยเขาให้ตายในบ่อลึก\n* กษัตริย์ดาวิดและต่อมากษัตริย์ทุกพระองค์เป็นผู้สืบเชื้อสายมาจากยูดาห์ พระเยซูด้วยเช่นกัน เป็นผู้สืบเชื้อสายมาจากยูดาห์\n* เมื่อสมัยการปกครองของซาโลมอนสิ้นสุดลงและประเทศอิสราเอลถูกแบ่งออก อาณาจักรยูดาห์เป็นส่วนทางใต้ของประเทศ\n* ในพันธสัญญาใหม่ พระธรรมวิวรณ์ พระเยซูทรงถูกเรียกว่า \" สิงห์แห่งยูดาห์\"\n* คำว่า \"ยิว\" และ \"ยูเดีย\" มาจากชื่อ \"ยูดาห์\"\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/judaism.txt b/01/judaism.txt new file mode 100644 index 00000000..2d7608a7 --- /dev/null +++ b/01/judaism.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ลัทธิยูดาห์, ศาสนายิว", + "body": "คำว่า \"ลัทธิยูดาห์\" อ้างถึงศาสนาที่ปฏิบัติกันโดยพวกยิว มีการอ้างถึงเช่น \"ศาสนายิว\"\n\n* ในพันธสัญญาเดิม คำว่า \"ศาสนายูดาห์\" ได้ถูกใช้ ขณะที่ในสมัยพันธสัญญาใหม่ คำว่า \"ลัทธิยูดาห์ ถูกใช้\n* ลัทธิยูดาห์ รวมเอาธรรมบัญญัติในพันธสัญญาเดิมทั้งหมดและคำสั่งทุกประการที่พระเจ้าให้ไว้แก่อิสราเอลเพื่อการเชื่อฟัง รวมถึงพิธีกรรมและประเพณีต่างๆ ที่ได้ถูกเพิ่มเข้าในศาสนายิวตลอดเวลาที่ผ่านมาด้วย\n* เมื่อมีการแปล คำว่า \"ศาสนายิว\" หรือ \"ศาสนาของพวกยิว\" สามารถถูกใช้ได้ทั้งในพันธสัญญาเดิมและในพันธสัญญาใหม่ \n* อย่างไรก็ตาม คำว่า \"ลัทธิยูดาห์\" ควรถูกใช้แค่ในพันธสัญญาใหม่เนื่องจากคำนั้นไม่เคยมีมาก่อนหน้านั้น " + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/judasiscariot.txt b/01/judasiscariot.txt new file mode 100644 index 00000000..a06ad24b --- /dev/null +++ b/01/judasiscariot.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ยูดาส อิสคาริโอท", + "body": "ยูดาส อิสคาริโอทเป็นหนึ่งในสาวก สิบสองคนของพระเยซู เขาเป็นคนที่ทรยศพระเยซูกับพวกผู้นำชาวยิว\n\n* ชื่อ \"อิสคาริโอท\" อาจหมายถึง \"จากเคริโอท\" บางทีอาจอ้างอิงถึงเมืองที่ยูดาสเติบโตขึ้นมา\n* ยูดาส อิสคาริโอท ได่เป็นผู้จัดการเงินของอัครสาวกและขโมยเงินบางส่วนเก็บเอาไว้กับตัวเองอยู่เป็นประจำ\n* ยูดาสได้ทรยศพระเยซูโดยการบอกพวกผู้นำศาสนาว่าพระเยซูอยู่ที่ไหนเพื่อพวกเขาสามารถจับกุมพระองค์ได้\n* หลังจากพวกผู้นำศาสนาลงโทษพระเยซูให้ถึงความตาย ยูดาสเสียใจที่เขาทรยศพระเยซู ดังนั้นจึงฆ่าตัวตาย\n* อัครสาวกอีกคนหนึ่งที่ชื่อว่ายูดาสด้วยเช่นกัน คนหนึ่งคือน้องชายของพระเยซูและสาวก มีอีกหลายคนที่ชื่อว่ายูดาสในพระคัมภีร์ เช่นน้องชายพระเยซูและอัครสาวกอีกคนหนึ่ง น้องชายของพระเยซูก็มีอีกชื่อว่า \"ยูดาส\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/judassonofjames.txt b/01/judassonofjames.txt new file mode 100644 index 00000000..5c0679dc --- /dev/null +++ b/01/judassonofjames.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ยูดาส บุตรของยากอบ", + "body": "ยูดาส บุตรของยากอบ เป็นหนึ่งในสาวกสิบสองคนของพระเยซู บันทึกไว้ว่ายูดาสคนนี้ไม่ใช่คนเดียวกันกับยูดาส อิสคาริโอท\n\n* บ่อยครั้งในพระคัมภีร์ เมื่อมีคนที่ชื่อเหมือนกันก็จะต่อท้ายว่าพวกเขาเป็นบุตรของใครเพื่อเป็นการแยกแยะ ที่นี่ยูดาสได้รับการระบุว่าเป็น \"บุตรของยากอบ\"\n* ชายอีกคนที่ชื่อว่า ยูดาส เป็นน้องชายของพระเยซู เขาเป็นที่รู้จักดีในชื่อ \"ยูดา\"\n* พระธรรม \"ยูดา\" ในพันธสัญญาใหม่นั้น เป็นไปได้ว่าเขียนโดยน้องชายของพระเยซู เนื่องจากเขาระบุถึงตัวเองว่าเป็น \"น้องชายของยากอบ\" ยากอบเป็นน้องชายอีกคนหนึ่งของพระเยซู\n* จึงเป็นไปได้ด้วยเหมือนกันว่าพระธรรมยูดานั้นเขียนโดยสาวกของพระเยซูที่ชื่อว่า ยูดาส บุตรของยากอบ" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/judea.txt b/01/judea.txt new file mode 100644 index 00000000..6d89822f --- /dev/null +++ b/01/judea.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ยูเดีย", + "body": "คำว่า \"ยูเดีย\" อ้างถึงพื้นที่ของแผ่นดินในอิสราเอลโบราณ บางครั้งก็ถูกใช้ในความหมายที่แคบและบางครั้งก็ใช้ในความหมายที่กว้างกว่า\n\n* บางครั้ง \"ยูเดีย\" ถูกใช้ในความหมายที่แคบเพื่ออ้างถึงแคว้นเจาะจงที่อยู่ทางตอนใต้ของอิสราเอลโบราณซึ่งอยู่ทางตะวักตกของทะเลตายเท่านั้น ฉบับแปลบางฉบับเรียกแคว้นนี้ว่า \"ยูเดีย\"\n* บางครั้ง \"ยูเดีย\" ได้ใช้ในความหมายที่กว้างและอ้างถึงแคว้นทั้งหมดของอิสราเอลโบราณ ซึ่งรวมถึงแคว้นกาลิลี สะมาเรีย เปเรีย ไอดูเมีย และยูเดีย (ยูดาห์)\n* ถ้าผู้แปลต้องการทำให้เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน ในความหมายที่กว้างของยูเดีย (เช่นใน ลูกา 1:5) สามารถแปลได้ว่า \"ประเทศยูเดีย\" และในความหมายที่แคบ (เช่นใน ลูกา 1:39) สามารถแปลได้ว่า \"จังหวัดยูเดีย\" หรือ \"จังหวัดยูดาห์\" เนื่องจากนี่คือส่วนหนึ่งของดินแดนอิสราเอลโบราณที่เผ่ายูดาห์ได้อาศัยอยู่ตั้งแต่ดั้งเดิม" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/judge.txt b/01/judge.txt new file mode 100644 index 00000000..a31f45de --- /dev/null +++ b/01/judge.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ตัดสิน, พิพากษา", + "body": "คำว่า \"ตัดสิน\" และ \"พิพากษา\" มักจะอ้างถึงการตัดสินใจเกี่ยวกับบางสิ่งในทางศีลธรรมว่าถูกหรือผิด\n\n* \"การพิพากษาของพระเจ้า\" มักจะอ้างถึงการตัดสินใจของพระองค์เพื่อลงโทษบางสิ่งที่บาปหรือบางคนที่ทำบาป\n* โดยปกติการพิพากษาของพระเจ้าจะรวมถึงการลงโทษผู้คนสำหรับความบาปของพวกเขา\n* คำว่า \"ตัดสิน\" สามารถหมายถึง \"การกล่าวโทษ\" พระเจ้าทรงสั่งสอนประชากรของพระองค์ไม่ให้ตัดสินกันและกันด้วยวิธีการนี้\n* อีกความหมายหนึ่งคือ \"ตัดสินชี้ขาดระหว่าง\" หรือ \"ตัดสินระหว่าง\" อย่างเช่นตัดสินใจว่าบุคคลใดเป็นฝ่ายถูกต้องในข้อพิพาทระหว่างพวกเขา\n* ในบางบริบท \"การพิพากษา\" ของพระเจ้า คือสิ่งที่พระองค์ได้ตัดสินใจว่าถูกต้องและยุติธรรม เหมือนกับกฤษฎีกา กฎหมาย หรือคำสั่งสอนของพระองค์\n* \"การพิพากษา\" สามารถอ้างถึงความสามารถในการตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด บุคคลหนึ่งที่ขาด \"การพิพากษา\" ก็ไม่มีสติปัญญาในการตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ขึ้นอยู่กับบริบท วิธีในการแปล \"ตัดสิน\" สามารถรวม \"ตัดสินใจ\" หรือ \"กล่าวโทษ\" หรือ \"ลงโทษ\" หรือ \"ให้กฤษฎีกา\" ได้\n- คำว่า \"พิพากษา\" สามารถแปลว่า \"การลงโทษ\" หรือ \"การตัดสินใจ\" หรือ \"คำตัดสินสุดท้าย\" หรือ \"ตัดสินชี้ขาด\" หรือ \"การกล่าวโทษ\"\n* ในบางบริบท วลี \"ในการพิพากษา\" สามารถแปลว่า \"ในวันพิพากษา\" หรือ \"ระหว่างเวลาเมื่อพระเจ้าทรงพิพากษาประชาชน\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/judgeposition.txt b/01/judgeposition.txt new file mode 100644 index 00000000..201f1003 --- /dev/null +++ b/01/judgeposition.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ผู้พิพากษา", + "body": "ผู้พิพากษาคือบุคคลหนึ่งที่ตัดสินว่าสิ่งใดถูกหรือผิดในศาล เมื่อมีข้อขัดแย้งระหว่างประชาชน โดยปกติในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกฏหมาย\n\n* ในพระคัมภีร์ พระเจ้ามักจะถูกอ้างถึงในฐานะผู้พิพากษาเพราะพระองค์ทรงเป็นผู้เดียวที่พิพากษาผู้ทำการตัดสินครั้งสุดท้ายว่าสิ่งใดถูกหรือผิด \n* หลังจากที่ประชาชนชาวอิสราเอลได้เข้าสู่แผ่นดินคานาอันและก่อนที่พวกเขามีกษัตริย์ปกครองเหนือพวกเขา พระเจ้าได้แต่งตั้งบรรดาผู้นำที่เรียกว่า \"ผู้วินิจฉัย\" เพื่อนำพวกเขาในช่วงเวลาแห่งความทุกข์ยาก ส่วนใหญ่ผู้วินิจฉัยเหล่านี้เป็นผู้นำกองทัพที่ช่วยกู้อิสราเอลโดยการปราบพวกศัตรูให้พ่ายแพ้ไป\n* คำว่า \"ผู้พิพากษา\" สามารถเรียกอีกอย่างว่า \"ผู้ทำการตัดสินใจ\" หรือ \"ผู้นำ\" หรือ \"ผู้ช่วยกู้\" หรือ \"ผู้มีอำนาจปกครอง\" ขึ้นอยู่กับบริบทนั้นๆ\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/judgmentday.txt b/01/judgmentday.txt new file mode 100644 index 00000000..6cf7bbc6 --- /dev/null +++ b/01/judgmentday.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "วันพิพากษา", + "body": "คำว่า \"วันพิพากษา\" อ้างถึงเวลาในอนาคตเมื่อพระเจ้าจะตัดสินทุกคน\n\n* พระเจ้าได้ทรงสร้างพระบุตรของพระองค์ คือ พระเยซูคริสต์ ผู้ตัดสินมนุษย์ทุกคน\n* ในวันพิพากษา พระคริสต์จะตัดสินผู้คนบนพื้นฐานของพระลักษณะอันชอบธรรมของพระองค์\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำนี้สามารถแปลได้อีกว่า \"เวลาพิพากษา\" เนื่องจากสามารถอ้างถึงเวลามากกว่าหนึ่งวัน\n* อีกวิธีในการแปลคำนี้คือสามารถแปลรวม \"ยุคสุดท้ายเมื่อพระเจ้าจะตัดสินมนุษย์ทุกคน\" \n* ในการแปลบางครั้งใช้ตัวพิมพ์ใหญ่สำหรับคำนี้เพื่อแสดงให้เห็นว่าเป็นชื่อของวันหรือเวลาที่พิเศษ \"วันพิพากษา\" หรือ \"ช่วงเวลาพิพากษา\" (เฉพาะภาษาอังกฤษ ทีมีการขึ้นต้นด้วยตัวอักษรใหญ่)\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/justice.txt b/01/justice.txt new file mode 100644 index 00000000..88ce622e --- /dev/null +++ b/01/justice.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เป็นธรรม , เที่ยงธรรม, อย่างเที่ยงธรรม", + "body": "คำเหล่านี้อ้างถึงการปฏิบัติต่อผู้คนอย่างยุติธรรมตามกฎหมายของพระเจ้า กฎหมายของมนุษย์ที่สะท้อนถึงมาตรฐานของพระเจ้าในเรื่องการประพฤติที่ถูกต้องต่อผู้อื่นนั้นเป็นความชอบธรรมด้วย\n\n* \"เป็นธรรม\" คือ การกระทำด้วยความยุติธรรมและด้วยวิธีการที่ถูกต้องต่อผู้อื่น อีกทั้งยังหมายถึงความซื่อสัตย์และความสุจริตในการทำสิ่งที่ถูกต้องในทางศีลธรรมในสายตาของพระเจ้า\n* การกระทำ \"อย่างเที่ยงธรรม\" หมายถึง การปฏิบัติต่อผู้คนด้วยวิธีการที่ถูกต้อง ดี และเหมาะสมตามกฎหมายของพระเจ้า\n* การรับ \"ความเที่ยงธรรม\" หมายถึงการได้รับการปฏิบัติอย่างยุติธรรมภายใต้กฎหมาย รวมถึงการได้รับการปกป้องโดยกฎหมาย หรือได้รับการลงโทษสำหรับการฝ่าฝืนกฎหมาย\n* บางครั้งคำว่า \"เป็นธรรม\" เป็นคำที่มีความหมายแบบกว้างของคำว่า \"ชอบธรรม\" หรือ \"การทำตามกฎหมายของพระเจ้า\"\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ขึ้นอยู่กับบริบท วิธีการแปลอีกอย่างของคำว่า \"เป็นธรรม\" สามารถรวมคำว่า \"ถูกต้องตามศีลธรรม\" หรือ \"ยุติธรรม\"\n* คำว่า \"เที่ยงธรรม\" สามารถแปลว่า \"การปฏิบัติอย่างยุติธรรม\" หรือ \"ได้รับผลที่ตามมาอย่างเหมาะสม\" \n* การ \"กระทำอย่างเที่ยงธรรม\" สามารถแปลได้อีกว่า \"การปฏิบัติอย่างยุติธรรม\" หรือ \"ประพฤติในทางที่เที่ยงธรรม\"\n* ในบางบริบท คำว่า \"เป็นธรรม\" สามารถแปลว่า \"ชอบธรรม\" หรือ \"เที่ยงตรง\"\n\n\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/justify.txt b/01/justify.txt new file mode 100644 index 00000000..72a581a9 --- /dev/null +++ b/01/justify.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ทำให้ชอบธรรม, การนับเป็นผู้ชอบธรรม", + "body": "คำว่า \"ทำให้ชอบธรรม\" และ \"การนับเป็นผู้ชอบธรรม\" อ้างถึงการทำให้บุคคลที่มีความผิดเป็นคนชอบธรรม มีเพียงพระเจ้าผู้เดียวที่สามารถทำให้คนชอบธรรมอย่างแท้จริงได้\n\n* เมื่อพระเจ้าทรงทำให้คนเป็นผู้ชอบธรรม พระองค์ทรงให้อภัยความบาปของพวกเขาและทำให้พวกเขาไม่มีบาป พระองค์ทำให้คนบาปที่กลับใจใหม่และไว้วางใจในพระเยซูเพื่อช่วยพวกเขาให้รอดพ้นจากความบาป\n* \"การนับเป็นผู้ชอบธรรม\" อ้างถึงสิ่งที่พระเจ้าทรงกระทำเมื่อพระองค์ให้อภัยความบาปของบุคคลหนึ่งและประกาศว่าบุคคลนั้นชอบธรรมในสายพระเนตรของพระองค์\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* วิธีการแปลอีกอย่างของคำว่า \"ทำให้ชอบธรรม\" สามารถรวมคำว่า \"ประกาศ\" " + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/kadesh.txt b/01/kadesh.txt new file mode 100644 index 00000000..f40825bc --- /dev/null +++ b/01/kadesh.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "คาเดช, คาเดชบารเนีย, เมรีบาห์คาเดช", + "body": "ชื่อคาเดช คาเดชบารเนีย และเมรีบาห์คาเดช ทั้งหมดอ้างถึงเมืองที่สำคัญเมืองหนึ่งในประวัติศาสตร์อิสราเอลซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของอิสราเอล ใกล้กับแคว้นเอโดม\n\n* เมืองคาเดชเป็นโอเอซิส คือ สถานที่ที่มีน้ำและดินดีในใจกลางของทะเลทรายชื่อว่าสิน \n* โมเสสส่งผู้สอดแนมสิบสองคนเข้าไปในแผ่นดินคานาอันจากคาเดชบารเนีย\n* อิสราเอลตั้งค่ายที่คาเดชในช่วง\nระหว่างการกันดารอาหารในช่วงที่เดินทางรอนแรมไปในถิ่นทุรกันดารด้วย\n* คาเดชบารเนียคือสถานที่ที่มิเรียมเสียชีวิต\n* ที่เมรีบาห์คาเดช โมเสสไม่เชื่อฟังพระเจ้าและได้ตีก้อนหินทำให้น้ำไหลออกมาเพื่อชาวอิสราเอลแทนที่จะพูดกับก้อนหินตามที่พระเจ้าได้สั่งให้เขาทำ\n* ชื่อ \"คาเดช\" มาจากคำภาษาฮีบรู มีความหมายว่า \"ศักดิ์สิทธิ์\" หรือ \"แยกออกมา\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/kedar.txt b/01/kedar.txt new file mode 100644 index 00000000..4c7f5ba5 --- /dev/null +++ b/01/kedar.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เคดาร์", + "body": "เคดาร์เป็นชื่อของบุตรชายคนที่สองของอิชมาเอล เป็นชื่อของเมืองสำคัญ ซึ่งบางทีได้ชื่อมาจากผู้ชายคนนี้\n\n* เมืองเคดาร์ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของอาราเบียใกล้กับเขตแดนทางตอนใต้ของปาเลสไตน์ ในสมัยพระคัมภีร์ เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นเมืองที่ยิ่งใหญ่และสวยงาม\n* ลูกหลานของเคดาร์ได้รวมกลุ่มของประชาชนที่เรียกว่า \"เคดาร์\"\n* คำว่า \"เต็นท์ที่มืดมิดแห่งเคดาร์\" อ้างถึงเต็นท์ขนแพะสีดำที่ประชาชนเคดาร์ได้อาศัยอยู่\n* พวกประชาชนเหล่านี้ได้เลี้ยงแพะและแกะ พวกเขาได้ใช้อูฐในการส่งของ\n* ในพระคัมภีร์ คำว่า \"สง่าราศีแห่งเคดาร์\" พูดถึงความยิ่งใหญ่ของเมืองนั้นและประชาชนของเมืองนั้น" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/kedesh.txt b/01/kedesh.txt new file mode 100644 index 00000000..69e1d911 --- /dev/null +++ b/01/kedesh.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เคเดช", + "body": "เคเดชคือเมืองหนึ่งของคานาอันซึ่งถูกยึดครองโดยคนอิสราเอลเมื่อพวกเขาเข้าสู่แผ่นดินคานาอัน\n\n* เมืองนี้ตั้งอยู่ในทางตอนเหนือของอาณาเขตของอิสราเอล ในส่วนของแผ่นดินที่ได้ถูกมอบให้แก่เผ่านัฟทาลี\n* เคเดชเป็นเมืองหนึ่งของหลายเมืองที่ได้รับเลือกให้เป็นเมืองที่พวกปุโรหิตชาวเลวีสามารถอาศัยอยู่ เนื่องจากพวกเขาไม่ได้มีแผ่นดินเป็นของตนเอง\n* มันเป็นเมืองที่ถูกแยกออกมาให้เป็น \"เมืองของการลี้ภัย\"\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/kidronvalley.txt b/01/kidronvalley.txt new file mode 100644 index 00000000..99ee4de3 --- /dev/null +++ b/01/kidronvalley.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "หุบเขาขิดโรน", + "body": "หุบเขาขิดโรนเป็นหุบเขาลึกอยู่นอกกรุงเยรูซาเล็ม อยู่ระหว่างกำแพงทางทิศตะวันออกกับภูเขามะกอกเทศ\n\n* หุบเขานี้ลึกมากกว่า 1,000 เมตร และยาวประมาณ 32 กิโลเมตร\n* เมื่อกษัตริย์ดาวิดกำลังหลบหนีจากบุตรชายของเขาคือ อับซาโลม พระองค์ได้ผ่านหุบเขาขิดโรนเพื่อไปยังภูเขามะกอกเทศ\n* กษัตริย์โยสิยาห์และกษัตริย์อาสาแห่งยูดาห์ได้สั่งให้สถานสูงและแท่นบูชาของพระเทียมเท็จต้องถูกทำลายและถูกเผาเสีย และขี้เถ้าถูกทิ้งในหุบเขาขิดโรน\n* ในช่วงระหว่างการครองราชย์ของกษัตริย์เฮเซคียาห์ หุบเขาขิดโรนคือที่ที่บรรดาปุโรหิตได้ทิ้งทุกสิ่งที่ไม่บริสุทธิ์ที่พวกเขากำจัดออกจากพระวิหาร\n* พระราชินีที่ชั่วร้ายคือ อาธาลิยาห์ ได้ถูกสังหารในหุบเขานี้เพราะสิ่งชั่วร้ายที่เธอได้กระทำ" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/kin.txt b/01/kin.txt new file mode 100644 index 00000000..e617efdf --- /dev/null +++ b/01/kin.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ญาติ, ญาติพี่น้อง", + "body": "คำว่า \"ญาติ\" อ้างถึงบุคคลที่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด คำว่า \"ญาติพี่น้อง\" อ้างถึงเป็นพิเศษกับญาติที่เป็นผู้ชาย\n\n* คำานี้สามารถอ้างถึงญาติสนิท อย่างเช่น พ่อแม่ หรือพี่น้อง หรือญาติที่ห่างออกไป เช่น ป้า ลุง หรือลูกพี่ลูกน้อง\n*ในอิสราเอลยุคโบราณ ถ้าหากผู้ชายคนหนึ่งเสียชีวิต ญาติพี่น้องผู้ชายที่ใกล้ชิดที่สุดของเขาย่อมถูกคาดหวังให้แต่งงานกับภรรยาที่เป็นม่ายของเขา ให้จัดการดูแลทรัพย์สมบัติและช่วยสืบทอดนามสกุลของเขา ญาติพี่น้อง-ผู้ไถ่\"\n* คำนี้สามารถแปลว่า \"ญาติพี่น้อง\" หรือ \"สมาชิกครอบครัว\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/kind.txt b/01/kind.txt new file mode 100644 index 00000000..4bee5be2 --- /dev/null +++ b/01/kind.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ชนิด", + "body": "คำว่า \"ชนิด\" และ \"หลายชนิด\" อ้างถึงกลุ่มหรือประเภทของสิ่งต่างๆที่เกี่ยวข้องกันโดยคุณลักษณะพิเศษร่วมกัน\n\n* ในพระคัมภีร์ คำนี้ใช้เฉพาะเพื่ออ้างถึงประเภทที่แตกต่างกันของต้นไม้และสัตว์ต่างๆ ที่พระเจ้าทรงเนรมิตสร้างโลกนี้\n * บ่อยครั้งที่มีความแตกต่างหลากหลายหรือหลายสายพันธุ์ที่อยู่ในแต่ละ \"ชนิด\" ตัวอย่างเช่น ม้า ม้าลาย และลา ล้วนเป็นสัตว์ที่อยู่ใน \"ชนิด\" เดียวกัน แต่แตกต่างสายพันธุ์กัน\n* สิ่งสำคัญคือการจำแนกแต่ละ \"ชนิด\" ออกเป็นกลุ่มต่างหากซึ่งหมายถึงสมาชิกของกลุ่มนั้นสามารถแพร่พันธุ์สิ่งที่เป็น \"ชนิด\" เดียวกันได้มากขึ้นอีก สมาชิกต่างสายพันธุ์ไม่สามารถทำสิ่งนี้ต่อกัน\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* วิธีแปลคำนี้สามารถรวม \"ชนิด\" หรือ \"ชั้น\" หรือ \"กลุ่ม\" หรือ \"สัตว์\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/king.txt b/01/king.txt new file mode 100644 index 00000000..9d47f950 --- /dev/null +++ b/01/king.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "กษัตริย์, พระราชา", + "body": "คำว่า \"กษัตริย์\" อ้างถึงผู้ชายผู้ที่เป็นผู้ปกครองสูงสุดของเมืองหนึ่ง หรือรัฐหนึ่ง หรือประเทศหนึ่ง\n\n* กษัตริย์โดยปกติจะถูกเลือกมาปกครองเพราะว่าครอบครัวของเขามีความเกี่ยวข้องกับกษัตริย์หลายพระองค์ก่อนหน้านั้น\n* เมื่อกษัตริย์สิ้นพระชนม์ โดยปกติพระโอรสที่เป็นพี่คนโตจะกลายเป็นกษัตริย์องค์ต่อไป\n* ในสมัยโบราณ กษัตริย์อาจจะอ้างถึงบางคนที่ไม่ได้เป็นกษัตริย์จริง อย่างเช่น \"กษัตริย์เฮโรด\" ในพันธสัญญาใหม่\n* ในพระคัมภีร์ พระเจ้าได้รับการอ้างถึงว่าเป็นกษัตริย์ที่ทรงปกครองเหนือประชากรของพระองค์\n* \"อาณาจักรของพระเจ้า\" อ้างถึงการปกครองของพระเจ้าหนือประชากรของพระองค์\n* พระเยซูทร่งถูกเรีรยกว่า \"กษัตริย์ของพวกยิว\" \"กษัตริย์ของอิสราเอล\" และ \"กษัตริย์เหนือกษัตริย์ทั้งปวง\"\n* เมื่อพระเยซูเสด็จกลับมา พระองค์จะทรงปกครองเช่นกษัตริย์เหนือโลก\n* คำนี้สามารถแปลว่า \"หัวหน้าสูงสุด\" หรือ \"ผู้นำสูงสุด\" หรือ \"ผู้ปกครองผู้มีอำนาจสูงสุด\"\n* วลี \"กษัตริย์เหนือกษัตริย์ทั้งปวง\" สามารถแปลว่า \"กษัตริย์ผู้ทรงปกครองเหนือกษัตริย์อื่น\" หรือ \"ผู้ปกครองสูงสุดผู้มีอำนาจสิทธิขาดเหนือผู้ปกครองอื่นๆ\"\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/kingdom.txt b/01/kingdom.txt new file mode 100644 index 00000000..e859b57c --- /dev/null +++ b/01/kingdom.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "อาณาจักร", + "body": "อาณาจักรคือกลุ่มคนที่ถูกปกครองโดยกษัตริย์องค์หนึ่ง และยังอ้างถึงดินแดนหรือภูมิภาคทางการเมืองที่กษัตริย์หรือผู้ครอบครองคนอื่นได้ควบคุมและมีอำนาจเหนือ\n\n* ราชอาณาจักรสามารถมีขนาดใดก็ได้ทางภูมิศาสตร์ กษัตริย์องค์หนึ่งอาจปกครองชนชาติหนึ่งหรือประเทศหนึ่งหรือเมืองหนึ่งเท่านั้น\n* คำว่า \"อาณาจักร\" สามารถกล่าวถึงการครอบครองหรือสิทธิอำนาจในฝ่ายจิตวิญญาณเหมือนกับคำว่า \"อาณาจักรของพระเจ้า\" \n* พระเจ้าทรงปกครองเหนือทุกสิ่งที่ทรงสร้าง แต่คำว่า \"อาณาจักรของพระเจ้า\" อ้างถึงอย่างเจาะจงถึงการครอบครองของพระองค์และสิทธิอำนาจเหนือประชากรที่ได้เชื่อในพระเยซูและผู้ที่ได้ยอมอยู่ภายใต้สิทธิอำนาจของพระองค์\n* พระคัมภีร์พูดเกี่ยวกับซาตานว่ามี \"อาณาจักร\" ที่มันปกครองเพียงชั่วคราวเหนือสิ่งต่างๆมากมายบนแผ่นดินโลกนี้ อาณาจักรของมันนั้นชั่วร้ายและถูกอ้างถึงว่าเป็น \"ความมืด\" \n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* เมื่อมีการอ้างถึงภูมิภาคทางด้านกายภาพที่ปกครองโดยกษัตริย์ คำว่า \"อาณาจักร\" สามารถแปลว่า \"ประเทศ\" \n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/kingdomofgod.txt b/01/kingdomofgod.txt new file mode 100644 index 00000000..342cda7b --- /dev/null +++ b/01/kingdomofgod.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "อาณาจักรของพระเจ้า, อาณาจักรสวรรค์", + "body": "คำว่า \"อาณาจักรของพระเจ้า\" และ \"อาณาจักรสวรรค์\" ทั้งสองคำอ้างถึงการปกครองและสิทธิอำนาจของพระเจ้าเหนือประชากรและเหนือสิ่งทรงสร้างทั้งปวง\n\n* ชาวยิวมักจะใช้คำว่า \"สวรรค์\" เพื่ออ้างถึงพระเจ้า เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการกล่าวถึงพระนามของพระองค์โดยตรง (ดู: [metonymy](https://git.door43.org/Door43/en-ta-translate-vol2/src/master/content/figs_metonymy.md))\n* ในพันธสัญญาใหม่ที่มัทธิวได้เขียน เขาได้พูดถึงอาณาจักรของพระเจ้าว่าเป็น \"อาณาจักรสวรรค์\" บางทีเขากำลังเขียนถึงคนดั้งเดิมคือชาวยิว\n* อาณาจักรของพระเจ้าอ้างถึงพระเจ้าผู้กำลังปกครองเหนือประชากรฝ่ายวิญญาณเหมือนกับการปกครองเหนือโลกทางกายภาพ\n* ผู้เผยพระวจนะในพระคัมภีร์พันธสัญญาเดิมได้กล่าวว่าพระเจ้าจะส่งพระเมสสิยาห์เพื่อมาปกครองด้วยความชอบธรรม พระเยซูผู้ทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า คือพระเมสสิยาห์ผู้ที่จะปกครองเหนืออาณาจักรของพระเจ้าชั่วนิรันดร์\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า \"อาณาจักรของพระเจ้า\" สามารถแปลว่า \"การปกครองของพระเจ้า\" " + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/kingdomofisrael.txt b/01/kingdomofisrael.txt new file mode 100644 index 00000000..01c14bbe --- /dev/null +++ b/01/kingdomofisrael.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "อาณาจักรอิสราเอล", + "body": "คำว่า \"อาณาจักรอิสราเอล\" อ้างถึงส่วงทางเหนือของประเทศอิสราเอลเมื่อสิบสองเผ่าของอิสราเอลถูกแบ่งออกเป็นสองอาณาจักรหลังจากหลังจากกษัตริย์ซาโลมอนสวรรคต\n\n* อาณาจักรของอิสราเอลในตอนเหนือมีสิบเผ่าและอาณาจักรยูดาห์ในตอนใต้มีสองเผ่า\n* เมื่อหลวงของอาณาจักรอิสราเอลคือสะมาเรีย ซึ่งอยู่ห่างประมาณ 50 กิโลเมตรจากกรุงเยรูซาเล็ม เมืองหลวงของยูดาห์\n* กษัตริย์ทุกพระองค์แห่งราชอาณาจักรอิสราเอลล้วนชั่วร้าย พวกเขาใช้อิทธิพลให้ประชากรปรนนิบัติรูปเคารพและพระเทียมเท็จแทน \n* พระเจ้าได้ทรงส่งอัสซีเรียดจมต่อาณาจักรอิสราเอล ประชาชนอิสราเลจำนวนมากถูกจับเป็นเชลยและถูกกวาดต้อนไปใช้ชีวิตในอัสซีเรีย\n* พวกอัสซีเรียได้นำพวกคนต่างชาติเขามาอาศัยร่วมอยู่กับประชากรที่เหลืออยู่เพียงเล็กน้อยในอาณาจักรอิสราเอล คนต่างชาติเหล่านี้แต่งงานกับชาวอิสราเอลและเชื้อสายของพวกเขาคือชาวสะมาเรีย\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/kingdomofjudah.txt b/01/kingdomofjudah.txt new file mode 100644 index 00000000..0a42313a --- /dev/null +++ b/01/kingdomofjudah.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ยูดาห์, อาณาจักรยูดาห์", + "body": "เผ่ายูดาห์เป็นเผ่าที่ใหญ่ที่สุดในท่ามกลางสิบสองเผ่าของอิสราเอล อาณาจักรยูดาห์ได้ถูกแบ่งออกเป็นยูดาห์และเบนยามิน\n\n* หลังจากที่กษัตริย์ซาโลมอนสวรรคต ประเทศอิสราเอลถูกแบ่งออกเป็นสองอาณาจักร คือ อิสราเอลและยูดาห์ อาณาจักรยูดาห์เป็นอาณาาจักรทางตอนใต้ตั้งอยู่ทางตะวันตกของทะเลเกลือ\n* เมืองหลวงของอาณาจักรยูดาห์คือกรุงเยรูซาเล็ม\n* กษัตริย์เจ็ดพระองค์ของอาณาจักรยูดาห์เชื่อฟังพระเจ้าและนำประชากรนมัสการพระองค์ แต่มีกษัตริย์หลายองค์ของยูดาห์ที่ชั่วร้ายและได้นำประชาชนไปนมัสการรูปเคารพ\n* มากกว่า 120 ปีหลังจากอัสซีเรียได้ปราบปรามอิสราเอล (อาณาจักรทางตอนเหนือ) ยูดาห์ถูกพิชิตโดยชนชาติบาบิโลน ชาวบาบิโลนได้ทำลายเมืองและพระวิหาร และนำคนส่วนใหญ่จากอาณาจักรยูดาห์ไปเป็นเชลยที่บาบิโลน" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/kingofthejews.txt b/01/kingofthejews.txt new file mode 100644 index 00000000..3a196891 --- /dev/null +++ b/01/kingofthejews.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "กษัตริย์ของพวกยิว", + "body": "คำว่า \"กษัตริย์ของพวกยิว\" เป็นตำแหน่งที่อ้างถึงพระเยซู พระเมสสิยาห์\n\n* ครั้งแรกที่ตำแหน่งนี้ได้รับการบันทึกในพระคัมภีร์คือเมื่อนักปราชญ์ผู้ที่เดินทางไปยังเบธเลเฮ็มเพื่อตามหาทารกน้อยผู้เป็น \"กษัตริย์ของพวกยิว\" \n* ทูตสวรรค์เปิดเผยต่อมารีย์ว่าบุตรชายของเธอผู้เป็นเชื้อสายของกษัตริย์ดาวิด จะเป็นกษัตริย์องค์หนึ่งที่ครอบครองจนชั่วนิรันดร์\n* ก่อนพระเยซูถูกตรึง พวกทหารโรมันพูดล้อเลียนพระเยซูว่า \"กษัตริย์ของพวกยิว\" ตำแหน่งนี้ถูกเขียนไว้บนแผ่นไม้และตอกตะปูติดไว้บนกางเขนของพระเยซู\n* พระเยซูทรงเป็นกษัตริย์ที่แท้จริงของพวกยิวและทรงเป็นกษัตริย์เหนือสิ่งทรงสร้างทั้งปวง\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำว่า \"กษัตริย์ของพวกยิว\" สามารถแปลได้ว่า \"กษัตริย์เหนือพวกยิว\" หรือ \"กษัตริย์ผู้ปกครองเหนือพวกยิว\" หรือ \"ผู้ปกครองสูงสุดเหนือพวกยิว\"* \n* ตรวจสอบดูวิธีการแปลวลี \"กษัตริย์ของ\" ในตอนอื่นในการแปลด้วย" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/kiss.txt b/01/kiss.txt new file mode 100644 index 00000000..f882b5f6 --- /dev/null +++ b/01/kiss.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "การจูบ", + "body": "การจูบคือการกระทำซึ่งบุคคลหนึ่งประกบริมฝีปากกับอีกคนหนึ่ง หรือหน้า คำนี้สามารถใช้ในเชิงอุปมาอุปมัยได้ด้วย\n\n* ในบางวัฒนธรรมการจูบกันบนแก้มเพื่อเป็นการทักทายหรือกล่าวอำลา\n* การจูบสามารถสื่อถึงความรักได้อย่างลึกซึ้งระหว่างคนสองคน เช่น ระหว่างสามีกับภรรยา\n* คำกล่าว \"จูบอำลาบางคน\" หมายความว่ากล่าวอำลาโดยการจูบ\n* บางครั้งคำว่า \"จูบ\" ถูกใช้ในความหมายว่า \"กล่าวอำลาต่อ\" เมื่อเอลิชาได้กล่าวกับเอลียาห์ \"ให้ข้าพเจ้าไปและจูบบิดาและมารดาของเข้าพเจ้าก่อน\" เขาได้ต้องการที่จะกล่าวอำลากับบิดามารดาของเขาก่อนจากพวกเขาเพื่อติดตามเอลียาห์\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/know.txt b/01/know.txt new file mode 100644 index 00000000..30e4ee8c --- /dev/null +++ b/01/know.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "รู้, ความรู้, ทำให้รู้", + "body": "\"รู้\" หมายถึง การเข้าใจบางสิ่งหรือรับรู้ข้อมูลความจริง คำกล่าว \"ทำให้รู้\" เป็นคำกล่าวที่หมายถึงการบอกข้อมูล\n\n* คำว่า \"ความรู้\" อ้างถึงข้อมูลต่างๆ ที่ผู้คนรู้ สามารถประยุกต์ใช้กับการรู้เกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ทั้งในโลกกายภาพและโลกฝ่ายวิญญาณ\n* \"รู้เกี่ยวกับ\" พระเจ้าหมายความว่าเข้าใจข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพระองค์เพราะสิ่งที่ได้เปิดเผยต่อเรา\n* \"รู้จัก\" พระเจ้าหมายความว่ามีความสัมพันธ์กับพระองค์ นี่ประยุกต์กับการรู้จักคนด้วย\n* การ \"รู้น้ำพระทัยของพระเจ้า\" หมายถึงรับรู้ถึงสิ่งที่พระองค์ได้ทรงบัญชา หรือเข้าใจสิ่งที่พระองค์ต้องการให้บุคคลหนึ่งทำ\n* \"รู้กฎบัญญัติ\" หมายถึงการรับรู้ถึงสิ่งที่พระเจ้าได้ทรงบัญชาไว้ หรือเข้าใจสิ่งที่พระเจ้าได้สั่งเอาไว้ในกฎบัญญัติที่พระองค์ทรงมอบให้แก่โมเสส\n* บางครั้ง \"ความรู้\" ถูกใช้เป็นคำพ้องกับคำว่า \"สติปัญญา\" ซึ่งรวมถึงการดำเนินชีวิตในวิถีที่พระเจ้าพอพระทัย\n* \"ความรู้เกี่ยวกับพระเจ้า\" บางครั้งถูกใช้เป็นคำพ้องสำหรับ \"ยำเกรงพระยาห์เวห์\" \n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ขึ้นอยู่กับบริบท วิธีการแปลคำว่า \"รู้\" สามารถรวมคำว่า \"เข้าใจ\" หรือ \"คุ้นเคยกับ\" หรือ \"รับรู้เกี่ยวกับ\" หรือ \"เคยชินกับ\" หรือ \"มีความสัมพันธ์กับ\" \n* ในบางภาษามีคำสองคำที่แตกต่างกันสำหรับคำว่า \"รู้\" ขึ้นอยู่กับว่าเป็นการรู้เกี่ยวกับข้อเท็จจริงหรือเกี่ยวกับคนและการมีสัมพันธภาพกับเขา \n* คำว่า \"ทำให้รู้\" สามารถแปลว่า \"ทำให้คนได้รู้\" หรือ \"เปิดเผย\" หรือ \"บอกเกี่ยวกับ\" หรือ \"อธิบาย\"\n* \"รู้เกี่ยวกับ\" บางสิ่ง สามารถแปลว่า \"รับรู้เกี่ยวกับ\" หรือ \"คุ้นเคยกับ\" \n* คำกล่าว \"รู้ว่าอย่างไร\" หมายถึงเข้าใจกระบวนการหรือวิธีการเพื่อจะทำให้บางสิ่งบางอย่างสำเร็จได้ สามารถแปลว่า \"สามารถที่จะ\" หรือ \"มีทักษะในการ\" \n* คำว่า \"ความรู้\" สามารถแปลว่า \"สิ่งที่ได้รู้\" หรือ \"ปัญญา\" หรือ \"ความเข้าใจ\" ขึ้นอยู่กับบริบท" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/korah.txt b/01/korah.txt new file mode 100644 index 00000000..9969810a --- /dev/null +++ b/01/korah.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "โคราห์", + "body": "โคราห์คือชื่อของคนสามคนในพันธสัญญาเดิม\n\n* หนึ่งในบุตรชายของเอซาวชื่อว่า โคราห์ เขาได้เป็นผู้นำของคนหนึ่งในชุมชนของเขา\n* โคราห์เป็นเชื้อสายของเลวีและได้รับใช้ในพลับพลาฐานะปุโรหิต เขาอิจฉาโมเสสและอาโรนและได้นำกลุ่มผู้ชายกบฎต่อพวกเขา\n* ผู้ชายที่ชื่อโคราห์คนที่สามอยู่ในรายชื่อของลูกหลานของยูดาห์" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/laban.txt b/01/laban.txt new file mode 100644 index 00000000..4d75da95 --- /dev/null +++ b/01/laban.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ลาบัน", + "body": "ในพันธสัญญาเดิม ลาบันเป็นลุงและพ่อตาของยาโคบ\n\n* ยาโคบอาศัยอยู่กับครอบครัวของลาบันในปาดานอารัมและดูแลจัดการฝูงแพะแกะซึ่งเป็นเงื่อนไขในการแต่งงานกับลูกสาวของลาบัน\n* ยาโคบนั้นมีความพึงพอใจราเชลลูกสาวของลาบันมาเป็นภรรยาของเขา\n* ลาบันหลอกลวงยาโคบและให้เขาแต่งงานกับลูกสาวคนโตคือเลอาห์ก่อนที่จะมอบราเชลให้แก่เขาเพื่อเป็นภรรยา" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/labor.txt b/01/labor.txt new file mode 100644 index 00000000..5db7672e --- /dev/null +++ b/01/labor.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "งานที่ต้องออกแรง, ผู้ใช้แรงงาน", + "body": "คำว่า \"งานที่ต้องออกแรง\" อ้างถึงการทำงานหนักในทุกรูปแบบ\n\n* โดยทั่วไป งานที่ต้องออกแรงคืองานใดๆ ที่ใช้พลังงาน และบ่อยครั้งแสดงว่าเป็นงานที่ยาก\n* ผู้ใช้แรงงานคือบุคคลผู้ที่ทำงานใดๆ ที่ต้องออกแรง\n* ในภาษาอังกฤษ \"งานที่ต้องออกแรง\" ใช้แปลว่าการคลอดบุตรด้วย ภาษาอื่นอาจใช้คำที่แตกต่างจากคำนี้อย่างสิ้นเชิง\n* วิธีการแปลคำว่า \"งานที่ต้องออกแรง\" สามารถแปลว่า \"งาน\" หรือ \"ทำงานหนัก\" หรือ \"งานยาก\" หรือ \"ทำงานหนัก\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/laborpains.txt b/01/laborpains.txt new file mode 100644 index 00000000..37abccd9 --- /dev/null +++ b/01/laborpains.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เจ็บครรภ์คลอด, อาการเจ็บท้องคลอด", + "body": "ผู้หญิงที่มี \"อาการเจ็บท้องคลอด\" มีประสบการณ์กับความเจ็บปวดที่นำไปสู่การให้กำเนิดบุตร ทั้งหมดนี้เรียกว่า \"เจ็บครรภ์คลอด\"\n\n* ในจดหมายที่เขียนไปถึงชาวกาลาเทีย อัครสาวกเปาโลได้ใช้คำนี้เชิงอุปมาอุปมัยอธิบายถึงความเอาจริงเอาจังเพื่อช่วยบรรดาเพื่อนผู้เชื่อของเขาให้เป็นเหมือนพระคริสต์มากขึ้น\n* คำเปรียบเทียบถึงการเจ็บครรภ์คลอดได้ถูกนำมาใช้ในพระคัมภีร์เพื่ออธิบายถึงความพินาศในช่วงวันสุดท้ายที่จะเกิดมากขึ้นและรุนแรงขึ้น" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/lamb.txt b/01/lamb.txt new file mode 100644 index 00000000..74ff761b --- /dev/null +++ b/01/lamb.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ลูกแกะ, ลูกแกะของพระเจ้า", + "body": "คำว่า \"ลูกแกะ\" อ้างถึงแกะที่ยังอายุน้อย แกะเป็นสัตว์ที่มีสี่ขา มีขนหนาปุกปุย ใช้เพื่อเป็นเครื่องบูชาถวายแด่พระเจ้า พระเยซูทรงถูกเรียกว่าเป็น \"ลูกแกะของพระเจ้า\" เพราะพระองค์ถูกถวายเป็นเครื่องบูชาเพื่อความบาปของคน\n\n* สัตว์เหล่านี้ถูกนำให้หลงทางได้อย่างง่ายดายและต้องการการปกป้อง พระเจ้าทรงเปรียบมนุษย์ว่าเป็นแกะ\n* พระเจ้าทรงสั่งให้ประชากรของพระองค์ถวายแกะและลูกแกะที่ปราศจากตำหนิเป็นเครื่องบูชาแด่พระองค์\n* พระเยซูทรงถูกเรียกว่าเป็น \"ลูกแกะของพระเจ้า\" ผู้ที่ถูกถวายเป็นเครื่องบูชาเพื่อความบาปของคน พระองค์ทรงสมบูรณ์ ปราศจากตำหนิ เพราะพระองค์ทรงไม่มีบาปเลย\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ถ้าแกะเป็นที่รู้จักกันดีในด้านภาษาท้องถิ่น ชื่อสำหรับแกะที่ยังอายุน้อยควรแปลโดยใช้คำว่า \"ลูกแกะ\" หรือ \"ลูกแกะของพระเจ้า\"\n* \"ลูกแกะของพระเจ้า\" สามารถแปลได้ว่า \"ของพระเจ้า\" " + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/lamech.txt b/01/lamech.txt new file mode 100644 index 00000000..e1d9cb0c --- /dev/null +++ b/01/lamech.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ลาเมค", + "body": "ลาเมคเป็นชื่อของผู้ชายสองคนที่ได้รับการกล่าวถึงในพระธรรมปฐมกาล\n\n* ลาเมคคนแรกที่ได้รับการกล่าวถึงเป็นเชื้อสายของคาอิน เขาได้โอ้อวดต่อภรรยาทั้งสองของเขาว่าเขาได้ฆ่าชายคนหนึ่งที่ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บ\n* ลาเมคคนที่สองเป็นเชื้อสายของเสธ เขาเป็นบิดาของโนอาห์" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/lament.txt b/01/lament.txt new file mode 100644 index 00000000..2842642f --- /dev/null +++ b/01/lament.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "คร่ำครวญ, การคร่ำครวญ", + "body": "คำว่า \"คร่ำครวญ\" และ \"การคร่ำครวญ\" อ้างถึงการแสดงออกอย่างรุนแรงถึงความเศร้าโศก เสียใจ หรือสลดใจ\n\n* บางครั้งคำนี้รวมถึงการเสียใจอย่างยิ่งยวดต่อความบาป หรือความเมตตาสงสารต่อผู้คนที่ได้ประสบกับความหายนะ\n* การคร่ำครวญสามารถรวมคำว่าความเศร้าโศก ร่ำไห้ หรือคร่ำครวญ\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำว่า \"คร่ำครวญ\" สามารถแปลได้ว่า \"โศกเศร้าอย่างสุดซึ้ง\" หรือ \"ร้องครวญด้วยความสลดใจ\" หรือ \"เต็มไปด้วยความเสียใจ\" \n* \"การคร่ำครวญ\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/lamp.txt b/01/lamp.txt new file mode 100644 index 00000000..d495d79e --- /dev/null +++ b/01/lamp.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ตะเกียง", + "body": "คำว่า \"ตะเกียง\" โดยทั่วไปอ้างถึงบางสิ่งที่ให้แสงสว่าง ตะเกียงต่างๆ ที่ใช้ในสมัยพระคัมภีร์โดยปกติจะเป็นตะเกียงน้ำมัน ชนิดของตะเกียงที่ใช้ในสมัยพระคัมภีร์เป็นภาชนะเล็กๆ ที่บรรจุเชื้อเพลิงซึ่งโดยปกติคือน้ำมัน ที่จะให้แสงสว่างเมื่อมีการจุดไฟ\n\n* โดยทั่วไปตะเกียงน้ำมันมักจะทำจากเครื่องปั้นดินเผาธรรมดาเติมด้วยน้ำมันมะกอก พร้อมด้วยไส้เที่ยนในน้ำมันเพื่อจุดไฟ\n* ตะเกียงบางดวง ถ้วยหรือไหทำเป็นรูปไข่ และตอนปลายหนีบเข้ามาเพื่อวางไส้ตะเกียง\n* ตะเกียงน้ำมันสามารถถือหรือวางบนแท่นเพื่อให้แสงสว่างส่องไปทั่วหรือหรือทั่วบ้าน\n* ในพระคัมภีร์ ตะเกียงถูกใช้ในเชิงอุปมาอุปมัยหลายทางว่าเป็นสัญลักษณ์ของความสว่างและชีวิต" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/lampstand.txt b/01/lampstand.txt new file mode 100644 index 00000000..553c7ef9 --- /dev/null +++ b/01/lampstand.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ขาตั้งตะเกียง", + "body": "ในพระคัมภีร์นั้น คำว่า \"ขาตั้งคะเกียง\" โดยทั่วไปอ้างถึงโครงสร้างที่เอาตะเกียงวางไว้เพื่อให้ส่องแสงสว่างทั่วห้อง \n\n* ขาตั้งตะเกียงโดยปกติจะยึดตะเกียงและทำด้วยดินเหนียว ไม้ หรือโลหะ (อย่างเช่น สัมฤทธิ์ เงิน หรือ ทองคำ)\n* ในพระวิหารกรุงเยรูซาเล็มมีขาตั้งตะเกียงทองคำซึ่งมีเจ็ดก้านสำหรับรองรับตะเกียงเจ็ดดวง\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำนี้สามารถแปลว่า \"เชิงตะเกียง\" หรือ \"โครงสร้างสำหรับวางตะเกี่ยง\" หรือ \"ที่วางตะเกียง\"\n* สำหรับที่วางตะเกียงในพระวิหาร สามารถแปลว่า \"ตะเกียงทั้งเจ็ด\" หรือ \"แท่นทองคำพร้อมกับตะเกียงทั้งเจ็ด\" \n* อาจจะช่วยได้ในการแปลถ้ารวมเราภาพแท่นวางตะเกียงแบบง่ายๆ และแท่นวางตะเกียงเจ็ดก้านตามข้อความในพระคัมภีร์" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/lastday.txt b/01/lastday.txt new file mode 100644 index 00000000..d5c654a7 --- /dev/null +++ b/01/lastday.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "วันสุดท้าย, วาระสุดท้าย, ในสมัยปัจจบัน", + "body": "คำว่า \"วันสุดท้าย\" หรือ \"สมัยปัจจุบัน\" โดยทั่วไปอ้างถึงช่วงเวลาที่กำลังนำไปสู่เวลาปัจจุบัน\n\n* ช่วงเวลานี้จะเป็นช่วงเวลาที่ไม่มีใครรู้\n* \"วาระสุดท้าย\" คือเวลาแห่งพิพากษาแก่คนเหล่านั้นที่ได้หันไปจากพระเจ้า\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำว่า \"วาระสุดท้าย\" สามารถแปลว่า \"วันสิ้นสุด\" หรือ \"ช่วงเวลาสุดท้าย\" หรือ \"เวลาสิ้นสุด\"\n* ในบางบริบท นี่สามารถแปลว่า \"เวลาสิ้นสุดของโลก\" หรือ \"เมื่อโลกนี้สิ้นสุด\" " + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/law.txt b/01/law.txt new file mode 100644 index 00000000..703b5c6e --- /dev/null +++ b/01/law.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "กฎหมาย, หลักการ", + "body": "\"กฎหมาย\" คือกฏข้อบังคับทางกฎหมายที่ถูกเขียนเอาไว้และบังคับใช้โดยผู้มีสิทธิอำนาจ \"หลักการ\" คือแนวทางสำหรับการตัดสินใจและพฤติกรรม\n\n* ทั้ง \"กฎหมาย\" และ \"หลักการ\" สามารถอ้างถึงกฎโดยทั่วไปหรือความเชื่อที่ชี้นำการประพฤติของบุคคล\n* ความหมายของ \"กฎหมาย\" ในที่นี้แตกต่างจากความหมายของคำว่า \"กฎบัญญัติของโมเสส\"\n* เมื่อกฎหมายทั่วไปถูกอ้างถึงโดย \"กฎ\" สามารถแปลว่า \"หลักการ\" หรือ \"กฏทั่วไป\" " + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/lawful.txt b/01/lawful.txt new file mode 100644 index 00000000..d8af4874 --- /dev/null +++ b/01/lawful.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ชอบด้วยกฎหมาย, อย่างถูกต้องตามกฎหมาย, มิชอบว่าด้วยกฎหมาย", + "body": "คำว่า \"ชอบด้วยกฎหมาย\" หมายถึงบางสิ่งที่ได้รับการอนุญาตให้ทำได้โดยสอดคล้องกับกฎหมายหรือข้อเรียกร้องอื่นๆ คำตรงกันข้ามกับคำนี้คือคำว่า \"มิชอบด้วยกฎหมาย\" มีความหมายธรรมดาคือ \"ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย\"\n\n* ในพระคัมภีร์ ถ้าบางสิ่งถูกกล่าวว่าเป็นสิ่งที่ \"ชอบด้วยกฎหมาย\" หมายความว่าได้รับอนุญาตโดยกฎศีลธรรมของพระเจ้า หรือ โดยบัญญัติของโมเสสและกฎหมายอื่นๆของชาวยิว บางสิ่งที่ \"มิชอบด้วยกฎหมาย\" คือ \"ไม่ได้รับอนุญาต\" โดยกฎหมายเหล่านั้น\n* การทำบางสิ่ง \"อย่างถูกต้องตามกฎหมาย\" หมายถึงการทำ \"อย่างถูกต้อง\" หรือ \"ในทางที่ถูกต้อง\"\n* หลายสิ่งที่กฎหมายของชาวยิวถูกพิจารณาว่าถูกกฎหมายหรือไม่ถูกกฎหมายนั้นไม่ได้มีการตกลงกับกฎบัญญัติของพระเจ้าเกี่ยวกับการรักผู้อื่น\n* ขึ้นอยู่กับบริบท วิธีการแปลคำว่า \"ชอบด้วยกฎหมาย\" นั้นสามารถรวมคำว่า \"ได้รับอนุญาต\" หรือ \"ตามกฎบัญญัติของพระเจ้า\" หรือ \"ตามกฎหมายของเรา\" หรือ \"ถูกต้อง\" หรือ \"เข้ากันได้\"\n* วลี \"มันชอบด้วยกฎหมายหรือไม่\" สามารถแปลว่า \"กฎหมายของเราอนุญาตหรือไม่\" หรือ \"มันใช่สิ่งที่กฎหมายของเราอนุญาตหรือไม่ ?\"\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/lawless.txt b/01/lawless.txt new file mode 100644 index 00000000..37251ad8 --- /dev/null +++ b/01/lawless.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ไม่เคารพกฎหมาย, การไม่เคารพกฎหมาย", + "body": "คำว่า \"ไม่เคารพกฎหมาย\" อธิบายบุคคลผู้ที่ไม่เชื่อฟังกฎหมายหรือข้อบังคับใดๆ เมื่อประเทศหรือกลุ่มคนอยู่ในสถานะที่ \"การไม่เคารพกฏหมาย\" หมายความว่าการไม่เชื่อฟัง การกบฎ หรือ การผิดศีลธรรมก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ\n\n* คนไม่เคารพกฎหมายคือคนที่กบฎและไม่เชื่อฟังกฎบัญญัติของพระเจ้า\n* อัครสาวกเปาโลได้บันทึกในวันสุดท้ายจะมี \"คนแห่งการไม่เคารพกฏหมาย\" หรือ \"คนไม่เคารพกฏหมาย\" ผู้ซึ่งจะได้รับอิทธิพลจากซาตานทำสิ่งชั่วร้ายต่างๆ\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำว่า \"ไม่เคารพกฎหมาย\" สามารถแปลว่า \"กบฎ\" หรือ \"ไม่เชื่อฟัง\" หรือ \"ต่อต้านกฎหมาย\"\n* คำว่า \"การไม่เคารพกฎหมาย\" สามารถแปลว่า \"ไม่เชื่อฟังกฎหมายใดเลย\" หรือ \"การก่อกบฎ\"\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/lawofmoses.txt b/01/lawofmoses.txt new file mode 100644 index 00000000..003c0f35 --- /dev/null +++ b/01/lawofmoses.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "กฎ, บัญญัติของโมสส, กฎบัญญัติของพระเจ้า, พระบัญญัติของพระยาเวห์", + "body": "คำทั้งหมดเหล่านี้กล่าวถึงคำสั่งและคำสอนต่างๆที่พระเจ้ามอบไว้ให้แก่โมเสสเพื่อให้ชาวอิสราเอลทำตาม คำว่า \"กฎ\" และ \"พระบัญญัติของพระเจ้า\" โดยปกติแล้วจะใช้เพื่ออ้างถึงทุกสิ่งที่พระเจ้าต้องการให้ประชากรของพระองค์เชื่อฟัง\n\n* ขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า \"กฎ\" สามารถอ้างถึงสิ่งต่อไปนี้\n* พระบัญญัติสิบประการที่พระเจ้าทรงเขียนบนแผ่นศิลาสำหรับชาวอิสราเอล\n* กฎบัญญัติทั้งหมดได้ทรงมอบให้แก่โมเสส\n* พระธรรมห้าเล่มแรกของพันธสัญญาเดิม\n* พระคัมภีร์พันธสัญญาเดิมทั้งหมด (และได้อ้างอิงถึงว่าเป็น \"พระคัมภีร์\" ในพันธสัญญาใหม่ด้วย)\n* คำสั่งสอนทั้งหมดของพระเจ้าและความปรารถนา\n* วลี \"กฎบัญญัติและผู้เผยพระวจนะ\" ถูกใช้ในพันธสัญญาใหม่เพื่ออ้างถึงพระคัมภีร์ของฮีบรู (หรือ \"พันธสัญญาเดิม\")\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n*คำนี้สามารถแปลโดยการใช้คำพหูพจน์ว่า \"กฎทั้งหลาย\" เนื่องจากเป็นการอ้างถึงคำสั่งสอนมากมาย\n* คำว่า \"กฎบัญญัติของโมเสส\" สามารถแปลว่า \"กฎบัญญัติที่พระเจ้าได้ทรงบอกให้โมเสสมอบให้แก่ชาวอิสราเอล\" \n*ขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า \"กฎบัญญัติของโมเสส\" สามารถแปลว่า \"กฎบัญญัติที่พระเจ้าบอกแก่โมเสส\" หรือ \"กฎบัญญัติของพระเจ้าที่โมเสสได้เขียนไว้\" หรือ กฎบัญญัติที่พระเจ้าได้ทรงบอกโมเสสเพื่อมอบให้แก่ชาวอิสราเอล\"\n* วิธีการแปลคำว่า \"บัญญัติ\" หรือ \"บัญญัติของพระเจ้า\" สามารถรวมคำว่า \"บัญญัติจากพระเจ้า\" หรือ \"พระบัญชาของพระเจ้า\" หรือ \"บรรดากฎต่างๆ ที่พระเจ้าประทานให้\" หรือ \"ทุกสิ่งที่พระเจ้าบัญชา\" หรือ \"คำสั่งสอนทั้งหมดของพระเจ้า\"\n* วลี \"กฎหมายของพระยาห์เวห์\" สามารถแปลว่า \"กฎหมายต่างๆ ของพระยาห์เวห์\" หรือ \"กฎหมายที่พระยาห์เวห์ตรัสให้เชื่อฟัง\" หรือ \"กฎหมายจากพระยาห์เวห์\" หรือ \"สิ่งต่างๆที่พระยาห์เวห์ทรงบัญชา\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/lazarus.txt b/01/lazarus.txt new file mode 100644 index 00000000..b64390d9 --- /dev/null +++ b/01/lazarus.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ลาซารัส", + "body": "ลาซารัสและพี่สาวทั้งหลายของเขา มาเรียและมารธาเป็นเพื่อนพิเศษของพระเยซู พระองค์มักจะประทับกับพวกเขาที่บ้านของพวกเขาที่เบธานี\n\n* ลาซารัสเป็นที่รู้จักกันดีสำหรับข้อเท็จจริงว่าพระเยซูได้ชุบชีวิตเขาจากความตายหลังจากที่ถูกฝังที่อุโมงค์แล้วหลายวัน\n* ผู้นำชาวยิวทั้งหลายโกรธและอิจฉาว่าพระเยซูได้ทำสิ่งอัศจรรย์และพวกเขาพยายามหาทางฆ่าพระเยซูและลาซารัส\n* พระเยซูได้ทรงเล่าคำอุปมาเรื่องผู้ชายขอทานยากจนคนหนึ่งและเศรษฐีคนหนึ่งซึ่งขอทานนนั้นมีชื่อว่าลาซารัส" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/leah.txt b/01/leah.txt new file mode 100644 index 00000000..038b72e5 --- /dev/null +++ b/01/leah.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เลอาห์", + "body": "เลอาห์เป็นภรรยาคนหนึ่งของยาโคบ เธอเป็นมารดาของบุตรชายสิบคนของยาโคบที่ลูกหลานเป็นบางเผ่าในสิบสองเผ่าของอิสราเอล\n\n* บิดาของเลอาห์คือลาบัน ผู้เป็นพี่ชายของเรเบคคาห์แม่ของยาโคบ\n* ยาโคบไม่ได้รักเลอาห์เท่ากับที่เขารักภรรยาของเขาอีกคนหนึ่งคือ ราเชล แต่พระเจ้าก็ทรงโปรดปรานเลอาห์อย่างมากโดยทรงให้เธอมีบุตรมากมาย\n* บุตรชายคนหนึ่งของเลอาห์ คือยูดาห์ เป็นบรรพบุรุษของกษัตริย์ดาวิดและพระเยซู" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/learnedmen.txt b/01/learnedmen.txt new file mode 100644 index 00000000..7862ab5a --- /dev/null +++ b/01/learnedmen.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "นักปราชญ์, นักดาราศาสตร์", + "body": "เนื้อเรื่องพระธรรมมัทธิวเกี่ยวกับการบังเกิดของพระคริสต์ \"นักปราชญ์\" เหล่านี้ หรือ \"ผู้คงแก่เรียน\" เหล่านี้ล้วนเป็น \"ผู้ที่มีปัญญา\" ผู้ที่ได้นำของขวัญมามอบให้กับพระเยซูในเมืองเบธเลเฮ็มหลังจากที่พระองค์บังเกิดที่นั่น พวกเขาอาจเป็น \"นักดาราศาสตร์\" ซึ่งเป็นพวกที่ศึกษาเกี่ยวกับดวงดาวทั้งหลาย\n\n* พวกผู้ชายเหล่านี้ได้เดินทางเป็นระยะทางไกลจากประเทศทางทิศตะวันออกของอิสราเอล ไม่เป็นที่ทราบกันแน่นอนว่าพวกเขาจากมาสถานที่ใดหรือพวกเขาเป็นใคร แต่พวกเขาเป็นผู้คงแก่เรียนผู้ที่ได้ศึกษาเกี่ยวกับดวงดาวต่างๆ\n* พวกเขาอาจสืบเชื้อสายมาจากพวกนักปราชญ์ที่รับใช้กษัตริย์บาบิโลนในสมัยของดาเนียลและเป็นผู้ที่ได้รับการฝึกอบรมในหลายสิ่งหลายอย่าง รวมถึงการศึกษาดวงดาวและการทำนายฝัน\n* ตามประเพณีแล้วมักจะกล่าวกันว่าบุรุษเหล่านี้มีสามคนเพราะมีของขวัญสามชิ้นที่พวกเขานำมามอบถวายให้กับพระเยซู อย่างไรก็ตาม พระคัมภีร์ไม่ได้บอกว่าพวกเขามีกันกี่คน" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/lebanon.txt b/01/lebanon.txt new file mode 100644 index 00000000..ffd8ded9 --- /dev/null +++ b/01/lebanon.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เลบานอน", + "body": "เลบานอนเป็นแถบดินแดนสวยงานที่ตั้งอยู่บนภูเขาตามชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทางตอนเหนือของอิสราเอล ในสมัยพระคัมภีร์ ดินแดนแถบนี้เป็นป่าทีบพร้อมด้วยป่าสน อย่างเช่นต้นสีดาร์และต้นสน\n\n* กษัตริย์ซาโลมอนได้ส่งคนงานไปเลบานอนไปตัดต้นสีดาห์เพื่อใช้ในการสร้างพระวิหารของพระเจ้า\n* ชาวเลบานอนในสมัยโบราณนั้นพำนักอาศัยอยู่กับชาวฟินิเซียซึ่งมีทักษะในการสร้างเรือใหญ่ที่ถูกใช้เพื่อการค้าอุตสาหกรรมอย่างสำเร็จผล \n * เมืองไทระและไซดอนตั้งอยู่ในเลบานอน ในเมืองเหล่านี้เองที่มีการใช้ผ้าย้อมสีม่วงราคาแพงเป็นครั้งแรก\n\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/leopard.txt b/01/leopard.txt new file mode 100644 index 00000000..6b43b9f2 --- /dev/null +++ b/01/leopard.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เสือดาว", + "body": "เสือดาวเป็นสัตว์ป่าขนาดใหญ่ ลักษณะเหมือนแมว สีนำ้ตาลพร้อมด้วยลายจุดสีดำ\n\n* เสือดาวเป็นสัตว์ที่ล่าจับสัตว์อื่นเป็นกินสัตว์เหล่านั้นอาหาร\n* ในพระคัมภีร์ ความหายนะที่เกิดขึ้นอย่างทันทีทันใดนั้นถูกเปรียบว่าเป็นดั่งเสือดาว ซึ่งตะครุบเหยื่อทันทีทันใด\n* ผู้เผยพระวจนะดาเนียลและอัครสาวกยอห์นได้บอกเกี่ยวกับนิมิตที่พวกเขาได้เห้นว่าเป็นสัตว์ป่าที่ดูเหมือนกับเสือดาว " + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/leprosy.txt b/01/leprosy.txt new file mode 100644 index 00000000..99b5770f --- /dev/null +++ b/01/leprosy.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "โรคเรื้อน, ผู้ป่วยโรคเรื้อน, เป็นโรคเรื้อน", + "body": " คำว่า \"โรคเรื้อน\" เป็นคำที่ถูกใช้ในพระคัมภีร์อ้างถึงโรคผิวหนังหลายชนิด \"ผู้ป่วยโรคเรื้อน\" คือบุคคลที่ป่วยเป็นโรคเรื้อน คำว่า \"เป็นโรคเรื้อน\" อธิบายถึงบุคคลหรือส่วนของร่างกายที่ติดเชื้อโรคเรื้อน\n\n* ชนิดของโรคเรื้อนที่เป็นเหตุให้ผิวหนังกลายเป้นไม่มีสี และมีรอยด่างสีขาว อย่างที่มิเรียมและนาอามานป่วยเป็นโรคเรื้อน\n* ในสมัยใหม่ โรคเรื้อนมักจะทำให้มือ เท้า และส่วนอื่นๆ ของร่างกายถูกทำลายและพิการ\n* ตามที่มีคำแนะนำว่าพระเจ้าประทานให้พวกอิสราเอล เมื่อบุคคลป่วยเป็นโรคเรื้อน เขาจะถูกพิจารณาว่า \"ไม่สะอาด\" และจะต้องไปอยู่ห่างไกลจากประชาชนคนอื่นๆ เพื่อที่พวกเขาจะไม่ติดเชื้อโรค\n* ผู้ป่วยโรคเรื้อนจะร้องตะโกนว่า \"ไม่สะอาด\" เพื่อที่คนอื่นจะได้รับการเตือนไม่ให้เข้าใกล้เขา\n* พระเยซูทรงรักษาผู้ป่วยโรคเรื้อนหลายคน เช่นเดียวกับโรคชนิดอื่นๆ\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำว่า \"โรคเรื้อน\" ในพระคัมภีร์สามารถแปลว่า \"โรคผิวหนัง\" หรือ \"โรคผิวหนังที่น่ากลัว\"\n* วิธีการแปลคำว่า \"เป็นโรคเรื้อน\" สามารถรวมคำว่า \"เต็มไปด้วยโรคเรื้อน\" หรือ \"ติดโรคทางผิวหนัง\" หรือ \"เต็มไปด้วยแผลที่ผิวหนัง\" \n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/letter.txt b/01/letter.txt new file mode 100644 index 00000000..d11d2467 --- /dev/null +++ b/01/letter.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "จดหมาย, จดหมายฝาก", + "body": "จดหมายคือข้อความที่เขียนส่งถึงบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่มักจะอยู่ห่างไกลจากผู้เขียน จดหมายฝากคือรูปแบบการเขียนจดหมายที่พิเศษ มักจะถูกเขียนในรูปแบบทางการมากกว่า สำหรับวัตถุประสงค์พิเศษ เช่นเพื่อการสอน\n\n* ในสมัยของพันธสัญญาใหม่ จดหมายฝากและจดหมายในรูปแบบอื่นๆ นั้นเขียนบนแผ่นหนังสัตว์หรือต้นปาปิรัสที่ทำมาจากใยพืช\n* จดหมายฝากในพันธสัญญาใหม่ที่เขียนโดยเปาโล, ยอห์น, ยากอบ, ยูดา และเปโตร เป็นจดหมายที่พวกเขาเขียนเพื่อหนุนใจเตือนสติและสอนคริสเตียนในยุคแรกที่อาศัยอยู่ในหลายเมืองทั่วจักรวรรดิโรม\n* วิธีที่แปลคำนี้สามารถรวม \"คำสอนที่เป็นงานเขียน\" หรือ \"ถ้อยคำที่ได้เขียนไว้\" หรือ \"งานเขียน\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/leviathan.txt b/01/leviathan.txt new file mode 100644 index 00000000..7c1d8286 --- /dev/null +++ b/01/leviathan.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เลวีอาธาน", + "body": "คำว่า \"เลวีอาธาน\" อ้างถึงสัตว์มหึมาที่สูญพันธ์ุไปแล้วที่ได้รับการกล่าวถึงในบันทึกช่วงตอนต้นของพันธสัญญาเดิม ในพระธรรมโยบ สดุดี และอิสห์ยา\n\n* เลวีอาธานได้ถูกอธิบายว่าเป็นสัตว์ใหญ่มหึมา เหมือนงู แข็งแรง ดุร้าย และสามารถทำให้น้ำรอบตัวของมัน \"เดือด\" คำอธิบายเกี่ยวกับมันเหมือนกับคำอธิบายถึงไดโนเสาร์\n* ผู้เผยพระวจนะอิสยาห์อ้างถึงเลวีอาธานว่าเป็น \"งูใหญ่เลื้อย\"\n* โยบเขียนจากความรู้ที่ได้มาโดยตรงถึงเลวีอาธาน ดังนั้นสัตว์นี้ดูเหมือนจะมีชีวิตอยู่ในช่วงเวลาที่เขายังมีชีวิตอยู่\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/levite.txt b/01/levite.txt new file mode 100644 index 00000000..891103df --- /dev/null +++ b/01/levite.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เลวี, คนเลวี", + "body": "เลวีคือบุตรชายคนหนึ่งในสิบสองคนของยาโคบ คำว่า \"เลวี\" อ้างถึงบุคคลผู้เป็นสมาชิกของเผ่าอิสราเองที่บรรพบุรุษเป็นคนเลวี \n\n* คนเลวีมีหน้าที่รับผิดชอบในพระวิหารและการทำพิธีกรรมทางศาสนา รวมถึงการถวายเครื่องบูชาปละอธิษฐาน\n* พวกปุโรหิตชาวยิวทั้งหมดเป็นคนที่มาจากเผ่าเลวี และบางส่วนของเผ่าเลวี (อย่างไรก็ตามไม่ใช่คนในเผ่าเลวีทุกคนจะเป็นปุโรหิต) \n* พวกปุโรหิตที่เป็นคนเลวีจะถูกแยกออกและได้อุทิศตัวสำหรับทำงานพิเศษในการปรนนิบัติพระเจ้าในพระวิหาร\n* มีผู้ชายสองคนที่ชื่อ \"เลวี\" เป็นบรรพบุรุษของพระเยซูและชื่อของพวกเขาอยู่ในลำดับพงศ์ในพระกิตติคุณลูกา\n* สาวกของพระเยซูคนหนึ่ง คือ มัทธิว ก็ถูกเรียกว่าเลวี" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/life.txt b/01/life.txt new file mode 100644 index 00000000..475e7f1e --- /dev/null +++ b/01/life.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ชีวิต, ดำรงชีวิต, การดำรงชีวิต, มีชีวิตอยู่", + "body": "คำทั้งหมดเหล่านี้อ้างถึงการมีชีวิตอยู่ในฝ่ายร่างกาย ไม่ใช่การตาย คำเหล่านี้ยังใช้บ่อยครั้งในเชิงอุปมาอุปมัยเพื่ออ้างถึงการมีชีวิตในฝ่ายวิญญาณอีกด้วย คำอธิบายต่อไปนี้หมายถึง \"ชีวิตฝ่ายร่างกาย\" และ \"ชีวิตฝ่ายวิญญาณ\" \n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า \"ชีวิต\" สามารถแปลว่า \"ดำรงอยู่\" หรือ \"บุคคล\" หรือ \"วิญญาณ\" หรือ \"เป็นอยู่\" หรือ \"ประสบการณ์\" \n* คำว่า \"ดำรงชีวิต\" สามารถแปลว่า \"พำนัก\" หรือ \"อาศัยอยู่\" หรือ \"ดำรงอยู่\"\n* คำกล่าว \"จบชีวิตของเขา\" สามารถแปลว่า \"เมื่อเขาหยุดการมีชีวิตอยู่\"\n* คำกล่าว \"ไว้ชีวิตของพวกเขา\" สามารถแปลได้ว่า \"ยอมให้พวกเขามีชีวิตอยู่\" หรือ \"ไม่ต้องฆ่าพวกเขา\"\n* คำกล่าว \"พวกเขาเสี่ยงชีวิตของพวกเขา\" สามารถแปลว่า \"พวกเขาเอาชีวิตของพวกเขาไปสู่อันตราย\" หรือ \"พวกเขาได้ทำบางสิ่งที่สามารถฆ่าพวกเขาได้\"\n* เมื่อข้อความในพระคัมภีร์พูดเกี่ยวกับมีชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณ \"ชีวิต\" สามารถแปลว่า \"ชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณ\" หรือ \"ชีวิตนิรันดร์\" ขึ้นอยู่กับบริบท\n* ความคิดที่ว่า \"ชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณ\" สามารถแปลว่า \"พระเจ้าทรงสร้างเราให้มีชีวิตในจิตวิญญาณของเรา\" หรือ \"ทำให้เกิดชีวิตในชีวิตภายในของเรา\"\n* ขึ้นอยู่กับบริบท คำกล่าว \"ให้ชีวิต\" สามารถแปลว่า \"เป็นเหตุให้มีชีวิต\" หรือ \"ให้ชีวิตนิรันดร์\" หรือ \"เป็นเหตุให้มีชีวิตชั่วนิรันดร์\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/light.txt b/01/light.txt new file mode 100644 index 00000000..e243f5d5 --- /dev/null +++ b/01/light.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ความสว่าง", + "body": "มีการใช้ในเชิงคำอุปมาอุปมัยหลายครั่งสำหรับคำว่า \"แสงสว่าง\" ในพระคัมภีร์ บ่อยครั้งจะถูกใช้เพื่อเป็นคำอุปมา เปรียบเทียบกับความชอบธรรม ความบริสุทธิ์ และความจริง (ดู:[Metaphor](https://git.door43.org/Door43/en-ta-translate-vol1/src/master/content/figs_metaphor.md))\n\n* พระเยซูตรัสว่า \"เราเป็นความสว่างของโลก\" เพื่อแสดงให้เห็นว่าพระองค์ทรงนำข่าวสารความจริงของพระเจ้ามายังโลกนี้และทรงช่วยกู้ผู้คนจากความมืดของความบาปของพวกเขา\n* บรรดาคริสเตียนได้รับคำสั่งให้ \"เดินในความสว่าง\" ซึ่งหมายความว่าพวกเขาสมควรดำเนินชีวิตในทางที่พระเจ้าต้องการให้พวกเขาดำเนินเพื่อหลีกหนีความชั่วร้าย \n* อัครสาวกยอห์นกล่าวว่า \"พระเจ้าทรงเป็นความสว่าง\" และไม่มีความมืดในพระองค์เลย\n* ความสว่างและความมืดเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกัน ความมืดจะไม่มีในความสว่างทั้งสิ้น\n* พระเยซูตรัสว่าพระองค์เป็น \"ความสว่างของโลก\" และผู้ที่ติดตามพระองค์สมควรฉายแสงแห่งความสว่างในโลก โดยการดำรงชีวิตอยู่ในทางที่เปิดเผยอย่างชัดเจนถึงพระเจ้าผู้ทรงยิ่งใหญ่ \n* \"เดินในความสว่าง\" แสดงถึง การดำเนินชีวิตในทางที่พระเจ้าทรงพอพระทัย ทำสิ่งที่ดีและถูกต้อง การเดินในความมืด แสดงถึง การดำเนินชีวิตในการกบฎต่อพระเจ้าและทำสิ่งที่ชั่วร้าย\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* เมื่อทำการแปล เป็นสิ่งสำคัญที่การรักษาคำตามตัวอักษร \"ความสว่าง\" และ \"ความมืด\" แม้ว่าจะถูกใช้เปรียบเปรยก็ตาม\n* อาจจะจำเป็นที่จะต้องอธิบายการเปรียบเทียบในเนื้อหา ตัวอย่างเช่น \"เดินเหมือนลูกของความสว่าง\" สามารถแปลว่า \"ดำเนินชีวิตที่ชอบธรรมอย่างเปิดเผย เหมือนกับบางคนที่เดินอยู่ภายใต้แสงสว่างของดวงอาทิตย์\" \n* ให้แน่ใจว่าการแปลคำว่า \"ความสว่าง\" ไม่ได้อ้างถึงวัตถุสิ่งของที่ให้ความสว่าง เช่น ตะเกียง การแปลคำนี้ควรอ้างถึงความสว่างในตัวเอง" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/like.txt b/01/like.txt new file mode 100644 index 00000000..1334aa52 --- /dev/null +++ b/01/like.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เหมือนกัน, ความเหมือนกัน", + "body": "คำว่า \"เหมือนกัน\" และ \"ความเหมือนกัน\" อ้างถึงบางสิ่งที่เหมือนกัน หรือคล้ายกันกับบางสิ่ง\n\n* คำว่า \"เหมือนกัน\" บ่อยครั้งถูกใช้ในการกล่าวเชิงอุปมาอุปมัยที่เรียกว่า \"คำอุปมา\" ซึ่งบางสิ่งถูกเปรียบเทียบกับอีกสิ่งหนึ่ง โดยปกติจะแสดงถึงลักษณะ ตัวอย่างเช่น \"เสื้อผ้าของเขาส่องประกายเหมือนดวงอาทิตย์\" และ \"เสียงดังเหมือนฟ้าผ่า\" (ดู : [Simile](https://git.door43.org/Door43/en-ta-translate-vol1/src/master/content/figs_simile.md))\n* \"เป็นเหมือน\" หรือ \"เสียงเหมือน\" หรือ \"ดูเหมือน\" บางสิ่งหรือบางคนหมายถึง มีคุณภาพที่คล้ายกับสิ่งของหรือบุคคลที่กำลังเปรียบเทียบ\n* คนถูกเนรมิตสร้างขึ้นมา ใน \"ความเหมือน\" ของพระเจ้า นั่นคือ ใน \"พระฉายา\" ของพระองค์ นี่หมายความว่าพวกเขามีคุณภาพหรือคุณลักษณะที่ \"เหมือน\" หรือ \"คล้ายคลึง\" กับคุณภาพที่พระเจ้าทรงมีอยู่ อย่างเช่นความสามารถในการคิด รู้สึก และการสื่อสาร\n* การมี \"ความเหมือนกัน\" กับบางสิ่งหรือบางคนหมายความว่ามีบุคลิกลักษณะที่เหมือนกับสิ่งนั้นหรือบุคคลนั้น\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ในบางบริบท คำกล่าวว่า \"ในการเป็นเหมือน\" สามารถแปลว่า \"อะไรที่ดูเหมือนกับ\" หรือ \"อะไรที่ปรากฏออกมาเป็น\"\n* คำกล่าว \" ในความเหมือนการตายของพระองค์\" สามารถแปลว่า \"มีประสบการณ์ร่วมในการตายของพระองค์\" หรือ \"ราวกับมีประสบการณ์ในการตายร่วมกับพระองค์\"\n* คำกล่าว \"ในการเป็นเหมือนเนื้อหนังที่บาป\" สามารถแปลว่า \"เป็นเหมือนกับคนบาปคนหนึ่ง\" หรือ \"เป็นมนุษย์คนหนึ่ง\" จงให้แน่ใจว่าการแปลคำนี้ไม่ได้แปลว่าพระเยซูทรงเป็นคนบาป\n* \"ในการเป็นเหมือนของเขา\" สามารถแปลว่า \"เป็นเหมือนเขา\" หรือ \" มีหลายสิ่งที่มีคุณสมบัติที่เขามี\"\n* คำกล่าว \"การเป็นเหมือนในภาพลักษณ์ของคนที่เปื่อยเน่า ของนก สัตว์ป่าสี่เท้า และสิ่งต่างๆ ที่เลื้อยคลาน\" สามารถแปลว่า \"รูปเคารพถูกทำให้เป็นเหมือนมนุษย์ที่เปื่อยเน่า หรือสัตว์เช่น นก สัตว์ป่า สัตว์เล็ก และสิ่งที่เลื้อยคลานต่างๆ\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/lion.txt b/01/lion.txt new file mode 100644 index 00000000..a7c7c830 --- /dev/null +++ b/01/lion.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "สิงโต", + "body": "สิงโตเป็นสัตว์ป่าที่มีขนาดใหญ่ลักษณะเหมือนแมว มีฟันและกรงเล็บแข็งแรงสำหรับการฆ่าและฉีกเนื้อเหยื่อของพวกมัน\n\n* สิงโตมีร่างกายที่เต็มไปด้วยพลกำลังและมีความว่องไวอย่างมากในการตะครุบเหยื่อ ขนของมันสั้นและมีสีน้ำตาลออกสีทอง\n* สิงโตตัวผู้มีขนที่เป็นแผงอยู่รอบศีรษะของพวกมัน\n* สิงโตฆ่าสัตว์อื่นเพื่อเป็นอาหารและสามารถทำอันตรายให้กับมนุษย์ได้ด้วยเช่นกัน\n* เมื่อกษัตริย์ดาวิดเป็นเด็กหนุ่ม เขาฆ่าพวกสิงโตเพื่อปกป้องแกะที่เขาดูแลอยู่\n* แซมสันก็ได้ฆ่าสิงโตด้วยมือเปล่าของเขา" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/livestock.txt b/01/livestock.txt new file mode 100644 index 00000000..eb827768 --- /dev/null +++ b/01/livestock.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ปศุสัตว์", + "body": "คำว่า \"ปศุสัตว์\" อ้างถึงสัตว์ต่างๆ ที่ถูกเลี้ยงเพื่อเตรียมอาหารและเพื่อเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นประโยชน์อื่นๆ การทำปศุสัตว์บางชนิดเป็นการฝึกสัตว์ให้เป็นสัตว์ทำงานหนักด้วเช่นกัน\n\n* ชนิดของปศุสัตว์รวมฝูงแกะ วัวควาย แพะ ม้า และลา\n* ในสมัยพระคัมภีร์ ความมั่งคั่งของบุคคลวัดกันที่จำนวนปศุสัตว์ที่บุคคลมีอยู่ \n* ปศุสัตว์มีไว้เพื่อการผลิตสินค้าต่างๆ เช่น ขนแกะ น้ำนม เนย ของใช้ในบ้านและเสื้อผ้า\n* นี่สามารถแปลว่า \"ฟาร์มสัตว์ต่างๆ \"\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/locust.txt b/01/locust.txt new file mode 100644 index 00000000..6c9e8d55 --- /dev/null +++ b/01/locust.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ตั๊กแตน", + "body": "คำว่า \"ตั๊กแตน\" อ้างถึงตั๊กแตนที่มีขนาดใหญ่ที่บินได้ซึ่งบางครั้งบินมากันเป็นฝูงและทำลายล้าง กัดกินพืชพันธุ์ทั้งหมดตามเส้นทางที่มันผ่าน\n\n* ตั๊กแตนและตั๊กแตนชนิดอื่นๆ เป็นแมลงที่มีขนาดใหญ่ มีปีกยาวตรง มีข้อขาหลังยาวที่ทำให้พวกมันสามารถกระโดดไปได้ไกล\n* ในพันธสัญญาเดิม ฝูงตั๊กแตน ถูกอ้างถึงในเชิงอุปมาอุปมัยเป็นสัญลักษณ์หรือภาพของการทำลายล้างอย่างใหญ่หลวงที่เป็นผลมาจากการไม่เชื่อฟังของคนอิสราเอล\n* พระเจ้าได้ส่งฝูงตั๊กแตนเป็นหนึ่งในภัยพิบัติสิบประการต่อพวกอียิปต์\n* พันธสัญญาใหม่กล่าวว่าตั๊กแตนเป็นแหล่งอาหารหลักของยอห์นผู้ให้บัพติศมาขณะที่เขาอาศัยอยู่ในทะเลทราย" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/loins.txt b/01/loins.txt new file mode 100644 index 00000000..f87cb02d --- /dev/null +++ b/01/loins.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เอว", + "body": "คำว่า \"เอว\" อ้างถึงส่วนของร่างกายของสัตว์หรือบุคคลที่อยู่ระหว่างกระดูกซี่โครงด้านล่างกับกระดูกเชิงกราน หรือรู้จักกันดีว่าคือ ท้องน้อย\n\n* คำกล่าว \"จงคาดเอว\" อ้างถึงการเตรียมตัวทำงานหนัก มันมาจากธรรมเนียมการเหน็บชายเสื้อคลุมขึ้นไปที่เข็มขัดรอบเอวเพื่อที่จะเคลื่อนไหวได้สะดวก\n* คำว่า \"เอว\" ใช้บ่อยครั้งในพระคัมภีร์อ้างถึงส่วนล่างด้านหลังของสัตว์ที่ถวายบูชา\n* ในพระคัมภีร์ คำว่า \"เอว\" มักจะอ้างเชิงอุปมาอุปมัยบ่อยครั้งและเป็นคำสละสลวยที่ใช้กับอวัยวะในการสืบพันธุ์ของผู้ชาย เป็นเหมือนแหล่งที่มาของเชื้อสายของเขา (ดู : [euphemism](https://git.door43.org/Door43/en-ta-translate-vol2/src/master/content/figs_euphemism.md))\n* คำกล่าว \"จะมาจากเอวของท่าน\" สามารถแปลว่า \"จะเป็นลูกหลานของท่าน\" หรือ \"จะเกิดจากเมล็ดพันธุ์ของท่าน\" หรือ \"พระเจ้าจะทำให้มาจากท่าน\" (ดู : [euphemism](https://git.door43.org/Door43/en-ta-translate-vol2/src/master/content/figs_euphemism.md))\n* เมื่ออ้างถึงส่วนของร่างกาย นี่สามารถแปลว่า \"ท้อง\" หรือ \"ตะโพก\" หรือ \"เอว\" ขึ้นอยู่กับบริบท" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/lord.txt b/01/lord.txt new file mode 100644 index 00000000..e302581f --- /dev/null +++ b/01/lord.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เจ้านาย, นาย, นายท่าน", + "body": "คำว่า \"เจ้านาย\" อ้างถึงบางคนที่เป็นเจ้าของหรือมีสิทธิอำนาจเหนือผู้คน\n\n* บางครั้งคำนี้ได้รับการแปลว่า \"นาย\" เมื่อกล่าวถึงพระเยซูหรือเมื่อกล่าวถึงใครบางคนที่เป็นเจ้าของพวกคนที่เป็นทาส\n* ในฉบับแปลภาษาอังกฤษบางฉบับใช้คำนี้ว่า \"นายท่าน\" ในบริบทที่ใช้เพื่อกล่าวถึงบางคนที่มีตำแหน่งสูงด้วยความสุภาพ\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำนี้ควรแปลว่า \"นาย\" เมื่อใช้กล่าวถึงบุคคลหนึ่งที่เป็นเจ้าของคนที่เป็นทาส คำนี้สามารถใช้โดยทาสคนหนึ่งเพื่อเรียกบุคคลที่เขาทำงานรับใช้อยู่\n* เมื่อกล่าวถึงพระเยซู สามารถแปลโดยใช้คำว่า \"นาย\" ถ้าหากในบริบทนั้นหมายถึง \"อาจารย์สอนทางศาสนา\"\n* ถ้าบุคคลที่กล่าวถึงพระเยซูไม่รู้จักพระองค์ คำว่า \"เจ้านาย\" สามารถแปลว่า \"นายท่าน\" ได้ การแปลแบบนี้จะใช้สำหรับบริบทอื่นๆ ที่เรียกบุรุษคนหนึ่งด้วยความสุภาพด้วยเช่นกัน\n* เมื่อกล่าวถึงพระเจ้าพระบิดาหรือกล่าวถึงพระเยซู คำนี้จะถูกเขียนว่า \"องค์พระผู้เป็นเจ้า\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/lordgod.txt b/01/lordgod.txt new file mode 100644 index 00000000..15b08362 --- /dev/null +++ b/01/lordgod.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "องค์พระผู้เป็นเจ้า", + "body": "คำว่า \"องค์พระผู้เป็นเจ้า\" อ้างถึงบางคนผู้มีความเป็นเจ้าของหรืออำนาจสิทธิ์ขาดเหนือประชาชน เมื่อขึ้นต้นด้วยอักษรตัวใหญ่ จะเป็นตำแหน่งที่อ้างถึงพระเจ้า (หมายเหตุ อย่างไรก็ตามเมื่อมีการใช้คำนี้เพื่ออ้างถึงใครบางคนหรือใช้เป็นคำเริ่มต้นของประโยค ก็จะใช้เป็นตัวอักษรพิมพ์ใหญ่ และมีความหมายว่า \"นายท่าน\" หรือ \"นาย\")\n\n* ในพันธสัญญาเดิม คำนี้ถูกใช้เพื่อแสดงถึงความหมายเช่น \"องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงฤทธิ์\" หรือ \"องค์พระผู้เป็นเจ้าพระยาห์เวห์\" หรือ \"พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา\" ด้วย\n* ในพันธสัญญาใหม่ พวกอัครสาวกใช้คำนี้เพื่อแสดงความหมายถึง \"องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเยซู\" และ \"องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเยซูคริสต์า\" ซึ่งสื่อสารว่าพระเยซูทรงเป็นพระเจ้า\n* คำว่า \"องค์พระผู้เป็นเจ้า\" ในพันธสัญญาใหม่ถูกใช้เป็นคำเดียวเพื่อกล่าวถึงพระเจ้าโดยตรงด้วย เฉพาะอย่างยิ่งในการอ้างอิงจากพันธสัญญาเดิม ตัวอย่างเช่น ในเนื้อหาจากพันธสัญญาเดิมบอกว่า \"สาธุการแด่พระองค์ผู้เสด็จมาในนามของพระยาห์เวห์\" และในพันธสัญญาใหม่จะบอกว่า \"สาธุการแด่พระองค์ผู้เสด็จมาในนามขององค์พระผู้เป็นเจ้า\"\n* ในฉบับ ULB และ UDB ตำแหน่ง \"องค์พระผู้เป็นเจ้า\" ใช้เพื่อแปลเป็นคำฮีบรูและคำกรีกที่หมายถึง \"องค์พระผู้เป็นเจ้า\" เท่านั้น ไม่ได้ใช้เพื่อแปลเป็นพระนามของพระเจ้า (พระยาห์เวห์) เหมือนกับที่แปลในอีกหลายฉบับ\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* บางภาษาแปลคำนี้ว่า \"นาย\" หรือ \"ผู้ปกครอง\" หรือใช้คำอื่นที่สื่อถึงเจ้าของหรือผู้ปกครองที่มีอำนาจสูงสุด\n* ในบางบริบทที่เหมาะสม คำแปลหลายฉบับใช้ตัวอักษรตัวแรกเป็นตัวพิมพ์ใหญ่เพื่อจะทำให้ผู้อ่านแยกออกอย่างชัดเจนว่าคำนั้นหมายถึงพระเจ้า\n* มีหลายแห่งในพันธสัญญาใหม่ที่อ้างอิงถึงพันธสัญญาเดิม คำว่า \"องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้า\" สามารถใช้เพื่อแยกได้ชัดเจนว่าคำนั้นหมายถึงพระเจ้า\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/lordssupper.txt b/01/lordssupper.txt new file mode 100644 index 00000000..5cf48bca --- /dev/null +++ b/01/lordssupper.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "อาหารมื้อสุดท้ายขององค์พระผุ้เป็นเจ้า", + "body": "คำว่า \"อาหารมื้อสุดท้ายขององค์พระผู้เป็นเจ้า\" ถูกใช้โดยอัครสาวกเปาโลเพื่ออ้างถึงมื้อปัสกาที่พระเยซูทรงรับประทานพร้อมกับเหล่าสาวกของพระองค์ในคืนที่พระองค์ทรงถูกอายัดโดยผู้นำชาวยิว\n\n* ในช่วงระหว่างมื้ออาหารนี้ พระเยซูทรงหักขนมปังปัสกาและทรงเรียกขนมปังนี้ว่าเป็นพระกายของพระองค์ซึ่งอีกไม่นานจะถูกเฆี่ยนตีและถูกฆ่า\n* พระองค์ทรงเรียกเหล้าองุ่นในถ้วยนี้ว่าพระโลหิตของพระองค์ ซึ่งอีกไม่นานจะถูกทำให้หลั่งออกเมื่อพระองค์สิ้นพระชนม์เพื่อเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป\n* พระเยซูตรัสสั่งว่าไม่ว่าผู้ติดตามพระองค์รับมื้อนี้ด้วยกันบ่อยครั้งเท่าไหร่ พวกเขาสมควรระลึกถึงการสวรรคตและการฟื้นคืนพระชนม์ของพระองค์ \n* ในจดหมายที่เขียนถึงผู้เชื่อชาวโครินธ์ อัครสาวกเปาโลได้ตั้งอาหารมื้อสุดท้ายขององค์พระผู้เป็นเจ้าให้เป็นการปฏิบัติที่กระทำกันเป็นประจำสำหรับบรรดาผู้เชื่อในพระเยซู\n* คริสตจักรทั้งหลายในทุกวันนี้ใช้คำว่า \"มหาสนิท\" เพื่ออ้างถึงอาหารมื้อสุดท้ายขององค์พระผู้เป็นเจ้า บางครั้งก็ใช้คำว่า \"อาหารมื้อสุดท้าย\" ด้วย\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำนี้สามารถแปลได้อีกว่า \"มื้ออาหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า\" หรือ \"มื้ออาหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา\" หรือ \"มื้ออาหารเพื่อระลึกถึงองค์พระผู้เป็นเจ้าพระเยซู\"\n\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/lordyahweh.txt b/01/lordyahweh.txt new file mode 100644 index 00000000..b42b6a45 --- /dev/null +++ b/01/lordyahweh.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "องค์พระผู้เป็นเจ้าพระยาห์เวห์, พระยาห์เวห์พระเจ้า", + "body": "ในพันธสัญญาเดิม \"องค์พระผู้เป็นเจ้าพระยาห์เวห์\" ถูกใช้หลายครั้งเพื่ออ้างถึงพระเจ้าผู้เที่ยงแท้แต่องค์เดียว\n\n* คำว่า \"องค์พระผู้เป็นเจ้า\" เป็นตำแหน่งของพระเจ้า และ \"พระยาห์เวห์\" เป็นพระนามส่วนพระองค์ของพระเจ้า\n* \"พระยาห์เวห์\" มักจะรวมกับคำว่า \"พระเจ้า\" เพื่อเป็น \"พระยาห์เวห์พระเจ้า\"\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ในบางรูปแบบ \"พระยาห์เวห์\" ถูกใช้สำหรับการแปลพระนามส่วนพระองค์ของพระเจ้า คำว่า \"องค์พระผู้เป็นเจ้าพระยาห์เวห์\" และ \"พระยาห์เวห์พระเจ้า\" สามารถแปลตามตัวอักษร และให้พิจารณาว่าจะแปลคำเหล่านั้อย่างไร คือ \"องค์พระผู้เป็นเจ้า\" ในบริบทอื่นๆ เมื่ออ้างถึงพระเจ้า\n* บางภาษาใส่ตำแหน่งหลังจากพระนามและจะแปลว่า \"พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้า\" ให้พิจารณาว่าแบบไหนที่เป็นธรรมชาติสำหรับภาษาในโครงการ ควรที่ตำแหน่ง \"องค์พระผู้เป็นเจ้า\" จะมาก่อนหรือหลัง \"พระยาห์เวห์\"\n* \"พระยาห์เวห์พระเจ้า\" สามารถถอดความว่า \"พระเจ้าผู้ทรงได้รับการเรียกว่าพระยาห์เวห์\" หรือ \"พระเจ้าผู้ทรงเป็นผู้เดียวที่ทรงพระชนม์อยู่\" หรือ \"เราเป็น คือผู้ที่เป็นพระเจ้า\"\n* ถ้าการแปลถอดความคำว่า \"พระยาห์เวห์\" เป็น \"องค์พระผู้เป็นเจ้า\" หรือ \"องค์พระเจ้า\" คำว่า \"องค์พระผู้เป็นเจ้าพระยาห์เวห์\" สามารถแแปลว่า \"องค์พระเจ้าผุ้เป็นพระเจ้า\" หรือ \"พระเจ้าผู้ทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า\" การแปลอย่างอื่นสามารถแปลว่า \"องค์พระเจ้าผู้ทรงเป็นเจ้านาย\" หรือ \"พระเจ้าผู้ทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า\"\n* คำว่า \"องค์พระผู้เป็นเจ้าพระยาห์เวห์\" ไม่สมควรถอดความว่าเป็น \"องค์พระเจ้าองค์พระผู้เป็นเจ้า\" เพราะผู้อ่านจะไม่ได้สังเกตความแตกต่างของตัวอักษรตามที่ได้ใช้กันนี้เพื่อแยกความแตกต่าง" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/lot.txt b/01/lot.txt new file mode 100644 index 00000000..44e55eb4 --- /dev/null +++ b/01/lot.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "โลท", + "body": "โลทเป็นชื่อของหลานชายของอับราฮัม\n\n* เขาเป็นบุตรชายของพี่ชายของอับราฮัมที่ชื่อว่าฮาราน\n* โลทได้เดินทางไปกับอับราฮัมเพื่อไปยังดินแดนคานาอันและได้ตั้งรกรากอยู่ในเมืองโสโดม\n* โลทเป็นบรรพบุรุษของชาวโมอับและชาวอัมโมน\n* เมื่อกษัตริย์ที่เป็นศัตรูได้โจมตีเมืองโสโดมและได้จับตัวโลท อับราฮัมได้มาพร้อมกับบุรุษหลายร้อยคนเพื่อช่วยกู้โลทและยึดข้าวของของเขาคืนมา\n* ผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองโสโดมได้อ่อนกำลังอย่างมาก ดังนั้นพระเจ้าจึงได้ทรงทำลายเมืองนั้น แต่พระองค์ได้ทรงบอกโลทและครอบครัวของเขาก่อนเพื่อให้พวกเขาหนีออกจากเมืองนั้น" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/lots.txt b/01/lots.txt new file mode 100644 index 00000000..f68f2926 --- /dev/null +++ b/01/lots.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "สลาก, การจับสลาก", + "body": "\"สลาก\" คือวัตถุที่มีเครื่องหมายซึ่งใช้โยนหรือจับขึ้นมาจากวัตถุอื่นที่เหมือนกันเพื่อเป็นวิธีในการเลือกหรือตัดสินใจ คำว่า \"การจับสลาก\" อ้างถึงการโยนวัตถุที่ทำเครื่องหมายลงไปที่พื้นหรือผิวพื้นอื่นๆ\n\n * บ่อยครั้งสลากคือหินก้อนเล็กๆ ที่ทำเครื่องหมาย หรือเศษของหม้อที่แตกทอยหรือการกลิ้งก้อนหินก้อนเล็กที่มีเครื่องหมายหรือเศษชิ้นส่วนหม้อที่แตก คนที่เศษชิ้นส่วนที่มีเครื่องหมายกลิ้งไปหาก็จะเป็นคนที่ถูกเลือก \n* ในบางวัฒนธรรม \"การจับสลาก\" หรือ สลาก\"จับออก\" จะใช้ช่อฟางข้าวเพื่อการจับสลาก บางคนถือฟางข้าวเพื่อจะไม่มีใครมองเห็นว่าพวกมันยาวเท่าไหร่ แต่ละคนก็จับเอาฟางข้าวคนละหนึ่งอันขึ้นมา ใครที่หยิบได้อันที่ยาวที่สุด (หรือสั้นที่สุด) ก็จะเป็นคนที่ถูกเลือก\n* การจับสลากถูกใช้โดยคนอิสราเอลเพื่อหาว่าพระเจ้าต้องการให้พวกเขาทำอะไร\n* อย่างเช่นในสมัยของเศคาริยาห์และ เอลีซาเบทเป็นการใช้การเลือกว่าปุโรหิตคนไหนที่จะทำหน้าที่พิเศษในพระวิหารที่จะถวายเครื่องบูชาด้วย\n* พวกทหารที่ตรึงพระเยซูได้โยนสลากเพื่อตัดสินว่าใครจะได้เสื้อคลุมของพระเยซูไปครอง\n* วลี \"การจับสลาก\" สามารถแปลว่า \"ทอยสลาก\" หรือ \"ทอดสลาก\" หรือ \"กลิ้งสลาก\" ต้องแน่ใจว่าจะไม่ใช้คำที่ทำให้สลากดูเหมือนถูกโยนไประยะไกล\n* ขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า \"สลาก\" สามารถแปลว่า \"ก้อนหินที่ถูกทำเครื่องหมายไว้\" หรือ \"เศษหม้อ\" หรือ \"ไม้\" หรือ \"เศษฟางข้าว\"\n* ถ้าการตัดสินใจที่กระทำโดยการ \"จับฉลาก\" นี่สามารถแปลว่า \"โดยการจับ (หรือการขว้าง) ฉลาก\"\n-" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/love.txt b/01/love.txt new file mode 100644 index 00000000..71709e6e --- /dev/null +++ b/01/love.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ความรัก", + "body": "การรักบุคคลอื่นคือการเอาใจใส่บุคคลนั้นและทำสิ่งต่างๆที่เป็นประโยชน์สำหรับเขา มีความหมายที่ต่างออกไปในบางภาษาสำหรับคำว่า \"ความรัก\" ซึ่งบางภาษาอาจใช้คำที่แตกต่างกันไป เช่น : 1. ชนิดของความรักที่มาจากพระเจ้าซึ่งมุ่งไปที่ความดีของผู้อื่น ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รับประโยชน์อันใดก็ตาม ความรักชนิดนี้เอาใจใส่ผู้อื่นไม่ว่าพวกเขาทำอะไร พระเจ้าเองเป็นความรักและเป็นแหล่งแห่งความรักแท้จริง\n\n* พระเยซูทรงสำแดงความรักชนิดนี้โดยการสละชีวิตของพระองค์เพื่อช่วยกู้พวกเราจากความบาปและความตาย พระองค์ทรงสอนให้ผู้ที่ติดตามพระองค์รักผู้อื่นด้วยการเสียสละด้วย\n* เมื่อผู้คนรักผู้อื่นด้วยความรักชนิดนี้ ย่อมจะรวมเอาการกระทำที่แสดงให้ว่าบางคนกำลังคิดถึงสิ่งที่จะทำให้คนอื่นเจริญเติบโต ความรักชนิดนี้รวมถึงการให้อภัยผู้อื่นด้วย\n* ในฉบับแปล ULB คำว่า \"ความรัก\" หมายถึงความรักชนิดนี้ที่เป็นความรักที่เสียสละ นอกจากว่าในบันทึกการแปลจะระบุว่าความหมายที่แตกต่างกัน\n\n2.คำอื่นในพันธสัญญาใหม่ที่อ้างถึงความรักฉันท์พี่น้องหรือความรักแบบเพื่อน หรือแบบคนในครอบครัว\n\n* คำนี้อ้างถึงความรักตามธรรมชาติของมนุษย์ที่มีต่อกันระหว่างเพื่อนหรือเครือญาติ\n* มันสามารถใช้ในบริบทเช่น \"พวกเขารักที่จะนั่งในที่นั่งที่สำคัญที่สุดในงานเลี้ยง\" นี่มีความหมายว่าพวกเขา \"ปรารถนามาก\" หรือ \"ปรารถนาอย่างแรงกล้า\" ที่จะทำสิ่งนั้น\n\n3. คำว่า \"ความรัก\" สามารถหมายถึงความรักโรแมนติคระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง\n\n4. ในการแสดงออกเชิงอุปมาอุปมัยเช่น \"ยาโคบที่ฉันได้รัก แต่เอซาวนั้นเราได้ชัง\" คำว่า \"ได้รัก\" อ้างถึงการตัดสินใจเลือกของพระเจ้าเพื่อให้ยาโคบมีความสัมพันธ์ที่เป็นพันธสัญญากับพระองค์ นี่สามารถแปลได้ว่าเป็น \"ถูกเลือก\" ถึงแม้ว่าเอซาวเองก็ได้รับพระพรจากพระเจ้า แต่เขาก็ไม่ได้รับสิทธิพิเศษในการอยู่ในพันธสัญญานั้น คำว่า \"ถูกชัง\" ถูกใช้เพื่อเปรียบเทียบที่ให้ความหมายว่า \"ถูกปฏิเสธ\" หรือ \"ไม่ได้รับเลือก\"\n\n# ข้อแนะนำในการแปล\n\n* นอกจากจะมีการะบุอย่างชัดเจนในคำอธิบายการแปล คำว่า \"ความรัก\" ใน ULB จะอ้างถึงความรักที่มีการเสียสละที่มาจากพระเจ้า\n* ในบางภาษาอาจมีคำพิเศษสำหรับความรัก ไม่เห็นแก่ตัว และเสียสละซึ่งเป็นความรักที่พระเจ้าทรงมี วิธีการแปลนี้อาจรวมคำว่า \"การดูแลเอาใจใส่ที่อุทิศตนและซื่อสัตย์\" หรือ \"การดูแลเอาใจใส่อย่างไม่เห็นแก่ตัว\" หรือ \"ความรักจากพระเจ้า\" ให้แน่ใจว่าคำที่ใช้สำหรับแปลความรักของพระเจ้านั้นได้รวมถึงการยอมสละประโยชน์ส่วนตัวเพื่อผลประโยชน์ของผู้อื่นและเป็นการรักผู้อื่นแม้ไม่ว่าพวกเขาจะทำสิ่งใดก็ตาม\n* บางครั้งภาษาอังกฤษคำว่า \"ความรัก\" อธิบายถึงการดูแลเอาใจใส่อย่างลึกซึ้งที่ผู้คนมีให้ต่อเพื่อนๆและคนในครอบครัว ในบางภาษาอาจแปลคำนี้ด้วยคำหรือวลีที่มีความหมายว่า \"ชอบอย่างมาก\" หรือ \"ดูแลเอาใจใส่\" หรือ \"มีเสน่ห์อย่างรุนแรง\"\n* ในบริบทที่คำว่า \"ความรัก\" ถูกใช้เพื่อแสดงออกถึงความพึงใจอย่างมากต่อบางสิ่ง คำนี้สามารถแปลว่า \"ชอบกว่าอย่างมาก\" หรือ \"ชอบอย่างมาก\" หรือ \"ปรารถนาอย่างมาก\"\n* ในบางภาษาอาจมีคำแยกต่างหากที่อ้างถึงความรักแบบโรแมนติคหรือความรักในทางเพศระหว่างสามีและภรรยา\n* หลายภาษาต้องแสดงออกถึง \"ความรัก\" เช่นการกระทำ ตัวอย่างเช่น พวกเขาอาจแปลว่า \"ความรักคือความอดทน ความรักคือความกรุณา\" เช่นเดียวกับ \"เมื่อบุคคลหนึ่งรักใครบางคน เขาย่อมอดทนและมีความกรุณาต่อคนนั้น\" " + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/lover.txt b/01/lover.txt new file mode 100644 index 00000000..df8c0180 --- /dev/null +++ b/01/lover.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "คนรัก", + "body": "คำว่า \"คนรัก\" มีความหมายตามตัวอักษรคือ \"บุคคลผู้ซึ่งรัก\" โดยปกติคำนี้หมายถึงคนที่มีความสัมพันธ์ทางเพศต่อกัน\n\n* เมื่อคำว่า \"คนรัก\" ที่ถูกใช้ในพระคัมภีร์ ปกติจะอ้างถึงบุคคลผู้ซึ่งมีความสัมพันธ์ทางเพศกับบางคนที่เขาไม่ได้แต่งงานด้วย\n* ความสัมพันธ์ทางเพศที่ผิดนี้มักจะใช้ในพระคัมภีร์อ้างถึงการไม่เชื่อฟังพระเจ้าของคนอิสราเอลในการนมัสการรูปเคารพทั้งหลาย ดังนั้นคำว่า \"เหล่าคนรัก\" จึงใช้ในเชิงอุปมาอุปมัยถึงพวกรูปเคารพที่คนอิสราเอลได้นมัสการ ในบริบทเหล่านี้ คำนี้สามารถแปลว่า \"คู่นอนที่ผิดศีลธรรม\" หรือ \"คู่นอนที่ล่วงประเวณี\" หรือ \"รูปเคารพ\" (ดูคำอุปมา)\n* \"คนรัก\" เงินคือใครบางคนที่ให้ความสำคัญมากเกินไปกับการได้เงินและเป็นเศรษฐี\n* ในพันธสัญญาเดิม บทเพลงซาโลมอน ใช้คำว่า \"คนรัก\" ใช้ในความหมายด้านบวก" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/lowly.txt b/01/lowly.txt new file mode 100644 index 00000000..00b653da --- /dev/null +++ b/01/lowly.