th_ulb/61-1PE.usfm

206 lines
43 KiB
Plaintext
Raw Permalink Blame History

This file contains invisible Unicode characters

This file contains invisible Unicode characters that are indistinguishable to humans but may be processed differently by a computer. If you think that this is intentional, you can safely ignore this warning. Use the Escape button to reveal them.

\id 1PE Unlocked Literal Bible
\ide UTF-8
\h 1 PETER
\toc1 1 Peter
\toc2 1 Peter
\toc3 1pe
\mt1 1 PETER
\s5
\c 1
\p
\v 1 เปโตร อัครทูตของพระเยซูคริสต์ ถึงพี่น้องต่างชาติที่กระจัดกระจายไปและผู้ที่ถูกเลือกสรรไว้ในแคว้นปอนทัส แคว้นกาลาเทีย แคว้น​คัป​ปา​โด​เซีย แคว้นเอเชีย และแคว้นบิธีเนีย
\v 2 ซึ่งทรงเลือกไว้แล้วตามที่พระเจ้าพระบิดาได้ทรงล่วงรู้ไว้ก่อน โดยพระวิญญาณได้ทรงชำระให้บริสุทธิ์เพื่อจะเชื่อฟังพระเยซูคริสต์และได้รับการประพรมด้วยโลหิตของพระองค์ขอให้พระคุณและสันติสุขบังเกิดทวีคูณแก่ท่านทั้งหลายเถิด
\s5
\p
\v 3 ขอจงถวายสรรเสริญแด่พระเจ้าและพระบิดาขององค์พระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของพวกเรา โดยพระเมตตาอันยิ่งใหญ่ พระองค์ได้ประทานการบังเกิดใหม่ให้แก่พวกเราเพื่อจะดำเนินชีวิตในความหวังโดยผ่านการฟื้นคืนพระชนม์ขององค์พระเยซูคริสต์
\v 4 นี่เป็นมรดก ซึ่ง​จะไม่พินาศ ยั่งยืนถาวร และ​ไม่​ร่วง​โรย​ไป ซึ่ง​ได้​เตรียม​ไว้​ใน​สวรรค์​เพื่อ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​
\v 5 พวกท่านได้รับการคุ้มครองโดย​ฤทธิ์​เดช​ของ​พระ​เจ้า​​ทางความเชื่อเพื่อความรอดซึ่งพร้อมจะปรากฏในวาระสุดท้าย
\s5
\p
\v 6 พวกท่านมีความยินดีอย่างยิ่งในเรื่องนี้ ถึงแม้ว่าเวลานี้พวกท่านจำเป็นต้องโศกเศร้าเนื่องจากปัญหาต่างๆ มากมาย
\v 7 สิ่งนี้มีไว้เพื่อเป็นการพิสูจน์ความเชื่อของพวกท่านซึ่งมีค่ายิ่งกว่าทองคำที่เสื่อมสลายได้แม้ว่ามันจะถูกทดสอบด้วยไฟก็ตาม สิ่งนี้เกิดขึ้นเพื่อความเชื่อของพวกท่านจะนำไปสู่ผลลัพธ์คือการสรรเสริญ สง่าราศี และเกียรติในวันที่พระเยซูคริสต์ทรงสำแดง
\s5
\p
\v 8 พวกท่านไม่ได้มองเห็นพระองค์ แต่พวกท่านยังรักพระองค์ พวกท่านไม่ได้มองเห็นพระองค์เวลานี้ แต่พวกท่านเชื่อในพระองค์และชื่นชมยินดีจนเกินกว่าที่จะกล่าวได้ และเต็มไปด้วยสง่าราศี
\v 9 บัดนี้พวกท่านกำลังรับสิ่งที่เป็นผลของความเชื่อของพวกท่านเอง คือความรอดแห่งจิตวิญญาณของพวกท่าน
