th_ulb/18-JOB.usfm

1532 lines
310 KiB
Plaintext

\id JOB Unlocked Literal Bible
\ide UTF-8
\h JOB
\toc1 Job
\toc2 Job
\toc3 job
\mt1 JOB
\s5
\c 1
\p
\v 1 มีชายคนหนึ่งอาศัยอยู่ในดินแดนอูส ชื่อของเขาคือโยบ โยบเป็นคนเที่ยงตรงและไม่มีที่ติ เขาเป็นคนที่ยำเกรงพระเจ้าและหันจากความชั่ว
\v 2 เขามีบุตรชายเจ็ดคนและบุตรหญิงสามคนที่ถือกำเนิดจากเขา
\v 3 เขาได้ครอบครองฝูงแกะเจ็ดพันตัว อูฐสามพันตัว วัวห้าร้อยคู่ และฝูงลาห้าร้อยตัว และเขามีทาสอยู่ภายใต้จำนวนมากมาย เขาเป็นผู้ชายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในท่ามกลางบรรดาชาวตะวันออก
\s5
\p
\v 4 ในวันกำหนดของบุตรชายแต่ละคน เขาจะจัดงานเลี้ยงในบ้านของเขา พวกเขาได้เชิญและเรียกน้องสาวทั้งสามคนของพวกเขามาเพื่อกินและดื่มร่วมกันกับพวกเขา
\v 5 เมื่อวันงานเลี้ยงเหล่านั้นผ่านไป โยบจะเชิญพวกเขามาและชำระพวกเขาให้บริสุทธิ์ โยบจะลุกขึ้นแต่เช้าและถวายเครื่องเผาบูชาเพื่อบุตรของเขาแต่ละคน เพราะเขาได้พูดว่า "พวกบุตรของข้าพเจ้าอาจทำบาปและแช่งด่าพระเจ้าในใจของพวกเขา" โยบได้ทำสิ่งนี้เสมอ
\s5
\p
\v 6 แล้วมาถึงวันหนึ่งเมื่อบรรดาบุตรชายของพระเจ้าได้มาปรากฎตัวต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์ ซาตานก็ได้เข้ามาพร้อมกับพวกเขาด้วย
\v 7 พระยาห์เวห์ตรัสแก่ซาตานว่า "เจ้ามาจากที่ไหนหรือ?" แล้วซาตานทูลตอบพระยาห์เวห์และพูดว่า "พเนจรไปบนแผ่นดินโลก จากไปๆ มาๆ บนแผ่นดินโลก"
\v 8 พระยาห์เวห์ตรัสแก่ซาตานว่า "เจ้าเห็นโยบผู้รับใช้ของเราไหม? เพราะไม่มีใครบนแผ่นดินโลกที่เป็นเหมือนเขา เขาเป็นคนเที่ยงตรงและไม่มีที่ติ เป็นคนที่ยำเกรงพระเจ้าและหันจากความชั่ว"
\s5
\p
\v 9 แล้วซาตานทูลตอบพระยาห์เวห์และพูดว่า "โยบยำเกรงพระเจ้าโดยปราศจากเหตุผลอย่างนั้นหรือ?
\v 10 ไม่ใช่เพราะพระองค์ทรงกั้นอาณาเขตล้อมรอบเขา บ้านของเขา และล้อมรอบเขาทุกด้านอย่างนั้นหรือ? พระองค์ทรงอวยพรการงานแห่งน้ำมือของเขา ฝูงสัตว์ของเขา ให้มีความเจริญขึ้นในดินแดนนั้น
\v 11 แต่เวลานี้ขอพระองค์ทรงยื่นพระหัตถ์ของพระองค์และแตะต้องทุกสิ่งที่เขามี และดูว่าเขาจะแช่งด่าพระองค์ต่อหน้าพระพักตร์พระองค์หรือไม่"
\s5
\p
\v 12 พระยาห์เวห์ตรัสแก่ซาตานว่า "ดูเถิดทุกสิ่งที่เขามีก็อยู่ในมือของเจ้า จงเพียงแค่ต่อสู้เขาและห้ามยื่นมือของเจ้าแตะต้องเขา" แล้วซาตานจึงไปจากพระพักตร์ของพระยาห์เวห์
\v 13 แล้วมาถึงวันหนึ่ง บรรดาบุตรชายและบุตรหญิงของโยบกำลังกินและดื่มเหล้าองุ่นในบ้านพี่ชายคนโตของพวกเขา
\v 14 มีผู้สื่อสารคนหนึ่งมาหาโยบและพูดว่า "วัวทั้งหลายที่กำลังไถนาและฝูงลาที่กำลังกินอาหารอยู่ข้างๆ ฝูงวัวนั้น
\v 15 คนเสบาได้มาโจมตีและเอาพวกมันไป ส่วนพวกทาสทั้งหลาย คนเสบาได้ฆ่าพวกเขาด้วยคมดาบ มีข้าพเจ้าคนเดียวที่หนีรอดพ้นมาบอกท่านได้"
\s5
\p
\v 16 ในขณะที่เขากำลังพูดอยู่นั้น ก็มีอีกคนหนึ่งเข้ามาและพูดว่า "ไฟของพระเจ้าลงมาจากท้องฟ้าและเผาไหม้ฝูงแกะและบรรดาทาสทั้งหลาย มีข้าพเจ้าเพียงคนเดียวที่หนีรอดพ้นมาบอกท่าน"
\v 17 ในขณะที่เขากำลังพูดอยู่นั้น ก็มีอีกคนหนึ่งเข้ามาและพูดว่า "คนเคลเดียได้ตั้งเป็นสามกลุ่ม เข้าโจมตีฝูงอูฐ และเอาพวกมันไป สำหรับพวกทาสทั้งหลาย คนเคลเดียได้ฆ่าพวกเขาด้วยคมดาบ มีข้าพเจ้าเพียงคนเดียวที่หนีรอดพ้นมาบอกท่าน"
\v 18 ในขณะที่เขากำลังพูดอยู่นั้น ก็มีอีกคนหนึ่งเข้ามาและพูดว่า "บรรดาบุตรชายและบุตรหญิงของท่านที่กำลังกินและดื่มเหล้าองุ่นในบ้านของพี่ชายคนโตของเขานั้น
\v 19 มีลมแรงกล้าพัดมาจากถิ่นทุรกันดารและปะทะบ้านหลังนั้นทั้งสี่ด้าน จนบ้านพังล้มทับคนหนุ่มสาวทั้งหลาย มีเพียงข้าพเจ้าคนเดียวที่หนีรอดพ้นมาบอกท่าน"
\s5
\p
\v 20 แล้วโยบจึงลุกขึ้น ฉีกเสื้อคลุมของเขา โกนศีรษะ ซบหน้าลงบนดิน และนมัสการพระเจ้า
\v 21 เขาพูดว่า "ข้าพเจ้าเป็นคนตัวเปล่าเมื่อข้าพเจ้าออกมาจากครรภ์มารดาของข้าพเจ้า และข้าพเจ้าจะเป็นคนตัวเปล่าเมื่อข้าพเจ้ากลับไปที่นั่น คือพระยาห์เวห์ผุู้ประทานให้ และคือพระยาห์เวห์ผู้ทรงเอาคืนไป ขอสาธุการพระนามของพระยาห์เวห์"
\v 22 ในเหตุการณ์ทั้งหมดเหล่านี้ โยบไม่ได้ทำบาป หรือไม่ได้กล่าวโทษพระเจ้าว่าทรงกระทำผิดเลย
\s5
\c 2
\p
\v 1 แล้วก็ถึงวันที่บรรดาบุตรชายของพระเจ้าได้มาปรากฎตัวต่อหน้าพระพักตร์ของพระยาห์เวห์ ซาตานก็ได้มาปรากฎตัวพร้อมกันกับพวกเขาต่อหน้าพระพักตร์พระยาห์เวห์ด้วย
\v 2 พระยาห์เวห์ตรัสแก่ซาตานว่า "เจ้ามาจากที่ไหนหรือ?" แล้วซาตานจึงทูลตอบพระยาห์เวห์และพูดว่า "พเนจรไปบนแผ่นดินโลก จากไปๆ มาๆ บนแผ่นดินโลก"
\v 3 พระยาห์เวห์จึงตรัสแก่ซาตานว่า "เจ้าเห็นโยบผู้รับใช้ของเราไหม? ไม่มีใครเป็นเหมือนเขาที่บนแผ่นดินโลก เขาเป็นคนเที่ยงตรงและไร้ที่ติ เขายำเกรงพระเจ้าและหันจากความชั่ว เขายังคงยึดมั่นต่อความซื่อสัตย์ของเขา ถึงแม้ว่าเจ้าชวนเราให้ต่อสู้เขา เพื่อทำลายเขาโดยไม่มีสาเหตุ"
\s5
\p
\v 4 ซาตานทูลตอบพระยาห์เวห์และพูดว่า "หนังแทนหนังโดยแท้ คนหนึ่งคนจะยอมมอบทุกสิ่งที่เขามีเพื่อทดแทนชีวิตของเขา
\v 5 แต่เวลานี้ ขอทรงยื่นพระหัตถ์ของพระองค์และแตะต้องกระดูกกับเนื้อของเขา และดูว่าเขาจะแช่งด่าพระองค์ต่อหน้าพระพักตร์ของพระองค์หรือไม่"
\v 6 พระยาห์เวห์ตรัสแก่ซาตานว่า "ดูเถิด เขาอยู่ในมือของเจ้า มีเพียงชีวิตของเขาเท่านั้นที่เจ้าต้องละเว้น"
\v 7 แล้วซาตานจึงได้ออกไปจากพระพักตร์ของพระยาห์เวห์ มันได้โจมตีโยบให้เป็นฝีร้ายตั้งแต่ฝ่าเท้าไปจนถึงศีรษะของเขา
\s5
\p
\v 8 โยบจึงเอาเศษชิ้นของหม้อแตกมาขูดตัวของเขา และเขาได้นั่งอยู่กลางกองขี้เถ้า
\v 9 แล้วภรรยาของเขาได้พูดกับเขาว่า "ท่านจะยังคงยึดมั่นในความซื่อสัตย์ของท่านอยู่อีกหรือ? จงแช่งด่าพระเจ้าและตายเถิด"
\v 10 แต่เขาพูดกับเธอว่า "เจ้าพูดเหมือนหญิงโง่เขลา เราได้รับสิ่งดีจากพระเจ้าและเราไม่สมควรได้รับสิ่งที่ไม่ดีบ้างหรือ?" ในเหตุการณ์ทั้งหมดเหล่านี้ โยบไม่ได้ทำบาปด้วยริมฝีปากของเขาเลย
\s5
\p
\v 11 เวลานี้เมื่อเพื่อนทั้งสามคนของโยบได้ยินเรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับโยบ พวกเขาแต่ละคนจึงมาจากสถานที่ของพวกเขา คือ เอลีฟัสชาวเทมาน บิลดัดชาวชูอาห์ และโศฟาร์ชาวนาอาเมห์ พวกเขานัดเวลาเพื่อมาคร่ำครวญร่วมกันกับโยบและเพื่อปลอบใจโยบ
\v 12 เมื่อพวกเขามองเห็นจากที่ไกล พวกเขาจำโยบไม่ได้ พวกเขาจึงแผดเสียงดังและร้องไห้ พวกเขาแต่ละคนฉีกเสื้อคลุมของตนและซัดผงคลีดินขึ้นไปในอากาศและเหนือศีรษะของพวกเขา
\v 13 แล้วพวกเขาจึงนั่งลงบนพื้นดินร่วมกับโยบเป็นเวลาเจ็ดวันเจ็ดคืน ไม่มีใครพูดถ้อยคำใดๆ กับเขา เพราะพวกเขาเห็นว่าความโศกเศร้าของโยบนั้นก็รุนแรงยิ่งนัก
\s5
\c 3
\p
\v 1 หลังจากนี้ โยบได้เปิดปากของเขาและแช่งสาปวันที่เขาได้ถือกำเนิดมา
\v 2 เขาพูดว่า
\v 3 "ขอให้วันนั้นที่ข้าพเจ้าได้เกิดมาจงพินาศ คืนที่ได้กล่าวว่า 'เด็กชายคนหนึ่งได้รับการปฏิสนธิ์'
\v 4 ขอให้วันนั้นจงมืดมิด ขอให้พระเจ้าจากเบื้องบนไม่ทรงระลึกถึงมัน หรือดวงอาทิตย์ก็ไม่ฉายแสงเหนือมัน
\v 5 ขอให้ความมืดมิดและเงาแห่งความตายเรียกร้องสิทธิเหนือมัน ขอให้เมฆปกคลุมเหนือมัน ขอให้ทุกสิ่งที่ทำให้วันนั้นดำมืดเป็นความน่ากลัวอย่างแท้จริง
\s5
\p
\v 6 ในค่ำคืนนั้น ขอให้ความมืดทึบเข้ายึดครองมัน ขอให้มันไม่มีความชื่นชมยินดีในท่ามบรรดากลางวันของปีนั้น ขอให้มันไม่ได้เข้าสู่การนับจำนวนเดือนทั้งหลาย
\v 7 ดูเถิด ขอให้คืนนั้นเป็นหมัน ไม่มีเสียงแห่งความยินดีเข้ามาภายในมัน
\v 8 ขอให้พวกเขาแช่งสาปวันนั้น คนเหล่านั้นที่รู้วิธีปลุกเลวีอาธานให้ตื่นขึ้น
\v 9 ขอให้ดวงดาวทั้งหลายของรุ่งอรุณในวันนั้นมืดมิด ขอให้วันนั้นมองหาแสงสว่าง แต่หาไม่พบ หรือไม่เห็นเปลือกตาของรุ่งอรุณ
\v 10 เพราะมันไม่ได้ปิดประตูครรภ์มารดาของข้าพเจ้า และเพราะมันไม่ได้ซ่อนความทุกข์ลำบากให้พ้นสายตาของข้าพเจ้า
\s5
\p
\v 11 ทำไมข้าพเจ้าจึงไม่ตายเสียเมื่อข้าพเจ้าออกมาจากครรภ์นั้น? ทำไมวิญญาณของข้าพเจ้าไม่ออกจากร่างกายเมื่อมารดาของข้าพเจ้าให้กำเนิดข้าพเจ้า?
\v 12 ทำไมหัวเข่าของเธอจึงต้องต้อนรับข้าพเจ้า? ทำไมทรวงอกของเธอจึงโอบรับข้าพเจ้าเพื่อให้ข้าพเจ้าได้ดูดนม?
\v 13 เพราะบัดนี้ข้าพเจ้าจะได้นอนลงอย่างสงบ ข้าพเจ้าจะนอนหลับและหยุดพัก
\v 14 พร้อมกับบรรดากษัตริย์และผู้ให้คำปรึกษาทั้งหลายบนแผ่นดินโลกนี้ ผู้ที่สร้างหลุมฝังศพสำหรับพวกเขาเองที่บัดนี้อยู่ในการทำลาย
\v 15 หรือข้าพเจ้าจะได้นอนลงพร้อมกับบรรดาเจ้าชายที่เคยมีทองคำ ผู้ที่บ้านของพวกเขาถูกทำให้เต็มไปด้วยเงิน
\s5
\p
\v 16 หรือว่าข้าพเจ้าน่าจะตายตอนคลอด เป็นเหมือนทารกที่ไม่มีวันได้เห็นแสงสว่าง
\v 17 ที่นั่นคนชั่วร้ายหยุดจากความทุกข์ยาก ที่นั่นคนที่อ่อนล้าได้หยุดพัก
\v 18 ที่นั่นคนที่ถูกคุมขังได้สุขสบายด้วยกัน พวกเขาไม่ได้ยินเสียงของผู้กดขี่ทาส
\v 19 ทั้งผู้เล็กน้อยและผู้ยิ่งใหญ่ล้วนอยู่ที่นั่น ทาสก็เป็นอิสระจากเจ้านายของพวกเขา
\v 20 ทำไมแสงสว่างจึงถูกประทานมาให้แก่เขาคือผู้ที่อยู่ในความลำเค็ญ? ทำไมชีวิตจึงถูกประทานมาให้แก่คนหนึ่งที่ขมขื่นในจิตใจ
\v 21 แก่คนหนึ่งที่รอคอยความตายโดยที่มันยังไม่มา แก่คนหนึ่งที่ขุดหาความตายมากกว่าขุดหาทรัพย์สมบัติที่ซ่อนไว้หรือ?
\s5
\p
\v 22 ทำไมแสงสว่างจึงส่องมาให้แก่คนหนึ่งที่ชื่นชมยินดีอย่างมากและเปรมปรีดิ์เมื่อเขาพบอุโมงค์ฝังศพ?
\v 23 ทำไมแสงสว่างจึงส่องมาให้แก่ชายคนหนึ่งที่วิถีถูกปิดซ่อนเอาไว้ ชายคนหนึ่งที่พระเจ้าได้กั้นเอาไว้?
\v 24 เพราะข้าพเจ้าถอนหายใจแทนการกินอาหาร การคร่ำครวญของข้าพเจ้าก็เทออกมาเหมือนน้ำไหล
\v 25 เพราะสิ่งนั้นที่ข้าพเจ้ากลัวก็ได้มาเหนือข้าพเจ้าแล้ว สิ่งที่ข้าพเจ้าหวาดกลัวก็ได้มาถึงข้าพเจ้าแล้ว
\v 26 ข้าพเจ้าไม่ได้สุขสบาย ข้าพเจ้าไม่ได้อยู่อย่างสงบ และข้าพเจ้าไม่ได้หยุดพัก แต่ความทุกข์ลำบากกลับมาแทนที่"
\s5
\c 4
\p
\v 1 แล้วเอลีฟัสชาวเทมานได้ตอบและพูดว่า
\v 2 ถ้าหากมีคนพยายามพูดกับท่าน ท่านจะอดทนได้ไหม? แต่ใครล่ะที่สามารถหยุดการพูดของเขาได้?
\v 3 ดูสิ ท่านสั่งสอนมามากมาย ท่านได้เสริมกำลังบรรดามือที่อ่อนแรง
\v 4 ถ้อยคำของท่านพยุงคนที่กำลังจะล้ม ท่านทำให้บรรดาหัวเข่าที่อ่อนเปลี้ยกลับเข้มแข็งขึ้น
\s5
\p
\v 5 แต่เวลานี้ ความทุกข์ยากได้มาถึงท่าน และท่านอ่อนแรงไป มันแตะต้องท่านและท่านก็ทุกข์ทรมาน
\v 6 ไม่ใช่ความยำเกรงของท่าน ความมั่นใจของท่าน และความซื่อสัตย์ของท่านที่เป็นความหวังของท่านหรือ?
\v 7 ขอให้ท่านคิดถึงสิ่งนี้ มีใครที่เคยถูกลงโทษเมื่อเขาไร้ผิดหรือ? หรือมีเวลาใดที่คนเที่ยงตรงถูกตัดออก?
\v 8 ตามสิ่งที่ข้าพเจ้าได้เห็นมา คนเหล่านั้นที่ไถความชั่วช้าและหว่านความเดือดร้อนก็ต้องเก็บเกี่ยวสิ่งเหล่านั้น
\s5
\p
\v 9 โดยลมปราณของพระเจ้าพวกเขาจึงพินาศ โดยการระบายลมแห่งพระพิโรธของพระองค์ พวกเขาก็ถูกเผาผลาญ
\v 10 เสียงคำรามของสิงโต เสียงของสิงห์ร้าย ฟันของบรรดาสิงห์หนุ่ม พวกมันถูกทำลาย
\v 11 สิงโตแก่พินาศเพราะขาดเหยื่อ บรรดาลูกของนางสิงห์ถูกทำให้กระจัดกระจายไปทุกที่
\v 12 บัดนี้มีเรื่องหนึ่งที่มาถึงข้าพเจ้าอย่างเป็นความลับ และหูของข้าพเจ้าได้ยินเสียงกระซิบเกี่ยวกับสิ่งนั้น
\s5
\p
\v 13 แล้วจึงมีความคิดจากนิมิตในเวลากลางคืน เมื่อผู้คนต่างนอนหลับสนิท
\v 14 ในยามค่ำคืนเมื่อความกลัวและการสั่นสะท้านมาเหนือข้าพเจ้า และกระดูกทุกชิ้นของข้าพเจ้าก็ถูกเขย่า
\v 15 เมื่อมีวิญญาณดวงหนึ่งได้ผ่านหน้าข้าพเจ้าไป และขนตามร่างกายของข้าพเจ้าก็ตั้งชัน
\v 16 วิญญาณดวงนั้นยืนนิ่ง แต่ข้าพเจ้าไม่สามารถสังเกตลักษณะของวิญญาณนั้นได้ มีรูปร่างหนึ่งอยู่ต่อหน้าต่อตาของข้าพเจ้า มีความเงียบกริบ และข้าพเจ้าได้ยินเสียงหนึ่งพูดว่า
\v 17 "มนุษย์ที่ต้องตายสามารถเป็นผู้ชอบธรรมได้มากกว่าพระเจ้าอย่างนั้นหรือ? มนุษย์คนหนึ่งสามารถเป็นผู้บริสุทธิ์ได้มากกว่าพระผู้สร้างของเขาอย่างนั้นหรือ?
\s5
\p
\v 18 ดูสิ ถ้าพระเจ้าไม่ได้มอบความไว้วางใจแก่บรรดาผู้รับใช้ของพระองค์ ถ้าพระองค์กล่าวโทษเหล่าทูตสวรรค์ของพระองค์ว่าโง่เขลา
\v 19 แล้วมันจะยิ่งเป็นจริงมากสักเท่าใดหรือสำหรับคนเหล่านั้นที่อาศัยอยู่ในเรือนดิน คนที่ฐานรากของเขาอยู่ในธุลี คนที่ถูกบดขยี้เหมือนตัวมอด?
\v 20 ในช่วงระหว่างเวลาเช้าและเวลาเย็น พวกเขาถูกทำลาย พวกเขาพินาศเป็นนิตย์โดยปราศจากคนใดสังเกตเห็นพวกเขา
\v 21 สายเต็นท์ทั้งหลายของพวกเขาไม่ได้ถูกแก้ออกจากท่ามกลางพวกเขาหรืออย่างไร? พวกเขาตาย พวกเขาตายโดยปราศจากปัญญา
\s5
\c 5
\p
\v 1 "ร้องเรียกเดี๋ยวนี้ มีผู้ใดจะตอบท่านหรือ? วิสุทธิชนคนใดที่ท่านจะหันไปหา?
\v 2 เพราะความโกรธฆ่าคนโง่เขลา ความอิจฉาฆ่าคนไร้สำนึก
\v 3 ข้าพเจ้าเคยเห็นคนโง่หยั่งราก แต่ทันใดนั้นข้าพเจ้าก็ได้แช่งสาปบ้านของเขา
\v 4 บรรดาบุตรของเขาอยู่ห่างไกลจากความปลอดภัย พวกเขาถูกบดขยี้ที่ในประตูเมือง ไม่มีใครช่วยกู้พวกเขาได้
\v 5 คนที่หิวก็กินผลแห่งการเก็บเกี่ยวของพวกเขา พวกเขาเก็บผลแม้แต่ในท่ามกลางพงหนาม คนที่กระหายก็ปรารถนาความมั่งคั่งของพวกเขา
\s5
\p
\v 6 เพราะความยากลำบากทั้งหลายไม่ได้ออกมาจากผงคลี หรือความทุกข์ยากไม่ได้งอกออกมาจากพื้นดิน
\v 7 แต่มวลมนุษย์เกิดมาเพื่อความทุกข์ยาก เหมือนกับประกายไฟที่ปลิวขึ้นไปด้านบน
\v 8 แต่สำหรับข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะหันไปหาพระเจ้า ต่อพระองค์ข้าพเจ้าจะมอบเรื่องราวของข้าพเจ้า
\v 9 พระองค์ผู้ทรงกระทำสิ่งยิ่งใหญ่และยากที่จะเข้าใจ สิ่งต่างๆ ที่อัศจรรย์อย่างนับไม่ถ้วน
\v 10 พระองค์ประทานฝนมาบนแผ่นดินโลก และทรงส่งน้ำฝนรดบนทุ่งนาทั้งหลาย
\s5
\p
\v 11 พระองค์ทรงทำเช่นนี้เพื่อตั้งคนที่ต่ำต้อยให้สูงขึ้น เพื่อยกชูคนเหล่านั้นที่ไว้ทุกข์ให้อยู่อย่างปลอดภัย
\v 12 พระองค์ทำลายแผนการต่างๆ ของคนเจ้าเล่ห์ เพื่อว่ามือของพวกเขาจะไม่สามารถกระทำการได้สำเร็จ
\v 13 พระองค์ทรงวางกับดักคนที่ฉลาดด้วยการกระทำอันเจ้าเล่ห์ของพวกเขาเอง แผนการต่างๆ ของคนที่บิดเบือนก็เร่งนำพวกเขาไปสู่จุดจบ
\v 14 พวกเขาเผชิญหน้ากับความมืดในช่วงเวลากลางวัน และคลำไปในช่วงเวลาเที่ยงเหมือนกับมันเป็นเวลากลางคืน
\v 15 แต่พระองค์ทรงช่วยกู้คนยากจนจากดาบในปากของพวกเขา และคนขัดสนจากมือของคนที่มีกำลัง
\s5
\p
\v 16 ดังนั้นคนยากจนจึงมีความหวัง และความอยุติธรรมปิดปากของเธอเอง
\v 17 ดูเถิด พระพรเป็นของคนที่พระเจ้าทรงตีสอน ด้วยเหตุนี้ ขออย่าได้ดูหมิ่นการเฆี่ยนตีขององค์ผู้ทรงฤทธิ์
\v 18 เพราะพระองค์ทรงให้บาดเจ็บ และจากนั้นทรงพันแผล พระองค์ทรงให้บาดเจ็บ และจากนั้นพระหัตถ์ของพระองค์ทรงรักษา
\v 19 พระองค์จะทรงช่วยกู้ท่านจากความทุกข์ยากหกอย่าง แท้จริงแล้ว ความทุกข์ยากเจ็ดอย่าง ไม่มีความชั่วใดที่จะแตะต้องท่านได้
\v 20 ในการกันดารอาหาร พระองค์จะทรงไถ่ท่านจากความตาย และในสงครามจากมือดาบทั้งหลาย
\s5
\p
\v 21 ท่านจะถูกซ่อนเอาไว้จากลิ้นที่ประณาม และท่านจะไม่ต้องกลัวการทำลายเมื่อมันมาถึง
\v 22 ท่านจะหัวเราะให้กับการทำลายและการกันดารอาหาร และท่านจะไม่กลัวสัตว์ร้ายทั้งหลายแห่งแผ่นดินโลก
\v 23 เพราะท่านจะมีพันธสัญญากับบรรดาก้อนหินในทุ่งนา และบรรดาสัตว์ร้ายจะผูกมิตรกับท่าน
\v 24 ท่านจะรู้ว่าเต็นท์ของท่านอยู่ในความปลอดภัย ท่านจะเยี่ยมเยียนฝูงแกะของท่าน และท่านจะไม่สูญเสียสิ่งใดๆ เลย
\s5
\p
\v 25 ท่านจะรู้ด้วยว่าพงศ์พันธุ์ของท่านจะยิ่งใหญ่ เชื้อสายของท่านจะเป็นเหมือนต้นหญ้าบนพื้นดิน
\v 26 ท่านจะมาที่อุโมงค์ฝังศพเมื่อท่านแก่หง่อม เหมือนกับฟ่อนข้าวที่ถูกนำขึ้นมาตามเวลาของมัน
\v 27 ดูเถิด เราได้ตรวจสอบสิ่งนี้แล้ว มันเป็นเช่นนี้ จงฟังให้ดี และรู้สิ่งนี้เพื่อตัวของท่านเองเถิด"
\s5
\c 6
\p
\v 1 แล้วโยบจึงตอบและพูดว่า
\v 2 "โอ ถ้าเพียงความทุกข์ใจของข้าพเจ้าได้รับการชั่งน้ำหนัก ถ้าเพียงเอาเหตุการณ์ที่เลวร้ายของข้าพเจ้ามาวางลงบนตาชั่ง
\v 3 บัดนี้มันคงจะหนักมากยิ่งกว่าเม็ดทรายในท้องทะเลทั้งหลาย นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ถ้อยคำของข้าพเจ้าขาดการยั้งคิด
\v 4 เพราะลูกศรทั้งหลายขององค์ผู้ทรงฤทธิ์ปักอยู่ในข้าพเจ้า วิญญาณของข้าพเจ้าดื่มยาพิษ ความน่าสะพรึงกลัวของพระเจ้าได้เรียงแถวเข้ามาต่อสู้ข้าพเจ้า
\v 5 ลาป่าจะร้องอย่างสิ้นหวังเมื่อมันมีหญ้ากินอย่างนั้นหรือ? หรือวัวผู้อ่อนเพลียด้วยความหิวเมื่อมันมีฟางให้กินไหม?
\s5
\p
\v 6 จะกินของจืดโดยไม่ใส่เกลือได้อย่างนั้นหรือ? หรือในไข่ขาวมีรสชาติไหม?
\v 7 ข้าพเจ้าปฏิเสธที่จะแตะต้องสิ่งเหล่านั้น อาหารเหล่านั้นเป็นที่น่ารังเกียจสำหรับข้าพเจ้า
\v 8 โอ ที่ข้าพเจ้าอาจมีคำร้องขอ โอ ที่พระเจ้าจะประทานสิ่งที่ข้าพเจ้าปรารถนาให้แก่ข้าพเจ้า
\v 9 มันคงทำให้พระเจ้าพอพระทัยที่จะบดขยี้ข้าพเจ้า ที่พระองค์จะปล่อยพระหัตถ์ของพระองค์และตัดข้าพเจ้าออกไปจากชีวิตนี้
\v 10 ขอให้สิ่งนี้เป็นการปลอบใจของข้าพเจ้า ถึงแม้ว่าข้าพเจ้าเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสโดยไม่บรรเทาลง ข้าพเจ้าก็มีความหรรษา คือที่ข้าพเจ้าไม่ได้ปฏิเสธถ้อยคำขององค์บริสุทธิ์
\s5
\p
\v 11 อะไรคือกำลังของข้าพเจ้าที่ข้าพเจ้าสมควรรอคอยหรือ? จุดจบของข้าพเจ้าคืออะไร ที่ข้าพเจ้าสมควรยืดชีวิตของข้าพเจ้าออกไป ?
\v 12 กำลังของข้าพเจ้าเป็นกำลังของบรรดาก้อนหินหรือ? หรือเนื้อของข้าพเจ้าทำจากทองแดงหรืออย่างไร?
\v 13 มันไม่เป็นความจริงหรือที่ข้าพเจ้าไม่มีความช่วยเหลืออันใดในตัวของข้าพเจ้า และสติปัญญาก็ถูกทำให้พรากไปจากข้าพเจ้าแล้ว?
