th_ulb/23-ISA.usfm

2235 lines
549 KiB
Plaintext

\id ISA Unlocked Literal Bible
\ide UTF-8
\h ISAIAH
\toc1 Isaiah
\toc2 Isaiah
\toc3 isa
\mt1 ISAIAH
\s5
\c 1
\p
\v 1 นิมิตของอิสยาห์บุตรชายของอามอส ที่เขาได้เห็นเกี่ยวกับยูดาห์และกรุงเยรูซาเล็ม ในรัชกาลของอุสซียาห์ โยธาม อาหาส และเฮเซคียาห์ บรรดากษัตริย์ของยูดาห์
\s5
\v 2 ฟ้าสวรรค์เอ๋ย จงฟัง แผ่นดินโลกเอ๋ย จงเงี่ยหู เพราะพระยาห์เวห์ได้ตรัสว่า "เราได้ถนอมและเลี้ยงดูลูกๆ แต่พวกเขาได้กบฎต่อเรา
\v 3 โคยังรู้จักเจ้าของของมัน และลายังรู้จักรางหญ้าของนายของมัน แต่อิสราเอลไม่รู้จัก อิสราเอลไม่เข้าใจ"
\s5
\p
\v 4 วิบัติแก่ประเทศ พวกคนบาป ชนชาติที่แบกภาระหนักด้วยความชั่วช้า ลูกหลานของคนทำชั่ว พวกบุตรชายของผู้ที่ทำความเสื่อมเสีย พวกเขาได้ละทิ้งพระยาห์เวห์ พวกเขาได้ดูหมิ่นองค์บริสุทธิ์ของอิสราเอล พวกเขาได้ทำตัวออกห่างจากพระองค์
\v 5 ทำไมพวกเจ้ายังคงถูกเฆี่ยนตีอยู่อีก? ทำไมพวกเจ้าจึงกบฏมากขึ้นเรื่อยๆ? ทั้งศีรษะก็เจ็บไปหมด ทั้งจิตใจก็อ่อนเปลี้ย
\v 6 ตั้งแต่ฝ่าเท้าจนถึงศีรษะ ไม่มีส่วนไหนที่ไม่ได้รับบาดเจ็บเลย มีแต่บาดแผล และรอยฟกช้ำ และบาดแผลที่ยังไม่หาย บาดแผลเหล่านั้นไม่ได้ถูกปิดไว้ ไม่ได้ทำความสะอาด ไม่ได้พันผ้าไว้หรือได้รับการรักษาด้วยน้ำมัน
\s5
\p
\v 7 ประเทศของพวกเจ้าก็ถูกทำลาย บรรดาเมืองของพวกเจ้าก็ถูกเผา ส่วนทุ่งนาของพวกเจ้า พวกคนต่างด้าวก็ทำลายไปต่อหน้าพวกเจ้า ถูกทิ้งให้ร้างเปล่า และถูกทำลายโดยพวกคนต่างด้าว
\v 8 บุตรหญิงของศิโยนได้ถูกทิ้งไว้เหมือนกับกระท่อมในสวนองุ่น เหมือนกับเพิงในสวนแตงกวา เหมือนกับเมืองที่ถูกปิดล้อมไว้
\v 9 ถ้าหากพระยาห์เวห์จอมโยธาไม่ได้ทรงเหลือคนที่มีอยู่เพียงเล็กน้อยไว้ให้กับพวกเรา พวกเราก็จะเป็นเหมือนกับเมืองโสโดม พวกเราก็จะเป็นเหมือนกับเมืองโกโมราห์
\v 10 พวกผู้ปกครองเมืองโสโดม จงฟังพระวจนะของพระยาห์เวห์ พวกชาวเมืองโกโมราห์ จงฟังกฎบัญญัติของพระเจ้าของพวกเรา
\s5
\p
\v 11 พระยาห์เวห์ตรัสว่า "เครื่องบูชามากมายของพวกเจ้าที่ถวายแด่เราคืออะไร? เราได้มีแกะตัวผู้และไขมันของสัตว์อ้วนพีเป็นเครื่องเผาบูชาเพียงพอแล้ว และเราไม่ปีติยินดีในเลือดของบรรดาโคหนุ่ม แกะตัวผู้ หรือแพะ
\v 12 เมื่อพวกเจ้ามาเข้าเฝ้าต่อหน้าเรา ใครได้เรียกร้องสิ่งนี้จากเจ้า ให้เหยียบย่ำเข้ามาในบริเวณของเรา?
\v 13 อย่านำเครื่องบูชาอนิจจังมาอีกเลย เครื่องหอมก็เป็นสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนต่อเรา เราทนต่อการชุมนุมที่ชั่วร้ายเหล่านี้ไม่ได้ คือการชุมนุมวันเทศกาลเลี้ยงข้างขึ้นและวันสะบาโต
\s5
\p
\v 14 เราเกลียดเทศกาลเลี้ยงข้างขึ้นและเทศกาลเลี้ยงฉลองตามกำหนดของพวกเจ้า การชุมนุมเหล่านั้นเป็นภาระแก่เรา เราเหน็ดเหนื่อยเหลือจะทนต่อเทศกาลเหล่านั้นแล้ว
\v 15 ด้วยเหตุนี้ เมื่อใดที่พวกเจ้ากางมือของพวกเจ้าออกในการอธิษฐาน เราจะปิดตาของเราจากพวกเจ้า ถึงแม้ว่าพวกเจ้าจะถวายคำอธิษฐานมากมาย เราก็จะไม่ฟัง มือของพวกเจ้าเต็มด้วยโลหิต
\v 16 จงชำระล้าง จงชำระตัวของเจ้าให้สะอาด จงเอาการกระทำชั่วของพวกเจ้าออกไปให้พ้นสายตาของเรา จงเลิกทำชั่ว
\v 17 จงเรียนรู้ที่จะทำดี จงแสวงหาความยุติธรรม จงช่วยผู้ที่ถูกกดขี่ จงให้ความยุติธรรมต่อลูกกำพร้าพ่อ และปกป้องหญิงม่าย"
\s5
\p
\v 18 พระยาห์เวห์ตรัสว่า "มาเถิด และให้พวกเราสู้ความกัน ถึงแม้ว่าบาปของเจ้าเป็นเหมือนสีแดงเข้มก็จะขาวราวกับหิมะ ถึงแม้ว่าจะแดงเหมือนผ้าแดงเข้มก็จะขาวราวกับขนแกะ
\v 19 ถ้าพวกเจ้าเต็มใจและเชื่อฟัง พวกเจ้าก็จะได้กินผลดีแห่งแผ่นดิน
\v 20 แต่ถ้าพวกเจ้าปฏิเสธและกบฏ ดาบก็จะล้างผลาญพวกเจ้า" เพราะว่าพระโอษฐ์ของพระยาห์เวห์ได้ตรัสไว้แล้ว
\s5
\p
\v 21 เมืองที่สัตย์ซื่อได้กลายเป็นเมืองแพศยาได้อย่างไรหนอ เมืองที่เคยเต็มด้วยความยุติธรรม เมืองที่เต็มด้วยความชอบธรรม แต่ตอนนี้เมืองนั้นเต็มไปด้วยพวกฆาตกร
\v 22 เงินของพวกเจ้าก็ไม่บริสุทธิ์ เหล้าองุ่นของพวกเจ้าก็ผสมด้วยน้ำ
\v 23 พวกเจ้านายของพวกเจ้าก็เป็นพวกกบฏ และเป็นพรรคพวกกับพวกโจร ทุกคนชอบสินบนและไล่ตามผลตอบแทน พวกเขาไม่ปกป้องลูกกำพร้าพ่อ หรือคดีของหญิงม่ายก็ไม่ได้มาต่อหน้าพวกเขา
\s5
\p
\v 24 เพราะฉะนั้น นี่เป็นคำประกาศของพระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธา องค์ผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์แห่งอิสราเอลว่า "วิบัติจงมีแก่พวกเขา เราจะแก้แค้นต่อศัตรูของเรา และล้างแค้นต่อศัตรูของเราด้วยตัวเราเอง
\v 25 เราจะหันมือของเรามาต่อสู้พวกเจ้า เพื่อชำระสิ่งสกปรกของเจ้าออกไปอย่างกับชำระด้วยน้ำด่าง และเอาสิ่งสกปรกทั้งหมดของเจ้าออกไป
\v 26 เราจะทำให้พวกผู้พิพากษาของพวกเจ้าเป็นเหมือนอย่างแต่ก่อน และพวกที่ปรึกษาของพวกเจ้าเหมือนอย่างตอนเริ่มแรก หลังจากที่พวกเจ้าจะได้ถูกเรียกว่าเมืองแห่งความชอบธรรม เมืองสัตย์ซื่อ"
\s5
\p
\v 27 ศิโยนจะได้รับการไถ่ด้วยความยุติธรรม และผู้ที่กลับใจในเมืองนั้นด้วยความชอบธรรม
\v 28 พวกกบฏและพวกคนบาปจะถูกทำลายด้วยกัน และคนเหล่านั้นที่ทอดทิ้งพระยาห์เวห์จะถูกทำกำจัดไปด้วย
\v 29 "เพราะพวกเจ้าจะได้รับความอับอายเรื่องของต้นโอ๊กศักดิ์สิทธิ์ที่พวกเจ้าปรารถนา และพวกเจ้าจะอับอายเรื่องสวนที่พวกเจ้าได้เลือก
\v 30 เพราะพวกเจ้าจะเป็นเหมือนกับต้นโอ๊กที่ใบเหี่ยวแห้งไป และเหมือนกับสวนที่ไม่มีน้ำ
\v 31 คนแข็งแรงก็จะเหมือนเชื้อไฟ และการงานของเขาก็จะเหมือนประกายไฟ ทั้งสองอย่างก็จะไหม้ไปด้วยกัน และไม่มีใครจะดับได้"
\s5
\c 2
\p
\v 1 สิ่งต่างๆ เกี่ยวกับยูดาห์และกรุงเยรูซาเล็มที่อิสยาห์บุตรชายของอามอสได้มองเห็นในนิมิต
\v 2 ในวาระสุดท้ายจะเป็นดังนี้ คือภูเขาแห่งพระนิเวศของพระยาห์เวห์จะถูกสถาปนาขึ้นเป็นภูเขาสูงที่สุดของบรรดาภูเขาทั้งหลาย และภูเขานี้จะถูกยกขึ้นเหนือบรรดาเนินเขาทั้งหลาย และบรรดาประชาชาติจะหลั่งไหลมาสู่ภูเขานี้
\v 3 ชนชาติมากมายจะมาและกล่าวว่า "มาเถิด ให้เราขึ้นไปยังภูเขาของพระยาห์เวห์ ไปยังพระนิเวศของพระเจ้าของยาโคบ เพื่อพระองค์จะทรงสอนบรรดาวิถีของพระองค์แก่เรา และเราจะเดินในพระมรรคาของพระองค์" เพราะธรรมบัญญัติจะออกมาจากศิโยน และพระวจนะของพระยาห์เวห์จะออกมาจากกรุงเยรูซาเล็ม
\s5
\p
\v 4 พระองค์จะทรงวินิจฉัยระหว่างประชาชาติ และจะทรงทำการตัดสินความให้แก่ชนชาติมากมาย พวกเขาจะตีดาบของพวกเขาให้เป็นผาลไถนา และตีหอกของพวกเขาให้เป็นขอลิดแขนง ประชาชาติจะไม่ยกดาบขึ้นต่อสู้กับประชาชาติ และพวกเขาก็จะไม่ฝึกฝนในการทำสงครามอีกต่อไป
\v 5 วงศ์วานของยาโคบเอ๋ย มาเถิด และให้เราเดินในความสว่างของพระยาห์เวห์
\v 6 เพราะพวกเจ้าได้ละทิ้งชนชาติของพวกเจ้า วงศ์วานของยาโคบเอ๋ย เพราะพวกเขาเต็มไปด้วยขนบธรรมเนียมจากทางตะวันออกและเต็มด้วยพวกผู้ทำนายเหมือนกับพวกฟีลิสเตีย และพวกเขาไม่จับมือทักทายกับพวกบุตรชายของพวกคนต่างด้าว
\s5
\p
\v 7 แผ่นดินของพวกเขาเต็มไปด้วยเงินและทองคำ และความมั่งคั่งของพวกเขาไม่มีที่สิ้นสุด แผ่นดินของพวกเขาเต็มไปด้วยฝูงม้า และเต็มด้วยรถม้าศึกของพวกเขาไม่มีสิ้นสุด
\v 8 แผ่นดินของพวกเขาเต็มไปด้วยรูปเคารพ พวกเขานมัสการงานฝีมือที่ทำจากมือของพวกเขาเอง สิ่งต่างๆ ที่นิ้วของพวกเขาเองได้ทำขึ้นมา
\v 9 ประชาชนจะก้มกราบลง และแต่ละคนจะล้มลง เพราะฉะนั้น อย่าให้พวกเขาลุกขึ้นมา
\v 10 จงไปยังที่เต็มด้วยหินผา และซ่อนตัวอยู่ในพื้นดินให้พ้นจากความน่ากลัวของพระยาห์เวห์ และจากพระสิริแห่งสง่าราศีของพระองค์
\s5
\p
\v 11 นัยน์ตาที่ผยองขึ้นจะถูกทำให้ตกต่ำลง และพวกคนที่เย่อหยิ่งจะถูกทำให้ตกต่ำลง และพระยาห์เวห์พระองค์เดียวที่สมควรแก่การสรรเสริญในวันนั้น
\v 12 เพราะจะมีวันแห่งพระยาห์เวห์จอมโยธาที่จะต่อสู้กับทุกคนที่เย่อหยิ่งและผยองขึ้น และต่อสู้กับทุกคนที่ยโส และพระองค์จะทรงทำให้ตกต่ำลง
\v 13 และต่อสู้กับต้นสนสีดาห์แห่งเลบานอนทุกต้นที่สูงและยกตัวขึ้น และต่อสู้กับต้นโอ๊กแห่งบาชานทุกต้น
\s5
\p
\v 14 ในวันแห่งพระยาห์เวห์จอมโยธาจะต่อสู้กับภูเขาสูงทั้งสิ้น และต่อสู้กับเนินเขาทั้งสิ้นที่ยกตัวขึ้น
\v 15 และต่อสู้กับหอคอยสูงทุกแห่ง และต่อสู้กับกำแพงที่เข้มแข็งทั้งหมด
\v 16 และต่อสู้กับเรือกำปั่นทั้งหมดของทารชิช และต่อสู้กับเรือที่งดงามทุกลำที่ลอยลำอยู่
\v 17 ความเย่อหยิ่งของมนุษย์จะถูกทำให้ตกต่ำลง และความโอหังของมนุษย์จะล้มลง พระยาห์เวห์พระองค์เดียวที่สมควรแก่การสรรเสริญในวันนั้น
\v 18 รูปเคารพทั้งหลายจะสูญสิ้นไป
\s5
\p
\v 19 มนุษย์จะไปยังถ้ำของหินผาต่างๆ และตามโพรงของพื้นดินให้พ้นจากความน่ากลัวของพระยาห์เวห์ และจากพระสิริแห่งสง่าราศีของพระองค์ เมื่อพระองค์ทรงลุกขึ้นเพื่อทำให้แผ่นดินโลกหวาดกลัว
\v 20 ในวันนั้นคนทั้งหลายจะโยนรูปเคารพที่ทำด้วยเงินและทองคำที่พวกเขาได้สร้างขึ้นเองเพื่อนมัสการทิ้งไป พวกเขาจะโยนสิ่งเหล่านั้นทิ้งไปยังพวกตัวตุ่นและค้างคาว
\v 21 คนเหล่านั้นจะไปยังรอยแยกในหินผา และซอกผาที่สกปรกให้พ้นจากความน่ากลัวของพระยาห์เวห์ และจากพระสิริแห่งสง่าราศีของพระองค์ พระองค์ทรงลุกขึ้นเพื่อทำให้แผ่นดินโลกหวาดกลัว
\v 22 จงเลิกวางใจในมนุษย์ ผู้ที่ลมหายใจที่มีชีวิตอยู่ในจมูกของเขา เขามีคุณค่าอะไรเล่า?
\s5
\c 3
\p
\v 1 จงดู องค์พระผู้เป็นเจ้าพระยาห์เวห์จอมโยธาจะทรงเอาความช่วยเหลือและการจุนเจือออกไปจากกรุงเยรูซาเล็มและยูดาห์ คือเสบียงอาหารทั้งหมดและเสบียงน้ำดื่มทั้งหมด
\v 2 คนที่แกล้วกล้า นักรบ ผู้วินิจฉัย ผู้เผยพระวจนะ ผู้ทำนาย และผู้ใหญ่
\v 3 นายกองห้าสิบคน คนที่ประชาชนเคารพนับถือ ที่ปรึกษา ช่างฝีมือที่เชี่ยวชาญ และคนใช้เวทมนตร์ที่ชำนาญ
\v 4 "เราจะแต่งตั้งคนหนุ่มสาวให้เป็นผู้นำของพวกเขา และคนหนุ่มสาวจะปกครองเหนือพวกเขา
\s5
\p
\v 5 ประชาชนจะถูกบีบบังคับ ทุกคนจะถูกบีบบังคับโดยคนอื่น และทุกคนจะถูกบีบบังคับโดยเพื่อนบ้านของเขา เด็กๆ จะดูหมิ่นผู้ที่อาวุโสกว่า และคนเลวทรามจะท้าทายคนที่มีเกียรติ
\v 6 แม้แต่คนหนึ่งจะจับตัวพี่น้องของเขาไว้ในบ้านของบิดาของเขา และกล่าวว่า 'เจ้ามีเสื้อคลุม จงมาเป็นผู้ปกครองของเราเถิด และให้ซากปรักหักพังนี้อยู่ในมือของเจ้า'
\v 7 ในวันนั้น เขาจะตะโกนและกล่าวว่า 'ข้าพเจ้าจะไม่เป็นผู้รักษาโรค ข้าพเจ้าไม่มีทั้งอาหารหรือเสื้อผ้า พวกท่านอย่าแต่งตั้งข้าพเจ้าเป็นผู้ปกครองประชาชนเลย"'
\s5
\p
\v 8 เพราะกรุงเยรูซาเล็มก็สะดุด และยูดาห์ก็ล้มลง เพราะคำพูดและการกระทำของพวกเขาต่อสู้พระยาห์เวห์ ท้าทายต่อพระเนตรแห่งพระสิริของพระองค์
\v 9 การแสดงออกบนใบหน้าของพวกเขาก็เป็นพยานปรักปรำพวกเขา และพวกเขาได้บอกถึงความบาปของพวกเขาเหมือนกับเมืองโสโดม พวกเขาไม่ได้ปิดบังเลย วิบัติจงมีแก่พวกเขา เพราะพวกเขาได้ทำให้ความหายนะมาสู่ตนเองอย่างเต็มที่
\v 10 จงบอกคนชอบธรรมว่าพวกเขาจะไปได้ดี เพราะพวกเขาจะกินผลของการกระทำของพวกเขา
\s5
\p
\v 11 วิบัติจงมีแก่คนอธรรม สิ่งเลวร้ายจะเกิดขึ้นกับเขา เพราะการตอบแทนที่มือของเขาได้กระทำ
\v 12 ชนชาติของเราเอ๋ย เด็กๆ ก็เป็นผู้บีบบังคับพวกเขา และพวกผู้หญิงก็ปกครองเหนือพวกเขา ชนชาติของเราเอ๋ย คนเหล่านั้นที่นำทางพวกเจ้าได้นำพวกเจ้าให้หลงทางไปและทำให้การนำทางของพวกเจ้าสับสน
\v 13 พระยาห์เวห์ทรงยืนขึ้นเพื่อเป็นผู้กล่าวโทษ พระองค์กำลังทรงยืนเพื่อทรงกล่าวโทษคนเหล่านั้น
\s5
\p
\v 14 พระยาห์เวห์จะเสด็จมาด้วยการพิพากษาต่อพวกผู้ใหญ่ของประชาชนและพวกผู้นำของพวกเขา "พวกเจ้าได้ทำลายสวนองุ่น ของที่ริบมาจากคนจนก็อยู่ในบ้านของพวกเจ้า
\v 15 ทำไมพวกเจ้าจึงบีบคั้นประชากรของเรา และกระทำการทารุณต่อคนจน?" นี่คือคำประกาศขององค์พระผู้เป็นเจ้าพระยาห์เวห์จอมโยธา
\v 16 พระยาห์เวห์ตรัสว่า เพราะบรรดาบุตรหญิงของศิโยนนั้นหยิ่งผยอง เดินชูคอไปตามทาง และส่งสายตาเจ้าชู้ ขณะที่พวกเธอเดินอย่างดัดจริตและขยับเท้าของพวกเธอให้มีเสียงกรุ๋งกริ๋ง
\v 17 เพราะฉะนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทำให้มีโรคแผลตกสะเก็ดบนศีรษะของพวกบุตรหญิงของศิโยน และพระยาห์เวห์จะทำให้พวกเธอศีรษะล้าน
\s5
\p
\v 18 ในวันนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าจะเอาอัญมณีงดงามที่ข้อเท้าของพวกเธอไป อีกทั้งแถบรัดศีรษะ และเครื่องประดับรูปพระจันทร์เสี้ยว
\v 19 จี้ต่างหู สร้อยข้อมือ และผ้าคลุมหน้า
\v 20 ผ้าโพกศีรษะ สร้อยข้อเท้า ผ้าคาดเอว และผอบน้ำหอม และตะกรุด
\v 21 พระองค์จะทรงเอาแหวนและพลอยที่ห่วงจมูกไป
\v 22 อีกทั้งเสื้อออกงาน เสื้อคลุม ผ้าคลุมหน้าและกระเป๋าถือ
\s5
\p
\v 23 กระจกถือส่อง ผ้าป่าน ผ้าคลุมศีรษะ และเสื้อชั้นนอก
\v 24 จะมีแต่ความเน่าเหม็นแทนน้ำหอม และจะมีแต่เชือกรัดแทนผ้าคาดเอว และจะมีแต่ศีรษะล้านแทนผมที่จัดทรงอย่างดี และจะมีแต่การนุ่งห่มด้วยผ้ากระสอบแทนเสื้อคลุม และจะมีแต่ความอับอายแทนความสวยงาม
\v 25 พวกผู้ชายของพวกเจ้าจะล้มลงด้วยดาบ และพวกผู้ชายที่แข็งแรงของพวกเจ้าจะล้มลงในสงคราม
\v 26 ประตูของกรุงเยรูซาเล็มจะคร่ำครวญและไว้ทุกข์ และเธอจะอ้างว้างและนั่งลงบนพื้นดิน
\s5
\c 4
\p
\v 1 ในวันนั้นผู้หญิงเจ็ดคนจะยึดผู้ชายคนหนึ่งไว้และกล่าวว่า "เราจะกินอาหารของเราเอง เราจะสวมใส่เสื้อผ้าของเราเอง แต่ขอเพียงให้เราใช้ชื่อของท่านเพื่อเอาความอับอายของเราออกไป"
\v 2 ในวันนั้นกิ่งของพระยาห์เวห์จะงดงามและรุ่งโรจน์ และผลิตผลของแผ่นดินจะมีรสอร่อยและให้ความเปรมปรีดิ์สำหรับผู้ที่รอดชีวิตเหล่านั้นในอิสราเอล
\v 3 เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นเมื่อผู้ที่เหลือไว้ในศิโยนและผู้ที่ยังคงเหลืออยู่ในกรุงเยรูซาเล็มจะได้รับการทรงเรียกให้บริสุทธิ์ ทุกคนที่ถูกบันทึกไว้ว่ามีชีวิตอยู่ในกรุงเยรูซาเล็ม
\s5
\p
\v 4 เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นเมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงชำระล้างความโสโครกของบุตรหญิงทั้งหลายของศิโยน และจะชำระคราบโลหิตจากท่ามกลางกรุงเยรูซาเล็ม โดยวิญญาณแห่งการพิพากษา และวิญญาณแห่งเปลวเพลิง
\v 5 แล้วพระยาห์เวห์จะทรงสร้างเมฆและควันในตอนกลางวัน และแสงส่องสว่างของเปลวเพลิงในตอนกลางคืน เหนือทั่วทุกแห่งของศิโยน และเหนือสถานที่ชุมนุมของเมืองนั้น ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ปกคลุมเหนือพระสิริทั้งสิ้น
\v 6 สิ่งนั้นจะเป็นร่มเงาเพื่อบังแดดจากความร้อนในตอนกลางวัน และเป็นที่ลี้ภัยและที่กำบังจากพายุและฝน
\s5
\c 5
\p
\v 1 ขอให้ข้าพเจ้าร้องเพลงเพื่อผู้เป็นที่รักของข้าพเจ้า เพลงของผู้เป็นที่รักของข้าพเจ้าเกี่ยวกับสวนองุ่นของเขา ผู้เป็นที่รักของข้าพเจ้าได้มีสวนองุ่นแปลงหนึ่งบนเนินเขาที่มีดินอุดมสมบูรณ์อย่างยิ่ง
\v 2 เขาได้ขุดสวนนั้นและได้เอาก้อนหินออกไป และได้ปลูกสวนนั้นด้วยเถาองุ่นพันธุ์ดีเยี่ยมไว้ เขาได้สร้างหอเฝ้าหลังหนึ่งไว้ตรงกลางสวนนั้น และยังได้สร้างบ่อย่ำองุ่นไว้ด้วย เขาได้เฝ้ารอให้สวนนั้นออกผลองุ่น แต่มันก็ออกผลแต่องุ่นเปรี้ยว
\v 3 เพราะฉะนั้น บัดนี้ ชาวกรุงเยรูซาเล็มและคนยูดาห์เอ๋ย จงตัดสินความระหว่างเรากับสวนองุ่นของเรา
\s5
\p
\v 4 มีอะไรที่จะทำกับสวนองุ่นของเราได้อีก ที่เรายังไม่ได้ทำให้กับสวนนั้น? เมื่อเราได้คาดหวังให้สวนนั้นออกผลองุ่น แต่ทำไมจึงออกเป็นผลองุ่นเปรี้ยวไปได้?
\v 5 บัดนี้ เราจะบอกกับพวกเจ้าว่า เราจะทำอย่างไรกับสวนของเรา เราจะรื้อรั้วกั้นออกไป เราจะเปลี่ยนสวนนั้นให้เป็นทุ่งหญ้า เราจะพังกำแพงลง และสวนนั้นจะถูกเหยียบย่ำ
\v 6 เราจะปล่อยให้มันร้างเปล่า และสวนนั้นจะไม่ถูกพรวนหรือขุดอีก แต่กลับมีพวกพุ่มไม้หนามและพืชที่มีหนามจะงอกขึ้นมาแทน เราจะสั่งเมฆไม่ให้มีฝนตกลงมาบนสวนนั้นด้วย
\v 7 เพราะสวนองุ่นของพระยาห์เวห์จอมโยธาคือวงศ์วานอิสราเอล และคนยูดาห์เป็นสิ่งที่ปลูกไว้ของพระองค์ที่ทรงพอพระทัย พระองค์ได้ทรงรอคอยความยุติธรรม แต่แทนที่จะเป็นอย่างนั้น กลับมีแต่การฆ่า เมื่อทรงรอคอยความชอบธรรม ก็มีแต่เสียงร้องให้ช่วยเหลือ
\s5
\p
\v 8 วิบัติจงมีแก่คนเหล่านั้นที่รวมบ้านกับบ้านเข้าด้วยกัน ผู้ที่รวมทุ่งนากับทุ่งนาเข้าด้วยกัน จนไม่มีที่ว่างเหลืออยู่เลย และมีเพียงแต่พวกเจ้าเท่านั้นที่เหลืออยู่ในแผ่นดินนี้
\v 9 พระยาห์เวห์จอมโยธาได้ทรงบอกกับข้าพเจ้าว่า บ้านมากมายจะร้างเปล่า แม้จะเป็นบ้านใหญ่โตและน่าชื่นชม ก็ปราศจากผู้อยู่อาศัย
\v 10 เพราะสวนองุ่นยี่สิบห้าไร่จะให้ผลเพียงแค่หนึ่งบัท และเมล็ดพันธุ์หนึ่งโฮเมอร์จะให้ผลเพียงหนึ่งเอฟาห์
\s5
\p
\v 11 วิบัติแก่คนเหล่านั้นที่ลุกขึ้นแต่เช้ามืดเพื่อหาเหล้ามาดื่ม คนเหล่านั้นที่ยังอ้อยอิ่งอยู่จนดึกดื่น จนกระทั่งเหล้าองุ่นทำให้พวกเขาพินาศไป
\v 12 พวกเขาจัดงานเลี้ยงด้วยพิณใหญ่ พิณเขาคู่ รำมะนา ขลุ่ยและเหล้าองุ่น แต่พวกเขาไม่ระลึกถึงพระราชกิจของพระยาห์เวห์ และพวกเขาก็ไม่ได้พิจารณาถึงสิ่งที่พระองค์ทรงกระทำด้วยพระหัตถ์ของพระองค์
\v 13 เพราะฉะนั้น ชนชาติของเราจึงตกเป็นเชลยเพราะขาดความเข้าใจ พวกผู้นำที่มีเกียรติของพวกเขาก็หิวโหย และพวกประชาชนทั่วไปก็ไม่มีอะไรจะดื่ม
\s5
\p
\v 14 เพราะฉะนั้น แดนคนตายก็ได้ทำให้ความกระหายของมันมากขึ้น และอ้าปากของมันกว้างขึ้นอีก พวกคนสูงศักดิ์ ประชาชน พวกผู้นำของพวกเขา และพวกสำมะเลเทเมา และคนเหล่านั้นที่มีความสุขท่ามกลางพวกเขา ก็ตกลงไปในแดนคนตาย
\v 15 มนุษย์จะถูกบีบบังคับให้โน้มตัวลง และมนุษย์จะถูกทำให้ตกต่ำลง นัยน์ตาของคนที่หยิ่งผยองจะถูกทำลาย
\v 16 พระยาห์เวห์จอมโยธาจะทรงเป็นที่สรรเสริญในความยุติธรรมของพระองค์ และพระเจ้าองค์บริสุทธิ์จะทรงสำแดงความบริสุทธิ์ของพระองค์เองโดยความชอบธรรมของพระองค์
\s5
\p
\v 17 แล้วฝูงแกะจะหากินเหมือนกับเป็นทุ่งหญ้าของพวกมันเอง และในซากปรักหักพัง พวกลูกแกะก็จะเล็มหญ้าเหมือนกับพวกคนต่างด้าว
\v 18 วิบัติจงมีแก่คนเหล่านั้นที่ฉุดลากความชั่วร้ายไปด้วยเส้นเชือกที่ไร้ประโยชน์ และพวกที่ฉุดลากความบาปไปราวกับว่ามันเป็นเชือกโยงเกวียน
\v 19 วิบัติจงมีแก่คนเหล่านั้นที่พูดว่า "ขอให้พระเจ้าทรงรีบเร่ง ขอให้พระองค์ทรงกระทำอย่างรวดเร็ว เพื่อเราจะได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ และให้แผนงานขององค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอลมาเถิด เพื่อเราจะรู้แผนงานเหล่านั้น"
\s5
\p
\v 20 วิบัติจงมีแก่คนเหล่านั้นที่เรียกความชั่วว่าความดี และเรียกความดีว่าความชั่ว พวกที่ถือว่าความมืดเป็นความสว่าง และความสว่างเป็นความมืด พวกที่ถือว่าความขมเป็นความหวานและความหวานเป็นความขม
\v 21 วิบัติจงมีแก่คนเหล่านั้นผู้ที่ฉลาดในสายตาตนเอง และผู้ที่สุขุมรอบคอบในความเข้าใจของตนเอง
\v 22 วิบัติจงมีแก่คนเหล่านั้นที่เก่งในการดื่มเหล้าองุ่น และพวกเจ้านายที่เก่งในการผสมเหล้า
\v 23 ผู้ที่ปล่อยตัวคนอธรรม เพื่อค่าตอบแทนและเพิกถอนสิทธิของคนไร้ความผิด
\s5
\p
\v 24 เพราะฉะนั้น เปลวไฟเผาผลาญตอข้าวฉันใด และหญ้าแห้งยุบลงไปในเปลวไฟฉันใด รากของพวกเขาก็จะเน่าเปื่อย และความเบ่งบานของพวกเขาก็จะปลิวไปเหมือนกับผงคลีดินฉันนั้น เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นเพราะพวกเขาได้ปฏิเสธธรรมบัญญัติของพระยาห์เวห์จอมโยธา และเพราะพวกเขาได้ดูหมิ่นพระวจนะขององค์บริสุทธิ์ของอิสราเอล
\v 25 เพราะฉะนั้น พระพิโรธของพระยาห์เวห์จึงพลุ่งขึ้นต่อชนชาติของพระองค์ พระองค์ได้ทรงเหยียดพระหัตถ์ออกต่อสู้พวกเขาและลงโทษพวกเขา ภูเขาทั้งหลายก็สั่นสะท้าน และซากศพของพวกเขาก็เป็นเหมือนกองขยะในถนน ในเหตุการณ์ทั้งหมดเหล่านี้ พระพิโรธของพระองค์ก็ไม่บรรเทาลง แต่พระหัตถ์ของพระองค์ยังคงเหยียดออก
\v 26 พระองค์จะทรงยกธงสัญญาณแก่ชนชาติทั้งหลายที่อยู่ห่างไกลออกไป และทรงผิวพระโอษฐ์กับคนเหล่านั้นที่สุดปลายแผ่นดินโลก ดูเถิด พวกเขาจะมาทันทีและมาอย่างรวดเร็ว
\s5
\p
\v 27 ไม่มีใครในพวกเขาเหน็ดเหนื่อยหรือสะดุดล้ม ไม่มีใครง่วงเหงาหรือนอนหลับ ไม่มีสายคาดเอวของพวกเขาที่หลุดไป ไม่มีสายรัดรองเท้าของพวกเขาที่ขาดไป
\v 28 ลูกธนูคมและคันธนูทั้งหมดของพวกเขาถูกโก่งขึ้นแล้ว เสียงกีบม้าทั้งหลายเป็นเหมือนหินเหล็กไฟ และล้อรถม้าศึกของพวกเขาเป็นเหมือนพายุ
\v 29 เสียงคำรามของเขาจะเป็นเหมือนกับสิงโต พวกเขาจะคำรามเหมือนสิงโตหนุ่ม พวกเขาจะคำรามและตะครุบเหยื่อและลากมันไป โดยไม่มีใครช่วยชีวิตไว้ได้
\v 30 ในวันนั้น พวกเขาจะคำรามต่อเหยื่อนั้นเหมือนเสียงคะนองของทะเล ถ้าหากคนใดมองเหนือแผ่นดินนั้น เขาจะเห็นความมืดและความทุกข์ใจ แม้แต่ความสว่างก็จะถูกเมฆทำให้มืดไป
\s5
\c 6
\p
\v 1 ในปีที่กษัตริย์อุสซียาห์สิ้นพระชนม์ ข้าพเจ้าได้เห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าประทับบนบัลลังก์ พระองค์ทรงสูงส่งและสูงยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด และชายฉลองพระองค์ของพระองค์เต็มพระวิหาร
\v 2 เหนือพระองค์ขึ้นไป คือพวกเสราฟิม แต่ละตนมีหกปีก แต่ละตนคลุมหน้าของตนด้วยปีกสองปีก และคลุมเท้าของตนด้วยปีกสองปีก และเขาได้บินไปด้วยสองปีก
\v 3 แต่ละตนก็ร้องต่อกันและกันและกล่าวว่า "บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ คือพระยาห์เวห์จอมโยธา แผ่นดินโลกทั้งสิ้นเต็มด้วยพระสิริของพระองค์"
\s5
\p
\v 4 ฐานรากของธรณีประตูทั้งหลายก็สั่นสะเทือนเนื่องด้วยเสียงของพวกเหล่านั้นที่กำลังร้องออกมา และพระนิเวศก็เต็มด้วยควัน
\v 5 แล้วข้าพเจ้าได้กล่าวว่า "วิบัติแก่ข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้าได้ถึงคราวตายแล้ว เพราะข้าพเจ้าเป็นคนริมฝีปากไม่สะอาด และข้าพเจ้าอาศัยอยู่ท่ามกลางชนชาติที่ริมฝีปากไม่สะอาด เพราะตาของข้าพเจ้าได้เห็นองค์กษัตริย์ พระยาห์เวห์ พระยาห์เวห์จอมโยธา"
\v 6 แล้วเสราฟิมตนหนึ่งได้บินมาหาข้าพเจ้า เขามีถ่านไฟร้อนแรงในมือของเขา ที่เขาได้เอาคีมคีบออกมาจากแท่นบูชา
\s5
\p
\v 7 เขาได้แตะปากของข้าพเจ้าด้วยถ่านไฟนั้น และได้กล่าวว่า "ดูเถิด สิ่งนี้ได้แตะปากของเจ้าแล้ว ความผิดบาปของเจ้าได้ถูกเอาออกไปแล้ว และความบาปของเจ้าได้รับการลบล้างมลทินแล้ว"
\v 8 ข้าพเจ้าได้ยินเสียงขององค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า "เราจะใช้ผู้ใดไป ผู้ใดจะไปแทนพวกเรา?" แล้วข้าพเจ้าได้ทูลว่า "ข้าพระองค์อยู่ที่นี่ ขอทรงใช้ข้าพระองค์ไปเถิด"
\v 9 พระองค์ได้ตรัสว่า "ไปเถิดและบอกกับชนชาตินี้ว่า 'จงฟัง แต่ไม่เข้าใจ จงดู แต่มองไม่เห็น'
\s5
\p
\v 10 จงทำให้ใจของชนชาตินี้ไร้ความรู้สึก และทำให้หูของพวกเขาตึง และทำให้ตาของพวกเขาบอดไป มิฉะนั้น พวกเขาอาจจะเห็นด้วยตาของพวกเขา ได้ยินด้วยหูของพวกเขา และเข้าใจด้วยใจของพวกเขา แล้วหันกลับมาและได้รับการรักษาให้หาย
\v 11 แล้วข้าพเจ้าทูลว่า "ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า อีกนานสักเท่าใด?" พระองค์ได้ตรัสตอบว่า "จนกว่าเมืองทั้งหลายจะถูกทำลายเป็นซากปรักหักพัง และไม่มีผู้อาศัยอยู่ และบ้านเรือนก็ไม่มีผู้คน และแผ่นดินนั้นก็ตกไปสู่ความร้างเปล่าอย่างสิ้นเชิง
\v 12 และจนกว่าพระยาห์เวห์ได้ส่งชนชาตินั้นออกไปไกล และที่ร้างเปล่าของแผ่นดินนั้นก็กว้างใหญ่
\v 13 ถึงแม้ว่ายังเหลือหนึ่งในสิบของชนชาตินั้นอยู่ในเมืองนี้ เมืองนี้ก็จะถูกทำลายอีก เหมือนกับต้นสนหรือต้นโอ๊กที่ถูกโค่นลงมาและลำต้นของมันยังคงอยู่ เมล็ดพันธุ์ที่บริสุทธิ์ก็อยู่ในตอของมัน"
\s5
\c 7
\p
\v 1 ในรัชกาลของอาหัสพระราชโอรสของโยธาม ผู้ทรงเป็นพระราชโอรสของอุสซียาห์กษัตริย์แห่งยูดาห์ เรซีนกษัตริย์แห่งอารัม และเปคาห์พระราชโอรสของเรมาลิยาห์กษัตริย์แห่งอิสราเอล ได้ขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็มเพื่อทำสงครามกับเมืองนั้น แต่พวกเขาไม่อาจรบชนะเมืองนั้นได้
\v 2 เมื่อมีคนรายงานต่อราชวงศ์ของดาวิดว่า อารัมได้เป็นพันธมิตรกับเอฟราอิมแล้ว พระทัยของพระองค์และจิตใจของประชาชนของพระองค์ก็สั่นเหมือนต้นไม้ในป่าที่สั่นไหวในกระแสลม
\s5
\p
\v 3 แล้วพระยาห์เวห์ได้ตรัสกับอิสยาห์ว่า "จงออกไปกับเชอารยาชูบบุตรชายของเจ้าเพื่อไปเฝ้าอาหัสที่ปลายท่อส่งน้ำของสระบน บนถนนไปยังลานของช่างซักฟอก
\v 4 จงบอกเขาว่า 'จงระวังให้ดี จงสงบไว้ อย่ากลัวหรืออย่าให้ดุ้นฟืนจวนจะมอดทั้งสองอันนี้มาข่มขู่ได้ จากความเกรี้ยวกราดของเรซีนและอารัม และจากเปคาห์พระราชโอรสของเรมาลิยาห์
\v 5 อารัม เอฟราอิม และพระราชโอรสของเรมาลิยาห์ได้วางแผนชั่วร้ายต่อเจ้า พวกเขาได้พูดว่า
\v 6 "ให้พวกเราโจมตียูดาห์และทำให้เมืองนั้นหวาดกลัว และให้พวกเราบุกทะลวงเข้าไปในเมืองนั้นและตั้งพระราชโอรสของทาเบเอลให้เป็นกษัตริย์ของพวกเราที่นั่น"
\s5
\p
\v 7 พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า "มันจะไม่เป็นเช่นนั้น มันจะไม่เกิดขึ้น
\v 8 เพราะศีรษะของอารัมคือดามัสกัส และศีรษะของดามัสกัสคือเรซีน เอฟราอิมจะถูกทำให้กระจัดกระจายไปและจะไม่เป็นชนชาติอีกต่อไปภายในหกสิบห้าปี
\v 9 ศีรษะของเอฟราอิมก็คือสะมาเรีย และศีรษะของสะมาเรียก็คือพระราชโอรสของเรมาลิยาห์ ถ้าเจ้าไม่คงอยู่ในความเชื่อ เจ้าก็จะยังคงไม่ปลอดภัยอย่างแน่นอน""'
\s5
\p
\v 10 องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสกับอาหัสอีกว่า
\v 11 "จงทูลขอหมายสำคัญของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า จงทูลถามหมายสำคัญนั้นในส่วนที่ลึกหรือในส่วนที่สูงเหนือขึ้นไปก็ได้"
\v 12 แต่อาหัสได้ตรัสว่า "เราจะไม่ทูลขอ และเราจะไม่ทดสอบพระยาห์เวห์"
\v 13 ดังนั้น อิสยาห์จึงทูลตอบว่า "ราชวงศ์ของดาวิด ขอทรงฟัง การที่พระองค์ทดสอบความอดทนของประชาชนนั้นยังไม่พอหรือ? พระองค์ยังต้องทรงทดสอบความอดทนของพระเจ้าของข้าพระองค์อีกด้วยหรือ?"
\v 14 เพราะฉะนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าเองจะประทานหมายสำคัญแก่พระองค์และประชาชนอย่างหนึ่ง ดูเถิด หญิงสาวคนหนึ่งจะตั้งครรภ์ และคลอดบุตรชายคนหนึ่ง และจะเรียกนามของเขาว่าอิมมานูเอล
\s5
\p
\v 15 เขาจะรับประทานนมข้นและน้ำผึ้ง เมื่อถึงเวลาที่เขารู้จักปฏิเสธความชั่วและเลือกความดี
\v 16 เพราะก่อนที่เด็กคนนั้นจะรู้จักปฏิเสธความชั่วและเลือกความดี แผ่นดินที่เป็นของกษัตริย์ทั้งสององค์ที่พระองค์ทรงหวาดกลัวก็จะร้างเปล่า
\v 17 พระยาห์เวห์จะนำวันเวลานั้นมาเหนือพระองค์ เหนือชนชาติของพระองค์ และเหนือราชวงศ์ของพระราชบิดาของพระองค์ ที่ไม่เหมือนกับครั้งใด ตั้งแต่เอฟราอิมได้แยกออกจากยูดาห์ พระยาห์เวห์จะนำกษัตริย์แห่งอัสซีเรียมาเหนือพระองค์"
\s5
\p
\v 18 ในเวลานั้น พระยาห์เวห์จะทรงผิวพระโอษฐ์เรียกแมลงวันตัวหนึ่งมาจากลำธารของอียิปต์ที่ห่างไกล และเรียกผึ้งตัวหนึ่งจากแผ่นดินของอัสซีเรีย
\v 19 พวกมันทั้งหมดจะมาและเกาะอยู่ในหุบเขาทั้งสิ้น ในซอกหิน บนพุ่มไม้หนามทั้งหมด และบนทุ่งหญ้าทั้งหมด
\v 20 ในเวลานั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงโกนทั้งศีรษะและขนที่ขาด้วยมีดโกนที่เช่ามาจากอีกฟากหนึ่งของแม่น้ำยูเฟรตีส คือกษัตริย์แห่งอัสซีเรีย ซึ่งจะปาดเอาหนวดเคราออกไปด้วย
\s5
\p
\v 21 ในวันนั้น คนหนึ่งจะเลี้ยงลูกโคตัวเมียหนึ่งตัวและแกะสองตัวให้มีชีวิตอยู่
\v 22 และเพราะพวกมันจะให้นมอย่างมากมาย เขาจะกินนมข้น เพราะทุกคนที่เหลืออยู่ในแผ่นดินนั้นจะกินนมข้นและน้ำผึ้ง
\v 23 ในเวลานั้น ที่ใดที่เคยมีเถาองุ่นหนึ่งพันเถา ซึ่งมีค่าเป็นเงินหนึ่งพันเชเขล ก็จะไม่มีเหลืออะไรเลย นอกจากพุ่มไม้หนามและพืชที่มีหนาม
\v 24 ผู้คนจะไปที่นั่นเพื่อล่าด้วยธนู เพราะแผ่นดินทั้งหมดจะเป็นพุ่มไม้หนามและพืชมีหนาม
\v 25 พวกเขาจะอยู่ห่างจากเนินเขาทุกแห่งที่เคยถูกขุดด้วยจอบ เพราะความกลัวพุ่มไม้หนามและพืชมีหนาม แต่แผ่นดินนั้นจะเป็นที่ซึ่งฝูงโคและฝูงแกะเล็มหญ้า
\s5
\c 8
\p
\v 1 พระยาห์เวห์ได้ตรัสกับข้าพเจ้าว่า "จงนำแผ่นจารึกขนาดใหญ่มาและเขียนบนนั้นว่า 'มาเฮอร์ชาลาลหัชบัส'
\v 2 ข้าพเจ้าจะเรียกพวกพยานที่สัตย์ซื่อ คืออุรียาห์ปุโรหิต และเศคาริยาห์บุตรชายของเยเบเรคียาห์มาเป็นพยานให้กับข้าพเจ้า"
\s5
\p
\v 3 ข้าพเจ้าได้ไปหาผู้เผยพระวจนะหญิง และนางได้ตั้งครรภ์และคลอดบุตรชายคนหนึ่ง แล้วพระยาห์เวห์ได้ตรัสกับข้าพเจ้าว่า "จงเรียกชื่อของเขาว่า 'มาเฮอร์ชาลาลหัชบัส'
\v 4 เพราะก่อนที่เด็กคนนั้นจะร้องเรียก 'พ่อของฉัน' และ 'แม่ของฉัน' ได้ กษัตริย์แห่งอัสซีเรียจะขนบรรดาทรัพย์สมบัติของดามัสกัสและของที่ริบได้จากสะมาเรียไป"
\s5
\p
\v 5 พระยาห์เวห์ได้ตรัสกับข้าพเจ้าอีกว่า
\v 6 "เพราะชนชาตินี้ได้ปฏิเสธน้ำแห่งชิโลอาห์ที่ไหลเอื่อยๆ และยินดีกับเรซีนและพระราชโอรสของเรมาลิยาห์
\v 7 เพราะฉะนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าจะนำน้ำของแม่น้ำนั้นที่มีอำนาจและมากมายขึ้นมาเหนือพวกเขา คือกษัตริย์แห่งอัสซีเรียและศักดิ์ศรีทั้งหมดของพระองค์ น้ำนั้นจะไหลล้นลำคลองทุกแห่งและท่วมฝั่งลำคลองนั้น
\v 8 แม่น้ำนั้นจะกวาดข้างหน้าต่อไปสู่ยูดาห์ น้ำท่วมและไหลต่อไป จนกว่าน้ำนั้นจะถึงคอของเจ้า อิมมานูเอลเอ๋ย ปีกของน้ำที่กางออกจะเต็มแผ่นดินที่กว้างใหญ่ของเจ้า"
\s5
\p
\v 9 ประชาชนทั้งหลายจะถูกทำลายเป็นชิ้นๆ ประเทศทั้งหลายที่อยู่ห่างไกล จงฟัง จงถืออาวุธของตนเองเพื่อทำสงครามและถูกทำลายเป็นชิ้นๆ จงถืออาวุธของตนเองและถูกทำลายเป็นชิ้นๆ
\v 10 จงวางแผน แต่มันจะไม่มีการลงมือทำ จงออกคำสั่ง แต่มันก็จะไม่มีการปฏิบัติ เพราะพระเจ้าสถิตกับพวกเรา
\s5
\p
\v 11 พระยาเวห์ได้ตรัสกับข้าพเจ้าว่า ด้วยพระหัตถ์อันเข้มแข็งของพระองค์อยู่เหนือข้าพเจ้า และได้ทรงเตือนข้าพเจ้าไม่ให้เดินในทางของชนชาตินี้ พระองค์ตรัสว่า
\v 12 สิ่งใดก็ตามที่ชนชาตินี้เรียกว่าการร่วมคิดกบฏ อย่าเรียกว่าการร่วมคิดกบฏ เจ้าจะไม่กลัวสิ่งที่พวกเขากลัวและอย่าหวาดหวั่น
\v 13 พระยาห์เวห์จอมโยธานี่แหละที่เจ้าจะถวายพระเกียรติเป็นองค์บริสุทธิ์ พระองค์ทรงเป็นผู้ที่เจ้าต้องกลัว และพระองค์ทรงเป็นผู้ที่เจ้าต้องหวาดหวั่น
\s5
\p
\v 14 พระองค์จะทรงเป็นสถานนมัสการ แต่พระองค์จะเป็นหินที่กระทบ และเป็นศิลาที่ทำให้สะดุด สำหรับเชื้อสายทั้งสองของอิสราเอล และพระองค์จะทรงเป็นกับดักและบ่วงแร้วต่อชาวกรุงเยรูซาเล็ม
\v 15 คนมากมายจะสะดุดศิลานั้นและล้มลงและแตกหัก และติดบ่วงและถูกจับตัวไป
\v 16 จงมัดถ้อยคำพยานของข้าพเจ้าเก็บไว้ จงผนึกตราบันทึกอย่างเป็นทางการนั้น และจงให้มันต่อพวกสาวกของข้าพเจ้า
\s5
\p
\v 17 ข้าพเจ้าจะรอคอยพระยาห์เวห์ ผู้ทรงซ่อนพระพักตร์ของพระองค์จากเชื้อสายของยาโคบ ข้าพเจ้าจะวางใจในพระองค์
\v 18 ดูเถิด ข้าพเจ้ากับบุตรชายทั้งหลายของข้าพเจ้าผู้ที่พระยาห์เวห์ได้ประทานแก่ข้าพเจ้าให้เป็นหมายสำคัญและการอัศจรรย์ในอิสราเอลจากพระยาห์เวห์จอมโยธาผู้ประทับบนภูเขาศิโยน
\v 19 พวกเขาจะพูดกับเจ้าว่า "จงปรึกษากับคนทรงและคนใช้เวทมนตร์" คนเหล่านั้นที่ร้องเสียงจ้อกแจ้กและร่ายมนตร์ แต่ชนชาติหนึ่งไม่ควรที่จะปรึกษาพระเจ้าของพวกเขาหรือ? พวกเขาควรจะปรึกษาคนตายในนามของคนที่มีชีวิตอยู่หรือ?