\v 10 บรรดาผู้เผยพระวจนะได้ค้นหาและสอบถามอย่างละเอียดเกี่ยวกับความรอดนี้ เกี่ยวกับพระคุณที่จะเป็นของพวกท่าน
\s5
\p
\v 11 พวกเขาได้ค้นหาเพื่อจะรู้ถึงบุคคลใดและเวลาใดที่พระวิญญาณของพระคริสต์ผู้สถิตอยู่ในพวกเขาได้ตรัสกับพวกเขา สิ่งนี้เกิดขึ้นเมื่อพระวิญญาณกำลังบอกพวกเขาล่วงหน้าเกี่ยวกับความทุกข์ทรมานของพระคริสต์และสิ่งต่างๆ ที่มีสง่าราศีหลังจากนั้น
\v 12 ​เป็นที่ประจักษ์ต่อผู้เผยพระวจนะว่า พวกเขาไม่ได้ปรนนิบัติสำหรับตัวพวกเขาเอง แต่สำหรับท่านทั้งหลาย เมื่อบรรดาผู้เทศนาข่าวประเสริฐได้แจ้งสิ่งต่างๆ เหล่านี้แก่ท่านแล้วโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ซึ่งส่งมาจากสวรรค์ สิ่งเหล่านี้แม้แต่ทูตสวรรค์ก็ยังปรารถนาจะได้ดู
\s5
\p
\v 13 จงเตรียมจิตใจของท่านให้พร้อม จงมีสติ วางความหวังของพวกท่านอย่างเต็มเปี่ยมไว้ในพระคุณที่จะถูกประทานมาให้พวกท่านเมื่อพระเยซูคริสต์ทรงได้รับการสำแดง
\v 14 ดั่งเช่นบุตรที่เชื่อฟัง จงอย่าประพฤติตามความปรารถนาต่างๆ ที่พวกท่านได้ทำตามเมื่อพวกท่านยังขาดความรู้
\s5
\p
\v 15 แต่​เพราะ​พระ​องค์​ผู้​ทรง​เรียก​ท่าน​นั้นบริสุทธิ์ ท่าน​ทั้ง​หลายก็​จงบริสุทธิ์ในการ​ประพฤติทุกอย่างของพวกท่านด้วย​​
\v 16 ดังที่​มี​คำ​เขียน​ไว้​แล้ว​ว่า "​จง​เป็น​คน​บริสุทธิ์ เพราะ​เรา​บริสุทธิ์"
\v 17 ดังนั้นถ้าพวก​ท่านเรียก​พระ​องค์​ว่า "พระ​บิดา" คือผู้​ทรง​พิพากษา​อย่างยุติธรรมและ​ตาม​การ​กระทำ​ของ​แต่ละคน จงดำเนินชีวิตด้วยความยำเกรงในเวลาที่พวกท่านอยู่ในโลกนี้
\s5
\p
\v 18 ท่านรู้ว่าไม่ใช่ด้วยเงินหรือทองที่เสื่อมสลายได้ไถ่พวกท่านจากการประพฤติอันโง่เขลาซึ่งพวกท่านได้เรียนรู้จากบรรพบุรุษของพวกท่าน
\v 19 แต่พวกท่านได้รับการไถ่ด้วยพระโลหิตอันประเสริฐของพระคริสต์ ซึ่งเป็นเหมือนลูกแกะที่ปราศจากตำหนิหรือจุดด่างใดๆ
\s5
\p
\v 20 พระคริสต์ทรงถูกเลือกไว้ก่อนการวางรากฐานของโลก แต่​เดี๋ยวนี้พระองค์ทรงเปิดเผยต่อพวกท่านใน​วาระ​สุดท้าย​นี้
\v 21 โดยทางพระองค์ พวกท่านจึงเชื่อในพระเจ้าผู้ทรงให้พระคริสต์เป็นขึ้นจากตาย และประทานพระเกียรติสิริให้แก่พระองค์ ดังนั้นความเชื่อและความหวังของพวกท่านจึงอยู่ในพระเจ้า
\s5
\p
\v 22 ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ได้​ชำระ​จิตใจ​ของ​ท่าน​ให้​บริสุทธิ์​แล้วโดย​การ​เชื่อ​ฟัง​ความ​จริง นี่คือวัตถุประสงค์ของความรักที่จริงใจแบบพี่น้อง ดังนั้นจงตั้งใจจริงในการรักกันและกัน
