th_ulb/03-LEV.usfm

1552 lines
327 KiB
Plaintext

\id LEV Unlocked Literal Bible
\ide UTF-8
\h LEVITICUS
\toc1 Leviticus
\toc2 Leviticus
\toc3 lev
\mt1 LEVITICUS
\s5
\c 1
\p
\v 1 พระยาห์เวห์ได้ทรงเรียกโมเสสและตรัสกับท่านจากเต็นท์นัดพบว่า
\v 2 "จงพูดกับคนอิสราเอลและบอกพวกเขาว่า 'เมื่อใครก็ตามในท่ามกลางพวกท่านนำเครื่องบูชามาถวายพระยาห์เวห์ ให้นำสัตว์ตัวหนึ่งของท่านมาเป็นเครื่องบูชา โดยมาจากฝูงโคหรือฝูงแพะแกะ
\s5
\p
\v 3 ถ้าเครื่องบูชาของเขาเป็นเครื่องเผาบูชาที่มาจากฝูงโค เขาต้องถวายเป็นตัวผู้ที่ปราศจากตำหนิ เขาต้องมาถวายตรงทางเข้าประตูเต็นท์นัดพบ เพื่อเป็นที่ยอมรับต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์
\v 4 ให้เขาวางมือของเขาบนหัวเครื่องเผาบูชานั้น แล้วก็จะเป็นที่ยอมรับแทนตัวเขาเพื่อลบมลทินสำหรับตัวเขาเอง
\v 5 แล้วเขาต้องฆ่าโคนั้นต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์ แล้วบรรดาบุตรของอาโรนซึ่งเป็นปุโรหิต ก็จะนำเลือดนั้นมาพรมบนแท่นบูชาซึ่งอยู่ตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบ
\s5
\p
\v 6 แล้วเขาต้องถลกหนังเครื่องเผาบูชาออกและสับเป็นชิ้นๆ
\v 7 แล้วบรรดาบุตรของอาโรนซึ่งเป็นปุโรหิตจะจุดไฟบนแท่นบูชาและวางฟืนเพื่อให้ไฟลุก
\v 8 บรรดาบุตรของอาโรนซึ่งเป็นปุโรหิตจะวางชิ้นส่วนเหล่านั้น ซึ่งมีส่วนหัวและไขมันตามลำดับไว้บนฟืนที่ติดไฟซึ่งอยู่บนแท่นบูชา
\v 9 แต่เครื่องในและขาของมัน เขาจะต้องล้างด้วยน้ำ แล้วปุโรหิตจึงจะเผาทุกอย่างบนแท่นบูชาให้เป็นเครื่องเผาบูชา ซึ่งจะเป็นกลิ่นหอมสำหรับเรา และเป็นเครื่องบูชาด้วยไฟสำหรับเรา
\s5
\p
\v 10 ถ้าเครื่องบูชาของเขาสำหรับเผาบูชานั้นมาจากฝูงแพะหรือแกะ เป็นแกะตัวหนึ่งหรือแพะตัวหนึ่ง เขาจะต้องถวายเป็นตัวผู้ที่ปราศจากตำหนิ
\v 11 เขาต้องฆ่าสัตว์นั้นทางด้านเหนือของแท่นบูชาต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์ แล้วบรรดาบุตรของอาโรนซึ่งเป็นปุโรหิตจะพรมเลือดสัตว์นั้นที่แท่นบูชาทุกด้าน
\v 12 แล้วเขาต้องสับสัตว์นั้นออกเป็นส่วนๆ ให้มีส่วนหัวและไขมันของมัน แล้วปุโรหิตจะวางชิ้นส่วนเหล่านั้นตามลำดับบนฟืนซึ่งอยู่บนไฟที่บนแท่นบูชา
\v 13 ให้เขาล้างเครื่องในกับส่วนขาด้วยน้ำ แล้วปุโรหิตก็จะถวายทั้งตัว และเผาบนแท่นบูชาเป็นเครื่องเผาบูชา และจะเป็นกลิ่นหอมสำหรับพระยาห์เวห์ จะเป็นเครื่องบูชาด้วยไฟที่ถวายแด่พระองค์
\s5
\p
\v 14 ถ้าเครื่องบูชาถวายแด่พระยาห์เวห์ของเขานั้นเป็นเครื่องเผาบูชาที่มาจากนก เขาจะต้องนำนกเขาหรือนกพิราบหนุ่มมาเป็นเครื่องบูชาของเขา
\v 15 ปุโรหิตจะต้องนำสัตว์นั้นมาที่แท่นบูชา แล้วบิดหัวนก และเผาบนแท่นบูชา แล้วเลือดนกจะต้องไหลออกมาด้านข้างของแท่นบูชา
\v 16 เขาจะต้องเอากระเพาะและสิ่งที่อยู่ในข้างในกระเพาะไปทิ้งที่ด้านข้างแท่นบูชาฝั่งตะวันออกที่มีขี้เถ้า
\v 17 เขาจะต้องฉีกปีกนกให้แยกจากกัน แต่เขาต้องไม่ให้ขาดออกจากกันเป็นสองส่วน แล้วปุโรหิตจะเผามันบนฟืนที่วางบนไฟที่แท่นบูชา และนั่นจะเป็นกลิ่นหอมสำหรับพระยาห์เวห์ เป็นเครื่องบูชาด้วยไฟถวายแด่พระองค์
\s5
\c 2
\p
\v 1 เมื่อคนใดนำธัญบูชามาถวายแด่พระยาห์เวห์ เครื่องบูชาของเขาต้องเป็นแป้งอย่างดี และเขาจะเทน้ำมันลงบนแป้งและวางเครื่องหอมบนแป้ง
\v 2 เขาต้องเอาเครื่องบูชานั้นไปให้บรรดาบุตรของอาโรนซึ่งเป็นปุโรหิต และปุโรหิตจะเอาแป้งอย่างดีที่มีน้ำมันและวางเครื่องหอมบนแป้งนั้นออกมากำมือหนึ่ง แล้วปุโรหิตจะเผาเครื่องบูชาบนแท่นเผาบูชาให้เป็นส่วนที่แทนเครื่องบูชา นี่จะเป็นกลิ่นหอมสำหรับพระยาห์เวห์ นี่จะเป็นเครื่องบูชาถวายแด่พระยาห์เวห์ด้วยไฟ
\s5
\p
\v 3 ธัญบูชาที่เหลือนั้นจะเป็นของอาโรนและบรรดาบุตรของท่าน นี่เป็นส่วนที่บริสุทธิ์อย่างยิ่งแด่พระยาห์เวห์จากบรรดาเครื่องบูชาแด่พระยาห์เวห์ที่ถวายด้วยไฟ
\v 4 เมื่อท่านถวายธัญบูชาที่ปราศจากเชื้อด้วยการอบในเตาอบ ขนมปังนั้นจะต้องเป็นขนมปังนุ่มที่ทำมาจากแป้งเนื้อละเอียดคลุกกับน้ำมัน หรือขนมปังกรอบที่ปราศจากเชื้อ และทาด้วยน้ำมัน
\s5
\p
\v 5 ถ้าธัญบูชาของท่านเป็นการอบด้วยกระทะเหล็กแบน จะต้องเป็นแป้งอย่างดีที่ปราศจากเชื้อที่คลุกด้วยน้ำมัน
\v 6 ท่านจะต้องแบ่งออกเป็นชิ้นๆ แล้วเทน้ำมันราดบนนั้น นี่คือธัญบูชา
\v 7 ถ้าธัญบูชาของท่านเป็นธัญบูชาทอดในกระทะ จะต้องทำจากแป้งและน้ำมันอย่างดี
\v 8 ท่านต้องนำธัญบูชาซึ่งทำจากสิ่งเหล่านี้มาถวายแด่พระยาห์เวห์ และจะถูกมอบให้แก่ปุโรหิต ผู้ที่จะนำไปยังแท่นบูชา
\s5
\p
\v 9 แล้วปุโรหิตจะหยิบบางส่วนออกมาจากธัญบูชาเพื่อให้เป็นส่วนที่แทนเครื่องบูชา และปุโรหิตจะเผาบนแท่นบูชา นั่นจะเป็นเครื่องบูชาด้วยไฟ และนั่นจะเป็นกลิ่นหอมสำหรับพระยาห์เวห์
\v 10 ธัญบูชาส่วนที่เหลือจะตกเป็นของอาโรนและบรรดาบุตรของท่าน นี่เป็นส่วนที่บริสุทธิ์อย่างยิ่งแด่พระยาห์เวห์จากบรรดาเครื่องบูชาแด่พระยาห์เวห์ที่ถวายด้วยไฟ
\s5
\p
\v 11 ธัญบูชาที่ท่านนำมาถวายแด่พระยาห์เวห์ต้องไม่ใส่เชื้อ เพราะท่านจะต้องเผาโดยปราศจากเชื้อหรือน้ำผึ้ง เพื่อเป็นเครื่องบูชาด้วยไฟถวายแด่พระยาห์เวห์
\v 12 ท่านจะถวายของเหล่านั้นแด่พระยาห์เวห์ให้เป็นเครื่องบูชาแห่งผลแรก แต่ของเหล่านั้นจะใช้เพื่อทำให้เกิดกลิ่นหอมบนแท่นบูชา
\v 13 ท่านจะต้องปรุงธัญบูชาแต่ละอย่างด้วยเกลือ ท่านต้องไม่ให้เกลือแห่งพันธสัญญาของพระเจ้าของท่านขาดไปจากธัญบูชาของท่าน ท่านต้องถวายเครื่องบูชาของท่านพร้อมด้วยเกลือ
\s5
\p
\v 14 ถ้าท่านถวายธัญบูชาแห่งผลแรกแด่พระยาห์เวห์ ให้ถวายเมล็ดใหม่ๆ ที่ย่างไฟแล้วบดละเอียดเป็นอาหาร
\v 15 แล้วท่านต้องคลุกน้ำมันและใส่เครื่องหอมลงไป นี่คือธัญบูชา
\v 16 แล้วปุโรหิตจะเผาส่วนของเมล็ดที่บดแล้วทั้งน้ำมันและเครื่องหอมเพื่อเป็นส่วนที่แทนเครื่องบูชา นี่คือเครื่องบูชาด้วยไฟถวายแด่พระยาห์เวห์
\s5
\c 3
\p
\v 1 ถ้าคนใดถวายเครื่องบูชาซึ่งเป็นสันติบูชาที่เป็นสัตว์จากฝูงโค ไม่ว่าจะเป็นตัวผู้หรือตัวเมีย เขาต้องถวายสัตว์ที่ปราศจากตำหนิต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์
\v 2 ให้เขาวางมือของเขาบนหัวของเครื่องบูชาของเขาและฆ่ามันเสียตรงที่ประตูของเต็นท์นัดพบ แล้วบรรดาบุตรชายของอาโรนที่เป็นปุโรหิตจะพรมเลือดของสัตว์ตรงด้านข้างรอบแท่นบูชา
\s5
\p
\v 3 คนนั้นจะถวายเครื่องบูชาสันติบูชาด้วยไฟแด่พระยาห์เวห์ ไขมันที่หุ้มหรือติดกับเครื่องใน
\v 4 และไตทั้งสองข้างและไขมันที่หุ้มซึ่งอยู่ตรงบั้นเอว และตับทั้งก้อน เขาจะต้องตัดทั้งหมดนี้ออกพร้อมกับไต
\v 5 แล้วบรรดาบุตรชายของอาโรนจะเผาทั้งหมดนี้บนแท่นบูชาพร้อมกับเครื่องเผาบูชา ซึ่งวางไว้บนฟืนที่วางบนไฟ นี่จะเป็นกลิ่นหอมสำหรับพระยาห์เวห์ นี่จะเป็นเครื่องบูชาที่ถวายแด่พระองค์ด้วยไฟ
\s5
\p
\v 6 ถ้าเครื่องบูชาแห่งสันติบูชาแด่พระยาห์เวห์ของคนนั้นเอามาจากฝูงแพะแกะ เป็นตัวผู้หรือตัวเมียก็ตาม เขาจะต้องถวายเครื่องบูชาที่ปราศจากตำหนิ
\v 7 ถ้าเขาถวายลูกแกะเป็นเครื่องบูชาของเขา เขาจะต้องถวายต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์
\v 8 ให้เขาวางมือของเขาบนหัวของเครื่องบูชาแล้วฆ่าสัตว์นั้นตรงหน้าเต็นท์นัดพบ แล้วบรรดาบุตรของอาโรนจะพรมเลือดของสัตว์ที่ด้านข้างรอบแท่นบูชา
\s5
\p
\v 9 คนนั้นจะถวายเครื่องบูชาแห่งสันติบูชาให้เป็นเครื่องบูชาด้วยไฟแด่พระยาห์เวห์ ไขมัน และหางที่มีไขมันทั้งหมด ให้ตัดชิดจนถึงกระดูกสันหลัง และไขมันที่หุ้มเครื่องใน และไขมันทั้งหมดที่อยู่ใกล้กับเครื่องใน
\v 10 และไตทั้งสองข้าง และไขมันที่ติดอยู่กับเนื้อตะโพก และตับทั้งก้อน เขาจะต้องเอาทั้งหมดนี้ออกพร้อมกับไต
\v 11 แล้วปุโรหิตจะเผาทั้งหมดนี้บนแท่นบูชาให้เป็นเครื่องเผาบูชาแห่งอาหารแด่พระยาห์เวห์
\s5
\p
\v 12 ถ้าเครื่องบูชาของคนนั้นเป็นแพะ แล้วเขาจะถวายสัตว์นั้นต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์
\v 13 เขาต้องวางมือของเขาบนหัวแพะนั้นและฆ่ามันตรงหน้าเต็นท์นัดพบ แล้วบรรดาบุตรของอาโรนจะพรมเลือดของมันรอบทุกด้านของแท่นบูชา
\v 14 คนนั้นจะถวายเครื่องบูชาของเขาด้วยไฟแด่พระยาห์เวห์ เขาจะต้องเอาไขมันที่หุ้มเครื่องใน และไขมันทั้งหมดที่อยู่ใกล้กับเครื่องในออกไป
\s5
\p
\v 15 เขาจะต้องเอาไตทั้งสองข้างและไขมันที่ติดอยู่กับเนื้อตะโพก และตับทั้งก้อนออกมาพร้อมกับไต
\v 16 ปุโรหิตจะเผาทั้งหมดนั้นบนแท่นบูชาให้เป็นเครื่องเผาบูชาแห่งอาหาร ซึ่งจะเป็นกลิ่นหอม ไขมันทั้งหมดนั้นเป็นของพระยาห์เวห์
\v 17 นี่เป็นกฎเกณฑ์ถาวรตลอดทุกชั่วอายุของประชาชนของเจ้าในทุกแห่งที่พวกเขาสร้างที่พักอาศัย ว่าพวกเจ้าต้องไม่กินไขมันหรือเลือด'"
\s5
\c 4
\p
\v 1 พระยาห์เวห์ตรัสแก่โมเสสว่า
\v 2 "จงบอกประชาชนอิสราเอลว่า 'เมื่อคนใดทำบาปโดยไม่เจตนา เป็นการทำสิ่งใดก็ตามที่พระยาห์เวห์ทรงบัญชาไม่ให้ทำ และถ้าเขาทำสิ่งใดที่ต้องห้าม ให้ทำตามดังต่อไปนี้
\s5
\p
\v 3 ถ้ามหาปุโรหิตได้ทำบาปและนำความผิดบาปมาสู่ประชาชน ให้เขาถวายโคหนุ่มที่ปราศจากตำหนิแด่พระยาห์เวห์ให้เป็นเครื่องบูชาลบล้างบาปสำหรับความบาปที่เขาทำ
\v 4 เขาจะต้องนำโคมาตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์ และวางมือของเขาบนหัวโคนั้นและฆ่าโคนั้นต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์
\s5
\p
\v 5 ปุโรหิตที่ได้รับการทรงเจิมจะนำเลือดโคบางส่วนเข้าไปในเต็นท์นัดพบ
\v 6 ปุโรหิตจะเอานิ้วจุ่มเลือดนั้นและพรมที่ม่านซึ่งอยู่หน้าอภิสุทธิสถานเจ็ดครั้งต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์
\v 7 แล้วปุโรหิตจะเอาเลือดบางส่วนไปทาเชิงงอนของแท่นเผาเครื่องหอมซึ่งอยู่ในเต็นท์นัดพบต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์ และเขาจะเทเลือดของโคที่เหลือตรงฐานของแท่นเผาเครื่องบูชา ซึ่งอยู่ตรงทางเข้าของเต็นท์นัดพบ
\s5
\p
\v 8 เขาจะตัดเอาไขมันทั้งหมดของโคผู้ซึ่งเป็นเครื่องบูชาลบล้างบาปออกมา คือไขมันที่หุ้มเครื่องใน ไขมันทั้งหมดที่ติดกับเครื่องใน
\v 9 ไตสองข้างกับไขมันและไขมันที่ติดอยู่กับเนื้อตะโพก และตับทั้งก้อนพร้อมกับไต เขาจะตัดทั้งหมดนี้แยกออกจากกัน
\v 10 เขาจะตัดออกจากกันเช่นเดียวกับที่เขาตัดออกจากโคตัวผู้ที่เป็นเครื่องถวายสันติบูชา แล้วปุโรหิตจะเผาชิ้นส่วนเหล่านี้บนแท่นเผาเครื่องบูชา
\s5
\p
\v 11 ส่วนหนังของโคตัวผู้และเนื้อที่เหลือ พร้อมกับหัว ขา เครื่องใน และมูลของมัน
\v 12 ส่วนที่เหลือทั้งหมดของโคตัวผู้นี้ เขาต้องเอาชิ้นส่วนทั้งหมดนี้ไปนอกค่ายพักไปยังสถานที่พวกเขาได้ล้างชำระเพื่อเรา ที่ซึ่งพวกเขาเทขี้เถ้าทิ้ง พวกเขาจะเผาชิ้นส่วนเหล่านั้นบนกองฟืนที่นั่น พวกเขาต้องเผาชิ้นส่วนเหล่านั้นตรงที่พวกเขาเทขี้เถ้าทิ้ง
\s5
\p
\v 13 ถ้าชุมนุมชนอิสราเอลทั้งหมดทำบาปโดยไม่เจตนา และทั้งชุมนุมชนไม่รู้ตัวว่าพวกเขาได้ทำบาปและได้ทำสิ่งที่พระยาห์เวห์บัญชาห้ามไม่ให้ทำ และถ้าพวกเขามีความผิด
\v 14 และเมื่อความบาปที่พวกเขาได้ทำกลายเป็นที่รู้กันทั่ว เมื่อนั้นทั้งชุมนุมชนจะต้องถวายโคหนุ่มให้เป็นเครื่องบูชาลบล้างบาปและให้นำโคนั้นมาตรงหน้าเต็นท์นัดพบ
\s5
\p