\s5
\p
\v 20 ถ้าพวกเขาไม่พูดเรื่องเช่นนั้นต่อธรรมบัญญัติและต่อถ้อยคำพยาน นั่นเป็นเพราะพวกเขาไม่มีความสว่างแห่งรุ่งอรุณเลย
\v 21 พวกเขาจะผ่านเข้าแผ่นดินไปด้วยความทุกข์ยากลำบากและความหิวอย่างแสนสาหัส เมื่อพวกเขาหิว พวกเขาก็จะโกรธและสาปแช่งกษัตริย์ และพระเจ้าของพวกเขา ขณะที่พวกเขาแหงนหน้าของพวกเขาขึ้นไป
\v 22 พวกเขาจะมองที่แผ่นดินโลกและเห็นความทุกข์ยาก ความมืด และความเศร้าของความระทมใจ พวกเขาจะถูกขับไล่เข้าไปในดินแดนแห่งความมืด
\s5
\c 9
\p
\v 1 ความโศกเศร้าจะมลายหายไปจากเมืองที่ทุกข์ระทม ในกาลก่อนพระองค์ได้ทรงทำให้แผ่นดินเศบูลุนและแผ่นดินนัฟทาลีอัปยศอดสู แต่ในภายหลังพระองค์จะทรงทำทางไปสู่ทะเลซึ่งอยู่อีกฟากของแม่น้ำจอร์แดน คือกาลิลีของบรรดาประชาชาตินั้นให้รุ่งโรจน์
\v 2 ชนชาติที่ได้เดินอยู่ในความมืดได้เห็นความสว่างยิ่งใหญ่ คนเหล่านั้นที่อยู่ในแผ่นดินของเงามืดแห่งความตาย แสงสว่างได้ส่องสว่างมาบนพวกเขา
\v 3 พระองค์ได้ทรงทวีจำนวนชนชาตินั้น พระองค์ได้ทรงเพิ่มพูนความชื่นชมยินดีของพวกเขามากขึ้น พวกเขาเปรมปรีดิ์อยู่ต่อพระพักตร์พระองค์เหมือนกับความยินดีในฤดูเก็บเกี่ยว เหมือนพวกคนที่ยินดีในขณะที่พวกเขาแบ่งของที่ริบมาได้
\s5
\p
\v 4 เพราะว่าแอกอันเป็นภาระหนักของเขา และไม้คานที่พาดไหล่ของเขา และไม้ตะบองของผู้ที่กดขี่เขา พระองค์ได้ทรงทำให้กระจัดกระจายไปเหมือนอย่างในวันทำกับคนมีเดียน
\v 5 เพราะรองเท้าทหารทุกคู่ที่เหยียบย่ำในความสับสนวุ่นวาย และเสื้อผ้าที่เกลือกในโลหิตจะถูกเผาเป็นเชื้อเพลิงแก่ไฟ
\v 6 เด็กคนหนึ่งจะเกิดมาเพื่อเรา บุตรชายคนหนึ่งได้ทรงประทานแก่เรา และการครอบครองจะอยู่บนบ่าของท่าน และจะเรียกนามของท่านว่าที่ปรึกษามหัศจรรย์ พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ พระบิดานิรันดร์ และองค์สันติราช
\s5
\p
\v 7 การปกครองของท่านจะเพิ่มพูนขึ้น และจะมีสันติภาพไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อพระองค์ทรงปกครองบนบัลลังก์ของดาวิด และเหนือราชอาณาจักรของพระองค์ เพื่อสถาปนาและเชิดชูไว้ด้วยความยุติธรรมและด้วยความชอบธรรม ตั้งแต่บัดนี้ไปจนชั่วนิรันดร์ ความร้อนรนของพระยาห์เวห์จอมโยธาจะทรงทำดังนี้
\v 8 องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ใช้พระวจนะมาต่อสู้กับยาโคบ และพระวจนะนั้นได้ตกอยู่เหนืออิสราเอล
\v 9 ประชาชนทั้งหมดจะรู้ แม้แต่เอฟราอิมและชาวสะมาเรีย ผู้ที่กล่าวด้วยความเย่อหยิ่งและด้วยใจที่จองหองว่า
\v 10 "ก้อนอิฐเหล่านั้นได้พังลงแล้ว แต่เราจะสร้างขึ้นด้วยหินสลัก บรรดาต้นมะเดื่อได้ถูกโค่นลงแล้ว แต่เราจะเอาสนสีดาร์มาแทนที่พวกมัน"
\s5
\p
\v 11 ด้วยเหตุนี้ พระยาห์เวห์จะทำให้เรซีนที่เป็นปฏิปักษ์ของเขาขึ้นมาสู้รบกับเขา และจะปลุกเร้าศัตรูของเขา
\v 12 คือคนอารัมทางตะวันออก และคนฟีลิสเตียทางตะวันตก พวกเขาจะอ้าปากกลืนกินอิสราเอล ในเหตุการณ์ทั้งหมดเหล่านี้ พระพิโรธของพระองค์ก็ไม่บรรเทาลง แต่พระหัตถ์ของพระองค์ยังเหยียดออกอยู่
\v 13 แต่ประชาชนก็จะไม่กลับไปหาพระองค์ที่ทรงตีพวกเขา และพวกเขาก็จะไม่แสวงหาพระยาห์เวห์จอมโยธา
\s5
\p
\v 14 ด้วยเหตุนี้ พระยาห์เวห์จะทรงตัดหัวและหางออกจากอิสราเอล ทั้งกิ่งอินทผาลัมและต้นกกในวันเดียว
\v 15 พวกผู้นำและคนสูงศักดิ์คือหัว และพวกผู้เผยพระวจนะที่สอนเท็จก็คือหาง
\v 16 คนเหล่านั้นที่นำชนชาตินี้ได้นำพวกเขาให้หลงทาง และพวกคนที่คนเหล่านั้นนำไปก็ถูกกลืนกิน
\s5
\p
\v 17 เพราะฉะนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าจะไม่ทรงยินดีกับพวกคนหนุ่มของพวกเขา และพระองค์จะไม่ทรงเมตตาต่อลูกกำพร้าพ่อและหญิงม่ายของพวกเขา เพราะทุกคนล้วนไม่มีพระเจ้าและเป็นคนทำชั่ว และปากทุกปากกล่าวสิ่งต่างๆ ที่โง่เขลา ในเหตุการณ์ทั้งหมดเหล่านี้ พระพิโรธของพระองค์ก็ไม่บรรเทาลง แต่พระหัตถ์ของพระองค์ยังเหยียดออกอยู่
\v 18 ความอธรรมก็เผาไหม้เหมือนกับไฟ มันเผาผลาญพุ่มไม้หนามและพืชมีหนาม มันเผาไหม้แม้กระทั่งพุ่มไม้ทึบในป่า ที่ทำให้เกิดเป็นกลุ่มควันขึ้นมา
\s5
\p
\v 19 เนื่องจากความเกรี้ยวกราดของพระยาห์เวห์จอมโยธา แผ่นดินนั้นก็ถูกเผา และชนชาตินั้นก็เป็นเหมือนเชื้อเพลิงให้กับไฟ ไม่มีใครไว้ชีวิตพี่น้องของตน
\v 20 พวกเขาจะฉวยอาหารไว้ในมือขวา แต่ก็ยังคงหิวอยู่ พวกเขาจะกินอาหารที่มือซ้ายแต่ก็จะไม่อิ่ม แต่ละคนจะกินแม้กระทั่งเนื้อของแขนของตนเอง
\v 21 มนัสเสห์จะกลืนกินเอฟราอิม และเอฟราอิมก็จะกลืนกินมนัสเสห์ และพวกเขาจะต่อสู้กับยูดาห์ด้วยกัน ในเหตุการณ์ทั้งหมดเหล่านี้ พระพิโรธของพระองค์ก็ไม่บรรเทาลง แต่พระหัตถ์ของพระองค์ยังเหยียดออกอยู่
\s5
\c 10
\p
\v 1 วิบัติแก่คนเหล่านั้นที่ออกกฎหมายที่ไม่เป็นธรรมและเขียนบทบัญญัติที่ไม่ยุติธรรม
\v 2 พวกเขาผลักไสคนที่ขัดสนไปจากความยุติธรรม ปล้นสิทธิของคนจนของชนชาติของเรา ริบทรัพย์ของพวกแม่ม่าย และทำให้ลูกกำพร้าพ่อเป็นเหยื่อของพวกเขา
\v 3 พวกเจ้าจะทำอย่างไรในวันแห่งการพิพากษา เมื่อความพินาศมาจากที่ไกล? พวกเจ้าจะหนีไปขอความช่วยเหลือจากใคร? และพวกเจ้าจะเหลือทรัพย์สมบัติของเจ้าไว้ที่ไหน?
\s5
\p
\v 4 ไม่มีสิ่งใดเหลืออยู่ และเจ้าก็หมอบอยู่ท่ามกลางพวกนักโทษ หรือล้มลงอยู่ท่ามกลางคนที่ถูกฆ่าตาย ในเหตุการณ์ทั้งหมดเหล่านี้ พระพิโรธของพระองค์ก็ไม่บรรเทาลง พระหัตถ์ของพระองค์ยังคงเหยียดออกอยู่
\v 5 วิบัติแก่คนอัสซีเรีย ผู้เป็นไม้พลองแห่งความกริ้วของเรา และเป็นไม้พลองที่เราใช้เป็นเครื่องมือต่อความเกรี้ยวกราดของเรา
\v 6 เราได้ใช้เขาไปต่อสู้กับชนชาติหนึ่งที่จองหอง และต่อสู้กับชนชาติที่แบกรับพระพิโรธที่เอ่อล้นของเรา เราบัญชาเขาให้นำของที่ริบมา นำสิ่งที่ปล้นมา และเหยียบย่ำพวกเขาเหมือนกับโคลนในถนน
\s5
\p
\v 7 แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาตั้งใจ และเขาก็ไม่คิดอย่างนี้ การทำลายและกำจัดชนชาติต่างๆ มากมายอยู่ในจิตใจของเขา
\v 8 เพราะเขากล่าวว่า "เจ้านายของข้าทั้งหมดล้วนแต่เป็นกษัตริย์ไม่ใช่หรือ?
\v 9 เมืองคาลโนก็เหมือนกับเมืองคารเคมิชไม่ใช่หรือ? เมืองฮามัทก็เหมือนกับเมืองอารปัดไม่ใช่หรือ? เมืองสะมาเรียก็เหมือนกับเมืองดามัสกัสไม่ใช่หรือ?
\s5
\p
\v 10 เหมือนกับมือของข้าที่ได้ชัยชนะเหนือบรรดาราชอาณาจักรที่กราบไหว้รูปเคารพ ซึ่งรูปแกะสลักของพวกเขายิ่งใหญ่กว่ารูปเคารพเหล่านั้นของเยรูซาเล็มและสะมาเรีย
\v 11 เราจะไม่ทำกับกรุงเยรูซาเล็มและรูปเคารพของกรุงนั้นอย่างเดียวกันกับที่เราได้ทำกับสะมาเรียและรูปเคารพที่ไร้ค่าของเมืองนั้นหรือ?"
\v 12 เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงเสร็จสิ้นพระราชกิจของพระองค์บนภูเขาศิโยนและที่กรุงเยรูซาเล็มแล้ว เราจะลงโทษคำพูดจากจิตใจที่จองหองของกษัตริย์แห่งอัสซีเรียและสายตาที่ยโสของเขา
\s5
\p
\v 13 เพราะเขากล่าวว่า "ข้าได้ทำการด้วยกำลังของข้าและด้วยสติปัญญาของข้า ข้ามีความเข้าใจ และข้าได้รื้อเขตแดนของชนชาติทั้งหลายออกไป ข้าได้ขโมยทรัพย์สมบัติของพวกเขา และข้าได้ทำให้ชาวเมืองนั้นพ่ายแพ้ไปเหมือนกับโคหนุ่ม
\v 14 มือของข้าได้ยึดทรัพย์สมบัติของชนชาติต่างๆ มา เหมือนยึดเอามาจากรังนก และคนที่เก็บรวบรวมไข่นกที่ถูกทิ้งไว้อย่างไร ข้าก็ได้เก็บรวบรวมแผ่นดินโลกทั้งหมดไว้อย่างนั้น ไม่มีตัวใดขยับปีก หรืออ้าปากของพวกมันหรือส่งเสียงจ้อกแจ้กเลย"
\s5
\p
\v 15 ขวานจะโอ้อวดตัวมันเองต่อคนที่ใช้มันเป็นเครื่องมือได้หรือ? เลื่อยจะยกย่องตัวมันเองเหนือกว่าคนที่ใช้มันเลื่อยหรือ? มันเป็นเหมือนกับไม้ตะบองจะยกคนที่ถือมันขึ้นมาได้หรือไม่ หรือเหมือนกับท่อนไม้จะยกคนขึ้นมาได้หรือไม่
\v 16 ด้วยเหตุนี้ พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าจะส่งความผอมแห้งมาท่ามกลางพวกนักรบที่ยอดเยี่ยมของเขา และภายใต้ศักดิ์ศรีของเขา จะมีการเผาไหม้ที่ลุกโชนเหมือนกับไฟ
\v 17 ความสว่างของอิสราเอลจะเป็นไฟ และองค์บริสุทธิ์ของเขาจะเป็นเปลวเพลิง ไฟนั้นจะลุกไหม้และเผาผลาญพืชที่มีหนามและพุ่มไม้หนามของเขาจนสิ้นในวันเดียว
\s5
\p
\v 18 พระยาห์เวห์จะทรงเผาผลาญความรุ่งเรืองของป่าของเขา และแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ของเขา รวมทั้งจิตใจและร่างกาย ก็จะเป็นเหมือนตอนที่ชีวิตของคนป่วยได้สูญไป
\v 19 บรรดาต้นไม้ที่เหลืออยู่ในป่าของเขาจะเหลือน้อยเต็มที จนเด็กสามารถนับจำนวนได้
\v 20 ในวันนั้น คนอิสราเอลที่เหลืออยู่ ตระกูลของยาโคบที่ได้รอดชีวิตจะไม่พึ่งพิงผู้ที่โจมตีพวกเขาอีกต่อไป แต่จะพึ่งพิงพระยาห์เวห์ องค์บริสุทธิ์ของอิสราเอลด้วยจริงใจ
\s5
\p
\v 21 คนที่เหลืออยู่ของยาโคบจะกลับมาหาพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์
\v 22 เพราะถึงแม้ว่าชนชาติของเจ้าเป็นดั่งทรายที่ชายทะเล คนที่เหลืออยู่ของพวกเขาเท่านั้นจะกลับมา การทำลายนั้นได้ถูกกำหนดไว้แล้ว ตามที่ความชอบธรรมอย่างเหลือล้นต้องการ
\v 23 เพราะพระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาจะทำการทำลายตามที่กำหนดไว้ตลอดทั่วแผ่นดิน
\s5
\p
\v 24 ด้วยเหตุนี้ พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาตรัสว่า "ชนชาติของเราผู้ที่อาศัยอยู่ในศิโยนเอ๋ย อย่ากลัวคนอัสซีเรีย เขาจะตีพวกเจ้าด้วยตะบองและยกไม้พลองของเขามาต่อสู้กับพวกเจ้า เหมือนอย่างที่อียิปต์ได้ทำ
\v 25 อย่ากลัวเขาเลย เพราะอีกไม่นาน ความกริ้วของเราที่มีต่อพวกเจ้าจะสิ้นสุดลง และความกริ้วของเราจะมุ่งไปสู่การทำลายของเขา"
\s5
\p
\v 26 แล้วพระยาห์เวห์จอมโยธาจะใช้แส้ต่อสู้กับพวกเขา เหมือนกับตอนที่พระองค์ทรงโจมตีคนมีเดียนที่ศิลาแห่งโอเรบ พระองค์จะทรงยกไม้ตะบองของพระองค์ขึ้นมาเหนือทะเล และจะทรงยกมันขึ้นอย่างที่ได้ทรงทำกับอียิปต์
\v 27 ในวันนั้น ภาระหนักของเขาจะถูกยกออกจากบ่าของพวกเจ้า และแอกของเขาออกจากคอของพวกเจ้า และแอกนั้นจะถูกทำลายเพราะความอ้วนพี
\v 28 ศัตรูได้มาถึงเมืองอัยยาทแล้ว และได้ผ่านมิโกรนไปแล้ว เขาได้เก็บเสบียงของเขาไว้ที่มิคมาช
\s5
\p
\v 29 พวกเขาได้ข้ามผ่านหนทางนั้นมาแล้วและพวกเขาพักอาศัยที่เกบา รามาห์ก็ตัวสั่นและกิเบอาห์ของซาอูลก็หนีไปแล้ว
\v 30 บุตรหญิงของกัลลิมเอ๋ย จงร้องเสียงดัง ไลชาห์เอ๋ย จงให้ความสนใจ เจ้าอานาโทธที่น่าสงสาร
\v 31 มัดเมนาห์กำลังหนีไป และชาวเมืองเกบิมก็หนีไปหาที่ปลอดภัย
\s5
\p
\v 32 วันนี้เองที่เขาจะหยุดอยู่ที่เมืองโนบ และสั่นกำปั้นของเขาเข้าใส่ภูเขาของบุตรหญิงแห่งศิโยน เข้าใส่เนินเขาแห่งเยรูซาเล็ม
\v 33 ดูเถิด พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาจะทรงตัดกิ่งด้วยการทำลายที่น่ากลัว บรรดาต้นไม้ที่สูงที่สุดจะถูกโค่นลงมา และคนสูงศักดิ์จะถูกทำให้ต่ำลง
\v 34 พระองค์จะทรงฟันพุ่มไม้หนาทึบในป่าลงมาด้วยขวาน และเลบานอนในความสง่างามของเขาจะล้มลง
\s5
\c 11
\p
\v 1 หน่อหนึ่งจะงอกมาจากตอของเจสซี และกิ่งหนึ่งที่งอกออกมาจากรากของเขาจะเกิดผล
\v 2 พระวิญญาณของพระยาห์เวห์จะสถิตอยู่บนท่าน คือพระวิญญาณแห่งปัญญาและความเข้าใจ พระวิญญาณแห่งการสอนและอานุภาพ พระวิญญาณแห่งความรู้และความยำเกรงพระยาห์เวห์
\v 3 ความยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นความปีติยินดีของท่าน ท่านจะไม่พิพากษาตามสิ่งที่ตาของท่านมองเห็น และจะไม่ตัดสินตามสิ่งที่หูของท่านได้ยิน
\s5
\p
\v 4 แต่ท่านจะพิพากษาคนยากจนด้วยความชอบธรรมและตัดสินให้กับคนต่ำต้อยของแผ่นดินอย่างเป็นธรรม ท่านจะตีแผ่นดินโลกด้วยตะบองจากปากของท่าน และท่านจะประหารคนอธรรมด้วยลมจากริมฝีปากของท่าน
\v 5 ความชอบธรรมจะเป็นสายคาดเอวของท่าน และความสัตย์ซื่อจะเป็นสายคาดรอบสะโพกของท่าน
\v 6 หมาป่าจะอยู่กับลูกแกะ และเสือดาวจะนอนอยู่กับลูกแพะ และลูกโค สิงโตหนุ่มและลูกโคอ้วนพีจะอยู่ด้วยกัน เด็กเล็กๆ จะนำพวกมันไป
\s5
\p
\v 7 แม่โคกับหมีจะหากินด้วยกัน และลูกๆ ของพวกมันจะนอนอยู่ด้วยกัน สิงโตจะกินฟางเหมือนกับโคตัวผู้
\v 8 เด็กทารกจะเล่นอยู่ที่ปากรูของงู และเด็กที่หย่านมจะเอามือของเขาวางบนรังของงูพิษ
\v 9 พวกมันจะไม่ทำให้เจ็บปวดหรือทำลายกันทั่วทั้งภูเขาบริสุทธิ์ของเรา เพราะแผ่นดินโลกจะเต็มด้วยความรู้ของพระยาห์เวห์ เหมือนน้ำที่ปกคลุมทะเล
\s5
\p
\v 10 ในวันนั้น รากของเจสซีจะตั้งขึ้นเป็นธงสัญญาณแก่ชนชาติทั้งหลาย บรรดาประชาชาติจะแสวงหาพระองค์ และสถานที่พำนักของพระองค์จะรุ่งเรือง
\v 11 ในวันนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงยื่นพระหัตถ์ของพระองค์อีกครั้งเพื่อนำคนที่เหลืออยู่ของชนชาติของพระองค์กลับคืนมา ผู้ที่ยังคงอยู่ในอัสซีเรีย อียิปต์ ปัทโรส คูช เอลาม ชินาร์ ฮามัท และเกาะต่างๆ ในทะเล
\v 12 พระองค์จะทรงชูธงสัญญาณให้แก่ชนชาติต่างๆ และจะทรงรวบรวมคนที่ถูกขับไล่ไปของอิสราเอลและทรงรวบรวมคนยูดาห์ที่กระจัดกระจายไปจากทั้งสี่มุมของแผ่นดินโลก
\s5
\p
\v 13 พระองค์จะทรงหันความริษยาของเอฟราอิมไป และความเป็นศัตรูของยูดาห์จะถูกตัดออกไป เอฟราอิมจะไม่ริษยายูดาห์ และยูดาห์จะไม่เป็นศัตรูกับเอฟราอิมอีกต่อไป
\v 14 แต่พวกเขาจะโฉบลงเหนือเนินเขาของพวกฟีลิสเตียทางตะวันตก และพวกเขาจะร่วมกันปล้นชนชาติทางตะวันออก พวกเขาจะโจมตีเอโดมและโมอับ และคนอัมโมนจะเชื่อฟังพวกเขา
\s5
\p
\v 15 พระยาห์เวห์จะทรงทำลายอ่าวของทะเลแห่งอียิปต์ให้สิ้นซาก ด้วยลมที่ร้อนผ่าวของพระองค์ พระองค์จะทรงโบกพระหัตถ์ของพระองค์เหนือแม่น้ำยูเฟรตีส และจะทรงแยกแม่น้ำนั้นให้เป็นลำธารเจ็ดสาย เพื่อให้คนที่สวมรองเท้าเดินข้ามไปได้
\v 16 จะมีทางหลวงสำหรับคนที่เหลืออยู่ของชนชาติของพระองค์ที่กลับมาจากอัสซีเรีย อย่างที่เคยมีสำหรับคนอิสราเอลในตอนที่พวกเขาขึ้นมาจากแผ่นดินอียิปต์
\s5
\c 12
\p
\v 1 ในวันนั้น เจ้าจะกล่าวว่า "ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพระองค์จะขอบพระคุณพระองค์ เพราะถึงแม้ว่าพระองค์จะกริ้วต่อข้าพระองค์ แต่พระพิโรธของพระองค์ก็ได้หันกลับไปแล้ว และพระองค์ได้ทรงปลอบโยนข้าพระองค์
\v 2 ดูเถิด พระเจ้าทรงเป็นความรอดของข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะวางใจและไม่กลัวเลย เพราะพระยาห์เวห์ ใช่แล้ว พระยาห์เวห์ทรงเป็นกำลังและบทเพลงของข้าพระองค์ พระองค์ทรงเป็นความรอดของข้าพระองค์แล้ว"
\v 3 เจ้าจะตักน้ำจากบ่อน้ำแห่งความรอดด้วยความชื่นบาน
\s5
\p
\v 4 ในวันนั้น เจ้าจะพูดว่า "จงขอบพระคุณแด่พระยาห์เวห์และร้องเรียกพระนามของพระองค์ จงประกาศบรรดาพระราชกิจท่ามกลางชนชาติทั้งหลาย จงป่าวร้องว่าพระนามของพระองค์เป็นที่ยกย่อง
\v 5 จงร้องเพลงแด่พระยาห์เวห์ เพราะพระองค์ได้ทรงกระทำกิจที่น่าสรรเสริญ จงให้เรื่องนี้เป็นที่รู้กันทั่วแผ่นดินโลก
\v 6 ชาวศิโยนเอ๋ย จงร้องเสียงดังและโห่ร้องด้วยความยินดี เพราะองค์บริสุทธิ์ของอิสราเอลผู้ทรงยิ่งใหญ่อยู่ท่ามกลางพวกเจ้า"
\s5
\c 13
\p
\v 1 คำประกาศเกี่ยวกับบาบิโลน ตามที่อิสยาห์บุตรชายของอามอสได้รับ คือ
\v 2 จงตั้งธงสัญญาณขึ้นบนภูเขาหัวโล้น จงร้องเสียงดังต่อพวกเขา จงโบกมือของเจ้าเรียกพวกเขาเข้าไปในประตูเมืองของบรรดาเจ้านาย
\v 3 เราได้บัญชาพวกคนที่บริสุทธิ์ของเรา ใช่แล้ว เราได้เรียกบรรดานักรบของเรา รวมทั้งผู้ที่ยินดีในศักดิ์ศรีของเราให้จัดการตามความโกรธของเรา
\s5
\p
\v 4 เสียงของมวลชนในภูเขาเหล่านั้น เหมือนเสียงของคนมากมาย เสียงอึกทึกของบรรดาราชอาณาจักรเป็นเหมือนกับชนชาติมากมายที่รวมตัวเข้าด้วยกัน พระยาห์เวห์จอมโยธากำลังระดมกองทัพเพื่อทำสงคราม
\v 5 พวกเขามาจากประเทศที่ห่างไกล มาจากสุดขอบฟ้า นี่เป็นการที่พระยาห์เวห์จะทำลายทั่วทั้งแผ่นดินด้วยเครื่องมือแห่งการพิพากษา
\v 6 จงโอดครวญ เพราะวันแห่งพระยาห์เวห์ใกล้เข้ามาแล้ว วันนั้นจะมาด้วยการทำลายจากองค์ผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์
\s5
\p
\v 7 เพราะฉะนั้น มือทุกมือจะอ่อนเปลี้ย และใจของทุกคนจะสลายลง
\v 8 พวกเขาจะตกใจกลัว ความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานจะยึดกุมพวกเขาไว้ เหมือนกับผู้หญิงกำลังคลอดบุตร พวกเขาจะมองกันและกันด้วยความประหลาดใจ ใบหน้าของพวกเขาจะเหมือนกับแสงไฟ
\v 9 ดูเถิด วันแห่งพระยาห์เวห์จะมาด้วยพระพิโรธอย่างร้ายแรงและความกริ้วอย่างท่วมท้น เพื่อที่จะทำให้แผ่นดินเป็นที่ร้างเปล่า และเพื่อทำลายพวกคนบาปจากแผ่นดินนั้น
\s5
\p
\v 10 เหล่าดวงดาวบนท้องฟ้าและกลุ่มดาวต่างๆ จะไม่ส่องแสง ดวงอาทิตย์จะมืดไปตั้งแต่ตอนรุ่งเช้า และดวงจันทร์จะไม่ส่องแสง
\v 11 เราจะลงโทษโลกนี้ต่อความชั่วร้ายและการอธรรมของโลกนี้ และต่อความชั่วช้าของพวกเขา เราจะทำให้ความเย่อหยิ่งของคนจองหองสิ้นสุดลง และจะทำให้ความความยโสของคนที่โหดร้ายตกต่ำลง
\v 12 เราจะทำให้พวกผู้ชายหายากยิ่งกว่าหาทองคำนพคุณ และมนุษย์ก็จะหายากกว่าทองคำบริสุทธิ์แห่งโอฟีร์
\s5
\p
\v 13 เพราะฉะนั้น เราจะทำให้ท้องฟ้าสั่นสะท้าน และแผ่นดินโลกสั่นสะเทือนออกจากที่ของมัน โดยพระพิโรธรุนแรงของพระยาห์เวห์จอมโยธา และในวันแห่งพระพิโรธอันรุนแรงของพระองค์
\v 14 เหมือนกับละมั่งที่ถูกล่า หรือเหมือนกับแกะที่ไม่มีผู้เลี้ยง ทุกคนจะหันกลับไปยังชนชาติของตนเอง และทุกคนจะหนีไปยังแผ่นดินของตนเอง
\v 15 ทุกคนที่ถูกพบจะถูกฆ่า และทุกคนที่ถูกจับได้ก็จะตายด้วยดาบ
\s5
\p
\v 16 พวกทารกของพวกเขาจะถูกฟาดลงเป็นชิ้นๆ ต่อหน้าต่อตาพวกเขา บ้านเรือนของพวกเขาจะถูกปล้น และภรรยาของพวกเขาจะถูกข่มขืน
\v 17 ดูเถิด เรากำลังเร่งเร้าให้คนมีเดียมาโจมตีพวกเขา ผู้ที่ไม่สนใจเรื่องเงิน และพวกเขาไม่ยินดีในทองคำ
\v 18 ลูกธนูของพวกเขาจะปักลงที่พวกคนหนุ่ม พวกเขาจะไม่มีความสงสารต่อพวกทารกและจะไม่ไว้ชีวิตพวกเด็กๆ
\s5
\p
\v 19 แล้วบาบิโลนซึ่งเป็นที่ยกย่องที่สุดในบรรดาราชอาณาจักรทั้งหลาย ความงดงามที่คนเคลเดียภาคภูมิใจ พระเจ้าจะทรงทำลายเหมือนกับเมืองโสโดมกับเมืองโกโมราห์
\v 20 จะไม่มีผู้ใดเข้าไปอาศัยหรือใช้ชีวิตอยู่ในเมืองนั้นตลอดทุกชั่วอายุคน คนอาหรับจะไม่กางเต็นท์ของเขาที่นั่น และผู้เลี้ยงแกะจะไม่ให้ฝูงสัตว์พักอยู่ที่นั่น
\v 21 แต่พวกสัตว์ป่าแห่งทะเลทรายจะนอนลงที่นั่น บ้านเรือนของพวกเขาจะเต็มไปด้วยนกฮูกและนกกระจอกเทศ และแพะป่าจะกระโดดโลดเต้นอยู่ที่นั่น
\v 22 หมาจิ้งจอกจะเห่าหอนอยู่ในบรรดาเมืองป้อมของพวกเขา และหมาป่าจะอยู่ในวังที่สวยงาม เวลาของเมืองนั้นก็ใกล้เข้ามาแล้ว และวันของเมืองนั้นจะไม่ล่าช้าอีกต่อไป
\s5
\c 14
\p
\v 1 พระยาห์เวห์จะทรงพระเมตตาต่อยาโคบ พระองค์จะทรงเลือกอิสราเอลอีกและทำให้พวกเขากลับคืนสู่แผ่นดินของพวกเขาเอง พวกคนต่างชาติจะสมทบกับพวกเขาและผูกพันตัวพวกเขาเองกับเชื้อสายของยาโคบ
\v 2 ชนชาติทั้งหลายจะนำพวกเขามายังที่ของพวกเขาเอง แล้วเชื้อสายของอิสราเอลจะรับพวกเขามาเป็นคนรับใช้ชายและหญิงในแผ่นดินของพระยาห์เวห์ พวกเขาจะจับคนเหล่านั้นเป็นเชลย คือพวกที่ได้เคยจับพวกเขาเป็นเชลย และพวกเขาจะปกครองเหนือพวกคนที่เคยบีบบังคับพวกเขา
\s5
\p
\v 3 ในวันที่พระยาห์เวห์ประทานให้พวกเจ้าได้หยุดพักจากความทุกข์และจากความปวดร้าว และจากงานตรากตรำที่พวกเจ้าถูกบีบบังคับให้ทำ
\v 4 พวกเจ้าจะร้องบทเพลงเย้ยหยันต่อกษัตริย์ของบาบิโลนว่า "ผู้ที่บีบบังคับได้มาถึงจุดจบได้อย่างไรหนอ ความเกรี้ยวกราดที่เย่อหยิ่งได้สิ้นสุดลงแล้วหนอ
\v 5 พระยาห์เวห์ได้ทรงหักไม้พลองของคนอธรรม และทรงหักคทาของผู้ปกครองเหล่านั้น
\v 6 ที่ได้ตีชนชาติทั้งหลายด้วยความโกรธเกรี้ยวด้วยการโบยตีอย่างไม่หยุดยั้ง ผู้ที่ได้ปกครองชนชาติทั้งหลายด้วยความโกรธ ด้วยการตีอย่างไม่ยั้งมือ
\s5
\p
\v 7 ทั่วทั้งโลกก็หยุดพักและสงบอยู่ พวกเขาเริ่มการฉลองด้วยการร้องเพลง
\v 8 แม้แต่ต้นสนสามใบก็ชื่นชมยินดีเหนือเจ้า กับบรรดาต้นสนสีดาร์แห่งเลบานอน พวกมันกล่าวว่า 'ตั้งแต่เจ้าได้ถูกทำให้ตกต่ำลง ก็ไม่มีคนตัดไม้ขึ้นไปตัดพวกเราลงมาเลย'
\v 9 แดนคนตายอยู่เบื้องล่างก็ตื่นเต้นที่จะพบกับเจ้าเมื่อเจ้าไปที่นั่น มันปลุกคนตายให้มารับเจ้า คือกษัตริย์ทั้งปวงของแผ่นดินโลก ซึ่งทำให้กษัตริย์ทั้งปวงของชนชาติทั้งหลายลุกขึ้นจากบัลลังก์ของพวกเขา
\s5
\p
\v 10 พวกเขาจะพูดและกล่าวกับเจ้าว่า 'เจ้าได้กลายเป็นคนอ่อนแอเหมือนกับเรา เจ้าได้กลายเป็นเหมือนกับเรา
\v 11 ความสง่างามของเจ้าได้ถูกนำลงไปสู่แดนคนตายด้วยเสียงเครื่องสายของเจ้า พวกตัวดักแด้จะแพร่ขยายอยู่ใต้ตัวเจ้า และพวกตัวหนอนจะปกคลุมเจ้า'
\v 12 เจ้าร่วงลงมาจากฟ้าได้อย่างไรหนอ ดาวประจำรุ่ง โอรสแห่งรุ่งอรุณ เจ้าถูกโค่นลงมาสู่พื้นดินแล้วหนอ เจ้าผู้พิชิตชนชาติทั้งหลาย
\s5
\p
\v 13 เจ้าได้รำพึงในใจของเจ้าว่า 'ข้าจะขึ้นไปยังฟ้า ข้าจะตั้งบัลลังก์ของข้าเหนือดวงดาวทั้งหลายของพระเจ้า และข้าจะนั่งบนภูเขาแห่งการชุมนุม ในที่สุดปลายของทิศเหนือ
\v 14 ข้าจะขึ้นไปเหนือความสูงของเมฆ ข้าจะทำให้ตัวของข้าเองเป็นเหมือนองค์พระเจ้าสูงสุด'
\v 15 แต่ตอนนี้เจ้าได้ถูกนำลงไปสู่แดนคนตาย ยังบาดาลลึก
\s5
\p
\v 16 คนเหล่านั้นที่เห็นเจ้าจะจ้องมองที่เจ้าและพวกเขาจะให้ความสนในตัวเจ้า พวกเขาจะกล่าวว่า 'ชายคนนี้หรือที่ทำให้แผ่นดินโลกสั่นสะเทือน ผู้ที่เขย่าราชอาณาจักรทั้งหลาย
\v 17 ผู้ที่ทำให้โลกนี้เหมือนกับถิ่นทุรกันดาร ผู้ที่ทำลายเมืองต่างๆ และไม่ยอมปล่อยให้เชลยของเขากลับบ้าน?'
\v 18 กษัตริย์ทั้งปวงของชนชาติทั้งหลาย พวกเขาทุกคนต่างนอนลงอย่างมีเกียรติ ต่างก็อยู่ในอุโมงค์ฝังศพของตนเอง
\s5
\p
\v 19 แต่เจ้าถูกเหวี่ยงออกไปจากหลุมฝังศพของเจ้าเหมือนกับกิ่งไม้ที่ถูกขว้างออกไป พวกคนตายก็ปกคลุมเจ้าเหมือนกับเสื้อคลุม คือคนเหล่านั้นที่ถูกแทงด้วยดาบ คนที่ลงไปยังศิลาแห่งบาดาล
\v 20 เจ้าจะไม่มีส่วนร่วมในงานฝังศพกับพวกเขา เพราะเจ้าได้ทำลายแผ่นดินของเจ้า และได้ฆ่าชนชาติของเจ้า ลูกหลานของคนทำชั่วจะไม่มีใครกล่าวถึงอีกเลย"
\v 21 จงเตรียมการสังหารลูกๆ ของเขา เพราะความชั่วร้ายของบรรพบุรุษของพวกเขา ด้วยเหตุนี้ อย่าให้พวกเขาลุกขึ้นมาและครอบครองแผ่นดินโลกและทำให้ทั่วทั้งโลกนี้เต็มไปด้วยเมืองต่างๆ
\s5
\p
\v 22 นี่คือคำประกาศของพระยาห์เวห์จอมโยธา "เราจะลุกขึ้นสู้กับพวกเขา เราจะตัดชื่อ เชื้อสายและลูกหลานออกไปจากบาบิโลน" นี่คือคำประกาศของพระยาห์เวห์
\v 23 "เราจะทำให้เมืองนั้นถูกยึดครองด้วยพวกนกฮูก และทำให้เป็นสระน้ำ และเราจะกวาดเมืองนั้นด้วยไม้กวาดแห่งการทำลาย" นี่คือคำประกาศของพระยาห์เวห์จอมโยธา
\s5
\p
\v 24 พระยาห์เวห์จอมโยธาได้ทรงปฏิญาณว่า "แน่ทีเดียว เราได้วางแผนไว้อย่างไร มันก็จะเกิดขึ้นอย่างนั้น และเราได้มุ่งหมายไว้อย่างไร มันก็จะเป็นเช่นนั้น
\v 25 เราจะตีคนอัสซีเรียให้แตกในมือของเรา และจะเหยียบย่ำเขาให้อยู่ใต้ฝ่าเท้าบนภูเขาทั้งหลายของเรา แล้วแอกของเขาจะถูกยกออกไปจากพวกเขาและภาระหนักของเขาออกไปจากบ่าของพวกเขา"
\s5
\p
\v 26 นี่เป็นแผนงานที่ได้วางไว้แล้วต่อแผ่นดินโลกทั้งสิ้น และนี่เป็นพระหัตถ์ที่ยกขึ้นเหนือชนชาติทั้งหลาย
\v 27 เพราะพระยาห์เวห์จอมโยธาได้ทรงวางแผนนี้ไว้ ใครจะหยุดยั้งพระองค์ได้เล่า? พระหัตถ์ของพระองค์ได้ยกขึ้นแล้ว และใครจะทำให้พระหัตถ์นั้นกลับมาได้เล่า?
\s5
\p
\v 28 ในปีที่กษัตริย์อาหัสได้สิ้นพระชนม์ คำประกาศนี้ได้มาถึงว่า
\v 29 คนฟีลิสเตียเอ๋ย พวกเจ้าทั้งหมดอย่าเปรมปรีดิ์ที่ตะบองที่ได้ตีพวกเจ้าหักลงเสียแล้ว เพราะงูตัวหนึ่งจะเติบโตมาจากรากเหง้าของงูพิษ และเชื้อสายของเขาจะเป็นงูแมวเซา
\v 30 บุตรหัวปีของคนจนจะเลี้ยงฝูงแกะของพวกเขาในทุ่งหญ้าของเรา และคนขัดสนจะนอนลงอย่างปลอดภัย เราจะทำให้รากเหง้าของพวกเจ้าตายด้วยการกันดารอาหาร ที่จะสังหารคนที่รอดชีวิตทั้งหมดของพวกเจ้า
\s5
\p
\v 31 ประตูเมืองเอ๋ย จงโอดครวญ เมืองเอ๋ย จงร้องไห้ ฟีลิสเตียเอ๋ย พวกเจ้าทุกคนจะละลายไป เพราะเมฆควันออกมาจากทางเหนือ และไม่มีใครที่แตกออกจากแถวของตนเลย
\v 32 แล้วคนจะตอบพวกคนส่งสารของชนชาตินั้นว่าอย่างไร? ก็ว่า พระยาห์เวห์ได้วางฐานรากศิโยนไว้ และคนที่ทนทุกข์ของชนชาติของพระองค์จะพบที่ลี้ภัยในที่นั้น
\s5
\c 15
\p
\v 1 คำประกาศเกี่ยวกับโมอับ เมืองอาร์ของโมอับถูกทำให้ร้างเปล่าและถูกทำลายในคืนเดียวอย่างแน่นอน เมืองคีร์ของโมอับถูกทำให้ร้างเปล่าและถูกทำลายในคืนเดียวอย่างแน่นอน
\v 2 พวกเขาได้ขึ้นไปยังพระวิหาร คนดีโบนได้ขึ้นไปยังที่สูงเพื่อร้องไห้ โมอับคร่ำครวญถึงเมืองเนโบและเมืองเมเดบา ศีรษะของพวกเขาทุกคนก็ถูกโกนออกจนโล้น และหนวดเคราของพวกเขาทุกคนก็ถูกตัดออก
\s5
\p
\v 3 พวกเขาสวมผ้ากระสอบอยู่ตามถนน ทุกคนคร่ำครวญน้ำตานอง ทั้งบนหลังคาบ้านของพวกเขาและในลานเมือง
\v 4 เมืองเฮชโบนและเมืองเอเลอาเลห์ร้องเรียกขอความช่วยเหลือ เสียงของพวกเขาได้ยินไปไกลถึงเมืองยาฮาส ดังนั้น พวกผู้ชายที่ถืออาวุธของโมอับก็ร้องเรียกขอความช่วยเหลือ พวกเขาสั่นสะท้านอยู่ภายในตัวเอง
\s5
\p
\v 5 ใจของข้าพเจ้าร้องออกมาเพื่อโมอับ พวกผู้ลี้ภัยของเมืองนั้นได้หนีไปยังเมืองโศอาห์ และไปยังเมืองเอกลัทเชลีชิยาห์ พวกเขาขึ้นไปตามทางที่ขึ้นไปยังเมืองลูฮีทและร้องไห้คร่ำครวญ พวกเขาร้องคร่ำครวญเสียงดังถึงการถูกทำลายตามถนนที่ไปยังโฮโรนาอิม
\v 6 บรรดาลำน้ำแห่งนิมริมได้แห้งไป หญ้าก็เหี่ยวแห้ง และหญ้าที่ขึ้นใหม่ก็ตาย ไม่มีพืชเขียวสดอีกแล้ว
\v 7 ความอุดมสมบูรณ์ที่พวกเขาได้ปลูกและเก็บสะสมไว้ พวกเขาได้ขนข้ามลำธารแห่งต้นหลิวไป
\s5
\p
\v 8 การร้องไห้ได้กระจายไปทั่วเขตแดนของโมอับ การคร่ำครวญที่ไกลไปถึงเมืองเอกลาอิมและเมืองเบเออร์เอลิม
\v 9 เพราะบรรดาลำน้ำของเมืองดีโมนเต็มด้วยโลหิต แต่เราจะเพิ่มภัยให้กับเมืองดีโมนมากกว่านี้ สิงโตจะทำร้ายพวกคนที่หนีรอดไปจากโมอับ และพวกคนที่ยังคงเหลืออยู่ในแผ่นดินนั้นด้วย
\s5
\c 16
\p
\v 1 จงส่งพวกแกะตัวผู้ไปยังผู้ปกครองแผ่นดินจากเมืองเสลาห์ในถิ่นทุรกันดารไปยังภูเขาของบุตรหญิงแห่งศิโยน
\v 2 พวกนกร่อนเร่ไป เพราะรังที่ถูกทำให้กระจัดกระจายไปฉันใด พวกผู้หญิงของโมอับที่อยู่ที่ท่าข้ามของแม่น้ำอารโนนก็เป็นฉันนั้น
\s5
\p
\v 3 "จงให้คำแนะนำ จงทำการอย่างเป็นธรรม จงให้ร่มเงาเหมือนกลางคืนในเวลาเที่ยงวัน จงซ่อนพวกผู้ลี้ภัย อย่าหักหลังพวกผู้ลี้ภัย
\v 4 จงให้พวกผู้ลี้ภัยจากโมอับอาศัยอยู่ท่ามกลางพวกเจ้า เป็นที่ซ่อนให้กับพวกเขาให้พ้นจากผู้ทำลาย" เพราะการบีบบังคับจะหยุดไป และการทำลายจะหมดสิ้นไป พวกคนที่เหยียบย่ำจะหายไปจากแผ่นดินนั้น
\v 5 บัลลังก์จะถูกสถาปนาในพันธสัญญาสัตย์ซื่อ และคนหนึ่งจากเต็นท์ของดาวิดจะประทับอย่างสัตย์ซื่อที่นั่น พระองค์จะพิพากษาอย่างที่พระองค์แสวงหาความยุติธรรมและกระทำอย่างชอบธรรม
\s5
\p
\v 6 พวกเราได้ยินถึงความเย่อหยิ่งของโมอับ ความจองหอง การโอ้อวด และความโกรธของเขา แต่การโอ้อวดของเขาเป็นถ้อยคำที่ไร้ประโยชน์
\v 7 ดังนั้น โมอับจึงคร่ำครวญถึงโมอับ พวกเขาทุกคนคร่ำครวญโศกเศร้าถึงขนมลูกเกดของเมืองคีร์หะเรเสท พวกเจ้าผู้ที่ถูกทำลายจนสิ้นซาก
\v 8 ทุ่งนาของเมืองเฮชโบนก็เหี่ยวแห้งเช่นเดียวกับเถาองุ่นของเมืองสิบมาห์ พวกผู้ปกครองชนชาติทั้งหลายได้เหยียบย่ำเถาองุ่นที่คัดเลือกไว้ที่แผ่ไปถึงเมืองยาเซอร์ และแพร่กระจายไปยังทะเลทราย หน่อของมันก็ขยายออกไปอย่างกว้างขวาง พวกมันได้ข้ามทะเลไป
\s5
\p
\v 9 ข้าพเจ้าจะร้องไห้คร่ำครวญพร้อมกับเมืองยาเซอร์ถึงสวนองุ่นของสิบมาห์อย่างแน่นอน ข้าพเจ้าจะรดน้ำเมืองเฮชโบนและเมืองเอเลอาเลห์ด้วยน้ำตา เพราะข้าพเจ้าได้หยุดโห่ร้องด้วยความยินดีให้กับสวนผลไม้ฤดูร้อนของเจ้าและการเก็บเกี่ยว
\v 10 ความยินดีและความชื่นบานได้ถูกเอาไปจากสวนผลไม้ และไม่มีการร้องเพลง หรือโห่ร้องในสวนองุ่น ไม่มีใครย่ำให้เหล้าองุ่นออกในบ่อย่ำองุ่น เพราะข้าพเจ้าได้หยุดโห่ร้องถึงคนที่ย่ำองุ่น
\v 11 ดังนั้น จิตใจของข้าพเจ้าได้ร่ำไห้เหมือนพิณถึงโมอับ และภายในข้าพเจ้าได้ร่ำไห้ถึงคีร์หะเรเสท
\s5
\p
\v 12 เมื่อโมอับเองได้เหน็ดเหนื่อยอย่างมากอยู่ที่สถานสูงและเข้าไปยังวิหารของเขาเพื่ออธิษฐาน คำอธิษฐานของเขาจะไม่เกิดผลแต่อย่างใด
\v 13 นี่เป็นพระวจนะที่พระยาห์เวห์ได้ตรัสเกี่ยวกับโมอับมาก่อนหน้านี้
\v 14 พระยาห์เวห์ตรัสอีกว่า "ภายในสามปี ศักดิ์ศรีของโมอับจะสูญสิ้นไป แม้ว่าจะมีประชาชนมากมาย คนที่เหลืออยู่นั้นจะน้อยมากและไม่มีความสำคัญ"
\s5
\c 17
\p
\v 1 คำประกาศเกี่ยวกับเมืองดามัสกัส
\v 2 บรรดาเมืองของอาโรเออร์จะถูกทำให้ร้างเปล่า เมืองเหล่านั้นจะเป็นที่สำหรับฝูงแพะแกะนอนลง และไม่มีใครจะทำให้พวกมันตกใจกลัว
\v 3 บรรดาเมืองป้อมปราการจะหายไปจากเอฟราอิม ราชอาณาจักรจะหายไปจากเมืองดามัสกัส และคนที่เหลืออยู่ของอารัม พวกเขาจะเป็นเหมือนศักดิ์ศรีของคนอิสราเอล นี่เป็นคำประกาศของพระยาห์เวห์จอมโยธา
\s5
\p
\v 4 เหตุการณ์จะมาถึงในวันนั้นที่ศักดิ์ศรีของยาโคบจะเบาบางลง และความอ้วนพีของเนื้อหนังของเขาจะซูบผอมลงไป
\v 5 มันจะเป็นเหมือนกับตอนที่คนเก็บเกี่ยวรวบรวมต้นข้าวที่ตั้งตรงอยู่ และแขนของเขาเกี่ยวรวงข้าว มันจะเป็นเหมือนตอนที่คนเก็บรวงข้าวในหุบเขาเรฟาอิม
\v 6 การเก็บรวงข้าวจะเหลืออยู่ แต่อย่างไรก็ตาม ก็จะเหมือนตอนที่ต้นมะกอกถูกเขย่า ลูกมะกอกสองหรือสามลูกบนยอดสูงสุด สี่หรือห้าลูกที่อยู่ในกิ่งที่สูงสุดของต้นไม้ผลดก นี่เป็นคำประกาศของพระยาห์เวห์ พระเจ้าแห่งอิสราเอล
\s5
\p
\v 7 ในวันนั้น คนทั้งหลายจะมองตรงไปยังพระผู้สร้างของพวกเขา และนัยน์ตาของพวกเขาจะมองดูองค์บริสุทธิ์ของอิสราเอล
\v 8 พวกเขาจะไม่มองดูแท่นบูชาเหล่านั้น ที่เป็นผลงานจากมือของพวกเขา หรือพวกเขาจะไม่มองดูสิ่งที่นิ้วของพวกเขาได้ทำ ที่เป็นเสาอาเชราห์หรือรูปปั้นของดวงอาทิตย์
\v 9 ในวันนั้น เมืองที่เข้มแข็งของพวกเขาจะเหมือนกับป่าดงบนเนินเขาที่ถูกทิ้งร้างบนยอดสุดของหุบเขา ที่ถูกละทิ้ง เพราะเหตุคนอิสราเอลและนั่นจะกลายเป็นที่ร้างเปล่า
\s5
\p
\v 10 เพราะเจ้าได้ลืมพระเจ้าแห่งความรอดของเจ้า และไม่สนใจต่อศิลาเข้มแข็งของเจ้า ดังนั้นเจ้าจะปลูกต้นไม้แห่งความยินดี และเริ่มปักกิ่งองุ่นที่ได้รับมาจากคนต่างด้าว
\v 11 ในวันนั้น เจ้าจะปลูกและล้อมรั้วไว้และไถพรวน ในไม่ช้าเมล็ดพันธุ์ของเจ้าจะงอกขึ้น แต่การเก็บเกี่ยวจะไม่ได้ผลในวันแห่งความโศกเศร้าและความเสียใจอย่างหมดหวัง
\v 12 วิบัติ เสียงอึกทึกของคนมากมายที่ดังสนั่นเหมือนเสียงคะนองของทะเล และการจู่โจมของชนชาติทั้งหลาย ที่จู่โจมเข้ามาเหมือนกับน้ำมีพลังมหาศาลที่ไหลบ่าลงมาอย่างรวดเร็ว
\s5
\p
\v 13 ชนชาติทั้งหลายจะเปล่งเสียงกึกก้องเหมือนกับน้ำมากหลายที่ไหลบ่ามาอย่างรวดเร็ว แต่พระเจ้าจะทรงกำราบพวกเขา พวกเขาจะหนีไปไกลๆ และจะถูกไล่ตามเหมือนกับใบไม้ที่แห้งตายแล้วต่อหน้าลมบนภูเขาทั้งหลาย และเหมือนกับใบไม้แห้งที่ปลิวไปต่อหน้าลมพายุ
\v 14 ในตอนเย็น ดูสิ ช่างน่ากลัว ก่อนที่จะรุ่งเช้า เขาทั้งหลายก็จะหายไปแล้ว นี่เป็นส่วนหนึ่งของคนเหล่านั้นที่ชิงทรัพย์พวกเรา คนมากมายเหล่านั้นที่ปล้นพวกเรา
\s5
\c 18
\p
\v 1 วิบัติแก่แผ่นดินที่มีเสียงกระหึ่มของปีก ซึ่งอยู่ตามแม่น้ำแห่งคูช
\v 2 ผู้ที่ส่งบรรดาทูตทั้งหลายมาทางทะเล ในเรือต้นกกบนน้ำ จงไปเถิด เจ้าพวกผู้สื่อสารที่รวดเร็วเอ๋ย ไปยังชนชาติที่ตัวสูงและเกลี้ยงเกลา ไปยังชนชาติที่ทั้งใกล้หรือไกลต่างเกรงกลัว ชนชาติที่เข้มแข็งและเหยียบย่ำลง ซึ่งแผ่นดินของเขาถูกแบ่งด้วยแม่น้ำ
\v 3 พวกเจ้าทุกคนที่อาศัยอยู่ในโลกนี้และพวกเจ้าที่อาศัยอยู่บนแผ่นดินโลก เมื่อธงสัญญาณได้ถูกยกขึ้นบนภูเขาเหล่านั้น จงมองดูเถิด และเมื่อแตรได้ถูกเป่าขึ้น จงฟังเถิด
\s5
\p
\v 4 นี่เป็นสิ่งที่พระยาห์เวห์ได้ตรัสกับข้าพเจ้า "เราจะสังเกตดูจากที่อาศัยของเราอย่างเงียบๆ เหมือนกับความร้อนที่ระอุขึ้นเมื่ออยู่ในแสงแดด เหมือนกับเมฆหมอกที่อยู่ท่ามกลางความร้อนในฤดูเก็บเกี่ยว
\v 5 ก่อนที่จะถึงฤดูเก็บเกี่ยว เมื่อดอกไม้บานผ่านพ้นไปแล้ว และดอกไม้ก็กลายเป็นผลองุ่นกำลังสุก พระองค์จะทรงตัดกิ่งเหล่านั้นด้วยขอลิด และพระองค์จะทรงตัดพวกกิ่งที่แผ่ขยายลงและเอาออกไป
\s5
\p
\v 6 กิ่งไม้เหล่านั้นจะถูกทิ้งไว้ด้วยกันให้แก่บรรดานกแห่งภูเขาทั้งหลายและให้แก่สัตว์ต่างๆ ของแผ่นดินโลก พวกนกจะกินพวกมันในฤดูร้อน และสัตว์ทั้งปวงบนแผ่นดินจะกินพวกมันในฤดูหนาว"
\v 7 ในเวลานั้น ของถวายจะถูกนำมายังพระยาห์เวห์จอมโยธาจากพวกคนที่ตัวสูงและเกลี้ยงเกลา จากชนชาติที่ทั้งคนอยู่ใกล้และอยู่ไกลต่างเกรงกลัว ชนชาติที่เข้มแข็งและเหยียบย่ำลง ซึ่งแผ่นดินของเขาถูกแบ่งด้วยแม่น้ำ ไปยังสถานที่แห่งพระนามของพระยาห์เวห์จอมโยธาไปยังภูเขาศิโยน
\s5
\c 19
\p
\v 1 คำประกาศเกี่ยวกับอียิปต์ ดูเถิด พระยาห์เวห์ทรงบนเมฆที่รวดเร็ว และกำลังเสด็จมายังอียิปต์ บรรดารูปเคารพของอียิปต์ก็สั่นไหวต่อพระพักตร์พระองค์ และใจของคนอียิปต์ก็ละลายไปภายในตัวของพวกเขา
\v 2 "เราจะปลุกเร้าให้คนอียิปต์ต่อสู้กับคนอียิปต์ คนหนึ่งจะต่อสู้กับพี่น้องของตน และคนหนึ่งจะต่อสู้กับเพื่อนบ้านของตน เมืองจะต่อสู้กับเมือง และราชอาณาจักรจะต่อสู้กับราชอาณาจักร
\v 3 จิตใจของคนอียิปต์จะอ่อนเปลี้ยจากภายใน เราจะทำลายคำปรึกษาของเขา แม้ว่าพวกเขาได้แสวงหาคำปรึกษาจากบรรดารูปเคารพ วิญญาณของคนตาย คนทรง และหมอผี
\v 4 เราจะมอบคนอียิปต์ไว้ในมือของเจ้านายที่โหดร้ายและกษัตริย์ที่เข้มแข็งจะปกครองเหนือพวกเขา นี่คือคำประกาศของพระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธา"
\s5
\p
\v 5 น้ำในทะเลจะเหือดแห้งไป และแม่น้ำจะแห้งผากและไม่มีน้ำอยู่เลย
\v 6 แม่น้ำทั้งหลายจะเน่าเหม็น ลำธารทั้งหลายของอียิปต์จะเหือดแห้งลงและแห้งผาก พวกต้นกกและต้นอ้อก็จะเหี่ยวแห้งไป
\v 7 พวกต้นกกที่อยู่ริมแม่น้ำไนล์ ใกล้ปากแม่น้ำไนล์ และทุกสิ่งที่หว่านลงในทุ่งนาริมแม่น้ำไนล์ก็จะแห้งไป กลายเป็นผงคลีและปลิวไป
\s5
\p
\v 8 พวกชาวประมงจะคร่ำครวญและโศกเศร้า และผู้ที่เหวี่ยงเบ็ดออกไปในแม่น้ำไนล์จะโศกเศร้า และพวกคนที่เหวี่ยงแหลงไปในน้ำจะเศร้าใจ
\v 9 พวกคนงานที่สางต้นป่าน และพวกคนทอผ้าขาวก็จะอ่อนแรง
\v 10 พวกคนทำงานผ้าของอียิปต์จะถูกบีบคั้น ทุกคนที่ทำงานเพื่อค่าจ้างจะเศร้าใจอยู่ภายในตัวพวกเขา
\s5
\p
\v 11 พวกเจ้านายของเมืองโศอันที่โง่อย่างบัดซบ บรรดาที่ปรึกษาที่ฉลาดที่สุดของฟาโรห์ก็ให้คำปรึกษาที่ไร้สาระ เจ้าจะทูลฟาโรห์ได้อย่างไรว่า "ข้าพระองค์เป็นบุตรชายของพวกนักปราชญ์ เป็นบุตรชายของบรรดากษัตริย์โบราณ?"