\v 23 ท่าน​ทั้ง​หลาย​ได้​บังเกิด​ใหม่​แล้ว ไม่ใช่​จากเมล็ดที่เน่าเสียง่าย แต่มาจากเมล็ดที่ไม่สามารถย่อยสลายได้ คือ​พระ​วจนะ​ของ​พระ​เจ้า​อัน​ทรง​ชีวิต​และ​ดำรง​อยู่​
\s5
\p
\v 24 สำหรับ "เนื้อ​หนังทั้งสิ้นเป็นเหมือน​ต้นหญ้า และ​ศักดิ์ศรีทั้งสิ้น​ของมัน​ก็​เป็น​เหมือน​ดอก​หญ้า ต้นหญ้า​เหี่ยว​แห้ง​ไป และ​ดอก​ก็​ร่วง​โรย​ไป
\v 25 แต่​พระ​วจนะ​ของ​องค์พระ​เจ้า​ยั่งยืน​อยู่​เป็น​นิตย์" นี่​คือ​ข่าว​ประเสริฐ​ที่​ได้​ประกาศ​ให้​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ทราบ​แล้ว​
\s5
\c 2
\p
\v 1 เพราะฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงละทิ้งความชั่วทั้งหมด การหลอกลวง ความหน้าซื่อใจคด ความริษยาและการใส่ร้ายทุกอย่าง
\v 2 เช่นเดียวกับทารกแรกเกิด จงปรารถนาน้ำนมจิตวิญญาณที่ไร้สิ่งเจือปน เพื่อจะทำให้ท่านทั้งหลายเติบโตขึ้นในความรอด
\v 3 ถ้าท่านได้ชิมแล้วว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระเมตตา
\s5
\p
\v 4 จงมาหาพระองค์ผู้ซึ่งเป็นศิลาที่มีชีวิต ที่ถูกผู้คนปฏิเสธแล้ว แต่กลับถูกเลือกจากพระเจ้าให้เป็นของมีค่าของพระองค์
\v 5 ดังนั้นท่านทั้งหลายก็เหมือนศิลาที่มีชีวิต ที่กำลังก่อขึ้นเป็นพระนิเวศฝ่ายวิญญาณ เพื่อเป็นปุโรหิตบริสุทธิ์ เพื่อถวายเครื่องบูชาฝ่ายจิตวิญญาณ ที่ชอบพระทัยของพระเจ้าโดยทางพระเยซูคริสต์
\s5
\p
\v 6 มีคำเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า "ดูเถิด เราวางศิลาก้อนหนึ่งลงในศิโยน เป็นศิลาหัวมุมที่ทรงเลือก และล้ำค่า ผู้ใดที่เชื่อในพระองค์นั้นก็จะไม่ได้รับความอับอาย"'
\s5
\p
\v 7 เพื่อเป็นเกียรติแก่ท่านทั้งหลายที่เชื่อ แต่ "ศิลาที่ช่างก่อได้ปฏิเสธนั้น ได้กลายเป็นศิลาที่หัวมุมแล้ว"
\v 8 และ "เป็นศิลาที่ทำให้สะดุด และเป็นก้อนหินที่ทำให้พวกเขาล้ม" พวกเขาสะดุดเพราะเขาไม่เชื่อฟังพระวจนะ ตามที่พวกเขาถูกกำหนดให้ทำ
\s5
\p
\v 9 แต่ท่านทั้งหลายผู้ที่พระองค์ทรงเลือกไว้แล้ว เป็นพวกปุโรหิตหลวง เป็นประชาชาติบริสุทธิ์ เป็นชนชาติที่พระเจ้าทรงครอบครอง เพื่อท่านทั้งหลายจะได้ประกาศการกระทำที่ยอดเยี่ยมของพระองค์ ผู้ได้ทรงเรียกท่านทั้งหลายให้ออกมาจากความมืดมิด เข้าไปสู่ความสว่างอันมหัศจรรย์ของพระองค์
\v 10 ครั้งหนี่งท่านทั้งหลายไม่ได้เป็นชนชาติ แต่บัดนี้พวกท่านเป็นชนชาติของพระเจ้าแล้ว พวกท่านไม่ได้รับพระกรุณา แต่บัดนี้ท่านได้รับพระกรุณาแล้ว
\s5
\p