\v 14 ต่อคนที่กำลังล้ม เพื่อนๆ ของเขาสมควรแสดงความสัตย์ซื่อต่อเขา แม้ต่อเขาผู้ที่ละทิ้งความยำเกรงองค์ผู้ทรงฤทธิ์ก็ตาม
\v 15 แต่พี่น้องทั้งหลายของข้าพเจ้า ได้ให้ความสัตย์ซื่อแก่ข้าพเจ้าที่เป็นเหมือนลำธารแห้งเหือด เป็นเหมือนลำน้ำที่เหือดหายไปสู่ความว่างเปล่า
\s5
\p
\v 16 ซึ่งถูกทำให้มืดมิดเพราะน้ำแข็งปกคลุมพวกมัน และเพราะมีหิมะที่ซ่อนอยู่ภายในพวกมัน
\v 17 เมื่อพวกมันละลาย พวกมันก็อันตรธานหายไป เมื่ออากาศร้อน พวกมันละลายไหลออกไปจากที่ของพวกมัน
\v 18 กองคาราวานที่เดินทางไปตามทางของพวกเขามองหาน้ำ พวกเขาพเนจรเข้าไปในดินแดนที่แห้งแล้งและจึงเหี่ยวแห้งไป
\v 19 กองคาราวานจากเทมามองไปที่นั่น ในขณะที่สหายทั้งหลายแห่งเชบาก็หวังในสิ่งเหล่านั้น
\v 20 พวกเขาต้องผิดหวังเพราะพวกเขามั่นใจว่าจะได้พบน้ำ พวกเขาไปที่นั่น แต่พวกเขาถูกหลอก
\s5
\p
\v 21 เพราะเวลานี้พวกท่านคือเพื่อนทั้งหลายกลับเป็นความว่างเปล่าสำหรับข้าพเจ้า พวกท่านมองดูสถานการณ์อันเลวร้ายของข้าพเจ้าและหวาดกลัว
\v 22 ข้าพเจ้าได้พูดกับพวกท่านหรือว่า 'ขอให้บางสิ่งแก่ข้าพเจ้า?' หรือ 'ขอมอบของขวัญจากความมั่งคั่งของพวกท่านแก่ข้าพเจ้าเถิด?'
\v 23 หรือ 'ขอช่วยกู้ข้าพเจ้าจากมือของศัตรูของข้าพเจ้า?' หรือ 'ขอไถ่ข้าพเจ้าจากมือของพวกผู้กดขี่เถิด?'
\v 24 สอนข้าพเจ้าสิ และข้าพเจ้าจะยึดมั่นในสันติสุขของข้าพเจ้า ทำให้ข้าพเจ้าเข้าใจเถิดว่าข้าพเจ้าได้ทำผิดในเรื่องใด
\v 25 ถ้อยคำความจริงนี้ช่างทำให้เจ็บปวดจริงนะ แต่การโต้แย้งต่างๆ ของพวกท่าน แท้จริงแล้วเป็นการตำหนิข้าพเจ้าไหม?
\s5
\p
\v 26 พวกท่านวางแผนที่จะเมินเฉยต่อถ้อยคำของข้าพเจ้าไหม ปฏิบัติต่อถ้อยคำทั้งสิ้นของชายคนหนึ่งที่สิ้นหวังเหมือนกับว่าพวกมันเป็นเพียงสายลมไหม?
\v 27 แท้จริงแล้ว พวกท่านจับฉลากเพื่อเอาลูกกำพร้าพ่อ และต่อรองราคาเพื่อนของพวกท่านเหมือนกับเขาเป็นสินค้า
\v 28 ดังนั้นบัดนี้ ขอมองดูที่ข้าพเจ้า เพราะแน่นอนที่ข้าพเจ้าจะไม่โกหกต่อหน้าของพวกท่าน
\v 29 ขอจงผ่อนปรนบ้างเถิด ข้าพเจ้าขอร้อง อย่าปล่อยให้มีความไม่เป็นธรรมอยู่กับพวกท่านเลย จริงทีเดียว ขอผ่อนปรน เพราะเรื่องราวของข้าพเจ้าก็ถูกต้อง
\v 30 ลิ้นของข้าพเจ้ามีความชั่วร้ายไหม? ปากของข้าพเจ้าไม่สามารถสืบหาสิ่งต่างๆ ที่ปองร้ายได้ใช่ไหม?
\s5
\c 7
\p
\v 1 มนุษย์ไม่ได้ตรากตรำทำงานหนักบนโลกนี้หรือ? วันทั้งหลายของเขาไม่ได้เป็นเหมือนกับวันทั้งหลายของคนที่เป็นลูกจ้างคนหนึ่งหรือ?
\v 2 เหมือนกับทาสคนหนึ่งที่โหยหาร่มเงาของเวลาเย็น เหมือนกับลูกจ้างคนหนึ่งที่รอคอยค่าแรงของเขา
\v 3 ดังนั้นข้าพเจ้าจึงถูกทำให้อดทนต่อเดือนทั้งหลายแห่งความทุกข์ยากของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าได้รับมอบคืนทั้งหลายที่เต็มไปด้วยความยากลำบาก
\v 4 เมื่อข้าพเจ้านอนลง ข้าพเจ้าพูดกับตัวเองว่า 'เมื่อใดที่ข้าพเจ้าจะตื่นขึ้นมาและเมื่อใดที่คืนนั้นจะผ่านไปหรือ?' ข้าพเจ้าเต็มไปด้วยความกระสับกระส่ายจวบจนรุ่งอรุณของวัน
\s5
\p
\v 5 เนื้อของข้าพเจ้าถูกปกคลุมไปด้วยหนอนมากมายและเต็มไปด้วยฝุ่น แผลในผิวหนังของข้าพเจ้าก็แข็งและปริแตกกับกลัดหนอง
\v 6 วันทั้งหลายของข้าพเจ้าก็รวดเร็วยิ่งกว่ากระสวยของช่างทอ พวกมันผ่านไปโดยปราศจากความหวัง
\v 7 ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงระลึกว่าชีวิตของข้าพระองค์เป็นเพียงลมหายใจ ดวงตาของข้าพระองค์จะไม่ได้เห็นสิ่งดีอีกต่อไป
\v 8 พระเนตรของพระเจ้า ผู้ทรงมองเห็นข้าพระองค์ จะไม่ทรงมองดูข้าพระองค์อีก พระเนตรของพระเจ้าจะอยู่เหนือข้าพระองค์ แต่ข้าพระองค์จะไม่อยู่แล้ว
\s5
\p
\v 9 เหมือนกับก้อนเมฆที่ถูกทำให้สลายและจางหายไป เช่นนั้น เขาผู้ที่ลงไปยังแดนมรณาจะไม่ขึ้นมาอีกเลย
\v 10 เขาจะไม่กลับมายังบ้านของเขาอีก หรือสถานที่ของเขาจะไม่รู้จักเขาอีกต่อไป
\v 11 ด้วยเหตุนี้ข้าพระองค์จะไม่ยั้งปากของข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะพูดด้วยความทุกข์ระทมในวิญญาณของข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะบ่นด้วยความขมขื่นในจิตใจของข้าพระองค์
\v 12 ข้าพระองค์เป็นทะเลหรือเป็นสัตว์ร้ายแห่งทะเลที่พระองค์ทรงวางยามไว้เพื่อปกป้องอย่างนั้นหรือ?
\s5
\p
\v 13 เมื่อข้าพระองค์พูดว่า "เตียงของข้าพเจ้าจะให้ความสบายแก่ข้าพเจ้า และเก้าอี้ยาวของข้าพเจ้าจะบรรเทาการพร่ำบ่นของข้าพเจ้า'
\v 14 แล้วพระองค์ทรงทำให้ข้าพเจ้าหวาดกลัวด้วยความฝันทั้งหลายและทรงขู่ข้าพระองค์โดยผ่านทางบรรดานิมิต
\v 15 ดังนั้นข้าพระองค์จึงเลือกการบีบคอและความตายซึ่งดีกว่าการมีชีวิตอยู่กับกระดูกเหล่านี้ของข้าพระองค์
\v 16 ข้าพระองค์รังเกียจชีวิตของข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะไม่ปรารถนามีชีวิตอยู่เสมอไป ขอทรงปล่อยข้าพระองค์ไว้เพราะวันทั้งหลายของข้าพระองค์ก็เปล่าประโยชน์
\v 17 มนุษย์คือสิ่งใดที่พระองค์ทรงสมควรสนพระทัยเขา ที่พระองค์ทรงสมควรมีใจจดจ่อกับเขา
\s5
\p
\v 18 ที่พระองค์ทรงสมควรเฝ้าดูเขาทุกเช้าและทดสอบเขาทุกขณะหรือ?
\v 19 นานแค่ไหนก่อนที่พระพักตร์ของพระองค์จะทรงเบือนหนีข้าพระองค์ ก่อนที่พระองค์จะทรงทิ้งข้าพระองค์ไว้ตามลำพังเพื่อข้าพระองค์จะกลืนน้ำลายลงคอได้?
\v 20 ถึงแม้ข้าพระองค์ได้ทำบาป แล้วสิ่งนั้นจะทำอะไรต่อพระองค์ พระองค์ผู้ทรงเฝ้าดูมนุษย์ทั้งหลายได้หรือ? ทำไมพระองค์จึงทำให้ข้าพระองค์ตกเป็นเป้าของพระองค์ ดังนั้นข้าพระองค์จึงเป็นภาระสำหรับพระองค์?
\v 21 ทำไมพระองค์ไม่ให้อภัยการทำผิดของข้าพระองค์และเอาความชั่วของข้าพระองค์ออกไป? เพราะบัดนี้ข้าพระองค์จะนอนลงในฝุ่น พระองค์จะแสวงหาข้าพระองค์อย่างถี่ถ้วน แต่ข้าพระองค์จะไม่อยู่ที่นั่น"
\s5
\c 8
\p
\v 1 แล้วบิลดัดชาวชูอาห์จึงตอบและพูดว่า
\v 2 "ท่านจะพูดสิ่งเหล่านี้อีกนานแค่ไหน? ถ้อยคำจากปากของท่านจะเป็นลมพายุอีกนานแค่ไหน?
\v 3 พระเจ้าทรงบิดเบือนความยุติธรรมหรือ? องค์ผู้ทรงฤทธิ์บิดเบือนความชอบธรรมหรือ?
\v 4 บุตรทั้งหลายของท่านได้ทำบาปต่อพระเจ้า เรารู้เรื่องนี้ เพราะพระองค์มอบพวกเขาไว้ในมือของความบาปทั้งหลายของพวกเขา
\v 5 แต่ท่านควรจะหมั่นเพียรแสวงหาพระเจ้าและนำการร้องขอของท่านมายังองค์ผู้ทรงฤทธิ์
\s5
\p
\v 6 ถ้าท่านบริสุทธิ์และเที่ยงตรง แล้วพระองค์จะทรงปลุกพระองค์ขึ้นเพื่อท่านแน่นอนและทรงรื้อฟื้นท่านคืนสู่สถานที่อันชอบธรรมของท่าน
\v 7 ถึงแม้ว่าการเริ่มต้นของท่านเล็กน้อย แต่สถานะบั้นปลายของท่านจะยังคงยิ่งใหญ่กว่า
\v 8 ขอจงถามคนรุ่นเก่าก่อน และเอาใจใส่ต่อสิ่งที่บรรพบุรุษทั้งหลายของเราได้เรียนรู้
\v 9 (เราเป็นแค่คนที่เกิดมาเมื่อวานและไม่รู้สิ่งใดเลย เพราะวันทั้งหลายของเราบนแผ่นดินโลกนี้เป็นเพียงเงา)
\v 10 พวกเขาจะไม่สอนท่านและบอกท่านหรือ? พวกเขาจะไม่พูดถ้อยคำต่าง ๆ จากหัวใจของพวกเขาหรือ?
\s5
\p
\v 11 ไม้อ้อสามารถเติบโตได้โดยปราศจากบึงหรือ? ต้นกกสามารถเติบโตได้โดยปราศจากน้ำหรือ?
\v 12 ในขณะที่พวกมันยังคงเขียวสดและไม่ถูกตัด พวกมันก็เหี่ยวแห้งไปก่อนต้นไม้อื่นๆ
\v 13 ดังนั้นแล้ว วิถีของทุกคนที่หลงลืมพระเจ้า ความหวังของคนที่ไม่นับถือพระเจ้าจะพังทลาย
\v 14 ความมั่่นใจของเขาจะสลายไป และความไว้วางใจของเขาก็บอบบางเหมือนกับใยแมงมุม
\v 15 เขาพิงบ้านของเขา แต่มันจะไม่พยุงรับเขา เขายึดมันไว้ แต่มันจะไม่ตั้งอยู่
\s5
\p
\v 16 ภายใต้ดวงอาทิตย์ เขาเขียวสด และหน่อของเขางอกออกมาเหนือสวนทั้งหมดของเขา
\v 17 รากของเขาถูกห่อหุ้มด้วยกองหิน พวกเขามองหาสถานที่ที่ดีในท่ามกลางก้อนหินนั้น
\v 18 แต่ถ้าบุคคลนี้ถูกทำลายไปจากสถานที่ของเขา แล้วสถานที่นั้นจะปฏิเสธเขาและพูดว่า 'ข้าพเจ้าไม่เคยเห็นท่าน'
\v 19 ดูเถิด นี่คือ "ความยินดี" ของพฤติกรรมของบุคคลหนึ่ง ต้นไม้อื่นๆ จะงอกจากดินเดียวกันในสถานที่ของเขา
\s5
\p
\v 20 ดูเถิด พระเจ้าจะไม่ละทิ้งคนไร้ความผิด หรือพระองค์จะไม่ยั้งมือจากคนที่ทำชั่ว
\v 21 แต่พระองค์จะเติมปากของท่านด้วยเสียงหัวเราะ ริมฝีปากของท่านด้วยการโห่ร้อง
\v 22 คนเหล่านั้นที่เกลียดชังท่านจะสวมความละอาย เต็นท์ของคนชั่วจะไม่มีอีกเลย"
\s5
\c 9
\p
\v 1 แล้วโยบจึงตอบและกล่าวว่า
\v 2 "ข้าพเจ้ารู้เรื่องนี้ดี แต่คนหนึ่งคนจะสามารถเป็นคนชอบธรรมต่อพระเจ้าได้อย่างไร?
\v 3 ถ้าเขาต้องการโต้แย้งกับพระเจ้า ในพันครั้งเขาไม่สามารถตอบพระองค์ได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว
\v 4 พระทัยของพระเจ้าเต็มไปด้วยพระปัญญา กำลังของพระองค์ก็เข้มแข็ง มีใครที่ได้เคยแข็งข้อต่อพระองค์และทำได้สำเร็จหรือ?
\v 5 พระองค์ผู้ทรงเคลื่อนภูเขาทั้งหลายทรงคว่ำพวกเขาลงด้วยพระพิโรธโดยมิได้เตือนก่อน
\s5
\p
\v 6 พระองค์ผู้ทรงเขย่าแผ่นดินโลกให้ออกจากที่ของมันและทรงทำให้คานค้ำของมันสั่นคลอน
\v 7 เช่นเดียวกันพระเจ้าผู้ทรงสั่งดวงอาทิตย์ไม่ให้ขึ้นมา และมันก็ไม่ขึ้นมา และผู้ทรงปกคลุมดวงดาวทั้งหลายเอาไว้
\v 8 ผู้ทรงกางท้องฟ้าออกและทรงย่ำคลื่นทั้งหลายในทะเล
\v 9 ผู้ทรงสร้างดาวหมีใหญ่และดาวไถ ดาวลูกไก่และกลุ่มดาวแห่งทิศใต้
\v 10 เช่นเดียวกันพระเจ้าผู้ทรงกระทำสิ่งยิ่งใหญ่ทั้งหลาย สิ่งต่าง ๆ ที่ไม่สามารถเข้าใจได้ แน่ทีเดียว สิ่งอัศจรรย์มากมายอย่างนับไม่ถ้วน
\s5
\p
\v 11 ดูสิ พระองค์ทรงผ่านข้าพเจ้าไป และข้าพเจ้ามองไม่เห็นพระองค์ พระองค์ทรงผ่านไป แต่ข้าพเจ้ากลับไม่รับรู้ถึงพระองค์
\v 12 ถ้าหากพระองค์ทรงเอาบางสิ่งไป ใครสามารถหยุดยั้งพระองค์ได้หรือ? ใครสามารถพูดกับพระองค์ได้ว่า 'พระองค์ทรงทำอะไรนี่?'
\v 13 พระเจ้าจะไม่ทรงฉุดรั้งพระพิโรธของพระองค์ ผู้ช่วยทั้งหลายของราหับก้มกราบที่เบื้องล่างของพระองค์
\v 14 ข้าพเจ้าจะตอบพระองค์ได้น้อยเพียงใด ข้าพเจ้าจะสามารถเลือกถ้อยคำใดๆ มาให้เหตุผลกับพระองค์ได้หรือ?
\v 15 ถึงแม้ว่าข้าพเจ้าเป็นคนชอบธรรม ข้าพเจ้าไม่สามารถตอบพระองค์ได้ ข้าพเจ้าทำได้เพียงแค่ร้องขอความเมตตาด้วยความยุติธรรมของข้าพเจ้าเท่านั้น
\s5
\p
\v 16 ถึงแม้ว่าข้าพเจ้าได้ร้องเรียกและพระองค์ทรงตอบข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะไม่เชื่อว่าพระองค์ทรงกำลังฟังเสียงของข้าพเจ้า
\v 17 เพราะพระองค์ทรงทำลายข้าพเจ้าด้วยความปั่นป่วนและทรงทวีคูณบาดแผลของข้าพเจ้าโดยไม่มีสาเหตุ
\v 18 พระองค์ไม่ทรงแม้แต่อนุญาตให้ข้าพเจ้าได้หยุดพักหายใจ แต่พระองค์กลับทรงเติมข้าให้เต็มด้วยความขมขื่น
\v 19 ถ้าหากเป็นเรื่องกำลังแล้ว ดูเถิด พระองค์ทรงเข้มแข็ง ถ้าหากเป็นเรื่องความยุติธรรม ใครเล่าสามารถออกหมายเรียกพระองค์ได้?
\v 20 ถึงแม้ว่าข้าพเจ้าอยู่ในความถูกต้อง ปากของข้าพเจ้าก็ตำหนิตัวข้าพเจ้าเอง และถึงแม้ว่าข้าพเจ้าไร้ที่ติ ถ้อยคำทั้งหลายของข้าพเจ้าก็จะพิสูจน์ให้เห็นว่าข้าพเจ้าเป็นคนผิดเอง
\s5
\p
\v 21 ข้าพเจ้าไร้ที่ติ แต่ข้าพเจ้าไม่ห่วงตัวข้าพเจ้าเองอีกต่อไป ข้าพเจ้าดูหมิ่นชีวิตของข้าพเจ้าเอง
\v 22 มันไม่แตกต่างกันเลย ด้วยเหตุนี้ข้าพเจ้าจึงพูดว่าพระองค์ทรงทำลายทั้งคนไร้ที่ติและคนที่ชั่วร้ายด้วยกัน
\v 23 ถ้าโรคระบาดทำให้ตายโดยทันทีแล้ว พระองค์ก็จะทรงหัวเราะให้กับความเจ็บปวดของคนที่ไร้ความผิด
\v 24 แผ่นดินโลกถูกมอบไว้ในมือของคนชั่ว พระเจ้าทรงปกคลุมหน้าของบรรดาผู้ตัดสินความของแผ่นดินโลก ถ้าหากไม่ใช่พระองค์ที่ทรงกระทำสิ่งนี้ แล้วใครเล่าที่จะกระทำ?
\v 25 วันทั้งหลายของข้าพเจ้าก็รวดเร็วยิ่งกว่าผู้วิ่งส่งสารคนหนึ่ง วันทั้งหลายของข้าพเจ้าก็วิ่งหนีไป โดยไม่เห็นสิ่งดีในที่แห่งใดเลย
\s5
\p
\v 26 พวกมันเร็วเหมือนกับเรือไม้อ้อ และเร็วเหมือนนกอินทรีที่โฉบลงมาจับเหยื่อ
\v 27 ถ้าข้าพเจ้าได้พูดว่า ข้าพเจ้าจะลืมคำบ่นทั้งหลายของข้าพเจ้า ที่ข้าพเจ้าจะเอาใบหน้าเศร้าสลดออกไปและมีความสุข
\v 28 ข้าพเจ้าคงถูกทำให้หวาดกลัวต่อความโศกเศร้าทั้งหมดของข้าพเจ้าเพราะข้าพเจ้ารู้ว่าพระองค์จะไม่ถือว่าข้าพเจ้าไร้ความผิด
\v 29 ข้าพเจ้าจะถูกลงโทษ แล้วทำไมข้าพเจ้าจึงต้องพยายามโดยเปล่าประโยชน์เล่า?
\v 30 ถ้าหากข้าพเจ้าได้ชำระตัวเองด้วยหิมะที่ละลายเป็นน้ำและทำให้มือของข้าพเจ้าสะอาด
\s5
\p
\v 31 พระเจ้าจะทรงเหวี่ยงข้าพเจ้าลงไปในบ่อโคลน และเสื้อผ้าของข้าพเจ้าก็เป็นที่น่ารังเกียจพร้อมกับตัวข้าพเจ้า
\v 32 เพราะพระเจ้ามิได้ทรงเป็นมนุษย์เหมือนข้าพเจ้าซึ่งข้าพเจ้าจะสามารถตอบพระองค์ ที่พวกเราจะสามารถเข้ามาในศาลด้วยกันได้
\v 33 ไม่มีผู้ตัดสินความระหว่างพวกเราคือผู้ที่สามารถวางมือของเขาเหนือพวกเราทั้งสองฝ่าย
\v 34 ไม่มีผู้ตัดสินคดีความคนอื่นที่สามารถเอาไม้เรียวของพระเจ้าออกไปจากข้าพเจ้าได้ ผู้ที่สามารถเก็บการข่มขู่ของพระองค์ที่ทำให้ข้าพเจ้าหวาดกลัวไว้ได้
\v 35 แล้วข้าพเจ้าจะพูดขึ้นมาและไม่เกรงกลัวพระองค์ แต่เหมือนกับสิ่งต่าง ๆ ในเวลานี้ ข้าพเจ้าไม่สามารถทำเช่นนั้นได้
\s5
\c 10
\p
\v 1 ข้าพเจ้าเบื่อหน่ายชีวิตของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะให้เสรีภาพแก่การบ่นของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะพูดด้วยความขมขื่นในใจของข้าพเจ้า
\v 2 ข้าพเจ้าจะพูดต่อพระเจ้าว่า 'ขอทรงอย่าเพียงแค่ลงโทษข้าพระองค์เท่านั้น แต่ขอทรงสำแดงให้ข้าพระองค์เห็นว่าทำไมพระองค์จึงทรงกล่าวหาข้าพระองค์
\v 3 เป็นสิ่งดีต่อพระองค์ที่พระองค์ทรงสมควรกดขี่ข้าพระองค์ ทรงเหยียดหยามฝีพระหัตถ์ของพระองค์ในขณะที่พระองค์ทรงยิ้มสรวลให้กับแผนงานต่างๆ ของคนชั่วใช่ไหม?
\v 4 พระองค์ทรงมีดวงตาของมนุษย์หรือ? พระองค์ทรงมองเห็นเหมือนกับมนุษย์คนหนึ่งหรือ?
\s5
\p
\v 5 วันทั้งหลายของพระองค์เป็นเหมือนวันทั้งหลายของมวลมนุษย์ หรือปีทั้งหลายของพระองค์เป็นเหมือนกับปีทั้งหลายของมนุษย์
\v 6 ที่พระองค์ทรงตรวจหาความชั่วของข้าพระองค์และทรงค้นหาความบาปของข้าพระองค์
\v 7 ถึงแม้พระองค์ทรงรู้ว่าข้าพระองค์ไม่ได้ทำผิด และไม่มีใครสักคนที่สามารถช่วยข้าพระองค์จากพระหัตถ์ของพระองค์ได้อย่างนั้นหรือ?
\v 8 พระหัตถ์ของพระองค์ได้ทรงสร้างและปั้นแต่งข้าพระองค์เข้าด้วยกัน แต่พระองค์ก็ทรงกำลังทำลายข้าพระองค์เสีย
\v 9 ขอทรงระลึกถึงเถิด ข้าพระองค์ร้องทูลขอ ที่พระองค์ได้ทรงปั้นข้าพระองค์เหมือนกับปั้นดินเหนียวนั้น พระองค์จะทรงนำข้าพระองค์ให้กลับไปเป็นผงคลีอีกครั้งอย่างนั้นหรือ?
\s5
\p
\v 10 พระองค์มิได้ทรงเทข้าพระองค์ออกเหมือนเทน้ำนมและทรงทำให้ข้าพระองค์เป็นเหมือนเนยแข็งหรือ?
\v 11 พระองค์ทรงสวมข้าพระองค์ด้วยผิวหนังและเนื้อ และทรงร้อยข้าพระองค์เข้าด้วยกันด้วยกระดูกและเส้นเอ็นทั้งหลาย
\v 12 พระองค์ทรงประทานชีวิตให้แก่ข้าพระองค์กับพันธสัญญาแห่งความสัตย์ซื่อ ความช่วยเหลือของพระองค์ทรงปกป้องวิญญาณของข้าพระองค์
\v 13 แต่สิ่งต่างๆ เหล่านี้ พระองค์ทรงซ่อนไว้ในพระทัยของพระองค์ ข้าพระองค์รู้ว่านี่คือสิ่งที่พระองค์ทรงกำลังคิด
\v 14 ว่าถ้าข้าพระองค์ได้ทำบาป พระองค์ก็จะสังเกตเห็น พระองค์จะไม่ปล่อยข้าพระองค์ไปในความชั่วร้ายของข้าพระองค์
\s5
\p
\v 15 ถ้าหากข้าพระองค์เป็นคนชั่วร้าย วิบัติจงเกิดกับข้าพระองค์เถิด แม้ว่าถ้าข้าพระองค์เป็นคนชอบธรรม ข้าพระองค์ก็จะไม่สามารถยกศีรษะของข้าพระองค์ขึ้นได้ เนื่องจากข้าพระองค์ถูกทำให้เต็มไปด้วยการดูหมิ่นและข้าพระองค์กำลังมองดูที่ความทุกข์ทรมานของข้าพระองค์เอง
\v 16 ถ้าศีรษะของข้าพระองค์ยกขึ้นเองได้ พระองค์ก็ทรงล่าข้าพระองค์เหมือนล่าสิงโตตัวหนึ่ง อีกครั้งที่พระองค์ทรงสำแดงฤทธิ์อำนาจของพระองค์เองต่อข้าพระองค์
\v 17 พระองค์ทรงนำพยานคนใหม่ทั้งหลายมาต่อสู้ข้าพระองค์และทรงเพิ่มพระพิโรธของพระองค์ต่อข้าพระองค์ พระองค์ทรงโจมตีข้าพระองค์ด้วยบรรดากองทัพที่สดใหม่ทั้งหลาย
\v 18 แล้วทำไมพระองค์จึงได้ทรงนำข้าพระองค์ออกมาจากครรภ์ของมารดาเล่า? ข้าพระองค์อยากให้วิญญาณของข้าพระองค์ถูกทำให้ตายไปและไม่ต้องมีดวงตาดวงใดเคยเห็นข้าพระองค์
\s5
\p
\v 19 ข้าพระองค์จะได้เป็นเหมือนกับข้าพระองค์ไม่เคยมีชีวิตอยู่มาก่อน ข้าพระองค์จะได้ถูกอุ้มออกมาจากครรภ์เพื่อไปยังหลุมฝังศพ
\v 20 วันทั้งหลายของข้าพระองค์ไม่ได้มีเพียงเล็กน้อยหรือ? ขอทรงหยุดเถิด ขอทรงปล่อยข้าพระองค์ไว้ตามลำพัง เพื่อว่าข้าพระองค์อาจได้หยุดพักบ้าง
\v 21 ก่อนข้าพระองค์ไปจากสถานที่ที่ข้าพระองค์จะไม่หันกลับมาอีก ไปยังดินแดนแห่งความมืดและดินแดนที่เป็นร่มเงาแห่งความตาย
\v 22 ดินแดนที่มืดเหมือนเวลาเที่ยงคืน ดินแดนที่เป็นร่มเงาแห่งความตาย คือที่ที่ปราศจากระเบียบ ที่แสงสว่างเหมือนเวลาเที่ยงคืน'"
\s5
\c 11
\p
\v 1 แล้วโศฟาร์ชาวนาอามาห์จึงได้ตอบและพูดว่า
\v 2 "ถ้อยคำมากมายเช่นนี้สมควรที่จะไม่ได้รับคำตอบหรือ? สมควรที่ชายคนนี้ ผู้ที่พูดไม่หยุด จะได้รับความเชื่อถือหรือ?
\v 3 สมควรที่การโอ้อวดของท่านจะทำให้คนอื่นๆ เงียบเสียงหรือ? เมื่อท่านเยาะเย้ยคำสอนของพวกเรา จะไม่มีคนใดที่ทำให้ท่านรู้สึกละอายเลยหรือ?
\v 4 เพราะท่านพูดต่อพระเจ้าว่า 'ความเชื่อของข้าพระองค์บริสุทธิ์ ข้าพระองค์ไร้ที่ติในสายพระเนตรของพระองค์'
\v 5 แต่ขอที่พระเจ้าจะตรัสและทรงเปิดพระโอษฐ์ของพระองค์ต่อสู้ท่าน
\s5
\p
\v 6 ที่พระองค์จะทรงสำแดงให้ท่านเห็นถึงความลี้ลับของสติปัญญา เพราะพระองค์ทรงยิ่งใหญ่ในความเข้าใจ ขอจงรู้ว่าพระเจ้าทรงเรียกร้องจากท่านน้อยกว่าความหลอกลวงอันชั่วร้ายของท่านอีก
\v 7 ท่านสามารถเข้าใจพระเจ้าได้ด้วยการเสาะหาพระองค์อย่างนั้นหรือ? ท่านสามารถเข้าใจองค์ผู้ทรงฤทธิ์ได้อย่างครบถ้วนอย่างนั้นหรือ?
\v 8 เรื่องราวนี้ก็สูงเหมือนท้องฟ้า ท่านสามารถทำสิ่งใดได้หรือ? มันลึกยิ่งกว่าแดนคนตาย ท่านสามารถรู้อะไรหรือ?
\v 9 ขนาดของมันก็ยาวยิ่งกว่าแผ่นดินโลก และมันกว้างยิ่งกว่าท้องทะเล
\v 10 ถ้าพระองค์ทรงผ่านไปและทรงปิดปากใครคนใด ถ้าพระองค์ทรงเรียกคนใดเพื่อการพิพากษา แล้วใครล่ะที่สามารถหยุดยั้งพระองค์ได้?