\v 12 แล้วพวกนักปราชญ์ของเจ้าอยู่ที่ไหน? ขอให้พวกเขาบอกเจ้าและทำให้พวกเจ้าได้รู้ว่าพระยาห์เวห์จอมโยธาทรงวางแผนเกี่ยวกับอียิปต์ไว้อย่างไร
\v 13 พวกเจ้านายของเมืองโศอันก็กลายเป็นคนโง่เขลา พวกเจ้านายของเมมฟิสก็ถูกหลอกแล้ว พวกเขาได้ทำให้อียิปต์หลงทางไป ผู้ที่เป็นเสาหลักของบรรดาเผ่าต่างๆ ของประเทศนั้น
\s5
\p
\v 14 พระยาห์เวห์ได้ทรงปะปนวิญญาณแห่งการบิดเบือนลงไปในท่ามกลางชนชาตินั้น และพวกเขาได้นำอียิปต์ให้หลงทางไปในการกระทำทุกอย่าง เหมือนกับคนเมาที่โซเซอยู่ในอาเจียนของเขา
\v 15 ไม่มีใครสักคนที่จะทำอะไรเพื่ออียิปต์ได้ ไม่ว่าจะเป็นหัวหรือหาง กิ่งปาล์มหรือต้นกก
\v 16 ในวันนั้น คนอียิปต์จะเป็นเหมือนกับพวกผู้หญิง พวกเขาจะตัวสั่นและหวาดกลัว เพราะพระหัตถ์ของพระยาห์เวห์จอมโยธา ที่ได้ยกขึ้นแล้ว เหนือพวกเขา
\v 17 แผ่นดินยูดาห์จะกลายเป็นเหตุให้คนอียิปต์โซเซ เมื่อคนใดก็ตามได้ระลึกถึงพวกเขาในชนชาตินั้น พวกเขาก็จะหวาดกลัว เพราะแผนงานของพระยาห์เวห์ที่พระองค์กำลังทรงวางแผนต่อสู้กับพวกเขา
\s5
\p
\v 18 ในวันนั้น จะมีเมืองห้าเมืองในแผ่นดินอียิปต์ที่พูดภาษาคานาอัน และสาบานที่จะจงรักภักดีต่อพระยาห์เวห์จอมโยธา หนึ่งในเมืองเหล่านี้จะถูกเรียกว่าเมืองแห่งดวงอาทิตย์
\v 19 ในวันนั้น จะมีแท่นบูชาของพระยาห์เวห์แท่นหนึ่งอยู่ตรงกลางแผ่นดินของอียิปต์ และเสาหินแด่พระยาห์เวห์ที่พรมแดน
\v 20 ซึ่งจะเป็นหมายสำคัญและเป็นสักขีพยานแด่พระยาห์เวห์จอมโยธาในแผ่นดินอียิปต์ เมื่อพวกเขาร้องทูลต่อพระยาห์เวห์เพราะเหตุบรรดาผู้ที่บีบบังคับ พระองค์จะทรงส่งผู้ช่วยให้รอดและผู้ปกป้องคนหนึ่งมาให้พวกเขา และผู้นั้นจะช่วยกู้พวกเขา
\s5
\p
\v 21 พระยาห์เวห์จะทรงเป็นที่รู้จักต่ออียิปต์ และคนอียิปต์จะยอมรับพระยาห์เวห์ในวันนั้น พวกเขาจะนมัสการด้วยเครื่องสัตวบูชาและเครื่องบูชาต่างๆ และจะทำการบนบานและแก้บนเหล่านั้นต่อพระยาห์เวห์
\v 22 พระยาห์เวห์จะทรงทำให้อียิปต์ทนทุกข์ การทนทุกข์และการรักษาให้หาย พวกเขาจะกลับมาหาพระยาห์เวห์ พระองค์จะทรงฟังคำอธิษฐานของพวกเขาและจะรักษาพวกเขาให้หาย
\v 23 ในวันนั้น จะมีทางหลวงจากอียิปต์ไปยังอัสซีเรีย และคนอัสซีเรียจะมายังอียิปต์ และคนอียิปต์จะไปยังอัสซีเรีย และคนอียิปต์จะนมัสการร่วมกับคนอัสซีเรีย
\s5
\p
\v 24 ในวันนั้น อิสราเอลจะเป็นหนึ่งในสามกับอียิปต์และอัสซีเรีย ซึ่งเป็นพระพรในท่ามกลางแผ่นดินโลก
\v 25 พระยาห์เวห์จอมโยธาจะทรงอวยพรพวกเขาและตรัสว่า "ความสุขจงมีแก่อียิปต์ ชนชาติของเรา แก่อัสซีเรียผลงานแห่งมือของเรา และแก่อิสราเอลมรดกของเรา"
\s5
\c 20
\p
\v 1 ในปีที่ทาร์ทันได้มายังเมืองอัชโดด เมื่อซาร์กอนกษัตริย์แห่งซีเรียได้ส่งเขามา เขาได้สู้รบกับเมืองอัชโดดและยึดเมืองนั้นได้
\v 2 ในเวลานั้น พระยาห์เวห์ได้ตรัสโดยอิสยาห์บุตรชายของอามอสว่า "จงไปและแก้ผ้ากระสอบออกจากเอวของเจ้า และถอดรองเท้าออกจากเท้าของเจ้า" เขาก็ได้ทำตามนั้น คือเดินเปลือยกายและเท้าเปล่า
\s5
\p
\v 3 พระยาห์เวห์ตรัสว่า "เช่นเดียวกันกับอิสยาห์ผู้รับใช้ของเราได้เดินเปลือยกายและเท้าเปล่าเป็นเวลาสามปี นี่เป็นหมายสำคัญและลางบอกเหตุเกี่ยวกับอียิปต์และเกี่ยวกับคูช
\v 4 ในวิธีเดียวกันนี้ กษัตริย์แห่งอัสซีเรียจะนำพวกเชลยของอียิปต์ไป และคนที่ถูกกวาดต้อนไปของคูช ทั้งคนหนุ่มสาวและคนแก่ จะเปลือยกายและเท้าเปล่าและเปิดก้น ที่เป็นความอับอายของอียิปต์
\s5
\p
\v 5 พวกเขาจะถูกทำให้ท้อแท้และอับอาย เพราะคูชเป็นความหวังของพวกเขา และอียิปต์ก็เป็นศักดิ์ศรีของพวกเขา
\v 6 พวกผู้ที่อาศัยอยู่ชายฝั่งทะเลเหล่านี้จะกล่าวในวันนั้นว่า 'แท้จริงแล้ว นี่เคยเป็นแหล่งแห่งความหวังของพวกเรา ที่ซึ่งพวกเราได้หนีไปขอให้ช่วยเหลือให้รอดพ้นจากกษัตริย์แห่งอัสซีเรีย และตอนนี้ พวกเราจะหนีรอดไปได้อย่างไร?"'
\s5
\c 21
\p
\v 1 คำประกาศเกี่ยวกับทะเลทรายใกล้ทะเล เหมือนพายุหมุนที่พัดโหมกระหน่ำเนเกบ ลมพัดผ่านมาจากถิ่นทุรกันดาร จากแผ่นดินที่น่ากลัว
\v 2 มีนิมิตหนึ่งได้ประทานแก่ข้าพเจ้าที่ทำให้เป็นทุกข์ คนทรยศก็ย่อมทำการทรยศ และคนทำลายก็ย่อมทำลาย เอลามเอ๋ย จงลุกขึ้นและโจมตี มีเดียเอ๋ย จงล้อมไว้ เราจะทำให้การคร่ำครวญของเมืองนั้นสิ้นสุดลง
\v 3 เพราะฉะนั้น บั้นเอวของข้าพเจ้าจึงเต็มด้วยความเจ็บปวด ความเจ็บปวดเหมือนอย่างผู้หญิงคลอดบุตรได้เกาะกุมข้าพเจ้า ข้าพเจ้าได้โน้มตัวลงเพราะสิ่งที่ข้าพเจ้าได้ยิน ข้าพเจ้าได้กระวนกระวายใจกับสิ่งที่ได้เห็น
\s5
\p
\v 4 ใจของข้าพเจ้าก็สั่นรัว ข้าพเจ้าตัวสั่นด้วยความกลัว ตอนพลบค่ำ คือเวลาในแต่ละวันที่ข้าพเจ้าชอบได้ทำให้ข้าพเจ้าหวาดกลัว
\v 5 พวกเขาเตรียมการเลี้ยงไว้ พวกเขาปูพรมและกินและดื่ม เจ้านายทั้งหลายเอ๋ย จงลุกขึ้น จงชโลมโล่ของพวกเจ้าด้วยน้ำมัน
\v 6 เพราะนี่เป็นสิ่งที่องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสกับข้าพเจ้าว่า "จงไปเถิด จงตั้งยามคนหนึ่งไว้ เขาต้องแจ้งสิ่งที่เขาเห็นให้ทราบ
\v 7 เมื่อเขาเห็นรถม้า พลม้าคู่หนึ่ง บรรดาคนขี่ลาและคนขี่อูฐ แล้วเขาต้องให้ความสนใจและตื่นตัวอย่างมาก"
\s5
\p
\v 8 คนยามคนนั้นร้องว่า "เจ้านาย ข้าพเจ้ายืนตลอดวันบนหอคอย และข้าพเจ้ายืนประจำที่ของข้าพเจ้าอยู่ตลอดคืน"
\v 9 รถม้าศึกคันหนึ่งพร้อมพลขับคนหนึ่ง และพลม้าคู่หนึ่งมาที่นี่ เขาร้องว่า "บาบิโลนล่มแล้ว ล่มแล้ว และบรรดารูปแกะสลักเทพเจ้าทั้งสิ้นของเมืองนั้นได้แตกหักลงบนพื้นดิน"
\v 10 พวกคนที่ถูกนวดและถูกฝัดร่อนของข้าพเจ้า พวกเด็กๆ ในลานนวดข้าวของข้าพเจ้า สิ่งที่ข้าพเจ้าได้ยินจากพระยาห์เวห์จอมโยธา พระเจ้าแห่งอิสราเอล ข้าพเจ้าได้ประกาศแก่พวกเจ้า
\s5
\p
\v 11 คำประกาศเกี่ยวกับดูมาห์ คนหนึ่งร้องถามข้าพเจ้าจากเสอีร์ว่า "คนยามเอ๋ย คืนนี้ยังอีกนานไหม? คนยามเอ๋ย คืนนี้ยังอีกนานไหม?"
\v 12 คนยามได้ตอบว่า "เวลาเช้ามาถึงและเวลากลางคืนก็มาด้วย ถ้าเจ้าต้องการถาม ก็จงถามเถิด และกลับมาอีก"
\v 13 คำประกาศเกี่ยวกับอาระเบีย บรรดากองคารวานของคนเดดานเอ๋ย พวกเจ้าค้างคืนในถิ่นทุรกันดารอาระเบีย
\v 14 ชาวแผ่นดินเทมาเอ๋ย จงเอาน้ำมาให้กับคนที่กระหาย จงมาพบกับพวกลี้ภัยพร้อมกับขนมปัง
\s5
\p
\v 15 เพราะพวกเขาได้หนีจากคมดาบมา หนีจากดาบที่ชักจากฝัก หนีจากคันธนูที่โก่งอยู่ และหนีจากการทำการสู้รบอย่างหนัก
\v 16 เพราะนี่เป็นสิ่งที่องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสกับข้าพเจ้า "ภาย​ใน​หนึ่ง​ปี​ตาม​ปี​ของ​สัญญา​ว่าจ้าง​แรงงาน​นั้น ​ศักดิ์ศรีทั้งสิ้น​ของ​เคดาร์​จะ​สิ้นสุด​ลง
\v 17 พวกนักรบของคนเคดาร์จะยังคงเหลืออยู่แต่พลธนูเพียงไม่กี่คนเท่านั้น" เพราะพระยาห์เวห์ พระเจ้าแห่งอิสราเอลได้ตรัสไว้แล้ว
\s5
\c 22
\p
\v 1 คำประกาศเกี่ยวกับหุบเขาแห่งนิมิต เพราะเหตุใดที่พวกเจ้าทุกคนจึงได้ขึ้นไปบนหลังคาบ้าน?
\v 2 เพราะเหตุที่พวกเจ้าได้ยินเมืองที่มีเสียงดังอึกทึก นครที่เต็มด้วยความรื่นเริงหรือ? พวกคนตายของพวกเจ้าไม่ได้ถูกฆ่าด้วยดาบ และพวกเขาไม่ได้ตายในสงคราม
\v 3 พวกผู้ปกครองทั้งหมดของพวกเจ้าได้หนีไปด้วยกัน แต่พวกเขาก็ถูกจับได้โดยไม่ต้องใช้คันธนู พวกเขาทุกคนได้ถูกจับด้วยกัน ถึงแม้ว่าพวกเขาได้หนีไปไกลแล้ว
\s5
\p
\v 4 เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าจึงได้กล่าวว่า "อย่ามองดูข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะร้องไห้อย่างขมขื่น อย่าพยายามปลอบโยนข้าพเจ้าเกี่ยวกับการทำลายบรรดาบุตรหญิงของชนชาติของข้าพเจ้าเลย"
\v 5 เพราะมีวันแห่งความโกลาหล การเหยียบย่ำ และความสับสนวุ่นวายต่อพระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาในหุบเขาแห่งนิมิต กำแพงจะถูกทลายลง และประชาชนร้องออกไปถึงภูเขาเหล่านั้น
\v 6 เอลามหยิบแล่งธนู พร้อมกับพวกพลขับและพวกพลม้า และคีร์วางโล่ไว้โดยไม่ได้คลุม
\s5
\p
\v 7 สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับบรรดาหุบเขาที่ดีที่สุดของเจ้าจะเต็มไปด้วยรถม้าศึก และพลม้าจะยืนประจำตำแหน่งที่ประตูเมือง
\v 8 พระองค์ได้ทรงเอาการปกป้องของยูดาห์ไปแล้ว และในวันนั้น พวกเจ้าได้มองหาอาวุธในพระตำหนักพนา
\v 9 พวกเจ้าได้เห็นช่องโหว่ของนครดาวิดที่มีอยู่มากมาย และพวกเจ้าได้เก็บกักน้ำในสระล่างไว้
\s5
\p
\v 10 พวกเจ้าได้นับจำนวนบ้านเรือนของกรุงเยรูซาเล็ม และพวกเจ้าได้รื้อบ้านเหล่านั้นมาเสริมกำแพง
\v 11 พวกเจ้าได้สร้างที่เก็บน้ำไว้ระหว่างกำแพงทั้งสองด้านสำหรับน้ำของสระเดิม แต่พวกเจ้าไม่ได้ระลึกถึงผู้สร้างเมืองนี้ ผู้ที่ได้วางแผนเมืองนั้นมานานแล้ว
\s5
\p
\v 12 ในวันนั้น พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาได้ทรงเรียกให้มีการคร่ำครวญ ความโศกเศร้า ศีรษะโล้น และการสวมผ้ากระสอบ
\v 13 แต่ดูเถิด กลับมีการฉลองและความยินดี มีการฆ่าฝูงโคและสังหารฝูงแกะ การกินเนื้อและการดื่มเหล้าองุ่น ให้พวกเรากินและดื่มเถิด เพราะพรุ่งนี้พวกเราจะตาย
\v 14 พระยาห์เวห์จอมโยธาได้ทรงสำแดงเหตุการณ์นี้ในหูของข้าพเจ้า "พวกเจ้าจะไม่ได้รับการอภัยจากความชั่วร้ายนี้อย่างแน่นอน จนกว่าพวกเจ้าจะตาย" พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาตรัสดังนี้แหล่ะ
\s5
\p
\v 15 พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาตรัสดังนี้ว่า "จงไปหาเจ้าพนักงานคนนี้ ไปหาเชบนา ผู้ที่ดูแลราชสำนักและกล่าวว่า
\v 16 'เจ้ากำลังทำอะไรที่นี่ และใครได้อนุญาตให้เจ้าสกัดอุโมงค์สำหรับตัวเจ้าเอง เจาะสกัดหลุมฝังศพบนที่สูงและแกะสลักส่วนที่เหลือในศิลานั้น?"'
\v 17 ดูเถิด ผู้ที่มีอำนาจ พระยาห์เวห์จะทรงเหวี่ยงเจ้าออกไป และจะทรงทำลายเจ้า พระองค์จะทรงยึดตัวเจ้าไว้แน่น
\s5
\p
\v 18 พระองค์จะทรงหมุนตัวเจ้ารอบแล้วรอบเล่าอย่างแน่นอน และขว้างเจ้าเหมือนลูกบอลไปยังดินแดนที่กว้างใหญ่ เจ้าจะตายที่นั่น และความโอ่อ่าของรถม้าศึกของเจ้าจะอยู่ที่นั่น เจ้าจะเป็นความอับอายต่อบ้านของเจ้านายของเจ้า
\v 19 "เราจะไล่เจ้าออกจากที่ทำงานของเจ้าและจากตำแหน่งของเจ้า เจ้าจะถูกดึงให้ตกต่ำลง
\v 20 สิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันนั้นที่เราจะเรียกผู้รับใช้ของเรา คือเอลียาคิมบุตรชายของฮิลคียาห์
\s5
\p
\v 21 เราจะเอาเสื้อยศของเจ้ามาสวมให้เขา และจะเอาสายคาดเอวของเจ้ามาคาดให้เขา และเราจะมอบอำนาจของเจ้าไว้ในมือของเขา เขาจะเป็นบิดาของชาวกรุงเยรูซาเล็มและวงศ์วานของยูดาห์
\v 22 เราจะมอบกุญแจของราชวงศ์ดาวิดบนบ่าของเขา เขาจะเปิด และไม่มีใครจะปิดได้ เขาจะปิด และไม่มีใครจะเปิดได้
\v 23 เราจะยึดเขาไว้ ตอกหมุดไว้ในที่มั่นคง และเขาจะเป็นที่นั่งที่มีเกียรติของวงศ์วานของบิดาของเขา
\s5
\p
\v 24 พวกเขาจะแขวนเกียรติยศทั้งหมดของวงศ์วานของบิดาของเขาไว้ที่เขา และเชื้อสายและพงศ์พันธุ์ของเขา ภาชนะเล็กๆ ทุกใบตั้งแต่ถ้วยไปจนถึงเหยือกทั้งหมด
\v 25 นี่เป็นคำประกาศของพระยาห์เวห์จอมโยธาว่า ในวันนั้น หมุดที่ตอกลงในที่มั่นคงจะทานไม่ไหว จะถอนออกไปและล้มลง และภาระหนักที่ก็อยู่บนนั้นก็จะถูกตัดออก เพราะพระยาห์เวห์ได้ตรัสไว้แล้ว
\s5
\c 23
\p
\v 1 คำประกาศเกี่ยวกับไทระ เรือทั้งหลายของเมืองทารชิชเอ๋ย จงคร่ำครวญเถิด เพราะไม่มีทั้งบ้านและท่าเรือเลย พวกเขาได้รับการเปิดเผยเกี่ยวกับเมืองนี้จากแผ่นดินไซปรัส
\v 2 บรรดาผู้ที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่งทะเลเอ๋ย จงเงียบไว้ พ่อค้าแห่งเมืองไซดอน ผู้ที่เดินทางข้ามทะเลมาได้ทำให้พวกเจ้าอิ่ม
\v 3 ข้าวจากชิโหร์ได้ข้ามน้ำมากหลายมา ผลที่เก็บเกี่ยวได้แห่งแม่น้ำไนล์ได้เป็นผลผลิตของเมืองนั้น และเมืองนั้นได้กลายเป็นแหล่งค้าขายของชนชาติทั้งหลาย
\s5
\p
\v 4 ไซดอนเอ๋ย ผู้ที่มีอำนาจแห่งทะเล จงอับอายเถิด เพราะทะเลได้พูดไว้แล้ว ว่า "ข้าไม่เคยเจ็บครรภ์และไม่เคยคลอดบุตร และไม่เคยเลี้ยงดูพวกคนหนุ่มหรือฟูมฟักพวกหญิงสาว"
\v 5 เมื่อข่าวคราวนั้นมาถึงอียิปต์ พวกเขาก็จะเศร้าใจเกี่ยวกับไทระ
\v 6 พวกคนที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่งทะเลเอ๋ย จงข้ามไปยังเมืองทารชิช จงคร่ำครวญเถิด
\s5
\p
\v 7 เมืองที่เต็มด้วยความรื่นเริงเอ๋ย เหตุการณ์นี้ได้เกิดกับเจ้าหรือ เมืองที่มีต้นกำเนิดมาแต่สมัยโบราณ เมืองที่เท้าของมันได้พาไปไกลเพื่อตั้งรกรากในแดนต่างด้าว?
\v 8 ใครได้วางแผนนี้ต่อสู้กับไทระ ผู้ที่ให้มงกุฎทั้งหลายหรือ พ่อค้าของเมืองนี้ที่เป็นพวกเจ้านายหรือ พวกคนค้าขายของเมืองนี้ที่เป็นบรรดาคนที่มีเกียรติในแผ่นดินโลกหรือ?
\v 9 พระยาห์เวห์จอมโยธาได้ทรงวางแผนไว้ เพื่อทำให้ความเย่อหยิ่งและศักดิ์ศรีทั้งหมดของเมืองนี้ได้รับความอับยศอดสู และทำให้ทุกคนที่มีเกียรติบนแผ่นดินโลกในเมืองนี้ได้รับความอับอาย
\s5
\p
\v 10 บุตรหญิงแห่งเมืองทารชิชเอ๋ย จงไถพรวนที่ดินของเจ้า อย่างคนที่ไถพรวนแม่น้ำไนล์ ไม่มีตลาดค้าขายในไทระอีกต่อไปแล้ว
\v 11 พระยาห์เวห์ได้ทรงเหยียดพระหัตถ์ออกเหนือทะเลนั้น และพระองค์ได้ทรงเขย่าราชอาณาจักรเหล่านั้น พระองค์ได้ทรงบัญชาเกี่ยวกับฟีนิเซีย ให้ทำลายป้อมปราการทั้งหลาย
\v 12 พระองค์ได้ตรัสว่า "บุตรหญิงพรหมจารีแห่งไซดอนผู้ถูกบีบบังคับเอ๋ย เจ้าจะไม่ร่าเริงอีกต่อไป จงลุกขึ้น จงข้ามไปยังไซปรัส แต่เจ้าก็จะไม่ได้พักสงบที่นั่น
\s5
\p
\v 13 จงดูแผ่นดินของคนเคลเดีย ชนชาตินี้ได้สิ้นสุดแล้ว คนอัสซีเรียได้ทำให้เมืองนั้นรกร้างว่างเปล่าเป็นที่อยู่ของสัตว์ป่า พวกเขาได้ก่อเชิงเทินของพวกเขาขึ้น พวกเขาได้ทำลายวังทั้งหลายของเมืองนั้นจนยับเยิน พวกเขาได้ทำให้เมืองนั้นเป็นกองซากปรักหักพัง
\v 14 บรรดาเรือแห่งเมืองทารชิชเอ๋ย จงคร่ำครวญเถิด เพราะที่ลี้ภัยของพวกเจ้าได้ถูกทำลายแล้ว
\v 15 ในวันนั้น เมืองไทระจะถูกลืมไปเป็นเวลาเจ็ดสิบปี เหมือนกับอายุของกษัตริย์องค์หนึ่ง หลังจากที่สิ้นสุดเจ็ดสิบปีแล้ว จะมีบางอย่างเกิดขึ้นในไทระเหมือนกับในบทเพลงของหญิงโสเภณี
\s5
\p
\v 16 หญิงงามเมืองที่ถูกลืมเอ๋ย จงหยิบพิณ เดินไปทั่วเมือง จงเล่นพิณอย่างไพเราะ ร้องเพลงหลายๆ เพลง เพื่อให้คนระลึกถึงเจ้าได้อีก
\v 17 เมื่อเวลานั้นมาถึงหลังจากเจ็ดสิบปีแล้ว พระยาห์เวห์จะทรงช่วยไทระ และเมืองนั้นจะเริ่มหาเงินอีกโดยการทำงานอย่างกับหญิงโสเภณีคนหนึ่ง และเมืองนั้นจะค้าขายกับทุกราชอาณาจักรของแผ่นดินโลก
\v 18 ผลกำไรและรายได้ของเมืองนั้นจะเป็นของถวายแด่พระยาห์เวห์ รายได้เหล่านั้นจะไม่ถูกสะสมหรือเก็บไว้ในคลัง เพราะกำไรของเมืองนั้นจะมอบให้แก่พวกคนที่อาศัยอยู่ต่อหน้าพระพักตร์ของพระยาห์เวห์ และจะใช้จ่ายเพื่อจัดหาอาหารอย่างอุดมให้กับพวกเขาและเพื่อพวกเขาจะมีเสื้อผ้าที่มีคุณภาพดีที่สุดด้วย
\s5
\c 24
\p
\v 1 ดูเถิด พระยาห์เวห์จะทรงทำลายแผ่นดินโลกและทรงทำให้ร้างเปล่า ทั้งทรงทำลายพื้นผิวของโลก และทรงทำให้ผู้ที่อยู่อาศัยบนโลกนี้กระจัดกระจายไป
\v 2 เหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้น เกิดกับประชาชนอย่างไรก็จะเกิดกับปุโรหิตอย่างนั้น เกิดกับคนรับใช้อย่างไรก็จะเกิดกับเจ้านายของเขาอย่างนั้น เกิดกับสาวใช้อย่างไรก็จะเกิดกับนายผู้หญิงของนางอย่างนั้น เกิดกับผู้ซื้ออย่างไรก็จะเกิดกับผู้ขายอย่างนั้น เกิดกับเจ้าหนี้อย่างไรก็จะเกิดกับลูกหนี้อย่างนั้น เกิดกับผู้รับผลประโยชน์อย่างไรก็จะเกิดกับผู้ให้ผลประโยชน์อย่างนั้น
\s5
\p
\v 3 แผ่นดินโลกจะถูกทำลายล้างจนสิ้นซากและถูกปล้นจนหมดสิ้น เพราะพระยาห์เวห์ได้ตรัสพระวจนะนี้ไว้แล้ว
\v 4 แผ่นดินโลกแห้งผากและเหี่ยวเฉา โลกนี้ก็เหี่ยวแห้งและมลายไป พวกคนสูงศักดิ์ของแผ่นดินโลกก็สูญสิ้นไป
\v 5 แผ่นดินโลกเป็นมลทิน เนื่องจากผู้ที่อยู่อาศัยในโลกนี้ เพราะพวกเขาได้ละเมิดธรรมบัญญัติ ได้ฝ่าฝืนกฎเกณฑ์ และได้หักพันธสัญญานิรันดร์นั้น
\s5
\p
\v 6 เพราะฉะนั้น คำสาปแช่งก็กลืนกินโลกนี้ และผู้ที่อาศัยอยู่ในโลกก็ถูกพบว่ามีความผิด ผู้ที่อาศัยอยู่ในโลกจึงถูกเผาผลาญ และเหลืออยู่เพียงไม่กี่คน
\v 7 เหล้าองุ่นใหม่ก็เหือดแห้งไป เถาองุ่นก็เหี่ยวแห้ง ผู้ที่ใจร่าเริงทุกคนก็คร่ำครวญ
\v 8 เสียงความสุขของรำมะนาก็หยุดไป และความเฮฮาของพวกคนที่รื่นเริง เสียงสนุกสนานของพิณก็เงียบไป
\s5
\p
\v 9 พวกเขาไม่ดื่มเหล้าองุ่นและร้องเพลงอีกต่อไป และน้ำเมาก็ขมต่อพวกคนที่ดื่มมัน
\v 10 เมืองที่สับสนวุ่นวายนั้นได้พังทลายลง บ้านเรือนทุกหลังได้ปิดและร้างเปล่า
\v 11 มีเสียงร้องไห้ตามถนนเนื่องจากเหล้าองุ่น ความชื่นบานทั้งหมดก็มืดมิดไป ความยินดีของแผ่นดินได้สูญไปแล้ว
\s5
\p
\v 12 เหลือไว้แต่ความร้างเปล่าในเมือง และประตูเมืองก็ถูกทำลายเป็นซากปรักหักพัง
\v 13 เพราะนี่เป็นเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นกับแผ่นดินโลกทั้งสิ้นท่ามกลางชนชาติทั้งหลาย เหมือนกับตอนที่เขย่าต้นมะกอก เหมือนกับการเก็บเล็มตอนที่เก็บพวงองุ่นแล้ว
\v 14 พวกเขาจะเปล่งเสียงของพวกเขาขึ้นและโห่ร้องถึงพระสง่าราศีของพระยาห์เวห์ และจะโห่ร้องด้วยความชื่นชมยินดีจากทะเล
\s5
\p
\v 15 เพราะฉะนั้น จงถวายพระเกียรติแด่พระยาห์เวห์ในทางทิศตะวันออก และจงถวายพระสิริแด่พระนามของพระยาห์เวห์ พระเจ้าของอิสราเอลบนเกาะต่างๆ ในทะเล
\v 16 เราได้ยินเสียงเพลงจากที่สุดปลายแผ่นดินโลกว่า "พระสิริจงมีแด่พระองค์ผู้ทรงชอบธรรม" แต่ข้าพเจ้าได้กล่าวว่า "วิบัติแก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าได้ร่วงโรยไป ข้าพเจ้าได้ร่วงโรยไปแล้ว คนทรยศก็ได้ทำการทรยศ ใช่แล้ว คนที่ทรยศได้ทำการทรยศอย่างใหญ่หลวง"
\v 17 ผู้ที่อาศัยอยู่บนแผ่นดินโลกเอ๋ย ความสยดสยอง หลุมพรางและกับดักมาถึงพวกเจ้า
\s5
\p
\v 18 คนใดที่หนีจากเสียงของความสยดสยองก็จะตกลงไปในหลุมพรางนั้น และคนที่ขึ้นมาจากหลุมพรางนั้นก็จะถูกจับในกับดัก หน้าต่างของท้องฟ้าจะเปิดออก และฐานรากของแผ่นดินโลกจะสั่นสะเทือน
\v 19 แผ่นดินโลกจะแตกสลายจนสิ้นซาก แผ่นดินโลกจะแตกออกเป็นเสี่ยง แผ่นดินโลกจะสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
\v 20 แผ่นดินโลกจะโซเซเหมือนกับคนเมา และมันจะโยกไปข้างหลังและข้างหน้าเหมือนกับกระท่อม ความบาปของโลกก็หนักอยู่บนโลก และโลกจะล้มลงและไม่ลุกขึ้นอีกเลย
\s5
\p
\v 21 เหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้นในวันที่พระยาห์เวห์จะทรงลงโทษบริวารของพวกที่อยู่สูงบนที่สูง และบรรดากษัตริย์ของแผ่นดินโลกบนโลกนี้
\v 22 พวกเขาจะถูกรวมเข้าด้วยกันเป็น พวกนักโทษในคุกใต้ดิน และจะถูกขังไว้ในคุก และหลังจากนั้นหลายวัน พวกเขาก็จะถูกลงโทษ
\v 23 แล้วดวงจันทร์จะอดสู และดวงอาทิตย์จะขายหน้า เพราะพระยาห์เวห์จอมโยธาจะทรงครองราชย์บนภูเขาศิโยนและในกรุงเยรูซาเล็ม และต่อหน้าพวกผู้อาวุโสของพระองค์ด้วยพระสิริ
\s5
\c 25
\p
\v 1 ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะยกย่องพระองค์ ข้าพระองค์จะสรรเสริญพระนามของพระองค์ เพราะพระองค์ได้ทรงกระทำสิ่งต่างๆ ที่อัศจรรย์ สิ่งต่างๆ ที่ได้วางแผนไว้นานมาแล้วในความสัตย์ซื่ออย่างสมบูรณ์
\v 2 เพราะพระองค์ได้ทรงทำให้เมืองเป็นกองขยะ เมืองป้อมปราการเป็นที่ปรักหักพัง เมืองที่มีป้อมของพวกคนต่างด้าวไม่เป็นเมืองอีกต่อไป
\v 3 เพราะฉะนั้น ชนชาติที่เข้มแข็งจะถวายพระเกียรติแด่พระองค์ เมืองของชนชาติทั้งหลายที่โหดร้ายจะเกรงกลัวพระองค์
\s5
\p
\v 4 เพราะพระองค์ทรงเป็นที่ปลอดภัยแก่คนที่ยากจน ทรงเป็นที่กำบังแก่คนที่ขัดสนในความทุกข์ใจของเขา ที่กำบังจากพายุและร่มเงากันความร้อน เมื่อลมหายใจของคนโหดร้ายเป็นเหมือนพายุซัดกำแพง
\v 5 และเป็นเหมือนความร้อนในแผ่นดินที่แห้งแล้ง พระองค์ทรงทำให้เสียงของพวกคนต่างด้าวเบาลง ร่มเงาของเมฆบรรเทาความร้อนลงอย่างไร บทเพลงของพวกคนโหดร้ายก็ได้รับการตอบสนองอย่างนั้น
\v 6 พระยาห์เวห์จอมโยธาจะทรงจัดงานเลี้ยงแก่ชนชาติทั้งหลายบนภูเขานี้ งานเลี้ยงบนที่กำบังเหล่านั้นด้วยสิ่งต่างๆ ที่เต็มด้วยไขมัน เหล้าองุ่นอย่างดี และเนื้อนุ่ม
\s5
\p
\v 7 พระองค์จะทรงทำลายสิ่งที่ปกคลุมบนชนชาติทั้งหมดบนภูเขานี้ ผ้าทอใยที่ปกคลุมบรรดาประชาชาติ
\v 8 พระองค์จะทรงกลืนความตายตลอดไป และพระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงเช็ดน้ำตาจากทุกใบหน้า พระองค์จะทรงนำความอับอายของชนชาติของพระองค์ออกไปจากแผ่นดินโลกทั้งหมด เพราะพระยาห์เวห์ได้ตรัสไว้แล้ว
\v 9 ในวันนั้น เขาจะกล่าวกันว่า "ดูเถิด นี่คือพระเจ้าของพวกเรา พวกเราได้รอคอยพระองค์ และพระองค์จะทรงช่วยพวกเราให้รอด นี่คือพระยาห์เวห์ พวกเราได้รอคอยพระองค์ พวกเราจะยินดีและเปรมปรีดิ์ในความรอดของพระองค์"
\s5
\p
\v 10 เพราะพระหัตถ์พระยาห์เวห์จะพักสงบบนภูเขานี้ และโมอับจะถูกเหยียบย่ำลงในที่ของเขา เหมือนกับฟางที่ถูกเหยียบย่ำลงในหลุมที่เต็มด้วยมูลสัตว์
\v 11 พวกเขาจะกางมือออกในท่ามกลางหลุมนั้น เหมือนกับคนว่ายน้ำกางมือของเขาว่ายน้ำ แต่พระยาห์เวห์จะทำให้ความเย่อหยิ่งของพวกเขาตกต่ำลง ทั้งๆ ที่พวกเขามีฝีมือที่ชำนาญ
\v 12 พระองค์จะทรงทำให้กำแพงปราการสูงของเจ้าต่ำลงมาถึงพื้นดิน จนถึงผงคลีดิน
\s5
\c 26
\p
\v 1 ในวันนั้น เขาจะร้องเพลงนี้ในแผ่นดินยูดาห์ เรามีเมืองที่เข้มแข็งเมืองหนึ่ง พระเจ้าได้ทรงทำให้ความรอดเป็นกำแพงและแนวป้องกันของเมืองนั้น
\v 2 จงเปิดประตูเมือง เพื่อให้ชนชาติที่ชอบธรรมที่รักษาความเชื่อไว้ได้เข้ามาข้างใน
\v 3 จิตใจที่ยังคงอยู่ในพระองค์ พระองค์จะทรงปกป้องเขาไว้ในความสงบสุขอย่างสมบูรณ์ เพราะเขาวางใจในพระองค์
\v 4 จงวางใจในพระยาห์เวห์ตลอดไป เพราะในพระยาเวห์ พระยาห์เวห์ทรงเป็นพระศิลานิรันดร์
\s5
\p
\v 5 เพราะพระองค์จะทรงทำให้พวกที่ดำเนินชีวิตอย่างเย่อหยิ่งตกต่ำลง พระองค์จะทรงทำให้เมืองที่มีป้อมปราการลดต่ำลง พระองค์จะทรงทำให้ต่ำลงถึงพื้นดิน พระองค์จะทรงทำให้เมืองนั้นต่ำลงจนถึงผงคลีดิน
\v 6 เมืองนั้นจะถูกเหยียบย่ำลงโดยเท้าของคนจนและการเหยียบของคนขัดสน
\v 7 ทางของคนชอบธรรมก็ราบเรียบ ข้าแต่องค์ผู้ทรงชอบธรรม พระองค์ทรงทำให้ทางของคนชอบธรรมตรงไป
\s5
\p
\v 8 ใช่แล้ว ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพระองค์ทั้งหลายรอคอยพระองค์ ในทางแห่งการพิพากษาของพระองค์ พระนามของพระองค์และกิตติศัพท์ของพระองค์เป็นความปรารถนาของพวกข้าพระองค์
\v 9 ข้าพระองค์ปรารถนาพระองค์ในตอนกลางคืน ใช่แล้ว วิญญาณของข้าพระองค์ภายในข้าพระองค์แสวงหาพระองค์ด้วยความร้อนรน เพราะเมื่อการพิพากษาของพระองค์มาบนแผ่นดินโลก ผู้ที่อาศัยอยู่ในโลกนี้ก็ได้เรียนรู้ถึงความชอบธรรม
\v 10 ขอทรงสำแดงพระกรุณาแก่คนอธรรม แต่เขาจะไม่เรียนรู้ถึงความชอบธรรม เขาทำการอธรรมในแผ่นดินเที่ยงธรรม และไม่เห็นพระสง่าราศีของพระยาห์เวห์
\s5
\p
\v 11 ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระหัตถ์ของพระองค์ได้ชูขึ้นแล้ว แต่พวกเขาก็มองไม่เห็น แต่พวกเขาจะเห็นความร้อนพระทัยของพระองค์ที่มีต่อชนชาตินั้นและถูกทำให้ได้รับความอับอาย เพราะไฟของพวกศัตรูของพระองค์จะเผาผลาญพวกเขา
\v 12 ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์จะทรงนำความสงบสุขมาให้แก่พวกข้าพระองค์ เพราะแท้จริงแล้ว พระองค์ได้ทรงทำพระราชกิจทั้งสิ้นเพื่อพวกข้าพระองค์เสร็จสิ้นแล้วด้วย
\v 13 ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย พวกเจ้านายคนอื่นๆ นอกเหนือจากพระองค์ได้ปกครองเหนือพวกข้าพระองค์ แต่พวกข้าพระองค์สรรเสริญพระนามของพระองค์เพียงผู้เดียว
\s5
\p
\v 14 พวกเขาตายแล้ว พวกเขาจะไม่มีชีวิตอีก พวกเขาได้สิ้นชีวิตแล้ว พวกเขาจะไม่ลุกขึ้นมา แท้จริงแล้ว พระองค์ได้เข้ามาพิพากษาและทำลายพวกเขา และทำให้อนุสรณ์ทุกอย่างของพวกเขาพินาศไป
\v 15 พระองค์ได้ทรงเพิ่มพูนชนชาตินั้นขึ้น ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์ได้ทรงเพิ่มพูนชนชาตินั้นขึ้น พระองค์ทรงได้รับพระเกียรติ พระองค์ได้ทรงขยายเขตแดนทุกด้านของแผ่นดินนั้นออกไป
\v 16 ข้าแต่พระยาห์เวห์ พวกเขาได้มองที่พระองค์ในเวลายากลำบาก พวกเขาได้อธิษฐานเสียงแผ่วเบาเมื่อการตีสอนของพระองค์อยู่บนพวกเขา
\s5
\p
\v 17 หญิงที่ตั้งครรภ์ใกล้ถึงเวลาที่นางจะคลอดบุตร เมื่อนางเจ็บปวดและร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดในการคลอดบุตรเป็นอย่างไร ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พวกข้าพระองค์ก็เป็นอย่างนั้นต่อพระพักตร์พระองค์
\v 18 พวกข้าพระองค์ได้ตั้งครรภ์ พวกข้าพระองค์ได้เจ็บปวดในการคลอดบุตร แต่มันเป็นเหมือนกับว่า พวกข้าพระองค์ได้คลอดแต่ลมเท่านั้น พวกข้าพระองค์ไม่ได้นำความรอดมาถึงแผ่นดินโลก และผู้ที่อาศัยอยู่ในโลกนี้ก็ไม่ได้เกิด
\v 19 พวกคนตายของพระองค์จะมีชีวิตอีก ศพของพวกเขาจะลุกขึ้น พวกเจ้าที่อาศัยอยู่ในผงคลีดิน จงตื่นขึ้นและร้องเพลงด้วยความชื่นบาน เพราะน้ำค้างของพระองค์เป็นน้ำค้างแห่งความสว่าง และแผ่นดินโลกจะนำพวกคนตายเป็นขึ้นมา
\s5
\p
\v 20 จงไปเถิด ชนชาติของข้าพเจ้าเอ๋ย จงเข้าไปในห้องของพวกเจ้าและปิดประตูเสีย จงซ่อนตัวอยู่สักพักหนึ่ง จนกว่าพระพิโรธได้ผ่านไป
\v 21 เพราะดูเถิด พระยาห์เวห์จะเสด็จออกมาจากที่ประทับของพระองค์เพื่อลงโทษผู้ที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินโลกต่อความชั่วร้ายของพวกเขา แผ่นดินโลกจะเปิดเผยให้เห็นการหลั่งโลหิต และจะไม่ปิดบังผู้ที่ถูกฆ่าของมันไว้อีกต่อไป
\s5
\c 27
\p
\v 1 ในวันนั้น พระยาห์เวห์จะทรงลงโทษเลวีอาธานคือพญานาคที่เลื้อยอยู่นั้นด้วยดาบที่แข็งแกร่ง ใหญ่โต และร้ายกาจ เลวีอาธานคือพญานาคที่ขดตัวอยู่ และพระองค์จะทรงฆ่าอสูรที่อยู่ในทะเล
\v 2 ในวันนั้น สวนองุ่นเอ๋ย จงร้องเพลงถึงสวนนั้นว่า
\v 3 "เรา พระยาห์เวห์ เป็นผู้ปกป้องสวนนั้น เรารดน้ำให้มันทุกเวลา เราเฝ้าดูแลมันทั้งกลางคืนและกลางวัน เพื่อจะไม่ให้ใครมาทำอันตรายมัน
\s5
\p
\v 4 โอ เราไม่ได้โกรธ ที่มีพุ่มไม้หนามและพวกต้นหนาม ในการสู้รบ เราจะก้าวเดินออกไปต่อสู้กับพวกมัน เราจะเผาพวกมันทั้งหมดเสียด้วยกัน
\v 5 เว้นแต่พวกมันได้เข้าใจถึงการปกป้องของเราไว้ และสร้างสันติภาพกับเรา ให้พวกมันทำสันติภาพกับเรา
\v 6 ในวันที่จะมาถึง ยาโคบจะหยั่งราก อิสราเอลจะเบ่งบานและแตกหน่อ และพวกเขาจะทำให้พื้นดินเต็มด้วยผล"
\s5
\p
\v 7 พระยาห์เวห์ได้โจมตียาโคบและอิสราเอลเหมือนอย่างที่พระองค์ได้โจมตีชนชาติเหล่านั้นที่โจมตีพวกเขาหรือ? ยาโคบและอิสราเอลได้ถูกฆ่าเหมือนอย่างในการสังหารชนชาติเหล่านั้นที่พวกเขาได้ฆ่าหรือ?
\v 8 เครื่องมือจริงๆ ที่พระองค์ทรงใช้ต่อสู้ คือการไล่ยาโคบและอิสราเอลไป พระองค์ได้ทรงขับไล่พวกเขาไปด้วยลมรุนแรง ในวันที่มีลมตะวันออก
\s5
\p
\v 9 เพราะฉะนั้น ในการทำเช่นนี้ ความชั่วร้ายของยาโคบจะถูกลบล้างออกไป เพราะนี่จะเป็นผลอย่างเต็มที่ในการขจัดความบาปของเขาออกไป เมื่อเขาจะทำให้ศิลาของแท่นบูชาทั้งหมดเป็นเหมือนหินปูนและทุบให้แตกเป็นชิ้นๆ และไม่มีเสาอาเชราห์หรือแท่นเผาเครื่องหอมยังคงตั้งอยู่เลย
\v 10 เพราะเมืองป้อมปราการก็ร้างเปล่า และที่อยู่อาศัยก็รกร้างและถูกทอดทิ้งเหมือนถิ่นทุรกันดาร ลูกวัวจะหากินอยู่ที่นั่น และมันนอนลงและกินกิ่งของมันจนหมด
\s5
\p
\v 11 เมื่อกิ่งเหล่านั้นเหี่ยวแห้ง พวกมันก็จะถูกหักออกไป พวกผู้หญิงจะมาและเอามันไปก่อไฟ เพราะนี่ไม่ใช่ชนชาติที่เข้าใจ เพราะฉะนั้น พระผู้สร้างของพวกเขาจะไม่ทรงสงสารพวกเขา และพระองค์ผู้ทรงสร้างพวกเขาจะไม่มีพระเมตตาต่อพวกเขา
\v 12 เมื่อมาถึงวันที่พระยาห์เวห์จะทรงนวดข้าวตั้งแต่แม่น้ำยูเฟรตีสไปจนถึงวาดีแห่งอียิปต์ และชนชาติอิสราเอลเอ๋ย เจ้าจะถูกรวบรวมเข้ามาทีละคน
\v 13 ในวันนั้น แตรใหญ่จะถูกเป่า และพวกคนที่กำลังพินาศในแผ่นดินอัสซีเรียจะมา และพวกที่ถูกขับไล่ออกไปในแผ่นดินอียิปต์จะมา พวกเขาจะนมัสการพระยาห์เวห์บนภูเขาบริสุทธิ์ในกรุงเยรูซาเล็ม
\s5
\c 28
\p
\v 1 วิบัติแก่มงกุฎดอกไม้ที่น่าภูมิใจที่พวกขี้เมาแห่งเอฟราอิมแต่ละคนต่างก็สวมกัน และแก่ดอกไม้ที่ร่วงโรยจากความงามสง่าของมัน มงกุฎดอกไม้ที่วางบนยอดหุบเขาที่เขียวชอุ่มของคนเหล่านั้นที่ถูกครอบงำด้วยเหล้าองุ่น
\v 2 ดูเถิด องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงส่งผู้ที่มีกำลังและแข็งแรง เหมือนพายุลูกเห็บ และเหมือนลมพายุแห่งการทำลาย เหมือนกับฝนซัดสาดและน้ำที่ไหลบ่า และเขาจะเหวี่ยงมงกุฎดอกไม้แต่ละอันลงไปยังพื้นดิน
\v 3 มงกุฎดอกไม้ที่น่าภูมิใจของพวกขี้เมาแห่งเอฟราอิมจะถูกเหยียบย่ำอยู่ภายใต้ฝ่าเท้า
\s5
\p
\v 4 ดอกไม้แห่งความงามสง่าของเขาที่กำลังร่วงโรยอยู่บนยอดของหุบเขาที่อุดม จะเป็นเหมือนผลมะเดื่อแรกสุกก่อนฤดูร้อน เมื่อมีคนเห็นมัน ขณะที่มันอยู่ในมือของเขาแล้ว เขาก็รีบกินมันทันที
\v 5 ในวันนั้น พระยาห์เวห์จอมโยธาจะทรงเป็นมงกุฎสวยงามและเป็นมงกุฎที่งดงามแก่คนที่เหลืออยู่ของชนชาติของพระองค์
\v 6 จะทรงเป็นวิญญาณแห่งความยุติธรรมให้กับผู้ที่นั่งในการพิพากษา และทรงเสริมกำลังแก่คนที่ชนะศัตรูของพวกเขาที่ประตูเมือง
\s5
\p
\v 7 ไม่เพียงแต่คนเหล่านี้จะซวนเซด้วยเหล้าองุ่น และยังโซเซด้วยเมรัยด้วย ปุโรหิตและผู้เผยพระวจนะก็ซวนเซด้วยเมรัย และพวกเขาก็ถูกครอบงำด้วยเหล้าองุ่น พวกเขาโซเซด้วยเมรัย ทำให้สงสัยในนิมิตและเอนเอียงในการตัดสินความ
\v 8 แท้จริงแล้ว โต๊ะทุกตัวล้วนเต็มด้วยอาเจียน จึงไม่มีที่ใดสะอาดเลย
\v 9 เขาจะสอนความรู้ให้กับใคร? และเขาจะอธิบายถ้อยคำให้กับใคร? ให้กับพวกที่เพิ่งหย่านมหรือ หรือพวกที่เพิ่งออกมาจากอกแม่หรือ?