\v 11 ท่านที่รักทั้งหลาย ข้าพเจ้าวิงวอนพวกท่านเหมือนพวกท่านเป็นคนต่างชาติและเป็นผู้สัญจร ให้ละเว้นจากความปราถนาของเนื้อหนังที่ทำสงครามกับจิตวิญญาณของพวกท่าน
\v 12 พวกท่านจงมีการประพฤติที่ดีท่ามกลางคนต่างชาติ เพื่อว่าถ้าพวกเขาติเตียนพวกท่านว่าเป็นคนทำสิ่งที่ชั่วร้ายนั้น พวกเขาอาจสังเกตเห็นการกระทำที่ดีของพวกท่าน และสรรเสริญพระเจ้าในวันซึ่งพระองค์จะเสด็จมา
\s5
\p
\v 13 จงยอมเชื่อฟังสิทธิอำนาจของมนุษย์ทุกคน เพื่อประโยชน์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า เชื่อฟังกษัตริย์ยิ่งใหญ่ที่สุด
\v 14 และบรรดาเจ้าเมือง ผู้ซึ่งถูกส่งไปลงโทษผู้กระทำชั่วและสรรเสริญผู้ที่ทำความดี
\v 15 เพราะนี่คือน้ำพระทัยของพระเจ้าที่ว่า ในการทำดีนั้นพวกท่านจะไม่พูดเรื่องไร้สาระของคนโง่
\v 16 จงเป็นเหมือนคนที่มีเสรีภาพ แต่อย่าใช้เสรีภาพของท่านเป็นที่ปกปิดความชั่วไว้ แต่จงเป็นเหมือนบรรดาผู้รับใช้ของพระเจ้า
\v 17 จงให้เกียรติแก่ทุกคน จงรักบรรดาพี่น้อง จงยำเกรงพระเจ้า จงถวายเกียรติแด่กษัตริย์
\s5
\p
\v 18 คนรับใช้ทั้งหลาย จงอยู่ภายใต้นายของท่านด้วยความยำเกรงทุกอย่าง ไม่เพียงแต่จะต้องอยู่ภายใต้นายที่เป็นคนใจดีและสุภาพเท่านั้น แต่ยังรวมถึงนายที่ร้ายด้วย
\v 19 มันเป็นที่น่าสรรเสริญถ้าผู้ใดทนความเจ็บปวดทุกข์ทรมานในขณะที่ได้รับความอยุติธรรมเพราะการตระหนักถึงพระเจ้า
\v 20 เพราะถ้าหากพวกท่านทำบาปแล้วต้องมาอดทนในขณะที่ถูกลงโทษ อย่างนั้นจะมีความน่าเชื่อถือมากได้อย่างไร? แต่ถ้าพวกท่านทำดีแล้วต้องทนทุกข์ทรมานในขณะที่ถูกลงโทษ นี่จึงเป็นที่น่าสรรเสริญจากพระเจ้า
\s5
\p
\v 21 เพราะว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่พวกท่านได้รับการทรงเรียก เพราะว่าพระคริสต์ทรงทนทุกข์ทรมานเพื่อพวกท่าน พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างไว้ เพื่อพวกท่านจะได้ทำตามอย่างพระองค์
\v 22 "พระองค์ไม่ได้ทรงกระทำบาปเลย และไม่พบอุบายในพระโอษฐ์ของพระองค์เลย"
\v 23 เมื่อเขากล่าวประจานต่อพระองค์ พระองค์ไม่ได้ทรงโต้ตอบเขาด้วยคำหยาบคายเลย เมื่อพระองค์ทรงทนทุกข์ พระองค์ไม่ได้ทรงข่มขู่กลับ แต่พระองค์ทรงมอบพระองค์เองไว้แก่ผู้ทรงพิพากษาอย่างชอบธรรม
\s5
\p
\v 24 พระองค์ทรงรับแบกบาปของเราไว้ในพระกายของพระองค์เองที่ต้นไม้นั้น เพื่อที่ว่าเราจะไม่ได้มีส่วนในบาปอีกต่อไป และเพื่อให้เรามีชีวิตอยู่ได้ด้วยความชอบธรรม ด้วยรอยฟกช้ำของพระองค์ทำให้พวกท่านได้รับการเยียวยา