\s5
\p
\v 11 เพราะพระองค์ทรงรู้จักคนเท็จ เมื่อพระองค์ทรงมองเห็นความชั่วร้าย พระองค์ไม่ทรงสังเกตอย่างนั้นหรือ?
\v 12 แต่คนโง่ย่อมไม่มีความเข้าใจ พวกเขาจะได้รับมันก็ต่อเมื่อมีลาป่าตัวหนึ่งคลอดลูกออกมาเป็นมนุษย์
\v 13 แต่สมมติว่าท่านได้ทำให้หัวใจของท่านเที่ยงตรงและยื่นมือของท่านออกไปหาพระเจ้า
\v 14 สมมติว่าความชั่วร้ายอยู่ในมือของท่าน แต่ว่าท่านได้วางมันไว้ห่างไกลจากตัวท่าน และไม่ได้ยอมให้ความอธรรมอาศัยอยู่ในเต็นท์ทั้งหลายของท่าน
\v 15 แล้วท่านจะถูกทำให้เงยหน้าขึ้นโดยปราศจากสัญญาณของความอับอายอย่างแน่นอน แท้จริงแล้ว ท่านจะถูกทำให้มั่นคงและไม่กลัวต่อสิ่งใด
\s5
\p
\v 16 ท่านจะลืมความทุกข์ของท่าน ท่านจะจดจำมันเพียงแค่เป็นเหมือนสายน้ำที่ไหลผ่านไป
\v 17 ชีวิตของท่านจะส่องสว่างยิ่งกว่าเวลาเที่ยงวัน ถึงแม้ว่ามีความมืดมิด แต่มันจะเป็นเหมือนเวลาเช้า
\v 18 ท่านจะได้รับการทำให้มั่นคงปลอดภัยเพราะมีความหวัง อันที่จริงแล้ว ท่านจะพบกับความปลอดภัยเกี่ยวกับตัวท่านและจะได้พักสงบในความปลอดภัย
\v 19 ท่านจะนอนลงในการพักสงบด้วย และไม่มีใครจะทำให้ท่านหวาดกลัวได้ ความจริงคือ คนมากมายจะแสวงหาความพึงพอใจจากท่าน
\v 20 แต่ดวงตาทั้งหลายของคนชั่วจะผิดหวัง พวกเขาจะไม่มีทางหนีพ้นได้ ความหวังเดียวของพวกเขาก็เป็นเหมือนลมหายใจเฮือกสุดท้ายของชีวิตเท่านั้น"
\s5
\c 12
\p
\v 1 แล้วโยบจึงได้ตอบและพูดว่า
\v 2 "ไม่ต้องสงสัยเลยว่าท่านเป็นคนที่สติปัญญาจะตายไปพร้อมกับท่าน
\v 3 แต่ข้าพเจ้าก็มีความเข้าใจเหมือนกับท่าน ข้าพเจ้าก็ไม่ด้อยกว่าท่านในเรื่องสิ่งต่างๆ เหล่านี้มิใช่หรือ?
\v 4 ข้าพเจ้าเป็นบางสิ่งที่มีไว้เพื่อให้เพื่อนบ้านหัวเราะเยาะ ข้าพเจ้าคือคนที่ร้องเรียกหาพระเจ้าและได้รับคำตอบจากพระองค์ ข้าพเจ้าเป็นคนที่ชอบธรรมและไร้ที่ติคนหนึ่ง บัดนี้ข้าพเจ้าเป็นคนที่ถูกหัวเราะเยาะ
\v 5 ในความคิดของบางคนที่สุขสบายก็มีคำสบประมาทสำหรับคนที่เคราะห์ร้าย เขาคิดในสิ่งที่นำเคราะห์ร้ายมาให้แก่คนเหล่านั้นที่เท้ากำลังลื่นล้มมากยิ่งขึ้น
\s5
\p
\v 6 เต็นท์ทั้งหลายของพวกโจรก็จำเริญขึ้น และคนเหล่านั้นที่ยั่วยุพระเจ้าก็รู้สึกมั่นคง มือทั้งหลายของพวกเขาเป็นพระของพวกเขา
\v 7 แต่เวลานี้ ขอถามสัตว์ร้ายทั้งหลาย และพวกมันจะสอนท่าน ถามบรรดานกในท้องฟ้า และพวกมันจะบอกท่าน
\v 8 หรือพูดกับแผ่นดินโลก และมันจะสอนท่าน ปลาในทะเลจะประกาศแก่ท่าน
\v 9 สัตว์ตัวใดในท่ามกลางสิ่งทั้งหมดเหล่านี้ที่ไม่รู้ว่าพระหัตถ์ของพระยาห์เวห์ได้ทำสิ่งนี้หรือ?
\v 10 ในพระหัตถ์ของพระองค์คือชีวิตของทุกสิ่งที่มีชีวิตอยู่และคือลมหายใจของมวลมนุษย์ทั้งหมด
\s5
\p
\v 11 หูไม่ได้ลิ้มรสถ้อยคำต่าง ๆ เหมือนกับเพดานปากลิ้มรสอาหารหรอกหรือ?
\v 12 ผู้คนที่มีอายุก็มาพร้อมกับสติปัญญา วันทั้งหลายก็คือความเข้าใจ
\v 13 พระปัญญาและฤทธิ์อำนาจมาพร้อมกับพระเจ้า พระองค์มีคำปรึกษาและความเข้าใจ
\v 14 ดูเถิด พระองค์ทรงทำลาย และมันไม่สามารถสร้างขึ้นมาได้อีกครั้ง ถ้าพระองค์ทรงกักขังใครบางคน ก็ไม่มีใครสามารถถูกปล่อยตัวได้
\v 15 ดูเถิด ถ้าพระองค์ทรงกักน้ำเอาไว้ พวกมันก็จะแห้งเหือด และถ้าพระองค์ทรงส่งพวกมันออกไป พวกมันก็จะท่วมแผ่นดิน
\s5
\p
\v 16 พระองค์เสด็จมาพร้อมกับฤทธิ์อำนาจและพระปัญญา ทั้งคนที่ถูกหลอกและคนที่หลอกลวงก็อยู่ในอำนาจของพระองค์
\v 17 พระองค์ทรงนำให้ที่ปรึกษาสิ้นท่าในความเศร้าโศก พระองค์ทรงหันผู้พิพากษาไปสู่การเป็นคนโง่เขลา
\v 18 พระองค์ทรงปลดโซ่แห่งสิทธิอำนาจจากกษัตริย์ทั้งหลาย พระองค์ทรงเอาผ้าผูกเอวของพวกเขา
\v 19 พระองค์ทรงนำให้พวกปุโรหิตสิ้นท่าในความเศร้าโศกและทรงเหวี่ยงพวกคนที่มีกำลัง
\v 20 พระองค์ทรงกำจัดคำพูดของคนเหล่านั้นที่ได้รับความไว้วางใจและเอาความเข้าใจออกไปจากพวกผู้ใหญ่
\s5
\p
\v 21 พระองค์ทรงเทการเหยียดหยามลงมาเหนือบรรดาเจ้าชายและทรงปลดเข็มขัดของคนเข้มแข็ง
\v 22 พระองค์ทรงสำแดงสิ่งล้ำลึกต่าง ๆ จากความมืดและทรงนำเอาเงามืดมิดออกมาสู่ความสว่าง
\v 23 พระองค์ทรงทำให้ชนชาติทั้งหลายเข้มแข็ง และพระองค์ทรงทำลายพวกเขา พระองค์ทรงขยายชนชาติต่างๆ ให้ใหญ่ขึ้น และพระองค์ทรงนำพวกเขามาเหมือนกับนักโทษด้วย
\v 24 พระองค์ทรงเอาความเข้าใจออกไปจากบรรดาผู้นำของประชาชนบนแผ่นดินโลกนี้ พระองค์ทรงทำให้พวกเขาพเนจรไปในถิ่นทุรกันดารในที่ที่ไม่มีทาง
\v 25 พวกเขาคลำหาในความมืดโดยปราศจากแสงสว่าง พระองค์ทำให้พวกเขาโซเซเหมือนกับคนเมา
\s5
\c 13
\p
\v 1 ดูสิ ดวงตาของข้าพเจ้าได้มองเห็นสิ่งทั้งหมดนี้ หูของข้าพเจ้าได้ยินและเข้าใจมัน
\v 2 สิ่งที่ท่านรู้ ข้าพเจ้าก็รู้เหมือนกัน ข้าพเจ้าไม่ได้ด้อยไปกว่าท่านเลย
\v 3 แต่อย่างไรก็ตาม ข้าพเจ้าก็ควรทูลต่อองค์ผู้ทรงฤทธิ์ ข้าพเจ้าปรารถนาให้เหตุผลต่อพระเจ้า
\v 4 แต่ท่านป้ายสีความจริงด้วยคำโกหก พวกท่านทั้งหมดเป็นหมอที่ไร้คุณค่า
\v 5 โอ การที่พวกท่านจะยึดมั่นในสันติของพวกท่าน นั่นก็นับว่าเป็นสติปัญญาของพวกท่าน
\s5
\p
\v 6 เวลานี้ขอฟังเหตุผลของข้าพเจ้าเองบ้าง ฟังคำให้การจากริมฝีปากของข้าพเจ้าเอง
\v 7 พวกท่านจะพูดอย่างอธรรมเพื่อพระเจ้า และพวกท่านจะพูดหลอกลวงเพื่อพระองค์อย่างนั้นหรือ?
\v 8 พวกท่านได้แสดงความกรุณาต่อพระองค์จริงๆ หรือ? พวกท่านจะโต้เถียงในศาลในฐานะทนายความเพื่อพระเจ้าจริงๆ หรือ?
\v 9 เมื่อพระองค์ทรงตรวจสอบพวกท่าน มันจะเป็นผลดีแก่พวกท่านจริงๆ หรือ? พวกท่านสามารถหลอกลวงพระองค์เหมือนกับที่พวกท่านหลอกลวงมนุษย์ได้อย่างนั้นหรือ?
\v 10 พระองค์จะตำหนิพวกท่านอย่างแน่นอนถ้าหากพวกท่านแสดงความลำเอียงในที่ลับ
\s5
\p
\v 11 สง่าราศีของพระองค์ไม่ได้ทำให้พวกท่านเกรงกลัวเลยหรือ? และความน่าสะพรึงกลัวของพระองค์จะไม่ตกลงมาเหนือพวกท่านเลยหรือ?
\v 12 คำกล่าวทั้งหลายที่โดดเด่นของพวกท่านเป็นเพียงภาษิตที่ทำจากขี้เถ้า ปราการของพวกท่านเป็นปราการที่ทำมาจากดิน
\v 13 ขอจงยึดมั่นสันติของพวกท่านเอาไว้ ปล่อยข้าพเจ้าไว้ตามลำพังเถิด เพื่อข้าพเจ้าจะพูด ปล่อยให้อะไรมันเกิดขึ้นกับข้าพเจ้าเถิด
\v 14 ข้าพเจ้าจะกัดกินเนื้อของข้าพเจ้าเอง ข้าพเจ้าจะเอาชีวิตฝากไว้ในมือของข้าพเจ้า
\v 15 ดูเถิด ถ้าพระองค์ทรงฆ่าข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะไม่มีความหวังหลงเหลืออีก ข้าพเจ้าจะปกป้องวิถีของข้าพเจ้าต่อพระพักตร์พระองค์ก็ไม่ได้
\s5
\p
\v 16 นี่จะเป็นเหตุผลสำหรับการพ้นผิดของข้าพเจ้า ที่ข้าพเจ้าไม่ได้มาอยู่ต่อพระพักตร์พระองค์เหมือนกับคนชอบธรรม
\v 17 ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงฟังคำกล่าวของข้าพระองค์ด้วยความเอาใจใส่ ขอให้คำประกาศของข้าพระองค์มาถึงพระกรรณของพระองค์
\v 18 เวลานี้ขอทอดพระเนตรเถิด ข้าพระองค์ได้ตั้งปราการของข้าพระองค์ขึ้น ข้าพระองค์รู้ว่าข้าพระองค์ไร้ความผิด
\v 19 ใครคือคนที่ควรโต้เถียงกับข้าพระองค์ในศาลหรือ? ถ้าหากพระองค์เสด็จมาเพื่อทำสิ่งนี้ และถ้าข้าพระองค์ได้รับการพิสูจน์ว่าผิดจริง แล้วข้าพระองค์จะเงียบและยอมมอบชีวิตของข้าพระองค์
\v 20 ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงทำเพียงสองสิ่งเพื่อข้าพระองค์ แล้วข้าพระองค์จะไม่ซ่อนตัวเองจากพระพักตร์ของพระองค์
\s5
\p
\v 21 ขอทรงถอนมือแห่งการกดขี่ของพระองค์จากข้าพระองค์ และขอทรงอย่าปล่อยให้การคุกคามของพระองค์ทำให้ข้าพระองค์หวาดกลัว
\v 22 แล้วขอทรงเรียกข้าพระองค์ และข้าพระองค์จะตอบ หรือปล่อยให้ข้าพระองค์ทูลต่อพระองค์ และพระองค์ตอบข้าพระองค์
\v 23 ความชั่วช้าและความบาปของข้าพระองค์มีมากสักเท่าใดหรือ? ขอให้ข้าพระองค์รู้ถึงการกระทำผิดและความบาปของข้าพระองค์เถิด
\v 24 ทำไมพระองค์จึงทรงซ่อนพระพักตร์ของพระองค์จากข้าพระองค์และทรงปฏิบัติต่อข้าพระองค์เหมือนศัตรูของพระองค์?
\s5
\p
\v 25 พระองค์จะข่มเหงข้าพระองค์ที่เป็นเหมือนใบไม้ที่ถูกทำให้ปลิวนี้หรือ? พระองค์จะตามล่าข้าพระองค์ที่เป็นเหมือนโคนไม้แห้งนี้หรือ?
\v 26 เพราะพระองค์ทรงบันทึกสิ่งที่ขมขื่นต่างๆ เพื่อโจมตีข้าพระองค์ พระองค์ทำให้ข้าพระองค์รับมรดกความชั่วร้ายของวัยหนุ่มของข้าพระองค์
\v 27 พระองค์ทรงวางเท้าของข้าพระองค์ในขื่อคาทั้งหลาย พระองค์เฝ้าดูทางทั้งหลายของข้าพระองค์อย่างใกล้ชิด พระองค์ทรงตรวจผืนดินที่เท้าของข้าพระองค์ได้เดิน
\v 28 ถึงแม้ว่าข้าพระองค์เป็นเหมือนสิ่งเน่าเปื่อยที่ต้องทิ้ง เป็นเหมือนผ้าที่ถูกมอดกัดกินก็ตาม
\s5
\c 14
\p
\v 1 มนุษย์ที่เกิดมาจากผู้หญิง ย่อมมีชีวิตอยู่เพียงแค่ไม่กี่วันและเต็มไปด้วยความยากลำบาก
\v 2 เขางอกออกมาจากดินเหมือนกับดอกไม้ดอกหนึ่งและก็ถูกตัดเสีย เขาหนีไปเหมือนกับเงาและไม่คงอยู่ตลอด
\v 3 พระองค์ทรงทอดพระเนตรสิ่งเหล่านี้ไหม? พระองค์ทรงนำข้าพระองค์เข้าสู่การพิพากษาของพระองค์ด้วยหรือ?
\v 4 ใครสามารถนำบางสิ่งที่สะอาดออกมาจากบางสิ่งที่ไม่สะอาดได้อย่างนั้นหรือ? ไม่มีใครทำได้เลย
\v 5 วันทั้งหลายของมนุษย์ก็ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว จำนวนเดือนทั้งหลายของเขาก็อยู่กับพระองค์ พระองค์ได้ทรงจำกัดเขตแดนของเขาและเขาไม่สามารถผ่านไปได้
\s5
\p
\v 6 ขอทรงหันออกไปจากเขาเพื่อเขาจะได้หยุดพัก เพื่อเขาจะชื่นชมวันของเขาเหมือนกับลูกจ้างคนหนึ่งถ้าหากเขาทำได้เช่นนั้น
\v 7 สิ่งนั้นสามารถเป็นความหวังให้กับต้นไม้ต้นหนึ่ง ถ้าหากมันถูกโค่นลง มันก็จะงอกขึ้นมาอีก เพื่อต้นอ่อนของมันจะไม่หายไป
\v 8 ถึงแม้ว่ารากของมันในผืนดินจะแก่ลง และตอของมันตายในดิน
\v 9 แต่ถ้ามันได้น้ำเพียงสักเล็กน้อย มันก็จะแตกหน่อและออกกิ่งเหมือนกับต้นอ่อนต้นหนึ่ง
\v 10 แต่มนุษย์ที่ตาย เขาก็กลายเป็นคนอ่อนแอ แท้จริงแล้ว มนุษย์หยุดหายใจ และเขาอยู่ที่ไหน?
\s5
\p
\v 11 เหมือนกับน้ำในทะเลสาปที่แห้งไป และเหมือนกับลำธารที่ไม่มีน้ำและเหือดแห้ง
\v 12 ผู้คนก็ล้มตัวลงและไม่ลุกขึ้นมาอีก จนกว่าท้องฟ้าทั้งหลายไม่มีอีกต่อไป พวกเขาจะไม่ตื่นหรือถูกปลุกจากการนอนหลับของพวกเขา
\v 13 โอ ที่พระองค์จะทรงซ่อนข้าพระองค์ไว้จากแดนคนตาย จากความยากลำบากต่างๆ และที่พระองค์จะทรงรักษาข้าพระองค์ในที่ส่วนตัวจนกว่าพระพิโรธของพระองค์ผ่านพ้นไป ที่พระองค์จะตั้งเวลาแน่นอนให้ข้าพระองค์อยู่ที่นั่นและจากนั้นจึงทรงระลึกถึงข้าพระองค์อีก
\v 14 ถ้าหากมนุษย์คนหนึ่งตาย เขาจะมีชีวิตได้อีกหรือ? ถ้าหากมีได้ ข้าพระองค์ก็ปรารถนาที่จะรอคอยที่นั่นในช่วงเวลาอันอ่อนแรงของข้าพระองค์จนกว่าการปลดปล่อยของข้าพระองค์จะมาถึง
\v 15 พระองค์จะทรงเรียก และข้าพระองค์จะตอบ พระองค์จะทรงมีความปรารถนาสำหรับการงานแห่งพระหัตถ์ของพระองค์
\v 16 พระองค์จะทรงนับจำนวนและดูแลย่างเท้าทั้งหลายของข้าพระองค์ พระองค์จะทรงไม่สะกดรอยตามความบาปของข้าพระองค์
\s5
\p
\v 17 การกระทำผิดของข้าพระองค์จะถูกปิดผนึกเอาไว้ในถุง พระองค์จะปกปิดความชั่วช้าของข้าพระองค์
\v 18 แต่แม้ภูเขาทั้งหลายล้มลงและสลายไป แม้ก้อนหินทั้งหลายถูกย้ายออกไปจากที่ของพวกมัน
\v 19 น้ำทั้งหลายกัดเซาะพวกก้อนหิน น้ำที่เอ่อท่วมชะล้างเอาฝุ่นออกไปจากแผ่นดินโลก เช่นเดียวกันกับสิ่งนี้ พระองค์ทรงทำลายความหวังทั้งหลายของมนุษย์
\v 20 พระองค์ทรงปราบเขาให้พ่ายแพ้เสมอ และพระองค์ก็ผ่านไป พระองค์ทรงหันพระพักตร์ของพระองค์และส่งเขาออกไปสู่การตาย
\v 21 ถ้าหากบุตรทั้งหลายของเขาได้รับเกียรติ เขาก็ไม่รู้ และถ้าหากพวกเขาถูกทำให้ตกต่ำลง เขาก็มองไม่เห็น
\v 22 เขารู้สึกได้เพียงแค่ความเจ็บปวดของร่างกายของเขา และเขาได้แต่คร่ำครวญกับตัวเองเท่านั้น
\s5
\c 15
\p
\v 1 แล้วเอลีฟัสชาวเทมานได้ตอบและพูดว่า
\v 2 "ควรที่คนฉลาดคนหนึ่งจะตอบด้วยความรู้ที่ไร้ประโยชน์และเติมตัวเองด้วยลมตะวันออกหรือ?
\v 3 ควรหรือที่เขาจะให้เหตุผลด้วยการเจรจาที่ไม่เกิดประโยชน์หรือด้วยถ้อยคำที่เขาไม่สามารถทำให้สิ่งดีใด ๆ เกิดขึ้นได้?
\v 4 อันที่จริง ท่านเคารพพระเจ้าน้อยลง ท่านคัดค้านการอุทิศตัวต่อพระองค์
\v 5 เพราะความชั่วช้าของท่านสอนปากของท่าน ท่านเลือกการมีลิ้นของคนเจ้าเล่ห์
\v 6 ปากของท่านเองที่ตำหนิท่าน ไม่ใช่ปากของข้าพเจ้า แท้จริง ริมฝีปากของท่านเองต่างหากที่เป็นพยานต่อต้านท่าน
\s5
\p
\v 7 ท่านเป็นคนแรกที่เกิดมาหรือ? ท่านได้ถูกนำเข้ามาเพื่อให้ดำรงอยู่ก่อนภูเขาทั้งหลายหรือ?
\v 8 ท่านเคยได้ยินความรู้อันลึกลับของพระเจ้าไหม? ท่านจำกัดสติปัญญาให้กับตัวท่านเองหรือ?
\v 9 ท่านรู้อะไรที่เราไม่รู้หรือ? อะไรคือสิ่งที่ท่านเข้าใจที่พวกเราไม่เข้าใจหรือ?
\v 10 พวกเราทั้งสองต่างก็ผมหงอกและอายุก็มากโขยิ่งกว่าบิดาของท่านเสียอีก
\v 11 การปลอบประโลมของพระเจ้า คือ ถ้อยคำต่างๆ ที่สุภาพต่อท่านนั้นมันเล็กน้อยเกินไปสำหรับท่านหรือ?
\v 12 ทำไมหัวใจของท่านจึงนำท่านออกห่างไปเล่า? ทำไมดวงตาของท่านจึงกระพริบ
\s5
\p
\v 13 ดังนั้นท่านจึงหันวิญญาณของท่านมาต่อต้านพระเจ้าและกล่าวถ้อยคำเช่นนั้นออกมาจากปากของท่าน?
\v 14 คนแบบไหนที่เขาสมควรได้รับการชำระให้สะอาดหรือ? คนแบบไหนที่เกิดมาจากผู้หญิงคนหนึ่งที่เขาสมควรเป็นคนชอบธรรมหรือ?
\v 15 ดูเถิด พระเจ้าไม่ได้ทรงไว้วางใจแม้แต่ในวิสุทธิชนทั้งหลายของพระองค์ แท้จริงแล้ว ท้องฟ้าทั้งหลายไม่ได้สะอาดในสายพระเนตรของพระองค์เลย
\v 16 แล้วคนหนึ่งที่ต่ำช้าและเสื่อมทรามจะยิ่งสะอาดน้อยกว่าสักเท่าใด คนที่ดื่มความชั่วช้าเหมือนดื่มน้ำ
\v 17 ข้าพเจ้าจะแสดงให้ท่านเห็น จงฟังข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะประกาศสิ่งต่างๆ ที่ข้าพเจ้าได้เคยเห็นแก่ท่าน
\v 18 สิ่งต่างๆ ที่บรรดาคนฉลาดที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากเหล่าบิดาของพวกเขา สิ่งต่างๆ ที่บรรพบุรุษของพวกเขาไม่เคยปิดซ่อนไว้
\s5
\p
\v 19 ทั้งหมดนี้คือบรรดาบรรพบุรุษของพวกเขา ผู้เดียวที่ได้รับมอบดินแดน และที่ไม่มีคนแปลกหน้าผ่านไปท่ามกลางพวกเขา
\v 20 คนชั่วร้ายเจ็บปวดตลอดวันเวลาของพวกเขา จำนวนปีทั้งหลายที่ถูกเก็บไว้เพื่อให้ผู้กดขี่ทุกข์ทรมาน
\v 21 เสียงแห่งความหวาดกลัวก็อยู่ในหูของเขา ในขณะที่เขามีความรุ่งเรือง ผู้ทำลายจะมาเหนือเขา
\v 22 เขาไม่คิดว่าเขาจะหันออกไปจากความมืด ดาบก็รอคอยเขาอยู่
\v 23 เขาไปสถานที่หลากหลายเพื่อหาอาหาร เขาพูดว่า 'มันอยู่ที่ไหน?' เขารู้ว่าวันแห่งความมืดมิดนั้นอยู่ใกล้แค่เอื้อม
\v 24 ความลำบากและความทุกข์ทำให้เขาหวาดกลัว พวกมันมีอำนาจโจมตีเขา เหมือนกับกษัตริย์องค์หนึ่งที่พร้อมสำหรับการทำสงคราม
\s5
\p
\v 25 เพราะเขาได้ยื่นมือออกเพื่อต่อสู้พระเจ้าและได้ประพฤติอย่างหยิ่งผยองต่อองค์ผู้ทรงฤทธิ์
\v 26 คนที่ชั่วร้ายนี้วิ่งตรงเข้าหาพระเจ้าด้วยคอที่ตั้งชัน ด้วยโล่ที่หนา
\v 27 นี่คือความจริง ถึงแม้ว่าเขาได้ปกคลุมใบหน้าของเขาด้วยไขมันและได้รวบรวมไขมันเอาไว้ที่บั้นเอวของเขา
\v 28 และได้ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองรกร้าง ในบ้านทั้งหลายที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ตอนนี้ และพร้อมที่จะเป็นกองซากปรักหักพังแล้ว
\v 29 เขาจะไม่มั่งคั่ง ความมั่งคั่งของเขาจะไม่อยู่ตลอดไป แม้แต่เงาของเขาก็จะไม่อยู่ตลอดไปบนแผ่นดินโลกนี้
\v 30 เขาจะไม่แยกออกจากความมืดมิด เปลวไฟจะทำให้ลำต้นของเขาแห้ง โดยลมปรานจากพระโอษฐ์ของพระเจ้าจะทำให้เขาถูกพัดปลิวไป
\s5
\p
\v 31 อย่าปล่อยให้เขาไว้วางใจในสิ่งต่าง ๆ ที่สูญเปล่า การหลอกตัวเอง เพราะการสูญเปล่าจะเป็นรางวัลของเขา
\v 32 มันจะเกิดขึ้นก่อนเวลาตายของเขาจะมาถึง กิ่งก้านของเขาจะไม่เขียวสด
\v 33 เขาจะร่วงหล่นเหมือนกับผลองุ่นที่ไม่สุก เขาจะทิ้งดอกไม้ทั้งหลายของเขาเหมือนต้นมะกอก
\v 34 เพราะเพื่อนของคนอธรรมจะเป็นหมัน ไฟจะเผาผลาญเต็นท์ที่ติดสินบนของพวกเขา
\v 35 พวกเขาตั้งครรภ์ความชั่วร้ายและให้กำเนิดความอยุติธรรม ครรภ์ของพวกเขาปฏิสนธิ์ความหลอกลวง"
\s5
\c 16
\p
\v 1 แล้วโยบได้ตอบและพูดว่า
\v 2 "ข้าพเจ้าได้ยินสิ่งต่างๆ เช่นนี้มากมาย พวกท่านทั้งหมดเป็นผู้ปลอบโยนที่น่าสังเวชยิ่งนัก
\v 3 ถ้อยคำไร้ค่าทั้งหลายจะมีที่สิ้นสุดไหม? มีสิ่งใดผิดปกติกับพวกท่านที่ทำให้ตอบแบบนี้ไหม?
\v 4 ข้าพเจ้าสามารถพูดเหมือนกับพวกท่านได้ ถ้าหากพวกท่านอยู่ในที่ของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าสามารถสะสมและรวมถ้อยคำต่างๆ มาเพื่อโจมตีพวกท่าน และส่ายหน้าเยาะเย้ยพวกท่านก็ได้
\s5
\p
\v 5 ข้าพเจ้าจะหนุนใจพวกท่านด้วยปากของข้าพเจ้าได้อย่างไร การปลอบโยนจากริมฝีปากของข้าพเจ้าจะบรรเทาความทุกข์ของพวกท่านอย่างไร
\v 6 ถ้าหากข้าพเจ้าพูด ความทุกข์ของข้าพเจ้าก็ไม่น้อยลงไปเลย ถ้าหากข้าพเจ้าเก็บคำพูดเอาไว้ ข้าพเจ้าจะได้รับความช่วยเหลืออะไรหรือ?