\s5
\p
\v 10 เพราะถ้อยคำนั้นจะเป็นเหมือนกับคำสั่งซ้อนคำสั่ง คำสั่งซ้อนคำสั่ง กฎบัญญัติซ้อนกฎบัญญัติ กฎบัญญัติซ้อนกฎบัญญัติ ที่นี่นิด ที่นั่นหน่อย
\v 11 แท้จริง เขาจะพูดกับชนชาตินี้ด้วยริมฝีปากที่ชอบเยาะเย้ย และด้วยลิ้นของคนต่างด้าว
\v 12 ในสมัยก่อนพระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า "นี่เป็นการหยุดพัก จงให้การหยุดพักแก่คนที่เหน็ดเหนื่อย และนี่เป็นการทำให้สดชื่น" แต่พวกเขาจะไม่ฟัง
\s5
\p
\v 13 เพราะฉะนั้น พระวจนะของพระยาห์เวห์จะเป็นเช่นนี้ต่อพวกเขา คือเป็นคำสั่งซ้อนคำสั่ง คำสั่งซ้อนคำสั่ง กฎบัญญัติซ้อนกฎบัญญัติ กฎบัญญัติซ้อนกฎบัญญัติ ที่นี่นิด ที่นั่นหน่อย เพื่อที่พวกเขาจะไปและล้มลงหงายหลัง และจะแตกหัก ติดบ่วงดักและถูกจับไป
\v 14 ดังนั้น พวกเจ้าผู้ที่ชอบเยาะเย้ย จงฟังพระวจนะของพระยาห์เวห์ คือเจ้าผู้ที่ปกครองเหนือชนชาตินี้ที่อยู่ในกรุงเยรูซาเล็ม
\v 15 เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพราะพวกเจ้ากล่าวว่า "พวกเราได้ทำพันธสัญญากับความตายแล้ว และพวกเราได้ทำข้อตกลงกับแดนคนตาย ดังนั้น เมื่อภัยพิบัติไหลบ่าลงมา มันจะไม่มาถึงพวกเรา เพราะพวกเราได้ทำให้การโกหกเป็นที่ลี้ภัยของเรา และเอาการหลอกลวงเป็นที่กำบัง"
\s5
\p
\v 16 เพราะฉะนั้น พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า "ดูเถิด เราจะวางศิลาฐานรากในศิโยน ศิลาที่ทดสอบแล้ว ศิลามุมเอกที่ล้ำค่า รากฐานที่มั่นคง ผู้ใดที่เชื่อจะไม่ได้รับความอับอาย
\v 17 เราจะทำให้ความยุติธรรมเป็นไม้วัด และความชอบธรรมเป็นสายดิ่ง ลูกเห็บจะกวาดที่ลี้ภัยแห่งการโกหกออกไป และน้ำท่วมจะไหลบ่าล้นที่หลบซ่อนนั้น
\v 18 พันธสัญญาของพวกเจ้ากับความตายจะถูกยกเลิก และข้อตกลงกับแดนคนตายจะไม่คงอยู่ เมื่อน้ำไหลเชี่ยวกรากไหลผ่าน น้ำก็จะท่วมพวกเจ้า
\s5
\p
\v 19 เมื่อใดก็ตามที่มันไหลผ่านไป มันก็จะท่วมเจ้า มันจะผ่านไปเช้าแล้วเช้าเล่า และมันจะมาทั้งกลางวันและกลางคืน เมื่อได้เข้าใจถ้อยคำนั้นแล้ว มันก็จะทำให้หวาดกลัว
\v 20 เพราะที่นอนก็สั้นเกินไปสำหรับคนที่จะเหยียดตัวบนนั้น และผ้าห่มก็แคบเกินไปสำหรับเขาที่จะห่มตัวเขาเองได้หมด"
\v 21 พระยาห์เวห์จะทรงลุกขึ้นเหมือนที่บนภูเขาเปราซิม พระองค์จะทรงเร่งพระองค์เองเหมือนในหุบเขากิเบโอนเพื่อทรงทำพระราชกิจของพระองค์ พระราชกิจที่แปลกประหลาดของพระองค์ และการกระทำกิจที่แปลกประหลาดของพระองค์
\s5
\p
\v 22 เพราะฉะนั้น อย่าเยาะเย้ย มิฉะนั้น โซ่ตรวนของเจ้าจะรัดแน่น ข้าพเจ้าได้ยินจากพระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาเรื่องกฤษฎีกาแห่งการทำลายบนแผ่นดินโลก
\v 23 จง​เงี่ย​หู แล้ว​ฟัง​เสียง​ข้าพ​เจ้า จง​ใส่​ใจ แล้ว​ฟัง​คำ​ข้าพ​เจ้า
\v 24 จงตั้งใจและฟังถ้อยคำของข้าพเจ้า ชาวนาที่ไถนาทั้งวันเพื่อที่จะหว่าน เขาไถแต่พื้นดินเท่านั้นหรือ? เขาจะยังคงทำให้ดินแตกละเอียดและคราดที่นาต่อไปไหม?
\v 25 เมื่อเขาได้เตรียมดินแล้ว เขาจะไม่หว่านเมล็ดต้นเทียนแดง หว่านยี่หร่า ปลูกข้าวสาลีเป็นแถว และปลูกข้าวบาร์เลย์ในที่ของมัน และปลูกข้าวสเปลต์ไว้ตามขอบหรือ?
\s5
\p
\v 26 พระเจ้าของเขาทรงสอนเขา พระองค์ทรงสอนเขาอย่างฉลาด
\v 27 ยิ่งกว่านั้น เมล็ดเทียนแดงไม่ถูกนวดด้วยเลื่อนนวดข้าว หรือใช้ล้อเกวียนกลิ้งทับยี่หร่า แต่เขาตีเทียนแดงด้วยไม้พลอง และเขาทุบยี่หร่าด้วยไม้ตะบอง
\v 28 ข้าวถูกบดเพื่อทำเป็นขนมปัง แต่ไม่ต้องละเอียดจนเกินไป และถึงแม้ว่าล้อของเกวียนและพวกม้าของเขาทับมันให้แตก พวกม้าของเขาก็บดขยี้มันไม่ได้
\v 29 เรื่องนี้ก็มาจากพระยาห์เวห์จอมโยธาด้วย ผู้ทรงอัศจรรย์ในการให้คำปรึกษาและทรงเป็นเลิศในพระปัญญา
\s5
\c 29
\p
\v 1 วิบัติแก่อารีเอล อารีเอลเอ๋ย เมืองที่ดาวิดเคยล้อมไว้ จงเพิ่มปีเข้ากับปี จงให้มีงานเทศกาลวนกลับมาอีก
\v 2 แต่เราจะล้อมอารีเอลไว้ และเมืองนั้นจะโศกเศร้าและคร่ำครวญ และเมืองนั้นจะเป็นเหมือนอารีเอลต่อเรา
\v 3 เราจะตั้งค่ายเป็นวงล้อมสู้รบกับเจ้า และจะล้อมต่อสู้เจ้าด้วยรั้วเหล็ก และเราจะตั้งป้อมขึ้นสู้กับเจ้า
\s5
\p
\v 4 เจ้าจะถูกทำให้ตกต่ำลงและจะพูดจากพื้นดิน คำพูดของเจ้าจะมาจากเบื้องต่ำจากผงคลีดิน เสียงของเจ้าจะเหมือนกับผีที่ออกมาจากพื้นดิน และคำพูดของเจ้าจะแผ่วเบาจากผงคลีดิน
\v 5 คนมากมายที่เป็นพวกผู้รุกรานเจ้าจะเป็นเหมือนผงธุลีดิน และฝูงชนของพวกที่โหดร้ายจะเป็นเหมือนแกลบที่กระจายไป มันจะเกิดขึ้นในทันที เพียงชั่วประเดี๋ยวเดียว
\v 6 พระยาห์เวห์จอมโยธาจะมาหาเจ้าด้วยฟ้าร้อง ด้วยแผ่นดินไหว ด้วยเสียงดังสนั่น ด้วยลมแรงและพายุกล้า และด้วยเปลวเพลิงที่เผาผลาญ
\s5
\p
\v 7 มันจะเป็นเหมือนกับความฝัน นิมิตในตอนกลางคืน คนมากมายของชนชาติทั้งหลายจะต่อสู้กับอารีเอลและที่กำบังเข้มแข็งของเมืองนั้น พวกเขาจะสู้รบกับเมืองนั้นและบรรดาป้อมปราการของเมืองนั้นและเหยียบย่ำเมืองนั้น
\v 8 มันจะเป็นเหมือนกับคนหิวที่ฝันว่าเขากำลังกินอยู่ แต่เมื่อเขาตื่นขึ้นมา กระเพาะของเขาก็ว่างเปล่า มันจะเป็นเหมือนกับคนที่กระหายที่ฝันว่าเขากำลังดื่มอยู่ แต่เมื่อเขาตื่นขึ้นมา เขาก็อ่อนเปลี้ยด้วยความกระหายที่ยังไม่หายไป ใช่แล้ว เพราะจะเป็นชนชาติจำนวนมากที่ต่อสู้กับภูเขาศิโยน
\s5
\p
\v 9 จงทำตัวเองให้พิศวงและตกตะลึง จงทำตัวเองให้มืดบอดและเป็นคนตาบอด จงมึนเมา แต่ไม่ใช่ด้วยเหล้าองุ่น จงโซเซไป แต่ไม่ใช่ด้วยเมรัย
\v 10 เพราะพระยาห์เวห์ได้ทรงเทวิญญาณแห่งการหลับสนิทลงมาบนพวกเจ้า พวกผู้เผยพระวจนะ พระองค์ได้ทรงปิดตาของพวกเจ้าแล้ว และพวกผู้ทำนาย พระองค์ได้ทรงคลุมศีรษะของพวกเจ้าแล้ว
\v 11 การสำแดงทั้งหมดที่ได้มาถึงพวกเจ้าเป็นถ้อยคำของหนังสือที่ปิดผนึกไว้ต่อพวกเจ้า ที่คนทั้งหลายจะให้แก่คนที่อ่านออกและกล่าวว่า "จงอ่านนี่สิ" เขาก็จะกล่าวว่า "ข้าอ่านไม่ได้ เพราะมันถูกปิดผนึกไว้"
\s5
\p
\v 12 ถ้าหนังสือเล่มนั้นได้ให้แก่คนที่อ่านไม่ออก และกล่าวว่า "จงอ่านนี่สิ" เขาก็จะกล่าวว่า "ข้าอ่านไม่ออก"
\v 13 องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสว่า "ชนชาตินี้มาใกล้เราด้วยปากของพวกเขาและให้เกียรติเราด้วยริมฝีปากของพวกเขา แต่ใจของพวกเขาอยู่ห่างไกลจากเรา เกียรติที่พวกเขาให้แก่เราเป็นเพียงบทบัญญัติของมนุษย์ที่ได้สอนกันมา
\v 14 เพราะฉะนั้น ดูเถิด เราจะลงมือทำสิ่งมหัศจรรย์ท่ามกลางชนชาตินี้ อัศจรรย์แล้วอัศจรรย์เล่า ปัญญาของคนมีปัญญาของพวกเขาจะพินาศไป และความเข้าใจของคนที่มีความเข้าใจจะหายไป"
\s5
\p
\v 15 วิบัติแก่คนเหล่านั้นที่ซ่อนแผนงานของพวกเขาไว้ลึกๆ จากพระยาห์เวห์ และการกระทำต่างๆ ของพวกเขาอยู่ในความมืด พวกเขากล่าวว่า "ใครจะเห็นเรา และใครจะรู้จักเรา?"
\v 16 พวกเจ้าทำสิ่งต่างๆ กลับตาลปัตรเสีย จะถือว่าช่างปั้นหม้อเป็นเหมือนกับดินเหนียวหรือ เพื่อว่าสิ่งที่ถูกสร้างจะพูดถึงผู้ที่สร้างมันขึ้นมาว่า "เขาไม่ได้สร้างข้า" หรือ สิ่งที่ถูกปั้นพูดถึงผู้ที่ปั้นมันว่า "เขาไม่มีความเข้าใจ?"
\v 17 ในเวลาชั่วครู่เดียว เลบานอนจะกลายเป็นทุ่งนา และทุ่งนานั้นจะกลายเป็นป่า
\s5
\p
\v 18 ในวันนั้น คนหูหนวกจะได้ยินถ้อยคำของหนังสือ และตาของคนตาบอดจะมองเห็นในที่มืดทึบ
\v 19 คนที่ถูกบีบบังคับจะชื่นชมยินดีในพระยาห์เวห์อีกครั้ง และคนยากจนท่ามกลางมนุษย์จะชื่นชมยินดีในองค์บริสุทธิ์ของอิสราเอล
\v 20 เพราะคนโหดร้ายจะหมดไป และคนมักเยาะเย้ยจะหายไป คนเหล่านั้นทุกคนที่รักในการทำชั่วจะถูกตัดออก
\v 21 ผู้ที่ทำให้คนหนึ่งกลายเป็นผู้กระทำผิดด้วยคำเดียว พวกเขาวางบ่วงดักคนที่แสวงหาความยุติธรรมที่ประตูเมืองและทำให้คนชอบธรรมตกต่ำลงด้วยการโกหกที่เปล่าประโยชน์
\s5
\p
\v 22 เพราะฉะนั้น พระยาห์เวห์ผู้ได้ทรงไถ่อับราฮัม พระยาห์เวห์ตรัสเกี่ยวกับเชื้อสายของยาโคบดังนี้ว่า "ยาโคบจะไม่ได้รับความอับอายอีกต่อไป และใบหน้าของเขาจะไม่ซีดลงอีกต่อไป
\v 23 แต่เมื่อเขาเห็นลูกหลานของเขา ซึ่งเป็นผลงานแห่งมือของเรา พวกเขาจะทำให้นามของเราศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาจะทำให้นามขององค์บริสุทธิ์ของยาโคบศักดิ์สิทธิ์ และพวกเขาจะยืนในความน่าเกรงขามของพระเจ้าแห่งอิสราเอล
\v 24 พวกคนที่เข้าใจผิดในจิตใจ จะมีความเข้าใจมากขึ้น และพวกคนขี้บ่น ก็จะกลับมาเรียน"
\s5
\c 30
\p
\v 1 "วิบัติแก่ลูกหลานที่กบฏ" นี่คือคำประกาศของพระยาห์เวห์ "พวกเขาวางแผนต่างๆ แต่ไม่ได้มาจากเรา พวกเขาทำสนธิสัญญากับชนชาติอื่นๆ แต่พวกเขาไม่ได้รับการแนะนำจากวิญญาณของเรา เพราะฉะนั้น พวกเขาจึงเพิ่มบาปเข้ากับบาป
\v 2 พวกเขาได้ออกเดินทางลงไปยังอียิปต์ แต่ไม่ได้ทูลขอคำปรึกษาของเรา พวกเขาแสวงหาการคุ้มครองจากฟาโรห์ และหาที่กำบังใต้ร่มเงาของอียิปต์
\v 3 เพราะฉะนั้น การคุ้มครองของฟาโรห์จะเป็นความอับอายของพวกเจ้า และที่กำบังใต้ร่มเงาของอียิปต์จะเป็นความขายหน้าของพวกเจ้า
\v 4 ถึงแม้ว่าพวกเจ้านายของพวกเขาอยู่ที่โศอัน และบรรดาผู้ส่งสารได้มายังฮาเนส
\s5
\p
\v 5 พวกเขาทุกคนจะได้รับความอับอาย เพราะชนชาติที่ไม่สามารถช่วยเหลือพวกเขาได้ ชนชาติที่ไม่ได้ช่วยเหลือหรือให้ประโยชน์เลย มีแต่ความอับอายและความขายหน้า"
\v 6 คำประกาศเกี่ยวกับบรรดาสัตว์ป่าแห่งเนเกบ พวกเขาได้ขนทรัพย์สินของพวกเขาไปบนหลังลา และขนทรัพย์สมบัติของพวกเขาไปบนโหนกอูฐ ผ่านไปตามแผ่นดินที่ยากลำบากและอันตราย ที่มีสิงโตตัวเมียและสิงโตตัวผู้ งูพิษและงูแมวเซา ไปยังชนชาติที่ช่วยเหลือพวกเขาไม่ได้
\v 7 เพราะความช่วยเหลือของอียิปต์ก็ไร้ค่า เพราะฉะนั้น เราจึงได้เรียกประเทศนั้นว่าราหับผู้ที่นั่งเฉย
\s5
\p
\v 8 บัดนี้ จงไปเถอะ จงเขียนลงบนแผ่นจารึกต่อหน้าพวกเขา และจารึกไว้บนหนังสือม้วน เพื่อว่ามันจะถูกเก็บรักษาไว้เพื่อเป็นพยานในเวลาที่จะมาถึง
\v 9 เพราะคนเหล่านี้เป็นชนชาติที่กบฏ ลูกหลานที่โกหก ลูกหลานที่ไม่ฟังคำสั่งสอนของพระยาห์เวห์
\v 10 พวกเขากล่าวกับพวกหมอดูว่า "อย่าดูเลย" และกล่าวกับพวกผู้เผยพระวจนะว่า "อย่าเผยพระวจนะความจริงต่อเราเลย จงกล่าวถ้อยคำที่ยกยอเรา จงเผยพระวจนะภาพมายา
\s5
\p
\v 11 จงหันไปให้พ้นทางนี้ จงหันไปจากวิถีนี้ จงทำให้องค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอลได้ทรงหยุดตรัสต่อหน้าพวกเรา"
\v 12 ด้วยเหตุนี้ องค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอลจึงตรัสว่า "เพราะพวกเจ้าปฏิเสธถ้อยคำนี้และวางใจในการบีบบังคับและการหลอกลวงและพึ่งอาศัยสิ่งนี้
\v 13 เพราะฉะนั้นความบาปนี้จะเป็นเหมือนกับส่วนที่แตกที่พร้อมจะร่วงหล่นลงมาต่อพวกเจ้า เหมือนกับรอยโป่งออกมาในกำแพงสูงที่จะพังลงมาในทันที ในชั่วประเดี๋ยวเดียว"
\s5
\p
\v 14 พระองค์จะทรงทำให้มันพังเหมือนกับภาชนะที่แตกหักของช่างปั้นหม้อ พระองค์จะไม่ทรงเก็บมันไว้ เพื่อจะไม่ให้พบเศษชิ้นส่วนสักชิ้นหนึ่งที่จะตักไฟจากข้างเตา หรือใช้ตักน้ำจากบ่อเก็บน้ำได้
\v 15 เพราะนี่คือสิ่งพระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้า องค์บริสุทธิ์ของอิสราเอลตรัสว่า "พวกเจ้าจะปลอดภัยในการหันกลับและการหยุดพักในความเงียบสงบและในความไว้วางใจจะเป็นกำลังของพวกเจ้า แต่พวกเจ้าก็ไม่ยอมทำตาม
\s5
\p
\v 16 พวกเจ้าได้กล่าวว่า 'ไม่เอา เพราะเราจะขี่ม้าหนีไป' เพราะฉะนั้น พวกเจ้าก็จะหนีไป และว่า 'พวกเราจะขี่ม้าที่เร็วจัด' เพราะฉะนั้น พวกคนที่ไล่ตามพวกเจ้าก็จะเร็วจัด
\v 17 คนหนึ่งพันคนจะหนีไปเพราะคำขู่ของคนคนเดียว เพราะคำขู่ของคนห้าคน พวกเจ้าจะหนีไปจนคนที่เหลืออยู่ของเจ้าจะเป็นเหมือนกับเสาธงบนยอดเขา หรือเหมือนกับธงบนเนินเขา"
\v 18 แต่พระยาห์เวห์กำลังทรงรอคอยที่จะกรุณาต่อพวกเจ้า เพราะฉะนั้น พระองค์จึงทรงพร้อมที่จะสำแดงพระเมตตาต่อพวกเจ้า เพราะพระยาห์เวห์ทรงเป็นพระเจ้าแห่งความยุติธรรม ทุกคนที่รอคอยพระองค์ก็เป็นสุข
\s5
\p
\v 19 เพราะชนชาติหนึ่งจะอาศัยอยู่ในศิโยน ในกรุงเยรูซาเล็ม และพวกเจ้าจะไม่ร้องไห้อีกต่อไป พระองค์จะทรงพระกรุณาต่อเสียงร้องไห้ของพวกเจ้าอย่างแน่นอน เมื่อพระองค์ทรงได้ยิน พระองค์จะทรงตอบพวกเจ้า
\v 20 ถึงแม้ว่าพระยาห์เวห์ประทานขนมปังแห่งความยากลำบากและน้ำแห่งความทุกข์ใจแก่พวกเจ้า แม้กระนั้น พระอาจารย์ของพวกเจ้าจะไม่ทรงซ่อนพระองค์เองอีกต่อไป แต่พวกเจ้าจะเห็นพระอาจารย์ของพวกเจ้าด้วยตาของพวกเจ้าเอง
\v 21 เมื่อพวกเจ้าหันไปทางขวา หรือเมื่อพวกเจ้าหันไปทางซ้าย หูของพวกเจ้าจะได้ยินคำข้างหลังพวกเจ้าว่า "นี่เป็นหนทาง จงเดินในทางนี้"
\s5
\p
\v 22 พวกเจ้าจะทำให้บรรดารูปแกะสลักชุบเงินของพวกเจ้า และรูปหล่อทองคำของพวกเจ้าเสื่อมความศักดิ์สิทธิ์ พวกเจ้าจะขว้างพวกมันทิ้งไปเหมือนกับผ้าซับระดู พวกเจ้าจะกล่าวกับพวกมันว่า "ไปให้พ้นจากที่นี่"
\v 23 พระองค์จะประทานฝนให้กับเมล็ดพืชที่พวกเจ้าได้หว่านบนพื้นดิน และอาหารจากพื้นดินอย่างบริบูรณ์ และพืชผลเหล่านั้นจะอุดมสมบูรณ์ ในวันนั้นฝูงโคของเจ้าจะหากินในทุ่งหญ้ากว้างใหญ่
\v 24 บรรดาวัวและลาที่ไถนา จะกินอาหารอย่างดีที่ฝัดด้วยพลั่วและคราด
\s5
\p
\v 25 บนภูเขาสูงทุกลูกและบนเนินเขาทุกเนิน จะมีลำห้วยและลำธารที่มีน้ำไหล ในวันที่มีการเข่นฆ่าครั้งใหญ่ เมื่อหอคอยเหล่านั้นพังลงมา
\v 26 แสงของดวงจันทร์จะเป็นเหมือนกับแสงของดวงอาทิตย์ และแสงของดวงอาทิตย์จะสว่างขึ้นเป็นเจ็ดเท่า เหมือนกับแสงสว่างของเจ็ดวัน พระยาห์เวห์จะพันรอยแผลของชนชาติของพระองค์และทรงรักษารอยช้ำของพวกเขาที่พระองค์ทำให้บาดเจ็บ
\v 27 ดูเถิด พระนามของพระยาห์เวห์มาจากที่ไกล เผาผลาญด้วยพระพิโรธและด้วยควันหนาทึบ พระโอษฐ์ของพระองค์จะเต็มด้วยพระพิโรธ และพระชิวหาของพระองค์เป็นเหมือนไฟที่เผาผลาญ
\s5
\p
\v 28 ลมปราณของพระองค์จะเป็นเหมือนกระแสน้ำเชี่ยวกรากที่ท่วมท้นมาถึงคอ เพื่อฝัดร่อนชนชาติทั้งหลายด้วยตะแกรงร่อนแห่งการทำลาย ลมปราณของพระองค์เป็นบังเหียนที่ขากรรไกรของชนชาติทั้งหลายที่ทำให้พวกเขาหลงทางไป
\v 29 พวกเจ้าจะมีบทเพลงเหมือนอย่างในคืนที่มีเทศกาลเลี้ยงศักดิ์สิทธิ์ได้จัดขึ้น และมีใจยินดีในเหมือนอย่างที่คนหนึ่งได้ตามเสียงขลุ่ยไปยังภูเขาของพระยาห์เวห์ ไปยังพระศิลาแห่งอิสราเอล
\v 30 พระยาห์เวห์จะทรงทำให้คนได้ยินพระสุรเสียงอันทรงพลังของพระองค์ และทรงทำให้เห็นการฟาดพระกรของพระองค์ลงมาด้วยพระพิโรธอย่างรุนแรงและด้วยเปลวเพลิง ด้วยลมพายุ พายุฝนและลูกเห็บ
\s5
\p
\v 31 เพราะพระสุรเสียงของพระยาห์เวห์ คนอัสซีเรียจะถูกทำให้กระจัดกระจายไป พระองค์จะทรงตีพวกเขาด้วยไม้
\v 32 ทุกจังหวะของไม้เรียวที่ใช้ลงโทษ ซึ่งพระยาห์เวห์จะทรงหวดบนพวกเขาจะเข้ากันกับเสียงดนตรีของรำมะนาและพิณเขาคู่ ขณะที่พระองค์ทรงสู้รบและต่อสู้กับพวกเขา
\v 33 เพราะที่สำหรับเผาก็ได้เตรียมไว้นานแล้ว แท้จริงแล้ว ที่นั้นได้ถูกเตรียมไว้สำหรับกษัตริย์ และพระเจ้าทรงทำให้มันลึกและกว้าง กองนั้นก็พร้อมด้วยไฟและฟืนมากมาย ลมปราณแห่งพระยาห์เวห์เหมือนกับธารกำมะถันที่จะจุดไฟให้ลุกขึ้น
\s5
\c 31
\p
\v 1 วิบัติแก่พวกคนที่ลงไปยังอียิปต์เพื่อขอความช่วยเหลือและพึ่งพาม้าทั้งหลาย และวางใจในบรรดารถม้าศึก (เพราะมีมากมาย) และวางใจในพวกพลม้า (เพราะมีนับไม่ถ้วน) แต่พวกเขาไม่ได้ใส่ใจกับองค์บริสุทธิ์ของอิสราเอล อีกทั้งพวกเขาก็ไม่แสวงหาพระยาห์เวห์เลย
\v 2 แต่พระองค์ทรงฉลาด และพระองค์จะทรงนำภัยพิบัติมา และจะไม่ทรงถอนพระวจนะของพระองค์ พระองค์จะทรงลุกขึ้นต่อสู้กับวงศ์วานที่ทำชั่ว และต่อสู้กับพวกผู้ที่ช่วยเหลือของพวกคนที่ทำบาป
\v 3 อียิปต์เป็นมนุษย์ ไม่ใช่พระเจ้า ม้าทั้งหลายของพวกเขาเป็นเลือดเนื้อ ไม่ใช่วิญญาณ เมื่อพระยาห์เวห์ทรงเหยียดพระหัตถ์ออก คนที่ช่วยเหลือก็จะสะดุด และคนที่ได้รับการช่วยเหลือจะล้มลง ทั้งสองก็จะพินาศไปด้วยกัน
\s5
\p
\v 4 พระยาห์เวห์ตรัสกับข้าพเจ้าดังนี้ว่า "เหมือนกับสิงโตหรือสิงโตหนุ่มที่คำรามอยู่เหนือเหยื่อของมัน เมื่อพวกผู้เลี้ยงแกะกลุ่มหนึ่งได้ถูกเรียกให้มาต่อสู้กับมัน แต่มันก็ไม่หวั่นกลัวต่อเสียงของพวกเขา อีกทั้งไม่คลานหนีไปจากเสียงของพวกเขา ดังนั้น พระยาห์เวห์จอมโยธาจะเสด็จมาเพื่อสู้รบบนภูเขาศิโยน บนเนินเขานั้น
\v 5 เหมือนกับนกที่บินเป็นฝูง เพราะฉะนั้น พระยาห์เวห์จอมโยธาจะทรงปกป้องกรุงเยรูซาเล็ม พระองค์จะทรงปกป้องและช่วยชีวิตขณะที่พระองค์ผ่านข้ามเมืองนั้นและปกป้องเมืองนั้นไว้
\v 6 ประชากรอิสราเอลเอ๋ย จงกลับมาหาพระองค์ที่พวกเจ้าได้หันไปจากพระองค์อย่างสิ้นเชิง
\s5
\p
\v 7 เพราะในวันนั้น แต่ละคนจะกำจัดรูปเคารพเงินและรูปเคารพทองคำของเขาที่ได้สร้างด้วยมือที่เต็มด้วยบาปของพวกเจ้าเอง
\v 8 คนอัสซีเรียจะล้มลงด้วยดาบ ดาบที่ไม่ได้ทำโดยมนุษย์จะล้างผลาญเขา เขาจะหนีจากดาบนั้น และพวกคนหนุ่มของเขาจะถูกบังคับให้ทำงานหนัก
\v 9 พวกเขาจะสูญเสียความมั่นใจไปหมดสิ้น เพราะความหวาดกลัว และพวกเจ้านายของเขาจะกลัวเมื่อมองเห็นธงแห่งสงครามของพระยาห์เวห์ นี่เป็นคำประกาศของพระยาห์เวห์ ผู้ที่ไฟของพระองค์อยู่ในศิโยน และผู้ที่เตาเผาของพระองค์อยู่ในกรุงเยรูซาเล็ม"
\s5
\c 32
\p
\v 1 ดูเถิด กษัตริย์องค์หนึ่งจะครอบครองด้วยความชอบธรรม และบรรดาเจ้านายจะปกครองด้วยความยุติธรรม
\v 2 แต่ละคนจะเป็นเหมือนที่กำบังจากลมและที่คุ้มกันจากพายุ เหมือนกับลำธารน้ำทั้งหลายในที่แห้งแล้ง เหมือนกับร่มเงาของศิลามหึมาในแผ่นดินที่แห้งแล้ง
\v 3 แล้วตาของพวกคนที่เห็นจะไม่มัวไป และหูของพวกคนที่ได้ยินจะฟังอย่างตั้งใจ
\s5
\p
\v 4 คนที่หุนหันพลันแล่นจะคิดอย่างรอบคอบด้วยความเข้าใจ และคนที่ติดอ่างจะพูดชัดถ้อยชัดคำและฉะฉาน
\v 5 คนโง่จะไม่ถูกเรียกว่าคนมีเกียรติอีกต่อไป อีกทั้งคนที่หลอกลวงก็จะไม่ได้ถูกเรียกว่าคนสำคัญอีกต่อไป
\v 6 เพราะคนโง่พูดความโง่เขลา และใจของเขาก็วางแผนชั่วร้ายและการกระทำอธรรม และเขาพูดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับพระยาห์เวห์ เขาทำให้คนที่หิวไม่มีอะไรเลย และเขาทำให้คนกระหายขาดน้ำดื่ม
\s5
\p
\v 7 วิธีการทั้งหลายของคนหลอกลวงก็ชั่วร้าย เขาวางแผนอธรรมเพื่อทำลายคนจนด้วยการโกหกต่างๆ แม้แต่เมื่อคนจนคนนั้นพูดสิ่งที่ถูกต้อง
\v 8 แต่คนที่ซื่อตรงทำแผนงานที่ซื่อตรง และเพราะการกระทำที่ซื่อตรงของเขา เขาจะยืนหยัดอยู่ได้
\v 9 พวกผู้หญิงที่อยู่อย่างสบายเอ๋ย จงลุกขึ้น และจงฟังเสียงของข้าพเจ้า พวกบุตรหญิงที่ไร้กังวล จงฟังข้าพเจ้า
\s5
\p
\v 10 เพราะในเวลาอีกปีกว่าๆ ความมั่นใจของพวกเจ้าจะหมดไป พวกผู้หญิงที่ไร้กังวลเอ๋ย เพราะการเก็บผลองุ่นจะไม่ได้ผล การเก็บพืชผลก็จะไม่มาถึง
\v 11 พวกผู้หญิงที่อยู่อย่างสบายเอ๋ย จงตัวสั่น จงเหนื่อยยาก พวกคนที่มีความมั่นใจ จงถอดเสื้อผ้าที่สวยงามของพวกเจ้าออก และทำให้ตัวพวกเจ้าเปลือยเปล่า จงเอาผ้ากระสอบคาดเอวพวกเจ้าไว้
\v 12 พวกเจ้าจะร้องไห้คร่ำครวญเพราะไร่นาที่แสนสุข เพราะเถาองุ่นลูกดก
\s5
\p
\v 13 แผ่นดินของชนชาติของข้าพเจ้าจะมีพืชที่มีหนามและพุ่มไม้หนามงอกขึ้นมา แม้แต่ในบ้านเรือนทั้งหมดที่เคยสนุกสนานในเมืองที่รื่นเริง
\v 14 เพราะพระราชวังจะถูกทอดทิ้ง เมืองที่มีคนหนาแน่นก็จะร้างเปล่า เนินเขาและหอคอยจะกลายเป็นถ้ำตลอดไป กลายเป็นที่รื่นเริงของพวกลาป่า กลายเป็นทุ่งหญ้าของฝูงสัตว์
\v 15 จนกว่าจะทรงเทพระวิญญาณจากเบื้องบนลงมาเหนือพวกเรา และถิ่นทุรกันดารจะกลายเป็นไร่นาที่อุดมสมบูรณ์ และไร่นาที่อุดมสมบูรณ์จะถือว่าเป็นป่า
\s5
\p
\v 16 แล้วความยุติธรรมจะอาศัยอยู่ในถิ่นทุรกันดาร และความชอบธรรมจะอาศัยอยู่ในทุ่งนาที่อุดมสมบูรณ์
\v 17 ผลงานของความชอบธรรมจะเป็นสันติสุข และผลของความชอบธรรม คือความเงียบสงบและความมั่นใจตลอดไป
\v 18 ชนชาติของข้าพเจ้าจะอาศัยในที่พักอาศัยด้วยความสงบสุข ในบ้านเรือนที่ปลอดภัยและในที่พักที่เงียบสงบ
\s5
\p
\v 19 แต่ถึงแม้ว่ามีลูกเห็บตกและป่าถูกทำลายไป และเมืองก็พินาศไปจนสิ้นซาก
\v 20 พวกเจ้าที่หว่านพืชอยู่ริมลำธารน้ำทุกแห่งก็จะเป็นสุข พวกเจ้าที่ปล่อยวัวและลาของพวกเจ้าออกไปหากิน
\s5
\c 33
\p
\v 1 วิบัติแก่เจ้า ผู้ทำลายที่ไม่เคยถูกทำลาย วิบัติแก่คนทรยศที่พวกเขาไม่เคยถูกทรยศ เมื่อเจ้าหยุดทำลาย เจ้าก็จะถูกทำลาย เมื่อเจ้าหยุดทรยศ พวกเขาก็จะทรยศเจ้า
\v 2 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอทรงพระกรุณาต่อข้าพระองค์ทั้งหลาย พวกข้าพระองค์รอคอยพระองค์ ขอทรงเป็นแขนของพวกข้าพระองค์ทุกๆ เช้า ขอทรงเป็นความรอดของพวกข้าพระองค์ในเวลายากลำบาก
\v 3 เมื่อมีเสียงดังสนั่น ชนชาติทั้งหลายก็หนีไป เมื่อพระองค์ทรงลุกขึ้น ชนชาติทั้งหลายก็กระจัดกระจายไป
\v 4 ของที่ริบมาของพวกเจ้าถูกนำมารวมกันเหมือนกับรวบรวมฝูงตั๊กแตน คนทั้งหลายก็จะกระโดดตะครุบมันเหมือนฝูงตั๊กแตนกระโดด
\s5
\p
\v 5 พระยาห์เวห์ทรงเป็นที่ยกย่อง พระองค์ประทับในที่สูง พระองค์จะทรงทำให้ศิโยนเต็มด้วยความยุติธรรมและความชอบธรรม
\v 6 พระองค์จะทรงเป็นความมั่นคงในวันเวลาของพวกเจ้า ทรงเป็นความรอด ปัญญา และความรู้อย่างสมบูรณ์ ความยำเกรงพระเจ้าเป็นทรัพย์สมบัติของเขา
\v 7 ดูเถิด คณะทูตของพวกเขาร้องไห้อยู่ตามถนน และพวกนักการทูตที่หวังให้มีสันติภาพก็คร่ำครวญอย่างขมขื่น
\s5
\p
\v 8 ทางหลวงทั้งหลายก็ร้างเปล่า ไม่มีพวกคนเดินทางอีกเลย พันธสัญญาต่างๆ ก็ถูกหักลง พวกพยานก็ถูกดูหมิ่น และมวลมนุษย์ไม่ได้รับการนับถือ
\v 9 แผ่นดินนั้นคร่ำครวญและเหี่ยวแห้งไป เลบานอนก็อับอายและเหี่ยวแห้งไป ชาโรนเป็นเหมือนที่ราบทะเลทราย และบาชานและคารเมลก็สลัดใบของพวกมัน
\v 10 พระยาห์เวห์ตรัสว่า "บัดนี้ เราจะลุกขึ้น บัดนี้ เราจะได้รับการเชิดชู บัดนี้ เราจะได้รับการยกย่อง"
\s5
\p
\v 11 พวกเจ้าอุ้มท้องแต่แกลบ และพวกเจ้าคลอดแต่ตอข้าว ลมหายใจของพวกเจ้าเป็นไฟที่จะเผาผลาญพวกเจ้า
\v 12 พวกประชาชนจะถูกเผาเป็นปูนขาว เหมือนกับพุ่มไม้หนามที่ถูกโค่นลงและถูกเผาไฟ
\v 13 พวกเจ้าที่อยู่ห่างไกล จงฟังสิ่งที่เราได้ทำแล้ว พวกเจ้าที่อยู่ใกล้ จงรับรู้ถึงอำนาจของเรา"
\s5
\p
\v 14 พวกคนบาปในศิโยนเกรงกลัว ความหวาดกลัวได้ครอบงำพวกคนที่ชั่วร้าย ผู้ใดในพวกเราอยู่กับไฟที่ร้อนแรงได้? ผู้ใดในพวกเราอยู่กับการเผาไหม้ได้ตลอดเป็นนิตย์?
\v 15 คนที่เดินอย่างชอบธรรมและพูดอย่างซื่อตรง คนที่ดูหมิ่นผลที่ได้จากการบีบบังคับ ผู้ที่ปฏิเสธที่จะรับสินบน ผู้ที่ไม่ได้วางแผนการกระทำผิดที่โหดร้าย และไม่มองความชั่วร้าย
\v 16 เขาจะสร้างบ้านเรือนของเขาบนที่สูง ที่ลี้ภัยของเขาจะเป็นป้อมหิน อาหารและน้ำของเขาจะมีมาอย่างแน่นอน
\s5
\p
\v 17 ดวงตาของเจ้าจะเห็นกษัตริย์ผู้สง่างาม พวกเขาจะเห็นแผ่นดินที่กว้างขวาง
\v 18 ใจของเจ้าจะคิดถึงความน่ากลัวนั้น คนที่เขียนอยู่ที่ไหน คนที่ชั่งจำนวนเงินอยู่ที่ไหน? คนที่นับจำนวนหอคอยเหล่านั้นอยู่ที่ไหน?
\v 19 เจ้าจะไม่ได้เห็นชนชาติที่เป็นศัตรูอีกต่อไป ชนชาติที่มีภาษาแปลกออกไป ผู้ที่เจ้าฟังไม่เข้าใจ
\v 20 จงมองที่ศิโยน เมืองแห่งเทศกาลเลี้ยงของพวกเรา ดวงตาของเจ้าจะเห็นกรุงเยรูซาเล็มเป็นที่อาศัยที่สงบ จะไม่มีการย้ายเต็นท์อีกต่อไป หลักหมุดของเขาจะไม่ถูกถอนขึ้นมา อีกทั้งจะไม่มีเชือกของเต็นท์เส้นใดที่ขาดเลย
\s5
\p
\v 21 แต่พระยาห์เวห์ผู้ทรงสง่างามจะสถิตกับเรา ในที่ซึ่งมีแม่น้ำกว้างใหญ่และลำธารน้ำ ไม่มีเรือรบที่มีฝีพายทั้งหลายจะเดินทางมา และไม่มีเรือลำใหญ่จะแล่นผ่านไป
\v 22 เพราะพระยาห์เวห์ทรงเป็นผู้พิพากษาของพวกเรา พระยาห์เวห์ทรงเป็นผู้บัญญัติกฎหมายของพวกเรา พระยาห์เวห์ทรงเป็นกษัตริย์ของพวกเรา พระองค์จะทรงช่วยพวกเราให้รอด
\v 23 สายโยงของพวกเจ้าก็หย่อน สายโยงเหล่านั้นไม่สามารถยึดเสากระโดงให้อยู่ในที่ของมันได้ เมื่อมีการแบ่งของที่ริบมามากมาย คนง่อยก็จะลากของที่ริบมานั้นไปได้
\v 24 พวกชาวเมืองจะไม่พูดว่า "ข้าป่วยอยู่" ประชาชนที่อาศัยอยู่ที่นั่นจะได้รับการอภัยให้กับความผิดบาปของพวกเขา
\s5
\c 34
\p
\v 1 ประชาชาติทั้งหลายเอ๋ย จงเข้ามาใกล้และฟัง ชนชาติทั้งหลายเอ๋ย จงตั้งใจฟัง แผ่นดินโลกและสรรพสิ่งในนั้นต้องฟัง โลกและทุกสิ่งที่มาจากโลก
\v 2 เพราะพระยาห์เวห์ทรงพิโรธต่อประชาชาติทั้งสิ้น และทรงเกรี้ยวกราดต่อกองทัพทั้งสิ้นของพวกเขา พระองค์ทรงทำลายพวกเขาจนสิ้น พระองค์ได้ทรงมอบพวกเขาให้แก่การฆ่าฟัน
\v 3 ศพของพวกเขาจะถูกเหวี่ยงออกไป กลิ่นของซากศพจะเหม็นคลุ้งอยู่ทุกหนทุกแห่ง และภูเขาทั้งหลายจะชุ่มโชกด้วยเลือดของพวกเขา
\s5
\p
\v 4 ดวงดาวทั้งสิ้นบนท้องฟ้าจะหายไป และท้องฟ้าจะถูกม้วนเหมือนกับหนังสือม้วน และดวงดาวทั้งหมดจะหายไป เหมือนกับใบที่ร่วงลงจากเถาองุ่น และเหมือนกับลูกมะเดื่อสุกงอมที่ร่วงหล่นจากต้นมะเดื่อ
\v 5 เพราะเมื่อดาบของเราจะดื่มจนอิ่มในท้องฟ้าแล้ว ดูเถิด บัดนี้ มันจะลงมายังเอโดม มายังชนชาติที่เราได้กำหนดไว้เพื่อการทำลาย
\v 6 ดาบของพระยาห์เวห์จะชุ่มโชกไปด้วยเลือดและอาบไปด้วยไขมัน ชุ่มโชกไปด้วยเลือดของบรรดาลูกแกะและแพะ อาบไปด้วยไขมันของไตแกะตัวผู้ เพราะพระยาห์เวห์มีการสังเวยในเมืองโบสราห์และการสังหารครั้งใหญ่ในแผ่นดินเอโดม
\s5
\p
\v 7 วัวป่าทั้งหลายจะถูกสังหารพร้อมกับพวกมัน และวัวหนุ่มก็จะถูกสังหารพร้อมกับพวกวัวที่แก่กว่า แผ่นดินของพวกเขาจะนองไปด้วยเลือด และดินของพวกเขาจะชุ่มด้วยไขมัน
\v 8 เพราะวันนั้นจะเป็นวันแห่งการแก้แค้นของพระยาห์เวห์ และมีปีที่พระองค์จะทรงตอบแทนในเรื่องของศิโยน
\v 9 ลำธารทั้งหลายของเอโดมจะกลายเป็นยางมะตอย และดินของมันจะกลายเป็นกำมะถัน และแผ่นดินของมันจะกลายเป็นยางมะตอยที่ลุกไหม้อยู่
\v 10 มันจะลุกไหม้ทั้งวันทั้งคืน ควันของมันจะลอยขึ้นไปเป็นนิตย์ มันจะเป็นแผ่นดินที่ร้างเปล่าอยู่ทุกชั่วชาติพันธุ์ จะไม่มีใครผ่านที่นั้นไปตลอดไปเป็นนิตย์
\s5
\p
\v 11 แต่บรรดานกป่าและสัตว์ป่าจะอาศัยอยู่ที่นั่น นกฮูกและอีกาจะสร้างรังของพวกมันในนั้น พระองค์จะทรงขึงสายวัดแห่งความพินาศและสายดิ่งแห่งการทำลาย
\v 12 พวกคนสูงศักดิ์ของมันจะไม่เหลืออะไรที่จะเรียกว่าเป็นอาณาจักรได้ และพวกเจ้านายของที่นั่นทั้งหมดจะไม่มีอีก
\v 13 ต้นหนามจะงอกมาจากพระราชวังของที่นั่น ต้นตำแยและต้นกระชับจะงอกออกมาจากป้อมปราการของมัน มันจะเป็นที่อยู่ของหมาป่า และเป็นที่ของนกกระจอกเทศ
\v 14 พวกสัตว์ป่าและหมาจิ้งจอกจะมาพบกันที่นั่น และพวกแพะป่าจะร้องหากัน พวกสัตว์ที่หากินตอนกลางคืนจะอยู่ที่นั่นและหาที่พักสำหรับพวกมันเอง
\s5
\p
\v 15 นกฮูกจะทำรัง วางไข่และกกไข่ของพวกมัน ทั้งกกไข่และปกป้องลูกอ่อนของพวกมัน ใช่แล้ว พวกเหยี่ยวจะรวมตัวกันที่นั่น ต่างก็อยู่กับคู่ของมัน
\v 16 จงค้นหาหนังสือม้วนของพระยาห์เวห์ ไม่มีสักตัวเดียวในพวกมันเหล่านี้จะหายไป ไม่มีตัวไหนจะขาดคู่ เพราะพระโอษฐ์ของพระองค์ได้ทรงบัญชาไว้ และพระวิญญาณของพระองค์ก็ทรงรวบรวมพวกมันไว้
\v 17 พระองค์ทรงจับฉลากที่ต่างๆ ให้กับพวกมัน และพระหัตถ์ของพระองค์ก็ได้วัดให้กับพวกมันด้วยเชือกวัด พวกมันจะได้กรรมสิทธิ์ตลอดไป พวกมันจะอาศัยอยู่ที่นั่นทุกชั่วชาติพันธุ์
\s5
\c 35
\p
\v 1 ถิ่นทุรกันดารและอารบาห์จะยินดี และทะเลทรายจะเปรมปรีดิ์และเบ่งบาน เหมือนกับดอกกุหลาบ มันจะออกดอกอย่างมากมาย และเปรมปรีดิ์ด้วยความชื่นบานและร้องเพลง
\v 2 มันจะได้รับสง่าราศีของเลบานอน ทั้งความโอ่อ่าตระการของคารเมลและชาโรน พวกเขาจะเห็นพระสิริของพระยาห์เวห์ และพระสง่าราศีของพระเจ้าของพวกเรา
\v 3 จงเสริมกำลังแก่มือที่อ่อนแรง และจงทำหัวเข่าที่สั่นให้มั่นคง
\s5
\p
\v 4 จงกล่าวกับพวกคนที่มีใจหวาดกลัวว่า "จงเข้มแข็งเถิด อย่ากลัวเลย ดูเถิด พระเจ้าของพวกเจ้าจะมาด้วยการแก้แค้น ด้วยการตอบแทนของพระเจ้า พระองค์จะเสด็จมาและช่วยพวกเจ้าให้รอด"
\v 5 แล้วตาของคนตาบอดจะมองเห็น และหูของคนหูหนวกจะได้ยิน
\v 6 แล้วคนง่อยจะกระโดดเหมือนกับกวาง และลิ้นของคนใบ้จะร้องเพลง เพราะน้ำพลุ่งขึ้นมาในอารบาห์ และลำธารทั้งหลายเกิดขึ้นในถิ่นทุรกันดาร
\s5
\p
\v 7 ทรายที่ถูกแผดเผาจะกลายเป็นสระน้ำ และพื้นดินที่แห้งผากจะกลายเป็นน้ำพุ ในที่อาศัยของหมาป่าที่ซึ่งพวกมันเคยนอนอยู่ จะกลายเป็นต้นหญ้ากับต้นกกและต้นอ้อ
\v 8 จะมีทางหลวงที่นั่นเรียกว่าทางบริสุทธิ์ คนที่มีมลทินจะไม่เดินทางไปทางนั้น แต่จะเป็นทางสำหรับคนที่เดินในทางนั้น คนโง่เขลาจะไม่ไปมาบนทางนั้น
\s5
\p
\v 9 จะไม่มีสิงโตอยู่ที่นั่น จะไม่มีสัตว์ดุร้ายอยู่บนที่นั่น จะไม่พบพวกมันที่นั่น แต่พวกที่พระองค์ทรงไถ่จะเดินที่นั่น
\v 10 ผู้ที่ได้รับการไถ่ของพระยาห์เวห์จะกลับมาและจะมาที่ศิโยนด้วยการร้องเพลง และความยินดีที่ไม่สิ้นสุดจะอยู่บนศีรษะของพวกเขา ความยินดีและเปรมปรีดิ์จะเกิดขึ้นกับพวกเขา ความโศกเศร้าและการถอนหายใจจะหนีไป
\s5
\c 36
\p
\v 1 ในปีที่สิบสี่ของรัชกาลกษัตริย์เฮเซคียาห์ เซนนาเคอริบกษัตริย์ของอัสซีเรียได้ยกขึ้นมาสู้รบกับเมืองป้อมปราการทั้งหมดของยูดาห์และได้ยึดเมืองเหล่านั้น
\v 2 แล้วกษัตริย์ของอัสซีเรียได้ทรงส่งผู้บัญชาการทหารจากลาคีชมายังกรุงเยรูซาเล็มเพื่อมาเข้าเฝ้ากษัตริย์เฮเซคียาห์พร้อมกับกองทัพใหญ่ เขาได้มาถึงที่รางระบายน้ำของสระบน ตรงทางหลวงที่ไปยังลานซักฟอกและยืนอยู่ใกล้ที่นั่น
\s5
\p
\v 3 พวกข้าราชการอิสราเอลผู้ที่ได้ออกจากเมืองไปเพื่อเจรจากับพวกเขาคือเอลียาคิมบุตรชายของฮิลคียาห์ผู้บัญชาการราชสำนัก เชบนาราชเลขาและโยอาห์บุตรชายของอาสาฟ ผู้ที่เขียนบันทึกคำตัดสินทางราชการ
\v 4 ผู้บัญชาการทหารได้กล่าวกับพวกเขาว่า "จงบอกเฮเซคียาห์ว่ากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ คือกษัตริย์ของอัสซีเรียตรัสว่า "เจ้ามั่นใจความช่วยเหลือจากผู้ใด?
\v 5 เจ้าพูดแต่ถ้อยคำไร้สาระ ในการพูดว่ามีที่ปรึกษาและกำลังสำหรับการทำสงคราม บัดนี้ เจ้าวางใจในผู้ใด? ใครที่ทำให้เจ้ากล้ากบฏต่อเรา?
\s5
\p
\v 6 ดูเถิด เจ้าวางใจในอียิปต์ที่เจ้าใช้เป็นไม้เท้าเป็นต้นกกที่เดาะแล้ว แต่ถ้ามีคนยันบนไม้นั้น มันก็จะทิ่มและแทงเข้าไปในมือของเขา ฟาโรห์กษัตริย์ของอียิปต์จะเป็นเช่นนั้นต่อคนที่วางใจในตัวเขา
\v 7 แต่ถ้าเจ้าพูดกับเราว่า "พวกเราวางใจในพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา" ก็พระองค์ไม่ใช่หรือ ที่เฮเซคียาห์ได้รื้อสถานสูงและแท่นบูชาของพระองค์ทิ้งไป และเขากล่าวกับยูดาห์และเยรูซาเล็มว่า "พวกเจ้าต้องนมัสการหน้าแท่นบูชานี้ในกรุงเยรูซาเล็มหรือ"?