\v 15 แล้วบรรดาผู้อาวุโสของชุมนุมชนจะวางมือของพวกเขาบนหัวโคผู้นั้นต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์ และโคตัวผู้นั้นจะถูกฆ่าต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์
\v 16 แล้วปุโรหิตผู้ได้รับการทรงเจิมจะนำเลือดบางส่วนของโคตัวผู้เข้าไปยังเต็นท์นัดพบ
\v 17 และปุโรหิตจะเอานิ้วของเขาจุ่มเลือดและพรมที่หน้าม่านเจ็ดครั้งต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์
\s5
\p
\v 18 เขาจะแล้วเอาเลือดบางส่วนไปทาเชิงงอนของแท่นบูชาซึ่งอยู่ในเต็นท์นัดพบต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์ แล้วเขาจะเทเลือดทั้งหมดที่ฐานของแท่นเผาเครื่องบูชา ซึ่งอยู่ตรงทางเข้าของเต็นท์นัดพบ
\v 19 เขาจะตัดเอาไขมันทั้งหมดออกและเอาไปเผาบนแท่นบูชา
\s5
\p
\v 20 นั่นคือสิ่งที่เขาจะต้องทำกับโคตัวนี้ เช่นเดียวกับที่เขาได้ทำกับโคตัวผู้ของเครื่องบูชาลบล้างบาป ดังนั้นเขาจะต้องทำแบบเดียวกันกับโคตัวผู้นี้ และปุโรหิตจะลบล้างบาปให้ประชาชน และพวกเขาจะได้รับการอภัย
\v 21 เขาจะเอาโคผู้ตัวนี้ไปนอกค่ายพัก และเผาโคผู้ตัวนี้เช่นเดียวกับโคผู้ตัวแรก นี่คือเครื่องบูชาลบล้างบาปสำหรับชุมนุมชนนั้น
\s5
\p
\v 22 หากผู้นำคนใดทำบาปโดยไม่เจตนา ทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดในข้อห้ามที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเขาทรงบัญชาห้ามไม่ให้ทำ และเขามีความผิด
\v 23 แล้วได้แจ้งให้เขาทราบถึงความบาปของเขาที่ได้ทำไป เขาต้องนำแพะตัวผู้ที่ปราศจากตำหนิมาเป็นเครื่องบูชาของเขา
\v 24 เขาจะวางมือบนหัวแพะและฆ่าแพะในสถานที่ที่พวกเขาฆ่าเครื่องเผาบูชาต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์ นี่คือเครื่องบูชาลบล้างบาป
\s5
\p
\v 25 ปุโรหิตจะเอานิ้วจุ่มเลือดของเครื่องบูชาลบล้างบาป และทาเชิงงอนของแท่นเผาเครื่องบูชา และเขาจะเทเลือดของแพะที่ฐานของแท่นเผาเครื่องบูชา
\v 26 เขาจะเผาไขมันทั้งหมดบนแท่นบูชาเช่นเดียวกับไขมันของเครื่องบูชาแห่งสันติบูชา ปุโรหิตจะทำการลบล้างบาปของผู้นำในเรื่องความบาปของเขา และผู้นำคนนั้นจะได้รับการอภัย
\s5
\p
\v 27 ถ้าประชาชนทั่วไปคนใดทำบาปโดยไม่เจตนา และทำสิ่งที่พระยาห์เวห์ทรงบัญชาไม่ให้ทำ และเมื่อเขาตระหนักถึงความผิดของเขา
\v 28 แล้วเมื่อมีการแจ้งให้เขาทราบถึงความบาปที่เขาได้ทำ เขาก็จะต้องนำแพะตัวเมียตัวหนึ่งที่ปราศจากตำหนิมาเป็นเครื่องบูชาของเขาสำหรับความบาปที่เขาได้ทำ
\s5
\p
\v 29 เขาจะวางมือของเขาบนหัวของเครื่องบูชาลบล้างบาปและฆ่าเครื่องบูชาลบล้างบาปตรงสถานที่สำหรับเผาเครื่องบูชา
\v 30 ปุโรหิตจะเอานิ้วของเขาจุ่มเลือดและไปทาเชิงงอนของแท่นสำหรับเผาเครื่องบูชา และเขาจะเทเลือดที่เหลือทั้งหมดตรงฐานของแท่นบูชา
\v 31 เขาจะต้องตัดเอาไขมันทั้งหมดออกเช่นเดียวกับไขมันที่ถูกตัดออกจากเครื่องบูชาแห่งสันติบูชา ปุโรหิตจะเผาไขมันนั้นบนแท่นบูชาให้เกิดเป็นกลิ่นหอมสำหรับพระยาห์เวห์ ปุโรหิตจะทำการลบล้างบาปสำหรับคนนั้น และเขาจะได้รับการอภัย
\s5
\p
\v 32 หากคนนั้นนำลูกแกะมาถวายเป็นเครื่องบูชาลบล้างบาปของเขา เขาต้องนำลูกแกะตัวเมียที่ปราศจากตำหนิมา
\v 33 เขาจะวางมือของเขาบนหัวของเครื่องบูชาลบล้างบาป และฆ่าลูกแกะนั้นเป็นเครื่องบูชาลบล้างบาปตรงสถานที่ที่พวกเขาฆ่าเครื่องเผาบูชา
\v 34 แล้วปุโรหิตจะเอานิ้วของเขาจุ่มเลือดของเครื่องบูชาลบล้างบาป และไปทาเชิงงอนของแท่นเผาเครื่องบูชา และเขาจะเทเลือดลูกแกะทั้งหมดลงตรงฐานของแท่นบูชา
\v 35 เขาจะต้องตัดเอาไขมันทั้งหมดออก เช่นเดียวกับไขมันลูกแกะของเครื่องบูชาแห่งสันติบูชาที่ถูกตัดออก และปุโรหิตจะเผาไขมันนั้นบนเครื่องบูชาของพระยาห์เวห์ด้วยไฟ ปุโรหิตจะทำการลบล้างบาปของคนนั้นสำหรับความบาปที่เขาได้ทำ และคนนั้นจะได้รับการอภัย
\s5
\c 5
\p
\v 1 ถ้าคนใดทำบาป เพราะเขาได้เห็นบางสิ่งบางอย่างที่เขาได้รับการขอร้องให้ไปเป็นพยานเกี่ยวกับสิ่งที่เขาได้เห็นหรือได้ยินนั้น แต่เขากลับไม่ยอมไปเป็นพยาน เขาจะต้องรับผิดชอบ
\v 2 หรือถ้าคนใดแตะต้องสิ่งที่พระเจ้าได้ทรงกำหนดไว้ให้เป็นมลทิน ไม่ว่าจะเป็นซากสัตว์ป่าที่เป็นมลทินหรือซากสัตว์เลี้ยงที่ตายแล้ว หรือสัตว์เลื้อยคลาน แม้ว่าคนนั้นไม่ได้เจตนาที่จะแตะต้อง เขาก็เป็นมลทินและมีความผิด
\v 3 หรือถ้าเขาแตะต้องมลทินของบางคน ไม่ว่าจะเป็นมลทินใดก็ตาม แม้เขาไม่รู้ตัว เขาก็จะมีความผิดเมื่อเขารู้เรื่องเหล่านั้น
\s5
\p
\v 4 หรือถ้าคนใดพลั้งปากสาบานว่าจะทำชั่วหรือทำดี ไม่ว่าจะเป็นการพลั้งปากสาบานของคนนั้น แม้ว่าเขาไม่รู้ตัว แต่เมื่อเขารู้เรื่องนี้ เขาก็จะมีความผิด เกี่ยวกับสิ่งต่างๆ เหล่านี้
\v 5 เมื่อมีคนใดกำลังทำสิ่งที่ผิดต่างๆ เหล่านี้ เขาต้องสารภาพบาปทุกอย่างที่เขาได้ทำไป
\v 6 แล้วเขาต้องนำเครื่องบูชาไถ่บาปมาถวายแด่พระยาห์เวห์สำหรับความบาปที่เขาได้ทำ จะเป็นสัตว์ตัวเมียจากฝูง หรือจะเป็นลูกแกะหรือแพะหนึ่งตัวก็ตาม เพื่อเป็นเครื่องบูชาลบล้างบาป แล้วปุโรหิตจะทำการลบล้างบาปเพื่อเขาเนื่องด้วยความบาปของเขา
\s5
\p
\v 7 ถ้าเขาไม่สามารถที่จะซื้อลูกแกะหนึ่งตัว เขาสามารถนำนกเขาสองตัวหรือนกพิราบหนุ่มสองตัวมาถวายแด่พระยาห์เวห์เพื่อเป็นเครื่องบูชาไถ่ความผิดของเขาได้ ตัวหนึ่งสำหรับเครื่องบูชาลบล้างบาปและอีกตัวหนึ่งสำหรับเครื่องเผาบูชา
\v 8 เขาต้องนำมาให้ปุโรหิตผู้ที่จะถวายตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาลบล้างบาปก่อน ปุโรหิตจะบิดหัวนกแต่ไม่ให้ขาดออกจากตัว
\v 9 แล้วปุโรหิตจะเอาเลือดบางส่วนของเครื่องบูชาลบล้างบาปพรมข้างแท่นบูชา แล้วเขาจะเทเลือดที่เหลือลงตรงฐานแท่นบูชา นี่คือเครื่องบูชาลบล้างบาป
\s5
\p
\v 10 แล้วเขาต้องถวายนกตัวที่สองเป็นเครื่องเผาบูชาดังที่บรรยายไว้ในคำสั่งทั้งหลาย และปุโรหิตจะทำการลบล้างบาปสำหรับความบาปที่เขาได้ทำไป และคนนั้นจะได้รับการอภัย
\v 11 แต่ถ้าเขาไม่สามารถที่จะซื้อนกเขาสองตัวหรือนกพิราบหนุ่มสองตัวได้ เขาต้องถวายเครื่องบูชาเป็นแป้งอย่างดีมาหนึ่งในสิบเอฟาห์สำหรับเป็นเครื่องบูชาลบล้างบาปของเขา เขาต้องไม่ใส่น้ำมันหรือเครื่องหอมใดๆ ลงไป เพราะนี่เป็นเครื่องบูชาลบล้างบาป
\s5
\p
\v 12 เขาต้องนำเครื่องบูชานั้นมาให้ปุโรหิต และปุโรหิตจะเอาออกมาหนึ่งกำมือให้เป็นส่วนที่แทนเครื่องบูชา และเอามาเผาที่แท่นบูชา โดยโรยบนเครื่องบูชาที่ถวายด้วยไฟแด่พระยาห์เวห์ นี่เป็นเครื่องบูชาลบล้างบาป
\v 13 ปุโรหิตจะทำการลบล้างบาปใดๆ ก็ตามที่คนนั้นได้ทำ และคนนั้นจะได้รับการอภัย แป้งที่เหลือจากการถวายเครื่องบูชาจะตกเป็นของปุโรหิต เช่นเดียวกับธัญบูชา'"
\s5
\p
\v 14 แล้วพระยาห์เวห์ตรัสแก่โมเสสว่า
\v 15 "ถ้าคนใดทำบาปและกระทำอย่างไม่สัตย์ซื่อเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ที่เป็นของพระยาห์เวห์ แต่ไม่ได้เจตนาทำ เขาก็ต้องนำเครื่องบูชาไถ่ความผิดของเขามาถวายพระยาห์เวห์ เครื่องบูชานี้จะต้องเป็นแกะตัวผู้ที่ปราศจากตำหนิซึ่งเอามาจากฝูง ต้องตีราคาแกะนั้นเป็นเงินเชเขล เป็นเชเขลของสถานนมัสการ เพื่อให้เป็นเครื่องบูชาไถ่ความผิด
\v 16 เขาต้องทำให้พระยาห์เวห์ทรงพอพระทัยสำหรับสิ่งที่เขาได้ทำผิดไปในเรื่องสิ่งที่บริสุทธิ์ เขาต้องเพิ่มอีกหนึ่งในห้าเข้าไปและมอบให้ปุโรหิต แล้วปุโรหิตจะทำการลบล้างบาปสำหรับเขาด้วยแกะตัวผู้ที่เป็นเครื่องบูชาลบล้างบาป แล้วคนนั้นจะได้รับการอภัย
\s5
\p
\v 17 ถ้าคนใดทำบาปและทำสิ่งใดที่พระยาห์เวห์ทรงบัญชาไว้ไม่ให้ทำ แม้ว่าเขาไม่รู้ตัว เขาก็ยังมีความผิดและต้องแบกรับความผิดของตนเอง
\v 18 เขาต้องนำแกะตัวผู้ที่ปราศจากตำหนิออกจากฝูงมาหนึ่งตัว ซึ่งมีมูลค่าเท่ากับเครื่องบูชาไถ่ความผิดมาให้แก่ปุโรหิต แล้วปุโรหิตจะทำการลบล้างบาปของเขาเกี่ยวกับความบาปที่เขาได้ทำไปโดยไม่รู้ตัว และเขาจะได้รับการอภัย
\v 19 นี่เป็นเครื่องบูชาไถ่ความผิด เพราะเขามีความผิดต่อพระยาห์เวห์อย่างแน่นอน
\s5
\c 6
\p
\v 1 พระยาห์เวห์ได้ตรัสแก่โมเสสว่า
\v 2 "ถ้าคนใดทำบาปและฝ่าฝืนพระบัญชาต่อพระยาห์เวห์ เช่นทำการเท็จต่อเพื่อนบ้านเกี่ยวกับบางสิ่งที่ฝากให้เขาดูแล หรือถ้าเขาโกงหรือขโมยเพื่อนบ้าน หรือถ้าเขาบีบบังคับเพื่อนบ้านของเขา
\v 3 หรือได้พบบางสิ่งที่เพื่อนบ้านทำหายแล้วโกหกว่าไม่เห็น และสาบานเป็นความเท็จ หรือเรื่องที่ประชาชนทำความบาปในทำนองนี้
\s5
\p
\v 4 แล้วต่อมา ถ้าเขาได้ทำบาปและมีความผิด เขาจะต้องคืนอะไรก็ตามที่เขาได้ขโมยมา หรือบีบบังคับเอามา หรือยึดเอาสิ่งที่ฝากไว้กับเขาหรือของหายที่เขาพบ
\v 5 หรือถ้าเขามีการโกหกในเรื่องใด ในวันที่พบว่าเขามีความผิด เขาต้องคืนให้ทั้งหมดและเพิ่มอีกหนึ่งในห้าให้แก่คนที่เป็นเจ้าของ
\v 6 แล้วเขาต้องนำเครื่องบูชาไถ่ความผิดมาถวายแด่พระยาห์เวห์ โดยนำแกะตัวผู้ที่ปราศจากตำหนิิเอามาจากฝูง ซึ่งมีค่าเป็นที่ยอมรับมามอบให้แก่ปุโรหิต ให้เป็นเครื่องบูชาไถ่ความผิด
\v 7 ปุโรหิตจะทำการลบล้างบาปสำหรับเขาต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์ และเขาจะได้รับการอภัยในสิ่งใดก็ตามที่เขาได้ทำผิดไป"
\s5
\p
\v 8 แล้วพระยาห์เวห์ได้ตรัสแก่โมเสสว่า
\v 9 "จงสั่งอาโรนและบรรดาบุตรชายของเขาว่า 'นี่คือพระบัญญัติเรื่องเครื่องเผาบูชา เครื่องเผาบูชาจะต้องเผาบนแท่นบูชาตลอดคืนจนถึงเช้า และจะต้องให้ไฟของแท่นบูชาลุกอยู่เสมอ
\v 10 ปุโรหิตจะสวมชุดผ้าป่านของเขา และเขาจะสวมชุดชั้นในของเขาเป็นผ้าป่านด้วย เขาจะต้องตักเอาขี้เถ้าที่เหลือจากการเผาเครื่องเผาบูชาบนแท่นบูชา แล้วเอาขี้เถ้านั้นไปไว้ด้านข้างแท่นบูชา
\s5
\p
\v 11 ปุโรหิตจะต้องถอดเสื้อชุดของเขาออกและเปลี่ยนใส่อีกชุดหนึ่ง เพื่อเอาขี้เถ้าไปข้างนอกค่ายไปยังสถานที่สะอาดแล้ว
\v 12 จะต้องคอยให้ไฟของแท่นบูชาลุกอยู่เสมอ อย่าให้ไฟดับ และปุโรหิตจะเผาฟืนบนแท่นบูชาในทุกเช้า และเขาต้องจัดวางเครื่องเผาบูชาตามที่ได้กำหนดไว้ และเขาต้องเผาไขมันของสันติบูชาบนแท่นบูชา
\v 13 ไฟจะต้องลุกไหม้ในแท่นบูชาอยู่อย่างต่อเนื่อง และไฟต้องไม่ดับ
\s5
\p
\v 14 นี่เป็นพระบัญญัติสำหรับธัญบูชา บรรดาบุตรชายของอาโรนจะถวายเครื่องบูชาแด่พระยาห์เวห์ตรงหน้าแท่นบูชา
\v 15 ปุโรหิตจะเอาแป้งอย่างดีพร้อมกับน้ำมันและเครื่องหอมที่คลุกกับธัญบูชามาหนึ่งกำมือ ให้เป็นส่วนที่แทนเครื่องบูชา และปุโรหิตจะเผาบนแท่นบูชาเพื่อให้เกิดกลิ่นหอม
\v 16 แล้วอาโรนและบรรดาบุตรของเขาจะรับประทานอะไรก็ตามที่เหลือจากเครื่องบูชา จะต้องรับประทานโดยปราศจากเชื้อภายในสถานที่บริสุทธิ์ พวกเขาจะรับประทานตรงลานในเต็นท์นัดพบ
\s5
\p
\v 17 และจะต้องปิ้งโดยไม่มีเชื้อ เราได้ให้ส่วนนี้เป็นส่วนของเครื่องบูชาของเราที่ถวายด้วยไฟ เป็นสิ่งที่บริสุทธิ์ที่สุด เป็นเครื่องบูชาลบล้างบาปและเครื่องบูชาไถ่ความผิด
\v 18 ให้เป็นกฎตลอดทุกชั่วอายุของประชาชนของเจ้า ชายใดที่เป็นเชื้อสายของอาโรนจะรับประทานได้ เพราะเป็นส่วนแบ่งของเขา ซึ่งแบ่งมาจากเครื่องบูชาของพระยาห์เวห์ที่ถวายด้วยไฟ ใครก็ตามที่แตะต้องของถวายเหล่านั้นก็จะกลายเป็นคนบริสุทธิ์'"
\s5
\p
\v 19 แล้วพระยาห์เวห์ได้ตรัสแก่โมเสสอีกว่า
\v 20 "นี่คือเครื่องบูชาสำหรับอาโรนและบรรดาบุตรชายของเขา ที่จะต้องถวายแด่พระยาห์เวห์เมื่อบุตรชายแต่ละคนได้รับการเจิม ให้เอาแป้งอย่างดีหนึ่งในสิบเอฟาห์เช่นเดียวกับธัญบูชาที่ถวายเป็นประจำ ตอนเช้าให้ถวายครึ่งหนึ่ง และตอนเย็นให้ถวายอีกครึ่งหนึ่ง