\v 7 แต่เวลานี้ ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ทำให้ข้าพระองค์อ่อนแรงไป พระองค์ทำให้ครอบครัวของข้าพระองค์โศกเศร้า
\v 8 พระองค์ทำให้ข้าพระองค์แห้งเหี่ยวไป ซึ่งมันเป็นพยานต่อต้านข้าพระองค์เอง ร่างกายที่ซูบผอมของข้าพระองค์ก็ลุกขึ้นต่อต้านข้าพระองค์ และมันเป็นพยานต่อต้านใบหน้าของข้าพระองค์
\v 9 พระเจ้าทรงแทงข้าพระองค์ด้วยหนามแห่งพระพิโรธและทรงข่มเหงข้าพระองค์ พระองค์ทรงบดขยี้ข้าพระองค์ด้วยฟันของพระองค์ ศัตรูของข้าพระองค์ก็จ้องมองมายังข้าพระองค์ในขณะที่เขาฉีกข้าพระองค์เป็นชิ้น
\s5
\p
\v 10 ผู้คนอ้าปากค้างใส่ข้าพระองค์ พวกเขาตบแก้มของข้าพระองค์อย่างเสื่อมเสีย พวกเขารวมตัวกันมาโจมตีข้าพระองค์
\v 11 พระเจ้าทรงมอบข้าพระองค์ไว้ในมือของคนอธรรม และทรงเหวี่ยงข้าพระองค์ให้อยู่ในมือของคนชั่วร้าย
\v 12 ข้าพระองค์เคยสุขสบาย แต่พระองค์ทรงทำลายข้าพระองค์เสีย แท้จริงแล้วพระองค์ทรงดึงคอของข้าพระองค์และทรงทุบข้าพระองค์ให้แหลกเป็นชิ้น พระองค์ทรงตั้งข้าพระองค์ให้เป็นเป้าของพระองค์ด้วย
\v 13 เหล่านักยิงธนูของพระองค์ก็ล้อมรอบข้าพระองค์ พระเจ้าทรงแทงไตของข้าพระองค์และไม่ทรงสงวนข้าพระองค์ พระองค์ทรงเทน้ำดีของข้าพระองค์ลงบนพื้น
\s5
\p
\v 14 พระองค์ทรงพุ่งชนกำแพงของข้าพระองค์ครั้งแล้วครั้งเล่า พระองค์ทรงวิ่งเหยียบข้าพระองค์เหมือนนักรบคนหนึ่ง
\v 15 ผิวหนังของข้าพระองค์ก็ถูกเย็บเหมือนกระสอบ ข้าพระองค์ถูกดันเขาลงไปถึงพื้นดิน
\v 16 ใบหน้าของข้าพระองค์เป็นสีแดงเพราะการร่ำไห้ เปลือกตาของข้าพระองค์เป็นเงาแห่งความตาย
\v 17 ถึงแม้ว่าไม่มีความรุนแรงในมือของข้าพระองค์ และคำอธิษฐานของข้าพระองค์ก็บริสุทธิ์
\v 18 แผ่นดินโลกเอ๋ย อย่ากลบโลหิตของข้าพเจ้าเลย จงปล่อยให้การร้องไห้ของข้าพเจ้าไม่มีที่หยุดพักเถิด
\s5
\p
\v 19 ดูเถิด แม้บัดนี้ พยานของข้าพเจ้าก็อยู่ในฟ้าสวรรค์ ท่านผู้รับประกันข้าพเจ้าก็อยู่บนที่สูง
\v 20 เพื่อนทั้งหลายของข้าพเจ้าเยาะเย้ยข้าพเจ้า แต่ดวงตาของข้าพเจ้าหลั่งน้ำตาต่อพระเจ้า
\v 21 ข้าพเจ้าร้องขอให้ผู้เป็นพยานในฟ้าสวรรค์นั้นโต้เถียงกับพระเจ้าแทนชายคนนี้เหมือนกับมนุษย์คนหนึ่งทำให้กับเพื่อนบ้านของเขา
\v 22 เพราะเมื่อหลายปีได้ผ่านไป ข้าพเจ้าจะไปยังสถานที่ที่ข้าพเจ้าจะไม่กลับมาอีก
\s5
\c 17
\p
\v 1 วิญญาณของข้าพเจ้าถูกเผาผลาญ และวันทั้งหลายของข้าพเจ้าก็ผ่านไป หลุมฝังศพก็เตรียมพร้อมสำหรับข้าพเจ้า
\v 2 แน่นอนเลยว่าจะต้องมีคนที่เยาะเย้ยข้าพเจ้า ดวงตาของข้าพเจ้าต้องมองเห็นการยั่วยุของพวกเขาเสมอ
\v 3 บัดนี้ขอทรงสัญญา ขอทรงเป็นผู้ค้ำประกันเพื่อข้าพเจ้าด้วยตัวของพระองค์เองเถิด ใครอีกเล่าที่อยู่ที่นั่นที่จะช่วยข้าพเจ้าได้หรือ?
\v 4 ข้าแต่พระเจ้า เพราะพระองค์ได้ทรงปิดใจของพวกเขาจากความเข้าใจ ดังนั้น พระองค์จึงจะไม่ทรงยกย่องพวกเขาเหนือข้าพระองค์
\s5
\p
\v 5 เขาผู้ประณามพวกเพื่อนของเขาเพื่อเห็นแก่รางวัล ดวงตาของพวกบุตรของเขาจะมืดไป
\v 6 แต่พระองค์ทรงทำให้ข้าพเจ้าเป็นคำกล่าวขานของผู้คน พวกเขาถ่มน้ำลายรดหน้าข้าพเจ้า
\v 7 ดวงตาของข้าพเจ้ามัวไปเพราะความเศร้าโศก อวัยวะในร่างกายของข้าพเจ้าทั้งหมดก็ผอมบางเหมือนกับเงา
\v 8 คนที่เที่ยงตรงจะสิ้นสติไปเพราะสิ่งนี้ คนที่ไร้ความผิดจะเร้าตัวเองให้ลุกขึ้นต่อสู้คนที่ไม่นับถือพระเจ้า
\s5
\p
\v 9 คนชอบธรรมจะรักษาทางของเขาเอาไว้ เขาผู้มีมือที่สะอาดจะเข้มแข็งมากขึ้นและมากขึ้น
\v 10 แต่สำหรับพวกท่านทุกคน จงมาเดี๋ยวนี้ ข้าพเจ้าจะไม่พบคนฉลาดสักคนหนึ่งเลยในท่ามกลางพวกท่าน
\v 11 วันทั้งหลายของข้าพเจ้าก็ผ่านไป แผนงานทั้งหลายของข้าพเจ้าก็กระจัดกระจายไป และทั้งความปรารถนาแห่งหัวใจของข้าพเจ้าด้วย
\v 12 ผู้คนเหล่านี้ ผู้เยาะเย้ยเหล่านี้ เปลี่ยนค่ำคืนให้เป็นกลางวัน ความสว่างอยู่ใกล้ความมืดมิด
\s5
\p
\v 13 ถ้าข้าพเจ้ามองแดนคนตายว่าเป็นเหมือนบ้านของข้าพเจ้า และถ้าข้าพเจ้าได้กางที่นอนของข้าพเจ้าในความมืด
\v 14 และถ้าข้าพเจ้าได้กล่าวต่อหลุมลึกว่า 'เจ้าเป็นบิดาของข้าพเจ้า' และต่อตัวหนอนว่า 'เจ้าเป็นมารดาและน้องสาวของข้าพเจ้า'
\v 15 ความหวังของข้าพเจ้าอยู่ที่ไหนเล่า? ใครที่สามารถมองเห็น เพื่อเป็นความหวังให้แก่ข้าพเจ้าได้บ้าง?
\v 16 ความหวังจะลงไปยังประตูแดนคนตายกับข้าพเจ้าเมื่อเรากลายไปเป็นฝุ่นไหม?"
\s5
\c 18
\p
\v 1 แล้วบิลดัดชาวชูอาห์ได้ตอบและพูดว่า
\v 2 "เมื่อไรที่ท่านจะหยุดพูด? พินิจดูเถิด และหลังจากนั้นเราจึงจะพูด
\v 3 ทำไมพวกเราจึงถูกมองว่าเป็นเหมือนสัตว์ร้าย ทำไมพวกเรากลายเป็นคนโง่ในสายตาของท่าน?
\v 4 ท่านผู้ที่ฉีกตัวเองด้วยความโกรธ แผ่นดินโลกสมควรถูกทอดทิ้งเพราะท่านหรือก้อนหินทั้งหลายสมควรถูกย้ายออกจากสถานที่ของพวกมันหรือ?
\v 5 แท้จริง แสงสว่างของคนชั่วร้ายจะถูกนำออกไป ประกายไฟของเขาจะไม่ส่องแสงอีก
\s5
\p
\v 6 แสงสว่างจะถูกทำให้มืดไปในเต็นท์ของเขา ตะเกียงของเขาที่ตั้งเหนือเขาจะดับไป
\v 7 ย่างก้าวทั้งหลายแห่งกำลังของเขาจะอยู่ไม่นาน แผนการทั้งหลายของเขาจะทำให้เขาล้มลง
\v 8 เพราะเขาจะถูกเหวี่ยงเข้าไปในตาข่ายโดยเท้าของเขาเอง เขาจะเดินเข้าไปในหลุมพราง
\v 9 ส้นเท้าของเขาจะถูกจับด้วยกับดัก บ่วงจะมัดเขาไว้แน่น
\v 10 มีบ่วงแร้วที่ซ่อนเขาอยู่บนพื้นดิน และกับดักเพื่อจับเขาตามทางของเขา
\v 11 ความหวาดกลัวจะทำให้เขากลัวทุกด้าน พวกมันจะไล่ตามส้นเท้าของเขา
\s5
\p
\v 12 ความมั่งคั่งของเขาจะหันไปสู่ความหิวโหย และภัยพิบัติจะพร้อมที่ด้านข้างของเขา
\v 13 อวัยวะต่างๆ ของร่างกายของเขาจะถูกกัดกิน แท้จริงแล้ว บุตรหัวปีของความตายจะกัดกินอวัยวะทั้งหลายของเขา
\v 14 เขาถูกฉีกขาดจากความปลอดภัยแห่งเต็นท์ของเขาและเดินขบวนไปสู่กษัตริย์แห่งความสยดสยอง
\v 15 ผู้คนที่เขาไม่ปรารถนาจะอาศัยอยู่ในเต็นท์ของเขาหลังจากที่พวกเขามองเห็นว่ามีกำมะถันกระจัดกระจายไปทั่วเต็นท์ของเขา
\v 16 รากต่างๆ ของเขาจะขาดน้ำ กิ่งของเขาที่อยู่เหนือขึ้นไปจะถูกตัดทิ้ง
\s5
\p
\v 17 ความทรงจำของเขาจะตายไปจากแผ่นดินโลก เขาจะไม่มีชื่ออยู่บนถนน
\v 18 เขาจะถูกขับออกจากแสงสว่างเข้าไปสู่ความมืด และถูกไล่ออกไปจากโลกนี้
\v 19 เขาจะไม่มีบุตรชายหรือหลานชายท่ามกลางคนของเขา หรือไม่มีญาติมิตรคงเหลืออยู่ในที่ที่เขาอยู่
\v 20 คนเหล่านั้นที่อาศัยอยู่ทางตะวันออกจะถูกทำให้สะพรึงกลัวโดยสิ่งนั้น คนเหล่านั้นที่อาศัยอยู่ทางตะวันตกจะถูกทำให้สยองขวัญกับสิ่งที่เกิดขึ้นต่อเขา
\v 21 แน่นอนว่านั่นคือบ้านทั้งหลายของคนที่ไม่ชอบธรรม สถานที่ทั้งหลายของคนที่ไม่รู้จักพระเจ้า"
\s5
\c 19
\p
\v 1 แล้วโยบจึงได้ตอบและพูดว่า
\v 2 "ท่านจะทำให้ข้าพเจ้าทนทุกข์และทำลายข้าพเจ้าให้เป็นเสี่ยง ๆ ด้วยคำพูดของท่านอีกนานเท่าใด?
\v 3 ท่านได้กล่าวโทษข้าพเจ้าอย่างนี้สิบครั้งแล้ว ท่านไม่ละอายเลยหรือที่ท่านปฏิบัติต่อข้าพเจ้าอย่างหยาบคายนี้
\v 4 ถ้าหากเป็นความจริงที่ข้าพเจ้าได้ทำผิด ความผิดของข้าพเจ้าก็ยังคงเป็นความกังวลของข้าพเจ้าเอง
\v 5 ถ้าหากเป็นความจริงที่ท่านจะยกตัวเองขึ้นเหนือข้าพเจ้าและใช้ความอดสูของข้าพเจ้าโจมตีข้าพเจ้า
\v 6 แล้วท่านสมควรรู้ว่าพระเจ้าทรงกระทำสิ่งที่ผิดต่อข้าพเจ้าและทรงจับข้าพเจ้าไว้ในตาข่ายของพระองค์
\s5
\p
\v 7 ดูเถิด ข้าพเจ้าร้องว่า "รุนแรง" แต่ข้าพเจ้าไม่ได้รับคำตอบ ข้าพเจ้าร้องขอความช่วยเหลือ แต่ไม่มีความยุติธรรมเกิดขึ้น
\v 8 พระองค์ทรงปิดล้อมทางของข้าพเจ้าเพื่อว่าข้าพเจ้าจะไม่สามารถผ่านไปได้ และพระองค์ทรงตั้งความมืดในวิถีของข้าพเจ้า
\v 9 พระองค์ทรงปลดเปลื้องศักดิ์ศรีของข้าพเจ้า และพระองค์ทรงถอดมงกุฎออกจากศีรษะของข้าพเจ้า
\v 10 พระองค์ทรงทำลายข้าพเจ้าในทุกด้าน และข้าพเจ้าได้จากไป พระองค์ทรงถอนความหวังของข้าพเจ้าเหมือนกับถอนต้นไม้ต้นหนึ่ง
\v 11 พระองค์ทรงจุดพระพิโรธเพื่อโจมตีข้าพเจ้า พระองค์ทรงนับว่าข้าพเจ้าเป็นเหมือนหนึ่งในบรรดาศัตรูของพระองค์
\v 12 กองทหารของพระองค์มาร่วมกัน พวกเขาสุมกองดินเพื่อโจมตีข้าพเจ้าและตั้งค่ายล้อมรอบเต็นท์ของข้าพเจ้า
\s5
\p
\v 13 พระองค์ทรงทำให้พี่น้องของข้าพเจ้าห่างไกลจากข้าพเจ้า บรรดาคนรู้จักของข้าพเจ้าก็หมางเมินข้าพเจ้าเสีย
\v 14 พวกญาติของข้าพเจ้าทำให้ข้าพเจ้าผิดหวัง เหล่าเพื่อนสนิทได้หลงลืมข้าพเจ้า
\v 15 คนเหล่านั้นที่ครั้งหนึ่งเคยอาศัยเป็นแขกในบ้านของข้าพเจ้าและทาสหญิงทั้งหลายของข้าพเจ้าก็มองดูข้าพเจ้าเป็นคนแปลกหน้า ข้าพเจ้าเป็นคนต่างด้าวในสายตาของพวกเขา
\v 16 ข้าพเจ้าเรียกทาสของข้าพเจ้า แต่เขาไม่ตอบข้าพเจ้าถึงแม้ว่าข้าพเจ้าอ้อนวอนเขาด้วยคำพูดของข้าพเจ้าก็ตาม
\v 17 ลมหายใจของข้าพเจ้าเป็นที่น่ารังเกียจต่อภรรยาของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเป็นที่สะอิดสะเอียนแม้แต่กับคนเหล่านั้นที่เกิดมาจากครรภ์ของมารดาของข้าพเจ้า
\v 18 แม้แต่เด็กหนุ่มทั้งหลายก็ยังดูหมิ่นข้าพเจ้า ถ้าข้าพเจ้าลุกขึ้นพูด พวกเขาก็พูดโจมตีข้าพเจ้า
\s5
\p
\v 19 เพื่อนของข้าพเจ้าทั้งหมดที่คุ้นเคยกันก็เกลียดชังข้าพเจ้า คนเหล่านั้นที่ข้าพเจ้ารักได้หันมาโจมตีข้าพเจ้า
\v 20 กระดูกทั้งหลายของข้าพเจ้าก็ติดกับหนังและเนื้อของข้าพเจ้า ข้าพเจ้ามีชีวิตรอดเพียงหนังหุ้มฟันของข้าพเจ้าเท่านั้น
\v 21 ขอจงสงสารข้าพเจ้าเถอะ ขอจงสงสารข้าพเจ้า เพื่อนทั้งหลายของข้าพเจ้า เพราะพระหัตถ์ของพระเจ้าทรงแตะต้องข้าพเจ้าแล้ว
\v 22 ทำไมท่านจึงข่มเหงข้าพเจ้าเหมือนกับว่าท่านเป็นพระเจ้าล่ะ? ทำไมท่านไม่พึงพอใจกับการเผาผลาญเนื้อหนังของข้าพเจ้า?
\v 23 โอ ที่ถ้อยคำทั้งหลายของข้าพเจ้าได้ถูกบันทึกเอาไว้ โอ ที่พวกมันได้ถูกจารึกไว้ในหนังสือเล่มหนึ่ง
\v 24 โอ ด้วยสิ่วเหล็กและตะกั่ว พวกมันได้ถูกสลักในก้อนหินชั่วนิรันดร์
\s5
\p
\v 25 แต่สำหรับข้าพเจ้าแล้ว ข้าพเจ้ารู้ว่าพระผู้ไถ่ของข้าพเจ้าทรงพระชนม์อยู่ และพระองค์จะทรงยืนอยู่บนแผ่นดินโลกในที่สุด
\v 26 หลังจากที่ผิวหนังของข้าพเจ้า คือร่างกายนี้ได้ถูกทำลายไป แล้วในเนื้อหนังของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะมองเห็นพระเจ้า
\v 27 ข้าพเจ้าจะมองเห็นพระองค์ด้วยดวงตาของข้าพเจ้าเอง คือข้าพเจ้า ไม่ใช่คนอื่น หัวใจของข้าพเจ้าแตกสลายภายในข้าพเจ้า
\v 28 ถ้าหากท่านพูดว่า 'เราจะข่มเหงเขาได้อย่างไร รากแห่งความทุกข์ทั้งหลายของเขาฝังอยู่ในตัวเขาต่างหาก'
\v 29 อย่างนั้นแล้วจงกลัวดาบเถิด เพราะพระพิโรธนำมาซึ่งการลงโทษด้วยดาบ เพื่อว่าท่านจะรู้ว่ามีการพิพากษา"
\s5
\c 20
\p
\v 1 แล้วโศฟาร์ชาวนาอามาห์ได้ตอบและพูดว่า
\v 2 "ความคิดทั้งหลายของข้าพเจ้าทำให้ข้าพเจ้าตอบอย่างรวดเร็วเพราะความวิตกกังวลที่อยู่ภายในข้าพเจ้า
\v 3 ข้าพเจ้าได้ยินคำตำหนิที่ไม่ให้เกียรติแก่ข้าพเจ้า แต่วิญญาณหนึ่งจากความเข้าใจของข้าพเจ้าตอบข้าพเจ้า
\v 4 ท่านไม่รู้ความจริงนี้จากยุคโบราณ เมื่อพระเจ้าทรงวางมนุษย์ไว้บนแผ่นดินโลก
\v 5 ที่ชัยชนะของคนชั่วก็สั้น และความยินดีของคนที่ไม่นับถือพระเจ้าก็อยู่เพียงชั่วขณะหนึ่งหรือ?
\s5
\p
\v 6 ถึงแม้ว่าความสูงของเขาไปถึงท้องฟ้าทั้งหลาย และศีรษะของเขาไปถึงก้อนเมฆทั้งหลาย
\v 7 แต่คนเช่นนี้จะพินาศไปอย่างถาวรเหมือนกับหน้าของเขาเอง คนเหล่านั้นที่ได้มองเห็นเขาจะพูดว่า 'เขาอยู่ที่ไหนหรือ?'
\v 8 เขาจะบินไปเหมือนกับความฝันและจะไม่ถูกค้นพบ อันที่จริง เขาจะถูกไล่ออกไปเหมือนกับนิมิตยามค่ำคืน
\v 9 ดวงตาที่ได้มองเห็นเขาจะไม่มองดูเขาอีกต่อไป สถานที่ของเขาจะไม่เห็นเขาอีกต่อไป
\v 10 บุตรทั้งหลายของเขาจะขอโทษต่อคนยากจน มือทั้งสองของเขาจะต้องมอบความมั่งคั่งของเขาคืนให้
\v 11 กระดูกทั้งหลายของเขาจะเต็มไปด้วยกำลังของคนหนุ่ม แต่มันจะนอนลงไปพร้อมกับเขาในผงคลี
\s5
\p
\v 12 ถึงแม้ว่าความชั่วร้ายมีรสหวานในปากของเขา ถึงแม้ว่าเขาซ่อนมันไว้ใต้ลิ้นของเขา
\v 13 ถึงแม้ว่าเขายึดมันไว้ที่นั่นและไม่ยอมปล่อยมันไปแต่เก็บมันไว้ในปากของเขา
\v 14 อาหารในลำไส้ของเขาจะกลายเป็นรสขม มันกลายเป็นพิษเหมือนพิษงูอยู่ภายในเขา
\v 15 เขากลืนความมั่งคั่งลงไป แต่เขาจะอาเจียนพวกมันออกมาอีก พระเจ้าจะขับพวกมันออกมาจากท้องของเขา
\v 16 เขาจะดูดพิษของงู ลิ้นของงูที่มีพิษจะฆ่าเขา
\v 17 เขาจะไม่มีความสุขกับลำธารต่าง ๆ กระแสน้ำเชี่ยวแห่งน้ำผึ้งและเนยเหลว
\s5
\p
\v 18 เขาจะมอบคืนผลไม้จากการทำงานหนักของเขาและจะไม่สามารถกินมันได้ เขาจะไม่มีความสุขกับความมั่งคั่งที่หามาได้จากการค้าของเขา
\v 19 เพราะเขาได้กดขี่และไม่ใส่ใจคนยากจน เขาได้ใช้ความรุนแรงเพื่อยึดบ้านทั้งหลายที่เขาไม่ได้สร้าง
\v 20 เพราะเขาไม่รู้จักพึงพอใจกับตัวเอง เขาจะไม่สามารถเก็บรักษาสิ่งใดที่เขาพอใจเอาไว้ได้
\v 21 ไม่มีสิ่งใดหลงเหลือที่เขาไม่ได้ผลาญ ดังนั้นความรุ่งเรืองของเขาจะไม่คงอยู่อย่างถาวร
\v 22 ในความอุดมสมบูรณ์แห่งความมั่งคั่งของเขา เขาจะล้มลงในความทุกข์ยาก มือของทุกคนที่อยู่ในความยากจนจะมาโจมตีเขา
\v 23 เมื่อเขาจะเติมท้องของเขาให้เต็ม พระเจ้าจพเหวี่ยงความอำมหิตแห่งพระพิโรธของพระองค์มาเหนือเขา พระเจ้าจะเทฝนแห่งพระพิโรธลงมาเหนือเขาในขณะที่เขากำลังกินอาหาร
\s5
\p
\v 24 ถึงแม้ว่าชายคนนั้นจะหนีไปจากอาวุธเหล็ก ธนูทองแดงจะยิงเขา
\v 25 ลูกศรจะแทงหลังของเขาและจะทะลุออกมา อันที่จริง จุดที่คมกริบจะออกมาจากตับของเขา ความหวาดกลัวจะมาเหนือเขา
\v 26 ความมืดสนิทเตรียมไว้สำหรับทรัพย์สมบัติของเขา ไฟที่ไม่ถูกพัดจะเผาผลาญเขา มันจะเผาผลาญสิ่งที่หลงเหลืออยู่ในเต็นท์ของเขา
\v 27 ฟ้าสวรรค์จะสำแดงความชั่วช้าของเขา และแผ่นดินโลกจะลุกขึ้นโจมตีเขาในฐานะพยานผู้หนึ่ง
\v 28 ความมั่งคั่งแห่งบ้านของเขาจะอันตรธานไป สินค้าของเขาจะไหลออกไปในวันแห่งพระพิโรธของพระเจ้า
\v 29 นี่คือชะตาของคนชั่วร้ายจากพระเจ้า มรดกที่สำรองไว้สำหรับเขาโดยพระเจ้า"
\s5
\c 21
\p
\v 1 แล้วโยบจึงได้ตอบและพูดว่า
\v 2 "ขอจงฟังถ้อยคำของข้าพเจ้าให้ดี และขอให้สิ่งนี้เป็นการปลอบโยนที่ท่านมอบให้แก่ข้าพเจ้าเถิด
\v 3 ต่อกรกับข้าพเจ้าเถิด และข้าพเจ้าจะพูดด้วยเช่นกัน หลังจากที่ข้าพเจ้าได้พูดแล้ว ก็จงเยาะเย้ยต่อไป
\v 4 สำหรับข้าพเจ้าแล้ว ข้าพเจ้าได้บ่นว่าบุคคลหนึ่งหรือ? ทำไมข้าพเจ้าจึงไม่สมควรที่จะอดทน?
\v 5 มองที่ข้าพเจ้าสิ และจงประหลาดใจ และเอามือของท่านปิดปากของท่านไว้
\s5
\p
\v 6 เมื่อข้าพเจ้าคิดถึงการทนทุกข์ของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็หวาดกลัว และร่างกายของข้าพเจ้าก็สั่นไปหมด
\v 7 ทำไมคนชั่วจึงยังคงมีชีวิตอยู่ต่อไป จนแก่ชรา และมีพลังเข้มแข็งขึ้น?
\v 8 เชื้อสายทั้งหลายของพวกเขาได้รับการสถาปนาพร้อมกับพวกเขาในสายตาของพวกเขา และพงศ์พันธุ์ของพวกเขาได้รับการก่อตั้งต่อหน้าต่อตาของพวกเขา
\v 9 บ้านทั้งหลายของพวกเขาปลอดภัยจากความกลัว ไม่มีไม้เรียวของพระเจ้าเหนือพวกเขา
\v 10 วัวตัวผู้ของเขาผสมพันธุ์ได้ มันทำได้สำเร็จ แม่วัวของพวกเขาก็คลอดลูกและไม่คลอดลูกวัวก่อนกำหนด
\s5
\p
\v 11 พวกเขาส่งพวกเด็กเล็กๆ ของพวกเขาออกไปเหมือนกับฝูงแกะ และบรรดาบุตรของพวกเขาเต้นรำ
\v 12 พวกเขาร้องเพลงพร้อมด้วยเสียงรำมะนาและเสียงพิณ และชื่นชมยินดีด้วยเสียงดนตรีจากเครื่องเป่า
\v 13 พวกเขาใช้เวลาในวันทั้งหลายของพวกเขากับความรุ่งเรือง และพวกเขาลงไปที่แดนคนตายอย่างสงบ
\v 14 พวกเขาพูดกับพระเจ้าว่า 'ขอทรงแยกไปจากเรา เพราะเราไม่ปรารถนาความรู้ใดๆ ในวิถีของพระองค์
\v 15 สิ่งใดคือผู้ทรงฤทธิ์ ที่เราสมควรนมัสการพระองค์หรือ? เราจะได้รับผลประโยชน์อะไรถ้าหากเราอธิษฐานต่อพระองค์เล่า?'
\s5
\p
\v 16 ดูเถิด ไม่ใช่ความรุ่งเรืองของพวกเขาที่อยู่ในมือของพวกเขาหรือ? ข้าพเจ้าไม่มีสิ่งใดที่จะต้องทำกับคำแนะนำของคนชั่ว
\v 17 บ่อยแค่ไหนที่ตะเกียงของคนชั่วถูกดับ หรือที่ภัยพิบัติมาเหนือพวกเขา? บ่อยแค่ไหนที่มันเกิดขึ้นที่พระเจ้าทำให้พวกเขาเศร้าโศกด้วยพระพิโรธของพระองค์?
\v 18 บ่อยแค่ไหนที่พวกเขาต้องกลายเป็นเหมือนกับตอข้าวท่ามกลางสายลมหรือเหมือนกับเปลือกข้าวที่ถูกพายุพัดไป?
\v 19 ท่านพูดว่า 'พระเจ้าทรงยกความผิดของคนหนึ่งขึ้นมาเพื่อให้บรรดาบุตรของพระองค์ชดใช้' ให้เขาชดใช้ด้วยตัวเองเถิด เพื่อว่าเขาจะรู้ถึงความผิดของเขา
\v 20 ให้ดวงตาของเขามองเห็นหายนะของเขาเอง และให้เขาดื่มพระพิโรธขององค์ผู้ทรงฤทธิ์เถิด
\s5
\p
\v 21 เพราะสิ่งใดจะเป็นการเอาใจใส่ครอบครัวของเขาเมื่อจำนวนเดือนทั้งหลายของเขาถูกตัดออกหรือ?
\v 22 ใครเล่าสามารถสอนความรู้ให้กับพระเจ้าเนื่องจากพระองค์ทรงพิพากษาแม้แต่คนเหล่านั้นที่อยู่สูง?
\v 23 ชายคนหนึ่งตายในขณะที่กำลังของเขาเข้มแข็งเต็มที่ เงียบสงบและสุขสบายอย่างเต็มที่
\v 24 ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยน้ำนม และไขในกระดูกของเขาก็ชุ่มและมีสุขภาพดี
\v 25 ชายอีกคนหนึ่งตายด้วยจิตวิญญาณที่ขมขื่น คือคนหนึ่งที่ไม่เคยมีประสบการณ์กับสิ่งดีใดๆ
\s5
\p
\v 26 พวกเขาล้มตัวนอนในผงคลีเหมือนกัน บรรดาหนอนก็ปกคลุมพวกเขาทั้งสอง
\v 27 ดูเถิด ข้าพเจ้ารู้ความคิดทั้งหลายของท่าน และวิถีทั้งหลายที่ท่านปรารถนาทำผิดต่อข้าพเจ้า
\v 28 เพราะท่านพูดว่า 'ตอนนี้บ้านของเจ้าชายอยู่ที่ไหนเล่า? เต็นท์ที่คนชั่วเคยอาศัยอยู่ที่ไหนหรือ?'
\v 29 ท่านไม่เคยถามคนที่สัญจรมาหรือ? ท่านไม่รู้ถึงหลักฐานที่พวกเขาสามารถบอกได้ว่า
\v 30 คนชั่วนั้นถูกป้องกันเอาไว้จากวันแห่งหายนะ และที่เขาได้ถูกนำออกไปจากวันแห่งพระพิโรธหรือ?
\s5
\p
\v 31 ใครจะกล่าวโทษวิถีของคนชั่วต่อหน้าเขา? ใครจะตอบแทนเขาสำหรับสิ่งที่เขาได้ทำ?
\v 32 แม้เขาจะถูกหามไปที่หลุมฝังศพ บรรดาผู้ชายจะเฝ้ายามเหนืออุโมงค์ฝังศพของเขา
\v 33 ดินแห่งหุบเขาจะเป็นของหวานสำหรับเขา ทุกคนจะตามเขาไป อย่างที่มีคนจำนวนมากมายได้ไปก่อนเขาแล้วที่นั่น
\v 34 แล้วท่านปลอบโยนข้าพเจ้าด้วยสิ่งที่ไร้สาระ เพราะในคำตอบทั้งหลายของพวกท่านไม่มีสิ่งใดเลยนอกเสียจากการพูดเท็จใช่ไหม?"
\s5
\c 22
\p
\v 1 แล้วเอลีฟัสชาวเทมานได้ตอบและพูดว่า
\v 2 "คนๆ หนึ่งสามารถเป็นประโยชน์ต่อพระเจ้าได้หรือ? คนฉลาดคนหนึ่งสามารถเป็นประโยชน์ต่อพระองค์ได้หรือ?
\v 3 การที่ท่านเป็นคนชอบธรรมนั้นสร้างความพอพระทัยอะไรให้กับองค์ผู้ทรงฤทธิ์หรือ? การที่ท่านทำให้วิถีของท่านไร้ที่ตินั้นทำให้พระองค์ได้รับอะไรหรือ?
\v 4 เป็นเพราะความยำเกรงของท่านต่อพระองค์ที่ทำให้พระองค์ทรงตำหนิท่านและนำท่านเข้าสู่การพิพากษาอย่างนั้นหรือ?
\v 5 ไม่ใช่เพราะความชั่วอันยิ่งใหญ่ของท่านหรือ? ไม่ใช่เพราะความอธรรมที่ไม่สิ้นสุดของท่านหรือ?