\s5
\p
\v 8 เพราะฉะนั้น บัดนี้ ข้าต้องการยื่นข้อเสนอที่ดีจากกษัตริย์ของอัสซีเรียเจ้านายของข้าให้แก่เจ้า ข้าจะให้ม้าสองพันตัวแก่เจ้า ถ้าหากเจ้าหาคนที่จะขี่ม้าเหล่านั้นได้
\v 9 เจ้าจะต้านทานแม้แต่นายกองที่เล็กที่สุด ของพวกทหารของเจ้านายข้าได้อย่างไร? เจ้าได้วางใจในอียิปต์สำหรับบรรดารถม้าศึกและพวกพลม้า
\v 10 แล้วตอนนี้ ข้าได้เดินทางมาที่นี่เพื่อต่อสู้และทำลายแผ่นดินนี้โดยปราศจากพระยาห์เวห์หรือ? พระยาห์เวห์ได้ตรัสกับข้าว่า "จงโจมตีแผ่นดินนี้และทำลายเสีย""'
\s5
\p
\v 11 แล้วเอลียาคิมบุตรชายของฮิลคียาห์และเชบนาและโยอาห์ได้กล่าวกับผู้บัญชาการทหารว่า "ขอโปรดพูดกับพวกผู้รับใช้ของท่านเป็นภาษาอาราเมคเถิด เพราะพวกเราเข้าใจภาษานั้น อย่าพูดกับพวกเราเป็นภาษายูดาห์ให้เข้าหูประชาชนที่อยู่บนกำแพงเลย"
\v 12 แต่ผู้บัญชาการทหารได้กล่าวว่า "เจ้านายของข้าได้ส่งข้ามาหาเจ้านายของเจ้าและเจ้าเพื่อจะพูดถ้อยคำเหล่านี้หรือ? พระองค์ไม่ได้ส่งข้ามาหาพวกคนที่นั่งอยู่บนกำแพง ผู้ที่จะต้องกินขี้และกินเยี่ยวของพวกเขาเองพร้อมกับเจ้าหรือ?"
\v 13 แล้วผู้บัญชาการทหารได้ยืนขึ้นและตะโกนด้วยเสียงดังเป็นภาษายิวว่า "จงฟังถ้อยคำของกษัตริย์แห่งอัสซีเรีย กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่
\s5
\p
\v 14 กษัตริย์ได้ตรัสว่า 'อย่าให้เฮเซคียาห์หลอกลวงพวกเจ้า เพราะเขาจะไม่สามารถช่วยกู้พวกเจ้าได้
\v 15 อย่าฟังเฮเซคียาห์ที่บอกให้พวกเจ้าวางใจในพระยาห์เวห์ว่า "พระยาห์เวห์จะทรงช่วยกู้พวกเราแน่นอน เมืองนี้จะไม่ถูกมอบไว้ในมือของกษัตริย์ของอัสซีเรีย'"
\v 16 อย่าฟังเฮเซคียาห์ เพราะกษัตริย์ของอัสซีเรียตรัสดังนี้ว่า "จงทำสัญญาสันติภาพกับเราและออกมาหาเรา แล้วพวกเจ้าแต่ละคนจะกินจากเถาองุ่นของตนและจากต้นมะเดื่อของตน และดื่มน้ำในที่เก็บน้ำของตน
\s5
\p
\v 17 พวกเจ้าจะทำอย่างนี้จนกว่าเราจะมาและเอาตัวพวกเจ้าไปยังแผ่นดินที่เหมือนกับแผ่นดินของเจ้าเอง คือแผ่นดินที่มีข้าวและเหล้าองุ่นใหม่ แผ่นดินที่มีขนมปังและสวนองุ่น'
\v 18 อย่าให้เฮเซคียาห์ทำให้พวกเจ้าหลงผิดไป โดยกล่าวว่า 'พระยาห์เวห์จะทรงช่วยกู้พวกเรา' มีพระองค์ใดของชนชาติทั้งหลายที่ช่วยกู้พวกเขาให้พ้นจากพระหัตถ์ของกษัตริย์ของอัสซีเรียได้หรือ?
\v 19 พระของเมืองฮามัทและเมืองอารปัดอยู่ที่ไหน? พระของเสฟารวาอิมอยู่ที่ไหน? พวกเขาช่วยกู้สะมาเรียจากอำนาจของเราได้หรือ?
\s5
\p
\v 20 มีพระองค์ใดท่ามกลางพระทั้งหมดของแผ่นดินเหล่านี้ที่ช่วยกู้แผ่นดินจากอำนาจของเราได้ แล้วพระยาห์เวห์จะช่วยกรุงเยรูซาเล็มให้รอดจากอำนาจของเราได้หรือ?"
\v 21 แต่ประชาชนยังคงเงียบอยู่และไม่ตอบ เพราะพระบัญชาของกษัตริย์ว่า "อย่าโต้ตอบเขา"
\v 22 แล้วเอลียาคิมบุตรของฮิลคียาห์ผู้ดูแลราชสำนัก เชบนาผู้เป็นอาลักษณ์ และโยอาห์บุตรชายของอาสาฟผู้บันทึก ได้มาเฝ้าเฮเซคียาห์ด้วยเสื้อผ้าที่ฉีกขาด และได้กราบทูลถ้อยคำของผู้บัญชาการทหารให้พระองค์ทรงทราบ
\s5
\c 37
\p
\v 1 ต่อมาเมื่อกษัตริย์เฮเซคียาห์ทรงได้ยินคำทูลถวายรายงานของพวกเขาแล้ว พระองค์ก็ทรงฉีกฉลองพระองค์ และทรงคลุมพระองค์เองด้วยผ้ากระสอบ และเสด็จเข้าไปในพระนิเวศของพระยาห์เวห์
\v 2 พระองค์ได้ทรงใช้เอลียาคิมผู้ที่ดูแลราชสำนัก และเชบนาอาลักษณ์และบรรดาปุโรหิตอาวุโส ทุกคนได้คลุมตัวด้วยผ้ากระสอบไปหาอิสยาห์ผู้เผยพระวจนะบุตรชายของอามอส
\v 3 พวกเขาได้กล่าวกับเขาว่า "เฮเซคียาห์ตรัสว่า 'วันนี้เป็นวันแห่งความทุกข์ใจ วันที่ถูกประณามและวันแห่งความอัปยศอดสู เหมือนกับทารกถึงกำหนดคลอด แต่มารดาไม่มีกำลังจะเบ่งออกมา
\s5
\p
\v 4 บางทีพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้าจะทรงได้ยินถ้อยคำของผู้บัญชาการทหาร ผู้ที่กษัตริย์ของอัสซีเรียเจ้านายของเขาได้ใช้มาเพื่อท้าทายพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ และจะทรงว่ากล่าวถ้อยคำที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้าทรงสดับฟังแล้ว บัดนี้ จงเปล่งเสียงอธิษฐานของท่านเพื่อพวกคนที่เหลืออยู่ที่ยังคงอยู่ที่นี่'"
\v 5 ดังนั้น พวกข้าราชการของกษัตริย์เฮเซคียาห์จึงได้มาหาอิสยาห์
\v 6 และอิสยาห์ได้กล่าวกับพวกเขาว่า "จงทูลเจ้านายของพวกเจ้าว่า 'พระยาห์เวห์ตรัสว่า "อย่ากลัวถ้อยคำที่พวกเจ้าได้ยิน ด้วยคำกล่าวที่พวกข้าราชการของกษัตริย์ของอัสซีเรียได้ดูหมิ่นเรา'
\s5
\p
\v 7 ดูเถิด เราจะใส่วิญญาณหนึ่งในตัวเขา และเขาจะได้ยินเรื่องสำคัญและกลับไปยังแผ่นดินของเขา เราจะทำให้เขาล้มลงด้วยดาบในแผ่นดินของเขาเอง""'
\v 8 แล้วผู้บัญชาการทหารได้กลับไปและพบว่ากษัตริย์ของอัสซีเรียสู้รบที่เมืองลิบนาห์ เพราะพระองค์ทรงได้ยินว่ากษัตริย์องค์นั้นได้หนีไปจากเมืองลาคีช
\v 9 แล้วเซนนาเคอริบทรงได้ยินว่าทีรหะคาห์กษัตริย์ของคูชและอียิปต์ได้รวมตัวกันสู้กับพระองค์ ดังนั้น พระองค์จึงทรงใช้พวกผู้สื่อสารมายังเฮเซคียาห์เพื่อแจ้งถ้อยคำอีกครั้ง
\s5
\p
\v 10 "จงกล่าวแก่เฮเซคียาห์กษัตริย์ของยูดาห์ว่า 'อย่าให้พระเจ้าของเจ้าที่เจ้าวางใจหลอกลวงเจ้าว่า "กรุงเยรูซาเล็มจะไม่ถูกมอบไว้ในมือของกษัตริย์อัสซีเรีย"
\v 11 ดูเถิด พวกเจ้าได้ยินแล้วถึงสิ่งที่บรรดากษัตริย์ของอัสซีเรียได้ทรงทำต่อแผ่นดินทั้งสิ้นโดยการทำลายอย่างสิ้นซาก ดังนั้น เจ้าจะได้รับการช่วยกู้หรือ?
\v 12 บรรดาพระของชนชาติทั้งหลายได้ช่วยกู้พวกเขา ชนชาติทั้งหลายที่บรรพบุรุษของเราได้ทำลาย คือ โกซาน ฮาราน เรเซฟ และชาวเอเดนในเทลาซาร์หรือ?
\v 13 กษัตริย์ของเมืองฮามัท กษัตริย์ของเมืองอารปัด บรรดากษัตริย์ของเมืองต่างๆ ของเสฟารวาวิม เฮนาและอิฟวาห์อยู่ที่ไหน?"'
\s5
\p
\v 14 เฮเซคียาห์ได้ทรงรับจดหมายนี้จากมือของพวกผู้ส่งสารและอ่านจดหมายนั้น แล้วพระองค์ได้เสด็จขึ้นไปยังพระนิเวศของพระยาห์เวห์และทรงคลี่จดหมายนั้นต่อพระพักตร์พระองค์
\v 15 เฮเซคียาห์ได้ทรงอธิษฐานต่อพระยาห์เวห์ว่า
\v 16 "ข้าแต่พระยาห์เวห์จอมโยธา พระเจ้าของอิสราเอล พระองค์ผู้ทรงประทับเหนือเหล่าเครูบ พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าองค์เดียวเหนือราชอาณาจักรของแผ่นดินโลกทั้งสิ้น พระองค์ได้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก
\v 17 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอทรงเงี่ยพระกรรณ และทรงสดับ ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอทรงเบิกพระเนตรของพระองค์ และทรงมองดู และทรงฟังถ้อยคำของเซนนาเคอริบ ที่เขาได้ส่งมาเยาะเย้ยพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์
\s5
\p
\v 18 ข้าแต่พระยาห์เวห์ มันเป็นความจริง ที่บรรดากษัตริย์ของอัสซีเรียได้ทำลายประชาชาติทั้งหมดและแผ่นดินของพวกเขา
\v 19 พวกเขาได้เอาพระทั้งหลายของพวกเขาเข้าไปในไฟ เพราะสิ่งเหล่านั้นไม่ใช่พระ แต่เป็นผลงานของมือของมนุษย์ ซึ่งเป็นเพียงไม้และหิน ดังนั้น คนอัสซีเรียจึงได้ทำลายสิ่งเหล่านั้น
\v 20 เพราะฉะนั้น บัดนี้ ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย ขอทรงช่วยพวกข้าพระองค์ให้รอดพ้นจากอำนาจของเขา เพื่อว่าราชอาณาจักรทั้งสิ้นบนแผ่นดินโลกจะรู้ว่าพระองค์เพียงผู้เดียวทรงเป็นพระยาห์เวห์"
\s5
\p
\v 21 แล้วอิสยาห์บุตรชายของอามอสได้ส่งข่าวไปยังเฮเซคียาห์ทูลว่า "พระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอลตรัสว่า 'เพราะเจ้าได้อธิษฐานต่อเราถึงเรื่องเซนนาเคอริบกษัตริย์ของอัสซีเรีย
\v 22 นี่เป็นพระวจนะที่พระยาห์เวห์ได้ตรัสเกี่ยวกับเขาว่า "ธิดาพรหมจารีแห่งศิโยนดูหมิ่นเจ้าและหัวเราะเยาะและเย้ยหยันเจ้า ธิดาของเยรูซาเล็มสั่นศีรษะของเธอต่อเจ้า
\v 23 เจ้าได้ท้าทายและเย้ยหยันต่อผู้ใด? เจ้าได้ขึ้นเสียงของเจ้าและเบิ่งตาของเจ้าด้วยความเย่อหยิ่งต่อผู้ใด? ต่อองค์บริสุทธิ์ของอิสราเอล
\s5
\p
\v 24 เจ้าได้ท้าทายองค์พระผู้เป็นเจ้าโดยพวกคนรับใช้ของเจ้าและได้กล่าวว่า "ข้าจะขึ้นไปยังที่สูงของภูเขาทั้งหลายพร้อมกับรถม้าศึกมากมายของข้า ไปถึงที่ไกลสุดของเลบานอน ข้าจะโค่นต้นสนสีดาร์ที่สูงของมันลงและต้นสนสามใบที่ดีที่สุดที่นั่น และข้าจะเข้าไปถึงยอดสูงสุดของมัน เข้าไปในป่าทึบที่สุดของมัน
\v 25 ข้าได้ขุดบ่อและดื่มน้ำ ข้าได้ทำให้แม่น้ำทุกสายของอียิปต์แห้งไปภายใต้ฝ่าเท้าของข้า'
\v 26 เจ้าไม่ได้ยินหรือว่า เราได้กำหนดไว้นานมาแล้วและได้ทำมันแล้วในสมัยโบราณ? บัดนี้ เราได้ทำให้มันผ่านไปแล้ว เจ้าอยู่ที่นี่เพื่อทำให้เมืองที่เข้มแข็งทั้งหลายพังลงกลายเป็นกองซากปรักหักพัง
\s5
\p
\v 27 ชาวเมืองของพวกเขาก็อ่อนกำลัง หมดหวังและอับอาย พวกเขาเป็นพืชในทุ่งนาเป็นหญ้าอ่อน หญ้าบนหลังคาหรือในทุ่งนาก่อนลมตะวันออก
\v 28 แต่เรารู้จักการนั่งของเจ้า การออกไปของเจ้า การเข้ามาของเจ้าและความเกรี้ยวกราดของเจ้าที่มีต่อเรา
\v 29 เพราะความเกรี้ยวกราดของเจ้าที่มีต่อเรา และเพราะความหยิ่งยโสของเจ้าได้มาเข้าถึงหูของเรา เราจะเอาขอของเราเกี่ยวจมูกของเจ้า และเอาบังเหียนของเราในปากของเจ้า เราจะหันกลับไปตามทางที่เจ้ามา"
\s5
\p
\v 30 นี่จะเป็นหมายสำคัญแก่เจ้า ปีนี้เจ้าจะกินสิ่งที่งอกขึ้นเอง และปีที่สองจะกินสิ่งที่งอกจากที่นั่น แต่ในปีที่สามเจ้าต้องปลูกและเก็บเกี่ยว จงปลูกสวนองุ่นและกินผลของมัน
\v 31 คนที่เหลืออยู่ของเชื้อสายของยูดาห์ที่รอดชีวิตจะหยั่งรากลงอีกครั้งและเกิดผล
\v 32 เพราะคนที่เหลืออยู่จะออกมาจากกรุงเยรูซาเล็ม คนที่รอดชีวิตออกมาจากภูเขาศิโยน ความร้อนรนของพระยาห์เวห์จอมโยธาจะทำทรงทำการนี้"'
\s5
\p
\v 33 เพราะฉะนั้น พระยาห์เวห์ตรัสเกี่ยวกับกษัตริย์อัสซีเรียดังนี้ว่า "เขาจะไม่เข้ามาในเมืองนี้ หรือยิงด้วยลูกธนูมาที่นี่ อีกทั้งเขาจะไม่ถือโล่มาข้างหน้าเมืองนี้ หรือสร้างเชิงเทินต่อสู้เมืองนี้
\v 34 ทางที่เขาได้มาจะเป็นทางเดียวกันกับทางที่เขาจะจากไป เขาจะไม่เข้ามาในเมืองนี้ นี่คือคำประกาศของพระยาห์เวห์
\v 35 เพราะเราจะปกป้องเมืองนี้และช่วยกู้เมืองนี้ เพราะเห็นแก่เราเองและเพราะเห็นแก่ดาวิดผู้รับใช้ของเรา"
\s5
\p
\v 36 แล้วทูตของพระยาห์เวห์ได้ออกไปและต่อสู้กับค่ายของคนอัสซีเรีย ได้ประหารพวกทหาร 185,000 คน เมื่อคนเหล่านั้นได้ลุกขึ้นแต่เช้ามืด ซากศพก็กลาดเกลื่อนไปทั่วทุกแห่ง
\v 37 ดังนั้น เซนนาเคอริบกษัตริย์ของอัสซีเรียจึงได้ออกไปจากอิสราเอลและเสด็จกลับบ้านไป และได้อาศัยอยู่ในกรุงนีนะเวห์
\v 38 ต่อมา ขณะที่พระองค์กำลังทรงนมัสการในนิเวศของพระนิสโรคเทพเจ้าของพระองค์ อัดรัมเมเลคกับชาเรเซอร์พระราชโอรสของพระองค์ได้ฆ่าพระองค์ด้วยดาบ แล้วพวกเขาได้หนีเข้าไปในแผ่นดินอารารัต แล้วเอสารฮัดโดนพระโอรสของพระองค์ได้ขึ้นครองราชย์แทน
\s5
\c 38
\p
\v 1 ในเวลานั้น เฮเซคียาห์ได้ประชวรใกล้สิ้นพระชนม์ ดังนั้น อิสยาห์บุตรชายของอามอสผู้เผยพระวจนะได้มาเข้าเฝ้าพระองค์ และทูลพระองค์ว่า "พระยาห์เวห์ตรัสว่า 'จงจัดการบ้านเรือนของเจ้าให้เรียบร้อย เพราะเจ้าจะตาย จะไม่มีชีวิตอยู่'"
\v 2 แล้วเฮเซคียาห์ได้ทรงหันพระพักตร์เข้าข้างฝา และทรงอธิษฐานต่อพระยาห์เวห์
\v 3 พระองค์ได้ทูลว่า "ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอทรงโปรดระลึกถึงการที่ข้าพระองค์ได้ดำเนินต่อพระพักตร์พระองค์อย่างสัตย์ซื่อด้วยสุดใจของข้าพระองค์ และการที่ข้าพระองค์ได้กระทำสิ่งที่ดีในสายพระเนตรของพระองค์" แล้วเฮเซคียาห์ได้ทรงกันแสงเสียงดัง
\s5
\p
\v 4 แล้วพระวจนะของพระยาห์เวห์ก็ได้มาถึงอิสยาห์ว่า
\v 5 "จงไปและบอกเฮเซคียาห์ ผู้นำของประชากรของเราว่า 'พระยาห์เวห์ พระเจ้าของดาวิดบรรพบุรุษของเจ้าตรัสดังนี้ว่า เราได้ยินคำอธิษฐานของเจ้าแล้ว และเราได้เห็นน้ำตาของเจ้า ดูเถิด เราจะเพิ่มชีวิตของเจ้าอีกสิบห้าปี
\v 6 แล้วเราจะช่วยกู้เจ้าและเมืองนี้จากมือของกษัตริย์อัสซีเรียและเราจะปกป้องเมืองนี้
\v 7 นี่จะเป็นหมายสำคัญจากพระยาห์เวห์มาถึงเจ้า ว่าเราจะทำตามที่เราได้สัญญา
\s5
\p
\v 8 ดูเถิด เราจะทำให้เงาของขั้นบันไดของอาหัสย้อนหลังไปสิบขั้น'" ด้วยเหตุนี้ เงาของขั้นบันไดที่ทอดไปข้างหน้าจึงได้ย้อนหลังกลับไปสิบขั้น
\v 9 นี่เป็นคำอธิษฐานของเฮเซคียาห์ที่ได้บันทึกไว้ เมื่อพระองค์ได้ประชวรและได้ทรงหายดี
\v 10 "ข้าพเจ้าได้กล่าวว่าชีวิตของข้าพระองค์ได้มาถึงครึ่งทางที่ข้าพเจ้าจะเข้าไปยังประตูของแดนคนตาย ข้าพเจ้าได้ถูกส่งไปที่นั่นจากปีเดือนที่เหลือของข้าพเจ้า
\s5
\p
\v 11 ข้าพเจ้าได้กล่าวว่า ข้าพเจ้าจะไม่ได้เห็นพระยาห์เวห์อีกต่อไป ไม่ได้เห็นพระยาห์เวห์ในแผ่นดินของคนเป็น ข้าพเจ้าจะไม่ได้มองดูมวลมนุษย์หรือผู้ที่อาศัยอยู่ในโลกนี้อีกต่อไป
\v 12 ชีวิตของข้าพเจ้าได้ถูกเอาไปและนำไปจากข้าพเจ้าเหมือนกับเต็นท์ของคนเลี้ยงแกะ ข้าพเจ้าม้วนชีวิตของข้าพเจ้าเหมือนกับคนทอผ้า พระองค์ได้ทรงตัดข้าพเจ้าออกจากหูกทอผ้า พระองค์ทรงทำให้ชีวิตของข้าพเจ้าสิ้นสุดลงระหว่างกลางวันและกลางคืน
\v 13 ข้าพเจ้าร้องออกมาจนรุ่งเช้า พระองค์ทรงหักกระดูกทั้งสิ้นของข้าพเจ้าเหมือนกับสิงโต พระองค์ทรงทำให้ชีวิตของข้าพเจ้าสิ้นสุดลงระหว่างกลางวันและกลางคืน
\s5
\p
\v 14 ข้าพเจ้าร้องจ้อกแจ้กเหมือนนกนางแอ่น ข้าพเจ้าขันเหมือนนกเขา ตาของข้าพเจ้าก็ร่วงโรยไปด้วยการมองขึ้นไปเบื้องบน ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์ถูกบีบบังคับ ขอทรงช่วยข้าพระองค์
\v 15 ข้าพเจ้าจะพูดอย่างไรได้? พระองค์ได้ตรัสกับข้าพเจ้าและได้ทรงทำเช่นนั้น ข้าพเจ้าจะดำเนินอย่างช้าๆ ตลอดปีเดือนของข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้าเต็มไปด้วยความเศร้าโศก
\v 16 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ความทุกข์ยากที่พระองค์ประทานเป็นสิ่งดีแก่ข้าพระองค์ ขอให้ชีวิตของข้าพระองค์ได้กลับคืนมาสู่ข้าพระองค์ พระองค์ได้ทรงทำให้ชีวิตและสุขภาพของข้าพระองค์กลับสู่สภาพดี
\s5
\p
\v 17 การได้พบกับความโศกเศร้าเช่นนั้นเป็นผลดีต่อข้าพระองค์ พระองค์ได้ทรงช่วยกู้ข้าพระองค์จากหลุมแห่งการทำลาย เพราะพระองค์ได้ทรงเหวี่ยงความบาปทั้งสิ้นของข้าพระองค์ไว้เบื้องหลังพระองค์
\v 18 เพราะแดนคนตายไม่ขอบพระคุณพระองค์ ความตายไม่สรรเสริญพระองค์ พวกคนที่ลงไปในหลุมนั้นไม่มีความหวังในความสัตย์จริงของพระองค์
\v 19 คนที่มีชีวิตอยู่ คนที่มีชีวิตอยู่ เขาคือผู้ที่ขอบพระคุณพระองค์ อย่างที่ข้าพระองค์ทำวันนี้ บิดาบอกให้ลูกๆ ได้รู้ถึงความสัตย์จริงของพระองค์
\s5
\p
\v 20 พระยาห์เวห์จะทรงช่วยข้าพเจ้าให้รอด และพวกเราจะฉลองด้วยการบรรเลงเพลงตลอดวันเวลาของชีวิตของพวกเราในพระนิเวศของพระยาห์เวห์"
\v 21 บัดนี้ อิสยาห์ได้กล่าวว่า "ขอให้พวกเขาเอาก้อนมะเดื่อมาและวางบนพระยอด และพระองค์จะทรงหายจากอาการประชวร"
\v 22 เฮเซคียาห์ก็ได้ตรัสด้วยว่า "อะไรจะเป็นหมายสำคัญว่าเราเองจะขึ้นไปยังพระนิเวศของพระยาห์เวห์?"
\s5
\c 39
\p
\v 1 ในเวลานั้น เมโรดัคบาลาดันพระราชโอรสของบาลาดันกษัตริย์แห่งบาบิโลน ได้ทรงส่งพระราชสารและเครื่องบรรณาการมายังเฮเซคียาห์ เพราะพระองค์ทรงได้ยินว่าเฮเซคียาห์ได้ประชวรและหายจากประชวรแล้ว
\v 2 เฮเซคียาห์ทรงพอพระทัยในสิ่งของเหล่านี้ พระองค์จึงได้ทรงให้พวกผู้ส่งสารดูพระคลังของสิ่งต่างๆ ที่มีค่าของพระองค์ คือเงิน ทองคำ เครื่องเทศ และน้ำมันหอม คลังแสงของพระองค์ และรวมทั้งทุกสิ่งที่มีในท้องพระคลังของพระองค์ ไม่มีสิ่งใดในพระราชวัง หรือในราชอาณาจักรทั้งหมดของพระองค์ที่เฮเซคียาห์ไม่ได้ทรงให้พวกเขาดู
\s5
\p
\v 3 แล้วอิสยาห์ผู้เผยพระวจนะได้มาเฝ้ากษัตริย์เฮเซคียาห์และทูลถามพระองค์ว่า "คนเหล่านี้ทูลอะไรกับพระองค์? พวกเขามาจากไหน?" เฮเซคียาห์ได้ตรัสตอบว่า "พวกเขามาหาเราจากแดนไกล จากกรุงบาบิโลน"
\v 4 อิสยาห์ได้ทูลถามว่า "พวกเขาได้เห็นอะไรในพระราชวังของพระองค์บ้าง?" เฮเซคียาห์ได้ตอบว่า "พวกเขาได้เห็นทุกอย่างในพระราชวังของเรา ไม่มีอะไรในบรรดาสิ่งมีค่าทั้งหลายของเราที่เราไม่ได้ให้พวกเขาดู"
\s5
\p
\v 5 แล้วอิสยาห์จึงได้ทูลเฮเซคียาห์ว่า "ขอทรงฟังพระวจนะของพระยาห์เวห์จอมโยธา
\v 6 'พระยาห์เวห์ตรัสว่า ดูเถิด วันเวลากำลังจะมาถึง เมื่อทุกสิ่งในพระราชวังของเจ้า และสิ่งต่างๆ บรรดาที่บรรพบุรุษของพระองค์ได้เก็บสะสมไว้จนถึงทุกวันนี้ จะถูกขนไปยังบาบิโลน ไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย
\s5
\p
\v 7 บุตรทั้งหลายที่ถือกำเนิดจากเจ้า ผู้ที่เจ้าเองเป็นบิดา พวกเขาจะนำบุตรเหล่านั้นไป และพวกเขาจะกลายเป็นพวกขันทีในพระราชวังของกษัตริย์แห่งบาบิโลน'"
\v 8 แล้วเฮเซคียาห์ได้ตรัสกับอิสยาห์ว่า "พระวจนะของพระยาห์เวห์ที่ท่านกล่าวนั้นดี" เพราะพระองค์ทรงคิดว่า "จะมีความสงบสุขและมั่นคงในสมัยของเรา"
\s5
\c 40
\p
\v 1 พระเจ้าของพวกเจ้าตรัสว่า "จงชูใจ จงชูใจประชากรของเรา
\v 2 จงพูดกับกรุงเยรูซาเล็มด้วยความเห็นใจ และประกาศกับเมืองนั้นว่า การสู้รบของเมืองนั้นได้สิ้นสุดลงแล้ว ประกาศว่าความผิดบาปของเมืองนั้นได้รับการอภัยแล้ว ประกาศว่าเมืองนั้นได้รับโทษสำหรับความผิดบาปทั้งสิ้นจากพระหัตถ์ของพระยาห์เวห์เป็นสองเท่าแล้ว"
\v 3 มีเสียงหนึ่งร้องออกมาว่า "จงเตรียมทางของพระยาห์เวห์ในถิ่นทุรกันดาร จงทำทางหลวงสำหรับพระเจ้าของพวกเราในอาราบาห์ให้ตรงไป"
\s5
\p
\v 4 หุบเขาทุกแห่งจะถูกยกให้สูงขึ้น และภูเขาและเนินเขาทุกลูกจะถูกปรับให้ต่ำลง และที่ลุ่มๆ ดอนๆ จะถูกปรับให้เสมอกัน และที่สูงๆ ต่ำๆ จะถูกทำให้ราบเรียบ
\v 5 และพระสิริของพระยาห์เวห์จะได้ทรงปรากฏ และทุกคนจะมองเห็นด้วยกัน เพราะพระโอษฐ์ของพระยาห์เวห์ได้ตรัสไว้แล้ว
\v 6 มีเสียงหนึ่งกล่าวว่า "จงร้องสิ" อีกเสียงหนึ่งตอบว่า "ข้าพเจ้าจะร้องอะไร?" "มนุษย์ทุกคนเป็นเหมือนต้นหญ้า และพันธสัญญาแห่งความสัตย์ซื่อทั้งสิ้นของพวกเขาก็เป็นเหมือนดอกไม้ในทุ่งนา
\s5
\p
\v 7 ต้นหญ้าก็เหี่ยวแห้งและดอกไม้ก็ร่วงโรย เมื่อลมปราณของพระยาห์เวห์เป่ามาถูกมัน แน่ทีเดียว มนุษยชาติก็คือต้นหญ้า
\v 8 ต้นหญ้าก็เหี่ยวแห้งและดอกไม้ก็ร่วงโรย แต่พระวจนะของพระเจ้าของพวกเราจะยั่งยืนเป็นนิตย์"
\v 9 จงขึ้นไปบนภูเขาสูง โอ ศิโยน ผู้นำข่าวดี จงกล่าวกับเมืองทั้งหลายของยูดาห์ว่า "นี่คือพระเจ้าของพวกเจ้า"
\s5
\p
\v 10 ดูเถิด พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จมาเหมือนกับนักรบที่มีชัยชนะ และพระกรอันเข้มแข็งของพระองค์ก็ครอบครองเพื่อพระองค์ ดูเถิด รางวัลของพระองค์ก็อยู่ในพระองค์ และพวกคนที่พระองค์ได้ทรงช่วยกู้ก็ไปอยู่ต่อพระพักตร์พระองค์
\v 11 พระองค์จะทรงเลี้ยงฝูงแกะของพระองค์เหมือนผู้เลี้ยงแกะ พระองค์จะทรงรวบรวมลูกแกะเหล่านั้นไว้ในพระกรของพระองค์ และทรงอุ้มพวกมันไว้ในพระทรวงของพระองค์ และจะทรงค่อยๆ นำแกะที่กำลังเลี้ยงลูกอ่อนของมันไป
\v 12 ใครได้ตวงน้ำในอุ้งมือของตน และวัดท้องฟ้าด้วยช่วงคืบของมือของเขา เอาผงธุลีของแผ่นดินโลกไว้ในกระจาด ชั่งน้ำหนักภูเขาทั้งหลายด้วยตาชั่ง หรือชั่งเนินเขาด้วยตราชูเล่า?
\s5
\p
\v 13 ใครได้หยั่งรู้ถึงพระทัยของพระยาห์เวห์ หรือให้คำแนะนำพระองค์เหมือนกับอย่างกับเป็นที่ปรึกษาของพระองค์ได้?
\v 14 พระองค์ทรงเคยรับคำแนะนำจากผู้ใดหรือ? ใครได้สอนพระองค์ถึงวิธีการที่ถูกต้องในการทำสิ่งต่างๆ และสอนความรู้ให้กับพระองค์ หรือแสดงให้พระองค์ทรงเห็นทางแห่งความเข้าใจเล่า?
\v 15 ดูเถิด ชนชาติทั้งหลายเป็นเหมือนน้ำหยดเดียวในถัง และถือว่าเป็นเหมือนฝุ่นบนตาชั่ง ดูเถิด พระองค์ทรงชั่งเกาะทั้งหลายเหมือนกับผงธุลีดิน
\s5
\p
\v 16 เลบานอนไม่พอเป็นเชื้อเพลิง อีกทั้งสัตว์ป่าทั้งหลายก็ไม่พอเป็นเครื่องเผาบูชา
\v 17 ประชาชาติทั้งสิ้นไม่เพียงพอต่อพระพักตร์พระองค์ พระองค์ทรงถือว่าพวกเขาเหมือนกับไม่มีอะไรเลย
\v 18 แล้วพวกเจ้าจะเปรียบพระเจ้ากับผู้ใด? พวกเจ้าจะเปรียบพระองค์เหมือนกับรูปเคารพใด?
\v 19 รูปเคารพที่ช่างฝีมือหล่อมันขึ้นมา ช่างทองได้ชุบมันด้วยทองคำ และประดิษฐ์โซ่เงินให้กับมัน
\s5
\p
\v 20 คนเลือกไม้ที่จะไม่ผุเพื่อทำเครื่องบูชา เขาเสาะหาช่างที่มีฝีมือเพื่อสร้างรูปเคารพที่จะไม่สั่นคลอน
\v 21 พวกเจ้าไม่เคยรู้จักหรือ? พวกเจ้าไม่เคยได้ยินหรือ? ไม่มีใครบอกพวกเจ้าตั้งแต่แรกหรือ? พวกเจ้าไม่เข้าใจตั้งแต่เริ่มวางรากฐานของแผ่นดินโลกหรือ?
\v 22 พระองค์ทรงเป็นผู้ที่ประทับเหนือขอบฟ้าของแผ่นดินโลก และบรรดาผู้ที่อาศัยอยู่เป้็นเหมือนฝูงตั๊กแตนต่อพระพักตร์พระองค์ พระองค์ทรงขึงท้องฟ้าเหมือนขึงม่านและกางท้องฟ้าเป็นเต็นท์เพื่ออาศัยอยู่
\s5
\p
\v 23 พระองค์ทรงทำให้ผู้ครอบครองไม่มีอะไรเลย และทำให้ผู้ครอบครองแผ่นดินโลกหมดความสำคัญ
\v 24 พวกเขายังไม่ทันจะปลูก ยังไม่ทันจะหว่าน ต้นของมันยังไม่ทันจะหยั่งรากลงในพื้นดิน เมื่อพระองค์ทรงเป่าบนพวกมัน และพวกมันก็เหี่ยวแห้ง และลมก็พัดพวกมันไปเหมือนกับฟาง องค์บริสุทธิ์ตรัสว่า
\v 25 "แล้วพวกเจ้าจะเปรียบเรากับผู้ใด มีใครที่เสมอเหมือนเรา?"
\s5
\p
\v 26 จงมองขึ้นไปบนท้องฟ้า ใครได้สร้างดวงดาวเหล่านี้? พระองค์ทรงนำการก่อตัวของพวกมันออกมา และเรียกชื่อดวงดาวทุกดวงตามชื่อของมัน ด้วยความยิ่งใหญ่ของมหิทธิฤทธิ์ของพระองค์ และด้วยกำลังของฤทธานุภาพของพระองค์ จึงไม่มีสักดวงเดียวที่ขาดหายไป
\v 27 ยาโคบเอ๋ย ทำไมเจ้าจึงพูด และอิสราเอลเอ๋ย ทำไมเจ้าจึงประกาศว่า "ทางของข้าพเจ้าได้ถูกปิดซ่อนไว้จากพระยาห์เวห์หรือ และพระเจ้าของข้าพเจ้าไม่ได้ทรงใส่พระทัยเกี่ยวกับความต้องการของข้าพเจ้าหรือ?"
\v 28 พวกเจ้าไม่เคยรู้จักหรือ? เจ้าไม่เคยได้ยินหรือ? พระยาห์เวห์ทรงเป็นพระเจ้านิรันดร์ พระผู้สร้างจากที่สุดปลายแผ่นดินโลก ผู้ไม่ทรงเหน็ดเหนื่อยหรืออ่อนล้า ความเข้าพระทัยของพระองค์ก็เหลือจะหยั่งรู้ได้
\s5
\p
\v 29 พระองค์ประทานกำลังแก่คนที่อ่อนเปลี้ย และประทานเรี่ยวแรงใหม่ให้กับผู้อ่อนแอ
\v 30 แม้พวกคนหนุ่มจะเหน็ดเหนื่อยและอ่อนเปลี้ย และพวกคนหนุ่มจะสะดุดและล้มลง
\v 31 แต่คนเหล่านั้นที่รอคอยพระยาห์เวห์จะได้รับเรี่ยวแรงใหม่ พวกเขาจะบินขึ้นด้วยปีกเหมือนนกอินทรี พวกเขาจะวิ่งและไม่อ่อนเปลี้ย พวกเขาจะเดินและไม่อ่อนกำลัง
\s5
\c 41
\p
\v 1 "โอ แผ่นดินชายทะเลเอ๋ย จงฟังและนิ่งเงียบต่อหน้าเรา จงให้ประชาชาติทั้งหลายฟื้นกำลังขึ้นใหม่ จงให้พวกเขาเข้ามาใกล้และให้พวกเขาพูด ให้พวกเราเข้ามาใกล้ด้วยกันเพื่อโต้แย้งข้อพิพาท
\v 2 ใครได้เร้าใจคนหนึ่งมาจากทางตะวันออก และเรียกท่านด้วยความชอบธรรมมาเพื่อทำหน้าที่ของท่าน?" พระองค์ทรงมอบบรรดาประชาชาติไว้กับท่านและช่วยท่านปราบบรรดากษัตริย์ทั้งหลาย ท่านทำให้พวกเขากลายเป็นผงคลีด้วยดาบของท่าน เหมือนกับตอข้าวที่ปลิวไปด้วยคันธนูของท่าน
\v 3 ท่านไล่ตามพวกเขาและผ่านไปด้วยความปลอดภัย ตามทางที่รวดเร็วที่เท้าของท่านแทบจะไม่ได้เหยียบลงไป
\s5
\p
\v 4 ใครได้กระทำกิจและทำให้การกระทำเหล่านี้สำเร็จ? ใครได้เรียกคนทุกชั่วชาติพันธุ์มาตั้งแต่ปฐมกาล? เรา ยาเวห์ ผู้เป็นเบื้องต้น และเป็นเบื้องปลาย เราคือผู้นั้น
\v 5 เกาะทั้งหลายได้เห็นและเกรงกลัว สุดปลายแผ่นดินโลกก็สั่นสะท้าน พวกเขามาใกล้และเข้ามา
\v 6 ทุกคนช่วยเพื่อนบ้านของตน และทุกคนกล่าวแก่กันและกันว่า 'จงเข้มแข็งเถิด'
\s5
\p
\v 7 ดังนั้น ช่างไม้ก็หนุนใจช่างทอง และคนที่ใช้ค้อนทำงานก็หนุนใจคนที่ใช้ทั่งทำงาน ช่างบัดกรีกล่าวว่า "ดีแล้ว" พวกเขาทำให้มันมั่นคงด้วยตะปูเพื่อมันจะไม่โค่นล้มลงมา
\v 8 แต่เจ้า อิสราเอล ผู้รับใช้ของเรา ยาโคบผู้ซึ่งเราได้เลือกไว้ เชื้อสายของอับราฮัมสหายของเรา
\v 9 เจ้าผู้ที่เรานำมาจากสุดปลายแผ่นดินโลก และผู้ที่เราได้เรียกจากที่ห่างไกล และผู้ที่เราได้พูดว่า 'เจ้าเป็นผู้รับใช้ของเรา' เราได้เลือกเจ้าแล้วและไม่ปฎิเสธเจ้า
\s5
\p
\v 10 อย่ากลัวเลย เพราะเราอยู่กับเจ้า อย่ากังวล เพราะเราเป็นพระเจ้าของเจ้า เราจะเสริมกำลังของเจ้า และเราจะช่วยเจ้า และเราจะชูเจ้าด้วยมือขวาอันชอบธรรมของเรา
\v 11 ดูเถิด ทุกคนที่ได้โกรธเคืองเจ้า พวกเขาจะอับอายและขายหน้า พวกคนที่บีบบังคับเจ้า พวกเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่าและจะพินาศ
\v 12 เจ้าจะเสาะหาพวกเขา และจะไม่พบพวกคนที่ต่อสู้กับเจ้า พวกคนที่ทำสงครามกับเจ้าจะเป็นเหมือนความว่างเปล่า ไม่มีเหลืออยู่เลย
\s5
\p
\v 13 เพราะเราคือยาห์เวห์ พระเจ้าของเจ้า จะชูมือขวาของเจ้า และพูดกับเจ้าว่า 'อย่ากลัวเลย เราจะช่วยเจ้า'
\v 14 อย่ากลัวเลย เจ้าหนอนยาโคบ และเจ้าคนอิสราเอล เราจะช่วยเจ้า นี่เป็นคำประกาศของพระยาห์เวห์ พระผู้ไถ่ของเจ้า องค์บริสุทธิ์ของอิสราเอล
\v 15 ดูเถิด เรากำลังทำให้เจ้าเป็นเหมือนเลื่อนนวดข้าวที่ทั้งคม ทั้งใหม่และมีสองคม เจ้าจะนวดและบดขยี้ภูเขาทั้งหลาย
\v 16 เจ้าจะทำให้เนินเขาทั้งหลายเป็นเหมือนแกลบ เจ้าจะฝัดร่อนพวกมัน และลมก็จะพัดพาพวกมันไปเสีย ลมจะทำให้พวกมันกระจัดกระจายไป เจ้าจะเปรมปรีดิ์ในพระยาห์เวห์ เจ้าจะเปรมปรีดิ์ในองค์บริสุทธิ์ของอิสราเอล
\s5
\p
\v 17 คนที่ถูกบีบบังคับและคนที่ขัดสนแสวงหาน้ำ แต่ไม่มีเลย และลิ้นของพวกเขาก็แห้งผากเพราะความกระหาย เรา ยาห์เวห์ จะตอบคำอธิษฐานของพวกเขา เรา พระเจ้าของอิสราเอลจะไม่ทอดทิ้งพวกเขา
\v 18 เราจะทำให้ลำธารทั้งหลายไหลลงไปในที่ลาด และน้ำพุต่างๆ ท่ามกลางหุบเขา เราจะทำให้ทะเลทรายกลายเป็นสระน้ำ และแผ่นดินแห้งแล้งกลายเป็นน้ำพุ
\v 19 เราจะวางต้นสนสีดาร์ในถิ่นทุรกันดาร อีกทั้งต้นกระถินเทศ ต้นน้ำมันเขียว และต้นมะกอก เราจะวางต้นสนสามใบไว้ในที่ราบทะเลทราย พร้อมทั้งบรรดาต้นสนและต้นสนสามใบเนื้อแข็ง
\s5
\p
\v 20 เราจะทำดังนี้ เพื่อว่าคนทั้งหลายจะเห็น รับรู้ และเข้าใจด้วยกันว่าพระหัตถ์ของพระยาห์เวห์ได้ทรงกระทำสิ่งนี้ องค์บริสุทธิ์ของอิสราเอลได้ทรงสร้างสิ่งนี้
\v 21 พระยาห์เวห์ตรัสว่า "จงนำคดีของเจ้ามา" กษัตริย์ของยาโคบตรัสว่า "จงนำข้อโต้แย้งที่ดีที่สุดสำหรับรูปเคารพทั้งหลายของเจ้ามา"
\v 22 จงให้พวกเขานำข้อโต้แย้งของพวกเขาเองมาต่อพวกเรา ให้พวกเขาออกมาข้างหน้าและนำเสนอต่อพวกเราว่ามีอะไรเกิดขึ้น เพื่อที่พวกเราจะรู้เรื่องเหล่านี้ได้ดี ให้พวกเขาบอกเราถึงบรรดาคำประกาศที่ได้พยากรณ์ไว้ เพื่อพวกเราจะได้ไตร่ตรองคำประกาศเหล่านั้นและรู้ว่าคำประกาศเหล่านั้นสำเร็จได้อย่างไร
\s5
\p
\v 23 จงบอกสิ่งต่างๆ เกี่ยวกับอนาคต เพื่อให้พวกเราได้รู้ ถ้าพวกเจ้าเป็นพวกเทพเจ้า จงทำสิ่งที่ดีหรือชั่วร้าย ที่พวกเจ้าจะตกใจกลัวและจดจำ
\v 24 ดูเถิด รูปเคารพของพวกเจ้าก็ว่างเปล่า และการกระทำของพวกเจ้าก็ว่างเปล่า คนที่เลือกพวกเจ้าก็น่ารังเกียจ
\v 25 เราได้ให้คนหนึ่งขึ้นมาจากทิศเหนือ และท่านมาแล้ว เราได้เรียกท่านผู้ที่ออกนามของเรา จากทางดวงอาทิตย์ขึ้น และท่านจะเหยียบย่ำบรรดาผู้ครอบครองเหมือนกับโคลนตม เหมือนกับช่างปั้นหม้อที่ย่ำดินเหนียว
\s5
\p
\v 26 ใครได้ประกาศเรื่องนี้ไว้ตั้งแต่ปฐมกาล เพื่อพวกเราจะได้รู้? ก่อนเวลานี้ เพื่อพวกเราจะกล่าวได้ว่า "ท่านถูกต้อง" แท้จริงแล้ว ไม่มีใครในพวกเขาสั่งไว้ ใช่แล้ว ไม่มีใครได้ยินว่าเจ้าพูดอะไร
\v 27 เราเป็นผู้แรกที่ได้พูดกับศิโยนว่า "จงดูเถิด พวกเขาอยู่ที่นี่" เราได้ส่งผู้ประกาศข่าวคนหนึ่งไปยังกรุงเยรูซาเล็ม
\v 28 เมื่อเรามองดู ก็ไม่มีใครเลย ไม่มีใครสักคนในพวกเขาที่ให้คำปรึกษาที่ดีได้ เมื่อเราถาม ใครที่สามารถจะตอบสักคำได้
\v 29 ดูเถิด พวกเขาทุกคนก็ว่างเปล่า และการกระทำของพวกเขาก็ว่างเปล่า รูปหล่อโลหะของพวกเขาก็เป็นแต่ลมและความว่างเปล่า
\s5
\c 42
\p
\v 1 ดูเถิด ผู้รับใช้ของเรา ผู้ที่เราเชิดชู ผู้เลือกสรรของเรา ผู้ที่เราปีติยินดีในเขา เราได้เอาวิญญาณของเราใส่ไว้บนเขา เขาจะนำความยุติธรรมมาสู่ชนชาติทั้งหลาย
\v 2 เขาจะไม่ร้องหรือตะโกน หรือจะไม่ทำให้คนได้ยินเสียงของเขาตามท้องถนนทั้งหลาย
\v 3 ต้นอ้อช้ำแล้ว เขาจะไม่หัก และไส้ตะเกียงริบหรี่ เขาจะไม่ดับ เขาจะทำการยุติธรรมอย่างสัตย์ซื่อ
\s5
\p
\v 4 เขาจะไม่อ่อนล้าหรือท้อถอย จนกว่าเขาจะได้สถาปนาความยุติธรรมไว้บนแผ่นดินโลก และแผ่นดินชายทะเลทั้งหลายรอคอยธรรมบัญญัติของเขา
\v 5 นี่คือพระดำรัสของพระเจ้าพระยาห์เวห์ ผู้ที่ได้ทรงสร้างฟ้าและทรงขึงมันไว้ ผู้ที่ได้ทรงสร้างแผ่นดินโลกและทุกสิ่งที่บังเกิดขึ้นในโลก ผู้ประทานลมหายใจแก่คนทั้งปวงบนโลก และผู้ที่ประทานชีวิตให้แก่พวกคนที่อาศัยอยู่บนโลก ตรัสดังนี้ว่า
\s5
\p
\v 6 "เรา คือพระยาเวห์ ได้เรียกเจ้ามาด้วยความชอบธรรม และจะจับมือของเจ้าไว้ เราจะรักษาเจ้าไว้ และตั้งเจ้าไว้เป็นเหมือนพันธสัญญาแก่ชนชาตินั้น เป็นแสงสว่างแก่คนต่างด้าว
\v 7 เพื่อเปิดตาของคนตาบอด เพื่อปลดปล่อยนักโทษทั้งหลายออกจากคุก และปลดปล่อยพวกคนที่นั่งอยู่ในความมืดออกจากเรือนจำ
\v 8 เราคือยาห์เวห์ นั่นคือนามของเรา และเราไม่ให้สง่าราศีของเราแก่คนอื่น หรือไม่ให้คำที่สรรเสริญเราแก่รูปเคารพแกะสลัก
\v 9 ดูเถิด สิ่งเก่าก่อนได้ล่วงเลยไป บัดนี้ เราจะประกาศถึงสิ่งใหม่ๆ ก่อนที่สิ่งเหล่านั้นจะเกิดขึ้น เราจะบอกสิ่งเหล่านั้นแก่เจ้า"
\s5
\p
\v 10 จงร้องเพลงบทใหม่ถวายแด่พระยาห์เวห์ และร้องเพลงสรรเสริญพระองค์จากสุดปลายแผ่นดินโลก พวกเจ้าที่ลงไปยังทะเล และทุกสิ่งที่อาศัยอยู่ในนั้น ทั้งแผ่นดินชายทะเล และคนทั้งหลายที่อาศัยอยู่ที่นั่น
\v 11 จงให้ทะเลทรายและเมืองทั้งหลายเปล่งเสียงร้อง บรรดาหมู่บ้านที่ซึ่งคนเคดาร์อาศัยอยู่ จงโห่ร้องด้วยความยินดี จงให้ชาวเมืองเสลาร้องเพลง ให้พวกเขาโห่ร้องจากยอดเขาทั้งหลาย
\v 12 ให้พวกเขาถวายพระสิริแด่พระยาห์เวห์ และประกาศคำสรรเสริญพระองค์ในแผ่นดินชายทะเล
\s5
\p
\v 13 พระยาห์เวห์จะเสด็จออกไปอย่างนักรบ พระองค์จะทรงเร้าความกระตือรือร้นของพระองค์เหมือนอย่างคนแห่งสงคราม พระองค์จะทรงเปล่งพระสุรเสียง ใช่แล้ว พระองค์จะทรงเปล่งพระสิงหนาท พระองค์จะทรงสำแดงฤทธานุภาพของพระองค์ต่อศัตรูของพระองค์
\v 14 เราได้เงียบมาเป็นเวลานานแล้ว เราได้นิ่งอยู่และเหนี่ยวรั้งตนเองไว้ บัดนี้ เราจะร้องออกมาเหมือนผู้หญิงกำลังคลอดบุตร และจะหายใจถี่และหอบ
\v 15 เราจะทำให้ภูเขาและเนินเขาทั้งหลายร้างเปล่า และทำให้พืชผักของพวกเขาเหี่ยวแห้งไป และเราจะเปลี่ยนแม่น้ำทั้งหลายเป็นเกาะต่างๆ และจะทำให้สระน้ำต่างๆ เหือดแห้งไป
\s5
\p
\v 16 เราจะนำคนตาบอดไปตามทางที่พวกเขาไม่รู้จัก เราจะพาพวกเขาไปในวิถีทั้งหลายที่พวกเขาไม่รู้จัก เราจะเปลี่ยนความมืดให้เป็นความสว่างข้างหน้าพวกเขา และทำให้ที่คดเคี้ยวเป็นทางตรง เราจะทำสิ่งเหล่านี้ และเราจะไม่ละเลยสิ่งเหล่านี้
\v 17 พวกเขาจะหันกลับไป พวกเขาจะอับอายอย่างที่สุด คือ บรรดาผู้ที่วางใจในรูปแกะสลัก พวกคนที่พูดกับบรรดารูปหล่อโลหะว่า "ท่านทั้งหลายเป็นเทพเจ้าของเรา"
\v 18 เจ้าพวกคนหูหนวก จงฟัง และเจ้าพวกคนตาบอด จงมองดูสิ เพื่อพวกเจ้าจะได้เห็น
\s5
\p
\v 19 ใครเป็นคนตาบอด ไม่ใช่ผู้รับใช้ของเราหรือ? หรือใครที่เป็นคนหูหนวกเหมือนกับผู้ส่งสารที่เราส่งไป? ใครที่ตาบอดเหมือนกับผู้ที่มีส่วนร่วมพันธสัญญาของเรา หรือตาบอดเหมือนผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์?