\v 21 ให้คลุกด้วยน้ำมันแล้วทอดในกระทะ เมื่อสุกแล้ว จึงนำเข้ามาทั้งชิ้น เจ้าจะถวายธัญบูชาเพื่อให้เกิดกลิ่นหอมสำหรับพระยาห์เวห์
\s5
\p
\v 22 บุตรของมหาปุโรหิตที่จะกลายเป็นมหาปุโรหิตคนใหม่จากท่ามกลางบรรดาบุตรชายของเขาจะต้องถวายเครื่องบูชานี้ ให้เป็นคำสั่งไว้ตลอดไป
\v 23 เครื่องบูชาทั้งหมดนั้นจะต้องเผาถวายแด่พระยาห์เวห์ ธัญบูชาของปุโรหิตทั้งหมดจะต้องเผาจนหมด จะต้องไม่เอามากิน"
\s5
\p
\v 24 พระยาห์เวห์ได้ตรัสแก่โมเสสอีกว่า
\v 25 "จงบอกอาโรนและบรรดาบุตรชายของเขาว่า 'นี่เป็นพระบัญญัติเรื่องเครื่องบูชาลบล้างบาป เครื่องบูชาลบล้างบาปจะต้องถูกฆ่าตรงบริเวณที่ใช้ฆ่าเครื่องเผาบูชาต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์ นี่เป็นสิ่งที่บริสุทธิ์ที่สุด
\v 26 ปุโรหิตผู้ถวายเครื่องบูชาลบล้างบาปจะรับประทานเครื่องบูชานั้นได้ และจะต้องรับประทานในสถานที่บริสุทธิ์ตรงลานของเต็นท์นัดพบ
\s5
\p
\v 27 อะไรก็ตามที่ถูกต้องเนื้อของเครื่องบูชานั้นก็จะกลายเป็นสิ่งบริสุทธิ์ ถ้าเลือดที่ประพรมนั้นเลอะเสื้อผ้าส่วนใด เจ้าจะต้องซักล้างตรงส่วนที่ถูกประพรมใส่ในสถานที่บริสุทธิ์
\v 28 แต่หม้อดินต้มที่ใช้ต้มเครื่องบูชานั้นจะต้องทุบ ถ้าต้มในหม้อทองเหลือง จะต้องขัดและล้างให้สะอาดด้วยน้ำ
\v 29 ชายทุกคนในท่ามกลางพวกปุโรหิตสามารถรับประทานเครื่องบูชาบางส่วนได้เพราะเป็นสิ่งที่บริสุทธิ์ที่สุด
\v 30 แต่เครื่องบูชาลบล้างบาปที่นำเลือดเข้ามาในเต็นท์นัดพบเพื่อทำการลบล้างบาปในวิสุทธิสถาน ห้ามรับประทาน จะต้องเผาเสีย
\s5
\c 7
\p
\v 1 นี่เป็นกฎของเครื่องบูชาไถ่ความผิด นี่เป็นสิ่งที่บริสุทธิ์ที่สุด
\v 2 พวกเขาต้องฆ่าเครื่องบูชาไถ่ความผิดในสถานที่เตรียมไว้สำหรับฆ่าเครื่องบูชา และพวกเขาต้องประพรมเลือดของเครื่องบูชารอบเครื่องเผาบูชาทุกด้าน
\v 3 ไขมันในเครื่องบูชานั้นจะต้องถวายทั้งหมด ได้แก่ หางที่มีไขมัน ไขมันที่หุ้มเครื่องใน
\s5
\p
\v 4 ไตทั้งสองข้างและไขมันที่ติดอยู่กับเนื้อตะโพก และไขมันที่หุ้มตับ พร้อมกับไต ทั้งหมดนี้ต้องเอาออก
\v 5 ปุโรหิตต้องเผาชิ้นส่วนเหล่านี้บนแท่นบูชาให้เป็นเครื่องบูชาที่ถวายด้วยไฟแด่พระยาห์เวห์ นี่เป็นเครื่องบูชาไถ่ความผิด
\s5
\p
\v 6 ผู้ชายทุกคนในท่ามกลางบรรดาปุโรหิตสามารถกินส่วนของเครื่องบูชานี้ได้ เครื่องบูชาต้องกินในสถานที่บริสุทธิ์ เพราะนี่เป็นสิ่งที่บริสุทธิ์ที่สุด
\v 7 เครื่องบูชาลบล้างบาปก็เช่นเดียวกับเครื่องบูชาไถ่ความผิด ทั้งสองอย่างนี้ใช้กฎแบบเดียวกัน เครื่องบูชาเหล่านั้นตกเป็นของปุโรหิตผู้ที่ทำการลบล้างบาปด้วยเครื่องบูชานั้น
\s5
\p
\v 8 ปุโรหิตผู้ที่ถวายเครื่องเผาบูชาของใครก็ตามก็สามารถเก็บหนังของเครื่องบูชานั้นไว้สำหรับตนเองได้
\v 9 ธัญบูชาทุกอย่างที่อบในเตาอบ และเครื่องบูชาแบบเดียวกันที่ทำให้สุกในกระทะทอดหรือในกระทะปิ้งจะตกเป็นของปุโรหิตผู้ที่ได้ทำการถวายเครื่องบูชานั้น
\s5
\p
\v 10 ธัญบูชาทุกอย่างทั้งแบบแห้งหรือแบบผสมกับน้ำมัน จะตกเป็นของเชื้อสายของอาโรนทั้งหมดโดยเท่าเทียมกัน
\v 11 นี่เป็นกฎของเครื่องบูชาแห่งสันติบูชาที่ประชาชนจะนำมาถวายแด่พระยาห์เวห์
\s5
\p
\v 12 ถ้าผู้ใดจะถวายเครื่องบูชาเพื่อเป็นการขอบพระคุณ เขาต้องถวายเครื่องบูชาที่เป็นขนมที่ทำขึ้นมาโดยไม่ใส่เชื้อแต่ผสมน้ำมัน หรือขนมที่ทำโดยไม่ใส่เชื้อ แต่แผ่เป็นแผ่นทาด้วยน้ำมัน และขนมที่ทำจากแป้งอย่างดีที่ผสมกับน้ำมัน
\v 13 และเพื่อเป็นไปตามจุดประสงค์แห่งการถวายขอบพระคุณ เขาต้องถวายขนมปังที่ทำขึ้นโดยใส่เชื้อร่วมกับเครื่องบูชาแห่งสันติบูชา
\s5
\p
\v 14 เขาต้องถวายอย่างละก้อนของเครื่องบูชาเหล่านี้ให้เป็นให้เป็นเครื่องบูชาแด่พระยาห์เวห์ เครื่องบูชาจะตกเป็นของบรรดาปุโรหิตผู้ที่ประพรมเลือดของสันติบูชาบนแท่นบูชา
\v 15 ผู้ที่ถวายสันติบูชาเพื่อเป็นการถวายขอบพระคุณต้องกินเนื้อของเครื่องบูชาที่เขาถวายในวันที่เขาถวายเครื่องบูชา เขาต้องไม่เหลือไว้จนถึงตอนเช้า
\s5
\p
\v 16 แต่ถ้าเครื่องบูชาที่เขาทำการถวายมีจุดประสงค์เพื่อการปฏิญาณตน หรือมีจุดประสงค์เพื่อเป็นการถวายโดยสมัครใจ เนื้อนั้นต้องกินในวันที่เขาถวายเครื่องบูชาของเขา แต่ของที่เหลือสามารถกินในวันถัดไปได้
\v 17 แต่ถ้าเนื้อของเครื่องบูชาเหลือถึงวันที่สามให้เผาเสีย
\s5
\p
\v 18 ถ้าเนื้อของเครื่องบูชาใดที่มาจากสันติบูชาถูกกินในวันที่สาม จะไม่เป็นที่ยอมรับ และเสื่อมเสียชื่อเสียงของผู้ที่ถวายเครื่องบูชา เป็นสิ่งน่ารังเกียจ และผู้ที่กินเนื้อนั้นจะแบกรับความผิดแห่งการทำบาปของเขา
\v 19 ห้ามกินเนื้อใดๆ ที่ไปสัมผัสกับสิ่งที่ไม่สะอาด ต้องเผาเสีย ส่วนเนื้อส่วนอื่นนั้น ใครก็ตามที่สะอาดก็สามารถกินได้
\s5
\p
\v 20 แต่ถ้าคนที่ไม่สะอาดที่กินเนื้อจากเครื่องบูชาแห่งสันติบูชาที่เป็นของพระยาห์เวห์ คนนั้นต้องถูกตัดออกจากประชาชนของเขา
\v 21 ถ้าผู้ใดแตะต้องสิ่งที่ไม่สะอาดใดๆ ไม่ว่าสิ่งที่ไม่สะอาดของมนุษย์ หรือของสัตว์ป่าที่ไม่สะอาด หรือจากบางอย่างที่ไม่สะอาดและน่ารังเกียจ และถ้าเขามากินเนื้อเครื่องบูชาแห่งสันติบูชาที่เป็นของพระยาห์เวห์ คนนั้นต้องถูกตัดออกจากประชาชนของเขา'"
\s5
\p
\v 22 แล้วพระยาห์เวห์ตรัสแก่โมเสสว่า
\v 23 "จงบอกแก่ประชาชนอิสราเอลว่า 'เจ้าต้องไม่กินไขมันของวัว หรือแกะ หรือแพะ
\v 24 ไขมันของสัตว์ที่ตายนอกเหนือจากการถวายเป็นเครื่องบูชา หรือไขมันของสัตว์ที่ถูกสัตว์ป่ากัดกิน อาจเอาไปใช้เพื่อจุดประสงค์อื่นได้ แต่ห้ามไม่ให้พวกเจ้ากิน
\s5
\p
\v 25 ใครก็ตามที่กินไขมันของสัตว์ที่ผู้คนสามารถเอามาถวายด้วยไฟแด่พระยาห์เวห์ บุคคลนั้นต้องถูกตัดออกจากประชาชนของเขา
\v 26 พวกเจ้าต้องไม่กินเลือดใดๆ ทั้งสิ้นไม่ว่าตรงไหนในที่พักของพวกเจ้า ไม่ว่าเลือดนั้นจะมาจากนกหรือสัตว์
\s5
\p
\v 27 ใครก็ตามที่กินเลือดใดๆ ก็ตาม คนนั้นต้องถูกตัดออกจากประชาชนของเขา'"
\v 28 ดังนั้นพระยาห์เวห์ตรัสแก่โมเสสว่า
\v 29 "จงบอกแก่ประชาชนอิสราเอลว่า 'ผู้ที่ถวายเครื่องบูชาแห่งสันติบูชาแด่พระยาห์เวห์ ต้องนำส่วนของเครื่องบูชาของเขามาถวายแด่พระยาห์เวห์
\s5
\p
\v 30 เครื่องบูชาที่ถวายด้วยไฟแด่พระยาห์เวห์ เขาต้องนำมาด้วยมือของตนเอง เขาต้องนำไขมันมาพร้อมกับเนื้ออก แล้วโบกเนื้ออกนั้นให้เป็นเครื่องบูชาโบกถวายต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์
\v 31 ปุโรหิตต้องเผาไขมันนั้นบนแท่นบูชา แต่เนื้ออกนั้นจะตกเป็นของอาโรนและเชื้อสายของเขา
\s5
\p
\v 32 เจ้าต้องมอบโคนขาขวาให้แก่ปุโรหิตให้เป็นส่วนที่แทนเครื่องบูชาแห่งสันติบูชาของเจ้า
\v 33 ปุโรหิตผู้เป็นเชื้อสายของอาโรนซึ่งเป็นผู้ที่ทำการถวายเลือดของสันติบูชาและไขมัน เขาจะได้รับโคนขาขวาเป็นส่วนแบ่งของเขาจากเครื่องบูชา
\s5
\p
\v 34 เพราะเราได้เอาเนื้ออกของเครื่องบูชาโบกถวาย และโคนขาซึ่งเป็นของถวายจากประชาชนอิสราเอล และทั้งหมดนั้นมอบให้แก่อาโรนผู้เป็นปุโรหิตและบรรดาบุตรชายของเขาตามส่วนแบ่งตามปกติของพวกเขา
\v 35 นี่คือส่วนแบ่งสำหรับอาโรนและเชื้อสายของเขาจากเครื่องบูชาต่างๆ ที่ถวายแด่พระยาห์เวห์ด้วยไฟ ในวันที่โมเสสถวายพวกเขาให้ปรนนิบัติพระยาห์เวห์ด้านงานแห่งการเป็นปุโรหิต
\s5
\p
\v 36 นี่เป็นส่วนแบ่งที่พระยาห์เวห์ได้บัญชาให้เอาจากประชาชนอิสราเอลและยกให้แก่พวกเขา ในวันที่เขาเจิมตั้งบรรดาปุโรหิต นี่จะเป็นส่วนแบ่งของพวกเขาตลอดไปทุกชั่วอายุ
\v 37 นี่เป็นกฎของเครื่องเผาบูชา ธัญบูชา เครื่องบูชาลบล้างบาป เครื่องบูชาไถ่ความผิด เครื่องบูชาเพื่อชำระล้าง และเครื่องบูชาแห่งสันติบูชา
\v 38 ซึ่งพระยาห์เวห์ได้ทรงบัญชาแก่โมเสสบนภูเขาซีนาย ในวันที่โมเสสได้สั่งให้ประชาชนอิสราเอลถวายเครื่องบูชาแด่พระยาห์เวห์ในถิ่นทุรกันดารซีนาย'"
\s5
\c 8
\p
\v 1 พระยาห์เวห์ตรัสแก่โมเสสว่า
\v 2 "จงนำอาโรนและบรรดาบุตรชายของเขามาพร้อมกับเขา นำเสื้อคลุมและน้ำมันเจิม โคสำหรับเครื่องบูชาลบล้างบาป แกะตัวผู้สองตัว และขนมปังไร้เชื้อหนึ่งตระกร้า
\v 3 ให้ชุมนุมชนมาประชุมกันตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบ"
\v 4 ดังนั้นโมเสสก็ทำตามที่พระยาห์ได้บัญชาเขา และชุมนุมชนก็มาพร้อมกันตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบ
\s5
\p
\v 5 แล้วโมเสสบอกชุมนุมชนว่า "นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ได้บัญชาให้ทำ"
\v 6 โมเสสได้นำอาโรนและบรรดาบุตรชายของอาโรนมาและได้ล้างชำระพวกเขาด้วยน้ำ
\v 7 โมเสสได้เอาชุดสวมให้อาโรนและคาดผ้ารอบเอวของเขา สวมเสื้อคลุมให้และสวมเอโฟดให้เขา แล้วโมเสสได้รัดเอโฟดด้วยผ้าคาดเอวที่ทออย่างดีรอบตัวเขาและผูกเอโฟดให้ติดกับอาโรน
\s5
\p
\v 8 โมเสสได้สวมทับทรวงให้แก่อาโรน และได้ใส่อูริมและทูมมิมไว้ในทับทรวง
\v 9 โมเสสได้โพกผ้ามาลาบนศีรษะอาโรน ด้านหน้าของผ้ามาลา โมเสสได้คาดแผ่นทองคำเป็นมงกุฎบริสุทธิ์ ตามที่พระยาห์เวห์ได้บัญชาเขา
\s5
\p
\v 10 โมเสสได้เอาน้ำมันเจิมไปเจิมพลับพลาและทุกสิ่งในนั้นและแยกสิ่งเหล่านั้นไว้ต่างหากแด่พระยาห์เวห์
\v 11 เขาได้ประพรมน้ำมันบนแท่นบูชาเจ็ดครั้ง และได้เจิมแท่นบูชาและเครื่องใช้ประจำแท่นบูชาทั้งหมด และอ่างล้างชำระและฐานรอง เพื่อแยกสิ่งเหล่านั้นไว้ต่างหากแด่พระยาห์เวห์
\v 12 โมเสสได้เทน้ำมันเจิมบนศีรษะของอาโรนบ้างและได้เจิมเขาเพื่อแยกไว้ต่างหาก
\s5
\p
\v 13 โมเสสนำบรรดาบุตรของอาโรนมาแล้วสวมชุดให้พวกเขา โมเสสเอาผ้าคาดเอวพวกเขาและคาดผ้าป่านรอบศีรษะพวกเขา ตามที่พระยาห์เวห์ได้บัญชาเขาไว้
\v 14 โมเสสได้นำโคมาเป็นเครื่องบูชาลบล้างบาป และอาโรนและบรรดาบุตรของเขาได้วางมือของพวกเขาบนหัวโคที่พวกเขานำมาเพื่อเป็นเครื่องบูชาลบล้างบาป
\s5
\p
\v 15 โมเสสได้ฆ่าโคนั้น และเขาเอานิ้วของเขาจุ่มเลือดแล้วไปเจิมเชิงงอนของแท่นบูชา ชำระแท่นบูชาให้บริสุทธิ์ และเทเลือดตรงฐานของแท่นบูชา และแยกไว้ต่างหากสำหรับพระเจ้าเพื่อทำการลบมลทินของแท่นบูชานั้น
\v 16 โมเสสได้เอาไขมันทั้งหมดที่หุ้มเครื่องใน ที่หุ้มตับ และไตทั้งสองข้างและไขมันของไต และโมเสสได้เผาทั้งหมดนั้นบนแท่นบูชา
\v 17 แต่โคตัวนั้น หนังของมัน เนื้อของมัน และมูลของมัน เขาได้เอาไปเผานอกค่ายตามที่พระยาห์เวห์ได้บัญชาเขาไว้
\s5
\p
\v 18 โมเสสได้ถวายแกะตัวผู้เป็นเครื่องเผาบูชา และอาโรนและบรรดาบุตรชายของเขาได้วางมือของพวกเขาบนหัวแกะตัวผู้นั้น
\v 19 โมเสสได้ฆ่าแกะและเอาเลือดของแกะนั้นประพรมรอบทุกด้านของแท่นบูชา
\v 20 เขาได้สับแกะออกเป็นท่อนๆ และได้เผาส่วนหัวและชิ้นส่วนต่างและไขมัน
\v 21 เขาได้ล้างเครื่องในและส่วนขาด้วยน้ำ และเขาได้เผาแกะตัวผู้ทั้งหมดนั้นบนแท่นบูชา นี่เป็นเครื่องเผาบูชาและเกิดเป็นกลิ่นหอม เป็นเครื่องบูชาที่ถวายด้วยไฟแด่พระยาห์เวห์ ตามที่พระยาห์เวห์ได้บัญชาโมเสสไว้
\s5
\p
\v 22 แล้วโมเสสถวายแกะตัวผู้อีกตัวหนึ่ง เป็นแกะตัวผู้ที่เป็นเครื่องสถาปนา และอาโรนและบรรดาบุตรชายของเขาได้วางมือของพวกเขาบนหัวแกะตัวผู้นั้น
\v 23 อาโรนได้ฆ่าแกะ และโมเสสได้เอาเลือดไปเจิมปลายหูด้านขวาของอาโรน ที่หัวแม่มือขวาของเขา และที่หัวแม่เท้าขวาของเขา