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "อย่างต่ำต้อย, ความต่ำต้อย", + "body": "คำว่า \"อย่างต่ำต้อย\" และ \"ความต่ำต้อย\" อ้างถึงการเป็นคนจนและมีฐานะที่ต่ำต้อย คำนี้สามารถมีความหมายถึงเป็นคนถ่อม\n\n* พระเยซูได้ทรงถ่อมพระองค์ลงเพื่อมีฐานะอันต่ำต้อยในการเป็นมนุษย์และรับใช้ผู้อื่น\n* การประสูติอย่างต่ำต้อยเพราะพระองค์ประสูติในสถานที่ที่เป็นคอกสัตว์ไม่ใช่ในราชวัง\n* การมีทัศนคติที่ต่ำต้อยนั้นตรงกันข้ามกับการเป็นคนหยิ่ง\n* วิธีแปลคำว่า \"อย่างต่ำต้อย\" สามารถรวมถึง \"ถ่อมใจ\" หรือ \"ของสถานะที่ต่ำ\" หรือ \"ไม่สำคัญ\"\n* คำว่า \"ความต่ำต้อย\" สามารถแปลว่า \"ความถ่อม\" หรือ \"มีความสำคัญน้อย\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/luke.txt b/01/luke.txt new file mode 100644 index 00000000..184f91ab --- /dev/null +++ b/01/luke.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ลูกา", + "body": "ลูกาเป็นผู้เขียนพระธรรมสองเล่มในพันธสัญญาใหม่ คือ พระกิตติคุณลูกา และพระธรรมกิจการ\n\n* ในจดหมายของเปาโลที่เขียนถึงผู้เชื่อในเมืองโคโลสี เปาโลอ้างถึงลูกาว่าเป็นแพทย์ เปาโลยังได้กล่าวถึงลูกาในจดหมายอื่นอีกสองฉบับของเขาด้วย \n* เคยคิดกันว่า ลูกาเป็นชาวกรีกและคนต่างชาติก่อนที่จะมารู้จักพระเยซู ในพระกิตติคุณของเขา ลูการ่วมหลายตอนที่แสดงให้เห็นถึงความรักของพระเยซูสำหรับทุกคน ทั้งยิวและคนต่างชาติ\n* ลูการ่วมเดินทางเป็นมิชชันนารีกับเปาโลสองครั้งและได้ช่วยเปาโลในการทำงานของเขา\n* ในงานเขียนบางชิ้นงานของคริสตจักรยุคแรก ได้กล่าวเอาไว้ว่าลูกาได้เกิดในเมืองอันทิโอกในซีเรีย" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/lust.txt b/01/lust.txt new file mode 100644 index 00000000..4c33c234 --- /dev/null +++ b/01/lust.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ตัณหา", + "body": "ตัณหาเป็นความต้องการอย่างรุนแรง โดยทั่วไปอยู่ในบริบทของความต้องการบางสิ่งที่เป็นบาปหรือผิดศีลธรรม\n\n* ในพระคัมภีร์ คำว่า \"ตัณหา\" มักจะอ้างถึงความปรารถนาทางเพศกับใครบางคนที่ไม่ใช่คู่สมรสของตนเอง\n* บางครั้งคำนี้ถูกใช้ในประโยคในเชิงอุปมาอุปมัยเพื่ออ้างถึงการนมัสการรูปเคารพ\n* ขึ้นอยู่กับบริบท \"ตันหา\" สามารถแปลว่า \"ความปรารถนาที่ผิด\" หรือ \"ความปรารถนาอย่างแรงกล้า\" หรือ \"ความปรารถนาทางเพศในทางที่ผิด\" หรือ \"ความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะทำผิดศีลธรรม\" หรือ \"ความปรารถนาอย่างแรงที่จะทำบาป\"\n* วลี \"มีตัณหาภายหลัง\" สามารถแปลว่า \"ความปรารถนาอย่างผิดๆ\" หรือ \"คิดผย่างผิดศีลธรรมเกียวกับ\" หรือ \"ความปรารถนาอย่างผิดศีลธรรม\"\n(ให้ดูเช่นกัน : [adultery](../kt/adultery.md) · [idol](../other/idol.md))" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/lute.txt b/01/lute.txt new file mode 100644 index 00000000..0df2f21d --- /dev/null +++ b/01/lute.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "พิณน้ำเต้า, พิณ", + "body": "พิณน้ำเต้าและพิณเป็นเครื่องดนตรีใช้สายขนาดเล็กที่คนอิสราเอลใช้เพื่อนมัสการพระเจ้า\n\n* พิณนี้ดูเหมือนพิณตั้งขนาดเล็ก มีกรอบที่เอาไว้ให้สายพิณขึงข้ามไปมา\n* พิณน้ำเต้ามีลักษณะเล็กกว่ากีตาร์โปร่งสมัยใหม่ มีกล่องเป็นไม้และคอยาวที่มีสายพิณขึงไว้\n* การเล่นพิณน้ำเต้าและพิณ สายของพิณจะใช้นิ้วของมือข้างหนึ่งกดลงบนสายพิณ และอีกมือหนึ่งจับดึงสายพิณดีดบรรเลง\n* พิณน้ำเต้า พิณ และพิณตั้ง เล่นโดยการดีดสายของเครื่องดนตรี\n* จำนวนของสายพิณมีหลายแบบ แต่ในพันธสัญญาเดิมระบุว่าเครื่องดนตรีมีสิบสาย" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/lystra.txt b/01/lystra.txt new file mode 100644 index 00000000..9a3a3977 --- /dev/null +++ b/01/lystra.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ลิสตรา", + "body": "ลิสตราเป็นชื่อของเมืองหนึ่งในเอเชียไมเนอร์โบราณซึ่งเปาโลได้ไปเยี่ยมเยียนในการเดินทางเป็นมิชชันารี เมืองนี้ตั้งอยู่ในแคว้นไลคาวเนียซึ่งตอนนี้เป็นประเทศตุรกีในปัจจุบัน\n\n* เปาโลและเพื่อนร่วมงานของเขาได้หนีไปยังเดรบีและลิสตราเมื่อพวกเขาถูกขู่เข็นโดยพวกยิวในเมืองค็อนยา\n* ในลิสตรา เปาโลได้พบกับทิโมธีผู้ที่ได้กลายมาเป็นเพื่อนนักประกาศและก่อตั้งคริสตจักรด้วยกัน\n* หลังจากเปาโลได้รักษาชายพิการในเมืองลิสตรา ประชาชนที่นั่นพยายามนมัสการเปาโลและบารนาบัสเป็นพระเจ้า แต่พวกอัครสาวกได้ตำหนิพวกเขาและหยุดยั้งพวกเขาในการทำสิ่งนั้น" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/maacah.txt b/01/maacah.txt new file mode 100644 index 00000000..3b044194 --- /dev/null +++ b/01/maacah.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "มาอาคาห์", + "body": "มาอาคาห์ (หรือ มาอากาห์) เป็นหนึ่งในบรรดาบุตรชายของน้องชายของอับราฮัมที่ชื่อว่า นาโฮร์ มีคนอื่นในพันธสัญญาเดิมที่ใช้ชื่อนี้ด้วย\n\n* เมืองมาอาคาห์หรือเบธมาอาคาห์ตั้งอยู่ไกลไปทางเหนือของอิสราเอลในแคว้นที่ถูกยึดครองโดยชนเผ่านัฟทาลี\n* เป็นเมืองที่สำคัญและถูกศัตรูโจมตีหลายครั้ง\n* มาอาคาห์เป็นชื่อของผู้หญิงหลายคนรวมถึงมารดาของบุตรชายของดาวิดที่ชื่อว่า อับซาโลม\n* กษัตริย์อาสาได้ปลดมาอาคาห์ที่เป็นยายของพระองค์จากการเป็นราชินีเพราะเธอสนับสนุนการนมัสการอาเชราห์ " + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/macedonia.txt b/01/macedonia.txt new file mode 100644 index 00000000..89eba521 --- /dev/null +++ b/01/macedonia.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "มาซิโดเนีย", + "body": "ในสมัยพันธสัญญาใหม่ มาซิโดเนียเป็นแคว้นหนึ่งของโรมที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของกรีซโบราณ\n\n* เมืองที่สำคัญของมาซิโดเนียบางเมืองที่ถูกกล่าวถึงในพระคัมภีร์คือ เบเรีย ฟิลิปปี และเธสะโลนิกา\n* ผ่านทางนิมิต พระเจ้าได้สั่งให้เปาโลเทศนาพระกิตติคุณในแคว้นมาซิโดเนีย\n* เปาโลและเพื่อนร่วมงานของเขาได้ไปแคว้นมาซิโดเนียและได้สอนประชาชนที่นั่นเกี่ยวกับพระเยซูและได้ช่วยผู้เชื่อใหม่ให้เติบโตขึ้นในความเชื่อของพวกเขา\n* ในพระคัมภีร์ มีจดหมายหลายฉบับที่เปาโลได้เขียนถึงผู้เชื่อในเมืองฟิลิปปีและเธสะโลนิกาของแคว้นมาซิโดเนีย " + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/magic.txt b/01/magic.txt new file mode 100644 index 00000000..962b8dcf --- /dev/null +++ b/01/magic.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เวทมนตร์, ผู้มีคาถาอาคม", + "body": "คำว่า \"เวทมนตร์\" อ้างถึงกระทำที่ใช้อำนาจเหนือธรรมชาติที่ไม่ได้มาจากพระเจ้า \"ผู้มีคาถาอาคม\" คือคนที่ใช้เวทมนตร์\n\n* ในอียิปต์ เมื่อพระเจ้าได้กระทำการอัศจรรย์ผ่านทางโมเสส ผู้มีคาถาอาคมชาวอียิปต์ของฟาโรห์ก็สามารถทำบางสิ่งที่เหมือนกันได้ แต่อำนาจของพวกเขาไม่ได้มาจากพระเจ้า \n* เวทมนตร์ มักจะเกี่ยวข้องกับการพูดหรือเสกคาถาเพื่อให้บางสิ่งที่เหนือธรรมชาติเกิดขึ้น\n* พระเจ้าทรงสั่งประชากรของพระองค์ว่าไม่ให้ทำเวทมนตร์ หรือการทำนายโชคชะตาราศรี\n* พวกหมอผีเป็นพวกผู้มีคาถาอาคม โดยปกติคนที่ใช้เวทมนตร์ทำร้ายผู้อื่น" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/magistrate.txt b/01/magistrate.txt new file mode 100644 index 00000000..651a00ca --- /dev/null +++ b/01/magistrate.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ผู้พิพากษา, พวกผู้พิพากษา", + "body": "ผู้พิพากษาคือเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้วินิจฉัยและตัดสินใจเกี่ยวกับกฎหมาย\n\n* ในสมัยของพระคัมภีร์ ผู้พิพากษามีหน้าที่ตัดสินความขัดแย้งกันระหว่างประชาชน\n* ขึ้นอยู่กับบริบท วิธีแปลคำนี้สามารถรวมเอา \"ผู้วินิจฉัยทางการปกครอง\" หรือ \"เจ้าหน้าที่ทางกฎหมาย\" หรือ \"เจ้าหน้าที่\" หรือ \"ผู้นำของเมือง\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/magnify.txt b/01/magnify.txt new file mode 100644 index 00000000..23793ed0 --- /dev/null +++ b/01/magnify.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เยินยอ", + "body": "ตามตัวอักษรแล้วคำว่า \"เยินยอ\" หมายถึงทำให้บางสิ่งหรือบางคนยิ่งใหญ่ขึ้นหรือดึงความสนใจต่อความยิ่งใหญ่ของบางคน\n\n* เมื่อใช้ในพระคัมภีร์ คำว่า \"เยินยอ\" ปกติอ้างถึงการยกย่องกษัตริย์หรือพระเจ้า\n* เมื่อบุคคลยกย่องตนเองนั้นหมายความว่าเขาภูมิใจและพยายามทำให้ตัวเองมีความสำคัญมากขึ้นกว่าคนอื่น \n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* วิธีอื่นในการแปลคำว่า \"เยินยอ\" สามารถรวมถึง \"บอกว่ายิ่งใหญ่อย่างไร\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/majesty.txt b/01/majesty.txt new file mode 100644 index 00000000..5426758c --- /dev/null +++ b/01/majesty.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "สง่าผ่าเผย", + "body": "คำว่า \"สง่าผ่าเผย\" อ้างถึงความยิ่งใหญ่และความรุ่งโรจน์ บ่อยครั้งมักเกี่ยวข้องกับคุณสมบัติของกษัตริย์\n\n* ในพระคัมภีร์คำว่า \"สง่าผ่าเผย\" บ่อยครั้งมักจะอ้างถึงความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าผู้ซึ่งเป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่เหนือจักรวาล\n* \"ฝ่าละอองธุลีพระบาท\" เป็นวิธีพูดกับกษัตริย์\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำนี้สามารถแปลเป็น \"พระบารมี\" หรือ \"ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท\"\n* \"ฝ่าละอองธุลีพระบาท\" สามารถแปลว่า \"ความสง่าผ่าเผย\" หรือ \"ความมีอำนาจ\" หรือใช้แบบธรรมดาในการกล่าวกับผู้ปกครองในภาษาที่แปลนั้น" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/maker.txt b/01/maker.txt new file mode 100644 index 00000000..93b56c4d --- /dev/null +++ b/01/maker.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ผู้สร้าง", + "body": "โดยทั่วไปคำว่า \"ผู้สร้าง\" คือบางคนผู้ที่เนรมิตหรือทำสิ่งต่างๆ\n\n* ในพระคัมภีร์ คำว่า \"ผู้สร้าง\" ในบางครั้งถูกใช้เป็นเหมือนชื่อหรือตำแหน่งของพระยาห์เวห์เพราะพระองค์ทรงสร้างสรรพสิ่ง\n* โดยปกติคำนี้ถูกใช้รวมกับคำว่า \"ของเขา\" หรือ \"ของฉัน\" หรือ \"ของท่าน\"\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำว่า \"ผู้สร้าง\" สามารถแปลว่าเป็น \"พระผู้สร้าง\" หรือ \"พระเจ้าผู้ทรงสร้าง\" หรือ \"ผู้ที่สร้างสรรพสิ่ง\"\n* วลี \"ผู้สร้างของเขา\" สามารถแปลว่า \"ผู้หนึ่งที่ทรงเนรมิตสร้างเขา\" หรือ \"พระเจ้าผู้ทรงเนรมิตสร้างเขา\"\n* วลี \"ผู้สร้างของท่าน\" และ \"ผู้สร้างของฉัน\" สามารถแปลได้คล้ายคลึงกัน" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/malachi.txt b/01/malachi.txt new file mode 100644 index 00000000..fba57699 --- /dev/null +++ b/01/malachi.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "มาลาคี", + "body": "มาลาคีเป็นหนึ่งในบรรดาผู้เผยพระวจนะของพระเจ้าในอาณาจักรยูดาห์ เขาได้มีชีวิตประมาณ 500 ปีก่อนพระคริสต์ได้อยู่ในโลก\n\n* มาลาคีได้เผยพระวจนะในช่วงระยะเวลาที่พระวิหารของอิสราเอลกำลังถูกสร้างขึ้นมาใหม่หลังจากที่กลับมาจากการเป็นเชลยของบาบิโลน\n* เอสราและเนหะมีย์มีชีวิตอยู่ประมาณเวลาเดียวกับมาลาคี\n* พระธรรมมาลาคีคือพระธรรมเล่มสุดท้ายของพันธสัญญาเดิม\n* เช่นเดียวกับผู้เผยพระวจนะทุกคนในพันธสัญญาเดิม มาลาคีได้กระตุ้นให้ประชาชนกลับใจจากบาปของพวกเขาและหันกลับมานมัสการพระยาห์เวห์" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/manager.txt b/01/manager.txt new file mode 100644 index 00000000..c1864437 --- /dev/null +++ b/01/manager.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ผู้จัดการ, คนต้นเรือน", + "body": "คำว่า \"ผุ้จัดการ\" หรือ \"คนต้นเรือน\" ในพระคัมภีร์อ้างถึงผู้รับใช้ที่ได้รับมอบหมายด้วยความไว้วางใจเพื่อให้ดูแลทรัพย์สมบัติของเจ้านายและจัดการธุรกิจต่างๆ\n\n* คนต้นเรือนได้รับมอบหน้าที่ความรับผิดชอบมากมายซึ่งรวมถึงการปกครองดูแลการงานของผู้รับใช้คนอื่นๆ \n* คำว่า \"ผู้จัดการ\" เป็นคำที่ทันสมัยมากกว่าคนต้นเรือน ทั้งสองคำนี้อ้างถึงบางคนที่จัดการดูแลกิจการงานของคนอื่น\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำนี้สามารถแปลว่า \"ผู้ควบคุมดูแล\" หรือ \"ผู้จัดระเบียบบ้านทั้งหมด\" หรือ \"ผู้รับใช้ที่จัดการ\" หรือ \"บุคคลที่จัดระเบียบ\" " + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/manasseh.txt b/01/manasseh.txt new file mode 100644 index 00000000..75a2fe14 --- /dev/null +++ b/01/manasseh.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "มนัสเสห์, เผ่ามนัสเสห์", + "body": "มีผู้ชายห้าคนที่มีชื่อว่า มนัสเสห์ ในพันธสัญญาเดิม\n\n* มนัสเสห์เป็นชื่อของบุุตรชายคนแรกของโยเซฟ\n* ทั้งมนัสเสห์และน้องชายของเขาคือเอฟราอิมถูกรับเป็นบุตรบุญธรรมโดยบิดาของโยเซฟ คือยาโคบซึ่งได้ให้สิทธิพิเศษแก่เชื้อสายของพวกเขาในการได้อยู่ท่ามกลางชนอิสราเอลสิบสองเผ่า\n* เชื้อสายของมนัสเสห์เป็นหนึ่งในเผ่าต่างๆ ของอิสราเอล\n* เผ่ามนัสเสห์มักจะถูกเรียกว่าเป็น \"ครึ่งเผ่าของมนัสเสห์\" เพราะส่วนหนึ่งของเผ่าได้ตั้งรกรากอยู่ในดินแดนคานาอันทางด้านตะวักตกของแม่น้ำจอร์แดน อีกส่วนหนึ่งของเผ่าได้ตั้งรกรากในทางด้านตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน \n* หนึ่งในบรรดากษัตริย์ของยูดาห์ชื่อว่า มนัสเสห์\n* กษัตริย์มนัสเสห์เป็นกษัตริย์ที่ชั่วร้ายที่เอาบรรดาบุตรของเขาเองเผาเป็นเครื่องบูชาให้แก่พระเทียมเท็จ\n* พระเจ้าทรงลงโทษกษัตริย์มนัสเสห์โดยการยอมให้เขาถูกจับตัวโดยกองทัพของศัตรู มนัสเสห์ได้หันกลับมาหาพระเจ้าและทำลายแท่นบูชาที่ใช้นมัสการพวกรูปเคารพ\n* ผู้ชายสองคนที่ชื่อว่า มนัสเสห์ มีชีวิตอยู่ในช่วงยุคของเอสรา พวกเขาคือคนที่ต้องหย่ากับภรรยาต่างศาสนาเหล่านั้นเพราะพวกเธอมีอิทธิพลต่อพวกเขาในการนับถือพระเทียมเท็จ\n* มนัสเสห์อีกคนหนึ่งเป็นปู่ของบางคนในเผ่าดานที่เป็นปุโรหิตของรูปเคารพของพระเทียมเท็จ\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/manna.txt b/01/manna.txt new file mode 100644 index 00000000..f6c92139 --- /dev/null +++ b/01/manna.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "มานา", + "body": "มานาเป็นอาหารแผ่นบาง เหมือนกับขนมปังที่พระเจ้าได้ทรงเตรียมให้กับชาวอิสราเอลได้กินระหว่างที่อยู่ในถิ่นทุรกันดารหลังจากที่พวกเขาได้ออกจากอียิปต์\n\n* มานาดูเหมือนเกล็ดสีขาวที่ปรากฎในตอนเช้าของแต่ละวันบนพื้นดิน ภายใต้น้ำค้าง มีรสชาติหวานเหมือนน้ำผึ้ง\n* พวกอิสราเอลได้เก็บรวบรวมมานาทุกวันยกเว้นวันสะบาโต\n* ในวันก่อนวันสะบาโต พระเจ้าทรงบอกให้พวกอิสราเอลเก็บมานาเพิ่มเป็นสองเท่าเพื่อพวกเขาจะไม่ต้องเก็บในวันพักผ่อนของพวกเขา\n* ในพระคัมภีร์ มานาได้ถูกอ้างถึงว่า เป็น \"ขนมปังจากสวรรค์\" และ \"ได้รับจากสวรรค์\"\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* อีกวิธีหนึ่งของการแปลคำนี้สามารถรวม \"อาหารที่เป็นเกล็ดสีขาวบาง\" หรือ \"อาหารจากสวรรค์\"\n* ให้พิจารณาว่าคำนี้ได้รับการแปลในพระคัมภีร์ในภาษาท้องถิ่นหรือในภาษากลางอย่างไร" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/manofgod.txt b/01/manofgod.txt new file mode 100644 index 00000000..2341b099 --- /dev/null +++ b/01/manofgod.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ผู้ชายของพระเจ้า", + "body": "คำกล่าว \"ผู้ชายของพระเจ้า\" เป็นการกล่าวด้วยความเคารพถึงผู้เผยพระวจนะของพระยาห์เวห์ นี่ได้ใช้เพื่ออ้างถึงทูตสวรรค์ของพระยาห์เวห์\n\n* เมื่ออ้างถึงผู้เผยพระวจนะ นี่สามารถแปลว่า \"ผู้ชายผูที่เป็นของพระเจ้า\" หรือ \"ผู้ชายผู่ที่พระเจ้าได้ทรงเลือก\" หรือ \"ผู้ชายผู้ที่รับใช้พระเจ้า\"\n* เมื่ออ้างถึงทูตสวรรค์ นี่สามารถแปลว่า \"ผู้ส่งข่าวของพระเจ้า\" หรือ \"ทูตสวรรค์ของท่าน\" หรือ \"ชาวสวรรค์จากพระเจ้าผู้ที่ดูเหมือนผู้ชายคนหนึ่ง\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/martha.txt b/01/martha.txt new file mode 100644 index 00000000..8d12b997 --- /dev/null +++ b/01/martha.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "มารธา", + "body": "มารธาเป็นผู้หญิงคนหนึ่งจากเบธานีที่ได้ติดตามพระเยซู\n\n* มารธามีน้องสาวชื่อมารีย์และน้องชายชื่อลาซารัสผู้ที่ติดตามพระเยซูด้วยเช่นกัน\n* ครั้งหนึ่งเมื่อพระเยซูได้มาเยี่ยมพวกเขาที่บ้าน มารธาได้ถูกกวนใจในการเตรียมอาหารขณะที่มารีย์น้องสาวของเธอได้นั่งและได้ฟังพระเยซูตรัสสอน\n* เมื่อลาซารัสได้ตาย มารธาได้ทูลพระเยซูว่าเธอได้เชื่อว่าพระเยซูเป็นพระคริสต์พระบุตรของพระเจ้า" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/mary.txt b/01/mary.txt new file mode 100644 index 00000000..63083373 --- /dev/null +++ b/01/mary.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "มารีย์ มารดาของพระเยซู", + "body": "มารีย์เป็นผู้หญิงสาวที่อาศัยอยู่ในเมืองนาซาเร็ธผู้ที่ถูกผูกมัดให้แต่งงานกับผู้ชายที่ชื่อว่าโยเซฟ พระเจ้าทรงเลือกมารีย์ให้เป็นมารดาของพระเยซู พระเมสสิยาห์ พระบุตรของพระเจ้า\n\n* พระวิญญาณบริสุทธิ์โดยการอัศจรรย์ได้ทำให้มารีย์ตั้งครรภ์ในขณะที่เธอยังเป็นหญิงพรหมจารี * ทูตสวรรค์ได้บอกแก่มารีย์ว่าทารกในครรภ์ของเธอคือพระบุตรของพระเจ้าและเธอจะตั้งชื่อให้กุมารนั้นว่าเยซู\n* มารีย์รักพระเจ้าและได้สรรเสริญพระองค์ที่ได้โปรดปรานเธอ\n* โยเซฟได้แต่งงานกับมารีย์ แต่มารีย์ยังคงเป็นหญิงพรหมจารีจนกระทั่งหลังจากทารกได้คลอดออกมาแล้ว\n* มารีย์และโยเซฟได้นำพระกุมารเยซูไปถวายที่พระวิหาร ต่อมาพวกเขาได้พากันไปอียิปต์เพื่อหนีจากคำสั่งของเฮโรดที่ให้ฆ่าทารก หลังจากนั้นพวกเขาได้ย้ายกลับมาที่นาซาเร็ธ\n* เมื่อพระเยซูทรงเป็นผู้ใหญ่แล้ว มารีย์ได้อยู่กับพระองค์เมื่อพระองค์ทรงเปลี่ยนน้ำให้เป็นเหล้าองุ่นในงานสมรสที่บ้านคานา\n* พระกิตติคุณได้กล่าวว่ามารีย์ได้อยู่ที่กางเขนเมื่อพระเยซูกำลังจะตาย พระองค์ได้ทรงบอกให้สาวกยอห์นได้ดูแลเธอให้เหมือนแม่ของเขา" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/marymagdalene.txt b/01/marymagdalene.txt new file mode 100644 index 00000000..7f68b4fe --- /dev/null +++ b/01/marymagdalene.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "มารีย์ชาวมักดาลา", + "body": "มารีย์ชาวมักดาลาคือหนึ่งในจะนวนผู้หญิงหลายๆ คนที่เชื่อในพระเยซูและได้ติดตามพระองค์ในงานพันธกิจของพระองค์ เธอเป็นที่รู้จักในฐานะที่เป็นคนที่พระเยซูได้รักษาจากปีศาจเจ็ดตนที่ได้ควบคุมเธอ\n\n* มารีย์ชาวมักดาลาและผู้หญิงอื่นบางคนช่วยสนับสนุนพระเยซูและพวกอัครสาวกของพระองค์โดยถวายให้แก่พวกเขา\n* เธอถูกอ้างถึงว่าเป็นผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่มผู้หญิงกลุ่มแรกที่เห็นพระเยซูหลังจากที่พระองค์เป็นขึ้นมาจากความตาย\n* ขณะที่มารีย์ชาวมักดาลาได้ยืนอยู่นอกอุโมงค์ที่ว่างเปล่า เธอได้เห็นพระเยซูทรงยืนอยู่ที่นั่นและพระองค์ได้ทรงบอกเธอไปบอกให้สาวกคนอื่นๆ ว่าพระองค์ทรงฟื้นคืนพระชนม์" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/marysisterofmartha.txt b/01/marysisterofmartha.txt new file mode 100644 index 00000000..f25830dc --- /dev/null +++ b/01/marysisterofmartha.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "มารีย์ (น้องสาวของมารธา)", + "body": "มารีย์เป็นผู้หญิงจากเบธานีผู้ที่ได้ติดตามพระเยซู\n\n* มารีย์มีพี่สาวที่ชื่อว่ามารธาและน้องชายชื่อว่าลาซารัสผู้ที่ได้ติดตามพระเยซูเช่นกัน\n* ครั้งหนึ่งพระเยซูได้กล่าวว่ามารีย์ได้เลือกสิ่งที่ดีที่สุดเมื่อเธอได้เลือกนั่งฟังพระองค์มากกว่าการวิตกกังวลเกี่ยวกับการเตรียมอาหารอย่างที่มารธากำลังทำอยู่\n* พระเยซูได้นำน้องชายของมารีย์กลับฟื้นชีวิตมาใหม่\n* บางครั้งหลังจากนั้น ขณะที่พระเยซูรับประทานอาหารที่บ้านของบางคนในเบธานี มารีย์ได้เทน้ำมันหอมราคาแพงบนเท้าของพระองค์เพื่อเป็นการนมัสการพระองค์ \n* พระเยซูทรงกล่าวยกย่องเธอสำหรับการกระทำนี้ และได้กล่าวว่าเธอกำลังเตรียมร่างของพระองค์เพื่อการฝังพระศพ" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/matthew.txt b/01/matthew.txt new file mode 100644 index 00000000..83118672 --- /dev/null +++ b/01/matthew.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "มัทธิว, เลวี", + "body": "มัทธิวเป็นคนหนึ่งในผู้ชายสิบสองคนที่พระเยซูได้เลือกให้เป็นอัครสาวกของพระองค์ เขาเป็นที่รู้จักกันในนามของเลวี บุตรชายของอัลเฟอัส \n\n* เลวี (มัทธิว) เป็นคนเก็บภาษีจากเมืองคาเปอร์นาอุมก่อนที่เขาจะได้พบพระเยซู\n* มัทธิวได้เขียนพระกิตติคุณที่ใช้ชื่อของเขา\n* มีคนหลายคนที่มีชื่อว่าเลวีในพระคัมภีร์" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/mealoffering.txt b/01/mealoffering.txt new file mode 100644 index 00000000..a105b738 --- /dev/null +++ b/01/mealoffering.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ธัญบูชา, ธัญบูชา", + "body": "\"ธัญบูชา\" หรือ \"ธัญบูชา\" เป็นเครื่องบูชาแด่พระเจ้าในรูปแบบของเมล็ดข้าวหรือขนมปังที่ทำจากแป้งเมล็ดข้าว\n\n* คำว่า \"ธัญ\" อ้างถึงเมล็ดข้าวที่ได้ถูกบดจนกลายเป็นแป้ง\n* แป้งจะถูกผสมกับน้ำหรือน้ำมันเพื่อทำเป็นขนมปังแผ่นเรียบ บางครั้งน้ำมันถูกพรมลงบนขนมปัง\n* การถวายบูชาแบบนี้โดยปกติมักจะถวายร่วมกับเครื่องเผาบูชา" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/mede.txt b/01/mede.txt new file mode 100644 index 00000000..0cae9cf5 --- /dev/null +++ b/01/mede.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ชาวมีเดีย, มีเดีย", + "body": "มีเดียเป็นจักรวรรดิโบราณที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของอัสซีเรียและบาบิโลน และทางเหนือของเอลามและเปอร์เซีย ผู้คนที่อาศัยอยู่ในจักรวรรดิมีเดียถูกเรียกว่าเป็น \"ชาวมีเดีย\" \n\n* มีเดียเป็นอาณาเขตที่ครอบคลุมส่วนของประเทศตุรกี อีหร่าน ไซเรีย อิรัก และอัฟกานิสถาน ในปัจจุบัน \n* ชาวมีเดียมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับชาวเปอร์เซีย และทั้งสองจักรวรรดิ์นี้ร่วมกำลังกองทัพเพื่อเอาชนะจักรวรรดิบาบิโลน\n* บาบิโลนได้ถูกบุกรุกโดยดาริอุสชาวมีเดีย ระหว่างเวลาของผู้เผยพระวจนะดาเนียลขณะที่กำลังมีชีวิตอยู่ที่นั่น" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/mediator.txt b/01/mediator.txt new file mode 100644 index 00000000..6fb2eaf9 --- /dev/null +++ b/01/mediator.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "คนทำการปรองดอง, ผู้เป็นสื่อกลาง", + "body": "คนทำการปรองดอง คือบุคคลที่ช่วยประชาชนสองฝ่ายหรือมากกว่าเพื่อแก้สิ่งที่ตกลงกันไม่ได้หรือปัญหาความขัดแย้งต่อกัน เขาช่วยพวกเขาและให้คืนดีกัน\n* เพราะประชาชนได้ทำบาป พวกเขาเป็นศัตรูกับพระเจ้าผู้สมควรต่อพระพิโรธและการลงโทษ เนื่องจากความบาป ความสัมพันธ์ระหว่างพระเจ้ากับประชากรของพระองค์ได้ถูกทำลายลง \n* พระเยซูทรงเป็นผู้ทำการปรองดองระหว่างพระเจ้าพระบิดากับประชากรของพระองค์ ทรงรื้อฟื้นความสัมพันธ์ที่ถูกทำลายลงไปแล้วขึ้นมาใหม่โดยผ่านการตายของพระองค์เป็นค่าจ้างสำหรับความบาปของพวกเขา\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* วิธีการแปลคำว่า \"คนทำการปรองดอง, ผู้เป็นสื่อกลาง\" สามารถแปลว่า \"คนที่อยู่ระหว่างบุคคล\" หรือ \"ผู้ที่ทำให้คืนดีกัน\" หรือ \"บุคคลที่นำสันติสุขมา\"\n* เปรียบเทียบคำนี้กับวิธีการแปลคำว่า \"ปุโรหิต\" เป็นการดีที่สุดที่ คำว่า \"คนทำการปรองดอง, ผู้เป็นสื่อกลาง\" ถูกแปลแตกต่างกัน" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/meditate.txt b/01/meditate.txt new file mode 100644 index 00000000..fadf73a6 --- /dev/null +++ b/01/meditate.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ภาวนาใคร่ครวญ", + "body": "คำว่า \"ภาวนาใคร่ครวญ\" หมายถึงการใช้เวลาคิดเกี่ยวกับบางสิ่งด้วยความรอบคอบและลึกซึ้ง\n\n* คำนี้มักจะถูกใช้ในพระคัมภีร์อ้างถึงการคิดเกี่ยวกับพระเจ้าและคำสอนของพระองค์\n* สดุดีบทที่ 1 กล่าวว่าบุคคลนั้นที่ภาวนากฎบัญญัติของพระเจ้า \"ทั้งกลางวันและกลางคืน\" จะได้รับพระพรอย่างยิ่งใหญ่\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* การ \"ภาวนาใคร่ครวญ\" สามารถแปลว่า \"คิดอย่างรอบคอบและอย่างลึกซึ้ง\" หรือ \"พิจารณาด้วยการคิดใคร่ครวญ\" หรือ \"คิดถึงบ่อยๆ\"\n* รูปแบบคำนามคือ \"การภาวนาใคร่ครวญ\" และสามารถแปลว่า \"คิดอย่างลึกซึ้ง\" คำวลีที่ว่า \"การภาวนาในใจของข้าพเจ้า\" สามารถแปลว่า \"สิ่งที่ข้าพเจ้าคิดอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับ\" หรือ \"สิ่งที่่ข้าพเจ้าคิดเกี่ยวกับ\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/mediterranean.txt b/01/mediterranean.txt new file mode 100644 index 00000000..2f558273 --- /dev/null +++ b/01/mediterranean.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ทะเล, ทะเลยิ่งใหญ่, ทะเลตำวันตก, ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน", + "body": "ในพระคัมภีร์ \"ทะเลยิ่งใหญ่\" หรือ \"ทะเลตะวันตก\" อ้างถึง \"ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน\" ในปัจจุบัน ซึ่งในสมัยพระคัมภีร์เป็นสิ่งที่ใหญ่ที่สุดที่รู้จักกันของประชาชน\n\n* ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนถูกล้อมรอบโดย อิสราเอล (ทางทิศตะวันออก) ยุโรป (ทางทิศเหนือและตะวันตก) และอัฟริกา (ทางทิศใต้)\n* ทะเลนี้มีความสำคัญมากในสมัยโบราณสำหรับการค้าขายและการเดินทางเพราะถูกโอบล้อมโดยหลายประเทศ เมื่องต่างๆ และประชาชนหลายกลุ่มตั้งอยู่ริมฝั่งของทะเลต่างก็รุ่งเรืองเพราะว่ามันเป็นการง่ายที่จะเข้าถึงสินค้าจากประเทศต่างๆ โดยเรือ\n* เนื่องจากทะเลยิ่งใหญ่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของอิสราเอล บางครั้งจึงถูกอ้างถึงว่าเป็น \"ทะเลตะวันตก\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/meek.txt b/01/meek.txt new file mode 100644 index 00000000..4d565dce --- /dev/null +++ b/01/meek.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "อ่อนสุภาพ, ความอ่อนสุภาพ", + "body": "คำว่า \"อ่อนสุภาพ\" อธิบายถึงบุคคลที่สุภาพอ่อนโยน อ่อนน้อมยอมทำตาม และเต็มใจทนทุกข์อย่างไม่ยุติธรรม ความอ่อนสุภาพคือความสามารถในการสุภาพแม้ว่าเมื่อมีความเกรี้ยวกราดหรือบีบบังคับที่ดูเหมือนไม่เหมาะสมเกิดขึ้น\n\n* ความอ่อนสุภาพมักจะเกี่ยวข้องกับความถ่อมใจ\n* คำนี้สามารถแปลว่า \"สุภาพ\" หรือ \"มีมารยาทสุภาพ\" หรือ \"อารมณ์อ่อนหวาน\"\n* คำว่า \"ความอ่อนสุภาพ\" สามารถแปลว่า \"สุภาพอ่อนโยน\" หรือ \"ถ่อมใจ\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/melchizedek.txt b/01/melchizedek.txt new file mode 100644 index 00000000..eb73efb8 --- /dev/null +++ b/01/melchizedek.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เมลคีเซเดค", + "body": "ในช่วงเวลาที่อับราฮัมมีชีวิตอยู่ เมลคีเซเดคได้เป็นกษัตริย์ของเมืองชาเลม (ซึ่งต่อมาเป็น \"เยรูซาเล็ม\")\n\n* ชื่อของเมลคีเซเดคหมายถึง \"กษัตริย์แห่งความชอบธรรม\" และตำแหน่งของพระองค์ \"กษัตริย์แห่งชาเลม\" หมายถึง \"กษัตริย์แห่งสันติสุข\"\n* พระองค์ถูกขนานนามว่า \"ปุโรหิตของพระเจ้าผุ้สูงสุด\"\n* เมลคีเซเดคถูกกล่าวถึงครั้งแรกในพระคัมภีร์เมื่อเขามอบขนมปังและเหล้าองุ่นให้แก่อับรามหลังจากที่อับราฮัมช่วยหลานของเขาคือโลทจากบรรดากษัตริย์ที่มีอำนาจ อับรามถวายสิบชักหนึ่งจากของที่ปล้นมาได้จากชัยชนะของเขาให้แก่เมลคีเซเดค\n* ในพันธสัญญาใหม่ เมลคีเซเดคได้ถูกอธิบายว่าเป็นใครคนหนึ่งที่ไม่มีบิดาหรือมารดา พระองค์ถูกเรียกว่าปุโรหิตและกษ้ตริย์ผู้จะครอบครองชั่วนิรันดร์ \n* ในพันธสัญญาใหม่ยังกล่าวอีกด้วยว่าพระเยซูเป็นปุโรหิตตามอย่าง \"การจัดระเบียบของเมลคีเซเดค\" พระเยซูไม่ได้สืบเชื้อสายเลวีเหมือนกับที่พวกปุโรหิตของอิสราเอล ความเป็นปุโรหิตของพระองค์มาจากพระเจ้าโดยตรง เช่นเดียวกับที่เมลคีเซเดคเป็น\n* ขึ้นอยู่กับพื้นฐานคำอธิบายเหล่านี้ของพระองค์ในพระคัมภีร์ เมลคีเซเดคจึงเป็นปุโรหิตที่เป็นมนุษย์ผู้ที่ถูกเลือกโดยพระเจ้าเพื่อเป็นตัวแทนหรือชี้มาที่พระเยซูผู้เป็นกษัตริย์แห่งสันติสุขและความชอบธรรมชั่วนิรันดร์และทรงเป็นปุโรหิตผู้ยิ่งใหญ่ของพวกเรา" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/melt.txt b/01/melt.txt new file mode 100644 index 00000000..ed13f0da --- /dev/null +++ b/01/melt.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ละลาย, ซึ่งถูกหลอมละลาย", + "body": "คำว่า \"ละลาย\" อ้างถึงบางสิ่งที่กลายเป็นของเหลวเมื่อถูกความร้อน มีการใช้ในเชิงอุปมาอุปมัยด้วยเช่นกัน บางสิ่งที่ละลายจะอธิบายว่า \"ซึ่งถูกหลอมละลาย\"\n\n* โลหะต่างชนิดจะถูกความร้อนจนกระทั่งพวกมันละลายและสามารถเทลงในเบ้าเพื่อที่จะทำสิ่งต่างๆ เช่นอาวุธหรือรูปเคารพ คำกล่าว \"โลหะซึ่งถูกหลอมละลาย\" อ้างถึงโลหะที่ถูกหลอม\n* ขณะที่จุดเทียนไข ขี้ผึ้งจะละลายและหยด ในสมัยโบราณ จดหมายจะถูกผิดผนึกโดยการหยดขี้ผึ้งเล็กน้อยลงตรงที่ขอบจดหมาย\n* คำอุปมาอุปมัยของคำว่า \"ละลาย\" หมายความว่ากลายเป็นอ่อนนุ่มและอ่อนแอ เหมือนขี้ผึงละลาย\n* คำกล่าวที่ว่า \"หัวใจของพวกเขาจะละลาย\" หมายความว่าพวกเขาจะอ่อนแอเพราะความกลัว\n* คำอุปมาอุปมัยอย่างอื่น เช่น \"พวกเขาจะละลายไป\" หมายความว่า พวกเขาจะถูกบังคับให้หนีไปหรือพวกเขาจะแสดงความอ่อนแอและจะหนีไปในการถูกปราบปราม\n* ความหมายตามตัวอักษรของ \"ละลาย\" สามารถแปลว่า \"กลายเป็นของเหลว\" หรือ \"ทำให้เป็นของเหลว\" หรือ \"เป็นเหตุให้กลายเป็นของเหลว\"\n* วิธีอื่นในการแปลความหมายเชิงอุปมาอุปมัยของคำว่า \"ละลาย\" สามารถรวมถึง \"กลายเป็นอ่อนนุ่ม\" หรือ \"กลายเป็นอ่อนแอ\" หรือ \"ถูกปราบปราม\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/member.txt b/01/member.txt new file mode 100644 index 00000000..d9abb05c --- /dev/null +++ b/01/member.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "สมาชิก", + "body": "คำว่า \"สมาชิก\" อ้างถึง ส่วนหนึ่งของร่างที่ซับซ้อนหรือกลุ่ม\n\n* ในพันธสัญญาใหม่ได้อธิบายคริสเตียนว่าเป็น \"สมาชิก\" ของพระกายของพระคริสต์ ผู้เชื่อในพระคริสต์เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มซึ่งประกอบด้วยสมาชิกหลายคน\n* พระเยซูคริสต์เป็น \"ศีรษะ\" ของร่างกายและผู้เชื่อแต่ละคนทำหน้าที่เป็นส่วนประกอบหรือสมาชิกของร่างกาย พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ประทานบทบาทพิเศษให้กับสมาชิกของร่างกายเพื่อให้ร่างกายทั้งสิ้นทำงานได้ดี\n* ปัจเจกบุคคลซึ่งมีส่วนร่วมกับกลุ่มต่างๆ เช่น สภาของชาวยิวและกลุ่มฟาริสีต่างก็ถูกเรียกว่าเป็น \"สมาชิก\" ของกลุ่มเหล่านี้" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/memorialoffering.txt b/01/memorialoffering.txt new file mode 100644 index 00000000..e832abaa --- /dev/null +++ b/01/memorialoffering.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ที่ระลึกถึง, การถวายเพื่อเป็นอนุสรณ์", + "body": "คำว่า \"ที่ระลึกถึง\" อ้างถึงการกระทำหรือสิ่งที่ทำให้บางคนหรือบางสิ่งเป็นที่จดจำ\n\n* คำนี้ถูกใช้เป็นคำคุณศัพท์ด้วยเช่นกันเพื่อใช้อธิบายว่าบางสิ่งที่ทำให้พวกเขาระลึกถึงบางสิ่ง เช่น \"การถวายเพื่อเป็นอนุสรณ์\" \"ส่วนที่ระลึกถึง\" การถวายบูชา หรือ \" \"ศิลาที่เป็นอนุสรณ์\" \n* ในพันธสัญญาเดิม \"ถวายเพื่อเป็นอนุสรณ์\" ได้ถูกกระทำเพื่อให้ชาวอิสราเอลได้ระลึกถึงสิ่งที่พระเจ้าได้ทรงกระทำเพื่อพวกเขา\n* พระเจ้าได้สั่งให้พวกปุโรหิตของชาวอิสราเอลต้องสวมเสื้อพิเศษที่มีอัญมณีที่เป็นอนุสรณ์ อัญมณีเหล่านี้มีรายชื่อของสิบสองเผ่าของอิสราเอลทั้งสิบสองเผ่าสลักไว้ อาจเป็นได้ที่สิ่งเหล่านี้ทำให้เตือนความจำพวกเขาถึงความสัตย์ซื่อของพระเจ้าที่มีต่อพวกเขา\n* ในพันธสัญญาใหม่ พระเจ้าได้ให้เกียรติแก่ผู้ชายคนหนึ่งชื่อโครเนลิอัส เพราะการกระทำของเขาสำหรับคนยากจน การกระทำเหล่านี้ถือเป็น \"ที่ระลึกถึง\" ต่อพระพักตรพระเจ้า\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* นี่สามารถแปลว่า \"การเตือนความจำที่ยั่งยืน\"\n * คำว่า \"ศิลาอันเป็นอนุสรณ์\" สามารถแปลว่า \"ศิลาที่เตือนความจำพวกเขา\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/memphis.txt b/01/memphis.txt new file mode 100644 index 00000000..6b307489 --- /dev/null +++ b/01/memphis.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เมมฟิส", + "body": "เมมฟิสเป็นเมืองหลวงโบราณในอียิปต์ อยู่ข้างแม่น้ำไนล์\n\n* เมมฟิสตั้งอยู่บริเวณอียิปต์ตอนใต้ ที่ดินดอนสามเหลี่ยมแม่น้ำไนล์ ที่มีความอุดมสมบูรณ์อย่างยิ่งเต็มไปด้วยพืชพันธุ์นานาชนิด\n* เนื่องจากดินที่มีความอุดมสมบูรณ์และที่ตั้งอยู่ระหว่างอียิปต์ตอนบนและตอนล่าง ทำให้เมืองเมมฟิสกลายเป็นเมืองหลักในด้านการค้าขาย" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/mercy.txt b/01/mercy.txt new file mode 100644 index 00000000..f2af3de5 --- /dev/null +++ b/01/mercy.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เมตตา, เปี่ยมไปด้วยความเมตตา", + "body": "คำว่า \"เมตตา\" หรือ \"เปี่ยมด้วยเมตตา\" อ้างถึงการให้ความช่วยเหลือต่อคนที่ต้องการความช่วยเหลือ เฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาตกอยู่ในสถานะที่ตกต่ำ\n\n* คำว่า \"เมตตา\" สามารถรวมถึงความหมายของการไม่ลงโทษคนสำหรับบางสิ่งที่พวกเขาได้ทำผิดด้วยเช่นกัน\n* บุคคลผู้ซึ่งมีอำนาจมากอย่างเช่นกษัตริย์ผู้ซึ่งได้รับการอธิบายว่า \"เปี่ยมไปด้วยความเมตตา\" เมื่อกษัตริย์องค์นั้นกระทำต่อประชากรด้วยใจกรุณามิใช่่ด้วยการทำร้ายพวกเขา\n* การเปี่ยมไปด้วยความเมตตายังหมายถึงการยกโทษให้บางคนซึ่งได้กระทำผิดต่อเรา\n* เราแสดงความเมตตาเมื่อเราช่วยเหลือคนที่อยู่ในความจำเป็นอย่างมาก\n* พระเจ้าทรงมีความเมตตาต่อเรา และพระองค์ทรงต้องการให้เรามีความเมตตาต่อผู้อื่น\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* นั้นขึ้นอยู่กับบริบท \"ความเมตตา\" สามารถแปลว่า \"ความกรุณา\" หรือ \"ความเห็นอกเห็นใจ\" หรือ \"ความสงสาร\" \n* คำว่า \"เปี่ยมด้วยความเมตตา\" สามารถแปลว่า \"แสดงความรู้สึกสงสาร\" หรือ \"มีใจกรุณาต่อ\" หรือ \"ให้อภัยแก่\" \n * \"แสดงความเมตตาแก่\" หรือ \"มีความเมตตาต่อ\" สามารถแปลว่า \"ปฏิบัติด้วยใจกรุณา\" หรือ \"มีความเห็นใจสงสารต่อ\" " + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/meshech.txt b/01/meshech.txt new file mode 100644 index 00000000..f6c5e0aa --- /dev/null +++ b/01/meshech.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เมเชค", + "body": "เมเชค คือชื่อของผู้ชายสองคนซึ่งปรากฎอยู่ในพันธสัญญาเดิม\n\n* เมเชคคนหนึ่งคือบุตรชายของยาเฟ\n* เมเชคอีกคนหนึ่งคือหลานชายของเชม\n* เมเชคยังเป็นชื่อของแคว้นในดินแดนแห่งหนึ่ง ซึ่งอาจได้รับการตั้งชื่อตามคนหนึ่งในสองคนดังกล่าว\n * แคว้นเมเชคนั้นอาจจะเคยตั้งอยู่ดินแดนส่วนที่เป็นประเทศตุรกีในปัจจุบัน" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/mesopotamia.txt b/01/mesopotamia.txt new file mode 100644 index 00000000..c4ba2efe --- /dev/null +++ b/01/mesopotamia.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เมโสโปเตเมีย, อารัม นาหะราอิม", + "body": "เมโสโปเตเมียเป็นพื้นที่ของแผ่นดินตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำไทกริสและยูเฟรติส ทำเลที่ตั้งของดินแดนนี้เป็นบริเวณที่ตั้งของประเทศอิรักในปัจจุบัน\n\n* ในสัญญาเดิม ดินแดนนี้ได้ถูกเรียกว่า \"อารัม นาหะราอิม\"\n* คำว่า \"เมโสโปเตเมีย\" หมายถึง \"ระหว่างแม่น้ำ\" วลีว่า \"อารัม นาหะราอิม\" หมายความว่า \"อารัมของแม่น้ำสองสาย\"\n * อับราฮัมได้อาศัยอยู่ในเมืองต่างๆ ในดินแดนแถบเมโสโปเตเมียที่มีชื่อว่าเออร์และฮาราน ก่อนที่จะเดินทางย้ายไปสู่ดินแดนคานาอัน\n* กรุงบาบิโลนเป็นเมืองสำคัญเมืองหนึ่งซึ่งอยู่ในดินแดนเมโสโปเตเมีย\n* แคว้นซึ่งมีชื่อว่า \"เคลเดีย\" นั้นเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนเมโสโปเตเมีย " + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/messenger.txt b/01/messenger.txt new file mode 100644 index 00000000..41c5766b --- /dev/null +++ b/01/messenger.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": " ผู้สื่อสาร", + "body": "คำว่า \"ผู้สื่อสาร\" อ้างถึงบางคนผู้ซึ่งได้รับมอบข่าวสารเพื่อบอกแก่ผู้อื่น\n\n* ในสมัยโบราณ ผู้สื่อสารจะเป็นผู้ซึ่งถูกส่งจากสมรภูมิรบไปยังเมืองเพื่อส่งข่าวสารให้แก่คนในเมืองได้รับรู้ว่าอะไรได้เกิดขึ้นบ้าง\n* ทูตสวรรค์คือทูตพิเศษผู้สื่อสารซึ่งพระเจ้าทรงส่งออกไปเพื่อบอกสารแก่ประชาชน ฉบับแปลบางฉบับนั้นแปล \"ทูตสวรรค์\" เป็น \"ผู้สื่อสาร\"\n* ยอห์นผู้ให้รับบัพติศมาถูกเรียกว่าเป็นทูตผู้ซึ่ง \"ไปข้างหน้าท่าน\" เพื่อประกาศถึงการเสด็จมาของพระเมสิยาห์และเพื่อเตรียมประชากรให้พร้อมในการรับพระองค์\n* พวกสาวกของพระเยซูเป็นผู้สื่อสารซึ่งออกไปแบ่งปันข่าวประเสริฐเรื่องแผ่นดินของพระเจ้าแก่ประชาชนคนอื่นๆ" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/micah.txt b/01/micah.txt new file mode 100644 index 00000000..66fef6e1 --- /dev/null +++ b/01/micah.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "มีคาห์", + "body": "มีคาห์เป็นผู้เผยพระวจนะของยูดาห์เมื่อประมาณ 700 ปีก่อนคริสตกาล เมื่อผู้เผยพระวจนะอิสยาห์ยังทำพันธกิจที่แคว้นยูดาห์ มึผู้ชายอีกคนหนึ่งชื่อมีคาห์ได้มีชีวิตอยู่ในเวลาของผู้วินิจฉัย\n\n* พระธรรมมีคาห์นั้นเป็นหนังสือเล่มที่อยู่ใกล้ตอนท้ายของพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม\n* มีคาห์ได้พยากรณ์ถึงการล่มสลายของสะมาเรียโดยชาวอัสซีเรีย\n* มีคาห์ได้ดุด่าประชากรแห่งยูดาห์ว่าพวกเขาไม่เชื่อฟังพระเจ้าและยังได้ตักเตือนอีกว่าพวกเขาจะถูกศัตรูโจมตี\n* คำพยากรณ์ของมีคาห์ทิ้งท้ายไว้ด้วยข้อความแห่งความหวังในพระเจ้า ผู้ซึ่งสัตย์ซื่อและช่วยกู้ประชากรของพระองค์\n* ในพระธรรมผู้วินิจฉัยได้บอกเล่าเรื่องราวของผู้ชายคนหนึ่งชื่อว่ามีคาห์ซึ่งอาศัยอยู่ในดินแดนเอฟราอิม ผู้ได้สร้างรูปเคารพจากเงิน ปุโรหิตหนุ่มชาวเลวีผู้ซึ่งได้เข้ามาอาศัยอยู่กับเขานั้นได้ขโมยรูปเคารพและสิ่งของอื่นๆ แล้วออกเดินทางไปกับชนเผ่าดาน ท้ายที่สุดชนเผ่าดานและพระจึงได้มาตั้งรกรากอยู่ในเมืองลาอิชและพวกเขาก็ได้จัดตั้งรูปเคารพที่ทำจากเงินเพื่อนมัสการ" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/michael.txt b/01/michael.txt new file mode 100644 index 00000000..3586e525 --- /dev/null +++ b/01/michael.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "มีคาเอล", + "body": "มีคาเอลเป็นหัวหน้าของบรรดาทูตสวรรค์ผู้บริสุทธิ์ เชื่อฟังพระเจ้า เขาเป็นทูตสวรรค์องค์เดียวซึ่งได้ถูกอ้างถึงว่าเป็น \"หัวหน้าทูตสวรรค์\" ของพระเจ้า\n\n* คำว่า \"หัวหน้าทูตสวรรค์\" ตามตัวอักษรหมายความว่า \"หัวหน้าของทูตสวรรค์\" หรือ \"ทูตสวรรค์ผู้ซึ่งปกครอง\"\n* มีคาเอลเป็นนักรบผู้ซึ่งต่อสู้กับศัตรูขของพระเจ้าและพิทักษ์ประชากรของพระองค์\n* เขาได้นำอิสราเอลต่อสู้กับกองทัพของเปอร์เซีย ในเวลาสุดท้ายเขาจะนำกองทัพของอิสราเอลในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายกับกองกำลังของความชั่ว อย่างเช่นที่ได้ทำนายใน พระธรรมดาเนียล\n* มีผู้ชายหลายคนในพระคัมภีร์ที่มีชื่อว่ามีคาเอล มีผู้ชายจำนวนมากถูกขนานนามว่าเป็น \"บุตรชายของมีคาเอล\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/midian.txt b/01/midian.txt new file mode 100644 index 00000000..680c8168 --- /dev/null +++ b/01/midian.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "มีเดียน, ชาวมีเดียน", + "body": "มีเดียนเป็นบุตรชายของอับราฮัมและภรรยาของเขาเคทูรา และคำนี้เป็นชื่อของชนชาติหนึ่งและบริเวณที่ตั้งอยู่ตอนเหนือของทะเลทรายอาราเบียจรดตอนใต้ของดินแดนคานาอัน ประชาชนของชนชาติดังกล่าวเรียกว่า \"ชาวมีเดียน\"\n\n* เมื่อโมเสสได้จากอียิปต์ครั้งแรก เขาได้ไปที่ดินแดนของมีเดี่ยน เป็นที่เขาได้พบบรรดาบุตรสาวของเยโธรและได้ช่วยพวกเขาให้น้ำฝูงสัตว์ ต่อมาโมเสสได้แต่งงานกับบุตรสาวคนหนึ่งของเยโธร\n* โยเซฟถูกจับไปอียิปต์โดยกลุ่มผู้ค้าทาสชาวมีเดียน\n* หลายปีต่อมาชาวมีเดียนได้โจมตีและได้ปล้นชาวอิสราเอลในดินแดนคานาอัน กิเดโอนจึงได้นำอิสราเอลในการต่อสู้จนได้รับชัยชนะเหนือชาวมีเดียน\n* ชนเผ่าอาหรับสมัยใหม่หลายเผ่าเป็นผู้สืบเชื้อสายมาจากชนชาตินี้\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/mighty.txt b/01/mighty.txt new file mode 100644 index 00000000..a5590663 --- /dev/null +++ b/01/mighty.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ทรงฤทธิ์, ฤทธานุภาพ", + "body": "คำว่า \"ทรงฤทธิ์\" และ \"ฤทธานุภาพ\" หมายถึงพลังหรือมีอำนาจมาก\n\n* บ่อยครั้งคำว่า \"ฤทธานุภาพ\" เป็นอีกคำหนึ่งของคำว่า \"กำลัง\" เมื่อพูดเกี่ยวกับพระเจ้า มันสามารถหมายถึง \"พลัง\"\n* วลี \"พวกผู้ชายที่ทรงฤทธิ์\" บ่อยครั้งอ้างถึงพวกผู้ชายที่กล้าหาญและมีชัยในการต่อสู้ คณะของดาวิดที่มีผู้ชายหลายคนที่สัตย์ซื้อและได้ช่วยป้องกันพวกเขาได้ชื่อว่า \"พวกผู้ชายที่ทรงฤทธิ์\" \n* พระเจ้าได้รับการอ้างถึงว่า \"เป็นองค์ผู้ทรงฤทธิ์\" ด้วยเช่นกัน\n* วลี \"กิจการอันทรงฤทธานุภาพ\" ปกติอ้างถึงสิ่งอัศจรรย์ที่พระเจ้าได้ทรงกระทำ เฉพาะอย่างยิ่งการอัศจรรย์ต่างๆ \n* คำนี้เกี่ยวโยงกับคำว่า \"ผู้ทรงฤทธานุภาพสูงสุด\" ซึ่งเป็นคำอธิบายถึงพระเจ้า มีความหมายว่าพระองค์เป็นผู้ทรงมีฤทธิ์อำนาจอย่างสมบูรณ์ \n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า \"ทรงฤทธิ์ สามารถแปล \"เต็มไปด้วยพลังอำนาจ\" หรือ \"อัศจรรย์\" หรือ \"แข็งแกร่งอย่างยิ่ง\"\n* วลี \"ฤทธานุภาพของพระองค์\" สามารถแปลว่า \"ความเข้มแข็งของพระองค์\" หรือ \"อำนาจของพระองค์\"\n* พระธรรมกิจการบทที่ 7 ได้มีการกล่าวถึงโมเสสว่า \"เก่งกาจมากทั้งในด้านคำพูดและการกระทำต่างๆ\" นี่สามารถแปลว่า \"โมเสสได้พูดถ้อยคำที่มีฤทธิ์อำนาจจากพระเจ้าและได้ทำการมหัศจรรย์ต่างๆ\" หรือ \"โมเสสได้พูดถ้อยคำที่มีพลังของพระเจ้าและได้ทำสิ่งที่อัศจรรย์ต่างๆ\"\n* ขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า \"กิจการอันทรงฤทธานุภาพ\" สามารถแปลได้ว่า \"สิ่งอัศจรรย์ต่างๆ ซึ่งพระเจ้าทรงกระทำ\" หรือ \"ปาฏิหารย์\" หรือ \"พระเจ้าทรงกระทำสิ่งต่างๆ ด้วยฤทธิ์อำนาจ\"\n-* อย่าได้สับสนคำนี้ในภาษาอังกฤษที่ถูกใช้เพื่อแสดงความเป็นไปได้ อย่างเช่น \" ฝนอาจตก\"\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/mind.txt b/01/mind.txt new file mode 100644 index 00000000..768be5b0 --- /dev/null +++ b/01/mind.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ความคิดและจิตใจ", + "body": "คำว่า \"ความคิดและจิตใจ\" อ้างถึงส่วนของบุคคลใช้ในการคิดหรือตัดสินใจ\n\n* ความคิดและจิตใจของแต่ละบุคคลเป็นความคิดและการหาเหตุผลทั้งตัวของเขาหรือเธอ\n* การ \"มีความคิดและจิตใจเหมือนพระเยซู\" หมายความว่าคิดและกระทำเช่นเดียวกับที่พระเยซูทรงคิดและกระทำ หมายความว่ายอมเชื่อฟังพระเจ้าพระบิดา เชื่อฟังพระคำของพระเยซู สามารถกระทำสิ่งนี้ผ่านพลังอำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์\n* \"เปลี่ยนแปลงความคิดและจิตใจ\" หมายความว่าบางคนได้ตัดสินใจแตกต่างออกไปหรือมีความคิดแตกต่างออกไปจากที่เขาเคยมีก่อนหน้านั้น\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำว่า \"ความคิดและจิตใจ\" สามารถแปลได้ว่า \"ความคิด\" หรือ \"การใช้เหตุผล\" หรือ \"การคิด\" หรือ \"การเข้าใจ\"\n* คำกล่าว \"จำไว้ในความคิดและจิตใจ\" สามารถแปลว่า \"จงจดจำ\" หรือ \"ให้สนใจ\" หรือ \"จงรู้ไว้เถิดว่า\"\n* คำกล่าวที่ว่า \"จิตใจ จิตวิญญาณ ความคิดและจิตใจ\" สามารถแปลว่า \"สิ่งที่ท่านรู้สึก สิ่งที่ท่านเชื่อ และสิ่งที่ท่านคิดเกี่ยวกับ\" \n* คำกล่าวที่ว่า \"หวนคิดได้ว่า\" สามารถแปลได้ว่า \"จำได้ว่า\" หรือ \"คิดเกี่ยวกับ\"\n* คำกล่าวที่ว่า \"กลับใจแล้วได้ไป\" สามารถแปลได้ว่า \"ได้ตัดสินใจอีกอย่างแล้วได้ไป\" หรือ \"ได้ตัดสินใจไปภายหลังทั้งหมด\" หรือ \"เปลี่ยนความคิดและได้ไป\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/minister.txt b/01/minister.txt new file mode 100644 index 00000000..b2f46bb4 --- /dev/null +++ b/01/minister.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ผู้รับใช้ , พันธกิจ", + "body": "ในพระคัมภีร์ คำว่า \"ผู้รับใช้\" และ \"พันธกิจ\" อ้างถึงการรับใช้ผู้อื่นด้วยการสอนพระคำของพระเจ้าและการดูแลฝ่ายจิตวิญญาณ ส่วนคำว่า \"ผู้รับใช้\" นั้น สามารถอ้างถึงบุคคลผู้ที่รับใช้คนอื่นในทางนี้\n\n* ในพันธสัญญาเดิม ปุโรหิตจะ \"ปรนนิบัติรับใช้\" พระเจ้าในพระวิหารโดยการถวายเครื่องบูชาถวายองค์พระผู้เป็นเจ้า\n* \"พันธกิจ\" ของปุโรหิตนั้นอาจรวมไปถึงการดูแลพระวิหารและเป็นตัวแทนของประชาชนเพื่ออธิษฐานต่อพระเจ้า\nในพันธสัญญาใหม่ คำว่า \"ผู้รับใช้\" ของพระกิตติคุณหมายถึงบางคนผู้สั่งสอนประชาชนเกี่ยวกับการทรงไถ่ของพระองค์โดยทางความเชื่อในพระเยซู บางครั้งผู้รับใช้ก็ถูกเรียกว่า \"ผู้รับใช้\"\n* งานในการปรนนิบัติรับใช้ประชากรนั้นรวมไปถึงการรับใช้ประชาชนด้วยการรับใช้ฝ่ายจิตวิญญาณโดยการสั่งสอนเกี่ยวกับพระเจ้า\n* นี่สามารถอ้างถึงการรับใช้ประชาชนทางด้านร่างกายด้วย เช่น การดูแลคนเจ็บป่วยหรือการเลี้ยงอาหารผู้คนยากจน\n\n \n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ในบริบทเกี่ยวกับการปรนนิบัติรับใช้ประชากร \"การรับใช้\" สามารถแปลว่า \"รับใช้\" หรือ \"ดูแล\" หรือ \"ตอบสนองความจำเป็นของ\"\n* เมื่ออ้างถึงการปรนนิบัติรับใช้ในพระวิหารนั้น คำว่า \"ปรนนิบัติรับใช้\" สามารถแปลว่า \"รับใช้พระเจ้าในพระวิหาร\" หรือ \"ถวายเครื่องบูชาต่อพระเจ้าสำหรับประชากร\"\n* ในบริบทที่เกี่ยวกับการปรนนิบัติรับใช้พระเจ้านั้น สามารถแปลอีกอย่างได้ว่า \"รับใช้\" หรือ \"การทำงานเพื่อพระเจ้า\"\n* วลี \"รับใช้\" สามารถแปลว่า \"ดูแลสำหรับ\" หรือ \"จัดเตรียมสำหรับ\" หรือ \"ได้ช่วย\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/miracle.txt b/01/miracle.txt new file mode 100644 index 00000000..48ccdec3 --- /dev/null +++ b/01/miracle.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "การอัศจรรย์, มหัศจรรย์ หมายสำคัญ ", + "body": "\"การอัศจรรย์\" คือบางสิ่งที่น่าประหลาดใจที่ไม่น่าเป็นไปได้นอกจากพระเจ้าจะทำให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น\n\n* ตัวอย่างการอัศจรรย์ที่พระเยซูได้ทรงกระทำ เช่น การทำให้ลมพายุสงบและการรักษาชายตาบอด \n* บางครั้งการอัศจรรย์จะเรียกว่า \"มหัศจรรย์\" เพราะว่าสิ่งเหล่านั้นทำให้ผู้คนเต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ใจหรือประหลาดใจ\n* คำว่า \"มหัศจรรย์\" สามารถอ้างถึงการสำแดงถึงฤทธานุภาพของพระเจ้าก็ได้ เช่น เมื่อพระองค์ทรงเนรมิตสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก\n* การอัศจรรย์สามารถเรียกอีกอย่างหนึ่งได้ว่า \"หมายสำคัญ\" เพราะว่าสิ่งเหล่านี้เป็นการบ่งชี้หรือเป็นหลักฐานว่าพระเจ้าทรงมีฤทธานุภาพสูงสุดเหนือจักรวาล\n* การอัศจรรย์บางอย่างคือการทรงไถ่ของพระเจ้า เช่น เมื่อพระองค์ช่วยชนชาตอิสราเอลจากการเป็นทาสในอียิปต์ และเมื่อพระองค์ทรงปกป้องดาเนียลจากการถูกสิงโตทำร้าย เป็นต้น\n* การอัศจรรย์อื่นๆ อาจหมายถึงการพิพากษาของพระเจ้า เช่น เมื่อครั้งที่พระองค์ทรงให้น้ำท่วมโลกในสมัยของโนอาห์ หรือเมื่อพระองค์ส่งภัยพิบัติมาเหนือแผ่นดินอียิปต์ในสมัยโมเสส \n* การอัศจรรย์หลายอย่างของพระเจ้าหมายถึงการรักษาอาการเจ็บป่วยด้านร่างกายของผู้คน หรือการทำให้ผู้ที่ตายแล้วฟื้นขึ้นมาจากความตาย สิ่งเหล่านี้คือการอัศจรรย์\n* พระเจ้ายังทรงให้ผู้เผยพระวจนะและบรรดาอัครสาวกทำการอัศจรรย์เพื่อรักษาโรคและสิ่งอื่นๆอีกมากมายซึ่งเป็นไปได้ก็โดยผ่านฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าเท่านั้น\n\n \n# คำแนะนำในการแปล\n\n* การแปลที่เป็นไปได้สำหรับคำว่า \"การอัศจรรย์\" หรือ \"มหัศจรรย์\" สามารถแปลได้ว่า \"สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ที่พระเจ้าทรงกระทำ\" หรือ \"พระราชกิจอันทรงฤทธานุภาพของพระเจ้า\" หรือ \"การกระทำอันมหัศจรรย์ของพระเจ้า\"\n* คำกล่าวที่ได้ยินกันเสมอว่า \"หมายสำคัญและการอัศจรรย์\" สามารถแปลได้ว่า \"ข้อพิสูจน์และการอัศจรรย์\" หรือ \"กิจอันมหัศจรรย์ซึ่งพิสูจน์พลังของพระเจ้า\" หรือ \"การอัศจรรย์ที่น่าอัศจรรย์ที่แสดงความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า\"\n* หมายเหตุ ความหมายของหมายสำคัญซึ่งเป็นปาฏิหาริย์นั้นต่างจากความหมายของ หมายสำคัญซึ่งพิสูจน์หรือเป็นหลักฐานสำหรับบางสิ่ง ทั้งสองสามารถมีความเกี่ยวโยงกัน" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/miriam.txt b/01/miriam.txt new file mode 100644 index 00000000..9bb9eabf --- /dev/null +++ b/01/miriam.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "มิเรียม", + "body": "มิเรียมคือพี่สาวคนโตของอาโรนและโมเสส\n\n* เมื่อเธอยังเป็นเด็กอยู่นั้น มิเรียมได้ถูกสอนจากมารดาของเธอให้เฝ้าดูน้องชายชื่อโมเสสที่ยังเป็นทารกที่อยู่ในตะกร้าไปซ่อนอยู่กลางต้นกกริมแม่น้ำไนล์ เมื่อธิดาของฟาโรห์ไปพบทารกเข้าจึงรับเอาไว้และจำเป็นต้องหาคนเพื่อให้ช่วยเลี้ยงดูทารกนั้นสำหรับเธอ มิเรียมจึงได้นำมาดาของเธอมาทำหน้าที่นั้น\n* มิเรียมได้นำชาวอิสราเอลเต้นรำแสดงความชื่นชมยินดีและขอบพระคุณพระเจ้าหลังจากที่พวกเขาได้หนีออกจากอียิปต์โดยการข้ามทะเลแดง\n* หลายปีต่อมาชาวอิสราเอลเดินทางท่องอยู่ในทะเลทราย มิเรียมและอาโรนได้เริ่มพูดไม่ดีเกี่ยวกับโมเสสเพราะเขาได้แต่งงานกับผู้หญิงชาวคูช \n* เพราะการที่มิเรียมกบฎโดยการพูดต่อว่าโมเสสนั้น พระเจ้าจึงสาปแช่งให้มิเรียมป่วยเป็นโรคเรื้อน แต่ภายหลังพระเจ้าได้รักษาเธอให้หายเมื่อโมเสสได้อ้อนวอนพระเจ้าสำหรับเธอ\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/mishael.txt b/01/mishael.txt new file mode 100644 index 00000000..7281ba39 --- /dev/null +++ b/01/mishael.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "มิชาเอล", + "body": "มิชาเอลคือชื่อของผู้ชายสามคนในพันธสัญญาเดิม\n\n* ผู้ชายคนหนึ่งนามว่ามิชาเอลคือญาติของอาโรน เมื่อบุตรชายของอาโรนทั้งสองถูกพระเจ้าประหารเสียหลังจากที่ไปถวายธูปในทางที่ไม่ปฎิบัติตามที่พระเจ้าได้ทรงสั่งให้กระทำ มิชาเอลและน้องชายของเขาได้รับมอบหมายให้เอาศพออกไปไว้นอกค่ายของชาวอิสราเอล\n* ผู้ชายที่ชื่อว่ามิชาเอลอีกคนหนึ่ง คือผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างเอสรา ตอนที่เขาคลี่หนังสือม้วนที่ค้นพบอีกครั้งเปิดออกอ่านแก่สาธารณชน \n* เมื่อครั้งที่ชนชาติอิสราเอลถูกเนรเทศไปยังกรุงบาบิโลนนั้น ชายหนุ่มคนหนึ่งชื่อว่ามิชาเอลได้ถูกจับและถูกบังคับให้อาศัยอยู่ในกรุงบาบิโลน ชาวบาบิโลนได้ตั้งชื่อให้เขาว่า \"เมเชค\" เขาและเพื่อนของเขาคืออาซาริยาห์ (อาเบดเนโก) และ ฮานันยาห์ (ชัดรัค) ได้ปฏิเสธที่จะนมัสการต่อเทวรูปของกษัตริย์ และถูกโยนเข้ากองไฟ" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/mizpah.txt b/01/mizpah.txt new file mode 100644 index 00000000..ff45375f --- /dev/null +++ b/01/mizpah.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "มิสปาห์", + "body": "มิสปาห์คือชื่อของเมืองหลายแห่งที่ปรากฎในพันธสัญญาเดิม มีความหมายว่า \"จุดชมวิว\" หรือ \"หอคอย\"\n\n* เมื่อดาวิดถูกซาอูลไล่ล่า เขาได้ปล่อยให้บิดามารดาของเขาอยู่ในเมืองมิสปาห์ ภายใต้การปกป้องของกษัตริย์โมอับ \n* เมืองที่มีชื่อว่าเมืองมิสปาห์ตั้งอยู่ชายแดนระหว่างอาณาจักรยูดาและอิสราเอล เป็นศูนย์กองทัพใหญ่" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/moab.txt b/01/moab.txt new file mode 100644 index 00000000..5e69ff67 --- /dev/null +++ b/01/moab.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "โมอับ, ชาวโมอับ", + "body": " โมอับ นั้นเป็นชื่อลูกชายของบุตรสาวคนโตของโลท ต่อมาจึงกลายเป็นชื่อของดินแดนซึ่งโมอับและครอบครัวของโมอับอาศัยอยู่ คำว่า \"ชาวโมอับ\" อ้างถึงบุคคลซึ่งสืบเชื้อสายมาจากโมอับ หรือผู้ที่ได้อาศัยอยู่ในประเทศที่ชื่อว่าโมอับ\n\n* ประเทศโมอับตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของทะเลเกลือ\n* โมอับตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้จากเมืองเบธเลเฮ็มที่ครอบครัวของนางนาโอมีเคยอาศัยอยู่\n* ประชาชนในเบธเลเฮ็มนั้นเรียกนางรูธว่าเป็น \"หญิงชาวโมอับ\" เพราะว่านางรูธเป็นหญิงที่มาจากประเทศโมอับ คำนี้สามารถแปลได้ว่า \"หญิงชาวโมอับ\" หรือ \"หญิงจากประเทศโมอับ\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/mock.txt b/01/mock.txt new file mode 100644 index 00000000..4c861466 --- /dev/null +++ b/01/mock.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เยาะเย้ย, เย้ยหยัน, ผู้เยาะเย้ย", + "body": "คำว่า \"เยาะเย้ย\", \"เย้ยหยัน\" และ \"เยาะเย้ย\" ทั้งหมดนี้อ้างถึงการทำเรื่องสนุกกับบางคนเฉพาะอย่างยิ่งในทางที่ร้าย\n\n* การเยาะเย้ยบ่อยครั้งรวมถึงการเลียนแบบคำพูดหรือการกระทำของคนเพื่อให้คนนั้นรู้สึกขายหน้าหรือแสดงการดูถูกดูหมิ่นต่อพวกเขา\n* ทหารชาวโรมันได้เยาะเย้ยหรือเย้ยหยันพระเยซู เมื่อพวกเขาเอาเสื้อมาสวมให้พระองค์ และได้แกล้งให้เกียรติพระองค์ว่าเป็นกษัตริย์\n* กลุ่มพวกคนหนุ่มได้เย้ยหยันหรือเยาะเย้ยเอลิชาเมื่อพวกเขาได้เรียกชื่อเขาล้อเลียนหัวล้านของเขา\nคำว่า \"ล้อเลียน\" สามารถอ้างถึงการเยาะเย้ยความคิดที่ดูไม่น่าเชื่อหรือสำคัญ\n* \"ผู้เยาะเย้ย\" คือบางคนที่เยาะเย้ยหรือล้อเลียนอย่างต่อเนื่อง" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/mold.txt b/01/mold.txt new file mode 100644 index 00000000..2047f582 --- /dev/null +++ b/01/mold.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "แม่พิมพ์", + "body": "แม่พิมพ์คือชิ้นไม้ โลหะ หรือดินเหนียวที่ทำเป็นรูปเพื่อหลอมทองคำ เงิน หรือวัสดุอื่นๆ ที่ทำให้เหลวและขึ้นรูปโดยแม่พิมพ์\n\n* แม่พิมพ์ใช้ในการทำอัญมณี ถ้วยชาม และข้าวของเครื่องใช้ที่ใช้สำหรับรับประทานอาหารและสิ่งอื่นๆ\n* ในพระคัมภีร์ แม่พิมพ์มักมีความเกี่ยวโยงกับการหล่อรูปต่างๆ ขึ้นเพื่อใช้เป็นพระเทียมเท็จ\n* โลหะจะถูกเผาให้ร้อนจนเหลวเพื่อที่จะสามารถเทลงแม่พิมพ์ได้\n* ในการหล่อสิ่งของบางอย่าง หมายความว่าการทำวัตถุให้เป็นรูปร่างบางอย่างหรือรูปเหมือนโดยใช้แม่พิมพ์หรือใช้มือเพื่อทำรูปร่างบางอย่าง\n\n \n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำนี้สามารถแปลได้ว่า \"ขึ้นรูป\" หรือ \"ทำให้เป็นรูปร่าง\" หรือ \"ทำ\" \n* คำ\"ได้รับการหล่อ\" สามารถแปลได้ว่า \"ถูกทำให้เป็นรูปร่าง\" หรือ \"ขึ้นรูป\" \n* วัตถุ \"แม่แบบ\" บางทีสามารถแปลโดยใช้วลีหรือคำที่มีความหมายว่า \"ภาชนะที่ขึ้นรูป\" หรือ \"จานที่ใช้ปั้น\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/molech.txt b/01/molech.txt new file mode 100644 index 00000000..803c9463 --- /dev/null +++ b/01/molech.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "โมเลค, โมล็อค", + "body": "โมเลคเป็นชื่อของหนึ่งในพระเทียมเท็จซึ่งชาวคานาอันนมัสการ อาจมีการสะกดชื่ออีกว่า \"โมล็อค\" และ \"โมเลค\"\n\n* ประชาชนที่นมัสการพระโมเลคโดยการบูชายันต์เด็กทั้งหลายโดยการเผาไฟ\n* ประชาชนอิสราเอลบางคนได้นมัสการพระโมเลคแทนการนมัสการพระเจ้าเที่ยงแท้ คือพระยาห์เวห์ พวกเขาได้ปฎิบัติตามที่พวกนมัสการพระโมเลคได้กระทำ รวมทั้งการบูชายนต์เด็กทั้งหลายของพวกเขา\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/mordecai.txt b/01/mordecai.txt new file mode 100644 index 00000000..7596393a --- /dev/null +++ b/01/mordecai.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "โมรเดคัย", + "body": "โมรเดคัยเป็นผู้ชายชาวยิวที่มีชีวิตอยู่ในประเทศเปอร์เซีย เขาเป็นองครักษ์ของเอสเธอร์ญาติของเขาผู้ที่ต่อมาได้เป็นภรรยาของอาหสุเอรัส กษัตริย์ของเปอร์เซีย\n\n* ขณะที่ทำงานอยู่ที่วัง โมเดรคัยได้ยินพวกผู้ชายกำลังวางแผนที่จะฆ่ากษัตริย์อาหสุเอรัส เขาได้รายงานเรื่องนี้และชีวิตของกษัตริย์ก็ปลอดภัย\n* หลายปีต่อมา โมรเดคัยได้ล่วงรู้ถึงแผนการฆ่าพวกยิวทั้งหมดในอาณาจักรเปอร์เซีย เขาได้ให้คำแนะนำเอสเธอร์ให้ทูลเรื่องนี้ต่อกษัตริย์เพื่อช่วยเหลือประชาชน" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/moses.txt b/01/moses.txt new file mode 100644 index 00000000..fd9d4e61 --- /dev/null +++ b/01/moses.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "โมเสส", + "body": "โมเสสเป็นผู้เผยพระวจนะและผู้นำของคนอิสราเอลนานมากกว่า 40 ปี\n\n* เมื่อโมเสสยังเป็นทารก บิดามารดาของโมเสสได้ใส่เขาลงไปในตะกร้าในป่าต้นกกของแม่น้ำไนล์และซ่อนเขาไว้จากฟาโรห์แห่งอียิปต์ พี่สาวของโมเสส คือ มิเรียมได้เผ้าดูเขาที่นั่น ชีวิตของโมเสสได้ถูกสงวนไว้เมื่อธิดาของฟาโรห์ได้พบเขาและได้นำเขาไปที่พระราชวังและเลี้ยงเขาเหมือนลูกของนาง\n* พระเจ้าได้ทรงเลือกโมเสสให้ปลดปล่อยคนอิสราเองจากการเป็นทาสในอียิปต์และนำพวกเขาไปยังดินแดนทรงสัญญา\n* หลังจากที่พวกอิสราเอลหนีออกจากอียิปต์และขณะที่ท่องอยู่ในทะเลทรนาย พระเจ้าประทานหินสองแผ่นที่มีคำจารึกบัญญัติสิบประการบนแผ่นหินนั้นให้แก่โมเสส\n* เมื่อใกล้จะเสียชีวิต โมเสสได้เห็นแผ่นดินทรงสัญญา แต่เขาไม่ได้เข้าไปใช้ชีวิตอยู่เพราะเขาไม่เชื่อฟังพระเจ้า" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/mosthigh.txt b/01/mosthigh.txt new file mode 100644 index 00000000..8e1e8b06 --- /dev/null +++ b/01/mosthigh.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "องค์ผู้สูงสุด", + "body": "คำว่า \"องค์ผู้สูงสุด\" เป็นตำแหน่งขององค์พระเจ้า ที่อ้างถึงความยิ่งใหญ่และอำนาจของพระองค์\n\n* ความหมายของคำนี้มีความหมายว่า \"มีอำนาจครอบครองสูงสุด\" หรือ \"สูงสุด\"\n* คำว่า \"สูง\" ในที่นี้ไม่ได้อ้างถึงความสูงทางกายภาพหรือระยะทาง แต่อ้างถึงความยิ่งใหญ่\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำนี้สามารถแปลว่า \"พระเจ้าสูงสุด\" หรือ \"พระองค์ผู้สูงสุด\" หรือ \"พระเจ้าองค์ผู้สูงสุด\" หรือ \"พระเจ้าผู้ทรงยิ่งใหญ่เหนือทุกสิ่ง\"\n* หากมีคำว่า \"สูง\" ปรากฏอยู่ ให้แน่ใจว่าไม่ได้อ้างถึงความสูงทางกายภาพหรือระยะทาง" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/mounthermon.txt b/01/mounthermon.txt new file mode 100644 index 00000000..6f8192a2 --- /dev/null +++ b/01/mounthermon.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ภูเขาเฮอร์โมน", + "body": "ภูเขาเฮอร์โมนเป็นชื่อของภูเขาที่สูงที่สุดในอิสราเอล ที่ปลายด้านทิศใต้ของทิวเขาเลบานอน\n\n* มันตั้งอยู่ทางตอนเหนือของทะเลกาลิลี บริเวณชายแดนตอนเหนือระหว่างประเทศอิสราเอลและประเทศซีเรีย\n* ชื่ออื่นที่เรียกภูเขาเฮอร์โมนโดยคนชาติอื่น คือ \"ภูเขาสีรีออน\" และ \"ภูเขาเสนีร์\"\n* ภูเขาเฮอร์โมนมียอดเขาใหญ่อยู่สามยอด ยอดเขาที่สูงที่สุดสูงประมาณ 2,800 เมตร" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/mountofolives.txt b/01/mountofolives.txt new file mode 100644 index 00000000..8e122791 --- /dev/null +++ b/01/mountofolives.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ภูเขามะกอกเทศ", + "body": "ภูเขามะกอกเทศคือภูเขาหรือเนินเขาขนาดใหญ่ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของกรุงเยรูซาเล็ม มีความสูงประมาณ 787 เมตร\n\n* ในพันธสัญญาเดิม ภูเขาแห่งนี้ถูกอ้างถึงว่า \"ภูเขาที่อยู่ทางทิศตะวันออกของกรุงเยรูซาเล็ม\"\n* พันธสัญญาใหม่ได้บันทึกไว้หลายเหตุการณ์ว่า เมื่อพระเยซูและเหล่าสาวกได้ขึ้นไปที่ภูเขามะกอกเทศเพื่ออธิษฐานและพักผ่อน\n* พระเยซูทรงถูกจับที่สวนเกทเสมณีซึ่งตั้งอยู่บนภูเขามะกอกเทศ\n* สามารถแปลได้ว่า \"เนินเขามะกอกเทศ\" หรือ \"ภูเขาต้นมะกอกเทศ\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/mourn.txt b/01/mourn.txt new file mode 100644 index 00000000..473ee644 --- /dev/null +++ b/01/mourn.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "คร่ำครวญ, โศกเศร้า, ไว้ทุกข์", + "body": "คำว่า \"คร่ำครวญ\" และ \"การคร่ำครวญ\" อ้างถึงการแสดงถึงความรู้สึกโศกเศร้าอย่างมากต่อการเสียชีวิตของบางคน \n\n* ในหลายวัฒนธรรม การคร่ำครวญรวมไปถึงพฤติกรรมภายนอกที่แสดงให้เห็นถึงความเศร้าและความทุกข์ใจ\n* ชาวอิสราเอลและชนชาติอื่นๆ ในสมัยโบราณได้แสดงอาการคร่ำครวญโดยการกรีดร้องและฟูมฟายด้วยเสียงอันดัง พวกเขายังสวมเสื้อป่านทำด้วยกระสอบและโปรยขี้เถ้าบนตัวพวกเขา\n* ผู้รับจ้างร้องไห้ ปกติเป็นผู้หญิงจะร้องไห้เสียงดังจากเวลาการตายจนกระทั่งร่างได้ถูกบรรจุไว้ในอุโมงค์ฝังศพ\n* ช่วงระยะเวลาการไว้ทุกข์คือเจ็ดวัน แต่สามารถยาวนานถึงสามสิบวัน (เช่นกรณีโมเสสและอาโรนเสียชีวิต) หรือยาวเจ็ดสิบวัน (เช่นกรณีของยาโคบ)\n* พระคัมภีร์ยังใช้คำนี้ในเชิงอุปมาอุปมัย เมื่อกล่าวถึง \"การคร่ำครวญ\" เพราะบาป นี่อ้างถึงทุกข์ใจอย่างมากเพราะบาปได้กระทบต่อพระเจ้าและประชากร" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/multiply.txt b/01/multiply.txt new file mode 100644 index 00000000..0c35818f --- /dev/null +++ b/01/multiply.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ทวีขึ้น", + "body": "คำว่า \"ทวีขึ้น\" หมายถึงเพิ่มจำนวนอย่างมาก มันสามารถมีความหมายว่าทำให้บางสิ่งเพิ่มจำนวน เช่นทำให้ความเจ็บปวดเพิ่มขึ้น\n\n* พระเจ้าได้ทรงกล่าวกับสัตว์และมนุษย์ว่า \"จงทวีขึ้น\" จนเต็มแผ่นดิน\" สิ่งนี้คือพระบัญชาให้มีการเพิ่มจำนวนมากขึ้นในสายพันธุ์ของตนเอง\n* พระเยซูได้ทรงทำให้ขนมปังและปลาทวีขึ้นเพื่อเลี้ยงอาหารคน 5,000 คน ปริมาณอาหารเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนสามารถมีอาหารมากเกินพอสำหรับเลี้ยงทุกคน \n* ขึ้นอยู่กับบริบท คำนี้สามารถแปลได้ว่า \"เพิ่มจำนวนมากขึ้น\" หรือ \"เป็นเหตุให้เพิ่มมากขึ้น\" หรือ \"เพิ่มมากขึ้นอย่างมาก\" หรือ \"มีจำนวนมากขึ้นมากมาย\" หรือ \"กลายเป็นจำนวนมาก\"\n* วลี \"ความเจ็บปวดของท่านเพื่มขึ้นอย่างมาก\" สามารถแปลคำได้ว่า \"ทำให้ความเจ็บปวดกลายเป็นสิ่งเลวร้ายอย่างมาก\" หรือ \"ทำให้ท่านได้ประสบการณ์กับความเจ็บปวดที่มากกว่า\"\n* \"มีม้าเพิ่มจำนวนทวีคูณ\" หมายถึง \"โลภมากในการหาจำนวนม้าจำนวนมากขึ้น\" หรือ \"ไปนำม้ามาเป็นจำนวนมาก\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/myrrh.txt b/01/myrrh.txt new file mode 100644 index 00000000..145d5fd3 --- /dev/null +++ b/01/myrrh.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "มดยอบ", + "body": "มดยอบคือน้ำมันหรือเครื่องเทศซึ่งทำมาจากยางของต้นมดยอบซึ่งปลูกในทวีปอัฟริกาและเอเชีย มันเกี่ยวพันกับกำยาน\n\n* มดยอบถูกใช้เป็นธูป น้ำหอมและยา และเตรียมร่างของคนตายก่อนทำการฝัง\n* มดยอบคือหนึ่งในเครื่องบรรณาการที่บรรดาโหราจารย์ได้ถวายให้แก่พระเยซูเมื่อพระองค์ทรงบังเกิด\n* พระเยซูได้รับการมอบเหล้าองุ่นผสมมดยอบเพื่อที่จะระงับความเจ็บปวดเมื่อพระองค์ทรงถูกตรึงที่กางเขน" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/mystery.txt b/01/mystery.txt new file mode 100644 index 00000000..9ace6f6b --- /dev/null +++ b/01/mystery.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ความลึกลับ, ความจริงที่ปิดซ่อนไว้ ", + "body": "ในพระคัมภีร์ ตำว่า\"ความลึกลับ\" อ้างถึงบางสื่งไม่รู้หรือยากที่จะเข้าใจว่าพระเจ้ากำลังทรงอธิบาย\n\n* ในพันธสัญญาใหม่กล่าวไว้ว่าพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์เป็นความลึกลับที่ไม่เคยได้รู้ในอดีต\n* หนึ่งในจุดที่พิเศษได้อธิบายไว้เป็นความลึกลับคือชาวยิวหรือคนต่างชาติจะเท่าเทียมกันในพระคริสต์\n* คำนี้สามารถแปลได้อีกว่า \"ความลับ\" หรือ \"สิ่งที่ปิดซ่อนอยู่\" หรือ \"สิ่งที่ไม่เคยรู้ \"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/naaman.txt b/01/naaman.txt new file mode 100644 index 00000000..80b6e661 --- /dev/null +++ b/01/naaman.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "นาอามาน", + "body": "ในพันธสัญญาเดิม นาอามานคือผู้บัญชาการของกองทัพของกษัตริย์ของอาราม\n\n* นาอามานป่วยเป็นโรคทางผิวหนังร้ายแรงเรียกว่าโรคเรื้อนซึ่งไม่สามารถรักษาให้หายได้\n* ทาสชาวยิวในเรือนของนาอามานได้บอกกับเขาว่าให้ไปขอผู้เผยพระวจนะเอลีชาให้ช่วยรักษาเขาให้หาย\n* เอลีชาได้บอกกับนาอามานให้ไปล้างตัวในแม่น้ำจอร์แดน เมื่อนาอามานได้ยอมเชื่อฟัง พระเจ้าทรงรักษาเขาให้หายป่วยจากโรคของเขา \n * ผลที่ตามมา นาอามานจึงได้กลับใจมาเชื่อในพระเจ้าเที่ยงแท้องค์เดียวคือพระยาห์เวห์\n* ผู้ชายอื่นที่มีชื่อ ว่านาอามานอีกสองคนเป็นลูกหลานของเบนยามินบุตรชายของยาโคบ" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/nahor.txt b/01/nahor.txt new file mode 100644 index 00000000..bc8490f1 --- /dev/null +++ b/01/nahor.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "นาโฮร์", + "body": "นาโฮร์เป็นชื่อของญาติสองคนของอับราฮัม ปู่ของอับราฮัมและน้องชายของอับราฮัม\n\n* น้องชายของอับราฮัมคือ นาโฮร์เป็นปู่ของเรเบคาภรรยาของอิสอัค\n* วลี \"เมืองของนาโฮร์\" สามารถหมายถึง \"เมืองของนาโฮร์\" หรือ \"เมืองซึ่งนาโฮร์เคยอาศัยอยู่\" หรือ \"เมืองของนาโฮร์\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/nahum.txt b/01/nahum.txt new file mode 100644 index 00000000..23d4e35e --- /dev/null +++ b/01/nahum.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "นาฮูม", + "body": "นาฮูมคือผู้เผยพระวจนะผู้ซึ่งได้เทศนาในช่วงที่กษัตริย์มนัสเสห์ผู้ชั่วร้ายปกครองเหนืออาณาจักรยูดา\n\n* นาฮูมมาจากเมืองเอลโขชซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเยรูซาเล็มประมาณ 20 ไมล์ \n* พระธรรมนาฮูมในพันธสัญญาเดิมได้บันทึกคำพยากรณ์เกี่ยวกับการล่มสลายของเมืองนีนะเวห์ของอัสซีเรีย" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/name.txt b/01/name.txt new file mode 100644 index 00000000..d1f3eba4 --- /dev/null +++ b/01/name.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ชื่อ, นาม, พระนาม", + "body": "ในพระคัมภีร์นั้น คำว่า \"ชื่อ\" สามารถใช้ในเชิงอุปมาอุปมัยได้หลายทาง\n\n* ในบางบริบท \"ชื่อ\" อ้างถึงชื่อเสียงของบุคคล เช่น \"ให้เราทำชื่อเสียงไว้สำหรับพวกเรา\"\n* คำว่า \"ชื่อ\" สามารถอ้างถึงความทรงจำบางอย่าง เช่น \"ตัดชื่อของรูปเคารพเสีย\" หมายถึงการทำลายรูปเคารพต่างๆ เพื่อพวกมันจะไม่เป็นที่จดจำหรือเคารพบูชาอีกต่อไป\n* การกล่าว \"ในพระนามของพระเจ้า\" หมายถึงการพูดด้วยสิทธิอำนาจ หรือในฐานะตัวแทนของพระเจ้า\n- คำว่า \"ชื่อ\" ของบางคนยังสามารถอ้างตัวบุคคล เช่น \"ไม่มีนามอื่นภายใต้ฟ้าสวรรค์ซึ่งให้เราทั้งหลายรอดได้\" (ให้ดูใน: [metonymy](https://git.door43.org/Door43/en-ta-translate-vol2/src/master/content/figs_metonymy.md))\n\n# คำแนะนำในการแปล \n\n*คำกล่าวว่า \"พระนามอันประเสริฐ\" สามารถแปลอีกอย่างหนึ่งได้ว่า \"ชื่อเสียงอันดีของพระองค์\"\n* การทำบางอย่าง \"ในพระนามของ\" สามารถแปลอีกอย่างหนึ่งได้ว่า \"โดยฤทธิ์อำนาจของ\" หรือ \"โดยพระราชานุญาตของ\" หรือ \"โดยการเป็นตัวแทนของ\" บุคคลนั้น\n* คำกล่าวที่ว่า \"ให้เราทำชื่อเสียงไว้\" สามารถแปลได้ว่า \"ทำให้ผู้คนรู้จักเรา\" หรือ \"ทำให้ผู้คนคิดว่าเราสำคัญมากขนาดไหน\"\n* สำนวนที่ว่า \"จงเรียกนามเขาว่า\" สามารถแปลได้ว่า\"จงตั้งชื่อเขา\" หรือ \"จงให้ชื่อเขาว่า\" \n* คำกล่าว \"คนเหล่านั้นที่รักเชื่อของท่าน\" สามารถแปลว่า \"คนเหล่านั้นที่รักท่าน\"\n* คำกล่าว \"ให้ตัดชื่อต่างๆ ของรูปเคารพออก\" สามารถแปลว่า \"กำจัดรูปเคารพของคนนอกศาสนาออก เพื่อที่พวกเขาจะไม่เป็นที่จดจำ\" หรือ \"ทำให้ประชาชนหยุดนมัสการพระเทียมเท็จ\" หรือ \"ให้ทำลายพระเทียมเท็จอย่างสิ้นเชิงเพื่อที่ประชาชนจะไม่คิดถึงพวกมันอีกต่อไป\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/naphtali.txt b/01/naphtali.txt new file mode 100644 index 00000000..b94bd5d4 --- /dev/null +++ b/01/naphtali.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "นัฟธาลี", + "body": "นัฟธาลีคือบุตรชายคนที่หกของยาโคบ ลูกหลานของเขาได้รวบรวมเป็นกลุ่มชนนัฟธาลีขึ้นมา ซึ่งได้เป็นหนึ่งในเผ่าสิบสองเผ่าของอิสราเอล\n\n* บางครั้งมีการใช้คำว่านัฟธาลีเพื่อแสดงถึงดินแดนซึ่งเผ่าดังกล่าวอาศัยอยู่ (ให้ดู : [synecdoche](https://git.door43.org/Door43/en-ta-translate-vol2/src/master/content/figs_synecdoche.md))\n* ดินแดนของนัฟธาลีนั้นตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศอิสราเอล ถัดจากเผ่าดานและเผ่าอาเชอร์ ยังติดกับเขตแดนด้านตะวันตกของทะเลคินเนเรทอีกด้วย\n* เผ่านี้ถูกกล่าวถึงในพระคัมภีร์ทั้งพันธสัญญาเดิมและพันธสัญญาใหม่" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/nathan.txt b/01/nathan.txt new file mode 100644 index 00000000..1528bbb9 --- /dev/null +++ b/01/nathan.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "นาธาน", + "body": "นาธานเป็นผู้เผยพระวจนะที่สัตย์ซื่อของพระเจ้าซึ่งมีชีวิตอยู่ในช่วงที่กษัตริย์ดาวิดปกครองเหนือประเทศอิสราเอล\n\n* พระเจ้าทรงส่งนาธานเพื่อไปเผชิญหน้ากับกษัตริย์ดาวิดหลังจากที่ดาวิดได้ทำความบาปอย่างร้ายแรงต่ออุรีอาห์ \n* นาธานได้ตำหนิดาวิดถึงแม้ว่าดาวิดจะเป็นถึงกษัตริย์ก็ตาม\n* ดาวิดในสำนึกในความผิดบาปของพระองค์หลังจากที่นาธานได้เผชิญหน้ากับพระองค์" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/nation.txt b/01/nation.txt new file mode 100644 index 00000000..3cd82084 --- /dev/null +++ b/01/nation.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ชนชาติ, ประชาชาติ", + "body": "ชนชาติหรือประชาชาติเป็นกลุ่มประชาชนใหญ่ที่ปกครองโดยรัฐบาล ประชาชนของชาติมักจะมาจากบรรพบุรุษเดียวกันหรือมีเชื้อชาติร่วมกัน\n\n* คำว่า \"ชนชาติ\" หรือ \"ประชาชาติ\" นั้นโดยปกติแล้วรวมไปถึงวัฒนธรรมและเขตแดน\n* ในพระคัมภีร์ คำว่า \"ชนชาติ\" หรือ \"ประชาชาติ\" หมายถึงประเทศ (เช่น ประเทศอียิปต์ หรือ ประเทศเอธิโอเปีย) แต่บ่อยครั้ง โดยทั่วไปจะหมายถึงกลุ่มชนมากกว่า เฉพาะอย่างยิ่งหากอยู่ในรูปพหูพจน์ เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้แปลจะต้องตรวจสอบบริบท\n* ประชาชาติในพระคัมภีร์ รวมทั้ง อิสราเอล ฟิลิสเตีย อัสซีเรีย บาบิโลน คานาอัน โรม และกรีก ท่ามกลางชนชาติอื่นๆ \n* บางครั้งคำว่า \"ชนชาติ\" ถูกใช้เชิงอุปมาอุปมัย อ้างถึงบรรพบุรุษของกลุ่มชนบางกลุ่ม เช่น เมื่อพระเจ้าตรัสกับเรเบคาว่าบุตรชายซึ่งยังไม่เกิดมานั้นคือ \"ชนชาติ\" ซึ่งจะต่อสู้กัน นี่สามารถแปลว่า \"เป็นผู้ก่อตั้งสองชนชาติ\" หรือ \"บรรพบุรุษของประชาชนสองกลุ่ม\"\n* คำว่า \"ชนชาติ\" นั้นบางครั้งอ้างถึง \"ชนต่างชาติ\" หรือประชาชนผู้ซึ่งไม่ได้นมัสการพระยาห์เวห์ บริบทโดยปกติจะทำให้ความหมายชัดเจน\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า \"ชนชาติ\" สามารถแปลว่า \"กลุ่มประชาชน\" หรือ \"ประชาชน\" หรือ \"ประเทศ\"\n*ถ้าภาษาที่แปลอยู่ มีคำสำหรับ \"ชนชาติ\" ที่แตกต่างจากคำเหล่านี้ สามารถใช้คำเหล่านั้นได้เมื่อคำเหล่านั้นปรากฏในเนื้อความพระคัมภีร์ ตราบที่สามารถคงความเป็นธรรมชาติและความถูกต้องของบทแปลได้\n* คำพหูพจน์ของคำว่า \"ชนชาติ\" สามารถแปลว่า \"กลุ่มชนชาติ\" \n* ในบางบริบทนั้น คำนี้สามารถแปลว่า \"คนต่างชาติ\" หรือ \"ไม่ใช่ชาวยิว\"\n\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/nazareth.txt b/01/nazareth.txt new file mode 100644 index 00000000..799af36c --- /dev/null +++ b/01/nazareth.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "นาซาเร็ธ, ชาวนาซาเร็ธ", + "body": "นาซาเร็ธคือเมืองหนึ่งในแคว้นกาลิลีซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศอิสราเอล ห่างจากเยรูซาเล็มไปทางตอนเหนือประมาณ 100 กิโลเมตร ซึ่งใช้เวลาประมาณสามถึงห้าวันในการเดินทางด้วยเท้า\n\n* โยเซฟและมารีย์ได้มาจากเมืองนาซาเร็ธซึ่งเป็นเมืองที่ทั้งสองเลี้ยงดูพระเยซู ด้วยเหตุนี้เองพระเยซูจึงเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่า \"ชาวนาซาเร็ธ\"\n* พวกยิวหลายคนอาศัยอยู่ในเมืองนาซาเร็ธไม่ได้เคารพในคำสอนของพระเยซู เนื่องจากพระเยซูเติบโตขึ้นมาในท่ามกลางพวกเขา และพวกเขาคิดกันว่าพระองค์เป็นเพียงบุคคลธรรมดา\n* เมื่อพระเยซูเริ่มสั่งสอนในธรรมศาลาในเมืองนาซาเร็ธ ชาวยิวพยายามที่จะฆ่าพระเยซูเพราะพระองค์ทรงประกาศว่าพระองค์คือพระเมสิยาห์และพระองค์ทรงตำหนิชาวเมืองนั้นที่ได้ปฏิเสธพระองค์\n* สิ่งที่นาธานาเอลได้ตั้งข้อสังเกตเมื่อรู้ว่าพระเยซูมาจากนาซาเร็ธนั้น แสดงว่าเมืองนี้ไม่ได้อยู่ในความคิดว่าจะมีสิ่งดีอะไร" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/nazirite.txt b/01/nazirite.txt new file mode 100644 index 00000000..7935aaa1 --- /dev/null +++ b/01/nazirite.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "นาศีร์, คำปฏิญาณของนาศีร์", + "body": "คำว่า \"นาศีร์\" อ้างถึงบุคคลที่ได้กล่าวคำปฏิญาณของนาศีร์ ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นผู้ชาย แต่ผู้หญิงก็สามารถกล่าวคำปฏิญาณนี้ได้เช่นกัน\n\n* บุคคลที่ได้กล่าวคำปฏิญาณของนาศีร์นั้นยอมรับการไม่ดื่มหรือกินอาหารที่ทำมาจากองุ่น ตามจำนวนวัน สัปดาห์ หรือเดือนที่ได้ปฎิญาณเอาไว้ ในระหว่างช่วงเวลานั้น เขาจะไม่ตัดผมและไม่เข้าใกล้ร่างคนตาย\n* เมื่อครบระยะเวลาที่กำหนดไว้ และคำปฎิญาณได้รับความสำเร็จแล้วนาศีร์จะเข้าไปพบปุโรหิตและเตรียมถวายเครื่องบูชา ซึ่งจะรวมถึงการตัดผมและเผาเส้นผมของเขาทิ้ง ข้อห้ามต่างๆก็จะถูกยกเลิกไป\n* แซมสันเป็นเป็นที่รู้จักกันดีในพันธสัญญาเดิม เป็นผู้ซึ่งปฎิญาณตนเป็นนาศีร์\n* ทูตสวรรค์ได้ประกาศเรื่องการกำเนิดของยอห์นผู้ให้บัพติศมาแก่เศคาริยาห์ที่บุตรชายของเขาจะไม่ดื่มน้ำเมา ซึ่งอาจแสดงว่ายอห์นอยู่ภายใต้คำปฎิญาณของนาศีร์\n* อัครสาวกทูตเปาโลอาจเคยปฎิญาณตนครั้งหนึ่ง เห็นได้จากข้อความตอนหนึ่งในพระธรรมกิจการของอัครทูต" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/nebuchadnezzar.txt b/01/nebuchadnezzar.txt new file mode 100644 index 00000000..82356d95 --- /dev/null +++ b/01/nebuchadnezzar.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เนบูคัดเนสซาร์", + "body": "เนบูคัดเนสซาร์เป็นกษัตริย์องค์หนึ่งของอาณาจักรบาบิโลน ซึ่งกองทัพทรงอำนาจของเขาได้มีชัยชนะเหนือชนหลายกลุ่มด้วยกันและหลายประเทศ\n\n* ภายใต้การนำของเนบูคัดเนสซาร์ กองทัพบาบิโลนได้โจมตีและมีชัยชนะเหนืออาณาจักรยูดา และได้นำประชาชนส่วนใหญ่ของยูดาไปเป็นเชลยในบาบิโลนในฐานะเชลย \"การตกเป็นเชลยที่บาบิโลน\" นั้นนานถึง 70 ปี\n* หนึ่งในเชลยที่ถูกจับไป คือ ดาเนียล ได้ทำนายฝันของกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ \n* เชลยชาวอิสราเอลอีกสามคน คือ ฮานันยาห์ มิชาเอล และอาซาริยาห์ ได้ถูกโยนลงไปในเตาไฟเพราะเขาทั้งสามได้ปฎิเสธที่จะกราบไหว้รูปเคารพที่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์สร้างขึ้น \n* กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์นั้นหยิ่งผยองและกราบไหว้พระเทียมเท็จ เมื่อพระองค์รบชนะอาณาจักรยูดา พระองค์ได้ขโมยเอาเครื่องเงินและทองมาจากพระวิหารซึ่งตั้งอยู่ในกรุงเยรูซาเล็ม\n* เพราะกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์หยิ่งผยองและปฏิเสธที่จะหันกลับจากการนมัสการพระเทียมเท็จ พระยาห์เวห์จึงให้พระองค์เสียสติอยู่อย่างสัตว์ป่าเป็นเวลาเจ็ดปี หลังจากเจ็ดปี พระเจ้าได้ทำให้กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์กลับหายเป็นปกติเมื่อพระองค์ได้ทรงถ่อมพระองค์ลงและได้สรรเสริญพระเจ้าเที่ยงแท้องค์เดียวคือพระยาห์เวห์" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/negev.txt b/01/negev.txt new file mode 100644 index 00000000..2caa0ceb --- /dev/null +++ b/01/negev.