\v 20 พวกเจ้าเห็นหลายอย่าง แต่ไม่เข้าใจ หูก็เปิดออก แต่ไม่ได้ยินอะไรเลย
\v 21 สิ่งที่พระยาห์เวห์ทรงพอพระทัย คือการสรรเสริญความยุติธรรมของพระองค์ และการทำให้ธรรมบัญญัติของพระองค์ได้รับเกียรติ
\v 22 แต่นี่เป็นชนชาติที่ถูกปล้นและถูกริบ พวกเขาทุกคนติดกับดักในหลุม ถูกคุมขังอยู่ในคุก พวกเขากลายเป็นของริบที่ไม่มีใครช่วยกู้พวกเขา และไม่มีใครกล่าวว่า "จงคืนพวกเขากลับมา"
\s5
\p
\v 23 มีใครในพวกเจ้าจะฟังเรื่องนี้บ้าง? ใครจะฟังและได้ยินในอนาคต?
\v 24 ใครได้มอบยาโคบให้แก่พวกโจร และมอบคนอิสราเอลให้แก่พวกปล้น? ไม่ใช่พระยาห์เวห์ผู้ที่พวกเราได้ทำบาปต่อพระองค์ ผู้ซึ่งพวกเขาได้ปฏิเสธที่จะดำเนินในทางของพระองค์ และปฏิเสธที่จะเชื่อฟังธรรมบัญญัติของพระองค์หรือ?
\v 25 เพราะฉะนั้น พระองค์จึงทรงเทพระพิโรธรุนแรงลงมาบนพวกเขา ด้วยสงครามแห่งการทำลายล้าง มันทำให้พวกเขาติดไฟอยู่รอบตัว แต่พวกเขาก็ไม่รับรู้ มันเผาไหม้พวกเขา แต่พวกเขาก็ไม่ได้ใส่ใจ
\s5
\c 43
\p
\v 1 แต่บัดนี้ ยาโคบเอ๋ย นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ พระองค์ผู้ได้ทรงสร้างเจ้า และอิสราเอลเอ๋ย พระองค์ผู้ได้ทรงปั้นเจ้า ตรัสว่า "อย่ากลัวเลย เพราะเราได้ไถ่เจ้า เราได้เรียกเจ้าตามชื่อของเจ้า เจ้าเป็นของเรา
\v 2 เมื่อเจ้าลุยข้ามน้ำ เราจะอยู่กับเจ้า และเมื่อข้ามแม่น้ำทั้งหลาย น้ำก็จะไม่ท่วมเจ้า เมื่อเจ้าเดินลุยไฟ เจ้าจะไม่ถูกเผาไหม้ และเปลวเพลิงจะไม่เผาผลาญเจ้า
\s5
\p
\v 3 เพราะเราคือพระยาเวห์เป็นพระเจ้าของเจ้า องค์บริสุทธิ์ของอิสราเอล พระผู้ช่วยให้รอดของเจ้า เราได้ให้อียิปต์เป็นค่าไถ่ของเจ้า ให้คูชและเสบาเพื่อแลกกับเจ้า
\v 4 เพราะว่าเจ้ามีค่าและพิเศษในสายตาของเรา เรารักเจ้า เพราะฉะนั้น เราจะให้ชนชาตินั้นเพื่อแลกกับเจ้า และชนชาติอื่นๆ เพื่อแลกกับชีวิตของเจ้า
\v 5 อย่ากลัวเลย เพราะเราอยู่กับเจ้า เราจะนำลูกหลานของเจ้ามาจากทางตะวันออก และเราจะรวบรวมเจ้ามาจากทางตะวันตก
\s5
\p
\v 6 เราจะพูดกับทิศเหนือว่า 'จงมอบพวกเขามา' และพูดกับทิศใต้ว่า 'อย่ายึดใครไว้' จงนำพวกบุตรชายของเรามาจากแดนไกล และนำพวกบุตรหญิงของเรามาจากดินแดนไกลของแผ่นดินโลก
\v 7 ทุกคนผู้ซึ่งเราได้เรียกตามชื่อของเรา ผู้ที่เราได้สร้างขึ้นเพื่อพระสิริของเรา ผู้ที่เราได้ปั้น ใช่แล้ว ผู้ที่เราได้ทำไว้
\v 8 จงนำพวกคนเหล่านั้นออกมา คือพวกเขาที่มีตาแต่กลับตาบอด และพวกเขาที่มีหูแต่กลับหูหนวก
\s5
\p
\v 9 ประชาชาติทั้งหมดได้มาชุมนุมกัน และชนชาติทั้งหลายได้มาประชุมกัน มีใครในพวกเขาที่ได้แจ้งเรื่องนี้ได้และบอกเหตุการณ์ก่อนหน้านี้แก่เราได้? ให้พวกเขานำพวกพยานของพวกเขามาเพื่อพิสูจน์ว่าพวกเขาเองถูกต้อง ให้พวกเขาฟังและยืนยันว่า 'มันเป็นความจริง'
\v 10 พวกเจ้าเป็นพวกพยานของเรา" พระยาห์เวห์ทรงประกาศว่า "และผู้รับใช้ของเราผู้ซึ่งเราได้เลือกสรรไว้ เพื่อที่เจ้าจะได้รู้จักและเชื่อในเรา และเข้าใจว่าเราคือผู้นั้น ก่อนหน้าเราไม่มีเทพเจ้าใดถูกปั้นขึ้นมา และภายหลังเราก็จะไม่มีเลย
\s5
\p
\v 11 เราเอง เราคือพระยาห์เวห์ และไม่มีพระผู้ช่วยให้รอดอื่นใดนอกจากเรา
\v 12 เราได้แจ้งให้ทราบ ได้ช่วยให้รอด และได้ประกาศให้รู้ และไม่มีเทพเจ้าอื่นใดท่ามกลางพวกเจ้า พวกเจ้าเป็นพวกพยานของเรา" พระยาห์เวห์ทรงประกาศดังนี้ว่า "เราคือพระเจ้า
\v 13 ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เราเป็นผู้นั้น และไม่มีใครช่วยคนใดให้รอดจากมือของเราได้ เรากระทำการ และใครจะทำให้กลับคืนมาได้เล่า?"
\v 14 นี่เป็นสิ่งที่พระยาห์เวห์ พระผู้ไถ่ของพวกเจ้า องค์บริสุทธิ์ของอิสราเอล ตรัสว่า "เพราะเห็นแก่พวกเจ้า เราจะส่งไปยังบาบิโลน และนำพวกเขาทั้งหมดลงมาเป็นพวกผู้ลี้ภัย และเปลี่ยนเสียงแห่งชื่นชมยินดีของคนบาบิโลนเป็นบทเพลงคร่ำครวญ
\s5
\p
\v 15 เราคือพระยาห์เวห์ องค์บริสุทธิ์ของพวกเจ้า พระผู้สร้างของอิสราเอล เป็นกษัตริย์ของพวกเจ้า"
\v 16 นี่เป็นสิ่งที่พระยาห์เวห์ (ผู้ได้ทรงเปิดทางไปสู่ทะเลและวิถีในน้ำเชี่ยวกราก
\v 17 ผู้ได้ทรงนำรถม้าศึกและม้า กองทัพและพลโยธาออกมา พวกเขาจมลงด้วยกัน พวกเขาไม่ได้ขึ้นมาอีก พวกเขาได้สูญสิ้นไป ดับไปเหมือนไส้ตะเกียง) ตรัสว่า
\s5
\p
\v 18 "อย่าคิดถึงสิ่งเก่าก่อนเหล่านี้ หรืออย่าพิเคราะห์ถึงสิ่งต่างๆ ที่นานมาแล้ว
\v 19 ดูเถิด เรากำลังทำสิ่งใหม่ บัดนี้ มันเริ่มเกิดขึ้นแล้ว เจ้าไม่เห็นสิ่งนั้นหรือ? เราจะสร้างทางในทะเลทรายและธารน้ำทั้งหลายในถิ่นทุรกันดาร
\v 20 บรรดาสัตว์ป่าในท้องทุ่งจะให้เกียรติเรา บรรดาหมาป่าและนกกระจอกเทศ เพราะเราให้น้ำในถิ่นทุรกันดาร และแม่น้ำทั้งหลายในทะเลทราย เพื่อให้ชนชาติที่เราเลือกสรรไว้ได้ดื่ม
\v 21 ชนชาตินี้ผู้ซึ่งเราได้ปั้นเพื่อเราเอง เพื่อที่พวกเขาจะกล่าวขานคำสรรเสริญเรา
\s5
\p
\v 22 แต่เจ้าไม่ได้ร้องเรียกเรา ยาโคบเอ๋ย เจ้าไม่ได้เหน็ดเหนื่อยเพื่อเราเลย อิสราเอลเอ๋ย
\v 23 เจ้าไม่ได้นำแกะตัวใดของเจ้ามาเป็นเครื่องเผาบูชา หรือถวายเกียรติเราด้วยเครื่องบูชาของเจ้า เราไม่ได้ให้เจ้าแบกภาระเรื่องเครื่องธัญบูชา หรือทำให้เจ้าเหน็ดเหนื่อยด้วยความต้องการเครื่องหอม เจ้าไม่ได้นำเงินไปซื้อไม้กลิ่นหอมมา
\v 24 อีกทั้งพวกเจ้าไม่เทไขมันของเครื่องบูชาของพวกเจ้าให้แก่เรา แต่พวกเจ้าเป็นภาระแก่เราด้วยความบาปทั้งหลายของพวกเจ้า พวกเจ้าทำให้เราเหน็ดเหนื่อยด้วยการกระทำชั่วของเจ้า
\s5
\p
\v 25 เราเอง ใช่แล้ว เราคือผู้นั้น ผู้ที่ลบล้างการทรยศของเจ้าเพราะเห็นแก่เราเอง เราจะไม่จดจำบาปทั้งหลายของเจ้าอีกต่อไป
\v 26 จงทำให้เราระลึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ให้เรามาสู้ความกัน จงให้การของเจ้า เพื่อที่เจ้าจะพิสูจน์ว่าบริสุทธิ์
\v 27 บรรพบุรุษคนแรกของเจ้าได้ทำบาป และพวกผู้นำของพวกเจ้าก็ได้กระทำผิดต่อเรา
\v 28 เพราะฉะนั้น เราจะทำให้พวกเจ้านายบริสุทธิ์เป็นมลทิน เราจะมอบยาโคบให้แก่การทำลายอย่างสิ้นเชิง และมอบอิสราเอลให้แก่การดูหมิ่นที่น่าอัปยศอดสู"
\s5
\c 44
\p
\v 1 บัดนี้ ยาโคบผู้รับใช้ของเรา และอิสราเอลผู้ที่เราได้เลือกสรร จงฟังเถิด
\v 2 นี่เป็นสิ่งที่พระยาห์เวห์ผู้ได้ทรงสร้างเจ้าและทรงปั้นเจ้าตั้งแต่ในครรภ์ และผู้ที่จะทรงช่วยเจ้า ตรัสว่า "อย่ากลัวเลย ยาโคบผู้รับใช้ของเรา และเจ้าเยชูรูน ผู้ที่เราได้เลือกสรร
\v 3 เพราะเราจะเทน้ำลงบนพื้นดินที่ขาดน้ำ และธารน้ำไหลบนพื้นดินแห้ง เราจะเทพระวิญญาณของเราลงบนเชื้อสายของเจ้า และเทพระพรของเราลงบนลูกหลานของเจ้า
\v 4 พวกเขาจะงอกขึ้นมาท่ามกลางต้นหญ้า เหมือนกับต้นหลิวทั้งหลายที่อยู่ริมธารน้ำ
\s5
\p
\v 5 คนหนึ่งจะพูดว่า 'ข้าเป็นของพระยาห์เวห์' และอีกคนหนึ่งจะร้องเรียกนามของยาโคบ และอีกคนหนึ่งจะเขียนบนมือของเขาว่า 'เป็นของพระยาห์เวห์' และเรียกชื่อของเขาเองด้วยนามของอิสราเอล"
\v 6 นี่เป็นสิ่งที่พระยาห์เวห์ กษัตริย์ของอิสราเอลและพระผู้ไถ่ของเขา พระยาห์เวห์จอมโยธาตรัสว่า "เราเป็นเบื้องต้น และเราเป็นเบื้องปลาย และไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากเรา
\v 7 ใครที่เป็นเหมือนเรา? ให้เขาประกาศเรื่องนี้ และอธิบายต่อเราถึงเหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้น ตั้งแต่เราได้สถาปนาประชาชนโบราณของเรา และให้พวกเขาบอกถึงเหตุการณ์ที่จะมาถึง
\v 8 อย่ากลัวหรืออย่าขยาดเลย เราได้แจ้งให้เจ้าทราบนานมาแล้ว และประกาศเรื่องนี้ให้รู้กันแล้วไม่ใช่หรือ? พวกเจ้าเป็นพวกพยานของเรา มีพระอื่นใดบ้างนอกจากเรา? ไม่มีพระศิลาอื่น เราไม่เคยรู้จักเลย"
\s5
\p
\v 9 ทุกคนที่ปั้นรูปเคารพล้วนเป็นความว่างเปล่า สิ่งต่างๆ ที่พวกเขาชื่นชอบเป็นสิ่งไร้ค่า บรรดาพยานของพวกเขาก็มองไม่เห็นหรือไม่รู้อะไรเลย และพวกเขาจะได้รับความอับอาย
\v 10 ใครจะปั้นเทพเจ้าหรือหล่อรูปเคารพที่ไร้ค่าเล่า?
\v 11 ดูเถิด พวกพ้องของเขาทุกคนจะได้รับความอับอาย พวกช่างฝีมือก็เป็นเพียงมนุษย์ จงให้พวกเขายืนหยัดด้วยกัน พวกเขาจะหมอบลงด้วยความกลัวและได้รับความอับอาย
\s5
\p
\v 12 ช่างเหล็กทำงานด้วยเครื่องมือของเขา สร้างมันขึ้นมา ทำงานอยู่เหนือก้อนถ่าน เขาขึ้นรูปมันด้วยค้อน และทำมันด้วยแขนที่มีกำลังของเขา เขาหิวโหย และกำลังของเขาก็หมดลง เขาไม่ได้ดื่มน้ำเลย และเริ่มหมดแรง
\v 13 ช่างไม้วัดไม้ด้วยสายวัด และทำเครื่องหมายด้วยเหล็กแหลม เขาขึ้นรูปมันด้วยเครื่องมือของเขา และทำเครื่องหมายบนมันด้วยวงเวียน เขาทำให้มันมีรูปร่างตามแบบของมนุษย์ เหมือนกับมนุษย์ที่สง่างาม เพื่อให้มันอยู่ในบ้าน
\s5
\p
\v 14 เขาตัดต้นสนสีดาร์ หรือเลือกต้นสนสามใบหรือต้นโอ๊ก เขาเก็บต้นไม้ในป่ามาเพื่อตัวเขาเอง เขาปลูกต้นสนต้นหนึ่งและฝนก็ทำให้มันเติบโต
\v 15 แล้วคนก็ใช้มันเพื่อเป็นไฟและทำให้ตนเองอบอุ่น ใช่แล้ว เขาก่อไฟและปิ้งขนมปัง แล้วเขาก็ทำรูปพระจากมันและกราบไหว้มัน เขาทำรูปเคารพขึ้นมารูปหนึ่งและกราบไหว้มัน
\v 16 เขาเผาไม้บางส่วนเพื่อให้เป็นไฟ ย่างเนื้อของเขาบนไฟ เขากินและอิ่ม เขาทำให้ตนเองอบอุ่นและกล่าวว่า "เออ ข้าอบอุ่น ข้าได้เห็นไฟ"
\s5
\p
\v 17 เขาทำเป็นเทพเจ้ารูปหนึ่งด้วยไม้ที่เหลือ รูปแกะสลักของเขา เขาก้มกราบมันและให้ความเคารพมัน และอธิษฐานต่อรูปนั้น และกล่าวว่า "ขอทรงช่วยข้าพระองค์ เพราะพระองค์ทรงเป็นเทพเจ้าของข้าพระองค์"
\v 18 พวกเขาไม่รู้และพวกเขาไม่เข้าใจ เพราะดวงตาของพวกเขามืดบอดและมองไม่เห็นและจิตใจของพวกเขาไม่รับรู้
\v 19 ไม่มีใครคิดและพวกเขาไม่เข้าใจและกล่าวว่า "ข้าได้เผาไม้ส่วนหนึ่งในกองไฟ ใช่แล้ว ข้ายังได้ปิ้งขนมปังบนถ่านของมันด้วย ข้าได้ย่างเนื้อบนถ่านของมันและกิน บัดนี้ ข้าควรจะทำไม้ส่วนอื่นๆ ให้เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจเพื่อที่จะนมัสการหรือ? ข้าควรจะกราบไหว้ท่อนไม้หรือ?"
\s5
\p
\v 20 มันเป็นราวกับว่า เขากำลังกินขี้เถ้า ใจที่หลอกลวงของเขาได้นำเขาให้หลงผิด เขาช่วยกู้ตัวเขาเองไม่ได้ หรือเขาไม่สามารถพูดได้ว่า "สิ่งที่อยู่ในมือขวาของข้าเป็นพระเทียมเท็จ"
\v 21 ยาโคบและอิสราเอลเอ๋ย จงคิดเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ เพราะเจ้าเป็นผู้รับใช้ของเรา เราได้ปั้นเจ้า อิสราเอลเอ๋ย เจ้าเป็นผู้รับใช้ของเรา เราจะไม่ลืมเจ้า
\v 22 เราได้ลบล้างการกบฏของเจ้าเหมือนกับเมฆหนาทึบ และลบล้างบาปทั้งหลายของเจ้าเหมือนกับเมฆ จงกลับมาหาเรา เพราะเราได้ไถ่เจ้าแล้ว
\s5
\p
\v 23 ท้องฟ้าเอ๋ย จงร้องเพลง เพราะพระยาห์เวห์ได้ทรงทำการนี้ ห้วงลึกของแผ่นดินโลกเอ๋ย จงโห่ร้อง ภูเขาทั้งหลายเอ๋ย จงเปล่งเสียงร้องเพลง ป่าไม้และต้นไม้ทุกต้นในป่านั้นด้วย เพราะพระยาห์เวห์ได้ทรงไถ่ยาโคบแล้ว และจะทรงสำแดงพระสิริของพระองค์ในอิสราเอล
\v 24 นี่เป็นสิ่งที่พระยาห์เวห์ พระผู้ไถ่ของเจ้า พระองค์ผู้ทรงปั้นเจ้าตั้งแต่ในครรภ์ ตรัสว่า "เราคือพระยาห์เวห์ ผู้เดียวที่ได้สร้างทุกสิ่ง ผู้ที่ได้ขึงพื้นฟ้า ผู้เดียวที่ได้สร้างแผ่นดินโลก
\v 25 เราผู้ซึ่งทำให้คำทำนายของนักพูดที่ไร้สาระเป็นความว่างเปล่า และผู้ที่ทำให้พวกคนที่อ่านคำทำนายต่างๆ ได้รับความอับยศ เราคือผู้ที่คว่ำปัญญาของคนฉลาด และทำให้คำปรึกษาของพวกเขาโง่เขลาไป
\s5
\p
\v 26 เราคือพระยาห์เวห์ ผู้ที่รับรองถ้อยคำของผู้รับใช้ของพระองค์และทำให้คำพยากรณ์ของผู้ส่งสารของพระองค์เกิดขึ้นจริง ผู้ที่กล่าวถึงกรุงเยรูซาเล็มว่า 'กรุงนั้นจะมีคนอาศัยอยู่' และกล่าวกับเมืองต่างๆ ของยูดาห์ว่า 'เมืองเหล่านั้นจะถูกสร้างขึ้นใหม่ และเราจะยกซากปรักหักพังของเมืองเหล่านั้นขึ้น'
\v 27 ผู้ที่กล่าวกับทะเลลึกว่า 'จงเหือดแห้งไป และเราจะทำให้กระแสน้ำของเจ้าเหือดแห้งไป'
\v 28 พระยาห์เวห์ คือพระองค์ผู้ที่ตรัสถึงไซรัสว่า 'เขาเป็นผู้เลี้ยงแกะของเรา เขาจะทำทุกสิ่งที่เราปรารถนา เขาจะบัญชาถึงกรุงเยรูซาเล็มว่า 'กรุงนั้นจะถูกสร้างขึ้นมาใหม่' และกล่าวถึงพระวิหารว่า 'จงวางฐานรากของพระวิหาร'''
\s5
\c 45
\p
\v 1 นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ตรัสกับไซรัสผู้ที่พระองค์ได้ทรงเจิมไว้ ผู้ซึ่งเราชูมือขวาของเขาไว้ เพื่อที่จะปราบบรรดาประชาชาติที่อยู่ข้างหน้าเขา เพื่อปลดอาวุธกษัตริย์ทั้งหลาย และเปิดประตูทั้งหลายที่อยู่ข้างหน้าเขา เพื่อที่ประตูเมืองเหล่านั้นยังคงเปิดอยู่
\v 2 "เราจะไปข้างหน้าเจ้าและทำให้ภูเขาทั้งหลายราบเรียบ เราจะทำให้ประตูทองสัมฤทธิ์ทั้งหลายแตกเป็นชิ้นๆ และตัดลูกกรงเหล็กเป็นชิ้นๆ
\v 3 และเราจะให้ทรัพย์สมบัติในที่มืดและความมั่งคั่งที่ซ่อนอยู่แก่เจ้า เพื่อเจ้าจะรู้ได้ว่า เรานี่แหละคือพระยาห์เวห์ ผู้ที่เรียกเจ้าชื่อตามชื่อของเจ้า เราคือพระเจ้าของอิสราเอล
\s5
\p
\v 4 เพราะเห็นแก่ยาโคบผู้รับใช้ของเรา และอิสราเอลที่เราได้เลือกสรร เราได้เรียกเจ้าตามชื่อของเจ้า ได้ให้ตำแหน่งแห่งเกียรติยศแก่เจ้า แม้ว่าเจ้าไม่ได้รู้จักเรา
\v 5 เราคือพระยาห์เวห์ และไม่มีผู้อื่นอีก ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากเรา เราจะคาดอาวุธให้เจ้าเพื่อทำสงคราม แม้ว่าเจ้าไม่ได้รู้จักเรา
\v 6 เพื่อคนทั้งหลายจะรู้ตั้งแต่ที่ดวงอาทิตย์ขึ้น และจากทิศตะวันตกว่าไม่มีพระอื่นใดนอกจากเรา เราคือพระยาห์เวห์ และไม่มีผู้อื่นอีก
\s5
\p
\v 7 เราได้ปั้นความสว่างและได้สร้างความมืด เรานำสันติสุขมาให้และสร้างภัยพิบัติ เราคือพระยาห์เวห์ ผู้ที่ทำสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด
\v 8 ท้องฟ้าเอ๋ย จงโปรยฝนลงมาจากเบื้องบน ให้ท้องฟ้าทั้งหลายหลั่งฝนแห่งความชอบธรรมลงมา ให้แผ่นดินโลกได้ซึมซับความชอบธรรมนั้น เพื่อให้ความรอดงอกออกมา และความชอบธรรมงอกขึ้นมาด้วยกัน เราคือพระยาห์เวห์ได้สร้างทั้งสองอย่าง
\v 9 วิบัติแก่คนที่โต้เถียงกับผู้ที่ได้ปั้นเขา แก่ผู้ที่เป็นเหมือนหม้อดินใบหนึ่งท่ามกลางหม้อดินทั้งหลายในแผ่นดิน ดินเหนียวจะพูดกับช่างปั้นหม้อว่า 'ท่านกำลังทำอะไร?' หรือ 'ผลงานของท่านไม่มีหูหิ้ว' เช่นนั้นหรือ?
\s5
\p
\v 10 วิบัติแก่คนที่พูดกับบิดาว่า 'ท่านกำลังให้กำเนิดอะไร?' หรือพูดกับผู้หญิงว่า 'เธอกำลังคลอดอะไร?'
\v 11 นี่เป็นสิ่งที่พระยาห์เวห์ องค์บริสุทธิ์ของอิสราเอล พระผู้สร้างของเขา ตรัสว่า 'ทำไมพวกเจ้าจึงถามว่า เราจะทำอะไรให้กับบุตรทั้งหลายของเรา? เจ้าบอกให้เราทำสิ่งที่เกี่ยวกับงานของมือของเราเชียวหรือ?'
\v 12 'เราได้สร้างแผ่นดินโลกและได้สร้างมนุษย์บนโลกนั้น มือของเราเองนี่แหละที่ขึงท้องฟ้า และเราได้บัญชาดาวทุกดวงให้ปรากฏขึ้น
\s5
\p
\v 13 เราได้เร่งเร้าไซรัสด้วยความชอบธรรม และเราจะทำให้วิถีทั้งหลายของเขาราบรื่น เขาจะสร้างเมืองของเรา เขาจะให้ประชาชนของเราที่เป็นเชลยกลับบ้าน และไม่ใช่เพื่อค่าจ้างหรือสินบน'" พระยาห์เวห์จอมโยธาตรัสดังนี้แหล่ะ
\v 14 พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า "ผลกำไรต่างๆ ของอียิปต์และสินค้าของคูช พร้อมกับของชาวเสบา พวกคนรูปร่างสูง จะถูกนำมายังเจ้า พวกเขาจะเป็นของเจ้า พวกเขาจะเดินตามหลังเจ้า พวกเขาจะเข้ามาพร้อมโซ่ตรวน พวกเขาจะก้มกราบเจ้าและวิงวอนเจ้าว่า 'พระเจ้าสถิตกับพระองค์อย่างแน่นอน และไม่มีผู้อื่นอีกนอกจากพระองค์"'
\v 15 แท้จริง พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงซ่อนพระองค์เอง พระเจ้าของอิสราเอล พระผู้ช่วยให้รอด
\s5
\p
\v 16 พวกเขาทุกคนจะได้รับความอับอายและขายหน้าด้วยกัน พวกคนที่แกะสลักรูปเคารพจะเดินด้วยความอัปยศอดสู
\v 17 แต่อิสราเอลจะได้รับความรอดจากพระยาห์เวห์ด้วยความรอดนิรันดร์ พวกเจ้าจะไม่ต้องได้รับความอับอายหรือความอัปยศอดสูอีกเลย
\v 18 นี่เป็นสิ่งที่พระยาห์เวห์ผู้ได้ทรงสร้างท้องฟ้า พระเจ้าเที่ยงแท้ที่ได้ทรงสร้างแผ่นดินโลกและทำมันไว้ ผู้ที่ได้ทรงสถาปนามันไว้ พระองค์ไม่ได้ทรงสร้างมันให้เป็นความว่างเปล่า แต่ทรงตั้งพระทัยให้เป็นที่อยู่อาศัย ตรัสว่า "เราคือพระยาห์เวห์ และไม่มีผู้อื่นอีก
\s5
\p
\v 19 เราไม่ได้พูดในที่ลับ หรือในที่ซ่อน เราไม่ได้พูดกับพงศ์พันธุ์ของยาโคบว่า 'จงแสวงหาเราในความว่างเปล่า' เราคือพระยาห์เวห์ ผู้ที่พูดอย่างจริงใจ เราประกาศสิ่งที่ถูกต้อง
\v 20 จงชุมนุมพวกเจ้าเองและเข้ามา จงรวมตัวกัน พวกผู้ลี้ภัยจากท่ามกลางบรรดาประชาชาติ พวกเขาไม่มีความรู้ พวกคนที่หามรูปแกะสลักและอธิษฐานต่อเทพเจ้าที่ช่วยให้รอดไม่ได้
\v 21 จงเข้ามาใกล้และแจ้งให้เราทราบ จงนำหลักฐานมา ให้พวกเขารวมหัวกัน ใครที่ได้สำแดงสิ่งนี้นานมาแล้ว? ใครได้ประกาศเรื่องนี้? เราเอง พระยาห์เวห์ไม่ใช่หรือ? ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากเรา พระเจ้าเที่ยงธรรมและพระผู้ช่วยให้รอด ไม่มีผู้ใดนอกจากเรา
\s5
\p
\v 22 จงกลับมาหาเราและรับความรอด ที่สุดปลายแผ่นดินโลกทั้งหมด เพราะเราคือพระเจ้า และไม่มีผู้อื่นอีก
\v 23 เราปฏิญาณด้วยตัวเราเอง และกล่าวบัญญัติเที่ยงธรรมของเรา และจะไม่คืนคำ 'ทุกเข่าจะคุกลงต่อเรา ทุกลิ้นจะปฏิญาณต่อเรา
\v 24 พวกเขาจะกล่าวถึงเราว่า "ในพระยาห์เวห์เพียงผู้เดียวที่มีความรอดและกำลัง""' พวกเขาทุกคนผู้ที่โกรธเคืองพระองค์จะได้รับความอับอาย
\v 25 ในพระยาห์เวห์ พงศ์พันธุ์อิสราเอลทั้งหมดจะถูกทำให้เป็นผู้ชอบธรรม พวกเขาจะภูมิใจในพระองค์
\s5
\c 46
\p
\v 1 พระเบลก้มต่ำลง พระเนโบก็โน้มตัวลง บรรดาสัตว์ต่างๆ และสัตว์พาหนะได้บรรทุกพวกรูปเคารพของพวกเขาไป รูปเคารพเหล่านี้ที่พวกเจ้าขนไปก็เป็นภาระหนักสำหรับบรรดาสัตว์ที่เหนื่อยอ่อน
\v 2 พวกเขาโน้มตัวลงต่ำและคุกเข่าลงด้วยกัน พวกเขาไม่สามารถช่วยรูปเคารพเหล่านั้นได้ และพวกเขาเองก็ตกไปเป็นเชลย
\v 3 วงศ์วานยาโคบเอ๋ย จงฟังเรา และคนที่เหลืออยู่ทั้งหมดของวงศ์วานอิสราเอล ผู้ที่เราได้อุ้มมาตั้งแต่ก่อนที่เจ้าเกิด อุ้มมาตั้งแต่อยู่ในครรภ์
\s5
\p
\v 4 เราคือผู้นั้น ถึงแม้เจ้าจะแก่ลง และจนกระทั่งผมของเจ้าหงอก เราก็จะอุ้มเจ้า เราได้สร้างเจ้าและเราจะแบกเจ้า เราจะอุ้มเจ้าและเราจะช่วยกู้เจ้า เจ้าจะเปรียบเรากับผู้ใด?
\v 5 เจ้าคิดว่าเราเหมือนกับใคร? เพื่อที่เราจะเอามาเปรียบเทียบกัน?
\v 6 คนทั้งหลายเททองคำออกจากถุงและชั่งเงินบนตาชั่ง พวกเขาจ้างช่างโลหะคนหนึ่ง และให้เขาทำมันขึ้นมาเป็นเทพเจ้าองค์หนึ่ง พวกเขาก้มกราบลงและนมัสการมัน
\s5
\p
\v 7 พวกเขายกมันขึ้นมาไว้บนบ่าของพวกเขาและแบกมันไป พวกเขาตั้งมันไว้ในที่ของมัน และมันก็ตั้งอยู่ในที่ของมันและไม่เคลื่อนย้ายไปจากที่นั่น พวกเขาร้องเรียกมัน แต่มันตอบไม่ได้ และช่วยใครจากความยากลำบากของเขาไม่ได้
\v 8 จงคิดเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ อย่าละเลยสิ่งเหล่านี้ เจ้าพวกกบฏ
\v 9 จงคิดถึงสิ่งเก่าก่อน สิ่งเหล่านั้นในอดีต เพราะเราคือพระเจ้าและไม่มีผู้อื่นอีก เราคือพระเจ้า และไม่มีผู้ใดเหมือนเรา
\s5
\p
\v 10 เราแจ้งตอนจบให้ทราบตั้งแต่เริ่มต้น และบอกล่วงหน้าถึงสิ่งที่ยังไม่ได้เกิดขึ้น เราพูดว่า "แผนงานของเราจะเกิดขึ้น และเราจะทำตามที่เราประสงค์"
\v 11 เราเรียกนกล่าเหยื่อมาจากตะวันออก คือคนที่เราเลือกมาจากแดนไกล ใช่แล้ว เราได้พูดแล้ว เราจะทำให้สำเร็จด้วย เราได้มุ่งหมายไว้แล้ว เราจะทำมันด้วย
\v 12 เจ้าชนชาติที่ดื้อรั้นเอ๋ย จงฟังเรา ผู้ที่ห่างไกลจากการทำสิ่งที่ชอบธรรม
\v 13 เรากำลังนำความชอบธรรมของเรามาใกล้ มันอยู่ไม่ไกลนัก และความรอดของเราไม่รอช้า และเราให้ความรอดแก่ศิโยนและให้ความสง่างามของเราแก่อิสราเอล
\s5
\c 47
\p
\v 1 ธิดาพรหมจารีแห่งบาบิโลนเอ๋ย จงลงไปและนั่งในผงคลี ธิดาแห่งเคลเดียเอ๋ย จงนั่งบนพื้นดินที่ปราศจากบัลลังก์ คนจะไม่เรียกเจ้าว่างดงามและอ่อนช้อยอีกต่อไป
\v 2 จงเอาโม่มาและโม่แป้งเถอะ จงเอาผ้าคลุมหน้าของเจ้าออกไป จงถลกเสื้อคลุมยาวของเจ้าขึ้น อย่าคลุมขาของเจ้า จงลุยข้ามธารน้ำทั้งหลายไป
\v 3 ความเปลือยเปล่าของเจ้าจะถูกเปิดเผย ใช่แล้ว เขาจะเห็นความน่าอับอายของเจ้า เราจะทำการแก้แค้น และจะไม่ไว้ชีวิตสักคนเดียว
\s5
\p
\v 4 พระผู้ไถ่ของพวกเรา พระนามของพระองค์คือพระยาห์เวห์จอมโยธา องค์บริสุทธิ์ของอิสราเอล
\v 5 ธิดาของชาวเคลเดียเอ๋ย จงนั่งในความเงียบและจงเข้าไปในความมืด เพราะเขาจะไม่เรียกเจ้าว่าราชินีแห่งราชอาณาจักรทั้งหลายอีกต่อไป
\v 6 เราได้โกรธชนชาติของเรา เราได้ทำให้มรดกของเราเป็นมลทินและมอบพวกเขาไว้ในมือของเจ้า แต่เจ้าไม่ได้แสดงความเมตตาต่อพวกเขา เจ้าวางแอกที่หนักอึ้งไว้บนพวกคนแก่
\s5
\p
\v 7 เจ้าได้พูดว่า "ข้าจะครอบครองเป็นราชินีที่มีอำนาจสูงสุดตลอดไป" เจ้าจึงไม่ได้ใส่ใจในเรื่องเหล่านี้ อีกทั้งเจ้าก็ไม่ได้พิจารณาเรื่องเหล่านี้ว่าจะจบลงอย่างไร
\v 8 เพราะฉะนั้น บัดนี้ จงฟังเรื่องนี้ เจ้าผู้รักความเพลิดเพลินและนั่งอยู่อย่างมั่นคง เจ้าผู้ที่คิดในใจของตนว่า "ข้าดำรงอยู่ และไม่มีผู้อื่นอีกที่เหมือนกับข้า ข้าจะไม่นั่งเป็นแม่ม่าย และจะไม่ประสบกับการสูญเสียบุตรทั้งหลายไป"
\v 9 แต่ทั้งสองสิ่งนี้จะมาถึงเจ้าในเวลาเดียวกันในวันเดียว ทั้งการสูญเสียบุตรทั้งหลายและการเป็นแม่ม่าย พวกเขาจะมาหาเจ้าด้วยกองกำลังเต็มขนาด ทั้งๆ ที่เจ้ามีเวทมนต์ คาถาอาคม และเครื่องรางของขลังมากมาย
\s5
\p
\v 10 เจ้าได้วางใจในความอธรรมของเจ้า เจ้าได้พูดว่า "ไม่มีใครเห็นข้า" สติปัญญาและความรู้ของเจ้าก็นำเจ้าให้หลงไป แต่เจ้าคิดในใจว่า "ข้าดำรงอยู่ และไม่มีผู้อื่นอีกที่เหมือนข้า"
\v 11 ภัยพิบัติจะมาถึงเจ้า เจ้าจะไม่สามารถขับไล่มันไปได้ด้วยคาถาอาคมของเจ้า การทำลายล้างจะตกลงมาบนเจ้า เจ้าจะไม่สามารถปัดเป่ามันออกไปได้ ภัยพิบัติจะจู่โจมเจ้าอย่างฉับพลันก่อนที่เจ้าจะรู้
\v 12 จงตั้งมั่นอยู่ในการร่ายเวทมนต์ของเจ้าและคาถาคมมากมายของเจ้าที่เจ้าได้ท่องจำอย่างสัตย์ซื่อมาตั้งแต่ยังเด็ก บางทีเจ้าอาจจะทำสำเร็จ บางทีเจ้าอาจจะทำให้ภัยพิบัติจากไปด้วยความกลัวก็ได้
\s5
\p
\v 13 เจ้าได้เหน็ดเหนื่อยกับที่ปรึกษามากมายของเจ้า ขอให้คนเหล่านั้นยืนหยัดและช่วยเจ้า คนเหล่านั้นที่ทำภาพท้องฟ้าและเพ่งดูหมู่ดาว คนเหล่านั้นที่แจ้งวันขึ้นหนึ่งค่ำให้รู้ ให้พวกเขาช่วยเจ้าจากสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับเจ้า
\v 14 ดูเถิด พวกเขาจะเป็นเหมือนตอข้าว ไฟจะเผาผลาญพวกเขา พวกเขาจะช่วยตัวพวกเขาเองจากพลังของเปลวไฟไม่ได้ ไม่มีถ่านที่ทำให้พวกเขาอบอุ่น ไม่มีไฟให้พวกเขาผิง
\v 15 พวกคนที่เจ้าทำงานด้วย พวกเขาจะกลายเป็นเช่นนี้ต่อเจ้า และเจ้าได้ซื้อและขายกับพวกเขาเมื่อเจ้ายังสาว และพวกเขาทุกคนก็ยังคงทำในสิ่งที่โง่เขลาของตนเอง และเมื่อเจ้าร้องขอความช่วยเหลือ ก็ไม่มีใครช่วยเจ้าได้"
\s5
\c 48
\p
\v 1 จงฟังเรื่องนี้ วงศ์วานของยาโคบผู้ซึ่งถูกเรียกด้วยนามว่าอิสราเอล และได้มาจากเชื้อสายของยูดาห์ เจ้าผู้ซึ่งปฏิญาณโดยพระนามของพระยาห์เวห์และร้องขอต่อพระเจ้าของอิสราเอล แต่ไม่ใช่ด้วยความจริงใจ หรือด้วยความประพฤติชอบธรรม
\v 2 เพราะพวกเขาเรียกตนเองว่าเป็นประชากรของนครบริสุทธิ์และวางใจในพระเจ้าของอิสราเอล พระนามของพระองค์คือพระยาห์เวห์จอมโยธา
\s5
\p
\v 3 "เราได้แจ้งสิ่งเหล่านี้ให้ทราบตั้งแต่นานมาแล้ว สิ่งเหล่านี้ได้ออกมาจากปากของเรา และเราได้ทำให้สิ่งเหล่านี้เป็นที่รู้กัน แล้วเราได้ทำทันที และก็เป็นไปตามนั้น
\v 4 เพราะเราได้รู้ว่าเจ้าดื้อรั้น กล้ามคอของเจ้าแข็งอย่างกับเหล็ก และหน้าผากของเจ้าเหมือนกับทองสัมฤทธิ์
\v 5 เพราะฉะนั้น เราจึงได้แจ้งสิ่งเหล่านี้ให้เจ้ารู้ล่วงหน้า เราได้แจ้งให้เจ้ารู้ก่อนที่ิ่สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้น เพื่อเจ้าจะพูดไม่ได้ว่า 'รูปเคารพของข้าได้ทำสิ่งเหล่านี้' หรือ 'รูปแกะสลักของข้าและรูปหล่อของข้าได้ดลบันดาลสิ่งเหล่านี้'
\s5
\p
\v 6 เจ้าได้ยินเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้แล้ว จงดูที่หลักฐานนี้ทั้งหมด และเจ้า เจ้าจะไม่ยอมรับสิ่งที่เราได้พูดว่าเป็นความจริงหรือ? ตั้งแต่นี้ไป เราจะสำแดงให้เจ้าเห็นสิ่งใหม่ๆ สิ่งต่างๆ ที่ซ่อนอยู่ที่เจ้าไม่เคยรู้
\v 7 ตอนนี้ ไม่ใช่ตั้งแต่กาลก่อน สิ่งเหล่านี้ได้เกิดขึ้น และก่อนวันนี้ เจ้าไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ เพื่อเจ้าจะไม่สามารถพูดได้ว่า 'ใช่ ข้ารู้เกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้แล้ว'
\s5
\p
\v 8 เจ้าไม่เคยได้ยิน เจ้าไม่เคยรู้ สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เปิดเผยล่วงหน้าให้เข้าหูของเจ้ามาก่อน เพราะเราได้รู้ว่าเจ้าเต็มด้วยความหลอกลวงอย่างมาก และรู้ว่าเจ้าได้เป็นคนกบฏตั้งแต่เกิด
\v 9 เพราะเห็นแก่นามของเรา เราจะกลั้นความโกรธของเราไว้ และเพราะเห็นแก่เกียรติยศของเราเราจะยับยั้งจากการทำลายเจ้า
\v 10 ดูเถิด เราได้ชำระเจ้าให้บริสุทธิ์แล้ว แต่ไม่เหมือนกับเงิน เราได้ทำให้เจ้าบริสุทธิ์ในเตาหลอมแห่งความทุกข์
\s5
\p
\v 11 เพราะเห็นแก่เราเอง เราจะกระทำการเพราะเห็นแก่เราเอง เพราะเราจะยอมให้นามของเราเสื่อมเสียได้อย่างไร? เราจะไม่ให้พระสิริของเราแก่ผู้อื่น
\v 12 จงฟังเรา ทั้งยาโคบและอิสราเอลผู้ซึ่งเราได้เรียก เราคือผู้นั้น เราเป็นเบื้องต้น และเราก็เป็นเบื้องปลายด้วย
\v 13 ใช่แล้ว มือของเราเองได้วางฐานรากของแผ่นดินโลก และมือขวาของเราได้กางผืนฟ้าออก เมื่อเราเรียกพวกมัน พวกมันก็ยืนขึ้นพร้อมกัน
\s5
\p
\v 14 จงเรียกชุมนุมพวกเจ้าเอง พวกเจ้าทุกคน และจงฟัง ใครในพวกเจ้าที่ได้ประกาศสิ่งเหล่านี้? ผู้ช่วยของพระยาห์เวห์จะทำให้ความมุ่งหมายของพระองค์ที่ต่อสู้กับบาบิโลนสำเร็จ เขาจะดำเนินการตามพระประสงค์ของพระยาห์เวห์ที่ต่อสู้กับชาวเคลเดีย
\v 15 เราเอง เราได้พูดแล้ว ใช่แล้ว เราได้เรียกเขาแล้ว เราได้นำเขามาและเขาจะทำให้สำเร็จ
\v 16 จงเข้ามาใกล้เรา จงฟังเรื่องนี้ ตั้งแต่เริ่มต้น เราไม่ได้พูดในที่ลี้ลับ เมื่อมันเกิดขึ้น เราอยู่ที่นั่น" บัดนี้ พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ส่งข้าพเจ้ามา พร้อมกับพระวิญญาณของพระองค์
\s5
\p
\v 17 นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ พระผู้ไถ่ของเจ้า องค์บริสุทธิ์ของอิสราเอลตรัสว่า "เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า ผู้ที่สอนวิธีการแก่เจ้าที่จะทำให้สำเร็จ ผู้ที่นำเจ้าในทางที่เจ้าควรจะไป
\v 18 ถ้าเจ้าเพียงแต่เชื่อฟังพระบัญญัติของเรา แล้วความสงบสุขและความมั่งคั่งของเจ้าจะไหลเหมือนกับแม่น้ำ และความรอดของเจ้าเป็นเหมือนคลื่นในทะเล
\v 19 พงศ์พันธุ์ของเจ้าจะมากมายดั่งทราย และลูกหลานจากครรภ์ของเจ้าจะมากมายดั่งเม็ดทราย ชื่อของพวกเขาจะไม่ถูกตัดออก และจะไม่ถูกลบล้างออกไปจากต่อหน้าเรา
\s5
\p
\v 20 จงออกมาจากบาบิโลน จงหนีไปจากคนเคลเดีย ด้วยมีเสียงระฆังร้องประกาศเรื่องนี้ จงทำให้เรื่องนี้เป็นที่รู้กัน จงทำให้เรื่องนี้ออกไปยังสุดปลายแผ่นดินโลก ว่า 'พระยาห์เวห์ได้ทรงไถ่ยาโคบผู้รับใช้ของพระองค์แล้ว'
\v 21 พวกเขาไม่ได้กระหาย เมื่อพระองค์ได้ทรงนำหน้าพวกเขาผ่านทะเลทราย พระองค์ทรงทำให้น้ำไหลออกจากศิลาให้แก่พวกเขา พระองค์ทรงแยกศิลาให้เปิดออก และน้ำก็ไหลทะลักออกมา
\v 22 พระยาห์เวห์ตรัสว่า "ไม่มีความสงบสุขสำหรับคนอธรรมเลย"
\s5
\c 49
\p
\v 1 แผ่นดินชายทะเลเอ๋ย จงฟังข้าพเจ้า บัดนี้ ชนชาติทั้งหลายที่อยู่ไกล จงตั้งใจฟังข้าพเจ้า พระยาห์เวห์ได้ทรงเรียกชื่อข้าพเจ้า ตั้งแต่มารดาของข้าพเจ้าได้นำข้าพเจ้ามาสู่โลกนี้
\v 2 พระองค์ได้ทรงทำให้ปากของข้าพเจ้าเหมือนดาบคม พระองค์ได้ทรงซ่อนข้าพเจ้าในร่มเงาพระหัตถ์ของพระองค์ พระองค์ได้ทรงทำให้ข้าพเจ้าเป็นลูกธนูขัดมัน พระองค์ได้ทรงซ่อนข้าพเจ้าไว้ในแล่งธนูของพระองค์
\v 3 พระองค์ได้ตรัสกับข้าพเจ้าว่า "เจ้าเป็นผู้รับใช้ของเรา อิสราเอลผู้ซึ่งเราสำแดงพระสิริของเราผ่านทางเจ้า"
\s5
\p
\v 4 แต่ข้าพเจ้าได้ตอบว่า "ถึงแม้ว่าข้าพระองค์ได้คิดว่าข้าพระองค์ได้ตรากตรำโดยเปล่าประโยชน์ ข้าพระองค์ได้ใช้กำลังของข้าพระองค์ให้กับความว่างเปล่า แต่ความยุติธรรมของข้าพระองค์อยู่กับพระยาห์เวห์ และรางวัลของข้าพระองค์อยู่กับพระเจ้าของข้าพระองค์"
\v 5 บัดนี้ พระยาห์เวห์ได้ตรัสว่า พระองค์ผู้ทรงปั้นข้าพเจ้าตั้งแต่เกิดให้เป็นผู้รับใช้ของพระองค์ เพื่อฟื้นฟูยาโคบคืนมาสู่พระองค์เองอีกครั้ง เพื่อที่จะรวบรวมอิสราเอลมาหาพระองค์ เพราะข้าพเจ้าได้รับเกียรติในสายพระเนตรของพระยาห์เวห์ และพระเจ้าของข้าพเจ้าได้ทรงเป็นกำลังของข้าพเจ้า
\v 6 และพระองค์ตรัสว่า "การเป็นผู้รับใช้ของเราที่จะสถาปนาบรรดาเผ่าของยาโคบ และฟื้นฟูบรรดาผู้รอดชีวิตของอิสราเอลเป็นสิ่งเล็กน้อยเกินไปสำหรับเจ้า เราจะทำให้เจ้าเป็นความสว่างแก่คนต่างด้าว เพื่อที่เจ้าจะเป็นความรอดของเราไปยังสุดปลายแผ่นดินโลก"
\s5
\p
\v 7 พระยาห์เวห์ พระผู้ไถ่ของอิสราเอล องค์บริสุทธิ์ของพวกเขา ตรัสดังนี้ต่อผู้ที่ชีวิตของเขาถูกดูหมิ่นและเกลียดชังจากชนชาติทั้งหลาย และทาสของบรรดาผู้ครอบครอง ว่า "กษัตริย์ทั้งหลายจะเห็นเจ้าและลุกขึ้น บรรดาเจ้านายจะเห็นเจ้าและก้มกราบลง เพราะเหตุพระยาห์เวห์ผู้ทรงสัตย์ซื่อ อีกทั้งทรงเป็นองค์บริสุทธิ์ของอิสราเอล ผู้ได้ทรงเลือกสรรเจ้า"
\v 8 พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า "ในเวลานั้น เราตั้งใจที่จะสำแดงความโปรดปรานของเรา เราจะตอบเจ้า และในวันแห่งความรอดเราจะช่วยเจ้า เราจะปกป้องเจ้า และให้เจ้าเป็นพันธสัญญาแก่ชนชาตินั้น เพื่อสร้างแผ่นดินนั้นขึ้นใหม่ เพื่อมอบที่ร้างเปล่าเป็นมรดก
\v 9 เจ้าจะกล่าวกับพวกที่ถูกจองจำว่า 'จงออกมา' และกล่าวกับพวกคนที่อยู่ในคุกมืดว่า 'จงสำแดงตัวของพวกเจ้าเอง' พวกเขาจะหากินไปตามถนน และบนที่ลาดโล่งเตียนทุกแห่งจะเป็นทุ่งหญ้าของพวกเขา
\s5
\p
\v 10 พวกเขาจะไม่หิวหรือกระหาย อีกทั้งความร้อนและดวงอาทิตย์จะไม่โจมตีพวกเขา เพราะพระองค์ผู้ทรงมีพระเมตตาต่อพวกเขาจะทรงนำพวกเขา พระองค์จะทรงนำพวกเขาไปยังน้ำพุ
\v 11 แล้วเราจะทำให้ภูเขาทั้งหลายกลายเป็นถนน และทำให้ทางหลวงราบเรียบ"
\v 12 ดูเถิด คนเหล่านี้จะมาจากแดนไกล บางคนมาจากทางเหนือและทางตะวันตก และบางคนมาจากแผ่นดินซีนิม
\s5
\p
\v 13 ท้องฟ้าเอ๋ย จงร้องเพลง และแผ่นดินโลกเอ๋ย จงชื่นชมยินดี ภูเขาทั้งหลายเอ๋ย จงเปล่งเสียงร้องเพลง เพราะพระยาห์เวห์ทรงปลอบโยนชนชาติของพระองค์ และจะทรงสงสารต่อผู้ที่ทุกข์ใจของพระองค์
\v 14 แต่ศิโยนได้กล่าวว่า "พระยาห์เวห์ได้ทรงละทิ้งข้าแล้ว และองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงลืมข้าเสียแล้ว"
\v 15 "ผู้หญิงจะลืมลูกอ่อนของเธอที่ยังกินนมอยู่ในอกของเธอได้หรือ เธอจะไม่มีความสงสารบุตรชายที่เธอคลอดมาได้หรือ? ใช่แล้ว พวกเธออาจจะลืมได้ แต่เราจะไม่ลืมเจ้า
\s5
\p
\v 16 ดูเถิด เราได้จารึกชื่อของเจ้าไว้บนฝ่ามือของเรา กำแพงเมืองของเจ้าก็อยู่ต่อหน้าเราตลอดไป
\v 17 บุตรทั้งหลายของเจ้ากำลังรีบเร่งกลับมา ขณะที่พวกคนที่ได้ทำลายเจ้ากำลังจากไป
\v 18 จงมองไปรอบๆ และดู พวกเขากำลังชุมนุมกันและมาหาเจ้า นี่คือคำประกาศของพระยาห์เวห์ เรามีชีวิตอยู่แน่ฉันใด เจ้าจะสวมพวกเขาเหมือนอัญมณีแน่ฉันนั้น และเจ้าจะดึงพวกเขามาเหมือนกับเจ้าสาวของเจ้า
\s5
\p
\v 19 ถึงแม้เจ้าเป็นที่ร้างเปล่าและที่รกร้าง และเป็นแผ่นดินที่เป็นซากปรักหักพัง บัดนี้ เจ้าจะเล็กเกินไปสำหรับผู้อยู่อาศัย และพวกคนที่ล้างผลาญเจ้าจะอยู่ห่างไกล
\v 20 บุตรทั้งหลายที่เกิดในยามที่เจ้าทุกข์ใจเพราะสูญเสียบุตรของเจ้าจะพูดให้เจ้าได้ยินว่า 'ที่นี่คับแคบเกินไปสำหรับพวกเรา จงสร้างที่อยู่ให้พวกเรา เพื่อที่พวกเราจะได้อาศัยอยู่ที่นี่'
\v 21 แล้วเจ้าจะถามในใจว่า 'ใครได้คลอดบุตรเหล่านี้ให้แก่ข้า? ข้าได้ทุกข์ระทมเพราะสูญเสียบุตรและเป็นหมัน ถูกกวาดต้อนเป็นเชลยและพลัดพรากกัน ใครได้เลี้ยงดูบุตรเหล่านี้? ดูเถิด ข้าถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว คนเหล่านี้มาจากไหนกัน?"'