\v 24 โมเสสได้นำบรรดาบุตรของอาโรนมา และเขาได้เอาเลือดแตะที่ปลายหูข้างขวาของพวกเขา ที่นิ้วหัวแม่มือขวาของพวกเขา และที่นิ้วหัวแม่เท้าขวาของพวกเขา แล้วโมเสสก็ประพรมเลือดนั้นรอบทุกด้านของแท่นบูชา
\s5
\p
\v 25 โมเสสได้เอาไขมัน และหางที่มีไขมัน และไขมันที่ติดกับเครื่องใน ที่หุ้มตับ ไตสองข้างและไขมันของมัน และโคนขาขวา
\v 26 โมเสสได้เอาขนมปังไร้เชื้อก้อนหนึ่งจากตระกร้าที่วางต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์ เขาเอาขนมปังไร้เชื้อมาหนึ่งก้อน และขนมปังคลุกน้ำมันหนึ่งก้อน และขนมแผ่นชิ้นหนึ่ง และวางทั้งหมดนั้นบนไขมันและบนโคนขาขวา
\s5
\p
\v 27 โมเสสได้เอาทั้งหมดนี้วางไว้ในมือของอาโรนและในมือของบรรดาบุตรชายของเขา และได้โบกต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์เป็นเครื่องบูชาโบกถวาย
\v 28 แล้วโมเสสก็เอาทั้งหมดนั้นออกจากมือของพวกเขา และเผาทั้งหมดนั้นบนแท่นบูชาให้เป็นเครื่องเผาบูชา ทั้งหมดนี้เป็นเครื่องบูชาแห่งการสถาปนาและเกิดเป็นกลิ่นหอม นี่เป็นเครื่องบูชาที่ถวายด้วยไฟแด่พระยาห์เวห์
\s5
\p
\v 29 โมเสสได้เอาเนื้ออกและโบกเนื้อนั้นให้เป็นเครื่องบูชาโบกถวายแด่พระยาห์เวห์ นี่เป็นส่วนแบ่งของโมเสสจากแกะตัวผู้ที่ใช้ในการแต่งตั้งปุโรหิต ตามที่พระยาห์เวห์ได้บัญชาเขาไว้
\v 30 โมเสสได้เอาน้ำมันเจิมและเลือดที่อยู่บนแท่นบูชา มาประพรมบนตัวอาโรน บนเสื้อผ้าของเขา บนบรรดาบุตรชายของเขา และบนเสื้อผ้าของบรรดาบุตรของเขาพร้อมกับตัวเขา ด้วยวิธีนี้เองโมเสสได้แยกอาโรนและเสื้อผ้าของเขา และบรรดาบุตรชายของเขาและเสื้อผ้าของพวกเขาไว้ต่างหากเฉพาะพระยาห์เวห์
\s5
\p
\v 31 ดังนั้น โมเสสได้กล่าวแก่อาโรนและบรรดาบุตรชายของเขาว่า "จงต้มเนื้อตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบ และให้รับประทานเนื้อและขนมปังจากตระกร้าของเครื่องบูชาเพื่อการสถาปนาเสียที่นั่น ตามที่เราได้สั่งไว้ว่า 'อาโรนและบรรดาบุตรชายของเขาจะรับประทาน'
\v 32 เนื้อและขนมปังที่เหลือให้พวกท่านเผาเสีย
\v 33 พวกท่านต้องไม่ออกไปจากทางเข้าเต็นท์นัดพบเป็นเวลาเจ็ดวัน จนกว่าวันแห่งการสถาปนาจะครบกำหนด เพราะพระยาห์เวห์จะทรงสถาปนาพวกท่านเป็นเวลาเจ็ดวัน
\s5
\p
\v 34 สิ่งที่ได้ทำกันในวันนี้ พระยาห์เวห์ได้ทรงบัญชาให้ทำเพื่อเป็นการลบล้างบาปให้แก่พวกท่าน
\v 35 พวกท่านจะต้องอยู่ตรงทางเข้าประตูเต็นท์นัดพบทั้งกลางวันและกลางคืนเป็นเวลาเจ็ดวัน และรักษาพระบัญชาของพระยาห์เวห์ เพื่อพวกท่านจะไม่ตาย เพราะนี่เป็นคำที่เราได้สั่งไว้"
\v 36 ดังนั้นอาโรนและบรรดาบุตรชายของเขาได้ทำตามทุกอย่างที่พระยาห์เวห์ได้บัญชาผ่านทางโมเสส
\s5
\c 9
\p
\v 1 ในวันที่แปด โมเสสได้เรียกอาโรนและบรรดาบุตรของเขา และบรรดาพวกผู้ใหญ่ของอิสราเอลมา
\v 2 โมเสสได้บอกแก่อาโรนว่า "จงเอาลูกโคตัวหนึ่งมาจากฝูงสำหรับเป็นเครื่องบูชาลบล้างบาป และแกะตัวผู้ตัวหนึ่งที่ปราศจากตำหนิมา และถวายทั้งสองอย่างต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์
\v 3 เจ้าต้องบอกแก่ประชาชนอิสราเอลว่า 'จงเอาแพะตัวผู้มาตัวหนึ่งสำหรับเป็นเครื่องบูชาลบล้างบาป และลูกโคตัวหนึ่งและลูกแกะตัวหนึ่ง ทั้งคู่ต้องมีอายุหนึ่งปีและปราศจากตำหนิ สำหรับเป็นเครื่องเผาบูชา
\s5
\p
\v 4 ให้เอาโคผู้หนึ่งตัวและแกะตัวผู้หนึ่งตัวสำหรับเป็นเครื่องสันติบูชามาเพื่อถวายเครื่องบูชาต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์ และเอาเครื่องธัญบูชาที่คลุกด้วยน้ำมันมาด้วย เพราะในวันนี้พระยาห์จะทรงปรากฏแก่พวกท่าน'"
\v 5 ดังนั้นพวกเขาได้เอาทุกอย่างที่โมเสสได้สั่งไว้ไปที่เต็นท์นัดพบ และชุมนุมชนอิสราเอลทั้งหมดก็เข้ามาใกล้และยืนต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์
\s5
\p
\v 6 แล้วโมเสสได้กล่าวว่า "นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ได้ทรงบัญชาให้พวกท่านกระทำ เพื่อพระสิริของพระองค์จะปรากฏแก่ท่านทั้งหลาย"
\v 7 แล้วโมเสสได้บอกแก่อาโรนว่า "จงเข้าไปไกล้แท่นบูชาและถวายเครื่องบูชาลบล้างบาปและเครื่องเผาบูชาของท่าน และทำการลบมลทินสำหรับตัวท่านและสำหรับประชาชน และถวายเครื่องบูชาสำหรับประชาชนเพื่อลบล้างมลทินบาปสำหรับพวกเขา ตามที่พระยาห์เวห์ได้ทรงบัญชาไว้"
\s5
\p
\v 8 ดังนั้นอาโรนจึงเข้าไปใกล้แท่นบูชาและได้ฆ่าลูกโคเป็นเครื่องบูชาเพื่อลบล้างบาปสำหรับตนเอง
\v 9 บรรดาบุตรของอาโรนก็นำเลือดมาให้เขา เขาก็เอานิ้วจุ่มเลือดและไปเจิมที่เชิงงอนของแท่นบูชา แล้วเขาก็เทเลือดนั้นที่ฐานของแท่นบูชา
\v 10 อย่างไรก็ตาม เขาได้เผาไขมัน ไต และพังผืดที่หุ้มตับบนแท่นบูชาให้เป็นเครื่องบูชาลบล้างบาป ตามที่พระยาห์เวห์ได้ทรงบัญชาโมเสสไว้
\s5
\p
\v 11 เขาได้เผาเนื้อและหนังภายนอกค่าย
\v 12 อาโรนได้ฆ่าสัตว์ของเครื่องเผาบูชา และบรรดาบุตรของอาโรนได้เอาเลือดมาให้เขา ซึ่งเขาได้เอาเลือดไปประพรมที่แท่นบูชาทุกด้าน
\v 13 แล้วบรรดาบุตรของอาโรนก็ส่งเครื่องเผาบูชาทีละชิ้นพร้อมกับส่วนหัวให้แก่อาโรน และอาโรนก็เผาทั้งหมดนั้นบนแท่นบูชา
\v 14 อาโรนได้ล้างเครื่องในและขาสัตว์ และได้เผาทั้งหมดนั้นบนเครื่องเผาบูชาที่อยู่บนแท่นบูชา
\s5
\p
\v 15 อาโรนได้นำแพะตัวหนึ่งมาถวายเป็นเครื่องถวายบูชาของประชาชน แล้วเอาแพะที่เป็นเครื่องบูชาสำหรับความผิดบาปของพวกเขามาและฆ่าเสีย อาโรนได้ถวายแพะนั้นสำหรับความผิดบาป ดังเช่นที่เขาได้ทำกับแพะตัวแรก
\v 16 อาโรนได้ถวายเครื่องเผาบูชา และได้ถวายเครื่องบูชาตามที่พระยาห์เวห์ได้ทรงบัญชาไว้
\v 17 อาโรนได้ถวายธัญบูชา เขาได้หยิบมากำมือหนึ่งและเผาเสียบนแท่นบูชาร่วมกับเครื่องเผาบูชาในตอนเช้า
\s5
\p
\v 18 อาโรนก็ได้ฆ่าโคตัวผู้และแพะตัวผู้นั้นให้เป็นเครื่องสันติบูชาสำหรับประชาชน บรรดาบุตรของอาโรนได้นำเลือดมาให้เขา ซึ่งเขาได้เอาเลือดประพรมที่แท่นบูชาทุกด้าน
\v 19 แต่พวกเขาได้ตัดไขมันของโคตัวผู้และแกะตัวผู้ หางที่มีไขมัน ไขมันที่หุ้มเครื่องใน ไต และผังผืดที่หุ้มตับ
\v 20 พวกเขาได้เอาชิ้นส่วนต่างๆ ที่ถูกหั่นออกไปวางไว้บนเนื้ออก แล้วอาโรนก็เผาไขมันนั้นบนแท่นบูชา
\s5
\p
\v 21 อาโรนได้ยกเนื้ออกและโคนขาขวาขึ้นโบกให้เป็นเครื่องบูชาโบกถวายต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์
\v 22 แล้วอาโรนได้ยกมือของตนเองยื่นไปยังประชาชนและอวยพรพวกเขา แล้วอาโรนก็ลงมาจากการถวายเครื่องบูชาลบล้างบาป เครื่องเผาบูชา และสันติบูชา
\v 23 โมเสสกับอาโรนได้เข้าไปในเต็นท์นัดพบ แล้วเมื่อเขาทั้งสองได้ออกมาอีกครั้งและได้อวยพรประชาชน และพระสิริของพระยาห์เวห์ได้ปรากฏแก่ประชาชนทั้งปวง
\v 24 แล้วมีไฟพลุ่งออกมาจากพระยาห์เวห์และเผาเครื่องเผาบูชาและไขมันที่อยู่บนแท่นบูชา เมื่อประชาชนทั้งปวงได้เห็นเหตุการณ์นี้ พวกเขาก็เปล่งเสียงขึ้นและซบหน้าลงกับพื้น
\s5
\c 10
\p
\v 1 นาดับและอาบีฮูบุตรชายของอาโรน ต่างได้เอากระถางไฟของตนเองมา และใส่ไฟลงไป แล้วใส่เครื่องหอม แล้วพวกเขาได้ถวายไฟที่ต้องห้ามต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์ ซึ่งพระองค์ไม่ได้ทรงบัญชาให้พวกเขาถวาย
\v 2 ดังนั้นจึงมีไฟออกมาเผาผลาญพวกเขาต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์ และ และพวกเขาได้ตายลงต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์
\s5
\p
\v 3 แล้วโมเสสได้บอกแก่อาโรนว่า "นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ได้ทรงกล่าวถึงเมื่อพระองค์ได้ตรัสว่า 'เราจะสำแดงความบริสุทธิ์ของเราแก่บรรดาผู้ที่เข้ามาใกล้เรา เราจะได้รับการยกย่องต่อหน้าประชาชนทั้งปวง'" อาโรนก็นิ่งเงียบ
\v 4 โมเสสได้เรียกมิชาเอลและเอลซาฟาน ผู้เป็นบรรดาบุตรชายของอุสซีเอลซึ่งเป็นลุงของอาโรน และบอกพวกเขาว่า "จงเข้ามาแบกพี่น้องของพวกท่านออกไปจากค่าย จากหน้าพลับพลา"
\v 5 ดังนั้นพวกเขาจึงเข้ามาใกล้และได้แบกสองคนนั้นออกไปจากค่ายพักทั้งที่ยังสวมชุดปุโรหิตอยู่ ตามที่โมเสสได้สั่งไว้
\s5
\p
\v 6 แล้วโมเสสได้กล่าวแก่อาโรน เอเลอาซาร์และอิธามาร์ผู้เป็นบุตรของอาโรนว่า "อย่าปล่อยผมของพวกท่าน และอย่าฉีกเสื้อผ้าของพวกท่าน เพื่อพวกท่านจะไม่ตาย และเพื่อพระยาห์เวห์จะไม่กริ้วพร้อมกับชุมนุมชนทั้งปวง แต่ให้บรรดาญาติของพวกท่านและพงศ์พันธุ์อิสราเอลทั้งหมดไว้ทุกข์ให้แก่พวกที่พระยาห์เวห์ได้ทรงเผาผลาญได้
\v 7 พวกท่านต้องไม่ออกไปจากทางเข้าของเต็นท์นัดพบ มิฉะนั้นพวกท่านจะต้องตาย เพราะน้ำมันแห่งการทรงเจิมของพระยาห์เวห์ทรงอยู่กับพวกท่าน" ดังนั้นพวกเขาจึงได้ทำตามคำสั่งของโมเสส
\s5
\p
\v 8 พระยาห์เวห์ได้ตรัสแก่อาโรนว่า
\v 9 "อย่าดื่มเหล้าองุ่นหรือเครื่องดื่มมึนเมา ทั้งตัวเจ้าหรือบรรดาบุตรชายของเจ้าที่ยังเหลืออยู่กับเจ้า เมื่อพวกเจ้าเข้าไปในเต็นท์นัดพบ เพื่อเจ้าจะไม่ตาย นี่จะเป็นกฎเกณฑ์ถาวรตลอดทุกชั่วอายุคนของพวกเจ้า
\v 10 เพื่อแยกแยะระหว่างความบริสุทธิ์และความสามัญ ระหว่างมลทินและไม่มีมลทิน
\v 11 เพื่อที่พวกเจ้าจะได้สอนประชาชนอิสราเอลถึงกฎเกณฑ์ที่พระยาห์เวห์ได้ทรงบัญชาผ่านทางโมเสส"
\s5
\p
\v 12 โมเสสได้บอกแก่อาโรน เอเลอาซาร์และอิธามาร์ซึ่งเป็นบุตรที่เหลือของอาโรนว่า "จงเอาธัญบูชาที่เหลือจากการถวายด้วยไฟแด่พระยาห์เวห์มารับประทานโดยปราศจากเชื้อยีสต์ตรงด้านข้างแท่นบูชา เพราะนี่เป็นสิ่งที่บริสุทธิ์ที่สุด
\v 13 ท่านจะต้องรับประทานในสถานที่บริสุทธิ์ เพราะนี่เป็นส่วนแบ่งสำหรับท่านและบรรดาบุตรชายของท่านจากเครื่องถวายบูชาด้วยไฟแด่พระยาห์เวห์ เพราะข้าพเจ้าได้รับพระบัญชามาบอกแก่ท่านเช่นนี้
\s5
\p
\v 14 เนื้ออกที่โบกถวายและเนื้อโคนขาที่ถวายแด่พระยาห์เวห์ ท่านต้องรับประทานในสถานที่สะอาดซึ่งพระเจ้าทรงยอมรับ ทั้งตัวท่านและบรรดาบุตรชายบุตรหญิงของท่านควรรับประทานส่วนเหล่านั้น เพราะได้มอบให้เป็นส่วนแบ่งของท่านและของบรรดาบุตรชายของท่านที่แบ่งมาจากเครื่องถวายแห่งสันติบูชาของประชาชนอิสราเอล
\v 15 ให้พวกเขาเอาเนื้อโคนขาที่ได้นำมาถวายและเนื้ออกที่ได้โบกถวายมาพร้อมกับไขมันที่ต้องถวายด้วยไฟ เพื่อเอามาโบกถวายต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์ ทั้งหมดนี้จะเป็นของท่านและบรรดาบุตรชายของท่านที่อยู่กับท่านให้เป็นส่วนแบ่งตลอดไป ตามที่พระยาห์เวห์ได้ทรงบัญชาไว้"
\s5
\p
\v 16 แล้วโมเสสได้ถามถึงแพะตัวที่ใช้ถวายเป็นเครื่องบูชาลบล้างบาป และพบว่าแพะตัวนั้นได้ถูกเผาไปแล้ว ดังนั้นโมเสสจึงโกรธเอเลอาซาร์และอิธามาร์ซึ่งเป็นบุตรที่เหลืออยู่ของอาโรน โมเสสจึงถามว่า
\v 17 "ทำไมพวกท่านไม่รับประทานเครื่องบูชาลบล้างบาปนั้นในบริเวณพลับพลา เพราะนี่เป็นสิ่งที่บริสุทธิ์ที่สุด และเพราะพระยาห์เวห์ได้ประทานให้แก่พวกท่าน เพื่อยกความผิดบาปของชุมนุมชนไปเสีย และเพื่อลบล้างบาปของพวกเขาต่อพระพักตร์พระองค์
\s5
\p
\v 18 ดูสิ เลือดของแพะนั้นก็ไม่ได้นำเข้าไปในพลับพลา ดังนั้นพวกท่านควรรับประทานในบริเวณพลับพลา ตามที่ข้าพเจ้าได้สั่งไว้"
\v 19 แล้วอาโรนได้ตอบโมเสสว่า "ดูเถิด ในวันนี้พวกเขาได้ถวายเครื่องบูชาเพื่อลบล้างบาปของพวกเขาและเครื่องเผาบูชาต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์ และสิ่งที่ได้เกิดขึ้นกับข้าพเจ้าในวันนี้ ถ้าข้าพเจ้าได้รับประทานเครื่องบูชาลบล้างบาปในวันนี้ แล้วนั่นจะเป็นที่โปรดปรานในสายพระเนตรของพระยาห์เวห์ได้หรือ?"