\v 25 พวกท่านทุกคนเป็นเหมือนแกะที่หลงหายไป แต่บัดนี้ท่านได้กลับมาหาผู้เลี้ยงแกะ และผู้เลี้ยงแห่งจิตวิญญาณของพวกท่านแล้ว
\s5
\c 3
\p
\v 1 ด้วยวิธีนี้ พวกท่านที่เป็นภรรยา จงเชื่อฟังสามีของพวกท่าน จงทำเช่นนี้เพราะถ้าสามีบางคนไม่เชื่อฟังพระวจนะ แม้โดยปราศจากคำพูดแต่พวกเขาอาจมาเชื่อได้โดยผ่านทางพฤติกรรมของภรรยาของพวกเขา
\v 2 เพราะพวกเขาจะได้เห็นการประพฤติที่จริงใจของพวกท่านด้วยความเคารพ
\s5
\p
\v 3 อย่าให้เป็นการประดับภายนอก คือการถักผม ประดับด้วยทองคำ หรือเสื้อผ้าทันสมัย
\v 4 แต่จงให้เป็นการประดับภายในจิตใจ และความงามที่ไม่รู้เสื่อมสลายของวิญญาณที่อ่อนโยนและเงียบสงบ ซึ่งเป็นสิ่งที่มีค่าต่อพระพักตร์พระเจ้า
\s5
\p
\v 5 เพราะว่าบรรดาสตรีผู้บริสุทธิ์ในสมัยก่อนนั้น ผู้ซึ่งหวังในพระเจ้า ก็ได้ประดับกายโดยยอมเชื่อฟังสามีของตน
\v 6 เช่นนางซาราห์เชื่อฟังอับราฮัมและเรียกท่านว่านาย เดี๋ยวนี้พวกท่านเป็นลูกหลานของเธอ ถ้าท่านทั้งหลายประพฤติดี และถ้าพวกท่านไม่มีความหวาดกลัวปัญหาใดๆ
\s5
\p
\v 7 ในทำนองเดียวกันผู้เป็นสามีทั้งหลายก็จงอยู่กินกับภรรยาของพวกท่านด้วยความเข้าใจ ในฐานะผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นเพศที่อ่อนแอกว่า พวกท่านจงให้เกียรติแก่ภรรยาของพวกท่านเหมือนเป็นทายาทร่วมรับชีวิตอันเป็นพระคุณ จงทำเช่นนี้เพื่อคำอธิษฐานของพวกท่านจะได้ไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดขัดขวาง
\s5
\p
\v 8 สุดท้ายนี้ ท่านทั้งหลายจงเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เห็นอกเห็นใจกัน รักกันฉันพี่น้อง มีจิตใจอ่อนโยน และอ่อนน้อมถ่อมตน
\v 9 อย่าทำชั่วตอบแทนชั่ว หรืออย่าด่าตอบการด่า แต่ตรงกันข้ามจงอวยพร เพราะพระองค์ได้ทรงเรียกให้พวกท่านกระทำเช่นนั้น เพื่อพวกท่านจะได้รับพระพรเป็นมรดก
\s5
\p
\v 10 "ผู้ที่ต้องการรักชีวิตและปรารถนาที่จะเห็นวันที่ดี ก็ให้ผู้นั้นยับยั้งลิ้นของตนจากความชั่วและริมฝีปากของเขาจากการพูดล่อลวง
\v 11 ให้เขาหันออกไปจากสิ่งที่ไม่ดีและให้ทำในสิ่งที่ดี ให้เขาแสวงหาความสงบสุขและดำเนินตามนั้น
\v 12 เพราะว่าพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเฝ้าดูคนชอบธรรม และพระกรรณของพระองค์สดับฟังคำอ้อนวอนของเขา แต่พระพักตร์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าทรงต่อสู้กับคนเหล่านั้นที่ทำความชั่ว"
\s5
\p
\v 13 ผู้ใดเล่าจะทำร้ายพวกท่านได้ ถ้าพวกท่านใฝ่ใจประพฤติความดี?