\v 6 เพราะท่านได้เรียกร้องการค้ำประกันหนี้จากพี่น้องของท่านโดยไม่มีเหตุผล และท่านได้เปลื้องเสื้อผ้าจากคนที่เปลือยกาย
\s5
\p
\v 7 ท่านไม่ได้ให้น้ำแก่คนที่อ่อนแรงดื่ม ท่านได้ยื้ออาหารไว้จากคนที่หิวโหย
\v 8 ถึงแม้ว่าท่านผู้เป็นคนที่มีกำลังที่ครอบครองแผ่นดินโลก ถึงแม้ว่าท่านเป็นคนที่มีเกียรติที่อาศัยอยู่ในนั้น
\v 9 ท่านได้ส่งหญิงม่ายไปด้วยความว่างเปล่า แขนทั้งหลายของคนที่กำพร้าพ่อได้ถูกทำให้หัก
\v 10 ด้วยเหตุนี้ บ่วงแร้วจึงอยู่รอบตัวท่าน และความกลัวอย่างฉับพลันก็ทำให้ท่านลำบาก
\v 11 มีความมืด เพื่อว่าท่านจะไม่สามารถมองเห็น น้ำมากมายท่วมท่าน
\v 12 พระเจ้ามิได้ทรงอยู่ในที่สูงสุดของท้องฟ้าหรือ? จงมองดูดวงดาวทั้งหลายที่อยู่ในที่สูง พวกมันอยู่สูงสักเพียงใด
\s5
\p
\v 13 ท่านพูดว่า 'พระเจ้าทรงรู้เรื่องอะไรหรือ? พระองค์ทรงสามารถตัดสินผ่านความมืดทึบได้หรือ?
\v 14 เมฆหนาปกคลุมพระองค์ไว้ เพื่อว่าพระองค์จะไม่ทรงสามารถมองเห็นเรา พระองค์ทรงดำเนินบนหลังคาของท้องฟ้า'
\v 15 ท่านจะรักษาวิถีเดิมที่คนชั่วได้ดำเนิน
\v 16 คือคนเหล่านั้นที่ถูกคร่าไปก่อนเวลาของพวกเขา คนเหล่านั้นที่รากฐานได้ถูกซัดไปเหมือนแม่น้ำสายหนึ่ง
\v 17 คนเหล่านั้นที่ได้ทูลต่อพระเจ้าว่า 'ขอทรงแยกไปจากพวกเราเถิด' คนเหล่านั้นที่ได้พูดว่า 'องค์ผู้ทรงฤทธิ์จะทรงสามารถกระทำสิ่งใดต่อพวกเราหรือ?'
\v 18 แต่พระองค์ได้ทรงเติมบ้านของพวกเขาให้เต็มไปด้วยสิ่งต่าง ๆ ที่ดี แผนการทั้งหลายของคนชั่วก็ห่างไกลจากข้าพเจ้า
\s5
\p
\v 19 คนชอบธรรมมองเห็นโชคชะตาของพวกเขาและยินดี คนไร้ความผิดหัวเราะเยาะเย้ยพวกเขา
\v 20 พวกเขาพูดว่า 'แน่นอนเลยว่าคนเหล่านั้นผู้ได้ลุกขึ้นโจมตีพวกเราจะถูกตัดออกไป ไฟได้เผาผลาญทรัพย์สมบัติทั้งหลายของพวกเขา'
\v 21 บัดนี้จงเห็นด้วยกับพระเจ้าและจงยอมสยบต่อพระองค์ ด้วยการทำเช่นนี้ สิ่งดีก็จะเกิดขึ้นกับท่าน
\v 22 ข้าพเจ้าขอร้องท่านล่ะ จงยอมรับคำสั่งสอนจากพระโอษฐ์ของพระองค์ จงบรรจุถ้อยคำทั้งหลายของพระองค์ไว้ในหัวใจของท่าน
\v 23 ถ้าหากท่านหันกลับมายังองค์ผู้ทรงฤทธิ์ ท่านจะได้รับการสร้างขึ้นใหม่ ถ้าหากท่านเอาความอธรรมไว้ห่างไกลจากเต็นท์ของท่าน
\v 24 วางทรัพย์สมบัติของท่านลงในผงคลี ทองคำแห่งโอฟีร์ท่ามกลางบรรดาก้อนหินในลำธารทั้งหลาย
\s5
\p
\v 25 และองค์ผู้ทรงฤทธิ์จะเป็นทรัพย์สมบัติของท่าน เป็นเงินอันล้ำค่าแก่ท่าน
\v 26 เพราะท่านจะมีความพึงพอใจในองค์ผู้ทรงฤทธิ์ ท่านจะเงยหน้าขึ้นต่อพระเจ้า
\v 27 ท่านจะอธิษฐานต่อพระองค์ และพระองค์จะทรงฟังท่าน ท่านจะให้คำปฏิญาณต่อพระองค์
\v 28 ท่านจะตัดสินสิ่งใด ๆ และสิ่งนั้นจะได้รับการยืนยันสำหรับท่าน แสงสว่างจะส่องมาเหนือวิถีของท่าน
\v 29 พระเจ้าทรงทำให้คนหยิ่งต้องถ่อมตัวลง และพระองค์ทรงช่วยคนที่มีดวงตาอ่อนโยนให้รอด
\v 30 พระองค์จะช่วยกู้แม้แต่คนที่มีความผิด คือคนที่จะได้รับการช่วยกู้ผ่านทางมือที่สะอาดของท่าน"
\s5
\c 23
\p
\v 1 แล้วโยบจึงได้ตอบและพูดว่า
\v 2 "ถึงแม้ทุกวันนี้คำบ่นของข้าพเจ้าเป็นความขมขื่น มือของข้าพเจ้าหนักเพราะการครวญครางของข้าพเจ้า
\v 3 โอ ที่ข้าพเจ้าได้รู้ว่าข้าพเจ้าจะพบพระองค์ได้ที่ไหน โอ ที่ข้าพเจ้าอาจได้มายังสถานที่ของพระองค์
\v 4 ข้าพเจ้าจะวางเรื่องของข้าพเจ้าต่อพระพักตร์พระองค์ และเติมปากของข้าพเจ้าด้วยการคำโต้แย้งทั้งหลาย
\v 5 ข้าพเจ้าจะเรียนรู้ถ้อยคำต่าง ๆ ที่พระองค์จะทรงตอบข้าพเจ้า และจะเข้าใจสิ่งที่พระองค์จะตรัสแก่ข้าพเจ้า
\s5
\p
\v 6 พระองค์จะทรงโต้แย้งกับข้าพเจ้าในความยิ่งใหญ่แห่งฤทธิ์อำนาจของพระองค์หรือ? ไม่เลย พระองค์จะใส่พระทัยข้าพเจ้า
\v 7 ที่นั่นคนเที่ยงตรงอาจโต้แย้งกับพระองค์ ด้วยวิธีการนี้ ข้าพเจ้าจะได้รับการประกาศว่าไม่มีความผิดชั่วนิรันดร์โดยความยุติธรรมของข้าพเจ้า
\v 8 ดูเถิด ข้าพเจ้าไปทางทิศตะวันออก แต่พระองค์ไม่ทรงอยู่ที่นั่น และไปทางทิศตะวันตก แต่ข้าพเจ้าไม่สามารถมองเห็นพระองค์
\v 9 ไปทางทิศเหนือที่ซึ่งพระองค์ทรงทำงานอยู่ แต่ข้าพเจ้าก็ไม่สามารถพบพระองค์ และไปทางทิศใต้ที่ซึ่งพระองค์ซ่อนพระองค์เองเพื่อข้าพเจ้าจะไม่สามารถมองเห็นพระองค์ได้
\v 10 แต่พระองค์ทรงรู้จักหนทางที่ข้าพเจ้าไป เมื่อพระองค์ได้ทรงทดสอบข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะออกมาเป็นเหมือนกับทองคำ
\v 11 เท้าของข้าพเจ้าได้ยึดมั่นในย่างก้าวทั้งหลายของพระองค์ ข้าพเจ้าได้รักษาวิถีของพระองค์และไม่หันเหไป
\s5
\p
\v 12 ข้าพเจ้าไม่ได้ไปจากพระบัญญัติแห่งพระโอษฐ์ของพระองค์ ข้าพเจ้าได้ให้คุณค่าต่อบรรดาถ้อยคำแห่งพระโอษฐ์ของพระองค์มากยิ่งกว่าส่วนแบ่งอาหารของข้าพเจ้า
\v 13 แต่พระองค์คือผู้หนึ่งที่ทรงเมตตา ใครสามารถทำให้พระองค์หันกลับได้หรือ? สิ่งที่พระองค์ทรงปรารถนา พระองค์ทรงกระทำ
\v 14 เพราะพระองค์ทรงทำให้กฎบัญญัติของพระองค์ที่ต่อต้านข้าพเจ้านั้นสมบูรณ์ มีอีกมากมายที่เป็นเหมือนสิ่งเหล่านั้น
\v 15 ด้วยเหตุนี้ ข้าพเจ้าจึงหวาดกลัวอยู่ในการทรงสถิตของพระองค์ เมื่อข้าพเจ้าคิดถึงพระองค์ ข้าพเจ้ากลัวพระองค์
\v 16 เพราะพระเจ้าทรงทำให้ใจของข้าพเจ้าอ่อนแรง องค์ผู้ทรงฤทธิ์ทำให้ข้าพเจ้าหวาดกลัว
\v 17 ข้าพเจ้าไม่ได้ถูกนำไปยังจุดจบโดยความมืด เพราะความมืดทึบที่ปกคลุมใบหน้าอันสิ้นหวังของข้าพเจ้า
\s5
\c 24
\p
\v 1 ทำไมเวลาทั้งหลายเพื่อการตัดสินคนชั่วร้ายจึงไม่ตั้งโดยองค์ผู้ทรงฤทธิ์หรือ? ทำไมคนเหล่านั้นที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าจึงไม่ได้มองเห็นวันแห่งการพิพากษาทั้งหลายของเขามาถึงหรือ?
\v 2 มีคนชั่วร้ายผู้ที่ย้ายหลักเขตต่าง ๆ มีคนชั่วผู้ที่ใช้กำลังบังคับเอาฝูงแพะแกะและเก็บพวกมันไว้ในทุ่งเลี้ยงสัตว์ของตัวเอง
\v 3 พวกเขาขับไล่ลาของคนเหล่านั้นที่กำพร้าพ่อ พวกเขาเอาวัวของหญิงม่ายเป็นของประกัน
\v 4 พวกเขาบีบบังคับคนขัดสนให้ออกไปจากทางของพวกเขา คนยากจนแห่งแผ่นดินโลกทั้งหมดล้วนซ่อนตัวจากพวกเขา
\v 5 ดูเถิด คนยากจนเหล่านี้ออกไปทำงานของพวกเขาเหมือนกับพวกลาป่าในถิ่นทุรกันดาร มองหาอาหารอย่างถ้วนถี่ บางทีอาราบาห์จะเตรียมอาหารให้กับพวกเขาเพื่อบรรดาบุตรของพวกเขา
\s5
\p
\v 6 คนยากจนเก็บเกี่ยวในเวลากลางคืนในทุ่งหญ้าของคนอื่น พวกเขารวบรวมผลองุ่นทั้งหลายจากการเก็บเกี่ยวของคนเหล่านั้นที่ชั่วร้าย
\v 7 พวกเขานอนเปลือยกายทั้งคืนโดยไม่มีผ้าปกปิด พวกเขาไม่มีผ้าห่มในความหนาว
\v 8 พวกเขาเปียกชุ่มไปด้วยหิมะปรอยๆ จากภูเขาทั้งหลาย พวกเขานอนลงข้างๆ ก้อนหินใหญ่เพราะพวกเขาไม่มีที่กำบัง
\v 9 มีคนชั่วร้ายที่พรากเด็กกำพร้าไปจากอ้อมอกของมารดา และคนชั่วร้ายที่จับเด็กเป็นประกันจากคนยากจน
\v 10 แต่คนยากจนไปตัวเปล่าโดยไม่มีเสื้อผ้า ทั้งๆ ที่พวกเขาหิว พวกเขาก็ต้องแบกบรรดาฟ่อนข้าวของคนอื่น
\s5
\p
\v 11 คนยากจนทำน้ำมันภายในกำแพงทั้งหลายของคนเหล่านั้นที่ชั่วร้าย พวกเขาย่ำองุ่นในบ่อองุ่นของคนชั่วร้าย แต่พวกเขาเองกลับทนทุกข์ในความหิวกระหาย
\v 12 ในเมืองนั้น ผู้คนต่างครวญคราง และคนที่บาดเจ็บร้องเสียงดังเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่พระเจ้าไม่ทรงสนพระทัยคำอธิษฐานทั้งหลายของพวกเขา
\v 13 คนชั่วร้ายเหล่านี้บางคนกบฎต่อความสว่าง พวกเขาไม่รู้ทางของมัน หรือพวกเขาไม่อยู่ในวิถีของมัน
\v 14 ก่อนฟ้าสางฆาตกรก็ลุกขึ้นและเขาฆ่าคนยากจนกับคนขัดสน ในยามค่ำคืนเขาเป็นเหมือนขโมย
\v 15 เช่นเดียวกัน ดวงตาของคนล่วงประเวณีก็รอเวลาสายัณห์ เขาพูดว่า 'ไม่มีดวงตาคู่ไหนจะมองเห็นข้าพเจ้า' เขาอำพรางใบหน้าของเขา
\s5
\p
\v 16 ในความมืด คนชั่วร้ายขุดเข้าบ้านต่างๆ แต่พวกเขาเก็บตัวเองเงียบในเวลากลางวัน พวกเขาไม่สนใจความสว่าง
\v 17 สำหรับพวกเขาทั้งหมด ความมืดทึบก็เป็นเหมือนเวลาเช้า เพราะพวกเขาเป็นเพื่อนกับความน่ากลัวแห่งความมืดมิด
\v 18 พวกเขาผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็เป็นเหมือนกับฟองที่อยู่บนผิวน้ำ ส่วนแบ่งดินแดนของพวกเขาถูกแช่งสาป ไม่มีใครไปทำงานในสวนองุ่นของพวกเขาได้
\v 19 เมื่อความแห้งแล้งและความร้อนทำให้หิมะละลายกลายเป็นน้ำ ดังนั้นแดนคนตายจึงได้ยึดเอาคนเหล่านั้นที่ได้ทำบาป
\v 20 ครรภ์ที่ได้อุ้มเขามาจะลืมเขา หนอนจะกินตัวเขาอย่างเอร็ดอร่อย เขาจะไม่เป็นที่ระลึกถึงอีกต่อไป ในทางนี้ ความชั่วร้ายจะถูกทำลายเหมือนกับต้นไม้ต้นหนึ่ง
\s5
\p
\v 21 คนชั่วร้ายที่ล้างผลาญหญิงหมันที่ไม่ได้ให้กำเนิดบุตร เขาไม่ได้ทำสิ่งดีแก่หญิงม่าย
\v 22 แต่พระเจ้ายังทรงลากคนมีกำลังออกไปโดยฤทธิ์อำนาจของพระองค์ พระองค์ทรงลุกขึ้นและไม่ทรงเสริมกำลังในชีวิตของพวกเขา
\v 23 พระเจ้าทรงยอมให้พวกเขาคิดว่าพวกเขาปลอดภัย และพวกเขามีความสุขเกี่ยวกับสิ่งนั้น แต่พระเนตรของพระองค์อยู่เหนือทางทั้งหลายของพวกเขา
\v 24 คนเหล่านี้ได้รับการยกย่อง แต่ก็เป็นเพียงช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น พวกเขาจะต้องจากไป อันที่จริง พวกเขาจะถูกนำลงไปที่ต่ำ พวกเขาจะถูกรวบรวมเหมือนกับคนอื่น ๆ ทั้งหมด พวกเขาจะถูกตัดออกไปเหมือนกับรวงข้าว
\v 25 ถ้าหากมันไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว ใครเล่าที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าข้าพเจ้าเป็นคนโกหก ใครสามารถทำให้คำพูดของข้าพเจ้าไร้ค่าหรือ?"
\s5
\c 25
\p
\v 1 แล้วบิลดัดชาวชูอาห์ได้ตอบและพูดว่า
\v 2 "พระองค์ผู้ทรงครอบครองและน่ายำเกรง พระองค์ทรงบัญชาในสถานสูงแห่งฟ้าสวรรค์ของพระองค์
\v 3 กองทัพทั้งหลายของพระองค์มีจำนวนที่สิ้นสุดหรือ? มีใครหรือที่พระองค์ไม่ได้ส่องแสงสว่างเหนือเขา?
\v 4 แล้วมนุษย์จะสามารถเป็นคนชอบธรรมต่อพระเจ้าได้อย่างไร? เขาผู้ที่เกิดจากผู้หญิงคนหนึ่งจะสะอาด เป็นที่ยอมรับต่อพระองค์ได้อย่างไร?
\v 5 ดูเถิด แม้แต่ดวงจันทร์ก็ไม่สว่างจ้าต่อพระองค์ ดวงดาวทั้งหลายก็ไม่บริสุทธิ์ในสายพระเนตรของพระองค์
\v 6 มนุษย์จะยิ่งน้อยกว่านั้นสักเท่าใด ผู้ที่เป็นเพียงตัวหนอน บุตรของมนุษย์ ผู้ที่เป็นหนอนตัวหนึ่ง"
\s5
\c 26
\p
\v 1 แล้วโยบจึงได้ตอบและพูดว่า
\v 2 "ท่านช่างได้ช่วยเหลือคนที่ไม่มีกำลังจริงๆ เลยนะ ท่านช่างได้ช่วยกู้แขนที่ไม่มีกำลัง
\v 3 ท่านได้ให้คำแนะนำแก่คนที่ไม่มีสติปัญญาและประกาศแก่เขาด้วยความรู้ที่ดีเหลือเกิน
\v 4 การที่ท่านพูดถ้อยคำเหล่านี้มันช่วยใครได้บ้างหรือ? วิญญาณของใครที่ออกมาจากท่านกันแน่?
\v 5 ความตายก็ถูกสร้างมาเพื่อความสยดสยอง ทั้งคนเหล่านั้นที่อยู่ใต้น้ำทั้งหลายและทุกสิ่งที่อาศัยอยู่ในน้ำนั้น
\s5
\p
\v 6 แดนคนตายถูกทำให้เปลือยเปล่าต่อพระพักตร์พระเจ้า การทำลายก็ไม่มีสิ่งปกปิดต่อพระองค์
\v 7 พระองค์ทรงกางท้องฟ้าทางทิศเหนือบนพื้นที่ว่างเปล่า และพระองค์ทรงแขวนแผ่นดินโลกไว้เหนือที่เวิ้งว้าง
\v 8 พระองค์ทรงอุ้มน้ำไว้ในเมฆหนาของพระองค์ แต่เมฆทั้งหลายไม่แตกกระจายภายใต้น้ำนั้น
\v 9 พระองค์ทรงปกคลุมผิวดวงจันทร์และแผ่เมฆทั้งหลายของพระองค์บนดวงจันทร์นั้น
\v 10 พระองค์ได้ทรงขีดขอบเขตเป็นวงกลมบนผิวน้ำเพื่อเป็นเส้นแบ่งระหว่างความสว่างกับความมืด
\s5
\p
\v 11 เสาทั้งหลายของท้องฟ้าก็สั่นไหวและประหลาดใจต่อการว่ากล่าวของพระองค์
\v 12 พระองค์ได้ทรงทำให้ทะเลสงบด้วยฤทธิ์อำนาจของพระองค์ โดยความเข้าใจของพระองค์ พระองค์ได้ทรงทำให้ราหับป่นปี้
\v 13 โดยลมหายใจของพระองค์ พระองค์ได้ทรงกระทำให้ท้องฟ้าสดใส พระหัตถ์ของพระองค์ได้ทิ่มแทงงูที่กำลังหนีไป
\v 14 ดูเถิด สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงเส้นขอบแห่งวิถีทั้งหลายของพระองค์ เสียงกระซิบที่เราได้ยินจากพระองค์นั้นช่างแผ่วเบาเหลือเกิน ใครสามารถเข้าใจเสียงฟ้าร้องแห่งฤทธิ์อำนาจของพระองค์ได้หรือ?
\s5
\c 27
\p
\v 1 โยบได้พูดต่อไปและเขาพูดว่า
\v 2 "ตราบที่พระเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่แน่นอน ผู้ทรงเอาความยุติธรรมของข้าพเจ้าออกไป องค์ผู้ทรงฤทธิ์ ผู้ได้ทรงทำให้ชีวิตของข้าพเจ้าขมขื่น
\v 3 ในขณะที่ชีวิตของข้าพเจ้ายังอยู่ในข้าพเจ้า และลมหายใจจากพระเจ้ายังอยู่ในรูจมูกของข้าพเจ้า นี่คือสิ่งที่ข้าพเจ้าจะทำ
\v 4 ริมฝีปากของข้าพเจ้าจะไม่พูดความชั่ว หรือลิ้นของข้าพเจ้าจะไม่พูดหลอกลวง
\v 5 ข้าพเจ้าไม่ยอมรับว่าพวกท่านทั้งสามเป็นฝ่ายถูกต้อง จนกว่าข้าพเจ้าตาย ข้าพเจ้าจะไม่มีวันปฏิเสธความซื่อสัตย์ของข้าพเจ้า
\v 6 ข้าพเจ้าได้ยึดมั่นต่อความชอบธรรมของข้าพเจ้าและจะไม่ยอมปล่อยมันไป ความคิดทั้งหลายของข้าพเจ้าจะไม่กล่าวโทษข้าพเจ้านานตราบที่ข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่
\s5
\p
\v 7 ปล่อยให้ศัตรูของข้าพเจ้าเป็นเหมือนคนชั่วร้าย ปล่อยให้เขาผู้ที่ลุกขึ้นต่อสู้ข้าพเจ้าเป็นเหมือนคนอธรรม
\v 8 เพราะอะไรคือความหวังของคนที่ไม่นับถือพระเจ้าเมื่อพระเจ้าทรงตัดเขาออกไป เมื่อพระเจ้าได้เอาชีวิตของเขาไปหรือ?
\v 9 พระเจ้าจะได้ยินเสียงร้องไห้ของเขาเมื่อความทุกข์ลำบากมาเหนือเขาหรือ?
\v 10 เขาจะยินดีกับตัวเองในองค์ผู้ทรงฤทธิ์และเรียกหาพระเจ้าทุกเวลาหรือ?
\v 11 ข้าพเจ้าจะสอนพวกท่านเกี่ยวกับพระหัตถ์ของพระเจ้า ข้าพเจ้าจะไม่ปกปิดความคิดต่าง ๆ ขององค์ผู้ทรงฤทธิ์
\v 12 ดูเถิด พวกท่านทุกคนได้เห็นตัวของพวกท่านเองนี้ แล้วทำไมพวกท่านจึงได้พูดสิ่งทั้งหมดที่ไร้สาระนี้หรือ?
\s5
\p
\v 13 นี่คือจุดหมายปลายทางของคนชั่วร้ายต่อพระเจ้า มรดกของผู้กดขี่ทั้งหลายที่เขารับจากองค์ผู้ทรงฤทธิ์
\v 14 ถ้าหากลูกของเขาทวีเพิ่มขึ้น มันก็เพื่อดาบ เชื้อสายของเขาจะไม่มีวันมีอาหารเพียงพอ
\v 15 คนเหล่านั้นที่ช่วยชีวิตของเขาให้รอดจะถูกฝังโดยโรคระบาดรุนแรง และหญิงม่ายทั้งหลายของพวกเขาจะไม่คร่ำครวญเพื่อพวกเขา
\v 16 ถึงแม้ว่าคนชั่วร้ายสะสมเงินไว้เหมือนกับสะสมฝุ่น และสะสมเสื้อผ้าเหมือนกับสะสมดิน
\v 17 เขาจะสะสมเสื้อผ้า แต่คนชอบธรรมจะเอามันไปใส่ และคนที่ไร้ความผิดจะเอาเงินมาแบ่งกันท่ามกลางพวกเขาเอง
\s5
\p
\v 18 เขาสร้างบ้านของเขาเหมือนกับแมงมุมสร้างรัง เหมือนกับกระท่อมที่คนยามสร้าง
\v 19 เขานอนลงบนเตียงของคนรวย แต่เขาจะกระทำต่อไปไม่ได้ เขาเปิดตาของเขา และทุกสิ่งก็หายไป
\v 20 ความสยดสยองจะท่วมเขาเหมือนกับน้ำท่วม พายุก็พัดเขาไปในเวลากลางคืน
\v 21 ลมทิศตะวันออกจะหอบเอาเขาไป และเขาได้จากไป มันกวาดเขาออกไปจากที่ของเขา
\v 22 มันเหวี่ยงตัวมันเองใส่เขาและไม่หยุดยั้ง เขาพยายามหนีออกไปจากมือของมัน
\v 23 มันตบมือของมันใส่เขาด้วยการเยาะเย้ย มันขู่เขาให้ออกไปจากสถานที่ของเขา
\s5
\c 28
\p
\v 1 แน่แล้ว มีเหมืองแร่สำหรับเงิน มีสถานที่ที่พวกเขาถลุงทองคำ
\v 2 แร่เหล็กถูกเอาออกมาจากแผ่นดิน แร่ทองแดงถูกหลอมละลายจากก้อนหิน
\v 3 มนุษย์คนหนึ่งกำหนดจุดสิ้นสุดให้กับความมืดและค้นหา ขอบเขตที่ห่างไกลที่สุด ก้อนหินต่างๆ ในที่ลับและในความมืดมิด
\v 4 เขาเปิดอุโมงค์ที่อยู่ห่างไกลจากที่ผู้คนอาศัยอยู่ สถานที่ต่างๆ ที่เท้าของผู้คนหลงลืม เขาแขวนเอาไว้ไกลจากผู้คน เขาแกว่งไปมา
\v 5 สำหรับแผ่นดินโลก อาหารก็ออกมา เบื้องล่างกลับเป็นเหมือนไฟ
\v 6 ก้อนหินทั้งหลายของมันเป็นสถานที่ที่มรกตถูกค้นพบ และฝุ่นของมันบรรจุทองคำ
\s5
\p
\v 7 ไม่มีนกตัวใดที่เป็นเหยื่อรู้หนทางของมัน ไม่มีดวงตาของนกเหยี่ยวตัวใดที่ได้มองเห็นมัน
\v 8 สัตว์ที่หยิ่งผยองไม่ได้เดินบนหนทางนั้น หรือสิงโตดุร้ายก็ไม่ได้ผ่านที่นั่น
\v 9 มนุษย์คนหนึ่งวางมือของเขาบนหินเหล็กไฟ เขาทำให้ภูเขาต่าง ๆ พลิกคว่ำโดยรากทั้งหลายของพวกมัน
\v 10 เขาตัดช่องทางต่างๆ ในท่ามกลางก้อนหินทั้งหลาย ดวงตาของเขามองเห็นสิ่งที่มีค่าทุกอย่างที่นั่น
\v 11 เขาปิดลำธารต่าง ๆ เพื่อน้ำจะไม่ไหล สิ่งที่ถูกซ่อนไว้ที่นั่น เขาก็นำออกมาสู่ความสว่าง
\v 12 สติปัญญาจะถูกค้นพบได้ที่ไหนหรือ? สถานที่แห่งความเข้าใจอยู่ที่ไหนหรือ?
\s5
\p
\v 13 มนุษย์ไม่รู้ราคาของมัน หรือไม่ได้พบมันในแผ่นดินของคนเป็น
\v 14 น้ำลึกภายใต้แผ่นดินโลกพูดว่า 'มันไม่ได้อยู่ในข้า' ท้องทะเลพูดว่า 'มันไม่ได้อยู่กับข้า'
\v 15 มันไม่สามารถได้มาด้วยทองคำ หรือไม่สามารถได้รับการตีราคาด้วยเงิน
\v 16 มันไม่สามารถได้รับการวัดคุณค่าด้วยทองคำแห่งโอฟีร์ ด้วยหินโมราหรือมรกต
\v 17 ทองคำและคริสตัลไม่สามารถมีค่าเทียบเท่ามันได้ หรือไม่สามารถแลกกับอัญมณีที่ทำจากทองคำเนื้อดี
\v 18 ไม่ต้องเอ่ยถึงคุณค่าของหินปะการังหรือแจสเปอร์ แท้จริงแล้ว ราคาของสติปัญญานั้นมีมากยิ่งกว่าบรรดาทับทิม
\s5
\p
\v 19 บุษราคัมแห่งคูชเทียบไม่ได้กับมัน มันไม่สามารถวัดค่าได้ด้วยทองคำบริสุทธิ์
\v 20 แล้วสติปัญญามาจากที่ไหนหรือ? สถานที่ของความเข้าใจอยู่ที่ไหนหรือ?