\v 20 เมื่อโมเสสได้ยินดังนั้น เขาก็พอใจ
\s5
\c 11
\p
\v 1 พระยาห์เวห์ได้ตรัสแก่โมเสสและอาโรนว่า
\v 2 "จงกล่าวกับคนอิสราเอลว่า 'สิ่งมีชีวิตต่างๆ เหล่านี้ที่พวกเจ้าสามารถรับประทานได้ในท่ามกลางบรรดาสัตว์ทั้งปวงที่อยู่บนแผ่นดิน
\v 3 พวกเจ้าสามารถรับประทานสัตว์ใดๆ ที่แยกกีบและที่เคี้ยวเอื้องได้ด้วย
\s5
\p
\v 4 อย่างไรก็ตาม สัตว์บางชนิดที่เคี้ยวเอื้องได้หรือแยกกีบเพียงอย่างเดียว พวกเจ้าต้องไม่รับประทานพวกมัน เช่นอููฐ เพราะมันเคี้ยวเอื้องแต่ไม่แยกกีบ ดังนั้นอูฐจึงเป็นมลทินสำหรับพวกเจ้า
\v 5 เช่นเดียวกับตัวกระจงผา เพราะมันเคี้ยวเอื้องแต่ไม่แยกกีบ มันจึงเป็นมลทินสำหรับพวกเจ้า
\v 6 กระต่าย เพราะมันเคี้ยวเอื้องแต่ไม่แยกกีบ จึงเป็นมลทินสำหรับพวกเจ้า
\s5
\p
\v 7 สุกร แม้ว่ามันแยกกีบแต่ไม่เคี้ยวเอื้อง จึงเป็นมลทินสำหรับพวกเจ้า
\v 8 พวกเจ้าต้องไม่รับประทานเนื้อใดๆ ของพวกมัน หรือแตะต้องซากของพวกมัน พวกมันเป็นมลทินสำหรับพวกเจ้า
\v 9 บรรดาสัตว์ต่างๆ ที่อยู่ในน้ำ พวกเจ้ารับประทานได้ทั้งหมดที่มีครีบและมีเกล็ด ไม่ว่าจะอยู่ในมหาสมุทรหรือในแม่น้ำก็ตาม
\s5
\p
\v 10 แต่สิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่ไม่มีครีบและไม่มีเกล็ดในมหาสมุทรหรือในแม่น้ำ รวมถึงทุกสิ่งที่เคลื่อนไหวในน้ำและสิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่อยู่ในน้ำ พวกมันต้องเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจสำหรับพวกเจ้า
\v 11 ในเมื่อพวกมันต้องเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ พวกเจ้าต้องไม่รับประทานเนื้อของมัน และซากของมันต้องเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจด้วย
\v 12 อะไรก็ตามที่ไม่มีครีบและไม่มีเกล็ดในน้ำเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจสำหรับพวกเจ้า
\s5
\p
\v 13 บรรดานกต่างๆ ที่พวกเจ้าต้องพึงรังเกียจและต้องไม่รับประทานมีดังนี้คือ นกอินทรี นกแร้ง
\v 14 เหยี่ยวขนาดเล็ก นกเหยี่ยวดำทุกชนิด
\v 15 นกกาทุกชนิด
\v 16 นกเค้าใหญ่ นกเค้าเล็ก นกนางนวล และเหยี่ยวทุกชนิด
\v 17 พวกเจ้าต้องพึงรังเกียจนกเค้าแมว นกกาน้ำ
\v 18 นกเค้าแมวสีขาวและนกแสก เหยี่ยวขนาดใหญ่
\v 19 นกกระสา นกกระสาทุกชนิด นกหัวขวาน และค้างคาวด้วย
\v 20 แมลงที่มีปีกซึ่งคลานสี่ขาทั้งหมดเป็นที่น่ารังเกียจสำหรับพวกเจ้า
\s5
\p
\v 21 พวกเจ้าจะรับประทานบรรดาแมลงใดๆ ที่บินได้ซึ่งคลานสี่ขาถ้าพวกมันมีขาพับใช้กระโดดไปบนดินได้
\v 22 พวกเจ้าสามารถรับประทานตั๊กแตน จิ้งหรีด จั๊กจั่น หรือตั๊กแตนทุกชนิด
\v 23 แต่แมลงบินได้ซึ่งคลานสี่ขาอื่นๆ เป็นสิ่งที่พึงรังเกียจสำหรับพวกเจ้า
\v 24 พวกเจ้าจะกลายเป็นมลทินไปจนถึงตอนเย็นเพราะสัตว์เหล่านี้ ถ้าพวกเจ้าไปแตะต้องซากใดซากหนึ่งของพวกมัน
\s5
\p
\v 25 ใครก็ตามที่หยิบซากพวกมันจะต้องซักเสื้อผ้าของเขาและยังเป็นมลทินไปจนถึงตอนเย็น
\v 26 สัตว์ที่มีกีบผ่าทุกตัวแต่ไม่ได้แยกจากกันตลอดทั้งกีบ หรือที่ไม่เคี้ยวเอื้องทุกตัวเป็นมลทินสำหรับพวกเจ้า ทุกคนที่ถูกต้องพวกมันจะเป็นมลทิน
\s5
\p
\v 27 สัตว์อะไรก็ตามที่เดินด้วยอุ้งเท้าในเหล่าบรรดาสัตว์ที่เดินสี่ขา พวกมันเป็นมลทินสำหรับพวกเจ้า ใครก็ตามที่ถูกต้องซากนั้นจะเป็นมลทินไปจนถึงตอนเย็น
\v 28 ใครหยิบซากสัตว์นั้นต้องซักเสื้อผ้าของเขาและเป็นมลทินไปจนถึงตอนเย็น สัตว์เหล่านี้จะเป็นมลทินสำหรับพวกเจ้า
\v 29 ในบรรดาสัตว์ต่างๆ ที่เลื้อยคลาน สัตว์เหล่านี้จะเป็นมลทินสำหรับพวกเจ้า เช่น อีเห็น หนู ตัวตะกวดใหญ่ทุกชนิด
\v 30 ตุ๊กแก ตัวเงินตัวทอง แย้ จิ้งเหลน และกิ้งก่า
\s5
\p
\v 31 ในบรรดาสัตว์ที่เลื้อยคลาน เหล่านี่เป็นสัตว์ที่จะเป็นมลทินสำหรับพวกเจ้า ใครก็ตามที่ีแตะต้องพวกมันเมื่อมันตายจะเป็นมลทินไปจนถึงตอนเย็น
\v 32 ถ้าสัตว์เหล่านั้นตายและตกลงบนสิ่งใดก็ตาม สิ่งนั้นจะเป็นมลทิน ไม่ว่าจะทำมาจากไม้ ผ้า หนังสัตว์ หรือผ้ากระสอบ ไม่ว่าจะเป็นอะไรและไม่ว่าจะใช้เพื่อสิ่งใดก็ตาม สิ่งนั้นต้องนำไปจุ่มน้ำ แล้วจะเป็นมลทินไปจนถึงตอนเย็น แล้วจึงจะสะอาด
\v 33 หม้อดินทุกใบที่สัตว์เป็นมลทินตกเข้าไปในหม้อหรือตกใส่บนหม้อ อะไรก็ตามที่อยู่ในหม้อก็จะกลายเป็นมลทิน และพวกเจ้าต้องทำลายหม้อใบนั้นทิ้ง
\s5
\p
\v 34 อาหารทุกอย่างที่สะอาดและอนุญาตให้รับประทานได้ แต่มีน้ำจากหม้อที่เป็นมลทินหยดใส่ อาหารนั้นก็เป็นมลทิน ทุกสิ่งที่ดื่มจากหม้อนั้นจะกลายเป็นมลทิน
\v 35 ทุกสิ่งที่ถูกส่วนใดก็ตามของซากสัตว์ที่เป็นมลทินตกใส่จะเป็นมลทิน ไม่ว่าจะเป็นเตาอบหรือหม้อทำอาหาร จะต้องทุบให้เป็นชิ้นๆ หม้อนั้นเป็นมลทินและต้องยังคงเป็นมลทินสำหรับพวกเจ้าเสมอ
\s5
\p
\v 36 น้ำพุหรือแอ่งเก็บน้ำดื่มยังเป็นสิ่งสะอาดถ้าสัตว์แบบนั้นตกลงไป แต่ถ้าใครถูกต้องซากสัตว์ที่เป็นมลทินในน้ำ เขาจะกลายเป็นมลทิน
\v 37 ถ้าส่วนใดๆ ของซากสัตว์ที่เป็นมลทินตกลงบนเมล็ดสำหรับเพาะปลูกชนิดใดก็ตาม เมล็ดเหล่านั้นจะยังสะอาดอยู่
\v 38 แต่ถ้าน้ำที่เทลงบนเมล็ด และถ้ามีส่วนใดๆ ของซากสัตว์ที่เป็นมลทินตกลงในน้ำนั้น น้ำนั้นก็จะเป็นมลทินสำหรับพวกเจ้า
\v 39 ถ้าสัตว์ที่ใดที่เจ้าสามารถรับประทานได้ตายลงไป แล้วผู้ที่ไปถูกต้องซากสัตว์ก็จะเป็นมลทินไปจนถึงตอนเย็น
\s5
\p
\v 40 ใครก็ตามที่กินซากส่วนใดของสัตว์นั้นจะต้องซักเสื้อผ้าของเขา และจะเป็นมลทินไปจนถึงตอนเย็น ใครก็ตามที่หยิบซากสัตว์นั้นจะต้องซักเสื้อผ้าของเขาและจะเป็นมลทินไปจนถึงตอนเย็น
\v 41 สัตว์ทุกชนิดที่คลานบนดินด้วยท้องเป็นสิ่งน่ารังเกียจ อย่ารับประทานสัตว์เหล่านั้น
\v 42 อะไรก็ตามที่เลื้อยคลานด้วยท้อง และอะไรก็ตามที่เดินสี่ขา หรืออะไรที่มีขาจำนวนมาก สัตว์ที่เลื้อยคลานไปบนดินทั้งหมด พวกเจ้าต้องไม่รับประทานสัตว์เหล่านี้เพราะมันเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ
\s5
\p
\v 43 พวกเจ้าต้องไม่ทำให้ตัวเจ้าเป็นมลทินด้วยสิ่งมีชีวิตใดๆ ที่คลานด้วยท้อง พวกเจ้าต้องไม่ทำตัวเจ้าให้เป็นมลทินเพราะพวกมัน เพราะพวกเจ้าจะถูกทำให้ไม่บริสุทธิ์เพราะพวกมัน
\v 44 เพราะเราคือยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้า พวกเจ้าต้องรักษาตัวเจ้าให้บริสุทธิ์ เพราะฉะนั้น จงบริสุทธิ์ เพราะเราบริสุทธิ์ พวกเจ้าต้องไม่ทำตัวพวกเจ้าให้เป็นมลทินด้วยสัตว์ชนิดใดก็ตามที่เคลื่อนไปมาบนแผ่นดิน
\s5
\p
\v 45 เพราะเราคือยาห์เวห์ ผู้ได้นำพวกเจ้าออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ เพื่อเป็นพระเจ้าของพวกเจ้า เหตุฉะนั้นพวกเจ้าต้องบริสุทธิ์ เพราะเราบริสุทธิ์
\v 46 นี่คือกฎเกี่ยวกับเรื่องสัตว์ต่างๆ นกต่างๆ สิ่งมีชีวิตทุกชนิดที่เคลื่อนไปในน้ำ และสิ่งมีชีวิตทุกอย่างที่เลื้อยคลานไปบนดิน
\v 47 เพื่อจะแยกแยะระหว่างสิ่งมีชีวิตที่เป็นมลทินและสิ่งที่สะอาด และระหว่างสิ่งมีชีวิตที่สามารถรับประทานได้ และรับประทานไม่ได้'"
\s5
\c 12
\p
\v 1 พระยาห์เวห์ได้ตรัสแก่โมเสสว่า
\v 2 "จงบอกแก่คนอิสราเอลว่า 'ถ้าผู้หญิงคนใดตั้งครรภ์และคลอดบุตรชาย นางก็จะเป็นมลทินเป็นเวลาเจ็ดวัน เช่นเดียวกับเมื่อนางเป็นมลทินในช่วงมีประจำเดือนของนาง
\s5
\p
\v 3 ในวันที่แปด จะต้องทำสุหนัตหนังปลายองคชาติของทารกชายนั้น
\v 4 แล้วทำการชำระมารดาให้บริสุทธิ์จากการตกเลือดของนางต่อไปอีกสามสิบสามวัน ห้ามนางแตะต้องสิ่งบริสุทธิ์ใดๆ หรือเข้ามาในบริเวณพลับพลาจนกว่าจะครบกำหนดวันแห่งการชำระให้บริสุทธิ์ของนาง
\v 5 แต่ถ้านางคลอดบุตรหญิง นางจะเป็นมลทินเป็นเวลาสองสัปดาห์ เช่นเดียวกับช่วงเป็นประจำเดือนของนาง แล้วก็จะทำการชำระมารดาให้บริสุทธิ์ต่อไปอีกหกสิบหกวัน
\s5
\p
\v 6 เมื่อครบกำหนดวันแห่งการชำระตนให้บริสุทธิ์ของนางแล้ว ไม่ว่าสำหรับบุตรชายหรือบุตรหญิง นางจะต้องนำลูกแกะอายุหนึ่งปีมาเป็นเครื่องเผาบูชา และนกพิราบรุ่นหรือนกเขามาเป็นเครื่องบูชาลบล้างบาป ให้นำมามอบให้แก่ปุโรหิตตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบ
\v 7 แล้วปุโรหิตจะถวายเครื่องบูชาต่อพระยาห์เวห์ และทำการลบล้างมลทินสำหรับนาง และนางจะได้รับการชำระจากการตกเลือดของนาง นี่เป็นกฎเกี่ยวกับผู้หญิงคนใดที่คลอดบุตรไม่ว่าชายหรือหญิง
\v 8 ถ้านางไม่สามารถหาลูกแกะมาได้ นางต้องนำนกเขาสองตัวหรือนกพิราบรุ่นสองตัว ให้ตัวหนึ่งเป็นเครื่องเผาบูชาและอีกตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาลบล้างบาป และปุโรหิตจะทำการลบล้างมลทินให้แก่นาง แล้วนางก็จะสะอาด'"
\s5
\c 13
\p
\v 1 พระยาห์เวห์ได้ตรัสแก่โมเสสและอาโรนว่า
\v 2 "เมื่อคนใดมีอาการบวม หรือผื่น หรือรอยด่างบนผิวของเขา และติดเชื้อและมีโรคผิวหนังในร่างกายของเขา ก็ต้องพาเขามาหาอาโรนผู้เป็นมหาปุโรหิต หรือบุตรคนหนึ่งคนใดของบรรดาบุตรชายของเขาที่เป็นปุโรหิต
\s5
\p
\v 3 แล้วปุโรหิตจะตรวจโรคที่ผิวหนังของร่างกายของเขา ถ้าขนในบริเวณที่เป็นโรคกลายเป็นสีขาว และถ้าโรคนั้นเป็นลึกกว่าผิวหนัง แสดงว่านั่นเป็นโรคที่ติดเชื้อ หลังจากที่ปุโรหิตตรวจเขาแล้ว ต้องประกาศว่าเขาเป็นมลทิน
\v 4 ถ้ารอยด่างที่ผิวของเขาเป็นสีขาว และปรากฏว่าเป็นไม่ลึกไปกว่าผิวหนัง และถ้าขนตรงบริเวณที่เป็นโรคไม่กลายเป็นสีขาว ปุโรหิตต้องกักคนที่เป็นโรคไว้เจ็ดวัน
\s5
\p
\v 5 ในวันที่เจ็ด ปุโรหิตต้องตรวจเขา ถ้าหากปุโรหิตเห็นว่าว่าโรคนั้นไม่แย่ลง และถ้าไม่ลามไปตามผิวหนัง ถ้าไม่มี ก็ให้ปุโรหิตกักเขาไว้อีกเจ็ดวัน
\v 6 แล้วปุโรหิตจะตรวจอีกครั้งในวันที่เจ็ดเพื่อดูว่าโรคนั้นดีขึ้นและไม่ลามเพิ่มอีกตามผิวหนัง ถ้าไม่มี ก็ให้ปุโรหิตประกาศว่าเขาสะอาด เป็นแค่ผื่นคัน เขาต้องซักเสื้อผ้าของเขา แล้วเขาก็จะสะอาด
\s5
\p
\v 7 แต่ถ้าผื่นนั้นลามไปตามผิวหนังหลังจากที่เขาได้ไปแสดงตัวต่อปุโรหิตเพื่อชำระตน เขาต้องมาแสดงตัวต่อปุโรหิตอีกครั้ง
\v 8 ปุโรหิตจะตรวจเขาเพื่อดูว่าผื่นนั้นได้ลามไปตามผิวหนังเพิ่มหรือไม่ ถ้าได้ลามไป ปุโรหิตต้องประกาศว่าเขาเป็นมลทิน นั่นเป็นโรคที่ติดเชื้อ
\s5
\p
\v 9 เมื่อมีโรคผิวหนังที่ติดเชื้อมีอยู่ในบางคน ต้องพาเขาไปหาปุโรหิต