\s5
\p
\v 22 พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า "ดูเถิด เราจะชูมือของเราขึ้นต่อบรรดาประชาชาติ เราจะชูธงสัญญาณต่อชนชาติทั้งหลาย พวกเขาจะนำบุตรชายทั้งหลายของเจ้ามาในอ้อมอกของพวกเขา และแบกบุตรหญิงทั้งหลายของเจ้ามาบนบ่าของพวกเขา
\v 23 กษัตริย์ทั้งหลายจะเป็นพวกพ่ออุปถัมภ์ของเจ้า และราชินีทั้งหลายจะเป็นแม่นมของเจ้า พวกเขาจะก้มกราบเจ้าจนใบหน้าพวกเขาติดพื้นดิน และเลียผงคลีที่เท้าของเจ้า แล้วเจ้าจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์ บรรดาคนที่รอคอยเราจะไม่ได้รับความอับอาย"
\s5
\p
\v 24 จะเอาของที่ริบมาได้จากพวกนักรบ หรือจะช่วยพวกเชลยจากพวกคนดุร้ายได้หรือ?
\v 25 แต่พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า "ใช่แล้ว พวกเชลยจะถูกพาออกไปจากพวกนักรบ และของที่ริบมาจะได้รับการช่วยกู้ เพราะเราจะต่อสู้กับปฏิปักษ์ของเจ้าและช่วยบุตรทั้งหลายของเจ้าให้รอด
\v 26 เราจะเลี้ยงพวกคนที่บีบบังคับเจ้าด้วยเนื้อของพวกเขาเอง และพวกเขาจะมึนเมาด้วยเลือดของพวกเขาเอง ราวกับว่ามันเป็นเหล้าองุ่น แล้วมนุษย์ทุกคนจะรู้ว่า เราคือพระยาห์เวห์ เราคือพระผู้ช่วยให้รอดของเจ้า และพระผู้ไถ่ของเจ้า และองค์มหิทธิฤทธิ์ของยาโคบ"
\s5
\c 50
\p
\v 1 พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า "ใบหย่าที่เราได้หย่ากับมารดาของเจ้าอยู่ที่ไหน? หรือเราได้ขายเจ้าให้กับพวกเจ้าหนี้คนใด? ดูเถิด เจ้าถูกขายไป ก็เพราะเหตุความบาปทั้งหลายของเจ้า และเพราะการทรยศของเจ้า มารดาของเจ้าจึงได้ถูกไล่ไป
\v 2 ทำไมเราได้มาแล้ว แต่ไม่มีใครอยู่ที่นั่นเลย? ทำไมเราได้เรียกแล้ว แต่ไม่มีใครตอบเลย? มือของเราสั้นไปหรือที่จะไถ่เจ้าได้? เราไม่มีฤทธานุภาพที่จะช่วยกู้เจ้าได้หรือ? ดูเถิด เมื่อเรากล่าวขนาบ เราทำให้ทะเลเหือดแห้งไป เราทำให้แม่น้ำทั้งหลายกลายเป็นทะเลทราย ปลาในแม่น้ำเหล่านั้นก็ขาดน้ำและเน่าเหม็น
\v 3 เราห่มท้องฟ้าด้วยความมืด เราคลุมมันด้วยผ้ากระสอบ"
\s5
\p
\v 4 พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ประทานลิ้นแก่ข้าพเจ้าเหมือนกับคนหนึ่งในพวกคนผู้ซึ่งได้รับการสั่งสอน เพื่อให้ข้าพเจ้าพูดถ้อยคำชูใจต่อผู้ที่อ่อนแรง พระองค์ทรงปลุกข้าพเจ้าอยู่ทุกเวลาเช้า พระองค์ทรงปลุกหูของข้าพเจ้าให้ได้ยินเหมือนกับพวกคนผู้ซึ่งได้รับการสั่งสอน
\v 5 พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงเปิดหูของข้าพเจ้า และข้าพเจ้าไม่ได้เป็นพวกคนทรยศ อีกทั้งข้าพเจ้าไม่ได้หันหลังกลับ
\v 6 ข้าพเจ้าได้หันหลังของข้าพเจ้าให้กับพวกคนที่โบยตีข้าพเจ้า และหันแก้มให้กับพวกคนที่ดึงเคราของข้าพเจ้าออก ข้าพเจ้าไม่ได้ซ่อนหน้าจากการกระทำที่ทำให้อับอายและการถ่มน้ำลาย
\s5
\p
\v 7 เพราะพระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงช่วยข้าพเจ้า เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าจะไม่ได้รับความอับยศ ดังนั้น พระองค์จึงได้ทรงทำให้หน้าของข้าพเจ้าเหมือนกับหินเหล็กไฟ เพราะข้าพเจ้ารู้ว่าข้าพเจ้าจะไม่ได้รับความอับอาย
\v 8 พระองค์ผู้จะทรงทำให้ข้าพเจ้าเป็นผู้ชอบธรรมทรงอยู่ใกล้ ใครจะสู้ความกับข้าพเจ้า? ให้เรายืนขึ้นและเผชิญหน้ากัน ใครเป็นผู้กล่าวหาข้าพเจ้า? ให้เขามาใกล้ข้าพเจ้า
\v 9 ดูเถิด พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงช่วยข้าพเจ้า ใครจะประกาศว่าข้าพเจ้ามีความผิด? ดูสิ พวกเขาจะเปื่อยยุ่ยเหมือนกับเสื้อผ้า แมลงจะกัดกินพวกเขาเสีย
\s5
\p
\v 10 ใครในพวกเจ้าที่เกรงกลัวพระยาห์เวห์? ใครที่เชื่อฟังเสียงของผู้รับใช้ของพระองค์? ใครที่เดินในความมืดทึบที่ปราศจากความสว่าง? เขาควรจะวางใจในพระนามของพระยาห์เวห์และพึ่งพาพระเจ้าของเขา
\v 11 ดูเถิด พวกเจ้าทุกคนที่ก่อไฟ ผู้ที่คาดตัวเองด้วยคบไฟ จงเดินด้วยแสงสว่างของไฟของพวกเจ้าและในเปลวไฟที่เจ้าได้ก่อขึ้น นี่เป็นสิ่งที่พวกเจ้าได้รับจากเรา คือเจ้าจะนอนลงในที่แห่งความเจ็บปวด
\s5
\c 51
\p
\v 1 จงฟังเรา พวกเจ้าผู้ที่ดำเนินตามความชอบธรรม พวกเจ้าผู้แสวงหาพระยาห์เวห์ จงมองที่ก้อนหินจากสิ่งที่พวกเจ้าได้สกัดมาและมองดูบ่อหินจากสิ่งที่พวกเจ้าตัดออกมา
\v 2 จงมองดูอับราฮัมบรรพบุรุษของพวกเจ้าและซาราห์ผู้ที่ได้คลอดพวกเจ้าออกมา เพราะเมื่อเขาอยู่ตามลำพังเพียงคนเดียว เราได้เรียกเขา เราได้อวยพรเขาและทำให้เขามีคนมากมาย
\v 3 ใช่แล้ว พระยาห์เวห์จะทรงปลอบศิโยน พระองค์จะทรงปลอบโยนบรรดาที่ร้างเปล่าทุกแห่งของเธอ พระองค์จะทรงทำให้ถิ่นทุรกันดารของเธอกลายเป็นสวนเอเดน และที่ราบทะเลทรายข้างลุ่มแม่น้ำจอร์แดนให้เป็นเหมือนอุทยานของพระยาห์เวห์ ซึ่งจะพบความชื่นบานและความยินดีในเธอ อีกทั้งการขอบพระคุณและเสียงของการร้องเพลง
\s5
\p
\v 4 "ชนชาติของเราเอ๋ย จงตั้งใจฟังเรา และชนชาติของเราเอ๋ย จงฟังเรา เพราะเราจะออกธรรมบัญญัติ และเราจะทำให้ความยุติธรรมของเราเป็นความสว่างแก่ประชาชาติทั้งหลาย
\v 5 ความชอบธรรมของเราอยู่ใกล้ ความรอดของเราจะออกไป และแขนของเราจะพิพากษาบรรดาประชาชาติ แผ่นดินชายทะเลจะรอคอยเรา พวกเขาจะรอคอยอย่างร้อนรนเพราะแขนของเรา
\v 6 จงเงยหน้าของเจ้ามองที่ท้องฟ้า และมองที่แผ่นดินโลกเบื้องล่าง เพราะท้องฟ้าจะหายไปเหมือนควัน แผ่นดินโลกจะเสื่อมโทรมลงเหมือนกับเสื้อผ้า และผู้ที่อาศัยอยู่จะตายไปเหมือนกับแมลงวัน แต่ความรอดของเราจะคงอยู่ตลอดไปเป็นนิตย์ และความชอบธรรมของเราจะไม่หยุดทำงานเลย
\s5
\p
\v 7 จงฟังเรา พวกเจ้าผู้ซึ่งรู้ว่าอะไรคือความชอบธรรม ชนชาติของเราผู้ที่มีธรรมบัญญัติของเราอยู่ในใจของเจ้า อย่ากลัวการดูหมิ่นของมนุษย์ และอย่าท้อใจจากการเหยียดหยามของพวกเขา
\v 8 เพราะตัวแมลงจะกินพวกเขาเหมือนกินเสื้อผ้า และตัวหนอนจะกินพวกเขาเหมือนกินขนแกะ แต่ความชอบธรรมของเราจะคงอยู่ตลอดไป และความรอดของเราจะไปสู่ทุกชั่วชาติพันธุ์"
\v 9 จงตื่นเถิด ตื่นขึ้นเถิด จงสวมตัวเจ้าเองด้วยกำลัง ด้วยพระกรของพระยาห์เวห์ จงตื่นขึ้นเหมือนในสมัยก่อน อย่างชาติพันธุ์ทั้งหลายสมัยโบราณ พระองค์เป็นผู้ซึ่งได้ทรงบดขยี้ราหับไม่ใช่หรือ? พระองค์เป็นผู้ที่ได้ทรงแทงสัตว์ประหลาดไม่ใช่หรือ?
\s5
\p
\v 10 พระองค์ได้ทรงทำให้ทะเลเหือดแห้งไป คือน้ำที่ลึกมากนั้น และทรงทำให้ที่ลึกของทะเลกลายเป็นทางแก่ผู้ที่ได้รับการทรงไถ่ให้ผ่านไปไม่ใช่หรือ?
\v 11 พวกที่ได้ทรงไถ่ไว้ของพระยาห์เวห์จะกลับมาและจะมายังศิโยนด้วยเสียงโห่ร้องด้วยความชื่นบานและด้วยความยินดีบนศีรษะของพวกเขาตลอดไป ความยินดีและความชื่นบานจะเปี่ยมล้นในพวกเขา และความโศกเศร้าและการคร่ำครวญจะหนีจากไป
\s5
\p
\v 12 "เราเอง เราคือผู้ที่ปลอบโยนเจ้า ทำไมเจ้าจึงกลัวมนุษย์ผู้ที่จะต้องตาย บรรดาบุตรของมนุษย์ผู้ที่ถูกสร้างมาเหมือนกับต้นหญ้า?
\v 13 ทำไมเจ้าจึงได้ลืมพระยาห์เวห์พระผู้สร้างของเจ้า ผู้ได้ทรงกางท้องฟ้าออก และทรงวางฐานรากของแผ่นดินโลก? เจ้ายังคงอยู่ในความหวาดกลัวทุกวันเรื่อยไป เพราะเหตุความเกรี้ยวกราดของผู้ที่กดขี่ข่มเหง เมื่อเขาตั้งใจที่จะทำลาย ความเกรี้ยวกราดของผู้ที่กดขี่ข่มเหงอยู่ที่ไหนเล่า?
\v 14 คนที่โน้มตัวลง พระยาห์เวห์จะทรงรีบที่จะปลดปล่อย เขาจะไม่ตาย และไม่ลงไปยังหลุมนั้น และเขาจะไม่ขาดแคลนขนมปัง
\s5
\p
\v 15 เพราะเราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า ผู้ที่กวนทะเลให้ปั่นป่วนเพื่อให้คลื่นทะเลคะนองเสียง พระนามของพระองค์คือพระยาห์เวห์จอมโยธา
\v 16 เราได้ใส่ถ้อยคำของเราไว้ในปากของเจ้า และเราได้ปกคลุมเจ้าในร่มเงามือของเรา เพื่อที่เราจะตั้งท้องฟ้า และวางฐานรากของแผ่นดินโลก และกล่าวกับศิโยนว่า 'เจ้าเป็นชนชาติของเรา"'
\v 17 จงตื่นขึ้น ตื่นขึ้นเถิด จงยืนขึ้นเถิด กรุงเยรูซาเล็มเอ๋ย เจ้าผู้ซึ่งได้ดื่มจากพระหัตถ์ของพระยาห์เวห์ จากชามแห่งพระพิโรธของพระองค์ เจ้าผู้ที่ได้ดื่มจากชามนั้น จากถ้วยแห่งความโซเซ ลงไปจนถึงก้นตะกอน
\s5
\p
\v 18 ไม่มีใครในบรรดาบุตรชายทุกคนที่เธอได้คลอดมานั้นที่จะนำทางเธอได้ ไม่มีใครในบรรดาบุตรชายทุกคนที่ฉุดมือให้เธอลุกขึ้น
\v 19 ความยากลำบากสองสิ่งนี้ได้เกิดขึ้นกับเจ้า ใครจะโศกเศร้ากับเจ้าเล่า? คือความร้างเปล่าและการถูกทำลาย และการกันดารอาหารและคมดาบ ใครจะปลอบโยนเจ้าเล่า?
\v 20 บุตรทั้งหลายของเจ้าก็สลบไปแล้ว พวกเขานอนอยู่ตามหัวมุมถนนทุกแห่ง เหมือนกับละมั่งติดตาข่าย พวกเขาถูกเติมเต็มด้วยพระพิโรธของพระยาห์เวห์ และด้วยการขนาบของพระเจ้าของเจ้า
\s5
\p
\v 21 แต่บัดนี้ จงฟังเรื่องนี้ เจ้าผู้ถูกกดขี่ข่มเหงและผู้มึนเมา แต่ไม่ได้เมาด้วยเหล้าองุ่น
\v 22 พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเจ้า ผู้ทรงสู้คดีเพื่อชนชาติของพระองค์ ตรัสดังนี้ว่า "ดูเถิด เราได้นำถ้วยแห่งความโซเซออกไปจากมือของเจ้าแล้ว คือชามนั้นที่เป็นถ้วยแห่งความพิโรธของเรา เพื่อที่เจ้าจะไม่ต้องดื่มมันอีก
\v 23 เราจะใส่มันไว้ในมือของพวกที่ทรมานเจ้า พวกคนที่ได้พูดกับเจ้าว่า "จงนอนลง เพื่อที่เราจะเดินข้ามตัวเจ้า เจ้าจงทำให้หลังของเจ้าเป็นเหมือนพื้นดินและเป็นเหมือนถนนเพื่อให้พวกเขาเดินย่ำไปบนเจ้า"
\s5
\c 52
\p
\v 1 จงตื่นขึ้น ตื่นขึ้นเถิด ศิโยนเอ๋ย จงสวมกำลังของเจ้า กรุงเยรูซาเล็ม นครบริสุทธิ์เอ๋ย จงสวมอาภรณ์ที่งดงามของเจ้า เพราะว่าผู้ที่ไม่เข้าสุหนัตหรือผู้ที่เป็นมลทินจะไม่เข้ามาในเจ้าอีกต่อไป
\v 2 จงสลัดผงคลีดินออกจากตัวเจ้าเอง จงลุกขึ้นนั่งเถิด เยรูซาเล็มเอ๋ย จงปลดโซ่ออกจากคอของเจ้าเถิด ธิดาแห่งศิโยนที่ตกเป็นเชลย
\v 3 เพราะพระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า "พวกเจ้าได้ถูกขายไปเปล่าๆ และพวกเจ้าจะได้รับการไถ่โดยไม่ใช้เงิน"
\s5
\p
\v 4 เพราะพระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า "ในตอนเริ่มแรก ชนชาติของเราได้ลงไปยังอียิปต์เพื่ออาศัยอยู่ชั่วคราว เมื่อไม่นานมานี้อัสซีเรียได้กดขี่ข่มเหงพวกเขา
\v 5 นี่คือคำประกาศของพระยาห์เวห์ว่า บัดนี้ เราต้องทำอะไรที่นี่ เพื่อดูว่าชนชาติของเราได้ถูกเอาตัวไปเปล่าๆ หรือ? นี่คือคำประกาศของพระยาห์เวห์ว่า พวกคนที่ปกครองพวกเขาก็เยาะเย้ย และนามของเราก็ถูกหมิ่นประมาทเรื่อยมาตลอดวันยังค่ำ
\v 6 เพราะฉะนั้น ชนชาติของเราจะรู้จักชื่อของเรา พวกเขาจะรู้ในวันนั้นซึ่งเราเป็นผู้เดียวที่กล่าวว่า "ใช่แล้ว คือเราเองนี่แหละ"
\s5
\p
\v 7 บรรดาเท้าของผู้สื่อสารที่นำข่าวดีบนภูเขาทั้งหลายช่างงดงามจริงหนอ ผู้ที่ประกาศสันติภาพ ผู้ที่นำข่าวดี ผู้ที่ประกาศความรอด ผู้ที่กล่าวกับศิโยนว่า "พระเจ้าของท่านทรงครอบครอง"
\v 8 จงฟังเถิด คนยามของพวกเจ้าได้เปล่งเสียงของพวกเขา พวกเขาโห่ร้องด้วยความยินดีพร้อมกัน เพราะพวกเขาจะเห็นด้วยนัยน์ตาทุกดวงว่าพระยาห์เวห์เสด็จกลับมายังศิโยน
\v 9 ซากปรักหักพังของกรุงเยรูซาเล็มเอ๋ย จงเปล่งเสียงร้องเพลงด้วยความชื่นบานด้วยกัน เพราะพระยาห์เวห์ได้ทรงปลอบโยนชนชาติของพระองค์ พระองค์ได้ทรงไถ่กรุงเยรูซาเล็มแล้ว
\s5
\p
\v 10 พระยาห์เวห์ได้ทรงเผยให้เห็นพระกรอันบริสุทธิ์ของพระองค์ในสายตาของประชาชาติทั้งหมด ทั้งแผ่นดินโลกจะเห็นความรอดของพระเจ้าของเรา
\v 11 จงออกไป ออกไปเถิด จงไปจากที่นั่น อย่าแตะต้องสิ่งที่เป็นมลทิน จงออกไปจากท่ามกลางเมืองนั้น พวกเจ้าที่ขนภาชนะทั้งหลายของพระยาห์เวห์จงชำระตนให้บริสุทธิ์
\v 12 เพราะพวกเจ้าไม่ต้องออกไปอย่างรีบเร่ง หรือพวกเจ้าไม่ต้องออกไปอย่างหวาดกลัว เพราะพระยาห์เวห์จะเสด็จนำหน้าพวกเจ้า และพระเจ้าแห่งอิสราเอลจะเป็นกองหลังของพวกเจ้า
\s5
\p
\v 13 ดูเถิด ผู้รับใช้ของเราจะทำการอย่างมีปัญญา เขาจะสูงเด่นและได้รับการยกชู และเขาจะได้รับการยกย่อง
\v 14 คนเป็นอันมากได้ตกใจกลัวท่านฉันใด หน้าตาของท่านก็เสียโฉมเกินกว่ามนุษย์คนใดฉันนั้น และรูปร่างของท่านก็มองไม่เหมือนกับมนุษย์อีกต่อไป
\v 15 แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น ผู้รับใช้ของเราจะประพรมชนชาติมากมาย และกษัตริย์ทั้งหลายจะทรงปิดพระโอษฐ์เพราะท่าน เพราะพวกเขาจะเห็นสิ่งที่ไม่มีใครเคยบอกพวกเขา และพวกเขาจะเข้าใจสิ่งที่พวกเขาไม่เคยได้ยิน
\s5
\c 53
\p
\v 1 ใครเล่าจะเชื่อสิ่งที่พวกเขาได้ยินจากพวกเรา และพระกรของพระยาห์เวห์ได้ทรงสำแดงแก่ผู้ใด?
\v 2 เพราะท่านได้เติบโตขึ้นต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์เหมือนกับต้นอ่อน และเหมือนหน่อที่แตกออกมาจากพื้นดินที่แห้งแล้ง ท่านไม่มีรูปร่างที่งดงามหรือสง่างาม เมื่อเราได้มองดูท่าน ไม่มีความงามที่พวกเราปรารถนา
\v 3 ท่านได้ถูกคนทั้งหลายดูหมิ่นและถูกปฏิเสธ เป็นคนที่ทุกข์ใจและคุ้นเคยกับความเจ็บปวด เหมือนกับผู้ซึ่งคนทั้งหลายได้หันหน้าหนี ท่านได้ถูกดูหมิ่น และพวกเราถือว่าท่านไม่มีความสำคัญ
\s5
\p
\v 4 แต่แน่ทีเดียว ท่านได้แบกความเจ็บไข้ของพวกเราและหอบเอาความโศกเศร้าของพวกเราไป แต่พวกเรายังได้คิดว่าท่านกำลังถูกพระเจ้าทรงลงโทษ พระเจ้าทรงโบยตีท่านและทำให้ท่านทุกข์ใจ
\v 5 แต่ท่านได้ถูกแทงเพราะการกระทำที่ทรยศของพวกเรา ท่านได้บอบช้ำเพราะความบาปผิดทั้งหลายของพวกเรา การลงโทษเพื่อให้เรามีสวัสดิภาพตกอยู่บนท่าน และด้วยบาดแผลของท่าน พวกเราจึงได้รับการรักษา
\v 6 เราทุกคนเป็นเหมือนแกะที่หลงทางไป พวกเราต่างได้หันไปตามทางของตนเอง และพระยาห์เวห์ได้ทรงวางความผิดบาปของเราทุกคนไว้บนตัวท่าน
\s5
\p
\v 7 ท่านได้ถูกบีบบังคับ แต่เมื่อท่านได้ถ่อมตัวลง ท่านไม่ได้ปริปากของท่าน เหมือนกับลูกแกะที่ถูกนำไปฆ่า และเหมือนแกะที่นิ่งเงียบอยู่ต่อหน้าผู้ที่ตัดขนของมันฉันใด ท่านก็ไม่ได้ปริปากของท่านเลยฉันนั้น
\v 8 ท่านได้ถูกลงโทษด้วยการบังคับและการพิพากษา มีใครในพวกคนยุคสมัยนั้นได้คิดเกี่ยวกับท่านอีกต่อไปเล่า? แต่ท่านถูกตัดออกจากแผ่นดินของคนเป็น เพราะการกระทำผิดของชนชาติของข้าพเจ้า การลงโทษจึงตกอยู่บนท่าน
\v 9 พวกเขาได้วางหลุมศพของท่านไว้กับพวกคนที่กระทำผิด พวกเขาได้วางความตายของท่านไว้กับพวกคนมั่งมี ถึงแม้ว่าท่านไม่ได้ทำการทารุณใดๆ และไม่มีคำหลอกลวงใดๆ ในปากของท่านเลย
\s5
\p
\v 10 แต่เป็นพระประสงค์ของพระยาห์เวห์ที่จะให้ท่านบอบช้ำและเจ็บป่วย เมื่อท่านได้ทำให้ชีวิตของท่านเป็นเครื่องบูชาลบล้างบาป ท่านจะเห็นลูกหลานของท่าน ท่านจะยืดวันเวลาของท่าน และพระประสงค์ของพระยาห์เวห์จะสำเร็จผ่านทางท่าน
\v 11 หลังจากการทนทุกข์ของชีวิตของท่าน ท่านจะเห็นความสว่างและได้รับความพอใจโดยความรู้ของท่าน
\v 12 เพราะฉะนั้น เราจะให้ส่วนของท่านแก่ท่านท่ามกลางคนมากมาย และท่านจะแบ่งของที่ริบมากับคนมากมาย เพราะท่านได้สำแดงตนเองสู่ความตาย และถูกนับเข้ากับพวกคนทรยศ ท่านได้แบกความบาปของคนมากมายและท่านได้อธิษฐานวิงวอนเพื่อพวกคนทรยศ
\s5
\c 54
\p
\v 1 พระยาห์เวห์ตรัสว่า "จงร้องเพลงเถิด หญิงหมันเอ๋ย เจ้าผู้ซึ่งไม่เคยคลอดบุตร จงเปล่งเสียงร้องเพลงด้วยความยินดีและจงร้องเสียงดัง เจ้าผู้ที่ไม่เคยเจ็บครรภ์ เพราะบรรดาบุตรของแม่ร้างก็มากกว่าบุตรทั้งหลายของหญิงที่แต่งงาน"
\v 2 "จงสร้างเต็นท์ของเจ้าให้ใหญ่โตขึ้นและขยายม่านเต็นท์ออกไปให้ไกล อย่ายั้งไว้ จงต่อเชือกของเจ้ายาวขึ้น และเสริมเสาหมุดให้มั่นคงของเจ้า
\v 3 เพราะเจ้าจะขยายออกไปทางซ้ายมือและทางขวามือ และพงศ์พันธุ์ของเจ้าจะครอบครองชนชาติทั้งหลายและตั้งเมืองร้างทั้งหลายขึ้นมาใหม่
\s5
\p
\v 4 อย่ากลัวเลย เพราะเจ้าจะไม่ได้รับความอับอาย หรืออย่าท้อถอยเพราะเจ้าจะไม่ได้รับความอัปยศ เจ้าจะลืมความอับอายในวัยสาวของเจ้าและลืมความอัปยศในการถูกทอดทิ้งของเจ้า
\v 5 เพราะพระผู้สร้างของเจ้าเป็นสามีของเจ้า พระนามของพระองค์คือพระยาห์เวห์จอมโยธา องค์บริสุทธิ์ของอิสราเอลคือพระผู้ไถ่ของเจ้า พระองค์ทรงพระนามว่าพระเจ้าแห่งแผ่นดินโลกทั้งสิ้น
\v 6 เพราะพระยาห์เวห์ได้ทรงเรียกเจ้ากลับมาดั่งภรรยาที่ถูกทอดทิ้งและโศกเศร้าในวิญญาณจิต เหมือนกับหญิงที่แต่งงานตั้งแต่ยังสาวและถูกทอดทิ้ง" พระเจ้าของเจ้าตรัสดังนี้
\s5
\p
\v 7 "เราได้ทอดทิ้งเจ้าชั่วครู่เดียว แต่เราจะรวบรวมเจ้าด้วยความสงสารยิ่งนัก
\v 8 เราได้ซ่อนหน้าของเราจากเจ้าชั่วขณะหนึ่งด้วยความพิโรธอันท่วมท้น แต่เราจะมีความกรุณาต่อเจ้าด้วยความสัตย์ซื่อแห่งพันธสัญญานิรันดร์ พระยาห์เวห์ ผู้ทรงช่วยกู้เจ้าตรัสดังนี้
\v 9 เพราะสำหรับเรา นี่เป็นเหมือนน้ำท่วมสมัยของโนอาห์ เราได้ปฏิญาณว่าน้ำสมัยโนอาห์จะไม่ท่วมแผ่นดินโลกอีกฉันใด เราก็จะปฏฺิญาณว่า เราจะไม่โกรธเจ้าหรือต่อว่าเจ้าฉันนั้น
\s5
\p
\v 10 ถึงแม้ว่าภูเขาทั้งหลายอาจจะล่วงไปและเนินเขาทั้งหลายจะสั่นสะเทือน แต่ความรักมั่นคงของเราจะไม่หันเหไปจากเจ้า และพันธสัญญาแห่งสันติภาพของเราจะไม่สั่นไหว พระยาห์เวห์ ผู้ทรงมีพระกรุณาต่อเจ้าตรัสดังนี้
\v 11 เจ้าผู้ทุกข์ใจ ผู้ถูกพายุพัดพาและผู้ที่ยากลำบาก ดูเถิด เราจะทำทางเดินของเจ้าด้วยหินเทอร์คอยส์ และวางฐานรากของเจ้าด้วยไพลิน
\v 12 เราจะทำบรรดาปิ่นเมืองของเจ้าด้วยทับทิมและทำประตูของเจ้าด้วยหินแวววาว และสร้างกำแพงภายนอกของเจ้าด้วยหินสวยงาม
\s5
\p
\v 13 แล้วพระยาห์เวห์จะทรงสอนบุตรทุกคนของเจ้า และบุตรทั้งหลายของเจ้าจะมีความสงบสุขเป็นอย่างมาก
\v 14 เราจะสถาปนาเจ้าใหม่ด้วยความชอบธรรม เจ้าจะไม่ประสบกับการถูกข่มเหงอีกต่อไป เพราะเจ้าจะไม่กลัว และไม่มีสิ่งใดที่ทำให้เจ้ากลัวจะมาใกล้เจ้า
\v 15 ดูเถิด ถ้าคนใดปลุกปั่นให้เกิดความยากลำบาก มันจะไม่ได้เกิดขึ้นจากเรา คนใดที่ปลุกปั่นให้เกิดความยากลำบากกับเจ้าจะล้มลงในความพ่ายแพ้
\s5
\p
\v 16 ดูเถิด เราได้สร้างช่างฝีมือ ผู้ที่เป่าไฟจากถ่าน และทำให้เกิดอาวุธเป็นงานของเขา และเราได้สร้างผู้ทำลายเพื่อที่จะทำลาย
\v 17 ไม่มีอาวุธใดที่ทำขึ้นเพื่อต่อสู้เจ้าจะสำเร็จได้ และเจ้าจะลงโทษทุกคนที่กล่าวร้ายเจ้า นี่เป็นมรดกของบรรดาผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์ และการปกป้องจากเรา นี่คือคำประกาศของพระยาห์เวห์"
\s5
\c 55
\p
\v 1 "มาเถิด ทุกคนผู้ที่กระหาย จงมายังที่น้ำนั้น และผู้ที่ไม่มีเงิน จงมาซื้อและกินเถิด จงมาเถิด จงซื้อเหล้าองุ่นและน้ำนมโดยไม่ต้องเสียเงินและไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
\v 2 ทำไมพวกเจ้าจึงใช้เงินเพื่อสิ่งที่ไม่ใช่อาหาร และทำไมพวกเจ้าจึงตรากตรำเพื่อสิ่งที่ไม่ทำให้อิ่มใจ? จงตั้งใจฟังเราและกินสิ่งที่ดี และทำตัวพวกเจ้าเองให้เปรมปรีดิ์ด้วยไขมัน
\v 3 จงเอียงหูของพวกเจ้าและมาหาเรา จงฟัง เพื่อพวกเจ้าจะมีชีวิตอยู่ เราจะทำพันธสัญญานิรันดร์กับพวกเจ้า ตามสัญญาที่วางใจได้และความรักที่สัตย์ซื่อของเราต่อดาวิด
\s5
\p
\v 4 ดูเถิด เราได้ตั้งเขาไว้เป็นพยานต่อประชาชาติทั้งหลาย เป็นหัวหน้าและผู้บัญชาการต่อชนชาติทั้งหลาย
\v 5 ดูเถิด พวกเจ้าจะเรียกประชาชาติหนึ่งที่พวกเจ้าไม่รู้จัก และประชาชาติหนึ่งที่ไม่รู้จักพวกเจ้าจะวิ่งมาหาพวกเจ้า เหตุเพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้า องค์บริสุทธิ์ของอิสราเอล ผู้ที่ทรงให้พวกเจ้าได้รับเกียรติ"
\v 6 จงแสวงหาพระยาห์เวห์ ในขณะที่จะพบพระองค์ได้ จงร้องเรียกพระองค์ในขณะที่พระองค์ทรงอยู่ใกล้
\s5
\p
\v 7 ให้คนอธรรมละทิ้งทางของเขา และให้คนบาปละทิ้งความคิดของเขา ให้เขากลับมาหาพระยาห์เวห์ และพระองค์จะทรงสงสารเขา และมาหาพระเจ้าของพวกเรา ผู้ทรงให้อภัยแก่เขาอย่างเหลือล้น
\v 8 "เพราะความคิดของเราไม่ใช่ความคิดของพวกเจ้า และทางของพวกเจ้าก็ไม่ใช่ทางของเรา นี่คือคำประกาศของพระยาห์เวห์
\v 9 เพราะท้องฟ้าสูงกว่าแผ่นดินโลกฉันใด ทางของเราก็สูงกว่าทางของพวกเจ้า และความคิดของเราก็สูงกว่าความคิดของพวกเจ้าฉันนั้น
\s5
\p
\v 10 เพราะเหมือนฝนและหิมะตกลงมาจากฟ้าและไม่กลับไปยังที่นั่นอีก นอกจากจะทำให้แผ่นดินโลกเปียกชุ่มและทำให้เกิดผล และแตกหน่อและให้เมล็ดแก่ชาวนาผู้ที่หว่านและให้อาหารแก่คนที่กิน
\v 11 เช่นเดียวกัน ถ้อยคำของเราที่ออกจากปากของเรา จะไม่กลับมาหาเราโดยไร้ประโยชน์ แต่จะทำให้สำเร็จตามที่เราปรารถนา และจะทำให้สิ่งที่เราได้ใช้ไปทำนั้นเสร็จสิ้น
\s5
\p
\v 12 เพราะพวกเจ้าจะออกไปด้วยความยินดี และถูกพาไปโดยสวัสดิภาพ บรรดาภูเขาและเนินเขาทั้งหลายจะเปล่งเสียงโห่ร้องด้วยความยินดีต่อหน้าพวกเจ้า และต้นไม้ทุกต้นในทุ่งนาจะตบมือ
\v 13 ต้นสนสามใบจะงอกขึ้นแทนพุ่มไม้หนาม และต้นน้ำมันเขียวจะงอกขึ้นแทนต้นหนาม และมันจะเป็นอย่างนั้นแด่พระยาห์เวห์ แด่พระนามของพระองค์ ซึ่งจะเป็นหมายสำคัญนิรันดร์ที่จะไม่ถูกตัดออกเลย"
\s5
\c 56
\p
\v 1 พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า "จงถือรักษาสิ่งที่ชอบธรรม จงทำสิ่งที่ยุติธรรม เพราะความรอดของเรามาใกล้แล้ว และความชอบธรรมของเราจะได้สำแดงออกมา
\v 2 ความสุขมีแก่คนที่ทำเช่นนี้ และผู้ที่ยึดมันไว้แน่น เขาถือรักษาวันสะบาโต และไม่ทำให้วันนั้นเป็นมลทิน และรักษามือของเขาให้พ้นจากการทำชั่วใดๆ"
\v 3 อย่าให้คนต่างชาติคนใดที่ได้เป็นผู้ติดตามพระยาห์เวห์กล่าวว่า "พระยาห์เวห์จะทรงแยกข้าออกจากชนชาติของพระองค์อย่างแน่นอน" ขันทีก็ไม่ควรจะพูดว่า "ดูสิ ข้าเป็นต้นไม้เหี่ยวแห้ง"
\s5
\p
\v 4 เพราะพระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า "พวกขันทีที่ถือรักษาวันสะบาโตของเราและเลือกสิ่งที่ทำให้เราพอใจ และยึดมั่นในพันธสัญญาของเรา
\v 5 เราจะตั้งอนุสรณ์ให้แก่พวกเขาในนิเวศของเราและภายในกำแพงของเราที่ดีกว่าการมีบรรดาบุตรชายและบุตรหญิง เราจะให้อนุสรณ์นิรันดร์แก่พวกเขาที่จะไม่ถูกตัดออกเลย
\s5
\p
\v 6 เช่นเดียวกับพวกคนต่างชาติที่ผูกพันตนเองกับพระยาห์เวห์ เพื่อปรนนิบัติพระองค์ และผู้ที่รักพระนามของพระยาห์เวห์ และนมัสการพระองค์ ทุกคนผู้ที่ถือรักษาวันสะบาโตและผู้ที่ไม่ทำให้วันนั้นเป็นมลทิน และผู้ที่ยึดมั่นพันธสัญญาของเรา
\v 7 เราจะนำพวกเขาไปสู่ภูเขาบริสุทธิ์ของเราและทำให้พวกเขาชื่นบานอยู่ในนิเวศแห่งการอธิษฐานของเรา เราจะยอมรับเครื่องเผาบูชาและเครื่องถวายบูชาทั้งหลายของพวกเขาบนแท่นบูชาของเรา เพราะนิเวศของเราจะถูกเรียกว่า นิเวศแห่งการอธิษฐานสำหรับบรรดาประชาชาติ
\v 8 พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงรวบรวมพวกคนอิสราเอลที่ถูกขับไล่ออกไป ตรัสดังนี้ว่า เราจะยังคงรวบรวมคนอื่นๆ มาเพิ่มเข้ากับพวกเขาด้วย"
\v 9 พวกเจ้า สัตว์ป่าทั้งหมดในทุ่ง จงมาและกินอย่างเต็มที่ ทั้งพวกเจ้าสัตว์ป่าทั้งหมดในป่าด้วย
\s5
\p
\v 10 คนยามของพวกเขาทุกคนตาบอดไป พวกเขาไม่เข้าใจ พวกเขาทุกคนเป็นเหล่าสุนัขที่นิ่งเงียบที่เห่าไม่ได้ พวกเขาฝันและนอนลง พวกเขารักการหลับไหล
\v 11 เหล่าสุนัขที่หิวจัด พวกเขาได้ไม่เคยพอ พวกเขาเป็นพวกผู้เลี้ยงแกะที่ไม่มีความเข้าใจ พวกเขาทุกคนหันไปตามทางของตนเอง แต่ละคนก็โลภหากำไรอยุติธรรม พวกเขากล่าวว่า
\v 12 "มาเถิด ให้พวกเราดื่มเหล้าองุ่นและเมรัย พรุ่งนี้ก็จะเหมือนกับวันนี้ ที่เป็นวันที่ยิ่งใหญ่เหลือคณานับ"
\s5
\c 57
\p
\v 1 คนชอบธรรมพินาศไป แต่ไม่มีใครใส่ใจเรื่องนี้ และพวกคนที่สัตย์ซื่อในพันธสัญญาก็ถูกรวบเอาไป แต่ไม่มีใครเข้าใจว่าคนชอบธรรมถูกรวบเอาไปจากความชั่วร้าย
\v 2 เขาเข้าไปในสันติสุข พวกเขาพักสงบบนที่นอนของพวกเขา คนเหล่านั้นผู้ที่ดำเนินในความเที่ยงธรรมของพวกเขา
\v 3 แต่จงเข้ามาที่นี่ พวกเจ้า พวกบุตรชายของแม่มด พวกลูกหลานของคนล่วงประเวณี และผู้หญิงที่ทำตัวเป็นโสเภณี
\s5
\p
\v 4 พวกเจ้ากำลังเย้ยหยันอย่างสนุกสนานต่อผู้ใด? พวกเจ้ากำลังอ้าปากและแลบลิ้นใส่ใคร? พวกเจ้าเป็นลูกของการทรยศ เป็นลูกของการหลอกลวงไม่ใช่หรือ?
\v 5 พวกเจ้าทำให้ตนเองอบอุ่นขึ้นด้วยการนอนด้วยกันที่ใต้ต้นโอ๊ก ภายใต้ต้นไม้เขียวสดทุกต้น พวกเจ้าผู้ที่ฆ่าบุตรทั้งหลายของพวกเจ้าในก้นแม่น้ำที่เหือดแห้ง ภายใต้ก้อนหินที่ยื่นออกมา
\v 6 ท่ามกลางสิ่งที่เกลี้ยงเกลาของลุ่มแม่น้ำเป็นสิ่งที่ได้มอบให้แก่เจ้า สิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งของที่เป็นของถวายของพวกเจ้า พวกเจ้าเทเครื่องดื่มบูชาของเจ้าบนสิ่งเหล่านั้น และนำเครื่องธัญบูชามาถวาย เราควรจะยินดีในสิ่งเหล่านี้หรือ?
\s5
\p
\v 7 พวกเจ้าได้จัดเตรียมที่นอนของพวกเจ้าไว้บนภูเขาสูง และพวกเจ้าก็ขึ้นไปที่นั่นเพื่อถวายเครื่องบูชาทั้งหลายด้วย
\v 8 พวกเจ้าได้ตั้งสัญลักษณ์ของพวกเจ้าไว้ข้างหลังประตูและเสาประตูเหล่านั้น พวกเจ้าได้ทอดทิ้งเรา ทำตัวเองให้ล่อนจ้อน และขึ้นไปบนนั้น พวกเจ้าทำให้ที่นอนของพวกเจ้ากว้างขึ้น พวกเจ้าได้ทำพันธสัญญากับพวกเขา พวกเจ้ารักที่นอนของพวกเขา พวกเจ้าได้เห็นส่วนที่เป็นส่วนตัวของพวกเขา
\v 9 พวกเจ้าได้ขึ้นไปหาพระโมเลคพร้อมกับน้ำมัน พวกเจ้าได้ทำให้น้ำหอมทวีมากขึ้น พวกเจ้าได้ส่งคณะทูตของพวกเจ้าไปไกล พวกเจ้าได้ลงไปยังแดนคนตาย
\s5
\p
\v 10 พวกเจ้าได้เหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางอันยาวไกล แต่พวกเจ้าก็ไม่เคยพูดว่า "มันไม่มีความหวัง" พวกเจ้าได้พบชีวิตในมือของพวกเจ้า เพราะฉะนั้น พวกเจ้าจึงไม่อ่อนเปลี้ยไป
\v 11 "พวกเจ้ากำลังทุกข์ร้อนถึงผู้ใด? พวกเจ้ากลัวใครมากเสียจนทำให้พวกเจ้ากระทำการอย่างหลอกลวง มากเสียจนพวกเจ้าไม่ระลึกถึงเราหรือคิดถึงเรา? เพราะเราได้นิ่งเงียบมานาน พวกเจ้าก็ไม่เกรงกลัวเราอีกต่อไป
\v 12 เราจะประกาศการกระทำที่ชอบธรรมของพวกเจ้า และบอกถึงทุกสิ่งที่พวกเจ้าได้ทำ แต่สิ่งเหล่านั้นก็จะไม่ช่วยพวกเจ้า
\s5
\p
\v 13 เมื่อพวกเจ้าร้องขอ ก็ให้บรรดารูปเคารพของพวกเจ้าที่สะสมไว้ช่วยพวกเจ้าสิ แต่ลมจะพัดพาพวกมันไปหมด แค่ลมหายใจเดียวก็จะหอบพวกมันไปหมด แต่เขาผู้ที่ลี้ภัยในเราจะได้รับแผ่นดินเป็นมรดก และจะได้กรรมสิทธิ์ในภูเขาบริสุทธิ์ของเรา
\v 14 เขาจะกล่าวว่า 'จงสร้างขึ้น สร้างขึ้นเถิด จงเบิกทาง จงเอาก้อนหินที่ทำให้สะดุดออกไปจากทางของชนชาติของเรา"'
\v 15 เพราะนี่คือองค์ผู้สูงเด่นและสูงส่ง ผู้ทรงดำรงอยู่นิรันดร์ พระนามของพระองค์คือบริสุทธิ์ ผู้ที่ตรัสว่า "เราดำรงอยู่ในที่สูงและบริสุทธิ์ อยู่กับผู้มีวิญญาณที่บอบช้ำและถ่อมใจ เพื่อฟื้นฟูวิญญาณของพวกคนถ่อมใจ และเพื่อฟื้นฟูจิตใจของผู้ที่สำนึกผิด
\s5
\p
\v 16 เพราะเราจะไม่กล่าวโทษอยู่เป็นนิตย์ และจะไม่โกรธตลอดไป เพราะวิญญาณของมนุษย์จะอ่อนกำลังต่อหน้าเรา คือชีวิตทั้งหลายที่เราได้สร้างขึ้นมา
\v 17 เราได้โกรธเพราะเหตุความบาปจากความทารุณของเขาเพิ่มมากขึ้น และเราได้ลงโทษเขา เราได้ซ่อนหน้าของเราและโกรธ แต่เมื่อเขากลับมายังทางแห่งใจของเขาแล้ว
\v 18 เราได้เห็นทางของเขาแล้ว แต่เราจะรักษาเขาให้หาย เราจะนำเขาและปลอบโยนและชูใจพวกคนที่คร่ำครวญถึงเขา
\s5
\p
\v 19 และเราได้สร้างผลจากริมฝีปาก สันติสุข สันติสุขแก่คนทั้งหลายที่อยู่ไกล และแก่คนทั้งหลายที่อยู่ใกล้ พระยาห์เวห์ตรัสว่า เราจะรักษาพวกเขาให้หาย
\v 20 แต่คนอธรรมเป็นเหมือนทะเลที่ปั่นป่วนที่นิ่งสงบอยู่ไม่ได้ และน้ำทะเลนั้นก็กวนโคลนและเลนขึ้นมา
\v 21 ไม่มีสันติสุขแก่คนอธรรม พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้"
\s5
\c 58
\p
\v 1 "จงร้องดังๆ อย่าออมเสียงไว้ จงเปล่งเสียงของเจ้าเหมือนกับแตร จงเผชิญหน้ากับชนชาติของเราพร้อมกับการทรยศของพวกเขา และเผชิญหน้ากับวงศ์วานของยาโคบพร้อมกับความบาปของพวกเขา
\v 2 แต่พวกเขาก็ยังแสวงหาเราทุกวันและปีติยินดีในความรู้เกี่ยวกับทางของเรา เหมือนกับเขาเป็นประชาชาติที่ประพฤติความชอบธรรม และไม่ได้ละทิ้งธรรมบัญญัติของพระเจ้าของพวกเขา พวกเขาขอการตัดสินที่ชอบธรรมจากเรา พวกเขายินดีในความคิดเกี่ยวกับพระเจ้าเสด็จมาใกล้
\s5
\p
\v 3 พวกเขากล่าวว่า 'ทำไมพวกข้าพระองค์ได้อดอาหาร แต่พระองค์ไม่ทอดพระเนตร? ทำไมพวกข้าพระองค์ได้ถ่อมตัวลง แต่พระองค์ไม่ทรงสนพระทัย?'
\v 4 ดูสิ ในวันที่พวกเจ้าอดอาหาร พวกเจ้าก็ทำตามอำเภอใจของพวกเจ้าเองและกดขี่ข่มเหงคนงานทั้งหมดของพวกเจ้า ดูสิ การอดอาหารของพวกเจ้าก็เพียงเพื่อวิวาทและต่อสู้กัน และต่อยด้วยหมัดของความอธรรม พวกเจ้าไม่ได้อดอาหารในวันนี้เพื่อทำให้เสียงของพวกเจ้าได้ยินไปถึงเบื้องบน
\v 5 นี่คือการอดอาหารแบบที่เราต้องการ คือวันเพื่อให้คนถ่อมตัวลง เพื่อให้เขาก้มศีรษะลงเหมือนกับต้นอ้อ และปูผ้ากระสอบและขี้เถ้าอยู่ข้างใต้ตัวเขาเองจริงหรือ? พวกเจ้าเรียกการทำเช่นนี้ว่าการอดอาหาร และเป็นวันที่พระยาห์เวห์ทรงพอพระทัยจริงหรือ?
\s5
\p
\v 6 เราเลือกการอดอาหารอย่างนี้ คือการแก้พันธนะอธรรมออก และแก้เชือกของแอกออกไป และปลดปล่อยผู้ที่ชอกช้ำระกำใจให้เป็นอิสระ และหักแอกทั้งหมดเสียไม่ใช่หรือ?