\v 21 สติปัญญานั้นถูกซ่อนจากดวงตาทั้งหลายของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดและถูกเก็บซ่อนไว้จากบรรดานกแห่งท้องฟ้าทั้งหลาย
\v 22 การทำลายและความตายพูดว่า 'เราได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับมันด้วยหูของเรา'
\v 23 พระเจ้าทรงเข้าใจทางไปถึงมัน พระองค์ทรงรู้จักสถานที่ของมัน
\v 24 เพราะพระองค์ทรงมองที่จุดจบของแผ่นดินโลกและทรงมองเห็นภายใต้ท้องฟ้าทั้งหมด
\s5
\p
\v 25 พระองค์ได้ทรงกำหนดแรงลมและแบ่งน้ำทั้งหลายออกด้วยการตวง
\v 26 พระองค์ทรงกำหนดกฎสำหรับฝนและหนทางสำหรับฟ้าแลบฟ้าร้อง
\v 27 แล้วพระองค์ทรงมองเห็นสติปัญญาและได้ประกาศมันออกมา พระองค์ทรงสถาปนามัน แท้จริงแล้ว พระองค์ได้ทรงตรวจสอบมัน
\v 28 ต่อผู้คนพระองค์ตรัสว่า 'ดูเถิด ความยำเกรงพระเจ้า นั่นคือสติปัญญา การออกห่างจากความชั่วก็เป็นความเข้าใจ'"
\s5
\c 29
\p
\v 1 โยบจึงพูดต่อไปและได้กล่าวว่า
\v 2 "โอ หากข้าพเจ้าจะเป็นอย่างที่ข้าพเจ้าได้เป็นเมื่อหลายเดือนก่อนที่พระเจ้าได้ทรงห่วงใยข้าพเจ้า
\v 3 เมื่อตะเกียงของพระองค์ส่องสว่างเหนือศีรษะของข้าพเจ้า และเมื่อข้าพเจ้าได้เดินผ่านความมืดโดยความสว่างของพระองค์
\v 4 โอ หากข้าพเจ้าจะเป็นอย่างที่ข้าพเจ้าได้เป็นในความสมบูรณ์แห่งวันทั้งหลายของข้าพเจ้าเมื่อสัมพันธภาพกับพระเจ้าได้อยู่ในเต็นท์ของข้าพเจ้า
\v 5 เมื่อองค์ผู้ทรงฤทธิ์ยังได้ทรงอยู่กับข้าพเจ้า และบรรดาบุตรของข้าพเจ้าได้อยู่ล้อมรอบข้าพเจ้า
\s5
\p
\v 6 เมื่อหนทางของข้าพเจ้าได้ถูกปกคลุมไว้ด้วยส่วนที่ดีที่สุด และก้อนหินนั้นได้หลั่งลำธารแห่งน้ำมันออกมาให้แก่ข้าพเจ้า
\v 7 เมื่อข้าพเจ้าได้ออกไปที่ประตูเมือง เมื่อข้าพเจ้าได้นั่งในสถานที่ของข้าพเจ้าที่ลานเมือง
\v 8 ชายหนุ่มทั้งหลายได้มองเห็นข้าพเจ้าและอยู่ห่างจากข้าพเจ้าด้วยความเคารพ และผู้คนที่มีอายุได้ลุกขึ้นและยืนต้อนรับข้าพเจ้า
\v 9 บรรดาเจ้าชายทั้งหลายได้หยุดการพูดคุยเมื่อข้าพเจ้ามาถึง พวกเขาได้เอามือปิดปากของพวกเขาไว้
\v 10 เสียงของบรรดาขุนนางทั้งหลายก็ถูกทำให้เงียบลง และลิ้นของพวกเขาก็ติดอยู่กับเพดานปากของพวกเขา
\s5
\p
\v 11 เพราะหลังจากหูของพวกเขาได้ยินข้าพเจ้า แล้วพวกเขาจะอวยพรข้าพเจ้า หลังจากดวงตาของพวกเขาได้มองเห็นข้าพเจ้า แล้วพวกเขาจะให้คำพยานต่อข้าพเจ้าและยอมรับข้าพเจ้า
\v 12 เพราะข้าพเจ้าได้ช่วยกู้คนที่ยากจนเมื่อเขาร้องขอ และช่วยคนที่กำพร้าพ่อเมื่อไม่มีใครช่วยเขา
\v 13 การอวยพรของเขาผู้ที่จะต้องตายก็ได้มาถึงข้าพเจ้า ข้าพเจ้าได้เป็นเหตุให้จิตใจของหญิงม่ายร้องเพลงด้วยความชื่นชมยินดี
\v 14 ข้าพเจ้าได้สวมใส่ความชอบธรรม และมันได้ห่อหุ้มข้าพเจ้า ความยุติธรรมของข้าพเจ้าได้เป็นเหมือนเสื้อคลุมและผ้าโพกศีรษะ
\v 15 ข้าพเจ้าได้เป็นดวงตาให้กับคนตาบอด ข้าพเจ้าได้เป็นเท้าให้กับคนง่อย
\s5
\p
\v 16 ข้าพเจ้าได้เป็นบิดาให้กับคนขัดสน ข้าพเจ้าได้ตรวจสอบคดีแม้แต่ของคนที่ข้าพเจ้าไม่รู้จัก
\v 17 ข้าพเจ้าได้หักขากรรไกรของคนอธรรม ข้าพเจ้าได้ช่วยผู้ตกเป็นเหยื่อออกมาจากระหว่างฟันของเขา
\v 18 แล้วข้าพเจ้าได้พูดว่า 'ข้าพเจ้าจะตายในรังของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะทวีคูณวันทั้งหลายของข้าพเจ้าเหมือนกับเม็ดทรายทั้งหลาย
\v 19 รากทั้งหลายของข้าพเจ้าแผ่ขยายออกไปในน้ำ และน้ำค้างหยาดลงบนกิ่งทั้งของข้าพเจ้าตลอดทั้งคืน
\v 20 เกียรติที่มีในข้าพเจ้านั้นสดใหม่เสมอ และธนูแห่งกำลังของข้าพเจ้าก็ใหม่ในมือของข้าพเจ้าเสมอ'
\s5
\p
\v 21 คนทั้งหลายได้ฟังข้าพเจ้า พวกเขาได้รอคอยข้าพเจ้า พวกเขาได้นิ่งเงียบเพื่อฟังคำแนะนำของข้าพเจ้า
\v 22 หลังจากถ้อยคำทั้งหลายของข้าพเจ้าถูกกล่าวแล้ว พวกเขาก็ไม่พูดอีก คำพูดของข้าพเจ้าถูกหยดลงไปเหมือนกับน้ำที่รดบนพวกเขา
\v 23 พวกเขาได้รอคอยข้าพเจ้าเสมอเหมือนกับรอคอยสายฝน พวกเขาได้เปิดปากของพวกเขากว้างเพื่อดื่มถ้อยคำทั้งหลายของข้าพเจ้า เหมือนกับพวกเขาจะได้ดื่มฝนชุกปลายฤดู
\v 24 ข้าพเจ้าได้ยิ้มให้กับพวกเขาเมื่อพวกเขาไม่ได้คาดหวังสิ่งนั้น พวกเขาไม่ปฏิเสธแสงสว่างแห่งหน้าของข้าพเจ้า
\v 25 ข้าพเจ้าได้กำหนดทางของพวกเขาและนั่งเหมือนกับหัวหน้าของพวกเขา ข้าพเจ้าได้มีชีวิตอยู่เหมือนกับกษัตริย์ที่อยู่ในกองทัพของเขา เหมือนกับผู้หนึ่งที่ปลอบโยนบรรดาคนไว้ทุกข์
\s5
\c 30
\p
\v 1 เวลานี้คนเหล่านั้นที่อายุน้อยกว่าข้าพเจ้ากลับไม่ได้ทำสิ่งใดนอกจากเยาะเย้ยข้าพเจ้า คนหนุ่มเหล่านี้ที่ข้าพเจ้าน่าจะได้ปฏิเสธเหล่าบิดาของพวกเขาไม่ให้ทำงานเคียงข้างพวกสุนัขเฝ้าฝูงสัตว์ของข้าพเจ้า
\v 2 อันที่จริงแล้ว กำลังแห่งมือทั้งหลายของบิดาของพวกเขา พวกผู้ชายที่กำลังในวัยผู้ใหญ่ของพวกเขาได้สาปสูญไป สามารถช่วยข้าพเจ้าได้มากแค่ไหนหรือ?
\v 3 พวกเขาผ่ายผอมเพราะความยากจนและหิวโหย พวกเขาได้ทนทรมานที่พื้นดินแห้งแล้งในถิ่นทุรกันดารและที่เลิศร้างอันมืดมิด
\v 4 พวกเขาได้ถอนต้นซอลต์วอร์ตและเด็ดใบของพุ่มไม้ต่างๆ เก็บรากทั้งหลายของต้นซากมาเป็นอาหาร
\v 5 พวกเขาได้ถูกขับไล่ออกจากท่ามกลางประชาชนผู้ที่ได้ตะโกนตามหลังพวกเขาเหมือนกับคนที่ตะโกนตามหลังขโมย
\v 6 ดังนั้นพวกเขาจึงได้อาศัยอยู่ตามหุบเขาแม่น้ำต่างๆ ในหลุมต่างๆ บนแผ่นดินโลกและตามซอกหินต่างๆ
\s5
\p
\v 7 ท่ามกลางพุ่มไม้ทั้งหลาย พวกเขาส่งเสียงร้องเหมือนกับพวกลา และพวกเขาได้รวมตัวกันภายใต้พุ่มไม้ทั้งหลาย
\v 8 พวกเขาได้เป็นบุตรชายของพวกคนโง่ ความจริงคือ เป็นบุตรชายของพวกคนที่ไม่มีชื่อเสียง พวกเขาได้ถูกขับไล่ออกจากดินแดนด้วยแส้
\v 9 แต่เวลานี้ข้าพเจ้าได้กลายเป็นประเด็นต่อบุตรชายทั้งหลายของพวกเขา สำหรับเพลงแห่งการเยาะเย้ยของพวกเขา ความจริงคือ ตอนนี้ข้าพเจ้าเป็นตัวตลกสำหรับพวกเขา
\v 10 พวกเขาเกลียดชังข้าพเจ้าและยืนอยู่ห่างจากข้าพเจ้า พวกเขาไม่ได้ยับยั้งจากการถ่มน้ำลายรดหน้าของข้าพเจ้า
\v 11 เพราะพระเจ้าได้ทรงผ่อนสายธนูของข้าพเจ้าและทรงทำให้ข้าพเจ้าเจ็บป่วย และบรรดาคนเหล่านั้นที่พูดเสียดสีข้าพเจ้าก็ได้เหวี่ยงสิ่งที่ยึดเหนี่ยวทิ้งไปต่อหน้าของข้าพเจ้า
\v 12 ทางมือขวาของข้าพเจ้านั้นฝูงชนก็ลุกฮือ พวกเขาขับไล่ข้าพเจ้าออกไปและสุมกองดินรวมกันต่อสู้ข้าพเจ้า
\s5
\p
\v 13 พวกเขาทำลายวิถีของข้าพเจ้า พวกเขาผลักหายนะไปข้างหน้าข้าพเจ้า พวกคนที่ไม่มีใครฉุดรั้งพวกเขา
\v 14 พวกเขามาต่อสู้ข้าพเจ้าเหมือนกับกองทัพวิ่งกรูผ่านช่องกว้างของกำแพงเมือง ในท่ามกลางการทำลายนั้น พวกเขากลิ้งตัวบนข้าพเจ้า
\v 15 ความสยดสยองตกมาเหนือข้าพเจ้า เกียรติของข้าพเจ้าถูกกำจัดออกไปเหมือนกับมันเป็นเพียงแค่สายลม ความรุ่งเรืองของข้าพเจ้าผ่านไปเหมือนกับก้อนเมฆ
\v 16 บัดนี้ชีวิตของข้าพเจ้ากำลังเทออกจากภายในข้าพเจ้า วันแห่งความทุกข์ทรมานทั้งหลายของข้าพเจ้าได้จับข้าพเจ้าไว้จนมั่น
\v 17 ในยามกลางคืน กระดูกทั้งหลายภายในข้าพเจ้าถูกทิ่มแทง ความเจ็บปวดที่กัดกินข้าพเจ้าทำให้ข้าพเจ้าไม่ได้พัก
\v 18 กำลังอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าได้ฉวยเอาเสื้อผ้าของข้าพเจ้า มันห่อหุ้มข้าพเจ้าเหมือนกับคอเสื้อคลุมข้าพเจ้า
\s5
\p
\v 19 พระองค์ได้ทรงเหวี่ยงข้าพเจ้าลงไปในโคลน ข้าพเจ้าได้กลายเป็นเหมือนฝุ่นและขี้เถ้า
\v 20 ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์ร้องทูลต่อพระองค์ แต่พระองค์ไม่ทรงตอบข้าพระองค์ ข้าพระองค์ยืนขึ้น และพระองค์ก็เพียงแค่ทรงมองดูข้าพระองค์เท่านั้น
\v 21 พระองค์ทรงเปลี่ยนไปและทรงใจร้ายต่อข้าพระองค์ ด้วยกำลังแห่งพระหัตถ์ของพระองค์ พระองค์ทรงข่มเหงข้าพระองค์
\v 22 พระองค์ทรงยกข้าพระองค์ขึ้นต่อสายลมและทรงทำให้ลมนั้นพัดข้าพระองค์ พระองค์ทรงเหวี่ยงข้าพระองค์ไปมาในพายุ
\v 23 เพราะข้าพระองค์รู้ว่าพระองค์จะทรงนำข้าพระองค์ไปถึงความตาย ไปถึงบ้านที่เป็นจุดหมายปลายทางสำหรับทุกสิ่งที่มีชีวิต
\v 24 แต่จะไม่มีใครที่ยื่นมือขอความช่วยเหลือเมื่อเขาล้มลงอย่างนั้นหรือ? ไม่มีใครที่มีความทุกข์จะร้องขอความช่วยเหลือหรือ?
\s5
\p
\v 25 ข้าพระองค์ไม่ได้ร่ำไห้เพราะเขาที่ตกอยู่ในความทุกข์หรือ? ข้าพระองค์ไม่ได้โศกเศร้าเพราะคนที่ขัดสนหรือ?
\v 26 เมื่อข้าพระองค์ได้มองหาสิ่งดี แล้วความชั่วได้เข้ามา เมื่อข้าพระองค์ได้รอคอยแสงสว่าง ความมืดก็ได้เข้ามาแทนที่
\v 27 จิตใจของข้าพระองค์ถูกทำให้ทุกข์ยากและไม่ได้หยุดพัก วันทั้งหลายแห่งความเจ็บป่วยได้มาเหนือข้าพระองค์
\v 28 ข้าพระองค์ได้ไปเหมือนกับคนที่กำลังอาศัยอยู่ในความมืด แต่ไม่ใช่เพราะดวงอาทิตย์ ข้าพระองค์ยืนขึ้นในที่ประชุมและร้องขอความช่วยเหลือ
\v 29 ข้าพระองค์เป็นพี่ชายของพวกหมาใน เป็นเพื่อนของพวกนกกระจอกเทศ
\v 30 ผิวหนังของข้าพระองค์เป็นสีดำและร่วงหลุด กระดูกทั้งหลายของข้าพระองค์ถูกเผาด้วยความร้อน
\v 31 ด้วยเหตุนี้พิณของข้าพระองค์จึงหันไปสู่เพลงไว้ทุกข์ เครื่องเป่าของข้าพระองค์ก็บรรเลงบทเพลงสำหรับคนเหล่านั้นที่ร้องไห้คร่ำครวญ
\s5
\c 31
\p
\v 1 ข้าพเจ้าได้ทำสัญญากับดวงตาของข้าพเจ้า แล้วข้าพเจ้าควรจะมองดูหญิงบริสุทธิ์ด้วยใจปรารถนาอย่างนั้นหรือ?
\v 2 เพราะสิ่งใดที่เป็นส่วนแบ่งจากพระเจ้าเบื้องบน เป็นมรดกจากองค์ผู้ทรงฤทธิ์บนที่สูงหรือ?
\v 3 ข้าพเจ้าเคยคิดว่าเหตุการณ์เลวร้ายมีไว้สำหรับคนอธรรม และความพินาศมีไว้สำหรับคนทำชั่ว
\v 4 พระเจ้าไม่ได้ทรงมองเห็นหนทางทั้งหลายของข้าพเจ้าและนับย่างก้าวทั้งสิ้นของข้าพเจ้าหรือ?
\v 5 ถ้าหากข้าพเจ้าได้ดำเนินกับความมุสา ถ้าหากเท้าของข้าพเจ้าได้เร่งรีบไปสู่การหลอกลวง
\s5
\p
\v 6 ขอให้ข้าพเจ้าได้รับการตวงวัดอย่างสมดุลเพื่อพระเจ้าจะทรงรู้ถึงความซื่อสัตย์ของข้าพเจ้า
\v 7 ถ้าหากย่างเท้าของข้าพเจ้าหันออกไปจากทางที่ถูกต้อง ถ้าหากจิตใจของข้าพเจ้าได้ติดตามดวงตาของข้าพเจ้า ถ้าหากจุดใด ๆ ได้ทำให้มือของข้าพเจ้ามีมลทิน
\v 8 แล้วขอให้ข้าพเจ้าหว่านและมีอีกคนมากินเสีย อันที่จริงขอให้การเก็บเกี่ยวถูกถอนออกไปจากทุ่งนาของข้าพเจ้า
\v 9 ถ้าหากจิตใจของข้าพเจ้าได้ถูกยั่วยวนโดยผู้หญิงคนหนึ่ง ถ้าหากข้าพเจ้าได้ดักซุ่มอยู่ที่ประตูของเพื่อนบ้านของข้าพเจ้า
\v 10 แล้วขอให้ภรรยาของข้าพเจ้าให้บริการคนอื่น และให้คนอื่น ๆ คร่อมทับเธอ
\s5
\p
\v 11 เพราะนั่นจะเป็นอาชญากรรมอันน่ากลัว แท้จริงแล้ว มันจะเป็นอาชญากรรมที่ถูกลงโทษโดยผู้พิพากษาทั้งหลาย
\v 12 เพราะนั่นเป็นไฟที่เผาผลาญทุกสิ่งเพื่อแดนคนตายและที่จะเผาไหม้การเก็บเกี่ยวทุกอย่างของข้าพเจ้า
\v 13 ถ้าหากข้าพเจ้าได้เพิกเฉยต่อคำร้องขอความยุติธรรมจากทาสชายและทาสหญิงของข้าพเจ้าเมื่อพวกเขาได้โต้เถียงกับข้าพเจ้า
\v 14 แล้วสิ่งใดที่ข้าพเจ้าจะทำเมื่อพระเจ้าทรงลุกขึ้นกล่าวโทษข้าพเจ้าหรือ? เมื่อพระองค์มาตัดสินข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะตอบพระองค์ว่าอย่างไร?
\v 15 คนที่ได้สร้างข้าพเจ้าในครรภ์ก็ไม่ได้ปั้นพวกเขาด้วยหรือ? ไม่ใช่ผู้เดียวกันนี้หรือที่ได้ปั้นพวกเราทุกคนในครรภ์นั้น?
\s5
\p
\v 16 ถ้าหากข้าพเจ้าได้ระงับคนยากจนจากความปรารถนาของพวกเขา หรือถ้าข้าพเจ้าได้เป็นเหตุให้ดวงตาทั้งหลายของหญิงม่ายมัวลงไปจากการร้องไห้
\v 17 หรือถ้าข้าพเจ้าได้กินอาหารของข้าพเจ้าตามลำพังและไม่ยอมให้คนเหล่านั้นที่กำพร้าพ่อมากินด้วย
\v 18 เพราะจากวัยหนุ่มของข้าพเจ้า ลูกกำพร้าได้เติบโตขึ้นพร้อมกับข้าพเจ้าเหมือนกับข้าพเจ้าเป็นบิดาคนหนึ่ง และข้าพเจ้าได้ชี้นำมารดาของเขา คือหญิงม่ายคนหนึ่ง จากครรภ์มารดาของข้าพเจ้าเอง
\v 19 ถ้าข้าพเจ้าได้มองเห็นคนใดตายเพราะขาดเสื้อผ้า หรือถ้าข้าพเจ้าได้มองเห็นคนขัดสนไม่มีเสื้อผ้าใส่
\v 20 ถ้าจิตใจของเขาไม่ได้อวยพรข้าพเจ้าเพราะเขาไม่ได้รับการทำให้อบอุ่นด้วยขนแกะของข้าพเจ้า
\s5
\p
\v 21 ถ้าข้าพเจ้าได้ยกมือของข้าพเจ้าต่อสู้คนที่กำพร้าพ่อเพราะข้าพเจ้าได้มองเห็นผู้สนับสนุนของข้าพเจ้าที่ประตูเมือง ก็ขอจงกล่าวหาข้าพเจ้า
\v 22 ถ้าข้าพเจ้าได้ทำสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ ดังนั้นขอให้ไหล่ของข้าพเจ้าหลุดจากสะบัก และขอให้แขนของข้าพเจ้าหักจากข้อต่อของมัน
\v 23 เพราะข้าพเจ้าได้กลัวการทำลายจากพระเจ้าอย่างมาก เพราะพระบารมีของพระองค์ ข้าพเจ้าไม่สามารถทำสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นได้
\v 24 ถ้าข้าพเจ้าได้ทำให้ทองคำเป็นความหวังของข้าพเจ้า และถ้าข้าพเจ้าได้พูดต่อทองคำเนื้อดีว่า 'เจ้าเป็นความมั่นใจของข้า'
\v 25 ถ้าข้าพเจ้าได้ชื่นชมยินดีเพราะความมั่งคั่งของข้าพเจ้านั้นยิ่งใหญ่ เพราะมือของข้าพเจ้าได้รับทรัพย์สมบัติมากมาย ก็จงกล่าวหาข้าพเจ้าเถิด
\s5
\p
\v 26 ถ้าหากข้าพเจ้าได้มองเห็นดวงอาทิตย์เมื่อมันส่องแสง หรือดวงจันทร์ดำเนินในความสว่างของมัน
\v 27 และถ้าจิตใจของข้าพเจ้าได้ถูกดึงดูดอย่างลี้ลับ เพื่อว่าปากของข้าพเจ้าได้จุบมือของข้าพเจ้าในการนมัสการสิ่งเหล่านั้น
\v 28 นี่ก็จะเป็นความผิดร้ายแรงที่ต้องได้รับการลงโทษโดยผู้พิพากษาทั้งหลาย เพราะข้าพเจ้าจะปฏิเสธพระเจ้าผู้ทรงอยู่เบื้องบน
\v 29 ถ้าข้าพเจ้าได้ชื่นชมยินดีต่อหายนะที่เกิดกับคนที่เกลียดชังข้าพเจ้า หรือแสดงความยินดีกับตัวเองเมื่อความพินาศตามทันพวกเขา ก็จงกล่าวหาข้าพเจ้าเถิด
\v 30 อันที่จริง ข้าพเจ้าไม่แม้แต่อนุญาตให้ปากของข้าพเจ้าทำบาปโดยการขอชีวิตของเขาพร้อมกับคำแช่งสาป
\s5
\p
\v 31 ถ้าหากมนุษย์ทั้งหลายที่อยู่ในเต็นท์ของข้าพเจ้าไม่เคยพูดว่า 'ใครสามารถพบคนหนึ่งที่ไม่ได้อิ่มหนำด้วยอาหารของโยบหรือ?'
\v 32 (แม้แต่คนต่างชาติก็ไม่เคยต้องพักอยู่ที่ลานเมือง เพราะข้าพเจ้าได้เปิดประตูของข้าพเจ้าให้กับนักเดินทางเสมอ) และถ้าไม่เป็นอย่างนั้นแล้ว ก็ขอจงกล่าวหาข้าพเจ้าเถิด
\v 33 เหมือนกับมนุษย์ทั้งหลาย ถ้าข้าพเจ้าได้ปิดซ่อนความบาปของข้าพเจ้าโดยการซ่อนความผิดของข้าพเจ้าภายในเสื้อคลุมของข้าพเจ้า
\v 34 (เพราะข้าพเจ้าได้กลัวฝูงชนใหญ่ เพราะการดูถูกครอบครัวทั้งหลายทำให้ข้าพเจ้าหวาดกลัว เพื่อข้าพเจ้าจะได้นิ่งเงียบและจะไม่ออกไปด้านนอก) ก็จงกล่าวหาข้าพเจ้าเถิด
\v 35 โอ ถ้าเพียงแต่ข้าพเจ้าได้มีใครบางคนฟังเสียงของข้าพเจ้า ดูเถิด นี่คือลายมือชื่อของข้าพเจ้า ขอให้องค์ผู้ทรงฤทธิ์ตอบข้าพเจ้าเถิด ถ้าข้าพเจ้าเพียงแต่มีข้อกล่าวหาที่ปรปักษ์ของข้าพเจ้าได้บันทึกเอาไว้
\s5
\p
\v 36 แน่นอนที่ข้าพเจ้าจะแบกมันบนบ่าของข้าพเจ้าอย่างเปิดเผย ข้าพเจ้าจะใส่มันไว้เหมือนกับเป็นมงกุฎ
\v 37 ข้าพเจ้าจะประกาศต่อพระองค์เสมือนรายงานถึงย่างเท้าทั้งหลายของข้าพเจ้า เป็นเหมือนเจ้าชายที่มีความมั่นใจ ข้าพเจ้าจะขึ้นไปหาพระองค์
\v 38 ถ้าหากที่ดินของข้าพเจ้าเคยร้องต่อสู้ข้าพเจ้า และร่องดินทั้งหลายของมันร้องไห้ด้วยกัน
\v 39 ถ้าข้าพเจ้าได้กินการเก็บเกี่ยวของมันโดยไม่จ่ายราคา หรือได้เป็นเหตุให้พวกเจ้าของของมันสูญเสียชีวิตของพวกเขา
\v 40 แล้วขอให้หนามทั้งหลายเติบโตแทนที่ข้าวสาลีและวัชพืชแทนที่ข้าวบาร์เล่ย์" ถ้อยคำทั้งหลายของโยบก็จบลง
\s5
\c 32
\p
\v 1 ดังนั้นชายทั้งสามคนจึงได้หยุดตอบโยบเพราะเขาเป็นคนชอบธรรมในสายตาของเขาเอง
\v 2 แล้วเอลีฮูบุตรชายของบาราเคลชาวบุซี ครอบครัวของรามก็ร้อนรุ่มไปด้วยความโกรธ เขาโกรธโยบเพราะโยบอ้างว่าตัวเองถูกต้องแทนที่จะเป็นพระเจ้า
\v 3 เอลีฮูมีความโกรธต่อเพื่อนทั้งสามคนด้วยเพราะพวกเขาไม่มีคำตอบให้กับโยบ และพวกเขาก็ยังคงได้ตำหนิโยบ
\v 4 เวลานี้เอลีฮูได้รอที่จะพูดกับโยบเพราะผู้ชายคนอื่นนั้นมีอายุมากกว่าเขา
\v 5 แต่เมื่อเอลีฮูได้เห็นว่าไม่มีคำตอบใดในปากของชายทั้งสามคนเหล่านี้แล้ว ความโกรธของเขาก็พลุ่งขึ้น
\v 6 แล้วเอลีฮูบุตรชายของบาราเคลชาวบุซีได้พูดและกล่าวว่า "ข้าพเจ้าเป็นคนหนุ่ม และพวกท่านเป็นผู้อาวุโส ด้วยเหตุนี้ข้าพเจ้าจึงได้เงียบและไม่กล้าบอกพวกท่านถึงความคิดเห็นของข้าพเจ้า
\s5
\p
\v 7 ข้าพเจ้าได้พูดว่า "วันทั้งหลายที่ยาวนานสมควรพูด ปีที่เพิ่มพูนทั้งหลายสมควรสอนสติปัญญา
\v 8 แต่มีวิญญาณดวงหนึ่งในมนุษย์คนหนึ่ง ลมหายใจขององค์ผู้ทรงฤทธิ์ทรงประทานความเข้าใจให้แก่เขา
\v 9 ไม่ใช่เพียงแค่คนที่ยิ่งใหญ่เท่านั้นที่ฉลาด หรือไม่เพียงแค่คนที่มีอายุมากเท่านั้นที่เข้าใจความยุติธรรม
\v 10 ด้วยเหตุนี้ข้าพเจ้าจึงพูดกับพวกท่านว่า 'ขอฟังข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะบอกพวกท่านถึงความรู้ของข้าพเจ้าด้วยเช่นกัน'
\v 11 ดูเถิด ข้าพเจ้าได้รอคอยถ้อยคำทั้งหลายของพวกท่าน ข้าพเจ้าได้ฟังคำโต้เถียงทั้งหลายของพวกท่านในขณะที่พวกท่านกำลังคิดเกี่ยวกับสิ่งที่พวกท่านจะพูด
\v 12 แท้จริงแล้ว ข้าพเจ้าได้ตั้งใจฟังพวกท่าน แต่ดูสิ ไม่มีใครในพวกท่านที่สามารถทำให้โยบสำนึกหรือไม่มีใครที่ตอบสนองถ้อยคำทั้งหลายของเขาได้
\s5
\p
\v 13 จงระวังที่จะไม่พูดว่า 'เราได้พบสติปัญญา' พระเจ้าจะทรงต้องปราบโยบให้พ่ายแพ้ ในเมื่อมนุษย์ไม่สามารถทำมันได้
\v 14 เพราะโยบไม่ได้กล่าวถ้อยคำทั้งหลายของเขาต่อสู้ข้าพเจ้า ดังนั้นข้าพเจ้าจะไม่ตอบเขาด้วยถ้อยคำทั้งหลายของพวกท่าน
\v 15 ชายทั้งสามคนเหล่านี้ถูกทำให้เป็นใบ้แล้ว พวกเขาไม่สามารถตอบโยบได้อีกต่อไป พวกเขาไม่มีถ้อยคำแม้แต่คำเดียวที่จะพูด
\v 16 ข้าพเจ้าสมควรรอเพราะพวกเขาไม่พูด เพราะพวกเขายืนนิ่งเงียบและไม่ตอบอีกแล้วอย่างนั้นหรือ?