\v 14 แต่ถ้าพวกท่านต้องทนทุกข์ เพราะทำสิ่งถูกต้อง พวกท่านก็เป็นสุข อย่ากลัวอะไรที่พวกเขากลัว อย่าคิดวิตกไปเลย
\s5
\p
\v 15 แต่จงตั้งพระคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าไว้ในใจของพวกท่านว่าเป็นองค์บริสุทธิ์ จงเตรียมพร้อมเสมอที่จะตอบทุกคนที่ถามพวกท่านว่า ทำไมพวกท่านมีความเชื่อมั่นในพระเจ้า จงทำเช่นนี้ด้วยความอ่อนโยนและความเคารพ
\v 16 จงมีจิตสำนึกที่ดีเพื่อให้คนที่ดูหมิ่นชีวิตที่ดีของพวกท่านในพระคริสต์จำต้องละอายใจเพราะพวกเขาพูดต่อว่าพวกท่านเหมือนกับว่าพวกท่านเป็นผู้กระทำชั่ว
\v 17 ถ้าเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า การได้รับความทุกข์เพราะทำความดีย่อมดีกว่าเพราะการประพฤติชั่ว
\s5
\p
\v 18 เพราะพระคริสต์ทรงทนทุกข์ครั้งเดียวเพราะความบาป พระองค์ผู้ชอบธรรมต้องทนทุกข์เพื่อเราที่เป็นผู้ไม่ชอบธรรม ก็เพื่อพระองค์จะได้ทรงนำเราไปถึงพระเจ้า ฝ่ายเนื้อหนังพระองค์ก็ทรงสิ้นพระชนม์ แต่พระองค์ทรงมีชีวิตขึ้นโดยพระวิญญาณ
\v 19 โดยพระวิญญาณ พระองค์ได้เสด็จไปประกาศแก่วิญญาณทั้งหลายที่ในเวลานี้ถูกกักขังอยู่
\v 20 พวกวิญญาณเหล่านั้นไม่ได้เชื่อฟัง เมื่อครั้งที่พระเจ้าทรงอดทนรอคอยในสมัยของโนอาห์ ในช่วงวันทั้งหลายที่มีการต่อเรือนั้น และพระเจ้าได้ทรงช่วยเพียงไม่กี่คนให้รอดพ้น มีเพียงแปดคนที่รอดพ้นจากน้ำนั้นได้
\s5
\p
\v 21 นี้คือสัญลักษณ์ของพิธีบัพติศมาที่ช่วยพวกท่านให้รอดพ้นในเวลานี้ ไม่ใช่เป็นการชำระมลทินทางกาย แต่เป็นการวิงวอนต่อพระเจ้าเพื่อจะมีมโนธรรมที่ดี โดยผ่านการคืนพระชนม์ของพระเยซูคริสต์
\v 22 พระคริสต์ประทับอยู่เบื้องขวาพระหัตถ์ของพระเจ้า พระองค์ได้เสด็จสู่สวรรค์ พวกทูตสวรรค์ พวกผู้มีอำนาจ และผู้มีฤทธิ์เดชทั้งหลายต้องยอมจำนนต่อพระองค์
\s5
\c 4
\p
\v 1 ฉะนั้น โดยเหตุที่พระคริสต์ได้ทรงทนทุกข์ทรมานในเนื้อหนังแล้ว ก็จงเตรียมตัวของพวกท่านเองด้วยความตั้งใจอย่างเดียวกันนี้ เพราะว่าผู้ที่ได้ทนทุกข์ทรมานในเนื้อหนังก็เลิกจากความบาป
\v 2 เป็นผลให้บุคคลเช่นนี้ไม่ดำเนินชีวิตที่ยังเหลืออยู่ในเนื้อหนังนี้เพื่อทำตามใจปรารถนาของมนุษย์อีกต่อไป แต่เพื่อพระประสงค์ของพระเจ้า
\s5
\p
\v 3 พวกท่านได้ใช้เวลามากพอแล้วในการทำสิ่งที่คนต่างชาติทั้งหลายต้องการทำคือ การใช้ชีวิตอยู่ในกิเลสตัณหา ความลุ่มหลง การมึนเมา การเฉลิมฉลองเมาสุรา การเลี้ยงอย่างหรูหรา และการไหว้รูปเคารพที่เป็นการกระทำอันน่ารังเกียจ