\v 10 ปุโรหิตจะตรวจเขาเพื่อดูว่ามีผิวหนังบวมสีขาวหรือไม่ ถ้าขนได้กลายเป็นสีขาว หรือถ้ามีแผลสดตรงที่บวม
\v 11 ถ้ามี แสดงว่านั่นคือโรคผิวหนังเรื้อรัง และปุโรหิตต้องประกาศว่าเขาเป็นมลทิน ปุโรหิตจะกักตัวเขาไว้ เพราะว่าเขาเป็นมลทินแล้ว
\s5
\p
\v 12 ถ้าโรคนั้นกระจายไปทั่วผิวหนังและครอบคลุมผิวหนังทั้งตัวของคนนั้นจากหัวจรดเท้า ตามที่ได้ปรากฏแก่ปุโรหิต
\v 13 แล้วปุโรหิตต้องตรวจเขาเพื่อดูว่าโรคนั้นได้ครอบคลุมไปทั่วร่างกายของเขาหรือไม่ ถ้าเป็น ปุโรหิตต้องประกาศว่าคนที่เป็นโรคนั้นสะอาด ถ้าตัวของเขาขาวทั้งหมด เขาก็สะอาด
\s5
\p
\v 14 แต่ถ้ามีแผลสดปรากฏบนบนตัวเขา เขาก็จะเป็นมลทิน
\v 15 ปุโรหิตต้องดูแผลสดนั้นและประกาศว่าเขาเป็นมลทินเพราะแผลสดนั้นเป็นมลทิน นั่นเป็นโรคที่ติดเชื้อ
\v 16 แต่ถ้าแผลสดนั้นกลายเป็นสีขาวอีกครั้ง คนนั้นต้องไปหาปุโรหิต
\v 17 แล้วปุโรหิตจะตรวจเขาเพื่อดูว่าเนื้อหนังของเขาได้กลายเป็นสีขาวหรือไม่ ถ้าเป็น ปุโรหิตก็จะประกาศว่าคนนั้นสะอาด
\s5
\p
\v 18 เมื่อคนใดเป็นฝีบนผิวหนังและหายแล้ว
\v 19 และตรงบริเวณฝีมีผิวบวมเป็นสีขาวหรือจุดด่าง สีขาวอมแดง เขาต้องไปแสดงตัวแก่ปุโรหิต
\v 20 ปุโรหิตจะตรวจเพื่อดูว่าเป็นลึกกว่าผิวหนังหรือไม่ และถ้าขนตรงนั้นกลายเป็นสีขาว ถ้าเป็นดังนั้น ปุโรหิตก็ต้องประกาศว่าเขาเป็นมลทิน นั่นเป็นโรคที่ติดเชื้อ ถ้าโรคนั้นเกิดขึ้นตรงจุดที่เป็นฝี
\s5
\p
\v 21 แต่ถ้าปุโรหิตตรวจแล้วและเห็นว่าไม่มีขนสีขาวตรงนั้น และไม่ได้เป็นใต้ผิวหนังแต่ได้จางไปแล้ว ปุโรหิตจะต้องกักตัวเขาไว้เจ็ดวัน
\v 22 ถ้าโรคนั้นลามไปตามผิวหนังเป็นวงกว้าง ปุโรหิตต้องประกาศว่าเขาเป็นมลทิน นั่นเป็นโรคที่ติดเชื้อ
\v 23 แต่ถ้ารอยด่างนั้นคงอยู่เท่าเดิมและไม่ลามออกไป ก็เป็นแค่รอยแผลเป็นจากฝี และปุโรหิตต้องประกาศว่าเขาสะอาด
\s5
\p
\v 24 เมื่อผิวหนังมีรอยไหม้และมีเนื้อแผลสดกลายเป็นมีแดงเรื่อๆ หรือเป็นด่างสีขาว
\v 25 ปุโรหิตก็จะตรวจเพื่อดูว่าขนตรงจุดนั้นเปลี่ยนเป็นสีขาวหรือไม่ ถ้าปรากฏว่ารอยนั้นอยู่ลึกกว่าชั้นผิวหนัง ถ้ามี นั่นก็เป็นโรคที่ติดเชื้อ แผลนั้นได้พุขึ้นมาตรงรอยไหม้ และปุโรหิตต้องประกาศว่าเขาเป็นมลทิน นั่นคือโรคที่ติดเชื้อ
\v 26 แต่ถ้าปุโรหิตตรวจแล้วและพบว่าไม่มีขนสีขาวตรงจุดนั้น และไม่ได้เป็นภายใต้ผิวหนัง แต่ได้จางไปแล้ว แล้วปุโรหิตต้องกักตัวเขาไว้เจ็ดวัน
\s5
\p
\v 27 แล้วปุโรหิตต้องตรวจเขาในวันที่เจ็ด ถ้าลุกลามเป็นวงกว้างบนผิวหนัง ก็ให้ปุโรหิตประกาศว่าเขาเป็นมลทิน นั่นเป็นโรคที่ติดเชื้อ
\v 28 ถ้าจุดด่างนั้นยังคงเท่าเดิมและไม่ลุกลามไปตามผิวแต่ได้จางลง และผิวหนังบวมเฉพาะตรงไฟไหม้ ปุโรหิตต้องประกาศว่าเขาสะอาด เพราะเป็นแค่เพียงรอยแผลเป็นจากไฟไหม้
\s5
\p
\v 29 ถ้าชายหรือหญิงมีโรคที่ติดเชื้อบนศีรษะหรือคาง
\v 30 ปุโรหิตจะต้องตรวจโรคที่ติดเชื้อของคนนั้น เพื่อดูว่าโรคนั้นลงลึกไปกว่าผิวหนังหรือไม่ และถ้ามีสีเหลือง มีขนบางตรงจุดนั้น ถ้ามี ปุโรหิตต้องประกาศว่าเขาเป็นมลทิน เขาเป็นผื่นคัน เป็นโรคที่ติดเชื้อบนศีรษะหรือคาง
\s5
\p
\v 31 ถ้าปุโรหิตตรวจดูโรคผื่นคัน และเห็นว่าเป็นไม่ลึกกว่าผิวหนัง และไม่มีขนสีดำอยู่ในบริเวณนั้น ให้ปุโรหิตกักตัวคนที่เป็นโรคผื่นคันไว้เจ็ดวัน
\v 32 พอถึงวันที่เจ็ดก็ให้ปุโรหิตตรวจโรคเพื่อดูว่าโรคนั้นลุกลามไปหรือไม่ ถ้าไม่มีขนสีเหลือง และถ้าโรคนั้นปรากฏเพียงแต่บนผิวหนัง
\v 33 ก็ให้คนนั้นโกนขนเสีย แต่ห้ามโกนบริเวณที่เป็นโรค และปุโรหิตต้องกักคนที่เป็นโรคผื่นคันไว้อีกเจ็ดวัน
\s5
\p
\v 34 พอถึงวันที่เจ็ด ปุโรหิตก็จะตรวจโรคเพื่อดูว่าโรคนั้นหยุดลุกลามไปตามผิวหนังหรือไม่ ถ้าปรากฏว่าเป็นไม่ลึกไปกว่าผิวหนัง ปุโรหิตก็ต้องประกาศว่าเขาสะอาด ให้คนนั้นซักเสื้อผ้าของเขา แล้วเขาจะสะอาด
\v 35 แต่ถ้าโรคผื่นคันนั้นได้ลามไปตามผิวหนังเป็นวงกว้างหลังจากที่ปุโรหิตได้กล่าวว่าเขาสะอาดแล้ว
\v 36 ก็ต้องให้ปุโรหิตตรวจเขาอีก ถ้าโรคนั้นลามไปตามผิวหนังแล้ว ปุโรหิตไม่จำเป็นต้องมองหาขนสีเหลือง คนนั้นเป็นมลทินแล้ว
\s5
\p
\v 37 แต่ถ้าตามสายตาของปุโรหิต โรคผื่นคันนั้นไม่ลามและมีขนสีดำงอกอยู่ในบริเวณนั้น ผื่นคันนั้นได้หายแล้ว เขาก็สะอาด และปุโรหิตต้องประกาศว่าเขาสะอาด
\v 38 ถ้าชายหรือหญิงที่มีรอยขาวที่ผิวหนัง
\v 39 ต้องให้ปุโรหิตตรวจคนนั้นเพื่อดูว่ารอยนั้นเป็นสีขาวขุ่นหรือไม่ ซึ่งนั่นเป็นเกลื้อนที่พุขึ้นในผิวหนัง เขาสะอาด
\s5
\p
\v 40 ถ้าผมของชายใดร่วงจากศีรษะของเขา เขาเป็นคนศีรษะล้าน แต่เขาสะอาด
\v 41 ถ้าผมของเขาร่วงออกจากด้านหน้าของศีรษะของเขา และถ้าหน้าผากของเขาล้าน เขาก็สะอาด
\v 42 แต่ถ้ามีรอยแดงเรื่อๆ ตรงที่ศีรษะล้านหรือหน้าผากล้านของเขา นั่นเป็นโรคที่ติดเชื้อที่ได้พุขึ้น
\s5
\p
\v 43 ต้องให้ปุโรหิตตรวจดูเขาเพื่อดูว่ารอยบวมตรงบริเวณที่เป็นโรคบนศีรษะล้านหรือหน้าผากล้านที่มีสีแดงเรื่อๆ หรือไม่ เหมือนกับลักษณะของโรคที่ติดเชื้อบนผิวหนัง
\v 44 ถ้าหากเป็น เขาก็มีโรคที่ติดเชื้อ และเขาเป็นมลทิน ปุโรหิตต้องประกาศว่าเขาเป็นมลทินอย่างแน่นอน เพราะโรคบนศีรษะของเขา
\s5
\p
\v 45 คนที่เป็นโรคที่ติดเชื้อต้องสวมเสื้อผ้าขาด ให้ปล่อยผม และให้เขาปิดหน้าของเขาจนถึงจมูกของเขา แล้วร้องว่า 'มลทิน มลทิน'
\v 46 ตลอดเวลาที่เขาเป็นโรคที่ติดเชื้อเขาจะเป็นมลทิน เพราะเขาเป็นมลทินด้วยโรคที่สามารถติดต่อได้ เขาจะต้องอยู่แต่ลำพัง เขาต้องอยู่ภายนอกค่าย
\s5
\p
\v 47 เมื่อเครื่องแต่งกายเกิดมีเชื้อราขึ้นเป็นดวงๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องแต่งกายจากขนสัตว์หรือผ้าป่าน
\v 48 หรือสิ่งใดๆ ที่ทอหรือถักจากขนสัตว์หรือผ้าป่าน หรือหนังหรือสิ่งใดๆ ที่ทำด้วยหนัง
\v 49 ถ้ามีเชื้อที่ปนเปื้อนเป็นสีเขียวหรือสีแดงในเครื่องแต่งกาย ในหนัง หรือด้ายที่ทอหรือถัก หรือสิ่งใดๆ ที่ทำด้วยหนัง แล้วเป็นเชื้อราที่ลามไปได้ ต้องนำสิ่งนั้นไปแสดงต่อปุโรหิต
\s5
\p
\v 50 ปุโรหิตต้องตรวจเชื้อราในสิ่งนั้น ปุโรหิตต้องกักสิ่งใดๆ ที่มีเชื้อราไว้เจ็ดวัน
\v 51 พอถึงวันที่เจ็ด ให้ปุโรหิตตรวจดูเชื้อรานั้นอีกครั้ง ถ้าเชื้อรานั้นลามไปในเครื่องแต่งกาย หรือสิ่งใดๆ ที่ทอหรือถักจากขนสัตว์หรือผ้าป่าน หรือหนัง หรือสิ่งใดๆ ที่ทำด้วยหนัง แสดงว่าเป็นเชื้อราที่เป็นอันตราย และสิ่งนั้นเป็นมลทิน
\v 52 เขาต้องเผาเครื่องแต่งกายนั้น หรือสิ่งใดๆ ที่ทอหรือถักจากขนสัตว์หรือผ้าป่าน หรือหนัง หรือสิ่งใดๆ ที่ทำด้วยหนัง หรือสิ่งใดๆ ก็ตามที่ตรวจพบเชื้อราในนั้น เพราะอาจนำไปสู่การเป็นโรคได้ สิ่งนั้นต้องถูกเผาให้หมดไป
\s5
\p
\v 53 ถ้าปุโรหิตตรวจดูสิ่งของนั้นและเห็นว่าเชื้อรานั้นไม่ได้ลามไปในเครื่องแต่งกาย หรือสิ่งที่ทอหรือถักจากขนสัตว์หรือผ้าป่าน หรือในสิ่งใดที่ทำด้วยหนัง
\v 54 ปุโรหิตก็จะสั่งให้พวกเขาซักสิ่งที่ตรวจพบว่ามีเชื้อรา และปุโรหิตต้องกักสิ่งนั้นไว้อีกเจ็ดวัน
\v 55 แล้วปุโรหิตจะตรวจดูสิ่งของที่เคยเป็นเชื้อราที่ถูกซักแล้ว ถ้าเชื้อรานั้นไม่เปลี่ยนสี แม้ว่าเชื้อนั้นไม่ลามออกไป ก็เป็นมลทิน พวกเจ้าต้องเผาสิ่งนั้นทั้งหมดไม่ว่าเกิดเชื้อราขึ้นตรงจุดไหนก็ตาม
\s5
\p
\v 56 ถ้าปุโรหิตตรวจดูสิ่งนั้น และถ้าเชื้อรานั้นจางลงหลังจากซักแล้ว ก็ให้ฉีกบริเวณที่เกิดรอยนั้นออกเสียจากเครื่องแต่งกายหรือหนัง หรือจากด้ายทอหรือด้ายถัก
\v 57 ถ้าเชื้อยังปรากฏขึ้นอีกในเครื่องแต่งกาย ไม่ว่าที่ด้ายทอหรือด้ายถัก หรือในสิ่งใดๆ ที่ทำด้วยหนัง แสดงว่าเชื้อนั้นลามออกไป เจ้าต้องเผาสิ่งใดๆ ที่มีเชื้อรานั้น
\s5
\p
\v 58 เครื่องแต่งกายหรือสิ่งใดๆ ที่ทอหรือถักด้วยขนสัตว์หรือผ้าป่าน หรือด้วยหนัง หรือสิ่งใดๆ ที่ทำด้วยหนัง ถ้าเจ้าซักสิ่งนั้นแล้วเชื้อรานั้นหมดไป สิ่งนั้นก็ต้องถูกซักอีกเป็นครั้งที่สอง แล้วสิ่งนั้นจะสะอาด
\v 59 นี่เป็นกฎว่าด้วยเชื้อราในเครื่องแต่งกายที่ทำด้วยขนสัตว์หรือผ้าป่าน หรือสิ่งใดๆ ที่ทอหรือถักจากขนสัตว์หรือผ้าป่าน หรือหนัง หรือสิ่งใดๆ ที่ทำด้วยหนัง เพื่อพวกเจ้าจะได้ประกาศว่าสิ่งใดสะอาด หรือสิ่งใดเป็นมลทิน"
\s5
\c 14
\p
\v 1 พระยาห์เวห์ได้ตรัสแก่โมเสสว่า
\v 2 "นี่จะเป็นกฎในวันชำระตัวของคนทีี่เคยเป็นโรค ต้องนำเขามาหาปุโรหิต
\v 3 แล้วปุโรหิตจะออกไปนอกค่ายเพื่อตรวจดูคนนั้น ถ้าโรคผิวหนังที่ติดเชื้อนั้นหายแล้ว
\s5
\p
\v 4 แล้วปุโรหิตจะสั่งคนที่จะชำระตัวให้นำนกที่สะอาดและมีชีวิตอยู่มาสองตัว ไม้สนสีดาร์ ด้ายสีแดง และต้นหุสบ
\v 5 ปุโรหิตจะสั่งให้เขาฆ่านกตัวหนึ่งบนน้ำสะอาดที่อยู่ในหม้อดิน
\v 6 แล้วปุโรหิตจะเอานกที่มีชีวิตอีกตัวและไม้สนสีดาร์ และด้ายแดง และต้นหุสบ แล้วเขาจะจุ่มทั้งหมดนี้ รวมถึงนกที่มีชีวิตอยู่ในเลือดของนกตัวที่ถูกฆ่าบนน้ำสะอาด
\s5
\p
\v 7 แล้วปุโรหิตจะพรมน้ำนี้บนตัวคนที่ชำระตัวจากโรคเจ็ดครั้ง แล้วปุโรหิตจะประกาศว่าเขาสะอาด แล้วปุโรหิตจะปล่อยนกตัวที่มีชีวิตไปในท้องทุ่ง
\v 8 คนที่ได้รับการชำระจะซักเสื้อผ้าของเขา โกนผมและขนทั้งหมดของเขา และอาบน้ำ แล้วเขาจะสะอาด หลังจากนั้นเขาต้องเข้ามาในค่าย แต่เขาจะอยู่ภายนอกเต็นท์ที่พักของเขาเจ็ดวัน
\v 9 พอถึงวันที่เจ็ดเขาต้องโกนผมทั้งหมดที่อยู่ศีรษะของเขา และเขาต้องโกนหนวดเคราและคิ้วด้วย เขาต้องโกนขนทั้งหมดของเขา และเขาต้องซักเสื้อผ้าของเขาและอาบน้ำ แล้วเขาจะสะอาด
\s5
\p
\v 10 ในวันที่แปด เขาต้องเอาลูกแกะตัวผู้ที่ปราศจากตำหนิมาสองตัว และลูกแกะตัวเมียอายุหนึ่งปีที่ปราศจากตำหนิ และแป้งอย่างดีสามในสิบเอฟาห์คลุกกับน้ำมันให้เป็นเครื่องธัญบูชา และน้ำมันหนึ่งในสามลิตร
\v 11 ปุโรหิตผู้ที่ทำพิธีชำระ จะนำผู้ที่จะทำการชำระตัวมายืนต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์พร้อมกับสิ่งของเหล่านั้นตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบ
\v 12 ปุโรหิตจะเอาลูกแกะตัวผู้ตัวหนึ่งถวายเป็นเครื่องบูชาไถ่ความผิด พร้อมกับน้ำมันหนึ่งในสามลิตร เขาจะโบกสิ่งของเหล่านั้นเพื่อเป็นเครื่องบูชาโบกถวายแด่พระยาห์เวห์
\s5
\p
\v 13 เขาต้องฆ่าลูกแกะตัวผู้ในสถานที่ใช้ฆ่าเครื่องบูชาลบล้างบาปและเครื่องเผาบูชาภายในบริเวณพลับพลา เพราะเครื่องบูชาลบล้างบาปตกเป็นของปุโรหิต เช่นเดียวกับเครื่องบูชาไถ่ความผิด เพราะเป็นสิ่งที่บริสุทธิ์ที่สุด