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เนเกบ", + "body": "เนเกบเป็นดินแดนทะเลทรายทางตอนใต้ของอิสราเอล ทางตะวันตกเฉียงใต้ของทะเลเกลือ\n\n* คำดั้งเดิมมีความหมายว่า\"ทิศใต้\" พระคัมภีร์ภาษาอังกฤษบางฉบับแปลคำว่าเนเกบว่าทิศใต้\n* อาจเป็นไปได้ว่าสถานที่ทางตอนใต้ที่เนเกบเคยตั้งอยู่นั้น เป็นคนละที่กับทะเลทรายเนเกบในปัจจุบัน\n* เมื่ออับราฮัมได้อาศัยอยู่ที่เมืองเคเดชนั้น เขาอยู่ที่เนเกบหรือแคว้นทางตอนใต้\n* อิสอัคอาศัยอยู่ในเมืองเนเกบเมื่อเรเบคาได้เดินทางมาพบเขา และได้กลายมาเป็นภรรยาของเขา\n* ชนเผ่ายิวของยูดาและสิเมโอนได้อาศัยอยู่ที่แคว้นทางตอนใต้นี้\n* เมืองที่ใหญ่ที่สุดในแคว้นเนเกบคือเมืองเบเออร์เชบา" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/nehemiah.txt b/01/nehemiah.txt new file mode 100644 index 00000000..0acb06be --- /dev/null +++ b/01/nehemiah.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เนหะมีย์", + "body": "เนหะมีย์คือชาวอิสราเอลที่อาศัยอยู่ในบาบิโลนเมื่อครั้งที่ชาวอิสราเอลและยูดาถูกจับไปเป็นเชลยโดยชาวบาบิโลน\n\n* ขณะที่เนหะมีย์เป็นพนักงานถือถ้วยสำหรับกษัตริย์เปอร์เซียนามว่าอารทาเซอร์ซีสนั้น เนหะมีย์ได้ขออนุญาตกษัตริย์กลับไปยังกรุงเยรูซาเล็ม\n* เนหะมีย์ได้นำชาวอิสราเอลในการสร้างกำแพงเมืองเยรูซาเล็ม ซึ่งได้ชาวบาบิโลนทำลายขึ้นมาอีกครั้ง\n* เป็นเวลาถึง 12 ปีที่เนหะมีย์ได้เป็นผู้ว่าราชการของกรุงเยรูซาเล็ม ก่อนที่จะกลับไปยังพระราชวังของกษัตริย์\n* พันธสัญญาเดิมในพระธรรมเนหะมีย์นั้นได้บอกเล่าเรื่องราวของการงานของเนหะมีย์ในการสร้างกำแพงเมืองขึ้นใหม่และการปกครองของท่านเหนือประชาชนในกรุงเยรูซาเล็ม\n* ยังมีชื่อเนหะมีย์คนอื่นๆในพันธสัญญาเดิมอีกด้วย โดยปกติชื่อบิดาจะเพ่ิมต่อท้ายชื่อเพื่อให้เห็นความแตกต่างว่าพูดถึงเนหะมีย์คนไหน" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/neighbor.txt b/01/neighbor.txt new file mode 100644 index 00000000..867f79d7 --- /dev/null +++ b/01/neighbor.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เพื่อนบ้าน", + "body": "\"เพื่อนบ้าน \" ดดยปกติอ้างถึงบุคคลผู้ที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงกัน และยังสามารถอ้างถึงบางคนผู้ที่อาศัยอยู่ในชุมชนเดียวกันหรือกลุ่มชนเดียวกัน\n\n* \"เพื่อนบ้าน\" คือ บางคนผู้ที่จะปกป้องหรือปฏิบัติด้วยความเมตตาเพราะว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนเดียวกัน\n* ในพันธสัญญาใหม่ คำอุปมาเรื่องชาวสะมาเรียใจดีนั้น พระเยซูใช้คำว่า \"เพื่อนบ้าน\" ในเชิงอุปมาอุปมัย ขยายความหมายเพื่อรวมถึงมนุษย์ทุกคนแม้แต่คนที่เป็นศัตรูด้วย\n* หากเป็นไปได้ วิธีการในการแปลคำนี่ตามตัวอักษรหรือวลีที่มีความหมายว่า \"บุคคลที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงกัน\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/newcovenant.txt b/01/newcovenant.txt new file mode 100644 index 00000000..b8010de9 --- /dev/null +++ b/01/newcovenant.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "พันธสัญญาใหม่", + "body": "คำว่า \"พันธสัญญาใหม่\" อ้างถึงคำมั่นหรือข้อตกลงซึ่งพระเจ้าได้กระทำไว้กับประชากรของพระองค์ดดทางถวายบูชาของพระบุตรของพระองค์คือพระเยซูคริสต์\n\n* \"พันธสัญญาใหม่\" ของพระเจ้าอธิบายในส่วนของพระคัมภีร์ที่เรียกว่า \"พันธสัญญาใหม่\"\n* พันธสัญญาใหม่นี้ตรงกันข้ามกับคำว่า พันธสัญญา \"เก่า\" หรือ \"เดิม\" ที่พระเจ้าเคยทำไว้กับชาวอิสราเอลในสมัยพันธสัญญาเดิม\n* พันธสัญญาใหม่นั้นดีกว่าพันธสัญญาเดิม เพราะว่ามันตั้งอยู่บนการสละพระชนม์ของพระเยซูซึ่งเป็นการไถ่ให้คนพ้นจากความผิดบาปชั่วนิรันตร์ แต่การถวายบูชาซึ่งปรากฎในพันธสัญญาเดิมนั้นไม่ได้เป็นเช่นนี้\n* พระเจ้าได้ทรงเขียนคำมั่นแห่งพันธสัญญาใหม่ไว้ในใจของผู้ที่เชื่อในพระเยซูทุกคน สิ่งนี้ทำให้พวกเขาต้องการที่จะเชื่อฟังพระเจ้าและพวกเขาเริ่มดำเนินชีวิตให้บริสุทธิ์\n* พันธสัญญาใหม่จะมีผลสมบูรณ์ในเวลาสุดท้ายเมื่อพระเจ้าสถาปนาการปกครองของพระองค์บนแผ่นดินโลก ทุกสิ่งจะกลับมาดีอีกครั้งเหมือนครั้งแรกที่พระองค์ทรงเนรมิตสร้างโลก\n\n \n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำว่า \"พันธสัญญาใหม่\" สามารถแปลว่า \"การตกลงกันอย่างเป็นทางการครั้งใหม่\" หรือ \"คำมั่นใหม่\" หรือ \"สัญญาใหม่\"\n* คำว่า \"ใหม่\" ในคำกล่าวเหล่านี้มีความหมายว่า \"สด\" หรือ \"แบบใหม่ของ\" หรือ \"อีกอย่างหนึ่ง\" " + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/newmoon.txt b/01/newmoon.txt new file mode 100644 index 00000000..e36b5599 --- /dev/null +++ b/01/newmoon.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "วันขึ้นหนึ่งค่ำ", + "body": "คำว่า \"วันขึ้นหนึ่งค่ำ\" ในพระคัมภีร์อ้างถึงดวงจันทร์เมื่อมองเห็นมันเล็กเป็นรูปเสี้ยวสีเงิน นี่เป็นช่วงเวลาที่มันเริ่มต้นโคจรรอบโลก \n\n* ในสมัยโบราณ วันขึ้นหนึ่งค่ำ ได้ใช้เพื่อกำหนดการเริ่มของเวลา เช่นเดือนต่างๆ \n* คนอิสราเอลเฉลิมฉลองเทศกาลวันขึ้นหนึ่งค่ำจะให้เป็นที่สังเกตดดยการเป่าเขาแกะ\n* ในพระคัมภีร์ อ้างถึง ช่วงเวลาดังกล่าวว่าเป็น \"การเริ่มต้นของเดือน\" ด้วย" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/nileriver.txt b/01/nileriver.txt new file mode 100644 index 00000000..c3e018ac --- /dev/null +++ b/01/nileriver.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "แม่น้ำไนล์, แม่น้ำแห่งอียิปต์", + "body": "แม่น้ำไนล์เป็นแม่น้ำสายที่ยาวและกว้างในทิศตะวันออกเฉียงเหนือของอัฟฟริกา เป็นที่รู้จักกันดีว่าแม่น้ำสายดังกล่าวเป็นแม่น้ำสายหลักของประเทศอียิปต์\n\n* แม่น้ำไนล์ไหลจากทิศเหนือผ่านประเทศอียิปต์ลงสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน\n* พืชพันธุ์สามารถเจริญเติบโตได้ดีตามตลิ่งสองข้างทางของแม่น้ำไนล์ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์อย่างมาก\n* ชาวอียิปต์ส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ใกล้กับแม่น้ำไนล์เนื่องจาากแม่น้ำดังกล่าวเป็นแหล่งน้ำและอาหารที่สำคัญ\n* ชาวอิสราเองส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในแผ่นดินโกเชนซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์อย่างมากเนื่องจากตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำไนล์\n* เมื่อโมเสสยังเป็นทารกนั้น พ่อแม่ของโมเสสได้นำเขาไปใส่ไว้ในตะกร้าท่ามกลางต้นกกในแม่น้ำไนล์เพื่อซ่อนโมเสสให้พ้นจากคนของฟาโรห์" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/nineveh.txt b/01/nineveh.txt new file mode 100644 index 00000000..b2f7adc8 --- /dev/null +++ b/01/nineveh.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "นีนะเวห์, ชาวนีนะเวห์", + "body": "เมืองนีนะเวห์เป็นเมืองหลวงของอัสซีเรีย \"ชาวนีนะเวห์\" คือบุคคลที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองนีนะเวห์\n\n* พระเจ้าได้ทรงส่งผู้เผยพระวจนะนามว่าโยนาห์ไปเพื่อไปเตือนชาวนีนะเวห์ให้กลับใจจากทางอันชั่วร้าย ชาวเมืองได้กลับใจและพระเจ้าจึงไม่ได้ทำลายชาวเมืองนั้น\n* ชาวอัสซีเรียได้หันหลังให้กับพระเจ้าในเวลาต่อมา พวกเขาเอาชนะอาณาจักรอิสราเอลและกวาดต้อนผู้คนไปยังเมืองนีนะเวห์" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/noah.txt b/01/noah.txt new file mode 100644 index 00000000..17bbf369 --- /dev/null +++ b/01/noah.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "โนอาห์", + "body": "โนอาห์คือผู้ชายผู้มีชีวิตอยู่เมื่อ 4,000 กว่าปีมาแล้ว เมื่อครั้งที่พระเจ้าทรงให้น้ำท่วมโลกเพื่อทำลายคนชั่วทุกคนในโลก พระเจ้าตรัสสั่งให้โนอาห์สร้างเรือขนาดใหญ่ลำหนึ่ง อันเป็นที่ซึ่งเขาและครอบครัวของเขาจะสามารถอาศัยอยู่ในขณะที่น้ำท่วมทั่วผืนแผ่นดินโลก\n\n * โนอาห์เป็นชายที่มีความชอบธรรมผู้ซึ่งเชื่อฟังพระเจ้าในทุกสิ่ง\n * เมื่อพระเจ้าทรงบอกให้โนอาห์สร้างเรือลำใหญ่นั้น โนอาห์ได้ทำตามที่พระเจ้าตรัสสั่งทุกประการ\n * ภายในเรือนั้น โนอาห์และครอบครัวของเขาได้อาศัยอยู่ที่นั้นอย่างปลอดภัย ภายหลังลูกหลานของโนอาห์ก็ได้ขยายเต็มโลกนี้อีกครั้ง\n * ทุกคนที่เกิดในสมัยน้ำท่วมนั้นสืบเชื้อสายมาจากโนอาห์\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/noble.txt b/01/noble.txt new file mode 100644 index 00000000..2c780e5b --- /dev/null +++ b/01/noble.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ชั้นสูง, ขุนนาง", + "body": "คำว่า \"ชั้นสูง\" อ้างถึงบางสิ่งที่ดีเยี่ยมและมีคุณภาพดี ส่วนคำว่า \"ขุนนาง\" นั้นหมายถึงบุคคลที่มีตำแหน่งสูงทางการเมืองหรือสังคม \n\n * ขุนนางส่วนใหญ่แล้วนั้นหมายถึงเจ้าหน้าที่รัฐ หรือข้าราชบริพาลที่มีความใกล้ชิดกับกษัตริย์ \n * คำว่า \"ขุนนาง\" สามารถแปลได้อีกอย่างว่า \"ช้าราชการของกษัตริย์\" หรือ \"ข้าราชการ\" หรือ \"ผู้ชายเชื้อสายขุนนาง\" " + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/oak.txt b/01/oak.txt new file mode 100644 index 00000000..9e495635 --- /dev/null +++ b/01/oak.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ต้นโอ๊ก, ต้นก่อหลวง", + "body": "ต้นโอ๊กหรือต้นก่อหลวงเป็นต้นไม้สูงที่ให้ร่มเงา มีลำต้นที่ใหญ่และกิ่งก้านสาขาที่แผ่ขยายออก\n\n * ต้นโอ๊กหรือต้นก่อหลวงมีเนื้อไม้ที่แข็ง ซึ่งนำไปใช้ในการสร้างเรือ และคราดสำหรับทำไร่ แอกวัว หรือไม้เท้าสำหรับผู้สูงอายุ\n * เมล็ดของต้นโอ๊คเรียกว่าผลต้นโอ๊ก\n * ขนาดลำต้นของต้นโอ๊กบางต้นมีความกว้างของลำต้นถึง 6 เมตร\n * ต้นโอ๊กคือสัญลักษณ์ของการมีชีวิตที่ยืนยาว และมีความหมายอื่นฝ่ายจิตวิญญาณอื่นๆ ในพระคัมภีร์ ต้นโอ๊กจะเกี่ยวกับสถานที่ที่บริสุทธิ์\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ฉบับแปลหลายฉบับจะใช้คำว่า \"ต้นโอ๊ก\" มากกว่าแค่คำว่า \"โอ๊ก\" \n * หากต้นโอ๊กไม่เป็นที่รู้จักในวัฒนธรรมของภาษาที่จะใช้แปล สามารถแปลว่า \"ต้นโอ๊กซึ่งเป็นต้นไม้ที่ให้ร่มเงาขนาดใหญ่เหมือนกับ...\" แล้วให้บอกชื่อต้นไม้ท้องถิ่นที่มีลักษณะคล้ายกัน\n* ให้ดู : [How to Translate Unknowns]\n " + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/oath.txt b/01/oath.txt new file mode 100644 index 00000000..a0b23101 --- /dev/null +++ b/01/oath.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "คำสาบาน, สบถ, สาบานโดย...", + "body": "ในพระคัมภีร์ การสาบานคือการทำสัญญาเป็นทางการว่าจะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง บุคคลที่สาบานนั้นจะต้องทำตามที่สัญญาไว้ การสาบานเกี่ยวข้องกับความมุ่งมั่นที่จะสัตย์ซื่อและจริงใจ\n\n* บ่อยครั้งในศาล พยานให้คำสาบานเพื่อสัญญาว่าสิ่งที่เขาจะพูดนั้นเป็นความจริงและตรงตามข้อเท็จจริง\n* ในพระคัมภีร์นั้น คำว่า \"สาบาน\" หมายถึงการกล่าวคำสาบาน\n* คำว่า \"สาบานโดย\" หมายถึงการอ้างถึงนามหรือชื่อของบางสิ่งซึ่งเป็นพื้นฐานหรือพลังต่อคำสาบานนั้น\n* บางครั้งคำเหล่านี้จะใช้ด้วยกัน 'สบถสาบาน' \n* อับราฮัมและเอบีเมเลคได้กล่าวคำสบถสาบานเมื่อพวกเขาได้ทำพันธสัญญาร่วมกันเกี่ยวกับการใช้บ่อน้ำ\n* อับราฮัมให้คนใช้สบถ (หรือสัญญาอย่างเป็นทางการ) ว่าเขาจะหาภรรยาให้อิสอัคจากบรรดาเครือญาติของอับราฮัม\n* พระเจ้าก็กล่าวคำสาบานเช่นเดียวกัน ซึ่งพระองค์สัญญากับประชากรของพระองค์ \n * ความหมายของคำว่า \"สบถ\" ในสมัยใหม่นั้นหมายถึงการใช้ถ้อยคำที่หยาบคาย ซึ่งไม่ใช่ความหมายเดียวกันกับที่ใช้ในพระคัมภีร์ \n\n# คำแนะนำในการแปล \n\n* ขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า \"คำสาบาน\" นั้นสามารถแปลได้ว่า \"คำปฏิญาณ\" หรือ \"การสัญญาอย่างเป็นพิธีการ\" \n * คำว่า \"สบถ\" สามารถแปลได้ว่า \"สัญญาอย่างเป็นทางการ\" หรือ \"ปฏิญาณว่า\" หรือ \"ให้คำมั่นว่าจะทำบางสิ่งบางอย่าง\" \n * วิธีอื่นในการแปล \"ปฏิ‌ญาณ​ใน​นาม​ของ​เรา​\" สามารถรวม \"ทำสัญญาโดยใช้นามของเราเพื่อยืนยัน\"\n* \"การสัญญาโดยฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก\" นั้น สามารถแปลได้ว่า \"สัญญาที่จะทำบางสิ่งบางอย่างโดยเอาสวรรค์และแผ่นดินโลกมายืนยัน\"\n * ให้มั่นใจว่าการแปลคำว่า \"สบถ\" หรือ \"สาบาน\" นั้นไม่ได้อ้างถึงการแช่ง ในพระคัมภีร์ไม่มีความหมายนั้น" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/obadiah.txt b/01/obadiah.txt new file mode 100644 index 00000000..984400f4 --- /dev/null +++ b/01/obadiah.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "โอบาดีย์", + "body": "โอบาดีย์ เป็นผู้เผยพระวจนะในพันธสัญญาเดิมที่เผยพระวจนะต่อต้านชาวเมืองเอโดมซึ่งเป็นลูกหลานของเอซาว ยังมีผู้ชายอีกหลายคนในพันธสัญญาเดิมที่มีชื่อว่าโอบาดีย์ด้วย\n\n* พระธรรมโอบาดีย์เป็นพระธรรมเล่มที่สั้นที่สุดในพันธสัญญาเดิม และบอกถึงคำพยากรณ์ที่โอบาดีย์ได้รับผ่านทางนิมิตจากพระเจ้า\n* ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าโอบาดีย์มีชีวิตอยู่หรือเผยพระวจนะเมื่อใด อาจเป็นช่วงการปกครองของกษัตริย์แห่งยูดาคือกษัตริย์เยโฮรัม, อาหัสยาห์, โยอาช, และอาธาลิยาห์ ผู้เผยพระวจนะดาเนียล, เอเสเคียล, และเยเรมีย์ก็อาจทำการเผยพระวจนะในช่วงเวลาเดียวกันด้วย\n* โอบาดีย์อาจมีชีวิตอยู่ในช่วงท้ายการปกครองของเศเดคียาห์ และช่วงเวลาที่เป็นเชลยในบาบิโลน\n* บุคคลอื่นที่มีชื่อว่าโอบาดีย์รวมถึง ผู้สืบเชื้อสายมาจากกษัตริย์ซาอูล, ผู้ชายจากเผ่ากาดซึ่งต่อมากลายเป็นคนของดาวิด, ผู้ดูแลพระราชวังของกษัตริย์อาหับ, ข้าราชการของกษัตริย์เยโฮชาฟัทได้แก่ผู้ชายที่ช่วยซ่อมพระวิหารในสมัยของกษัตริย์โยซียาห์ ผู้ชายชาวเลวีผู้เฝ้าประตูในสมัยของผู้เผยพระวจนะเนหะมีย์\n* อาจเป็นไปได้ผู้เขียนพระธรรมโอบาดีย์นั้นอาจเป็นผู้ชายเหล่านี้คนใดคนหนึ่ง" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/obey.txt b/01/obey.txt new file mode 100644 index 00000000..9e934e26 --- /dev/null +++ b/01/obey.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เชื่อฟัง, ที่เชื่อฟัง, การเชื่อฟัง", + "body": "คำว่า \"เชื่อฟัง\" หมายถึงการทำตามที่กำหนดไว้หรือได้รับคำสั่งมา คำว่า \"ที่เชื่อฟัง\" อธิบายถึงลักษณะของบุคคลซึ่งเชื่อฟัง ในบางครั้งคำสั่งอาจจะไม่เป็นลักษณะไม่ให้ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น \"ไม่ให้ขโมย\"\n\n* โดยปกติคำว่า \"เชื่อฟัง\" ใช้ในบริบทของการเชื่อฟังคำสั่งหรือกฎหมายของบุคคลผู้มีอำนาจ \n* ยกตัวอย่างเช่น ประชาชนเชื่อฟังกฎหมายซึ่งบัญญัติโดยผู้นำของประเทศ ราชอาณาจักร หรือองค์กรอื่นๆ\n* ลูกหลานเชื่อฟังพ่อแม่ของพวกเขา, ทาสเชื่อฟังนายของเขา, ประชากรเชื่อฟังพระเจ้า ส่วนประชาชนเชื่อฟังกฎหมายของประเทศของพวกเขา\n* เมื่อบางคนที่มีอำนาจสั่งประชาชนไม่ให้ทำบางสิ่ง พวกเขาจะต้องเชื่อฟังโดยการไม่ทำสิ่งนั้น\n* การแปลคำนี้สามารถรวมคำหรือวลีที่มีความหมาย \"ทำอะไรที่ได้รับคำสั่ง\" หรือ \"ตามคำบัญชา\" หรือ \"กระทำสิ่งที่พระเจ้าทรงบัญชาให้ทำ\"\n* คำว่า \"เชื่อฟัง\" สามารถแปลว่า \"การทำอะไรตามที่ถูกสั่ง\" หรือ \"ตามคำสั่ง\" หรือ \"การทำสิ่งที่พระเจ้าทรงสั่ง\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/offspring.txt b/01/offspring.txt new file mode 100644 index 00000000..69590ac0 --- /dev/null +++ b/01/offspring.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ผู้สืบสกุล", + "body": "คำว่า \"ผู้สืบสกุล\" คือการอ้างอิงทั่วไปถึงการสืบเชื้อสายขอบประชาชนหรือสัตว์ \n\n* บ่อยครั้งในพระคัมภีร์นั้น คำว่า \"ผู้สืบเชื้อสาย\" มีความหมายเดียวกันกับ \"ลูกหลาน\" หรือ \"ผู้สืบสกุล\"\n* คำว่า \"เมล็ดพันธุ์\" บางครั้งใช้ในเชิงอุปมาอุปมัยอ้างถึงผู้สืบสกุล" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/oil.txt b/01/oil.txt new file mode 100644 index 00000000..7770d32d --- /dev/null +++ b/01/oil.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "น้ำมัน", + "body": "น้ำมัน เป็นของเหลวที่มีลักษณะข้นและใส ที่สกัดมาจากพืชหรือผลไม้ต่างๆ ในสมัยพระคัมภีร์ โดยปกติน้ำมันจะสกัดมาจากผลมะกอก\n\n* มีการใช้น้ำมันมะกอกในการทำอาหาร, การเจิม, การถวายเครื่องบูชา, ใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับตะเกียง, และเป็นยารักษาโรค\n* ในสมัยโบราณ น้ำมันมะกอกเป็นสินค้าซึ่งมีราคาสูง และการครอบครองน้ำมันสามารถวัดความมั่งคั่งได้\n* ให้แน่ใจว่าการแปลคำนี้ อ้างถึงน้ำมันที่ใช้สำหรับทำอาหารได้ ไม่ได้หมายถึงน้ำมันซึ่งใช้กับเครื่องยนต์ ในบางภาษามีการใช้คำที่ต่างกันระหว่างน้ำมันที่ต่างกันเหล่านี้" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/olive.txt b/01/olive.txt new file mode 100644 index 00000000..6a8bfc7e --- /dev/null +++ b/01/olive.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "มะกอก", + "body": "มะกอกเป็นผลไม้ขนาดเล็กรูปไข่จากต้นมะกอก ซึ่งส่วนใหญ่ปลูกในแถบรอบๆ ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน\n\n* ต้นมะกอกมีลักษณะเป็นไม้พุ่มขนาดใหญ่ที่ใบเขียวตลอดปี ออกดอกสีขาวเล็กๆ สามารถเติบโตได้ดีในพื้นที่ที่มีอากาศร้อนและสามารถขึ้นได้ดีด้วยน้ำหล่อเลี้ยงเพียงเล็กน้อย\n* ผลมะกอกจะมีสีเขียว เมื่อผลสุกจะกลายเป็นสีดำ สามารถนำผลมะกอกไปรับประทานหรือสกัดเป็นน้ำมันได้\n* สามารถใช้น้ำมันมะกอกสำหรับทำอาหาร, เป็นเชื้อเพลิงของตะเกียง และใช้เป็นส่วนประกอบในพิธีทางศาสนาได้\n* ในพระคัมภีร์นั้น บางครั้งจะมีการใช้ต้นหรือกิ่งมะกอกในเชิงอุปมาอุปไมยอ้างถึงประชาชน\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/omri.txt b/01/omri.txt new file mode 100644 index 00000000..f61e0fc9 --- /dev/null +++ b/01/omri.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "อมรี", + "body": "อมรีเป็นผู้บัญชาการกองทัพผู้ที่ได้กลายเป็นกษัตริย์องค์ที่หกของอิสราเอล\n\n* กษัตริย์อมรีทรงครอบครอง 12 ปีในเมืองทีรซาห์\n* เช่นเดียวกับกษัตริย์ทุกพระองค์ก่อนหน้าพระองค์ กษัตริย์อมรีทรงเป็นกษัตริย์ที่ชั่วร้ายมากที่ได้นำประชากรอิสราเอลให้นมัสการพระอื่น\n* อมรียังเป็นบิดาของกษัตรย์อาหับอีกด้วย" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/onhigh.txt b/01/onhigh.txt new file mode 100644 index 00000000..527ea7e9 --- /dev/null +++ b/01/onhigh.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เบื้องบน, ในที่สูงสุด", + "body": "คำว่า \"เบื้องบน\" หรือ \"ในที่สูงสุด\" เป็นคำกล่าวซึ่งโดยทั่วไปหมายความว่า \"ในสวรรค์\"\n\n* อีกความหมายหนึ่งของคำกล่าวว่า \"ในที่สูงสุด\" นั้นหมายถึง \"ได้รับเกียรติสูงสุด\"\n* คำกล่าวนี้สามารถใช้ตามตัวอักษร เช่นในคำกล่าวว่า \"บนต้นไม้ที่สูงสุด\" ซึ่งมีความหมายตรงตัว หมายความว่า \"บนต้นไม้ที่สูงที่สุด\"\n* คำว่า \"ในที่สูง\" สามารถอ้างถึงในที่สูงบนท้องฟ้า เช่น รังนกอยู่ในที่สูง ซึ่งในบริบทนั้นสามารถแปลว่า \"ในที่สูงบนท้องฟ้า\" หรือ \"บนยอดไม้ที่สูง\" \n* คำว่า \"สูง\" ชี้ถึงสถานที่ซึ่งตั้งอยู่บนที่สูงหรือความสำคัญของบุคคลหรือสิ่งของ\n* คำกล่าวว่า \"จากเบื้องบน\" สามารถแปลได้ว่า \"จากสวรรค์\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/oppress.txt b/01/oppress.txt new file mode 100644 index 00000000..9325b790 --- /dev/null +++ b/01/oppress.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "กดขี่ข่มเหง, การกดขี่, ผู้กดขี่ข่มเหง", + "body": "คำว่า \"กดขี่ข่มเหง, การกดขี่, ผู้กดขี่ข่มเหง\" อ้างถึงกระทำอย่างรุนแรงและหยาบคายต่อประชาชน ส่วนคำว่า \"ผู้กดขี่ข่มเหง\" หมายถึงบุคคลซึ่งกดขี่ประชาชน\n\n* คำว่า \"การกดขี่ข่มเหง\" อ้างถึงสถานการณ์ซึ่งผู้ที่มีอำนาจมากกว่าปฏิบัติต่อประชาชนอย่างเลวร้าย หรือการจับประชาชนซึ่งอยู่ใต้อำนาจหรือการปกครอง\n* คำว่า \"ผู้ถูกกดขี่ข่มเหง\" อธิบายถึงประชาชนผู้กำลังถูกปฎิบัติอย่างรุนแรง\n* บ่อยครั้งชนชาติศัตรูและผู้ปกครองทั้งหลายก็เป็นผู้กดขี่ข่มเหงชาวอิสราเอล\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ขึ้นอยู่กับบริบท\"กดขี่ข่มเหง\" สามารถแปลว่า \"ถูกกระทำอย่างรุนแรง\" หรือ \"ถูกทำให้ต้องแบกภาระอย่างหนัก\" หรือ \"ทำให้ตกอยู่ภายใต้การถูกบังคับด้วยความทุกข์ยาก\" หรือ \"ปกครองด้วยความโหดร้าย\"\n* การแปลคำว่า \"การกดขี่ข่มเหง\" สามารถรวมถึง \"การปราบปรามอย่างหนักและการเป็นทาส\" หรือ \"การการควบคุมที่เป็นภาระ\"\n* วลีที่ว่า \"คนที่ถูกกดขี่\" \"คนถูกบีบบังคับ\" สามารถแปลได้อีกอย่างว่า \"ประชากรที่ถูกกดขี่\" หรือ \"ประชากรซึ่งอยู่ภายใต้การบีบบังคับอันหนักหน่วง\" หรือ \"ผู้ซึ่งถูกกระทำอย่างโหดร้าย\"\n* คำว่า \"ผู้กดขี่\" สามารถแปลอีกอย่างได้ว่า \"คนซึ่งกดขี่ข่มเหง\" หรือ \"ประชาชาติที่บีบบังคับและปกครองด้วยความโหดร้าย\" หรือ \"ผู้ข่มเหง\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/ordain.txt b/01/ordain.txt new file mode 100644 index 00000000..3de0feb1 --- /dev/null +++ b/01/ordain.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "แต่งตั้ง, สถาปนา", + "body": "การแต่งตั้งหรือสถาปนาบุคคลหมายถึงการแต่งตั้งบุคคลเพื่อภารกิจหรือบทบาทพิเศษ ยังหมายถึงการบัญญัติกฎเกณฑ์หรือพระราชกฤษฎีกาอย่างเป็นทางการอีกด้วย\n\n* บ่อยครั้งคำว่า \"แต่งตั้ง, สถาปนา\" อ้างถึงการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการบางคนให้เป็นปุโรหิต, ศาสนาจารย์, หรือรับไบ\n* ยกตัวอย่างเช่น พระเจ้าทรงแต่งตั้งอาโรนและลูกหลานของอาโรนให้เป็นพวกปุโรหิต\n* ยังสามารถแปลได้สร้างหรือสถาปนาบางสิ่ง เช่น การเลี้ยงฉลองทางศาสนา หรือ พันธสัญญา\n* ขึ้นอยู่กับบริบท \"แต่งตั้ง, สถาปนา\" สามารถแปลได้ว่า \"มอบหมายหน้าที่\" หรือ \"แต่งตั้งให้เป็น\" หรือ \"ออกคำสั่ง\" หรือ \"ตั้งกฎเกณฑ์\" หรือ \"สถาปนา\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/ordinance.txt b/01/ordinance.txt new file mode 100644 index 00000000..3eacd1e2 --- /dev/null +++ b/01/ordinance.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "คำสั่ง, กฏ, พระราชกฤษกีกา", + "body": "คำว่า \"คำสั่ง, กฏ, พระราชกฤษกีกา\" เป็นกฎเกณฑ์สาธารณะซึ่งเป็นตัวกำหนดกฎระเบียบหรือคำสั่งเพื่อให้ประชาชนกระทำตาม คำนี้มีความเกี่ยวข้องกับคำว่า \"แต่งตั้ง\" \n\n* บางครั้งคำสั่ง, กฏ, พระราชกฤษกีกาเป็นประเพณีที่ได้กระทำสืบทอดกันต่อมาอย่างยาวนาน\n* ในพระคัมภีร์ คำว่า \"คำสั่ง, กฏ, พระราชกฤษกีกา\" คือบางสิ่งที่พระเจ้าได้บัญชาชาวอืสราเอลให้กระทำตาม ในบางครั้งพระองค์ได้ทรงสั่งให้พวกเขาปฏิบัติตามตลอดไป\n* คำว่า \"คำสั่ง, กฏ, พระราชกฤษกีกา\" สามารถแปลว่า \"กฎสาธารณะ\" หรือ \"กฎระเบียบ\" หรือ \"กฎหมาย\" ขึ้นอยู่กับบริบท" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/overseer.txt b/01/overseer.txt new file mode 100644 index 00000000..49ab9d07 --- /dev/null +++ b/01/overseer.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ผู้ดูแล ", + "body": "คำว่า \"ผู้ดูแล\" อ้างถึงบุคคลซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในงานและทุกข์สุขของคนอื่น\n\n* ในพันธสัญญาเดิม ผู้ดูแลมีหน้าที่สร้างความมั่นใจว่าคนงานภายใต้การดูแลของตนนั้นได้ทำหน้าที่ของตนอย่างดี\n* ในพันธสัญญาใหม่ คำนี้ถูกใช้เพื่ออธิบายถึงผู้นำคริสตจักรในยุคแรก งานของผู้นำคืแการดูแลความจำเป็นฝ่ายจิตวิญญาณของคริสตจักร ทำให้แน่ใจว่าผู้เชื่อได้รับการสั่งสอนที่ถูกต้องตามหลักพระคัมภีร์\n* เปาโลอ้างถึงผู้ดูแลว่าเป็นเหมือนกับผู้เลี้ยงแกะผู้ที่ดูแลผู้เชื่อของตนในคริสตจักรท้องถิ่น พวกเขาเป็น \"ฝูงแกะ\" ของเขา \n* ผู้ดูแลเหมือนกับผู้เลี้ยงแกะ เฝ้าดูแลฝูงแกะ เขาคอยพิทักษ์และป้องกันผู้เชื่อทั้งหลายจากคำสอนฝ่ายจิตวิญญาณที่เทียมเท็จและอิทธิพลชั่วร้ายอื่นๆ\n* ในพันธสัญญาใหม่ คำว่า \"ผู้ดูแล\" \"ผู้ปกครอง\" และ\"ผู้เลี้ยงแกะ/ศิษยาภิบาล\" นั้นต่างเป็นคำที่อ้างถึงผู้นำฝ่ายจิตวิญญาณเหมือนกัน\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* วิธีอื่นในการแปลคำนี้สามารถแปลว่า \"ผู้ควบคุมดูแล\" หรือ \"ผู้ดูแล\" หรือ \"ผู้จัดการ\"\n* เมื่ออ้างถึงผู้นำกลุ่มคนของประชากรของพระเจ้าระดับท้องถิ่นนั้น สามารถแปลด้วยคำหรือวลีที่มีความหมายว่า \"ผู้ดูแลฝ่ายจิตวิญญาณ\" หรือ \"ผู้ซึ่งดูแลความต้องการฝ่ายจิตวิญญาณของกลุ่มผู้เชื่อ\" หรือ \"บุคคลซึ่งดูแลความต้องการฝ่ายจิตวิญญาณของคริสตจักร\"\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/overtake.txt b/01/overtake.txt new file mode 100644 index 00000000..6f9445e3 --- /dev/null +++ b/01/overtake.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ไล่ตามทัน, ตามทัน", + "body": "คำว่า \"ไล่ตามทัน\" หรือ \"ตามทัน\" อ้างถึงการพยายามบังคับเหนือบางคนหรือบางสิ่ง โดยทั่วไปรวมถึงความคิดที่จับบางสิ่งได้หลังจากที่พยายามมาสักระยะหนึ่ง\n\n* เมื่อกองทัพทหาร \"ไล่ตามทัน\" ศัตรู หมายความว่าพวกเขาเอาชนะเหนือศัตรูในสนามรบ\n* เมื่อผู้ไล่ล่าไล่ตามเหยื่อทัน หมายความว่าผู้ล่านั้นได้พยายามไล่และสามารถตามจับเหยื่อได้ทัน\n* เมื่อคำสาปแช่ง \"ไล่ตามทัน\" บางคนหมายความว่าอะไรก็ตามที่กล่าวไว้ในคำสาปแช่งนั้นจะเกิดขึ้นกับบุคคลนั้น\n* หากพระพรตามใครคนหนึ่งทัน หมายความว่าคนเหล่านั้นจะได้รับพระพรนั้น\n* ขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า \"ไล่ตามทัน\" สามารถแปลว่า \"ชนะ\" หรือ \"จับได้\" หรือ \"ปราบ\" หรือ \"ไล่ตามทัน\" หรือ \"มีผลอย่างสมบูรณ์\"\n* นอกจากนี้คำอดึตว่า \"ได้ไล่ตามทัน\" สามารถแปลได้อีกอย่างหนึ่งว่า \"ได้ไล่จับทัน\" หรือ \"ได้มาเทียบคู่ขนานกัน\" หรือ \"ได้เอาชนะ\" หรือ \"ได้มีปราบลง\" หรือ \"ได้ทำให้เกิดอันตรายแก่\"\n* เมื่อใช้เป็นคำเตือนว่าความมืดมิดหรือการลงโทษหรือความสยดสยองจะไล่ตามประชากรทันเพราะบาปของพวกเขานั้น มีหมายความว่าผู้คนเหล่านั้นจะประสบกับสิ่งเลวร้ายหากพวกเขาไม่กลับใจ\n* วลีที่ว่า \"ถ้อยคำของเราก็ได้ติดตามบรรพบุรุษของเจ้าทัน” หมายความว่าคำสั่งสอนซึ่งพระยาห์เวห์ได้มอบไว้ให้แก่บรรพบุรุษของพวกเขานั้น บัดนี้จะเป็นเหตุให้พวกเขาได้รับการลงโทษเพราะพวกเขาไม่ได้เชื่อฟังคำสั่งสอนเหล่านั้น" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/ox.txt b/01/ox.txt new file mode 100644 index 00000000..f06761ad --- /dev/null +++ b/01/ox.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "วัว, วัวหลายตัว", + "body": "คำว่า \"วัว\" อ้างถึงสัตว์เลี้ยงประเภทหนึ่งซึ่งได้รับการฝึกเป็นพิเศษให้ทำงานกสิกรรม ในภาษาอังกฤษนั้นรูปพหูพจน์ของคำว่าคือ \"วัวหลายตัว\" ตามปกติแล้ววัวจะหมายถึงวัวตัวผู้ซึ่งถูกทำหมันแล้ว\n\n* ตลอดพระคัมภีร์ วัวได้รับการกล่าวถึงว่าเป็นสัตว์ซึ่งต้องแบกแอกเพื่อลากเกวียนหรือไถนา\n* วัวงานที่ทำงานด้วยกันภายใต้แอกเป็นเหตุการณ์ที่สามารถพบได้ทั่วไปในสมัยของพระคัมภีร์ วลี \"อยู่ภายใต้แอก\" กลายเป็นคำอุปมาอุปมัยสำหรับงานหนักและการใช้แรงงาน\n* วัวตัวผู้เป็นสัตว์เลี้ยงตัวผู้ แต่เป็นวัวตัวผู้ที่ยังไม่ได้ทำหมันและไม่ได้ถูกฝึกให้เป็นสัตว์ทำงาน" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/paddanaram.txt b/01/paddanaram.txt new file mode 100644 index 00000000..19ce3fa3 --- /dev/null +++ b/01/paddanaram.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ปัดดานอารัม", + "body": "ปัดดานอารัมเป็นชื่อแคว้นหนึ่งซึ่งครอบครัวของอับราฮัมอาศัยอยู่ก่อนที่จะออกเดินทางไปยังดินแดนคานาอัน มีความหมายว่า \"ที่ราบแห่งอารัม\"\n\n* เมื่ออับราฮัมได้จากเมืองฮารานในปัดดานอารัมเพื่อเดินทางไปยังดินแดนคานาอันนั้น ครอบครัวส่วนใหญ่ของอับราฮัมยังคงอาศัยอยู่ที่ฮาราน\n* หลายปีต่อมา คนรับใช้ของอับราฮัมได้ไปที่ปัดดานอารัมเพื่อค้นหาภรรยาให้กับอิสอัคในหมู่ญาติของเขาซึ่งอาศัยอยู่ที่นั่น และได้พบกับเรเบคาซึ่งเป็นหลานสาวของเบธูเอล\n* บุตรชายของอิสอัคและเรเบคาคือยาโคบได้เดินทางไปยังเมืองปัดดานอารัมและแต่งงานกับลูกสาวสองคนของลาบานน้องชายเรเบคาซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองฮาราน\n* อารัม, ปัดดานอารัม, และ อารัม นาหะริอัม ทุกเมืองเป็นส่วนแคว้นเดียวกันซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งของประเทศซีเรีย" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/pagan.txt b/01/pagan.txt new file mode 100644 index 00000000..016bef6a --- /dev/null +++ b/01/pagan.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "พวกนอกศาสนา", + "body": "ในสมัยพระคัมภีร์นั้น คำว่า \"พวกนอกศาสนา\" ใช้อธิบายถึงคนที่นมัสการพระเทียมเท็จแทนการนมัสการพระยาห์เวห์\n\n* สิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวกับคนกลุ่มนี้ เช่น แท่นบูชาที่พวกเขานมัสการ พิธีกรรมทางศาสนาที่พวกเขาปฏิบัติ หรือความเชื่อของพวกเขา ถูกเรียกว่า \"นอกศาสนา\" เช่นเดียวกัน\n* พวกนอกศาสนาเชื่อในระบบที่รวมไปถึงการนมัสการพระเทียมเท็จหรือนม้สการธรรมชาติ\n* ศาสนาเทียมเท็จบางศาสนารวมไปถึงพิธีกรรมซึ่งเกี่ยวกับพิธีกรรมทางเพศหรือการฆ่ามนุษย์เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการนมัสการ" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/palace.txt b/01/palace.txt new file mode 100644 index 00000000..dfe97de5 --- /dev/null +++ b/01/palace.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "พระราชวัง", + "body": "คำว่า \"พระราชวัง\" อ้างถึงอาคารหรือบ้านที่ซึ่งกษัตริย์ประทับอยู่พร้อมด้วยสมาชิกราชวงศ์และเหล่าข้าราชบริพาร\n\n* มหาปุโรหิตอาศัยอยู่บริเวณพระราชวังเช่นเดียวกัน ดังที่ได้มีการกล่าวไว้ในพันธสัญญาใหม่\n* พระราชวังต่างๆ จะมีการตกแต่ง ด้วยสถาปัตยกรรมและเครื่องเรือนที่สวยงาม\n* ตัวอาคารและเครื่องเรือนของพระราชวังก่อสร้างด้วยหินหรือไม้ และหุ้มด้วยไม้ราคาแพง ทอง และงาช้าง\n* คนจำนวนมากอาศัยอยู่และทำงานบริเวณพระราชวัง ซึ่งมักจะประกอบไปด้วยอาคารหลายอาคารและลานพระราชวัง" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/palm.txt b/01/palm.txt new file mode 100644 index 00000000..7769c960 --- /dev/null +++ b/01/palm.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ต้นปาล์ม", + "body": "คำว่า \"ปาล์ม\" อ้างถึงต้นไม้สูงซึ่งใบมีลักษณะเรียวยาวและอ่อน ซึ่งส่วนใบจะขึ้นที่ส่วนยอดของมีลักษณะคล้ายพัด\n\n* ต้นปาล์มในพระคัมภีร์โดยทั่วไปแล้วอ้างถึงต้นปาล์มชนิดหนึ่งซึ่งออกลูกเป็น \"ผลอินทผลัม\" ส่วนใบและกิ่งมีลักษณะคล้ายกับขนนก\n* ต้นปาล์มโดยทั่วไปแล้วจะเติบโตในที่ที่มีลักษณะอากาศร้อนชื้น ส่วนใบจะเขียวตลอดทั้งปี\n* เมื่อพระเยซูเสด็จเข้าสู่กรุงเยรูซาเล็มบนหลังลา ประชาชนได้ปูใบปาล์มลงที่พื้นต่อต่อพระพักตร์พระองค์\n* กิ่งปาล์มเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพและการเฉลิมฉลองชัยชนะ" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/parable.txt b/01/parable.txt new file mode 100644 index 00000000..e4f1697f --- /dev/null +++ b/01/parable.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "คำอุปมา", + "body": "คำว่า \"คำอุปมา\" โดยปกติแล้วอ้างถึงเรื่องสั้นหรือบทเรียนเป้าหมายในชีวิตประจำวันที่ใช้เป็นอธิบายหรือสั่งสอนความจริงด้านศีลธรรม\n\n* พระเยซูทรงใช้คำอุปมาเพื่อสั่งสอนสาวกของพระองค์ แม้ว่าพระองค์จะทรงใช้คำอุปมาเพื่อสั่งสอนประชาชนเช่นเดียวกัน แต่พระองค์ก็ไม่ได้อธิบายถึงความหมายของคำอุปมาเสมอไป\n* คำอุปมาสามารถใช้เพื่อเปิดเผยความจริงบางอย่างต่อสาวกของพระองค์ได้ในขณะที่ซ่อนความจริงจากประชาชนเช่นพวกฟาริสีผู้ซึ่งไม่ได้เชื่อในพระเยซู\n* ผู้เผยพระวจนะนาธานได้ใช้คำอุปมาหนึ่งเพื่อแสดงให้กษัตริย์ถึงบาปอันเลวร้ายของพระองค์\n* เรื่องราวของชาวสะมาเรียใจดีเป็นตัวอย่างของคำอุปมาที่เป็นเรื่องราว การเปรียบเทียบของพระเยซูระหว่างถุงเหล้าองุ่นเก่าและใหม่นั้นเป็นตัวอย่างของคำอุปมาที่เป็นบทเรียนจากการใช้สิ่งของเพื่อช่วยให้สาวกเข้าใจคำสอนของพระเยซู\n " + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/paran.txt b/01/paran.txt new file mode 100644 index 00000000..3037eda0 --- /dev/null +++ b/01/paran.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ปาราน", + "body": "ปารานเป็นทะเลทรายหรือถิ่นทุรกันดารทางตะวันออกของอียิปต์และดินแดนทางตอนใต้ของคานาอัน ยังมีภูเขาชื่อปารานซึ่งอาจเป็นอีกชื่อหนึ่งของภูเขาซีนาย\n\n* สาวใช้ชื่อว่าฮาการ์และบุตรชายชื่อว่าอิขมาเอลได้ออกไปอาศัยอยู่ในถิ่นทุรกันดารปารานหลังจากที่นางซารายได้สั่งให้อับราฮัมส่งพวกเขาทั้งสองออกไป\n* เมื่อโมเสสนำชาวอิสราเอลออกมาจากอียิปต์นั้น พวกเขาได้เดินทางผ่านถิ่นทุรกันดารแห่งปาราน\n* จากคาเดชบาร์เนียในถิ่นทุรกันดารปารานที่โมเสสได้ส่งผู้ชายสิบสองคนไปสอดแนมดินแดนคานาอันและกลับมารายงาน\n* ถิ่นทุรกันดารศินซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของปารานและถิ่นทุรกันดารศินอยู่ทางตอนใต้ของปาราน" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/pardon.txt b/01/pardon.txt new file mode 100644 index 00000000..d614e816 --- /dev/null +++ b/01/pardon.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "การให้อภัย", + "body": "คำว่า \"การให้อภัย\" หมายถึงการยกโทษและไม่ลงโทษบางคนสำหรับบาปของเขา\n\n* คำนี้มีความหมายเหมือนกับคำว่า \"ยกโทษ\" แต่อาจรวมความหมายของการตัดสินใจอย่างเป็นทางการที่จะไม่ลงโทษบางคนผู้มีความผิด\n* ในศาลทางกฎหมาย ผู้พิพากษาสามารถยกโทษบุคคลที่พบว่ามีความผิดในการอาชญากรรม\n* ถึงแม้ว่าเราจะมีความผิดในเรื่องบาป พระเยซูคริสต์ทรงให้อภัยแก่เราไม่ให้เราตกนรก ขึ้นอยู่กับการสละพระชนม์ของพระองค์บนไม้กางเขน\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ถ้าในภาษามีคำซึ่งหมายถึงการตัดสินใจอย่างเป็นทางการที่จะให้อภัย คำนั้นสามารถใช้ในการแปลคำนี้ได้\n* คำนี้สามารถแปลเหมือนกับคำว่า \"ยกโทษ\" และ \"การยกโทษ\" " + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/partial.txt b/01/partial.txt new file mode 100644 index 00000000..5adba9b9 --- /dev/null +++ b/01/partial.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เป็นบางส่วน, ความลำเอียง", + "body": "คำว่า \"เป็นบางส่วน\" และ \"แสดงความลำเอียง\" อ้างถึงการเลือกที่จะปฏิบัติต่อคนหนึ่งเสมือนหนึ่งว่ามีความสำคัญกว่าคนอื่นๆ\n\n* นี่คล้ายกับการแสดงความชื่นชอบ ซึ่งหมายถึงการปฏิบัติกับบางคนดีกว่าปฏิบัติกับคนอื่นๆ\n* โดยปกติแล้วความลำเอียงหรือความชื่นชอบจะแสดงต่อคนเพราะว่าพวกเขาร่ำรวยกว่า หรือ เป็นที่นิยมมากกว่าคนอื่น\n* พระคัมภีร์สอนประชาชนไม่ให้แสดงความลำเอียงหรือความชื่นชอบต่อประชาชนผู้ที่ร่ำรวยหรือมีตำแหน่งสูง\n* ในจดหมายที่เขียนถึงชาวโรมนั้น เปาโลได้สอนว่าพระเจ้าทรงตัดสินทุกคนด้วยความเที่ยงธรรมและไม่ลำเอียง\n* พระธรรมยากอบได้สอนว่าเป็นการผิดที่จะมอบที่นั่งที่ดีกว่าหรือการปฏิบัติที่ดีกว่าต่อคนหนึ่งเพราะพวกเขาร่ำรวย" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/passover.txt b/01/passover.txt new file mode 100644 index 00000000..8e64e690 --- /dev/null +++ b/01/passover.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ปัสกา", + "body": "คำว่า \"ปัสกา\" นั้นเป็นชื่อของเทศกาลทางศาสนาซึ่งชาวยิวเฉลิมฉลองเป็นประจำทุกปีเพื่อรำลึกว่าพระเจ้าทรงช่วยกู้บรรพบุรุษของพวกเขาชาวอิสราเอลให้พ้นจากการเป็นทาสในอียิปต์ได้อย่างไร\n\n* ชื่อของเทศกาลตามจริงแล้วมีที่มาจากข้อเท็จจริงว่าพระเจ้าทรง \"ผ่านข้ามไป\" บ้านทั้งหลายของชาวอิสราเอล และไม่ได้ประหารบุตรชายของชาวอิสราเอลเมื่อครั้งที่พระองค์ทรงประหารบุตรชายหัวปีทุกคนของชาวอียิปต์\n* การเฉลิมฉลองเทศกาลปัสการวมไปถึงอาหารมื้อพิเศษคือลูกแกะที่ปราศจากตำหนิซึ่งพวกเขาได้ฆ่าและอบ เช่นเดียวกับขนมปังที่ปราศจากยีสต์ อาหารเหล่านี้เป็นที่ระลึกถึงมื้ออาหารที่ชาวอิสราเอลได้รับประทานในคืนก่อนที่พวกเขาจะหนีออกจากอียิปต์\n* พระเจ้าตรัสบอกกับชาวอิสราเอลให้รับประทานอาหารมื้อนี้ทุกปีเพื่อรำลึกและเฉลิมฉลองที่พระเจ้าได้ \"ข้ามผ่าน\" บ้านของพวกเขาไปและทำให้พวกเขาเป็นอิสระจากการเป็นทาสในอียิปต์อย่างไร\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำว่า \"ปัสกา\" สามารถแปลโดยการนำเอาสองคำมารวมกันนั่นคือคำว่า \"ผ่าน\" และ \"ข้าม\" หรือประสมกับคำอื่นที่มีความหมายนี้\n* จะเป็นประโยชน์มากหากชื่อของเทศกาลนี้มีความเชื่อมโยงที่ชัดเจนระหว่างคำซึ่งสามารถใช้อธิบายได้ว่าทูตขององค์พระผู้เป็นเจ้าได้ข้ามผ่านบ้านทั้งหลายของชาวอิสราเอลและไว้ชีวิตบุตรชายของพวกเขาอย่างไร" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/pastor.txt b/01/pastor.txt new file mode 100644 index 00000000..04afe9f1 --- /dev/null +++ b/01/pastor.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ศิษยาภิบาล", + "body": "คำว่า \"ศิษยาภิบาล\" มีความหมายตามตัวอักษรเช่นเดียวกันกับคำว่า \"ผู้เลี้ยงแกะ\" ใช้เป็นคำซึ่งบอกตำแหน่งของคนซึ่งเป็นผู้นำฝ่ายจิตวิญญาณของกลุ่มผู้เชื่อ\n\n* ในพระคัมภีร์ฉบับภาษาอังกฤษนั้น คำว่า \"ศิษยาภิบาล\" ปรากฎเพียงครั้งเดียวในพระธรรมเอเฟซัส คำดังกล่าวเป็นคำเดียวกับคำว่า \"ผู้เลี้ยงแกะ\" ซึ่งปรากฎในพระธรรมข้ออื่นๆ\n* สำหรับภาษาอื่นๆนั้น คำว่า \"ศิษยาภิบาล\" อาจเป็นคำเดียวกับคำว่า \"ผู้เลี้ยงแกะ\"\n* เป็นคำเดียวกับคำที่ใช้อ้างถึงพระเยซูในฐานะ \"ผู้เลี้ยงแกะที่ดี\"\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ทางที่ดีที่สุดควรแปลคำนี้เป็นคำเดียวที่แปลว่า \"ผู้เลี้ยงแกะ\" ในภาษาตามโครงการแปล\n* วิธีอื่นในการแปลคำนี้รวมถึง\"ผู้เลี้ยงฝ่ายจิตวิญญาณ\" หรือ \"ผู้นำผู้เลี้ยงคริสเตียน\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/patient.txt b/01/patient.txt new file mode 100644 index 00000000..01b97801 --- /dev/null +++ b/01/patient.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "อดทน, ความอดทน", + "body": "คำว่า \"อดทน\" หรือ \"ความอดทน\" อ้างถึงการบากบั่นพยายามผ่านสถานการณ์ที่ยากลำบาก บ่อยครั้งนั้นการอดทนเกี่ยวข้องการรอคอยอยู่ด้วย\n\n* เมื่อประชาชนอดทนกับบาง หมายความว่าพวกเขารักบุคคลและยกโทษให้ไม่ว่าบุคคลนั้นจะมีความผิดอย่างไร\n* พระคัมภีร์สอนประชากรของพระเจ้าให้มีความอดทนเมื่อเผชิญกับความยากลำบากและอดทนต่อกันและกัน\n* เนื่องด้วยพระเมตตาของพระองค์ พระเจ้าทรงอดทนต่อคนทั้งหลาย ถึงแม้ว่าคนเหล่านี้จะเป็นคนบาปซึ่งสมควรได้รับโทษ" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/patriarchs.txt b/01/patriarchs.txt new file mode 100644 index 00000000..a7076ac2 --- /dev/null +++ b/01/patriarchs.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ปิตาจารย์", + "body": "คำว่า \"ปิตาจารย์\" ในพันธสัญญาเดิมอ้างถึงบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งชนชาติยิว เฉพาะอย่างยิ่งอับราฮัม อิสอัค และยาโคบ\n\n* คำดังกล่าวยังอ้างถึงบุตรชายสิบสองคนของยาโคบซึ่งได้มาเป็นปิตาจารย์ของทั้ง 12 เผ่าของอิสราเอล\n* คำว่า \"ปิตาจารย์\" มีความหมายคล้ายกับคำว่า \"บรรพบุรุษ\" แต่อ้างถึงเป็นพิเศษถึงผู้ชายที่เป็นผู้นำปิตาจารย์ที่เป็นที่รู้จักกันดีของกลุ่มประชาชน" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/paul.txt b/01/paul.txt new file mode 100644 index 00000000..c97b2481 --- /dev/null +++ b/01/paul.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เปาโล, เซาโล", + "body": "เปาโลคือผู้นำของคริสตจักรในยุคเริ่มแรกซึ่งพระเยซูได้ส่งออกไปเพื่อประกาศข่าวประเสริฐแก่กลุ่มชนชาติทั้งหลาย\n\n* เปาโลเป็นชาวยิวซึ่งกำเนิดในเมืองของโรมันเมืองหนึ่งชื่อเมืองทาร์ซัส ด้วยเหตุนี้เปาโลจึงเป็นชาวโรม\n* เปาโล เดิมนั้นมีชื่อยิวว่าเซาโล\n* เซาโลได้กลายมาเป็นผู้นำศาสนาชาวยิวและได้ทำการจับกุมชาวยิวซึ่งเปลี่ยนมาเป็นคริสเตียนเพราะเขาคิดว่าเขาเหล่านั้นไม่สัตย์ซื่อต่อพระเจ้าโดยมาเชื่อในพระเยซู\n* พระเยซูทรงเปิดเผยพระองค์แก่เซาโลในแสงสว่างจ้าจากท้องฟ้า และตรัสบอกเซาโลให้เขาหยุดทำร้ายคริสเตียน\n* เซาโลได้เชื่อในพระเยซูและได้เริ่มต้นสั่งสอนบรรดาชาวยิวเกี่ยวกับพระเยซู\n* ต่อมาภายหลังพระเจ้าได้ทรงส่งเซาโลไปสั่งสอนประชาชนที่ไม่ใช่ชาวยิวเกี่ยวกับพระเยซูและได้เริ่มก่อตั้งคริสตจักรต่างๆ ในเมืองหลายเมืองของอาณาจักรโรม ในเวลานี้เองที่เขาถูกเรียกเขาด้วยชื่อโรมันว่า \"เปาโล\"\n* นอกจากนี้เปาโลยังได้เขียนจดหมายหลายฉบับเพื่อหนุนใจและสั่งสอนคริสเตียนในคริสตจักรต่างๆ จดหมายหลายฉบับเหล่านี้อยู่ในพันธสัญญาใหม่" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/peace.txt b/01/peace.txt new file mode 100644 index 00000000..19b15801 --- /dev/null +++ b/01/peace.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "สันติสุข, อย่างสันติ", + "body": "คำว่า \"สันติสุข\" อ้างถึงสถานะที่เป็นอยู่หรือความรู้สึกซึ่งปราศจากความขัดแย้ง ความวิตกกังวล หรือความกลัว บุคคลผู้ที่มี \"สันติสุข\" จะรู้สึกสงบและมั่นใจในความปลอดภัยและมั่นคง\n\n* คำว่า \"สันติภาพ\" ยังอ้างถึงช่วงเวลาที่กลุ่มชนชาติหรือประเทศต่างๆ ไม่อยู่ในภาวะสงครามต่อกัน คนเหล่านี้กล่าวได้ว่ามี \"มีความสัมพันธ์อย่างสันติ\" \n* ส่วนคำว่า \"สร้างสันติ\" กับบุคคลหรือกลุ่มคนหมายความว่ากระทำสิ่งที่จะทำให้การสู้รบได้ยุติ\n* \"ผู้สร้างสันติ\" หมายถึงบางคนผู้ซึ่งได้กล่าวสิ่งที่ประชาชนที่มีอิทธิพลให้ดำเนินชีวิตอย่างสงบด้วยกัน\n* มี \"สันติสุข\" กับคนอื่นหมายความว่าอยู่ในสถานะที่ไม่สู้รบกับคนเหล่านั้น\n* ความสัมพันธ์ที่ดีและถูกต้องระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์นั้นเกิดขึ้นเมื่อพระเจ้าทรงช่วยกู้มนุษย์จากความบาปของพวกเขา เรียกว่าการมี \"สันติสุขในพระเจ้า\"\n* คำกล่าวทักทายที่ว่า \"ขอพระคุณและสันติสุข\" ถูกใช้โดยบรรดาอัครสาวกในจดหมายของพวกเขาที่มีถึงบรรดาผู้เชื่อทั้งหลายเพื่อเป็นการอวยพร\n* คำว่า \"สันติสุข\" สามารถอ้างถึงการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่นหรือกับพระเจ้า" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/peaceoffering.txt b/01/peaceoffering.txt new file mode 100644 index 00000000..e5adf38d --- /dev/null +++ b/01/peaceoffering.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ถวายเครื่องศานติบูชา", + "body": "คำว่า \"ถวายเครื่องศานติบูชา\" คือหนึ่งในการถวายเครื่องบูชาซึ่งพระเจ้าทรงบัญชาให้ชาวอิสราเอลถวาย บางครั้งถูกเรียกว่า \"การถวายขอบพระคุณ\" หรือ \"สัมพันธภาพบูชา\"\n\n* การถวายเครื่องบูชานั้นมีการถวายบูชาสัตว์ซึ่งปราศจากตำหนิแด่พระเจ้า การประพรมเลือดที่แท่นบูชา และการเผาไขมันและส่วนอื่นๆโดยเผาแยกต่างหาก\n* นอกจากนี้ยังมีการถวายขนมปังไร้เชื้อและชนมปังมีเชื้อซึ่งจะเผาวางบนเครื่องเผาบูชา\n* ปุโรหิตและผู้ที่ถวายเครื่องบูชาได้รับอนุญาตให้รับประทานส่วนแบ่งอาหารที่เป็นเครื่องเผาบูชา\n* การถวายเครื่องบูชาเป็นสัญลักษณ์ถึงสามัคคีธรรมระหว่างพระเจ้าและประชากรของพระองค์" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/pentecost.txt b/01/pentecost.txt new file mode 100644 index 00000000..f000e97a --- /dev/null +++ b/01/pentecost.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เพนเตคอสต์, เทศกาลสัปดาห์", + "body": "\"เทศกาลสัปดาห์\" หมายถึงเทศกาลประจำชนชาติยิวซึ่งจะมีขึ้นเป็นระยะเวลาห้าสิบวัน จัดขึ้นหลังจากเทศกาลปัสกา ซึ่งต่อมาอ้างถึงว่า \"เพนเตคอสต์\"\n\n* เทศกาลสัปดาห์ คือระยะเวลาถึงเจ็ดสัปดาห์ (ห้าสิบวัน) หลังการเลี้ยงฉลองผลแรก ในพันธสัญญาใหม่ เทศกาลนี้เรียกว่า \"เพนเตคอสต์\" ซึ่งมี \"ห้าสิบ\" เป็นส่วนหนึ่งของความหมาย\n* เทศกาลสัปดาห์จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการเริ่มต้นการเก็บเกี่ยวข้าว นอกจากนี้ยังเป็นช่วงเวลาที่จะระลึกถึงครั้งแรกที่พระเจ้าประทานพระบัญญัติของพระองค์ให้กับอิสราเอลบนแผ่นศิลาซึ่งประทานให้แก่โมเสส\n* ในพันธสัญญาใหม่นั้น วันเพนเตคอสต์มีความสำคัญเป็นพิเศษ เพราะเป็นช่วงเวลาที่บรรดาผู้เชื่อในพระเยซูคริสต์ได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์ในวิธีใหม่" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/peoplegroup.txt b/01/peoplegroup.txt new file mode 100644 index 00000000..f3c3c52f --- /dev/null +++ b/01/peoplegroup.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "กลุ่มคน, หลายเชื้อชาติ, ประชาชน, คน ", + "body": "คำว่า \"กลุ่มประชาชน\" หรือ \"กลุ่มคน\" อ้างถึงกลุ่มคนซึ่งมีภาษาและวัฒนธรรมที่เหมือนกัน ส่วนวลีว่า \"ประชาชน\" อ้างถึงการรวมตัวกันของกลุ่มคนในสถานที่เฉพาะ หรือในเหตุการณ์เฉพาะ\n\n* การที่พระเจ้าทรงแยก \"ประชาชน\" สำหรับพระองค์เอง หมายถึงพระองค์ทรงเลือกปรชาชนโดยเฉพาะเพื่อเป็นของพระองค์และรับใช้พระองค์\n* ในสมัยพระคัมภีร์ สมาชิกที่อยู่ในกลุ่มหรือชนชาติเดียวกันมักจะมีบรรพบุรุษเดียวกันและอาศัยอยู่ด้วยกันเป็นกลุ่มในประเทศหรือดินแดนใดดินแดนหนึ่ง\n* ขึ้นอยู่กับบริบท วลีเช่น \"ประชาชนของท่าน\" สามารถแปลว่า \"กลุ่มคนของท่าน\" หรือ ครอบครัวของท่าน\" หรือ \"เครือญาติของท่าน\"\n* คำว่า \"หลายเชื้อชาติ\" บ่อยครั้งจะใช้เพื่ออ้างถึงกลุ่มชนชาติทุกชาติทั่วโลก บางครั้งจะอ้างถึงเฉพาะเจาะจงถึงประชาชนที่ไม่ใช่ชาวอิสราเอล หรือบรรดาคนที่ไม่ได้รับใช้พระยาห์เวห์ ในพระคัมภีร์ภาษาอังกฤษบางฉบับนั้นใช้คำว่า \"ชนชาติ\" ในความหมายนี้\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำว่า \"กลุ่มชน\" สามารถแปลโดยใช้อื่นซึ่งมีความหมายว่า \"กลุ่มเครือญาติขนาดใหญ่\" หรือ \"เผ่าพันธุ์ หรือ \"ชนกลุ่มน้อย\"\n* วลี \"ประชากรของเรา\" สามารถแปลอีกอย่างหนึ่งได้ว่า \"ญาติของเรา\" หรือ \"สหายชาวอิสราเอลของเรา\" หรือ \"ครอบครัวของเรา\" หรือ \"ชนชาติของเรา\" ขึ้นอยู่กับบริบท\n* คำกล่าวว่า \".กระทำให้ท่านทั้งหลายกระจัดกระจาย ไปอยู่ท่ามกลางชนชาติทั้งหลาย\" สามารถแปลได้อีกอย่างว่า \"ทำให้ท่านไปอาศัยอยู่กับกลุ่มชนต่างที่แตกต่างกัน\" หรือ \"ทำให้ท่านต้องแยกจากกันเพื่อไปอาศัยอยู่ที่ต่างกันทั่วโลก\" \n* คำว่า \"หลายเชื้อชาติ\" หรือ \"ประชาชน\" สามารถแปลอีกอย่างหนึ่งได้ว่า \"ประชากรในโลกนี้\" หรือ \"กลุ่มชนต่างๆ\" ขึ้นอยู่กับบริบท\n* วลีที่ว่า \"ประชาชนของ\" สามารถแปลอีกอย่างได้ว่า \"ประชาชนซึ่งอาศัยอยู่ใน\" หรือ \"ประชาชนซึ่งสืบเชื้อสายมาจาก\" หรือ \"ตระกูลของ\" ขึ้นอยู่กับว่าจะตามด้วยชื่อสถานที่หรือชื่อคน\n* \"บรรดาเผ่าพันธุ์ของโลก\" สามารถแปลอีกอย่างหนึ่งว่า \"ทุกคนที่มีชีวิตอยู่ในโลก\" หรือ \"ทุกบุคคลในโลก\" หรือ \"คนทั้งปวง\"\n* วลี \"คน\" สามารถแปลว่า \"กลุ่มประชาชน\" หรือ \"ประชาชนนั้น\" หรือ \"ชุมชนของประชาชน\" หรือ \"ตระกูลของประชาชน\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/peopleofgod.txt b/01/peopleofgod.txt new file mode 100644 index 00000000..1ad04681 --- /dev/null +++ b/01/peopleofgod.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ประชากรของพระเจ้า, ประชากรของเรา", + "body": "คำว่า \"ประชากรของพระเจ้า\" อ้างถึงประชาชนซึ่งพระเจ้าทรงเรียกออกมาจากโลกเพื่อให้มีความสัมพันธ์พิเศษกับพระองค์\n\n* เมื่อพระเจ้าตรัสว่า \"ประชากรของเรา\" นั้นพระองค์ทรงกำลังกล่าวถึงประชากรซึ่งพระองค์ทรงเลือกและผู้ที่มีความสัมพันธ์กับพระองค์\n* ประชากรของพระเจ้าได้รับการทรงเลือกโดยพระองค์เองและถูกแยกออกมาจากโลกเพื่อดำเนินชีวิตให้เป็นที่พอพระทัยของพระองค์ พระองค์ทรงเรียกพวกเขาว่าลูกหลานของพระองค์\n* ในพันธสัญญาเดิม คำว่า \"ประชากรของพระเจ้า\" อ้างถึงชนชาติอิสราเอลซึ่งได้รับการทรงเลือกจากพระเจ้าและถูกแยกออกมาจากชนชาติอื่นๆ ของโลกเพื่อรับใช้และเชื่อฟังพระองค์\n* ในพันธสัญญาใหม่ คำว่า \"ประชากรของพระเจ้า\" อ้างถึงเป็นพิเศษถึงคนทั้งหมดที่เชื่อในพระเยซูและถูกเรียกว่าคริสตจักร นี่รวมถึงชาวยิวและชาวต่างชาติ \n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำว่า \"ประชากรของพระเจ้า\" สามารถแปลอีกอย่างได้ว่า \"ประชากรของพระเจ้า\" หรือ \"ประชากรที่นมัสการพระเจ้า\" หรือ \"ประชากรผู้รับใช้พระเจ้า\" หรือ \"ประชากรซึ่งเป็นของพระเจ้า\"\n* วิธีอื่นที่แปล \"ประชากรของเรา\" เมื่อพระเจ้าทรงกล่าวนั้น สามารถรวม \"ประชากรที่เราได้เลือกสรร\" หรือ \"ประชากรซึ่งนมัสการเรา\" หรือ \"ประชากรซึ่งเป็นของเรา\"\n* ในทำนองคล้ายกัน คำว่า \"ประชากรของท่าน\" สามารถแปลอีกอย่างได้ว่า \"ประชากรซึ่งเป็นของท่าน\" หรือ \"ประชากรซึ่งท่านได้เลือกให้เป็นของท่าน\" \n* \"ประชากรของพระองค์เจ้า\" สามารถแปลอีกอย่างได้ว่า \"ประชากรซึ่งเป็นของพระองค์เจ้า\" หรือ \"ประชากรซึ่งพระเจ้าทรงเลือกให้เป็นของพระองค์\" " + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/peor.txt b/01/peor.txt new file mode 100644 index 00000000..3a397e19 --- /dev/null +++ b/01/peor.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เปโอร์, ภูเขาเปโอร์, พระบาอัลแห่งเปโอร์", + "body": "คำว่า \"เปโอร์\" หรือ \"ภูเขาเปโอร์\" อ้างถึงภูเขาซึ่งตั้งอยู่ทรงทิศตะวันออกเฉียงเหนือของทะเลเกลือ ในดินแดนโมอับ\n\n* \"เบธเปโอร์\" คือชื่อเมืองซึ่งเป็นไปได้ว่าตั้งอยู่บนภูเขาหรือใกล้บริเวณนั้น บริเวณนี้เองที่เป็นที่ซึ่งโมเสสเสียชีวิตลงหลังจากที่พระเจ้าทรงได้ชี้ให้เขาเห็นดินแดนพันธสัญญา\n* \"พระบาอัลแห่งเปโอร์\" เป็นพระเทียมเท็จของคนโมอับที่พวกเขานมัสการบนภูเขาเปโอร์ ชาวอิสราเอลเคยนมัสการรูปเคารพนี้และพระเจ้าทรงลงโทษพวกเขาเพราะการกระทำนั้น" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/perfect.txt b/01/perfect.txt new file mode 100644 index 00000000..03001343 --- /dev/null +++ b/01/perfect.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "สมบูรณ์", + "body": "ในพระคัมภีร์นั้น คำว่า \"สมบูรณ์\" หมายถึงการมีชีวิตคริสเตียนที่เติบโตเต็มที่ ส่วนการทำให้สิ่งใดสิ่งหนึ่งสมบูรณ์หมายถึงการทำจนกว่าสิ่งนั้นจะดีเยี่ยม ปราศจากข้อผิดพลาดใดๆ\n\n* การเป็นสิ่งสมบูรณ์และเติบโตเต็มที่นั้นหมายถึงคริสเตียนที่เชื่อฟังและปราศจากบาป\n* คำว่า \"สมบูรณ์\" มีความหมายเดียวกับ \"ครบถ้วน\" หรือ \"สิ่งสมบูรณ์\"\n* ในพันธสัญญาใหม่ พระธรรมยากอบได้กล่าวไว้ว่าการอดทนทำให้ผ่านพ้นการทดลองจะทำให้ผู้เชื่อนั้นเป็นคนที่สมบูรณ์และเติบโตเต็มที่ \n* เมื่อคริสเตียนศึกษาพระคัมภีร์และเชื่อฟัง พวกเขาจะมีความสมบูรณ์ด้านจิตวิญญาณและเติบโตเต็มที่ เพราะพวกเขาจะเป็นเหมือนพระเยซูมากขึ้น\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำนี้สามารถแปลอีกว่า \"ปราศจากตำหนิ\" หรือ \"ปราศจากข้อผิดพลาด\" หรือ \"ไม่มีข้อผิดพลาดเลย\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/perish.txt b/01/perish.txt new file mode 100644 index 00000000..9a120bbb --- /dev/null +++ b/01/perish.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "พินาศ, ตายอนาถ, ซึ่งย่อยยับได้", + "body": "คำว่า \"พินาศ\" หมายถึงตายหรือถูกทำลายซึ่งมักจะเป็นผลมมาจากความรุนแรงหรือภัยพิบัติ ในพระคัมภีร์นั้น คำนี้มีความหมายว่าถูกลงโทษในนรกชั่วนิจนิรันดร์\n\n* ผู้คนซึ่งกำลัง \"พินาศ\" หมายถึงผู้คนซึ่งปลายทางของเขานั้นคือนรกเพราะพวกเขาปฏิเสธที่จะเชื่อในพระเยซูสำหรับการช่วยให้รอดจากพระองค์\n* ในยอห์น 3:16 ได้สอนเราในเรื่องของความ \"พินาศ\" ว่าหมายถึงการไม่ได้อยู่ในสวรรค์นิรันดร์ \n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ขึ้นอยู่กับบริบทของเนื้อความ วิธีการแปลคำนี้สามารถรวม \"ตายนิรันดร์\" หรือ \"ถูกลงโทษในนรก\" หรือ \"ถูกทำลาย\"\n* ให้แน่ใจว่าเมื่อแปลคำว่า \"พินาศ\" สามารถมีความหมายว่าอยู่ในนรกชั่วนิรันดร์ ไม่ได้มีหมายความว่า \"หยุดที่จะมีชีวิตอยู่\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/perizzite.txt b/01/perizzite.txt new file mode 100644 index 00000000..38fde111 --- /dev/null +++ b/01/perizzite.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "คนเปริสซี", + "body": "คนเปริสซีคือหนึ่งในกลุ่มชนชาติที่อาศัยอยู่ในดินแดนคานาอัน มีข้อมูลเพียงน้อยนิดเกี่ยวกับชนกลุ่มนี้ว่าบรรพบุรุษของพวกเขาคือใครและพวกเขาอาศัยอยู่ส่วนใดของดินแดนคานาอัน\n\n* คนเปริสซีได้ถูกกล่าวถึงบ่อยในพันธสัญญาเดิมพระธรรมผู้วินิจฉัย ที่ได้บันทึกไว้ว่ามีการแต่งงานข้ามเผ่าพันธุ์ระหว่างคนเปริสซีและคนอิสราเอล ซึ่งภายหลังได้นำไปสู่การนมัสการพระเทียมเท็จทั้งหลาย\n* หมายเหตุ คนในเผ่าเปเรศจะเรียกว่า \"คนเปเรศซี\" ซึ่งแตกต่างจากคนเปริสซี ในการแปลนั้นควรใช้การสะกดชื่อแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเพื่อให้เห็นข้อแตกต่างที่ชัดเจน " + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/persecute.txt b/01/persecute.txt new file mode 100644 index 00000000..6c85e7ed --- /dev/null +++ b/01/persecute.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ข่มเหง, การข่มเหง", + "body": "คำว่า \"ข่มเหง\" หรือ \"การข่มเหง\" อ้างถึงการปฏิบัติต่อบุคคลหรือคนกลุ่มหนึ่งด้วยวิธีการที่โหดร้ายจนก่อให้เกิดอันตรายแก่พวกเขา\n\n* การข่มเหงสามารถเกิดขึ้นกับบุคคลหรือหลายคนก็ได้ มักจะมีความเกี่ยวโยงกับการซ้ำและต่อเนื่อง\n* ชาวอิสราเอลถูกข่มเหงโดยชนหลายกลุ่ม ผู้ซึ่งได้โจมตีพวกเขา จับเอาไปเป็นเชลย และขโมยทรัพย์สินจากพวกเขา\n* ผู้คนมักจะข่มเหงผู้อื่นที่มีความเชื่อทางศาสนาที่ต่างไปจากตนหรือข่มเหงผู้ที่อ่อนแอกว่าตน\n* ผู้นำทางศาสนาชาวยิวทั้งหลายข่มเหงพระเยซูเพราะพวกเขาไม่ชอบในสิ่งที่พระเยซูสั่งสอน\n* หลังจากที่พระเยซูเสด็จสู่สวรรค์ ผู้นำศาสนาชาวยิวและข้าราชการชาวโรมันได้ทำการข่มเหงบรรดาผู้ที่ติดตามพระองค์\n* คำว่า \"ข่มเหง\" สามารถแปลอีกอย่างได้ว่า \"การถูกดขี่อยู่เรื่อยๆ\" หรือ \"กระทำอย่างร้ายกาจ\" หรือ \"ปฏิบัติ.ด้วยความโหดร้ายอย่างต่อเนื่อง\"\n* วิธีการแปลคำว่า \"การข่มเหง\" นั้น สามารถรวม \"การปฏิบัติด้วยความโหดร้าย\" หรือ \"การกดขี่\" หรือ \"การปฏิบัติที่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดอย่างต่อเนื่อง\" " + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/perseverance.txt b/01/perseverance.txt new file mode 100644 index 00000000..3a7059e4 --- /dev/null +++ b/01/perseverance.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "บากบั่น, ความบากบั่น", + "body": "คำว่า \"บากบั่น\" และ \"ความบากบั่น\" อ้างถึงการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างต่อเนื่องแม้ว่าสิ่งนั้นจะยากเย็นหรือใช้ระยะเวลายาวนานเท่าใดก็ตาม\n\n* คำว่า \"ความบากบั่น\" สามารถแปลได้อีกอย่างหนึ่ง ว่าพยายามกระทำด้วยวิธีการของพระคริสต์แม้ว่าจะเผชิญกับการทดลองหรือสถานการณ์ที่ยากลำบากก็ตาม\n* ถ้าบุคคลมี \"ความบากบั่น\" หมายความว่าเขายังคงสามารถทำในสิ่งที่เขาควรทำได้ ถึงแม้ว่าจะเจ็บปวดหรือยากเย็นเพียงใดก็ตาม\n* เชื่อในสิ่งที่พระเจ้าทรงสั่งสอนอย่างต่อเนื่องนั้นจำเป็นต้องใช้ความเพียรพยายามอย่างมาก เฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเผชิญหน้ากับคำสอนเทียมเท็จทั้งหลาย\n* ให้ระวัง ไม่ใช้คำว่า \"ดื้อดึง\" ซึ่งโดยปกติคำเหล่านี้มีความหมายในเชิงลบ" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/persia.txt b/01/persia.txt new file mode 100644 index 00000000..600df764 --- /dev/null +++ b/01/persia.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เปอร์เซีย, ชาวเปอร์เซีย", + "body": "เปอร์เซีย คือประเทศหนึ่งที่ได้กลายเป็นอาณาจักรที่เรืองอำนาจโดยการสถาปนาของไซรัสมหาราช ใน 550 ก่อนคริสตกาล ประเทศเปอร์เซียตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของบาบิโลนและอัสซีเรียในแถบที่ปัจจุบันนี่คือประเทศอิหร่าน\n\n* คนของประเทศเปอร์เซีบเรียกว่า \"คนเปอร์เซีย\"\n* ภายใต้คำประกาศของกษัตริย์ไซรัส ชาวยิวได้รับอิสระจากการเป็นเชลยในบาบิโลน และได้รับอนุญาตให้กลับไปยังบ้าน และได้มีการสร้างพระวิหารในกรุงเยรูซาเล็มขึ้นใหม่ด้วยเงินทุนจากอาณาจักรเปอร์เซีย\n* กษัตริย์อารทาเซอร์ซีส คือผู้ครองอาณาจักรเปอร์เซียเมื่อผู้เผยพระวจนะเอสราและเนหะมีย์ได้กลับไปยังกรุงเยรูซาเล็มเพื่อสร้างกำแพงเมืองเยรูซาเล็มขึ้นใหม่\n* เอสเธอร์ได้กลายเป็นพระราชินีแห่งอาณาจักรเปอร์เซียเมื่อพระนางได้อภิเสกสมรสกับกษัตริย์อารทาเซอร์ซีส" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/perverse.txt b/01/perverse.txt new file mode 100644 index 00000000..1f548a64 --- /dev/null +++ b/01/perverse.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "วิปลาส อย่างผิดธรรมดา, นำไปในทางที่ผิด", + "body": "คำว่า \"วิปลาส\" ใช้เพื่ออธิบายบุคคลหรือการกระทำที่บิดเบี้ยวทางศีลธรรมไป คำว่า \"อย่างผิดธรรมดา\" หมายถึง \"ลักษณะการกระทำที่ผิดจากธรรมดา\" \"นำไปในทางที่ผิด\" หมายถึงการบิดหรือการทำให้ผิดไปจากสิ่งที่ดีหรือถูกต้อง\n\n* บางคนหรือบางสิ่งที่วิปลาสไปคือการเบี่ยงเบนออกไปจากทางที่ดีหรือถูกต้อง\n* ในพระคัมภีร์นั้น ชาวอิสราเอลได้กระทำอย่างผิดธรรมดาเมื่อพวกเขาไม่เชื่อฟังพระเจ้า พวกเขามักจะไปนมัสการพระเทียมเท็จบ่อยครั้ง\n* การกระทำอะไรที่ขัดต่อตามมาตรฐานของพระเจ้าหรือพฤติกรรม เรียกได้ว่าการกระทำนั้นเป็นการกระทำที่วิปลาส\n* การแปลคำว่า \"วิปลาส\" สามารถรวม \"มีศีลธรรมที่บิดเบี้ยวไป\" หรือ \"ผิดศีลธรรม\" หรือ \"ออกห่างจากทางที่เที่ยงตรงของพระเจ้า\" ขึ้นอยู่กับบริบท\n* \"คำพูดวิปลาส\" สามารถแปลได้อีกอย่างว่า \"พูดในทางชั่วร้าย\" หรือ \"การพูดหลอกลวง\" หรือ \"การพูดที่ผิดศีลธรรม\"\n* \"คนวิปลาส\" สามารถอธิบายว่า \"คนที่ไม่มีศีลธรรม\" หรือ \"คนที่มีศีลธรรมที่บิดเบี้ยวไป\" หรือ \"คนที่ไม่เชื่อฟังพระเจ้าอย่างต่อเนื่อง\"\n* วลีที่ว่า \"กระทำอย่างวิปลาส\" สามารถแปลได้อีกอย่างหนึ่งว่า \"พฤติตัวในทางชั่วร้าย\" หรือ \"กระทำสิ่งซึ่งขัดต่อพระบัญชาของพระเจ้า\" หรือ \"ดำเนินชีวิตที่ปฏิเสธคำสอนของพระเจ้า\"\n* คำว่า \"วิปลาส\" สามารถแปลได้อีกอย่างหนึ่งว่า \"เป็นเหตุให้เกิดความเสื่อมทราม\" หรือ \"กลายเป็นบางสิ่งที่ชั่วร้าย\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/peter.txt b/01/peter.txt new file mode 100644 index 00000000..c6654344 --- /dev/null +++ b/01/peter.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เปโตร, ซีโมนเปโตร, เคฟาส", + "body": "เปโตรคือหนึ่งในสาวกสิบสองคนของพระเยซู เขาคือผู้นำคนสำคัญของคริสตจักรในยุคเริ่มแรก\n\n* ก่อนที่พระเยซูจะเรียกให้เปโตรเป็นสาวกนั้น เปโตรมีชื่อว่าซีโมน\n* ภายหลังพระเยซูจึงตั้งชื่อเปโตรว่า \"เคฟาส\" ซึ่งมีความหมายว่า \"ศิลา\" หรือ \"ก้อนหิน\" ในภาษาอาราเมค ชื่อเปโตรนั้นก็มีความหมายว่า \"ศิลา\" หรือ \"ก้อนหิน\" ในภาษากรีกด้วย\n* พระเจ้าได้ทรงทำงานผ่านเปโตรในการรักษาโรคและการประกาศข่าวประเสริฐเกี่ยวกับพระเยซู\n* พระธรรมสองเล่มในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่คือจดหมายที่เปโตรได้เขียนเพื่อหนุนใจและสั่งสอนบรรดาผู้เชื่อทั้งหลาย" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/pharaoh.txt b/01/pharaoh.txt new file mode 100644 index 00000000..16a7ca57 --- /dev/null +++ b/01/pharaoh.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ฟาโรห์, กษัตริย์ฟาโรห์", + "body": "ในสมัยโบราณ กษัตริย์ซึ่งปกครองประเทศอียิปต์นั้นเรียกว่าฟาโรห์\n\n* รวมทั้งสิ้น มีฟาโรห์มากกว่า 300 องค์ที่เคยปกครองอียิปต์ในเวลานานกว่า 2,000 ปี\n* กษัตริย์ชาวอียิปต์ทุกพระองค์ล้วนมีอำนาจและมั่งคั่งอย่างยิ่ง\n* มีการกล่าวถึงกษัตริย์ของอียิปต์หลายพระองค์ในพระคัมภีร์\n* บ่อยครั้งตำแหน่งนี่ใช้แทนพระนามมากกว่าตำแหน่ง ในหลายกรณีนั้นคำว่า ฟาโรห์ ในภาษาอังกฤษจะขึ้นต้นด้วยอักษรตัวใหญ่" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/pharisee.txt b/01/pharisee.txt new file mode 100644 index 00000000..0c92f2db --- /dev/null +++ b/01/pharisee.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ฟาริสี", + "body": "ฟาริสีคือกลุ่มผู้นำศาสนาชาวยิวซึ่งมีความสำคัญและมีอำนาจมากในสมัยของพระเยซู\n\n* ฟาริสีหลายคนเป็นนักธุรกิจจากชนชั้นกลางและบางคนเป็นปุโรหิตด้วย\n* ในบรรดาผู้นำศาสนาชาวยิวทั้งหมด ฟาริสีเป็นกลุ่มที่เข้มงวดมากที่สุดในการทำตามบทบัญญัติของโมเสสรวมไปถึงธรรมเนียมปฏิบัติและบทบัญญัติอื่นๆ ของชาวยิว\n* พวกเขาวิตกเกี่ยวกับการรักษาให้ชาวยิวแยกออกมาจากอิทธิพลของชาวต่างชาติรอบตัวพวกเขา คำว่า \"ฟาริสี\" มาจากคำว่า \"แยกออกมา\" \n* พวกฟาริสีเชื่อในชีวิตหลังความตาย พวกเขายังเชื่อในบรรดาทูตสวรรค์และวิญญาณต่างๆ ว่ามีอยู่จริงอีกด้วย\n* ฟาริสีและสะดูสีต่างก็ต่อต้านพระเยซูและคริสเตียนในสมัยเริ่มแรกอย่างแข็งขัน" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/philip.txt b/01/philip.txt new file mode 100644 index 00000000..ed7aec39 --- /dev/null +++ b/01/philip.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ฟิลิป, ฟิลิปผู้ประกาศ", + "body": "คริสตจักรในสมัยเริ่มแรกซึ่งก่อตั้งในกรุงเยรูซาเล็ม ฟิลิปคือหนึ่งในผู้นำทั้งเจ็ดคนที่ได้รับการทรงเลือกให้ดูแลคนยากจนและคริสเตียนที่ขาดแคลน เฉพาะอย่างยิ่งบรรดาแม่หม้าย\n\n* พระเจ้าทรงใช้ฟิลิปในการแบ่งปันข่าวประเสริฐให้กับผู้คนซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองต่างๆ หลายเมืองในแคว้นยูดาและกาลิลี รวมไปถึงผู้ชายชาวเอธิโอเปียซึ่งฟิลิปได้พบบนถนนทะเลทรายระหว่างทางจากกรุงเยรูซาเล็มถึงเมืองกาซา\n* หลายปีต่อมา ฟิลิปได้ไปอยู่ในเมืองซีซารียาเมื่อเปาโลและสหายของเขาได้เข้าไปพักอยู่ที่บ้านของเขาระหว่างเดินทางของพวกเขากลับไปยังกรุงเยรูซาเล็ม\n* ผู้เชี่ยวชาญทางด้านพระคัมภีร์ส่วนใหญ่คิดว่าผู้ประกาศฟิลิปไม่ใช่ผู้ชายคนเดียวกับสาวกของพระเยซูที่ชื่อฟิลิป บางภาษาอาจชอบที่จะสะกดชื่อของชายทั้งสองคนนี้ต่างกันเล็กน้อยเพื่อชี้ให้เห็นชัดเจนว่าเป็นคนละคนกัน" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/philippi.txt b/01/philippi.txt new file mode 100644 index 00000000..0ca8c0d5 --- /dev/null +++ b/01/philippi.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ฟิลิปปี,", + "body": "ฟิลิปปีเป็นเมืองใหญ่และเป็นอาณิคมของอาณาจักรโรมันซึ่งตั้งอยู่ในแคว้นมาซิโดเนียบริเวณทางตอนเหนือของกรีซโบราณ\n\n* เปาโลและสิลาสได้เดินทางไปยังเมืองฟิลิปปีเพื่อเทศนาเกี่ยวกับพระเยซูให้คนที่นั่นฟัง\n* ขณะที่เปาโลและสิลาสอยู่ในเมืองฟิลิปปีนั้น พวกเขาถูกจับกุม แต่พระเจ้าได้ปลดปล่อยพวกเขาให้เป็นอิสระอย่างน่าอัศจรรย์\n* ในพันธสัญญาใหม่พระธรรมฟิลิปปีเป็นจดหมายที่อัครสาวกเปาโลได้เขียนถึงบรรดาคริสเตียนที่คริสตจักรในเมืองฟิลิปปี\n* หมายเหตุ นี่เป็นคนละเมืองกับเมืองฟิลิปปีในแคว้นซีซารียา ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของอิสราเอลใกล้ภูเขาเฮอร์โมน" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/philiptheapostle.txt b/01/philiptheapostle.txt new file mode 100644 index 00000000..b34ac0cf --- /dev/null +++ b/01/philiptheapostle.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ฟิลิป, อัครสาวก", + "body": "ฟิลิปคือหนึ่งในสาวกรุ่นแรกสิบสองคนของพระเยซู เขามาจากเมืองเบธไซดา\n\n* ฟิลิปได้นำนาธานาเอลมาพบกับพระเยซู\n* พระเยซูได้ถามฟิลิปเกี่ยวกับการจัดหาอาหารมาเลี้ยงคนห้าพันคนได้อย่างไร\n* ในอาหารมื้อสุดท้ายซึ่งพระเยซูได้รับประทานอาหารกับบรรดาสาวกของพระองค์ พระองค์ได้ทรงกล่าวกับพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องพระเจ้า พระบิดาของพระองค์ ฟิลิปได้ขอให้พระเยซูสำแดงให้พวกเขาเห็นพระบิดา\n* บางภาษาอาจชอบการสะกดชื่อฟิลิบคนนี้แตกต่างจากฟิลิป (ผู้ประกาศ) เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้สับสน" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/philistia.txt b/01/philistia.txt new file mode 100644 index 00000000..4793acb7 --- /dev/null +++ b/01/philistia.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ฟิลิสเตีย", + "body": "ฟิลิสเตียคือชื่อของแคว้นใหญ่ในแผ่นดินคานาอัน ซึ่งตั้งอยู่ติดกับชายฝั่งของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน\n\n* แคว้นฟิลิสเตียตั้งอยู่บนที่ราบอันสมบูรณ์ทางชายฝั่งจากเมืองยัฟฟาในทิศเหนือไปจนกระทั่งถึงเมืองกาซาทางตอนใต้ ระยะทางประมาณ 64 กิโลเมตรและความกว้างประมาณ 16 กิโลเมตร\n* ฟิลิสเตียถูกครอบครองโดย \"ชาวฟีลิสเตีย\" ซึ่งเป็นกลุ่มชนชาติที่มีอำนาจและเป็นศัตรูซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับชาวอิสราเอล" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/philistines.txt b/01/philistines.txt new file mode 100644 index 00000000..c036cdd6 --- /dev/null +++ b/01/philistines.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ชาวฟิลิสเตีย", + "body": "ชาวฟิลิสเตียคือกลุ่มชนชาติซึ่งได้ครอบครองแคว้นซึ่งมีชื่อว่าฟิลิสเตียซึ่งตั้งอยู่ติดกับชายฝั่งของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน คำว่าฟิลิสเตียนั้นมีหมายความมว่า \"ประชาชนแห่งทะเล\" \n\n* เมืองใหญ่ฟิลิสเตีย ได้แก่ เมืองอัชโดด เมืองอัชเคโลน เมืองเอโครน เมืองกัท และเมืองกาซา\n* เมืองอัชโดดอยู่ทางตอนเหนือของฟิลิสเตีย ส่วนเมืองกาซานั้นอยู่ทางตอนใต้\n* ชาวฟิลิสเตียบางทีรู้จักกันดีในเรื่องของการสู้รบกับชาวอิสราเอลเป็นเวลาหลายปี\n* ผู้วินิจฉัยแซมสันเป็นนักรบที่มีชื่อเสียงซึ่งได้ทำการต่อสู้กับชาวฟิลิสเตียโดยใช้พลังเหนือธรรมชาติที่พระเจ้าประทานให้\n* กษัตริย์ดาวิดบ่อยครั้งได้นำกองทัพในการสู้รบกับชาวฟิลิสเตีย รวมไปถึงครั้นเมื่อพระองค์ยังทรงพระเยาว์เมื่อพระองค์ปราบนักรบชาวฟิลิสเตียนามว่าโกลิอัทได้" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/phinehas.txt b/01/phinehas.txt new file mode 100644 index 00000000..97dca3d2 --- /dev/null +++ b/01/phinehas.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ฟีเนหัส", + "body": "ฟีเนหัสเป็นชื่อของผู้ชายสองคนในพันธสัญญาเดิม\n\n* หนึ่งในหลานชายของอาโรนคือปุโรหิตที่มีชื่อว่าฟีเนหัส ซึ่งได้ต่อต้านการนมัสการพระเทียมเท็จในอิสราเอลอย่างมาก\n* ฟีเนหัสได้ช่วยให้ชาวอิสราเอลพ้นจากโรคระบาดซึ่งพระยาห์เวห์ได้ส่งมาเพื่อลงโทษชาวอิสราเอลที่ได้แต่งงานกับผู้หญิงชาวมีเดียนและการนมัสการพระเทียมเท็จ\n* หลายโอกาสที่ฟีเนหัสได้เดินทางร่วมกับกองทัพอิสราเอลเพื่อทำลายคนมีเดียน\n* ในพันธสัญญาเดิมได้กล่าวถึงผู้ชายที่ชื่อว่าฟีเนหัสอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นหนึ่งในบุตรชายที่ชั่วร้ายของปุโรหิตที่มีชื่อว่าเอลีในสมัยของผู้เผยพระวจนะซามูเอล\n* ฟีเนหัสและพี่น้องชายของเขาที่ชื่อว่าโฮฟนีถูกฆ่าตายเมื่อชาวฟิลิสเตียเข้าจู่โจมตีอิสราเอลและได้ขโมยหีบพันธสัญญาไป" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/phonecia.txt b/01/phonecia.txt new file mode 100644 index 00000000..8f68e5fc --- /dev/null +++ b/01/phonecia.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ฟีนีเซีย", + "body": "ในสมัยโบราณ ฟีนีเซียเป็นชาติที่มีความมั่งคั่งในคานาอันติดกับชายฝั่งของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทางตอนเหนือของอิสราเอล\n\n* ฟีนีเซียได้ครอบตรองดินแดนบริเวณทางทิศตะวันตกซึ่งเป็นประเทศเลบานอนในปัจจุบัน\n* ในสมัยของพันธสัญญาใหม่ เมืองหลวงของประเทศฟินีเซียมีชื่อว่าเมืองไทระ และเมืองที่มีความสำคัญอีกเมืองหนึ่งของฟีนีเซียคือเมืองไซดอน\n* ชาวฟินีเซียมีชื่อเสียงในเรื่องของทักษะงานไม้ พวกเขาใช้วัตถุดิบคือไม้สนซีดาร์ที่เติบโตอย่างอุดมสมบูรณ์ในประเทศนำมาใช้เป็นสีย้อมสีม่วงซึ่งมีราคาแพง นอกจากนี้พวกเขายังมีความสามารถในเรื่องของการค้าขายทางทะเลและมีทักษะอย่างมากในการต่อเรืออีกด้วย\n* หนึ่งในตัวอักษรยุคเริ่มแรกนั้นถูกคิดค้นขึ้นโดยชาวฟินีเซีย ตัวอักษรของชาวฟินีเซียถูกใช้ไปอย่างแพร่หลายเพราะพวกเขาติดต่อสื่อสารกับชนหลายกลุ่มผ่านการค้าขาย" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/pierce.txt b/01/pierce.txt new file mode 100644 index 00000000..1f5e6450 --- /dev/null +++ b/01/pierce.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "แทง", + "body": "คำว่า \"แทง\" นั้นหมายถึงการแทงบางสิ่งด้วยวัตถูที่มีความคมและปลายแหลม นอกจากนี้ยังใช้ในเชิงอุปมาอุปมัยอ้างถึงการก่อให้เกิดความเจ็บปวดทางอารมณ์แก่บางคน\n\n* ทหารได้ใช้หอกแทงที่สีข้างของพระเยซูเมื่อพระองค์ทรงถูกตรึงที่ไม้กางเขนนั้น \n* ในสมัยของพระคัมภีร์ ทาสที่ได้รับการปลดปล่อยให้เป็นอิสระแต่เลือกที่จะรับใช้เจ้านายของตนต่อไปจะถูกเจาะหูเป็นสัญญลักษณ์\n* สิเมโอนได้กล่าวในเชิงอุปมาอุปไมยกับมารีย์ว่า หัวใจของเธอจะถูกดาบแทงทะลุซึ่งหมายความว่าเธอจะประสบกับความโศกเศร้าอย่างมากเนื่องด้วยเหตุที่จะเกิดขึ้นกับพระเยซูบุตรชายของเธอ" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/pig.txt b/01/pig.txt new file mode 100644 index 00000000..6616bb32 --- /dev/null +++ b/01/pig.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "หมู, สุกร, เนื้อหมู", + "body": "หมูเป็นสัตว์สี่ขา มีกีบ เลี้ยงไว้เพื่อใช้เนื้อเป็นอาหาร ส่วนเนื้อที่ได้จากสุกรหรือหมูนั้นเรียกว่า \"เนื้อหมู\" คำทั่วไปที่ใช้เรียกสัตว์ชนิดนี้คือ \"หมู\"\n\n* พระเจ้าได้ทรงบอกชาวอิสราเอลไม่ให้รับประทานเนื้อหมูและมองหมูว่าไม่สะอาด ปัจจุบันชาวยิวยังคงเห็นว่าหมูนั้นเป็นสัตว์ที่สกปรกและยังคงไม่รับประทานเนื้อหมู\n* หมูถูกเลี้ยงชึ้นในฟาร์มเพื่อขายให้ประชาชนคนอื่นสำหรับเนื้อของมัน\n* มีหมูอีกประเภทหนึ่งซึ่งไม่ได้ถูกเลี้ยงในฟาร์มแต่มีชีวิตในป่า สัตว์ชนิดนี้เรียกว่า \"หมูป่า\" หมูป่ามีเขี้ยวและถูกพิจารณาว่าเป็นสัตว์ที่อันตราย\n* บางครั้งหมูที่มีตัวใหญ่จะอ้างอิงว่า \"หมูตอน\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/pilate.txt b/01/pilate.txt new file mode 100644 index 00000000..4163f7d0 --- /dev/null +++ b/01/pilate.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ปีลาต", + "body": "ปีลาตคือข้าหลวงของโรมันในมณฑลยูเดียซึ่งเป็นผู้ตัดสินประหารพระเยซู\n\n* เนื่องจากปีลาตเป็นข้าหลวง เขาจึงมีอำนาจในการสั่งตัดสินประหารบรรดาอาชญากร\n* ผู้นำทางศาสนาชาวยิวต้องการให้ปีลาตตรึงพระเยซูบนกางเขน ดังนั้นพวกเขาจึงได้โกหกว่าพระเยซูเป็นอาชญากร\n* ปีลาตได้ตระหนักว่าพระเยซูไม่ได้ทีความผิด แต่เขากลังฝูงชนและต้องการเอาใจฝูงชน ดังนั้นปีลาตจึงสั่งให้ทหารตรึงพระเยซูบนกางเขน" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/pillar.txt b/01/pillar.txt new file mode 100644 index 00000000..c6c55b4f --- /dev/null +++ b/01/pillar.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เสา", + "body": "คำว่า \"เสา\" โดยปกติอ้างถึงสิ่งก่อสร้างแนวตั้งขนาดใหญ่ที่ใช้เพื่อยกหลังคาหรืส่วนอื่นๆ ของตึก คำอีกคำหนึ่งสำหรับ \"เสา\" คือ \"เสาค้ำ\"\n\n* ในสมัยของพระคัมภีร์ เสาจะใช้ในการค้ำตึกโดยปกติแล้วจะแกะสลักมาจากหินก้อนเดียว\n* ตอนที่แซมซันในพันธสัญญาเดิมถูกชาวฟิลิเตียจับ เขาได้ทำลายวิหารของพวกนอกศาสนาโดยการผลักเสาหลักและทำให้วิหารพังทลาย\n* คำว่า \"เสา\" บางครั้งอ้างถึงก้อนหินขนาดใหญ่หรือก้อนหินกลมใหญ่ซึ่งตั้งขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์เพื่อเป็นเครื่องหมายหลุมฝังศพหรือเพื่อทำเครื่องหมายสถานที่ซึ่งมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น\n* นอกจากนี้ยังอ้างถึงรูปเคารพที่สร้างขึ้นมาเพื่อนมัสการพระเท็จ ซึ่งเรียกอีกชื่อว่า \"รูปแกะสลัก\" และสามารถแปลว่า \"รูปปั้น\" \n* คำว่า\"เสา\"ใช้เพื่ออ้างถึงบางสิ่งบางอย่างที่มีรูปร่างเหมือนเสา เช่น \"เสาไฟ\" ที่นำชาวอิสราเอลผ่านถิ่นทุรกันดารในเวลากลางคืนหรือ ภรรยาของโลทได้กลายเป็น \"เสาเกลือ\" หลังจากที่เธอมองกลับไปที่เมือง\n* ในฐานะที่เป็นสิ่งที่ค้ำตึก คำว่า\"เสา\" หรือ \"เสาค้ำ\" สามารถแปลได้ว่า \"หินที่ตั้งตรงที่ค้ำคานรับน้ำหนัก\" หรือ \"หินที่ค้ำสิ่งก่อสร้าง\"\n* การใช้คำว่า \"เสา\" สามารถแปลได้ว่า \"รูปปั้น\" หรือ \"เสาเข็ม\" หรือ \"กอง\" หรือ \"อนุสาวรีย์\" หรือ \"กองสูง\" ขึ้นอยู่กับบริบท" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/pit.txt b/01/pit.txt new file mode 100644 index 00000000..88d2b6a7 --- /dev/null +++ b/01/pit.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "หลุม, บ่อ", + "body": "หลุม,บ่อคือหลุมลึกที่ถูกขุดในดิน\n\n* คนขุดหลุมโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อดักสัตว์หรือหาน้ำ\n* หลุมยังสามารถใช้เป็นสถานชั่วคราวในการขังนักโทษได้\n* บางครั้งคำว่า \"หลุม\" อ้างถึงหลุดฝังศพหรือนรก บางครั้งอาจหมายถึง \"หุบเหวลึก\"\n* หลุมที่ลึกมากๆ ยังเรียกอีกว่าเป็น\"ที่เก็บน้ำขนาดใหญ่\"\n* คำว่า \"หลุม\" ยังใช้ในเชิงอุปมาอุปไมยในวลีเช่น \"หลุมแห่งการทำลาย\" ที่อธิบายถึงการถูกกับดักในสถานการณ์ที่ร้ายแรง หรือการเกี่ยวข้องกับความบาป การกระทำที่เป็นการทำลาย" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/plague.txt b/01/plague.txt new file mode 100644 index 00000000..96976ce2 --- /dev/null +++ b/01/plague.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ภัยพิบัติ", + "body": "ภัยพิบัติเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความทุกข์ทรมานหรือความตายแก่คนเป็นจำนวนมาก บ่อยครั้งภัยพิบัติเป็นโรคที่ระบาดอย่างรวดเร็วทำให้คนมากมายต้องตายก่อนที่จะสามารถหยุดยั้งนั้นได้\n\n* ภัยพิบัติหลายอย่างเกิดจากธรรมชาติแต่บางอย่างถูกส่งมาจากพระเจ้าเพื่อลงโทษคนเพราะความบาป\n* ในช่วงเวลาของโมเสส พระเจ้าได้ส่งภัยพิบัติสิบอย่างต่ออียิปต์เพื่อบังคับให้ฟาโรห์ปล่อยคนอิสราเอลไปจากอียิปต์ ภัยพิบัติพวกนี้รวมไปถึงการเปลี่ยนน้ำให้เป็นเลือด โรคระบาดทางร่างกาย การทำลายพืชผลโดยแมลงและลูกเห็บ สามวันแห่งความมืดสนิท และการตายของบุตรชายหัวปี\n* คำนี้ยังสามารถแปลได้ว่า \"การแพร่ความพินาศ\" หรือ \"การแพร่โรค\" ขึ้นอยู่กับบริบท" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/plead.txt b/01/plead.txt new file mode 100644 index 00000000..c2f07983 --- /dev/null +++ b/01/plead.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ขอร้อง, คำขอร้อง, วิงวอน", + "body": "คำว่า \"ขอร้อง\" และ\"คำขอร้อง\"หมายถึงการขอใครสักคนให้ทำบางสิ่งอย่างเร่งด่วน การ \"วิงวอน\" เป็นการขอเร่งด่วน\n\n* คำขอร้องบ่อยครั้งมักแสดงว่าบุคคลนั้นรู้สึกมีความจำเป็นมากหรือปรารถนาความช่วยเหลืออย่างมาก\n* คนสามารถขอร้องหรือวิงวอนเร่งด่วนต่อพระเจ้าเพื่อพระเมตตาหรือให้พระองค์ประทานบางอย่างให้แก่ตนเองหรือคนอื่น\n* วิธีอื่นในการแปลคำนี้อาจรวมถึงคำว่า \"ขอร้อง\" หรือ \"อ้อนวอน\"หรือ\"ขออย่างเร่งด่วน\"\n* คำว่า\"วิงวอน\"สามารถแปลได้อีกว่า\"คำขอเร่งด่วน\"หรือ\"การกระตุ้นอย่างแรง\"\n* ตรวจสอบให้ชัดเจนว่าในบริบทมีความชัดเจนว่าคำนี้ไม่ได้หมายถึงการขอเงิน" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/pledge.txt b/01/pledge.txt new file mode 100644 index 00000000..b6983c92 --- /dev/null +++ b/01/pledge.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "คำปฏิญาณ,มัดจำ", + "body": "คำว่า \"คำปฏิญาณ\" หมายถึงการให้คำสัญญาอย่างจริงจังอย่างเป็นทางการเพื่อทำบางอย่างหรือให้บางอย่าง\n\n* ในพันธสัญญาเดิมเจ้าหน้าที่ของอิสราเอลให้สัตย์ปฏิญาณว่าจะจงรักภักดีต่อกษัตริย์ดาวิด\n* สิ่งของที่ให้ไปเพื่อเป็นมัดจำจะกลับมายังเจ้าของเมื่อได้ทำตามสัญญาแล้ว\n* \"การปฏิญาณ\" สามารถแปลได้ว่า \"การให้คำมั่นสัญญาอย่างเป็นทางการ\" หรือ \"การสัญญาอย่างจริงจัง\"\n* คำว่า \"มัดจำ\" สามารถหมายถึงสิ่งของที่ให้ไปเพื่อหลักประกันหรือสัญญาว่าหนี้นั้นจะได้รับชำระ\n* วิธีแปลคำว่า \"การปฏิญาณ\" สามารถรวมถึง \"คำมั่นสัญญา\" หรือ \"พันธสัญญาทางการ\" หรือ\"หลักประกัน \"หรือ \"คำสัญญาทางการ\" ขึ้นอยู่กับบริบท" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/plow.txt b/01/plow.txt new file mode 100644 index 00000000..49038764 --- /dev/null +++ b/01/plow.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "คันไถ คราด", + "body": "\"คันไถ\"เป็นเครื่องมือการเกษตรที่ใช้เพื่อการขุดไถดินเพื่อเตรียมที่สำหรับการเพาะปลูก\n\n* คราดมีความคม ปลายแหลมคมนั้นใช้ขุดลงไปในดิน โดยทั่วไปจะมีด้ามจับที่ชาวนาใช้บังคับคราด\n* ในสมัยของพระคัมภีร์ คันไถนั้นมักจะใช้วัวตัวผู้หนึ่งคู่หรือสัตว์ทำงานอื่นดึงคันไถ\n* คราดส่วนใหญ่ทำมาจากเนื้อไม้แข็งนอกยกเว้นปลายที่คมที่ทำด้วยโลหะเช่นทองสัมฤทธิ์หรือเหล็ก" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/pomegranate.txt b/01/pomegranate.txt new file mode 100644 index 00000000..78aa2ba0 --- /dev/null +++ b/01/pomegranate.