\v 7 การอดอาหารที่เป็นการหักขนมปังของพวกเจ้าให้กับคนหิวและนำคนจนและคนไร้บ้านเข้ามาในบ้านของพวกเจ้าไม่ใช่หรือ? เมื่อพวกเจ้าเห็นคนใดเปลือยกาย พวกเจ้าควรจะสวมเสื้อผ้าให้เขา และพวกเจ้าไม่ควรจะซ่อนตัวพวกเจ้าจากญาติพี่น้องของพวกเจ้าเอง
\v 8 แล้วความสว่างของพวกเจ้าจะพุ่งออกมาเหมือนดวงอาทิตย์ขึ้น และการเยียวยาของพวกเจ้าจะมีขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ความชอบธรรมของพวกเจ้าจะไปข้างหน้าพวกเจ้า และพระสิริของพระยาห์เวห์จะเป็นกองระวังหลังของพวกเจ้า
\s5
\p
\v 9 แล้วพวกเจ้าจะร้องทูล และพระยาห์เวห์จะทรงตอบ พวกเจ้าจะร้องทูลขอความช่วยเหลือ และพระองค์จะตรัสตอบว่า "เราอยู่ที่นี่" ถ้าพวกเจ้าเอาแอกออกไปจากท่ามกลางพวกเจ้า อีกทั้งการชี้นิ้วกล่าวร้าย และคำพูดอธรรมออกไป
\v 10 ถ้าพวกเจ้าเองได้จัดหาให้คนที่หิวโหยและคนขัดสนที่ทุกข์ใจได้อิ่มหนำ แล้วความสว่างของพวกเจ้าจะโผล่ขึ้นมาในความมืด และความมืดของพวกเจ้าจะเป็นเหมือนเที่ยงวัน
\v 11 แล้วพระยาห์เวห์จะทรงนำพวกเจ้าเรื่อยไป และทำให้พวกเจ้าอิ่มหนำในเขตแดนที่ซึ่งไม่มีน้ำ และพระองค์จะเสริมกระดูกของพวกเจ้าให้แข็งแรง พวกเจ้าจะเป็นเหมือนสวนที่มีน้ำรด และเหมือนกับน้ำพุที่น้ำไม่เคยขาด
\s5
\p
\v 12 พวกเจ้าบางคนจะสร้างสิ่งปรักหักพังโบราณขึ้นมาใหม่ พวกเจ้าจะทำให้สิ่งปรักหักพังของคนหลายชั่วอายุคนฟื้นคืนมาใหม่ พวกเจ้าจะได้ชื่อว่า "ผู้ซ่อมกำแพง" "ผู้ซ่อมแซมถนนเพื่ออยู่อาศัย"
\v 13 สมมุติว่าพวกเจ้าหันเท้าของพวกเจ้าจากการเดินทางในวันสะบาโต และหันจากการกระทำตามอำเภอใจของพวกเจ้าในวันบริสุทธิ์ของเรา สมมุติว่าพวกเจ้าเรียกวันสะบาโตว่าวันปีติยินดี และพวกเจ้าเรียกภารกิจที่เกี่ยวกับพระยาห์เวห์ว่าบริสุทธิ์และมีเกียรติ สมมุติว่าพวกเจ้าให้เกียรติวันสะบาโตด้วยการละจากการงานของพวกเจ้าเอง และไม่ทำตามอำเภอใจของพวกเจ้าและไม่พูดถ้อยคำของพวกเจ้าเอง
\v 14 แล้วพวกเจ้าจะปีติยินดีในพระยาห์เวห์ และเราจะทำให้เจ้าขี่ขึ้นไปบนที่สูงของแผ่นดินโลก เราจะเลี้ยงเจ้าจากมรดกของยาโคบบรรพบุรุษของเจ้า เพราะพระโอษฐ์ของพระยาห์เวห์ได้ตรัสแล้ว"
\s5
\c 59
\p
\v 1 ดูเถิด พระหัตถ์ของพระยาห์เวห์ไม่ได้สั้นเกินกว่าที่จะช่วยให้รอดได้ หรือพระกรรณของพระองค์ก็ไม่ตึงเกินกว่าที่จะไม่ทรงได้ยิน
\v 2 แต่การกระทำบาปของพวกเจ้าได้แยกพวกเจ้าจากพระเจ้าของพวกเจ้า และความบาปทั้งหลายของพวกเจ้าได้ทำให้พระองค์ทรงซ่อนพระพักตร์ของพระองค์ไว้จากพวกเจ้าและจากการได้ยินพวกเจ้า
\v 3 เพราะมือของพวกเจ้าเปรอะเปื้อนด้วยโลหิตและนิ้วของพวกเจ้าก็เปรอะเปื้อนด้วยความบาป ปากของพวกเจ้าพูดโกหก และลิ้นของพวกเจ้าพูดกล่าวร้าย
\s5
\p
\v 4 ไม่มีใครเรียกร้องด้วยความชอบธรรม และไม่มีใครสู้คดีของเขาด้วยความจริง พวกเขาวางใจในถ้อยคำที่ไร้สาระ และพูดความเท็จ พวกเขาตั้งท้องความลำบากและคลอดความบาปออกมา
\v 5 พวกเขาฟักไข่ของงูพิษและทอใยแมงมุม ใครก็ตามที่กินไข่ของพวกเขาก็ตาย และถ้าไข่ถูกทำให้แตก มันก็จะออกมาเป็นงูพิษ
\v 6 ใยของพวกเขาใช้เป็นเสื้อผ้าไม่ได้ อีกทั้งพวกเขาก็ไม่สามารถห่มตัวเองด้วยผลงานของพวกเขาได้ ผลงานของพวกเขาเป็นผลงานของความบาป และการกระทำทารุณอยู่ในมือของพวกเขา
\s5
\p
\v 7 เท้าของพวกเขาวิ่งไปสู่ความชั่ว และพวกเขาวิ่งไปทำให้คนไร้ความผิดหลั่งโลหิตความคิดของพวกเขาเป็นความคิดบาป การทารุณและการทำลายอยู่ในหนทางของพวกเขา
\v 8 พวกเขาไม่รู้จักทางแห่งสันติภาพ และไม่มีความยุติธรรมในวิถีของพวกเขา พวกเขาได้ทำให้หนทางคดเคี้ยว ผู้ใดที่เดินทางในทางเหล่านี้ก็ไม่รู้จักสันติภาพ
\v 9 เพราะฉะนั้น ความยุติธรรมจึงอยู่ห่างไกลจากพวกเรา อีกทั้งความชอบธรรมก็ไม่มาถึงพวกเรา พวกเรารอคอยความสว่าง แต่ก็เห็นความมืด พวกเรามองหาความสว่างไสว แต่พวกเราก็เดินในความมืด
\s5
\p
\v 10 พวกเราคลำหากำแพงเหมือนคนตาบอด เหมือนกับพวกคนที่มองไม่เห็น พวกเราสะดุดล้มตอนเที่ยงวันอย่างกับเป็นตอนพลบค่ำ พวกเราเป็นเหมือนกับคนตายท่ามกลางพวกคนที่แข็งแรง
\v 11 พวกเราครางเหมือนหมีและครวญครางเหมือนนกพิราบ พวกเรารอคอยความยุติธรรม แต่ก็ไม่มีเลย พวกเรารอคอยความช่วยเหลือ แต่มันก็ห่างไกลจากพวกเรา
\v 12 เพราะการทรยศมากมายของพวกเราอยู่ต่อพระพักตร์พระองค์ และความบาปของเราก็ปรักปรำพวกเรา เพราะการทรยศของพวกเราอยู่กับพวกเรา และพวกเราก็รู้ถึงความบาปของพวกเราดี
\s5
\p
\v 13 พวกเราได้ทรยศ ด้วยการปฏิเสธพระยาห์เวห์และการหันไปจากการติดตามพระเจ้าของพวกเรา พวกเราได้พูดกดขี่และทำให้หันเหไป การพร่ำบ่นที่เกิดมาจากใจและถ้อยคำที่โกหก
\v 14 ความยุติธรรมได้ถูกบังคับเอาไป และความชอบธรรมยืนอยู่ห่างไกล เพราะความจริงล้มลงในลานเมืองและความเที่ยงตรงก็เข้ามาไม่ได้
\v 15 ความสัตย์จริงได้หายไป และผู้ที่หันไปจากความชั่วร้ายก็ทำให้ตัวเองเป็นเหยื่อ พระยาห์เวห์ได้ทรงเห็นและไม่ทรงพอพระทัยที่ไม่มีความยุติธรรม
\s5
\p
\v 16 พระองค์ได้ทรงเห็นว่าไม่มีผู้ใดเลย และทรงประหลาดพระทัยว่าไม่มีใครอ้อนวอนเผื่อ เพราะฉะนั้น พระกรของพระองค์เองได้นำความรอดมาให้พระองค์ และความชอบธรรมของพระองค์ได้เชิดชูพระองค์ไว้
\v 17 พระองค์ทรงสวมความชอบธรรมเป็นเกราะป้องกันอกและสวมหมวกเหล็กแห่งความรอดไว้บนพระเศียรของพระองค์ พระองค์ทรงสวมพระองค์เองด้วยอาภรณ์ของการแก้แค้นและสวมฉลองพระองค์ด้วยความกระตือรือร้น
\v 18 พระองค์ได้ทรงตอบสนองพวกเขาตามสิ่งที่พวกเขาได้กระทำ คือการพิพากษาด้วยพระพิโรธต่อพวกปรปักษ์ของพระองค์ และการแก้แค้นต่อพวกศัตรูของพระองค์ และการลงโทษเกาะต่างๆ เป็นการตอบแทนพวกเขา
\s5
\p
\v 19 เพราะฉะนั้น พวกเขาจะเกรงกลัวพระนามของพระยาห์เวห์จากทางตะวันตก และเกรงกลัวพระสิริของพระองค์จากทางดวงอาทิตย์ขึ้น เพราะพระองค์จะเสด็จมาเหมือนกับธารน้ำไหลเชี่ยวที่ขับเคลื่อนด้วยลมปราณของพระยาห์เวห์
\v 20 "พระผู้ไถ่จะเสด็จมายังศิโยนและมายังพวกคนที่หันกลับจากการกระทำที่ทรยศของพวกเขาในยาโคบ นี่คือคำประกาศของพระยาห์เวห์
\v 21 ส่วนเราเอง นี่เป็นพันธสัญญาของเราที่ทำกับพวกเขา พระยาห์เวห์ตรัสว่า วิญญาณของเราผู้ซึ่งอยู่เหนือพวกเจ้า และถ้อยคำของเราที่เราได้ใส่ไว้ในปากของพวกเจ้าจะไม่พรากไปจากปากของพวกเจ้า หรือจะไม่พรากไปจากปากของบุตรทั้งหลายของพวกเจ้า หรือจะไม่พรากไปจากปากของหลานทั้งหลายของพวกเจ้า ตั้งแต่บัดนี้ไปและตลอดไปเป็นนิตย์" พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหล่ะ
\s5
\c 60
\p
\v 1 จงลุกขึ้น ฉายแสง เพราะความสว่างของเจ้ามาแล้ว และพระสิริของพระยาห์เวห์ได้ขึ้นมาเหนือเจ้าแล้ว
\v 2 แม้ว่าความมืดจะปกคลุมแผ่นดินโลก และความมืดทึบจะคลุมบรรดาประชาชาติ แต่พระยาห์เวห์จะทรงขึ้นมาเหนือเจ้า และจะเห็นพระสิริของพระองค์เหนือเจ้า
\v 3 บรรดาประชาชาติจะมายังความสว่างของเจ้า และกษัตริย์ทั้งหลายจะมายังความสว่างสุกใสของเจ้าที่กำลังขึ้นมา
\s5
\p
\v 4 จงมองดูไปรอบๆ เถิด พวกเขาทุกคนได้รวมตัวกันและมาหาเจ้า บุตรชายทั้งหลายของเจ้าจะมาจากแดนไกล และพวกเขาจะอุ้มพวกบุตรหญิงของเจ้าไว้ในอ้อมแขนของพวกเขา
\v 5 แล้วเจ้าจะมองดูและเต็มด้วยความสุข ใจของเจ้าจะเปรมปรีดิ์และเปี่ยมล้น เพราะความมั่งคั่งของทะเลจะเทออกมาให้เจ้า ทรัพย์สมบัติของบรรดาประชาชาติจะมายังเจ้า
\v 6 กองคาราวานอูฐจะห้อมล้อมเจ้า คือพวกอูฐจากมีเดียนและเอฟาห์ พวกเขาทุกคนจะมาจากเชบา พวกเขาจะนำทองคำและกำยานมา และจะร้องเพลงถึงความน่าสรรเสริญของพระยาห์เวห์
\s5
\p
\v 7 ฝูงแพะแกะทั้งหมดของเคดาร์จะถูกรวบรวมมายังเจ้า บรรดาแกะตัวผู้แห่งเนบาโยทจะนำมาใช้ตามความต้องการของเจ้า พวกมันจะเป็นเครื่องบูชาที่น่าพอใจบนแท่นบูชาของเรา และเราจะให้พระนิเวศที่สง่างามของเราได้รับเกียรติ
\v 8 พวกนี้เป็นใครที่บินมาเหมือนเมฆ และเหมือนนกพิราบทั้งหลายที่มายังที่พักอาศัยของพวกมัน?
\v 9 บรรดาแผ่นดินชายทะเลมองหาเรา และเรือทั้งหลายของทารชิชก็นำหน้า และนำบุตรชายทั้งหลายของเจ้ามาจากแดนไกล เงินและทองคำของพวกเขาก็มาพร้อมกับพวกเขาด้วย เพื่อพระนามของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า และเพื่อองค์บริสุทธิ์ของอิสราเอล เพราะพระองค์ทรงทำให้เจ้าได้รับเกียรติ
\s5
\p
\v 10 พวกบุตรชายของพวกคนต่างชาติจะสร้างกำแพงของเจ้าขึ้นใหม่ และบรรดากษัตริย์ของพวกเขาจะปรนนิบัติเจ้า แม้ว่าเราได้ลงโทษเจ้าเพราะความกริ้วของเรา แต่เราจะมีความกรุณาต่อเจ้าด้วยความโปรดปรานของเรา
\v 11 ประตูเมืองทั้งหลายของเจ้าจะยังคงเปิดอยู่ตลอดเวลา ประตูเหล่านั้นจะไม่ปิดทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อให้กษัตริย์ทั้งหลายได้นำความมั่งคั่งของบรรดาประชาชาติเข้ามา
\v 12 แท้จริงแล้ว บรรดาประชาชาติและราชอาณาจักรที่ไม่ปรนนิบัติเจ้าจะพินาศ ประชาชาติเหล่านั้นจะถูกทำลายสิ้น
\s5
\p
\v 13 ศักดิ์ศรีของเลบานอนจะมายังเจ้า รวมทั้งต้นสนสามใบ ต้นเฟอร์และต้นสนสามใบเนื้อแข็งด้วย เพื่อที่จะทำให้สถานนมัสการของเรางดงาม และเราจะทำให้สถานที่วางเท้าของเราได้รับเกียรติ
\v 14 พวกเขาจะมายังเจ้าและก้มกราบลง บุตรชายทั้งหลายของคนเหล่านั้นจะโน้มตัวลงคำนับเจ้า พวกเขาจะหมอบลงที่เท้าของเจ้า พวกเขาจะเรียกเจ้าว่านครแห่งพระยาห์เวห์ ศิโยนแห่งองค์บริสุทธิ์ของอิสราเอล
\v 15 แทนการที่เจ้ายังคงถูกทอดทิ้งและเกลียดชัง ไม่มีผู้ใดผ่านเข้ามายังเจ้า เราจะทำให้เจ้าเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจตลอดไปเป็นนิตย์ เป็นความชื่นบานจากคนรุ่นหนึ่งไปสู่คนอีกรุ่นหนึ่ง
\s5
\p
\v 16 เจ้าจะดื่มนมของบรรดาประชาชาติ และจะได้รับการเลี้ยงดูที่อกของกษัตริย์ทั้งหลาย เจ้าจะรู้ว่า เราคือพระยาห์เวห์ เป็นพระผู้ช่วยให้รอดของเจ้าและพระผู้ไถ่ของเจ้า องค์มหิทธิฤทธิ์ของยาโคบ
\v 17 เราจะนำทองคำมาแทนทองสัมฤทธิ์ เราจะนำเงินมาแทนเหล็ก จะนำทองสัมฤทธิ์มาแทนไม้ จะนำเหล็กมาแทนก้อนหิน เราจะตั้งสันติภาพเป็นบรรดาเจ้าเมืองของเจ้า และความยุติธรรมเป็นพวกผู้ปกครองของเจ้า
\v 18 จะไม่ได้ยินถึงความทารุณในแผ่นดินของเจ้าอีกต่อไป และไม่ได้ยินถึงการล้างผลาญ หรือการทำให้กระจัดกระจายไปในเขตแดนของเจ้า แต่เจ้าจะเรียกกำแพงของเจ้าว่าความรอด และเรียกประตูเมืองของเจ้าว่าการสรรเสริญ
\s5
\p
\v 19 ดวงอาทิตย์จะไม่เป็นความสว่างของเจ้าในตอนกลางวันอีกต่อไป อีกทั้งดวงจันทร์ก็จะไม่เป็นความสว่างสุกใสแก่เจ้าอีกต่อไป แต่พระยาห์เวห์จะทรงเป็นความสว่างของเจ้าตลอดไปเป็นนิตย์ และพระเจ้าของเจ้าจะทรงเป็นศักดิ์ศรีของเจ้า
\v 20 ดวงอาทิตย์ของเจ้าจะไม่ตกอีกต่อไป หรือดวงจันทร์ก็จะไม่ถอยกลับและหายไป เพราะพระยาห์เวห์จะทรงเป็นความสว่างของเจ้าตลอดไปเป็นนิตย์ และวันแห่งการไว้ทุกข์ของเจ้าจะสิ้นสุดไป
\v 21 ชนชาติของเจ้าจะชอบธรรม พวกเขาจะได้รับแผ่นดินเป็นกรรมสิทธิ์ตลอดไป กิ่งที่เราปลูก ผลงานแห่งมือของเราที่เราจะทำให้ได้รับเกียรติ
\v 22 ผู้เล็กน้อยจะกลายเป็นพัน และคนเล็กน้อยจะกลายเป็นประชาชาติที่เข้มแข็ง เมื่อถึงเวลา เราเองคือพระยาห์เวห์จะเร่งทำสิ่งเหล่านี้ให้สำเร็จโดยเร็ว
\s5
\c 61
\p
\v 1 พระวิญญาณของพระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอยู่เหนือข้าพเจ้า เพราะพระยาเวห์ทรงเจิมข้าพเจ้าไว้เพื่อประกาศข่าวดีแก่คนทุกข์ใจ พระองค์ทรงส่งข้าพเจ้าไปรักษาผู้ที่ชอกช้ำระกำใจ เพื่อประกาศอิสรภาพแก่พวกเชลย และเปิดเรือนจำให้แก่พวกคนที่ถูกจำจอง
\v 2 พระองค์ได้ทรงส่งข้าพเจ้าไปเพื่อประกาศปีแห่งความโปรดปรานของพระยาห์เวห์ และวันแห่งการแก้แค้นของพระเจ้าของเรา และปลอบโยนทุกคนที่เศร้าโศก
\v 3 พระองค์ได้ทรงส่งข้าพเจ้าไปเพื่อที่จะมอบให้พวกคนที่เศร้าโศกในศิโยน เพื่อให้มาลัยแทนขี้เถ้าแก่พวกเขา ให้น้ำมันแห่งความยินดีแทนที่ความเศร้าโศก ให้เสื้อคลุมแห่งการสรรเสริญแทนวิญญาณที่ท้อแท้ เพื่อจะเรียกพวกเขาว่าต้นโอ๊กแห่งความชอบธรรม ที่พระยาห์เวห์ทรงปลูกไว้เพื่อที่พระองค์จะทรงได้รับเกียรติ
\s5
\p
\v 4 พวกเขาจะสร้างสิ่งปรักหักพังโบราณขึ้นมาใหม่ พวกเขาจะฟื้นฟูที่ร้างเปล่าแต่เก่าก่อนขึ้น พวกเขาจะฟื้นฟูบรรดาเมืองที่ปรักหักพังขึ้นมา คือที่ร้างเปล่าแต่เก่าก่อนมาหลายชั่วอายุคนแล้ว
\v 5 พวกคนต่างชาติจะยืนและเลี้ยงฝูงแพะแกะของพวกเจ้า พวกบุตรชายของคนต่างชาติจะทำงานในทุ่งนาและสวนองุ่นของพวกเจ้า
\v 6 เจ้าจะได้รับการขนานนามว่าเป็นปุโรหิตของพระยาห์เวห์ พวกเขาจะเรียกเจ้าว่าบรรดาผู้รับใช้ของพระเจ้าของเรา เจ้าจะกินความมั่งคั่งของบรรดาประชาชาติ และเจ้าจะอวดในความร่ำรวยของพวกเขา
\s5
\p
\v 7 แทนความอับอายของพวกเจ้า เจ้าจะได้ส่วนแบ่งเป็นสองเท่า และแทนความอัปยศ พวกเขาจะเปรมปรีดิ์ในส่วนแบ่งของพวกเขา ดังนั้น พวกเขาจะมีส่วนแบ่งในแผ่นดินของพวกเขาเป็นสองเท่า ความชื่นบานเป็นนิตย์จะเป็นของพวกเขา
\v 8 เพราะเราคือพระยาห์เวห์ ผู้ที่รักความยุติธรรมและเกลียดชังการโจรกรรมและการอยุติธรรมที่ทารุณ เราจะตอบแทนพวกเขาอย่างสัตย์ซื่อและเราจะทำพันธสัญญานิรันดร์กับพวกเขา
\v 9 เชื้อสายของพวกเขาจะเป็นที่รู้จักท่ามกลางบรรดาประชาชาติ และลูกหลานของพวกเขาจะเป็นที่รู้จักท่ามกลางชนชาติทั้งหลาย ทุกคนที่เห็นพวกเขาจะจดจำพวกเขาได้ ว่าพวกเขาเป็นชนชาติที่พระยาห์เวห์ทรงอวยพร
\s5
\p
\v 10 ข้าพเจ้าจะเปรมปรีดิ์อย่างยิ่งในพระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าจะยินดีอย่างมากในพระเจ้าของข้าพเจ้า เพราะพระองค์ได้ทรงสวมข้าพเจ้าด้วยเสื้อผ้าแห่งความรอด พระองค์ได้ทรงสวมข้าพเจ้าด้วยเสื้อคลุมแห่งความชอบธรรม เหมือนกับเจ้าบ่าวประดับตนเองด้วยมาลัย และเหมือนเจ้าสาวที่ประดับตนเองด้วยอัญมณีของเธอ
\v 11 เพราะแผ่นดินโลกจะทำให้หน่อของมันงอกขึ้นมา และสวนที่ทำให้สิ่งที่ปลูกในนั้นงอกขึ้นมาอย่างไร พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าก็จะทรงทำให้ความชอบธรรมและการสรรเสริญงอกขึ้นมาต่อหน้าประชาชาติทั้งหมดอย่างนั้น
\s5
\c 62
\p
\v 1 เพราะเห็นแก่ศิโยน ข้าพเจ้าจะไม่เงียบเสียง และเพราะเห็นแก่กรุงเยรูซาเล็ม ข้าพเจ้าจะไม่นิ่งเงียบ จนกว่าความชอบธรรมของนครนี้จะออกมาอย่างสว่างสดใส และความรอดของนครนี้จะออกไปเหมือนคบเพลิง
\v 2 บรรดาประชาชาติจะเห็นความชอบธรรมของเจ้า และกษัตริย์ทั้งหมดจะเห็นสง่าราศีของเจ้า เขาจะเรียกเจ้าด้วยนามใหม่ที่พระยาห์เวห์ทรงเลือกให้
\v 3 เจ้าจะเป็นมงกุฎงามในพระหัตถ์ของพระยาห์เวห์ และเป็นราชมงกุฎในพระหัตถ์ของพระเจ้าของเจ้าด้วย
\s5
\p
\v 4 เจ้าจะไม่ถูกเรียกว่า "ผู้ถูกทอดทิ้ง" อีกต่อไป หรือแผ่นดินของเจ้าจะไม่ถูกเรียกว่า "ที่ทิ้งร้าง" อีกต่อไป แท้จริงแล้ว เจ้าจะถูกเรียกว่า "ความปีติยินดีของเราอยู่ในเธอ" และเรียกแผ่นดินของเจ้าว่า "แต่งงานแล้ว" เพราะพระยาห์เวห์ทรงปีติยินดีในเจ้า และแผ่นดินของเจ้าจะแต่งงาน
\v 5 แน่ทีเดียว ชายหนุ่มแต่งงานกับหญิงสาวอย่างไร บรรดาบุตรชายของเจ้าจะแต่งงานกับเจ้าอย่างนั้น และเจ้าบ่าวเปรมปรีดิ์ในเจ้าสาวของเขาอย่างไร พระเจ้าของเจ้าจะเปรมปรีดิ์ในเจ้าอย่างนั้น กรุงเยรูซาเล็มเอ๋ย
\v 6 ข้าพเจ้าได้ตั้งพวกคนยามไว้บนกำแพงของเจ้า พวกเขาจะไม่เงียบเสียงเลยไม่ว่าในตอนกลางวันหรือกลางคืน พวกเจ้าผู้คอยเตือนความจำของพระยาห์เวห์จะต้องไม่หยุดพัก
\s5
\p
\v 7 อย่ายอมให้พระองค์ทรงหยุดพักจนกว่าพระองค์จะทรงสถาปนากรุงเยรูซาเล็มขึ้นมาใหม่ และทำให้นครนั้นเป็นที่สรรเสริญในแผ่นดินโลก
\v 8 พระยาห์เวห์ได้ทรงปฏิญาณด้วยพระหัตถ์ขวาของพระองค์และด้วยพระกรที่ทรงอานุภาพของพระองค์ว่า "เราจะไม่ให้ข้าวของเจ้าเป็นอาหารแก่พวกศัตรูของเจ้าอีกต่อไปอย่างแน่นอน พวกคนต่างชาติจะไม่ดื่มเหล้าองุ่นใหม่ของเจ้า ซึ่งเจ้าได้ทำงานมานั้น
\v 9 เพราะพวกคนที่เก็บเกี่ยวข้าวจะได้กินข้าวและสรรเสริญพระยาห์เวห์ และพวกคนที่เก็บผลองุ่นจะได้ดื่มเหล้าองุ่นในลานสถานนมัสการบริสุทธิ์ของเรา"
\s5
\p
\v 10 จงผ่านเข้ามาเถิด จงผ่านประตูเข้ามา จงเตรียมทางไว้ให้ชนชาตินี้ จงสร้างขึ้นมา จงสร้างทางหลวง จงเก็บกวาดหินเหล่านั้นออกไปเสีย จงชูธงสัญญาณแก่บรรดาประชาชาติ
\v 11 ดูเถิด พระยาห์เวห์ทรงประกาศไปถึงสุดปลายแผ่นดินโลกว่า "จงกล่าวกับธิดาแห่งศิโยนว่า ดูเถิด พระผู้ช่วยให้รอดของเจ้ากำลังเสด็จมา ดูสิ รางวัลของพระองค์ก็อยู่กับพระองค์ และค่าตอบแทนของพระองค์จะไปอยู่ต่อพระพักตร์พระองค์"
\v 12 พวกเขาจะเรียกเจ้าว่า "ชนชาติบริสุทธิ์ ผู้ได้รับการไถ่ของพระยาห์เวห์ และเขาจะเรียกเจ้าว่า "น่าปรารถนา เมืองที่ไม่ถูกทอดทิ้ง"
\s5
\c 63
\p
\v 1 นี่ใครหนอที่มาจากเอโดม ผู้ที่สวมเสื้อผ้าสีแดงมาจากเมืองโบสราห์? ผู้นั้นเป็นใครหนอที่สวมเครื่องทรงของกษัตริย์ ผู้ที่ก้าวเดินมาอย่างมั่นใจเพราะอานุภาพอันยิ่งใหญ่ของพระองค์? นี่คือเราเอง ที่กล่าวด้วยความชอบธรรมและเต็มด้วยฤทธานุภาพที่สามารถช่วยให้รอดได้
\v 2 ทำไมฉลองพระองค์จึงเป็นสีแดง และทำไมเครื่องทรงเหล่านั้นจึงดูเหมือนว่าพระองค์ได้ทรงย่ำองุ่นในบ่อย่ำองุ่นมา?
\v 3 เราได้ย่ำองุ่นในบ่อย่ำองุ่นแต่เพียงผู้เดียว และไม่มีผู้ใดจากประชาชาติทั้งหลายได้อยู่ร่วมกับเราเลย เราได้ย่ำพวกเขาด้วยความโกรธของเรา และได้ย่ำพวกเขาด้วยความเกรี้ยวกราดของเรา โลหิตของพวกเขาก็เปรอะเปื้อนอยู่บนเสื้อผ้าของเรา และทำให้เสื้อผ้าของเราเลอะเทอะไปหมด
\s5
\p
\v 4 เพราะเราได้มองไปข้างหน้าถึงวันแห่งการแก้แค้นของเรา และปีแห่งการไถ่ของเราได้มาถึงแล้ว
\v 5 เราได้มองดู และไม่มีใครสักคนช่วยเหลือ เราได้ประหลาดใจที่ไม่มีใครช่วยเลย แต่แขนของเราเองจะนำชัยชนะมาให้เรา และความโกรธรุนแรงของเราก็ขับเคลื่อนเรา
\v 6 เราได้เหยียบย่ำชนชาติทั้งหลายด้วยความโกรธของเราและทำให้พวกเขามึนเมาด้วยความพิโรธของเรา และเราได้เทโลหิตของพวกเขาลงบนแผ่นดินโลก
\s5
\p
\v 7 ข้าพเจ้าจะบอกถึงบรรดากิจการแห่งความสัตย์ซื่อแห่งพันธสัญญาของพระยาห์เวห์ พระราชกิจของพระยาห์เวห์อันสมควรแก่การสรรเสริญ ข้าพเจ้าจะบอกถึงทุกสิ่งที่พระยาห์เวห์ได้ทรงกระทำเพื่อเรา และความดีอันใหญ่ยิ่งของพระองค์ที่มีต่อวงศ์วานของอิสราเอล พระองค์ได้ทรงสำแดงพระกรุณานี้ต่อพวกเรา เพราะเหตุพระเมตตาของพระองค์ และพระราชกิจความสัตย์ซื่อแห่งพันธสัญญามากมาย
\v 8 เพราะพระองค์ได้ตรัสว่า "เพราะพวกเขาเป็นชนชาติของเราอย่างแน่นอน บุตรทั้งหลายผู้ที่ไม่ทรยศ" พระองค์ได้ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของพวกเขา
\v 9 พระองค์ทรงเป็นทุกข์ เนื่องจากความทุกข์ยากลำบากทั้งสิ้นของพวกเขาด้วย และทูตสวรรค์จากเบื้องพระพักตร์ของพระองค์ได้ช่วยพวกเขาให้รอด พระองค์ได้ทรงช่วยพวกเขาให้รอดด้วยความรักและพระเมตตาของพระองค์ และพระองค์ทรงยกชูพวกเขาขึ้นและทรงอุ้มพวกเขาให้ผ่านพ้นมาได้ตลอดสมัยโบราณ
\s5
\p
\v 10 แต่พวกเขาได้ทรยศและทำให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์ทรงเสียพระทัย ดังนั้น พระองค์จึงทรงกลายเป็นศัตรูของพวกเขาและสู้รบกับพวกเขา
\v 11 ประชากรของพระองค์ได้ระลึกถึงโมเสสในสมัยโบราณ พวกเขาได้กล่าวว่า "พระเจ้า ผู้ได้ทรงนำพวกเขาขึ้นมาจากทะเลพร้อมกับพวกผู้เลี้ยงฝูงแกะของพระองค์ทรงอยู่ที่ไหน? พระเจ้าผู้ทรงใส่วิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์ไว้ท่ามกลางพวกเขา ทรงอยู่ที่ไหน?
\v 12 พระเจ้าผู้ได้ทรงทำให้ฤทธานุภาพที่น่ายกย่องของพระองค์ไปพร้อมกับมือขวาของโมเสสอยู่ที่ไหน? และผู้ทรงแยกน้ำออกต่อหน้าพวกเขา เพื่อทำให้พระนามนิรันดร์ของพระองค์เองทรงอยู่ที่ไหน?
\s5
\p
\v 13 พระเจ้าทรงอยู่ที่ไหน? ผู้ได้ทรงนำพวกเขาผ่านน้ำลึกมาได้ เหมือนกับม้าที่วิ่งอยู่บนแผ่นดินที่ราบเรียบ พวกเขาไม่สะดุดเลย
\v 14 เหมือนฝูงสัตว์ที่ลงไปยังหุบเขาฉันใด พระวิญญาณของพระยาห์เวห์ได้ทรงให้พวกเขาพักสงบฉันนั้น ดังนั้น พระองค์จึงทรงนำชนชาติของพระองค์ เพื่อทำให้พระนามของพระองค์เองเป็นที่สรรเสริญ
\v 15 ขอทรงมองลงมาจากฟ้าสวรรค์และทรงใส่พระทัยจากที่ประทับบริสุทธิ์และรุ่งโรจน์ของพระองค์ กิจการที่ทรงทำด้วยความกระตือรือร้นและอานุภาพของพระองค์อยู่ที่ไหน? พระราชกิจแห่งความสงสารและพระกรุณาของพระองค์ได้ถูกยึดไปจากข้าพระองค์ทั้งหลาย
\s5
\p
\v 16 เพราะพระองค์ทรงเป็นพระบิดาของข้าพระองค์ทั้งหลาย แม้ว่าอับราฮัมไม่รู้จักพวกข้าพระองค์ และอิสราเอลจำพวกข้าพระองค์ไม่ได้ ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์ทรงเป็นพระบิดาของข้าพระองค์ทั้งหลาย พระนามของพระองค์ตั้งแต่สมัยโบราณคือ 'พระผู้ไถ่ของพวกเรา'
\v 17 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ทำไมพระองค์จึงทรงทำให้เราหลงไปจากบรรดาพระมรรคาของพระองค์ และทำให้ใจของพวกข้าพระองค์แข็งกระด้างจนพวกข้าพระองค์ไม่เชื่อฟังพระองค์? ขอทรงกลับมาเพราะเห็นแก่บรรดาผู้รับใช้ของพระองค์ คือเผ่าทั้งหลายอันเป็นมรดกของพระองค์
\s5
\p
\v 18 ชนชาติของพระองค์ได้ครอบครองสถานบริสุทธิ์ของพระองค์ชั่วเวลาสั้นๆ แต่แล้วพวกศัตรูของพวกข้าพระองค์ก็เหยียบย่ำสถานที่นั้น
\v 19 ข้าพระองค์ทั้งหลายได้กลายเป็นเหมือนกับคนเหล่านั้นผู้ที่พระองค์ไม่เคยทรงปกครอง เหมือนกับคนเหล่านั้นผู้ซึ่งไม่เคยถูกเรียกโดยพระนามของพระองค์"
\s5
\c 64
\p
\v 1 "โอ ถ้าพระองค์ได้ทรงแหวกท้องฟ้าและเสด็จลงมา ภูเขาทั้งหลายก็จะสั่นสะเทือนเฉพาะพระพักตร์พระองค์
\v 2 เหมือนตอนที่ไฟติดกองไม้ หรือตอนที่ไฟทำให้น้ำเดือด โอ เพื่อให้พวกศัตรูจะได้รู้จักพระนามของพระองค์ เพื่อบรรดาประชาชาติจะตัวสั่นเฉพาะพระพักตร์ของพระองค์
\v 3 เมื่อก่อนนี้ เมื่อพระองค์ได้ทรงทำสิ่งอัศจรรย์ต่างๆ ที่พวกข้าพระองค์คาดไม่ถึง พระองค์ได้เสด็จลงมา และภูเขาทั้งหลายก็สั่นสะเทือนเฉพาะพระพักตร์พระองค์
\s5
\p
\v 4 ตั้งแต่สมัยโบราณมา ไม่มีใครเคยได้ยินหรือรับรู้ หรือเคยได้เห็นพระเจ้าอื่นใดด้วยตานอกเหนือจากพระองค์ ผู้ทรงกระทำสิ่งต่างๆ เพื่อผู้ที่รอคอยพระองค์
\v 5 พระองค์เสด็จมาช่วยคนเหล่านั้นผู้ที่ปีติยินดีในการทำสิ่งที่ชอบธรรม คนเหล่านั้นที่ระลึกถึงทางของพระองค์และเชื่อฟังพระองค์ พระองค์ได้ทรงพิโรธเมื่อพวกข้าพระองค์ได้ทำบาป พวกข้าพระองค์จะได้รับการช่วยกู้ในทางของพระองค์เสมอ
\v 6 เพราะพวกข้าพระองค์ทุกคนเป็นเหมือนผู้ที่เป็นมลทิน และการกระทำชอบธรรมทุกอย่างของพวกข้าพระองค์เป็นเหมือนผ้าขี้ริ้วสกปรก พวกข้าพระองค์ทุกคนได้เหี่ยวแห้งไปเหมือนใบไม้ ความผิดบาปทั้งหลายของพวกข้าพระองค์เป็นเหมือนลมที่หอบพวกข้าพระองค์ไป
\s5
\p
\v 7 ไม่มีผู้ใดร้องทูลต่อพระนามของพระองค์ ผู้ที่พยายามที่จะยึดพระองค์ไว้ เพราะพระองค์ทรงซ่อนพระพักตร์ของพระองค์จากพวกข้าพระองค์ และทำให้พวกข้าพระองค์มลายไปในมือของความผิดบาปของพวกข้าพระองค์
\v 8 ข้าแต่พระยาห์เวห์ แต่พระองค์ทรงเป็นพระบิดาของข้าพระองค์ทั้งหลาย พวกข้าพระองค์เป็นดินเหนียว พระองค์ทรงเป็นช่างปั้น และพวกข้าพระองค์ทุกคนเป็นผลงานแห่งฝีพระหัตถ์ของพระองค์
\v 9 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขออย่ากริ้วนักเลย หรือขออย่าทรงจดจำความบาปของพวกข้าพระองค์อยู่เสมอ ขอทรงโปรดทอดพระเนตรพวกข้าพระองค์ทุกคนว่าเป็นชนชาติของพระองค์
\s5
\p
\v 10 เมืองบริสุทธิ์ทั้งหลายของพระองค์กลายเป็นถิ่นทุรกันดาร ศิโยนก็กลายเป็นถิ่นทุรกันดาร กรุงเยรูซาเล็มกลายเป็นที่ร้างเปล่า
\v 11 พระวิหารบริสุทธิ์และงดงามของพวกข้าพระองค์ ที่ซึ่งบรรพบุรุษของพวกข้าพระองค์ได้สรรเสริญพระองค์ได้ถูกไฟเผาทำลาย และทุกสิ่งที่เป็นที่รักยิ่งก็เป็นซากปรักหักพัง
\v 12 ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์ยังทรงยับยั้งอยู่ได้อย่างไร? พระองค์ยังทรงเงียบและทำให้พวกข้าพระองค์ได้รับความอัปยศตลอดไปได้อย่างไร?
\s5
\c 65
\p
\v 1 "เราพร้อมแล้วที่จะให้พวกคนที่ไม่ได้ขอนั้นแสวงหาได้ เราพร้อมแล้วที่จะให้พวกคนที่ไม่ได้เสาะหานั้นได้พบ เรากล่าวว่า 'เราอยู่ที่นี่ เราอยู่ที่นี่' ต่อประชาชาติที่ไม่ได้เรียกตามนามของเรา
\v 2 เราได้ยื่นมือของเราออกไปทั้งวันแก่ชนชาติที่ดื้อรั้น ผู้ที่ดำเนินในทางที่ไม่ดี ผู้ที่ดำเนินตามความคิดและแผนงานของตนเอง
\s5
\p
\v 3 พวกเขาเป็นชนชาติที่ทำให้เราขุ่นเคืองอยู่เรื่อยไป คือการถวายเครื่องบูชาทั้งหลายในสวนต่างๆ และเผาเครื่องหอมบนกองอิฐ
\v 4 พวกเขานั่งอยู่ท่ามกลางหลุมฝังศพและเฝ้ามองตลอดคืน และกินเนื้อหมูพร้อมกับน้ำแกงของเนื้อที่น่ารังเกียจในจานของพวกเขา
\v 5 พวกเขากล่าวว่า 'จงยืนอยู่ห่างๆ อย่าเข้ามาใกล้ข้า เพราะข้าบริสุทธิ์กว่าเจ้า' สิ่งเหล่านี้เป็นควันในจมูกของเรา เป็นไฟที่ลุกไหม้อยู่วันยังค่ำ
\s5
\p
\v 6 ดูเถิด มีคำที่เขียนไว้ต่อหน้าเราว่า เราจะไม่นิ่งเงียบอีกต่อไป เพราะเราจะแก้แค้นพวกเขา เราจะตอบสนองพวกเขาไว้ในตักของพวกเขา
\v 7 เพราะความบาปทั้งหลายของพวกเขา และความบาปทั้งหลายของบรรดาบรรพบุรุษของพวกเขา" พระยาห์เวห์ตรัสว่า "เราจะตอบสนองพวกเขาสำหรับเครื่องหอมบูชาบนภูเขาทั้งหลายและสำหรับการกล่าวหยาบช้าต่อเราบนเนินเขาทั้งหลาย ด้วยเหตุนี้ เราจะตวงการกระทำในอดีตของพวกเขาไว้ในตักของพวกเขา"
\s5
\p
\v 8 พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า "เหมือนน้ำองุ่นพบได้ในพวงองุ่น เมื่อคนหนึ่งกล่าวว่า 'อย่าทำลายมันเลย เพราะยังมีสิ่งที่ดีในตัวมันอยู่' ฉันใด นี่เป็นสิ่งที่เราจะทำเพราะเห็นแก่บรรดาผู้รับใช้ของเรา เราก็จะไม่ทำลายพวกเขาจนหมดสิ้นฉันนั้น
\v 9 เราจะนำเชื้อสายออกจากยาโคบ และพวกคนจากยูดาห์ผู้ที่จะครอบครองภูเขาทั้งหลายของเรา ผู้ที่เราได้เลือกสรรไว้จะได้รับแผ่นดินเป็นกรรมสิทธิ์ และบรรดาผู้รับใช้ของเราจะอาศัยอยู่ที่นั่น
\s5
\p
\v 10 เมืองชาโรนจะเป็นทุ่งหญ้าสำหรับฝูงแพะแกะ และหุบเขาอาโคร์จะเป็นที่พักของฝูงสัตว์ เพื่อชนชาติของเราผู้ที่แสวงหาเรา
\v 11 แต่พวกเจ้าผู้ที่ได้ละทิ้งพระยาห์เวห์ ผู้ที่ลืมภูเขาบริสุทธิ์ของเรา ผู้ที่จัดงานเลี้ยงให้แก่พระชะตา และเติมเหล้าองุ่นผสมจนเต็มแก้วให้แก่พระที่เรียกว่า พระลิขิต
\v 12 เราจะลิขิตพวกเจ้าให้แก่ดาบ และพวกเจ้าทุกคนจะหมอบลงต่อผู้สังหาร เพราะเมื่อเราได้เรียก พวกเจ้าก็ไม่ตอบ เมื่อเราได้พูด พวกเจ้าก็ไม่ฟัง แต่พวกเจ้าทำสิ่งที่ชั่วร้ายในสายตาของเรา และเลือกที่จะทำสิ่งที่ทำให้เราไม่พอใจ"
\s5
\p
\v 13 พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า "ดูเถิด บรรดาผู้รับใช้ของเราจะได้กิน แต่พวกเจ้าจะหิวโหย บรรดาผู้รับใช้ของเราจะได้ดื่ม แต่พวกเจ้าจะกระหาย ดูเถิด บรรดาผู้รับใช้ของเราจะเปรมปรีดิ์ แต่พวกเจ้าจะได้รับความอับอาย
\v 14 ดูเถิด บรรดาผู้รับใช้ของเราจะโห่ร้องด้วยความยินดี เพราะใจที่ยินดี แต่พวกเจ้าจะร้องไห้เพราะใจที่เจ็บปวด และจะคร่ำครวญเพราะวิญญาณที่ชอกช้ำ
\v 15 พวกเจ้าจะละทิ้งชื่อของพวกเจ้าไว้เบื้องหลังเป็นคำแช่งสาปแก่พวกคนที่เลือกไว้ของเราที่จะพูดว่า เราเอง พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าจะฆ่าพวกเจ้า เราจะเรียกบรรดาผู้รับใช้ของเราด้วยนามอื่น
\s5
\p
\v 16 ผู้ใดที่ออกเสียงอวยพรบนแผ่นดินโลกจะได้รับพระพรจากเราผู้เป็นพระเจ้าเที่ยงแท้ ผู้ใดสาบานบนแผ่นดินโลก เราผู้เป็นพระเจ้าเที่ยงแท้ก็จะปฏิญาณ เพราะความทุกข์ยากแต่ก่อนจะถูกลืมไป เพราะสิ่งเหล่านั้นจะถูกซ่อนไว้จากสายตาของเรา
\v 17 เพราะฉะนั้น ดูสิ เราจะสร้างท้องฟ้าใหม่และแผ่นดินโลกใหม่ และจะไม่มีการจดจำหรือระลึกถึงสิ่งเก่าก่อน
\v 18 แต่พวกเจ้าจะยินดีและเปรมปรีดิ์เป็นนิตย์ในสิ่งที่เราจะสร้างขึ้น ดูสิ เราจะสร้างกรุงเยรูซาเล็มให้เป็นความเปรมปรีดิ์ และสร้างประชากรของนครนั้นเป็นความชื่นชมยินดี
\s5
\p
\v 19 เราจะเปรมปรีดิ์เหนือกรุงเยรูซาเล็มและจะยินดีเหนือชนชาติของเรา จะไม่ได้ยินเสียงการคร่ำครวญและการร้องไห้ด้วยความทุกข์ใจในนครนั้นอีกต่อไป
\v 20 จะไม่มีเด็กทารกที่มีชีวิตเพียงไม่กี่วันอยู่ที่นั่นอีกต่อไป หรือคนแก่จะไม่ตายก่อนครบกำหนดเวลาของเขา ผู้ที่ตายเมื่ออายุร้อยปีก็จะถือว่าเป็นคนหนุ่ม ผู้ใดที่อายุไม่ถึงร้อยปีก็จะถือเป็นคนที่ถูกแช่งสาป
\s5
\p
\v 21 พวกเขาจะสร้างบ้านเรือนและอาศัยอยู่ในนั้น และพวกเขาจะปลูกสวนองุ่นและกินผลของมัน
\v 22 พวกเขาจะไม่สร้างบ้านและคนอื่นอาศัยอยู่อีกต่อไป พวกเขาจะไม่ปลูกและคนอื่นกิน เพราะอายุของชนชาติของเราจะเป็นเหมือนอายุของต้นไม้ ผู้ที่เลือกสรรของเราจะใช้ผลงานของมือของพวกเขาไปยาวนาน
\v 23 พวกเขาจะไม่ตรากตรำโดยเปล่าประโยชน์ หรือไม่คลอดบุตรที่ทำให้ผิดหวัง เพราะพวกเขาเป็นบุตรหลานของผู้ที่รับพระพรจากพระยาห์เวห์ และเชื้อสายของพวกเขาก็อยู่กับพวกเขา
\s5
\p
\v 24 ก่อนที่พวกเขาจะร้องเรียก เราจะตอบ และขณะที่พวกเขายังคงพูดอยู่ เราจะฟัง
\v 25 หมาป่าและลูกแกะจะหากินอยู่ด้วยกัน และสิงโตจะกินฟางเหมือนกับวัว แต่ผงคลีดินจะเป็นอาหารของงู พวกมันจะไม่ทำร้ายหรือทำลายกันอีกต่อไปทั่วทั้งภูเขาบริสุทธิ์ของเรา" พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้
\s5
\c 66
\p
\v 1 พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า "ฟ้าสวรรค์คือบัลลังก์ของเรา และแผ่นดินโลกเป็นแท่นวางเท้าของเรา แล้วพระนิเวศที่พวกเจ้าจะสร้างให้แก่เราอยู่ที่ไหน? สถานที่ที่เราจะพำนักได้อยู่ที่ไหน?
\v 2 มือของเราได้สร้างสิ่งทั้งหมดนี้ นั่นคือการที่สิ่งเหล่านี้ได้เกิดขึ้นมา นี่คือคำประกาศของพระยาห์เวห์ คนนี้แหละที่เรายอมรับ คือผู้ที่มีจิตวิญญาณที่แตกสลายและสำนึกผิด และผู้ที่ตัวสั่นต่อถ้อยคำของเรา
\v 3 ผู้ที่ฆ่าวัวก็ฆ่าคนด้วย ผู้ที่ถวายบูชาลูกแกะก็หักคอสุนัขด้วย ผู้ที่ถวายเครื่องธัญบูชาก็ถวายเลือดหมูด้วย ผู้ที่ถวายอนุสรณ์เครื่องหอมก็อวยพรความชั่วร้ายด้วย พวกเขาได้เลือกตามทางของตนเอง และพวกเขาก็ยินดีในสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนของพวกเขา
\s5
\p
\v 4 เราจะเลือกการลงโทษของพวกเขาเองในวิธีเดียวกัน เราจะนำสิ่งที่พวกเขากลัวมาตกบนพวกเขา เพราะเมื่อเราร้องเรียกแล้ว ไม่มีใครตอบ เมื่อเราพูดแล้ว ไม่มีใครฟัง พวกเขาได้ทำสิ่งชั่วร้ายในสายตาของเรา และเลือกทำสิ่งที่ทำให้เราไม่พอใจ"
\v 5 จงฟังพระวจนะของพระยาห์เวห์ พวกเจ้าที่ตัวสั่นต่อถ้อยคำของพระองค์ "บรรดาพี่น้องของพวกเจ้าผู้ที่เกลียดชังและแยกพวกเจ้าออกไปเพราะเห็นแก่นามของเราได้กล่าวว่า 'ขอพระยาห์เวห์ทรงได้รับเกียรติ แล้วพวกเราจะเห็นความชื่นบานของพวกเจ้า' แต่พวกเขาจะได้รับความอับอาย
\v 6 เสียงอึกทึกแห่งสงครามออกมาจากเมืองนั้น เสียงมาจากพระวิหาร เสียงของพระยาห์เวห์ที่กำลังทรงแก้แค้นพวกศัตรูของพระองค์
\s5
\p
\v 7 ก่อนที่เธอจะเจ็บครรภ์ เธอก็คลอดบุตร ก่อนที่ความเจ็บปวดมาถึงเธอ เธอก็คลอดบุตรชายคนหนึ่ง
\v 8 ใครเคยได้ยินเรื่องเช่นนี้? ใครเคยเห็นเรื่องเช่นนี้? แผ่นดินจะเกิดขึ้นในวันเดียวหรือ? ประชาชาติหนึ่งจะถูกสถาปนาขึ้นได้ในชั่วครู่เดียวหรือ? แต่ทันทีที่ศิโยนเริ่มเจ็บครรภ์ เธอก็คลอดบุตรทั้งหลายของเธอ
\v 9 เรานำทารกมาถึงกำหนดคลอด และจะไม่ยอมให้เด็กคนนั้นคลอดได้หรือ? พระยาห์เวห์ตรัสถามดังนี้ หรือเรานำเด็กมาถึงเวลาคลอด แล้วจะยับยั้งไว้ได้หรือ? พระยาห์เวห์ตรัสถามดังนี้
\s5
\p
\v 10 จงเปรมปรีดิ์กับกรุงเยรูซาเล็มและยินดีกับเธอ พวกเจ้าทุกคนผู้รักเธอ จงเปรมปรีดิ์กับเธอ พวกเจ้าทุกคนที่ไว้ทุกข์ให้กับเธอ
\v 11 เพราะพวกเจ้าจะได้รับการเลี้ยงดูและอิ่มใจ พวกเจ้าจะได้รับการปลอบโยนอยู่กับอกของเธอ เพื่อพวกเจ้าจะดื่มสิ่งเหล่านั้นอย่างเต็มที่ และปีติยินดีกับสง่าราศีอย่างมากมายของเธอ
\v 12 พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า "เราจะขยายความเจริญรุ่งเรืองมาเหนือเธอเหมือนกับแม่น้ำ และทรัพย์สมบัติของบรรดาประชาชาติมาเหมือนธารน้ำที่ไหลล้น พวกเจ้าจะได้รับการเลี้ยงดูอยู่ข้างเธอ และถูกอุ้มไว้ในอ้อมแขนของเธอ และเขย่าอยู่บนเข่าของเธอ
\s5
\p
\v 13 มารดาปลอบโยนบุตรของตนฉันใด เราก็จะปลอบโยนพวกเจ้าฉันนั้น และพวกเจ้าจะได้รับการปลอบโยนในกรุงเยรูซาเล็ม"
\v 14 พวกเจ้าจะเห็นสิ่งนี้ และใจของพวกเจ้าจะเปรมปรีดิ์ และกระดูกของพวกเจ้าจะงอกขึ้นมาเหมือนหญ้าอ่อน พระหัตถ์ของพระยาห์เวห์จะทำให้บรรดาผู้รับใช้ของพระองค์ได้รู้จัก แต่พระองค์จะทรงสำแดงพระพิโรธของพระองค์ต่อพวกศัตรูของพระองค์
\v 15 เพราะดูเถิด พระยาห์เวห์จะเสด็จมาด้วยไฟ และบรรดารถรบของพระองค์จะมาเหมือนลมพายุ เพื่อนำความร้อนแรงแห่งพระพิโรธและการกำราบของพระองค์มาด้วยเปลวไฟ
\s5
\p
\v 16 เพราะพระยาห์เวห์ทรงทำการพิพากษามนุษย์ด้วยไฟและด้วยพระแสงของพระองค์ พวกคนที่พระยาห์เวห์ทรงสังหารจะมีมากมาย
\v 17 พวกเขาชำระตนเองและทำให้ตนเองบริสุทธิ์ เพื่อที่พวกเขาจะเข้าไปในสวนเหล่านั้นได้ เพื่อติดตามคนที่อยู่ท่ามกลางพวกคนที่กินเนื้อหมูและสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนอย่างเช่นหนู "พวกเขาจะมาถึงจุดจบ นี่เป็นคำประกาศของพระยาห์เวห์
\v 18 เพราะเรารู้การกระทำและความคิดของพวกเขา เวลานั้นจะมาถึงเมื่อเราจะรวบรวมทุกประชาชาติและทุกภาษา พวกเขาจะมาและจะเห็นพระสิริของเรา
\s5
\p
\v 19 เราจะตั้งหมายสำคัญอันยิ่งใหญ่ไว้ท่ามกลางพวกเขา แล้วเราจะส่งพวกคนที่รอดชีวิตจากพวกเขาไปยังบรรดาประชาชาติ คือไปยังทารชิช พูด และลูด บรรดานักธนูผู้ที่เหนี่ยวคันธนูของพวกเขา ไปยังทูบัล ยาวาน และไปยังแผ่นดินชายทะเลที่ห่างไกล ที่ซึ่งพวกเขายังไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับเราหรือได้เห็นพระสิริของเรา พวกเขาจะประกาศพระสิริของเราท่ามกลางบรรดาประชาชาติ
\v 20 พวกเขาจะนำพี่น้องทั้งหมดของพวกเจ้าทั้งหมดกลับมาจากทุกประชาชาติมาเป็นเครื่องบูชาแด่พระยาห์เวห์ พวกเขาจะมาโดยม้าและโดยรถม้า โดยเกวียนประทุน โดยล่อ และโดยอูฐทั้งหลาย มายังกรุงเยรูซาเล็มภูเขาบริสุทธิ์ของเรา พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ เพราะชนชาติอิสราเอลจะนำเครื่องธัญบูชาใส่ในภาชนะที่สะอาดมายังพระนิเวศของพระยาห์เวห์
\v 21 เราจะเลือกบางคนในคนเหล่านี้มาเป็นพวกปุโรหิตและพวกเลวี พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้
\s5
\p
\v 22 เพราะท้องฟ้าใหม่และแผ่นดินโลกใหม่ซึ่งเราจะสร้างขึ้นจะดำรงอยู่ต่อหน้าเราฉันใด เชื้อสายของพวกเจ้าจะดำรงอยู่ และชื่อของพวกเจ้าจะดำรงอยู่ฉันนั้น นี่เป็นคำประกาศของพระยาห์เวห์
\v 23 จากเดือนหนึ่งถึงเดือนต่อไป และจากวันสะบาโตหนึ่งถึงวันสะบาโตต่อไป ทุกคนจะมาและหมอบลงต่อเรา พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้
\v 24 พวกเขาจะออกไปและเห็นศพของพวกคนผู้ที่กบฏต่อเรา เพราะหนอนที่กัดกินพวกเขาจะไม่ตายไป และไฟที่เผาผลาญพวกเขาจะไม่ดับ และมันจะเป็นที่น่าสะอิดสะเอียนต่อมนุษย์ทุกคน"