\v 14 ปุโรหิตจะนำเลือดบางส่วนของเครื่องบูชาไถ่ความผิด และไปเจิมปลายหูด้านขวาของคนที่รับการชำระตัว และเจิมหัวแม่มือขวา และนิ้วหัวแม่เท้าขวาของเขา
\v 15 แล้วปุโรหิตจะเอาน้ำมันจากหนึ่งในสามลิตรนั้นเทลงบนผ่ามือซ้ายของตนบ้าง
\s5
\p
\v 16 และเอานิ้วมือขวาของเขาจุ่มในน้ำมันที่อยู่ในมือซ้ายของเขา และพรมน้ำมันด้วยนิ้วของตนเจ็ดครั้งต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์
\v 17 ปุโรหิตจะเอาน้ำมันที่เหลือในมือของเขาไปแตะปลายหูด้านขวาของคนที่รับการชำระตัว และบนหัวแม่มือขวา และบนหัวแม่เท้าขวาของเขา เขาต้องเจิมน้ำมันนี้ทับบนเลือดของเครื่องบูชาไถ่ความผิด
\v 18 แล้วน้ำมันที่เหลือในมือของปุโรหิต เขาก็จะเจิมบนศีรษะของคนที่รับการชำระตัว และปุโรหิตจะทำการลบมลทินเขาต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์
\s5
\p
\v 19 แล้วปุโรหิตจะถวายเครื่องบูชาลบล้างบาปและทำการลบมลทินสำหรับคนที่รับการชำระตัวอันเนื่องมาจากมลทินของเขา และหลังจากน้ั้น เขาก็จะฆ่าเครื่องเผาบูชา
\v 20 แล้วปุโรหิตจะถวายเครื่องเผาบูชาและเครื่องธัญบูชาบนแท่นบูชา แล้วปุโรหิตจะทำการลบมลทินสำหรับคนนั้น แล้วเขาก็จะสะอาด
\s5
\p
\v 21 อย่างไรก็ตาม ถ้าคนนั้นขัดสนและไม่สามารถหาเครื่องบูชาเหล่านี้มาได้ ก็ให้เขาเอาลูกแกะตัวผู้มาหนึ่งตัวเพื่อเป็นเครื่องบูชาไถ่ความผิดที่จะใช้โบกถวาย เพื่อทำการลบล้างมลทินเพื่อตัวเขาเอง และเอาแป้งอย่างดีคลุกกับน้ำมันมาหนึ่งในสิบเอฟาห์เพื่อเป็นเครื่องธัญบูชา และน้ำมันหนึ่งในสามลิตร
\v 22 พร้อมกับนกเขาสองตัวหรือนกพิราบรุ่นสองตัวที่เขาสามารถหามาได้ นกตัวหนึ่งจะเป็นเครื่องบูชาลบล้างบาป และอีกตัวจะเป็นเครื่องเผาบูชา
\v 23 ในวันที่แปด ให้เขานำมามอบให้ปุโรหิตเพื่อเป็นทำการชำระตัวที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบ ต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์
\s5
\p
\v 24 ปุโรหิตจะเอาลูกแกะสำหรับเครื่องบูชามา และเขาจะเอาน้ำมันมะกอกหนึ่งในสามลิตรมาด้วย และเขาจะชูสิ่งของเหล่านั้นขึ้นสูงดังว่าเขาถวายสิ่งของเหล่านั้นแด่พระยาห์เวห์
\v 25 แล้วเขาจะฆ่าลูกแกะเพื่อเป็นเครื่องบูชาไถ่ความผิด และเขาจะเอาเลือดบางส่วนของเครื่องบูชาไถ่ความผิดไปแตะปลายหูขวาของคนที่รับการชำระตัว และเจิมบนหัวแม่มือขวา และบนหัวแม่เท้าขวาของเขา
\s5
\p
\v 26 แล้วปุโรหิตจะเทน้ำมันบางส่วนใส่ฝ่ามือซ้ายของตน
\v 27 และเขาจะใช้นิ้วมือขวาของเขาพรมน้ำมันที่อยู่ในมือซ้ายของเขาเจ็ดครั้งต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์
\v 28 แล้วปุโรหิตจะเอาน้ำมันบางส่วนในมือของเขาไปแตะที่หูขวาของคนที่รับการชำระตัว และเจิมบนหัวแม่มือขวา และบนหัวแม่เท้าขวาของเขา ตรงจุดเดียวกับที่เขาเจิมด้วยเลือดของเครื่องบูชาไถ่ความผิด
\s5
\p
\v 29 ปุโรหิตจะเอาน้ำมันที่เหลือในมือของเขาไปเจิมบนศีรษะของคนที่รับการชำระตัว เพื่อทำการลบล้างมลทินของเขาต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์
\v 30 เขาต้องถวายนกเขาหรือนกพิราบรุ่นหนึ่งตัวเท่าที่คนนั้นจะสามารถหามาได้
\v 31 ตัวหนึ่งให้เป็นเครื่องบูชาลบล้างบาปและอีกตัวหนึ่งให้เป็นเครื่องเผาบูชาพร้อมกับเครื่องธัญบูชา แล้วปุโรหิตจะทำการลบมลทินสำหรับคนที่รับการชำระตัวต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์
\v 32 นี่คือกฎสำหรับคนที่เป็นโรคผิวหนังที่ติดเชื้อ ผู้ที่ไม่สามารถหาเครื่องบูชาสำหรับการชำระตัวของเขาได้ตามปกติ"
\s5
\p
\v 33 พระยาห์เวห์ได้ตรัสแก่โมเสสและแก่อาโรนว่า
\v 34 "เมื่อพวกเจ้าได้เข้าไปในแผ่นดินคานาอันซึ่งเราได้มอบให้เป็นกรรมสิทธิ์แก่พวกเจ้าแล้ว และถ้าเราได้ใส่เชื้อราที่ลุกลามในบ้านหลังหนึ่งในแผ่นดินที่พวกเจ้าถือกรรมสิทธิ์นั้น
\v 35 ให้เจ้าของบ้านมาบอกปุโรหิต เขาต้องแจ้งว่า 'มีบางสิ่งที่ดูเหมือนเชื้อราอยู่ในบ้านของข้าพเจ้า'
\s5
\p
\v 36 แล้วปุโรหิตจะสั่งให้พวกเขาทำให้บ้านว่างเปล่าก่อนที่ปุโรหิตจะไปดูร่องรอยของเชื้อรา เพื่อจะไม่ให้มีสิ่งใดในบ้านถูกทำให้เป็นมลทิน หลังจากนั้นปุโรหิตต้องเข้าไปดูบ้าน
\v 37 เขาต้องตรวจเชื้อรา ว่าเชื้อนั้นอยู่บนผนังบ้านหรือไม่ และเพื่อดูว่ามีรอยสีเขียวหรือสีแดงลึกไปในผนังบ้านหรือไม่
\v 38 ถ้าบ้านนั้นมีเชื้อรา ปุโรหิตก็จะออกจากบ้านและปิดประตูบ้านนั้นไว้เจ็ดวัน
\s5
\p
\v 39 พอถึงวันที่เจ็ด ปุโรหิตก็จะกลับมาอีกครั้ง และตรวจดูว่าเชื้อราได้ลุกลามไปตามผนังบ้านหรือไม่
\v 40 ถ้าลุกลาม ปุโรหิตก็จะสั่งให้พวกเขารื้อก้อนหินที่พบว่ามีเชื้อรานั้นออก และเอาไปทิ้งในที่ที่เป็นมลทินภายนอกเมือง
\v 41 และสั่งให้ขูดผนังด้านในบ้านทั้งหมดออก และพวกเขาต้องเอาผงที่ขูดออกที่เจือปนด้วยเชื้อนั้นออกไปทิ้งนอกเมืองในที่ที่เป็นมลทิน
\v 42 พวกเขาต้องเอาก้อนหินอื่นใส่เข้าไปแทนที่ก้อนหินที่ถูกนำเอาออกไป และพวกเขาต้องเอาโคลนใหม่มาฉาบบ้านนั้น
\s5
\p
\v 43 ถ้าเชื้อรานั้นยังกลับมาเกิดขึ้นอีกและลุกลามไปในบ้านที่เอาก้อนหินออกไปทิ้งแล้ว และผนังได้ถูกขูดและฉาบใหม่แล้ว
\v 44 ปุโรหิตต้องเข้ามาและตรวจบ้านเพื่อดูว่าเชื้อราได้ลุกลามในบ้านหรือไม่ ถ้าลุกลาม นั่นเป็นเชื้อราที่เป็นอันตราย บ้านนั้นก็เป็นมลทิน
\s5
\p
\v 45 บ้านนั้นจะต้องถูกรื้อลง ก้อนหิน ไม้ และทั้งหมดที่ฉาบในบ้านทั้งหมดจะต้องถูกนำเอาออกไปนอกเมืองไปยังที่ที่เป็นมลทิน
\v 46 ยิ่งกว่านั้น ใครก็ตามที่เข้าไปในบ้านนั้นในขณะที่บ้านยังปิดอยู่ ก็จะเป็นมลทินไปจนถึงตอนเย็น
\v 47 ทุกคนที่นอนหลับในบ้านหลังนั้นต้องซักเสื้อผ้าของเขา และทุกคนที่กินในบ้านหลังนั้นต้องซักเสื้อผ้าของเขา
\s5
\p
\v 48 ถ้าปุโรหิตที่เข้าไปในบ้านเพื่อตรวจดูว่ามีเชื้อราลุกลามในบ้านหรือไม่หลังจากที่บ้านหลังนั้นได้ฉาบใหม่แล้ว แล้วถ้าเชื้อราได้หายไป ปุโรหิตก็จะประกาศว่าบ้านนั้นสะอาด
\v 49 แล้วปุโรหิตจะต้องเอานกมาสองตัวเพื่อทำการชำระบ้าน และไม้สนสีดาร์ ด้ายสีแดง และต้นหุสบ
\v 50 เขาจะฆ่านกตัวหนึ่งบนน้ำที่สะอาดในเหยือกดิน
\s5
\p
\v 51 เขาจะเอาไม้สนสีดาร์ ต้นหุสบ และด้ายแดง และนกที่มีชีวิต และจุ่มทั้งหมดนั้นลงในเลือดของนกที่ถูกฆ่าในน้ำสะอาด และพรมบ้านนั้นเจ็ดครั้ง
\v 52 เขาจะชำระบ้านนั้นด้วยเลือดของนก และด้วยน้ำสะอาด ด้วยนกที่มีชีวิต ไม้สนสีดาร์ ต้นหุสบ และด้ายสีแดง
\v 53 แต่เขาจะปล่อยนกที่มีชีวิตออกจากเมืองไปสู่ท้องทุ่ง ด้วยวิธีนี้ ปุโรหิตต้องทำการลบล้างมลทินสำหรับบ้านนั้น และบ้านนั้นก็จะสะอาด
\s5
\p
\v 54 นี่เป็นกฎของโรคผิวหนังที่ติดเชื้อทุกชนิด และทุกสิ่งที่ทำให้เกิดโรคแบบนั้น และสำหรับโรคผื่นคัน
\v 55 และสำหรับเชื้อราในเสื้อผ้าและในบ้าน
\v 56 สำหรับรอยบวม สำหรับผื่นคัน และสำหรับรอยด่าง
\v 57 เพื่อกำหนดในกรณีเหล่านี้ว่า เมื่อใดเป็นมลทินหรือเมื่อใดสะอาด นี่คือกฎสำหรับโรคผิวหนังที่ติดเชื้อและเชื้อรา"
\s5
\c 15
\p
\v 1 พระยาห์เวห์ได้ตรัสแก่โมเสสและอาโรนว่า
\v 2 "จงพูดแก่คนอิสราเอล และบอกพวกเขาว่า 'เมื่อชายใดมีของเหลวที่ติดเชื้อไหลออกจากร่างกายของเขา เขาก็กลายเป็นมลทิน
\v 3 มลทินของเขาเกิดขึ้นเพราะของเหลวที่ติดเชื้อนี้ ไม่ว่ามีของเหลวไหลออกจากร่างกายของเขาหรือหยุดแล้วก็ตาม สิ่งนี้เป็นมลทิน
\s5
\p
\v 4 เตียงนอนทุกเตียงที่เขานอนจะเป็นมลทิน และทุกสิ่งที่เขานั่งทับก็จะเป็นมลทิน
\v 5 คนใดที่แตะต้องเตียงของเขาต้องซักเสื้อผ้าของตนและอาบน้ำ และจะเป็นมลทินไปจนถึงเวลาเย็น
\v 6 คนใดที่ไปนั่งบนสิ่งใดที่ชายผู้มีของเหลวติดเชื้อไหลออกได้นั่งก่อน คนนั้นต้องซักเสื้อผ้าของตนและอาบน้ำ และเขาจะเป็นมลทินไปจนถึงเวลาเย็น
\s5
\p
\v 7 คนใดที่ไปแตะต้องร่างกายของผู้ที่มีของเหลวติดเชื้อไหลออก ต้องซักเสื้อผ้าของตนและอาบน้ำ และเป็นมลทินไปจนถึงเวลาเย็น
\v 8 ถ้าคนที่มีของเหลวแบบนั้นไหลออกไปถ่มน้ำลายรดบางคนที่สะอาด คนที่ถูกถ่มน้ำลายรดต้องซักเสื้อผ้าของตนและอาบน้ำ และจะเป็นมลทินไปจนถึงเวลาเย็น
\v 9 อานใดที่ผู้ที่มีของเหลวไหลออกเอาไปขี่ก็จะเป็นมลทิน
\s5
\p
\v 10 คนใดที่แตะต้องสิ่งใดๆ ที่รองรับคนที่เป็นมลทินนั้น คนนั้นจะเป็นมลทินไปจนถึงเวลาเย็น และทุกคนที่จับต้องสิ่งนั้นต้องซักเสื้อผ้าของตนและอาบน้ำ และเขาจะเป็นมลทินไปจนถึงเวลาเย็น
\v 11 คนใดที่ถูกคนที่มีสิ่งไหลออกแตะต้องถูกตัวโดยที่เขาไม่ได้ล้างมือของเขาก่อน ผู้ถูกแตะต้องนั้นต้องซักเสื้อผ้าของตนและอาบน้ำ และเขาจะเป็นมลทินไปจนถึงเวลาเย็น
\v 12 ภาชนะดินทุกใบที่ผู้มีของเหลวไหลออก แตะต้องนั้น ให้ทุบเสีย และภาชนะไม้ทุกชิ้นต้องล้างในน้ำ
\s5
\p
\v 13 เมื่อคนที่มีสิ่งไหลออกได้ชำระสิ่งไหลออกของเขาแล้ว เขาต้องนับการชำระของเขาให้ครบเจ็ดวัน และเขาต้องซักเสื้อผ้าของตนและอาบน้ำในที่มีน้ำไหล แล้วเขาจึงจะสะอาด
\v 14 ในวันที่แปด ให้เขานำนกเขาสองตัวหรือนกพิราบรุ่นสองตัว และมาต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์ตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบ และมอบนกเหล่านั้นให้แก่ปุโรหิต
\v 15 ให้ปุโรหิตถวายนกเหล่านั้น ตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาลบล้างบาป และอีกตัวหนึ่งเป็นเครื่องเผาบูชา และให้ปุโรหิตทำการลบมลทินในเรื่องสิ่งที่ไหลออกให้แก่เขา ต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์
\s5
\p
\v 16 ชายคนใดได้หลั่งน้ำกาม ให้เขาอาบน้ำทั้งตัว และเขาจะเป็นมลทินไปจนถึงเวลาเย็น
\v 17 เครื่องแต่งกายทุกชนิดหรือหนังทุกชนิดที่น้ำกามไหลรดต้องซักล้างด้วยน้ำ และเป็นมลทินไปจนถึงเวลาเย็น
\v 18 ถ้าหญิงและชายหลับนอนด้วยกัน และได้หลั่งน้ำกามใส่หญิง พวกเขาทั้งสองต้องอาบน้ำ และพวกเขาจะเป็นมลทินไปจนถึงเวลาเย็น
\s5
\p
\v 19 เมื่อหญิงใดมีประจำเดือน มลทินของเธอจะต่อเนื่องไปเจ็ดวัน และผู้ใดแตะต้องเธอจะเป็นมลทินไปจนถึงเวลาเย็น
\v 20 ทุกสิ่งที่เธอไปนอนทับขณะเมื่อเธอมีประจำเดือนก็จะเป็นมลทิน ทุกสิ่งที่เธอไปนั่งทับก็จะเป็นมลทินด้วย