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ทับทิม", + "body": "ทับทิมเป็นผลไม้ชนิดหนึ่งที่มีเปลือกหนาและแข็งซึ่งเต็มไปด้วยเมล็ดจำนวนมากที่ถูกหุ้มด้วยเยื่อสีแดงที่รับประทานได้\n\n* เปลือกนอกมีสีแดงและเนื้อรอบเมล็ดที่เป็นประกายและสีแดง\n* ทับทิมมักเจริญเติบโตมากในประเทศที่มีอากาศร้อน อากาศแห้ง เช่นประเทศอียิปต์และอิสราเอล\n* พระยาห์เวห์ทรงสัญญากับชาวอิสราเอลว่าคานาอันเป็นแผ่นดินที่มีน้ำอุดมสมบูรณ์ และมีดินอุดมสมบูรณ์เพื่อจะให้มีอาหารมากมายรวมถึงผลทับทิม\n* การก่อสร้างวิหารของซาโลมอนรวมถึงเครื่องประดับทองสัมฤทธิ์ในรูปร่างของทับทิม" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/pontus.txt b/01/pontus.txt new file mode 100644 index 00000000..22fe0577 --- /dev/null +++ b/01/pontus.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ปอนทัส", + "body": "ปอนทัสเป็นจังหวัดหนึ่งของโรมันในช่วงสมัยของจักรวรรดิโรมันและคริสตจักรสมัยแรกเริ่ม ตั้งอยู่ตามแนวชายฝั่งทางใต้ของทะเลดำ ทางตอนเหนือที่ปัจจุบันเป็นประเทศตุรกี\n\n* ตามที่มีบันทึกไว้ในพระธรรมกิจการ คนจากจังหวัดปอนทัสได้อยู่ที่กรุงเยรูซาเล็มเมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์เสด็จลงมาคครั้งแรกเหนือเหล่าอัครสาวกในวันเพ็นเทคอสต์\n* ผู้เชื่อคนหนึ่งชื่อว่าอาควิลลาก็มาจากปอนทัส\n* เมื่อเปโตรได้กำลังเขียนถึงคริสเตียนที่กระจาดกระจายไปในแคว้นต่างๆ ปอนทัสก็อยู่ในหนึ่งในแคว้นที่ท่านได้กล่าวถึง" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/possess.txt b/01/possess.txt new file mode 100644 index 00000000..0529c7f1 --- /dev/null +++ b/01/possess.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ครอบครอง, ทรัพย์สินในครอบครอง", + "body": "คำว่า \"ครอบครอง\" และ \"ทรัพย์สินในครอบครอง\" ปกติอ้างถึงการเป็นเจ้าของบางสิ่งบางอย่าง และคำพวกนี้ยังหมายถึงการเพิ่มการปกครองเหนือบางสิ่งบางอย่างหรือยึดครองพื้นที่สักแห่งของแผ่นดิน\n\n* ในพันธสัญญาเดิม คำนี้มักใช้ในบริบทของ \"การครอบครอง\" หรือ \"การยึดทรัพย์สินในครอบครอง\" พื้นที่ของแผ่นดิน\n* เมื่อพระยาห์เวห์ได้ทรงบัญชาชาวอิสราเอลให้ \"ครอบครอง\" แผ่นดินคานาอัน นั่นหมายถึงพวกเขาต้องเข้าไปในแผ่นดินและอาศัยอยู่ที่นั่น นี่เกี่ยวข้องกับการชนะคนคานาอันครั้งแรกที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินนั้น\n* พระยาห์เวห์ได้ตรัสกับชาวอิสราเอลว่าพระองค์ได้ประทานแผ่นดินคานาอันให้เป็น \"ทรัพย์สินของพวกเขา\" นี่สามารถแปลได้ว่า \"เป็นสถานที่โดยชอบธรรมที่จะอาศัยอยู่\"\n* คนอิสราเอลยังเรียกว่า\"ทรัพย์สินในครอบครองพิเศษ\"ของพระยาเวห์ นี่หมายถึงพวกเขาเป็นของพระองค์ในฐานะประชากรของพระองค์ผู้ที่ถูกพระองค์เรียกมาเฉพาะเจาะจงเพื่อให้นมัสการและรับใช้พระองค์\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำว่า \"ครอบครอง\" สามารถแปลว่า \"เป็นเจ้าของ\" หรือ \"มี\" หรือ \"มีอำนาจเหนือ\"\n* วลี \"ยึดการครอบครอง\" สามารถแปลว่า \"ทำการควบคุม\" หรือ \"ครอบครอง\" หรือ \"อาศัยอยู่บน\" ขึ้นอยู่อกับบริบท\n* เมื่ออ้างถึงสิ่งที่คนเป็นเจ้าของ \"\"ทรัพย์สินในครอบครอง\" สามารถแปลว่า \"ทรัพย์สินที่เป็นของ\" หรือ \"ทรัพย์สิน\" หรือ \"สิ่งที่เป็นเจ้าของ\" หรือ \"สิ่งต่างๆ ที่พวกเขาเป็นเจ้าของ\"\n* เมื่อพระยาห์เวห์ทรงเรียกพวกอิสราเอล \"ทรัพย์สินพิเศษของเรา\" นี่สามารถแปลว่า \"ประชากรพิเศษของเรา\" หรือ \"ประชากรที่เป็นของเรา\" หรือ \"ประชากรของเราที่เรารักและปกครอง\"\n* ประโยค \"ของเหล่านั้นจะเป็นทรัพย์สินของพวกเขา\" เมื่ออ้างถึงแผ่นดิน หมายความว่า \"พวกเขาจะครอบครองแผ่นดิน\" หรือ \"แผ่นดินจะเป็นของพวกเขา\"\n* คำกล่าว \"พบในทรัพย์สินของเขา\" สามารถแปลว่า \"ที่เขากำลังถืออยู่\" หรือ \"ที่เขาได้มีกับเขา\"\n* วลี \"เช่นทรัพย์สินของท่าน\" สามารถแปลว่า \"เช่นบางสิ่งที่เป็นของท่าน\" หรือ \"เช่นสถานที่ที่ประชาชนของท่านจะอาศัยอยู่\"\n* วลี \"ในทรัพย์สินของเขา\" สามารถแปลได้ว่า \"ที่เขาเป็นเจ้าของ\" หรือ \"ซึ่งเป็นของเขา\"\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/potiphar.txt b/01/potiphar.txt new file mode 100644 index 00000000..8978c268 --- /dev/null +++ b/01/potiphar.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "โปทิฟาร์", + "body": "โปทิฟาร์เป็นเจ้าหน้าที่สำคัญคนหนึ่งของฟาโรห์แห่งอียิปต์ในช่วงเวลาที่โยเซฟถูกขายให้เป็นทาสของชาวอิชมาเอล\n\n* โปทิฟาร์ได้ซื้อโยเซฟจากชาวอิชมาเอลและได้แต่งตั้งเขาให้เป็นหัวหน้าในครัวเรือนของเขา\n* เมื่อโยเซฟถูกกล่าวหาอย่างไม่ถูกต้องว่าได้กระทำผิด โปทิฟาร์จึง ได้ขังโยเซฟไว้ในคุก" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/power.txt b/01/power.txt new file mode 100644 index 00000000..e24c400f --- /dev/null +++ b/01/power.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ฤทธิ์เดช", + "body": "คำว่า \"ฤทธิ์เดช\" อ้างถึงความสามารถในการทำสิ่งต่างๆ หรือทำให้สิ่งต่างๆ เกิดขึ้น บ่อยครั้งมักจะใช้กำลังมาก \"ฤทธิ์เดช\" อ้างถึงคนหรือวิญญาณที่มีความสามารถเศษยิ่งใหญ่ที่ทำให้สิ่งต่างๆเกิดขึ้นได้\n\n* \"ฤทธิ์เดชของพระเจ้า\" อ้างถึงความสามารถของพระเจ้าที่จะกระทำทุกสิ่งทุกอย่าง เฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่มนุษย์ไม่สามารถทำได้\n* พระเจ้าทรงมีฤทธิ์เดชเหนือทุกสิ่งที่พระองค์ได้ทรงสร้าง\n* พระเจ้าประทานฤทธิ์เดชให้แก่คนของพระองค์เพื่อทำในสิ่งที่พระองค์ประสงค์ เพื่อว่าเมื่อพวกเขารักษาคนหรือทำสิ่งอัศจรรย์ พวกเขาทำสิ่งเหล่านี้ด้วยฤทธิ์เดชของพระเจ้า\n* เพราะว่าพระเยซูและพระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นพระเจ้าด้วยเช่นกัน จึงมีฤทธิ์เดชนี้ด้วย\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า \"ฤทธิ์เดช\" สามารถแปลว่า \"ความสามารถ\" หรือ \"ความแข็งแรง\" หรือ \"พลังงาน\" หรือ \"ความสามารถที่จะทำการอัศจรรย์\" หรือ \"บังคับ\"\n* เป็นไปได้ที่จะแปลคำว่า \"ฤทธิ์เดช\" สามารถรวมเอา \"ชีวิตที่มีอำนาจ\" หรือ \"วิญญาณที่บังคับ\" หรือ \"คนเหล่านั้นที่ควบคุมคนอื่น\"\n* คำกล่าว เช่น \"ขอช่วยพวกเราจากอำนาจของเหล่าศัตรูของเรา\" สามารถแปลว่า \"ขอช่วยเราจะการกดขี่โดยศัตรูของพวกเรา\" หรือ \"ขอช่วยเราให้รอดพ้นจากการถูกควบคุมโดยศัตรูของพวกเรา\" ในกรณีนี้ \"ฤทธิ์เดช\" มีความหมายของการใช้กำลังของบางคนบควบคุมหรือกดขี่คนอื่น" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/praise.txt b/01/praise.txt new file mode 100644 index 00000000..01a307f4 --- /dev/null +++ b/01/praise.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "สรรเสริญ", + "body": "การสรรเสริญใครสักคนคือการแสดงความชื่นชมและการให้เกียรติแก่บุคคลนั้น\n\n* ผู้คนสรรเสริญพระเจ้าเพราะความยิ่งใหญ่ของพระองค์และเพราะสิ่งอัศจรรย์ทั้งหมดที่พระองค์ได้กระทำในฐานะพระผู้สร้างและพระผู้ช่วยให้รอดของโลกนี้\n* การสรรเสริญพระเจ้าบ่อยครั้งรวมถึงการขอบพระคุณในสิ่งที่พระองค์ได้ทรงกระทำ\n* ดนตรีและการร้องเพลงบ่อยครั้งถูกใช้ในการสรรเสริญพระเจ้า\n* การสรรเสริญพระเจ้าเป็นส่วนหนึ่งที่หมายถึงการนมัสการพระองค์\n* คำว่า \"การสรรเสริญ\" สามารถแปลได้อีกว่า\"การพูดดีของ\" หรือ \"การให้เกียรติอย่างสูงด้วยคำพูด\" หรือ \"การพูดถึงสิ่งที่ดีเกี่ยวกับ\"\n* คำนามว่า\"คำสรรเสริญ\" สามารถแปลได้ว่า \"พูดถึงเกียรติ\" หรือ \"คำพูดที่ให้เกียรติ\" หรือ \"พูดถึงสิ่งที่ดีเกี่ยวกับ\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/pray.txt b/01/pray.txt new file mode 100644 index 00000000..8ca9e246 --- /dev/null +++ b/01/pray.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "อธิษฐาน, คำอธิษฐาน", + "body": "คำว่า \"อธิษฐาน\" และ\"คำอธิษฐาน\" หมายถึงการสนทนากับพระเจ้า คำนี้ยังหมายถึงคนที่พยายามคุยกับพระเทียมเท็จด้วย\n\n* คนสามารถอธิษฐานอย่างเงียบๆ สนทนากับพระเจ้าด้วยความคิดของพวกเขาหรือพวกเขาสามารถอธิษฐานออกเสียง สนทนากับพระเจ้าด้วยเสียงของเขา บางครั้งคำอธิษฐานก็ถูกเขียนลงไว้เช่นเดียวกับดาวิดที่ได้เขียนคำอธิษฐานของเขาไว้ในพระธรรมสดุดี\n* คำอธิษฐานสามารถรวมไปถึงการขอพระเมตตาพระเจ้า ขอการช่วยเหลือแก้ปัญหา ขอสติปัญญาในการตัดสินใจ\n* บ่อยครั้งคนมักขอพระเจ้าให้รักษาคนที่ป่วยหรือคนที่ต้องการความช่วยเหลือในเรื่องอื่นๆ\n* ผู้คนยังขอบคุณพระเจ้าและสรรเสริญพระเจ้าเมื่อขณะพวกเขากำลังอธิษฐานทูลต่อพระองค์\n* การอธิษฐานรวมถึงการสารภาพบาปของเราต่อพระเจ้าและขอพระองค์อภัยบาปให้เรา\n* การสนทนากับพระเจ้าบางครั้งเรียกว่า\"ไตร่ตรอง\"กับพระองค์เหมือนที่จิตวิญญาณของเราติดต่อสื่อสารกับวิญญาณของพระองค์ แบ่งปันความรู้สึกของเราและชื่นชมยินดีต่อพระพักตร์พระองค์\n* คำนี้สามารถแปลได้ว่า\"สนทนากับพระเจ้า\" หรือ \"ติดต่อสื่อสารกับพระเจ้า\" คำแปลของคำนี้ควรรวมไปถึงการอธิษฐานที่เงียบ" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/preach.txt b/01/preach.txt new file mode 100644 index 00000000..312d7641 --- /dev/null +++ b/01/preach.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เทศนา", + "body": "คือการพูดกับกลุ่มคน สอนเรื่องพระเจ้าให้พวกเขาและชักชวนให้พวกเขาเชื่อฟังพระองค์\n\n* บ่อยครั้งการเทศนาทำโดยบุคคลคนเดียวให้แก่คนกลุ่มใหญ่ โดยปกติเป็นการพูด ไม่ใช่การเขียน\n* \"การเทศนา\" และ \"การสอน\" นั้นคล้ายกันแต่ไม่ได้เหมือนกันทีเดียว\n* \"การเทศนา\" อ้างถึงการประกาศทางฝ่ายวิญญาณหรือคำสอนแห่งความจริงต่อสาธารณะชนและชักชวนให้ผู้ฟังตอบสนอง \"การสอน\" เป็นคำที่เน้นการสอน ที่ให้ข้อมูลแก่ประชาชนหรือสอนพวกเขาถึงวิธีการทำบางสิ่งบางอย่าง\n* คำว่า \"เทศนา\" มักจะใช้กับคำว่า\"พระกิตติคุณ\"\n* สิ่งที่บุคคลหนึ่งได้เทศนาให้กับคนอื่นก็สามารถอ้างถึงโดยทั่วไปได้ว่าเป็น \"คำสอน\" ของเขา\n\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/precious.txt b/01/precious.txt new file mode 100644 index 00000000..a469e429 --- /dev/null +++ b/01/precious.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ล้ำค่า", + "body": "คำว่า \"ล้ำค่า\"อธิบายถึงคนหรือสิ่งของที่ได้รับการพิจารณาว่ามีค่ามาก\n\n* คำว่า\"หินล้ำค่า\" หรือ\"อัญมาณีล้ำค่า\" อ้างถึงก้อนหินและแร่ธาติที่มีสีสันหรือมีคุณภาพที่ต่างออกไปที่ทำให้พวกมันดูสวยงามหรือมีประโยชน์\n* ตัวอย่างของหินล้ำค่ารวมไปถึงเพชร ทับทิมและมรกต\n* ทองและเงินเรียกว่า\"โลหะล้ำค่า\"\n* พระยาห์เวห์ตรัสว่าประชากรของพระองค์นั้น \"ล้ำค่า\" ในสายพระเนตรของพระองค์ (อิสยาห์ 43:4)\n* เปโตรได้เขียนไว้ว่าคนสุภาพอ่อนน้อมและจิตวิญญาณที่เงียบสงบมีค่าในสายพระเนตรของพระเจ้า(1เปโตร 3:4) ด้วย\n* คำนี้สามารถแปลได้อีกว่า \"มีค่า\" หรือ \"เป็นที่รักมาก\" หรือ \"รักและใส่ใจ\" หรือ \"มีมูลค่าสูง\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/predestine.txt b/01/predestine.txt new file mode 100644 index 00000000..d3c6c852 --- /dev/null +++ b/01/predestine.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "กำหนดไว้ล่วงหน้า, ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้า", + "body": "คำว่า \"กำหนดไว้ล่วงหน้า\" และ \"ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว\" อ้างถึงการตัดสินใจหรือการวางแผนล่วงหน้าว่าบางสิ่งจะเกิดขึ้น\n\n* คำนี้จะอ้างเป็นพิเศษถึงการกำหนดไว้ล่วงหน้าของพระเจ้าให้สำหรับคนที่จะได้รับชีวิตนิรันดร์\n* บางครั้งก็ใช้คำว่า \"กำหนดล่วงหน้า\" ซึ่งหมายถึงการตัดสินใจไว้ล่วงหน้าเช่นกัน\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำว่า \"กำหนดไว้ล่วงหน้า\" สามารถแปลว่า \"ตัดสินใจก่อน\" หรือ \"ตัดสินใจก่อนเวลา\"\n* คำว่า \"กำหนดไว้ล่วหน้า\" สามารถแปลว่า \"ได้ตัดสินใจนานมาแล้ว\" หรือ \"ได้วางแผนก่อนเวลา\" หรือ \"ได้ตัดสินใจก่อนเวลาแล้ว\"\n* วลี อย่างเช่น \"กำหนดล่วงหน้าพวกเรา\" สามารถแปลว่า \"ตัดสินใจนานมาแล้วว่าพวกเรา\" หรือ \"ติดสินใจมาเรรียบร้อยแล้วก่อนเวลาที่พวกเรา\"\n*หมายเหตุการแปลคำนี้ควรแตกต่างจากการแปลคำว่า \"รู้ตัวล่วงหน้า\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/prey.txt b/01/prey.txt new file mode 100644 index 00000000..8801d9ba --- /dev/null +++ b/01/prey.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เหยื่อ, เป็นเหยื่อ", + "body": "คำว่า\"เหยื่อ\"อ้างถึงบางสิ่งบางอย่างที่ถูกล่า โดยมักจะเป็นสัตว์ที่ใช้ทำเป็นอาหาร\n\n* ในแง่ของอุปมาอุปมัยคำว่า \"เหยื่อ\" สามารถอ้างถึงบุคคลที่ถูกเอาเปรียบ ถูกข่มเหง หรือถูกกดขี่จากบุคคลที่มีอำนาจมากกว่า\n* ประชาชนที่ตก \"เป็นเหยื่อ\" หมายถึงคนถูกเอาประโยชน์จากพวกเขาโดยกดขึ่พวกเขาหรือขโมยบางสิ่งจากพวกเขา\n* คำว่า \"เหยื่อ\" สามารถแปลได้อีกว่า\"สัตว์ที่ถูกล่า\" หรือ \"ผู้ที่ถูกล่า\" หรือ \"เหยื่อ\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/priest.txt b/01/priest.txt new file mode 100644 index 00000000..ca5f719c --- /dev/null +++ b/01/priest.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ปุโรหิต, ความเป็นปุโรหิต", + "body": "ในพระคัมภีร์ปุโรหิตเป็นคนที่ถูกรับเลือกให้ถวายเครื่องบูชาแด่พระเจ้าในนามของประชากรของพระเจ้า \"ความเป็นปุโรหิต\" เป็นชื่อสำหรับที่ทำงานหรือเงื่อไขในการเป็นปุโรหิต\n\n* ในพันธสัญญาเดิมพระเจ้าได้เลือกอาโรนและลูกหลานของเขาให้เป็นปุโรหิตของพระองค์สำหรับประชากรอิสราเอล\n* \"ความเป็นปุโรหิต\" เป็นสิทธิ์และเป็นความรับผิดชอบที่สืบทอดจากบิดาสู่บุตรในตระกูลเลวี\n* ปุโรหิตอิสราเอลมีความรับผิดชอบที่ต้องถวายเครื่องบูชาของประชาชนต่อพระเจ้า พร้อมกับหน้าที่อื่นๆในพระวิหาร\n* ปุโรหิตยังถวายคำอธิษฐานประจำแด่พระเจ้าในนามของประชากรของพระองค์และประกอบพิธีกรรมอื่นๆ ทางศาสนา\n* ปุโรหิตเปล่งเสียงออกให้พระพรเป็นทางการแก่ประชาชนและสอนธรรมบัญญัติของพระเจ้าให้พวกเขา\n* ในสมัยของพระเยซูมีระดับปุโรหิตที่แตกต่างกัน รวมไปถึงหัวหน้าปุโรหิตและมหาปุโรหิต\n* พระเยซูทรงเป็น \"มหาปุโรหิตที่ยิ่งใหญ่\" ของเรา ผู้ทรงวิงวอนเพื่อเราต่อพระพักตร์ของพระเจ้า พระองค์ทรงถวายตัวของพระองค์เป็นเครื่องบูชาสูงสุดให้กับความบาป นี่หมายความว่าเครื่องบูชาที่ทำด้วยปุโรหิตที่เป็นมนุษย์ไม่จำเป็นอีกต่อไป\n* ในพันธสัญญาใหม่ ทุกคนที่เชื่อในพระเยซูจะถูกเรียกว่า \"ปุโรหิต\" ผู้ซึ่งสามารถมาถึงพระเจ้าโดยตรงได้ด้วยคำอธิษฐานเพื่อขอร้องให้กับตัวเองและเพื่อคนอื่นด้วย\n* ในสมัยโบราณมีปุโรหิตนอกศาสนาผู้ถวายเครื่องบูชาแด่พระเท็จเช่นพระบาอัล\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า \"ปุโรหิต\" สามารถแปลว่า \"เครื่องถวายบูชาที่เป็นบุคคล\" หรือ \"ตัวกลางของพระเจ้า\" หรือ \"เครื่องถวายบูชาตัวกลาง\" หรือ \"บุคคลที่พระเจ้าทรงแต่งตั้งเพื่อเป็นตัวแทนของพระองค์\"\n*การแปลคำว่า \"ปุโรหิต\" ควรจะแตกต่างจากคำว่า \"คนกลาง\"\n* การแปลบางครั้งอาจต้องกล่าวถึงบางสิ่งเช่น \"ปุโรหิตของอิสราเอล\" หรือ \"ปุโรหิตของชาวยิว\" หรือ \"ปุโรหิตของพระยาห์เวห์\" หรือ ปุโรหิตของพระบาอัล\" เพื่อให้ชัดเจนว่านี่ไม่ได้อ้างถึงประเภทของปุโรหิตสมัยใหม่\n* คำที่ใช้แปลว่า \"ปุโรหิต\" ควรแตกต่างจากคำว่า \"หัวหน้าปุโรหิต\" และ \"ปุโรหิตหลวง\" และ เลวี\" และ\"ผู้เผยพระวจนะ\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/prince.txt b/01/prince.txt new file mode 100644 index 00000000..3f285f62 --- /dev/null +++ b/01/prince.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เจ้าชาย, เจ้าหญิง", + "body": "\"เจ้าชาย\" คือบุตรชายของกษัตริย์ \"เจ้าหญิง\" คือบุตรสาวของกษัตริย์\n\n* คำว่า \"เจ้าชาย\" มักใช้เป็นคำอุปมาอุปมัยที่อ้างถึงผู้นำ ผู้ปกครอง หรือบุคคผู้มีอำนาจต่าง\n* เพราะความมั่งคั่งของและความสำคัญของอับราฮัม เขาจึงถูกอ้างถึงว่าเป็น \"เจ้าชาย\" โดยคนฮิตไทต์ที่ท่านอาศัยอยู่ด้วย\n* ในพระธรรมดาเนียล คำว่า \"เจ้าชาย\" ได้ใช้ในคำกล่าวว่า \"เจ้าชายแห่งเปอร์เซีย\" และ \"เจ้าชายแห่งกรีซ\" ซึ่งในบริบทเหล่านั้นอาจอ้างถึงวิญญาณชั่วที่มีฤทธิ์อำนาจผู้ที่มีอำนาจในการปกครองเหนือแถบเหล่านั้น\n* มิคาเอลหัวหน้าทูตสวรรค์ก็ถูกอ้างถึงว่า \"เจ้าชาย\"ในพระธรรมดาเนียล\n* บางครั้งในพระคัมภีร์ ซาตานก็ถูกอ้างถึงว่าเป็น \"เจ้าชายแห่งโลกนี้\"\n* พระเยซูถูกเรียกว่า \"เจ้าชายแห่งสันติสุข\" และ \"เจ้าชายแห่งชีวิต\"\n* ในกิจการ 2:36 พระเยซูถูกอ้างถึงว่าเป็น \"พระผู้เป็นเจ้าและพระคริสต์\" และในกิจการ 5:31 พระองค์ถูกอ้างถึงว่าเป็น \"เจ้าชายและพระผู้ช่วยให้รอด\" แสดงให้เห็นถึงความหมายที่คู่ขนานของคำว่า\"องค์พระผู้เป็นเจ้า\" และ \"เจ้าชาย\"\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* วิธีแปลคำว่า \"เจ้าชาย\" สามารถรวม \"โอรสของกษัตริย์\" หรือ \"ผู้ปกครอง\" หรือ \"ผู้นำ\" หรือ \"หัวหน้า\" หรือ \"หัวหน้าทีม\"\n* เมื่ออ้างถึงทูตสวรรค์ นี่สามารถแปลว่า \"ผู้ปกครองวิญญาณ\" หรือ \"ผู้นำทูตสวรรค์\"\n* เมื่ออ้างถึงซาตานหรือ วิญญาณชั่ว คำนี้สามารถแปลว่า \"ผู้ปกครองวิญญาณชั่ว\" หรือ \"ผู้นำวิญญาณที่มีอำนาจ\" หรือ \"วิญญาณปกครอง\" ขึ้นอยู่กับบริบท\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/priscilla.txt b/01/priscilla.txt new file mode 100644 index 00000000..3efb648b --- /dev/null +++ b/01/priscilla.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ปริสสิลลา", + "body": "ปริสสิลลาและสามีของเธออควิลลาเป็นชาวยิวที่ร่วมงานกับคริสเตียนชาวยิวที่ทำงานกับอัครสาวกเปาโลในงานประกาศของเขา\n\n* ปริสสิลลาและอควิลลาได้ออกจากโรมเนื่องจากจักรพรรดิได้บังคับให้คริสเตียนออกจากที่นั่น\n* เปาโลได้พบกับปริสสิลลาและอควิลลาในเมืองโครินธ์ พวกเขาเป็นคนเย็บเต็น์และเปาโลก็ได้ร่วมทำงานกับพวกเขาในงานนี้ด้วย\n* เมื่อเปาโลจากเมืองโครินธ์เพื่อไปซีเรียปริสสิลลาและอควิลลาก็ได้ไปกับเขาด้วย\n* จากซีเรีย พวกเขาทั้งสามได้ไปยังเอเฟซัส เมื่อเปาโลจากเอเฟซัสปริสสิลลาและอควิลลายังอยู่ที่นั่นและได้ดำเนินการเทศนาประกาศพระกิตติคุณที่นั่น\n* พวกเขาได้สอนผู้ชายที่ชื่ออปอลโลในเอเฟซัสโดยเฉพาะผู้ซึ่งเชื่อในพระเยซูและมีของประทานในการเป็นผู้พูดและผู้สอน" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/prison.txt b/01/prison.txt new file mode 100644 index 00000000..a7125bfe --- /dev/null +++ b/01/prison.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "คุก, นักโทษ, จับขังคุก", + "body": "คำว่า \"คุก\" หมายถึงสถานที่เหล่าอาชญากรถูกกักไว้เพื่อเป็นการลงโทษเพราะอาชญากรรมของพวกเขา \"นักโทษ\" คือคนที่ถูกขังไว้ในคุก\n\n* บุคคลอาจถูกขังไว้ในคุกในขณะที่รอการตัดสินในคดี\n* คำว่า \"จำคุก\" หมายถึง \"ขังไว้ในคุก\" หรือ \"ขังไว้เป็นเชลย\"\n* ผู้เผยพระวจนะหลายคนและผู้รับใช้พระเจ้าหลายคนก็โดนขังในคุกแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ทำสิ่งใดผิดก็ตาม\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* อีกคำหนึ่งของคำว่า \"คุก\" หรือ \"เรือนจำ\"\n* คำนี้สามารถและว่า \"คุกใต้ดิน\" ในบริบทที่คุกอยู่ใต้ดินหรือใต้ปราสาทหรืออาคารอื่นๆ\n* คำว่า \"พวกนักโทษ\" สามารถอ้างถึงโดยทั่วไปคือประชาชนที่ถูกจับเป็นเชลยโดยศัตรูและถูกขังไว้ในบางแห่งที่พวกเขาต้องการ วิธีอื่นที่แปลความหมายนี้คือ \"ถูกจับเป็นเชลย\"\n* วิธีอื่นที่แปล \"ถูกขังคุกก\" สามารถแปลว่า \"ถูกเก็บไว้ในฐานะนักโทษ\" หรือ \"ถูกเก็บไว้เป็นเชลย\" หรือ \"ตกเป็นเชลย\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/proclaim.txt b/01/proclaim.txt new file mode 100644 index 00000000..11687903 --- /dev/null +++ b/01/proclaim.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ประกาศ, คำประกาศ", + "body": "ประกาศ เป็นการแถลงหรือการแจ้งบางสิ่งอย่างเปิดเผยและอย่างกล้าหาญ\n\n* บ่อยครั้งในพระคัมภีร์ คำว่า \"ประกาศ\" หมายถึงการแถลงบางสิ่งบางอย่างต่อสาธารณะตามที่พระเจ้าได้ทรงบัญชาไว้ หรือบอกคนอื่นถึงเรื่องราวพระเจ้าและถึงความยิ่งใหญ่ของพระองค์\n* ในพันธสัญญาใหม่ เหล่าอัครสาวกประกาศข่าวประเสริฐเรื่องราวเกี่ยวกับพระเยซูให้หลายท่านในเมืองและแคว้นต่างๆ\n* คำว่า \"ประกาศ\" สามารถใช้กับพระราชกฤษฎีกาโดยกษัตริย์หรือเพื่อการประนามความชั่วร้ายในทางสาธารณะ\n* วิธีอื่นในการแปลคำว่า \"ประกาศ\" สามารถรวมคำว่า \"การแถลง\" หรือ\"เทศน์อย่างเปิดเผย\" หรือ \"ประกาศอย่างเปิดเผย\"\n* คำว่า \"คำประกาศ\" สามารถแปลได้ว่า \"คำแถลง\" หรือ \"การเทศนาในที่สาธารณะ\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/profane.txt b/01/profane.txt new file mode 100644 index 00000000..67eb6452 --- /dev/null +++ b/01/profane.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ดูหมิ่น", + "body": "การดูหมิ่นบางสิ่งบางอย่างหมายถึงกระทำในทางที่ทำให้มัวหมองหรือมีมลทิน ทำให้เสียหาย หรือ ไม่ให้เคารพบางสิ่งบางอย่างที่ศักดิ์สิทธิ์\n\n* คนที่ได้รับการดูหมิ่นคือคนที่กระทำตัวในทางที่ไร้ศีลธรรมและไม่ถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า\n* คำกริยาว่า \"ดูหมิ่น\" สามารถแปลได้ว่า \"การกระทำอย่างไม่มีศีลธรรม\" หรือ \"เป็นการไม่เคารพต่อ\" หรือ \"ไม่ให้เกียรติแก่\"\n* พระเจ้าได้ตรัสกับชาวอิสราเอลว่าพวกเขา \"ดูหมิ่น\" ตัวพวกเขาเองด้วยรูปเคารพ นั่นหมายถึงว่าประชาชนทำตัวพวกเขาให้ \"ไม่สะอาด\" หรือ \"ไม่มีเกียรติ\" โดยความบาปนี้ พวกเขาไม่ได้ถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าด้วยเช่นกัน\nขึ้นอยู่กับบริบท คำคุณศัพท์ \"ดูหมิ่น\" สามารถแปลได้ว่า \"ไม่ให้เกียรติ\" หรือ \"ไร้ศีลธรรม\" หรือ \"ไม่บริสุทธิ์\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/profit.txt b/01/profit.txt new file mode 100644 index 00000000..bb29b497 --- /dev/null +++ b/01/profit.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "กำไร, ได้ผลประโยชน์", + "body": "โดยทั่วไปคำว่า \"กำไร\" และ \"ได้ผลประโยชน์\" อ้างถึงการรับสิ่งที่ดีผ่านทางการกระทำบางอย่างหรือการประพฤติ อ้างถึงสิ่งที่ดีที่ได้รับ \nบางสิ่งจะ \"ได้ผลประโยชน์\" ต่อใครบางคนถ้ามันนำสิ่งที่ดีสู่พวกเขาหรือถ้ามันช่วยพวกเขาให้นำสิ่งที่ดีไปให้คนอื่น\n\n* เฉพาะอย่างยิ่ง คำว่า \"กำไร\" บ่อยครั้งอ้างถึงเงินที่ได้รับจากการทำธุรกิจ ธุรกิจนั้น \"ได้ผลประโยชน์\" ถ้าหากได้รับเงินมากกว่าใช้จ่าย\n* การกระทำนั้นมีประโยชน์ถ้าหากพวกเขานำสิ่งที่ดีไปสู่คน\n* 2 ทิโมธี 3:16 กล่าวว่าพระวจนะทุกตอน\" มีประโยชน์\" สำหรับการแก้ไขและการฝึกคนในทางความชอบธรรม นี่หมายถึงคำสอนของพระคัมภีร์ช่วยและมีประโยชน์สำหรับการสอนคนให้อยู่ในน้ำพระทัยของพระเจ้า\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า \"กำไร\" สามารถแปลว่า \"ประโยชน์\" หรือ \"ช่วย\" หรือ \"ได้รับ\"\n* คำว่า \"ได้ผลประโยชน์\" สามารถแปลว่า \"เป็นประโยชน์\" หรือ \"เป็นผลดี\" หรือ \"ช่วย\"\n* \"ได้กำไรจาก\" บางสิ่งสามารถแปลว่า \"ได้ประโยชน์จาก\" หรือ \"ได้รับเงินจาก\" หรือ ได้รับการช่วยเหลือจาก\"\n* ในบริบทของธุรกิจ \"กำไร\" สามารถแปลด้วยคำ หรือวลีที่หมายความว่า \"เงินได้ได้รับ\" หรือ\"เงินส่วนที่เกิน\" หรือ \"เงินพิเศษ\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/promise.txt b/01/promise.txt new file mode 100644 index 00000000..1de680a9 --- /dev/null +++ b/01/promise.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "สัญญา, คำสัญญา, พระสัญญา", + "body": "คำสัญญาคือ คำปฏิญาณเพื่อทำบางอย่าง เมื่อมีคนสัญญาบางอย่างนั่นแปลว่าเขากำลังให้คำมั่นสัญญาที่จะทำบางสิ่งบางอย่าง\n\n* พระคัมภีร์บันทึกพระสัญญาหลายประการที่พระเจ้าได้ทรงกระทำเพื่อประชากรของพระองค์\n* คำสัญญาเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของข้อตกลงอย่างเป็นทางการเช่น พันธสัญญา\n* คำสัญญาบ่อยครั้งมาพร้อมกับคำปฏิญาณเพื่อยืนยันว่ามันจะต้องทำดังนั้น\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำว่า \"สัญญา\" สามารถแปลว่า \"ความมุ่งมั่น\" หรือ \"การให้คำมั่นใจ\" หรือ \"การรับประกัน\"\n* \"สัญญาว่าจะทำ\" สามารถแปลว่า \"รับประกันกับบางคนว่าท่านจะทำบางอย่าง\" หรือ \"มุ่งมั่นที่จะทำบางอย่าง\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/promisedland.txt b/01/promisedland.txt new file mode 100644 index 00000000..9450fa8e --- /dev/null +++ b/01/promisedland.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "แผ่นดินแห่งพระสัญญา", + "body": "คำว่า \"แผ่นดินแห่งพระสัญญา\" มีอยู่ในเรื่องราวของพระคัมภีร์เท่านั้น ไม่ใช่ข้อความพระคัมภีร์ แต่เป็นทางเลือกหนึ่งที่อ้างถึงแผ่นดินคานาอันที่พระเจ้าได้ทรงสัญญาไว้ว่าจะประทานแก่อับราฮัมและลูกหลานของเขา\n\n* เมื่ออับราฮัมยังอยู่ที่เมืองเออร์ พระเจ้าได้ทรงบัญชาเขาให้ไปอยู่ในแผ่นดินคานาอัน เขาและลูกหลานของเขา ชาวอิสราเอล ได้อยู่ที่นั่นหลายปี\n* เมื่อเกิดการกันดารอาหารอย่างรุนแรงทำให้ที่นั่นไม่มีอาหารในคานาอัน ชาวอิสราเอลจึงได้ย้ายไปยังอียิปต์\n* สี่ร้อยปีต่อมา พระเจ้าได้ทรงช่วยกู้ชนชาติอิสราเอลจากการเป็นทาสในอียิปต์และได้นำพวกเขากลับมายังคานาอันแผ่นดินซึ่งพระเจ้าได้ทรงสัญญาจะประทานให้พวกเขาอีกครั้งหนึ่ง\n\n # คำแนะนำในการแปล\n\n* คำว่า \"แผ่นดินแห่งพระสัญญา\" สามารถแปลว่า \"แผ่นดินที่พระเจ้าได้ตรัสว่าพระองค์จะประทานให้แก่อับราฮัม\" หรือ \"แผ่นดินที่พระเจ้าทรงสัญญาแก่อับราฮัม\" หรือ \"แผ่นดินพระเจ้าทรงสัญญากับพระชากรของพระองค์\" หรือ \"แผ่นดินคานาอัน\"\n* ในพระคัมภีร์ คำนี้ปรากฏในรูปแบบของ \"แผ่นดินที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/prophet.txt b/01/prophet.txt new file mode 100644 index 00000000..d0cff1b8 --- /dev/null +++ b/01/prophet.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ผู้เผยพระวจนะ, คำเผยพระวจนะ, เผยพระวจนะ, ผู้พยากรณ์, ผู้เผยพระวจนะหญิง", + "body": "\"ผู้เผยพระวจนะ\" คือ ผู้ชายที่พูดข่าวสารของพระเจ้าให้แก่ประชาชน ผู้หญิงที่ทำแบบนี้เรียกว่า \"ผู้เผยพระวจนะหญิง\"\n\n*บ่อยครั้งผู้เผยพระวจนะจะตักเตือนประชาชนให้หันกลับจากความบาปของพวกเขาและให้เชื่อพระเจ้า\n* \"คำเผยพระวจนะ\"เป็นข่าวสารที่ผู้เผยพระวจนะพูด การ\"เผยพระวจนะ\"หมายถึงการพูดข่าวสารของพระเจ้า\n* บ่อยครั้งข่าวสารของคำเผยพระวจนะนั้นจะเกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต\n* คำเผยพระวจนะต่างๆ ในพันธสัญญาเดิมได้สำเร็จแล้ว\n* ในพระคัมภีร์ ชุดพระธรรมที่เขียนไว้โดยผู้เผยพระวจนะบางครั้งอ้างถึงในฐานะเป็น \"ผู้เผยพระวจนะ\" ด้วย\n* ตัวอย่างเช่นวลีคำว่า\"ธรรมบัญญัติและผู้เผยพระวจนะ\" เป็นวิธีที่จะอ้างอิงข้อพระคัมภีร์ภาษาฮีบรูทั้งหมด ซึ่งรู้จักกันในอีกคำว่า \"พันธสัญญาเดิม\"\n* คำศัพท์ที่เก่ากว่าอีกคำของคำว่าผู้เผยพระวจนะคือ \"ผู้พยากรณ์\" หรือ \"บางคนที่รับรู้\"\n* บางครั้งคำว่า \"ผู้พยากรณ์\" อ้างถึง ผู้เผยพระวจนะเทียมเท็จ หรือ คนที่ทำนายโชคชะตา\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำว่า \"ผู้เผยพระวจนะ\" สามารถแปลว่า \"ผู้ประกาศของพระเจ้า\" หรือ \"ผู้ชายผู้ที่พูดเพื่อพระเจ้า\" หรือ \"ผู้ชายที่พูดข่าวสารของพระเจ้า\"\n* \"ผู้พยากรณ์\" สามารถแปลว่า \"บุคคลผู้เห็นนิมิตทั้งหลาย\" หรือ \"ผู้ชายที่เห็นอนาคตจากพระเจ้า\"\n* คำว่า \"ผู้เผยพระวจนะหญิง\" สามารถแปลว่า \"ผู้ประกาศหญิงสำหรับพระเจ้า\" หรือ \"ผู้หญิงผู้ที่พูดสำหรับพระเจ้า\" หรือ \"ผู้หญิงผู้ที่พูดข่าวสรของพระเจ้า\"\n* วิธีแปล \"คำเผยพระวจนะ\" สามารถรวม \"ข่าวสารรจากพระเจ้า\" หรือ \"ผู้เผยพระจนะข่าวสาร\"\n* คำว่า \"การเผยพระวจนะ\" สามารถแปลว่า \"พูดพระคำจากพระเจ้า\" หรือ \"บอกข่าวสารของพระเจ้า\"\n* คำกล่าวอุปมาอุปมัย \"บัญญัติและผู้เผยพระวจนะทั้งหลาย\" สามารถแปลว่า \"หนังสือทั้งหลายของบัญญัติและผู้เผยพระวจนะทั้งหลาย\" หรือ \"ทุกสิ่งที่ได้เขียนเกี่ยวกับพระเจ้าและประชาชนของพระองค์ รวมทั้งบัญญัติของพระเจ้าและสิ่งที่ผู้เผยพระวจนะได้เทศนา\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/propitiation.txt b/01/propitiation.txt new file mode 100644 index 00000000..62f6a6af --- /dev/null +++ b/01/propitiation.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "การบรรเทา", + "body": "คำว่า \"การบรรเทา\" อ้างถึงเครื่องบูชาที่ทำให้พึงพอใจหรือทำให้บรรลุความเที่ยงธรรมของพระเจ้าและเพื่อให้การบรรเทาพระพิโรธของพระเจ้าจะสงบ\n* การถวายเครื่องบูชาพระโลหิตของพระเยซูคริสต์เป็นการบรรเทาแด่พระเจ้าสำหรับความบาปของมนุษยชาติ\n* การตายของพระเยซูคริสต์บนกางเขนบรรเทาพระพิโรธของพระเจ้าต่อความบาป นี่เป็นการจัดเตรียมทางสำหรับพระเจ้าจะมองดูคนของพระองค์ด้วยความโปรดปรานและประทานชีวิตนิรันดร์แก่พวกเขา\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำนี้สามารถแปลได้เช่น \"การบรรเทา\" หรือ \"เป็นเหตุให้พระเจ้ายกโทษความบาปและโปรดปรานประชาชน\"\n* คำว่า \"การไถ่โทษ\" เป็นความหมายที่ใกล้เคียงกับ \"การบรรเทา\" เป็นสิ่งสำคัญมากที่เปรียบเทียบว่าสองคำนี้ใช้อย่างไร" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/prosper.txt b/01/prosper.txt new file mode 100644 index 00000000..9370d812 --- /dev/null +++ b/01/prosper.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เจริญก้าวหน้า, ความรุ่งโรจน์, รุ่งเรือง", + "body": "คำว่า\"เจริญก้าวหน้า\" โดยทั่วไปอ้างถึงการมีชีวิตที่ดีและสามารถอ้างถึงการเจริญรุ่งเรืองทางร่างกายและจิตวิญญาณ เมื่อคนหรือประเทศ \" เจริญรุ่งเรือง\" หมายถึงพวกเขามีฐานะร่ำรวยและมีทุกอย่างที่พวกเขาต้องการให้ประสบความสำเร็จ พวกเขากำลังพบกับ \"ความรุ่งโรจน์\"\n\n* คำว่า\"รุ่งเรือง\" มักอ้างถึงการประสบความสำเร็จในการเป็นเจ้าของเงินและทรัพย์สินหรือในการผลิตทุกอย่างที่จำเป็นสำหรับคนเพื่อให้มีชีวิตที่ดี\n* ในพระคัมภีร์คำว่า\"รุ่งเรือง\" ยังรวมถึงสุขภาพที่ดีและการได้รับพระพรกับลูกหลาน\n* เมืองหรือประเทศ\" ที่รุ่งเรือง\" เป็นเมืองหรือประเทศที่มีคนมาก มีผลิตผลที่ดี และธุรกิจที่นำเงินมากมายมาให้\n* พระคัมภีร์สอนว่าบุคคลจะเจริญรุ่งเรืองฝ่ายวิญญาณได้เมื่อเขาเชื่อฟังคำสอนของพระเจ้า เขาเองจะได้พบกับพระพรแห่งความชื่นชมยินดีและสันติสุขด้วย พระเจ้าไม่ให้ความมั่งคั่งทางวัตถุมากมายแก่ผู้คน แต่พระองค์จะให้พวกเขาเจริญรุ่งเรืองฝ่ายวิญญาณเมื่อพวกเขาเดินตามพระมรรคาของพระองค์\n* ขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า\"รุ่งเรือง\" สามารถแปลได้ว่า \"ประสบความสำเร็จฝ่ายวิญญาณ\" หรือ \"ได้รับพระพรจากพระเจ้า\" หรือ \"มีประสบการณ์กับสิ่งที่ดี\" หรือ \"มีชีวิตที่ดี\"\n* คำว่า\" รุ่งเรือง\" สามารถแปลได้ว่า \"ประสบความสำเร็จ\" หรือ \"มั่งคั่ง\" หรือ\"เกิดผลฝ่ายวิญญาณ\"\n* \"รุ่งเรือง\" สามารถแปลได้ว่า \"มีชีวิตที่ดี\" หรือ \"ร่ำรวย\" หรือ \"ประสบความสำเร็จ\" หรือ \"พระพรอันเหลือล้น\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/prostitute.txt b/01/prostitute.txt new file mode 100644 index 00000000..47a27143 --- /dev/null +++ b/01/prostitute.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "โสเภณี, หญิงแพศยา, หญิงขายบริการ", + "body": "คำว่า \"โสเภณี\" และ \"หญิงแพศยา\" อ้างถึงบุคคลคนที่ทำกระทำการทางเพศเพื่อเงินหรือเพื่อพิธีกรรมทางศาสนา โสเภณีหรือหญิงแพศยามักจะเป็นเพศหญิง แต่บางคนก็เป็นเพศชาย\n\n* ในพระคัมภีร์ คำว่า \"โสเภณี\" บางครั้งใช้เป็นคำอุปมาอุปมัยอ้างถึงบุคคลที่นมัสการพระเทียมเท็จหรือกระทำเวทมนตร์คาถา\n* สำนวนที่ว่า \"เล่นหญิงแพศยา\" หมายถึงการกระทำที่เหมือนหญิงแพศยาโดยการทำผิดศีลธรรมทางเพศ สำนวนนี้ในพระคัมภีร์ยังใช้เพื่อเปรียบถึงคนที่นมัสการรูปเคารพ\n* \"เป็นโสเภณี\" กับบางสิ่งหมายถึงการทำผิดศีลธรรมทางเพศ หรือ เมื่อใช้เป็นคำอุปมาอุปมัยกับการไม่ซื่อสัตย์กับพระเจ้าโดยการนมัสการพระเทียมเท็จ\n* ในสมัยโบราณ บางวิหารของคนต่างชาติใช้โสเภณีผู้ชายและผู้หญิงเป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรมของพวกเขา\n* คำนี้สามารถแปลโดยคำหรือวลีที่ใช้ในภาษาโครงการเพื่ออ้างถึงโสเภณี บางภาษาอาจมีคำสุภาพในการนี้ (ดู: [euphemism](https://git.door43.org/Door43/en-ta-translate-vol2/src/master/content/figs_euphemism.md))" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/prostrate.txt b/01/prostrate.txt new file mode 100644 index 00000000..ca75947d --- /dev/null +++ b/01/prostrate.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "หมอบลงกับพื้น", + "body": "คำว่า \"หมอบลงกับพื้น\" หมายถึงการนอนคว่ำหน้าลง เหยียดออกบนพื้น\n\n* \"หมอบลงกับพื้น\" หรือ การ \"หมอบตัวลง\" ต่อหน้าบางคนหมายถึงคำนับลงให้ต่ำลงมาอย่างทันทีทันใดหรือต่อหน้าบุคคลนั้น\n* โดยทั่วไปตำแหน่งของการหมอบลงนี้เป็นการตอบสนองที่แสดงให้เห็นถึงความตกใจหรือความประหลาดใจและความน่าเกรงขามเพราะความน่าอัศจรรย์บางสิ่งบางอย่างที่ได้เกิดขึ้น มันยังเป็นการแสดงถึงเกียรติและความเคารพของคนที่ถูกก้มลง\n* การหมอบยังเป็นวิธีในการนมัสการพระเจ้า ประชาชนบ่อยครั้งตอบสนองวิธีนี้ในการขอบคุณพระเยซูและนมัสการเมื่อพระองค์ได้กระทำสิ่งอัศจรรย์หรือถวายพระเกียรติแด่พระองค์ในฐานะครูที่ยิ่งใหญ่\n* ขึ้นอยู่กับบริบท วิธีแปล \"หมอบลงกับพื้น\" สามารถแปลว่า \"ก้มศีรษะลงด้วยใบหน้ามองที่พื้น\" หรือ \"นมัสการพระองค์โดยนอนก้มหน้าลงต่อหน้าพระองค์\" หรือ \"ก้มศีรษะลงถึงพื้นในความประหลาดใจ\" หรือ \"นมัสการ\"\n* วลีที่ว่า\"จะไม่หมอบตนเอง\" สามารถแปลได้ว่า \"จะไม่นมัสการ\" หรือ \"จะไม่ก้มหน้าลงในการนมัสการ\" หรือ \"จะไม่ก้มกราบและนมัสการ\"\n* \"ก้มหน้าของเขาลงกับพื้น\" สามารถแปลได้ว่า \"นมัสการ\" หรือ \"ก้มกราบลงต่อหน้า\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/proud.txt b/01/proud.txt new file mode 100644 index 00000000..6ebab862 --- /dev/null +++ b/01/proud.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "หยิ่ง, ความหยิ่ง, ความเย่อหยิ่ง", + "body": "คำว่า \"หยิ่ง\" และ \"ความเย่อหยิ่ง\" อ้างถึงคนที่คิดถึงตนเองสูงมาก และเฉพาะอย่างยิ่งการคิดว่าเขาดีกว่าคนอื่น\n\n* คนหยิ่งมักไม่ยอมรับความผิดพลาดตนเอง เขาไม่ถ่อมตน\n* ความหยิ่งนำไปสู่การไม่เชื่อฟังพระเจ้าในรูปแบบอื่นๆ\n* คำว่า\"หยิ่ง\"และ\"ความหยิ่ง\" สามารถใช้ในแง่บวกได้ เช่นการ \"ภูมิใจกับ\" สิ่งที่ใครบางคนประสบความสำเร็จและการ \"ภูมิใจกับ\" ลูกๆ ของท่าน คำกล่าวที่ว่า \"ภูมิใจในงานของท่าน\" หมายถึงการพบความสุขเพราะทำงานของท่านดี\n* บางคนสามารถภูมิใจกับสิ่งที่เขาได้กระทำโดยไม่เย่อหยิ่งในเรื่องนั้นเลย บางภาษามีคำที่แตกต่างกันสำหรับคำทั้งสองสำหรับความหมายที่แตกต่างกันของคำนี้ว่า \"ความหยิ่ง\"\n* คำว่า\"ความเย่อหยิ่ง\" มักเป็นแง่ลบเสมอ ด้วยความหมายที่ว่า\"จองหอง\"หรือ\"อวดดี\" หรือ \"ทะนงตัว\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/proverb.txt b/01/proverb.txt new file mode 100644 index 00000000..458c64a5 --- /dev/null +++ b/01/proverb.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "สุภาษิต", + "body": "สุภาษิตเป็นเป็นคำกล่าวสั้นๆ ที่แสดงถึงสติปัญญาหรือความจริง\n\n* สุภาษิตมีอิทธิพลเพราะง่ายต่อการจำและซ้ำ\n* บ่อยครั้งสุภาษิตจรวมเอาตัวอย่างจากชีวิตประจำวันที่ใช้ได้จริง\n* สุภาษิตบางข้อนั้นชัดเจนและตรง ในขณะที่คำอื่นๆ นั้ยยากกว่าที่จะเข้าใจ\n* กษัตริย์ซาโลมอนเป็นที่รู้จักเพราะสติปัญญาของพระองค์และได้เขียนสุภาษิตมากกว่า 1,000 ข้อความ\n* บ่อยครั้งที่พระเยูซูใช้คำสุภาษิตหรืออุปมาเมื่อพระองค์ทรงสอนประชาชน\n* วิธีที่จะแปลคำว่า\"สุภาษิต\"สามารถรวมถึง\"การพูดฉลาด\" หรือ\"ถ้อยคำความจริง\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/province.txt b/01/province.txt new file mode 100644 index 00000000..59ad36b7 --- /dev/null +++ b/01/province.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "จังหวัด, แคว้น", + "body": "จังหวัดคือหน่วยหรือส่วนของประเทศหรืออาณาจักร คำว่า \" แคว้น\" อธิบายถึงบางอย่างที่มีความสัมพันธ์กับจังหวัด เช่น ผู้ว่าราชการจังหวัด\n\n* ตัวอย่างเช่น อาณาจักรเปอร์เซียโบราณถูกแบ่งให้เป็นแคว้นต่างๆ เช่นแคว้นมีเดีย เปอร์เซีย ซีเรีย และอียิปต์\n* ในช่วงเวลาของพันธสัญญาใหม่ อาณาจักรโรมันถูกแบ่งให้เป็นจังหวัดต่างๆ เช่น มาซีโดเนีย เอเซีย ซีเรีย ยูดาห์ สะมาเรีย กาลิลี และกาลาเทีย\n* ในแต่ละจังหวัดจะมีอำนาจการปกครองเป็นของตัวเองซึ่งต้องรายงานต่อกษัตริย์หรือผู้ปกครองของอาณาจักร ผู้ปกครองนี้บางครั้งจะถูกเรียกว่า \"เจ้าหน้าที่จังหวัด\" หรือ \"ผู้ว่าราชการจังหวัด\"\n* คำว่า \"จังหวัด\" และ \"แคว้น\" อาจแปลได้ว่า \"ภูมิภาค\" และ \"ทั่วแคว้น\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/provoke.txt b/01/provoke.txt new file mode 100644 index 00000000..c420592d --- /dev/null +++ b/01/provoke.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ยั่วยุอารมณ์", + "body": "คำว่า \"ยั่วยุอารมณ์\" หมายถึงทำให้บางคนมีประสบการณ์กับปฏิกิริยาหรือความรู้สึกด้านลบ\n\n* การยั่วยุอารมณ์บางคนให้โมโหหมายถึงการทำบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้บุคคลนั้นโกรธ นี่สามารถแปลได้ว่า \"การทำให้เกิดความโกรธ\" หรือ \"โกรธ\"\n* เมื่อใช้ในวลีเช่นว่า \"อย่ายั่วยุอารมณ์เขา\" นี่สามารถแปลได้ว่า \"อย่าทำให้เขาโกรธ\" หรือ \"อย่าทำให้เขาเกิดความโกรธ\" หรือ \"อย่าทำให้เขาโกรธกับท่าน\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/prudent.txt b/01/prudent.txt new file mode 100644 index 00000000..eeb85a05 --- /dev/null +++ b/01/prudent.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "รอบคอบ", + "body": "คำว่า \"รอบคอบ \"อธิบายถึงบุคคลคนที่คิดอย่างระมัดระวังเกี่ยวกับการกระทำของเขาและตัดสินใจอย่างฉลาด\n\n* บ่อยครั้งคำว่า \"รอบคอบ\" อ้างถึงความสามารถในการตัดสินใจที่ชาญฉลาดเกี่ยวกับสิ่งที่ใช้ได้จริงในสถานการณ์ทางร่างกายเช่นการจัดการเรื่องเงินหรือเรื่องทรัพย์สิน\n* แม้ว่า \"รอบคอบ\" และ \"สติปัญญา\" นั้นจะมีความหมายคล้ายกัน บ่อยครั้งคำว่า \"สติปัญญา\" จะเป็นเรื่องทั่วไปมากกว่าและเน้นเรื่องจิตวิญญาณหรือเรื่องศีลธรรม\n* ขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า\"รอบคอบ\"อาจแปลได้ว่า \"หลักแหลม\" หรือ \"ระมัดระวัง\" หรือ \"ฉลาด\" " + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/psalm.txt b/01/psalm.txt new file mode 100644 index 00000000..fd5077db --- /dev/null +++ b/01/psalm.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "สดุดี", + "body": "คำว่า \"สดุดี\" อ้างถึงบทเพลงศักดิ์สิทธิ์ มักจะเป็นในรูปแบบของบทกวีที่ถูกเขียนขึ้นมาเพื่อการร้อง\n\n* ในพันธสัญญาเดิม พระธรรมสดุดีได้รวบรวมเพลงเหล่านี้ที่เขียนขึ้นโดยกษัตริย์ดาวิดและชาวอิสราเอลทั้งหลาย เช่น โมเสส ซาโลมอน และอาสาฟ ท่ามกลางคนอื่นๆ\n* พระธรรมสดุดีถูกใช้โดยชนชาติอิสราเอลในการนมัสการพระเจ้าของพวกเขา\n* พระธรรมสดุดีสามารถใช้เพื่อแสดงความชื่นชมยินดี ความเชื่อ และความเคารพน่าถือ ตลอดจนความเจ็บปวดและความโศกเศร้า\n* ในพันธสัญญาใหม่ คริสเตียนถูกสอนให้ร้องเพลงสดุดีถวายแด่พระเจ้าเพื่อเป็นการนมัสการพระองค์" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/puffed-up.txt b/01/puffed-up.txt new file mode 100644 index 00000000..0bea6294 --- /dev/null +++ b/01/puffed-up.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "หลงตัว", + "body": "คำว่า \"หลงตัว\" เป็นคำกล่าวเชิงเปรียบเปรยที่อ้างถึงความหยิ่งหรือจองหอง (ดู: [Idiom](https://git.door43.org/Door43/en-ta-translate-vol1/src/master/content/figs_idiom.md))\n\n* บุคคลที่หลงตัวมีทัศนคติของความรู้สึกที่เหนือกว่าคนอื่นๆ\n* เปาโลได้สอนว่าการรู้ข้อมูลมากๆหรือการมีประสบการณ์ทางศาสนาสามารถนำไปสู่การ \"หลงตัว\" หรือความหยิ่งได้\n* ภาษาอื่นอาจมีสำนวนที่คล้ายกันหรือต่างกันที่แสดงถึงความหมายของคำนี้ เช่น \"มีหัวสูง\"\n* นี่สามารถแปลได้ว่า \"หยิ่งมาก\" หรือ \"ดูถูกผู้อื่น\" หรือ \"โอหัง\" หรือ \"คิดว่าตัวเองดีกว่าคนอื่น\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/punish.txt b/01/punish.txt new file mode 100644 index 00000000..fa9896bb --- /dev/null +++ b/01/punish.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ลงโทษ, การลงโทษ", + "body": "คำว่า \"ลงโทษ\" หมายถึงการทำให้ใครสักคนต้องทนทุกข์ทรมานกับผลด้านลบที่ตามมาเพราะการทำบางสิ่งบางอย่างผิด คำว่า \"การลงโทษ\" อ้างถึงผลที่ตามมาด้านลบที่ให้เป็นผลจากการประพฤติผิด\n\n* บ่อยครั้งการลงโทษมีจุดมุ่งหมายเพื่อกระตุ้นคนให้หยุดทำบาป\n* พระเจ้าได้ทรงลงโทษชาวอิสราเอลเมื่อพวกเขาไม่เชื่อฟังพระองค์ เฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขานมัสการพระเทียมเท็จ เพราะความบาปของพวกเขา พระเจ้าอนุญาตให้ศัตรูของพวกเขาโจมตีและจับพวกเขาไปเป็นเชลย\n* พระเจ้าทรงชอบธรรมและยุติธรรม พระองค์จึงต้องลงโทษความบาป มนุษย์ทุกคนได้ทำบาปต่อต้านพระเจ้าและสมควรกับการลงโทษ\n* พระเยซูถูกลงโทษเพื่อสิ่งชั่วทุกอย่างที่ทุกคนได้กระทำ พระองค์ได้รับเอาการลงโทษของแต่ละคนบนพระองค์แม้ว่าพระองค์จะทรงไม่ได้ทำผิดและไม่สมควรที่จะได้รับการลงโทษ\n* คำกล่าวที่ว่า \"ไปโดยไม่ต้องถูกลงโทษ\" หรือ \"ปล่อยไปโดยไม่ลงโทษ\" หมายถึงตัดสินใจที่ไม่ลงโทษคนสำหรับการกระทำของพวกเขา บ่อยครั้งพระเจ้าอนุญาตให้ความบาปไปไม่ถูกลงโทษในขณะที่พระองค์ทรงรอให้คนกลับใจใหม่" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/purify.txt b/01/purify.txt new file mode 100644 index 00000000..05057907 --- /dev/null +++ b/01/purify.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "บริสุทธิ์, ชำระไห้บริสุทธิ์, การชำระให้บริสุทธิ์", + "body": " \"บริสุทธิ์\" หมายถึงการไม่มีตำหนิหรือไม่มีอะไรผสมในสิ่งที่ไม่ควรจะอยู่ที่นั่น การชำระให้สะอาดแก่บางสิ่งบางอย่างเป็นการทำให้สะอาดและขจัดสิ่งปนเปื้อนหรือสิ่งที่ทำให้เป็นมลพิษออกไป\n\n* ในพันธสัญญาเดิม \"บริสุทธิ์\" และ\"การชำระให้บริสุทธิ์\" อ้างถึงการทำให้สะอาดจากสิ่งที่ทำให้สิ่งของหรือคนไม่สะอาดตามพิธีกรรม เช่นโรค ของเหลวในร่างกาย หรือการคลอดลูก\n* พันธสัญญาเดิมยังมีกฏที่บอกวิธีที่ทำให้ประชาชนบริสุทธิ์จากความบาป โดยทั่วไปจะเป็นการถวายเครื่องสัตวบูชา นี่เป็นเพียงชั่วคราวและต้องถวายเครื่องบูชาซ้ำอีกครั้งแล้วครั้งเล่า\n* ในพันธสัญญาใหม่การทำให้บริสุทธิ์บ่อยครั้งอ้างถึงการได้รับการชำระให้สะอาดจากความบาป\n* ทางเดียวที่ผู้คนจะสามารถทำให้บริสุทธิ์ได้อย่างสมบูรณ์และอย่างถาวรจากความบาปคือผ่านการกลับใจใหม่และการรับเอาการอภัยโทษจากพระเจ้าโดยผ่านทางการวางใจในพระเยซูและเครื่องบูชาของพระองค์\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำว่า \"ชำระให้บริสุทธิ์\" สามารถแปลว่า \"ทำให้บริสุทธิ์\" หรือ \"ทำให้หายสะอาด\" หรือ \"ทำให้สะอาดจากสิ่งปนเปื้อน\" หรือ \"กำจัดความบาปทั้งสิ้น\"\n* วลี เช่น \"เมื่อการทำให้บริสุทธิ์เสร็จสิ้นไป\" สามารถแปลว่า \"เมื่อพวกเขาได้ทำให้พวกเขาสะอาดบริสุทธิ์โดยการรอตามวันที่กำหนดไว้\"\n* วลี จัดเตรียมการทำให้บริสุทธิ์จากบาป\" สามารถแปลว่า \"จัดเตรียมวิธีสำหรับประชาชนให้สะอาดอย่างสมบูรณ์จากความบาปของพวกเขา\"\n* วิธีอื่นที่แปล \"การชำระให้บริสุทธิ์\" สามารถรวม \"การทำให้สะอาด\" หรือ \"การล้างฝ่ายวิญญาณ\" หรือ \"กลายเป็นสะอาดโดยพิธีกรรม\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/purple.txt b/01/purple.txt new file mode 100644 index 00000000..662c6e50 --- /dev/null +++ b/01/purple.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "สีม่วง", + "body": "คำว่า \"สีม่วง\" เป็นชื่อของสีที่ผสมกันระหว่างสีน้ำเงินและสีแดง\n\n* ในสมัยโบราณสีม่วงสีที่หายากและมีค่าสูงที่ใช้ในการย้อมเสื้อผ้าของกษัตริย์และเจ้าหน้าที่ระดับสูง\n* เนื่องจากเป็นค่าใช้สูงและใช้เวลานานในการผลิตสีย้อมนี้ เสื้อผ้าสีม่วงจึงถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่ง ความโดดเด่น และเชื้อพระวงศ์\n* สีม่วงยังเป็นสีที่ใช้ทำเป็นผ้าม่านในพลับพลาและวิหารและสำหรับเสื้อเอโฟดที่ปุโรหิตสวมใส่\n* สีย้อมสีม่วงถูกสกัดมาจากหอยทากทะเลโดยการบดหรือต้มหอยนั้นหรือทำให้พวกมันปล่อยสีย้อมในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ นี่เป็นกระบวนการที่ราคาแพง\n* ทหารโรมสวมเสื้อคลุมสีม่วงให้พระเยซูก่อนที่การถูกตรึงของพระองค์ เพื่อเยาะเย้ยพระองค์ที่พระองค์อ้างว่าทรงเป็นกษัตริย์ของชาวยิว\n* นางลิเดียจากเมืองฟิลิปปีเป็นผู้หญิงที่ดำเนินชีวิตอยู่ด้วยการขายเสื้อผ้าสีม่วง" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/push.txt b/01/push.txt new file mode 100644 index 00000000..7542675c --- /dev/null +++ b/01/push.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ผลัก", + "body": "คำว่า \"ผลัก\" ตามตัวอักษรแล้วหมายถึงการย้ายบางสิ่งบางอย่างออกไปโดยการใช้กำลัง ยังมีคำเปรียบเทียบความหมายของคำนี้อีกหลายคำ\n\n* คำกล่าว \"ผลักไสไล่ส่ง\" มีความหมายว่า \"ต่อต้าน\" หรือ \"ปฏิเสธที่จะช่วยเหลือ\"\n* การ\"ดันลง\"มีความหมายว่า \"กดขี่\" หรือ \"ข่มเหง\" หรือ \"ปราบ\" และยังสามารถมีความหมายถึงการที่บางคนถูกผลักลงไปสู่พื้นดินตามตัวอักษรก็ได้\n* การ\"ไล่ใครบางคนออก\" หมายถึง \"การกำจัดออก\" หรือ \"ไล่ออก\" คนนั้น\n* คำกล่าวที่ว่า \"เดินหน้าต่อไป\" หมายถึงการพยายามหรือดำเนินการทำบางสิ่งบางอย่างโดยที่ไม่แน่ใจว่าถูกต้องหรือปลอดภัย" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/qualify.txt b/01/qualify.txt new file mode 100644 index 00000000..d1221981 --- /dev/null +++ b/01/qualify.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "คุณสมบัติ, มีคุณสมบัติ", + "body": "คำว่า \"คุณสมบัติ\" อ้างถึงการได้สิทธิ์ที่จะได้รับผลประโยชน์บางอย่างหรือการได้รับการยอมรับว่ามีทักษะบางอย่าง\n\n* คนที่ \"มีคุณสมบัติ\" สำหรับงานพิเศษเฉพาะอย่างมีทักษะที่จำเป็นและการฝึกฝนในการทำงานนั้น\n* ในจดหมายของที่เขียนถึงคริสตจักรโคโลสี อัครสาวกเปาโลได้เขียนไว้ว่าพระเจ้าพระบิดาได้กระทำผู้เชื่อให้ \"มีคุณสมบัติ\"ในการมีส่วนร่วมในแผ่นดินแห่งความสว่างของพระองค์ นี่หมายความว่าพระเจ้าประทานทุกสิ่งที่จำเป็นในการมีชีวิตที่ชอบธรรม\n* ผู้เชื่อไม่สามารถได้รับสิทธิให้เป็นส่วนหนึ่งในแผ่นดินของพระเจ้า เขามีคุณสมบัติก็เพราะพระเจ้าได้ทรงไถ่เขาด้วยพระโลหิตของพระคริสต์\n\n# คำแนะนำในการแปล \n\n* ขึ้นอยู่กับบริบท \"มีคุณสมบัติ\" สามารถแปลว่า \"จัดหามาให้\" หรือ \"ชำนาญ\" หรือ \"สามารถ\"\n* ทำให้บางคน \"มีคุณสมบัติ\"วสใสนถแปลว่า \"จัดหา\" หรือ \"สามารถ\" หรือ \"เสริมพลัง\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/queen.txt b/01/queen.txt new file mode 100644 index 00000000..c8bb49ab --- /dev/null +++ b/01/queen.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ราชินี", + "body": "ราชินีเป็นผู้ปกครองประเทศที่เป็นสตรี หรือเป็นมเหสีของกษัตริย์\n\n* เอสเธอร์กลายเป็นราชินีแห่งอาณาจักรเปอร์เซียเมื่อตอนที่พระนางทรงอภิเษกสมรสกับกษัตริย์อาหะสุเอรัส\n* ราชินีเยเซเบลเป็นมเหสีที่ชั่วร้ายของกษัตริย์อาหับ\n* ราชินีแห่งเชบาเป็นผู้ปกครองที่มีชื่อเสียงและเป็นผู้ที่เสด็จไปเยือนกษัตริย์ซาโลมอน\n* คำว่า \"สมเด็จย่า อาธาลิยาห์\" โดยปกติอ้างถึงมารดาหรือย่าของกษัตริย์ที่กำลังปกครองอยู่ หรือ ราชินีม่ายของกษัตริย์องค์ก่อน สมเด็จย่ามีอิทธิพลมากดังที่ได้เห็นในกรณีของพระนาง\nอาธาลิยาห์ผู้มีอิทธิพลให้คนทั้งหลายนมัสการรูปเคารพ" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/quench.txt b/01/quench.txt new file mode 100644 index 00000000..dc6acc19 --- /dev/null +++ b/01/quench.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ดับ ", + "body": "คำว่า \"ดับ\" หมายถึง การทำให้ดับ หรือ หยุดบางสิ่งที่กำลังเรียกร้องที่จะทำให้พึงพอใจ\n\n* คำว่า ดับ มักใช้ในบริบทของการดับความกระหาย และหมายถึงการหยุดความกระหายด้วยการดื่มบางสิ่ง\n* คำว่า ดับ ยังสามารถอ้างถึงการดับไฟด้วย\n* ทั้งความกระหายและไฟจะดับด้วยน้ำ\n* เปาโลใช้คำว่า \"ดับ\" ในเชิงเปรียบเทียบเมื่อท่านสอนผู้เชื่อทั้งหลายไม่ให้ \"ดับพระวิญญาณบริสุทธิ์\" ซึ่งหมายถึงการไม่ทำให้คนเสียกำลังใจจากการยอมให้พระวิญญาณบริสุทธิ์เกิดผลและของประทานในชีวิตของพวกเขา ดับพระวิญญาณบริสุทธิ์หมายถึงทำบางสิ่งที่สิ่งที่ขัดขวาง\nพระวิญญาณบริสุทธิ์จากการสำแดงฤทธิ์เดชของพระองค์อย่างอิสระและทำงานในคน" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/rabbah.txt b/01/rabbah.txt new file mode 100644 index 00000000..f5d3c865 --- /dev/null +++ b/01/rabbah.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "รับบาห์", + "body": "รับบาห์เป็นเมืองที่สำคัญที่สุดของชาวอัมโมน\n\n* ในการต่อสู้กับชาวอัมโมน ชาวอิสราเอลได้โจมตีเมืองรับบาห์อยู่บ่อยครั้ง\n* กษัตริย์ของชนชาติอิสราเอล คือกษัตริย์ดาวิดได้ยึดครองเมืองรับบาห์ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองสุดท้ายที่พระองค์พิชิตได้\n* เมืองอัมมานจอร์แดนในปัจจุบันนี้เคยเป็นที่ตั้งของเมืองรับบาห์ในอดีต" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/rabbi.txt b/01/rabbi.txt new file mode 100644 index 00000000..a6ea8d42 --- /dev/null +++ b/01/rabbi.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "รับไบ ครู", + "body": "คำว่า \"รับไบ\" ตามตัวอักษรหมายถึง \"นายของข้าพเจ้า\" หรือ \"ครูของข้าพเจ้า\"\n\n* เป็นตำแหน่งที่แสดงความนับถือที่ใช้เรียกผู้ชายชาวยิวที่เป็นครูด้านศาสนา โดยเฉพาะครูผู้สอนพระบัญญัติของพระเจ้า\n* ยอห์นผู้ให้บัพติศมาและพระเยซูทั้งสองท่านนี้บางครั้งถูกเรียกว่า \"รับไบ\" โดยเหล่าสาวกของท่านทั้งสอง\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* วิธีแปลคำนี้สามารถรวมเอา \"นายของข้าพเจ้า\" หรือ \"ครูของข้าพเจ้า\" หรือ \"ครูผู้มีเกียรติ\" หรือ \"ครูด้านศาสนา\" บางภาษาอาจขึ้นต้นด้วยอักษรตัวใหญ่สำหรับคำทักทายเช่นนี้ ในขณะที่ภาษาอื่นไม่มี\n* ภาษาที่แปลอาจมีวิธีพิเศษที่บรรดาครูจะมีวิธีเรียกชื่อ\n* ให้แน่ใจว่าการแปลคำนี้จะไม่เป็นเหมือนเรียกพระเยซูเหมือนเรียกครูโรงเรียน\n* ให้พิจารณาด้วยว่า \"รับไบ\" แปลอย่างไรในพระคัมภีร์ในภาษาท้องถิ่นหรือภาษากลาง" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/rachel.txt b/01/rachel.txt new file mode 100644 index 00000000..90f02311 --- /dev/null +++ b/01/rachel.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ราเชล", + "body": "ราเชลเป็นหนึ่งในบรรดาภรรยาของยาโคบ เธอและพี่สาวของเธอ ลีอาห์เป็นบุตรสาวของลาบันผู้ซึ่งเป็นลุงของยาโคบ\n\n* ราเชลเป็นมารดาของโยเซฟและเบนยามินซึ่งลูกหลานของพวกเขากลายมาเป็นสองเผ่าในสิบสองเผ่าของชนชาติอิสราเอล\n* เป็นเวลาหลายปีที่ราเชลไม่สามารถมีบุตรได้ ดังนั้นพระเจ้าทำให้ราเชลให้กำเนิดโยเซฟ\n* หลายปีต่อมา ราเชลเสียชีวิตหลังจากให้กำเนิดเบนยามิน และยาโคบได้ฝังเธอใกล้กับเบธเลเฮม" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/rage.txt b/01/rage.txt new file mode 100644 index 00000000..24e5f7ba --- /dev/null +++ b/01/rage.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ความเดือดดาล", + "body": "ความเดือดดาลเป็นความโกรธที่มากเกินไปซึ่งไม่สามารถควบคุมได้ เมื่อบางคนโกรธจัดก็หมายความว่าบุคคลนั้นกำลังแสดงความโกรธในทางที่เป็นอันตราย\n\n* ความเดือดดาลเกิดขึ้นเมื่ออารมณ์ความโกรธทำให้บุคคลสูญเสียการควบคุมตัวเอง\n* เมื่อถูกควบคุมด้วยความโกรธจัด คนจะกระทำและพูดในสิ่งที่เป็นไปในทางทำลาย\n* คำว่า \"เดือดดาล\" สามารถอ้างถึง การเคลื่อนไหวที่มีพลัง อย่างเช่น พายุที่ \"รุนแรง\" หรือ คลื่นมหาสมุทรที่ \"ซัดไปซัดมา\"\n* คำว่า \"ชนชาติที่เดือดดาล\" หมายถึง คนทั้งหลายที่ไม่ชอบธรรมไม่เชื่อฟังพระเจ้า และต่อต้านพระองค์\n* คำว่า \"เต็มไปด้วยความเดือดดาล\" หมายถึง การมีความรู้สึกที่ท่วมท้นด้วยความโกรธที่รุนแรงมาก" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/rahab.txt b/01/rahab.txt new file mode 100644 index 00000000..3ea23d36 --- /dev/null +++ b/01/rahab.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ราหับ", + "body": "ราหับเป็นผู้หญิงที่อาศัยอยู่ในเมืองเยรีโคเมื่อคนอิสราเอลโจมตีเมืองเยรีโค และเธอเป็นหญิงโสเภณี\n\n* ราหับได้ซ่อนคนอิสราเอลสองคนที่มาสอดแนมเมืองเยรีโคก่อนที่อิสราเอลจะโจมตีเมืองนั้น นางราหับได้ช่วยให้คนอิสราเอลสองคนนี้หนีกลับไปที่ค่ายของอิสราเอล\n* ราหับได้กลายเป็นผู้เชื่อในพระยาห์เวห์\n* เธอและครอบครัวของเธอได้รับการไว้ชีวิตเมื่อเมืองเยรีโคถูกทำลายและพวกเขาทั้งหมดได้มาอาศัยอยู่กับชาวอิสราเอล" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/raise.txt b/01/raise.txt new file mode 100644 index 00000000..6f20d598 --- /dev/null +++ b/01/raise.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ยกขึ้น, ขึ้น, ได้ขึ้นแล้ว, เกิดขึ้น, ก่อให้เกิดขึ้น", + "body": "ยกขึ้น และ ยกขึ้น โดยทั่วไปแล้ว คำว่า \"ยกขึ้น\" หมายถึง \"ชูขึ้น\" หรือ \"ทำให้สูงขึ้น\"\n\n* วลีเชิงเปรียบเทียบของ \"ยกขึ้นสูง\" หมายถึง ทำให้บางสิ่งมีขึ้น หรือ ปรากฎขึ้น และ สามารถหมายถึง แต่งตั้งบางคนให้ทำบางสิ่ง\n* บางครั้งคำว่า \"ยกขึ้น\" หมายถึง \"นำกลับคืนมา\" หรือ \"สร้างใหม่\" \n* คำว่า \"ยกขึ้น\" มีความหมายพิเศษในสำนวนที่บอกว่า \"เป็นขึ้นจากความตาย\" หมายถึง ทำให้คนตายกลับมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง\n* บางครั้ง \"ยกขึ้น\" หมายถึง \"ยกย่อง\" บางคน หรือ บางสิ่ง\n\n\"เป็นขึ้น\" หรือ \"ลุกขึ้น\" หมายถึง \"ขึ้นไป\" หรือ \"ยืนขึ้น\" คำว่า \"ฟื้นขึ้นมาแล้ว\" \"ลุกขึ้นมาแล้ว\" และ \"เกิดขึ้นแล้ว\" คำเหล่านี้ใช้ในการกล่าวถึงการกระทำในอดีต\n* เมื่อบุคคลยืนขึ้นเพื่อไปที่แห่งหนึ่ง การทำเช่นนี้แสดงว่า \"เขาได้ลุกขึ้นและได้ไปแล้ว\" หรือ \"เขาได้ยืนขึ้นและได้ไปแล้ว\"\n* ถ้าบางสิ่งบางอย่าง \"ปรากฏขึ้น\" หมายความว่า สิ่งนั้น \"เกิดขึ้น\" หรือ \"เริ่มเกิดขึ้น\"\n* พระเยซูได้ทรงทำนายว่า พระองค์จะทรง \"ฟื้นขึ้นจากความตาย\" สามวันหลังจากพระเยซูเสด็จสวรรคตทูตสวรรค์ได้กล่าวว่า \"พระองค์ได้ทรงฟื้นขึ้นมาแล้ว\"\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำว่า \"ยกขึ้น\" หรือ \"ยกขึ้นสูง\" สามารถแปลว่าได้ว่า \"ชูขึ้น\" หรือ \"ทำให้สูงขึ้น\"\n* \"ยกขึ้นสูง\" สามารถแปลว่า \"ทำให้ปรากฏขึ้น\" หรือ \"แต่งตั้ง\" หรือ \"นำมาให้ปรากฏ\"\n* \"ยกกำลังของศัตรูของท่านขึ้นสูง\" สามารถแปลว่า \"ทำให้ศัตรูของท่านเข้มแข็งมาก\"\n* วลี \"ยกบางคนให้ฟื้นจากความตาย\" สามารถแปลว่า \"เป็นเหตุให้บางคนกลับมาจากความตายสู่ชีวิต\" หรือ \" เป็นเหตุให้บางคนกลับมามีชีวิต\"\n* ขึ้นอยู่กับบริบท \"ยกขึ้นสูง\" สามารถแปลว่า \"จัดเตรียม\" หรือ \"แต่งตั้ง\" หรือ \"เป็นเหตุให้มี\" หรือ \"สร้างขึ้นใหม่\" หรือ \"ซ่อม\"\n* วลี \"ก่อให้เกิดขึ้นและได้ไป\" สามารถแปลว่า \"ลุกขึ้นและได้ไป\" หรือ \"ได้ไป\"\n* ขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า \"ก่อให้เกิดขึ้น\" สามารถแปลว่า \"ได้เกิดขึ้น\" หรือ \"ได้เริ่มขึ้น\" หรือ \"ได้ตื่นขึ้น\" หรือ \"ได้ยืนขึ้น\"\n\n\n\n\n\n\n\n\n\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/ramah.txt b/01/ramah.txt new file mode 100644 index 00000000..75adee1d --- /dev/null +++ b/01/ramah.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "รามาห์", + "body": "รามาห์เป็นเมืองโบราณของชาวอิสราเอล ตั้งอยู่ประมาณ 8 กิโลเมตรจากกรุงเยรูซาเล็ม เมืองรามาห์อยู่ในดินแดนที่ที่เผ่าเบนยามินได้อาศัยอยู่\n\n* เมืองรามาห์เป็นสถานที่ที่นางราเชลตายหลังจากให้กำเนิดเบนยามินแล้ว\n* ตอนที่ชนชาติอิสราเอลถูกวาดต้อนไปเป็นเชลยที่บาบิโลน พวกเขาถูกนำไปที่เมืองรามาห์ก่อนที่จะย้ายไปที่เมืองบาบิโลน\n* รามาห์เป็นถิ่นกำเนิดของมารดาและบิดาของซามูเอล" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/ramoth.txt b/01/ramoth.txt new file mode 100644 index 00000000..946b8ef0 --- /dev/null +++ b/01/ramoth.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": " ราโมธ", + "body": "ราโมธ เป็นเมืองสำคัญเมืองหนึ่งที่อยู่บนภูเขากิเลอาดใกล้กับแม่น้ำจอร์แดน มันถูกเรียกว่า ราโมธกิเลอาดด้วย\n\n* ราโมธเป็นเมืองของอิสราเอลเผ่ากาดและได้ถูกออกแบบให้เป็นเมืองลี้ภัย\n* กษัตริย์อาหับแห่งอิสราเอลและกษัตริย์เยโฮชาฟัทแห่งยูดาห์ได้ร่วมกันต่อสู้กับกษัตริย์แห่งอารัมที่เมืองราโมธ กษัตริย์อาหับถูกฆ่าตายในสงครามนั้น\n* เวลาต่อมา กษัตริย์อาหัสยาห์ และ กษัตริย์โยรัมได้พยายามชิงเอาเมืองราโมธจากกษัตริย์แห่งอารัม\n* ราโมธกิเลอาดเป็นที่ที่เยฮูถูกเจิมให้เป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอล" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/ransom.txt b/01/ransom.txt new file mode 100644 index 00000000..78489bea --- /dev/null +++ b/01/ransom.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ค่าไถ่", + "body": "คำว่า \"ค่าไถ่\" หมายถึง จำนวนเงิน หรือ การจ่ายสิ่งอื่นๆ ที่ถูกบังคับ หรือ ได้จ่ายเพื่อการปลดปล่อยบุคคลจากการถูกจับตัว\n\n* คำว่า \"ไถ่\" ในฐานะที่เป็นคำกริยา หมายถึง ทำการชำระเงิน หรือ ทำบางสิ่งที่เป็นการเสียสละตนเองเพื่อช่วยกู้บางคนจากการถูกจับตัว เป็นทาส หรือ จำคุก คำหมายของคำว่า \"ซื้อคืน\" คล้ายกับความหมายของคำว่า \"ไถ่คืน\"\n* พระเยซูได้อนุญาตให้พระองค์เองถูกฆ่าเพื่อเป็นค่าไถ่ปลดปล่อยประชาชนจากการเป็นทาสของบาป การกระทำเช่นนี้ของพระเจ้าซื้อคืนคนของพระองค์ผ่านทางการชำระค่าโทษความบาปของพวกเขา เรียกว่า \"การไถ่บาป\" ด้วยในพระคัมภีร์\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำว่า \"ไถ่\" สามารถแปลว่า \"จ่ายเพื่อให้ปล่อย\" หรือ \"จ่ายราคาเพื่อเป็นอิสระ\" หรือ \"ซื้อคืนบางคน\"\n* วลี \"จ่ายค่าไถ่\" สามารถแปลว่า \"จ่ายค่าราคา\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/reap.txt b/01/reap.txt new file mode 100644 index 00000000..02f29e2a --- /dev/null +++ b/01/reap.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เก็บเกี่ยว, ผู้เก็บเกี่ยว", + "body": "คำว่า \"เก็บเกี่ยว\" หมายถึง การเกี่ยวเก็บพืชผลอย่างเช่น เมล็ดข้าว \"ผู้เก็บเกี่ยว\"เป็นคนที่เกี่ยวเก็บพืชผล\n\n* โดยปกติผู้เก็บเกี่ยวจะเกี่ยวเก็บพืชผลด้วยมือ ดึงพืชผลขึ้นมา หรือ การตัดพวกมันด้วยเครื่องมือที่คม\n* แนวคิดของการเก็บเกี่ยวพืชผลมักจะถูกใช้เชิงเปรียบเทียบหมายถึง การบอกคนทั้งหลายถึงข่าวประเสริฐของพระเยซูและนำคนทั้งหลายมาสู่ครอบครัวของพระเจ้า\n* คำว่า เก็บเกี่ยว ยังใช้ในเชิงเปรียบเทียบอ้างถึง ผลลัพธ์ที่มาจากการกระทำของบุคคล เช่นเดียวกับคำพูดที่ว่า \"คนจะเก็บเกี่ยวในสิ่งที่เขาปลูกไว้\" (ดู: [Metaphor](https://git.door43.org/Door43/en-ta-translate-vol1/src/master/content/figs_metaphor.md))\n* วิธีอื่นๆที่จะแปลคำว่า \"เก็บเกี่ยว\" และ \"ผู้เก็บเกี่ยว\" สามารถรวมถึง \"การเกี่ยวเก็บ\" และ \"ผู้เกี่ยวเก็บ\" (หรือ \"คนเกี่ยวเก็บ\") ( ดู link to \"harvest\" page for more translation suggestions.)" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/rebekah.txt b/01/rebekah.txt new file mode 100644 index 00000000..94a0c222 --- /dev/null +++ b/01/rebekah.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เรเบคาห์", + "body": "เรเบคาห์เป็นหลานสาวของน้องชายอับราฮัมที่มีชื่อว่า นาโฮร์\n\n* พระเจ้าได้เลือกเรเบคาห์ให้เป็นภรรยาของบุตรชายอับราฮัม คือ อิสอัค\n* เรเบคาห์ได้ออกจากดินแดนฮารัมนาฮาราอิมที่เธออาศัยอยู่และไปกับคนใช้ของอับราฮัมสู่ดินแดนเนเกบซึ่งเป็นที่ที่อิสอัคอาศัยอยู่\n* เป็นเวลาหลายปีที่นางเรเบคาห์ไม่มีบุตร แต่ในที่สุดพระเจ้าก็อวยพรเธอโดยการประทานบุตรแฝดชายที่มีชื่อว่า เอซาวและยาโคบ" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/rebel.txt b/01/rebel.txt new file mode 100644 index 00000000..f6bf8e3d --- /dev/null +++ b/01/rebel.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ผู้ก่อการกบฏ, ก่อการจราจล, การก่อกบฏ", + "body": "คำว่า \"ผู้ก่อการกบฏ\" หมายถึง การปฏิเสธยินยอมต่ออำนาจของบางคน คนที่\"ก่อกบฏ\" มักไม่เชื่อฟังและกระทำสิ่งชั่วร้าย คนประเภทนี้เรียกว่า \"ผู้ก่อการกบฏ\"\n\n* บุคคลกำลังก่อกบฏเมื่อเขากระทำบางสิ่งที่ผู้มีอำนาจเหนือเขาสั่งเขาไม่ให้ทำ\n*บุคคลสามารถก่อกบฏโดยการปฏิเสธที่จะกระทำตามในสิ่งที่ผู้มีอำนาจได้บัญชาเขา\n* บางครั้งประชาชนก่อกบฏต่อรัฐบาล หรือ ผู้นำที่กำลังปกครองเหนือพวกเขา\n* คำว่า \"ก่อกบฏ\" สามารถแปลได้อีกว่า \"ไม่เชื่อฟัง\" หรือ \"ก่อจราจล\" ขึ้นอยู่กับบริบท\n* คำว่า \"ก่อการรจราจล\" สามารถแปลได้อีกว่า \"การไม่เชื่อฟังอย่างต่อเนื่อง\" หรือ \"การปฏิเสธที่จะเชื่อฟัง\"\n* วลี \"ก่อการจราจล\" หมายถึง \"การปฏิเสธที่จะเชื่อฟัง\" หรือ \"การไม่เชื่อฟัง\" หรือ \"การละเมิดกฎหมาย\"\n* วลี \"การก่อกบฏ\" หรือ \"การก่อกบฏ\" สามารถหมายถึง กลุ่มคนที่ได้จัดตั้งขึ้นมาเป็นผู้ที่ก่อกบฏต่อผู้มีอำนาจที่ปกครองอยู่โดยการละเมิดกฎหมายและการโจมตีผู้นำและคนอื่นๆ บ่อยครั้งพวกเขาจะพยายามหาคนอื่นๆ มาร่วมกับพวกเขาในการก่อการกบฏด้วย :( ดู ด้วยเช่นกัน : [authority](../kt/authority.md) · [governor](../other/governor.md))" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/rebuke.txt b/01/rebuke.txt new file mode 100644 index 00000000..9521588a --- /dev/null +++ b/01/rebuke.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ดุด่าว่ากล่าว", + "body": "การดุด่าว่ากล่าว เป็นการให้บางคนแก้ไขด้วยคำพูดอย่างเข้มงวด บ่อยครั้งเพื่อช่วยบุคคลนั้นให้หันกลับจากบาป\n\n* ในพันธสัญญาใหม่ สั่งให้คริสเตียนดุด่าว่ากล่าวผู้เชื่อคนอื่นๆ เมื่อพวกเขาไม่เชื่อฟังพระเจ้าอย่างเห็นได้ชัด\n* พระธรรมสุภาษิตสอนบิดามารดาทั้งหลายให้ดุด่าว่ากล่าวบุตรทั้งหลายของพวกเขาเมื่อพวกเขาไม่เชื่อฟัง\n* การดุด่าว่ากล่าว โดยทั่วไปแล้วเป็นการป้องกันคนกระทำความผิดจากการเอาตัวเองเกี่ยวพันในความบาปมากขึ้น\n* นี่สามารถแปลว่า \"แก้ไขให้อย่างเข้มงวด\" หรือ \"ตักเตือน\"\n* วลี \"ดุด่าว่ากล่าว\" สามารถแปลได้เป็น \"การแก้ไขให้อย่างเข้มงวด\" หรือ \"การติเตียนอย่างรุนแรง\"\n* คำว่า \"ปราศจากการดุด่าว่ากล่าว\" สามารถแปลว่า \"ปราศจากการตักเตือน\" หรือ \"ปราศจากการติเตียน\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/receive.txt b/01/receive.txt new file mode 100644 index 00000000..d36a3734 --- /dev/null +++ b/01/receive.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "รับเอา", + "body": "คำว่า \"รับเอา\" โดยทั่วไปแล้ว หมายถึง การรับเอาบางสิ่งที่ได้มีการให้ เสนอ หรือ มอบให้\n\n* การ\"รับเอา\"สามารถหมายถึง ทนทุกข์ หรือ มีประสบการณ์ต่อบางสิ่ง อย่างเช่น \"เขาได้รับการลงโทษในสิ่งที่เขาได้ทำไว้\"\n* แล้วยังมีความหมายพิเศษอีกหนึ่งอย่างซึ่งเราสามารถ \"รับ\" บุคคลหนึ่งด้ ตัวอย่างเช่น การ \"รับ\" แขกทั้งหลาย หรือ ผู้มาเยี่ยมเยือน หมายถึงการต้อนรับพวกเขาและปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างให้เกียรติเพื่อจะสร้างความสัมพันธ์กับพวกเขา\n* การ \"รับของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์\" หมายถึง เราได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์ และต้อนรับพระองค์ให้ทำงานภายในเราและผ่านทางชีวิตของเรา\n* การ \"รับเอาพระเยซู\" หมายถึง การรับข้อเสนอแห่งความรอดของพระเจ้าผ่านทางพระเยซูคริสต์\n* เมื่อคนตาบอด\"ได้รับสายตาของเขา\" หมายถึง พระเจ้าได้เยียวยารักษาเขาและทำให้เขามองเห็นได้\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ขึ้นอยู่กับบริบท \"รับ\" สามารถแปลว่า \"ยอมรับ\" หรือ \"ต้อนรับ\" หรือ \"มีประสบการณ์\" หรือ \"ได้ถูกให้\"\n* คำกล่าว \"ท่านจะได้รับอำนาจ\" สามารถแปลว่า \"ท่านจะถูกได้รับอำนาจ\" หรือ \"พระเจ้าจะให้อำนาจแก่ท่าน\" หรือ \"อำนาจจะถูกมอบให้แก่ท่าน\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/reconcile.txt b/01/reconcile.txt new file mode 100644 index 00000000..581357a1 --- /dev/null +++ b/01/reconcile.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "คืนดี, การคืนดี", + "body": "คำว่า \"คืนดี\" และ \"การคืนดี\" อ้างถึง \"การสร้างสันติภาพ\" ระหว่างคนที่เคยเป็นศัตรูกันมาก่อน\n\n* ในพระคำภีร์ คำนี้มักอ้างถึง การที่พระเจ้าให้คนคืนดีกับพระองค์ผ่านทางการถวายบูชาของพระเยซูคริสต์พระบุตรของพระองค์\n* เพราะว่าความบาป ทุกคนจึงเป็นศัตรูกับพระเจ้า แต่เพราะความรักที่เปี่ยมด้วยพระเมตตาของพระองค์ พระเจ้าได้จัดเตรียมหนทางสำหรับคนทั้งหลายเพื่อการคืนดีกับพระองค์ผ่านทางพระเยซู\n* ผ่านทางการเชื่อไว้วางใจในการถวายบูชาของพระเยซูเพื่อเป็นการจ่ายค่าความบาปของพวกเขา คนทั้งหลายสามารถได้รับการอภัยและมีสันติกับพระองค์\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำว่า \"คืนดี\" สามารถและว่า \"ทำสันติภาพ\" หรือ \"นำความสัมพันธ์อันดีกลับคืนมา\" หรือ \"สร้างสันติ\" หรือ \"ทำให้เป็นเพื่อนกัน\"\n* คำว่า \"การคืนดีกัน\" สามารถแปลว่า \"นำเอาความสัมพันธ์อันดีกลับคืนมา\" หรือ \"สร้างสันติ\" หรือ \"ทำให้เกิดความสัมพันธ์อย่างสันติ\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/redeem.txt b/01/redeem.txt new file mode 100644 index 00000000..c38399de --- /dev/null +++ b/01/redeem.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ไถ่, การไถ่, ผู้ไถ่", + "body": "คำว่า \"ไถ่\" และ \"การไถ่\" อ้างถึง การซื้อคืนบางสิ่งที่ถูกครอบครองหรือถูกจับกุมไว้ \"ผู้ไถ่\"คือคนไถ่ถอนบางสิ่งหรือบางคน\n\n* พระเจ้าประทานบัญญัติให้แก่ชาวอิสราเอลในเรื่องเกี่ยวกับการไถ่คนหรือสิ่งของ\n* ตัวอย่างเช่น บางคนสามารถไถ่บุคคลที่ตกเป็นทาสโดยการจ่ายราคาเพื่อจะให้ทาสเป็นไท คำว่า \"ไถ่ตัว\" ก็อ้างถึงการปฏิบัติเช่นนี้ด้วย\n* ถ้าที่ดินของบางคนได้ถูกขายไป ญาติพี่น้องของบุคคลนั้นสามารถ \"ไถ่\" หรือ \"ซื้อคืน\" ที่ดินผืนนั้นเพื่อจะให้ที่ดินผืนนั้นเป็นของครอบครัวต่อไป\n* การปฏิบัติเช่นนี้แสดงให้เห็นการที่พระเจ้าไถ่คนทั้งหลายที่ตกเป็นทาสแห่งความบาปอย่างไร เมื่อพระเยซูทรงสวรรคตบนไม้กางเขน พระองค์ได้จ่ายราคาเต็มสำหรับความบาปของคนทั้งหลายและไถ่ทุกคนที่เชื่อไว้วางใจในพระองค์เพื่อความรอด คนทั้งหลายที่ถูกไถ่โดยพระเจ้าจะเป็นไทจากความบาปและการลงโทษ\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า \"ไถ่\" สามารถแปลว่า \"ซื้อคืน\" หรือ \"จากให้เป็นไท\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/redsea.txt b/01/redsea.txt new file mode 100644 index 00000000..dbaaa859 --- /dev/null +++ b/01/redsea.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ทะเลต้นกก ทะเลแดง", + "body": "ทะเลต้นกก\" เป็นชื่อของทะเลตั้งอยู่ระหว่างอียิปต์และอาระเบีย ปัจจุบันนี้เรียกว่า \"ทะเลแดง\"\n\n* ทะเลแดงเป็นทะเลที่ยาวและแคบ เป็นทะเลที่ใหญ่กว่าทะเลสาบ หรือ แม่น้ำ แต่เล็กกว่ามหาสมุทรมาก\n* ชนชาติอิสราเอลต้องข้ามทะเลแดงเมื่อพวกเขาหลบหนีออกจากอียิปต์ พระเจ้าได้กระทำการอัศจรรย์และทำให้น้ำในแม่น้ำแยกออก ดังนั้นประชาชนจึงสามารถเดินข้ามบนพื้นดินแห้งได้\n* แผ่นดินคานาอันอยู่ทางเหนือของทะเลแห่งนี้\n* นี่สามารถแปลเป็น \"ทะเลต้นกก\" ได้เช่นกัน" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/reed.txt b/01/reed.txt new file mode 100644 index 00000000..d1acfd67 --- /dev/null +++ b/01/reed.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ต้นกก, เหล่าต้นกก", + "body": "คำว่า \"ต้นกก\" อ้างถึงพืชที่มีลำต้นยาวที่ขึ้นในน้ำ โดยปกติแล้วจะขึ้นตามริมแม่น้ำหรือลำธาร\n\n* ต้นกกที่ขึ้นในแม่น้ำไนล์ที่ที่โมเสสถูกซ่อนไว้ตอนเป็นเด็กทารก เรียกว่า \"ต้นแฝก\"ด้วย ต้นแฝกจะสูง ลำต้นกลวง เติบโตเป็นกลุ่มแน่นหนาในน้ำในแม่น้ำ\n*คนอียีปต์โบราณได้ใช้พืชที่เป็นเยื่อเหล่านี้ในการทำ กระดาษ ตะกร้า และ เรือ\n* ก้านของต้นกกมีความยืดหยุ่นและงอได้ง่ายโดยลม" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/refuge.txt b/01/refuge.txt new file mode 100644 index 00000000..92f59d38 --- /dev/null +++ b/01/refuge.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ที่ลี้ภัย ที่กำบัง", + "body": "คำว่า \"ที่ลี้ภัย\" หมายถึง สถานที่ หรือสภาวะที่ปลอดภัยและการป้องกัน \"ที่กำบัง\" หมายถึงโครงสร้างทางกายภาพที่ปกป้องจากสภาพอากาศ หรือ อันตราย\n\n* ในพระคัมภีร์บ่อยครั้งพระเจ้าถูกอ้างถึงดั่งเช่นที่ลี้ภัยที่คนของพระองค์จะปลอดภัย ได้รับการปกป้อง และดูแล\n* คำว่า \"เมืองแห่งที่ลี้ภัย\" ในพันธสัญญาเดิมอ้างถึง เมืองบางเมืองที่บุคคลที่ได้ฆ่าคนตายโดยไม่ตั้งใจสามารถวิ่งเข้าไปเพื่อรับการปกป้องจากประชาชนที่จะโจมตีเขาเพื่อแก้แค้น\n* \"ที่กำบัง\" มักเป็นโครงสร้างทางกายภาพ อย่างเช่นอาคาร หรือ หลังคาที่สามารถจัดเตรียมการปกป้องให้แก่คนหรือสัตว์\n* บางครั้ง \"ที่กำบัง\" หมายถึง \"การปกป้อง\" ดั่งเช่นตอนที่โลทกล่าวว่า แขกของท่าน \"อยู่ภายใต้ที่กำบัง\" ของหลังคาบ้านเขา เขากำลังพูดว่าพวกเขาควรปลอดภัยเพราะพวกเขาอยู่ในบ้านของเขา\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำว่า \"ที่ลี้ภัย\" สามารถแปลว่า \"สถานที่ปลอดภัย\" หรือ \"สถานที่ของการป้องกัน\"\n* ขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า \"ที่กำบัง\" สามารถแปลว่า \"บางสิ่งที่ป้องกัน\" หรือ \"การป้องกัน\" หรือ \"สถานที่มีการป้องกัน\"\n* นี่อ้างถึงโครงสร้างทางกายภาพ \"ที่กำบัง\" สามารถแปลว่า \"อาคารที่ป้องกัน\"\n* วลี \"ไปยังที่กำบังที่ปลอดภัย\" สามารถแปลได้ว่า \"ไปยังสถานที่ปลอดภัย\" หรือ \"ไปยังสถานที่จะป้องกัน\"\n* แสวงหาที่กำบัง\" หรือ \"รับเอาที่กำบัง\" หรือ \"รับเอาที่ลี้ภัย\" สามารถแปลว่า \"หาสถานที่แห่งความปลอดภัย\" หรือ \"เอาตัวเองเข้าไปในสถานที่ป้องกัน\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/rehoboam.txt b/01/rehoboam.txt new file mode 100644 index 00000000..cc967c16 --- /dev/null +++ b/01/rehoboam.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เรโหโบอัม ", + "body": "เรโหโบอัมเป็นหนึ่งในบรรดาโอรสของกษัตริย์ซาโลมอนและกลายเป็นกษัตริย์ของชนชาติอิสราเอลหลังจากที่ซาโลมอนตาย\n\n* ช่วงแรกในการครองราชย์ของพระองค์ เรโหโบอัมได้รุนแรงต่อประชากรของพระองค์ ดังนั้น คนอิสราเอลสิบเผ่าได้กบฏต่อพระองค์และได้ตั้ง \"อาณาจักรแห่งอิสราเอล\" ที่ทางเหนือ\n* เรโหโบอัมยังได้ปกครองต่อเนื่องเป็นกษัตริย์แห่งอาณาจักรใต้ของ\nยูดาห์ซึ่งประกอบไปด้วยสองเผ่า คือเผ่ายูดาห์และเบนยามิน\n* เรโหโบอัม เป็นกษัตริย์ที่ชั่วร้าย ผู้ที่ไม่เชื่อฟังพระยาเวห์ แต่กลับนมัสการบรรดาพระเทียมเท็จ" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/reign.txt b/01/reign.txt new file mode 100644 index 00000000..35fd2584 --- /dev/null +++ b/01/reign.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ปกครอง", + "body": "คำว่า \"ปกครอง\" หมายถึง การปกครองเหนือประชากรในประเทศหรือ อาณาจักรหนึ่งในฐานะกษัตริย์องค์หนึ่ง การครองราชย์ของกษัตริย์องค์หนึ่ง คือ ช่วงเวลาที่พระองค์กำลังปกครองอยู่\n\n* คำว่า \"ปกครอง\" ใช้ในการอ้างถึงพระเจ้าทรงปกครองในฐานะกษัตริย์เหนือโลก\n* พระเจ้าทรงอนุญาตให้กษัตริย์ที่เป็นมนุษย์ปกครองเหนืออิสราเอลเมื่อพวกเขาปฏิเสธพระองค์ว่าเป็นกษัตริย์ของพวกเขา\n* เมื่อพระเยซูคริสต์เสด็จกลับมาอีกครั้ง พระองค์จะทรงปกครองอย่างเปิดเผยในฐานะกษัตริย์ทั่วโลกและคริสเตียนทั้งหลายจะปกครองร่วมกับพระองค์ด้วย\n*คำนี้ สามารถแปลว่า \"การปกครองที่สมบูรณ์แบบ\" หรือ \"ปกครองในฐานะกษัตริย์\" หรือ \"ครอบครองในฐานะกษัตริย์\" \n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/reject.txt b/01/reject.txt new file mode 100644 index 00000000..8c05cd22 --- /dev/null +++ b/01/reject.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ปฏิเสธ", + "body": "การ \"ปฏิเสธ\" บางคน หรือบางสิ่ง หมายถึง ปฏิเสธไม่ยอมรับบุคคลนั้นหรือสิ่งนั้น\n\n* คำว่า \"ปฏิเสธ\" สามารถหมายถึง \"ปฏิเสธที่จะเชื่อใน\" บางสิ่ง\n* การปฏิเสธพระเจ้าหมายถึง การไม่ยอมเชื่อฟังพระองค์\n* เมื่อชนชาติอิสราเอลได้ปฏิเสธความเป็นผู้นำของโมเสส นั่นหมายถึง พวกเขากำลังกบฏต่ออำนาจของเขา พวกเขาไม่อยากเชื่อฟังเขา\n* ชนชาติอิสราเอลได้แสดงให้เห็นว่าพวกเขากำลังปฏิเสธพระเจ้าเมื่อพวกเขานมัสการเหล่าพระเทียมเท็จ\n* คำว่า \"ผลักไส\" เป็นความหมายที่แท้จริงของคำนี้ ในภาษาอื่นๆ อาจจะมีคำกล่าวที่คล้ายกันที่มีความหมายว่า ไม่ยอมรับ หรือ ปฎิเสธที่จะเชื่อบางคนหรือบางสิ่ง\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า \"ปฎิเสธ\" สามารถแปลว่า \"ไม่ยอมรับ\" หรือ \"หยุดข่วยเหลือ\" หรือ \"ปฏิเสธที่จะเชื่อ\" หรือ \"หยุดการเชื่อ\"\n* ในคำกล่าว \"ก้อนหินที่ช่างก่อได้ปฏิเสธ\" คำว่า \"ได้ปฏิเสธ\" สามารถแปลว่า \"ปฏิเสธที่จะใช้\" หรือ \"ไม่ได้ยอมรับ\" หรือ \"ขว้างทิ้ง\" หรือ \"กำจัดไปเหมือนสิ่งไม่มีค่า\"\n* ในบริบทของประชาชนปฏิเสธประบัญญัติของพระเจ้า นี่สามารถแปลว่า \"ปฏิเสธที่จะเชื่อฟัง\" คำสั่งของพระองค์\" หรือ \"เลือกอย่างดื้อดึงที่ไม่ยอมรับ\" พระบัญญัติของพระเจ้า" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/rejoice.txt b/01/rejoice.txt new file mode 100644 index 00000000..14a5b193 --- /dev/null +++ b/01/rejoice.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": " ชื่นชมยินดี", + "body": "คำว่า \"ชื่นชมยินดี\" หมายถึง การเต็มล้นไปด้วยความสุขใจและความยินดี\n\n*คำนี้ บ่อยครั้งอ้างถึง การมีความสุขมากเกี่ยวกับสิ่งดีๆ ที่พระเจ้าได้ทรงกระทำไว้\n* คำนี้สามารถเเปลได้เป็น \"มีความสุขมาก\" หรือ \"มีความยินดีมาก\" หรือ \"เต็มล้นด้วยความชื่นชมยินดี\"\n* เมื่อมารีย์ได้กล่าวว่า \"จิตวิญญาณของข้าพเจ้ายินดีในพระเจ้าผู้เป็นพระผู้ช่วยให้รอดของข้าพเจ้า\" เธอหมายถึง \"พระเจ้าพระผู้ช่วยให้รอดของข้าพเจ้าได้กระทำให้ข้าพเจ้ามีความสุขใจมาก\" หรือ \"ข้าพเจ้ารู้สึกปลื้มปีติในสิ่งที่พระเจ้าพระผู้ช่วยให้รอดของข้าพเจ้าได้กระทำเพื่อข้าพเจ้า\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/remnant.txt b/01/remnant.txt new file mode 100644 index 00000000..60b87531 --- /dev/null +++ b/01/remnant.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "คนที่เหลืออยู่ ", + "body": "คำว่า \"คนที่เหลืออยู่\" ตามตัวอักษรอ้างถึง คนหรือสิ่งของที่ \"ยังเหลืออยู่\" หรือ \"สิ่งที่เหลือ\"จากปริมาณที่มากกว่า หรือจากกลุ่ม\n\n* บ่อยครั้ง คำว่า \"คนที่เหลืออยู่\" อ้างถึง ประชาชนที่รอดชีวิตจากสถานการณ์ที่เป็นอันตรายถึงชีวิต หรือ คนที่คงอยู่อย่างสัตย์ซื่อในพระเจ้าในขณะที่กำลังเผชิญกับการข่มเหง\n* อิสยาห์ ได้อ้างถึง กลุ่มชาวยิวในฐานะคนที่รอดชีวิตที่เหลืออยู่จากการโจมตีจากคนภายนอกและได้มีชีวิตอยู่เพื่อกลับไปที่ดินแดนที่ทรงสัญญาในคานาอัน\n* เปาโลพูดเกี่ยวกับการเป็น \"คนที่เหลืออยู่\" ของประชาชนที่ถูกเลือกไว้โดยพระเจ้าเพื่อรับพระคุณของพระองค์\n* คำว่า \"คนที่เหลืออยู่\" แสดงว่า ยังมีคนอื่นอีกหลายคนที่ไม่ได้คงอยู่อย่างสัตย์ซื่อ หรือไม่ได้รอดชีวิต หรือ คนที่ไม่ได้ถูกเลือก\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* วลี อย่างเช่น \"คนที่เหลืออยู่ของประชาชนนี้\" สามารถแปลว่า \"ส่วนที่เหลืออยู่ของประชาชนเหล่านี้\" หรือ \" ประชาชนผู้ที่เหลืออยู่อย่างสัตย์ซื่อ\" หรือ \"ประชาชนผู้ถูกทิ้งไว้\"\n* คนที่เหลืออยู่ทั้งหมดของประชาชน\" สามารถแปลว่า \"ทุกคนที่เหลืออยู่ของประชาชน\" หรือ \"ประชาชนที่เหลืออยู่\"\n\n\n\n\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/renown.txt b/01/renown.txt new file mode 100644 index 00000000..3fc06bf8 --- /dev/null +++ b/01/renown.