\v 4 พวกเขาคิดว่าเป็นเรื่องแปลกประหลาดที่พวกท่านไม่ร่วมประพฤติตัวอย่างเหลวไหลในสิ่งเหล่านี้กับพวกเขา ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงกล่าวร้ายพวกท่าน
\v 5 พวกเขาจะต้องให้การแก่พระองค์ผู้ทรงพร้อมแล้วที่จะพิพากษาทั้งคนเป็นและคนตาย
\v 6 ด้วยเหตุนี้เอง ข่าวประเสริฐจึงได้ประกาศแก่คนที่ตายไปแล้วด้วย แม้ว่าพวกเขาได้ถูกพิพากษาตามอย่างมนุษย์ในเนื้อหนัง แต่พวกเขาจะมีชีวิตในจิตวิญญาณตามอย่างพระเจ้า
\s5
\p
\v 7 อวสานของสิ่งทั้งปวงมาใกล้แล้ว เหตุฉะนั้น จงรู้จักสงบใจและมีสติในความคิดของพวกท่านเพื่อเห็นแก่คำอธิษฐานทั้งหลาย
\v 8 เหนือสิ่งทั้งปวง จงรักซึ่งกันและกันให้มาก เพราะว่าความรักก็ปกคลุมความผิดบาปมากมายได้
\v 9 จงต้อนรับเลี้ยงดูซึ่งกันและกันโดยไม่บ่น
\s5
\p
\v 10 ตามที่แต่ละคนได้รับของประทาน ก็ให้ใช้ของประทานนั้นเพื่อปรนนิบัติกันและกัน จงใช้ของประทานแห่งพระคุณของพระเจ้าอย่างสัตย์ซื่อในรูปแบบต่างๆ
\v 11 ถ้าผู้หนึ่งผู้ใดจะกล่าว ก็ขอให้กล่าวตามพระวจนะของพระเจ้า ถ้าผู้ใดจะปรนนิบัติ ขอให้ปรนนิบัติตามกำลังซึ่งพระเจ้าประทานนั้น เพื่อว่าพระเจ้าจะทรงได้รับเกียรติในทุกสิ่งโดยทางพระเยซูคริสต์ ขอพระสิริและฤทธานุภาพจงมีแด่พระเยซูคริสต์ตลอดไปเป็นนิตย์ อาเมน
\s5
\p
\v 12 ท่านที่รักทั้งหลาย อย่าประหลาดใจที่มีการทดสอบด้วยไฟเกิดขึ้นกับพวกท่าน อย่าถือว่าเป็นบางสิ่งที่แปลกประหลาดที่กำลังเกิดขึ้นกับพวกท่าน
\v 13 แต่ขอให้พวกท่านจงชื่นชมยินดีในการที่พวกท่านได้มีส่วนร่วมในบรรดาความทุกข์ยากของพระคริสต์ เพื่อว่าพวกท่านจะได้มีความชื่นชมยินดีและชื่นใจเมื่อพระสง่าราศีของพระองค์ปรากฏด้วยเช่นกัน
\v 14 ถ้าพวกท่านถูกด่าว่าเพราะพระนามของพระคริสต์ พวกท่านก็ได้รับพระพร เพราะพระวิญญาณแห่งสง่าราศีและพระวิญญาณของพระเจ้าทรงสถิตอยู่กับพวกท่าน
\s5
\p
\v 15 แต่อย่าให้มีผู้ใดในพวกท่านต้องทุกข์ลำบากเนื่องจากการเป็นฆาตกร เป็นขโมย เป็นคนทำชั่ว หรือเป็นคนที่ชอบวุ่นวายในเรื่องของคนอื่น
\v 16 แต่ถ้าผู้ใดทนทุกข์เพราะเป็นคริสเตียน ก็อย่าให้ผู้นั้นมีความละอายเลย แต่ให้เขาถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าเพราะชื่อนั้น
\s5
\p
\v 17 เพราะเวลาสำหรับการพิพากษาจะต้องเริ่มต้นจากครอบครัวของพระเจ้า หากต้องเริ่มต้นที่พวกเราแล้ว ผลลัพธ์สำหรับคนเหล่านั้นที่ไม่เชื่อฟังข่าวประเสริฐของพระเจ้าจะเป็นอย่างไรหนอ?
\v 18 และ "ถ้าหากคนชอบธรรมยังรอดพ้นได้อย่างยากเย็นแล้ว อะไรจะเกิดขึ้นกับคนอธรรมและคนบาปเล่า?"