\v 17 ไม่เลย ข้าพเจ้าจะตอบในส่วนของข้าพเจ้าด้วยเช่นกัน ข้าพเจ้าจะบอกพวกเขาถึงความรู้ของข้าพเจ้า
\s5
\p
\v 18 เพราะข้าพเจ้าเต็มไปด้วยถ้อยคำต่าง ๆ วิญญาณภายในข้าพเจ้าผลักดันข้าพเจ้า
\v 19 ดูเถิด หน้าอกของข้าพเจ้าก็เป็นเหมือนกับเหล้าองุ่นหมักที่ไม่มีช่องระบายอากาศ เหมือนกับถุงหนังองุ่นใหม่ มันพร้อมจะแตกพลุ่งออกมาแล้ว
\v 20 ข้าพเจ้าจะพูดเพื่อว่าข้าพเจ้าจะได้มีความสดชื่น ข้าพเจ้าจะเปิดริมฝีปากของข้าพเจ้าและตอบ
\v 21 ข้าพเจ้าจะไม่แสดงความลำเอียง หรือข้าพเจ้าจะไม่ประจบสอพลอผู้ใด
\v 22 เพราะข้าพเจ้าไม่รู้ว่าจะประจบสอพลออย่างไร ถ้าหากข้าพเจ้าทำอย่างนั้น ไม่ช้านานพระผู้สร้างของข้าพเจ้าก็จะทรงเอาข้าพเจ้าไป
\s5
\c 33
\p
\v 1 ดังนั้นเวลานี้ ท่านโยบ ข้าพเจ้าขอร้องท่าน ขอให้ฟังคำพูดของข้าพเจ้า ฟังทุกถ้อยคำของข้าพเจ้า
\v 2 ดูเถิดบัดนี้ ข้าพเจ้าได้เปิดปากของข้าพเจ้า ลิ้นของข้าพเจ้าได้กล่าวในปากของข้าพเจ้า
\v 3 ถ้อยคำทั้งหลายของข้าพเจ้ามาจากความเที่ยงตรงในจิตใจของข้าพเจ้า ริมฝีปากของข้าพเจ้ากล่าวความรู้ที่แท้จริง
\v 4 พระวิญญาณของพระเจ้าได้ทรงสร้างข้าพเจ้า ลมหายใจขององค์ผู้ทรงฤทธิ์ได้ทรงประทานชีวิตให้แก่ข้าพเจ้า
\v 5 ขอตอบข้าพเจ้าเถิด ถ้าหากท่านสามารถตั้งถ้อยคำทั้งหลายของท่านต่อหน้าข้าพเจ้าและยืนขึ้น
\v 6 ดูเถิด ข้าพเจ้าเป็นเหมือนอย่างที่ท่านเป็นในสายพระเนตรของพระเจ้า ข้าพเจ้าได้ถูกก่อร่างจากดินเหมือนกัน
\s5
\p
\v 7 ดูเถิด ความน่ากลัวของข้าพเจ้าจะไม่ทำให้ท่านกลัว หรือความกดดันของข้าพเจ้าก็จะไม่ทำให้ท่านหนักหน่วง
\v 8 ท่านได้พูดให้ข้าพเจ้าได้ยิน ข้าพเจ้าได้ยินเสียงแห่งถ้อยคำกล่าวทั้งหลายของท่านว่า
\v 9 'ข้าพเจ้าเป็นคนสะอาดและปราศจากการละเมิด ข้าพเจ้าเป็นคนบริสุทธิ์ และไม่มีความบาปในข้าพเจ้า
\v 10 ดูเถิด พระเจ้าทรงหาโอกาสโจมตีข้าพเจ้า พระองค์ทรงมองข้าพเจ้าว่าเป็นเหมือนศัตรูของพระองค์
\v 11 พระองค์ทรงวางเท้าของข้าพเจ้าในขื่อคา พระองค์ทรงเฝ้าดูวิถีทั้งสิ้นของข้าพเจ้า'
\v 12 ดูเถิด ในเรื่องนี้ท่านไม่ถูกต้อง ข้าพเจ้าจะตอบท่าน เพราะพระเจ้าทรงยิ่งใหญ่กว่ามนุษย์
\s5
\p
\v 13 ทำไมท่านต้องลำบากในการต่อสู้กับพระองค์หรือ? พระองค์มิได้ทรงรายงานสิ่งใดๆ ที่พระองค์กระทำ
\v 14 เพราะพระเจ้าทรงตรัสหนึ่งครั้ง ใช่ สองครั้ง โดยผ่านทางมนุษย์ที่ไม่รับรู้
\v 15 ในความฝันหนึ่ง ในนิมิตหนึ่งเมื่อยามค่ำคืน เมื่อมนุษย์หลับสนิท สงบนิ่งอยู่บนที่นอนนั้น
\v 16 แล้วพระเจ้าทรงเปิดหูของมนุษย์ และเขย่าขวัญพวกเขาด้วยความหวาดกลัว
\v 17 เพื่อดึงมนุษย์กลับมาจากความประสงค์ที่เป็นความบาปของเขาและรั้งความหยิ่งเอาไว้จากเขา
\v 18 พระเจ้าทรงสงวนชีวิตของมนุษย์ไว้จากหลุมนั้น สงวนชีวิตของเขาจากการข้ามไปสู่ความตาย
\s5
\p
\v 19 มนุษย์ถูกลงโทษด้วยความเจ็บปวดบนที่นอนของเขา ความทรมานในกระดูกของเขาที่เกิดขึ้นตลอดเวลา
\v 20 เพื่อว่าชีวิตของเขาจะรังเกียจอาหาร และจิตใจของเขาจะรังเกียจอาหารอร่อย
\v 21 เนื้อหนังของเขาถูกทำลายไปเพื่อมันจะไม่สามารถถูกมองเห็นได้ กระดูกทั้งหลายของเขา ที่ไม่เคยมองเห็น บัดนี้ก็ยื่นออกมา
\v 22 อันที่จริง จิตวิญญาณของเขาเข้าใกล้หลุมนั้น ชีวิตของเขาใกล้คนเหล่านั้นที่ปรารถนาจะทำลายมัน
\v 23 แต่ถ้ามีทูตสวรรค์องค์หนึ่งผู้สามารถเป็นคนกลางสำหรับเขา คนกลางคนหนึ่งผู้มาจากท่ามกลางทูตสวรรค์นับพันๆ เพื่อแสดงให้เขาเห็นสิ่งถูกต้องที่จะกระทำ
\v 24 และถ้าทูตสวรรค์นั้นกรุณาต่อเขาและทูลต่อพระเจ้าว่า 'ขอทรงช่วยคนนี้ให้รอดพ้นจากการลงไปยังหลุมนั้นเถิด ข้าพเจ้าได้พบค่าไถ่สำหรับเขา'
\s5
\p
\v 25 แล้วเนื้อหนังของเขาจะสดชื่นขึ้นยิ่งกว่าเนื้อของเด็กเล็ก เขาจะหันไปสู่วันต่าง ๆ แห่งกำลังในวัยหนุ่มของเขา
\v 26 เขาจะอธิษฐานต่อพระเจ้า และพระเจ้าจะทรงกรุณาเขา เพื่อว่าเขาจะมองเห็นพระพักตร์ของพระเจ้าด้วยความชื่นชมยินดี พระเจ้าจะประทานชัยชนะของพระองค์ให้แก่คนนั้น
\v 27 แล้วคนนั้นจะร้องเพลงต่อหน้าคนอื่นและพูดว่า 'ข้าพเจ้าได้ทำบาปและหลงผิดว่าสิ่งนั้นถูกต้อง แต่ความบาปของข้าพเจ้าไม่ได้รับการลงโทษ
\v 28 พระเจ้าได้ทรงช่วยกู้จิตวิญญาณของข้าพเจ้าจากการลงไปในหลุมนั้น ชีวิตของข้าพเจ้ายังคงมองเห็นแสงสว่าง'
\s5
\p
\v 29 ดูเถิด พระเจ้าทรงกระทำทุกสิ่งเหล่านี้กับคนหนึ่ง สองครั้ง ใช่ แม้ถึงสามครั้ง
\v 30 เพื่อนำจิตวิญญาณของเขาคืนกลับมาจากหลุมนั้น เพื่อว่าเขาจะได้รับความเข้าใจด้วยความสว่างแห่งชีวิต
\v 31 ขอเอาใจใส่เถิด ท่านโยบ และขอฟังข้าพเจ้า ขอจงสงบนิ่งและข้าพเจ้าจะพูด ขอตอบข้าพเจ้าเถิด
\v 32 ถ้าหากท่านมีสิ่งใดจะพูด จงพูด เพราะข้าพเจ้าปรารถนาที่จะพิสูจน์ว่าท่านอยู่ในความถูกต้อง
\v 33 ถ้าหากไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว ขอฟังข้าพเจ้า ขอเงียบไว้ และข้าพเจ้าจะสอนสติปัญญาให้แก่ท่าน"
\s5
\c 34
\p
\v 1 ยิ่งกว่านั้น เอลีฮูได้พูดต่อไปว่า
\v 2 "ขอฟังถ้อยคำทั้งหลายของข้าพเจ้า ท่านผู้เป็นคนฉลาด ขอฟังข้าพเจ้า ท่านผู้มีความรู้
\v 3 เพราะหูชิมถ้อยคำต่างๆ เหมือนกับลิ้นลิ้มรสอาหาร
\v 4 ขอให้เราเลือกสิ่งที่ถูกต้องสำหรับตัวเราเอง ขอให้เราค้นพบสิ่งที่ดีท่ามกลางพวกเรา
\v 5 เพราะโยบได้กล่าวว่า 'ข้าพเจ้าเป็นคนชอบธรรม แต่พระเจ้าได้เอาความชอบธรรมของข้าพเจ้าไป
\v 6 พระองค์ไม่ทรงสนพระทัยความถูกต้องของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าถูกมองว่าเป็นคนโกหก บาดแผลของข้าพเจ้าก็ไม่สามารถรักษาได้ ถึงแม้ว่าข้าพเจ้าไม่มีบาป'
\v 7 คนแบบไหนกันที่เป็นเหมือนโยบ ที่ดื่มการเยาะเย้ยเหมือนกับดื่มน้ำ
\s5
\p
\v 8 ผู้ที่คบค้ากับคนเหล่านั้นที่ทำชั่ว และผู้ที่เดินไปกับคนชั่วร้ายหรือ?
\v 9 เพราะเขาได้พูดว่า 'ไม่ได้ประโยชน์อะไรกับการที่คนหนึ่งพึงพอใจในการทำสิ่งที่พระเจ้าทรงต้องการ'
\v 10 ขอฟังข้าพเจ้าเถิด ท่านผู้เป็นคนที่มีความเข้าใจ การที่พระเจ้าจะทรงทำความชั่วร้ายนั้นก็เป็นสิ่งที่ห่างไกลจากพระองค์ การที่องค์ผู้ทรงฤทธิ์จะทรงกระทำความบาปนั้นก็เป็นเรื่องที่อยู่ห่างจากพระองค์
\v 11 เพราะพระองค์ทรงตอบสนองตามการงานของคน พระองค์ทรงทำให้ทุกคนได้รับรางวัลแห่งวิถีทั้งหลายของเขาเอง
\v 12 แท้จริง พระเจ้าไม่กระทำสิ่งชั่วร้ายใดๆ หรือองค์ผู้ทรงฤทธิ์จะไม่ทรงบิดเบือนความยุติธรรม
\v 13 ใครที่วางพระองค์ไว้ในตำแหน่งเหนือแผ่นดินโลกนี้หรือ? ใครที่วางโลกทั้งใบภายใต้พระองค์หรือ?
\v 14 ถ้าพระองค์ทรงตั้งพระประสงค์สำหรับพระองค์เองเท่านั้น และถ้าพระองค์ได้ทรงรวบรวมพระวิญญาณของพระองค์กับลมหายใจของพระองค์กลับคืนสู่พระองค์เอง
\s5
\p
\v 15 แล้วเนื้อหนังทั้งสิ้นจะพินาศไปด้วยกัน มวลมนุษย์จะกลับไปเป็นฝุ่นอีกครั้ง
\v 16 ถ้าบัดนี้ท่านมีความเข้าใจ ขอจงฟังสิ่งนี้ ฟังเสียงแห่งถ้อยคำทั้งหลายของข้าพเจ้า
\v 17 คนที่เกลียดความยุติธรรมสามารถปกครองได้หรือ? ท่านจะตำหนิพระเจ้า ผู้ทรงชอบธรรมและทรงฤทธิ์หรือ?
\v 18 พระเจ้า ผู้ตรัสแก่กษัตริย์องค์หนึ่งว่า 'เจ้าเลวทราม' หรือตรัสแก่พวกขุนนางว่า 'พวกเจ้าชั่วร้าย' หรือ?
\v 19 พระเจ้าผู้ไม่ทรงสำแดงความลำเอียงแก่พวกผู้นำและไม่ยอมรับคนมั่งมีมากกว่าคนจน เพราะพวกเขาล้วนเป็นฝีพระหัตถ์ของพระองค์
\v 20 ในช่วงขณะหนึ่งพวกเขาก็จะตาย ในยามเที่ยงคืนผู้คนจะถูกเขย่าและจะตายไป คนที่มีกำลังจะถูกพรากไป แต่ไม่ใช่โดยมือของมนุษย์
\v 21 เพราะพระเนตรของพระเจ้าอยู่เหนือวิถีทั้งหลายของคน พระองค์ทรงมองเห็นทุกย่างก้าวของเขา
\s5
\p
\v 22 ไม่มีความมืดมิด ไม่มีความหนาทึบที่คนทำความชั่วจะซ่อนตัวพวกเขาได้
\v 23 เพราะพระเจ้าไม่จำเป็นต้องพิสูจน์คนเพิ่มขึ้น ไม่จำเป็นที่ใครคนใดต้องไปต่อพระพักตร์พระองค์ในการพิพากษา
\v 24 พระองค์ทรงทำลายคนทั้งหลายที่มีกำลังให้แหลกเป็นชิ้นเพราะวิถีทั้งหลายของพวกเขาไม่จำเป็นต้องได้รับการตรวจสอบเพิ่มเติม พระองค์ทรงวางคนอื่นไว้ในที่ของพวกเขา
\v 25 ด้วยวิธีการนี้พระองค์ทรงรู้ถึงการกระทำทั้งหลายของพวกเขา พระองค์ทรงโค่นคนเหล่านี้ในเวลากลางคืน พวกเขาถูกทำลาย
\v 26 ต่อหน้าต่อตาของคนอื่นๆ พระองค์ทรงฆ่าพวกเขาเพราะการกระทำชั่วเฉกเช่นอาชญากรรม
\v 27 เพราะพวกเขาหันออกจากการติดตามพระองค์และปฏิเสธที่จะยอมรับวิถีทั้งหลายของพระองค์
\v 28 ด้วยวิธีนี้ พวกเขาได้ทำให้การร้องไห้ของคนยากจนมาถึงพระองค์ พระองค์ทรงได้ยินเสียงร้องของคนที่เจ็บป่วย
\s5
\p
\v 29 เมื่อพระองค์ทรงนิ่งเงียบ ใครสามารถตำหนิพระองค์ได้หรือ? ถ้าพระองค์ทรงซ่อนพระพักตร์ของพระองค์ ใครสามารถเข้าใจพระองค์ได้หรือ? พระองค์ทรงปกครองเหนือชนชาติและส่วนบุคคลเช่นกัน
\v 30 เพื่อว่าคนที่ไม่นับถือพระเจ้าจะไม่ได้ปกครอง เพื่อว่าจะไม่มีใครที่ทำให้ผู้คนติดกับดัก
\v 31 สมมติว่ามีบางคนพูดกับพระเจ้าว่า 'แน่ทีเดียวที่ข้าพระองค์เป็นคนผิด แต่ข้าพระองค์จะไม่ทำบาปอีกต่อไป
\v 32 ขอทรงสอนข้าพระองค์ถึงสิ่งที่ข้าพระองค์ไม่สามารถมองเห็น ข้าพระองค์ได้ทำบาป แต่ข้าพระองค์จะไม่ทำมันอีกต่อไป'
\v 33 ท่านคิดว่าพระเจ้าจะลงโทษความบาปของคนนั้นไหมในเมื่อท่านไม่ชอบสิ่งที่พระเจ้าทรงกระทำ? ท่านต้องเลือก ไม่ใช่ข้าพเจ้าเลือก ดังนั้นจงพูดสิ่งที่ท่านรู้เถิด
\s5
\p
\v 34 คนทั้งหลายผู้มีความเข้าใจจะพูดกับข้าพเจ้า อันที่จริง คนที่มีปัญญาทุกคนผู้ที่ได้ยินข้าพเจ้าจะพูดว่า
\v 35 'โยบพูดโดยปราศจากความรู้ ถ้อยคำทั้งหลายของเขาปราศจากสติปัญญา'
\v 36 ถ้าเพียงโยบถูกวางบนการทดลองด้วยรายละเอียดเล็กน้อยที่สุดในเรื่องของเขาเพราะการพูดของเขาที่เหมือนกับคนชั่วร้าย
\v 37 เพราะเขาเพิ่มการกบฎเข้าในความบาปของเขา เขาปรบมือของเขาด้วยการเยาะเย้ยในท่ามกลางพวกเรา เขาสะสมถ้อยคำทั้งหลายของเขาเพื่อต่อสู้กับพระเจ้า"
\s5
\c 35
\p
\v 1 จากนั้นเอลีฮูจึงกล่าวต่อไป พูดว่า
\v 2 "เมื่อท่านพูดว่า 'ความชอบธรรมของข้าพเจ้าต่อพระพักตร์พระเจ้า' ท่านคิดว่าสิ่งนี้ยุติธรรมหรือ?
\v 3 เพราะท่านถามว่า 'มันจะเป็นประโยชน์อะไรสำหรับข้าพเจ้าหรือ?' และ 'ข้าพเจ้าจะดีกว่านี้ไหมถ้าหากข้าพเจ้าได้ทำบาป?'
\v 4 ข้าพเจ้าจะตอบท่าน ทั้งท่านและเพื่อนทั้งหลายของท่าน
\v 5 จงมองขึ้นไปบนท้องฟ้า และดูมัน จงดูท้องฟ้าที่สูงกว่าท่าน
\s5
\p
\v 6 ถ้าหากท่านทำบาป ท่านจะทำอันตรายอันใดแก่พระเจ้าได้หรือ? ถ้าหากการละเมิดของท่านเพิ่มพูนขึ้นถึงที่สูง ท่านจะทำสิ่งใดต่อพระองค์หรือ?
\v 7 ถ้าหากท่านเป็นคนชอบธรรม ท่านจะให้อะไรแก่พระองค์ได้หรือ? พระองค์จะทรงรับสิ่งใดจากมือของท่านได้บ้างหรือ?
\v 8 ความชั่วของท่านอาจทำร้ายมนุษย์คนหนึ่ง เพราะท่านเป็นมนุษย์คนหนึ่ง และความชอบธรรมของท่านอาจให้ผลประโยชน์แก่บุตรชายของมนุษย์
\v 9 เพราะการกระทำแห่งการกดขี่มากมาย ผู้คนจึงร้องไห้ พวกเขาเรียกขอความช่วยเหลือจากแขนทั้งหลายของมนุษย์ที่เข้มแข็ง
\v 10 แต่ไม่มีใครสักคนพูดว่า 'พระเจ้า พระผู้สร้างของข้าพเจ้า ผู้ประทานบทเพลงในยามค่ำคืน
\v 11 ผู้ทรงสอนเรามากกว่าทรงสอนเหล่าสัตว์ร้ายบนแผ่นดินโลกนี้ และผู้สร้างเราให้ฉลาดกว่าบรรดานกในท้องฟ้า ทรงอยู่ที่ไหนหรือ?'
\s5
\p
\v 12 ที่นั่นพวกเขาร้องไห้ แต่พระเจ้าไม่ประทานคำตอบเพราะความหยิ่งของมนุษย์ที่ชั่วร้าย
\v 13 พระเจ้าจะไม่ทรงได้ยินเสียงร้องไห้ของคนโง่เขลา องค์ผู้ทรงฤทธิ์จะไม่ทรงสนพระทัยเลย
\v 14 พระองค์จะทรงตอบท่านน้อยแค่ไหนถ้าหากท่านพูดว่าท่านมองไม่เห็นพระองค์ ซึ่งเรื่องราวของท่านอยู่ต่อพระพักตร์พระองค์ และซึ่งท่านกำลังรอคอยพระองค์
\v 15 พระองค์จะทรงตอบท่านน้อยแค่ไหนถ้าหากท่านพูดว่าพระองค์ไม่เคยลงโทษคนใดด้วยพระพิโรธ และที่พระองค์ไม่ทรงใส่พระทัยต่อความหยิ่งของผู้คนมากนัก
\v 16 ดังนั้นโยบจึงเปิดปากของเขาเพียงเพื่อพูดอย่างคนโง่เท่านั้น เขาเพิ่มพูนถ้อยคำทั้งหลายโดยปราศจากความรู้"
\s5
\c 36
\p
\v 1 เอลีฮูยังคงกล่าวต่อไปและพูดว่า
\v 2 "อนุญาตให้ข้าพเจ้าพูดยาวสักหน่อย และข้าพเจ้าจะแสดงให้ท่านเห็นบางสิ่งเพราะข้าพเจ้ามีสิ่งที่จะพูดอีกสักนิดเพื่อปกป้องพระเจ้า
\v 3 ข้าพเจ้าจะได้รับความรู้ของข้าพเจ้ามาจากที่ไกล ข้าพเจ้าจะยอมรับว่าความชอบธรรมนั้นเป็นของพระผู้สร้างของข้าพเจ้า
\v 4 เพราะอันที่จริง ถ้อยคำทั้งหลายของข้าพเจ้าจะไม่ผิดไป บางคนที่เป็นผู้ใหญ่ในด้านความรู้อยู่กับท่าน
\v 5 ดูเถิด พระเจ้าทรงฤทธิ์ และไม่ทรงดูหมิ่นคนใด พระองค์ทรงฤทธิ์ในพลังแห่งความเข้าใจ
\v 6 พระองค์ไม่ทรงสงวนชีวิตของคนชั่วแต่ทรงทำสิ่งที่ถูกต้องสำหรับคนเหล่านั้นที่ทนทุกข์แทน
\v 7 พระองค์ไม่ทรงถอนสายตาของพระองค์จากคนชอบธรรมแต่ทรงตั้งพวกเขาบนบัลลังก์เหมือนกษัตริย์ทั้งหลายตลอดไป และพวกเขาได้รับการยกขึ้น
\s5
\p
\v 8 ถ้าพวกเขาถูกล่ามด้วยโซ่และติดกับดักแห่งความทุกข์ทรมาน
\v 9 แล้วพระองค์ทรงเปิดเผยต่อพวกเขาถึงสิ่งที่พวกเขาได้กระทำ และการละเมิดของพวกเขากับความหยิ่งของพวกเขา
\v 10 พระองค์ทรงเปิดหูของพวกเขาต่อคำสอนของพระองค์ด้วยเช่นกัน และทรงบัญชาพวกเขาให้หันกลับจากความชั่วร้าย
\v 11 ถ้าหากพวกเขาฟังพระองค์และนมัสการพระองค์ พวกเขาจะใช้วันทั้งหลายของพวกเขาในความรุ่งเรือง ปีทั้งหลายของพวกเขาในความพึงพอใจ
\v 12 แต่ถ้าพวกเขาไม่ฟัง พวกเขาจะพินาศด้วยดาบ พวกเขาจะตายเพราะพวกเขาขาดความรู้
\v 13 คนเหล่านั้นที่ไม่นับถือพระเจ้าในจิตใจก็สะสมความโกรธของพวกเขา พวกเขาไม่ร้องขอความช่วยเหลือแม้เมื่อพระเจ้าทรงมัดพวกเขา
\v 14 พวกเขาตายตอนวัยหนุ่ม ชีวิตของพวกเขาสิ้นสุดลงท่ามกลางโสเภณีในวิหารทั้งหลาย
\s5
\p
\v 15 พระเจ้าทรงช่วยกู้คนที่เดือดร้อนโดยผ่านความลำบากของพวกเขา พระองค์ทรงเปิดหูของพวกเขาโดยผ่านการกดขี่ของพวกเขา
\v 16 แท้จริง พระองค์จะทรงดึงท่านออกจากความเจ็บปวดเพื่อเข้าไปในสถานที่กว้างที่ไม่มีความทุกข์ลำบากและที่โต๊ะของท่านจะเต็มไปด้วยอาหารที่เต็มไปด้วยไขมัน
\v 17 แต่ท่านกลับเต็มไปด้วยการพิพากษาที่ควรแก่คนชั่วร้าย คำพิพากษาและความยุติธรรมได้จับท่านเอาไว้
\v 18 อย่าปล่อยให้ความโกรธของท่านชักนำท่านสู่การเยาะเย้ย หรือความยิ่งใหญ่แห่งค่าไถ่คว่ำท่านลง
\v 19 ความมั่งคั่งของท่านสามารถให้ผลประโยชน์แก่ท่าน เพื่อว่าท่านจะไม่ตกอยู่ในความลำบาก หรือกำลังทั้งหมดของท่านสามารถช่วยท่านได้หรือ?
\v 20 อย่าปรารถนาเวลากลางคืน เพื่อทำบาปต่อผู้อื่น เมื่อผู้คนถูกตัดออกจากสถานที่ของพวกเขา
\v 21 จงระวังที่ท่านจะไม่หันไปหาความบาปเพราะท่านกำลังถูกทดสอบโดยความทุกข์ทรมานเพื่อท่านจะคงอยู่ห่างไกลจากความบาป
\s5
\p
\v 22 ดูเถิด พระเจ้าทรงได้รับการยกย่องในฤทธิ์อำนาจของพระองค์ ใครที่เป็นผู้สอนได้เหมือนกับพระองค์หรือ?
\v 23 ใครที่เคยสั่งสอนพระองค์เกี่ยวกับวิถีของพระองค์หรือ? ใครสามารถพูดกับพระองค์ว่า 'พระองค์ได้ทำสิ่งที่ไม่ชอบธรรม' หรือ?
\v 24 จงระลึกถึงการสรรเสริญพระราชกิจทั้งหลายของพระองค์ ตามที่ประชาชนได้ร้องสรรเสริญ
\v 25 ประชาชนทั้งหมดได้มองเหนือพระราชกิจเหล่านั้น แต่พวกเขามองเห็นพระราชกิจเหล่านั้นจากที่ไกลเท่านั้น
\v 26 ดูเถิด พระเจ้าทรงยิ่งใหญ่ แต่เราไม่เข้าใจพระองค์ดีนัก จำนวนปีทั้งหลายของพระองค์ก็ไม่สามารถนับได้
\v 27 เพราะพระองค์ทรงดึงหยดน้ำทั้งหลายที่พระองค์ทรงกลั่นให้เป็นน้ำฝนจากไอน้ำของพระองค์
\s5
\p
\v 28 ที่ก้อนเมฆทั้งหลายเทลงมาและหยดอย่างบริบูรณ์เหนือมวลมนุษย์
\v 29 อันที่จริง ใครสามารถเข้าใจการแผ่ออกอย่างกว้างขวางของก้อนเมฆทั้งหลายและเสียงฟ้าร้องจากกระท่อมของพระองค์ได้หรือ?
\v 30 ดูเถิด พระองค์ทรงแผ่ฟ้าแลบของพระองค์ล้อมรอบพระองค์และทรงปกคลุมรากทั้งหลายของทะเล
\v 31 ด้วยวิธีการนี้ พระองค์ทรงตัดสินประชาชนทั้งหลายและประทานอาหารอย่างบริบูรณ์
\v 32 พระองค์ทรงเติมพระหัตถ์ของพระองค์ด้วยฟ้าแลบจนกว่าพระองค์ทรงบัญชามันให้ผ่าลงตรงจุดที่หมายเอาไว้
\v 33 เสียงฟ้าร้องของมันเตือนถึงพายุ ฝูงสัตว์สามารถได้ยินเสียงมันกำลังมาด้วย
\s5
\c 37
\p
\v 1 อันที่จริง จิตใจของข้าพเจ้าสั่นไหวด้วยเรื่องนี้ มันถูกเคลื่อนออกจากที่ของมัน
\v 2 ขอจงได้ยินเถิด โอ ได้ยินเสียงอันดังของพระองค์ เสียงที่ออกมาจากพระโอษฐ์ของพระองค์
\v 3 พระองค์ทรงส่งมันออกไปภายใต้ท้องฟ้าทั้งหมด และพระองค์ทรงส่งฟ้าแลบของพระองค์ไปยังสุดขอบแผ่นดินโลก
\v 4 เสียงหนึ่งคำรามหลังจากมัน พระองค์ทรงทำให้ฟ้าร้องด้วยพระสุรเสียงแห่งพระบารมีของพระองค์ พระองค์ไม่ทรงยับยั้งฟ้าแลบที่วิ่งอย่างรวดเร็วเมื่อพระสุรเสียงของพระองค์เป็นที่ได้ยิน
\v 5 พระเจ้าทรงทำให้ฟ้าร้องอย่างน่าเกรงขามด้วยพระสุรเสียงของพระองค์ พระองค์ทรงทำสิ่งต่าง ๆ ที่ยิ่งใหญ่ที่เราไม่สามารถเข้าใจได้
\v 6 เพราะพระองค์ตรัสต่อหิมะว่า 'จงตกลงบนแผ่นดินโลก' เช่นเดียวกันกับสายฝนที่เทลงมาว่า 'จงกลายเป็นฝนห่าใหญ่ที่เทลงมา'
\s5
\p
\v 7 พระองค์ทรงหยุดมือของมนุษย์ทุกคนจากการทำงาน เพื่อว่ามนุษย์ทั้งหมดที่พระองค์ได้ทรงสร้างจะมองเห็นพระราชกิจต่าง ๆ ของพระองค์
\v 8 แล้วสัตว์ร้ายทั้งหลายก็เข้าไปซ่อนตัวและอยู่ในถ้ำของพวกมัน
\v 9 พายุมาจากช่องว่างทางทิศใต้และความเย็นจากลมกล้าทางทิศเหนือ
\v 10 โดยลมหายใจของพระเจ้า ความเย็นก็ถูกประทานมา ห้วงน้ำทั้งหลายเกาะตัวแข็งเหมือนกับโลหะ
\v 11 อันที่จริง พระองค์ทรงทำให้เมฆหนาทึบหนักไปด้วยความชื้น พระองค์ทรงพุ่งฟ้าแลบของพระองค์ผ่านก้อนเมฆทั้งหลาย
\v 12 พระองค์ทรงหมุนก้อนเมฆทั้งหลายโดยการนำของพระองค์ เพื่อว่าพวกมันจะทำในสิ่งใดก็ตามที่พระองค์ทรงบัญชาพวกมันเหนือพื้นผิวของโลกทั้งหมดนี้
\s5
\p
\v 13 พระองค์ทรงทำให้ทุกสิ่งนี้เกิดขึ้น บางครั้งมันเกิดขึ้นเพื่อการตรวจแก้ บางครั้งเพื่อดินแดนของพระองค์ และบางครั้งเป็นดั่งการกระทำแห่งพันธสัญญาอันสัตย์ซื่อ
\v 14 ขอฟังสิ่งนี้ ท่านโยบ จงหยุดและคิดถึงพระราชกิจทั้งหลายที่น่าเกรงขามของพระเจ้า
\v 15 ท่านรู้ไหมว่าพระเจ้าทรงฝืนพระทัยของพระองค์เหนือก้อนเมฆทั้งหลายและทำให้ฟ้าแลบพุ่งอยู่ในพวกมันสักเพียงใด?
\v 16 ท่านเข้าใจถึงก้อนเมฆทั้งหลายที่ลอยอยู่ พระราชกิจอันอัศจรรย์ทั้งหลายของพระเจ้า ผู้ทรงสมบูรณ์แบบในความรู้หรือ?
\v 17 ท่านเข้าใจเกี่ยวกับการที่เสื้อผ้าทั้งหลายของท่านร้อนเมื่อดินแดนนั้นสงบนิ่งเพราะลมนั้นมาจากทิศใต้หรือ?
\v 18 ท่านสามารถกางท้องฟ้าได้เหมือนกับพระองค์ ท้องฟ้าที่แข็งแรงเหมือนกับกระจกที่ทำจากโลหะหลอมอย่างนั้นหรือ?
\s5
\p
\v 19 ขอทรงสอนเราถึงสิ่งที่เราสมควรทูลต่อพระองค์ เพราะเราไม่สามารถเผยคำโต้แย้งทั้งหลายของเราได้เพราะความมืดแห่งจิตใจของเรา
\v 20 พระองค์ทรงสมควรได้รับการบอกหรือว่าข้าพเจ้าปรารถนาพูดกับพระองค์? มันเป็นการที่คนหนึ่งปรารถนาถูกกลืนไหม?
\v 21 บัดนี้ ผู้คนไม่สามารถมองที่ดวงอาทิตย์เมื่อมันฉายแสงในท้องฟ้าหลังจากลมได้พัดผ่านและได้เอาก้อนเมฆทั้งหลายออกไป
\v 22 รัศมีสีทองเปล่งออกมาจากทางทิศเหนือ พระเจ้าทรงพระบารมีอันน่ายำเกรง
\v 23 สำหรับองค์ผู้ทรงฤทธิ์ เราไม่สามารถค้นพบพระองค์ พระองค์ทรงยิ่งใหญ่ด้วยฤทธิ์อำนาจ พระองค์ไม่ทรงกดขี่ความยุติธรรมและความชอบธรรมอันอุดม
\v 24 ด้วยเหตุนี้ ผู้คนจึงยำเกรงพระองค์ พระองค์ไม่ทรงสนพระทัยคนเหล่านั้นที่มีปัญญาในความคิดของพวกเขาเอง"
\s5
\c 38
\p
\v 1 แล้วพระยาห์เวห์ได้ทรงเรียกโยบให้ออกจากพายุร้ายและตรัสว่า
\v 2 "ผู้นี้คือใครที่นำความมืดมาสู่แผนงานต่างๆ โดยบรรดาถ้อยคำที่ปราศจากความรู้หรือ?