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ชื่อเสียง มีชื่อเสียง", + "body": "คำว่า \"ชื่อเสียง\" อ้างถึง การเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงสมควรสรรเสริญ\n\n* บุคคลที่ \"มีชื่อเสียง\" เป็นคนที่เป็นที่รู้จักและน่าเคารพเป็นอย่างยิ่ง\n* คำว่า \"ชื่อเสียง\" เฉพาะอย่างยิ่ง อ้างถึง ชื่อเสียงที่ดีที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในช่วงเวลาที่ยาวนาน\n* เมืองที่ \"มีชื่อเสียง\" บ่อยครั้งเป็นเมืองที่เป็นที่รู้จักในด้านความมั่งคั่งและความเจริญรุ่งเรือง\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำว่า \"ชื่อเสียง\" สามารถแปลว่า \"เลื่องลือ\" หรือ \"ชื่อเสียงน่านับถือ\" หรือ \"ความยิ่งใหญ่ที่เป็นที่รู้จักโดยคนเป็นอันมาก\"\n* คำว่า \"มีชื่อเสียง\" สามารถแปลว่า \"เป็นที่รู้จักและยอมรับอย่างยิ่ง\" หรือ \"มีชื่อเสียงดีเยี่ยม\"\n* คำกล่าว \"ขอให้พระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้ามีชื่อเสียงในอิสราเอล\" สามารถแปลได้ว่า \"ขอให้พระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้าและได้รับเกียรติโดยประชาชนอิสราเอล\"\n* วลี \"พวกผู้ชายของการมีชื่อเสียง\" สามารถแปลว่า \"พวกผู้ชายที่เป็นที่รู้จักดีสำหรับความกล้าหาญ\" หรือ \"นักรบผู้มีชื่อเสียง\" หรือ \"ผู้ชายทั้งหลายที่ได้รับการยอมรับสูงมาก\"\n* คำกล่าว \"ชื่อเสียงความอดทนของท่านตลอดทุกชั่วอายุ\" สามารถแปลว่า \"ตลอดระยะเวลาหลายปีประชาชนจะได้ยินเกี่ยวกับว่าท่านยิ่งใหญ่อย่างไร\" หรือ \"ความยิ่งใหญของท่านได้เป็นที่ประจักษ์โดยประชาชนในทุกชั่วอายุ\"\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/repent.txt b/01/repent.txt new file mode 100644 index 00000000..e239e3b6 --- /dev/null +++ b/01/repent.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "กลับใจ, การกลับใจใหม่", + "body": "คำว่า \"กลับใจใหม่\" และ \"การกลับใจใหม่\" อ้างถึง การหันกลับจากบาปและหันกลับไปหาพระเจ้า\n\n*คำว่า \"กลับใจใหม่\" ตามตัวอักษรแล้ว หมายถึง การ \"เปลี่ยนจิตใจของคนๆ หนึ่ง\"\n* ในพระคัมภีร์ \"กลับใจใหม่\" โดยปกติแล้วหมายถึง การหันกลับจากบาป วิถีคิดของมนุษย์และการกระทำ และหันกลับสู่การคิดและการประพฤติในทางของพระเจ้า\n* เมื่อคนกลับใจใหม่อย่างแท้จริงจากบาปของพวกเขาแล้ว พระเจ้าให้อภัยและช่วยให้พวกเขาเริ่มการเชื่อฟังพระองค์\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำว่า \"กลับใจ\" สามารถแปลด้วยคำหรือวลีที่หมายความว่า \"หันกลับหลัง\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/report.txt b/01/report.txt new file mode 100644 index 00000000..8be1b87f --- /dev/null +++ b/01/report.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "รายงาน", + "body": "คำว่า \"รายงาน\" หมายถึงการบอกประชาชนเกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่างที่เกิดขึ้น บ่อยครั้งเป็นการให้รายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ รายงานอาจเป็นการพูดหรือเขียนก็ได้\n\n* คำว่า \"รายงาน\" สามารถแปลได้ว่า \"บอก\" หรือ \"อธิบาย\" หรือ \"บอกรายละเอียด\"\n* คำกล่าว \"อย่ารายงานให้ใคร\" สามารถแปลได้ว่า \"อย่าพูดเรื่องนี้ให้กับใคร\" หรือ \"อย่าบอกเรื่องนี้กับใคร\"\n* วิธีการแปลคำว่า \"รายงาน\" สามารถรวมไปถึง \"การอธิบาย\" หรือ \"เรื่อง\" หรือ \"รายงานรายละเอียด\" ขึ้นอยู่กับบริบท" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/reproach.txt b/01/reproach.txt new file mode 100644 index 00000000..3e335c96 --- /dev/null +++ b/01/reproach.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ตำหนิ", + "body": "การตำหนิบางคน หมายถึงวิจารณ์หรือไม่ยอมรับบุคลิกลักษณะหรือพฤติกรรมของบุคคลนั้น การตำหนิเป็นการแสดงความคิดเห็นในด้านลบเกี่ยวกับบุคคล\n\n* การกล่าวว่าบุคคลหนึ่งอยู่ \"เหนือการตำหนิ\" หรือ \"ห่างจากการตำหนิ\" หรือ\"ปราศจากการตำหนิ\" หมายถึงบุคคลนี้ปฏิบัติตนในแนวทางที่พระเจ้าได้รับเกียรติและไม่มีสิ่งเล็กน้อยหรือไม่มีอะไรที่จะเป็นการวิจารณ์เขาได้เลย\n* คำว่า \"ตำหนิ\" สามารถแปลได้อีกว่า \"การกล่าวหา\" หรือ \"ขายหน้า\" หรือ \"ความอับอายขายหน้า\"\n* \"การตำหนิ\" ยังสามารถแปลได้ว่า \"ดุด่า\" หรือ \"กล่าวหา\" หรือ \"วิจารณ์\" ขึ้นอยู่กับบริบท" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/rest.txt b/01/rest.txt new file mode 100644 index 00000000..50e55ea0 --- /dev/null +++ b/01/rest.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "พัก", + "body": "คำว่า \"พัก\" ตามตัวอักษรแล้วหมายถึงการหยุดทำงานเพื่อพักผ่อนหรือฟื้นกำลัง คำวลี \"ส่วนที่เหลือ\" หมายถึงส่วนที่เหลืออยู่ของบางสิ่งบางอย่าง\n\n* วัตถุสามารถกล่าวได้ว่า \"พัก\" บางที่บางแห่ง ซึ่งหมายถึงมัน\"ยืนนิ่ง\"หรือ\"นั่งนิ่ง\" ที่นั่น\n* เรือที่ \"มาพัก\" บางแห่งได้ \"หยุด\"หรือ\"ได้เข้าเทียบท่า\" ที่นั่น\n* เมื่อบุคคลหรือสัตว์พัก หมายความว่าพวกเขากำลังนั่งหรือนอนลงเพื่อทำให้ตัวเองสดชื่นขึ้น\n* พระเจ้าบัญชาให้ชาวอิสราเอลพักในวันที่เจ็ดของสัปดาห์ วันที่ไม่ทำการงานนี้เรียกว่า\"วันสะบาโต\"\n* การพักวัตถุบนสิ่งของหมายถึงการ \"วาง\" หรือ \"ตั้ง\"ไว้ที่นั่น\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ขึ้นอยู่กับบริบท \"พัก" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/restore.txt b/01/restore.txt new file mode 100644 index 00000000..7a4c94a2 --- /dev/null +++ b/01/restore.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "รื้อฟื้น, การรื้อฟื้น", + "body": "คำว่า \"รื้อฟื้น\" และ \"การรื้อฟื้น\" อ้างถึงการทำให้บางสิ่งบางอย่างกลับไปเป็นเหมือนสภาพเดิมของมันและมีสภาวะที่ดีกว่า\n\n* เมื่อส่วนของร่างกายที่ป่วยได้รับการรื้อฟื้นนั่นหมายความว่าได้รับการ\"รักษาแล้ว\"\n* ความสัมพันธ์ที่แตกหักไปได้รับการรื้อฟื้น คือได้รับการ\"คืนดี\" พระเจ้าทรงรื้อฟื้นคนบาปและนำพวกเขาให้กลับมาหาพระองค์\n* หากคนถูกส่งกลับสู่ประเทศบ้านเกิดนั่นหมายถึงพวกเขาถูก\"ส่งกลับ\"หรือ\"ได้กลับมา\"สู่ประเทศนั้น\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ขึ้นอยู่กับบริบท วิธีที่แปลคำว่า \"รื้อฟื้น\" สามารถแปลว่า \"ปรับปรุงใหม่\" หรือ \"จ่ายให้ใหม่\" หรือ \"กลับคืน\" หรือ \"รักษา\" หรือ \"นำกลับมา\"\nคำกล่าวสำหรับคำนี้สามารถแปลว่า \"ทำให้ใหม่\" หรือ \"ทำให้เหมือนใหม่อีกครั้ง\"\n* เมื่อทรัพย์สินได้ \"ถุกรื้อฟืัน\" มันหมายความว่า ได้รับการ \"ซ่อมแซม\" หรือ \"เปลี่ยนใหม่\" หรือ \"ให้คืนมา\" แก่เจ้าของ\n* ขึ้นอยู่กับบริบท \"การรื้อฟื้น\" สามารถแปลว่า \"ทำให้ใหม่\" หรือ \"การรักษา\" หรือ \"การคืนดีกัน\"\n\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/resurrection.txt b/01/resurrection.txt new file mode 100644 index 00000000..ed5c0e30 --- /dev/null +++ b/01/resurrection.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "การเป็นขึ้นมาจากความตาย", + "body": "คำว่า \"การเป็นขึ้นจากความตาย\" หมายถึงการกระทำให้มีชีวิตอีกครั้งหนึ่งหลังจากที่ได้ตายแล้ว\n\n* การให้คนหนึ่งเป็นขึ้นมาจากความตายหมายถึงการนำคนนั้นให้มีชีวิตอีกครั้ง มีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่มีอำนาจทำเช่นนี้\n* คำว่า \"การเป็นขึ้นมาจากความตาย\" บ่อยครั้งอ้างถึงการกลับมามีชีวิตอีกครั้งของพระเยซูหลังจากที่ตายแล้ว\n* เมื่อพระเยซูตรัสว่า \"เราเป็นการฟื้นจากความตายและชีวิต\" พระองค์หมายถึงพระองค์ทรงเป็นแหล่งของการฟื้นจากความตายและเป็นผู้นนั้นที่เป็นเหตุให้มนุษย์กลับมามีชีวิต\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n*คำว่า \"การเป็นขึ้นมาจากความตาย\" สามารถแปลว่า \"การกลับมามีชีวิต\" หรือ \"กลับมามีชีวิตอีกครั้งหลังจากที่ตายไปแล้ว\"\n* ความหมายตามตัวอักษรของคำนี้คือ \"การเป็นขึ้นมา\" หรือ \"การกระทำของการเป็นขึ้นมา\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/return.txt b/01/return.txt new file mode 100644 index 00000000..b4a94c79 --- /dev/null +++ b/01/return.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "กลับมา", + "body": "คำว่า \"กลับมา\" หมายถึงการกลับไปหรือการคืนบางสิ่งบางอย่าง\n\n* การ \"กลับมา\" หมายถึงการเริ่มต้นทำกิจกรรมนั้นอีกครั้ง\n* เมื่อชนชาติอิสราเอลกลับมานมัสการรูปเคารพของพวกเขา พวกเขาได้เริ่มนมัสการพวกนั้นอีกครั้ง\n* เมื่อพวกเขากลับมาหาพระยาห์เวห์พวกเขาได้เสียใจในภวามผิดบาปและนมัสการพระยาห์เวห์อีกครั้ง\n* การคืนที่ดินหรือสิ่งของที่ได้เอามาหรือได้รับจากคนอื่น หมายถึงการให้ทรัพย์สินกลับไปยังคนที่เป็นเจ้าของ\n* คำว่า \"กลับมา\" สามารถแปลได้ว่า\"กลับคืนไป\" หรือ \"เอาคืนให้\" หรือ \"เริ่มทำอีกครั้ง\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/reuben.txt b/01/reuben.txt new file mode 100644 index 00000000..2ae98208 --- /dev/null +++ b/01/reuben.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "รูเบน", + "body": "รูเบนเป็นบุตรชายคนแรกของยาโคบ แม่ของเขาคือเลอาห์ \n\n* เมื่อพี่น้องของเขาวางแผนจะฆ่าน้องชายของพวกเขาคือโยเซฟ รูเบนได้ช่วยชีวิตของโยเซฟโดยการบอกให้พวกเขาหย่อนเขาลงไปในหลุมแทน\n* รูเบนได้กลับมาเพื่อช่วยโยเซฟ แต่น้องคนอื่นๆ ได้ขายเขาให้กับพ่อค้าที่ผ่านมาให้เป็นทาส\n* เชื้อสายของรูเบนกลายมาเป็นหนึ่งในสิบสองเผ่าของอิสราเอล" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/reveal.txt b/01/reveal.txt new file mode 100644 index 00000000..a85ef89f --- /dev/null +++ b/01/reveal.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "สำแดง, การเปิดเผย", + "body": "คำว่า \"สำแดง\" หมายถึงการทำให้บางสิ่งบางอย่างเป็นที่รู้ การเปิดเผย เป็นบางสิ่งบางอย่างที่ได้ทำให้รู้\n\n* ในพระคัมภีร์ คำว่า \"สำแดง\" มักใช้เพื่ออธิบายว่าพระเจ้าทรงให้พระองค์เป็นที่รู้้จักของมนุษย์อย่างไร\n* พระเจ้าได้สำแดงพระองค์ผ่านทางทุกสิ่งที่พระองค์ได้ทรงเนรมิตสร้างและผ่านทางการสื่อสารกับประชาชนโดยการพูดและเขียนข้อความ\n* พระเจ้ายังสำแดงพระองค์ผ่านทางความฝันหรือนิมิตทั้งหลาย\n* เมื่อเปาโลบอกว่าเขาได้รับข่าวประเสริฐโดย \"การเปิดเผยจากพระเยซูคริสต์\" เขาหมายถึงพระเยซูได้อธิบายข่าวประเสริฐให้ท่านด้วยตัวพระองค์เอง\n* ในพันธสัญญาใหม่พระธรรม \"วิวรณ์\" เป็นเรื่องราวการเปิดเผยของพระเจ้าถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในยุคสุดท้าย พระองค์ได้ทรงเปิดเผยสิ่งเหล่าให้แก่อัครสาวกยอห์นผ่านทางนิมิต\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* วิธีอื่นในการแปล \"เปิดเผย\" สามารถรวม \"ทำให้รู้\" หรือ \"เปิดเผย\" หรือ \"แสดงอย่างชัดเจน\"\n* ขึ้นอยู่กับบริบท การแปลที่เป็นไปได้ ของ \"การเปิดเผย\" สามารถแปลว่า \"การสื่อสารจากพระเจ้า\" หรือ \"สิ่งที่พระเจ้าได้เปิดเผย\" หรือ \"คำสอนเกี่ยวกับพระเจ้า\" เป็นการดีที่สุดให้คงความหมายของคำว่า \"เปิดเผย\" ในคำนี้\n* วลี \"ในที่ที่ไม่มีการเปิดเผย\" สามารถแปลว่า \"เมื่อพระเจ้าไม่เปิดเผยพระองค์เองต่อประชาชน\" หรือ \"เมื่อพระเจ้าไม่ได้ตรัสกับประชาชน\" หรือ \"ท่ามกลางประชาชนผู้ที่พระเจ้าไม่ได้สื่อสารกับพวกเขา\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/reverence.txt b/01/reverence.txt new file mode 100644 index 00000000..42dad99d --- /dev/null +++ b/01/reverence.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "การแสดงความนับถือ", + "body": "คำว่า \"การแสดงความนับถือ\" อ้างถึงความรู้สึกที่ลึกซึ้งที่ให้เกียรติแก่ใครสักคนหรือบางสิ่งบางอย่าง\n\n* ความรู้สึกของความนับถือสามารถเห็นได้ในการกระทำที่ให้เกียรติบุคคลที่น่าเคารพนับถือ\n* ความยำเกรงพระเจ้าเป็นความนับถือภายในที่ปรากฏออกมาเองในความเชื่อฟังพระบัญญัติของพระเจ้า\n* คำนี้สามารถแปลว่า \"ยำเกรงและให้เกียรติ\" หรือ \"เคารพด้วยความใจจริง\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/reward.txt b/01/reward.txt new file mode 100644 index 00000000..5c4d1286 --- /dev/null +++ b/01/reward.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": " รางวัล", + "body": "คำว่า \"รางวัล\" อ้างถึงสิ่งที่คนหนึ่งจะได้รับเพราะบางสิ่งบางอย่างที่เขาได้ทำ ไม่ว่าดีหรือชั่ว การให้\"บำเหน็จ\"ใครสักคนเป็นการให้บางสิ่งบางอย่างแก่บางคนที่เขาสมควรได้รับ\n\n* รางวัล สามารถเป็นสิ่งที่ดีหรือสิ่งที่เป็นด้านบวกที่บุคคลได้รับเพราะการทำบางสิ่งที่ดีหรือเพราะเขาได้เชื่อฟังพระเจ้า\n* บางครั้งบำเหน็จอาจอ้างถึงสิ่งที่เป็นด้านลบที่อาจมีผลมาจากพฤติกรรมที่ชั่วร้าย เช่น คำกล่าวที่ว่า \"รางวัลของคนชั่วร้าย\" ในบริบทนี้คำว่า \"รางวัล\" อ้างถึงถึงการลงโทษหรือผลทางลบจากการกระทำบาป\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า \"รางวัล\" สามารถแปลว่า \"การจ่ายเงิน\" หรือ \"บางสิ่งที่สมควรได้รับ\" หรือ \"การลงโทษ\"\n* \"ให้รางวัล\" แก่บางคนสามารถแปลว่า \"จ่ายคืน\" หรือ \"ทำโทษ\" หรือ \"ให้ในสิ่งที่สมควรได้รับ\"\n* ในแน่ใจว่าการแปลคำนี้ไม่ได้อ้างถึงค่าจ้าง รางวัลไม่ใช่เกี่ยวกับการได้รับเงินที่เป็นส่วนหนึ่งของงานรับจ้าง" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/righteous.txt b/01/righteous.txt new file mode 100644 index 00000000..1d6111a6 --- /dev/null +++ b/01/righteous.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ชอบธรรม, ความชอบธรรม", + "body": "คำว่า \"ชอบธรรม\" และ \"ความชอบธรรม\"อ้างถึงความดีอันแท้จริงของพระเจ้า ความยุติธรรม ความซื่อสัตย์ และความรัก เพราะพระเจ้าทรงเป็นผู้ชอบธรรม พระองค์จึงต้องลงโทษความบาป\n\n* คำเหล่านี้มักใช้ในการอธิบายถึงบุคคที่เชื่อฟังพระเจ้าและมีศีลธรรม อย่างไรก็ตามทุกคนมีบาป ไม่มีใครไม่มีบาปนอกจากพระเจ้าที่ทรงเป็นผู้ชอบธรรมอย่างแท้จริง\n* ตัวอย่างคนที่พระคัมภีร์เรียกว่า \"ผู้ชอบธรรม\" รวมถึง โนอาห์ โยบ อับราฮัม เซคาริยาห์ และเอลีซาเบธ\n* เมื่อมนุษย์วางใจในพระเยซูให้ช่วยพวกเขา พระเจ้าได้ทำให้พวกเขาสะอาดจากความบาปของพวกเขา และประกาศให้พวกเขาเป็นผู้ชอบธรรมโดยอาศัยความชอบธรรมของพระเยซู\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n*เมื่ออ้างถึงพระเจ้า คำว่า \"ชอบธรรม\" สามารถแปลว่า \"ดีอย่างสมบูรณ์และยุติธรรม\" หรือ \"ปฏิบัติอย่างถูกต้องเสมอ\"\n* ความชอบธรรม\" ของพระเจ้า สามารถแปลว่า \"ความสัตย์ซื่ออย่างสมบูรณ์และความดี\"\n* วลี \"ชอบธรรม\" สามารถแปลว่า \"ประชาชนผู้ชอบธรรม\" หรือ \" ประชาชนที่ยำเกรงพระเจ้า\"\n* ขึ้นอยู่กับบริบท \"ความชอบธรรม\" สามารถแปลด้วยคำ หรือวลีที่มีความหมายว่า \"ความดี\" หรือ \"เป็นความสมบูรณ์ต่อพระพักตร์พระเจ้า\" หรือ \"กระทำในทางที่ถ฿กต้องโดยเชื่อฟังพระเจ้า\" หรือ \"ทำสิ่งที่ดีอย่างสมบูรณ์\"\n* บางครั้ง \"ชอบธรรม\" ใช้ในเชิงอุปมาอุปมัยและอ้างถึง \"ประชาชนผู้คิดว่าพวกเขาดี\" หรือ \"ประชาชนผู้ที่ดูเหมือนเป็นผู้ชอบธรรม\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/righthand.txt b/01/righthand.txt new file mode 100644 index 00000000..3cded0f0 --- /dev/null +++ b/01/righthand.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "มือขวา, เบื้องขวา", + "body": "คำกล่าวคำอปุมาอุปมัยว่า \"เบื้องขวา\" อ้างถึงสถานที่แห่งเกียรติหรือกำลังทางข้างขวาของผู้ปกครองหรือบุคคลสำคัญอื่นๆ\n\n* มือขวายังใช้เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของพลัง อำนาจ หรือกำลังที่เข้มแข็ง\n* พระคัมภีร์อธิบายว่าพระเยซูประทับ\" ที่เบื้องขวาพระหัตถ์ของ\" พระเจ้าพระบิดาในฐานะศีรษะของร่างกายของผู้เชื่อ (คริสตจักร) และควบคุมในฐานะผู้ปกครองของสิ่งทรงสร้างทั้งปวง\n* มือขวาของบุคคลถูกนำมาใช้เพื่อแสดงถึงเกียรติพิเศษเมื่อวางบนศีรษะของใครคนหนึ่งเพื่อเป็นการอวยพร (เช่นเดียวกับตอนที่บรรพบุรุษยาโคบได้อวยพรเอฟราอิมบุตรชายของโยเซฟ)\n* การ \"รับใช้ที่เบื้องขวา\" ของใครสักคนหมายถึงการเป็นผู้ที่รับใช้ที่มีประโยชน์เป็นพิเศษและสำคัญต่อบุคคลนั้น\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* บางครั้งคำว่า \"มือขวา\" ตามตัวอักษรอ้างถึงมือขวาของบุคคล อย่างเช่นทหารโรมันยื่นไม้ให้พระเยซูเพื่อเยาะเย้ยพระองค์ นี่ควรแปลที่ใช้คำว่าในภาษาที่อ้างถึงมือนี้\n* ในแง่การใช่แบบอุปมาอุปมัย ถ้าคำกล่าวนั้นรวมถึงคำว่า \"มือขวา\" ที่ไม่มีความหมายเดียวกันในภาษาที่แปล ควรพิจารณาว่าภาษานั้นมีคำกล่าวที่แตกต่างด้วยความหมายเดียวกันหรือไม่\n* คำกล่าว \"ที่ขวามือของ\" สามารถแปลว่า \"บนข้างขวาของ\" หรือ \"ในสถานที่แห่งเกียรติยศข้าง\" หรือ \"ในตำแหน่งของกำลัง\" หรือ\"เร้อมที่จะช่วยเหลือ\"\n* วิธีที่จะแปล \"ด้วยมือขวาของ\" สามารถรวม \"พร้อมด้วยอำนาจสิทธิ์ขาด\" หรือ \"การใช้อำนาจ\" หรือ \"พร้อมด้วยกำลังอันมหัศจรรย์ของเขา\"\n* คำกล่าวอุปมาอุปมัย \"พระหัตถ์ขวาของพระองค์และพระพาหะอันทรงพลัง\" ใช้ในสองทางเพื่อย้ำถึงอำนาจของพระเจ้าและพลังอันยิ่งใหญ่ วิธีหนึ่งที่จะแปลคำกล่าวนี้สามารถแปลว่า \"อำนาจอันมหัศจรรย์และอำนาจอันทรงพลังของพระองค์\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/rimmon.txt b/01/rimmon.txt new file mode 100644 index 00000000..8900f408 --- /dev/null +++ b/01/rimmon.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ริมโมน", + "body": "ริมโมนเป็นชื่อของผู้ชายและสถานที่หลายแห่งที่ได้กล่าวถึงในพระคัมภีร์ และยังเป็นชื่อของพระเทียมเท็จ\n\n* ผู้ชายคนหนึ่งชื่อริมโมนเป็นชาวเบนยามินจากเมืองเบเอโรทในเศบูลูน บุตรชายของผู้ชายคนนี้ได้ฆ่าอิชโบเชท บุตรชายที่พิการของโยนาธาน\n* ริมโมนเป็นเมืองทางตอนใต้ของยูดาห์ ในแคว้นนั้นถูกยึดครองโดยเผ่าเบนยามิน\n* \"หินแห่งริมโมน\" เป็นสถานที่ปลอดภัยที่ชาวเบนยามินได้หลบหนีไปอยู่จากการถูกไล่ฆ่าในการสู้รบ\n* ริมโมน-เปเรศ เป็นสถานที่ไม่รู้ตำแหน่งที่ตั้งที่อยู่ในถิ่นทุรกันดารยูเดีย\n* นาอามานผู้บัญชาการชาวซีเรียได้พูดถึงวิหารของพระเทียมเท็จริมโมน ที่ซึ่งกษัตริย์ซีเรียได้นมัสการ" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/robe.txt b/01/robe.txt new file mode 100644 index 00000000..42039093 --- /dev/null +++ b/01/robe.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เสื้อคลุม", + "body": "เสื้อคลุมเป็นเสื้อชั้นนอกที่มีแขนยาวที่ใช้สวมใส่ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง คล้ายกับเสื้อลุมชั้นนอก\n\n* เสื้อคลุมจะเปิดด้านหน้าและถูกผูกติดกับสายคาดเอวหรือเข็มขัด\n* เสื้อคลุมอาจยาวหรือสั้นก็ได้\n* เสื้อคลุมสีม่วงถูกสวมใส่โดยกษัตริย์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของราชวงศ์ ความมั่งคั่ง และเกียรติยศ" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/rod.txt b/01/rod.txt new file mode 100644 index 00000000..2e50414d --- /dev/null +++ b/01/rod.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ไม้เท้า", + "body": "คำว่า \"ไม้เท้า\" อ้างถึงไม้ที่มีขนาดเล็ก แข็ง เหมือนกับเครื่องมือที่ใช้ในหลายรูปแบบ อาจมีความยาวอย่างน้อยหนึ่งเมตร\n\n* ไม้เท้าถูกใช้โดยคนเลี้ยงแกะเพื่อปกป้องฝูงแกะจากสัตว์อื่นๆ มันยังถูกใช้ตีแกะที่ออกจากฝูงเพื่อนำพวกมันกลับไปยังฝูง\n* ในพระธรรมสดุดีที่ 23 กษัตริตย์ดาวิดได้ใช้คำ \"ไม้เท้า\" และ \"คทา\" เป็นคำอุปมาอุปมัยที่อ้างถึงการทรงนำของพระเจ้าและควบคุมระเบียบวินัยประชากรของพระองค์\n* ไม้เท้าของคนเลี้ยงแกะยังใช้ในการนับฝูงแกะขณะที่พวกมันผ่านไปใต้ไม้เท้า\n* สำนวนเชิงเปรียบเทียบอีกอย่างของคำว่า \"คทาเหล็ก\" หมายถึงการลงโทษของพระเจ้าสำหรับคนที่กบฏต่อต้านพระองค์และกระทำสิ่งชั่วร้าย\n* ในสมัยโบราณไม้วัดที่ทำจากเหล็ก ไม้ หรือ หิน เพื่อใช้วัดความยาวของอาคารหรือสิ่งของ\n* ในพระคัมภีร์ไม้เท้ายังอ้างถึงเครื่องมือในการควบคุมระเบียบวินัยลูกหลาน" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/rome.txt b/01/rome.txt new file mode 100644 index 00000000..94c1c543 --- /dev/null +++ b/01/rome.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "โรม, ชาวโรม", + "body": "ในช่วงเวลาพันธสัญญาใหม่ กรุงโรมเป็นศูนย์กลางของจักรวรรดิโรมัน ปัจจุบันเป็นเมืองหลวงประเทศของอิตาลีในสมัยใหม่\n\n* จักรวรรดิโรมันได้ปกครองเหนือแคว้นทั้งหมดแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนรวมถึงอิสราเอลด้วย\n* คำว่า \"โรมมัน\" อ้างถึงทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับแคว้นที่รัฐบาลในโรมได้ครอบครอง รวมไปถึงประชาชนโรมและเจ้าหน้าที่โรม\n* อัครสาวกเปาโลถูกนำไปยังกรุงโรมในฐานะนักโทษเพราะเขาได้เทศนาข่าวประเสริฐเกี่ยวกับพระเยซู\n* ในพันธสัญญาใหม่ พระธรรม \"โรม\" เป็นจดหมายที่เปาโลได้เขียนถึงคริสเตียนในกรุงโรม" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/royal.txt b/01/royal.txt new file mode 100644 index 00000000..150a61a4 --- /dev/null +++ b/01/royal.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เกี่ยวกับกษัตริย์/เกี่ยวกับราชวงศ์", + "body": "คำว่า\"เกี่ยวกับกษัตริย์\" อธิบายถึงคนหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับกษัตริย์หรือราชินี\n\n* ตัวอย่างสิ่งของที่เรียกได้ว่า \"เกี่ยวกับกษัตริย์\" รวมไปถึงเสื้อผ้าของกษัตริย์ ราชวัง บัลลังก์ หรือ มงกุฎ\n* กษัตริย์หรือราชินีโดยทั่วไปแล้วจะอยู่ในพระราชวัง\n* กษัตริย์จะสวมใส่เสื้อผ้าพิเศษ บางทีจะเรียกว่า \"เสื้อคลุมกษัตริย์\" บ่อยครั้งเสื้อคลุมของกษัตริย์จะเป็นสีม่วงซึ่งหายากและเป็นสีย้อมชนิดแพง\n* ในพันธสัญญาใหม่ ผู้เชื่อในพระเยซูถูกเรียกมา\"ราชปุโรหิต\" วิธีอื่นที่จะแปลคำนี้สามารถรวมถึง \"ปุโรหิตผู้ปรนนิบัติพระเจ้าองค์กษัตริย์\" หรือ \"ผู้ถูกเรียกมาให้เป็นปุโรหิตเพื่อพระเจ้า\nองค์กษัตริย์\"\n* คำว่า \"เกี่ยวกับกษัตริย์\" สามารถแปลได้ว่า \"เกี่ยวกับราชวงศ์\" หรือ \"เป็นของกษัตริย์\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/ruin.txt b/01/ruin.txt new file mode 100644 index 00000000..93eb3746 --- /dev/null +++ b/01/ruin.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ทำลาย, ซากปรักหักพัง", + "body": "การ \"ทำลาย\" ของบางสิ่งบางอย่างหมายถึงการทำให้เสีย ทำลาย หรือทำให้ไร้ประโยชน์ คำว่า\"ซากปรักหักพัง\" อ้างถึงเศษซากและสิ่งต่างๆ ที่ถูกทำลายแล้วที่เหลืออยู่\n\n* ผู้เผยพระวจนะเศฟันยาห์ได้พูดถึงวันแห่งความพิโรธของพระเจ้าดั่งเช่น \"วันแห่งการทำลาย\" เมื่อวันที่โลกนี้จะถูกพิพากษาและลงโทษ\n* พระธรรมสุภาษิตกล่าวว่าการทำลายและความพินาศรอคอยคนทั้งหลายที่ไม่ชอบธรรม\n* ขึ้นอยู่กับบริบท \"การทำลาย\" สามารถแปลได้ว่า\"การทำให้พินาศ\" หรือ \"การทำให้เสียหาย\" หรือ \"ทำให้ไร้ประโยชน์\" หรือ \"ทำให้แตก\"\n* คำว่า \"ทำลาย\" หรือ \"ซากปรักหักพัง\" สามารถแปลได้เป็น \"เศษเล็กเศษน้อย\" หรือ \"อาคารที่พังทะลาย\" หรือ \"เมืองที่ถูกทำลาย\" หรือ \"การล้างผลาญ\" หรือ \"ความแตกสลาย\" หรือ \"ความพินาศ\" ขึ้นอยู่กับบริบท " + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/ruler.txt b/01/ruler.txt new file mode 100644 index 00000000..9b3f92f4 --- /dev/null +++ b/01/ruler.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": " ผู้ปกครอง, ผู้ปกครองหลายคน, ครอบครอง", + "body": "คำว่า\"ผู้ปกครอง\"ทั่วไปจะเป็นการอ้างอิงถึงบุคคลที่มีอำนาจเหนือคนอื่น เช่นผู้นำของประเทศ อาณาจักร หรือกลุ่มศาสนา\n\n* ในพันธสัญญาเดิม กษัตริย์ยังถูกอ้างถึงด้วยคำทั่วไปว่า \"ผู้ปกครอง\" เช่นเดียวกับในวลีที่ว่า \"แต่งตั้งพระองค์ให้เป็นผู้ปกครองเหนืออิสราเอล\"\n* พระเจ้าถูกอ้างอิงว่าเป็นผู้ปกครองสูงสุด ผู้ที่ปกครองเหนือผู้ปกครองคนอื่นๆ ทั้งสิ้น\n* ในพันธสัญญาใหม่ ผู้นำของศาลาธรรมเรียกว่า \"ผู้ปกครอง\"\n* ผู้ครอบครองแบบอื่นในพันธสัญญาใหม่คือ \"เจ้าเมือง\"\n* ขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า\"ผู้ปกครอง\" สามารถแปลได้ว่า \"ผู้นำ\" หรือ \"ผู้มีอำนาจเหนือ\"\n* การกระทำใน \"การปกครอง\" หมายถึงการ\"นำ\"การ\"มีอำนาจเหนือ\" นี่มีความหมายอย่างเดียวกับ\"การครองราชย์\" เมื่ออ้างถึงการปกครองของกษัตริย์" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/run.txt b/01/run.txt new file mode 100644 index 00000000..b1ce8728 --- /dev/null +++ b/01/run.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "วิ่ง, การวิ่ง", + "body": "ตามตัวอักษรคำว่า \"วิ่ง\" อ้างถึงการเคลื่อนด้วยเท้าอย่างรวดเร็ว โดยทั่วไปจะก้าวเท้าเร็วกว่าการเดิน ความหมายหลักของคำว่า \"วิ่ง\" ยังใช้ในสำนวนเชิงเปรียบเทียบดังต่อไปนี้ด้วยเช่นกัน\n\n* \" วิ่งอย่างที่จะพิชิตรางวัล\" อ้างถึง บากบั่นในการกระทำตามพระประสงค์ของพระเจ้าเหมือนกับการบากบั่นในการวิ่งแข่งเพื่อชัยชนะ\n* \"วิ่งในทางแห่งพระบัญญัติของท่าน\" หมายถึง เชื่อฟังพระบัญญัติของพระเจ้าด้วยความยินดีและอย่างทันทีทันใด\n* \"ติดตามพระอื่นๆ\" หมายถึงยืนหยัดในการนมัสการพระอื่นๆ\n* \"ข้าพเจ้าวิ่งเข้าหาพระองค์เพื่อซ่อนข้าพเจ้า\" หมายถึง การหันไปหาพระเจ้าอย่างรวดเร็วเพื่อการลี้ภัยและความปลอดภัยเมื่อต้องเจอกับความยากลำบาก\n\nความหมายเชิงเปรียบเทียบอื่นๆของคำว่า \"วิ่ง\"\n\n* น้ำและของเหลวอื่นๆ อย่างเช่น น้ำตา เลือด เหงื่อ และแม่น้ำจะถูกพูดว่า \"วิ่ง\" นี่สามารถแปลได้ว่า \"ไหล\"\n* เขตแดนของประเทศ หรือ ขอบเขต ได้ถูกพูดว่า \"วิ่งขนาน\" แม่น้ำหรือเขตแดนของประเทศอื่น สามารถแปลได้ว่า\"ขอบเขตของมันอยู่ติดกับ\" หรือ \"ชายแดนของ\"\n* แม่น้ำและลำธารต่างๆ สามารถ \"วิ่งเหือดแห้ง\" ซึ่งหมายถึงว่า ไม่มีน้ำในแม่น้ำและลำธารอีก นี่ยังสามารถแปลได้ว่า \"ได้แห้งไปแล้ว\" หรือ \"กลายเป็นแห้งแล้งไปแล้ว\"\n* วันแห่งงานฉลองสามารถ \"วิ่งไปถึงการสิ้นสุด\" ซึ่งหมายถึง วันเหล่านั้น\"ผ่านไปแล้ว\" หรือ \"เสร็จสิ้นไปแล้ว\" หรือ \"จบไปแล้ว\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/ruth.txt b/01/ruth.txt new file mode 100644 index 00000000..1fa39f42 --- /dev/null +++ b/01/ruth.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "รูธ", + "body": "รูธเป็นผู้หญิงชาวอาโมไบท์ที่ได้แต่งงานกับผู้ชายอิสราเอลแล้วได้ย้ายไปยังโมอับพร้อมด้วยครอบครัวของเขาในช่วงเวลาที่เหล่าผู้วินิฉัยนำอิสราเอล\n\n* สามีของรูธได้ตายและช่วงหลังจากนั้นเธอได้จากโมอับเพื่อเดินทางไปกับนาโอมีแม่สามีของเธอผู้ที่กำลังกลับไปยังเบธเลเฮมอิสราเอลบ้านเกิดของเธอ\n* รูธซื่อสัตย์ต่อนาโอมีและทำงานหนักเพื่อจัดหาอาหารให้เธอ\n* เธอยังอุทิศตัวเองว่าจะรับใช้พระเจ้าที่เที่ยงแท้ของอิสราเอล\n* รูธได้แต่งงานกับชาวอิสราเอลชื่อโบอาสและให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่งผู้ซึ่งได้กลายมาเป็นปู่ของกษัตริย์ดาวิดและบรรพบุรุษของพระเยซูคริสต์" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/sabbath.txt b/01/sabbath.txt new file mode 100644 index 00000000..7a89acb8 --- /dev/null +++ b/01/sabbath.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "วันสะบาโต", + "body": "คำว่า \"วันสะบาโต\" อ้างถึงวันที่เจ็ดของสัปดาห์ ที่พระเจ้าได้บัญชาได้ให้ชาวอิสราเอลแยกออกให้เป็นวันของการพักผ่อนและไม่ทำงาน\n\n* หลังจากที่พระเจ้าเสร็จสิ้นการเนรมิตสร้างโลกในวันที่หก พระองค์ทรงพักผ่อนในวันที่เจ็ด ในทำนองเดียวกัน พระเจ้าได้บัญชาให้ชาวอิสราเอลตั้งวันที่เจ็ดให้เป็นวันพิเศษเพื่อพักผ่อนและนมัสการพระองค์\n* คำบัญชาให้ \"รักษาวันสะบาโตให้บริสุทธิ์\" เป็นข้อหนึ่งในพระบัญญัติสิบประการที่พระเจ้าได้เขียนบนแผ่นศิลาซึ่งพระองค์ได้ประทานให้โมเสสไว้เพื่อชาวอิสราเอล\n* ตามระบบการนับวันต่างๆ ของชาวยิว วันสะบาโตเริ่มต้นในวันศุกร์ช่วงที่ดวงอาทิตย์ตกและไปจนถึงวันเสาร์ตอนดวงอาทิตย์ตก\n* บางครั้งในพระคัมภีร์จะเรียกสะบาโตว่า \"วันสะบาโต\" มากกว่าแทนที่จะเรียกแค่สะบาโตเฉยๆ\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* นี่สามารถแปลว่า \"วันหยุดพัก\" หรือ \"วันสำหรับการหยุดพัก\" หรือ \"วันที่ไม่ทำงาน\" หรือ \"วันแห่งการหยุดของพระเจ้า\"\n* คำแปลบางสำนวนได้ขึ้นต้นคำนี้ด้วยตัวอักษรใหญ่เพื่อแสดงว่านี่เป็นวันพิเศษ เช่น \"วันสะบาโต\" หรือ วันหยุดพักผ่อน\"\n* ให้พิจารณาว่าคำนี้ได้แปลอย่างไรในท้องถิ่นและภาษากลาง" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/sackcloth.txt b/01/sackcloth.txt new file mode 100644 index 00000000..bc8f5096 --- /dev/null +++ b/01/sackcloth.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ผ้ากระสอบ", + "body": "ผ้ากระสอบเป็นผ้าที่หยาบกร้าน เป็นผ้าชนิดที่ทำให้ระคายเคืองที่ทำมาจากขนแพะหรือขนอูฐ\n\n* เสื้อผ้าที่ทำมาจากผ้ากระสอบทำให้คนที่ใส่รู้สึกไม่สะดวกสบาย เป็นการใส่เพื่อเป็นการแสดงถึงความ โศกเศร้า เสียใจ หรือการถ่อมตนเสียใจในความผิดบาป\n* คำวลี \"ผ้ากระสอบและขี้เถ้า\" เป็นคำศัพท์ทั่วไปที่อ้างถึงการแสดงออกตามประเพณีของความโศกเศร้าและการเสียใจในความผิดบาป\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำนี้สามารถแปลว่า \"ผ้ากระสอบจากขนสัตว์\" หรือ \"ผ้าที่ทำมาจากขนแพะ\" หรือ \"ผ้าที่หยาบกร้าน ระคายเคือง\"\n* วิธีอื่นที่จะแปลคำนี้สามารถรวม \"ผ้าที่หยาบกร้าน ระคายเคือง\"\n* วลี \"นั่งในผ้ากระสอบและขี้เถ้า\" สามารถแปลว่า \"แสดงความเศร้าโศกและความถ่อมใจโดยการนุ่งห่มผ้ากระสอบและนั่งในขี้เถ้า\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/sacred.txt b/01/sacred.txt new file mode 100644 index 00000000..3925cccb --- /dev/null +++ b/01/sacred.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ศักดิ์สิทธิ์", + "body": "คำว่า \"ศักดิ์สิทธิ์\" อธิบายถึงบางสิ่งบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับการนมัสการพระเจ้าหรือการนมัสการพระเทียมเท็จของคนต่างชาติ\n\n* ในพันธสัญญาเดิมบ่อยครั้งคำว่า \"ศักดิ์สิทธิ์\" จะใช้ในการอธิบายเสาหินและสิ่งของอื่นๆ ที่ใช้ในการนมัสการพระเท็มเท็จ นี่ยังแปลว่า \"ศาสนา\"\n*\"เพลงศักดิ์สิทธิ์\" หรือ \"ดนตรีศักดิ์สิทธิ์\" หมายถึงเพลงที่ร้องหรือเล่นถวายให้พระสิริของพระเจ้า นี่แปลได้อีกว่า \"ดนตรีสำหรับการนมัสการพระยาห์เวห์\" หรือ \"เพลงเพื่อสรรเสริญพระเจ้า\"\n*คำวลี \"หน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์\" หมายถึง \"หน้าที่เกี่ยวศาสนา\" หรือ \"พิธีกรรม\" ที่ปุโรหิตกระทำเพื่อนำประชาชนในการนมัสการพระเจ้า ยังอ้างถึงพิธีกรรมที่กระทำโดยปุโรหิตต่างชาติเพื่อนมัสการพระเทียมเท็จ" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/sacrifice.txt b/01/sacrifice.txt new file mode 100644 index 00000000..ab323a90 --- /dev/null +++ b/01/sacrifice.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "การถวายบูชา เครื่องถวายบูชา", + "body": "ในพระคัมภีร์ คำว่า \"การถวายบูชา\" และ \"เครื่องถวายบูชา\" อ้างถึง ของขวัญพิเศษที่ถวายให้กับพระเจ้าซึ่งเป็นการนมัสการพระองค์ ประชาชนถวายเครื่องบูชาแด่พระเทียมเท็จด้วย\n\n* โดยทั่วไป คำว่า \"เครื่องถวายบูชา\" หมายถึงสิ่งของอะไรก็ตามที่ได้ถวายหรือได้มอบให้ คำว่า \"การถวายบูชา\" อ้างถึงของบางสิ่งที่ได้มอบให้ หรือได้กระทำโดยผู้ให้\n* เครื่องถวายบูชาแด่พระเจ้าเป็นสิ่งของเฉพาะที่พระเจ้าทมรงบัญชาให้ชนชาติอิสราเอลถวายแด่พระองค์เพื่อแสดงความจงรักภักดีและการเชื่อฟังพระองค์\n* ชื่อของเครื่องถวายบูชาต่างๆ เช่น \"เครื่องเผาบูชา\" และ \"ศานติบูชา\" ชี้ให้เห็นว่าเครื่องถวายบูชาประเภทไหนที่กำลังถูกถวายอยู่\n* เครื่องบูชาแด่พระเจ้ามักเกี่ยวข้องกับการฆ่าสัตว์\n* มีเพียงการบูชาของพระเยซู สิ่งที่สมบูรณ์ พระบุตรผู้ไร้ความบาป และสามารถชำระล้างคนทั้งหลายจากบาปอย่างสมบูรณ์ การบูชาสัตว์ไม่สามารถทำอย่างนั้นได้\n* คำกล่าวเชิงเปรียบเทียบว่า \"ถวายตัวของท่านให้เป็นเครื่องบูชาที่มีชีวิต\" หมายความว่า \"ให้มีชีวิตในการเชื่อฟังพระเจ้าอย่างสมบูรณ์แบบ ยอมยกทุกอย่างเพื่อรับใช้พระองค์\"\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำว่า \"เครื่องถวายบูชา\" สามารถแปลว่า \"ของถวายแด่พระเจ้า\" หรือ \"บางสิ่งที่ได้มอบให้แก่พระเจ้า\" หรือ \" บางสิ่งที่มีค่าที่นำเสนอแด่พระเจ้า\"\n* ขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า \"การถวายบูชา\" สามารถแปลว่า \"บางสิ่งที่มีค่าที่ถวายในการนมัสการ\" หรือ \"สัตว์พิเศษถูกฆ่าเพื่อถวายแด่พระเจ้า\"\n* การกระทำ \"การถวายบูชา\" สามารถแปลว่า \"มอบถวายบางสิ่งที่มีค่า\" หรือ \"ฆ่าสัตว์และถวายแด่พระเจ้า\"\n* วิธีอื่นที่แปล \"มอบถวายตัวท่านเองเป็นเครื่องถวายบูชาที่มีชีวิต\" สามารถแปลว่า \"ตราบเท่าที่ท่านมีชีวิต จงถวายตัวท่านเองต่อพระเจ้าอย่างสิ้นเชิงเช่นเดียวกับสัตว์ที่ถูกถวายบนแท่นบูชา\"\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/sadducee.txt b/01/sadducee.txt new file mode 100644 index 00000000..98998651 --- /dev/null +++ b/01/sadducee.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "สะดูสี", + "body": "พวกสะดูสีเป็นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการเมืองของพวกปุโรหิตชาวยิวในช่วงเวลาของพระเยซูคริสต์ เป็นผู้ที่สนับสนุนการปกครองของชาวโรมันและไม่เชื่อในเรื่องการฟื้นคืนชีพ\n\n* สะดูสีหลายคนเป็นคนมั่งมี เป็นชาวยิวชั้นสูงและเป็นผู้ที่ดำรงตำแหน่งผู้นำที่มีอำนาจ อย่างเช่น หัวหน้าปุโรหิต และมหาปุโรหิต\n* หน้าที่ของพวกสะดูสี รวมถึง การดูแลรักษาบริเวณรอบพระวิหารและงานในหน้าที่ปุโรหิต อย่างเช่น การถวายเครื่องบูชา\n* พวกสะดูสีและฟาริสีมีอิทธิพลอย่างมากต่อผู้นำชาวโรมันในการตรึงพระเยซู\n* พระเยซูได้พูดต่อต้านผู้นำทางศาสนาสองกลุ่มนี้เพราะความเห็นแก่ตัวและการเสแสร้งของพวกเขา" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/saint.txt b/01/saint.txt new file mode 100644 index 00000000..2b362f59 --- /dev/null +++ b/01/saint.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ธรรมิกชน", + "body": "คำว่า\"ธรรมิกชน\"ตามตัวอักษรแล้วหมายถึง\"วิสุทธิชน\" และอ้างถึงผู้เชื่อในพระเยซู\n\n* ต่อมาในประวัติศาสตร์คริสตจักร บุคคลที่รู้จักกันในผลงานที่ดีของเขาจะได้ถูกขนานนามว่า \"ธรรมิกชน\" แต่นั้นไม่ใช่วิธีที่คำนี้ได้ถูกใช้ในพันธสัญญาใหม่\n* ผู้เชื่อในพระเยซูเป็นธรรมิกชนหรือบริสุทธิ์ ไม่ใช่เพราะการกระทำของพวกเขาแต่โดยผ่านทางความเชื่อ แต่เป็นความศรัทธาในการการทำงานของพระเยซูคริสต์มากกว่า พระองค์ทรงเป็นผู้ที่ทำให้พวกเขาบริสุทธิ์\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* วิธีแปลคำว่า \"ธรรมิกชน\" สามารถรวมเอา \"ผู้บริสุทธิ์\" หรือ \"ประชาชนผู้บริสุทธิ์\" หรือ \"ผู้เชื่อในพระเยซูผู้บริสุทธิ์\" หรือ \"ผู้ที่ถูกแยกออกมา\"\n* ให้ระมัดระวังที่จะไม่ใช้คำนี้อ้างถึงประชาชนของคริสเตียนเพียงกลุ่มเดียว" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/saltsea.txt b/01/saltsea.txt new file mode 100644 index 00000000..a35a4ae1 --- /dev/null +++ b/01/saltsea.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ทะเลเกลือ, ทะเลตาย", + "body": "ทะเลเกลือ (เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ทะเลตาย) ตั้งอยู่ระหว่างอิสราเอลตอนใต้ทางทิศตะวันตกและโมอับทางทิศตะวันออก\n\n* แม่น้ำจอร์แดนไหลลงทางใต้สู่ทะเลเกลือ\n* เนื่องจากมันมีขนาดเล็กกว่าทะเลส่วนมาก จึงสามารถเรียกว่า\"ทะเลเกลือ\"\n* ทะเลนี้มีความเข้มข้นของแร่ธาตุต่างๆ สูง (หรือ\"เกลือต่างๆ \") ซึ่งหมายความว่าไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่ในน้ำนี้ได้ เป็นที่มาของชื่อ\"ทะเลตาย\"\n* ในพันธสัญญาเดิม ทะเลนี้ยังถูกเรียกว่า\"ทะเลอาราบาห์\" และ \"ทะเลของเนเกบ\" เพราะสถานที่ตั้งอยู่ใกล้กับอาราบาห์และเนเกบ" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/salvation.txt b/01/salvation.txt new file mode 100644 index 00000000..f94bbac3 --- /dev/null +++ b/01/salvation.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ความรอด", + "body": "คำว่า \"ความรอด\" อ้างถึงการช่วยให้ปลอดภัยหรือการได้รับการช่วยกู้จากสิ่งชั่วร้ายและอันตราย\n\n* ในพระคัมภีร์ \"ความรอด\" โดยทั่วไปอ้างถึงฝ่ายวิญญาณและการปลดปล่อยชั่วนิรันดร์ที่พระเจ้าประทานให้แก่คนเหล่านั้นที่เสียใจในความผิดบาปของตนและเชื่อในพระเยซู\n* ในพระคัมภีร์ยังพูดเกี่ยวกับการทรงช่วยของพระเจ้าหรือการปลดปล่อยประชากรของพระองค์จากศัตรูทางฝ่ายเนื้อหนังของพวกเขา\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำนี้สามารถแปลโดยใช้คำ \"ช่วยให้ปลอดภัย\" หรือ \"ช่วยให้รอดพ้น\" อย่างเช่นใน \"เมื่อพระเจ้าได้ทรงช่วยประชาชนให้ปลอดภัย\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/samaria.txt b/01/samaria.txt new file mode 100644 index 00000000..5ccd4cc8 --- /dev/null +++ b/01/samaria.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "สะมาเรีย ชาวสะมาเรีย", + "body": "สะมาเรีย เป็นชื่อเมืองและบริเวณโดยรอบในภาคเหนือของอิสราเอล แถบนี้ตั้งอยู่ระหว่างที่ราบแห่งชารอนทางตะวันตกและแม่น้ำจอร์แดนทางตะวันออก\n\n* ในพันธสัญญาเดิม เมืองสะมาเรียเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรทางเหนือของอิสราเอล ต่อมาแถบที่อยู่โดยรอบก็ถูกเรียกว่า สะมาเรียด้วย\n* เมื่อชาวอัสซีเรียได้พิชิตอาณาจักรทางเหนือของอิสราเอลแล้ว พวกเขาได้ยึดครองเมืองสะมาเรียและบังคับชาวอิสราเอลส่วนใหญ่ที่อยู่ทางเหนือให้ออกจากแถบนี้และอพยพคนเหล่านี้ไปยังเมืองต่างๆ ที่อยู่ไกลในอัสซีเรีย\n* ชาวอัสซีเรียได้นำชาวต่างชาติหลายคนเข้ามาอยู่ในแถบสะมาเรียเพื่อไปแทนที่ชาวอิสราเอลที่ถูกย้ายออกไป\n* ชาวอิสราเอลส่วนหนึ่งที่เหลืออยู่ในแถบสะมาเรียได้แต่งงานกับชาวต่างชาติที่ได้ย้ายเข้ามาอยู่ที่นั่น และลูกหลานของพวกเขาถูกเรียกว่า ชาวสะมาเรีย\n* ชาวยิวเหยียดหยามชาวสะมาเรียเพราะว่าพวกเขาเป็นชาวยิวเพียงส่วนเดียวและเพราะว่าบรรพบุรุษของพวกเขาได้นมัสการพระเทียมเท็จ\n* ในยุคพันธสัญญาใหม่แถบสะมาเรียได้ถูกกันเขตแดนโดยแถบกาลิลีทางเหนือและแถบยูเดียทางตอนใต้" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/samson.txt b/01/samson.txt new file mode 100644 index 00000000..a88032dc --- /dev/null +++ b/01/samson.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "แซมซัน", + "body": "แซมซันเป็นหนึ่งในผู้วินิจฉัย หรือผู้ช่วยเหลือคนหนึ่งของชนชาติอิสราเอล เขามาจากเผ่าดาน\n\n* พระเจ้าประทานพลังเหนือมนุษย์ให้แก่แซมซัน ซึ่งเขาได้ใช้ในการต่อสู้กับศัตรูของชนชาติอิสราเอล คือชาวฟีลิสเตีย\n* แซมซันถูกให้อยู่ภายใต้คำปฏิญาณที่จะไม่ตัดผมของเขาและไม่ดื่มเหล้าองุ่น หรือเครื่องดื่มที่หมักดองใดๆ เลย ตราบเท่าที่เขารักษาคำปฏิญาณนี้ พระเจ้าประทานพลกำลังให้เขา\nอย่างต่อเนื่อง\n*แต่สุดท้ายแซมซันได้ผิดคำปฏิญาณและยอมให้ผมของเขาถูกตัดซึ่งทำให้ชาวฟีลิสเตียจับกุมเขาได้\n* ในขณะที่แซมซันถูกกักขัง พระเจ้าทรงทำให้เขาได้พลกำลังคืนมาอีกครั้ง และประทานโอกาสเขาทำลายวิหารของพระเทียมเท็จ ดาโกนพร้อมกับชาวฟีลิสเตียหลายคน" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/samuel.txt b/01/samuel.txt new file mode 100644 index 00000000..4683973e --- /dev/null +++ b/01/samuel.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ซามูเอล ", + "body": "ซามูเอลเป็นผู้เผยพระวจนะและผู้วินิจฉัยคนสุดท้ายของอิสราเอล เขาได้แต่งตั้งทั้งซาอูลและดาวิดให้เป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอล\n\n* ซามูเอลได้เกิดจากเอลคานาห์และนางฮันนาในเมืองรามาห์\n* นางฮันนาเป็นหมันดังนั้นเธอจึงอธิษฐานอย่างสัตซื่อว่าต่อพระเจ้าจะประทานบุตรชายให้แก่เธอซึ่งซามูเอลก็เป็นคำตอบที่ได้อธิษฐานไว้\n* นางฮันนาได้สัญญาไว้ว่าหากเขาเกิดมาตามคำอธิษฐานอย่างสิ้นหวังของฮันนาที่พระเจ้าจะประทานบุตรชายให้แก่เธอ เมื่อคำอธิษฐานได้รับการตอบ เธอจะถวายบุตรของเธอให้แด่พระยาห์เวห์\n* เมื่อซามูเอลยังเป็นเด็ก ฮันนาได้ส่งเขาให้ไปช่วยปุโรหิตเอลีในพระวิหารเพื่อทำให้คำมั่นสัญญาของเธอต่อพระเจ้าเป็นจริง\n* พระเจ้าได้ทรงยกชูซามูเอลให้เป็นผู้เผยพระวจนะที่ยิ่งใหญ่สำหรับพระองค์" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/sanctify.txt b/01/sanctify.txt new file mode 100644 index 00000000..4edd83d3 --- /dev/null +++ b/01/sanctify.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ชำระให้บริสุทธิ์, การชำระให้บริสุทธิ์", + "body": "การชำระให้บริสุทธิ์คือการแยกออก หรือทำให้บริสุทธิ์ การชำระให้บริสุทธิ์เป็นกระบวนการที่จะทำให้บริสุทธิ์\n\n* ในพันธสัญญาเดิม ประชาชนที่บางคนและบางสิ่งได้รับการชำระให้บริสุทธิ์ หรือได้แยกออก เพื่อรับใช้พระเจ้า \n* ในพันธสัญญาใหม่สอนว่าพระเจ้าทรงชำระประชากรที่เชื่อในพระเยซูคริสต์ให้บริสุทธิ์ เพื่อว่า พระองค์ทรงชำระพวกเขาให้บริสุทธิ์และแยกพวกเขาออกมาเพื่อให้รับใช้พระองค์\n* บรรดาผู้เชื่อในพระเยซูได้รับพระบัญญาให้รับการชำระตนให้บริสุทธิ์ต่อพระเจ้า เพื่อให้ทุกสิ่งที่พวกเขากระทำบริสุทธิ์\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า \"ชำระให้บริสุทธิ์\" สามารถแปลว่า \"ถูกแยกออก\" หรือ \"ทำให้ศักดิ์สิทธิ์\" หรือ \"ทำให้บริสุทธิ์\"\n* เมื่อประชาชนชำระตนให้บริสุทธิ์ หมายความว่าพวกเขาบริสุทธิ์และอุทิศถวายตัวต่อการรับใช้พระเจ้า บ่อยครั้ง คำว่า \"การปลุกเสก\" ก็ได้ใช้ในพระคัมภีร์สำหรับความหมายนี้ด้วย\n* ด้วยความหมายของคำว่า \"การปลุกเสก\" คำนี้ควรแปลว่า \"อุทิศตัวให้บางคน\"\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/sanctuary.txt b/01/sanctuary.txt new file mode 100644 index 00000000..c423d5f1 --- /dev/null +++ b/01/sanctuary.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "สถานศักดิ์สิทธิ์", + "body": "คำว่า \"สถานศักดิ์สิทธิ์\"ตามตัวอักษรความหมายว่า \"สถานที่บริสุทธิ์\" และอ้างถึงสถานที่ที่พระเจ้าถูกทำให้เป็นที่ศักดิ์สิทธิ์และบริสุทธิ์ และยังสามารถอ้างถึงสถานที่ที่มีการคุ้มครองและความปลอดภัย\n\n* ในพันธสัญญาเดิม คำว่า \"สถานศักดิ์สิทธิ์\" ถูกใช้บ่อยเพื่ออ้างถึงพลับพลาหรืออาคารพระวิหารที่ \"สถานที่ศักดิ์สิทธิ์\" และ \"สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด\" ตั้งอยู่ \n* พระเจ้าได้อ้างอิงสถานศักดิ์สิทธิ์ดั่งเป็นสถานที่ซึ่งพระองค์สถิตในท่ามกลางประชากรของพระองค์ คือพวกอิสราเอล\n* พระองค์ได้ทรงเรียกพระองค์ว่า\"สถานศักดิ์สิทธิ์\" หรือเป็นที่ปลอดภัยสำหรับประชาชนที่พวกเขาสามารถหาการอารักขาได้\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำนี้มีความหมายธรรมดาของ \"สถานที่ศักดิ์สิทธิ์\" หรือ \"สถานที่ถูกแยกออกมา\"\n* ขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า \"สถานศักดิ์สิทธิ์\" สามารถแปลว่า \"สถานที่ศักดิ์สิทธิ์\" หรือ \"อาคารศักดิ์สิทธิ์\" หรือ \"สถานที่ความศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าดำรงอยู่\" หรือ \"สถาที่ศักดิ์สิทธิ์ของการอารักขา\" หรือ \"สถานศักดิ์สิทธิ์แห่งความปลอดภัย\"\n* วลี \"เงินเชเขลของสถานศักดิ์สิทธิ์\" สามารถแปลว่า \"ชนิดของเงินเชเขลที่ได้ให้สำหรับพลับพลา\" หรือ \"เงินเชเขลที่ใช้เป็นเหมือนภาษีเพื่อดูแลพระวิหาร\"\n* หมายเหตุ จงระวังว่าการแปลคำนี้จะไม่อ้างถึงห้องนมัสการในคริสตจักรสมัยใหม่" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/sandal.txt b/01/sandal.txt new file mode 100644 index 00000000..3daed33d --- /dev/null +++ b/01/sandal.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "รองเท้าแตะ", + "body": "รองเท้าแตะ คือรองเท้าแบนธรรมดาทั่วไปที่สวมเข้าไปที่เท้าด้วยสายรัดรอบเท้าหรือข้อเท้า รองเท้าแตะใช้สวมใส่ทั้งผู้ชายและผู้หญิง\n\n* บางครั้งรองเท้าแตะยังใช้ในการยืนยันการซื้อขายตามกฎหมาย เช่นการขายทรัพย์สินโดยผู้ชายคนหนึ่งถอดรองเท้าแตะและเอาให้อีกคนหนึ่ง\n* การถอดรองเท้าหรือรองเท้าแตะเป็นสัญญาณของการเคารพและความนับถือ เฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออยู่เฉพาะพระพักตร์พระเจ้า\n* ยอห์นได้กล่าวว่าเขาไม่สมควรแม้จะแก้มัดเชือกรองเท้าแตะของพระเยซู ซึ่งเป็นงานของคนรับใช้ที่ต่ำกว่าหรือทาส" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/sarah.txt b/01/sarah.txt new file mode 100644 index 00000000..efbd622f --- /dev/null +++ b/01/sarah.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "*ซาราห์, ซาราย", + "body": "* ซาราห์เป็นภรรยาของอับราฮัม\n* เดิมชื่อของเธอคือ\"ซาราย\" แต่พระเจ้าทรงเปลี่ยนให้เป็น \"ซาราห์\"\n* ซาราห์ให้กำเนิดบุตรชายตามที่พระเจ้าทรงให้พระสัญญาไว้กับเธอและอับราฮัม" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/satan.txt b/01/satan.txt new file mode 100644 index 00000000..0ca9c1d0 --- /dev/null +++ b/01/satan.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ซาตาน, มาร, ผู้ชั่วร้าย", + "body": "มารเป็นวิญญาณหนึ่งที่พระเจ้าได้ทรงเนรมิตขึ้น แต่มันได้กบฎต่อพระเจ้าและกลายมาเป็นศัตรูของพระเจ้า มารยังถูกเรียกอีกชื่อว่า \"ซาตาน\" และ \"ผู้ชั่วร้าย\" \n\n* มารเกลียดพระเจ้าและทุกสิ่งพระเจ้าทรงเนรมิต เพราะมันอยากแทนตำแหน่งของพระเจ้าและอยากได้รับการนมัสการเหมือนกับพระเจ้า\n* ซาตานทดลองมนุษย์ให้กบฎต่อพระเจ้า\n* พระเจ้าประทานพระบุตรของพระองค์ คือพระเยซูคริสต์เพื่อช่วยกู้มนุษย์จากการควบคุมของซาตาน\n* ชื่อของ \"ซาตาน\" มีความหมายว่า \"ปรปักษ์\" หรือ \"ศัตรู\"\n* คำว่า \"มาร\" มีความหมายว่า\"ผู้กล่าวโทษ\"\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำว่า \"มาร\" สามารถแปลว่า \"ผู้กล่าวโทษ\" หรือ \"ผู้ชั่วร้าย\" หรือ \"เจ้าแห่งวิญญาณชั่วทั้งหลาย\" หรือ \"หัวหน้าวิญญาณชั่ว\"\n* \"ซาตาน\" สามารถแปลว่า \"ฝ่ายตรงข้าม\" หรือ \"ปรปักษ์\" หรือชื่ออื่นๆ ที่แสดงว่ามันเป็นมาร\n* คำเหล่านี้ควรแปลให้ต่างจากคำว่าปีศาจและวิญญาณชั่ว\n* ให้พิจารณาว่าคำเหล่านี้แปลว่าอย่างไรในท้องถิ่นหรือ ภาษากลาง" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/saul.txt b/01/saul.txt new file mode 100644 index 00000000..1d7c4747 --- /dev/null +++ b/01/saul.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ซาอูล, (พันธสัญญาเดิม)", + "body": "ซาอูลเป็นผู้ชายอิสราเอลคนหนึ่งผู้ซึ่งพระเจ้าได้ทรงเลือกให้เป็นกษัตริย์องค์แรกของชนชาติอิสราเอล\n\n* ซาอูลเป็นคนมีรูปร่างสูงและหน้าตาหล่อเหลา และเป็นทหารแกล้วกล้า เขาเป็นคนประเภทที่ชนชาติอิสราเอลต้องการให้เป็นกษัตริษ์ของพวกเขา\n* ถึงแม้ว่าเขาได้รับใช้พระเจ้าในตอนแรก แต่ต่อมาซาอูลกลายเป็นคนเย่อหยิ่งและไม่เชื่อฟังพระเจ้า ผลที่ตามมาคือพระเจ้าได้ทรงแต่งตั้งดาวิดให้เป็นกษัตริย์แทนที่ซาอูลและพระเจ้าให้ซาอูลถูกฆ่าตายในการสู้รบ\n* ในพันธสัญญาใหม่ มีผู้ชายชาวยิวคนหนึ่งชื่อว่าเซาโล ผ฿่ที่เป็นที่รู้จักกันในนามว่า เปาโล และได้กลายมาเป็นอัครสาวกของพระเยซูคริสต์" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/save.txt b/01/save.txt new file mode 100644 index 00000000..946e2f7d --- /dev/null +++ b/01/save.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ช่วยชีวิต, ปลอดภัย", + "body": "คำว่า \"ช่วยชีวิต\" อ้างถึงการนำให้บางคนพ้นจากสิ่งเลวร้ายหรือสิ่งที่ซึ่งอันตราย การ \"ได้รับความปลอดภัย\" หมายถึงการปกป้องจากการถูกทำร้ายหรือจากอันตราย\n\n* ในเชิงเนื้อหนังมนุษย์สามารถถูกช่วยหรือกู้ให้พ้นจากการถูกทำร้าย อันตรายหรือความตายได้\n* ในเชิงฝ่ายวิญญาณหากคนหนึ่งที่ได้รับการ\"ช่วยให้รอด\" นั่นหมายถึงโดยผ่านทางการสวรรคตของพระเยซูคริสต์บนไม้กางเขน พระเจ้าได้ให้อภัยเขาและได้ช่วยกู้เขาจากการถูกทำโทษในนรกเพราะบาปของพวกเขา\n* มนุษย์สามารถช่วยเหลือหรือช่วยกู้มนุษย์จากอันตรายได้ เพียงพระเจ้าองค์เดียวเท่านั้นที่สามารถช่วยมนุษย์ให้พ้นจากการถูกลงโทษนิจนิรันดร์เพราะความบาปของพวกเขาได้\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* วิธีที่แปลคำว่า \"ช่วยชีวิต\" สามารถรวมคำว่า \"\"ส่งมอบ\" หรือ ช่วยจากอ้นตราย\" หรือ \"ตัดทางแห่งอันตรายออกไป\" หรือ\"ช่วยให้พ้นจากความตาย\"\n* คำกล่าว \"ใครก็ตามที่รักษาชีวิต\" คำว่า \"รักษา\" สามารถแปลว่า \"สงวน\" หรือ \"ป้องกัน\"\n* คำว่า \"ช่วยเหลือ\" สามารถแปลว่า \"ป้องกันจากอันตราย\" หรือ \"ในสถานที่ที่ไม่มีอะไรจะทำอันตรายได้\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/savior.txt b/01/savior.txt new file mode 100644 index 00000000..c5567289 --- /dev/null +++ b/01/savior.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "พระผู้ช่วยให้รอด", + "body": "คำว่า \"พระผู้ช่วยให้รอด\" อ้างถึงบุคคลผู้ที่ช่วยให้รอดหรือช่วยกู้ผู้อื่นจากอันตราย และยังสามารถอ้างถึงบางคนที่ให้กำลังแก่ผู้อื่นหรือจัดเตรียมสำหรับพวกเขา\n\n* ในพันธสัญญาเดิม พระเจ้าถูกอ้างถึงว่าเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของชนชาติอิสราเอลเพราะพระองค์ทรงช่วยกู้ชนชาติอิสราเอลให้พ้นจากศัตรูของพวกเขา และประทานกำลังให้พวกเขา และจัดเตรียมสิ่งที่พวกเขาต้องการในการดำเนินชีวิต\n* ในพันธสัญญาใหม่ คำว่า\"พระผู้ช่วยให้รอด\"ได้ใช้อธิบายหรือใช้เรียกตำแหน่งของพระเยซูคริสต์ เพราะว่าพระองค์ได้ทรงช่วยประชาชนจากการถูกลงโทษชั่วนิรันดร์เพราะบาปของพวกเขา พระองค์ยังช่วยกู้พวกเขาให้พ้นจากการถูกควบคุมโดยบาปของพวกเขา\n\n# คำอธิบายในการแปล\n\n* ถ้าเป็นไปได้ \"พระผู้ช่วยให้รอด\" ควรแปลด้วยคำที่เกี่ยวข้องกับคำว่า \"ช่วยเหลือ\" และ \"ช่วยให้รอด\"\n* วิธีที่แปลคำนี้สามารถรวม \"ผู้ที่ช่วย\" หรือ \"พระเจ้าผู้ทรงช่วย\" หรือ \"ผู้ได้ช่วยให้พ้นจากอันตราย\" หรือ \"ผู้ที่ช่วยเหลือจากข้าศึก\" หรือ \"พระเยซูผู้นั้นที่ได้ช่วยกู้\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/scepter.txt b/01/scepter.txt new file mode 100644 index 00000000..98aba7eb --- /dev/null +++ b/01/scepter.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "คทา", + "body": "คำว่า \"คทา\" อ้างถึงไม้ที่มีการประดับหรือไม้เท้าที่ถูกถือโดยพวกเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจปกครองเช่น กษัตริย์\n\n* คทานั้นดั่งเดิมแล้วเป็นกิ่งของไม้ที่มีการแกะสลักตกแต่ง ต่อมาคทาได้ทำด้วยโลหะที่มีค่า เช่นทองคำ\n* คทาเป็นสัญลักษณ์ของความจงรักภักดีและอำนาจซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งเกียรติและศักดิ์ศรีที่มีความเกี่ยวข้องกับกษัตริย์\n* ในพันธสัญญาเดิม พระเจ้าถูกอธิบายเช่นว่าพระองค์ทรงมีคทาแห่งความชอบธรรม นี่เป็นการเกี่ยวข้องกับพระเจ้าผู้ทรงปกครองเหมือนกษัตริย์ปกครองประชาชนของพระองค์\n*คำพยากรณ์พันธสัญญาเดิมอ้างถึงพระเมสสิยาห์ว่าเป็นสัญลักษณ์ของคทาที่จะมาจากอิสราเอลที่จะปกครองเหนือทุกชาติ\n* นี่สามารถแปลว่า \"ไม้ปกครอง\" หรือ \"ไม้ของกษัตริย์\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/scribe.txt b/01/scribe.txt new file mode 100644 index 00000000..5469efed --- /dev/null +++ b/01/scribe.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ธรรมาจารย์, ผู้เชี่ยวชาญพระบัญญัติของชาวยิว", + "body": "พวกธรรมาจารย์เป็นเจ้าหน้าที่ผู้ที่รับผิดชอบในการเขียนหรือคัดลอกเอกสารของรัฐหรือหนังสือทางศาสนาโดยการใช้มือคัดลอก อีกชื่อหนึ่งของธรรมาจารย์ของยิว คือ \"ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องพระบัญญัติของชาวยิว\"\n\n* ธรรมาจารย์เป็นผู้ที่ต้องรับผิดชอบในการคัดลอกและเก็บรักษาพระธรรมต่างๆ ของพันธสัญญาเดิม\n*ธรรมาจารย์ยังคัดลอก, รักษาและตีความหมายความคิดเห็นทางด้านศาสนาและคำอธิบายในเรื่องพระบัญญัติของพระเจ้า\n* บางครั้ง พวกธรรมาจารย์ยังเป็นเจ้าหน้าที่ที่สำคัญของรัฐด้วย\n* ธรรมจารย์ด้านพระคัมภีร์ที่สำคัญรวมถึงบารุคและเอสรา\n* ในพันธสัญญาใหม่คำว่า \"พวกธรรมจารย์\" ได้แปลไว้ว่า\"พวกครูสอนพระบัญญัติ\"\n*ในพันธสัญญาใหม่ พวกธรรมจารย์เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มศาสนาที่เรียกว่า\"พวกฟาริสี\" และทั้งสองกลุ่มถูกกล่าวถึงด้วยกันบ่อยครั้งด้วย\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/scroll.txt b/01/scroll.txt new file mode 100644 index 00000000..7c257f20 --- /dev/null +++ b/01/scroll.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "หนังสือม้วน", + "body": "ในสมัยโบราณ หนังสือม้วนเป็นหนังสือที่ทำให้ยาว เป็นแผ่นม้วนที่ทำจากต้นกกประเภทหนึ่งหรือหนังสัตว์ยาวม้วนเก็บ\n\n* หลังจากที่เขียนหรืออ่านหนังสือม้วนเสร็จ ประชาชนจะม้วนเก็บโดยการใช้ไม้ที่ตอนปลายของหนังสือ\n* หนังสือม้วน ถูกใช้สำหรับเอกสารทางกฏหมายและพระคัมภีร์\n* บางครั้งหนังสือม้วนถูกส่งไปโดยผู้สื่อสารจะปิดผนึกด้วยขี้ผึ้ง นี่เป็นการป้องกันข้อความไม่ให้คนหนึ่งคนใดเปิดอ่านและเขียนลงในนั้นได้ \n* ในหนังสือม้วนที่มีข้อพระคัมภีร์ภาษาฮีบรู จะถูกอ่านออกเสียงดังในธรรมศาลาทั้งหลาย" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/seacow.txt b/01/seacow.txt new file mode 100644 index 00000000..976050c1 --- /dev/null +++ b/01/seacow.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "พะยูน", + "body": "คำว่า \"พะยูน\" อ้างถึงสัตว์ทะเลขนาดใหญ่ที่กินหญ้าทะเลและพืชผักอื่นๆ บนพื้นมหาสมุทร\n\n* พะยูนเป็นสัตว์สีเทามีหนังหนา มันเคลื่อนไหวในน้ำโดยการใช้ครีบของมัน\n* ในสมัยพระคัมภีร์ประชาชนนำผิวหนังหรือหนังของพะยูนมาใช้ในการทำเต็นท์ หนังของสัตว์เหล่านี้ยังใช้ในการคลุมพลับพลา\n* มันมีชื่อเล่นว่า \"วัวทะเล\" เพราะว่ามันกินหญ้าเหมือนวัว แต่พวกมันก็ไม่ได้คล้ายคลึงกันในทางอื่นๆ เลย\n* สัตว์ที่มีความเกี่ยวพันกับสัตว์ชนิดนี้ได้แก่\"ดูกอง\" และ \"มานาที\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/seal.txt b/01/seal.txt new file mode 100644 index 00000000..16b72df5 --- /dev/null +++ b/01/seal.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ตราผนึก, ปิดผนึก", + "body": "การปิดผนึกสิ่งของหมายถึงการทำให้ปิดด้วยบางสิ่งที่ทำให้ไม่สามารถเปิดได้โดยที่ไม่ทุบตราที่ปิดผนึกไว้ให้แตกเสียก่อน\n\n* บ่อยครั้งตราผนึกจะทำเครื่องหมายที่ออกแบบไว้เพื่อแสดงว่าเป็นของใคร\n* ขี้ผึ้งที่ละลายแล้วได้ถูกใช้ปิดผนึกจดหมายหรือเอกสารอื่นๆ ที่ต้องการป้องกัน หลังจากที่ขี้ผึ้งเย็นตัวลงและแข็งตัวจดหมายจะไม่สามารถเปิดได้โดยไม่ทุบตราผนึกขี้ผึ้งที่ประทับออก\n* ตราผนึกได้ถูกตีตราบนหินที่หน้าอุโมงค์ฝังศพของพระเยซูเพื่อกันไม่ให้คนหนึ่งคนใดย้ายก้อนหินนั้นได้\n* เปาโลอ้างเชิงอุปมาอุปไมยถึงพระวิญญาณบริสุทธิ์ว่าเป็น \"ตราผนึก\" นั่นแสดงว่าความรอดของพวกเราได้รับการประกัน\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/seaofgalilee.txt b/01/seaofgalilee.txt new file mode 100644 index 00000000..73d1b3ec --- /dev/null +++ b/01/seaofgalilee.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ทะเลกาลิลี, ทะเลชินเนอเร, ทะเลสาปเยนเนซาเร็ธ, ทะเลทิเบเรียส", + "body": "\"ทะเลกาลิลี\" เป็นชื่อทะเลสาบที่อยู่ในอิสราเอลตะวันออก ในพันธสัญญาเดิมเรียกว่า \"ทะเลชินเนอเรธ\"\n\n* น้ำจากทะเลสาบนี้ไหลลงทางใต้ผ่านแม่น้ำจอร์แดนและไหลลงสู่ทะเลเกลือ\n* เมืองคาเปอร์นาอุม, เมืองเบธไซดา, เยนเนซาเร็ธ และทิเบเรียสเป็นเมืองบางส่วนที่ตั้งอยู่ที่ทะเลกาลิลีในช่วงเวลาของพันธสัญญาใหม่\n* เหตุการณ์ต่างๆ ของชีวิตพระเยซูได้เกิดที่หรือใกล้กับทะเลกาลิลี\n* ทะเลกาลิลียังถูกอ้างอิงถึง\"ทะเลไทบิเรียส\"และ\"ทะเลเยนเนซาเร็ธ\"\n* คำศัพท์นี้สามารถใช้แปลได้ว่า \"ทะเลสาบที่อยู่แถบกาลิลี\" หรือ \"ทะเลกาลิลี\" หรือ \"ทะเลสาบใกล้ไทบิเรียส(เยนเนซาเร็ธ)\"\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/seed.txt b/01/seed.txt new file mode 100644 index 00000000..8e669a40 --- /dev/null +++ b/01/seed.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เมล็ดพันธุ์, น้ำอสุจิ", + "body": "เมล็ดพันธุ์เป็นส่วนหนึ่งของพืชที่ใช้ปลูกในดินเพื่อให้ได้ผลิตผลของพืชชนิดเดียวกันมากขึ้น และยังมีความหมายเชิงอุปมาอุปไมยอีกหลายอย่างด้วย\n\n* คำว่า \"เมล็ดพันธุ์\" ใช้ในเชิงอุปมาอุปไมยและเพื่อความสละสลวยเพื่ออ้างถึงเซลล์เล็กๆ ข้างในผู้ชายหรือผู้หญิงที่รวมกันเพื่อให้เกิดเป็นทารกขึ้นข้างในผู้หญิง\n* คำที่เกี่ยวข้องกับคำว่า \"เมล็ดพันธุ์\" ที่ใช้อ้างถึงผู้สืบสกุลหรือลูกหลานของบุคคลด้วยเช่นกัน\n* คำนี้มีความหมายเป็นพหูพจน์ อ้างถึงมากว่าเมล็ดพันธุ์ข้าวหนึ่งเมล็ดหรือมากกว่าหนึ่งผู้สืบเชื้อสาย\n* ในคำอุปมาเรื่องชาวนาหว่านเมล็ดพืช พระเยซูทรงเปรียบเทียบพระวจนะของพระเจ้ากับเมล็ดพืชที่ปลุกในหัวใจของประชาชนเพื่อให้เกิดผลดีฝ่ายวิญญาณ\n* อัครสาวกเปาโลก็ใช้คำศัพท์ \"เมล็ดพันธุ์\" อ้างถึงพระวจนะของพระเจ้า\n\n# คำแนะนำสำหรับการแปล\n\n* สำหรับเมล็ดพันธุ์ตามตัวอักษร เป็นการดีที่สุดที่จะใช้คำว่า \"เมล็ดพันธุ์\" ที่ใช้ในภาษาเป้าหมายสำหรับสิ่งที่ชาวนาปลูกในทุ่งนาของเขา\n* คำตามตัวอักษรควรถูกใช้ด้วยเช่นกันในบริบทที่อ้างถึงเชิงอุปมาอุปไมยถึงพระคำของพระเจ้า\n* สำหรับการใช้ในเชิงอุปมาอุปไมยที่อ้างถึงคนในสายครอบครัวเดียวกัน มันอาจจะให้ชัดเจนกว่าที่ใช้คำว่า \"ผู้สืบเชื้อสาย\" หรือ \"บรรดาผู้สืบเชื้อสาย\" แทนคำว่า เมล็ดพันธุ์ ในบางภาษาอาจมีคำที่มีความหมายว่า \"ลูกและหลาน\"\n* สำหรับ \"เมล็ดพันธุ์\" ของผู้ชายหรือผู้หญิง ให้พิจารณาว่าภาษาเป้าหมายแสดงออกในทางที่ไม่ขัดใจหรืออีดอัดใจ\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/seek.txt b/01/seek.txt new file mode 100644 index 00000000..e4eef66d --- /dev/null +++ b/01/seek.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "แสวงหา, ได้แสวงหา", + "body": "คำว่า \"แสวงหา\" มีความหมายว่ามองหาบางอย่างหรือบางคน กิริยาช่องสองคือ \"ได้แสวงหา\" มันสามารถมีความหมายว่า \"พยายามอย่างมาก\" หรือ \"สร้างความพยายาม\" ทำบางอย่าง\n\n* การ \"แสวงหา\" หรือ \"มองหา\" โอกาสหมายถึง\"การหาเวลา\" เพื่อทำสิ่งเฉพาะเจาะจง\n* การ \"แสวงหาพระยาห์เวห์\" หมายถึง \"ใช้เวลาและพลังในการรู้จักพระยาห์เวห์และเรียนรู้ที่จะเชื่อฟังพระองค์\"\n* การ \"แสวงหาการป้องกัน\" หมายถึง \"การหาบุคคลหรือสถานที่ที่จะปกป้องท่านจากอันตราย\"\n* การ\"แสวงหาความยุติธรรม\" หมายถึง \"ทำด้วยความพยายามให้เห็นว่าผู้คนถูกปฏิบัติอย่างชอบธรรมและยุติธรรม\"\n* การ \"แสวงหาความจริง\" หมายถึง \"ทำด้วยความพยายามเพื่อค้าหาว่าอะไรคือความจริง\"\n* การ \"แสวงหาความดีความชอบ\" หมายถึง \"พยายามทำความดีความชอบ\" หรือ \"ทำบางอย่างเพื่อให้บางคนช่วยเหลือท่าน\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/seize.txt b/01/seize.txt new file mode 100644 index 00000000..299c6022 --- /dev/null +++ b/01/seize.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ยึด\n", + "body": "คำว่า \"ยึด\" หมายถึงการเอามาหรือจับบางคนหรือบางสิ่งด้วยกำลังบังคับ สามารถหมายถึงการเอาชนะหรือควบคุมใครสักคน\n\n* เมื่อเมืองหนึ่งถูกยึดไปโดยกองกำลังทหาร เหล่าทหารจะยึดทรัพย์สมบัติมีค่าของคนที่พวกเขารบชนะมา\n* เมื่อใช้ในเชิงเปรียบเทียบ บุคคลสามารถใช้อธิบายอย่างเช่น \"ถูกยึดด้วยความกลัว\" นี่หมายถึงบุคคล \"ถูกเอาชนะด้วยความกลัว\" อย่างทันทีทันใด มันสามารถแปลได้อีกว่า \"กลัวขึ้นมาอย่างกระทันหัน\"\n* ในบริบทของการเจ็บท้องคลอดที่ \"ยึด\" ผู้หญิง มีความหมายที่ว่าความเจ็บปวดนั้นเกิดขึ้นกระทันหันและมีพลังมาก นี่สามารถแปลว่า \"เอาชนะ\" หรือ \"มาถึงอย่างกระทันหัน\"\n* คำนี้สามารถแปลว่า \"เข้าควบคุม\" หรือ \"เอาไปทันทีทันใด\" หรือ \"ฉวยไป\"\n* คำกล่าว \"ควบคุมและนอนกับเธอ\" สามารถแปลว่า\"ได้ใช้กำลังของตัวเองบนเธอ\" หรือ\"ได้ละเมิดเธอ\" หรือ \"ได้ขืนใจเธอ\" ให้แน่ใจว่าการแปลในแนวคิดนี้เป็นที่ยอมรับได้ (ดู: [euphemism](https://git.door43.org/Door43/en-ta-translate-vol2/src/master/content/figs_euphemism.md))\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/selah.txt b/01/selah.txt new file mode 100644 index 00000000..13a8ebd3 --- /dev/null +++ b/01/selah.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เส-ลา", + "body": "คำว่า \"เสลา\" เป็นคำภาษาฮีบรูที่ส่วนใหญ่จะปรากฏในพระธรรมสดุดี ซึ่งมีความหมายที่เป็นไปได้หลายอย่าง\n\n* สามารถมีความหมายว่า \"หยุดและสรรเสริญ\" เพื่อเชิญชวนให้ผู้ฟังคิดอย่างรอบครอบถึงสิ่งที่เพิ่งได้พูดไป\n* เนื่องจากพระธรรมสดุดีหลายบทได้ถูกเขียนขึ้นมาให้เป็นบทเพลง คิดกันว่า \"เส-ลา\" อาจเป็นคำศัพท์ทางดนตรีที่บอกให้นักร้องหยุดในการร้องเพลงของเขาชั่วระยะหนึ่งเพื่อให้เฉพาะเครื่องดนตรีบรรเลงไป หรือให้หนุนใจให้ผู้ฟังคิดถึงคำทั้งหลายในบทเพลง" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/selfcontrol.txt b/01/selfcontrol.txt new file mode 100644 index 00000000..0f3704b9 --- /dev/null +++ b/01/selfcontrol.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "การบังคับตน", + "body": "การบังคับตนคือความสามารถที่จะบังคับพฤติกรรมของตัวเองเพื่อให้หลีกเลี่ยงจากการทำบาป\n\n* นี่อ้างถึงพฤติกรรมที่ดี นั่นคือ การหลีกเลี่ยงความคิดที่เป็นบาป,การพูดและการกระทำที่ชั่วร้าย\n* การบังคับตนเป็นผลหรือบุคลิกลักษณะที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ประทานให้เหล่าคริสเตียน\n* บุคคลที่มีการบังคับตนจะสามารถห้ามตัวเขาจากการกระทำชั่วที่เขาอาจอยากทำนั้นได้ พระเจ้าเป็นผู้ที่ทำให้บุคคลมีการบังคับตนได้\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/send.txt b/01/send.txt new file mode 100644 index 00000000..fafea2e1 --- /dev/null +++ b/01/send.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ส่ง, ส่งออกไป, ได้ส่ง", + "body": "คำว่า \"ส่ง\" คือการส่งให้บางคนหรือบางสิ่งให้ไปบางแห่ง การ\"ส่งออกไป\"บางคนเพื่อบอกให้บุคคลนั้นไปทำงานหรือเพื่อทำพันธกิจ\n\n* บ่อยครั้งบุคคลผู้ที่ \"ถูกส่งออกไป\" จะถูกแต่งตั้งให้ทำงานเฉพาะเจาะจง \n* วลีเช่นคำว่า\"ส่งฝน\" หรือ \"ส่งความพินาศ\" หมายถึงเป็นเหตุให้..เกิดขึ้น\"คำกล่าวประเภทนี้มักจะใช้ในการอ้างถึงถึงการที่พระเจ้าเป็นเหตุให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น\"\n* คำว่า \"ส่ง\" ก็ใช้ในคำกล่าวเช่นว่า \"ส่งคำพูด\" หรือ\"ส่งข้อความ\" ซึ่งหมายความว่าส่งข้อความถึงบางคนเพื่อให้ไปบอกคนอื่น\n* การ \"ส่ง\" บางคน \"พร้อมด้วย\" บางสิ่งสามารถหมายความว่า \"ให้\" สิ่งนั้น \"แก่\" บางคน โดยทั่วไปการเคลื่อนมันไประยะทางหนึ่งเพื่อให้บางคนรับมันไว้\n* พระเยซูคริสต์มักใช้วลีว่า \"ผู้ที่ส่งเรา\" บ่อยครั้ง เพื่ออ้างถึงพระเจ้าพระบิดาผู้ \"ได้ทรงส่ง\" พระองค์มายังโลกเพื่อไถ่และช่วยมวลมนุษย์ให้รอด นี้สามารถแปลได้ว่า \"มอบหมายหน้าที่ให้เรา\" หรือ \"เป็นเหตุให้เราต้องมา\" หรือ\" แต่งตั้งเราให้ไป\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/sennacherib.txt b/01/sennacherib.txt new file mode 100644 index 00000000..f6a92295 --- /dev/null +++ b/01/sennacherib.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เซนนาเคอริบ", + "body": "เซนนาเคอริบเป็นกษัตริย์ที่มีอำนาจของอัสซีเรียผู้ซึ่งทำให้เมืองนีนะเวห์เป็นเมืองที่ร่ำรวยและสำคัญเมืองหนึ่ง\n\n* กษัตริย์เซนนาเคอริบเป็นที่รู้จักกันในสงครามต่อบาบิโลนและอาณาจักรยูดาห์\n* เซนนาเคอริบเป็นกษัตริย์ที่หยิ่งยโสและเป็นผู้ที่เย้ยหยันพระยาห์เวห์\n* เซนนาริบกษัตริย์ได้โจมตีกรุงเยรูซาเล็มในช่วงเวลาของกษัตริย์เฮเซคียาห์\n* พระยาห์เวห์ทรงทำให้กองทัพของกษัตริย์เซนนาเคอริบถูกทำลาย\n* ในพันธสัญญาเดิมพระธรรมพงศ์กษัตริย์ และพงศาวดารได้บันทึกเหตุการณ์บางส่วนในสม้ยการปกครองของกษัตริย์เซนนาเคอริบ" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/serpent.txt b/01/serpent.txt new file mode 100644 index 00000000..bdcd03da --- /dev/null +++ b/01/serpent.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "งูใหญ่, งู, งูพิษ", + "body": "คำศัพท์เหล่านี้ อ้างถึงสัตว์เลื้อคลานที่มีลำตัวบางยาวและใหญ่ มีเขี้ยว และเคลื่อนที่ไปโดยการเลื้อยไปข้างหน้าขวางไปมาบนพื้นดิน คำว่า \"งูใหญ่\" โดยทั่วไปแล้วหมายถึงงูขนาดใหญ่และคำว่า \"งูพิษ\" อ้างถึงงูชนิดที่มีพิษซึ่งมันใช้วางพิษเหยื่อของมัน\n\n* สัตว์ชนิดนี้ใช้เปรียบเทียบอ้างถึงบุคคลที่ชั่วร้ายเฉพาะอย่างยิ่งการหลอกลวง\n*พระเยซูทรงเรียกพวกผู้นำทางศาสนาว่า \"ลูกหลานของงูพิษทั้งหลาย\" เพราะว่าพวกเขาเสแสร้งทำเป็นชอบธรรม แต่พวกเขาหลอกลวงผู้คนและปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างไม่ยุติธรรม\n* ในสวนเอเดน ซาตานมาในร่างของงูเมื่อมันได้พูดกับเอว่าและล่อลวงเธอไม่ให้เชื่อฟังพระเจ้า\n* หลังจากที่งูได้ล่อลวงเอวาให้ตกอยู่ในความบาปแล้ว พระเจ้าได้ทรงสาปแช่งงูว่าจากนี้ไปงูทุกตัวต้องเลื้อยไปบนพื้นดิน ซึ่งบ่งบอกว่าเมื่อก่อนพวกมันมีขา" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/servant.txt b/01/servant.txt new file mode 100644 index 00000000..e55f8fc4 --- /dev/null +++ b/01/servant.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": " คนรับใช้, ทาส, การเป็นทาส", + "body": "คำว่า\"คนรับใช้\" สามารถหมายความได้ว่า \"ทาส\" และอ้างถึงบุคคลผู้ที่ทำงานให้กับบุคคลอื่น ไม่ว่าจะเป็นทางเลือกเขาของเองหรือโดยการถูกบังคับ ข้อความของบทที่อยู่ข้างเคียงทำให้คำนั้นชัดเจนไม่ว่าจะเป็นคนรับใช้หรือทาสที่ถูกอ้างถึง\n\n* ในสมัยพระคัมภีร์ มีข้อแตกต่างระหว่างคนรับใช้กับทาสน้อยกว่าที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้ ทั้งคนรับใช้และทาสต่างก็มีส่วนสำคัญสำหรับเจ้านายของเขาและทาสหลายคนได้รับการปฎิบัติเหมือนสมาชิกในครอบครัว บางครั้งทาสก็อาจเลือกที่จะมาเป็นคนรับใช้ตลอดชีวิตให้กับเจ้านายของเขา\n* ทาสเป็นคนรับใช้อีกประเภทหนึ่งผู้ซึ่งเป็นสมบัติของบุคคลที่เขาทำงานให้ ผู้ที่ซื้อทาสเรียกว่าเป็น \"เจ้าของ\" หรือ \"เจ้านาย\" เจ้านายบางคนปฏิบัติต่อทาสของพวกเขาอย่างโหดร้าย ในขณะที่เจ้านายคนอื่นปฏิบัติต่อทาสของพวกเขาอย่างดีมาก ราวกับว่าคนรับใช้เป็นสมาชิกที่มีค่าในครัวเรือน\n* ในสมัยโบราณ บางคนเต็มใจที่จะเป็นทาสให้กับบุคคลผู้ที่พวกเขาเป็นหนี้เงินเพื่อที่จะจ่ายคืนหนี้ให้กับบุคคลนั้น\n* ในพระคัมภีร์ วลี \"ข้าเป็นคนรับใช้ของท่าน\" ใช้เพื่อเป็นสัญญาลักษณ์ของการให้เกียรติและการบริการให้กับบุคคลที่มียศศักดิ์สูงกว่า เช่น กษัตริย์ แต่ไม่ได้หมายความผู้ที่พูดอยู่นั้นต้องเป็นคนรับใช้จริงๆ\n* ในพันธสัญญาเดิม เหล่าผู้เผยพระวจนะของพระเจ้าและคนอื่นๆที่นมัสการพระเจ้า บ่อยครั้งพวกเขาถูกอ้างอิงว่าเป็น \"คนรับใช้\" ของพระองค์\n* ในพันธสัญญาใหม่ คนที่เชื่อฟังพระเจ้าผ่านทางความเชื่อในพระเยซูคริสต์บ่อยครั้งจะเรียกว่า\"คนรับใช้\" ของพระองค์ \n* คริสเตียนเองก็ถูกเรียกว่า\"ทาสของความชอบธรรม\"ซึ่งเป็นอุปมาที่เปรียบกับการที่เชื่อฟังพระเจ้านั้นเป็นการเชื่อฟังเจ้านายของเขา (ดู : [Metaphor](https://git.door43.org/Door43/en-ta-translate-vol1/src/master/content/figs_metaphor.md))" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/serve.txt b/01/serve.txt new file mode 100644 index 00000000..066f75f1 --- /dev/null +++ b/01/serve.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ปรนนิบัติ, การรับใช้\n", + "body": "คำว่า \"ปรนนิบัติ\" หมายความว่าทำบางสิ่งเพื่อช่วยคนอื่นนั้น มันสามารถความหมายว่า \"การนมัสการ\"\n\n* ในบริบทของผู้หญิงปรนนิบัติแขกของเธอ คำนี้หมายถึง \"ดูแล\" หรือ \"บริการอาหารให้\" หรือ \"จัดเตรียมอาหารให้\"\n* เมื่อพระเยซูทรงบอกให้เหล่าสาวกเลี้ยงเหล่าประชนด้วยปลา นี่สามารถแปลได้ว่า \"แจกจ่ายให้\" หรือ \"ยื่นมือออกไป\" หรือ \"ให้\" 1#comment_5adb7a6af206fdb7787dd58f4b215940\n* คำว่า \"การบริการ\" อ้างถึงการกระทำของการบริการ มันยังสามารถใช้อ้างอิงถึง \"การประชุม\" ของคริสเตียนที่พวกเขานมัสการพระเจ้าด้วยกัน\n* คำว่า \"การปรนนิบัติ\" สามารถแปลได้ว่า \"การคอยดูแล\" หรือ \"การรับใช้\"หรือ\"การดูแลเอาใจใส่ให้\" หรือ \"เชื่อฟัง\" ขึ้นอยู่กับบริบท\n* \"การรับใช้พระเจ้า\"สามารถแปลได้ว่า \"การนมัสการและเชื่อฟังพระเจ้า\" หรือ \"การทำงานที่พระเจ้าได้ทรงบัญชาให้ทำ\"\n* \"การปรนนิบัติบนโต๊ะ\" หมายถึงการนำเอาอาหารมาให้แก่ผู้ที่นั่งอยู่ที่โต๊ะ\n* คนที่สอนผู้อื่นถึงเรื่องพระเจ้าเรียกว่าการปรนนิบัติทั้งพระเจ้าและผู้อื่นที่พวกเขากำลังสอนอยู่นั้น\n* อัครสาวกเปาโลได้เขียนจดหมายถึงคริสเตียนชาวโครินธ์ถึงการที่พวกเขาเคย \"ปรนนิบัติ\" พันธสัญญาเดิม นี่อ้างถึงการเชื่อฟังบัญญัติของโมเสส\n* ตอนนี้พวกเขา\"ปรนนิบัติ\" พันธสัญญาใหม่ นั่นคือเพราะเครื่องบูชาของพระเยซูคริสต์บนไม้กางเขน ผู้เชื่อทั้งหลายในพระเยซูสามารถทำให้พระเจ้าทรงพอพระทัยและมีชีวิตที่บริสุทธิ์ด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้\n* เปาโลพูดถึงเรื่องนี้ในแง่ที่ว่า \"การปรนนิบัติ\" ของพวกเขาถึงทั้งพันธสัญญาเดิมและใหม่ นี่สามารถแปลได้ว่า \"การปรนนิบัติ\" หรือ \"การเชื่อฟัง\" หรือ \"การถายตัว\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/setapart.txt b/01/setapart.txt new file mode 100644 index 00000000..24730ce9 --- /dev/null +++ b/01/setapart.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "แยกออก", + "body": "คำว่า \"แยกออกมา\" มีความหมายว่าถูกแยกออกมาจากบางสิ่งเพื่อให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์\n\n* ชนชาติอิสราเอลถูกแยกออกมาเพื่อการปรนนิบัติพระเจ้า\n* พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้สั่งให้คริสเตียนที่อยู่ในเมืองอันทิโอกแยกจากเปาโลและบารนาบัสเพื่องานที่พระเจ้าทรงพระประสงค์จะให้พวกเขาทำ\n* ผู้เชื่อที่ถูก \"แยกออกมา\" เพื่อการปรนนิบัติรับใช้พระเจ้า เป็น \"อุทิศถวายเพื่อ \" ให้พระประสงค์ของพระเจ้าสำเร็จ\n* ความหมายของคำว่า \"บริสุทธิ์\" เป็นคำที่ถูกแยกออกมาเพื่อใช้กับพระเจ้าและแยกออกมาจากทางแห่งความบาปของโลกนี้\n* คำว่า \"ทำให้บริสุทธิ์\" หมายถึงแยกคนคนหนึ่งออกมาเพื่อการปรนนิบัติรับใช้พระเจ้า\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* วิธีแปล \"แยกออกมา\" สามารถรวม \"คัดเลือกเป็นพิเศษ\" หรือ \"แยกออกมาจากท่ามกลางท่าน\" หรือ \" เลือกออกมาเพื่อทำงานพิเศษ\"\n* \"แยกออกมา\" สามารถแปลว่า \"ถูกแยกออกแล้ว\"\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/seth.txt b/01/seth.txt new file mode 100644 index 00000000..9ea736c8 --- /dev/null +++ b/01/seth.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เสท", + "body": "ในพระธรรมปฐมกาล เสทเป็นบุตรชายคนที่สามของอาดัมและเอวา\n\n* เอวาได้กล่าวว่าเธอได้เสทมาเป็นบุตรชายแทนอาแบลซึ่งเป็นบุตรชายอีกคนหนึ่งของเอวาที่ถูกฆ่าโดยคาอินพี่ชายของเขา\n* โนอาห์เป็นหนึ่งในผู้สืบเชื้อสายจากเสท ดังนั้นทุกคนที่มีชีวิตอยู่ตั้งแต่ช่วงน้ำท่วมโลกก็เป็นผู้สืบเชื้อสายของเสทด้วยเช่นกัน\n* เสทและครอบครัวของเขาเป็นประชาชนกลุ่มแรกที่ \"ออกพระนามของพระผู้เป็นเจ้า\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/sex.txt b/01/sex.txt new file mode 100644 index 00000000..5bbf781b --- /dev/null +++ b/01/sex.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "หลับนอนกับ, มีความสัมพันธ์กับ, การสมสู่", + "body": "ในพระคัมภีร์คำเหล่านี้เป็นการใช้ภาษาสละสลวยที่อ้างถึงการมีเพศสัมพันธ์ (ดู: [Euphemism](https://git.door43.org/Door43/en-ta-translate-vol2/src/master/content/figs_euphemism.md))\n\n* การ \"หลับนอนกับ\" บางคนเป็นวิธีการทั่วไปที่อ้างถึงการมีเพศสัมพันธ์ คำอดีตคือ\"นอนด้วยแล้ว\"\n* ในพันธสัญญาเดิม\"เพลงซาโลมอน\" ULB ใช้คำ\"การสมสู่\" เพื่อแปลคำว่า \"รัก\" ซึ่งตามบริบทแล้วอ้างถึงมีเพศสัมพันธ์ นี่มีความสัมพันธ์กับคำกล่าวว่า\"สมสู่กัน\"\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ในบางภาษาอาจใช้คำกล่าวที่ต่างไปของคำนี้ในบริบทที่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่ามันเป็นการพูดถึงเกี่ยวกับสามีภรรยาหรือไม่ หรือเกี่ยวกับความสัมพันธ์อื่นๆ เป็นสิ่งสำคัญที่ให้แน่ใจว่าการแปลคำนี้มีความหมายที่ถูกต้องในแต่ละบริบท\n* ขึ้นอยู่กับบริบท คำกล่าวเช่นคำเหล่านี้สามาถแปลว่า \"หลับนอนกับ\" \"นอนกับ\" หรือร่วมรักกับ\" หรือ \"ใกล้ชิดกับ\"\n* วิธีอื่นที่จะแปล \"มีความสัมพันธ์กับ\" ควรรวมเอา \"มีเพศสัมพันธ์กับ\" หรือ \"มีความสัมพันธ์ทางสมรสกับ\"\n* คำว่า \"การมีเพศสัมพันธ์\" สามารถแปลว่า \"กำลังรัก\" หรือ \"ความใกล้ชิด\" หรือ อาจจะมีคำกล่าวที่เป็นธรรมชาติในการแปลภาษาของโครงการนี้\n* เป็นสิ่งสำคัญที่จะตรวจสอบคำที่ใช้และความคิดนี้ว่าเป็นการยอมรับของประชาชนผู้ที่จะใช้ในการแปลพระคัมภีร์\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/shadow.txt b/01/shadow.txt new file mode 100644 index 00000000..2806846b --- /dev/null +++ b/01/shadow.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เงา", + "body": "คำว่า \"เงา\" ตามตัวหนังสือแล้วอ้างถึงความมืดที่มีสิ่งของอย่างหนึ่งมาบดบังความสว่าง มันยังมีความหมายตามคำอุปมาอีกหลายอย่าง\n\n* คำว่า \"เงาแห่งความตาย\" หมายถึงความตายในปัจจุบันหรือใกล้เข้ามา เหมือนกับเงาที่บ่งชี้การปรากฏของวัตถุ\n* หลายครั้งในพระคัมภีร์ ชีวิตของมนุษย์ก็เปรียบเทียบกับเงาที่ไม่ยั่งยืนและไม่มีแก่นสาร\n* บางครั้งคำว่า \"เงา\" ก็ใช้อีกเป็นอีกคำได้ว่า \"ความมืด\"\n* พระคัมภีร์กล่าวถึงการถูกซ่อนหรือการถูกอารักขาอยู่ในเงาของปีกของพระเจ้าหรือพระหัตถ์ นี่เป็นภาพของการปกป้องหรือซ่อนไว้จากอันตราย วิธีอื่นที่จะแปลคำว่า \"เงา\" ในบริบทเหล่านี้สามารถรวมไปถึง \"ที่ร่ม\" หรือ \"ความปลอดภัย\" หรือ \"การปกป้อง\"\n* เป็นการดีที่สุดที่จะแปลคำว่า \"เงา\" ตามตัวอักษาการใช้คำท้องถิ่นที่หมายถึงคำว่าเงาจริงๆ" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/shame.txt b/01/shame.txt new file mode 100644 index 00000000..154c645a --- /dev/null +++ b/01/shame.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ความอับยศ, น่าอับอาย, ความอดสู", + "body": "คำว่า \"ความอัปยศ\" อ้างถึงความรู้สึกอับอายที่บุคคลมีเนื่องจากบางสิ่งที่ทำลายเกียรติ หรือสิ่งไม่เหมาะสมที่เขาหรือบางคนได้กระทำลงไป\n\n* บางครั้งคำว่า\"น่าอับอาย\" คือ \"ความไม่เหมาะสม\" หรือ \"ความเสื่อมเสียชื่อเสียง\"\n* คำว่า \"ความอดสู\" อธิบายถึงความรู้สึกของบุคคลเมื่อเขาได้กระทำบางอย่างที่น่าละอาย\n* วลี \"ทำให้อับอาย\" หมายถึงการทำให้คนพ่ายแพ้หรือเปิดเผยบาปของพวกเขาเพื่อให้พวกเขารู้สึกละอายในตัวพวกเขาเอง\n* ผู้เผยพระวจนะอิสยาห์ได้พูดถึงคนเหล่านั้นที่สร้างรูปเคารพและนมัสการรูปเคารพจะได้ถูกทำให้อับอาย\n*พระเจ้าสามารถนำความอัปยศมาสู่บุคคลที่ไม่เสียใจในความผิดบาป โดยการเปิดเผยบาปของคนๆนั้นและทำให้เขาได้รับความอับอายขายหน้า" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/sharon.txt b/01/sharon.txt new file mode 100644 index 00000000..d97c31da --- /dev/null +++ b/01/sharon.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ชาโรน, ที่ราบชาโรน", + "body": "ชาโรนเป็นชื่อของพื้นที่ราบเป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์ตามแนวชายฝั่งของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตอนใต้ของภูเขาคาร์เมล เป็นที่รู้จักกันว่า\"ที่ราบชาโรน\"\n\n* เมืองหลายเมืองที่กล่าวถึงในพระคัมภีร์ตั้งอยู่บนที่ราบชาโรนรวมถึงยัฟฟา ลีดดา ซีซารียา\n* นี่สามารถแปลได้อีกว่า \"ที่ราบที่เรียกว่าชาโรน\" หรือ \"ที่ราบชาโรน\"\n* คนที่อาศัยอยู่ในแถบชาโรนจะเรียกว่า \"ชาวชาโรน\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/sheba.txt b/01/sheba.txt new file mode 100644 index 00000000..6e7f2a3c --- /dev/null +++ b/01/sheba.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เชบา", + "body": "ในสมัยโบราณ เชบาเป็นอารยธรรมโบราณหรือเป็นแคว้นที่อยู่บางแห่งในตอนใต้ของอารเบีย\n\n* แคว้นเชบาหรือประเทศเชบาอาจตั้งอยู่ใกล้ซึ่งปัจจุบันเป็นประเทศเยเมนหรือประเทศเอธิโอเปียในปัจจุบัน\n* คนที่อาศัยอยู่เป็นลูกหลานของฮาม\n* ราชินีแห่งเชบาได้มาเยี่ยมเยียนกษัตริย์ซาโลมอนเมื่อพระนางได้ยินกิตติศัพท์ในความมั่งคั่งและสติปัญญาของพระองค์\n* มีผู้ชายหลายคนที่มีชื่อว่า \"เชบา\" ที่ระบุลำดับวงศ์ตระกูลในพันธสัญญาเดิม เป็นไปได้ว่าชื่อของแคว้นเชบานั้นมาจากหนึ่งในผู้ชายเหล่านี้\n* เมืองเบอร์เชบาถูกตัดให้สั้นเป็นเมืองเชบาหนึ่งครั้งในพันธสัญญาเดิม" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/shechem.txt b/01/shechem.txt new file mode 100644 index 00000000..06aa0244 --- /dev/null +++ b/01/shechem.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เชเคม", + "body": "เชเคมเป็นเมืองที่อยู่ในคานาอันตั้งอยู่ทางเหนือห่างจากเยรูซาเล็มประมาณ40ไมล์ เชเคมยังเป็นชื่อของผู้ชายคนหนึ่งในพันธสัญญาเดิม\n\n* เมืองเชเคมเป็นเมืองที่ยาโคบได้ตั้งถิ่นฐานหลังจากที่ได้คืนดีกับเอซาวพี่ชายของเขา\n* ยาโคบได้ซื้อที่ดินจากบุตรชายของฮาโมร์ชาวฮีไวท์ในเมืองเชเคม ที่ซึ่งต่อมากลายเป็นที่ฝังศพครอบครัวของเขาและเป็นสถานที่ที่บุตรชายทั้งหลายของยาโคบได้ฝังเขาไว้\n* เชเคมบุตรชายของฮาโมร์ได้ข่มขืนดีนาห์บุตรสาวของยาโคบซึ่งเป็นผลให้บุตรชายของยาโคบฆ่าผู้ชายทุกคนในเมืองเชเคม" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/sheep.txt b/01/sheep.txt new file mode 100644 index 00000000..3c000f7b --- /dev/null +++ b/01/sheep.