\v 19 เพราะฉะนั้นขอให้บรรดาผู้ที่ทุกข์ทรมานเพราะพระประสงค์ของพระเจ้า จงฝากจิตวิญญาณของพวกเขาไว้กับองค์พระผู้สร้างผู้ทรงสัตย์ซื่อในการกระทำดีนั้นเถิด
\s5
\c 5
\p
\v 1 ข้าพเจ้ากำลังตักเตือนบรรดาผู้อาวุโสในท่ามกลางพวกท่าน ในฐานะที่ข้าพเจ้าก็เป็นอาวุโส และเป็นพยานถึงความทุกข์ทรมานของพระคริสต์ และมีส่วนที่จะรับสง่าราศีอันจะมาปรากฏด้วย
\v 2 จงเลี้ยงฝูงแกะของพระเจ้าที่อยู่ภายใต้การดูแลของพวกท่าน จงเอาใจใส่ดูแล ไม่ใช่ด้วยความฝืนใจ แต่ด้วยความเต็มใจ ตามพระประสงค์ของพระเจ้าที่ต้องการให้พวกท่านรับใช้ ไม่ใช่เพื่อผลกำไรที่น่าอับอาย แต่ด้วยความกระตือรือร้น
\v 3 จงอย่าประพฤติตนเหมื่อนเป็นเจ้านายที่มีอำนาจเหนือคนเหล่านั้นที่พวกท่านดูแลอยู่ แต่จงเป็นแบบอย่างแก่ฝูงแกะนั้น
\v 4 และเมื่อพระผู้เลี้ยงยิ่งใหญ่เสด็จมา พวกท่านจะได้รับมงกุฎแห่งสง่าราศีที่ไม่มีวันร่วงโรย
\s5
\p
\v 5 ในทำนองเดียวกัน พวกท่านที่อ่อนอาวุโส ก็จงยอมเชื่อฟังบรรดาผู้อาวุโส ขอให้พวกท่านทุกคนสวมใส่ความถ่อมใจและรับใช้ซึ่งกันและกัน ด้วยว่าพระเจ้าทรงต่อสู้คนหยิ่งจองหอง แต่พระองค์ประทานพระคุณแก่คนที่ถ่อมใจ
\v 6 เหตุฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงถ่อมใจลงภายใต้พระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ของพระเจ้า เพื่อพระองค์จะได้ทรงยกพวกท่านขึ้นเมื่อถึงเวลาอันควร
\v 7 จงมอบทุกสิ่งที่เป็นความกระวนกระวายของพวกท่านไว้กับพระองค์ เพราะว่าพระองค์ทรงห่วงใยพวกท่าน
\s5
\p
\v 8 จงมีสติ จงเฝ้าระวังให้ดี ด้วยว่าศัตรูของท่านคือมาร วนเวียนอยู่รอบๆ ดุจสิงโตคำราม เที่ยวเสาะหาคนที่มันจะกัดกินได้
\v 9 จงต่อสู้กับศัตรูนั้นด้วยใจมั่นคงในความเชื่อของพวกท่าน พวกท่านรู้ว่าชุมชนของบรรดาผู้เชื่อทั่วโลกก็กำลังอดทนกับความทุกข์ยากในแบบเดียวกันนี้
\s5
\p
\v 10 หลังจากที่พวกท่านต้องทนทุกข์ในชั่วขณะหนึ่ง พระเจ้าแห่งพระคุณทั้งปวง ผู้ได้ทรงเรียกพวกท่านไปสู่ศักดิ์ศรีนิรันดร์ในพระคริสต์ จะทรงกระทำให้พวกท่านดีพร้อม จะทรงก่อร่างพวกท่านขึ้น และเสริมกำลังพวกท่าน
\v 11 ขอพระองค์ทรงครอบครองตลอดไปเป็นนิตย์ อาเมน
\s5
\p
\v 12 ข้าพเจ้าถือว่าสิลวานัส เป็นพี่น้องที่ซื่อสัตย์คนหนึ่ง และข้าพเจ้าได้เขียนจดหมายสั้นๆ ถึงพวกท่านโดยผ่านทางเขา ข้าพเจ้ากำลังเตือนสติและเป็นพยานแก่พวกท่านว่า สิ่งที่ข้าพเจ้าได้เขียนนี้เป็นพระคุณที่แท้จริงของพระเจ้า จงยืนหยัดอยู่ในพระคุณนั้น
\v 13 ผู้หญิงคนนั้นที่อยู่ในบาบิโลน ผู้ซึ่งทรงเลือกสรรไว้เช่นเดียวกับพวกท่าน ฝากความคิดถึงมายังพวกท่าน เช่นเดียวกัน มาระโกผู้เป็นบุตรชายของข้าพเจ้าก็ฝากความคิดถึงมายังพวกท่านด้วย
\v 14 จงทักทายกันด้วยธรรมเนียมจุบเพืแสดงความรักต่อกัน ขอสันติสุขดำรงอยู่กับพวกท่านทุกคนที่อยู่ในพระคริสต์เถิด