\v 3 บัดนี้จงคาดเอวของเจ้าเหมือนกับชายคนหนึ่งเพราะเราจะถามคำถามเจ้า และเจ้าต้องตอบเรา
\v 4 เจ้าอยู่ที่ไหนหรือ เมื่อเราวางรากฐานของแผ่นดินโลกนี้? บอกเราสิ ถ้าหากเจ้ามีความเข้าใจอย่างมาก
\v 5 ใครกำหนดขอบเขตทั้งหลายให้กับมันหรือ? บอกเราสิ ถ้าหากเจ้ารู้ ใครคือผู้ที่วางเส้นเขตแดนเหนือมันหรือ?
\v 6 รากฐานของมันวางอยู่บนสิ่งใดหรือ? ใครวางศิลามุมเอกให้กับมันหรือ?
\v 7 เมื่อใดที่ดาวประจำรุ่งได้ร้องเพลงด้วยกันและบรรดาบุตรชายทั้งหลายของพระเจ้าตะโกนร้องด้วยความยินดีหรือ?
\s5
\p
\v 8 ใครปิดทะเลด้วยประตูทั้งหลายเมื่อมันพลุ่งออกมา เหมือนกับมันได้ออกมาจากครรภ์นั้น
\v 9 เราได้สร้างก้อนเมฆทั้งหลายให้เป็นเสื้อผ้าของมัน และความมืดทึบเป็นผ้าห่อตัวของมันเมื่อใดหรือ?
\v 10 นั่นคือเมื่อเราได้กำหนดเครื่องหมายไว้เป็นเขตกั้นสำหรับทะเล และเมื่อเราได้วางขื่อและประตูทั้งหลายของมัน
\v 11 และเมื่อเราได้พูดต่อมันว่า 'เจ้ามาได้ไกลเท่านี้ แต่ไม่ไกลไปกว่านี้ นี่คือที่ที่เรากั้นเขตไว้ให้กับความหยิ่งแห่งคลื่นทั้งหลายของเจ้า'
\v 12 เจ้าเคยออกคำสั่งให้ยามเช้าเริ่มต้น หรือทำให้ยามรุ่งอรุณรู้สถานที่ของมันในแผนการของสิ่งต่างๆ
\v 13 เพื่อว่ามันจะจับด้านต่างๆ ของแผ่นดินโลกซึ่งคนชั่วร้ายจะถูกเขย่าเพราะมันไหม?
\v 14 แผ่นดินโลกถูกทำให้เปลี่ยนแปลงในสภาพเหมือนดินเหนียวที่เปลี่ยนไปภายใต้ตราประทับอันหนึ่ง ทุกสิ่งบนนั้นยืนเด่นเหมือนกับผ้าชิ้นหนึ่ง
\s5
\p
\v 15 'แสงสว่าง' ของคนชั่วร้ายนั้นถูกพรากไปจากพวกเขา แขนที่ยกขึ้นของพวกเขาก็หัก
\v 16 เจ้าเคยไปยังแหล่งน้ำของห้วงทะเลไหม? เจ้าเคยเดินในส่วนที่ต่ำที่สุดของที่ลึกไหม?
\v 17 ประตูแห่งความตายได้ถูกสำแดงแก่เจ้าไหม? เจ้าเคยเห็นประตูแห่งเงาความตายไหม?
\v 18 เจ้าเข้าใจแผ่นดินโลกในเรื่องการขยายของมันไหม? บอกเราสิ ถ้าเจ้ารู้ทั้งหมดเกี่ยวกับมัน
\v 19 ที่ไหนคือหนทางไปสู่สถานที่พักแห่งความสว่าง เช่นกันสำหรับความมืด สถานที่ของมันอยู่ที่ไหนหรือ?
\v 20 เจ้าสามารถนำความสว่างและความมืดมายังสถานที่แห่งการทำงานของพวกมันได้หรือ? เจ้าสามารถค้นพบทางกลับไปสู่บ้านทั้งหลายของพวกมันได้ไหม?
\s5
\p
\v 21 ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเจ้ารู้ เพราะเจ้าได้เกิดมาแล้ว จำนวนวันทั้งหลายของเจ้านั้นใหญ่ยิ่งนัก
\v 22 เจ้าเคยเข้าไปในคลังสำหรับเก็บหิมะ หรือเจ้าเคยเห็นคลังเก็บลูกเห็บ
\v 23 สิ่งต่างๆ เหล่านี้ที่เราได้เก็บไว้สำหรับเวลายากลำบาก สำหรับวันทั้งหลายในสงครามและการรบไหม?
\v 24 อะไรคือเส้นทางไปยังสถานที่ที่ฟ้าแลบถูกปล่อยหรือไปยังสถานที่ที่ลมทั้งหลายกระจายออกไปจากทิศตะวันออกเหนือแผ่นดินโลกนี้หรือ?
\v 25 ใครที่ได้สร้างช่องสำหรับน้ำฝนมากหลาย หรือใครที่ได้สร้างเส้นทางให้กับฟ้าร้องดังสนั่น
\v 26 เพื่อทำให้มันเป็นฝนรดลงมาบนแผ่นดินทั้งหลายที่ไม่มีคนดำรงอยู่ และเหนือถิ่นทุรกันดาร ที่ไม่มีใครอยู่
\v 27 เพื่อช่วยเหลือบริเวณต่าง ๆ ที่เป็นหมันและโดดเดี่ยว และเพื่อทำให้หญ้าที่นุ่มงอกงามขึ้นมาหรือ?
\s5
\p
\v 28 ฝนนั้นมีบิดาด้วยหรือ? ใครที่ทำให้น้ำค้างเกิดขึ้น?
\v 29 น้ำแข็งนั้นออกมาจากครรภ์ของผู้ใดหรือ? ใครทำให้เกล็ดน้ำแข็งสีขาวออกมาจากท้องฟ้าหรือ?
\v 30 น้ำทั้งหลายได้ซ่อนตัวเองและกลายเป็นเหมือนหิน ผิวของที่ลึกกลายเป็นน้ำแข็ง
\v 31 เจ้าสามารถมัดดาวลูกไก่ หรือคลายเชือกให้กับดาวไถได้หรือ?
\v 32 เจ้าสามารถนำให้กลุ่มดาวต่างๆ ปรากฎขึ้นในเวลาที่เหมาะสมของพวกมันหรือ? เจ้าสามารถนำทางให้หมีกับลูกๆ ของมันได้หรือ?
\v 33 เจ้ารู้ถึงกิจวัตรต่างๆ ของท้องฟ้าอย่างนั้นหรือ? เจ้าสามารถตั้งกฎของท้องฟ้าเหนือแผ่นดินโลกได้หรือ?
\v 34 เจ้าสามารถยกเสียงของเจ้าขึ้นต่อก้อนเมฆทั้งหลาย เพื่อว่าน้ำฝนอันอุดมจะเทมาปกคลุมเจ้าอย่างนั้นหรือ?
\s5
\p
\v 35 เจ้าสามารถส่งสายฟ้าแลบออกไป ที่พวกมันอาจออกไป ที่พวกมันพูดกับเจ้าว่า 'พวกเราอยู่ที่นี่' อย่างนั้นหรือ?
\v 36 ใครได้ใส่สติปัญญาไว้ในก้อนเมฆทั้งหลายหรือได้ให้ความเข้าใจแก่หมอกทั้งหลายหรือ?
\v 37 ใครสามารถนับจำนวนก้อนเมฆด้วยทักษะของเขาได้หรือ? ใครสามารถเทน้ำจากผิวของท้องฟ้าได้หรือ?
\v 38 เมื่อใดที่ฝุ่นวิ่งเข้าเกาะกันจนเป็นก้อน และดินทั้งหลายของแผ่นดินโลกรวมตัวกันจนแน่นหรือ?
\v 39 เจ้าสามารถล่าเหยื่อให้กับนางสิงห์หรือทำให้ลูกวัยหนุ่มของมันอิ่มได้
\v 40 เมื่อใดที่พวกมันหมอบลงในถ้ำของพวกมันและซ่อนตัวรอคอยอย่างนั้นหรือ?
\v 41 ใครที่จัดเตรียมเหยื่อให้กับอีกาเมื่อลูกน้อยของพวกมันร้องต่อพระเจ้าเดินโซเซเพราะขาดอาหารหรือ?
\s5
\c 39
\p
\v 1 เจ้ารู้ไหมว่าเวลาใดที่แพะป่าตามซอกผาต่างๆ คลอดลูกน้อยของพวกมัน? เจ้าสามารถเฝ้าดูเมื่อกวางนั้นกำลังให้กำเนิดลูกของพวกมันหรือ?
\v 2 เจ้าสามารถนับเดือนต่างๆ ที่พวกมันตั้งท้องได้ไหม? เจ้ารู้เวลาเมื่อพวกมันคลอดลูกน้อยของพวกมันไหม?
\v 3 พวกมันหมอบลงและให้กำเนิดลูกน้อยของพวกมัน และจากนั้นความเจ็บปวดของพวกมันก็หยุดลง
\v 4 ลูกน้อยทั้งหลายของพวกมันได้เติบโตแข็งแรงในทุ่งโล่ง พวกมันออกไปและไม่กลับมาอีก
\v 5 ใครปล่อยให้ลาป่าไปอย่างอิสระหรือ? ใครได้แก้มัดเชือกให้กับลาที่คล่องแคล่วนั้น
\v 6 บ้านของใครที่เราได้สร้างไว้ในอาราบาห์ คือบ้านของเขาในแผ่นดินเกลือนั้นหรือ?
\s5
\p
\v 7 มันหัวเราะเยาะเสียงรบกวนทั้งหลายในเมืองนั้น มันไม่ได้ยินเสียงตะโกนของคนขับไล่
\v 8 มันร่อนเร่ไปตามภูเขาต่างๆ เหมือนกับเป็นทุ่งเลี้ยงสัตว์ของมัน ที่นั่นมันมองหาพืชพันธุ์เขียวสดเพื่อจะกิน
\v 9 วัวป่าจะมีความสุขที่ได้ปรนนิบัติเจ้าอย่างนั้นหรือ? มันพอใจที่จะอยู่ในโรงวัวของเจ้าหรือ?
\v 10 เจ้าสามารถควบคุมวัวป่าให้ไถพรวนดินด้วยไม้เท้าอันหนึ่งหรือ? มันจะไถคราดลำห้วยต่างๆ ให้กับเจ้าไหม?
\v 11 เจ้าไว้ใจมันเพราะมันมีกำลังเข้มแข็งอย่างนั้นหรือ? เจ้าจะปล่อยการงานของเจ้าไว้ให้มันทำอย่างนั้นหรือ?
\v 12 เจ้าจะพึ่งอาศัยให้มันนำรวงข้าวกลับไปยังบ้านของเจ้า ให้มันรวบรวมรวงข้าวที่ลานนวดข้าวของเจ้าอย่างนั้นหรือ?
\s5
\p
\v 13 ปีกทั้งหลายของนกกระจอกเทศกระพืออย่างผยอง แต่พวกมันใช่ปีกและขนที่ให้ความรักไหม?
\v 14 เพราะมันออกไข่ทั้งหลายของมันบนแผ่นดินโลก และมันทิ้งให้ไข่เหล่านั้นอบอุ่นอยู่ในฝุ่น
\v 15 มันลืมว่าเท้าหนึ่งอาจบดขยี้ไข่เหล่านั้นหรือสัตว์ป่าอาจเหยียบย่ำพวกมันได้
\v 16 มันทำการอย่างรุนแรงกับลูกเล็กทั้งหลายของมันเหมือนกับว่าไม่ใช่ลูกของมัน มันไม่กลัวว่าแรงของมันอาจสูญเปล่า
\v 17 เพราะพระเจ้าได้ทรงถอนสติปัญญาออกจากมันและไม่ประทานความเข้าใจใดๆ ให้กับมัน
\v 18 เมื่อมันวิ่งอย่างรวดเร็ว มันหัวเราะเยาะม้าและผู้ที่ขี่ม้านั้น
\s5
\p
\v 19 เจ้าได้มอบกำลังให้กับม้าไหม? เจ้าสวมคอของมันด้วยแผงขนพริ้วหรือไม่?
\v 20 เจ้าได้ทำให้มันกระโดดเหมือนตั๊กแตนไหม? ความยิ่งใหญ่ของเสียงที่ออกมาจากจมูกของมันก็น่ากลัว
\v 21 มันตะกุยเท้าด้วยกำลังและชื่นชมยินดีในกำลังของมัน มันรีบออกไปเพื่อเข้าหาอาวุธ
\v 22 มันเยาะเย้ยความกลัวและไม่ขวัญหนีดีฝ่อ มันไม่หันกลับจากดาบ
\v 23 งูหางกระดิ่งสั่นรัวเพื่อต่อสู้ที่ด้านข้างของมัน พร้อมกับหอกแหลมกับทวน
\v 24 มันกลืนพื้นดินด้วยความดุร้ายและเดือดดาล ด้วยเสียงของแตร มันไม่สามารถยืนอยู่ในที่แห่งเดียวได้
\s5
\p
\v 25 เมื่อใดก็ตามที่เสียงแตรดังขึ้น มันพูดว่า 'ยินดี' มันได้กลิ่นสงครามจากที่ไกล เสียงโห่ร้องดังสนั่นของผู้บัญชาการทั้งหลายและเสียงของมวลชน
\v 26 ใช่โดยสติปัญญาของเจ้าไหมที่ทำให้นกเหยี่ยวบินได้ ที่มันกางปีกของมันออกสำหรับทิศใต้?
\v 27 ใช่คำสั่งของเจ้าไหมที่ทำให้นกอินทรีขึ้นไปที่สูงและสร้างรังของมันที่นั่น?
\v 28 มันอาศัยอยู่บนหน้าผาและสร้างบ้านของมันบนจุดสูงสุดของหน้าผา เป็นป้อมปราการหนึ่ง
\v 29 จากที่นั่นมันมองหาเหยื่อ สายตาของมันมองเห็นเหยื่อเหล่านั้นจากที่ไกล
\v 30 ลูกน้อยของมันดื่มเลือดด้วยเช่นกัน มีผู้คนที่ถูกฆ่าอยู่ที่ไหน มันก็อยู่ที่นั่น"
\s5
\c 40
\p
\v 1 พระยาห์เวห์ตรัสกับโยบต่อไป พระองค์ได้ตรัสว่า
\v 2 "สมควรหรือที่ผู้ปรารถนาการตัดสินจะพยายามแก้ไของค์ผู้ทรงฤทธิ์ให้ถูกต้อง? เขาผู้ที่โต้เถียงกับพระเจ้า ขอให้เขาตอบเถิด"
\v 3 แล้วโยบได้ตอบพระยาห์เวห์และพูดว่า
\v 4 "ดูเถิด ข้าพเจ้าเป็นคนที่ไม่สำคัญอันใด ข้าพเจ้าจะสามารถทูลตอบพระองค์อย่างไรได้? ข้าพเจ้าวางมือของข้าพเจ้าเหนือปากของข้าพเจ้า
\v 5 ข้าพเจ้าได้พูดแล้วครั้งหนึ่ง และข้าพเจ้าจะไม่ตอบ แท้จริงสองครั้ง แต่ข้าพเจ้าจะไม่ทำอีกต่อไป"
\v 6 แล้วพระยาห์เวห์ได้ตอบโยบออกมาจากพายุกล้าและตรัสว่า
\s5
\p
\v 7 "บัดนี้ จงคาดเอวของเจ้าเหมือนกับชายคนหนึ่ง เพราะเราจะถามคำถามเจ้า และเจ้าต้องตอบเรา
\v 8 เจ้าจะพูดจริงๆ หรือว่าเราไม่ยุติธรรม? เจ้าจะตำหนิเราเพื่อเจ้าจะเรียกร้องว่าเจ้าถูกต้องอย่างนั้นหรือ?
\v 9 เจ้ามีแขนหนึ่งเหมือนกับแขนของพระเจ้าหรือ? เจ้าสามารถทำให้ฟ้าร้องด้วยเสียงเหมือนกับพระองค์หรือ?
\v 10 บัดนี้ จงสวมตัวเองด้วยสง่าราศีและความมีเกียรติ จงแต่งกายของเจ้าด้วยเกียรติยศและบารมี
\v 11 จงกระจายความโกรธอันเกินควรของเจ้า มองดูที่ทุกคนที่หยิ่งและนำเขาให้ต่ำลง
\v 12 มองดูที่ทุกคนที่หยิ่งและนำเขาให้ตกต่ำ โค่นคนชั่วร้ายลงเมื่อพวกเขายืนขึ้น
\s5
\p
\v 13 ฝังพวกเขาในแผ่นดินนี้ด้วยกัน กักขังใบหน้าของพวกเขาในสถานที่ซ่อนตัว
\v 14 แล้วเราจะยอมรับเกี่ยวกับเจ้าว่ามือขวาของเจ้าสามารถช่วยตัวเจ้าเองให้รอดพ้นได้
\v 15 บัดนี้จงมองดูที่สัตว์ใหญ่มหึมา ที่เราได้สร้างเหมือนกับสร้างเจ้า มันกินหญ้าเหมือนวัว
\v 16 บัดนี้ดูเถิด กำลังของมันอยู่ในเอวของมัน อำนาจของมันอยู่ในกล้ามเนื้อท้อง
\v 17 มันทำให้หางของมันเหมือนสนสีดาร์ เส้นเอ็นทั้งหลายที่ต้นขาของมันก็ประสานเข้าด้วยกัน
\v 18 กระดูกทั้งหลายของมันเป็นเหมือนท่อทองสัมฤทธิ์ ขาทั้งหลายของมันเป็นเหมือนกับแท่งเหล็ก
\s5
\p
\v 19 มันเป็นหัวหน้าของสิ่งทรงสร้างทั้งหลายของพระเจ้า มีเพียงพระเจ้าเท่านั้น ผู้ที่ได้สร้างมันขึ้นมา ที่สามารถปราบมันให้พ่ายแพ้
\v 20 เพราะเนินเขาทั้งหลายจัดเตรียมอาหารให้กับมัน สัตว์ร้ายทั้งหลายแห่งทุ่งหญ้าเล่นอยู่ใกล้
\v 21 มันนอนลงภายใต้กอบัวในร่มเงาของต้นอ้อที่อยู่ในบึง
\v 22 กอบัวปกคลุมมันด้วยร่มเงา ต้นระหงแห่งลำห้วยก็อยู่ล้อมรอบมัน
\v 23 ดูเถิด ถ้าหากแม่น้ำสายหนึ่งท่วมล้นตลิ่ง มันก็ไม่หวั่นไหว มันมั่นใจ ถึงแม้แม่น้ำจอร์แดนก็ยังพลุ่งพล่านอยู่ที่ปากของมัน
\v 24 คนใดสามารถจับมันได้ด้วยตะขอ หรือแทงจมูกของมันผ่านทางกับดักได้หรือ?
\s5
\c 41
\p
\v 1 เจ้าสามารถลากเลวีอาธานออกมาได้ด้วยตะขอจับปลาไหม? หรือมัดขากรรไกรของมันด้วยเชือกหรือไม่?
\v 2 เจ้าสามารถคล้องเชือกเข้าไปในจมูกของมัน หรือแทงขากรรไกรของมันให้ทะลุด้วยตะขอหรือไม่?
\v 3 มันจะอ้อนวอนเจ้าอย่างมากไหม? มันจะพูดถ้อยคำอ่อนหวานกับเจ้าหรือ?
\v 4 มันจะทำพันธสัญญากับเจ้า เพื่อเจ้าจะเอามันไปเป็นทาสตลอดไปอย่างนั้นหรือ?
\v 5 เจ้าจะเล่นกับมันเหมือนเล่นกับนกได้หรือ? เจ้าจะมัดมันด้วยเชือกสำหรับทาสหญิงทั้งหลายของเจ้าได้หรือ?
\v 6 กลุ่มชาวประมงทั้งหลายจะต่อรองกับมันได้หรือ? พวกเขาจะแบ่งมันเพื่อแลกเปลี่ยนในท่ามกลางพ่อค้าได้หรือ?
\v 7 เจ้าสามารถปักหนังของมันด้วยฉมวก หรือปักหัวของมันด้วยหอกจับปลาอย่างนั้นหรือ?
\s5
\p
\v 8 วางมือของเจ้าบนมันเพียงครั้งหนึ่ง และเจ้าจะระลึกถึงสงครามและไม่ทำมันอีก
\v 9 ดูเถิด ความหวังของคนใดที่ทำสิ่งนั้นย่อมเป็นการโกหก จะไม่มีคนใดถูกเหวี่ยงลงไปบนพื้นด้วยการมองเห็นของมันดอกหรือ?
\v 10 ไม่มีใครที่ดุร้ายพอที่จะปลุกเลวีอาธานให้ลุกขึ้น แล้วใคร คือมันหรือที่สามารถยืนต่อหน้าเราได้?
\v 11 ใครได้มอบสิ่งใดให้กับเราก่อนเพื่อเราจะสมควรตอบแทนมันหรือ? สิ่งใดก็ตามที่อยู่ภายใต้ท้องฟ้าล้วนเป็นของเรา
\v 12 เราจะไม่นิ่งเงียบเนื่องจากขาทั้งหลายของเลวีอาธาน หรือไม่นิ่งเงียบเกี่ยวกับกำลังของมัน หรือไม่นิ่งเงียบเกี่ยวกับรูปร่างอันสง่างามของมัน
\v 13 ใครสามารถถลกหนังคลุมด้านนอกของมันได้หรือ? ใครสามารถทะลวงเสื้อเกราะสองชั้นของมันได้หรือ?
\v 14 ใครหรือที่สามารถเปิดประตูทั้งหลายแห่งหน้าของมัน คล้องห่วงฟันของมัน ซึ่งน่ากลัวยิ่งนัก?
\s5
\p
\v 15 หลังของมันถูกสร้างให้เป็นแนวของโล่ทั้งหลาย ติดกันแน่นเหมือนกับผนึกเข้าไว้ด้วยกัน
\v 16 อันหนึ่งติดกันกับอีกอันซึ่งอากาศไม่สามารถทะลุผ่านพวกมันได้
\v 17 พวกมันยึดติดกัน พวกมันเกาะติดกันแน่น เพื่อว่าพวกมันจะไม่สามารถถูกดึงให้ขาดจากกัน
\v 18 มีประกายไฟแลบออกมาจากเสียงหายใจของมัน ดวงตาของมันเป็นเหมือนกับหนังตาของรุ่งอรุณ
\v 19 คบเพลิงพลุ่งออกมาจากปากของมัน ประกายไฟก็พลุ่งออกมา
\v 20 มีควันออกมาจากจมูกของมันเหมือนกับหม้อต้มน้ำที่กำลังเดือดตั้งอยู่บนไฟที่ถูกพัดให้ร้อนอย่างมาก
\v 21 ลมหายใจของมันจุดถ่านให้ลุกเป็นไฟ เปลวไฟออกจากปากของมัน
\s5
\p
\v 22 ในคอของมันคือกำลัง และความสยดสยองเต้นต่อหน้ามัน
\v 23 รอยย่นของเนื้อของมันเกาะติดกัน พวกมันเกาะแน่นอยู่บนตัวของมัน พวกมันไม่สามารถถูกทำให้เคลื่อนไปไหนได้
\v 24 หัวใจของมันแข็งเหมือนกับก้อนหิน อันที่จริง แข็งเหมือนกับหินโม่ที่จมลง
\v 25 เมื่อมันยกตัวของมันเองขึ้น แม้แต่พระทั้งหลายก็ต้องหวาดกลัว เพราะความกลัว พวกมันจึงถอยหลัง
\v 26 ถ้าดาบเล่มหนึ่งต่อสู้มัน ดาบนั้นทำอะไรมันไม่ได้ และแม้แต่หอกอันหนึ่ง ลูกศร หรืออาวุธใด ๆ ก็ตาม
\v 27 มันคิดถึงเหล็กว่าเป็นเหมือนฟางข้าว และทองสัมฤทธิ์ว่าเป็นเหมือนไม้ผุพัง
\v 28 ลูกศรดอกหนึ่งไม่สามารถทำให้มันหนีไปได้ สำหรับมันแล้ว ห่วงเชือกเหวี่ยงก้อนหินก็กลายเป็นแกลบ
\s5
\p
\v 29 ไม้ตะบองถูกมองว่าเป็นเหมือนฟางข้าว มันหัวเราะให้กับการต่อสู้ด้วยหอก
\v 30 ส่วนด้านล่างของมันเป็นเหมือนหม้อแตกที่แหลมคม มันทิ้งหางที่แผ่ออกลงในโคลนตมเหมือนกับว่ามันเป็นเลื่อนนวดข้าว
\v 31 มันทำให้ฟองจากที่ลึกลอยขึ้นมาเหมือนกับหม้อต้มน้ำเดือด มันทำให้ทะเลเหมือนกับหม้อขี้ผึ้ง
\v 32 มันปลุกให้ตื่นด้วยแสงด้านหลังมัน คนจะคิดว่าที่ลึกมีผมสีเทา
\v 33 บนแผ่นดินโลกไม่มีใครเทียบมันได้ คือผู้ที่มีชีวิตอยู่โดยปราศจากความกลัว
\v 34 มันมองดูทุกสิ่งที่หยิ่งผยอง มันคือราชาเหนือบุตรชายทั้งหลายของความหยิ่ง"
\s5
\c 42
\p
\v 1 แล้วโยบจึงได้ทูลตอบพระยาห์เวห์และกล่าวว่า
\v 2 "ข้าพระองค์รู้ว่าพระองค์ทรงสามารถทำทุกสิ่ง ไม่มีพระประสงค์ใดของพระองค์ที่สามารถถูกหยุดยั้งได้
\v 3 'ใครคือผู้นี้ที่ซ่อนแผนการทั้งหลายโดยปราศจากความรู้?' แท้จริงแล้ว ข้าพระองค์ได้กล่าวสิ่งต่างๆ ที่ข้าพระองค์ไม่เข้าใจ สิ่งต่างๆ ที่ยากเกินกว่าที่ข้าพระองค์จะเข้าใจได้ สิ่งต่างๆ ซึ่งข้าพระองค์ไม่มีความรู้เกี่ยวกับสิ่งเหล่านั้นเลย
\v 4 พระองค์ตรัสแก่ข้าพระองค์ว่า 'บัดนี้ จงฟัง และเราจะพูด เราจะถามถึงสิ่งต่างๆ ให้แก่เจ้า และเจ้าจะบอกเรา'
\v 5 ข้าพระองค์ได้ยินเกี่ยวกับพระองค์ด้วยการได้ยินจากหูของข้าพระองค์ แต่บัดนี้ดวงตาของข้าพระองค์มองเห็นพระองค์
\v 6 ดังนั้นข้าพระองค์จึงดูถูกตัวเอง ข้าพระองค์กลับใจในฝุ่นและขี้เถ้า"
\s5
\p
\v 7 หลังจากที่พระองค์ได้ตรัสถ้อยคำเหล่านี้แก่โยบ พระยาห์เวห์ได้ตรัสต่อเอลีฟัส ชาวเทมานว่า "ความโกรธของเราพลุ่งขึ้นต่อเจ้าและต่อเพื่อนทั้งสองคนของเจ้า เพราะเจ้าไม่ได้กล่าวถึงเราอย่างถูกต้อง เหมือนกับที่ผู้รับใช้ของเราคือโยบได้กล่าว
\v 8 ดังนั้นบัดนี้ จงเอาวัวผู้เจ็ดตัวและแกะผู้เจ็ดตัวของเจ้า ไปหาผู้รับใช้ของเราคือโยบ และจงถวายเครื่องเผาบูชาเพื่อตัวของเจ้าเอง ผู้รับใช้ของเราคือโยบจะอธิษฐานเผื่อเจ้า และเราจะยอมรับคำอธิษฐานของเขา เพื่อว่าเราจะไม่จัดการกับเจ้าตามความโง่เขลาของเจ้านั้น เจ้าไม่ได้กล่าวสิ่งที่ถูกต้องเกี่ยวกับเรา เหมือนกับที่ผู้รับใช้ของเราคือโยบได้กล่าว"
\v 9 ดังนั้นเอลีฟัส ชาวเทมาน บิลดัด ชาวชูอาห์ และโศฟาร์ ชาวนามาอาห์ จึงได้ไปและกระทำตามที่พระยาห์เวห์ทรงบัญชาพวกเขา และพระยาห์เวห์ทรงยอมรับโยบ
\v 10 เมื่อโยบได้อธิษฐานเผื่อเพื่อนทั้งหลายของเขา พระยาห์เวห์ทรงรื้อฟื้นความรุ่งเรืองคืนให้แก่โยบ พระยาห์เวห์ทรงมอบให้แก่เขามากเป็นสองเท่าจากที่เขาเคยมีมาก่อน
\v 11 แล้วบรรดาพี่ชายน้องชายทั้งหมดของโยบ อีกทั้งพี่สาวและน้องสาว และทุกคนที่เคยเป็นคนรู้จักของเขาก่อนหน้านี้ พวกเขาได้มาหาโยบที่นั่นและกินอาหารร่วมกับเขาในบ้านของเขา พวกเขาได้โศกเศร้าร่วมกับโยบและปลอบโยนเขาเกี่ยวกับภัยพิบัติต่างๆ ที่พระยาห์เวห์ทรงนำมาเหนือเขา ทุกคนแต่ละคนได้มอบแผ่นเงินหนึ่งแผ่นและแหวนทองคำหนึ่งวงแก่โยบ
\s5
\p
\v 12 พระยาห์เวห์ได้ทรงอวยพรโยบในช่วงบั้นปลายของชีวิตให้มีมากยิ่งกว่าตอนต้น เขามีแกะหนึ่งหมื่นสี่พันตัว อูฐหกพันตัว วัวเทียมแอกหนึ่งพันคู่ และลาตัวเมียหนึ่งพันตัว
\v 13 เขามีบุตรชายเจ็ดคนและบุตรหญิงสามคน
\v 14 เขาตั้งชื่อบุตรหญิงคนแรกว่าเยมีมาห์ คนที่สองชื่อว่าเคสิยาห์ และคนที่สามชื่อว่าเคเรนหัปปุค
\v 15 ในแผ่นดินทั้งหมดไม่มีผู้หญิงคนใดที่ถูกพบว่างดงามเท่ากับบรรดาบุตรหญิงของโยบ บิดาของพวกเธอได้มอบมรดกให้แก่พวกเธอพร้อมกับมอบให้แก่บรรดาพี่ชายน้องชายของพวกเธอ
\v 16 หลังจากนี้ โยบมีชีวิตอยู่อีก 140 ปี เขาได้เห็นบรรดาบุตรชายและหลานชายทั้งหลายจนถึงสี่ชั่วอายุคน
\v 17 แล้วโยบจึงสิ้นชีวิต ขณะที่แก่หง่อมและมีชีวิตจนเต็มอายุขัย