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ฝูงแกะ, แกะตัวผู้, แกะตัวเมีย", + "body": "\"แกะ\"เป็นสัตว์ขนาดกลางที่มีสี่ขามีขนรอบตัว แกะเพศผู้เรียกว่า\"แกะตัวผู้\" แกะเพศหญิงเรียกว่า \"แกะตัวเมีย\"\n\n* แกะตัวเล็กจะเรียกว่า \"ลูกแกะ\"\n* บ่อยครั้งชาวอิสราเอลใช้แกะในการถวายบูชา เฉพาะอย่างยิ่งแกะตัวผู้ที่ยังหนุ่ม\n* คนจะกินเนื้อแกะและนำขนแกะไปทำเป็นเสื้อผ้าและอย่างอื่น\n* แกะนั้นเป็นสัตว์ที่เชื่อฟังมาก อ่อนแอ ขี้กลัว พวกมันหลงทางได้ง่าย พวกมันจึงต้องการผู้เลี้ยงแกะที่จะนำพวกมัน ปกป้อง และเตรียมอาหาร น้ำดื่มและที่พักอาศัยให้พวกมันด้วย\n* ในพระคัมภีร์ ประชาชนถูกเปรียบเทียบกับแกะผู้ที่มีพระเจ้าเป็นผู้เลี้ยงแกะของพวกเขา" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/shem.txt b/01/shem.txt new file mode 100644 index 00000000..9149efd4 --- /dev/null +++ b/01/shem.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เชม", + "body": "เชมเป็นหนึ่งในหนึ่งในบุตรชายทั้งสามของโนอาห์ที่ได้ไปกับเขาในเรือขณะที่น้ำท่วมโลกที่ได้อธิบายไว้ในพระธรรมปฐมกาล\n\n* เชมเป็นบรรพบุรุษของอับราฮัมและเชื้อสายของเขา\n* เชื้อสายของเชมที่เป็นที่รู้จักกันคือ\"เสไมต์\" ผู้พูดภาษา \"เสเมติก\" อย่างเช่นภาษาฮีบรูและภาษาอาหรับ\n* พระคัมภีร์บันทึกไว้ว่าเชมมีอายุยืนถึงเกือบ 600 ปี" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/shepherd.txt b/01/shepherd.txt new file mode 100644 index 00000000..16d74663 --- /dev/null +++ b/01/shepherd.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ผู้เลี้ยงแกะ, เลี้ยงแกะ", + "body": "ผู้เลี้ยงแกะ คือบุคคลที่ดูแลฝูงแกะ คำกิริยา \"เลี้ยงแกะ\" หมายถึงการปกป้องแกะและจัดเตรียมอาหารน้ำดื่มให้พวกมัน\n\n* ผู้เลี้ยงแกะจะเฝ้าดูแลฝูงแกะ พาพวกมันไปยังแหล่งอาหารและน้ำที่ดี ผู้เลี้ยงแกะยังดูแลฝูงแกะไม่ให้หลงหายและปกป้องพวกมันจากสัตว์ป่าทั้งหลาย\n* บ่อยครั้งคำนี้ยังใช้เปรียบเทียบในพระคัมภีร์เพื่ออ้างถึงการดูแลความต้องการทางจิตวิญญาณของคน นี่รวมถึงการสอนพวกเขาในสิ่งที่พระเจ้าตรัสในพระคัมภีร์และนำให้พวกเขามีชีวิตในทางที่ควร (ดู: [Metaphor](https://git.door43.org/Door43/en-ta-translate-vol1/src/master/content/figs_metaphor.md))\n* ในพันธสัญญาเดิม พระเจ้าถูกเรียกว่า \"ผู้เลี้ยงแกะ\" ของประชากรของพระองค์เพราะพระองค์ทรงดูแลความต้องการของพวกเขาทุกอย่างและปกป้องพวกเขา พระองค์ยังทรงนำพวกเขาด้วย\n* โมเสสเป็นผู้เลี้ยงแกะของชาวอิสราเอล ในฐานะที่นำพวกเขาทางฝ่ายวิญญาณในการนมัสการพระยาห์เวห์และได้นำพวกเขาทางฝ่ายร่างกายในการเดินทางไปยังแผ่นดินคานาอัน \n *ในพัธสัญญาใหม่พระเยซูทรงเรียกพระองค์เองว่าเป็น\"ผู้เลี้ยงแกะที่ดี\"อัครทูตเปาโลยังกล่าวถึงพระองค์ว่าเป็น\"ผู้เลี้ยงที่ยิ่งใหญ่\"เหนือคริสตจักร\n* ในพัธสัญญาใหม่ คำว่า\"ผู้เลี้ยงแกะ\"ยังใช้อ้างถึงบุคคลที่เป็นผู้นำทางฝ่ายวิญญาณของเหล่าผู้เชื่อ คำว่า \"ศิษยภิบาล\" มีความหมายเหมือนกับคำว่า \"ผู้เลี้ยงแกะ\" ผู้ปกครองและมัคนายกก็เรียกว่าผู้เลี้ยงแกะเช่นกัน\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* เมื่อใช้ตามตัวอักษร การกระทำ \"ผู้เลี้ยงแกะ\" สามารถแปลว่า \"ดูแลฝูงแกะ\" หรือ \"เฝ้าดูฝูงแกะ\"\n* บุคคล \"ผู้เลี้ยงแกะ\" สามารถแปลว่า \"บุคคลผู้ดูแลฝูงแกะ\" หรือ \"ผู้นำฝูงแกะ\" หรือ \"ผู้ให้ความดูแลฝูงแกะ\"\n* เมื่อใช้คำอุปมาอุปมัย วิธีแปลที่แตกต่างไปในการแปลคำนี้สามารถรวม \"ผู้ดูแลฝูงแก่ฝ่ายวิญญาณ\" หรือ \"ผูนำฝ่ายจินวิญญาณ\" หรือ \" ผู้ที่เหมือนผู้เลี้ยงฝูงแกะ\" หรือ \"ผู้ดูแลประชาชนของเขาเหมือนผู้เลี้ยงแกะดูแลฝูงแกะของเขา\" หรือ\"ผู้นำประชาชนของเขาเหมือนผู้เลี้ยงแกะนำฝูงแกะของเขา\" หรือ \"ผู้ดูแลฝูงแกะของพระเจ้า\"\n* ในบางบริบท \"ผู้เลี้ยงแกะ\" สามารถแปลว่า \"ผู้นำ\" หรือ \"นำ\" หรือ \"ผู้ให้การดูแล\"\n* คำกล่าว \"การเลี้ยงแกะ...\n\n\n\n\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/shield.txt b/01/shield.txt new file mode 100644 index 00000000..9b0ac9a5 --- /dev/null +++ b/01/shield.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "โล่", + "body": "โล่เป็นวัตถุอย่างหนึ่งที่ทหารใช้ถือในการต่อสู้เพื่อปกป้องตัวเขาจากการบาดเจ็บจากอาวุธของศัตรู \"การปกป้อง\" ใครสักคนหมายถึงการป้องกันเขาผู้นั้นจากอันตราย\n\n* โล่เป็นรูปทรงกลมหรือรูปวงรีและทำด้วยวัสดุ เช่นหนัง ไม้ หรือโลหะที่ทนทานและหนาพอที่จะป้องกันจากดาบและลูกธนูได้\n* การใช้คำนี้เป็นคำอุปมา พระคัมภีร์อ้างถึงพระเจ้าในฐานะโล่ที่ปกป้องประชาชนของพระองค์ (ดู : [Metaphor](https://git.door43.org/Door43/en-ta-translate-vol1/src/master/content/figs_metaphor.md))\n* เปาโลได้พูดถึง\"โล่แห่งความเชื่อ\" ด้วย ซึ่งเป็นวิธีการเปรียบเทียบกับการเชื่อในพระเยซูและการดำเนินอยู่ในความเชื่อแห่งความยำเกรงพระเจ้านั้นจะปกป้องผู้เชื่อจากการโจมตีฝ่ายวิญญาณของซาตาน" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/shiloh.txt b/01/shiloh.txt new file mode 100644 index 00000000..0576f347 --- /dev/null +++ b/01/shiloh.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ชิโลห์", + "body": "ชิโลห์เป็นเมืองด่านหน้าของคนคานาอันที่ถูกเอาชนะโดยชาวอิสราเอลภายใต้การนำของโยชูวา\n\n* เมืองชิโลห์อยู่ทางตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดนและตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองเบธเอ็ล\n* ในช่วงเวลาที่โยชูวานำอิสราเอลอยู่นั้น เมืองชิโลห์เป็นสถานที่นัดประชุมของคนอิสราเอล\n* อิสราเอลสิบสองเผ่าได้พบกันที่ชิโลห์เพื่อมาฟังโยชูวากล่าวแก่พวกเขาว่าส่วนไหนของแผ่นดินคานาอันที่จะมอบให้พวกเขาแต่ละเผ่า\n* ก่อนที่จะมีการสร้างพระวิหารขึ้นมาในกรุงเยรูซาเล็ม ชิโลห์เป็นสถานที่ที่ชาวอิสราเอลมาถวายเครื่องบูชาแด่พระเจ้า\n* เมื่อซามูเอลยังเป็นเด็ก ฮันนาแม่ของเขาได้พาเขาไปอยู่ที่ชิโลห์เพื่อให้ปุโรหิตเอลีฝึกเขาให้ปรนนิบัติพระยาห์เวห์" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/shimei.txt b/01/shimei.txt new file mode 100644 index 00000000..8b6e5e2b --- /dev/null +++ b/01/shimei.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ชิเมอี", + "body": "ชิเมอีเป็นชื่อของผู้ชายหลายคนในพันธสัญญาเดิม\n\n* ชิเมอีบุตรชายแห่งเกราเป็นชาวเบนยามินผู้แช่งสาปกษัตริย์ดาวิดและขว้างก้อนหินใส่พระองค์ในขณะที่พระองค์หนีจากกรุงเยรูซาเล็มเพื่อหลบนี้การถูกฆ่าโดยอับซาโลมโอรสของพระองค์\n* ในพันธสัญญาเดิมยังมีปุโรหิตชาวเลวีหลายคนที่มีชื่อว่าชิเมอี" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/shinar.txt b/01/shinar.txt new file mode 100644 index 00000000..c387d301 --- /dev/null +++ b/01/shinar.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ชินาร์", + "body": "ชินาร์หมายความว่า \"ประเทศที่มีแม่น้ำสองสาย\" และเป็นชื่อของที่ราบหรือแคว้นที่อยู่ทางใต้ของเมโสโปเตเมีย\n\n* ชินาร์ ต่อมาได้กลายเป็นที่รู้จักกันว่า \"เคลเดีย\" แล้วต่อมาเป็น \"บาบิโลเนีย\"\n* คนสมัยโบราณอาศัยอยู่ในเมืองบาแบลในที่ราบของซินาห์ ได้สร้างหอสูงเพื่อทำให้พวกเขาดูยิ่งใหญ่\n* คนรุ่นต่อมาอีกหลายรุ่น บรรพบุรุษของชาวยิวคืออับราฮัมได้อาศัยอยู่ที่เมืองเออร์ในแคว้นนี้ ที่เรียกตามเวลานั้นว่า \"เคลเดีย\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/shrewd.txt b/01/shrewd.txt new file mode 100644 index 00000000..3cb47208 --- /dev/null +++ b/01/shrewd.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "มีเล่ห์เหลี่ยม", + "body": "คำว่า \"มีเล่ห์เหลี่ยม\" อธิบายถึงบุคคลที่มีปัญญาและฉลาดโดยฉะเพาะในทางปฏิบัติ\n\n* บ่อยครั้งคำว่า \"มีเล่ห์เหลี่ยม\" มีความหมายบางส่วนที่เป็นแง่ลบเพราะคำนี้มักรวมถึงการเห็นแก่ตัว\n* คนมีเล่ห์เหลี่ยมมักจะเน้นที่การช่วยเหลือตัวเอง ไม่สนใจผู้อื่น\n* วิธีอื่นที่จะแปลคำนี้สามารถรวมคำว่า \"เจ้าเล่ห์\" หรือ \"เจ้ามารยา\" หรือ \"หลักแหลม\" หรือ \"ฉลาด\" ขึ้นอยู่กับบริบท" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/sidon.txt b/01/sidon.txt new file mode 100644 index 00000000..c93b5949 --- /dev/null +++ b/01/sidon.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": " ไซดอน, ชาวไซดอน", + "body": "ไซดอนเป็นบุตรชายคนโตของคานาอัน ยังมีเมืองของคนคานาอันที่เรียกว่าไซดอนด้วย เมืองนี้อาจถูกตั้งชื่อตามบุตรชายของคานาอัน\n\n* เมืองไซดอนตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของอิสราเอลบนชายฝั่งของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในแถบที่ปัจจุบันนี้ป็นประเทศเลบานอน\n* \"ชาวไซดอน\" เป็นกลุ่มของชาวฟินีเชียผู้ที่ได้อาศัยอยู่ในเมืองไซดอนโบราณและแถบบริเวณล้อมรอบนั้น\n* ในพระคัมภีร์ ไซดอนมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับไทร์ และเมืองทั้งสองนี้ก็มีชื่อเสียงในด้านความมั่งคั่งและพฤติกรรมที่ผิดศีลธรรมของคนในเมืองนั้น" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/siege.txt b/01/siege.txt new file mode 100644 index 00000000..c0ad08f9 --- /dev/null +++ b/01/siege.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "การโอบล้อม, โอบล้อม", + "body": "คำว่า \"การโอบล้อม\" อ้างถึงเมื่อกองทัพโจมตีล้อมรอบเมืองและทำให้เมืองนั้นจากการรับสะเบียงอาหารและน้ำ การ \"โอบล้อม\" เมืองหมายถึงการทำให้เมืองนั้นอยู่ภายใต้การโอบล้อม\n\n* เมื่อบาบิโลนมาโจมตีอิสราเอลพวกเขาก็ใช้กลยุทธในการล้อมรอบกรุงเยรูซาเล็มเพื่อทำให้คนภายในเมืองอ่อนกำลังลง\n* บ่อยครั้งในระหว่างการล้อมรอบโจมตี ทางลาดดินจะค่อยๆ ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้กองทัพโจมตีข้ามกำแพงเมืองและบุกเมืองได้\n* คำกล่าวที่บอกว่า \"วางการโอบล้อม\"หมายถึงการทำการล้อมรอบ มีความหมายเหมือนกับคำว่า\"โอบล้อม\"\n* คำว่า\"ถูกโอบล้อม\" มีความหมายที่เหมือนกับคำว่าที่บอกว่า\"ภายใต้การโอบล้อม\" คำกล่าวทั้งสองอย่างนี้อธิบายถึงเมืองที่กองทัพศัตรูกำลังล้อมรอบอยู่และถูกโอบล้อม" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/sign.txt b/01/sign.txt new file mode 100644 index 00000000..982ccb66 --- /dev/null +++ b/01/sign.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "สัญญาณ, พิสูจน์, การแจ้งเตือน", + "body": "สัญญาณสามารถหมายถึง สิ่งของ เหตุการณ์ หรือการสื่อสารถึงความหมายพิเศษ\n\n* สัญญาณ สามารถเป็นเครื่องเตือนความบางสิ่งที่ได้สัญญาไว้แล้ว\n* รุ้งที่พระเจ้าได้เนรมิตไว้บนท้องฟ้าเป็นสัญญาณที่เตือนผู้คนว่าพระเจ้าจะไม่ทำลายทุกชีวิตด้วยการให้น้ำท่วมโลกอีก\n* พระเจ้าตรัสสั่งคนอิสราเอลให้บุตรชายของเขาเข้าสุหนัตเพื่อเป็นสัญญาณแห่งพันธสัญญากับพวกเขา\n* สัญญาณสามารถเปิดเผยหรือชี้ให้เห็นถึงบางสิ่งบางอย่างได้\n* ทูตสวรรค์องค์หนึ่งได้ให้สัญญาณแก่คนเลี้ยงแกะที่จะช่วยให้พวกเขารู้ว่าทารกคนไหนในเมืองเบธเลเฮ็มที่เป็นพระเมสิยาห์ที่บังเกิดใหม่\n* ยูดัสได้จูบพระเยซูเพื่อสัญญาณให้แก่พวกผู้นำศาสนาว่าพระเยซูเป็นผู้ที่พวกเขาควรจะจับ\n* สํญญาณสามารถพิสูจน์บางอย่างว่าเป็นความจริง\n* การอัศจรรย์ต่างๆที่ได้กระทำโดยพวกผู้เผยพระวจนะและเหล่าสาวกเป็นสัญญาณที่พิสูจน์ว่าคนเหล่านี้กำลังพูดถึงพระวจนะของพระเจ้า\n* การอัศจรรย์ต่างๆที่พระเยซูได้กระทำเป็นเครื่องหมายที่พิสูจน์ว่าแท้จริงพระองค์ทรงเป็นพระเมสิยาห์\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ขึ้นอยู่กับบริบท \"สัญญาณ\" สามารถแปลว่า \"สัญญาณ\" หรือ \"สัญลักาณ์\" หรือ \"เครื่องหมาย\" หรือ \"หลักฐาน\" หรือ \"ข้อพิสูจน์\" หรือ \"การให้สัญญาณ\"\n* \"การทำสัญญาณด้วยมือ\" สามารถแปลว่า \"\"การเคลื่อนไหวด้วยมือ\" หรือ \"การให้สัญญาณด้วยมือ\" หรือ \"ทำสัญญาณ\"\n* ในบางภาษา อาจจะมีหลายคำสำหรับ \"สัญญาณ\" ที่พิสูจน์บางสิ่งและคำต่างกันสำหรับ \"สัญญาณ\" นั่นคือการอัศจรรย์" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/silas.txt b/01/silas.txt new file mode 100644 index 00000000..26deebfa --- /dev/null +++ b/01/silas.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "สิลาส, สิลวานัส", + "body": "สิลาสเป็นผู้นำคนหนึ่งท่ามกลางในหมู่ผู้เชื่อในกรุงเยรูซาเล็ม\n\n* ผู้ปกครองทั้งหลายของคริสตจักรในกรุงเยรูซาเล็มได้แต่งตั้งสิลาสให้เดินทางไปกับเปาโลและบารนาบัสเพื่อนำจดหมายไปส่งยังเมืองอันทิโอก\n* ต่อมาสิลาสได้เดินทางร่วมกับเปาโลไปยังเมืองต่างๆ เพื่อสอนผู้คนถึงเรื่องพระเยซู\n* เปาโลและสิลาสถูกขังคุกในเมืองฟิลิปปี พวกเขาได้สรรเสริญพระเจ้าในขณะที่พวกเขาอยู่ที่นั่น และพระเจ้าได้ทรงปล่อยพวกเขาออกจากคุก ผู้คุมคุกจึงกลับใจมาเป็นคริสเตียนซึ่งเป็นผลมาจากคำพยานของพวกเขา" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/silver.txt b/01/silver.txt new file mode 100644 index 00000000..043ddd44 --- /dev/null +++ b/01/silver.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เงิน", + "body": "เงินเป็นโลหะที่เป็นประกาย มีสีเทาเป็นโลหะที่มีค่าใช้ทำเป็นเหรียญต่างๆ เครื่องประดับต่างๆ ภาชนะบรรจุและเครื่องตกแต่งต่างๆ \n\n* ภาชนะนี้รวมถึงถ้วยเงินและชามท่ามกลางสิ่งอื่นๆ ที่ใช้ในการทำครัว การกิน หรือการเสิร์ฟอาหาร\n* เงินและทองมักใช้ในการสร้างพลับพลาและพระวิหาร พระวิหารในกรุงเยรูซาเล็มมีภาชนะหลายอย่างที่ทำมาจากเงิน\n* ในสมัยพระคัมภีร์ มีการใช้เหรียญเงินและนำหนักเงินที่เรียกว่า เชเขล\n* พวกพี่ชายของโยเซฟเองก็ได้ขายเขาให้เป็นทาสด้วยเงินยี่สิบเชเขลของเหรียญเงิน\n* ยูดาห์ได้รับเงินสามสิบเหรียญสำหรับการทรยศพระเยซู" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/simeon.txt b/01/simeon.txt new file mode 100644 index 00000000..cc8f9394 --- /dev/null +++ b/01/simeon.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "สิเมโอน", + "body": "ในพระคัมภีร์มีผู้ชายหลายคนที่ชื่อว่าสิเมโอน\n\n* ในพันธสัญญาเดิมบุตรชายคนที่สองของยาโคบ (อิสราเอล) และเลอาห์ก็ชื่อสิเมโอน บรรดาเชื้อสายของเขากลายมาเป็นหนึ่งในอิสราเอลสิบสองเผ่า\n* เผาสิเมโอนได้ครอบครองดินแดนที่อยู่ทางใต้สุดในแผ่นดินที่ทรงสัญญาของคานาอัน บนพื้นที่ที่เป็นส่วนมรดกของยูดาห์\n* เมื่อโยเซฟและมารีย์ ได้นำทารกเยซูไปยังพระวิหารในกรุงเยรูซาเล็มเพื่อถวายพระองค์ให้แด่พระเจ้า ชายผู้อาวุโสชายท่านหนึ่งชื่อสิเมโอนได้สรรเสริญพระเจ้าที่ทรงให้เขาได้เห็นพระเมสิยาห์" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/simonthezealot.txt b/01/simonthezealot.txt new file mode 100644 index 00000000..6ac9fa5b --- /dev/null +++ b/01/simonthezealot.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ซีโมนพรรคชาตินิยม", + "body": "ซีโมนเป็นหนึ่งในสาวกของพระเยซู\n\n*ซีโมนถูกเอ่ยถึงสามครั้งในรายชื่อสาวกของพระเยซูคริสต์แต่มีคนน้อยมากที่รู้เกี่ยวกับเขา\n*ซีโมนเป็นหนึ่งในสิบเอ็ดคนที่ร่วมอธิษฐานในกรุงเยรูซาเล็มหลังจากที่พระเยซูเสด็จขึ้นสู่สวรรค์แล้ว\n*คำว่า\"ชาตินิยม\"อาจหมายถึงว่าซีโมนเป็นสมาชิกของ\"พรรคชาตินิยม\"ซึ่งเป็นพรรคทางศาสนาของชาวยิวที่กระตือรือร้นในการสนับสนุนกฏหมายของโมเสสเป็นช่วงขณะที่มีการต่อต้านอย่างรุนแรงการในรัฐบาลโรมัน\n*หรือคำว่า\"กระตือรือร้น\"อาจหมายถึง\"คนกระตือรือร้น\"ที่หมายถึงความกระตือรือร้นของซีโมน" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/sin.txt b/01/sin.txt new file mode 100644 index 00000000..e231df39 --- /dev/null +++ b/01/sin.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "บาป, เต็มไปด้วยบาป, คนบาป, การทำบาป", + "body": "คำว่า \"บาป\" อ้างถึงการกระทำ ความคิด และคำพูดต่างๆ ที่ต่อต้านน้ำพระทัยและกฏเกณฑ์ของพระเจ้า บาปยังอ้างถึงการไม่ทำในสิ่งที่พระเจ้าประสงค์ให้เราทำ\n\n* บาปรวมถึงสิ่งอื่นใดที่เราทำโดยที่ไม่เชื่อฟังหรือทำให้พระเจ้าพอพระทัย แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่ไม่มีใครรู้ก็ตาม\n* ความคิดและการกระทำที่ไม่เชื่อฟังน้ำพระทัยพระเจ้าเรียกว่า \"เต็มไปด้วยบาป\"\n* เพราะว่าอาดัมได้ทำบาป มนุษย์ทุกคนจึงเกิดมาภายใต้ธรรมชาติของบาปที่ควบคุมพวกเขา\n* \"คนบาป\" คือคนที่ทำบาป ดังนั้นมนุษย์ทุกคนจึงเป็นคนบาป\n* บางครั้งคำว่า \"คนบาป\" เป็นคำที่เหล่าคนในศาสนาเช่นพวกฟาริสีใช้เพื่อเปรียบถึงคนที่ไม่รักษากฏบัญญัติตามที่พวกฟาริสีคิดว่าพวกเขาควรทำตาม\n* คำว่า \"คนบาป\" ใช้เพื่อพูดถึงคนที่ถือว่ามีบาปกว่าคนอื่นๆ ตัวอย่างเช่นคนเก็บภาษีและหญิงโสเภณีถูกตราหน้าให้เป็นคนบาป\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำว่า \"บาป\" สามารถแปลด้วยคำ หรือวลีที่มีความหมายว่า \"ไม่เชื่อฟังพระเจ้า\" หรือ \"ต่อต้านพระประสงค์ของพระเจ้า\" หรือ \"ความประพฤติและความคิดที่ชั่วร้าย\" หรือ \"การทำผิด\"\n* \"ทำบาป\" สามารถแปลว่า \"ไม่เชื่อฟังพระเจ้า\" หรือ \"ทำความผิด\"\n* ขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า \"คนบาป\" สามารถแปลด้วยคำหรือวลีมีหมายความว่า \"บุคคลที่เป็นคนบาป\" หรือ \"บุคคลที่ทำความผิด\" หรือ \"บุคคลผู้ไม่เชื่อฟังพระเจ้า\" หรือ \"บุคคลผู้ไม่เชื่อฟังพระบัญญัติ\"\n* คำว่า \"เหล่าคนบาป\" สามาคถแปลโดยใช้คำหรือวลีที่มีความหมายว่า \"ประชาชนที่มีบาปหนา\" หรือ \"ประชาชนที่ได้รับการพิจารณาว่ามีบาปหนา\" หรือ \"ประชาชนที่ไม่มีศีลธรรม\"\n* วิธีที่แปล \"คนเก็บภาษีและคนบาปทั้งหลาย\" สามารถแปลว่า \"ประชาชนผู้ที่เก็บเงินสำหรับรัฐบาล และประชาชนคนบาปคนอื่นๆ \" หรือ \"ประชาชนที่มีบาปหนา\" ก็รวมอยู่ด้วย" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/sinai.txt b/01/sinai.txt new file mode 100644 index 00000000..555b609d --- /dev/null +++ b/01/sinai.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ซีนาย, ภูเขาซีนาย", + "body": "ภูเขาซีนายเป็นชื่อของภูเขาที่อาจจะอยู่ทางส่วนทางตอนใต้ที่ปัจจุบันนี้เรียกว่าคาบสมุทรซีนาย และเป็นที่รู้จักกันในชื่อ \"ภูเขาโฮเรบ\" ด้วย\n\n* ภูเขาซีนายเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาทะเลทรายที่มีขนาดใหญ่\n* ชาวอิสราเอลได้มายังภูเขาซีนายในขณะที่พวกเขาเดินทางจากอียิปต์เพื่อไปยังแผ่นดินที่ทรงสัญญา\n* พระเจ้าได้ประทานบัญญัติสิบประการบนภูเขาซีนาย" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/sinoffering.txt b/01/sinoffering.txt new file mode 100644 index 00000000..b8317460 --- /dev/null +++ b/01/sinoffering.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เครื่องบูชาลบบาป", + "body": "\"เครื่องบูชาลบบาป\" เป็นหนึ่งในเครื่องบูชาหลายอย่างที่พระเจ้าต้องการให้ชาวอิสราเอลทำการถวาย\n\n* การถวายนี้เกี่ยวพันถึงการถวายวัว การเผาเลือดและไขมันของมันบนแท่นบูชา และเอาส่วนที่เหลือของร่างของสัตว์ไปเผาบนพื้นดินภายนอกค่ายของชาวอิสราเอล\n* เครื่องบูชาที่สมบูรณ์ของสัตวบูชาแสดงให้เห็นว่าพระเจ้าทรงบริสุทธิ์เพียงใดและความบาปน่ากลัวเพียงใด\n* พระคัมภีร์สอนว่าเพื่อที่่จะได้รับการชำระล้างบาปต้องหลั่งเลือดเพื่อจ่ายค่าความบาปที่ได้กระทำ\n* สัตวบูชาไม่สามารถจะอภัยบาปอย่างถาวรได้\n* การสวรรคตของพระเยซูบนไม้กางเขนได้ชำระโทษบาปสำหรับตลอดกาล พระองค์ทรงเป็นเครื่องบูชาบาปที่สมบูรณ์" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/sister.txt b/01/sister.txt new file mode 100644 index 00000000..fe438018 --- /dev/null +++ b/01/sister.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "พี่สาว/น้องสาว", + "body": "พี่สาว/น้องสาว คือผู้หญิงที่มีบิดามารดาอย่างน้อยหนึ่งคนร่วมกับอีกคนหนึ่ง\n\n* ในพันธสัญญาใหม่ คำว่า\"พี่สาว/น้องสาว\" ยังเป็นคำเปรียบเปรยที่อ้างถึงผู้หญิงที่ติดตามพระเยซูคริสต์\n* บางครั้งวลี \"พี่ชายและน้องสาว\" ใช้อ้างถึงเหล่าผู้เชื่อในพระคริสต์รวมทั้งผู้ชายและผู้หญิง\n* ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม บทเพลงซาโลมอน คำว่า\"พี่สาว/น้องสาว\" อ้างถึงคนรักหรือคู่สมรส\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะแปลคำนี้ตามตัวอักษรที่ใช้ในภาษาที่แปลเพื่ออ้างถึงน้องสาวที่เกิดจากท้องเดียวกัน นอกจากว่านี่จะทำให้ความหมายผิดไป\n* วิธีอื่นที่จะแปลคำนี้รวมถึง \"พี่สาวหรือน้องสาวในพระคริสต์\" หรือ \"น้องสาวแห่งจิตวิญญาณ\" หรือ \"ผู้หญิงที่เชื่อในพระเยซู\" หรือ \"บรรดาผู้หญิงที่เป็นผู้เชื่อ\"\n* ถ้าเป็นได้ วิธีที่ดีที่สุดคือการใช้คำที่เกี่ยวกับครอบครัว\n* ถ้าภาษาที่มีคำรูปแบบผู้หญิงสำหรับ \"ผู้เชื่อ\" นี่อาจเป็นวิธีที่เป็นไปได้ที่จะแปลคำนี้\n* เมื่ออ้างถึงคู่รักหรือ ภรรยา นี่สามารถแปลโดยใช้รูปแบบที่เป็นผู้หญิงสำหรับ \"คนที่รัก\" หรือ \"คนรัก\"\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/skull.txt b/01/skull.txt new file mode 100644 index 00000000..c1f77566 --- /dev/null +++ b/01/skull.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "หัวกระโหลก", + "body": "คำว่า \"หัวกระโหลก\" อ้างถึงเกี่ยวกับกระดูก เป็นโครงกระดูกของหัวของบุคคลหรือสัตว์\n\n* บางครั้งคำว่า\"หัวกระโหลก\" หมายถึง \"หัว\" เช่นวลี \"โกนกระโหลกของท่าน\"\n* คำว่า \"สถานที่ของกระโหลก\" เป็นอีกชื่อหนึ่งของกลโกธาที่ซึ่งพระเยซูทรงถูกตรึง\n* คำนี้แปลได้อีกว่า \"หัว\" หรือ \"กระดูกหัว\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/slain.txt b/01/slain.txt new file mode 100644 index 00000000..86bd0ed1 --- /dev/null +++ b/01/slain.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "สังหาร, ถูกสังหาร", + "body": "คำว่า \"สังหาร\" หมายถึงการฆ่าคนหรือสัตว์ บ่อยครั้งคำนี้หมายถึงการฆ่าอย่างโหดร้ายหรือในทางทารุณกรรม\n\n* เมื่ออ้างถึงสัตว์หรือคนจำนวนมากการคำว่า\"การฆ่าอย่างทารุน\" เป็นอีกคำหนึ่งที่ถูกใช้บ่อยเช่นกัน\n* คำว่า \"ฆ่า\" สามารถใช้ในการแปลในคำนี้ได้เช่นกัน\n* วลีว่า \"ผู้ที่ถูกเข่นฆ่า\" สามารถแปลได้ว่า\"ประชาชนที่ถูกเข่นฆ่า\"หรือ \"คนมากมายที่ถูกฆ่า\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/slander.txt b/01/slander.txt new file mode 100644 index 00000000..bdaed7a2 --- /dev/null +++ b/01/slander.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "พูดให้ร้าย ผู้พูดให้ร้าย", + "body": "การพูดให้ร้ายหมายถึงการพูดในทางลบ การทำลายชื่อเสียงของผู้อื่น\n\n* การพูดให้ร้ายอาจเป็นรายงานจริง หรือการกล่าวหาที่ผิด แต่มันมีผลทำให้ผู้อื่นคิดในทางลบต่อคนที่ถูกพูดให้ร้ายนั้นข่\n* คำบางคำได้แปลคำว่า \"การพูดให้ร้าย\" หมายถึง \"การพูดต่อต้าน\" หรือ \"การแพร่กระจายรายงานที่ไม่ดี\" หรือ \"การทำลายชื่อเสียง\"\n* คนที่พูดให้ร้ายเรียกอีกอย่างว่า \"คนแจ้งข่าว\"หรือ\"คนชอบกระจายข่าวลือ\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/slaughter.txt b/01/slaughter.txt new file mode 100644 index 00000000..3cfe673f --- /dev/null +++ b/01/slaughter.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "การสังหาร", + "body": "คำว่า \"การสังหาร\" อ้างถึงการฆ่าสัตว์หรือคนจำนวนมาก หรือการฆ่าแบบทารุน และคำนี้ยังอ้างถึงการฆ่าสัตว์เพื่อเป็นอาหารด้วย\n\n* เมื่ออับราฮัมได้ต้อนรับแขกสามคนที่เต็นท์ของเขาในทะเลทราย เขาได้สั่งคนรับใช้ของเขาให้ฆ่าและให้ปรุงเนื้อวัวสำหรับเป็นอาหารให้แขกของเขาทั้งสามคน\n* ผู้เผยพระวจนะเอเสเคียลพยากรณ์ว่าพระเจ้าจะส่งทูตสวรรค์ของพระองค์สังหารคนทั้งหมดที่ไม่ติดตามพระวจนะคำของพระองค์\n* ในพระธรรม 1ซามูเอลได้บันทึกถึงการสังหารครั้งใหญ่ที่คนอิสราเอลถูกฆ่า 30,000 คนโดยศัตรูของพวกเขาเพราะการไม่เชื่อฟังพระเจ้า\n* \"อาวุธทั้งหลายในการสังหาร\"สามารถแปลได้ว่า\"อาวุธทั้งหลายสำหรับการฆ่า\"\n* คำกล่าวที่ว่า \"การสังหารเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่\" สามารถแปลได้ว่า \"คนจำนวนมากถูกฆ่า\" หรือ \"จำนวนผู้เสียชีวิตมากมาย\" หรือ \"จำนวนประชาชนที่ตายสูงจนน่าหวาดกลัว\"\n* วิธีอื่นที่จะแปลคำว่า \"สังหาร\" สามารถรวมถึง \"ฆ่า\" หรือ \"ประหาร \"หรือ \"การฆ่า\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/sleep.txt b/01/sleep.txt new file mode 100644 index 00000000..91219deb --- /dev/null +++ b/01/sleep.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "นอนหลับ, หลับ, เผลอหลับไป", + "body": "คำเหล่านี้มีความหมายเชิงเปรียเทียบการเกี่ยวข้องกับความตาย\n\n* คำว่า \"หลับ\" หรือ \"หลับอยู่\" มีความหมายในคำอุปมาว่า \"ตายแล้ว\" (ดู: [Metaphor](https://git.door43.org/Door43/en-ta-translate-\n* คำกล่าวที่บอกว่า \"เผลอหลับไป\" อ้างถึงในชั่วขณะที่บางคนเริ่มการนอนหลับ หรือในความหมายเชิงเปรียบเทียบในช่วงขณะที่บางคนตาย\n* \"หลับไปกับบรรดาพ่อ\" หมายถึงการตาย เช่นเดียวกับการตายของบรรพบุรุษ\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ในบางบริบท คำว่า \"นอนหลับ\" หรือ \"หลับ\" สามารถแปลว่า \"ได้ตายแล้ว\"\n* \"เผลอหลับไป\" สามารถแปลว่า \"เผลอหลับไปอย่างกระทันหัน\" หรือ \"เริ่มการหลับ\" หรือ \"ตาย\" ขึ้นอยู่กับความหมาย\nหมายเหตุ เป็นสิ่งสำคัญมากเป็นพิเศษที่จะรักษาการแสดงออกในบริบทที่ผู้อ่านไม่เข้าใจความหมาย ตั้วอย่างเช่น เมื่อพระเยซูทรงกล่าวกับพวกสาวกของพระองค์ว่าลาซาลัส \"กำลังหลับอยู่\" พวกเขาคิดว่าพระองค์หมายถึงว่าลาซาลัสกำลังหลับอยู่ตามธรรมชาติ ในบริบทนี้มันไม่สื่อความหมายเลยถ้าจะแปลว่า \"เขาตายแล้ว\"\n* ในบางภาษาอาจจะมีคำกล่าวที่แตกต่างออกไปสำหรับ ความตาย หรือ กำลังจะตายซึ่งสามารถนำมาใช้ถ้าคำกล่าว \"นอนหลับ\" หรือ \"หลับ\" ไม่สร้างความเข้าใจที่ดีในภาษาที่แปล" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/snare.txt b/01/snare.txt new file mode 100644 index 00000000..fa9fd2d5 --- /dev/null +++ b/01/snare.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "บ่วง, กับดัก", + "body": "คำว่า \"บ่วง\" และ \"กับดัก\" หมายถึงเครื่องมือที่ใช้ในการจับสัตว์และขังสัตว์จากการหนี ในพระคัมภีร์คำเหล่านี้ใช้เชิงเปรียบเทียบในการพูดถึงความบาปและการทดลองที่เหมือนกับบ่วงที่ถูกซ่อนไว้คอยจับคนและทำร้ายพวกเขา \n\n* \"บ่วง\" จะมีห่วงเชือกหรือสายที่จะรัดแน่นอย่างกระทันหันเมื่อสัตว์เดินเข้ามาในบ่วงขาของมันก็จะติดกับบ่วงนั้น\n* โดยปกติแล้ว\"กับดัก\" จะทำมาจากโลหะหรือไม้และมีสองส่วนที่จะรัดอย่างกระทันหันและมีพลังเพื่อจะจับสัตว์ ดังนั้นมันจึงไม่สามารถหนีไปได้ บางครั้งกับดักยังทำเป็นหลุมลึกเพื่อที่จะให้บางสิ่งตกเข้ามาในกับดักนั้น\n* โดยปกติบ่วงหรือกับดักจะถูกซ่อนไว้ ดังนั้นเหยื่อจะถูกเอาไปโดยที่ไม่ได้ตั้งตัวเลย\n* วลี \"วางกับดัก\" หมายถึงการเตรียมความพร้อมของกับดักเพื่อจับบางสิ่งบางอย่าง\n* การ\"ตกเข้าไปในกับดัก\" หมายถึงการตกเข้าไปในหลุมลึกหรือหลุมพรางที่ถูกขุดและซ่อนไว้เพื่อจับสัตว์\n* เมื่อใช้เชิงเปรียบเทียบ การถูกจับในกับดักหรือบ่วงจะเปรียบเทียบกับการที่บุคคลถูกทำให้ติดกับในความบาปเช่นเดียวกับที่สัตว์ถูกจับโดยบ่วงหรือกับดักนั้น\n* เช่นเดียวกับสัตว์ที่อยู่ในอันตรายและบาดเจ็บเพราะการติดอยู่ในกีบดัก ดังนั้นบุคคลที่ตกลงไปในกับดักของความบาปก็กำลังถูกทำร้ายโดยความบาปนั้นและต้องการการที่จะถูกปล่อยจากบาปนั้น" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/snow.txt b/01/snow.txt new file mode 100644 index 00000000..0a4b7841 --- /dev/null +++ b/01/snow.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "หิมะ", + "body": "คำว่า \"หิมะ\" หมายถึงเกล็ดสีขาวของน้ำแข็งที่ตกลงมาจากก้อนเมฆในที่ซึ่งอุณหหภูมิของอากาศหนาว\n\n* หิมะตกในที่ซึ่งมีระดับความสูงในอิสราเอล แต่ก็อาจจะไม่อยู่บนดินนานก่อนจะละลาย บนยอดภูเขาต่างๆ มีแนวโน้มที่จะมีหิมะอยู่ได้นานกว่า มีตัวอย่างหนึ่งที่พระคัมภีร์ได้กล่าวถึงหิมะบนภูเขาเลบานอน\n* บางสิ่งที่มีสีขาวจะถูกเปรียบถึงสีของหิมะ เช่นเดียวกับเมื่อเสื้อผ้าหรือผมของพระเยซูถูกอธิบายว่าเป็น \"สีขาวเหมือนหิมะ\"\n* ความขาวของหิมะใช้เป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์และความสะอาด ตัวอย่างเช่นการบรรยายถึง \"ความบาปของเราจะขาวดั่งหิมะ\" หมายถึงพระเจ้าทรงชำระคนของพระองค์จากความบาปของพวกเขาอย่างสิ้นเชิงแล้ว\n* ในบางภาษาอาจอ้างถึงหิมะ เป็น \"ฝนที่เป็นเกล็ดน้ำแข็ง\" หรือ \"เกล็ดของน้ำแข็ง\" หรือ \"เกล็ดน้ำแข็ง\"\n* \"น้ำหิมะ\" อ้างถึงน้ำที่ได้มาจากการละลายของหิมะ" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/sodom.txt b/01/sodom.txt new file mode 100644 index 00000000..53175c62 --- /dev/null +++ b/01/sodom.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "โสโดม", + "body": "โสโดมเป็นเมืองที่อยู่ตอนใต้ของคานาอัน ซึ่งเป็นสถานที่หลานชายของอับราฮาม คือ โลทอาศัยอยู่กับภรรยาและลูกหลานของเขา\n\n* แผ่นดินของพื้นที่รอบเมืองโสโดมเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำและอุดมสมบูรณ์ ดังนั้นจึงนั่นเป็นที่ที่โลทได้เลือกที่จะอาศัยอยู่ในตอนที่ตั้งถิ่นฐานในคานาอัน\n* สถานที่ตั้งที่แน่นอนของเมืองนี้ไม่เป็นที่ทราบชัด เพราะว่าเมืองโสโดมและเมืองที่อยู่ใกล้เมืองโกโมราห์ทั้งหมดถูกพระเจ้าทรงทำลายอย่างสิ้นซาก เพื่อเป็นการลงโทษสิ่งชั่วร้ายที่ประชาชนได้กระทำอยู่\n * ความบาปที่ชั่วร้ายที่สุดที่ประชาชนในเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์กระทำอยู่คือการรักร่วมเพศ" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/solomon.txt b/01/solomon.txt new file mode 100644 index 00000000..f18393b9 --- /dev/null +++ b/01/solomon.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ซาโลมอน", + "body": "ซาโลมอนเป็นหนึ่งในบุตรของกษัตริย์ดาวิด พระมารดาของพระองค์คือเบธเชบา\n\n* เมื่อซาโลมอนได้เป็นกษัตริย์แล้ว พระเจ้าได้ทรงบอกพระองค์ว่าให้ขออะไรก็ได้ที่กษัตริย์ซาโลมอนต้องการ ดังนั้นซาโลมอนจึงทูลขอสติปัญญาที่จะปกครองประชากรของพระองค์อย่างซื่อตรงและดี พระเจ้าทรงพอพระทัยคำทูลขอของกษัตริย์ซาโลมอนจึงประทานทั้งสติปัญญาและความมั่งคั่งให้พระองค์\n* กษัตริย์ซาโลมอนมีชื่อเสียงในด้านการมีพระวิหารที่สำคัญที่ได้สร้างไว้ในกรุงเยรูซาเล็ม\n* ถึงแม้ว่ากษัตริย์ซาโลมอนได้ทรงปกครองอย่างมีสติปัญญาในช่วงต้นของการปกครองของพระองค์ แต่ต่อมาพระองค์ทรงอภิเสกกับหญิงชาวต่างชาติอย่างโง่เขลาและเริ่มนมัสการบรรดาพระของผู้หญิงเหล่านั้น\n* เพราะความไม่ซื่อสัตย์ของกษัตริย์ซาโลมอน หลังการสิ้นพระชนม์ของพระองค์พระเจ้าได้ทรงแบ่งแยกคนอิสราเอลเป็นสองอาณาจักร เป็นอิสราเอลและยูดาห์ บ่อยใครทั้งสองอาณาจักรก็ต่อสู้กัน" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/son.txt b/01/son.txt new file mode 100644 index 00000000..7a3f3e17 --- /dev/null +++ b/01/son.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "บุตร, บุตรของ", + "body": "คำว่า \"บุตร\" อ้างถึงเด็กผู้ชายหรือผู้ชายที่มีความสัมพันธ์เป็นพ่อแม่ของเขา และยังอ้างถึงเชื้อสายของใครบางคนหรือลูกบุญธรรม\n\n* คำว่า \"บุตร\" มักใช้เป็นคำเปรียบเปรยในพระคัมภีร์ที่อ้างถึงผู้สืบเชื้อสายที่เป็นผู้ชาย อย่างเช่นหลานชายหรือเหลนชาย\n* คำว่า \"บุตร\" สามารถใช้เป็นรูปแบบที่สุภาพในการเรียกเด็กผู้ชายหรือผู้ชายที่มีอายุน้อยกว่า\n* บางครั้งคำว่า \"บรรดาบุตรของพระเจ้า\" ถูกใช้ในพันธสัญญาใหม่ที่หมายถึงเหล่าผู้เชื่อในพระเยซูคริสต์\n* พระเจ้าทรงเรียกชนชาติอิสราเอลว่า \"บุตรหัวปี\" ของพระองค์ นี่อ้างถึงชนชาติที่พระเจ้าทรงเลือกสรรไว้ให้เป็นประชากรพิเศษของพระองค์ โดยผ่านทางพวกเขาพระวจนะของพระเจ้าแห่งการทรงไถ่และการทรงช่วยกู้โดยได้มาถึง ซึ่งเป็นผลให้หลายคนได้มาเป็นบุตรทางฝ่ายวิญญาณของพระองค์\n* วลีว่า \"บุตรของ\" มักมีคำอุปมาที่หมายถึง \"มีลักษณะของ\" ตัวอย่างเช่น \"บุตรของความสว่าง\" \"บุตรของความไม่เชื่อฟัง\" \"บุตรแห่งสันติสุข\"และ \"บุตรแห่งฟ้าร้อง\"\n* วลีว่า \"บุตรของ\" ยังใช้เพื่อบอกว่าใครเป็นพ่อของใคร วลีนี้ยังใช้ในลำดับวงศ์ตระกูลและที่อื่นๆ อีกหลายที่\n* การใช้ \"บุตรของ\" เพื่อช่วยให้ชื่อพ่อช่วยแยกแยะประชาชนที่มีชื่อเหมือนกัน ตัวอย่างเช่น \"อาซาริยาห์ บุตรแห่งศาโดก\" และ \"อาซาริยาห์ บุตรแห่งนาธัน\" ใน1พงกษัตริย์ บทที่ 4 และ \"อาซาริยาห์ บุตรแห่งอามาซิยาห์ ใน 2 พงกษัตริย์ บทที่15 มีผู้ชายที่ชื่อเดียวกันสามคน\"\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ในสิ่งที่ปรากฏของคำนี้ เป็นการดีที่สุดที่จะแปล \"บุตร\" โดยการใช้คำตรงตัวในภาษาที่ใช้อ้างถึงบุตร\n* เมื่อแปลคำว่า \"พระบุตรของพระเจ้า\" ควรใชคำธรรมดาในภาษาเป้าหมายที่จะแปลคำว่า \"บุตร\" \n* เมื่อได้ใช้อ้างอิงถึงผู้สืบเชื้อสายมากว่าบุตรชายดดยตรง คว่า \"เชื้อสาย\" ควรจะนำมาใช้ ที่อ้างอิงถึงพระเยซูในฐานะ \"ผู้สืบเชื้อสายของดาวิด\" หรือในการสืบวงศ์ตระกูลบางครั้ง \"บุตรชาย\" อ้างอิงผู้สืบเชื้อสายที่เป็นผู้ชาย ไม่ได้หมายถึงบุตรชายจริงๆ\n* บางครั้ง \"พวกบุตรชาย\" สามารถแปลว่า \"ลูกหลาน\" เมื่อมีทั้งผู้ชายและผู้หญิงได้รับการอ้างถึง ตัวอย่างเช่น \"พวกบุตรชายของพระเจ้า\" สามารถแปลว่า \"ลูกหลานของพระเจ้า\" เนื่องจากคำกล่าวนี้รวมทั้งผู้หญิงและผู้ชายด้วย\n* คำกล่าวเปรียบเทียบ \"บุตรของ\" สามารถแปลว่า \"บางคนผู้มีบุคลิกลักษณะของ\" หรือ \"บางคนผู้ที่เหมือน\" หรือ \"บางคนผู้ที่มี\" หรือ\"บางคนผู้ที่กระทำเหมือน\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/sonofgod.txt b/01/sonofgod.txt new file mode 100644 index 00000000..6ebece55 --- /dev/null +++ b/01/sonofgod.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "พระบุตรของพระเจ้า, พระบุตร, บุตร", + "body": "คำว่า \"พระบุตรของพระเจ้า\" อ้างถึงพระเยซู พระวาทะของพระเจ้าได้เข้ามายังในโลกในฐานะมนุษย์ บ่อยครั้งพระองค์ยังถูกอ้างอิงให้เป็น \"พระบุตร\"\n\n* พระบุตรของพระเจ้ามีพระลักษณะเช่นเดียวกับพระเจ้าพระบิดาและเป็นพระเจ้าอย่างครบบริบูรณ์\n* พระเจ้าพระบิดา พระเจ้าพระบุตร พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงเป็นองค์เดียวกัน\n* ไม่เหมือนกับบุตรชายของมนุษย์ พระบุตรพระเจ้านั้นทรงดำรงอยู่เป็นนิตย์\n* เมื่อเดิมนั้นพระบุตรของพระเจ้า ทรงเนรมิตสร้างโลกร่วมกับพระบิดาและพระวิญญาณบริสุทธิ์\n* เพราะว่าพระเยซูทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า พระองค์ทรงรักและเชื่อฟังพระบิดาของพระองค์และพระบิดาของพระองค์ทรงรักพระองค์\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำว่า \"พระบุตรของพระเจ้า\" เป็นการดีที่สุดให้แปล \"พระบุตร\" ด้วยคำที่เหมือนกันภาษาควรใช้ให้เป็นธรรมชาติเพื่ออ้างถึงบุตรมนุษย์\n* ให้แน่ใจว่าคำที่ใช้แปลคำว่า \"บุตร\" เหมาะสมกับคำที่ใช้แปลคำว่า \"บิดา\" และคำเหล่านี้เป็นคำที่เป็นธรรมชาติที่ใช้แสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างบิดากับบุตรในภาษาที่แปล\n* ให้ใช้อักษรตัวใหญ่เป็นตัวอักษรเริ่มต้นคำว่า \"พระบุตร\" จะช่วยแสดงว่านี่เป็นการพูดถึงพระเจ้า\n* วลี \"พระบุตร\" เป็นรูปแบบที่ทำให้สั้นลงของคำว่า \"พระบุตรของพระเจ้า\" เฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ในบริบทเดียวกับคำว่า \"พระบิดา\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/sonofman.txt b/01/sonofman.txt new file mode 100644 index 00000000..e2a6a664 --- /dev/null +++ b/01/sonofman.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "บุตรมนุษย์, บุตรมนุษย์", + "body": "คำว่า \"บุตรมนุษย์\" จะใช้เรียกพระเยซูซึ่งหมายถึงตัวของพระองค์เอง พระองค์มักใช้คำนี้เพื่อแทนการเรียกว่า \"เรา\" หรือ \"ตัวเรา\"\n\n* ในพระคัมภีร์ \"บุตรมนุษย์\" สามารถเป็นวิธีในการอ้างถึงหมายถึงหรือกล่าวถึงชายคนหนึ่ง และยังหมายถึง \"มนุษย์\"\n* ตลอดพันธสัญญาเดิมในพระธรรมเอเสเคียล บ่อยครั้งพระเจ้ามักพูดถึงเอเสเคียลว่า \"บุตรมนุษย์\" ตัวอย่างเช่น พระองค์ตรัสว่า \"เจ้า บุตรมนุษย์ จะต้องเผยพระวจนะ\"\n* ผู้เผยพระวจนะดาเนียลได้เห็นนิมิตของ \"บุตรมนุษย์\" มาด้วยก้อนเมฆซึ่งเล็งถึงการเสด็จมาของพระเมสิยาห์\n* พระเยซูได้ตรัสว่าบุตรมนุษย์จะเสด็จกลับมาสักวันหนึ่งบนเก้อนเมฆทั้งหลาย\n* นี่อ้างอิงถึงบุตรมนุษย์เสด็จมาในก้อนเมฆปรากฏเปิดเผยให้เห็นว่าพระเยซูพระเมสิยาห์ทรงเป็นพระเจ้า\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* เมื่อพระเยซูทรงใช้คำว่า \"บุตรมนุษย์\" นี่สามารถแปลว่า \"ท่านผู้ที่ได้กลายเป็นมนุษย์\" หรือ \"ผู้ชายจากสวรรค์\"\n* ผู้แปลบางคนจะรวมเอาคำว่า \"เรา\" หรือ \"ตัวเรา\" ในตำแหน่งนี้ด้วย" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/sonsofgod.txt b/01/sonsofgod.txt new file mode 100644 index 00000000..f2d14e18 --- /dev/null +++ b/01/sonsofgod.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "บรรดาบุตรของพระเจ้า", + "body": "คำว่า \"บรรดาบุตรของพระเจ้า\" เป็นคำพูดเชิงเปรียบเทียบที่มีความหมายที่เป็นไปได้หลายอย่าง\n\n* ในพันธสัญญาใหม่คำว่า \"บรรดาบุตรของพระเจ้า\" อ้างถึงผู้เชื่อในพระเยซูทั้งหลายและบ่อยครั้งยังแปลได้อีกว่า\"ลูกหลานของพระเจ้า\" เนื่องจากรวมหมายถึงรวมทั้งชายและหญิงด้วย \n* การใช้คำนี้พูดถึงความสัมพันธ์กับพระเจ้าที่เหมือนความสัมพันธ์ระหว่างลูกมนุษย์กับบิดาของเขารวมถึงสิทธิพิเศษในการเป็นบุตร\n* ในปฐมกาล บทที่ 6 บางคนแปลคำว่า \"บรรดาบุตรของพระเจ้า\" เป็นทูตสวรรค์ที่ตกลงมา เป็นวิญญาณชั่วหรือปีศาจ คนอื่นๆ คิดว่าอาจจะเป็นผู้ปกครองทางการเมืองที่มีอำนาจหรือลูกหลานของเสท\n* ในพันธสัญญาใหม่ คำว่า \"บรรดาบุตรของพระเจ้า\" อ้างถึงคนทั้งหลายที่เชื่อในพระเยซู และบ่อยครั้งแปลว่า \"ลูกหลานของพระเจ้า\" เพราะเหตุว่ารวมทั้งผู้หญิงและผู้ชาย\n* การใช้คำนี้พูดถึงความสัมพันธ์กับพระเจ้าที่เหมือนความสัมพันธ์ระหว่างลูกมนุษย์กับบิดาของเขารวมถึงสิทธิพิเศษในการเป็นบุตร\n* ตำแหน่ง \"พระบุตรของพระเจ้า\" เป็นคำที่แตกต่างออกไปที่หมายถึงพระเยซูผู้เป็นพระบุตรองค์เดียวของพระเจ้า\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* เมื่อ \"บรรดาบุตรของพระเจ้า\" อ้างถึงผู้เชื่อทั้งหลายในพระเยซู ก็สามารถแปลว่า \"บรรดาลูกหลานของพระเจ้า\"\n* อีกวิธีหนึ่งในการแปล \"บรรดาลูกหลานของพระเจ้า\" สามารถรวมเอา \"ทูตสวรรค์\" หรือ \"ร่างวิญญาณทั้งหลาย\" หรือ \"ปีศาจทั้งหลาย\" ขึ้นอยู่กับบริบท \n* ให้ดูลิงค์สำหรับ \"บุตร\" ด้วย" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/sorcery.txt b/01/sorcery.txt new file mode 100644 index 00000000..1b30d26c --- /dev/null +++ b/01/sorcery.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เวทมนตร์, หมอผี, คาถา", + "body": "คำว่า \"เวทมนตร์\" หรือ\"คาถา\" อ้างถึงการใช้เวทมนตร์ซึ่งเกี่ยวข้องกับการกระทำสิ่งที่มีพลังอำนาจโดยการช่วยเหลือจากวิญญาณชั่ว \"หมอผี\" คือบางคนที่กระทำเวทมนตร์ที่ทรงพลังเหล่านี้\n\n* การใช้คาถาและเวทมนตร์สามารถรวมถึงทั้งสิ่งที่เป็นคุณประโยชน์ (เช่นการรักษาบางคน) และบางสิ่งบางอย่างที่เป็นอันตราย (เช่นการสาปแช่งบางคน) แต่เวทมนตร์ทุกประเภทเป็นสิ่งที่ผิดเพราะว่าพวกเขาใช้สิ่งเหล่านี้ใช้พลังอำนาจของวิญญาณชั่ว\n* ในพระคัมภีร์ พระเจ้าตรัสว่าการใช้เวทมนตร์ก็ชั่วร้ายพอกับความบาปที่เลวร้าย (เช่น การล่วงประเวณี การกราบไหว้รูปเคารพ และการบูชายัญเด็ก)\n* คำว่า \"เวทมนตร์\" หรือ \"คาถา\"สามารถแปลได้ด้วยว่า \"พลังอำนาจของวิญญาณชั่ว\" หรือ \"การเสกคาถา\"\n* วิธีที่เป็นไปได้ในการแปลคำว่า \"หมอผี\" สามารถรวมถึง \"คนทำงานด้านเวทมนตร์\" หรือ \"คนเสกคาถา\" หรือ \"บุคคลผู้ทำการอัศจรรย์โดยใช้พลังอำนาจของวิญญาณชั่ว\"\n* หมายเหตุคำว่า \"เวทมนตร์\" มีความหมายต่างไปจากคำว่า \"การทำนายโชคชะตา\" ซึ่งอ้างถึงการพยายามที่ติดต่อกับโลกของวิญญาณ" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/soul.txt b/01/soul.txt new file mode 100644 index 00000000..f73308b6 --- /dev/null +++ b/01/soul.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "จิตใจ", + "body": "จิตใจเป็นสิ่งภายใน มองไม่เห็น เป็นส่วนนิรันดร์ของบุคคล มันอ้างถึงส่วนที่ไม่เป็นเนื้อหนังของบุคคล\n\n* คำว่า \"จิตใจ\" และ\"วิญญาณ\" อาจมีแนวคิดสองแบบ หรืออาจเป็นคำสองคำที่มีความหมายถึงความคิดเดียวกัน\n* เมื่อบุคคลตาย จิตใจของเขาก็ได้ออกจากร่างไป\n* คำว่า\"วิญญาณ\" บางครั้งจะใช้เป็นคำเปรียบเทียบที่อ้างถึงบุคคลทั้งตัว ตัวอย่างเช่น \"จิตใจที่ทำบาป\" หมายถึง \"บุคคลที่ทำบาป\" และ \"จิตใจของข้าพเจ้าเหน็ดเหนื่อย\" หมายถึง \"ข้าพเจ้าเหน็ดเหนื่อย\"\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำว่า \"จิตใจ\" สามารถแปลว่า \"ร่างภายใน\" หรือ \"ภายในบุคคล\"\n* ในบางบริบท \"วิญญาณของฉัน\" สามารถแปลว่า \"ฉัน\" หรือ \"ฉัน\"\n\"โดยปกติวลี \"จิตใจ\" สามารถแปลว่า \"บุคคล\" หรือ \"เขา\" หรือ \"เขา\" ขึ้นอยู่กับบริบท\n* บางภาษาอาจมีเพียงคำเดียวที่แปลว่า \"จิตใจ\" และ \"วิญญาณ\"\n* ในฮีบรู 4.12 ในวลี \"แบ่งจิตใจและวิญญาณ\" สามารถหมายความว่า \"หยั่งรู้อย่างลึกๆ หรือ แสดงออกสิ่งภายในบุคคล\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/sow.txt b/01/sow.txt new file mode 100644 index 00000000..281d5476 --- /dev/null +++ b/01/sow.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "หว่าน, ผู้หว่าน, ปลูก", + "body": "การ \"หว่าน\" หมายถึงการใส่เมล็ดลงไปในดินเพื่อที่จะปลูกพืช คำว่า \"ผู้หว่าน\" คือบุคคลที่หว่านหรือปลูกเมล็ด\n\n* วิธีการหว่านหรือการปลูกนั้นแตกต่างกัน แต่มีวิธีหนึ่งที่เหมือนกันคือเอาเมล็ดมาและกระจายลงไปบนพื้นดิน\n* อีกวิธีหนึ่งของการปลูกเมล็ดคือการขุดหลุมในดินและใส่เมล็ดลงไปในแต่ละหลุม\n* คำว่า \"หว่าน\" สามารถใช้เป็นคำเปรียบเทียบได้ว่า \"บุคคลจะเก็บเกี่ยวในสิ่งที่เขาหว่านไว้\" นี่หมายความว่าถ้าบุคคลทำชั่วเขาเองจะได้รับผลชั่วนั้น และถ้าบุคคลทำดีต่อคนอื่น เขาเองจะได้รับผลที่ดี" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/spear.txt b/01/spear.txt new file mode 100644 index 00000000..baea8b28 --- /dev/null +++ b/01/spear.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "หอก", + "body": "หอกเป็นอาวุธชนิดที่ยาวมีด้ามเป็นไม้และเป็นเหล็กที่แหลมคมตรงปลายด้านหนึ่งซึ่งใช้พุ่งออกไปไกลได้\n\n* หอกถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในสงครามในสมัยของพระคัมภีร์ หอกยังคงใช้จนถึงปัจจุบันในที่มีความขัดแย้งระหว่างบางกลุ่ม\n* ทหารโรมันได้ใช้หอกในการแทงสีข้างของพระเยซูในขณะที่พระองค์ถูกตรึงที่บนไม้กางเขน\n* บางครั้งคนยังใช้หอกในการจับปลาหรือสัตว์อื่นๆ เพื่อเป็นอาหาร\n* อาวุธที่คล้ายคลึงกันได้แก่ \"ทวน\" หรือ \"หลาว\"\n* ให้แน่ใจว่าการแปล คำว่า \"หอก\" แตกต่างจากการแปลคำว่า \"ดาบ\" ซึ่งเป็นอาวุธที่ใช้สำหรับทิ่มหรือแทงไม่ใช่ขว้าง ดาบยังมีด้ามจับที่ยาว ขณะที่หอกมีใบมีดเล็กๆ อยู่ที่ปลายด้าม" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/spirit.txt b/01/spirit.txt new file mode 100644 index 00000000..66b84031 --- /dev/null +++ b/01/spirit.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "วิญญาณ, ฝ่ายวิญญาณ", + "body": "คำว่า \"วิญญาณ\" อ้างถึงส่วนที่ไม่ใช่เนื้อหนังของคนซึ่งไม่สามารถมองเห็นได้ เมื่อบุคคลตายวิญญาณของเขาได้จากร่างของเขา \"วิญญาณ\" สามารถอ้างถึงทัศนคติหรือสภาพทางอารมณ์\n\n*คำว่า \"วิญญาณ\" หมายถึงตัวตนที่ไม่มีร่างกายโดยเฉพาะวิญญาณชั่ว\n* วิญญาณของบุคคล เป็นส่วนหนึ่งของเขาที่สามารถรู้จักพระเจ้าและเชื่อในพระองค์\n* โดยทั่วไป คำว่า \"ฝ่ายวิญญาณ\" อธิบายถึงสิ่งที่ไม่ใช่เนื้อหนังทางโลก\n* ในพระคัมภีร์ จะมีความหมายโดยเฉพาะอ้างถึงสิ่งใดที่เกี่ยวข้องกับพระเจ้า โดยเฉพาะกับพระวิญญาณบริสุทธิ์\n* ยกตัวอย่างเช่น \"อาหารฝ่ายวิญญาณ\" อ้างถึงคำสอนของพระเจ้าที่ให้การหล่อเลี้ยงวิญญาณของบุคคล \"สติปัญญาฝ่ายวิญญาณ\" อ้างถึงความรู้และการประพฤติที่ชอบธรรมที่มาจากฤทธิ์ของพระวิญญาณบริสุทธิ์\n* พระเจ้าทรงเป็นพระวิญญาณและพระองค์ทรงเป็นพระผู้เนรมิตเหล่าวิญญาณอื่นที่ไม่มีร่างกายเนื้อหนัง\n* เหล่าทูตสวรรค์เป็นวิญญาณที่มีชีวิต รวมถึงเหล่าวิญญาณที่กบฏต่อพระเจ้าและกลายเป็นวิญญาณชั่ว\n* คำว่า \"วิญญาณแห่ง\" สามารถหมายถึง \"การมีคุณลักษณะของ\" อย่างเช่นใน \"จิตวิญญาณของปัญญา\" หรือ \"ในวิญญาณของเอลียาห์\"\n* ตัวอย่างของ\"วิญญาณ\" เช่นในทัศนคติหรืออารมณ์จะรวมถึง \"วิญญาณแห่งความกลัว\" หรือ \"วิญญาณแห่งความริษยา\"\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ขึ้นอยู่กับบริบท บางวิธีในการแปล \"วิญญาณ\" อาจรวม \"ไม่เป็นด้านร่างกาย\" หรือ \"ส่วนข้างใน\" หรือ \"ชีวิตที่อยู่ข้างใน\"\n* ในบางบริบท คำว่า \"วิญญาณ\" สามารถแปลว่า \"วิญญาณชั่ว\" หรือ \"ตัวตนวิญญาณชั่ว\"\n* บางครั้ง คำว่า \"วิญญาณ\" ถูกใช้เพื่อแสดงถึงความรู้สึกของบุคคลที่อยู่ข้างใน \"วิญญาณของฉันโศกเศร้าอยู่ในร่างของฉัน\" นี่สามารถแปลว่า \"ฉันรู้สึกโศกเศร้าในวิญญาณของฉัน\" หรือ \"ฉันรู้สึกโศกเศร้าอยู่ลึกๆ\"\n* วลี \"วิญญาณของ\" สามารถแปลว่า \"บุคลิกลักษณะของ\" หรือ \"อิทธิพลของ\" หรือ \"ทัศนคติของ\" หรือ \"ความคิดของ\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/splendor.txt b/01/splendor.txt new file mode 100644 index 00000000..6658f608 --- /dev/null +++ b/01/splendor.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "สง่าราศี", + "body": "คำว่า \"สง่าราศี\" อ้างถึงความงดงามที่สุดและความหรูหราที่มักเกี่ยวข้องกับความมั่งคั่งและรูปลักษณ์อันงดงาม\n\n* คำว่าสง่าราศี บ่อยครั้งจะใช้อธิบายถึงความมั่งคั่งที่กษัตริย์ทรงมีหรือวิธีการที่เขามองในของแพงๆและความงามในเสื้อผ้าอาภรหรูหราของเขา\n* คำว่า \"สง่าราศี\" ยังสามารถอธิบายถึงความงามของต้นไม้ ภูเขา หรือสิ่งต่างๆ ที่พระเจ้าทรงสร้างไว้\n* มีบางเมืองที่กล่าวกันว่ามีความสง่างามอ้างถึงแหล่งทรัพยากรธรรมชาติอาคารและถนนที่ซับซ้อนและความมั่งคั่งของประชาชนรวมถึงเสื้อผ้าราคาแพง ทองและเงิน\n* ขึ้นอยู่กับบริบท คำนี้สามารถแปลได้ว่า \"ความงามอันยอดเยี่ยม\" หรือ \"ความสง่างามสูงสุด\" หรือ \"ความยิ่งใหญ่ดุจราชา\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/staff.txt b/01/staff.txt new file mode 100644 index 00000000..14c55888 --- /dev/null +++ b/01/staff.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ไม้เท้า", + "body": "ไม้เท้าเป็นไม้ยาวหรือไม้แท่งที่บ่อยครั้งใช้ในเป็นไม้ที่ช่วยในการเดิน\n\n* เมื่อยาโคบชราลงเขาเองใช้ไม้เท้าเพื่อช่วยตัวเขาในการเดิน\n* พระเจ้าทรงเปลี่ยนไม้เท้าของโมเสสให้กลายเป็นงูเพื่อสำแดงอำนาจของพระองค์ให้แก่ฟาโรห์\n* เหล่าคนเลี้ยงแกะใช้ไม้เท้าในการช่วยนำแกะของพวกเขาเช่นกัน หรือเพื่อช่วยแกะเมื่อของมันตกหรือออกนอกเส้นทาง \n* ไม้เท้าของคนเลี้ยงแกะ มีขอตรงปลายไม้ซึ่งแตกต่างจากไม้ของคนเลี้ยงแกะที่ตรงเพื่อใช้ฆ่าสัตว์ต่างๆ ที่จะมาทำร้ายฝูงแกะ" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/statute.txt b/01/statute.txt new file mode 100644 index 00000000..0cfd18df --- /dev/null +++ b/01/statute.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "พระบัญญัติ, กฏหมาย", + "body": "พระบัญญัติ เป็นกฎหมายเฉพาะที่เขียนขึ้นเพื่อเป็นแนวทางสำหรับประชาชนเพื่อปฏิบัติตามในการใช้ชีวิต\n\n* คำว่า \"พระบัญญัติ\" มีความหมายคล้ายคลึงกับ\"กฏ\" หรือ \"คำสั่ง\" หรือ \"กฏหมาย\" หรือ \"คำประกาศ\" คำเหล่านี้รวมไปถึงคำแนะนำและพระประสงค์ที่พระเจ้าทรงมอบให้กับประชาชนของพระองค์\n* กษัตริย์ดาวิดได้กล่าวไว้ว่าพระองค์ทรงปีติยินดีในพระบัญญัติของพระยาเวห์\n* คำว่า \"พระราชบัญญัติ\" สามารถแปลว่า \"คำสั่งเฉพาะ\" หรือ \"คำประกาศพิเศษ\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/stephen.txt b/01/stephen.txt new file mode 100644 index 00000000..11cfe05c --- /dev/null +++ b/01/stephen.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "สเทเฟน", + "body": "สเตเฟนเป็นผู้ที่ถูกจดจำมากที่สุดในฐานะด้วยเขาเป็นคริสเตียนคนแรกที่ถูกฆ่าตายเพราะความเชื่อในพระเยซู ความจริงเกี่ยวกับชีวิตและความตายของเขานั้นถูกบันทึกไว้ในพระธรรมกิจการ\n\n* สเทเฟนได้รับการแต่งตั้งโดยคริสตจักรยุคแรกในกรุงเยรูซาเล็มให้รับใช้คริสเตียนในฐานะมัคนายกเพื่อจัดเตรียมอาหารสำหรับแม่หม้ายและคริสเตียนอื่นๆ ที่ต้องการความช่วยเหลือ..\n* ชาวยิวบางคนกล่าวหาสเทเฟนอย่างผิดๆ ว่าเขาพูดต่อต้านพระเจ้าและต่อต้านกฎบัญญัติของโมเสส\n* สเทเฟนได้พูดอย่างกล้าหาญถึงความจริงเกี่ยวกับพระเยซูพระเมสิยาห์ เริ่มด้วยประวัติศาสตร์ที่พระเจ้าได้เกี่ยวข้องกับประชาชนอิสราเอล\n* ผู้นำชาวยิวได้โกรธสเทเฟนมากและประหารชีวิตสเทเฟนโดยการกว้างก้อนหินใส่เขาจนตายนอกเมือง\n* การถูกประหารของเขาได้ถูกเป็นพยานโดยเซาโลแห่งทาร์ซัส ซึ่งต่อมาได้เป็นอัครทูตเปาโล\n*สเทเฟนยังเป็นที่รู้จักกันดีด้วยคำพูดสุดท้ายของเขาก่อนที่เขาจะเสียชีวิตว่า \"องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงอย่าให้บาปนี้ตกแก่พวกเขาเลย\" ซึ่งเป็นการแสดงความรักที่เขามีต่อผู้อื่น" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/stiffnecked.txt b/01/stiffnecked.txt new file mode 100644 index 00000000..18acb4ad --- /dev/null +++ b/01/stiffnecked.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "คอแข็ง, ดื้อดึง", + "body": "คำว่า\"คอแข็ง\" เป็นสำนวนที่ที่ใช้ในพระคัมภีร์ อธิบายถึงผู้ที่ไม่เชื่อฟังพระเจ้าและ ปฏิเสธที่จะเสียใจในความผิดบาป พวกเขาหยิ่งมากและไม่ยอมจำนนต่ออำนาจสิทธิ์ขาดของพระเจ้า\n\n* เช่นเดียวกับคำว่า \"หัวดื้อ\" มีความหมายว่าปฎิเสธที่จะเปลี่ยนใจของคนหรือการกระทำแม้แต่เมื่อถูกขอให้ทำอย่างนั้น พวกคนหัวดื้อจะไม่ยอมฟังคำแนะนำที่ดีหรือคำเตือนที่คนอื่นแนะนำให้พวกเขา\n* ในพันธสัญญาเดิมได้อธิบายถึงชาวอิสราเอลที่ \"คอแข็ง\" เพราะพวกเขาไม่ฟังคำสอนหลายอย่างจากผู้เผยพระวจนะของพระเจ้า ผู้ที่ให้พวกเขาได้เสียใจในความผิดบาปและกลับมาหาพระยาห์เวห์\n* ถ้าคอ \"แข็ง\" มันหมายความว่ามันจะก้มลงไม่ได้ง่าย ภาษาในการแปลอาจมีคำสำนวนที่แตกต่างไปที่สื่อความหมายว่าบุคคล \"ไม่ก้มลง\" นั้นคือ ปฎิเสธที่จะเปลี่ยนวิถีทางของเขา\n* วิธีอื่นที่จะแปลคำนี้สามารถรวม \"ดื้ออย่างเย่อหยิ่ง\" หรือ \"หยิ่งและไม่ยอมจำนน\" หรือ \"การปฎิเสธที่จะเปลี่ยน\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/stone.txt b/01/stone.txt new file mode 100644 index 00000000..4457e1ee --- /dev/null +++ b/01/stone.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ก้อนหิน การขว้างด้วยหิน", + "body": "ก้อนหินเป็นหินก้อนเล็กๆ คำว่า \"การขว้างด้วยหิน\" อ้างถึงการขว้างก้อนหินใส่บุคคลเพื่อฆ่าเขา\n\n* ในสมัยโบราณ การขว้างหินเป็นวิธีธรรมดาของการสังหารประชาชนถือเป็นการทำโทษสำหรับการกระทำผิดที่พวกเขาได้กระทำ\n* พระเจ้าทรงบัญชาให้ผู้นำอิสราเอลการขว้างหินผู้คนในการทำบาปบางอย่าง เช่นการล่วงประเวณี\n* พันธสัญญาใหม่ได้บอกเวลาที่พระเยซูทรงยกโทษผู้หญิงที่ถูกจับในการล่วงประเวณีและทรงหยุดยั้งประชาชนจากการเอาก้อนหินขว้างเธอ\n* สเทเฟน เป็นบุคคลแรกในพระคัมภีร์ที่ถูกฆ่าตายเพราะการเป็นพยานเกี่ยวกับพระเยซู ด้วยการถูกก้อนหินขว้างให้ตาย\n* ในเมืองลิสตรา อัครสาวกเปาโลถูกขว้างด้วยก้อนหิน แต่เขาไม่ตายจากบาดแผลของเขา" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/storehouse.txt b/01/storehouse.txt new file mode 100644 index 00000000..74c338e8 --- /dev/null +++ b/01/storehouse.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "คลังเก็บของ", + "body": "\"คลังเก็บของ\" เป็นอาคารขนาดใหญ่ที่ใช้สำหรับเก็บอาหารหรือสิ่งของอื่นๆ บ่อยครั้งเป็นเวลานาน\n\n* ในพระคัมภีร์ \"คลังเก็บของ\" ปกติใช้เป็นที่เก็บเมล็ดพืชที่เหลือและอาหารอื่นๆ เพื่อใช้ภายหลังเมื่อเกิดการขาดแคลนอาหารเพราะว่ากันดารอาหาร\n* คำนี้ใช้ในการเปรียบเทียบด้วย อ้างถึงสิ่งดีทั้งหมดที่พระเจ้าทรงปรารถนาจะประทานให้คนของพระองค์\n* คลังเก็บของในพระวิหารได้เก็บสิ่งของที่มีค่าต่างๆ เช่นทองคำและเงิน ที่นำมาถวายให้พระยาห์เวห์ สิ่งของเหล่านี้บางอย่างถูกเก็บไว้เพื่อช่วยในการซ่อมแซมและดูแลพระวิหาร\n* วิธีอื่นที่จะแปลคำว่า \"คลังเก็บของ\" สามารถรวมถึง \"อาคารสำหรับกักเก็บเมล็ดพืช\" หรือ สถานที่เก็บอาหาร\" หรือ \"ห้องเพื่อการเก็บสิ่งของที่มีค่าให้ปลอดภัย\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/strength.txt b/01/strength.txt new file mode 100644 index 00000000..dfeab165 --- /dev/null +++ b/01/strength.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ความแข็งแรง,กำลัง, เสริมความแข็งแก่ง สามารถแปลว", + "body": "คำว่า \"ความแข็งแรง\" อ้างถึงสภาวะของความแข็งแกร่งทางด้านร่างกาย อารมณ์ หรือจิตวิญญาณ \"การทำให้เข้มแข็ง\" หมายถึงการทำให้บุคคลหรือบางสิ่งแข็งแกร่งขึ้น\n\n* \"ความแข็งแรง\" สามารถอ้างถึงการที่จะสามารถยืนหยัดต่อแรงต่อต้านบางอย่าง\n* บุคคลมีความแข็งแรงของความตั้งใจถ้าเขาสามารถที่จะไม่เข้าไปในการทดลอง\n* ผู้เขียนสดุดีคนหนึ่งทูลพระยาเวห์ว่าพระองค์ทรงเป็นกำลังของเขาซึ่งหมายถึงพระเจ้าช่วยให้เขาเป็นผู้ที่เข้มแข็ง\n* ถ้าโครงสร้างทางกายภาพอย่างเช่น กำแพงหรืออาคารถูกทำให้แข็งแรงขึ้นนั่นหมายความว่าประชาชนกำลังสร้างโครงสร้างขึ้นมาใหม่เพื่อเสริมความแข็งแกร่งขึ้นด้วยหินหรืออิฐดังนั้นมันจะได้ทนทานต่อการโจมตี\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* โดยทั่วไป คำว่า \"เสริมความแข็งแกร่ง\" สามารถแปลว่า \"เห็นเหตุให้แข็งแรง\" หรือ \"ทำให้มีอำนาจมากกว่า\"\n* ในแง่ของจิตวิญญาณ คำวลี \"เสริมความแข็งแกร่งพี่น้องของท่าน\" สามารถแปลว่า \"หนุนใจพี่น้องของท่าน\" หรือ \"ช่วยเหลือพี่น้องของท่านให้มุ่งมั่น\"\n* ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างว่าคำนี้ใช้อย่างไรบ้าง ตามความหมายของแต่ละคำ ซึ่งเป็นทางเลือกที่สามารถแปลได้ คือ\n* \"สวมความแข็งแกร่งให้ฉันเหมือนเข็มขัด\" หมายความาว่า \"เป็นเหตุให้ฉันแข็งแก่งอย่างสิ้นเชิง\" เหมือนเข็มขัดที่ครดรอบเอวฉันอย่างสิ้นเชิง\"\n* ในความเงียบและความไว้ใจจะเป็นความแข็งแกร่งของท่าน\" หมายความว่า \"กระทำอย่างเงียบและเชื่อมั่นในพระเจ้าจะทำให้ท่านแข็งแกร่งในจิตวิญญาณ\"\n* จะทำให้ท่านแข็งแกร่งอีกครั้ง\" หมายความว่า \"จะกลายเป็นคนแข็งแกร่งอีกครั้ง\"\n* \"โดยความแข็งแกร่งของฉันและปัญญาของฉันที่ฉันได้กระทำ\" หมายความว่า \"ฉันได้ทำสิ่งนี้เพราะว่าฉันเป็นคนเข้มแข็งและฉลาด\"\n* เสริมความแข็งแกร่งของกำแพง\" หมายความว่า \"ทำให้กำแพงแข็งแรง\" หรือ \"สร้างกำแพงใหม่อีกครั้ง\"\n* \"ฉันจะเสริมความแข็งแกร่งให้ท่าน\" หมายความว่า \"ฉันจะทำให้ท่านแข็งแรง\"\n* \"ในพระยาห์เวห์เท่านั้นที่เป็นความรอดและกำลังเข้มแข็ง\" หมายความว่า \"พระยาห์เวห์ทรงเป็นผู้เดียวที่ช่วยเหลือเราให้รอดและเสริมพลังให้เรา\"\n* \"ศิลาแห่งความแข็งแกร่งของท่าน\" หมายความว่า \"องค์ผู้สัตย์ซื่อผู้ที่ทำให้ท่านเข้มแข็ง\"\n* \"ด้วยพลังแห่งการช่วยเหลือแห่งพระหัตถ์ขวา\" หมายความว่า \"พระองค์ทรงช่วยกู้ท่านอย่างเข้มแข็งจากปัญหาเหมือนกับบางคนที่อุ้มชูท่านอย่างปลอดภัยในพระหัตถ์ที่เข้มแข็งของพระองค์\"\n* \"ของความแข็งแกร่งเล็กน้อย\" หมายความว่า \"แข็งแกร่งไม่มาก\" หรือ \"อ่อนแอ\"\n* \"ด้วยความแข็งแกร่งทั้งหมดของฉัน\" หมายความว่า \"การใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดของฉัน\" หรือ \"อย่างเข้มแข็งและอย่างสมบูรณ์\"\n\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/strife.txt b/01/strife.txt new file mode 100644 index 00000000..9cc1cd9a --- /dev/null +++ b/01/strife.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "การปะทะกัน", + "body": "คำว่า \"การปะทะกัน\" อ้างถึง ความขัดแย้งด้านร่างกายหรืออารมณ์ระหว่างคน\n\n* บุคคลที่ทำให้เกิดการปะทะกันจะสร้างสิ่งที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงระหว่างคน\n* การปะทะกัน บางครั้งแสดงถึงอารมณ์ที่รุนแรงซึ่งรวมถึง ความโกรธ หรือความขมขื่น\n* วิธีอื่นที่จะแปลคำนี้ สามารถรวมถึง \"ความไม่เห็นด้วย\" หรือ \"การโต้เถียง\" หรือ ขัดแย้ง\"\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/strongdrink.txt b/01/strongdrink.txt new file mode 100644 index 00000000..65dd0aef --- /dev/null +++ b/01/strongdrink.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เครื่องดื่มที่แรง", + "body": "คำว่า \"เครื่องดื่มที่แรง\" อ้างถึงเครื่องดื่มที่ได้รับการหมักและมีแอลกอฮอล์ภายในนั้น\n\n* เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทำมาจากทั้งธัญพืชหรือผลไม้ที่ผ่านกระบวนการหมัก\n* ประเภทของ \"เครื่องดื่มที่แรง\" รวมถึงเหล้าองุ่น เหล้าปาล์ม เบียร์ และแอบเปิ้ลซีดาร์ ในพระคัมภีร์เหล้าองุ่นเป็นเครื่องดื่มที่แรงที่มีการถูกเอ่ยถึงมากที่สุด\n* เหล่าปุโรหิตและใครก็ตามที่ปฏิญาณตนเป็นพิเศษเช่น \"คำปฏิญาณนาศีร์\" จะไม่อนุญาตให้ดื่มเครื่องดื่มที่หมักแล้ว\n* คำนี้สามารถสามารถแปลได้อีกว่า\"เครื่องดื่มที่มีการหมักไว้\" หรือ \"เครื่องดื่มแอลกอฮอร์\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/stronghold.txt b/01/stronghold.txt new file mode 100644 index 00000000..81797aa3 --- /dev/null +++ b/01/stronghold.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ที่มั่น, ป้อมปราการ, เสริมกำลัง", + "body": "คำว่า \"ที่มั่น\" และ \"ป้อมปราการ\" ทั้งสองคำ อ้างถึงสถานที่ที่จะได้รับการปกป้องที่ดีจากการต่อการโจมตีจากทหารศัตรู คำว่า \"เสริมกำลัง\" อธิบายถึงเมืองหรือสถานที่ที่ได้ทำให้ปลอดภัยจากการโจมตี\n\n* บ่อยครั้ง ที่มั่นและป้อมปราการเป็นโครงสร้างที่คนได้สร้างขึ้นด้วยกำแพงป้องกัน พวกมันสามารถเป็นสิ่งป้องกันโดยธรรมชาติ สิ่งกีดขวาง เช่น หน้าผาหิน หรือ ภูเขาสูง\n* คนเสริมสร้างป้อมปราการโดยการสร้างกำแพงหนาๆ หรือโครงสร้างที่ทำให้ศัตรูยากต่อการพังเข้ามา\n* คำว่า\"ที่มั่น\" หรือ \"ป้อมปราการ\" สามารถแปลว่า \"สถานที่แน่นหนาปลอดภัย\" หรือ \"สถานที่ที่ถูกปกป้อง\"\n* คำว่า เมืองที่ได้รับการเสริมกำลัง\" สามารถแปลได้ว่า \"เมืองที่ได้รับการปกป้องอย่างปลอดภัย\" หรือ \"เมืองที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างแข็งแรง\"\n* คำนี้ถูกใช้ในเชิงเปรียบเทียบ อ้างถึงพระเจ้าเป็นที่มั่น หรือ ป้อมปราการสำหรับคนเหล่านั้นที่วางใจในพระองค์ (ดู: [Metaphor](https://git.door43.org/Door43/en-ta-translate-vol1/src/master/content/figs_metaphor.md))\n* ความหมายเชิงเปรียบเทียบอีกคำหนึ่งของคำว่า \"ที่มั่น\" อ้างถึงบางสิ่งที่บางคนไว้วางใจอย่างผิดๆเพื่อความปลอดภัย อย่างเช่น พระเทียมเท็จ หรือ สิ่งอื่นๆที่ถูกนมัสการกราบไหว้แทนที่พระยาเวห์ สามารถแปลได้ว่า \"ป้อมปราการจอมปลอม\"\n*คำนี้ควรจะถูกแปลอย่างแตกต่างออกไปจากคำว่า \"ที่ลี้ภัย\" ซึ่งเน้นความปลอดภัยมากกว่าแนวคิดการเสริมกำลัง\n\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/stumble.txt b/01/stumble.txt new file mode 100644 index 00000000..b69ee26e --- /dev/null +++ b/01/stumble.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "สะดุด", + "body": "คำว่า \"สะดุด\" หมายถึง \"เกือบล้ม\" ตอนกำลังเดินหรือกำลังวิ่ง โดยทั่วไปมักร่วมกับการสะดุดกับบางสิ่งบางอย่าง\n\n* คำเปรียบเปรยของคำว่า \"สะดุด\" สามารถมีความหมายว่า \"ทำบาป\" หรือ \"รีรอ\" ในความเชื่อ\n* คำนี้มีความหมายว่าได้อีกว่าการลังเลหรือการแสดงความอ่อนแอเมื่อต่อสู้ในสงครามหรือเมื่อถูกข่มเหงหรือลงโทษ\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ในบริบทที่คำว่า \"สะดุด\" มีความหมายด้านร่างกายเดินผ่านบางสิ่ง มันควรแปลคำนันว่า ฎเกือบล้ม\" หรือ \"สะดุดเหนือ\"\n* ความหมายตามตัวอักษรได้ใช้ในบริบทเชิงเปรียบเทียบ ถ้ามันสื่อความหมายที่ถูกต้องในบริบทนั้น\n* สำหรับการใช้ในเชิงเปรียบเทียบในความหมายของภาษาที่กำลังแปล \"สะดุด\" สามารถแปลว่า \"บาป\" หรือ \"อ้ำอึ้ง\" หรือ \"หยุดเชื่อ\" หรือ \"กลายเป็นอ่อนแอ\" ขึ้นอยู่กับ (บาป)\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/stumblingblock.txt b/01/stumblingblock.txt new file mode 100644 index 00000000..3c90d12a --- /dev/null +++ b/01/stumblingblock.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "สิ่งกีดขวาง, หินที่ทำให้สะดุด", + "body": "คำว่า\"สิ่งกีดขวาง \"หรือ\"หินที่ทำให้สะดุด\" อ้างถึงวัตถุทางกายภาพที่ทำให้บุคคลเดินสะดุดและหกล้ม\n\n* ในพันธสัญญาใหม่ คำนี้ถ้าแปลตามตัวอักษรอ้างถึงไม้หรือวัตถุอื่น ๆ ที่จะทำให้กับดักลั่นหรือตัวดักจับสัตว์ที่เหยียบลงบนนั้น\n* สิ่งกีดขวาง เป็นสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ทำให้บุคคลล้มเหลวในแง่ทางศีลธรรมหรือจิตวิญญาณ\n* ยังเปรียบเปรยได้อีกว่า\"หินสะดุด\"หรือ\"หินที่ทำให้สะดุด\"สามารถเป็นบางอย่างที่ทำให้บางคนถูกกีดกวางจากการมีความเชื่อในพระเยซูคริสต์ หรือทำให้บางคนไม่เติบโตฝ่ายวิญญาณ\n* บ่อยครั้งความบาปที่เป็นเหมือนกับการสิ่งกีดขวางแก่ตนเองหรือต่อคนอื่น\n* บางครั้งพระเจ้าได้วางหินสะดุดไว้ในทางของผู้ที่กบฏต่อพระองค์\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ถ้าภาษามีคำสำหรับวัตถุที่เป็นไกของบ่วง คำนั้นก็สามารถใช้ได้ที่จะแปลคำนี้\n* คำนี้สามารถแปลว่า \"ก้อนหินที่ทำให้สะดุด\" หรือ \"บางสิ่งที่เป็นเหตุให้บางคนไม่เชื่อ\" หรือ \"อุปสรรคที่เป็นเหตุให้เกิดความสงสัย\" หรือ \"อุปสรรคตอ่ความเชื่อ\" หรือ \"บางสิ่งที่เป็นเหตุให้บางคนเป็นบาป\"\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/subject.txt b/01/subject.txt new file mode 100644 index 00000000..75974c27 --- /dev/null +++ b/01/subject.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เป้าหมาย, ทำให้อยู่ใต้อำนาจ, ภายใต้บังคับแห่ง", + "body": "คำว่า \"ใต้การควบคุม\" อ้างถึงการอยู่ใต้อำนาจของบางคน วลี \"ทำให้อยู่ใต้อำนาจ\" เป็นคำสั่งที่หมายถึง \"เชื่อฟัง\" หรือ \"ยอมจำนนต่ออำนาจของ\"\n\n* วลี \"การอยู่ภายใต้การควบคุม\" อ้างถึงทำให้ประชาชนตกอยู่ภายใต้อำนาจของผู้นำหรือผู้ปกครอง\n* คำว่า \"ทำให้บางคนอยู่ใต้อำนาจบางสิ่ง \" หมายถึงทำให้บุคคลได้มีประสบการณ์กับบางสิ่งในแง่ลบ อย่างเช่น การลงโทษ\n* บางครั้งคำว่า \"เป้าหมาย\" จะใช้อ้างถึงการเป็นหัวเรื่องหรือจดจ่อในบางอย่างเช่น \"ท่านจะเป็นเป้าหมายของการเยาะเย้ย\"\n* วลี \"อยู่ภายใต้อำนาจ\" มีความหมายเหมือนกับคำว่า \"จงยอมจำนนต่อ\" หรือ \"ยินยอมต่อ\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/submit.txt b/01/submit.txt new file mode 100644 index 00000000..937d8000 --- /dev/null +++ b/01/submit.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ยอมจำนน, การยอมจำนน", + "body": "คำว่า\"ยอมจำนน\" ปกติหมายถึงการกระทำด้วยความสมัครใจของตัวเองภายใต้อำนาจของบุคคลหรือรัฐบาล\n\n* พระคัมภีร์ได้บอกกับผู้เชื่อทั้งหลายในองค์พระเยซูคริสต์ให้ยอมฟังพระเจ้าและผู้อำนาจในชีวิตพวกเขา\n* คำแนะนำให้\"ยอมจำนนแก่กันและกัน\" หมายถึงการยอมรับคำแก้ไขตักเตือนของผู้อื่นด้วยความถ่อมและเพ่งจุดสนใจไในความต้องการของผู้อื่นมากกว่าความต้องการของตนเอง\n* \"มีชีวิตในการยอมจำนน\" หมายถึงการทำตัวเองให้อยู่ภายใต้อำนาจของบางสิ่งบางอย่างหรือบางคน\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำว่า \"ยอมจำนน\" สามารถแปลว่า \"อยู่ภายใต้อำนาจของ\" หรือ \"ตามการนำของ\" หรือ \"ให้เกียรติด้วยถ่อมใจและนับถือ\"\n* คำว่า \"การยอมจำนน\" สามารถแปลว่า \"การเชื่อฟัง\" หรือ \"ทำตามอำนาจของ\"\n* วลี \"ใช้ชีวิตในการยอมจำนน\" สามารถแปลว่า \"อยู่ในการเชื่อฟังของ\" หรือ \"ให้ตัวเองอยูภายใต้อำนาจของ\"\n* วลี \"อยูในการยอมจำนน\" สามารถแปลว่า \"ยอมรับอำนาจด้วยความถ่อมใจ\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/succoth.txt b/01/succoth.txt new file mode 100644 index 00000000..a374f9ef --- /dev/null +++ b/01/succoth.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "สุคท", + "body": "สุคทเป็นชื่อของเมืองสองเมืองในพันธสัญญาเดิม คำว่า \"สุคท\"(หรือ \"สุคคท\") หมายความว่า \"ที่พักอาศัย\"\n\n* เมืองแรกมีชื่อว่าสุคทเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในฝั่งตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน\n* ยาโคบได้อยู่ที่สุคทกับครอบครัวของเขา พร้อมด้วยฝูงแกะและได้สร้างที่พักอาศัยสำหรับพวกเขานั่น\n* หลายร้อยปีต่อมา กิเดโอนและพร้อมด้วยเหล่าทหารที่แสนเหน็ดเหนื่อยของเขาได้หยุดพักที่สุคทในระหว่างที่พวกเขาได้ไล่ตามชาวมีเดียน แต่ผู้คนที่นั่นไม่ยอมให้อาหารพวกเขาเลย\n* เมืองสุคทเมืองที่สองตั้งอยู่ทางเหนือของเขตแดนอียิปต์และเป็นที่ซึ่งชาวอิสราเอลได้หยุดพักหลังจากที่พวกเขาได้เดินทางข้ามทะเลแดงในขณะที่พวกเขาหนีจากการเป็นทาสจากอียิปต์" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/suffer.txt b/01/suffer.txt new file mode 100644 index 00000000..0aae44a3 --- /dev/null +++ b/01/suffer.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ทนทุกข์ การทนทุกข์", + "body": "คำว่า \"ทนทุกข์\" และ \"การทนทุกข์\" อ้างถึงการได้มีประสบการณ์กับบางอย่างที่ไม่เป็นที่พอใจเช่นความเจ็บป่วย ความปวดร้าว หรือความทุกข์ยากอื่นๆ\n\n* ยามเมื่อคนถูกข่มเหงหรือเมื่อเขาไม่สบายพวกเขาก็ทนทุกข์\n* บางครั้งผู้คนต้องทนทุกข์เพราะในสิ่งที่พวกเขาทำผิดพลาดไว้ บางครั้งพวกเขาก็ต้องทนทุกข์เพราะบาปและโรคที่มีอยู่ในโลกนี้\n* การทนทุกข์อาจเป็นทางกายภาพ เช่น ความรู้สึกเจ็บปวดหรือการเจ็บป่วย และยังอาจเป็นด้านอารมณ์เช่น ความรู้สึกกลัว ความเศร้า หรือความโดดเดี่ยว\n* วลี \"ให้ฉันทนทุกข์\" หมายความว่า \"ทนกับฉัน\" หรือ \"ฟังฉัน\" หรือ ฟังอย่างอดทน\"\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำว่า \"ทนทุกข์\" สามารถแปลว่า \"รู้สึกเจ็บปวด\" หรือ \"อดทนต่อความทุกข์ยาก\" หรือ \"มีประสบการณ์กับความยากลำบาก\" หรือ \"ผ่านความยากลำบากและประสบการเจ็บปวดไป\"\n* ขึ้นอยู่กับบริบท \"ทนทุกข์\" สามารถแปลว่า \"สถานการณ์ที่ยากลำบากอย่างยิ่ง\" หรือ \"ลำบากอย่างยิ่ง\" หรือ \"ประสบการที่ลำบากยิ่ง\" หรือ \"เวลาของประสบการณ์ที่เจ็บปวดอย่างยิ่ง\"\n* วลี \"กระหายอย่างลำบาก\" สามารถแปลว่า \"มีประสบการณ์ในความกระหาย\" หรือ \"ทนทุกข์ด้วยการกระหาย\"\n* \"ความรุนแรงที่ทุกข์\" สามารถแปลว่า \"ได้รับความรุนแรง\" หรือ \"ถูกทำร้ายด้วยการกระทำที่รุนแรง\"\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/sulfur.txt b/01/sulfur.txt new file mode 100644 index 00000000..31338034 --- /dev/null +++ b/01/sulfur.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "กำมะถัน", + "body": "กำมะถัน คือสารสีเหลืองที่กลายเป็นของเหลวเมื่อถูกไฟเผาไหม้\n\n* กำมะถันยังมีกลิ่นแรงที่เหม็นเหมือนกลิ่นไข่เน่าด้วย\n* ในพระคัมภีร์การเผากำมะถันถือเป็นสัญญาลักษณ์พิพากษาของพระเจ้าต่อคนอธรรมและคนกบฏ\n* ในสมัยของโลท พระเจ้าทรงส่งฝนไฟและกำมะถันลงมาสู่เมืองชั่วร้ายของเมืองโสโมและโกโมราห์\n* ในพระคัมภีร์ภาษาอังกฤษบางฉบับ คำว่ากำมะถันถูกเปรียบเช่นเดียวกับ\"สารกำมะถัน\"ซึ่งตามตัวอักษรแล้วหมายถึง\"หินที่ไหม้อยู่\"\n\n# คำแนะนำการแปล\n\nการแปลคำนี้ที่เป็นไปได้สามารถรวมเอา \"หินสีเหลืองที่ไหม้\" หรือ \"หินไหม้ไฟสีเหลือง\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/sweep.txt b/01/sweep.txt new file mode 100644 index 00000000..08066fbc --- /dev/null +++ b/01/sweep.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "กวาด, ได้กวาด", + "body": "คำว่า\"กวาด\"และ\"ได้กวาด\" มักอ้างถึงสิ่งที่กว้างขวาง ที่มีเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเพื่อขจัดสิ่งสกปรกโดยใช้ไม้หวาดหรือแปรง คำเหล่านี้ใช้เป็นข้อเปรียบเปรยเช่นกัน\n\n* คำว่า\"กวาด\"ใช้ในการเปรียบเปรยเพื่ออธิบายให้เห็นว่ากองทัพโจมตีด้วยความรวดเร็ว เด็ดขาด และด้วยการเคลื่อนไหวอย่างกว้างขวาง\n* ยกตัวอย่างเช่น อิสยาห์ได้ทำนายว่าอัสซีเรียจะ\"กวาดล้าง\"อาณาจักรยูดาห์ นันี่หมายถึงพวกเขาจะทำลายยูดาห์และจับประชาชนไป\n* คำว่า \"กวาด\" ยังสามารถใช้อธิบายในลักษณะที่มีน้ำไหลไปอย่างรวดเร็วผลักดันสิ่งต่างๆและบังคับให้สิ่งต่างๆไหลไปไกลๆ\n* การที่มีบางอย่าง \"ถูกกวาด\" บุคคล หมายความว่ามีสิ่งที่ยุ่งยากอย่างล้นหลามกำลังเกิดขึ้นกับเขา" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/sword.txt b/01/sword.txt new file mode 100644 index 00000000..e4b423c9 --- /dev/null +++ b/01/sword.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ดาบ", + "body": "ดาบเป็นอาวุธโลหะที่แบนและคมใช้สำหรับฟันหรือแทง ดาบมีด้ามจับและยาวและมีปลายแหลมคม\n\n* ใบมีดของดาบในสมัยโบราณมีความยาวประมาณ 60 ถึง 91 เซนติเมตร\n* ดาบบางเล่มมีความคมทั้งสองด้านจึงเรียกดาบนั้นว่า\"ดาบสองเท่า\" หรือ \"ดาบสองคม\"\n* สาวกของพระเยซูคริสต์เองมีดาบที่พวกเขาวางแผนไว้ใช้ในการปกป้องตัวพวกเขาเอง เปโตรได้ใช้ดาบของเขาตัดหูคนใช้ของมหาปุโรหิต\n* ทั้งยอห์นบัพติศมาและอัครทูตยากอบก็ถูกตัดหัวด้วยดาบทั้งสองคน\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ดาบได้ถูกใช้เป็นคำอุปมาเปรียบเทียบสำหรับดาบของพระเจ้า คำสอนของพระเจ้าในพระคัมภีร์ได้แทงทะลุความคิดของประชาชนและให้พวกเขาหลุดจากบาป ในลักษณะที่คล้ายกัน ดาบได้ตัดอย่างลึกและสร้างความเจ็บปวด" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/synagogue.txt b/01/synagogue.txt new file mode 100644 index 00000000..f4f1e04d --- /dev/null +++ b/01/synagogue.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ธรรมศาลา", + "body": "ธรรมศาลาเป็นอาคารที่ชาวยิวรวมตัวกันเพื่อนมัสการพระเจ้า\n\n* ตั้งแต่โบราณกาล การนมัสการในธรรมศาลานั้นรวมถึงเวลาของการอธิษฐาน อ่านข้อพระคัมภีร์และสอนถึงเรื่องในข้อพระคัมภีร์\n* ชาวยิวเป็นผู้ริเริ่มสร้างธรรมศาลาเป็นที่อธิษฐานและนมัสการพระเจ้าในเมืองของแต่ละคนเพราะว่าชาวยิวหลายคนอาศัยอยู่ไกลจากพระวิหารในเยรูซาเล็ม\n* บ่อยครั้งพระเยซูได้ทรงสอนในธรรมศาลาและรักษาประชาชนที่นั่น\n* คำว่า \"ธรรมศาลา\" สามารถใช้ในเชิงเปรียบอ้างถึงคนกลุ่มที่รวมตัวกันอยู่ที่นั่น" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/syria.txt b/01/syria.txt new file mode 100644 index 00000000..00526123 --- /dev/null +++ b/01/syria.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ซีเรีย", + "body": "ซีเรียเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอิสราเอล ในช่วงเวลาของพันธสัญญาใหม่ซีเรียเป็นอาณาเขตที่อยู่ใต้การปกครองของอาณาจักรโรม\n\n* ในสมัยพันธสัญญาเดิม ชาวซีเรียเป็นกองทัพที่แข็งแกร่งที่เป็นศัตรูของชาวอิสราเอล\n* นาฮามานเป็นผู้บัญชาการทหารของกองทัพซีเรียที่โรคเรื้อนของเขาได้รับการรักษาโดยผู้เผยพระวจนะเอลีชาห์\n* ผู้ที่อาศัยในซีเรียหลายคนเป็นลูกหลานของอารัม ผู้สืบเชื้อสายมาจากเชมบุตรชายของโนอาห์\n* ดามัสกัสเป็นเมืองหลวงของประเทศซีเรียที่ถูกกล่าวถึงกันหลายครั้งในพระคัมภีร์\n* เซาโลได้ไปยังเมืองดามัสกัสด้วยแผนการที่จะไปข่มแห่งเหล่าคริสเตียนที่นั่น แต่พระเยซูคริสต์ได้ทรงหยุดยั้งเขา" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/tabernacle.txt b/01/tabernacle.txt new file mode 100644 index 00000000..b13a5eba --- /dev/null +++ b/01/tabernacle.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "พลับพลา", + "body": "พลับพลาเป็นโครงสร้างที่เหมือนเต็นท์พิเศษที่ชาวอิสราเอลได้มนัสการพระเจ้าในช่วงเวลา 40 ปีที่พวกเขาได้เดินทางในทะเลทราย\n\n* พระเจ้าได้ประทานรายละเอียดข้อปฏิบัติต่างๆในการสร้างเต้นท์ใหญ่นี้ ซึ่งมีสองห้องและถูกล้อมด้วยลานล้อมรอบ\n* ทุกครั้งที่ชาวอิสราเอลย้ายไปอยู่ต่างสถานที่ในทะเลทรายเพื่ออาศัยอยู่ที่นั่นอยู่พวกปุโรหิตจะแยกพลับพลาออกและนำไปที่ที่ตั้งแคมป์ถัดไป จากนั้นพวกเขาก็ตั้งพลับพลาขึ้นใหม่อีกครั้งที่ตรงกลางค่ายใหม่\n* พลับพลานั้นสร้างขึ้นด้วยโครงไม้และขึงกับผ้าม่านที่ทำด้วยผ้า ขนแพะ และหนังสัตว์ต่างๆ บริเวณลานรอบพลับพลาปิดด้วยม่าน\n* พลับพลามีสองส่วนคือ ส่วนที่เป็นสถานที่บริสุทธิ์ (ที่แท่นบูชาเผ่าเครื่องบูชาตั้งอยู่) และห้องอภิสุทธิสถาน(ที่ซึ่งหีบพันธสัญญาถูกเก็บไว้)\n*ลานของพลับพลามีแท่นบูชาสำหรับเผาบูชาสัตว์และอ่างล้างมือพิเศษสำหรับชำระในพิธีกรรม\n* คนอิสราเอลได้หยุดใช้พลับพลาเมื่อพระวิหารของซาดลมอนในกรุงเยรูซาเล็มสร้างเสร็จ\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำว่า \"พลับพลา\" มีความหมายว่า \"สถาที่อาศัย\" อีกวิธีที่แปลสามารถรวมเรา \"เต็นท์ศักดิ์สิทธิ์\" หรือ \"เต็นท์ที่พระเจ้าประทับ\" หรือ \"เต็นท์ของพระเจ้า\"\n* ให้แน่ใจว่าการแปลคำนี้นั้นแตกต่างจากการแปลคำว่า \"พระวิหาร\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/tamar.txt b/01/tamar.txt new file mode 100644 index 00000000..410e12c9 --- /dev/null +++ b/01/tamar.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ทามาร์", + "body": "ทามาร์เป็นชื่อของผู้หญิงหลายคนในพันธสัญญาเดิม และยังเป็นชื่อของเมืองหลายเมืองหรือหลายสถานที่ในพันธสัญญาเดิม\n\n* ทามาร์เป็นลูกสะใภ้ของยูดาห์ เธอได้ให้กำเนิดเปเรศผู้ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของพระเยซูคริสต์\n* หนึ่งในลูกสาวของกษัตริย์ดาวิดก็มีชื่อว่าทามาร์เช่นกัน เธิเป็นน้องสาวของอับซาโลม พี่ชายต่างมารดาคืออัมโมนได้ข่มขืนเธอและได้ทิ้งให้เธอหดหู่ใจ\n* เมืองที่เรียกว่า \"ฮาเซโซน ทามาร์\" เป็นชื่อเดียวกับเมืองเอ็นเกดิในฝั่งตะวันตกของทะเลเกลือ ยังมีเมือง \"บาอัลทามาร์\" ด้วย ยังมืการอ้างอิงทั่วไปถึงสถานที่ที่เรียกว่า \"ทามาร์\" ซึ่งอาจเป็นชื่อที่ต่างจากชื่อเมืองเหล่านี้" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/tarshish.txt b/01/tarshish.txt new file mode 100644 index 00000000..871af773 --- /dev/null +++ b/01/tarshish.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "\nทาร์ชิช", + "body": "ทาร์ชิชเป็นชื่อของผู้ชายสองคนในพันธสัญญาเดิม และเป็นชื่อของเมือง\n\n* หลานคนหนึ่งของยาเฟทมีชื่อว่า ทาร์ชิช\n* ทาร์ชิชเป็นชื่อของหนึ่งในนักปราชญ์ของกษัตริย์อาหสุเอรัส\n* ทาร์ชิชเป็นชื่อเมืองท่าเรือที่รุ่งเรือง ที่เรือสินค้าได้นำผลิตผลต่างๆ มาซื้อหรือขาย หรือแลกเปลี่ยน\n* เมืองนี้มีสัมพันธ์กับเมืองไทร์และมีการคิดว่าเป็นเมืองของชาวฟีนิเซียนที่ค่อนข้างอยู่ห่างไกลจากอิสราเอล บางทีในชายฝั่งตะวันตกของสเปน\n* ในพันธสัญญาเดิม ผู้เผยพระวจนะโยนาห์ได้โดยสารเรือไปเมืองทาร์ชิชแทนที่จะเชื่อฟังคำสั่งของพระเจ้าที่ให้ไปเทศนาที่นินาเวห์" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/tarsus.txt b/01/tarsus.txt new file mode 100644 index 00000000..1572ad7d --- /dev/null +++ b/01/tarsus.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ทาร์ซัส\n", + "body": "ทาร์ซัสเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรือง ตั้งอยู่ในอาณาเขตโรมันแห่งซิลิเซียซึ่งปัจจุบันนี้เป็นตอนกลางภาคใต้ของประเทศตุรกี\n\n* ทาร์ซัสตั้งขนานกับแม่น้ำสายหลักและอยู่ใกล้ชายฝั่งของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทำให้เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางค้าขายที่สำคัญ\n* ช่วงเวลาหนึ่งในประวัติศาสตร์ทาร์ซัสเป็นเมืองหลวงของซิลิเซีย\n* ในพันธสัญญาใหม่ ทาร์ซัสเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นบ้านเกิดของอัครสาวกเปาโล" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/tax.txt b/01/tax.txt new file mode 100644 index 00000000..7c99b9aa --- /dev/null +++ b/01/tax.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ภาษี", + "body": "คำว่า \"ภาษี\" หรือ \"ภาษีอากร\" อ้างถึงเงินหรือสินค้าต่างๆ ที่ผู้คนชำระให้แก่รัฐบาลผู้มีอำนาจเหนือพวกเขา\n\n* ปริมาณเงินที่ชำระภาษีโดยปกติแล้วขึ้นอยู่กับราคาของสิ่งของหรือว่ามูลค่าทรัพย์สมบัติของบุคคลนั้น\n* ถ้าคนไหนไม่ได้ชำระค่าภาษีต่างๆ รัฐบาลสามารถดำเนินการตามกฏหมายต่อบุคคลนั้น หรือธุรกิจนั้นเพื่อเอาเงินที่บุคคลนั้นเป็นหนี้รัฐบาลได้\n* โยเซฟฟและมาเรียได้เดินทางไปยังเบธเลเฮ็มเพื่อจดทะเบียนสำมะโนครัวเพื่อจุดประสงค์การเสียภาษีของทุกคนที่อาศัยอยูในอาณาจักรโรมัน\n* มี \"ภาษีวิหาร\" ซึ่งเป็นเงินที่ประชาชนหย่อนลงในตู้ถวายทรัพย์ บางส่วนของเงินนี้ใช้เพื่อดูแลอาคารพระวิหาร \n * คำว่า \"ภาษี\" สามารถแปลว่า \"ภาษีบังคับ\" หรือ \"เงินของรัฐบาล\" หรือ \"เงินของพระวิหาร\" ขึ้นอยู่กับบริบท\n* วลี อย่างเช่น \"เก็บภาษี\" และ \"จ่ายภาษี\" สามารถแปลได้ว่า \"จ่ายเงินให้รัฐบาล\" หรือ\"รับเงินสำหรับรัฐบาล\" หรือ \"จ่ายชำระตามที่กำหนด\"\n* \"คนเก็บภาษี\" เป็นคนที่ทำงานให้กับรัฐบาลในการรับเงินที่ผู้คนต้องชำระให้แก่รัฐบาล\n\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/taxcollector.txt b/01/taxcollector.txt new file mode 100644 index 00000000..e3916de2 --- /dev/null +++ b/01/taxcollector.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "คนเก็บภาษี", + "body": "\"คนเก็บภาษี\" เป็นคนงานของรัฐบาลผู้มีหน้าที่ในการรับเงินที่ประชาชนถูกกำหนดให้จ่ายให้รัฐบาลในการเสียภาษี\n\n* ในสมัยพระเยซูและเหล่าสาวก รัฐบาลโรมกำหนดให้เก็บภาษีจากทุกคนที่อาศัยอยู่ในอาณาจักรโรมัน รวมทั้งชาวยิว\n* ประชาชนที่เก็บภาษีให้กับรัฐบาลโรมนั้นมักเก็บเงินจากประชาชนเกินกว่าที่รัฐบาลกำหนดไว้ คนเก็บภาษีจะเก็บเงินพิเศษจำนวนหนึ่งไว้สำหรับตัวพวกเขาเอง\n* เพราะคนเก็บภาษีได้หลอกลวงประชาชนในทางนี้ คนยิวจึงพิจารณาพวกเขาเป็นคนเลวที่สุดในพวกคนบาป\n*ชาวยิวถือว่าคนเก็บภาษีชาวยิวเป็นคนทรยศคนชาติเดียวกันเพราะพวกเขาได้ทำงานให้รัฐบาลโรมซึ่งกำลังกดชี่ข่มเหงคนยิว\n* วลี \"คนเก็บภาษีและคนบาปทั้งหลาย\" เป็นคำกล่าวธรรมดาในพันธสัญญาใหม่ แสดงถึงว่าชาวยิวเกลียดชังพวกเก็บภาษี" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/teach.txt b/01/teach.txt new file mode 100644 index 00000000..75fec908 --- /dev/null +++ b/01/teach.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "สอน, การสอน, อาจารย์, ได้สอน", + "body": "คำว่า\"สอน\" และ \"การสอน\" หมายถึงการบอกข้อมูลให้แก่ผู้คนถึงสิ่งที่พวกเขาไม่รู้มาก่อน โดยปกติแล้วข้อมูลจะถูกให้ไว้อย่างเป็นทางการหรือเป็นระบบ\n\n* \"ครู\" คือผู้ที่สอน คำอดีตของคำว่าสอนคือ\"ได้สอน\"\n* เมื่อพระเยซูกำลังสอน พระองค์ทรงกำลังอธิบายถึงเรื่องราวเกี่ยวกับพระเจ้าและอาณาจักรของพระองค์\n* สาวกของพระเยซูเรียกพระองค์ว่า \"อาจารย์\" ซึ่งเป็นการให้เกียรติในการกล่าวถึงผู้ที่สอนเรื่องราวของพระเจ้าให้ผู้คน\n* ข้อมูลที่กำลังถูกสอนนั้นสามารถแสดงให้เห็นหรือพูดเป็นคำพูดได้\n* คำว่า \"หลักคำสอน\" อ้างถึงคำสอนต่างๆจากพระเจ้าเกี่ยวกับพระองค์เองรวมถึงข้อปฏิบัติของพระเจ้าในการดำเนินชีวิตอย่างไร สามารถแปลได้ว่า\"คำสอนจากพระเจ้า\"หรือ\"สิ่งที่พระเจ้าสอนพวกเรา\"\n* วลีที่ว่า \"สิ่งที่ท่านได้รับการสอนมา\" สามารถแปลว่า \"สิ่งที่เขาเหล่านี้ได้สอนท่าน\"หรือ\"สิ่งที่พระเจ้าได้สอนท่าน\" ขึ้นอยู่กับบริบท\n* วิธีอื่นที่จะแปลคำว่า\"สอน\" สามารถรวมถึง \"การบอก\" หรือ \"การอธิบาย\" หรือ \"การสอน\"\n* บ่อยครั้งคำนี้สามารถแปลได้ว่า\"การสอนผู้คนถึงเรื่องราวของพระเจ้า\"\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/teacher.txt b/01/teacher.txt new file mode 100644 index 00000000..ea68aefd --- /dev/null +++ b/01/teacher.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ครู, อาจารย์", + "body": "ครูเป็นบุคคลผู้ที่ให้ข้อมูลใหม่ๆกับผู้คน ครูช่วยให้ผู้อื่นได้รับทั้งความรู้และทักษะด้วย\n\n* ในพระคัมภีร์ คำว่า\"ครู\" จะใช้ในความหมายพิเศษที่จะอ้างอิงถึงคนที่สอนเรื่องราวเกี่ยวกับพระเจ้า ไม่ได้หมายถึงครูที่สอนที่โรงเรียน\n* ประชาชนที่เรียนจากครูจะเรียกว่า \"ศิษย์\" หรือ\"สาวก\"\n* ในคำแปลของพระคัมภีร์บางฉบับ คำศัพท์จะใช้ตัวอักษรพิมพ์ใหญ่(\"Teacher\")เมื่อใช้เป็นตำแหน่งของพระเยซู\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำะรรมดาของครูสามารถใช้แปลคำนี้ นอกจากว่าคำนั้นใช้สำหรับครูในโรงเรียน\n* บางวัฒนธรรมอาจจะมีตำแหน่งพิเศษที่ใช้ในสำหรับครูศษสนา เช่น \"เซอร์\" หรือ \"รับไบ\" หรือ \"นักเทศน์\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/temple.txt b/01/temple.txt new file mode 100644 index 00000000..ea2173e6 --- /dev/null +++ b/01/temple.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "พระวิหาร", + "body": "วิหารเป็นอาคารที่ล้อมรอบด้วยลานที่มีกำแพงล้อมรอบที่ชาวอิสราเอลได้มาอธิษฐานและถวายเครื่องบูชาให้แด่พระเจ้า ตัววิหารตั้งอยู่ที่ภูเขาโมริอาห์ในกรุงเยรูซาเล็ม\n\n* บ่อยครั้งคำว่า\"พระวิหาร\" อ้างถึงส่วนประกอบของวิหารทั้งหมดที่รวมถึงลานวิหารที่ล้อมรอบอาคารหลัก บางครั้งก็อ้างถึงอาคารเท่านั้น\n* อาคารพระวิหารมีอยู่สองห้อง คือห้องวิสุทธิสถานและห้องอภิสุทธิสถาน\n* พระเจ้าได้อ้างอิงพระวิหารว่าเป็นที่ประทับของพระองค์\n* ในรัชสมัยของกษัตริย์ซาโลมอน พระองค์ได้ทรงสร้างพระวิหาร ซึ่งเป็นสถานที่ถาวรสำหรับการนมัสการในกรุงเยรูซาเล็ม\n* ในพันธสัญญาใหม่คำว่า\"พระวิหารของพระวิญญาณบริสุทธิ์\" ก็ใช้อ้างอิงถึงเหล่าผู้เชื่อในพระเยซูคริสต์ เพราะพระวิญญาณบริสุทธิ์สถิตอยู่ในพวกเขา\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* โดยปกติเมื่อพระคัมภีร์กล่าวว่าประชาชน \"อยู่ในพระวิหาร\" นี่อ้างถึงบริเวณพระวิหารนอกอาคาร นี่สามารถแปลว่า \"ในลานพระวิหาร\" หรือ \"ในส่วนประกอบของพระวิหาร\"\n* เมื่ออ้างถึงตัวอาคาร คำแปลบางคำแปลจะแปลว่า \"พระวิหาร\" เป็นอาคารพระวิหาร\" เพื่อทำให้ชัดเจนว่ากำลังอ้างถึงอะไร\n* วิธีแปล \"พระวิหาร\" สามารถรวม \"บ้านบริสุทธิ์ของพระเจ้า\" หรือ \"สถานนมัสการศักดิ์สิทธิ์\"\n* บ่อยครั้งในพระคัมภีร์ พระวิหารอ้างถึงว่าเป็น \"บ้านของพระยาห์เวห์\" หรือ \"บ้านของพระเจ้า\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/tempt.txt b/01/tempt.txt new file mode 100644 index 00000000..cc080d61 --- /dev/null +++ b/01/tempt.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ทดลอง, การทดลอง", + "body": "การทดลองใครสักคนเป็นการพยายามให้บุคคลนั้นทำสิ่งที่ผิด\n\n* การทดลองคือบางสิ่งที่เป็นเหตุให้บุคคลอยากทำในบางสิ่งที่ผิด\n* ผู้คนมักถูกทดลองโดยบาปธรรมชาติในตัวของเขาและโดยคนอื่น\n* ซาตานก็ทำลองมนุษย์เพื่อไม่ให้เชื่อพระเจ้าและให้ทำบาปต่อพระเจ้าโดยการทำสิ่งที่ผิด\n* ซาตานได้ทดลองพระเยซูและได้พยายามทำให้พระองค์ทำผิด แต่พระเยซูทรงต่อต้านต่อการทดลองของซาตานทุกอย่างและไม่เคยทำบาป\n* คำว่า\"การทดลอง\" ได้ถูกใช้อ้างอิงถึงการทดลองพระเจ้าด้วยซึ่งมีความหมายว่าเป็นการดื้อรั้นและไม่เชื่อฟังพระองค์จนถึงขั้นที่เขาต้องรับผิดชอบโดยการลงโทษต่อผู้ที่ไม่เชื่อฟัง นี่อาจเรียกได้อีกว่า \"การทดลอง\"พระเจ้า\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำว่า \"ทดลอง\" สามารถแปลว่า \"พยายามที่จะทำบาป\" หรือ \"ล่อลวง\" หรือ \"เป็นเหตุให้ปรารถนาที่จะทำบาป\"\n* วิธีแปล \"การทดลอง\" สามารถรวม \"สิ่งที่ทดลอง\" หรือสิ่งที่ล่อลวงบางคนให้ทำบาป\" หรือ \"สิ่งที่เป็นเหตุให้ปรารถนาจะทำบางสิ่งที่ผิด\"\n* ในบางบริบทของการทำลองพระเจ้า นี่สามารถแปลว่า \"เอาพระเจ้ามาทดลอบ\" หรือ \"ทดสอบพระเจ้า\" หรือ \"ทดสอบความอดทนของพระเจ้า\" หรือ\"เป็นสาเหตุให้พระเจ้าทำโทษ\" หรือ \"คงความดื้อด้านที่จะไม่เชื่อฟังพระเจ้า\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/tencommandments.txt b/01/tencommandments.txt new file mode 100644 index 00000000..da44088c --- /dev/null +++ b/01/tencommandments.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "พระบัญญัติสิบประการ", + "body": "\"พระบัญญัติสิบประการ\" คือคำสั่งที่พระเจ้าได้ทรงให้กับโมเสสบนภูเขาซีนายระหว่างเวลาที่พวกอิสราเอลใช้ชีวิตอยู่ในทะเลทรายเพื่อเดินทางไปคานาอัน พระเจ้าทรงเขียนบัญญัติเหล่านี้ลงบนแผ่นหินขนาดใหญ่สองแผ่น\n\n* พระเจ้าประทานบัญญัติให้คนอิสราเอลได้เชื่อฟัง แต่บัญญัติสิบประการเป็นพระบัญญัติพิเศษเพื่อช่วยอิสราเอลให้รักและนมัสการพระเจ้าและรักคนอื่น\n* พระบัญญัติเหล่านี้ยังเป็นส่วนของพันธสัญญาของพระเจ้ากับประชากรของพระองค์ โดยการเชื่อฟังในสิ่งที่พระเจ้าบัญชาไว้ให้ทำ ชนชนติอิสราเอลจะต้องแสดงตนว่าพวกเขารักพระเจ้าและเป็นของพระองค์\n* แผ่นหินพร้อมด้วยพระบัญญัติได้ถูกเขียนบนนั้น ได้ถูกเก็บรักษาไว้ในหีบพระบัญญัติแห่งพันธสัญญา ซึ่งตั้งไว้ในวิสุทธิสถานในพลับพลา และต่อมาได้ตั้งไว้ในพระวิหาร" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/tent.txt b/01/tent.txt new file mode 100644 index 00000000..4137f03b --- /dev/null +++ b/01/tent.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เต็นท์", + "body": "เต็นท์เป็นที่พักพิงแบบพกพาที่ทำจากผ้าใบที่ทนทานที่คลุมเหนือโครงสร้างของเสาและยึดติดกับพวกมัน\n\n* เต็นท์สามารถมีขนาดเล็ก ที่มีที่สำหรับสองสามคนได้นอนหลับ หรือ อาจจะใหญ่มาก มีที่สำหรับทั้งครอบครัวได้นอนหลับ ทำอาหาร และอาศัยอยู่\n* สำหรับหลายคน เต็นท์เป็นที่พักอาศัยถาวร ยกตัวอย่างเช่น ตลอดเวลาที่ครอบครัวของอับราฮัมอาศัยอยู่ในคานาอัน พวกเขาพักอาศัยอยู่ในเต็นท์ขนาดใหญ่ที่ทำด้วยผ้าใบที่ทำด้วยขนแพะ\n* ชาวอิสราเอลอาศัยอยู่ในเต็นท์ระหว่างการเดินทางสี่สิบปีของพวกเขาผ่านทะเลทรายแห่งซีนาย\n* อาคารพลับพลาเป็นเต็นท์ขนาดใหญ่มีกำแพงหนาทำด้วยผ้าม่าน\n* เมื่ออัครสาวกเปาโลในขณะที่เดินทางจากเมืองหนึ่งไปยังเมืองที่แบ่งปันพระกิตติคุ เขาได้ทำเต็นท์หาเงินเพื่อช่วยเหลือตนเอง\n* คำว่า \"เต็นท์\" บางครั้งก็ใช้เปรียบเทียบเพื่ออ้างถึงที่ซึ่งผู้คนอาศัยอยู่ นี่อาจแปลว่า \"บ้านทั้งหลาย\" หรือ \"ที่อยู่อาศัย\" หรือ \"บ้านเรือน\" (ดู: [synecdoche](https://git.door43.org/Door43/en-ta-translate-vol2/src/master/content/figs_synecdoche.md))" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/tenth.txt b/01/tenth.txt new file mode 100644 index 00000000..fc5f1599 --- /dev/null +++ b/01/tenth.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "สิบลด, ทศางค์", + "body": "คำว่า \"สิบลด\" หรือ \"ทศางค์\" อ้างถึง \"ร้อยละสิบ\" หรือ \"หนึ่งในสิบส่วน\" ของเงิน พืชผล ปศุสัตว์หรือทรัพย์สินอื่น ๆ ที่นำถวายพระเจ้า\n\n* ในพันธสัญญาเดิม พระเจ้าทรงสั่งให้ชาวอิสราเอลแยกสิบลดของทรัพย์สินของพวกเขาเพื่อถวายโมทนาพระคุณต่อพระเจ้า\n* สิ่งถวายบูชานี้ใช้เพื่อสนับสนุนชนเผ่าเลวีของอิสราเอลที่ทำหน้าที่ปรนนิบัติชาวอิสราเอลในฐานะปุโรหิตและเป็นผู้ดูแลพลับพลาหรือต่อมาคือพระวิหาร\n* ในพันธสัญญาใหม่ พระเจ้าไม่ทรงพระประสงค์สิบลด แต่ได้สอนให้ผู้เชื่อได้ถวายสิบลดด้วยจิตใจที่กว้างขวางและให้ด้วยความยินดี และสนับสนุนงานของชุมชนคริสเตียน\n* คำนี้สามารถแปลได้ว่าเป็น \"หนึ่งในสิบ\" หรือ \"สิบชักออกหนึ่ง\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/tentofmeeting.txt b/01/tentofmeeting.txt new file mode 100644 index 00000000..d3fc1271 --- /dev/null +++ b/01/tentofmeeting.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เต็นท์นัดพบ", + "body": "คำว่า \"เต็นท์นัดพบ\" อ้างถึงเต็นท์ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งชั่วคราวที่พระเจ้าทรงพบโมเสสก่อนที่พลับพลาจะได้รับการสร้างขึ้น\n\n* เต็นท์นัดพบจะตั้งอยู่นอกค่ายพักของคนอิสราเอล\n* เมื่อโมเสสได้ไปที่พลับพลาเพื่อเข้าเฝ้าพระเจ้า เสาเมฆจะปรากฏขึ้นที่หน้าเต็นท์ แสดงให้เห็นถึงการประทับของพระเจ้าที่นั่น\n* หลังจากที่คนอิสราเอลได้สร้างพลับพลาขึ้น เต็นท์ชั่วคราวก็ไม่จำเป็นอีกต่อไปและคำว่า \"เต็นท์นัดพบ\" ในบางครั้งก็ใช้อ้างอิงถึงพลับพลา\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/terah.txt b/01/terah.txt new file mode 100644 index 00000000..6035b8c4 --- /dev/null +++ b/01/terah.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เทราห์", + "body": "เทราห์เป็นพงศ์พันธ์ุของเชมบุตรชายของโนอาห์ เขาเป็นบิดาของอับราม นาโฮร์และฮาราน\n\n* เทราห์ ได้ออกจากบ้านของเขาในเมืองเออร์ เพื่อที่จะไปยังแผ่นดินคานาอันกับอับรามบุตรชายและโลตหลานชายของเขา และซาราห์ภรรยาของอับราม\n* ระหว่างทางไปคานาอัน เทราห์และครอบครัวของเขาได้อาศัยอยู่หลายปีในเมืองฮารานในเมโสโปเตเมีย เทราห์ เสียชีวิตในเมืองฮาราน เมื่ออายุ 205 ปี" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/terror.txt b/01/terror.txt new file mode 100644 index 00000000..64707365 --- /dev/null +++ b/01/terror.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ความสยดสยอง, ทำให้หวาดกลัว", + "body": "คำว่า \"ความสยดสยอง\" อ้างถึงอารมณ์ความกลัวอย่างมาก การทำให้บางคนความหวาดกลัวหมายความว่าทำให้บุคคลรู้สึกกลัวอย่างมาก\n\n* \"ความสยดสยอง\" (หรือ \"เหล่าความสยอสยอง\") เป็นบางสิ่งใดหรือบางคนใด ที่ทำให้เกิดความกลัวอย่างมากหรืออันตราย ตัวอย่างของความสยดสยองอาจป็นการจู่โจมของกองทัพข้าศึก หรือโรคระบาดหรือโรคร้ายแรงที่ระบาดในวงกว้าง ฆ่าคนเป็นจำนวนมาก \n* ความสยดสยองเหล่านี้สามารถอธิบายว่า \"ทำให้หวาดกลัว\" คำนี้สามารถแปลว่า \"เป็นเหตุให้กลัว\" หรือ \"กระทำให้เกิดความสยดสยอง\"\nการพิพากษาของพระเจ้าจะทำให้เกิดความหวาดผวาในวันหนึ่งวันใดในคนที่ไม่ยอมกลับใจที่ปฏิเสธพระคุณของพระองค์\n* ความ \"หวาดกลัวพระยาห์เวห์\" สามารถแปลว่า \"การปรากฏตัวที่น่าสะพึงกลัวของพระยาเวห์\" หรือ \"การพิพากษาอันน่าสะพรึงกลัวของพระยาห์เวห์\" หรือ \"เมื่อพระยาห์เวห์ทำให้เกิดความหวาดกลัวอย่างสุดขีด\"\n* วิธีที่จะแปล \"ความสยดสยอง\" สามารถรวม \"ความกลัวสุดขีด\" หรือ \"ความน่ากลัวหยั่งลึก\"\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/test.txt b/01/test.txt new file mode 100644 index 00000000..a3e1d662 --- /dev/null +++ b/01/test.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "การทดสอบ", + "body": "คำว่า \"การทดสอบ\" อ้างถึงประสบการณ์ที่ยากลำบากหรือเจ็บปวดซึ่งแสดงให้เห็นถึงจุดแข็งและจุดอ่อนของบุคคล\n\n* พระเจ้าทรงทดสอบประชาชน แต่พระองค์ไม่ทดลองพวกเขา ซาตานจะทดลองประชาชนให้ทำบาป\n* บางครั้งพระเจ้าทรงใช้การทดสอบเพื่อเปิดเผยความบาปของผู้คน การทดสอบช่วยให้บุคคลหันกลับจากบาปและเข้าใกล้พระเจ้า\n* ทองคำและโลหะอื่น ๆ ได้รับการทดสอบด้วยไฟเพื่อหาว่ามันบริสุทธิ์และแข็งอย่างไร นี่เป็นภาพของพระเจ้าทรงใช้สถานการณ์อันเจ็บปวดเพื่อทดสอบประชากรของพระองค์\n* \"เข้าสู่การทดสอบ\" สามารถแปลว่า \"ท้าทายบางสิ่งหรือบางคนเพื่อพิสูจน์ค่าของมัน\"\n* ในบริบทของการทดสอบพระเจ้า หมายถึงการไม่ปฏิบัติตามพระองค์ ฉวยโอกาสจากผลประโยชน์จากความเมตตาของพระองค์\n* พระเยซูตรัสกับซาตานว่ามันเป็นการผิดที่ทดลองพระเจ้า พระองค์คือพระเจ้าผู้ทรงอำนาจสูงสุด พระเจ้าองค์บริสุทธิ์ทรงอยู่เหนือทุกสิ่งและทุกคน\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำว่า \"ทดสอบ\" สามารถแปลว่า \"ท้าทาย\" หรือ \"ทำให้เกิดประสบการณ์ที่ยากลำบาก\" หรือ \"พิสูจน์\"\n* วิธีการแปล \"การทดสอบ\" สามารถเป็น \"ความท้าทาย\" หรือ \"ประสบการณ์ที่ยากลำบาก\"\n* \"ทำการทดสอบ\" สามารถแปลว่า \"ทดสอบ\" หรือ \"การทำให้มีความท้าทาย\" หรือ \"บังคับเพื่อพิสูจน์ตัวเอง\"\n* ในบริบทของการทดสอบพระเจ้า สิ่งนี้สามารถแปลได้ว่า \"พยายามบังคับให้พระเจ้าพิสูจน์ความรักของพระองค์\"\n* ในบางบริบท คำว่า \"ทดสอบ\" สามารถแปลว่า \"ทดลอง\" " + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/testimony.txt b/01/testimony.txt new file mode 100644 index 00000000..8c0ecd22 --- /dev/null +++ b/01/testimony.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ประจักษ์พยาน เป็นพยาน", + "body": "คำว่า \"ประจักษ์พยาน\" และ \"เป็นพยาน\" อ้างถึงการทำคำกล่าวเกี่ยวกับบางสิ่งที่คนรู้ว่าเป็นความจริง\n\n* บ่อยครั้งที่บุคคล \"เป็นพยาน\" เกี่ยวกับสิ่งที่เขาได้มีประสบการณ์โดยตรง\n* พยานที่ให้ \"การเป็นพยานเท็จ\" ไม่ได้บอกความจริงเกี่ยวกับสิ่งที่ได้เกิดขึ้น\n* บางครั้งคำว่า \"ประจักษ์พยาน\" อ้างถึงคำเผยพระจนะที่ผู้เผยพระวจนะได้กล่าวไว้\n* ในพันธสัญญาใหม่ คำนี้มักใช้เพื่ออ้างถึงว่าผู้ติดตามของพระเยซูได้เป็นพยานถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิต ความตายและการคืนพระชนม์ของพระเยซู\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำว่า \"เป็นพยาน\" หรือ \"ให้การเป็นพยาน\" สามารถแปลว่า \"บอกข้อเท็จจริง\" หรือ \"บอกสิ่งที่ได้เห็นหรือได้ยิน\" หรือ \"บอกเล่าจากประสบการณ์ส่วนตัว\" หรือ \"ให้หลักฐาน\" หรือ \"บอกสิ่งที่ได้เกิดขึ้น\"\n* วิธีการแปล \"การเป็นพยาน\" สามารถรวมถึง \"รายงานว่าเกิดอะไรขึ้น\" หรือ \"คำแถลงว่าอะไรเป็นความจริง\" หรือ \"หลักฐาน\" หรือ \"สิ่งที่ได้รับการกล่าว\" หรือ \"คำทำนาย\"\n* วลี \"เป็นพยานให้กับพวกเขา\" อาจแปลว่า \"เพื่อแสดงให้พวกเขาเห็นว่าอะไรเป็นความจริง\" หรือ \"เพื่อพิสูจน์ว่าอะไรเป็นความจริง\"\n* วลี \"เป็นพยานต่อด้านกับพวกเขา\" อาจแปลว่า \"ซึ่งจะแสดงให้พวกเขาเห็นถึงความบาปของพวกเขา\" หรือ \"เปิดเผยความหน้าซื่อใจคดของพวกเขา\" หรือ \"ซึ่งจะพิสูจน์ได้ว่าพวกเขาผิด\"\n* การ \"ให้คำพยานเท็จ\" สามารถแปลว่า \"พูดเรื่องเท็จเกี่ยวกับ\" หรือ \"ระบุสิ่งที่ไม่เป็นความจริง\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/tetrarch.txt b/01/tetrarch.txt new file mode 100644 index 00000000..95f20ad8 --- /dev/null +++ b/01/tetrarch.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เจ้าเมือง", + "body": "คำว่า \"เจ้าเมือง\" อ้างถึงเจ้าหน้าที่ปกครองที่ปกครองดูแลส่วนหนึ่งของจักรวรรดิโรมัน เจ้าเมืองแต่ละคนอยู่ภายใต้อำนาจสิทธิ์ขาดของจักรพรรดิแห่งโรมัน\n\n* ตำแหน่ง \"เจ้าเมือง\" มีความหมายว่า \"หนึ่งในสี่ร่วมกันของผู้ปกครอง\"\n* เริ่มจากภายใต้ไดโอคริเชียนจักรพรรดิโรมัน มีสี่ส่วนใหญ่ของอาณาจักรโรมันและแต่ละไดโอคลีเชียนปกครองหนึ่งส่วน\n* อาณาจักรของเฮโรด \"มหาราช\" ผู้เป็นกษัตริย์ในเวลาที่พระเยซูทรงบังเกิด ได้ถูกแบ่งออกเป็นสี่ส่วนภายหลังการตายของเขา และถูกปกครองโดยบรรดาลูกๆ ของเขา เป็น \"ไดโอคลีเชียน\" หรือ \"ผู้ปกครองของหนึ่งในสี่ส่วน\"\n* แต่ละส่วนมีหนึ่งหรือส่วนที่เล็กๆ มากกว่า ที่เรียกว่า \"จังหวัด\" อย่างเช่น กาลิลีหรือ สะมาเรีย\n* คำว่า\"เจ้าเมือง\" สามารถแปลได้ว่า \"ผู้ปกครองภูมิภาค\" หรือ \"ผู้ปกครองจังหวัด\" หรือ \"ผู้ปกครอง\" หรือ \"ผู้ว่าราชการ\" ก็ได้" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/thessalonica.txt b/01/thessalonica.txt new file mode 100644 index 00000000..c41e1273 --- /dev/null +++ b/01/thessalonica.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เธสะโลนิกา, ชาวเธสะโลนิกา", + "body": "ในยุคพันธสัญญาใหม่ เธสะโลนิกา เป็นเมืองหลวงของมาซิโดเนียในจักรวรรดิโรมันโบราณ ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเมืองนั้นเรียกว่า \"ชาวเธสะโลนิกา\"\n\n* เมืองเธสะโลนิกาเป็นเมืองท่าที่มีความสำคัญและตั้งอยู่บนทางหลวงที่สำคัญซึ่งเชื่อมต่อกับกรุงโรมไปยังส่วนตะวันออกของอาณาจักรโรมัน\n* เปาโลพร้อมกับสิลาสและทิโมธีได้ไปเยี่ยมเยียนเมืองเธสะโลนิกาในการเดินทางครั้งแรกของการเป็นมิชันนารีและผลที่เกิดขึ้นก็ได้มีคริสตจักรเกิดขึ้น ต่อมาเปาโลได้ไปเยี่ยมเยียนเมืองนี้อีกในการเดินทางครั้งสามของการเป็นมิชชันนารี\n* เปาโลได้เขียนจดหมายสองฉบับให้คริสเตียนในเมืองเธสะโลนิกา จดหมายเหล่านี้คือ เธสะโลนิกา ฉบับที่ 1 และ เธสะโลนิกา ฉบับที่ 2 ซึ่งรวมอยู่ในพันธสัญญาใหม่ด้วย" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/thetwelve.txt b/01/thetwelve.txt new file mode 100644 index 00000000..e19e8da5 --- /dev/null +++ b/01/thetwelve.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "พวกสิบสองคน, พวกสิบเอ็ดคน", + "body": "คำว่า \"พวกสิบสองคน\" อ้างถึงผู้ชายสิบสองคนที่พระเยซูได้ทรงเลือกให้เป็นสาวกที่ใกล้ชิดที่สุดของพระองค์ หรืออัครทูต หลังจากที่ยูดาสได้ฆ่าตัวตายพวกเขาก็ถูกเรียกว่า \"พวกสิบเอ็ดคน\"\n\n* พระเยซูทรงมีสาวกอื่นอีกหลายคน แต่ตำแหน่ง \"พวกสิบสองคน\" ได้แสดงความแตกต่างแก่บรรดาผู้ที่ติดตามพระองค์ตลอดสามปีของพันธกิจ\n* ชื่อของเหล่าสาวกสิบสองคนนี้แสดงไว้ในมัทธิว 10, มารโก 3 และลูกา 6\n* บางครั้งหลังจากที่พระเยซูได้เสด็จกลับไปยังสวรรค์ \"พวกสิบเอ็ดคน\" ได้เลือกสรรสาวกชื่อแมทเธียสเพื่อไปแทนที่ของยูดาส แล้วพวกเขาจึงถูกเรียกว่า \"พวกสิบสองคน\" อีกครั้งหนึ่ง\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* สำหรับหลายภาษาอาจชัดเจนหรือเป็นธรรมชาติมากขึ้นโดยเพิ่มคำนามและพูดว่า \"อัครสาวกสิบสองคน\" หรือ \"สาวกสิบสองคนที่ใกล้ชิดที่สุดของพระเยซู\"\n* \"พวกสิบเอ็ดคน\" สามารถแปลว่า \"สาวกสิบเอ็ดคนของพระเยซูที่เหลืออยู่\"\n* คำแปลบางคำแปล อาจต้องการใช้อักษรตัวใหญ่เพื่อแสดงว่าเป็นตำแหน่ง อย่างเช่นที่ใช้ใน \"พวกสิบสองคน\" และ \"พวกสิบเอ็ดคน\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/thief.txt b/01/thief.txt new file mode 100644 index 00000000..afdf9d56 --- /dev/null +++ b/01/thief.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ขโมย, พวกขโมย, โจร", + "body": "คำว่า \"ขโมย\" หรือ \"พวกขโมย\" อ้างถึงคนที่ขโมยเงินหรือทรัพย์สินจากคนอื่น คำว่า \"ขโมย\" บ่อยครั้งจะอ้างถึงโจรผู้ทำร้ายร่างกายหรือคุกคามประชาชนที่พวกเขากำลังปล้นด้วย\n\n* พระเยซูได้ทรงเล่าคำอุปมาเรื่องผู้ชายชาวสะมาเรียผู้ได้ดูแลผู้ชายที่ถูกจู่โจมโดยโจร พวกโจรได้ทุบตีผู้ชายและทำร้ายเขาจนเกิดบาดแผลก่อนที่จะขโมยเงินและเสื้อผ้าของเขาไป\n* พวกโจรและพวกขโมยมาทันทีทันใดเพื่อลักขโมย เมื่อประชาชนไม่ได้คาดหวัง บ่อยครั้งพวกเขาใช้ความมืดซ่อนตัวขณะที่พวกเขากำลังทำอะไรอยู่\n* ในภาพเชิงเปรียบเทียบ พันธสัญญาเใหม่อธิบายถึงซาตานว่าเป็นเหมือนโจรที่จะมาขโมย ฆ่า และทำลาย นี่หมายความว่าแผนงานของซาตานคือพยายามที่จะเทำให้ประชากรของพระเจ้าหยุดเชื่อพระเจ้า ขโมยสิ่งดีที่พระเจ้าได้วางแผนสำหรับพวกเขาให้ได้มีประสบการณ์\n* พระเยซูทรงเปรียบเทียบการเสด็จกลับมาแบบกระทันหันเช่นเดียวกับการที่โจรมาขโมยเงินจากประชาชน เช่นเดียวกับที่โจรมาในเวลาเมื่อประชาชนไม่คาดหวัง ดังนั้นพระเยซูจะเสด็จมาในเวลาที่ประชาชนไม่คาดคิด\n\n-" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/thomas.txt b/01/thomas.txt new file mode 100644 index 00000000..4bbb90c7 --- /dev/null +++ b/01/thomas.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "โธมัส", + "body": "โธมัสเป็นหนึ่งในสิบสองคนที่พระเยซูทรงเลือกให้เป็นสาวกของพระองค์ และต่อมาคือ อัครสาวกเขาเป็นที่รู้จักกันในฐานะ \"ดิไดมัส\" ซึ่งแปลว่า \"ฝาแฝด\"\n\n* ใกล้จะถึงช่วงสุดท้ายของชีวิตของพระเยซู พระองค์ทรงบอกพวกสาวกของพระองค์ว่าพระองค์กำลังจะจากไปอยู่กับพระบิดาและไปจัดเตรียมที่สำหรับพวกเขาเพื่ออยู่กับพระองค์ โธมัสได้ถทูลถามพระเยซูว่าพวกเขาจะรู้ได้รู้จักทางไปถึงที่นั่นเมื่อพวกเขาไม่รู้ว่าพระองค์จะไปที่ไหน\n* ภายหลังพระเยซูทรงเสด็จสวรรคตและฟื้นคืนพระชนม์ โธมัสได้กล่าวว่าเขาจะไม่เชื่อว่าพระเยซูทรงมีชีวิตอีกจนกว่าเขาจะได้เห็นและสัมผัสกับรอยแผลที่พระเยซูได้ทรงได้รับบาดเจ็บ\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/thorn.txt b/01/thorn.txt new file mode 100644 index 00000000..3af6398a --- /dev/null +++ b/01/thorn.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "หนาม, ต้นไม้หนาม", + "body": "พุ่มไม้หนามและต้นไม้หนามเป็นต้นพืชที่มีกิ่งก้านสาขาหรือดอกไม้ที่เป็นหนาม พืชเหล่านี้ไม่ได้ผลิตผลหรือสิ่งอื่นที่เป็นประโยชน์\n\n* \"หนาม\" เป็นสิ่งแข็ง คม ที่เกิดบนกิ่งหรือต้นของต้นไม้ \"พุ่มหนาม\" เป็นต้นไม้ขนาดเล็กชนิดหนึ่งหรือไม้พุ่มที่มีหนามจำนวนมากตามกิ่งก้านของมัน\n* \"พืชหนาม\" เป็นพืชที่ลำต้นและใบเต็มไปด้วยหนาม ดอกมักเป็นสีม่วง\n* หนามและต้นหนามเป็นพืชที่เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว และเป็นเหตุไม่สามารถให้พืชพันธ์ุอื่น ๆ เจริญเติบโตได้ นี่เป็นภาพที่แสดงให้เห็นว่าบาปจะปิดกั้นบุคคลจากการเกิดเกิดผลทางจิตวิญญาณที่ดี\n* มงกุฎที่ทำจากหนามแหลมบิดป็นเกลียวที่สวมลงบนพระเศียรของพระเยซูก่อนที่พระองค์จะถูกตรึงบนไม้กางเขน\n* ถ้าเป็นไปได้ คำเหล่านี้ควรแปลโดยชื่อของพืชสองชนิด หรือพุ่มไม้ที่เป็นที่รู้จักในภาษาของท้องที่" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/thresh.txt b/01/thresh.txt new file mode 100644 index 00000000..cab0569a --- /dev/null +++ b/01/thresh.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "นวดข้าว, การนวดข้าว", + "body": "คำว่า \"นวดข้าว\" และ \"การนวดข้าว\" อ้างถึงส่วนที่หนึ่งของกระบวนการแยกเมล็ดข้าวสาลีออกจากส่วนที่เหลือของพืชข้าวสาลี\n\n* การนวดต้นข้าวสาลีให้เมล็ดข้าวแยกจากฟางและแกลบ หลังจากนั้น เมล็ดข้าวก็จะ \"ถูกนวดข้าว\" เพื่อแยกเมล็ดข้าวจากสิ่งที่ไม่ต้องการ เหลือไว้เพียงแต่เมล็ดข้าวที่สามารถรับประทานได้\n* ในสมัยพระคัมภีร์ \"ลานนวดข้าว\" เป็นพื้นที่ที่เป็นหินราบใหญ่หรือทาด้วยโคลนเพื่อให้พื้นแข็งเพื่อบดเมล็ดข้าวให้หลุดจากต้นข้าว\n* \"เกวียนนวดข้าว\" หรือ \"ล้อนวดข้าว\" บางครั้งใช้เพื่อบดเมล็ดข้าวและช่วยแยกมันออกจากฟางและแกลบ\n* \"ล้อเลื่อนนวดข้าว\" หรือ \"กระดานนวด\"ใช้เพื่อแยกเมล็ดข้าวออก เครื่องนี้ทำจากไม้กระดานที่มีโลหะแหลมที่ปลาย" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/threshold.txt b/01/threshold.txt new file mode 100644 index 00000000..1fc056de --- /dev/null +++ b/01/threshold.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ธรณีประตู", + "body": "คำว่า \"ธรณีประตู\" อ้างถึง ส่วนล่างของประตูทางเข้า หรือส่วนหนึ่งของอาคารที่อยู่ข้างในประตู\n\n* บางครั้งธรณีประตูเป็นไม้ท่อนหรือหินที่จะต้องเดินข้ามเพื่อจะเข้าห้องหรือเข้าอาคาร\n* ทั้งประตูและทางเปิดเข้าเต็นท์สามารถจะมีธรณีประตู\n* คำนี้ควรแปลด้วยคำในโครงการแปล ที่อ้างถึงสถานที่ที่จะเข้าบ้านที่บุคคลก้าวข้าม\n* ถ้าไม่มีคำนี้ \"ธรณีประตู\" สามารถแปลว่า \"ทางเข้าประตู\" หรือ \"การเปิด\" หรือ \"ทางเข้า\" แล้วแต่บริบท\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/throne.txt b/01/throne.txt new file mode 100644 index 00000000..691fa424 --- /dev/null +++ b/01/throne.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "บัลลังก์", + "body": "บัลลังก์เป็นเก้าอี้ที่ได้รับการออกแบบพิเศษที่พระมหากษัตริย์ประทับอยู่เพื่อตัดสินเรื่องสำคัญและสดับฟังคำร้องจากประชาชนของพระองค์\n\n* บัลลังก์ เป็นสัญญลักณ์ของอำนาจสิทธิ์ขาดและอำนาจที่กษัตริย์ทรงมี\n* คำว่า \"บัลลังก์\" มักใช้เป็นภาพเปรียบเทียบเพื่ออ้างถึงกษัตริย์ รัชกาลของพระองค์ หรือราชอำนาจของพระองค์ (ดู : [metonymy](https://git.door43.org/Door43/en-ta-translate-vol2/src/master/content/figs_metonymy.md))\n* ในพระคัมภีร์ พระเจ้ามักจะมีภาพว่าเป็นกษัตริย์ผู้ประทับบนพระที่นั่งของพระองค์ พระเยซูได้รับการอธิบายว่าประทับอยู่บนบัลลังก์ข้างขวาพระหัตถ์ของพระเจ้าพระบิดา\n* พระเยซูตรัสว่าสวรรค์คือบัลลังก์ของพระเจ้า วิธีหนึ่งที่แปลคำนี้สามารถแปลว่า \"ในสถานที่ที่พระเจ้าทรงปกครองอย่างเช่นกษัตริย์\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/time.txt b/01/time.txt new file mode 100644 index 00000000..da9a56f8 --- /dev/null +++ b/01/time.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เวลา", + "body": "ในพระคัมภีร์ คำว่า \"เวลา\" มักใช้เป็นสัญลักษณ์ในการอ้างอิงถึงฤดูกาลหรือช่วงเวลาเฉพาะเจาะจงที่เหตุการณ์ต่างๆ ได้เกิดขึ้น มีความหมายคล้ายกับ \"สมัย\" หรือ \"ยุค\" หรือ \"ฤดู\"\n\n* ทั้งพระธรรมดาเนียลและพระธรรมวิวรณ์พูดถึง \"เวลา\" ที่มีความทุกข์ยิ่งหรือความยากลำบากยิ่งที่จะเกิดขึ้นบนแผ่นดินโลก\n* ในวลี \"เวลา หลายเวลา และครึ่งเวลา\" คำว่า \"เวลา\" หมายถึง \"ปี\" วลีนี้หมายถึงระยะเวลาสามปีครึ่งในช่วงความทุกข์ทรมานอันยิ่งใหญ่เมื่อสิ้นยุคปัจจุบันนี้\n* วลีเช่น \"เวลาครั้งที่สอง\" หรือ \"หลาย ๆ เวลา\" หมายถึงจำนวนครั้งที่มีเหตุการณ์บางอย่างได้เกิดขึ้น\n* การ \"ทันเวลา\" หมายถึงการมาถึงตามคาดหวังและไม่ล่าช้า\n* ขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า \"เวลา\" สามารถจะแปลว่า \"ฤดู\" หรือ \"ช่วงแห่งเวลา\" หรือ \"ช่วงเวลา\" หรือ \"เหตุการณ์\" หรือ \"สิ่งที่ได้ปรากฏ\"\n* วลีที่ว่า \"เวลาและฤดูกาล\" เป็นคำกล่าวเชิงเปรียบเทียบ ซึ่งบอกถึง ความคิดเดียวกันสองครั้ง นี้สามารถแปลว่า \"เหตุการณ์เฉพาะที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาเฉพาะ\" (ดู : [doupblet](https://git.door43.org/Door43/en-ta-translate-vol2/src/master/content/figs_doublet.md))\n\n\n\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/timothy.txt b/01/timothy.txt new file mode 100644 index 00000000..f696bf82 --- /dev/null +++ b/01/timothy.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ทิโมธี", + "body": "ทิโมธีเป็นชายหนุ่มจากลิสตราที่ได้กลายเป็นผู้ศรัทธาในพระคริสต์อันเป็นผลมาจากการพั้นธกิจของเปาโลในเมืองของเขา หลังจากนั้นเขาได้เข้าร่วมกับเปาโลในการเดินทางร่วมพันธกิจหลายครั้งและช่วยฟูมฟักหลายชุมชนของผู้เชื่อใหม่\n\n* บิดาของทิโมธีเป็นชาวกรีก แต่ทั้งยาย ลูอิสและแม่ยูนิซของเขาเป็นชาวยิวและผู้เชื่อในพระคริสต์ \n* ผู้อาวุโสทั้งหลายและเปาโลได้แต่งตั้งทิโมธีอย่างเป็นทางการให้โดยการวางมือลงบนเขาและอธิษฐานเพื่อเขา\n* หนังสือสองเล่มในพันธสัญญาใหม่ (I ทิโมธีและ 2 ทิโมธี) เป็นจดหมายที่เขียนขึ้นโดยเปาโลให้คำแนะนำแก่ทิโมธีในฐานะผู้นำที่หนุ่มแน่นของคริสตจักรท้องถิ่นหลายแห่ง" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/tirzah.txt b/01/tirzah.txt new file mode 100644 index 00000000..5c7705f3 --- /dev/null +++ b/01/tirzah.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ทิระซาห์", + "body": "ทิระซาห์ เป็นเมืองของชาวคานาอันที่สำคัญเมืองหนึ่งที่อิสราเอลมีชัยชนะเหนือเมืองนี้ ได้ชื่อมารจากบุตรสาวของกิเลอาด เชื้อสายของมนัสเสห์\n\n* เมืองทีระซาห์ ตั้งอยู่ในแคว้นที่ครอบครองโดยเผ่ามนัสเสห์ คิดกันว่าเมืองนี้อยู่ห่าง 10 ไมล์ไปทางเหนือของเมืองเชเคม\n* หลายปีต่อมา ทิระซาห์ได้กลายเป็นเมืองหลวงชั่วคราวของอาณาจักรอิสราเอลทางเหนือ สมัยการปกครองของกษัตริย์สี่พระองค์ของอิสราเอล\n* ทิระซาห์ ยังเป็นชื่อของหลานสาวคนโตของมนัสเสห์คนหนึ่งที่ขอแบ่งส่วนหนึ่งของแผ่นดิน เนื่องจากพวกเขาไม่มีพี่น้องที่เป็นผู้ชายที่จะได้รับมรดกตามประเพณี" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/titus.txt b/01/titus.txt new file mode 100644 index 00000000..5178eb03 --- /dev/null +++ b/01/titus.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ทิตัส", + "body": "ทิตัสเป็นเป็นชาวต่างชาติที่ได้กลายเป็นผู้เชื่อโดยทางพันธกิจของอัครสาวกเปาโลเขาได้รับการฝึกฝนจากอัครทูตเปาโลให้เป็นผู้นำในคริสตจักรยุคแรก\n\n* จดหมายฉบับหนึ่งของเปาโลที่เขียนถึงทิตัสเป็นพระธรรมเล่มหนึ่งในพันธสัญญาใหม่\n* ในจดหมายฉบับนี้เปาโลได้สอนทิตัสให้เป็นผู้แต่งตั้งผู้ปกครองคริสตจักรต่างๆ บนเกาะครีต\n* ในจดหมายฉบับอื่นๆ เปาโลได้กล่าวถึงทิตัสว่าเป็นบางคนที่ส่งเสริมและนำความยินดีมาให้" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/tomb.txt b/01/tomb.txt new file mode 100644 index 00000000..30ad86bd --- /dev/null +++ b/01/tomb.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ที่ฝังศพ, หลุมฝังศพ, สุสานฝังศพ", + "body": "คำว่า \"ที่ฝังศพ\" และ \"หลุมฝังศพ\" หมายถึงสถานที่ที่ผู้คนนำร่างของบุคคลที่เสียชีวิตไปฝัง \"สุสานฝังศพ\" เป็นคำทั่วไปมากกว่าที่หมายถึงที่ฝังศพนี้ด้วย\n\n* ชาวยิวบางครั้งใช้ถ้ำธรรมชาติเป็นที่ฝังศพและบางครั้งก็ขุดถ้ำไว้ในหินที่ด้านข้างของเนินเขา\nในสมัยพันธสัญญาใหม่ เป็นเรื่องปกติที่จะกลิ้งก้อนหินขนาดใหญ่หนักมากที่หน้าหลุมฝังศพที่เปิดอยู่เพื่อปิดปากอุโมงค์ฝังศพ\n* ถ้าคำพูดสำหรับที่ฝังศพหรือหลุมฝังศพสามารถอ้างถึงหลุมที่ร่างกายได้วางอยู่ใต้พื้นดินแล้ว ก็มีวิธีอื่นในการแปลอาจรวมถึง \"ถ้ำ\" หรือ \"หลุมในด้านข้างของเนินเขา\"\n* วลี \"หลุมฝังศพ\" มักใช้โดยทั่วไปและเป็นทำนองเปรียบเทียบเพื่ออ้างถึงสภาพของการตายหรือสถานที่ที่ดวงวิญญาณทั้งหลายของคนตายอยู่" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/tongue.txt b/01/tongue.txt new file mode 100644 index 00000000..713242df --- /dev/null +++ b/01/tongue.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ลิ้น", + "body": "ในพระคัมภีร์ มีความหมายที่เป็นทำนองเปรียบเทียบของ \"ลิ้น\" หลายอย่าง\n\n* ในพระคัมภีร์ความหมายเชิงเปรียบเทียบที่ใช้กันมากที่สุดสำหรับคำนี้คือ \"ภาษา\" หรือ \"คำพูด\"\n* บางครั้ง \"ลิ้น\" อาจอ้างถึงภาษามนุษย์ที่พูดกันโดยเฉพาะกลุ่มที่แน่นอน\n* บางครั้งคำนี้อาจอ้างถึงภาษาเหนือธรรมชาติที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ประทานให้แก่ผู้เชื่อในพระเยซูเช่นเป็น \"ของประทานฝ่ายวิญญาณ\"\n* คำกล่าวว่า \"ลิ้น\" ของไฟหมายถึง \"เปลว\" ของไฟ\n* คำกล่าว \"ลิ้นของฉันชื่นชมยินดี\" คำว่า \"ลิ้น\" อ้างถึงคนทั้งตัว (ดู : [synecdoche](https://git.door43.org/Door43/en-ta-translate-vol2/src/master/content/figs_synecdoche.md))\n* วลีที่ว่า \"ลิ้นมุสา\" อ้างถึงเสียงหรือคำพูดของบุคคล (ดู : [metonymy](https://git.door43.org/Door43/en-ta-translate-vol2/src/master/content/figs_metonymy.md))\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า \"ลิ้น\" มักแปลโดย \"ภาษา\" หรือ \"ภาษาแห่งวิญญาณ\" ถ้าความหมายไม่ชัดเจนว่าได้อ้างคำไหน ก็เป็นการดีกว่าที่จะแปลว่า \"ภาษา\"\n* เมื่ออ้างถึงไฟคำนี้อาจแปลว่า \"เปลวไฟ\"\n* คำกล่าวว่า \"ลิ้นของฉันชื่นชมยินดี\" สามารถแปลว่า \"ข้าพเจ้าชื่นชมยินดีและสรรเสริญพระเจ้า\" หรือ \"ข้าพเจ้ายินดีสรรเสริญพระเจ้า\"\n* คำวลีที่ว่า \"ลิ้นที่โกหก\" อาจแปลว่า \"บุคคลที่พูดโกหก\" หรือ \"ประชาชนที่โกหก\"\n* วลีเช่น \"ด้วยลิ้นของพวกเขา\" อาจแปลว่า \"ด้วยสิ่งที่พวกเขากล่าว\" หรือ \"ด้วยคำพูดของพวกเขา\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/torment.txt b/01/torment.txt new file mode 100644 index 00000000..02b5bd39 --- /dev/null +++ b/01/torment.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ทุกข์ทรมาน", + "body": "คำว่า \"ทุกข์ทรมาน\" อ้างถึงความทุกข์ยากอย่างยิ่ง การทรมานบางคนหมายถึงการทำให้ใครบางคนต้องทนทุกข์ทรมานที่มักกระทำด้วยวิธีโหดร้าย\n\n* บางครั้งคำว่า \"ทุกข์ทรมาน\" อ้างถึงความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานทางกาย ตัวอย่างเช่นหนังสือวิวรณ์อธิบายถึงการทุกข์ทรมานทางร่างกายที่ผู้นมัสการ \"สัตว์ร้าย\" จะได้รับการทุกช์ทรมาน ในตอนสิ้นยุค\n* ความทุกข์ทรมานอาจเกิดขึ้นในรูปแบบของความทุกข์ทรมานทางจิตวิญญาณและอารมณ์อย่างที่โยบได้รับประสบการณ์\n* ตามพระธรรมวิวรณ์ คนที่ไม่เชื่อในพระเยซูเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของพวกเขาจะได้รับความทุกข์ทรมานชั่วนิรันดร์ในบึงไฟนรก\n* คำนี้สามารถแปลเป็น \"ความทุกข์แสนสาหัส\" หรือ \"ทำให้คนต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมาก\" หรือ \"ความทุกข์ทรมาน\" ผู้แปลบางคนอาจเพิ่ม \"ทางร่างกาย\" หรือ \"ทางจิตวิญญาณ\" เพื่อให้ความหมายชัดเจนยิ่งขึ้น" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/tradition.txt b/01/tradition.txt new file mode 100644 index 00000000..780785e6 --- /dev/null +++ b/01/tradition.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ประเพณี", + "body": "คำว่า \"ประเพณี\" อ้างถึงขนบธรรมเนียมและการปฏิบัติที่ได้รับการสงวนรักษากันมาตามกาลเวลาและที่ได้ส่งผ่านไปยังคนในรุ่นต่อ ๆ ไป\n\n* บ่อยครั้งในพระคัมภีร์ คำว่า \"ประเพณี\" อ้างถึงคำสอนทั้งหลายและการปฏิบัติหลายอย่างที่คนได้ถือปฏิบัติกัน แต่ไม่ใช่กฎหมายของพระเจ้า คำกล่าวว่า \"ประเพณีของคน\" หรือประเพณีของมนุษยชาติ\" ทำให้เรื่องนี้ชัดเจน\n* วลีต่างๆ เช่น \"ประเพณีของผู้อาวุโสทั้งหลาย\" หรือ \"ประเพณีของบรรพรุษของฉัน\" อ้างอิงโดยเฉพาะถึงประเพณีของชาวยิวและการปฏิบัติต่างๆ ที่ผู้นำชาวยิวได้เพิ่มเข้ามาในบทบัญญัติของพระเจ้าตามกาลเวลาโดยผ่านทางโมเสส แม้กระนั้น ประเพณีที่เพิ่มเข้ามานี้ก็ไม่ได้เป็นมาจากพระเจ้า ประชาชนคิดว่าพวกเขาต้องเชื่อฟังเพื่อจะเป็นคนชอบธรรม\n* อัครสาวกเปาโลได้ใช้คำศัพท์ \"ประเพณี\" ในหลายทางเพื่ออ้างอิงถึงการปฏิบัติของคริสเตียนที่มาจากพระเจ้าและเขาและสาวกคนอื่นๆ ก็ได้สั่งสอนผู้เชื่อใหม่\n* ในเวลาสมัยใหม่ มีประเพณีของคริสเตียนมากมายที่ไม่ได้สอนในพระคัมภีร์ แต่ก็มีผลเป็นที่ยอมรับตามประวัติศาสตร์ในประเพณีและการปฏิบัติเหล่านี้ ประเพณีเหล่านี้ควรได้รับการประเมินในแง่ที่ว่าพระเจ้าทรงสอนเราอะไรบ้างในพระคัมภีร์" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/trample.txt b/01/trample.txt new file mode 100644 index 00000000..d413dd3e --- /dev/null +++ b/01/trample.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เหยียบย่ำ", + "body": " \"เหยียบย่ำ\" หมายถึงการก้าวไปบนบางอย่างและบดด้วยเท้าสองข้าง คำนี้ใช้ให้เห็นภาพในพระคัมภีร์เพื่อหมายถึง \"การทำลาย\" หรือ \"ปราบปราม\" หรือ \"ฉีกหน้า\"\n\n* ตัวอย่างของการ \"เหยียบย่ำ\" จะเป็นอย่างเช่นคนกลุ่มใหญ่ที่วิ่งผ่านทุ่งหญ้าจะ \"เหยียบย่ำ\" หญ้าในทุ่งนาด้วยเท้าของพวกเขา\n* ในสมัยโบราณ เหล้าองุ่นทำได้โดยการเหยียบย่ำผลองุ่นเพื่อเอาน้ำผลไม้ออกมา\n* บางครั้งคำว่า \"เหยียบย่ำ\" ใช้ให้เห็นภาพความหมายของการลงโทษผู้อื่นโดยการเหยียบย่ำ เปรียบเทียบกับการเยียบย่ำโคลนเพื่อทำลานนวดข้าว\n* คำว่า \"เหยียบย่ำ\" ใช้เพื่อให้เห็นภาพเพื่อแสดงว่าพระยห์เวห์จะทรงลงโทษประชาชนของพระองค์สำหรับความหยิ่งยะโสและการกบฏอย่างไร\n* วิธีอื่นที่ \"การเยียบย่ำ\" จะสามารถแปลได้รวมถึง \"บดด้วยเท้า\" หรือกระทืบด้วยเท้่า\" หรือ \"เหยียบและบดขยี้\" หรือ \"ทำให้ป่นปี้บนพื้น\"\n* ขึ้นอยู่กับบริบท คำนี้สามารถแปลโดยไม่ต้องมีภาพเปรียบเป็นรูปร่างเช่น \"ทำลาย\" หรือปราบลง\" หรือ \"บดขยี้\" หรือ \"ทำโทษ\" หรือ\"ปราบลงอย่างสิ้นเชิง\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/trance.txt b/01/trance.txt new file mode 100644 index 00000000..8b0f279d --- /dev/null +++ b/01/trance.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ความมึนงง", + "body": "ความมึนงงเป็นภาวะของจิตใจที่บุคคลยังตื่นอยู่ แต่ไม่ตระหนักถึงสิ่งที่อยู่รอบตัวเขาเพราะเขากำลังมองเห็นและประสบกับสิ่งอื่น\n\n* ในพันธสัญญาใหม่ คำนี้อธิบายสภาวะเหนือธรรมชาติของจิตใจที่เปโตรและเปาโลได้เกิดขึ้นเมื่อพระเจ้าตรัสกับพวกเขาในนิมิต\n* ในแต่ละกรณี เปโตรและเปาโลอยู่ในภาวะที่กำลังอธิษฐานเมื่อพวกเขาได้รับสถานะความมึนงง\n* พระเจ้าทรงเป็นผู้ทำให้พวกเขาต้องมึนงง\n* คำว่า \"มึนงง\" เป็นคำที่แตกต่างจาก \"นิมิต\" หรือ \"ความฝัน\" และควรมีการแปลที่แตกต่างกัน\n* คำกล่าวที่ว่า \"ตกอยู่ในความมึนงง\" หมายถึง \"ตกอยู่ในสภาพนอนหลับทันทีทันใด \" ในขณะที่ยังตื่นอยู่" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/transgression.txt b/01/transgression.txt new file mode 100644 index 00000000..f8176515 --- /dev/null +++ b/01/transgression.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ละเมิด, การล่วงละเมิด", + "body": "คำว่า \"ละเมิด\" และ \"การล่วงละเมิด\" ฮ็ษ.ถึงการไม่ปฎิบัติตามคำสั่ง กฎหมาย หรือหลักศีลธรรม\n\n* ตามการเปรียบเทียบ \"การล่วงละเมิด\" อาจกล่าวได้ว่าเป็น \"ข้ามเส้น\" นั่นคือไปมากกว่าขีด จำกัด หรือขอบเขตที่กำหนดไว้เพื่อสิ่งดีของบุคคลและบุคคลอื่น\n* คำว่า \"ละเมิด\" \"บาป\" \"ความชั่วช้า\" และ \"ล่วงละเมิด\" ทั้งหมดนี้มีความหมายถึงการแสดงออกถึงการไม่เชื่อฟังต่อนำ้พระทัยของพระเจ้าและไม่เชื่อฟังคำสั่งของพระองค์\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n\"การละเมิด\" สามารถแปลว่า \"บาป\" หรือ \"ไม่เชื่อฟัง\" หรือ \"กบฎ\"\n* หากข้อหรือข้อความใช้คำสองคำซึ่งแปลว่า \"บาป\" หรือ \"ละเมิด\" หรือ \"ล่วงเกิน\" สิ่งสำคัญมาก ให้ใช้วิธีต่างๆในการแปลคำเหล่านี้ เมื่อพระคัมภีร์ใช้คำสองคำขึ้นไปที่มีความหมายคล้ายคลึงกันในบริบทเดียวกัน ปกติมักมีจุดประสงค์เพื่อเน้นย้ำถึงสิ่งที่กำลังถูกพูดถึงหรือแสดงความสำคัญของเรื่องนั้น" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/tremble.txt b/01/tremble.txt new file mode 100644 index 00000000..eff1255e --- /dev/null +++ b/01/tremble.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ตัวสั่น", + "body": "คำว่า \"ตัวสั่น\" หมายถึงการสั่นหรือตัวสั่นจากความกลัวหรือความทุกข์ทรมานมาก\n\n* คำนี้ถูกใช้ให้เห็นภาพที่หมายถึง \"กลัวมาก\"\n* บางครั้งคำว่า \"สั่นสะเทือน\" อ้างถึงเสียงสั่นของพื้นดินเพราะเกิดจากเสียงดังมาก\n* พระคัมภีร์กล่าวว่า ต่อพระพักตร์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า แผ่นดินโลกจะสั่นสะเทือน นั่นสามารถหมายความว่าผู้คนในแผ่นดินโลกจะสั่นกลัวพระเจ้า หรือ แผ่นดินโลกจะสั่นเอง\n* นี้สามารถแปลว่า \"กลัว\" หรือ \"เกรงกลัวพระเจ้า\" หรือ \"เขย่า\" ขึ้นอยู่กับบริบท" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/trespass.txt b/01/trespass.txt new file mode 100644 index 00000000..a3d29b14 --- /dev/null +++ b/01/trespass.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "การละเมิด", + "body": "การ \"ละเมิด\" หมายถึงการฝ่าฝืนกฎหมายหรือการละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น\n\n* การละเมิด สามารถเป็นการฝ่าฝืนจริยธรรมหรือกฎหมายแพ่งหรือความบาปที่กระทำต่อบุคคลอื่น\n* คำนี้เกี่ยวข้องกับคำว่า \"บาป\" และ \"ละเมิด\" โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวข้องกับการไม่เชื่อฟังพระเจ้า\n* บาปทุกอย่างละเมิดต่อพระเจ้า\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ขึ้นอยู่กับบริบท \"ละเมิด\" สามารถแปลว่า \"บาปต่อ\" หรือ \"เพื่อทำลายกฎ\"\n* บางภาษาอาจมีคำกล่าวเช่น \"ข้ามเส้น\" ที่สามารถใช้แปลว่า \"การละเมิด\" ได้\n* พิจารณาว่าคำนี้เหมาะสมกับความหมายของข้อความพระคัมภีร์ และเปรียบเทียบกับคำอื่นที่มีความหมายคล้ายกันเช่น \"ละเมิด\" และ \"บาป\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/trial.txt b/01/trial.txt new file mode 100644 index 00000000..0e34784e --- /dev/null +++ b/01/trial.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "การทดลอง", + "body": "คำว่า \"การทดลอง\" อ้างถึงสถานการณ์ที่บางอย่างหรือบางคนถูก\"ทดลอง\" หรือทดสอบ \n\n* การทดลองสามารถเป็นการพิจารณาคดีในศาลซึ่งมีการส่งหลักฐานให้พิสูจน์ว่าบุคคลปรศจากความผิดหรือกระทำความผิด\n* คำว่า \"การทดลอง\" ยังอ้างถึงสถานการณ์ที่ยากลำบากที่บุคคลจะผ่านไปเช่นเดียวกับที่พระเจ้าทดสอบความเชื่อของพวกเขา คำอื่น ๆ สำหรับเรื่องนี้คือ \"การทดสอบ\" หรือ \n\"การทดลอง\"\n* หลายคนในพระคัมภีร์ได้รับการทดสอบเพื่อดูว่าพวกเขายังคงเชื่อและเชื่อฟังพระเจ้าต่อไปหรือไม่ พวกเขาต้องผ่านการทดลองซึ่งรวมถึงการถูกเฆี่ยนตี การถูกจำคุก หรือแม้ถูกฆ่าตายเพราะความเชื่อของพวกเขา" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/tribe.txt b/01/tribe.txt new file mode 100644 index 00000000..1a17daed --- /dev/null +++ b/01/tribe.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เผ่่า", + "body": "เผ่าเป็นกลุ่มคนที่สืบเชื้อสายมาจากบรรพบุรุษร่วมกัน\n\n* ผู้คนจากชนเผ่าเดียวกันมักใช้ภาษาและวัฒนธรรมร่วมกัน\n* ในพันธสัญญาเดิมพระเจ้าได้ทรงแบ่งชนชาติอิสราเอลออกเป็นสิบสองเผ่า แต่ละเผ่าสืบเชื้อสายมาจากบุตรชายหรือหลานชายของยาโคบ\n* เผ่ามีขนาดเล็กกว่าประเทศ แต่ใหญ่กว่าตระกูล" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/tribulation.txt b/01/tribulation.txt new file mode 100644 index 00000000..f27eae5e --- /dev/null +++ b/01/tribulation.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ความทุกข์ทรมาน", + "body": "คำว่า \"ความทุกข์ทรมาน\" อ้างถึงถึงเวลาที่ยากลำบาก ความทุกข์ทรมานและ ความทุกข์ลำบาก\n\n* พันธสัญญาใหม่กล่าวว่าคริสเตียนจะอดทนต่อช่วงเวลาแห่งการกดขี่ข่มเหงและความทุกข์ทรมานแบบอื่น ๆ เพราะประชาชนหลายคนในโลกนี้ต่อต้านคำสอนของพระเยซู\n* พระคัมภีร์ใช้คำว่า \"ความทุกข์ทรมานที่ใหญ่ยิ่ง\" เพื่ออธิบายระยะเวลาหนึ่งก่อนที่การเสด็จมาครั้งที่สองของพระเยซูเมื่อพระพิโรธของพระเจ้าจะถูกเทลงบนพื้นโลกเป็นเวลาหลายปี\n* คำว่า \"ความยากทรมาน\" สามารถแปลว่า \"ช่วงเวลาแห่งความทุกข์ทรมาน\" หรือ \"ความทุกข์ทรมาน\" หรือ \"ปัญหาร้ายแรง\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/tribute.txt b/01/tribute.txt new file mode 100644 index 00000000..6ba58fee --- /dev/null +++ b/01/tribute.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เครื่องบรรณาการ", + "body": "คำว่า \"เครื่องบรรณาการ\" อ้างถึงของขวัญจากผู้ปกครองคนหนึ่งไปยังอีกผู้ปกครองอีกคนหนึ่งเพื่อประโยชน์ในการป้องกันและความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศของพวกเขา\n\n* เครื่องบรรณาการ สามารถเป็นการชำระเงินที่ผู้ปกครองหรือรัฐบาลต้องการจากประชาชน เช่นค่าผ่านทางหรือภาษี\n* ในพระคัมภีร์ การเดินทางกษัตริย์หรือผู้ปกครองอาจจ่ายเครื่องบรรณาการให้กษัตริย์ของภูมิภาคที่พวกเขากำลังเดินทางผ่านเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะได้รับการคุ้มครองและปลอดภัย\n* บ่อยครั้งบรรณาการมักจะรวมถึงสิ่งอื่น ๆ นอกเหนือจากเงินเช่นอาหาร, เครื่องเทศ, เสื้อผ้าที่หรูหรา และโลหะมีราคาแพงเช่นทอง\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ขึ้นอยู่กับบริบท \"เครื่องบรรณาการ\" สามารถแปลเป็น \"ของขวัญอย่างเป็นทางการ\" หรือ \"ภาษีพิเศษ\" หรือ \"การชำระเงินตามที่เรียกร้อง\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/troas.txt b/01/troas.txt new file mode 100644 index 00000000..11eb4084 --- /dev/null +++ b/01/troas.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เมืองโตรอัส", + "body": "เมืองโตรอัสเป็นเมืองท่าที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัดโรมันโบราณของเอเชีย\n\n* เปาโลได้ไปเยี่ยมเมืองโตรอัสอย่างน้อยสามครั้งในระหว่างการเดินทางไปยังแถบที่ต่างกันเพื่อเทศนาพระกิตติคุณ\n* มีอยู่ครั้งหนึ่งในเมืองโตรอัส เปาโลได้เทศนาอย่างยาวนานไปจนถึงเวลากลางคืนและชายหนุ่มคนหนึ่งชื่อยูทีคัส ได้หลับไป เพราะเขานั่งฟัง เพราะว่าเขาได้นั่งอยู่ในหน้าต่างที่เปิดอยู่ ยูทีคัสได้ตกลงมาจากที่สูงและเสียชีวิต ด้วยฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า เปาโลได้ชุขชีวิตให้ชายหนุ่มคนนี้กลับมาอีกครั้ง\n* เมื่อเปาโลอยู่ในกรุงโรมเขาได้ขอทิโมธีนำม้วนหนังสือของเขาและเสื้อคลุมของเขาที่เขาทิ้งไว้ในเมืองโตรอัสมาด้วย" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/trouble.txt b/01/trouble.txt new file mode 100644 index 00000000..b1aa8f6e --- /dev/null +++ b/01/trouble.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ปัญหา, หลายปัญหา, เป็นทุกข์", + "body": "คำว่า \"ปัญหา\" หมายถึงประสบการณ์ในชีวิตที่ยากลำบากและน่าวิตก การ \"เป็นทุกข์\" หมายถึงการรู้สึกผิดหวังหรือมีความทุกข์กับบางสิ่งบางอย่าง\n\n* เป็นปัญหา สามารถเป็นด้านร่างกาย ด้านอารมณ์ หรือด้านจิตที่ทำร้ายบุคคล\n* ในคัมภีร์ บ่อยครั้งปัญหาต่างๆ มักเป็นช่วงเวลาของการทดสอบที่พระเจ้าทรงใช้เพื่อช่วยให้บรรดาผู้ศรัทธามีวุฒิภาวะและเติบโตในความเชื่อของพวกเขา\n* ในพันธสัญญาเดิมกล่าวถึง \"ปัญหา\" อ้างถึงการพิพากษาที่มาถึงประเทศที่ผิดศีลธรรมและปฏิเสธพระเจ้าด้วยเช่นกัน\n* การกระทำ \"ทำให้เกิดปัญหา\" แก่ใครบางคนหมายถึง \"รบกวน\" บุคคลนั้นหรือทำให้เขาทุกข์ใจ\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\nคำว่า \"ปัญหา\" หรือ \"ปัญหาต่าง ๆ\" สามารถแปลว่า \"อันตราย\" หรือ \"สิ่งที่เจ็บปวดที่เกิดขึ้น\" หรือ \"การข่มเหง\" หรือ \"ประสบการณ์ที่ยากลำบาก\" หรือ \"ความทุกข์ใจ\"\n* คำว่า \"เป็นทุกข์\" อาจแปลด้วยคำหรือวลีที่มีความหมายว่า \"กำลังทุกข์ใจ\" หรือ \"รู้สึกหงุดหงิด\" หรือ \"กังวล\" หรือ \"กังวล\" หรือ \"ทุกข์\" หรือ \"หวาดกลัว\" หรือ \"ถูกรบกวน\"\n* \"อย่าทำให้เธอลำบาก\" สามารถแปลว่า \"อย่ารบกวนเธอ\" หรือ \"อย่าวิจารณ์เธอ\"\n* วลีว่า \"วันแห่งความยุ่งยาก\" หรือ \"เวลาแห่งความยุ่งยาก\" สามารถแปลว่า \"เมื่อท่านประสบกับความทุกข์\" หรือ \"เมื่อสิ่งที่ยากลำบากเกิดขึ้นกับท่าน\" หรือ \"เมื่อพระเจ้าสร้างความทุกข์ยากให้เกิดขึ้น\"\n* วิธีการแปล \"สร้างปัญหา\" หรือ \"ทำให้เกิดปัญหา\" สามารถรวมถึง \"ทำให้เกิดสิ่งที่น่าวิตกเกิดขึ้น\" หรือ \"ทำให้เกิดปัญหาต่างๆ \" หรือ \"ทำให้พวกเขาได้มีประสบการณ์กับสิ่งที่ยากลำบาก\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/true.txt b/01/true.txt new file mode 100644 index 00000000..73776f3b --- /dev/null +++ b/01/true.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "จริง, ความจริง, กลายเป็นจริง", + "body": "คำว่า \"จริง\" และ \"ความจริง\" อ้างถึงแนวคิดที่เป็นข้อเท็จจริงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงและข้อความที่ได้พูดจริง\n\n* สิ่งที่จริง เป็นจริง แท้จริง ถูกต้อง ถูกกฎหมาย ตามข้อเท็จจริง\n* ความจริงคือความเข้าใจ ความเชื่อ ความจริงหรือข้อความที่เป็นความจริง\n* ข้อความว่า \"เป็นจริง\" หรือ \"ได้เป็นจริง\" เป็นสำนวนซึ่งหมายความว่าคำทำนายเกิดขึ้นจริงตามที่คาดการณ์ไว้\n* ความจริงรวมถึงแนวคิดการแสดงในแบบที่เชื่อถือได้และซื่อสัตย์\n* พระเยซูคริสต์ได้ทรงสำแดงความจริงของพระเจ้าในคำพูดที่พระองค์ได้ตรัสแล้ว\n* พระคำของพระเจ้าคือความจริง ซึ่งบอกเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงและสอนสิ่งที่เป็นจริงเกี่ยวกับพระเจ้าและเกี่ยวกับทุกสิ่งที่พระองค์ได้ทรงกระทำ\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ขึ้นอยู่่กับบริบทและสิ่งที่ได้รับกล่าวถึง คำว่า \"จริง\" อาจแปลโดย \"จริง\" หรือ \"ความเป็นจริง\" หรือ \"ถูกต้อง\" หรือ \"ถูกต้อง\" หรือ \"แน่นอน\" หรือ \"ของแท้\" \n* วิธีเพื่อแปลคำว่า \"ความจริง\" สามาถรวมถึง \"สิ่งที่เป็นความจริง\" หรือ \"ความเป็นจริง\" หรือ \"ความแน่นอน\" หรือ \"หลักการ\"\n* ตำกล่าวว่า \"เป็นจริง\" สามารถแปลว่า \"เกิดขึ้นจริง\" หรือ \"สำเร็จ\" หรือ \"เกิดขึ้นตามที่คาดการณ์ไว้\"\n* คำกล่าวที่ว่า \"บอกความจริง\" หรือ \"พูดความจริง\" สามารถแปลว่า \"พูดในสิ่งที่เป็นความจริง\" หรือ \"บอกสิ่งที่เกิดขึ้นจริง\" หรือ \"พูดในสิ่งที่เชื่อถือได้\"\n* \"ยอมรับความจริง\" สามารถแปลว่า \"เชื่อในสิ่งที่เป็นความจริงเกี่ยวกับพระเจ้า\"\n* ในคำกล่าวเช่น \"นมัสการพระเจ้าด้วยจิตวิญญาณและความจริง\" คำกล่าว \"ในความจริง\" สามารถแปลโดย \"เชื่อฟังอย่างซื่อสัตย์ในสิ่งที่พระเจ้าได้ทรงสอนเราแล้ว\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/trumpet.txt b/01/trumpet.txt new file mode 100644 index 00000000..c7ed1c60 --- /dev/null +++ b/01/trumpet.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": " แตร", + "body": "คำว่า \"แตร\" อ้างถึงเครื่องมือในการบรรเลงดนตรีหรือเรียกคนมาชุมนุมกันเพื่อประกาศหรือการประชุม\n\n*แตรโดยทั่วไปทำจากโลหะ เปลือกหอย หรือเขาสัตว์\n* แตรได้ถูกเป่ามากที่สุดเพื่อเรียกคนมารวมกันเพื่อสู้รบและเพื่อการชุมนุมสาธารณะของอิสราเอล\n* พระธรรมวิวรณ์อธิบายถึงฉากในตอนจบที่ทูตสวรรค์เป่าแตรของพวกเขาเพื่อส่งสัญญาณการเทพระพิโรธของพระเจ้าบนแผ่นดินโลก" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/trust.txt b/01/trust.txt new file mode 100644 index 00000000..f5aee0e3 --- /dev/null +++ b/01/trust.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ไว้วางใจ, เชื่อถือได้, ความน่าเชื่อถือ", + "body": "คำว่า \"ไว้วางใจ\" อ้างถึงการเชื่อว่าบางสิ่งบางอย่างหรือบางคนเป็นความจริงหรือเชื่อถือได้ บุคคลที่ \"น่าเชื่อถือ\" สามารถที่จะได้รับการวางใจเพื่อทำหรือกล่าวสิ่งที่ถูกต้องและเป็นความจริง\n\n* ความไว้วางใจเกี่ยวข้องใกล้ชิดกับความเชื่อ ถ้าเราไว้วางใจใครสักคนเราก็มีศรัทธาในบุคคลนั้นเพื่อทำตามที่พวกเขาสัญญาจะทำ\n* การมีความไว้วางใจบางคนหมายความว่าขึ้นอยู่กับบุคคลนั้นเช่นกัน\n* \"เชื่อมั่นใน\" พระเยซูหมายความว่าเชื่อว่าพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าและทรงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเพื่อชำระบาปของเราและพึ่งพาพระองค์เพื่อช่วยเราให้รอด\n* \"คำพูดที่น่าเชื่อถือ\" อ้างถึงบางสิ่งบางอย่างที่ได้กล่าวได้ว่าสามารถนับได้ว่าเป็นความจริง\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* วิธีการแปลคำว่า \"ไว้วางใจ\" สามารถรวมถึง \"เชื่อ\" หรือ \"มีศรัทธา\" หรือ \"มีความเชื่อมั่น\" หรือ \"ขึ้นอยู่กับ\"\n* วลีที่ว่า \"ท่านไว้วางใจใน\" มีความคล้ายคลึงกันมากในความหมายของ \"ไว้วางใจ\"\n* คำว่า \"เชื่อถือได้\" สามารถแปลเป็น \"วางใจได้\" หรือ \"น่าไว้วางใจ\" หรือ \"สามารถเชื่อถือได้เสมอ\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/tubal.txt b/01/tubal.txt new file mode 100644 index 00000000..718e8e38 --- /dev/null +++ b/01/tubal.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ทูบาล", + "body": "มีผู้ชายหลายคนในพันธสัญญาเดิมที่มีชื่อว่า \"ทูบาล\"\n\n* ผู้ชายที่ชื่อว่าทูบาลคนหนึ่งเป็นบุตรชายของยาเฟท\n* ผู้ชายที่ชื่อว่า \"ทูบาล-คาอิน\" เป็นบุตรชายของลาเมค และเป็นผู้สืบเชื้อสายของคาอิน\n* ทูบาลเป็นชื่อของประชาชนกลุ่มหนึ่งที่ได้รับการกล่าวถึงโดยผู้เผยพระวจนะอิสยาห์และเอเศเคียล" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/tunic.txt b/01/tunic.txt new file mode 100644 index 00000000..1c48ebf9 --- /dev/null +++ b/01/tunic.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เสื้อคลุมชั้นใน", + "body": "ในพระคัมภีร์ คำว่า \"เสื้อคลุมชั้นใน\" อ้างถึงเสื้อที่สวมแนบกับผิวหนัง ภายใต้เสื้ออื่น\n\n* เสื้อคลุมชั้นในนับจากไหล่ทั้งสองข้างลงไปถึงเอวหรือหัวเข่าและปกติคาดด้วยเข็มขัด เสื้อคลุมชั้นในจะสวมโดยคนที่มีฐานะมั่งคั่ง บางครั้งจะมีแขนเสื้อและยาวไปจนถึงข้อเท้า\n* เสื้อคลุมชั้นในทำด้วยหนังสัตว์ ขนสัตว์ ผ้าขนสัตว์ หรือผ้าป่าน ใช้สวมได้ทั้งชายและผู้หญิง\n* เสื้อคลุมชั้นใน ปกติจะสวมภายใต้เสื้อคลุมยาวชั้นนอก เช่นเสื้อพวกโรมันหรือเสื้อคลุม ในอากาศที่อบอ้าว เสื้อคลุมชั้นในจะสวมโดยไม่สวมเสื้อคลุมด้านนอก\n* คำนี้สามารถแปลว่า \"เสื้อเชิ้ตยาว\" หรือเสื้อคลุมยาว\" หรือ \"เสื้อเชิ้ตเหมือนเสื้อคลุม\" นี่สามารถเขียนในวิธีคล้ายกับคำว่า \"เสื้อคลุมชั้นใน\" พร้อมด้วยคำอธิบายว่าเป็นเครื่องแต่งตัวชนิดไหน" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/turn.txt b/01/turn.txt new file mode 100644 index 00000000..2fa561ac --- /dev/null +++ b/01/turn.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "หัน, หันหนี, หันกลับมา", + "body": "การ \"หัน\" หมายถึงการเปลี่ยนทิศทางทางกายภาพหรือทำให้เกิดสิ่งอื่นเพื่อเปลี่ยนทิศทาง\n\n* คำว่า \"หัน\" สามารถหมายถึง \"หันไปรอบๆ\" เพื่อมองข้างหลังหรือหันหน้าไปทิศสทางที่ต่างไป\n* การ \"หันกลับ\"หรือ \"หนีไป\" หมายความว่า \"กลับไป\" หรือ \"จากไป\" หรือ \"ทำให้บางคนหนีไป\"\n* \"หันไปจาก\" สามารถหมายถึง \"หยุด\" ทำอะไรบางอย่างหรือเพื่อปฏิเสธบางคน\n* การ \"หันไปทาง\" บุคคลใด ๆ หมายถึงการมองตรงไปยังบุคคลนั้น\n* การ \"หันและออกจาก\" หรือ \"หันหลังออกไป\" หมายถึง \"ออกไป\"\n* เพื่อ \"หันกลับมา\" หมายถึง \"เริ่มทำบางสิ่งอีกครั้งหนึ่ง\"\n\"หันเหไปจาก\" หมายถึง \"หยุดทำอะไรบางอย่าง\"\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ขึ้นอยู่กับบริบท \"หัน\" สามารถแปลเป็น \"เปลี่ยนแปลงทิศทาง\" หรือ \"ไป\" หรือ \"ย้าย\"\n* ในบางบริบท \"หัน\" สามารถแปลว่า \"เป็นเหตุ\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/tychicus.txt b/01/tychicus.txt new file mode 100644 index 00000000..65a20dbe --- /dev/null +++ b/01/tychicus.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ทีคิกัส", + "body": "ทีคิกัส เป็นคนหนึ่งในเพื่อนผู้รับใช้พระกิตติคุณของเปาโล\n\n* ทีคิกัส ร่วมกับเปาโลอย่างน้อยหนึ่งครั้งในการเดินทางไปประกาศเผยแพร่ของเขาไปยังเอเชีย\n* เปาโลได้อธิบายถึงเขา ว่า \"ผู้ที่เป็นที่รัก\" และ \"ผู้ที่ซื่อสัตย์\"\n* ทีคิกัส ได้นำจดหมายของเปาโลไปยังเมืองเอเฟซัสและเมือง โคโลสี" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/tyre.txt b/01/tyre.txt new file mode 100644 index 00000000..03dd4649 --- /dev/null +++ b/01/tyre.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เมืองไทระ, คนไทระ", + "body": "เมืองไทระเป็นเมืองเก่าแก่ของชาวคานาอันอยู่บนชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งในขณะนี้ก็คือส่วนหนึ่งของประเทศเลบานอนสมัยปัจจุบัน ประชาชนของประเทศนี้เรียกว่า \"คนไทระ\"\n\n* ส่วนหนึ่งของเมืองไทระตั้งอยู่บนเกาะในทะเลด้วย ประมาณหนึ่งกิโลเมตรจากชายฝั่ง\n* ด้วยทำเลที่ตั้งและทรัพยากรธรรมชาติที่มีค่าต่างๆ เช่นต้นสีดาร์ เมืองไทระจึงมีอุตสาหกรรมการค้าที่มั่งคั่งและร่ำรวยมาก\n* กษัตริย์ฮีรามแห่งไทระได้ส่งไม้สีดาร์และคนงานที่ชำนาญไปก่อสร้างพระราชวังของกษัตริย์ดาวิด\n* หลายปีต่อมา ฮีรามได้มอบไม้ให้กษัตริย์ซาโลมอนและคนงานที่ชำนาญงานเพื่อก่อสร้างพระวิหาร ซาโลมอนได้จ่ายให้เขาด้วยข้าวสาลีและน้ำมันมะกอกจำนวนมาก\n* เมืองไทระมักจะเกี่ยวข้องกับเมืองไซดอนโบราณ ที่อยู่ใกล้เคียงกัน สองเมืองนี้เป็นเมืองที่สำคัญในบริเวณคานาอัน ที่เรียกว่าโฟนีเซีย" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/unbeliever.txt b/01/unbeliever.txt new file mode 100644 index 00000000..a73f7399 --- /dev/null +++ b/01/unbeliever.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ผู้ไม่เชื่อ, ไม่เชื่อ", + "body": "คำว่า \"ไม่เชื่อ\" หมายถึงการไม่เชื่อสิ่งใดหรือบุคคลใด\n\n* ในพระคัมภีร์ \"ไม่เชื่อ\" อ้างถึงการไม่เชื่อหรือไม่วางใจในพระเยซูว่า พระองค์เป็นพระผู้ช่วยให้รอดของคนนั้น\n* บุคคลที่ไม่เชื่อในพระเยซูเรียกว่า \"ผู้ไม่เชื่อ\"\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n*อีกวิธีในการแปล \"ไม่เชื่อ\" อาจรวมถึงการ \"ขาดศรัทธา\" หรือ \"ไม่เชื่อฟัง\"\n* คำว่า \"ผู้ไม่เชื่อ\" สามารถแปลว่า \"บุคคลที่ไม่เชื่อในพระเยซูคริสต์\" หรือ \"บางคนผู้ซึ่งไม่เชื่อในพระเยซูคริสต์ว่าเป็นพระผู้ช่วยให้รอด\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/uncircumcised.txt b/01/uncircumcised.txt new file mode 100644 index 00000000..cd1fc9ea --- /dev/null +++ b/01/uncircumcised.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ไม่เข้าสุหนัต, ไม่เข้าพิธีสุหนัต", + "body": "คำว่า \"ไม่เข้าสุหนัต\" และ \"การไม่เข้าพิธีสุหนัต\" อ้างถึงผู้ชายที่ไม่ได้รับการเข้าสุหนัตทางกายภาพ คำเหล่านี้ใช้เป็นเชิงเปรียบเทียบด้วย\n\n* อียิปต์เป็นประเทศที่ต้องเข้าพิธีสุหนัตด้วย ดังนั้นเมื่อพระเจ้าตรัสเกี่ยวกับอียิปต์ที่พ่ายแพ้โดยผู้ \"ไม่ได้เข้าสุหนัต\" พระองค์ทรงหมายถึงคนที่ชาวอียิปต์เหยียดหยามเพราะไม่ได้เข้าสุหนัต\n* พระคัมภีร์อ้างถึงคนที่มี \"หัวใจที่ไม่ได้เข้าสุหนัต\" หรือผู้ที่ \"ไม่เข้าสุหนัตในหัวใจ\" การกล่าวเชิงเปรียบเทียบนี้ว่าคนเหล่านี้ไม่ใช่คนของพระเจ้าและเป็นคนดื้อดึงไม่เชื่อฟังต่อพระองค์\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ถ้าคำว่าการเข้าสุหนัตมีการใช้หรือเป็นที่รู้จักในภาษา \"ไม่เข้าสุหนัต\" อาจแปลว่า \"ไม่ได้เข้าสุหนัต\"\n* วลี \"การไม่เข้าสุหนัต\" อาจแปลว่า \"คนที่ไม่เข้าสุหนัต\" หรือ \"คนที่ไม่ได้เป็นของพระเจ้า\" ขึ้นอยู่กับบริบท\n* วิธีอื่นในการแปลเชิงเปรียบเทียบของคำนี้อาจรวมถึง \"ไม่ใช่คนของพระเจ้า\" หรือ \"เป็นกบฏเฉกเช่นคนที่ไม่ได้เป็นของพระเจ้า\" หรือ \"คนที่ไม่มีเครื่องหมายของการเป็นของพระเจ้า\"\n* ตำกล่าวที่ว่า \"ไม่ได้เข้าสุหนัตในหัวใจ\" สามารถแปลว่า \"กบฏดื้อดึง\" หรือ \"ปฏิเสธที่จะเชื่อ\" อย่างไรก็ตามถ้าเป็นไปได้ ทางที่ดีที่สุดควรเก็บสำนวนหรือคำที่คล้ายกันไว้เพราะการสุหนัดทางจิตวิญญาณเป็นแนวคิดที่สำคัญ" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/unclean.txt b/01/unclean.txt new file mode 100644 index 00000000..85a66caa --- /dev/null +++ b/01/unclean.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เป็นมลทิน", + "body": "ในคัมภีร์ คำว่า \"เป็นมลทิน\" ใช้เปรียบเทียบในการอ้างถึงสิ่งต่างๆ ที่พระเจ้าประกาศว่าไม่เหมาะสมสำหรับคนของพระองค์ที่จะแตะต้อง กิน หรือถวายบูชา\n\n* พระเจ้าทรงให้คำแนะนำแก่ชาวอิสราเอลว่าสัตว์ใด \"สะอาด\" และสัตว์ใด \"เป็นมลทิน\" สัตว์ที่เป็นมลทินจะไม่ได้รับอนุญาตให้นำมารับประทานหรือถวายบูชา\n* คนที่มีโรคผิวหนังบางอย่างถูกกล่าวว่า \"เป็นมลทิน\" จนกว่าพวกเขาจะได้รับการเยียวยาจนหาย\n* หากชาวอิสราเอลสัมผัสสิ่งที่ \"เป็นมลทิน\" พวกเขาเองจะถูกพิจารณาว่าเป็นมลทินเป็นระยะเวลาหนึ่ง\n* การเชื่อฟังคำสั่งของพระเจ้าเกี่ยวกับการไม่แตะต้องหรือกินสิ่งที่เป็นมลทินทำให้ชาวอิสราเอลแยกไว้เพื่อรับใช้พระเจ้าโดยเฉพาะ\n* ความมีมลทินทางร่างกายและพิธีการนี้เป็นสัญลักษณ์ของความมีมลทินทางศีลธรรมด้วย\n* ในเชิงเปรียบเทียบอีกอย่างหนึ่งที่ว่าเป็น \"วิญญาณโสโครก\" หมายถึงวิญญาณชั่วร้าย\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำว่า \"เป็นมลทิน\" สามารถแปลว่า \"ไม่สะอาด\" หรือ \"ไม่เหมาะสมในสายพระเนตรของพระเจ้า\" หรือ \"ร่างกายไม่สะอาด\" หรือ \"มลทิน\"\n* เมื่ออ้างถึงซาตานว่าเป็นผีโสโครก \"เป็นมลทิน\" อาจแปลว่า \"วิญญาณชั่ว\" หรือ \"มลทิน\"\n* การแปลคำนี้จะทำให้เกิดความไม่สะอาดทางวิญญาณ มันควรจะสามารถอ้างถึงสิ่งใดก็ได้ที่พระเจ้าทรงประกาศว่าไม่เหมาะสำหรับการสัมผัส การกินหรือการถวายบูชา" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/understand.txt b/01/understand.txt new file mode 100644 index 00000000..82c524b6 --- /dev/null +++ b/01/understand.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เข้าใจ, ความสามารถในการเข้าใจ", + "body": "คำว่า \"เข้าใจ\" หมายถึงการรับฟังหรือรับข้อมูลและรู้ว่าสิ่งนั้นมีความหมายว่าอย่างไร\n\n* คำว่า \"ความสามารถในการเข้าใจ\" สามารถหมายถึง \"ความรู้\" หรือ \"ภูมิปัญญา\" หรือตระหนักว่าจะทำอะไรบางอย่าง\n* การเข้าใจบางคนสามารถแปลว่ารู้ว่าบุคคลนั้นรู้สึกอย่างไรด้วยเช่นกัน\n* ขณะที่กำลังเดินทางไปยังเอมมาอูส พระเยซูทรงทำให้เหล่าสาวกเข้าใจถึงความหมายของพระคัมภีร์เกี่ยวกับพระเมสสิยาห์\n* ขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า \"เข้าใจ\" อาจแปลว่า \"รู้\" หรือ \"เชื่อ\" หรือ \"เข้าใจ\" หรือ \"รู้ว่า (อะไร) มีความหมายอย่างไร\"\n* บ่อยครั้งที่คำว่า \"ความเข้าใจ\" สามารถแปลว่า \"ความรู้\" หรือ \"ภูมิปัญญา\" หรือ \"ความเข้าใจเชิงลึก\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/unfaithful.txt b/01/unfaithful.txt new file mode 100644 index 00000000..ec554683 --- /dev/null +++ b/01/unfaithful.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ไม่ซื่อสัตย์, ความไม่ซื่อสัตย์", + "body": "คำว่า \"ไม่ซื่อสัตย์\" อธิบายถึงคนที่ไม่ได้ทำในสิ่งที่พระเจ้าทรงบัญชาให้ทำ เงื่อนไขหรือการปฏิบัติในการไม่ซื่อสัตย์คือ \"ความไม่ซื่อสัตย์\"\n\n* คนอิสราเอลถูกเรียกว่า \"นอกใจ\" เมื่อพวกเขาเริ่มนมัสการรูปเคารพต่างๆ และเมื่อพวกเขาไม่เชื่อฟังพระเจ้าในทางอื่น ๆ\n* ในการสมรส บางคนที่ล่วงประเวณีเป็นการ \"ไม่สัตย์ซื่อ\" กับคู่สมรสของเขาหรือเธอ\n* พระเจ้าทรงใช้คำว่า \"ความไม่ซื่อสัตย์\" อธิบายถึงพฤติกรรมที่ไม่เชื่อฟังของอิสราเอล พวกเขาไม่เชื่อฟังพระเจ้าหรือถวายพระเกียรติแด่พระองค์\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ขึ้นอยู่กับบริบท \"ไม่ซื่อสัตย์\" สามารถแปลว่า \"ไม่จงรักภักดี\" หรือ \"ไม่เชื่อ\" หรือ \"ไม่เชื่อฟัง\" หรือ \"ไม่ภักดี\"\n*วลีที่ว่า \"คนนอกใจ\" อาจแปลว่า \"คนที่ไม่ซื่อสัตย์\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/ungodly.txt b/01/ungodly.txt new file mode 100644 index 00000000..d2955717 --- /dev/null +++ b/01/ungodly.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ไม่ศรัทธาในพระเจ้า, ไม่มีพระเจ้า, ไม่เคร่งในการเคารพนับถือพระเจ้า, การไม่เชื่อพระเจ้า", + "body": "คำว่า \"ไม่ศรัทธาในพระเจ้า\" และ \" ไม่มีพระเจ้า\" อธิบายถึงผู้ที่อยู่ในกลุ่มกบฏต่อพระเจ้า การดำเนินชีวิตในทางที่ชั่วร้ายโดยปราศจากความคิดถึงพระเจ้าจะเรียกว่า \"ไม่เคร่งในการเคารพนับถือพระเจ้า\" หรือ \"การไม่เชื่อพระเจ้า\"\n\n* ความหมายของคำเหล่านี้มีความคล้ายคลึงกันมาก อย่างไรก็ตาม \"ไม่เชื่อพระเจ้า\" และ \"ความไม่เคารพนับถือพระเจ้า\" อาจอธิบายถึงสภาพสุดโต่งที่ผู้คนหรือประเทศต่างๆ ไม่ยอมรับพระเจ้าหรือสิทธิ์ของพระองค์ในการปกครองพวกเขา\n* พระเจ้าทรงประกาศการพิพากษาและพระพิโรธแก่คนไม่ศรัทธาในพระเจ้า และกับทุกคนที่ปฏิเสธพระองค์และทางของพระองค์\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า \"ไม่ศรัทธาในพระเจ้า\" อาจแปลว่า \"ไม่พอใจพระเจ้า\" หรือ \"ไม่มีศีลธรรม\" หรือ \"ไม่เชื่อฟังพระเจ้า\"\n* คำว่า \"ไม่มีพระเจ้า\" และ \"ไม่เคร่งในการเคารพนับถือพระเจ้า\" หมายถึงคนที่ \"ไม่มีพระเจ้า\" หรือ \"ไม่มีความคิดถึงเรื่องพระเจ้า\" หรือ \"ทำในสิ่งที่ไม่ยอมรับพระเจ้า\"\n* การแปลวิธีอื่น ๆ ของคำว่า\"ไม่เคร่งในการเคารพนับถือพระเจ้า\" หรือ \"การไม่เชื่อพระเจ้า\" สามารถเป็น \"ความชั่วร้าย\" หรือ \"สิ่งชั่วร้าย\" หรือ \"การกบฏต่อพระเจ้า\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/unholy.txt b/01/unholy.txt new file mode 100644 index 00000000..753a4e0b --- /dev/null +++ b/01/unholy.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ไม่บริสุทธิ์", + "body": "ตามตัวอักษรแท้ คำว่า \"ไม่บริสุทธิ์\" หมายถึง \"ไม่ศักดิ์สิทธิ์\" อธิบายถึงบางคนหรือบางสิ่งที่ไม่ถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า\n\n* คำนี้ถูกใช้เพื่ออธิบายถึงบางคนที่ถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าโดยการกบฏต่อพระองค์\n* สิ่งที่เรียกว่า \"ไม่บริสุทธิ์\" สามารถอธิบายว่าเป็นสิ่งธรรมดา ไม่เคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือมลทิน ไม่ได้เป็นของพระเจ้า\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* วิธีการแปลคำนี้อาจรวมถึง \"ไม่บริสุทธิ์\" หรือ \"ไม่ใช่ของพระเจ้า\" หรือ \"ไม่ถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า\" หรือ \"ไม่มีพระเจ้า\"\n* ในบางบริบทคำว่า\"ไม่บริสุทธิ์\" สามารถแปลว่า \"เป็นมลทิน\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/unjust.txt b/01/unjust.txt new file mode 100644 index 00000000..7cb9386a --- /dev/null +++ b/01/unjust.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ไม่ยุติธรรม, อย่างไม่เป็นธรรม, ความอยุติธรรม", + "body": "คำว่า \"ไม่ยุติธรรม\" และ \"อย่างไม่เป็นธรรม\" หมายถึงการปฏิบัติต่อผู้อื่นในลักษณะที่ไม่เป็นธรรมและบ่อยครั้ง เป็นลักษณะที่เป็นอันตราย\n\n* \"ความอยุติธรรม\" เป็นสิ่งที่ไม่ดีที่ทำกับบางคนที่บุคคลนั้นไม่สมควรได้รับ อ้างถึงการปฏิบัติต่อผู้คนอย่างไม่เป็นธรรม\n* ความอยุติธรรมยังหมายความว่าบางคนได้รับการปฏิบัติอย่างไม่ดีในขณะที่คนอื่นได้รับการปฏิบัติอย่างดี\n* คนที่ทำหน้าที่อย่างไม่ยุติธรรม ถือว่าเป็น \"บางส่วน\" หรือ \"อคติ\" เพราะเขาไม่ได้ปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างเท่าเทียมกัน\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ขึ้นอยู่กับบริบท \"ไม่ยุติธรรม\" สามารถแปลว่า \"ไม่เสมอภาค\" หรือ \"บางส่วน\" หรือ \"ไม่ชอบธรรม\"\n* วลีที่ว่า \"ไม่ยุติธรรม\" สามารถแปลว่า \"ผู้ที่ไม่ยุติธรรม\" หรือ \"คนที่ไม่ยุติอธรรม\" หรือ \"คนที่ปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างไม่เป็นธรรม\" หรือ \"คนไม่ชอบธรรม\" หรือ \"คนที่ไม่เชื่อฟังพระเจ้า\"\n* คำว่า \"อย่างไม่เป็นธรรม\" สามารถแปลว่า \"ในลักษณะที่ไม่เป็นธรรม\" หรือ \"อย่างผิด\" หรือ \"อย่างไม่เป็นธรรม\"\n-วิธีการแปล\"ความอยุติธรรม \" สามารถรวมถึง\" การปฏิบัติที่ไม่ถูกต้อง \"หรือ\" การปฏิบัติอย่างไม่ยุติธรรม \"หรือ\" การกระทำอย่างไม่เป็นธรรม \"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/unlawful.txt b/01/unlawful.txt new file mode 100644 index 00000000..d40f455f --- /dev/null +++ b/01/unlawful.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ผิดกฎหมาย", + "body": "คำว่า \"ผิดกฎหมาย\" และ \"ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย\" ถูกใช้เพื่ออธิบายการกระทำที่ผิดกฎหมาย\n\n* ในพันธสัญญาใหม่ คำว่า \"ผิดกฎหมาย\" ไม่ได้ใช้เพื่ออ้างถึงการละเมิดกฎหมายของพระเจ้าเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการละเมิดกฎหมายของชาวยิวที่มนุษย์ตราขึ้นด้วย\n* ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ชาวยิวได้เพิ่มกฎหมายเข้ามาอีกจากที่พระเจ้าประทานให้แก่พวกเขา ผู้นำชาวยิวจะเรียกสิ่งที่เพิ่มเข้ามานี้ว่า \"ผิดกฎหมาย\" ถ้ามันไม่สอดคล้องกับกฎหมายที่พวกเขาตราขึ้นมา\n* เมื่อพระเยซูกับเหล่าสาวกของพระองค์กำลังเด็ดรวงข้าวในวันสะบาโต พวกฟาริสีได้กล่าวหาว่าพวกเขาทำสิ่ง \"ผิดกฎหมาย\" เพราะกฎหมายยิวห้ามมิให้กระทำการใด ๆ ในวันนั้น\n* เมื่อเปโตรกล่าวว่า การกินอาหารที่เป็นมลทิน เป็นการ \"ผิดพระบัญญัติ\" สำหรับเขา ซึ่งเขาหมายถึงว่า ถ้าเขากินอาหารเหล่านั้น เขาก็จะทำผิดพระบัญญัติของพระเจ้าได้ให้ไว้กับชาวอิสราเอลที่ไม่ให้กินอาหารที่เป็นมลทินบางอย่าง\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำนี้ควรได้รับการแปลโดยใช้คำหรือวลีซึ่งหมายความว่า \"ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย\" หรือ \"การฝ่าฝืนกฎหมาย\"\n* การแปลแบบอื่นของคำว่า \"ผิดกฎหมาย\" อาจเป็น \"ไม่อนุญาต\" หรือ \"ไม่เป็นไปตามกฎหมายของพระเจ้า\" หรือ \"ไม่สอดคล้องกับกฎหมายของเรา\"\n* คำกล่าวที่ว่า \"ฝ่าฝืนกฎหมาย\" มีความหมายเช่นเดียวกับ \"ผิดกฎหมาย\"\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/unleavenedbread.txt b/01/unleavenedbread.txt new file mode 100644 index 00000000..788835f1 --- /dev/null +++ b/01/unleavenedbread.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ขนมปังไร้เชื้อ", + "body": "คำว่า \"ขนมปังไร้เชื้อ\" อ้างถึงขนมปังที่ทำโดยไม่ใช้ยีสต์หรือเชื้อหมักให้ฟูอื่น ๆ ขนมปังชนิดนี้จะแบนเพราะว่ามันไม่มีเชื้อหมักให้ฟูที่ทำให้ขนมปังพองตัว\n\n* เมื่อพระเจ้าปลดปล่อยชาวอิสราเอลออกจากการเป็นทาสในประเทศอียิปต์ พระองค์ทรงบอกให้พวกเขาหนีออกจากอียิปต์อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องรอขนมปังฟูขึ้น เขาจึงรับประทานขนมปังไร้เชื้อในมื้ออาหารของเขา ตั้งแต่นั้นขนมปังไร้เชื้อจะใช้ในการเฉลิมฉลองเทศกาลปัสกาประจำปีของพวกเขาเพื่อเตือนพวกเขาถึงเวลานั้น\n* เนื่องจากเชื้อขนมปังบางครั้งใช้เป็นภาพของความบาป \"ขนมปังไร้เชื้อ\" แทนการกำจัดบาปจากชีวิตของบุคคลเพื่อที่จะดำเนินชีวิตในแบบที่ถวายเกียรติแก่พระเจ้า \n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* วิธีอื่นในการแปลคำนี้สามารถรวมถึง \"ขนมปังที่ไม่มีเชื้อยีสต์\" หรือ \"ขนมปังแบนที่ไม่ได้ฟูขึ้น\"\n* ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคำแปลของคำนี้สอดคล้องกับคำที่คุณแปลคำว่า \"ยีสต์, เชื้อหมักให้ฟู\"\n* ในบางบริบท คำว่า\"ขนมปังไร้เชื้อ\" อ้างถึง \"เทศกาลเลี้ยงขนมปังไร้เชื้อ\" และสามารถแปลได้ในลักษณะเช่นนั้น" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/unprofitable.txt b/01/unprofitable.txt new file mode 100644 index 00000000..836b84ab --- /dev/null +++ b/01/unprofitable.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ไม่ได้กำไร, ไม่ได้ประโยชน์", + "body": "คำว่า \"ไม่ได้กำไร\" หมายถึงไม่มีประโยชน์\n\n* คำนี้ตามตัวอักษรแปลว่าไม่ได้กำไรอะไรเลย หรือไม่ได้ช่วยใครให้ได้รับอะไรเลย\n* บางสิ่งที่ไม่มีกำไรไม่มีค่าจะทำอะไร เพราะว่ามันไม่ได้ให้ประโยชน์อะไร\n* นี่อาจแปลว่า \"ไร้ประโยชน์\" หรือ \"ไร้ค่า\" หรือ \"ไม่เป็นประโยชน์\" หรือ \"ไม่คู่ควร\" หรือ \"ไม่เป็นประโยชน์\" หรือ \"ไม่ให้ประโยชน์\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/unrighteous.txt b/01/unrighteous.txt new file mode 100644 index 00000000..f812f0d8 --- /dev/null +++ b/01/unrighteous.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "อธรรม, ความอธรรม", + "body": "คำว่า \"อธรรม\" หมายถึงการทำบาปและผิดศีลธรรม \"ความไม่ชอบธรรม\" อ้างถึงบาปหรือสภาพการมีบาป\n\n* คำเหล่านี้โดยเฉพาะอ้างถึงการใช้ชีวิตในทางที่ไม่เชื่อฟังคำสอนและคำสั่งของพระเจ้า\n* คนอธรรมมีความอธรรมในความคิดและการกระทำของตน\n* บางครั้ง \"ผู้ไม่ชอบธรรม\" อ้างถึงโดยเฉพาะผู้ที่ไม่เชื่อในพระเยซู\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำนี้สามารถแปลได้ง่ายๆ ว่า \"ไม่ชอบธรรม\"\n* ขึ้นอยู่กับบริบท วิธีอื่นในการแปลนี้สามารถรวมถึง \"ชั่วร้าย\" หรือ \"ผิดศีลธรรม\" หรือ \"คนที่กบฏต่อพระเจ้า\" หรือ \"มีบาป\"\n* วลีที่ว่า \"ไม่ชอบธรรม\" สามารถแปลว่า \"คนไม่ชอบธรรม\"\n* คำว่า \"ความไม่ชอบธรรม\" สามารถแปลว่า \"บาป\" หรือ \"ความคิดและการกระทำชั่วร้าย\" หรือ \"ความชั่วร้าย\"\n* ถ้าเป็นไปได้ สิ่งดีที่สุดในการแปลความหมายนี้ในแบบที่แสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่าง \"ชอบธรรม และ ความชอบธรรม\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/upright.txt b/01/upright.txt new file mode 100644 index 00000000..2322ad4a --- /dev/null +++ b/01/upright.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เที่ยงตรง, ความเที่ยงตรง", + "body": "คำว่า \"เที่ยงตรง\" และ \"ความเที่ยงตรง\" อ้างถึงการกระทำที่ปฏิบัติตามกฎหมายของพระเจ้า\n\n* ความหมายของคำเหล่านี้รวมถึงความคิดที่จะตั้งตรงและมองตรงไปข้างหน้า\n* คนที่ \"เที่ยงตรง\" คือคนที่ปฏิบัติตามกฎของพระเจ้าและไม่ทำสิ่งที่ขัดต่อพระประสงค์ของพระองค์\n* คำว่า \"ความซื่อสัตย์\" และ \"ชอบธรรม\" มีความหมายคล้ายคลึงกันและบางครั้งก็ใช้ในแบบคำคู่ขนานกันเช่น \"ความสมบูรณ์และเที่ยงธรรม\" (ดู: [Metaphor](https://git.door43.org/Door43/en-ta-translate-vol1/src/master/content/figs_metaphor.md))\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* วิธีการแปล \"เที่ยงตรง\" สามารถรวมถึง \"การแสดงอย่างถูกต้อง\" หรือ \"คนที่ทำหน้าที่อย่างถูกต้อง\" หรือ \"ปฏิบัติตามกฎหมายของพระเจ้า\" หรือ \"เชื่อฟังพระเจ้า\" หรือ \"ประพฤติในทางที่ถูกต้อง\"\n* คำว่า \"ความเที่ยงตรง\" อาจแปลได้ว่า \"ความบริสุทธิ์ทางศีลธรรม\" หรือ \"การปฏิบัติตามหลักศีลธรรมอันดีงาม\" หรือ \"ความถูกต้อง\"\n* วลี \"คนเที่ยงธรรม\" อาจแปลว่า \"คนที่มีความเที่ยงตรง\" หรือ \"คนเที่ยงตรง\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/ur.txt b/01/ur.txt new file mode 100644 index 00000000..c76a33d0 --- /dev/null +++ b/01/ur.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เออร์", + "body": "เออร์ เป็นเมืองที่มีความสำคัญตามแถบแม่น้ำยูเฟรติสในเขตโบราณของคาลเดีย ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของเมโสโปตาเมีย เขตนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ของประเทศอิรัคในปัจจุบัน\n\n* อับราฮัมมาจากเมืองเออร์และจากที่นั่นพระเจ้าทรงเรียกให้เขาจากไปยังแผ่นดินคานาอัน\n* ฮาราน น้องชายของอับราฮัมและบิดาของโลทได้สิ้นชีวิตในเออร์ นี้บางทีจะเป็นสาเหตุทีมีอิทธพลต่อโลทให้จากเมืองเออร์ ได้ไปกับอับราฮัม " + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/uriah.txt b/01/uriah.txt new file mode 100644 index 00000000..9b3d074b --- /dev/null +++ b/01/uriah.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "อุรียาห์", + "body": "อุรียาห์เป็นคนชอบธรรมและเป็นหนึ่งในทหารที่ดีที่สุดของกษัตริย์ดาวิด เขาได้รับอ้างอิงเสมอว่าเป็น อุรียาห์ชนฮิตไตท์\n\n* อุรียาห์มีภรรยาสวยมากชื่อบัทเชบา\n* ดาวิดทรงประพฤติล่วงประเวณีกับภรรยาของอุรียาห์และเธอตั้งครรภ์มีบุตรกับดาวิด\n* เพื่อปกปิดบาปนี้ ดาวิดทำให้อุรียาห์ถูกสังหารในสงคราม แล้วดาวิดจึงแต่งงานกับบัทเชบา\n* ชายอีกคนหนึ่งชื่อว่าอุรียาห์ เป็นปุโรหิตในช่วงสมัยกษัตริย์อาหัส" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/uzziah.txt b/01/uzziah.txt new file mode 100644 index 00000000..635f9e19 --- /dev/null +++ b/01/uzziah.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "อุสซียาห์, อาซาริยาห์", + "body": "อุสซียาห์ได้กลายเป็นกษัตริย์ยูดาห์ตอนอายุ 16 ปีและครองราชย์ 52 ปีซึ่งเป็นรัชกาลที่ยาวนานผิดปกติ อุสซียาห์ยังเป็นที่รู้จักในชื่อ \"อาซาริยาห์\"\n\n* กษัตริย์อุซซียาห์เป็นที่รู้จักพระองค์ในเรื่องทหารที่มีการจัดการและเชี่ยวชาญในการรบ พระองค์ทรงมีหอคอยที่สร้างขึ้นเพื่อปกป้องเมืองและมีอาวุธสงครามที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อใช้ขี่พวกมันเพื่อยิงลูกศรและโยนก้อนหินขนาดใหญ่ได้สะดวก\n* ตราบเท่าที่อุสซียาห์ปรนนิบัติพระเจ้าพระองค์ก็ทรงเจริญขึ้น เมื่อใกล้จะสิ้นรัชกาลของพระองค์อย่างไรก็ตาม พระองค์กลับอวดดีจองหองและไม่เชื่อฟังพระเจ้าด้วยการเผาเครื่องหอมในพระวิหารซึ่งมีเพียงปุโรหิตเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตกระทำได้\n* เพราะความบาปนี้อุสซียาห์ได้ป่วยเป็นโรคเรื้อนและต้องมีชีวิตที่แยกตัวออกจากคนอื่นจวบจนสิ้นรัชกาลของพระองค์" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/vain.txt b/01/vain.txt new file mode 100644 index 00000000..c250b295 --- /dev/null +++ b/01/vain.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ไร้สาระ, ความไร้สาระ", + "body": "คำว่า \"ไร้สาระ\" อธิบายถึงสิ่งที่ไม่มีประโยชน์หรือไม่มีวัตถุประสงค์ สิ่งไร้สาระว่างเปล่าและไร้ค่า\n\n* คำว่า \"ความไร้สาระ\" อ้างถึงความไร้ค่าหรือความว่างเปล่า นอกจากนี้ยังสามารถอ้างถึงความหยิ่งยโสหรือความเย่อหยิ่ง\n* ในพันธสัญญาเดิม รูปเคารพได้รับการอธิบายว่าเป็นสิ่งไร้สาระที่ไม่สามารถช่วยเหลือ หรือ ช่วยให้รอดได้ พวกมันไม่มีค่าและไม่มีประโยชน์หรือมีวัตถุประสงค์ใด ๆ\n* หากมีการกระทำสิ่งใด ๆ โดย \"ไร้ประโยชน์\" หมายความว่าไม่มีผลดีจากสิ่งนี้ ความพยายามหรือการกระทำไม่บรรลุผลอะไร\n* \"เชื่อในสิ่งที่ไร้สาระ\" หมายความว่าเชื่อในบางสิ่งที่ไม่จริงและให้ความหวังที่ผิดๆ\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n-ขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า \"ไร้สาระ\" อาจแปลเป็น \"ว่าง\" หรือ \"ไร้ประโยชน์\" หรือ \"สิ้นหวัง\" หรือ \"ไร้ค่า\" หรือ \"ไม่มีความหมาย\" \n* วลีว่า \"เปล่าประโยชน์\" อาจถูกแปลว่า \"ไม่มีผล\" หรือ \"ไม่มีผลลัพธ์\" หรือ \"ไม่มีเหตุผล\" หรือ \"ไม่มีจุดมุ่งหมาย\"\n* คำว่า \"ความไร้สาระ\" อาจแปลว่า \"ความเย่อหยิ่ง\" หรือ \"ไม่มีอะไรคุ้มค่า\" หรือ \"ความสิ้นหวัง\"\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/vashti.txt b/01/vashti.txt new file mode 100644 index 00000000..1be1b14d --- /dev/null +++ b/01/vashti.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "วัชที", + "body": "ในพันธสัญญาเดิม พระธรรมเอสเธอร์ วัชทีเป็นมเหสีของอาหสุเอรัส กษัตริย์แห่งเปอร์เซีย\n\n* กษัตริย์อาหสุเอรัสได้เนรเทศมเหสีวัชทีไป เมื่อพระนางปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของพระองค์ให้มางานเลี้ยงอาหารค่ำของพระองค์และแสดงความงามของเธอให้กับบรรดาแขกขี้เมาของพระองค์\n* ผลก็คือ จึงมีการค้นหาผู้ที่จะเป็นราชินีองค์ใหม่และในที่สุดเอสเธอร์ก็ได้รับเลือกให้เป็นราชินีองค์ใหม่ของกษัตริย์" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/veil.txt b/01/veil.txt new file mode 100644 index 00000000..19ddaa8a --- /dev/null +++ b/01/veil.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ผ้าคลุม", + "body": "คำว่า \"ผ้าคลุม\" หมายถึงผ้าบาง ๆ ที่ใช้คลุมศีรษะคลุมศีรษะเพื่อปกปิดศีระษะหรือใบหน้าเพื่อไม่ให้มองเห็น\n\n* โมเสสคลุมหน้าของเขาด้วยผ้าคลุมหลังจากที่ได้อยู่ต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์ ดังนั้นความสว่างของใบหน้าของเขาจะถูกซ่อนไว้จากประชาชน\n* ในพระคัมภีร์ ผู้หญิงได้สวมผ้าคลุมเพื่อปกปิดศีรษะของพวกเธอ และบ่อยครั้งใบหน้าของพวกเธอด้วยเช่นกันเมื่อพวกเธออยู่ในที่สาธารณะหรือในที่ที่มีพวกผู้ชาย\n* คำกริยา \"คลุมหน้า\" หมายถึงการปกคลุมบางสิ่งบางอย่างด้วยผ้าคลุม\n* ในพระคัมภีร์ภาษาอังกฤษบางฉบับ คำว่า \"ผ้าคลุม\" ได้ใช้อ้างถึงม่านหนาที่ปกคลุมบริเวณทางเข้าไปในที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด แต่ \"ผ้าม่าน\" เป็นคำที่ถูกต้องมากกว่าในบริบทนั้น เนื่องจากหมายถึงผ้าหนักหนัก หนาหนา\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำว่า \"ผ้าคลุม\" อาจถูกแปลเป็น \"ผ้าคลุมบาง\" หรือ \"ผ้าคลุม\" หรือ \"คลุมศีรษะ\"\n* ในบางวัฒนธรรม อาจเป็นคำสำหรับผ้าคลุมหน้าสำหรับผู้หญิงอยู่แล้ว อาจจำเป็นต้องค้นหาคำอื่นเมื่อใช้กับโมเสส" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/vine.txt b/01/vine.txt new file mode 100644 index 00000000..82ab6ada --- /dev/null +++ b/01/vine.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เถาองุ่น", + "body": "คำว่า \"เถาองุ่น\" อ้างถึง พืชที่เจริญเติบโตได้โดยการคืบคลานไปตามพื้นหรือโดยการเลื้อยไปตามต้นไม้หรือโครงสร้างอื่น ๆ คำว่า \"เถาองุ่น\" ในพระคัมภีร์ใช้เฉพาะเถาที่ผลิตผลและมักหมายถึงเถาองุ่น\n\n* ในพระคัมภีร์ คำว่า \"เถาองุ่น\" เกือบจะอ้างถึง \"ต้นองุ่น\" \n* กิ่งก้านทั้งหลายของต้นองุ่นจะติดอยู่กับลำต้นซึ่งจะให้น้ำและสารอาหารอื่นๆ มันจึงจะเติบโต\n* พระเยซูทรงเรียกตัวพระองค์เองว่า \"เถาองุ่น\" และเรียกประชาชนของพระองค์ว่า \"กิ่งก้าน\" ในบริบทนี้คำว่า \"เถาองุ่น\" อาจแปลเป็น \"ต้นเถาองุ่น\" หรือ \"ต้นพืชองุ่น\" (ดู : [Metaphor](https://git.door43.org/Door43/en-ta-translate-vol1/src/master/content/figs_metaphor.md))" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/vineyard.txt b/01/vineyard.txt new file mode 100644 index 00000000..1fb38496 --- /dev/null +++ b/01/vineyard.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "สวนองุ่น", + "body": "สวนองุ่นเป็นสวนที่มีบริเวณกว้างใหญ่ที่ปลูกองุ่น ที่ผลองุ่นได้รับการเก็บเกี่ยว\n\n* สวนองุ่น มักจะมีกำแพงล้อมรอบเพื่อป้องกันผลองุ่นจากขโมยและสัตว์ทั้งหลาย\n* พระเจ้าทรงเปรียบเทียบชนชาติอิสราเอลกับสวนองุ่นที่ไม่ได้เกิดผลที่ดี (ดู : [Metaphor](https://git.door43.org/Door43/en-ta-translate-vol1/src/master/content/figs_metaphor.md))\n* สวนองุ่นสามารถแปลเป็น \"สวนผลองุ่น\" หรือ \"ไร่องุ่น\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/virgin.txt b/01/virgin.txt new file mode 100644 index 00000000..6bc4976d --- /dev/null +++ b/01/virgin.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "พรหมจารี", + "body": "หญิงพรหมจารีเป็นหญิงที่ไม่มีความสัมพันธ์ทางเพศ\n\n* ผู้เผยพระวจนะอิสยาห์กล่าวว่าพระเมสสิยาห์จะบังเกิดจากหญิงพรหมจารี\n* มารีย์เป็นหญิงพรหมจารีเมื่อนางตั้งครรภ์องค์พระเยซู พระองค์ไม่ได้มีพ่อเป็นมนุษย์\n* ในบางภาษาอาจมีคำศัพท์ที่เป็นวิธีสุภาพที่อ้างถึงพรมาจารี (ดู : [Euphemism](https://git.door43.org/Door43/en-ta-translate-vol2/src/master/content/figs_euphemism.md))" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/vision.txt b/01/vision.txt new file mode 100644 index 00000000..2699bc24 --- /dev/null +++ b/01/vision.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "นิมิต", + "body": "คำว่า \"นิมิต\" อ้างถึงบางสิ่งที่บุคคลเห็น เฉพาะอย่างยิ่งอ้างถึงบางสิ่งที่ไม่ปกติธรรมดาหรือเหนือธรรมชาติที่พระเจ้าทรงสำแดงแก่ประชาชนเพื่อให้ข่าวสารแก่พวกเขา\n\n* โดยปกติ นิมิตจะเห็นได้ในขณะที่บุุคคลตื่นอยู่ อย่างไรก็ตามบางครั้งนิมิตเป็นบางสิ่งที่บุคคลเห็นในความฝันขณะนอนหลับ\n* พระเจ้าทรงส่งนิมิตเพื่อบอกคนถึงบางสิ่งที่มีความสำคัญมาก ตัวอย่างเช่นเปโตรได้เห็นนิมิตที่จะบอกเขาว่าพระเจ้าทรงต้องการให้เขาต้อนรับคนต่างชาติ" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/voice.txt b/01/voice.txt new file mode 100644 index 00000000..a227aad7 --- /dev/null +++ b/01/voice.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เสียง", + "body": "คำว่า \"เสียง\" บ่อยครั้งมักใช้ในเชิงเปรียบเทียบเพื่ออ้างถึงการพูดหรือการสื่อสารบางอย่าง\n\n* พระเจ้าได้ถูกกล่าวว่าพระองค์ทรงใช้เสียงของพระองค์ถึงแม้พระองค์จะไม่มีเสียงเหมือนอย่างที่มนุษย์มี\n* คำนี้สามารถใช้ที่อ้างถึง คนทั้งตัว อย่างในข้อความที่ว่า \"เสียงในทะเลทรายกล่าวว่า\" จงเตรียมทางขององค์พระผู้เป็นเจ้า\" ซึ่งอาจแปลว่า\" บุคคลได้ยินเสียงกำลังเรียกในทะเลทราย….\" (ดู: [synecdoche](https://git.door43.org/Door43/en-ta-translate-vol2/src/master/content/figs_synecdoche.md))\n* การ \"ได้ยินเสียงบางคน\" สามารถแปลได้ว่า \"ได้ยินบางคนกำลังพูดว่า\"\n* บางครั้งคำว่า \"เสียง\" อาจใช้สำหรับวัตถุที่ไม่สามารถพูดตามตัวอักษร เช่นเมื่อดาวิด บรรยายในพระธรรมสดุดีหลายๆ บทว่า \"เสียง\" ของสวรรค์ได้ประกาศงานยิ่งใหญ่ของพระเจ้า นี่สามารถแปลได้ว่า \"ความงดงามของพวกมันแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าพระเจ้าทรงยิ่งใหญ่อย่างไร\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/vow.txt b/01/vow.txt new file mode 100644 index 00000000..bf5ed32a --- /dev/null +++ b/01/vow.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "คำปฏิญาณ", + "body": "คำปฏิญาณ คือคำสัญญาที่บุคคลจะทำกับพระเจ้า บุคคลสัญญาว่าจะทำอะไรบางอย่างเพื่อเป็นการถวายเกียรติอย่างพิเศษแด่พระเจ้าหรือเพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อพระองค์\n\n* หลังจากที่บุคคลทำปฏิญาณ เขามีข้อผูกมัดที่ต้องปฏิบัติตามคำปฏิญาณนั้น\n* พระคัมภีร์สอนว่าบุคคลอาจจะถูกพิพากษาโดยพระเจ้า ถ้าเขาไม่ปฏิบัติตามคำปฏิญาณนั้น\n* บางครั้งบุคคลอาจทูลขอให้พระเจ้าทรงปกป้องเขาหรือประทานบางอย่างแก่เขาเพื่อแลกกับการทำการปฏิญาณ\n* แต่พระเจ้าไม่จำเป็นต้องทำตามคำร้องขอที่บุคคลร้องขอในคำปฏิญาณนั้น\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ขึ้นอยู่กับบริบท \"คำปฏิญาณ\" อาจแปลว่า \"สัญญาที่จริงจัง\" หรือ \"สัญญาต่อพระเจ้า\"\n* คำนี้ควรได้รับการแปลแตกต่างจาก คำว่า \"คำสาบาน\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/walk.txt b/01/walk.txt new file mode 100644 index 00000000..75f7f219 --- /dev/null +++ b/01/walk.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เดิน", + "body": "คำว่า \"เดิน\" มักใช้ในเชิงเปรียบเทียบที่หมายถึงการ \"ดำเนินชีวิต\"\n\n* \"เอโนคเดินกับพระเจ้า\" หมายถึงเอโนคได้ดำเนินชีวิตที่สัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระเจ้า\n* \"การดำเนินโดยพระวิญญาณ\" หมายถึงการได้รับคำแนะนำโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์เพื่อให้เราทำสิ่งต่างๆ เป็นที่ชอบต่อน้ำพระทัยและถวายเกียรติพระเจ้า\n* \"เดินเข้ามาใน\" คำสั่งของพระเจ้าหรือวิถีทางของพระเจ้าหมายถึง \"ดำรงชีวิตอยู่ในการเชื่อฟังคำสั่งของพระองค์ คือ\" เชื่อฟังคำสั่งทั้งหลายของพระองค์ \"หรือ\" ทำตามพระประสงค์ของพระองค์ \"\n* เมื่อพระเจ้าตรัสว่าพระองค์จะ \"ดำเนินท่ามกลาง\" คนของพระองค์ นั่นหมายความว่าพระองค์จะสถิตอยู่ท่ามกลางพวกเขาหรือมีปฏิสัมพันธ์กับพวกเขาอย่างใกล้ชิด\n* การ \"เดินในทางตรงกันข้าม\" หมายถึงการมีชีวิตอยู่หรือการประพฤติตนในทางที่ขัดต่อบางสิ่งบางอย่างหรือบางคน\n* การ \"เดินตาม\" หมายถึงการแสวงหาหรือติดตามใครบางคนหรือบางสิ่งบางอย่าง นอกจากนี้ยังสามารถหมายถึงการกระทำในลักษณะเดียวกับคนอื่น\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ที่ดีที่สุดคือแปล \"เดิน\" ตามตัวอักษรตราบเท่าที่ความหมายถูกต้องจะเป็นที่เข้าใจได้\n* อีกอย่างหนึ่ง การใช้ \"เดิน\" ในเชิงเปรียบเทียบ สามารถแปลว่า \"ดำรงชีวิตอยู่\" หรือ \"กระทำ\" หรือ \"ประพฤติ\"\n* วลี \"เดินโดยพระวิญญาณ\" สามารถแปลว่า \"ดำรงชีวิตอยู่ในการเชื่อฟังพระวิญญาณบริสุทธิ์\" หรือ \"ประพฤติตามทางที่พระวิญญาณบริสุทธิ์พอพระทัย\" หรือ \"ทำสิ่งต่างๆ ที่เป็นที่พอพระทัยพระเจ้า ตามที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงนำท่าน\"\n* เพื่อ \"เดินตามพระบัญชาของพระเจ้า\" สามารถแปลว่า \"ดำรงชีวิตตามพระบัญชาของพระเจ้า\" หรือ \"เชื่อฟังคำสั่งของพระเจ้า\"\n* วลีที่ว่า \"เดินกับพระเจ้า\" อาจแปลได้ว่า \"ได้ดำเนินชีวิตที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระเจ้าโดยเชื่อฟังและถวายเกียรติแด่พระองค์\"\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/warrior.txt b/01/warrior.txt new file mode 100644 index 00000000..e91078b2 --- /dev/null +++ b/01/warrior.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "นักรบ, ทหาร", + "body": "คำว่า \"นักรบ\" และ \"ทหาร\" ทั้งสองคำมีสามารถอ้างถึงบางคนผู้ต่อสู้ในกองทัพ แต่มีข้อแตกต่างกันบางอย่าง\n\n* โดยปกติคำว่า \"นักรบ\" เป็นคำทั่วไป เป็นคำกว้างๆ เพื่ออ้างถึงคนที่มีพรสวรรค์และกล้าหาญในการรบ\n* พระยาห์เวห์ได้รับการอธิบายเชิงเปรียบเทียบว่าทรงเป็น \"นักรบ\"\n* คำว่า \"ทหาร\" เฉพาะเจาะจงว่าอ้างถึงบางคนที่เป็นของกองทัพหรือผู้ที่กำลังต่อสู้ในสงครามที่แน่นอน\n* เหล่าทหารโรมันในกรุงเยรูซาเล็มอยู่ที่นั่นเพื่อรักษาระเบียบและปฎิบัติหน้าที่ เช่น ประหารนักโทษ พวกเขาป้องกันพระเยซูก่อนการตรึงพระองค์ที่กางเขนและบางคนได้รับคำสังให้ป้องกันอุโมงค์ฝังศพ\n* ผู้แปลควรพิจารณาว่ามีสองคำในการแปลสำหรับ \"นักรบ\" และ \"ทหาร\" ในการแปลงานหรือไม่ นั่นคือความแตกต่างในความหมายและการใช้งาน" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/waste.txt b/01/waste.txt new file mode 100644 index 00000000..0fa9b67e --- /dev/null +++ b/01/waste.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "สูญเสียไป, ที่ดินที่ทิ้งว่างเปล่า", + "body": "การทิ้งสิ่งใด ๆ หมายถึงการโยนทิ้งหรือใช้อย่างไม่ระมัดระวัง บางสิ่งที่เป็น \"ที่ดินที่ทิ้งว่างเปล่า\" หรือ \"ของเสีย\" อ้างถึงถึงแผ่นดินหรือเมืองที่ถูกทำลาย ดังนั้นจึงไม่มีสิ่งมีชีวิตอีกต่อไป\n\n* คำว่า \"สูญเสียไป\" เป็นคำกล่าวที่มีความหมายว่ากลายเป็นเจ็บป่วยหรือถูกทำลาย บุคคลที่กำลังสูญเสียไปโดยปกติจะค่อยๆ ผอมลงมากเพราะโรคและขาดอาหาร\n* การ \"สูญเสีย\" เมืองหรือแผ่นดิน หมายความว่าทำลายมัน\n* อีกคำหนึ่งของคำว่า \"ที่ดินที่ทิ้งว่างเปล่า\" สามารถเป็น \"ทะเลทราย\" หรือ \"ถิ่นทุรกันดาร\" แต่ที่ดินที่ทิ้งร้างว่างเปล่าแสดงว่าประชาชนเคยอาศัยอยู่เคยมีต้นไม้และเหล่าต้นพืชที่เป็นอาหารได้ด้วย" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/watch.txt b/01/watch.txt new file mode 100644 index 00000000..c7881fb0 --- /dev/null +++ b/01/watch.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เฝ้าระวัง, คนยาม ", + "body": "คำว่า \"เฝ้าระวัง\" หมายถึงการมองดูบางสิ่งอย่างใกล้ชิดและรอบคอบ คำนี้ยังมีความหมายที่เป็นรูปเป็นร่างหลายประการ \"คนยาม\" คือบางคนที่งานของเขาคือการป้องกันเมืองโดยการดูอย่างระมัดระวังต่ออันตรายหรือการคุกคามประชาชนในเมือง\n\n* คำสั่งให้ \"เฝ้าระวังชีวิตและหลักคำสอนอย่างใกล้ชิด\" หมายถึงต้องระมัดระวังในการใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาด และไม่เชื่อคำสอนเท็จ\n* การ \"ระวัง\" คือคำเตือนเพื่อระมัดระวังหลีกเลี่ยงอันตรายหรืออิทธิพลที่อันตราย\n* การ \"เฝ้าระวัง\" หรือ \"จงเฝ้าระวัง\" หมายถึงการตื่นตัวเสมอและป้องกันตัวต่อความบาปและความชั่วร้าย ยังสามารถหมายถึง \"เตรียมพร้อม\" ด้วยเช่นกัน\n* การ \"คอยเฝ้าระวังไว้\" หรือ \"คอยเฝ้าระวังใกล้ชิด\" สามารถหมายถึงการป้องกัน ปกป้องหรือดูแลใครสักคนหรือบางสิ่งบางอย่าง\n* คำอื่นๆ สำหรับ \"คนยาม\" คือ \"ทหารยาม\" หรือ \"ยาม\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/watchtower.txt b/01/watchtower.txt new file mode 100644 index 00000000..d359559c --- /dev/null +++ b/01/watchtower.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "หอคอยสังเกตการณ์, หอคอย", + "body": "คำว่า \"หอคอยสังเกตการณ์\" อ้างถึงสิ่งก่อสร้างสูงที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่ทหารยามสามารถมองหาอันตรายใด ๆ หอคอยเหล่านี้มักทำด้วยก้อนหิน\n\n* พวกเจ้าของที่ดินบางครั้งก็สร้างหอคอยสังเกตการณ์ จากที่พวกเขาสามารถป้องกันพืชผลและปกป้องพวกมันจากการถูกขโมย\n* หอคอยมักประกอบด้วยห้องพักที่ยามหรือครอบครัวอาศัยอยู่ เพื่อที่จะสามารถป้องกันพืชผลได้ทั้งกลางวันและกลางคืน\n* หอสังเกตการณ์เมืองต่างๆ ถูกสร้างขึ้นสูงกว่ากำแพงเมือง เพื่อให้ยามเฝ้ามองเห็นว่ามีศัตรูใดมาโจมตีเมืองหรือไม่\n* คำว่า \"หอสังเกตการณ์\" เป็นสัญลักษณ์ของการป้องกันจากศัตรูด้วยเช่นกัน (ดู : [Metaphor](https://git.door43.org/Door43/en-ta-translate-vol1/src/master/content/figs_metaphor.md))" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/water.txt b/01/water.txt new file mode 100644 index 00000000..b97775bd --- /dev/null +++ b/01/water.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "น้ำ, น่านน้ำ", + "body": "นอกเหนือไปจากความหมายหลักแล้ว \"น้ำ\" ยังอ้างถึงแหล่งน้ำขนาดใหญ่ เช่นมหาสมุทร ทะเล ทะเลสาบ หรือแม่น้ำ\n\n* คำว่า \"น่านน้ำ\" อ้างถึงแหล่งน้ำหรือต้นน้ำหลายแห่ง ยังสามารถอ้างอิงทั่วไปสำหรับน้ำที่มีปริมาณมาก\n* การใช้ \"น้ำ\" ที่เป็นเชิงเปรียบเทียบ อ้างถึงความทุกข์ยากอย่างมาก ความลำบากและการทนทุกข์ทรมาน ตัวอย่างเช่น พระเจ้าทรงสัญญาว่าเมื่อเรา \"ผ่านน่านน้ำ\" พระองค์จะทรงอยู่กับเรา\n* วลีที่ว่า \"น้ำมาก\" เน้นว่ามีความทุกข์ยากอย่างมากอย่างไร\n* ให้\"น้ำ\" ปศุสัตว์และสัตว์อื่น ๆ หมายถึงการ \"จัดหาน้ำให้\" พวกมัน ในสมัยพระคัมภีร์มักเกี่ยวข้องกับการดึงน้ำจากบ่อพร้อมถังตักน้ำและเทน้ำลงไปในรางหรือภาชนะอื่น ๆ สำหรับสัตว์ที่จะดื่มจากสิ่งเหล่านั้น\n* ในพันธสัญญาเดิม พระเจ้าได้รับการทรงอ้างถึงว่าเป็น น้ำพุหรือน้ำพุแห่ง \"น้ำที่มีชีวิต\" สำหรับประชาชนของพระองค์ นี้หมายความว่าพระองค์ทรงเป็นแหล่งพลังแห่งวิญญาณและความสดชื่น\n* ในพันธสัญญาใหม่ พระเยซูทรงใช้วลี \"น้ำที่มีชีวิต\" เพื่ออ้างถึงพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่ทำงานอยู่ในตัวบุคคลเพื่อเปลี่ยนแปลงและนำมาซึ่งชีวิตใหม่\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* วลี \"ตักน้ำ\" สามารถแปลว่า \"ตักน้ำขึ้นจากบ่อด้วยถังน้ำ\"\n* \"ลำธารแห่งน้ำที่มีชีวิตจะไหลจากพวกเขา\" อาจแปลได้ว่า \"พลังและพรจากพระวิญญาณบริสุทธิ์จะไหลออกจากพวกเขาเหมือนสายธารแห่งน้ำ\" คำว่า \"พระพร\" อาจใช้คำเหล่านี้แทนได้ คือคำว่า \"ของประทาน\" หรือ \"ผล\" หรือ \"บุคลิกน่าศรัทธา\" \n* เมื่อพระเยซูทรงกำลังพูดกับผู้หญิงชาวสะมาเรียที่บ่อน้ำคำว่า \"น้ำที่มีชีวิต\" อาจแปลว่า \"น้ำที่ให้ชีวิต\" หรือ \"น้ำที่ให้มีชีวิต\" ในบริบทนี้ ภาพของน้ำต้องถูกแสดงออกในการแปล\n* ขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า \"น้ำ\" หรือ \"น้ำมาก\" สามารถแปลว่า \"ความทุกข์ทรมานอันยิ่งใหญ่\"\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/well.txt b/01/well.txt new file mode 100644 index 00000000..b47ec677 --- /dev/null +++ b/01/well.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "บ่อน้ำ, ถังเก็บน้ำ", + "body": "คำว่า \"บ่อน้ำ\" และ \"ถังเก็บน้ำ\" อ้างถึงแหล่งน้ำสองประเภทในสมัยพระคัมภีร์\n\n* บ่อน้ำ คือหลุมลึกที่ถูกเจาะลงไปในพื้นดินเพื่อให้น้ำใต้ดินสามารถไหลเข้ามาได้\n* ถังเก็บน้ำคือหลุมลึกที่ถูกขุดเข้าไปในหินเพื่อใช้เป็นถังเก็บน้ำฝน\n* ถังเก็บน้ำโดยปกติจะถูกขุดลงไปในหินและฉาบด้วยปูนปลาสเตอร์เพื่อเก็บน้ำไว้ \"ถังแตก\" เกิดขึ้นเมื่อปูนปลาสเตอร์ได้ปริแตก น้ำเกิดรั่วไหลออกได้\n* ถังน้ำโดยปกติจะตั้งอยู่ในบริเวณลานบ้านของประชาชนเพื่อรับน้ำฝนที่ไหลลงมาจากหลังคาบ้าน\n* บ่อน้ำโดยปกติจะตั้งอยู่ในสถานที่ที่พวกเขาสามารถเข้าถึงได้โดยหลายครอบครัวหรือชุมชนทั้งหมด\n* เนื่องจากน้ำเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับทั้งคนและปศุสัตว์ สิทธิ์ในการใช้บ่อมักเป็นสาเหตุของการทะเลาะวิวาทและความขัดแย้งกัน\n* ทั้งบ่อน้ำและอ่างเก็บน้ำจะถูกปิดด้วยหินก้อนใหญ่เพื่อป้องกันไม่ให้มีสิ่งใด ๆ ตกลงไป มักจะมีเชือกผูกติดกับถังตักน้ำหรือหม้อเพื่อนำน้ำขึ้นมาสู่ข้างบน\n* บางครั้งก็มีการใช้ถังเก็บน้ำแห้งเพื่อเป็นที่คุมขังคน อย่างเช่นที่เกิดขึ้นกับโยเซฟและเยเรมีย์\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n*วิธีการแปล \"บ่อน้ำ\" อาจรวมถึง \"หลุมน้ำลึก\" หรือ \"หลุมลึกสำหรับน้ำพุ\" หรือ \"หลุมลึกสำหรับดึงน้ำขึ้นมา\"\n* คำว่า \"ถังเก็บน้ำ\" สามารถแปลเป็น \"หลุมหินเก็บน้ำ\" หรือ \"หลุมลึกและแคบสำหรับน้ำ\" หรือ \"ถังเก็บน้ำใต้ดิน\"\n* คำศัพท์เหล่านี้มีความหมายคล้ายกัน ความแตกต่างหลัก ๆ ก็คือบ่อน้ำมักจะได้รับน้ำจากน้ำพุใต้ดิน ในขณะที่น้ำในถังเก็บน้ำมักจะเป็นถังเก็บน้ำที่มาจากฝน" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/wheat.txt b/01/wheat.txt new file mode 100644 index 00000000..caabe4ca --- /dev/null +++ b/01/wheat.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ข้าวสาลี", + "body": "ข้าวสาลีเป็นข้าวประเภทหนึ่งที่ประชาชนปลูกเพื่อเป็นอาหาร เมื่อพระคัมภีร์กล่าวถึง \"ข้าว\" หรือ\"เมล็ด\" บ่อยครั้งก็กำลังกล่าวถึงข้าวสาลีหรือเมล็ดข้าวสาลี\n\n* เมล็ดข้าวสาลีหรือเมล็ดข้าวงอกขึ้นที่ปลายของต้นข้าวสาลี\n* หลังจากการเก็บเกี่ยวข้าวสาลี เมล็ดจะถูกแยกออกจากต้นของพืช โดยการนวดข้าว\nต้นของข้าวสาลีเรียกว่า \"ฟาง\" และมักถูกวางไว้บนพื้นเพื่อให้สัตว์ทั้งหลายเป็นที่หลับนอน\n* หลังจากการนวดข้าว แกลบที่อยู่ล้อมรอบเมล็ดข้าวจะถูกแยกจากเมล็ดข้าวโดยการฝัดร่อนและถูกทิ้งไป\n* ประชาชนบดเมล็ดข้าวสาลีให้เป็นแป้ง และใช้สิ่งนี้ทำขนมปัง" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/willofgod.txt b/01/willofgod.txt new file mode 100644 index 00000000..fbd69a88 --- /dev/null +++ b/01/willofgod.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "พระประสงค์ของพระเจ้า", + "body": "\"พระประสงค์ของพระเจ้า\" อ้างถึงความต้องการและแผนการของพระเจ้า\n\n* พระประสงค์ของพระเจ้า เฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวข้องกับการปฏิสัมพันธ์กับคนและการที่พระองค์ต้องการให้คนตอบสนองต่อพระองค์อย่างไร\n* ยังอ้างถึงแผนการต่างๆ หรือพระประสงค์ต่างๆ ของพระองค์สำหรับสิ่งอื่นๆ ในการทรงสร้างของพระองค์\n* คำว่า \"ประสงค์\" หมายถึง \"มุ่งมั่น\" หรือ \"ต้องการ\"\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* \"พระประสงค์ของพระเจ้า\" อาจแปลว่า \"สิ่งที่พระเจ้าทรงต้องการ\" หรือ \"สิ่งที่พระเจ้าได้ทรงวางแผนไว้\" หรือ \"วัตถุประสงค์ของพระเจ้า\" หรือ \"สิ่งที่พระเจ้าทรงพอพระทัย\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/wine.txt b/01/wine.txt new file mode 100644 index 00000000..7c724f2f --- /dev/null +++ b/01/wine.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เหล้าองุ่น, ถุงเหล้าองุ่น, เหล้าองุ่นใหม่", + "body": "ในพระคัมภีร์ คำว่า \"เหล้าองุ่น\" อ้างถึงประเภทเครื่องดื่มที่หมักที่ทำจากน้ำผลไม้ที่เรียกว่าน้ำองุ่น เหล้าองุ่นจะถูกเก็บไว้ใน \"ถุงเหล้าองุ่น\" ซึ่งเป็นภาชนะที่ทำด้วยหนังสัตว์\n\n* คำว่า \"เหล้าองุ่นใหม่\" อ้างถึงน้ำองุ่นที่เพิ่งนำมาจากองุ่นและยังไม่หมัก บางครั้งคำว่า \"เหล้าองุ่น\" อ้างถึงน้ำองุ่นที่ไม่ได้หมักด้วย\n* ในการทำเหล้าองุ่น ผลองุ่นถูกคั้นในบ่อย่ำองุ่น เพื่อให้น้ำผลไม้ออกมา น้ำองุ่นจะถูกหมัก และเกิดมีแอลกอฮอล์ในนั้น\n* ในสมัยพระคัมภีร์ เหล้าองุ่นเป็นเครื่องดื่มปกติในการรับประทานอาหาร ซึ่งไม่ได้มีแอลกอฮอล์มากเท่าเหล้าองุ่นในปัจจุบันนี้\n* ก่อนที่เหล้าองุ่นถูกนำมาบริโภคสำหรับการรับประทานอาหาร ก็มักจะผสมกับน้ำก่อน\n* ถุงเหล้าองุ่นที่เก่าและเปื่อยจะมีรอยแตกในนั้นซึ่งทำให้เหล้าองุ่นรั่วออกมา ถุงเหล้าองุ่นใหม่จะนุ่มและยืดหยุ่น ซึ่งหมายความว่ามันไม่ฉีกขาดได้ง่ายและสามารถจัดเก็บเหล้าองุ่นได้อย่างปลอดภัย\n* หากเหล้าองุ่นไม่เป็นที่รู้จักในวัฒนธรรมของท่าน ก็สามารถแปลว่า \"น้ำองุ่นหมัก\" หรือ \"เครื่องดื่มหมักที่ทำจากผลไม้ที่เรียกว่าองุ่น\" หรือ \"น้ำผลไม้หมัก\" (ดู: [How to Translate Unknowns](https://git.door43.org/Door43/en-ta-translate-vol1/src/master/content/translate_unknown.md))\n* วิธีแปลคำว่า \"ถุงเหล้าองุ่น\" สามารถรวม \"ถุงสำหรับเหล้าองุ่น\" หรือ \"ถุงเหล้าองุ่นหนังสัตว์\" หรือ \"ภาชนะหนังสัตว์สำหรับเหล้าองุ่น\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/winepress.txt b/01/winepress.txt new file mode 100644 index 00000000..793c67f2 --- /dev/null +++ b/01/winepress.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "บ่อย่ำองุ่น", + "body": "ในสมัยพระคัมภีร์ \"บ่อย่ำองุ่น\" เป็นภาชนะที่ใหญ่ หรือสถานที่โล่งเป็นที่น้ำองุ่นจะถูกสกัดออกมาเพื่อทำเหล้าองุ่น\n\n* ในอิสราเอล บ่อย่ำองุ่น มักจะมีขนาดใหญ่ หลุมกว้างที่ขุดเข้าไปในพื้นหิน พวงองุ่นจะถูกวางลงบนก้นแบนราบของหลุมและคนก็ได้เหยียบย่ำองุ่นด้วยเท้าเพื่อให้น้ำองุ่นไหลออก\n* โดยปกติ บ่อย่ำองุ่นจะมีสองระดับ ด้วยการย่ำผลองุ่นในระดับบบน ดังนั้นน้ำองุ่นก็ไหลลงมาชั้นล่างเพื่อที่จะตวงเอาขึ้นมา\n* คำว่า \"บ่อย่ำองุ่น\" ได้ถูกใช้ในเชิงเปรียบเทียบในพระคัมภีร์ ถึงพระพิโรธของพระเจ้าที่ได้เทลงบนประชาชาติต่าง ๆ ที่ชั่วร้าย (ดู: [Metaphor](https://git.door43.org/Door43/en-ta-translate-vol1/src/master/content/figs_metaphor.md))" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/winnow.txt b/01/winnow.txt new file mode 100644 index 00000000..501a4d7f --- /dev/null +++ b/01/winnow.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ฝัดข้าว, ร่อน", + "body": "คำว่า \"ฝัดข้าว\" และ \"ร่อน\" หมายถึงการแยกเมล็ดข้าวออกจากวัสดุที่ไม่พึงประสงค์ ในพระคัมภีร์ คำทั้งสองคำก็ใช้เป็นเชิงเปรียบเทียบที่อ้างถึงการแยกหรือแบ่งผู้คน\n\n* \"ฝัดข้าว\" หมายความว่าแยกเมล็ดข้าวจากสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ในการเพาะปลูก โดยการโยนทั้งเมล็ดข้าวและแกลบขึ้นไปในอากาศ เพื่อให้ลมพัดแกลบออกไป\n* คำว่า \"ร่อน\" อ้างถึงการเขย่าเมล็ดข้าวในตะแกรงเพื่อขจัดวัสดุที่ไม่พึงประสงค์ที่เหลืออยู่เช่นสิ่งสกปรกหรือทรายออกจากเมล็ดข้าว\n* ในพันธสัญญาเดิม \"ฝัดข้าว\" และ \"ร่อน\" ใช้เปรียบเทียบเพื่ออธิบายความลำบากที่แยกคนชอบธรรมออกจากคนไม่ชอบธรรม\n* พระเยซูทรงใช้คำว่า \"ร่อน\" ด้วยวิธีการเปรียบเทียบนี้เมื่อพระองค์ทรงบอกซีโมน เปโตรว่าพวกเขาและสาวกคนอื่น ๆ จะได้รับการทดสอบความศรัทธาของพวกเขาอย่างไร\n* การแปลคำศัพท์เหล่านี้ ให้ใช้คำหรือวลีในภาษาที่กำลังแปลที่อ้างถึงกิจกรรมนี้ การแปลที่เป็นไปได้อย่างเช่น \"การเขย่า\" หรือ\"การพัดวี\" ถ้าฝัดข้าว หรือร่อนข้าวไม่เป็นที่รู้จัก ดังนั้น คำศัพท์เหล่านี้อาจแปลโดยคำที่อ้างถึงวิธีที่ต่างกันออกไปในการแยกเมล็ดข้าวออกจากแกลบหรือ ผง หรือโดยการอธิบายกระบวนการนี้" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/wise.txt b/01/wise.txt new file mode 100644 index 00000000..c5eea22f --- /dev/null +++ b/01/wise.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ฉลาด, ความฉลาด", + "body": "คำว่า \"ฉลาด\" อธิบายถึงคนที่เข้าใจว่าอะไรเป็นสิ่งที่ถูกต้องและมีคุณธรรมที่จะทำสิ่งนั้น \"ความฉลาด\" คือความเข้าใจและการปฏิบัติในสิ่งที่เป็นความจริงและถูกต้องตามหลักศีลธรรม\n\n* การเป็นคนฉลาดรวมถึงความสามารถในการตัดสินใจที่ดี เฉพาะอย่างยิ่งการเลือกที่จะทำในสิ่งที่เป็นที่พอพระทัยของพระเจ้า\n* ในพระคัมภีร์ คำว่า \"ความฉลาดฝ่ายโลก\" เป็นวิธีที่เปรียบในการอ้างอิงถึงสิ่งที่ผู้คนในโลกนี้คิดว่าฉลาด แต่ที่จริงแล้วเป็นสิ่งที่โง่เขลา\n* คนจะกลายเป็นคนฉลาดโดยการฟังพระเจ้าและเชื่อฟังพระประสงค์ของพระองค์ด้วยใจถ่อม\n* คนฉลาดจะแสดงผลของพระวิญญาณบริสุทธิ์ในชีวิตของเขา เช่นความสุข ความเมตตา ความรักและความอดทน\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ขึ้นอยู่กับบริบท วิธีอื่นในการแปล \"ฉลาด\" อาจรวมถึง \"เชื่อฟังพระเจ้า\" หรือ \"มีเหตุผลและเชื่อฟัง\" หรือ \"การยำเกรงพระเจ้า\"\n* \"สติปัญญา\" อาจแปลโดยคำหรือวลีที่แปลว่า \"ใช้ชีวิตที่ชาญฉลาด\" หรือ \"ดำรงชีวิตที่สมเหตุสมผลและเชื่อฟัง\" หรือ \"การตัดสินที่ดี\"\n* ทางที่ดีที่สุดคือแปล \"ฉลาด\" และ \"สติปัญญา\" ในแบบที่มันเป็นคำที่แตกต่างจากคำอื่น ๆ เช่นคำว่าชอบธรรมหรือ เชื่อฟัง เป็นต้น" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/wisemen.txt b/01/wisemen.txt new file mode 100644 index 00000000..c153424c --- /dev/null +++ b/01/wisemen.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "นักปราชญ์", + "body": "ในพระคัมภีร์ วลี \"นักปราชญ์\" ได้นำมาใช้เพื่ออ้างถึงผู้ที่มีความรู้ที่รับใช้พระเจ้าและกระทำอย่างชาญฉลาด ไม่โง่เขลา เป็นเป็นคำศัพท์พิเศษที่อ้างอึงพวกคนที่มีความรู้ไม่ธรรมดาและมีความสามารถหลายหลากที่รับใช้ในราชวังของกษัตริย์\n\n* บางครั้งคำว่า \"นักปราชญ์\" ถูกอธิบายในพระคัมภีร์ว่าเป็น \"คนที่ฉลาด\" หรือ คนที่มีความเข้าใจ\" อ้างอิงถึงคนที่กระทำสิ่งที่ฉลาด และชอบธรรม เพราะว่าพวกเขาเชื่อฟังพระเจ้า\n* \"คนฉลาด\" ที่รับใช้ฟาโรห์และกษัตริย์อื่นๆ บ่อยครั้งเป็นผู้คงแก่เรียนผู้ศึกษาดวงดาวต่างๆ เฉพาะอย่างยิ่งการศึกษาความหมายและรูปแบบของดวงดาวต่างๆ ตามตำแหน่งของดาวในท้องฟ้า\n* บ่อยครั้งพวกนักปราชญ์ถูกคาดหวังให้อธิบายความหมายของความฝัน ตัวอย่างเช่น กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์มีรับสั่งให้นักปราชญ์ของพระองค์ทำนายฝีันและบอกพระองค์ว่าสิ่งเหล่านั้นมีความหมายอย่างไร แต่ไม่มีใครสักคนในพวกเขาที่สามารถจะทำได้ ยกเว้น ดาเนียลผู้ได้รับความรู้นี้จากพระเจ้า\n* บางครั้งพวกนักปราชญ์ก็สามารถแสดงกล อย่างเช่น การทำนายโชคชะตาหรือทำเรื่องอัศจรรย์ที่ได้ทำผ่านทางอำนาจของวิญญาณชั่วต่างๆ\n* ในพันธสัญญาใหม่ กลุ่มคนที่มาจากภาคตะวันออกเพื่อนมัสการพระเยซูที่เรียกว่า \"เมไจ\" ซึ่งบ่อยครั้งที่แปลว่า \"นักปราชญ์\" ทั้งนี้บางทีได้อ้างถึงบรรดานักปราชญ์ผู้ที่รับใช้ผู้ปกครองประเทศทางตะวันออก\n* บางทีพวกคนเหล่านั้นอาจเป็นนักดาราศาสตร์ผู้ที่ได้ศึกษาดวงดาว มีหลายท่านได้มีความคิดว่าพวกเขาอาจเป็นลูกหลานของนักปราชญ์ผู้ซึ่งดาเนียลได้สอนพวกเขาเมื่ออยู่ในกรุงบาบิโลน\n* ขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า \"นักปราชญ์\" อาจแปลโดยใช้คำว่า \"ฉลาด\" หรือวลีอย่างเช่น \"คนที่มีตะลันต์\" หรือ\" คนที่มีการศึกษา\" หรือ คำอื่นๆ ที่อ้างถึงคนเหล่านั้นที่มีงานสำคัญสำหรับผู้ปกครอง\n* เมื่อ \"นักปราชญ์\" เป็นวลีคำนาม คำว่า \"ฉลาด\" ควรจะถูกแปลในความหมายเดียวกันหรือคล้ายคลึงกันเพื่อจะรู้ว่าได้มีการแปลอย่างไรในตอนอื่นๆ ของพระคัมภีร์" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/witness.txt b/01/witness.txt new file mode 100644 index 00000000..dd1f7ae0 --- /dev/null +++ b/01/witness.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "พยาน, สักขีพยาน", + "body": "คำว่า \"พยาน\" อ้างถึงถึงบุคคลผู้ที่มีประสบการณ์ส่วนตัวบางอย่างที่เกิดขึ้น โดยปกติพยานเป็นบางคนผู้ซึ่งเป็นพยานในสิ่งพวกเขารู้ว่าเป็นความจริง คำว่า \"สักขีพยาน\" จะเน้นที่ตัวบุคคลนั้นอยู่ที่นั่นจริงๆ และได้เห็นว่าได้เกิดอะไรขึ้น\n\n* \"เพื่อเป็นพยาน\" บางสิ่งบางอย่างหมายความว่าการเห็นสิ่งนี้เกิดขึ้น\n* ในการพิจารณาคดี พยาน \"ให้การเป็นพยาน\" หรือ \"เป็นพยาน\" นี่มีความหมายเช่นเดียวกับ \"ให้การยืนยัน\"\n* พยานทั้งหลาย ถูกคาดหวังว่าจะบอกความจริงเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาได้เห็นหรือได้ยิน\n* พยานที่ไม่ได้บอกความจริงเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นเรียกว่า \"พยานเท็จ\" เขาถูกกล่าวว่า \"ให้การเป็นพยานเท็จ\" หรือ \"เป็นพยานเท็จ\"\n* คำสำนวนว่า \"เป็นพยานระหว่าง\" หมายความว่าบางสิ่งบางอย่างหรือบางคนจะมีหลักฐานว่าที่ได้มีการทำสัญญาไว้ พยานจะแน่ใจว่าแต่ละคนทำในสิ่งที่เขาสัญญาไว้\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำว่า \"พยาน\" หรือ \"สักขีพยาน\" สามารถแปลด้วยคำหรือวลีที่มีความหมายว่า \"คนที่ได้เห็น\" หรือ \"คนที่เห็นเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น\" หรือ \"คนเหล่านั้นที่ได้เห็นและได้ยิน" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/woe.txt b/01/woe.txt new file mode 100644 index 00000000..fb9b9a10 --- /dev/null +++ b/01/woe.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "วิบัติ", + "body": "คำว่า \"วิบัติ\" อ้างถึงความรู้สึกทุกข์ใจอย่างยิ่ง มันยังให้คำเตือนที่ใครบางคนจะประสบปัญหารุนแรง\n\n* ข้อความ \"วิบัติแก่\" จะตามด้วยคำเตือนแก่ประชาชนที่พวกเขาประสบกับความทุกข์ทรมานถือเป็นการลงโทษสำหรับความบาปของพวกเขา\n* ในพระคัมภีร์หลายตอน คำว่า \"วิบัติ\" จะถูกพูดซ้ำเพื่อเน้นถึงเฉพาะอย่างยิ่งการพิพากษาอันน่ากลัว\n* บุคคลที่กล่าวว่า \"วิบัติคือข้าพเจ้า\" หรือ \"วิบัติแก่ข้าพเจ้า\" คือการแสดงออกถึงความทุกข์ทรมานอย่างรุนแรง\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า \"วิบัติ\" สามารถแปลว่า \"ความเศร้าโศกอย่างยิ่ง\" หรือ \"ความเศร้า\" หรือ \"ภัยพิบัติ\" หรือ \"ความพินาศ\"\n* วิธีอื่นในการแปลข้อความนี้ \"วิบัติแก่\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/wolf.txt b/01/wolf.txt new file mode 100644 index 00000000..013a3ca2 --- /dev/null +++ b/01/wolf.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "หมาป่า, ฝูงหมาป่า, สุนัขป่า", + "body": "หมาป่าเป็นสัตว์ดุร้าย สัตว์กินเนื้อที่คล้ายกับสุนัขป่า\n\n* หมาป่าโดยปกติมักล่าเป็นฝูงและพรางตัวอย่างฉลาดเมื่อเข้าหาเหยื่อของพวกมันและมีพฤติกรรมขี้ขโมย\n* ในพระคัมภีร์ คำศัพท์ว่า \"ฝูงหมาป่า\" ใช้ให้มองเห็นภาพเมื่ออ้างถึงครูสอนเท็จหรือผู้เผยพระวจนะเทียมเท็จ ผู้ซึ่งทำลายผู้เชื่อทั้งหลายที่เปรียบเหมือนแกะ การสอนที่ผิดๆ เป็นสาเหตุให้ประชาชนเชื่อในสิ่งที่ผิดที่นำอันตรายมาสู่พวกเขา\n* การเปรียบเทียบนี้อยู่บนพื้นฐานความจริงที่ว่าฝูงแกะนั้นอ่อนแอที่จะถูกโจมตีและถูกกินโดยฝูงหมาป่า เพราะว่าพวกมันอ่อนแอและไม่สามารถป้องกันตัวพวกมันเองเลย" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/womb.txt b/01/womb.txt new file mode 100644 index 00000000..9d7c6b00 --- /dev/null +++ b/01/womb.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "มดลูก", + "body": "คำว่า \"มดลูก\" อ้างถึงตำแหน่งที่ทารกเติบโตภายในมารดาของทารกนั้น\n\n* นี่คือคำศัพท์เก่า ซึ่งบางครั้งใช้คำนี้เพื่อความสุภาพและไม่ได้พูดตรงๆ (ดู: [euphemism](https://git.door43.org/Door43/en-ta-translate-vol2/src/master/content/figs_euphemism.md))\n* คำศัพท์ใหม่สำหรับมดลูกคือ \"มดลูก\"\n* บางภาษาใช้คำว่า \"ท้อง\" เพื่ออ้างถึงครรภ์ของสตรี หรือมดลูก\n* ให้ใช้คำนี้ในภาษาเป้าหมายซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี เป็นธรรมชาติและเป็นที่ยอมรับ" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/word.txt b/01/word.txt new file mode 100644 index 00000000..cec1165c --- /dev/null +++ b/01/word.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ถ้อยคำ", + "body": "\"ถ้อยคำ\" อ้างถึงบางสิ่งบางอย่างที่ใครบางคนได้พูด\n\n* ตัวอย่างเรื่องนี้ อย่างเช่น เมื่อทูตสวรรค์ได้บอกเศคาริยาห์ว่า \"ท่านไม่เชื่อถ้อยคำของเรา\" ซึ่งหมายความว่า \"ท่านไม่เชื่อในสิ่งที่เราได้พูด\"\n* คำนี้เกือบตลอดเวลาอ้างถึงข้อความทั้งหมดไม่ใช่แค่คำเดียว\n* บ่อยครั้งในพระคัมภีร์ \"ถ้อยคำ\" อ้างถึงทุกสิ่งที่พระเจ้าตรัสหรือสั่งเช่นใน \"พระวาทะของพระเจ้า\" หรือ \"ถ้อยคำแห่งความจริง\"\n* บางครั้ง \"ถ้อยคำ\" หมายถึงการพูดโดยทั่วไปเช่น \"พลังในถ้อยและการกระทำ\" ซึ่งหมายความว่า \"พลังในคำพูดและพฤติกรรม\"\n* การใช้คำนี้เป็นพิเศษคือเมื่อพระเยซูได้ถูกเรียกว่า \"พระวาทะ\"\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* วิธีต่างๆในการแปล \"ถ้อยคำ\" หรือ \"เหล่าถ้อยคำ\" รวมถึง \"การสอน\" หรือ \"ข้อความ\" หรือ \"ข่าว\" หรือ \"คำกล่าว\" หรือ \"สิ่งที่ได้กล่าวไว้\"\n* เมื่อคำนี้อ้างถึงพระเยซูว่าเป็น \"พระวาทะ\" คำนี้อาจแปลว่า \"คำสอน\" หรือ \"คำกล่าว\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/wordofgod.txt b/01/wordofgod.txt new file mode 100644 index 00000000..187b895e --- /dev/null +++ b/01/wordofgod.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "พระวาทะของพระเจ้า, พระวาทะของพระยาห์เวห์, พระวาทะขององค์พระผู้เป็นเจ้า, พระคัมภีร์", + "body": "ในพระคัมภีร์คำว่า \"พระวาทะของพระเจ้า\" อ้างถึงสิ่งที่พระเจ้าทรงสื่อสารต่อประชาชน นี่รวมถึงข้อความที่พูดและเขียน พระเยซูทรงถูกเรียกว่า \"พระวาทะของพระเจ้า\" ด้วย\n\n* คำว่า \"พระคัมภีร์\" หมายถึง \"งานเขียน\" ใช้เฉพาะในพันธสัญญาใหม่และหมายถึงพระคัมภีร์ภาษาฮีบรู หรือ \"พันธสัญญาเดิม\" งานเขียนเหล่านี้เป็นข้อความของพระเจ้าที่พระองค์ทรงบอกให้คนเขียนลงไป ดังนั้นหลายปีในอนาคตประชาชนก็ยังสามารถอ่านได้\n* คำที่เกี่ยวข้องกัน \"พระวาทะของพระยาห์เวห์\" และ \"พระวาทะของพระเจ้า\" บ่อยครั้งมักอ้างถึงข้อความเฉพาะจากพระเจ้าที่ประทานแก่ผู้เผยพระวจนะหรือบุคคลอื่นในพระคัมภีร์\n* บางครั้งคำนี้เกิดขึ้นง่ายๆ \"วาทะ\" หรือ \"วาทะของเรา\" หรือ \"พระวาทะของพระองค์\" (เมื่อพูดถึงพระคำของพระเจ้า)\n* ในพันธสัญญาใหม่พระเยซูทรงถูกเรียกว่าเป็น \"พระวาทะ\" และ \"พระวาทะของพระเจ้า\" ชื่อเหล่านี้หมายความว่าพระเยซูทรงเปิดเผยว่าพระเจ้าเป็นผู้ใด เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าเอง\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ขึ้นอยู่กับบริบท วิธีอื่นในการแปลคำนี้สามารถรวมถึง \"ข้อความของพระยาห์เวห์\" หรือ \"ข้อความของพระเจ้า\" หรือ \"คำสอนจากพระเจ้า\"\n* ในบางภาษาอาจมีความเป็นธรรมชาติมากกว่าที่จะทำให้คำนี้เป็นพหูพจน์และพูดว่า \"เหล่าพระคำของพระเจ้า\" หรือ \"มวลถ้อยคำของพระยาห์เวห์\"\n* คำกล่าวที่ว่า \"พระวาทะของพระยาห์เวห์มาถึง\" มักใช้เพื่อแนะนำสิ่งที่พระเจ้าตรัสกับผู้เผยพระวจนะหรือประชาชนของพระองค์ นี่อาจแปลได้ว่า \"พระยาห์เวห์ได้ตรัสข้อความนี้\" หรือ \"พระยาห์เวห์ตรัสคำเหล่านี้\"\n* คำว่า \"พระคัมภีร์\" หรือ \"พระคัมภีร์ทั้งหลาย\" สามารถแปลว่า \"งานเขียน\" หรือ \"ข้อความที่ได้การบันทึกจากพระเจ้า\" คำนี้ควรได้รับการแปลแตกต่างจากคำแปลของคำว่า \"พระวาทะ\"\n* เมื่อ \"พระวาทะ\" ปรากฎขึ้นเพียงอย่างเดียวอาจแปลว่า \"ข้อความ\" หรือ \"พระวาทะของพระเจ้า\" หรือ \"คำสอน\" ขึ้นอยู่กับบริบท ลองพิจารณาคำแปลอื่นที่แนะนำไว้ด้านบน" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/wordoftruth.txt b/01/wordoftruth.txt new file mode 100644 index 00000000..18bb9e8f --- /dev/null +++ b/01/wordoftruth.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ถ้อยคำแห่งความจริง", + "body": "คำว่า \"ถ้อยคำแห่งความจริง\" เป็นอีกวิธีหนึ่งในการกล่าวถึงคำสอนหรือคำสอนของพระเจ้า\n\n* พระวจนะแห่งความจริงของพระเจ้าประกอบด้วยทุกอย่างที่พระเจ้าได้สอนประชาชนเกี่ยวกับตัวพระองค์เอง การทรงสร้างและแผนแห่งความรอดโดยทางพระเยซู\n* คำนี้เน้นความจริงที่ว่าสิ่งที่พระเจ้าตรัสบอกเรานั้นเป็นความจริง สัตย์ซื่อ และเป็นจริง\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* นี่สามารถแปลว่า \"คำสอนที่สัตย์จริงของพระเจ้า\" หรือ \"พระคำของพระเจ้า ซึ่งเป็นความจริง\"\n* เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการแปลคำนี้ให้รวมถึงความหมายของความเป็นจริง" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/works.txt b/01/works.txt new file mode 100644 index 00000000..d055c758 --- /dev/null +++ b/01/works.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ผลงาน, การกระทำ, ทำงาน, การกระทำ", + "body": "ในพระคัมภีร์คำว่า \"ผลงาน\" \"การกระทำ\" และ \"การกระทำ\" จะใช้เพื่ออ้างถึงสิ่งต่างๆที่พระเจ้าหรือมนุษย์ทำ\n\n* คำว่า \"ทำงาน\" หมายถึงการทำงานหรืออะไรก็ตามที่ทำเพื่อคนอื่น\n* \"ผลงาน\" ของพระเจ้า และ \"ผลงานจากพระหัตถ์ของพระองค์\" เป็นสำนวนที่กล่าวถึงทุกสิ่งที่พระองค์ทำหรือได้กระทำรวมถึงการสร้างโลก ช่วยคนบาปให้รอด ดูแลใส่ใจต่อความต้องการของสิ่งที่ทรงสร้างทั้งหมดและรักษาจักรวาลทั้งสิ้นให้อยู่ในที่ คำว่า \"การกระทำ\" และ \"การกระทำ\" ยังใช้เพื่ออ้างถึงการอัศจรรย์ของพระเจ้าในการแสดงออกเช่น \"การกระทำที่ยิ่งใหญ่\" หรือ \"การกระทำที่น่าอัศจรรย์\"\n* ผลงานหรือการกระทำที่บุคคลทำสมารถเป็นได้ทั้งดีหรือชั่ว\n* พระวิญญาณบริสุทธิ์ให้อำนาจผู้เชื่อในการทำดีซึ่งเรียกอีกอย่างว่า \"ผลที่ดี\"\n* คนทั้งหลายไม่ได้รับการช่วยให้รอดโดยการทำดีของพวกเขา แต่พวกเขารอดด้วยศรัทธาในพระเยซูคริสต์\n* \"งาน\" ของบุคคลหนึ่งสามารถเป็นสิ่งที่เขาทำเพื่อหาเลี้ยงชีพหรือเพื่อรับใช้พระเจ้า พระคัมภีร์ยังกล่าวถึงพระเจ้าว่า \"ทรงทำงาน\"\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* การแปล \"ผลงาน\" หรือ \"การกระทำ\" อื่น ๆ อาจเป็น \"การกระทำ\" หรือ \"สิ่งต่างๆที่ได้ทำแล้ว\"\n* เมื่อพูดถึง \"ผลงาน\" หรือ \"การกระทำ\" ของพระเจ้าและ \"การทำงานของมือของพระองค์\" คำพูดเหล่านี้อาจแปลว่า \"การอัศจรรย์\" หรือ \"การกระทำที่ยิ่งใหญ่\" หรือ \"สิ่งมหัศจรรย์ที่พระองค์ทำ\"\n* วลี \"งานของพระเจ้า\" สามารถแปลว่า \"สิ่งที่พระเจ้าทรงกำลังทำ\" หรือ \"สิ่งมหัศจรรย์ที่พระเจ้าทรงกระทำ\" หรือ \"สิ่งน่าอัศจรรย์ที่พระเจ้าทรงกระทำ\" หรือ \"ทุกสิ่งที่พระเจ้าทรงกระทำ\"\n* คำว่า \"งาน\" สามารถเป็นเพียงคำเดียวใน \"ผลงาน\" เช่นเดียวกับ \"งานดีทุกอย่าง\" หรือ \"ผลงานดีทุกอย่าง\"\n* คำว่า \"งาน\" อาจมีความหมายกว้าง ๆ ของ \"บริการ\" หรือ \"พันธกิจ\" ตัวอย่างเช่นคำว่า \"งานของท่านในองค์พระผู้เป็นเจ้า\" สามารถแปลว่า \"สิ่งที่ท่านทำเพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้า\" \n* คำว่า \"ตรวจสอบงานของท่านเอง\" สามารถแปลเป็น \"ให้แน่ใจว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่คือพระประสงค์ของพระเจ้า\" หรือ \"ทำให้แน่ใจว่าท่านกำลังทำอยู่เป็นที่ชอบต่อน้ำพระทัยของพระเจ้า\" \n*คำที่กล่าวว่า \"การทำงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์\" สามารถแปลว่า \"การเสริมอำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์\" หรือ \"พันธกิจของพระวิญญาณบริสุทธิ์\" หรือ \"สิ่งที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงกระทำ\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/world.txt b/01/world.txt new file mode 100644 index 00000000..8b08066e --- /dev/null +++ b/01/world.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "โลก, โลกียวิสัย", + "body": "คำว่า \"โลก\" โดยปกติหมายถึงส่วนหนึ่งของจักรวาลที่ผู้คนอาศัยอยู่: แผ่นดินโลก คำว่า \"โลกียวิสัย\" อธิบายค่านิยมและพฤติกรรมที่ชั่วร้ายของผู้คนที่อาศัยอยู่ในโลกนี้\n\n* ในแง่ทั่วไปที่สุดคำว่า \"โลก\" หมายถึงฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกตลอดจนทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในนั้น\n* ในบางบริบท \"โลก\" แท้จริง หมายถึง \"ผู้คนในโลก\" \n* บางครั้งก็เป็นนัยที่ว่าคำนี้หมายถึงคนชั่วร้ายบนแผ่นดินโลกหรือคนที่ไม่เชื่อฟังพระเจ้า\n* พวกอัครสาวกได้ใช้ \"โลก\" เพื่ออ้างถึงพฤติกรรมที่เห็นแก่ตัวและคุณค่าที่ทุจริตของผู้คนที่อาศัยอยู่ในโลกนี้ นี่รวมถึงการปฏิบัติทางศาสนาที่ให้ตนเองชอบธรรมซึ่งขึ้นอยู่กับความพยายามของมนุษย์เอง\n* ผู้คนและสิ่งต่างๆ ที่จัดประเภทให้มีคุณค่าเหล่านี้กล่าวกันว่าเป็น \"โลกียวิสัย\"\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* ขึ้นอยู่กับบริบท \"โลก\" สามารถแปลว่า \"จักรวาล\" หรือ \"คนในโลกนี้\" หรือ \"สิ่งเลวร้ายในโลก\" หรือ \"ทัศนคติที่ชั่วร้ายของผู้คนในโลก\"\n* คำว่า \"ทั่วทั้งโลก\" มักหมายถึง \"คนจำนวนมาก\" และอ้างถึงคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่หนึ่งเฉพาะ ตัวอย่างเช่น \"คนทั่วทั้งโลกมายังอียิปต์\" สามารถแปลได้ว่า \"หลายคนจากประเทศโดยรอบเข้ามาในอียิปต์\" หรือ \"คนจากทุกประเทศรอบ ๆ ประเทศอียิปต์เข้ามาที่นั่น\"\n* อีกวิธีหนึ่งในการแปล \"ทั่วทั้งทั่วโลกได้กลับไปบ้านเกิดของพวกเขาเพื่อลงทะเบียนในสำมะโนประชากรโรมัน\" จะเป็น \"หลายคนที่อาศัยอยู่ในดินแดนที่ปกครองโดยจักรวรรดิโรมันได้ไป ... \"\n* ขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า \"โลกียวิสัย\" อาจแปลว่า \"ชั่ว\" หรือ \"บาป\" หรือ \"เห็นแก่ตัว\" หรือ \"อธรรม\" หรือ \"ทุจริต\" หรือ \"ได้รับอิทธิพลจากความเสื่อมทรามของคนในโลกนี้\"\n* วลี \"กล่าวถึงสิ่งเหล่านี้ในโลก\" สามารถแปลว่า \"กล่าวถึงสิ่งเหล่านี้แก่ผู้คนในโลก\"\n* ในบริบทอื่นๆ \"ในโลก\" สามารถแปลได้ว่า\"ดำรงชีวิตท่ามกลางประชากรในโลก\" หรือ \"ดำรงชีวิตท่ามกลางคนอธรรม\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/worship.txt b/01/worship.txt new file mode 100644 index 00000000..05619dd3 --- /dev/null +++ b/01/worship.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "การนมัสการ", + "body": "\"การนมัสการ\" หมายถึงการยกย่องสรรเสริญและเชื่อฟังบางคน เฉพาะอย่างยิ่ง พระเจ้า\n\n* คำนี้บ่อยครั้งจะมีความหมายตามตัวอักษร \"น้อมลง\" หรือ \"กราบไหว้\" เพื่อถ่อมตนให้เกียรติบางคน\n* เรานมัสการพระเจ้าเมื่อเรารับใช้และให้เกียรติพระองค์ โดยการสรรเสริญพระองค์และเชื่อฟังพระองค์\n* เมื่อคนอิสราเอลนมัสการพระเจ้า มักมีการถวายสัตวบูชาบนแท่นบูชา\n* บางคนนมัสการพระเจ้าเทียมเท็จ\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* คำว่า \"นมัสการ\" สามารถแปลว่า \"ก้มลง\" หรือ \"ให้เกียรติและรับใช้\" หรือ \"ให้เกียรติและเชื่อฟัง\"\n* ในบางบริบท ก็สามารถแปลว่า \"การสรรเสริญอย่างถ่อมตัว\" หรือ \"ให้เกียรติและสรรเสริญ\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/worthy.txt b/01/worthy.txt new file mode 100644 index 00000000..43ce9646 --- /dev/null +++ b/01/worthy.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "น่ายกย่อง, คุ้มค่า ไม่คู่ควร ไม่มีคุณค่า", + "body": "คำว่า \"น่ายกย่อง\" อธิบายถึงบางคนหรือบางสิ่งที่สมควรได้รับการเคารพหรือให้เกียรติ การ \"มีคุณค่า\" หมายถึงการมีคุณค่าหรือความสำคัญ คำว่า \"ไม่มีคุณค่า\" หมายถึงไม่มีค่าใด ๆ เลย\n\n* การน่ายกย่อง เกี่ยวข้องกับการมีคุณค่าหรือมีความสำคัญ\n* การ \"ไม่คู่ควร\" หมายถึงไม่สมควรได้รับการแจ้งพิเศษใด ๆ\n* ไม่รู้สึกว่าน่ายกย่องหมายถึง รู้สึกด้อยความสำคัญกว่าผู้อื่นหรือรู้สึกไม่สมควรที่จะได้รับการปฏิบัติด้วยความเคารพหรือความเมตตา\n* คำว่า \"ไม่คู่ควร\" และคำว่า \"ไม่มีคุณค่า\" มีความเกี่ยวข้อง แต่มีความหมายต่างกัน การ \"ไม่คู่ควร\" หมายถึงไม่สมควรได้รับเกียรติหรือการรับรู้ใด ๆ ส่วน \"ไม่มีคุณค่า\" หมายถึงไม่มีจุดมุ่งหมายหรือคุณค่าใด ๆ\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* \"น่ายกย่อง\" สามารถแปลว่า \"สมควรได้รับ\" หรือ \"สำคัญ\" หรือ \"มีคุณค่า\"\n* คำว่า \"คุ้มค่า\" สามารถแปลเป็น \"มีค่า\" หรือ \"ความสำคัญ\"\n* วลี \"มีคุณค่า\" สามารถแปลได้ว่า \"มีค่า\" หรือ \"เป็นสำคัญ\"\n* วลี \"มีคุณค่ามากกว่า\" สามารถแปลว่า \"มีค่ามากกว่า\"\n* ขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า \"ไม่มีคุณค่า\" สามารถแปลว่า \"ไม่สำคัญ\" หรือ \"ไม่มีเกียรติ\" หรือ \"ไม่สมควรได้รับ\"\n* คำว่า \"ไม่มีคุณค่า\" สามารถแปลว่า \"ไม่มีค่าราคา\" หรือ \"ไม่มีจุดประสงค์\" หรือ \"ไม่มีค่าอะไรเลย\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/wrath.txt b/01/wrath.txt new file mode 100644 index 00000000..cdcd1df0 --- /dev/null +++ b/01/wrath.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ความโกรธเกรี้ยว, ความโกรธจัด", + "body": "ความโกรธเกรี้ยวเป็นความโกรธที่รุนแรงซึ่งบางครั้งก็ค้างอยู่นาน โดยเฉพาะอ้างถึงการพิพากษาอันชอบธรรมของพระเจ้าเกี่ยวกับบาปและการลงโทษผู้ที่กบฏต่อพระองค์\n\n* ในพระคัมภีร์ \"ความโกรธเกรี้ยว\" โดยปกติอ้างถึงความโกรธของพระเจ้าต่อคนเหล่านั้นผู้ที่ทำบาปต่อพระองค์\n* \"ความโกรธเกรี้ยวของพระเจ้า\" ยังหมายถึงการพิพากษาและการลงโทษเพราะความบาป\n* ความโกรธกริ้วของพระเจ้าเป็นการลงโทษที่ชอบธรรมแก่คนที่ไม่กลับใจจากบาปของพวกเขา\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n*ขึ้นอยู่กับบริบท วิธีอื่น ๆ ที่ใช้ในคำนี้อาจรวมถึง \"ความโกรธจัด\" หรือ \"การพิพากษาที่ชอบธรรม\" หรือ \"ความโกรธ\"\n* เมื่อพูดถึงพระพิโรธของพระเจ้า จงให้แน่ใจว่าคำหรือวลีที่ใช้ในการแปลคำนี้ไม่ได้อ้างอิงถึงการโมโหร้ายด้วยความบาป ความกริ้วของพระเจ้าเป็นความยุติธรรมและบริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/written.txt b/01/written.txt new file mode 100644 index 00000000..af892d5c --- /dev/null +++ b/01/written.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ตามที่เขียนไว้", + "body": "วลี \"ตามที่เขียนไว้\" หรือ \"สิ่งที่เขียนขึ้น\" เกิดขึ้นบ่อยๆในพันธสัญญาใหม่และโดยปกติอ้างถึงถึงคำสั่งต่างๆ หรือคำทำนายต่างๆ ที่เขียนขึ้นในพระคัมภีร์ภาษาฮีบรู\n\n* บางครั้ง \"ตามที่เขียนไว้\" อ้างอิงถึงสิ่งที่เขียนไว้ในกฎหมายของโมเสส\n* ในโอกาสอื่นๆ ก็เป็นข้ออ้างอิงจะสิ่งที่ผู้เผยพระวจนะได้เขียนไว้ในพันธสัญญาเดิม\n* นี่สามารถแปลว่า \"ตามที่เขียนไว้ในกฎหมายของโมเสส\" หรือ \"ตามที่เหล่าผู้เผยพระวจนะได้เขียนมานานแล้ว\" หรือ \"สิ่งที่กล่าวในกฎหมายของพระเจ้าที่โมเสสได้เขียนมานานแล้ว\"\n* อีกทางเลือกหนึ่งคือการคงไว้ \"ตามที่เขียนไว้\" และให้เชิงอรรถเพื่ออธิบายถึงความหมายนี้" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/wrong.txt b/01/wrong.txt new file mode 100644 index 00000000..a07f1c4e --- /dev/null +++ b/01/wrong.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "กระทำผิด, ทำไม่ดีต่อ, ทำร้าย", + "body": "การ \"กระทำผิด\" ต่อบางคนหมายถึงการปฎิบัติต่อบุคคลนั้นอย่างไม่ยุติธรรมและอย่างไม่สัตย์ซื่อ\n\n* คำว่า \"การทำไม่ดี\" หมายความว่าการกระทำที่ไม่ดีหรือหยาบคายต่อบางคน เป็นการทำร้ายร่างกาย หรืออารมณ์ของบุคคลนั้น\n* คำว่า \"การทำร้าย\" เป็นคำที่ใช้โดยทั่วไปและหมายความว่า \"เป็นเหตุให้บางคนถูกทำร้ายในบางวิธี\" โดยทั่วไปจะมีความหมายว่า \"ทำให้บาดเจ็บทางร่างกาย\"\n* ขึ้นอยู่กับบริบท คำนี้สามารถแปลว่า \"ทำผิดต่อ\" หรือ \"กระทำไม่ยุติธรรมต่อ\" หรือ \"เป็นเหตุให้เกิดการทำร้ายแก่\" หรือทำไม่ดีในทางที่เป็นอันตราย\" หรือ \"ทำร้าย\" " + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/yahweh.txt b/01/yahweh.txt new file mode 100644 index 00000000..135668b8 --- /dev/null +++ b/01/yahweh.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "พระยาห์เวห์", + "body": "คำว่า \"พระยาห์เวห์\" เป็นชื่อส่วนตัวของพระเจ้าซึ่งพระองค์ทรงสำแดงแก่โมเสสที่พุ่มไม้ที่กำลังลุกไหม้\n\n* ชื่อ \"พระยาห์เวห์\" มาจากคำที่หมายถึง \"เป็นอยู่\" หรือ \"ดำรงอยู่\"\n* ความหมายที่เป็นไปได้ของ \"พระยาห์เวห์\" รวมทั้ง \"พระองค์เป็น\" หรือ \"เราเป็น\" หรือ \"ผู้ที่ทำให้เกิด\"\n* ชื่อนี้เผยให้เห็นว่าพระเจ้าทรงสถิตอยู่เสมอและจะยังดำรงอยู่ต่อไปเป็นนิจ ยังมีหมายความว่า พระองค์ดำรงอยู่เสมอ\n*ตามธรรมเนียมปฎิบัติ พระคัมภีร์หลายคำแปลใช้คำศัพท์ \"องค์พระผู้เป็นเจ้า\" หรือ \"พระผู้เป็นเจ้า\" แทนที่ \"พระยาห์เวห์\" ธรรมเนียมหฎิบัตินี้เป็นผลจากข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ คนยิวกลัวการออกพระนามของพระยาห์เวห์ และเลี่ยงไปใช้คำว่า \"องค์พระผู้เป็นเจ้า\" ทุกครั้งที่เห็นคำว่า \"พระยาห์เวห์\" ปรากฏ ในพระคัมภีร์สมัยใหม่เขียน \"องค์พระผู้เป็นเจ้า\" ด้วยตัวพิมพ์ใหญ่เพื่อแสดงความเคารพในพระนามของพระองค์เพื่อให้แตกต่างจาก \"พระเจ้า\" ซึ่งเป็นภาษาฮีบรูคำอื่น \n* พระคัมภีร์ ULB และ UDB มักแปลคำนี้ว่า \"พระยาห์เวห์\" ตามที่ปรากฏในข้อความภาษาฮีบรูในพันธสัญญาเดิม\n* ตำว่า \"พระยาห์เวห์\" ไม่มีปรากฏเลยเลยในต้นฉบับของพระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่ ใช้เพียงคำภาษากรีกว่า \"พระผู้เป็นเจ้า \" แม้แต่ในการอ้างอิงพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* \"พระยาห์เวห์\" สามารถแปลโดยคำหรือวลีที่แปลว่า \"เราเป็น\" หรือ \"เราดำรงอยู่\" หรือ \"เราผู้ที่เป็น\" หรือ \"พระองค์ผู้ทรงพระชนม์อยู่\"\n* คำนี้อาจเขียนในลักษณะที่คล้ายคลึงกับคำสะกด \"พระยาห์เวห์\"\n*คริสตจักรบางคณะนิกายไม่ชอบที่จะให้คำ \"พระยาห์เวห์\" และใช้คำตามธรรมเนียม \"องค์พระผู้เป็นเจ้า\" การพิจารณาที่สำคัญคือนี่อาจทำให้สับสนเมื่ออ่านออกเสียง เพราะมันจะออกเสียงเช่นเดียวกับคำว่า \"พระผู้เป็นเจ้า\" ในบางภาษาอาจมีคำนำหน้าหรือหมายเหตุทางไวยากรณ์ที่เพิ่มเข้ามาให้เป็นความแตกต่าง ของคำว่า \"องค์พระผู้เป็นเจ้า\"\n\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/yahwehofhosts.txt b/01/yahwehofhosts.txt new file mode 100644 index 00000000..32617a43 --- /dev/null +++ b/01/yahwehofhosts.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "พระยาห์เวห์จอมเจ้าทั้งมวล, พระเจ้าจอมเจ้าทั้งมวล, จอมเจ้า", + "body": "คำว่า \"พระยาห์เวห์จอมเจ้า\" และ \"พระเจ้าจอมเจ้าทั้งมวล\" เป็นตำแหน่งที่แสดงถึงอำนาจสิทธิ์ขาดของพระเจ้าเหนือบรรดาทูตสวรรค์นับหลายพันที่เชื่อฟังพระองค์\n\n* คำว่า \"จอมเจ้า\" หรือ \"จอมเจ้าทั้งมวล\" เป็นคำที่หมายถึงสิ่งต่างๆ จำนวนมาก เช่นกองทัพของคนหรือจำนวนดาวจำนวนมหาศาล นี่สามารถอ้างอิงถึงดวงวิญญาณต่างๆ จำนวนมาก รวมทั้งวิญญาณชั่วทั้งหลาย บริบทนี้ทำให้ชัดเจนว่ากำลังอ้างถึงอะไร\n*วลีที่คล้ายคลึงกับ \"จอมเจ้าแห่งสวรรค์\" อ้างถึงดาวทั้งหมด ดาวเคราะห์และสิ่งต่างๆ แห่งสวรรค์\n* ในพันธสัญญาใหม่ วลี \"องค์พระผู้เป็นเจ้าของจอมเจ้า\" มีความหมายเช่นเดียวกับ \"พระยาห์เวห์จอมเจ้าทั้งมวล\" แต่นี่ไม่สามารถแปลเช่นนั้นได้ เพราะภาษาฮีบรู \"พระยาห์เวห์\" ไม่ได้ใช้ในพันธสัญญาใหม่\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* วิธีการแปลชื่อตำแหน่ง \"พระยาห์เวห์จอมเจ้าทั้งมวล\" สามารถรวมเอา \"พระยาห์เวห์ ผู้ทรงปกครองทูตสวรรค์ทั้งปวง\" หรือ \"พระยาห์เวห์ผู้ทรงปกครองเหนือกองทัพของทูตสวรรค์\" หรือพระยาห์เวห์ ผู้ทรงปกครองเหนือการทรงสร้าง\"\n* วลี \"จอมเจ้าทั้งมวล\" ในคำศัพท์ \"พระเจ้าจอมเจ้าทั้งมวล\" และ \"องค์พระผู้เป็นเจ้าจอมเจ้าทั้งมวล\" จะแปลเหมือนกันในวลี \"พระยาห์เวห์จอมเจ้าทั้งมวล\" ตามข้างต้น\n*คริสตจักรหลายแห่งไม่ยอมรับคำว่า \"พระยาห์เวห์\" และชอบที่จะใช้คำศัพท์ตัวอักษรใหญ่ \"องค์พระผู้เป็นเจ้า\" แทน ตามธรรมเนียมของพระคัมภีร์หลายๆ สำนวน สำหรับคริสตจักรเหล่านี้ การแปลคำว่า \"องค์พระผู้เป็นเจ้าจอมเจ้าทั้งมวล\" จะใช้พระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม สำหรับ \"พระยาห์เวห์จอมเจ้าทั้งมวล\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/yeast.txt b/01/yeast.txt new file mode 100644 index 00000000..752e8372 --- /dev/null +++ b/01/yeast.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ยีสต์ , เชื้อหมักให้ฟู", + "body": "\"เชื้อหมักให้ฟู\" เป็นคำศัพท์ทั่วไปสำหรับสารที่ทำให้แป้งขนมปังขยายตัวและฟูขึ้น \"ยีสต์\" เป็นเชื้อหมักที่ทำให้ฟูชนิดหนึ่ง\n\n* ในคำแปลภาษาอังกฤษบางคำแปล คำว่าเชื้อหมักให้ฟูจะแปลว่า \"ยีสต์\" ซึ่งเป็นผงฟูสมัยใหม่ที่เติมแป้งขนมปังพร้อมด้วยฟองก๊าซทำให้แป้งขยายตัวก่อนที่จะอบ ยีสต์ถูกนวดลงในแป้งจนแพร่กระจายไปทั่วก้อนทั้งหมดของแป้ง\n * ในสมัยพันธสัญญาเดิมการทำเชื้อหมักให้ฟู หรือผงฟูผลิตโดยการปล่อยให้แป้งขนมปังทิ้งไว้สักครู่ แป้งจำนวนเล็กน้อยจากแป้งชุดก่อนหน้านี้ได้รับการเก็บไว้เป็นผงหมักให้ฟูสำหรับการใช้ครั้งต่อไป\n* คำว่า \"เชื้อหมักให้ฟู\" หรือ \"ยีสต์\" ได้ถูกใช้เป็นเชิงเปรียบเทียบในพระคัมภีร์เป็นภาพความบาปที่แพร่กระจายผ่านชีวิตของบุคคลหรือบาปมีอิทธิพลต่อคนอื่นได้อย่างไร\n* นอกจากนี้ยังอ้างถึงการสอนเทียมเท็จซึ่งบ่อยครั้งกระจายไปยังประชาชนจำนวนมากและมีอิทธิพลต่อพวกเขา\n* คำว่า \"เชื้อหมักให้ฟู\" ถูกใช้ในทางบวกด้วยเพื่ออธิบายว่าอิทธิพลของอาณาจักรของพระเจ้าแพร่ขยายจากคนสู่คนอย่างไร\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* นี่สามารถแปลได้ว่าเป็น \"เชื้อหมักให้ฟู\" หรือ \"สารที่ทำให้ขนมปังฟูขึ้น\" หรือ \"สารที่ทำให้ขายตัว\" คำว่า \"ฟูขึ้น\" อาจอธิบายว่าเป็น \"ขยาย\" หรือ \"ใหญ่ขึ้น\" หรือ \"พองตัวขึ้น\"\n* ถ้ามีตัวทำให้ฟูขึ้นในท้องถิ่นที่ใช้ทำให้แป้งขนมปังฟู คำนั้นก็สามารถใช้ได้ ถ้ามีคำที่เป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้วในภาษา คำทั่วไปที่มีความหมายว่า \"เชื้อหมักทำให้ฟู\" ก็เป็นคำที่ดีที่สุดที่จะสามารถใช้คำนี้ได้" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/yoke.txt b/01/yoke.txt new file mode 100644 index 00000000..c903d91a --- /dev/null +++ b/01/yoke.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "แอก", + "body": "แอกเป็นชิ้นส่วนของไม้หรือโลหะที่เอาไปมัดกับสัตว์สองตัวหรือมากกว่าเพื่อเชื่อมพวกมันเพื่อวัตถุประสงค์ในการลากคันไถหรือลากเกวียน มีความหมายเชิงเปรียบเทียบมากมายสำหรับคำนี้ \n\n* คำว่า \"แอก\" ได้ถูกใช้ในคำอุปมาอุปมัยที่อ้างถึงบางสิ่งที่รวมประชาชนสำหรับวัตถุประสงค์ในการทำงานร่วมกัน เช่นการรับใช้พระเยซู\n* เปาโลได้ใช้คำว่า \"เพื่อนร่วมแอก\" ในการอ้างอิงถึงบางคนผู้ที่กำลังรับใช้พระเยซูเช่นเดียวกับเขา นี่สามารถแปลได้เหมือนกันว่า \"เพื่อนคนงาน\" หรือ \"เพื่อนผู้รับใช้\" หรือ \"เพื่อนร่วมงาน\"\n* คำว่า \"แอก\" ยังใช้บ่อยครั้งในการเปรียบเทียบเชิงอุปมาอุปมัยที่อ้างถึงภาระหนักและบางคนต้องแบก อย่างเช่นถูกกดขี่เมื่อตกเป็นทาสหรือ ถูกข่มเหง\n* ในบริบทส่วนใหญ่ เป็นการดีที่สุดที่จะแปลคำนี้ตามตัวอักษร ใช้คำท้องถิ่นที่แปลว่า แอก ที่ใช้ในการทำการเกษตรกรรม\n* ทางอื่นในการแปลในเชิงอุปมาอุปมัยของคำนี้อาจเป็น \"ภาระที่กดดัน\" หรือ \"ภาระหนัก\" หรือ \"ผูกมัด\" ขึ้นอยู่กับบริบทนั้นๆ\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/zacchaeus.txt b/01/zacchaeus.txt new file mode 100644 index 00000000..f3979735 --- /dev/null +++ b/01/zacchaeus.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ศักเคียส", + "body": "ศักเคียส เป็นคนเก็บภาษีจาก เมืองเยริโค ผู้ได้ปีนขึ้นต้นไม้เพื่อจะสามารถมองเห็นพระเยซูผู้ที่ถูกล้อมรอบโดยฝูงประชาชนจำนวนมาก\n\n* ศักเคียส ได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงเมื่อเขาได้เชื่อในพระเยซู\n* เขาได้สำนึกผิดในความบาปของเขาที่ได้หลอกลวงประชาชนและได้สัญญาว่าจะให้ทรัพย์สมบัติของเขาครึ่งหนึ่งแก่คนยากจน\n* เขายังได้สัญญาว่าเขาจะจ่ายเงินคืนให้กับประชาชนจำนวนสี่เท่าตามจำนวนที่เขาได้เก็บภาษีของพวกเขาเกินมา" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/zadok.txt b/01/zadok.txt new file mode 100644 index 00000000..36b1408d --- /dev/null +++ b/01/zadok.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ศาโดก", + "body": "ศาโดกเป็นชื่อของมหาปุโรหิตคนสำคัญในอิสราเอลในรัชสมัยการปกครองของกษัตริย์ดาวิด\n\n* เมื่ออับซาโลมได้กบฏต่อกษัตริย์ดาวิด ศาโดกได้สนับสนุนดาวิดและได้ช่วยนำหีบพันธสัญญาไปยังกรุงเยรูซาเล็ม\n* หลายปีต่อมาเขาได้มีส่วนร่วมในพิธีสถาปนาซาโลมอนราชบุตรของดาวิดให้เป็นกษัตริย์\n* ชายสองคนที่ต่างกัน ที่มีชื่อศาโดกได้ช่วยสร้างกำแพงกรุงเยรูซาเล็มขึ้นใหม่ในช่วงเวลาของเนหะมีย์\n* ศาโดกเป็นชื่อของปู่ของกษัตริย์โยธาม" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/zealous.txt b/01/zealous.txt new file mode 100644 index 00000000..ac196767 --- /dev/null +++ b/01/zealous.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ความกระตือรือร้น, กระตือรือร้น", + "body": "คำว่า \"ความกระตือรือร้น\" และ \"กระตือรือร้น\" อ้างถึงการอุทิศตนเพื่อสนับสนุนบุคคลหรือแนวคิด\n\n* ความกระตือรือร้น มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าและการกระทำต่างๆ ที่ส่งเสริมเหตุที่ดี มักใช้เสมอในการอธิบายถึงคนที่ศรัทธาเชื่อฟังพระเจ้าและสอนให้คนอื่นทำเช่นนั้นด้วย\n* การกระตือรือร้นรวมถึงการใส่ความพยายามอย่างมากในการทำบางสิ่งบางอย่างและบากบั่นอย่างต่อเนื่องในความพยายาม\n* คำว่า \"ความกระตือรือร้นขององค์พระผู้เป็นเจ้า\" หรือ \"ความกระตือรือร้นของพระยาห์เวห์\" อ้างความเข้มแข็ง การกระทำที่ไม่ลดละที่จะอวยพรประชาชนของพระองค์ หรือ เพื่อให้เกิดความชอบธรรม\n\n# คำแนะนำในการแปล\n\n* \"การกระตือรือร้น\" สามารถแปลว่า \"จงขยันอย่างยิ่งยวด\" หรือ \"พยายามอย่างสูง\"\n* คำว่า \"ความกระตือรือร้น\" สามารถแปลว่า \"ความอุทิศตนที่มีพลัง\" หรือ \"ความกระตือรือร้นที่มีความมานะ\" หรือ \"ความกระตือรือร้นที่ชอบธรรม\"\n* วลีว่า \"กระตือรือร้นสำหรับบ้านของท่าน\" สามารถแปลได้ว่า \"ให้เกียรติอย่างยิ่งต่อวิหารของท่าน\" หรือ \"ความปรารถนาอย่างแรงกล้าในการดูแลบ้านของท่าน\"" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/zebedee.txt b/01/zebedee.txt new file mode 100644 index 00000000..6b2adb6b --- /dev/null +++ b/01/zebedee.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เศเบดี", + "body": "เศเบดี เป็นชาวประมงจากกาลิลี ผู้ซึ่งเป็นที่รู้จักเพราะบุตรชายของเขาคือ เจมส์ และ ยอห์นเป็นสาวกของพระเยซู พวกเขาถูกระบุในพันธสัญญาใหม่บ่อยๆ ในฐานะ \"บุตรชายของเศเบดี\"\n\n* พวกบุตรชายของเศเบดีก็เป็นชาวประมงด้วยเช่นกันและได้ทำงานกับเขาในการจับปลา\n* เจมส์ และยอห์น ได้ละการทำประมงของบิดาของพวกเขา คือเศเบดี และได้จากไปติดตามพระเยซู" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/zebulun.txt b/01/zebulun.txt new file mode 100644 index 00000000..6dbd08d3 --- /dev/null +++ b/01/zebulun.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เศบูลุน", + "body": "เศบูลุนเป็นบุตรชายคนสุดท้ายที่เกิดแก่ยาโคบและเลอาห์และเป็นชื่อของเผ่าหนึ่งในสิบสองเผ่าของอิสราเอล\n\n* ชาวอิสราเอลเผ่าเศบูลุนได้รับแผ่นดินทางฝั่งตะวันตกของทะเลตาย\n* บางครั้งชื่อ \"เศบูลุน\" ถูกนำมาใช้เพื่ออ้างถึงดินแดนที่ชนเผ่าอิสราเอลเหล่านี้ได้อาศัยอยู่\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/zechariahnt.txt b/01/zechariahnt.txt new file mode 100644 index 00000000..2453ef24 --- /dev/null +++ b/01/zechariahnt.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เศคาริยาห์ (พันธสัญญาใหม่)", + "body": "ในพันธสัญญาใหม่ เศคาริยาห์เป็นปุโรหิตชาวยิวผู้เป็นบิดาของยอห์นผู้ให้บัพติศมา\n\n* เศคาริยาห์ได้รักพระเจ้าและได้เชื่อฟังพระองค์\n*เป็นเวลาหลายปีเศคาริยาห์และภรรยาของเขาเอลิซาเบธ ได้อธิษฐานอย่างจริงจังขอให้มีบุตร แต่ก็ยังไม่มีเลยสักคน เมื่อพวกเขามีอายุมากแล้วพระเจ้าก็ได้ทรงตอบคำอธิษฐานของพวกเขาและให้พวกเขามีบุตรชายหนึ่งคน\n*เศคาริยาห์ได้ทำนายว่ายอห์นบุตรชายของเขาจะเป็นผู้เผยพระวจนะผู้ที่จะประกาศและเตรียมทางสำหรับพระเมสสิยาห์" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/zechariahot.txt b/01/zechariahot.txt new file mode 100644 index 00000000..c55b01ef --- /dev/null +++ b/01/zechariahot.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เศคาริยาห์ (พันธสัญญาเดิม)", + "body": "เศคาริยาห์เป็นผู้เผยพระวจนะผู้ที่ได้เผยพระวจนะในรัชสมัยของกษัตริย์ดาริอัสที่ 1 ของเปอร์เซีย ในพันธสัญญาเดิม พระธรรมเศคาริยาห์ได้บันทึกถ้อยคำเผยพระวจนะของเขาไว้ ซึ่งกระตุ้นการกลับจากการเป็นเชลยเพื่อไปก่อสร้างพระวิหารขึ้นใหม่อีกครั้ง\n\n* ผู้เผยพระวจนะเศคาริยาห์ มีชีวิตอยู่ในสมัยเดียวกับเอสรา เนหะมีย์ เศรุบบาเบล และฮักกัย เขาถูกเอ่ยชื่อโดยพระเยซูในฐานะผู้เผยพระวจนะคนสุดท้ายที่ถูกฆาตกรรมในสมัยพันธสัญญาเดิม\nผู้ชายอีกคนหนึ่งที่ชื่อเศคาริยาห์ เป็นยามเฝ้าประตูพระวิหารในช่วงเวลาของดาวิด \n* เศคาริยาห์ เป็นชื่อของปุโรหิตที่ถูกประชาชนอิสราเอลเอาหินขว้างตายเมื่อเขาได้ตำหนิพวกเขาที่ไปนมัสการรูปเคารพ\n* กษัตริย์เศคาริยาห์เป็นบุตรชายของเยโรโบอัมและเขาได้ปกครองเหนืออิราเอลเพียงหกเดือนก่อนถูกสังหาร\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/zedekiah.txt b/01/zedekiah.txt new file mode 100644 index 00000000..655e2615 --- /dev/null +++ b/01/zedekiah.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เศเดคียาห์", + "body": "เศเดคียาห์ บุตรชายของโยชีอา เป็นกษัตริย์องค์สุดท้ายของยูดาห์ (597-587 ก่อนคริสตศักราช) นอกจากนี้ยังมีอีกหลายคนที่ชื่อเศเดคียาห์ในพันธสัญญาเดิม\n\n* กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ได้ตั้งเศเดคียาห์เป็นกษัตริย์แห่งยูดาห์หลังจากที่ได้จับกษัตริย์เยโฮยาคีน และได้นำเขาไปยังกรุงบาบิโลน เศเดคียาห์ ต่อมาได้กบฏและผลที่ตามมา กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ได้จับกุมเขาและได้ทำลายกรุงเยรูซาเล็มทั้งสิ้น\n* เศเดคียาห์ บุตรชายของเคนาอันยาห์ เป็นผู้เผยพระวจนะเทียมเท็จในรัชสมัยของกษัตริย์อาหับแห่งอิสราเอล\n* ผู้ชายที่ชื่อ เศเดคียาห์ เป็นหนึ่งในคนเหล่านั้นที่ได้ลงนามในข้อตกลงกับองค์พระผู้เป็นเจ้าในสมัยของเนหะมีย์" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/zephaniah.txt b/01/zephaniah.txt new file mode 100644 index 00000000..30e19265 --- /dev/null +++ b/01/zephaniah.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เศฟันยาห์", + "body": "เศฟันยาห์ บุตรชายของคูชิ ผู้เผยพระวจนะที่ได้อาศัยอยูในกรุงเยรูซาเล็มและเป็นผู้เผยพระวจนะในรัชกาลโยสิยาห์กษัตริย์ของยูดาห์ เขาได้มีชีวิตอยู่ในสมัยเดียวกันกับเยเรมีย์ \n\n* เศฟันยาห์ได้ตำหนิประชาชนของยูดาห์ที่ไปนมัสการพระเทียมเท็จทั้งหลาย การเผยพระวจนะของเขาได้ถูกบันทึกไว้ในพระธรรมเศฟันยาห์ในพันธสัญญาเดิม\n * มีผู้ชายอีกหลายคนในพันธสัญญาเดิมที่ชื่อ เศฟันยาห์ ส่วนใหญ่เป็นปุโรหิต" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/zerubbabel.txt b/01/zerubbabel.txt new file mode 100644 index 00000000..6c19e0f3 --- /dev/null +++ b/01/zerubbabel.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "เศรุบบาเบล", + "body": "เศรุบบาเบล เป็นชื่อของคนอิสราเอลสองคนในพันธสัญญาเดิม\n\n* หนึ่งในสองคนนี้เป็นเชื้อสายของเยโฮยาคิมและเศเดคียาห์\n* เศรุบบาเบลอีกคนเป็นบุตรชายของเชอัลเทียล เป็นหัวหน้าตระกูลยูดาห์ ในช่วงสมัยของเอสราและเนหะมีย์ เมื่อไซรัสกษัตริย์เปอร์เซียได้ปลดปล่อยคนอิสราเอลออกจากการเป็นทาสที่กรุงบาบิโลน\n* เศรุบบาเบลและมหาปุโรหิตโยชูวาได้อยู่ในหมู่คนเหล่านั้นผู้ที่ช่วยสร้างพระวิหารและแท่นบูชาของพระเจ้า\n" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/zion.txt b/01/zion.txt new file mode 100644 index 00000000..4b043f48 --- /dev/null +++ b/01/zion.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ศิโยน, ภูเขาศิโยน", + "body": "เดิมคำว่า \"ศิโยน\" หรือ \"ภูเขาศิโยน\" อ้างถึงที่มั่นหรือป้อมปราการที่กษัตริย์ดาวิดยึดจากคนเยบุส คำทั้งสองนี้ได้กลายมาเป็นการอ้างอิงถึงกรุงเยรูซาเล็ม\n\n* ภูเขาศิโยนและภูเขาโมริยาห์เป็นเนินเขาสองแห่งซึ่งกรุงเยรูซาเล็มตั้งอยู่ ต่อมาภายหลัง \"ศิโยน\" และ \"ภูเขาศิโยน\" ได้กลายเป็นคำศัพท์ทั่วไปที่อ้างถึงวิหารที่ตั้งอยู่ในกรุงเยรูซาเล็ม (ดู : [metonymy](https://git.door43.org/Door43/en-ta-translate-vol2/src/master/content/figs_metonymy.md))\n* ดาวิดได้ตั้งชื่อ ศิโยน หรือ กรุงเยรูซาเล็ม ว่า \"เมืองของดาวิด\" นี่แตกต่างจากบ้านเกิดของดาวิด คือเมืองเบธเลเฮ็ม ซึ่งได้ถูกเรียกว่าเมืองของดาวิด\n* คำว่า \"ศิโยน\" ได้ใช้ในเชิงเปรียบเทียบอื่น ๆ อีก เพื่ออ้างถึงอิสราเอลหรืออาณาจักรแห่งจิตวิญญาณของพระเจ้า หรือ กรุงเยรูซาเล็มใหม่ กรุงเยรูซาเล็มแห่งสวรรค์ใหม่ซึ่งพระเจ้าจะทรงเนรมิตสร้าง" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/01/zoar.txt b/01/zoar.txt new file mode 100644 index 00000000..f99ce56f --- /dev/null +++ b/01/zoar.txt @@ -0,0 +1,6 @@ +[ + { + "title": "ซอร์", + "body": " ซอร์ เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่โลท ได้หลบหนีเมื่อพระเจ้าทรงทำลายเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์\n\n* ชื่อที่เป็นที่รู้จักกันก่อนหน้านี้คือ \"เบลา\" แต่ได้ถูกตั้งชื่อใหม่ว่า \"ซอร์\" เมื่อโลทได้ทูลขอพระเจ้าให้สงวนเมือง \"เล็ก ๆ\" นี้ไว้\n* ซอร์ ได้คิดกันว่าเมืองนี้ได้ตั้งอยู่บนที่ราบของแม่น้ำจอร์แดน หรือทางตอนใต้สุดของทะเลตาย" + } +] \ No newline at end of file diff --git a/manifest.json b/manifest.json index 9ada4dec..1ad19d73 100644 --- a/manifest.json +++ b/manifest.json @@ -34,374 +34,15 @@ "Amorn Thongdee", "Orawan Sivapornsatain", "Arart Pisarm", - "rose010" + "rose010", + "Somchai Obboon" ], "finished_chunks": [ - "01-12tribesofisrael", - "01-aaron", - "01-abel", - "01-abiathar", - "01-abijah", - "01-abimelech", - "01-abner", - "01-abomination", - "01-abraham", - "01-absalom", - "01-abyss", - "01-acacia", - "01-accuse", - "01-acknowledge", - "01-acquit", - "01-adam", - "01-administration", - "01-admonish", - "01-adonijah", - "01-adoption", - "01-adultery", - "01-adversary", - "01-afflict", - "01-age", - "01-ahab", - "01-ahasuerus", - "01-ahaz", - "01-ahaziah", - "01-ahijah", - "01-ai", - "01-alarm", - "01-almighty", - "01-alms", - "01-altar", - "01-altarofincense", - "01-amalekite", "01-amazed", - "01-amaziah", - "01-ambassador", - "01-amen", - "01-ammon", - "01-amnon", - "01-amorite", - "01-amos", - "01-amoz", - "01-andrew", - "01-angel", - "01-angry", - "01-anguish", - "01-annas", - "01-anoint", - "01-antichrist", - "01-antioch", - "01-apollos", - "01-apostle", - "01-appoint", - "01-aquila", - "01-arabah", - "01-arabia", - "01-aram", - "01-ararat", - "01-archer", - "01-ark", - "01-arkofthecovenant", - "01-armor", - "01-arrogant", - "01-artaxerxes", - "01-asa", - "01-asaph", - "01-ash", - "01-ashdod", - "01-asher", - "01-asherim", - "01-ashkelon", - "01-asia", - "01-assembly", - "01-assign", - "01-assyria", - "01-astray", - "01-athaliah", - "01-atonement", - "01-atonementlid", - "01-authority", - "01-avenge", - "01-awe", - "01-ax", - "01-azariah", - "01-baal", - "01-baasha", - "01-babel", - "01-babylon", - "01-balaam", - "01-banquet", - "01-baptize", - "01-barabbas", - "01-barley", - "01-barnabas", - "01-barren", - "01-bartholomew", - "01-baruch", - "01-bashan", - "01-basket", - "01-bathsheba", "01-bear", - "01-bearanimal", - "01-beast", - "01-beelzebul", - "01-beersheba", - "01-beg", - "01-believe", - "01-believer", - "01-beloved", - "01-benaiah", - "01-benjamin", - "01-berea", - "01-bethany", - "01-bethel", - "01-bethlehem", - "01-bethshemesh", - "01-bethuel", - "01-betray", - "01-biblicaltimeday", - "01-biblicaltimehour", - "01-biblicaltimemonth", - "01-biblicaltimewatch", - "01-biblicaltimeweek", - "01-biblicaltimeyear", - "01-birthright", - "01-blameless", - "01-blasphemy", - "01-blemish", - "01-bless", - "01-blood", - "01-bloodshed", - "01-blotout", - "01-boast", - "01-boaz", - "01-body", - "01-bold", - "01-bond", - "01-bookoflife", - "01-bornagain", - "01-bow", - "01-bowweapon", - "01-bread", - "01-breastplate", - "01-breath", - "01-bribe", - "01-bride", - "01-bridegroom", - "01-bronze", - "01-brother", - "01-burden", - "01-burntoffering", - "01-bury", - "01-caesar", - "01-caesarea", - "01-caiaphas", - "01-cain", - "01-caleb", - "01-call", - "01-camel", - "01-cana", - "01-canaan", - "01-capernaum", - "01-captive", - "01-carmel", - "01-castout", - "01-caughtup", - "01-cedar", - "01-census", - "01-centurion", - "01-chaff", - "01-chaldeans", - "01-chariot", - "01-cherethites", - "01-cherubim", - "01-chief", - "01-chiefpriests", - "01-children", - "01-christ", - "01-christian", - "01-chronicles", - "01-church", - "01-cilicia", - "01-circumcise", - "01-citizen", - "01-cityofdavid", - "01-clan", - "01-clean", - "01-clothed", - "01-colossae", - "01-comfort", - "01-command", - "01-commander", - "01-commit", - "01-companion", - "01-compassion", - "01-conceive", - "01-concubine", - "01-condemn", - "01-confess", - "01-confidence", - "01-confirm", - "01-conscience", - "01-consecrate", - "01-consume", - "01-contempt", - "01-corinth", - "01-cornelius", - "01-cornerstone", - "01-corrupt", - "01-council", - "01-counselor", - "01-courage", - "01-courtyard", - "01-covenant", - "01-covenantfaith", - "01-cow", - "01-creation", - "01-creature", - "01-crete", - "01-criminal", - "01-cross", - "01-crown", - "01-crucify", - "01-cry", - "01-cupbearer", - "01-curse", - "01-curtain", - "01-cush", - "01-cutoff", - "01-cypress", - "01-cyprus", - "01-cyrene", - "01-cyrus", - "01-damascus", - "01-dan", - "01-daniel", - "01-darius", - "01-darkness", - "01-daughterofzion", - "01-david", - "01-dayofthelord", - "01-deacon", - "01-death", - "01-deceive", - "01-declare", - "01-decree", - "01-dedicate", - "01-deer", - "01-defile", - "01-delight", - "01-delilah", - "01-deliverer", - "01-demon", - "01-demonpossessed", - "01-descendant", - "01-desecrate", - "01-desert", - "01-desolate", - "01-destiny", - "01-destroyer", - "01-detestable", - "01-devastated", - "01-devour", - "01-discernment", - "01-disciple", - "01-discipline", - "01-disgrace", - "01-dishonor", - "01-disobey", - "01-disperse", - "01-divination", - "01-divine", - "01-divorce", - "01-doctrine", - "01-dominion", - "01-donkey", - "01-doom", - "01-doorpost", - "01-dove", - "01-dream", - "01-drinkoffering", - "01-drunk", - "01-dung", - "01-eagle", - "01-earth", - "01-eden", - "01-edom", - "01-egypt", - "01-ekron", - "01-elam", - "01-elder", - "01-eleazar", "01-elect", - "01-eliakim", - "01-elijah", - "01-elisha", - "01-elizabeth", - "01-encourage", - "01-endure", - "01-engedi", - "01-enoch", - "01-enslave", - "01-envy", - "01-ephesus", - "01-ephod", - "01-ephraim", - "01-ephrathah", - "01-esau", - "01-esther", - "01-eternity", - "01-ethiopia", - "01-eunuch", - "01-euphrates", - "01-evangelism", - "01-eve", - "01-evil", - "01-evildoer", - "01-exalt", - "01-exhort", - "01-exile", - "01-exult", - "01-ezekiel", - "01-ezra", - "01-face", - "01-faith", - "01-faithful", - "01-faithless", - "01-falsegod", - "01-falseprophet", - "01-falsewitness", - "01-family", - "01-famine", - "01-fast", - "01-father", - "01-favor", - "01-fear", - "01-feast", - "01-fellowship", - "01-fellowshipoffering", - "01-festival", - "01-fig", - "01-filled", - "01-fir", - "01-fire", - "01-firstborn", - "01-firstfruit", - "01-fisherman", - "01-flesh", - "01-flock", - "01-flood", - "01-flute", - "01-foolish", - "01-footstool", - "01-foreigner", - "01-foreordain", - "01-forever", - "01-forgive", "01-fornication", - "01-forsaken", - "01-foundation", - "01-fountain", - "01-frankincense", - "01-free" + "01-freewilloffering", + "01-mediterranean" ] } \ No newline at end of file