\v 21 คนใดไปแตะต้องที่นอนของเธอต้องซักเสื้อผ้าของตนและอาบน้ำ และคนนั้นจะเป็นมลทินไปจนถึงเวลาเย็น
\s5
\p
\v 22 คนใดที่แตะต้องสิ่งใดๆ ที่เธอนั่งต้องซักเสื้อผ้าของตนและอาบน้ำ และคนนั้นจะเป็นมลทินไปจนถึงเวลาเย็น
\v 23 ไม่ว่าจะเป็นที่นอนหรือสิ่งใดก็ตามที่เธอนั่งทับ ถ้าชายใดไปแตะต้องสิ่งนั้น คนนั้นก็จะเป็นมลทินไปจนถึงเวลาเย็น
\v 24 ถ้าชายใดหลับนอนกับเธอ และมลทินของเธอไหลติดที่ชายนั้น ชายนั้นก็จะเป็นมลทินไปเจ็ดวัน ที่นอนทุกแห่งที่ชายคนนั้นไปนอนก็จะเป็นมลทิน
\s5
\p
\v 25 ถ้าหญิงใดมีเลือดไหลออกมาหลายวัน ทั้งที่ไม่ใช่ช่วงประจำเดือนของเธอ หรือถ้าเธอมีเลือดไหลออกนอกเหนือช่วงประจำเดือนของเธอ ในทุกวันที่มีมลทินของเธอไหลออก เธอก็จะเป็นเหมือนช่วงเดียวกับเวลาที่เป็นประจำเดือนของเธอ ซึ่งทำให้เธอเป็นมลทิน
\v 26 ทุกที่นอนที่เธอนอนในช่วงที่เธอมีเลือดไหลออก ก็จะเป็นดังที่นอนที่เธอนอนในช่วงมีประจำเดือนของเธอ และทุกสิ่งที่เธอนั่งทับจะเป็นมลทินอย่างเดียวกับมลทินของประจำเดือนของเธอ
\v 27 คนใดที่แตะต้องสิ่งเหล่านั้นก็จะเป็นมลทิน ชายนั้นต้องซักเสื้อผ้าของตนและอาบน้ำ และเขาจะเป็นมลทินไปจนถึงเวลาเย็น
\s5
\p
\v 28 แต่ถ้าเธอชำระจากเลือดที่ไหลออกของเธอแล้ว ให้เธอนับเองให้ครบเจ็ดวัน ต่อจากนั้นเธอจึงจะสะอาด
\v 29 ในวันที่แปด ให้เธอนำนกเขาสองตัวหรือนกพิราบรุ่นสองตัว และเอาไปให้ปุโรหิตที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบ
\v 30 ปุโรหิตจะถวายนกตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาลบล้างบาป และอีกตัวเป็นเครื่องเผาบูชา และปุโรหิตจะทำการลบมลทินของเธอในเรื่องมลทินอันเนื่องจากการมีเลือดไหลออก ต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์
\s5
\p
\v 31 นี่คือวิธีที่พวกเจ้าต้องใช้แยกคนอิสราเอลออกจากการเป็นมลทินของเขาทั้งหลาย เพื่อพวกเขาจะไม่ต้องตายด้วยมลทินของพวกเขา โดยการทำให้พลับพลาของเราที่อยู่ท่ามกลางพวกเขาเป็นมลทิน
\v 32 เหล่านี้เป็นกฎระเบียบเกี่ยวกับผู้ใดที่มีของเหลวไหลออก และเกี่ยวกับชายใดที่หลั่งน้ำกามออกซึ่งทำให้ตัวเขาเป็นมลทิน
\v 33 และเกี่ยวกับหญิงที่มีประจำเดือน เกี่ยวกับผู้มีของเหลวไหลออกไม่ว่าชายหรือหญิง และเกี่ยวกับชายที่หลับนอนกับหญิงที่มีมลทิน'"
\s5
\c 16
\p
\v 1 พระยาห์เวห์ได้ตรัสแก่โมเสส หลังจากการเสียชีวิตของบุตรทั้งสองคนของอาโรน เมื่อพวกเขาได้เข้ามาใกล้พระยาห์เวห์แล้วถึงแก่ความตาย
\v 2 พระยาห์เวห์ตรัสแก่โมเสสว่า "จงพูดกับอาโรนพี่ชายของเจ้า และบอกเขาว่า จงอย่าเข้าไปในอภิสุทธิสถานตามใจชอบ คือเข้าไปในม่านหน้าฝาหีบแห่งการลบล้างมลทินบาปซึ่งปิดอยู่บนหีบพระบัญญัติ ถ้าเขาเข้าไป เขาจะตาย เพราะว่าเราปรากฏอยู่ในเมฆเหนือฝาหีบแห่งการลบล้างมลทินบาป
\s5
\p
\v 3 ดังนั้น นี่คือสิ่งที่อาโรนต้องทำเมื่อเข้ามาในอภิสุทธิสถาน เขาต้องเข้ามาพร้อมกับโคหนุ่มหนึ่งตัวที่ใช้เป็นเครื่องบูชาลบล้างบาป และแกะตัวผู้หนึ่งตัวที่ใช้เป็นเครื่องเผาบูชา
\v 4 เขาต้องสวมชุดผ้าป่านบริสุทธิ์ และเขาต้องสวมชุดผ้าป่านชั้นใน และเขาต้องคาดเอวด้วยผ้าป่านและสวมผ้าโพกหัวด้วยผ้าป่าน นี่เป็นชุดที่บริสุทธิ์ เขาต้องอาบน้ำแล้วสวมชุดเหล่านี้
\v 5 เขาต้องเอาแพะตัวผู้สองตัวจากชุมนุมชนอิสราเอลไปเป็นเครื่องบูชาลบล้างบาป และแกะตัวผู้หนึ่งตัวไปเป็นเครื่องเผาบูชา
\s5
\p
\v 6 แล้วอาโรนต้องถวายโคให้เป็นเครื่องบูชาลบล้างบาปของตัวเอง เพื่อทำการลบล้างมลทินของตนเองและของครอบครัวของเขา
\v 7 แล้วเขาต้องเอาแพะสองตัวนั้นไปถวายต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์ตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบ
\v 8 แล้วอาโรนต้องจับฉลากแพะทั้งสองตัวนั้น ฉลากหนึ่งตกเป็นของพระยาห์เวห์ และอีกฉลากหนึ่งเพื่อไปเป็นแพะรับบาป
\s5
\p
\v 9 แล้วอาโรนต้องถวายแพะตัวที่ฉลากตกเป็นของพระยาห์เวห์ และถวายแพะนั้นให้เป็นเครื่องบูชาลบล้างบาป
\v 10 แต่แพะตัวที่ฉลากตกให้เป็นแพะรับบาป จะต้องนำมาต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์แบบที่ยังมีชีวิตอยู่ เพื่อทำการลบมลทินบาปโดยการปล่อยแพะที่เป็นแพะรับบาปนั้นเข้าสู่ถิ่นทุรกันดาร
\s5
\p
\v 11 แล้วอาโรนต้องถวายโคเพื่อเป็นเครื่องบูชาลบล้างบาปของตัวเอง เขาต้องทำการลบมลทินบาปของตัวเองและของครอบครัวของเขา ดังนั้นเขาต้องฆ่าโคให้เป็นเครื่องบูชาลบล้างบาปของตัวเอง
\v 12 อาโรนต้องนำกระถางไฟที่เต็มไปด้วยถ่านไฟที่เอาออกมาจากแท่นบูชาต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์ พร้อมกับเครื่องหอมป่นละเอียดอย่างดีหนึ่งกำมือ และนำสิ่งเหล่านี้เข้าไปภายในม่าน
\v 13 ภายในนั้นเขาต้องใส่เครื่องหอมบนไฟต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์ เพื่อให้ควันจากเครื่องหอมปกคลุมเหนือฝาหีบแห่งการลบล้างมลทินบาปที่ปิดอยู่บนหีบแห่งพันธสัญญา เขาต้องทำเช่นนี้เพื่อเขาจะไม่ตาย
\v 14 แล้วเขาต้องนำเลือดโคไปประพรมบนฝาหีบแห่งการลบล้างมลทินบาปด้วยนิ้วของเขาเจ็ดครั้งตรงหน้าฝาหีบแห่งการลบล้างมลทิน
\s5
\p
\v 15 แล้วเขาต้องฆ่าแพะตัวที่เป็นเครื่องบูชาลบล้างบาปสำหรับประชาชน และเอาเลือดของแพะนั้นเข้าไปภายในม่าน ณ ที่นั่นเขาต้องทำกับเลือดแพะเช่นเดียวกับที่เขาได้ทำกับเลือดโค คือเขาต้องประพรมเลือดนั้นบนฝาหีบแห่งการลบล้างมลทินบาปและตรงหน้าฝาหีบแห่งการลบล้างมลทินบาป
\v 16 เขาต้องทำการลบล้างมลทินของสถานที่บริสุทธิ์อันเนื่องจากการกระ ทำที่เป็นมลทินของประชาชนอิสราเอล และเพราะการกบฎของพวกเขา และความบาปทั้งหมดของพวกเขา เขาต้องทำเช่นนี้สำหรับเต็นท์นัดพบด้วย ซึ่งเป็นที่พระยาห์เวห์ได้สถิตอยู่ท่ามกลางพวกเขาในท่ามกลางกกระทำที่เป็นมลทินของพวกเขา
\s5
\p
\v 17 ห้ามคนใดอยู่ภายในเต็นท์นัดพบ เมื่ออาโรนเข้าไปทำการลบล้างมลทินในอภิสุทธิสถาน จนกว่าเขาจะออกมาและได้ทำการลบล้างมลทินของตัวเขาและของครอบครัวของเขา และของชุมนุมชนอิสราเอลทั้งหมดจนเสร็จสิ้นแล้ว
\v 18 เขาต้องออกไปยังแท่นบูชาที่อยู่ต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์ และทำการลบล้างมลทินของแท่นนั้น และเขาต้องเอาเลือดโคและเลือดแพะบางส่วน ไปเจิมที่เชิงงอนรอบแท่นบูชา
\v 19 เขาต้องประพรมเลือดบนแท่นนั้นด้วยนิ้วของเขาเจ็ดครั้งเพื่อชำระแท่นนั้น และแยกไว้เฉพาะแด่พระยาห์เวห์ ให้พ้นจากการกระทำที่เป็นมลทินของประชาชนอิสราเอล
\s5
\p
\v 20 เมื่อเขาได้ทำการลบล้างมลทินของอภิสุทธิสถาน เต็นท์นัดพบ และแท่นบูชาเสร็จสิ้นแล้ว เขาต้องถวายแพะตัวที่ยังมีชีวิต
\v 21 อาโรนต้องวางมือทั้งสองของเขาบนหัวแพะตัวที่ยังมีชีวิต และสารภาพความชั่วร้ายทั้งหมดของประชาชนอิสราเอล การกบฎทั้งสิ้นของพวกเขา และความบาปทั้งหมดของพวกเขาไว้บนแพะนั้น แล้วเขาต้องวางความบาปชั่วนั้นไว้บนหัวของแพะตัวนั้น และมอบแพะนั้นไว้กับคนที่พร้อมจะเอาแพะไปปล่อยในถิ่นทุรกันดาร
\v 22 แพะนั้นจะแบกความชั่วร้ายของประชาชนทั้งหมดไปยังที่เปลี่ยว และเขาต้องปล่อยแพะให้มันเข้าไปในถิ่นทุรกันดาร
\s5
\p
\v 23 แล้วอาโรนต้องกลับไปในเต็นท์นัดพบและถอดชุดผ้าป่านที่เขาได้สวมก่อนเข้าไปในอภิสุทธิสถานออก และเขาต้องเก็บชุดนั้นไว้ที่นั่น
\v 24 เขาต้องอาบน้ำในสถานที่บริสุทธิ์ และสวมชุดปกติของเขา แล้วเขาต้องออกไปถวายเครื่องเผาบูชาของตนเองและเครื่องเผาบูชาของประชาชน และนี่เป็นการลบล้างมลทินบาปของตนเองและของประชาชน
\s5
\p
\v 25 เขาต้องเผาไขมันของเครื่องบูชาลบล้างบาปบนแท่นบูชา
\v 26 ชายที่นำแพะรับบาปไปปล่อยต้องซักเสื้อผ้าของตนและอาบน้ำ หลังจากนั้นแล้วเขาจึงกลับเข้ามาในค่ายได้
\v 27 โคตัวที่ใช้เป็นเครื่องบูชาลบล้างบาปและแพะที่ใช้เป็นเครื่องบูชาลบล้างบาป ที่ได้นำเลือดของมันไปทำการลบล้างมลทินในสถานที่บริสุทธิ์ จะต้องถูกนำออกไปภายนอกค่าย และต้องเผาหนัง เนื้อ และมูลของมันที่นั่น
\v 28 ชายที่เผาชิ้นส่วนเหล่านั้นต้องซักเสื้อผ้าของตนเองและอาบน้ำ หลังจากนั้นเขาจึงกลับเข้ามาในค่ายได้
\s5
\p
\v 29 นี่จะเป็นกฏเกณฑ์ถาวรสำหรับพวกเจ้าว่า ในเดือนที่เจ็ด ในวันที่สิบของเดือนนั้น พวกเจ้าต้องถ่อมตัวลงและไม่ทำงานใดๆ ไม่ว่าจะเป็นชาวเมืองเองหรือคนต่างชาติที่อาศัยอยู่ท่ามกลางพวกเจ้า
\v 30 นี่เป็นเพราะว่าในวันแห่งการลบมลทินบาปจะเป็นวันที่ตั้งขึ้นเพื่อพวกเจ้า ที่จะชำระตัวจากความบาปทั้งหมดของพวกเจ้า เพื่อพวกเจ้าจะสะอาดต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์
\v 31 นี่เป็นวันสะบาโตแห่งการหยุดพักที่จริงจังของพวกเจ้า และพวกเจ้าต้องถ่อมตัวลงและไม่ทำการงานใดๆ นี่จะเป็นกฎเกณฑ์ถาวรในท่ามกลางพวกเจ้า
\s5
\p
\v 32 มหาปุโรหิตผู้ที่จะรับการเจิมและรับการแต่งตั้งให้เป็นมหาปุโรหิตแทนบิดาของตน เขาต้องทำการลบล้างมลทินนี้และสวมชุดผ้าป่าน ซึ่งเป็นชุดที่บริสุทธิ์
\v 33 เขาต้องทำการลบมลทินของอภิสุทธิสถาน เขาต้องทำการลบมลทินของเต็นท์นัดพบ และของแท่นบูชา และเขาต้องทำการลบมลทินของบรรดาปุโรหิตและประชาชนทั้งหมดของที่ชุมนุมชน
\v 34 นี่จะเป็นกฎเกณฑ์ถาวรสำหรับพวกเจ้า เพื่อทำการลบล้างมลทินบาปของประชาชนอิสราเอลอันเนื่องมาจากความบาปทั้งหมดของพวกเขาปีละครั้งของทุกปี" โมเสสก็ทำตามที่พระยาห์เวห์ได้ทรงบัญชาท่านไว้
\s5
\c 17
\p
\v 1 พระยาห์เวห์ได้ตรัสแก่โมเสสว่า
\v 2 "จงบอกแก่อาโรนและบุตรชายทั้งหลายของเขา และบอกประชาชนอิสราเอลทั้งหมด บอกพวกเขาถึงสิ่งที่พระยาห์เวห์ได้ทรงบัญชาไว้ว่า
\v 3 'ชายคนใดจากอิสราเอลผู้ฆ่าโค ลูกแกะ หรือแพะภายในค่าย หรือผู้ที่ฆ่าภายนอกค่าย เพื่อที่จะถวายเป็นเครื่องบูชา
\v 4 ถ้าเขาไม่ได้นำเครื่องบูชานั้นมาที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบเพื่อถวายให้เป็นเครื่องบูชาแด่พระยาห์เวห์ตรงหน้าพลับพลานั้น ชายคนนั้นก็มีความผิดในการทำให้เลือดไหล เขาได้ทำให้เลือดไหล และชายคนนั้นต้องถูกตัดออกจากท่ามกลางผู้คนของเขา
\s5
\p
\v 5 จุดประสงค์ของพระบัญชานี้ก็เพื่อให้ประชาชนอิสราเอลจะได้นำเครื่องบูชาของพวกเขามาถวายแด่พระยาห์เวห์ตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบ นำมามอบให้แก่ปุโรหิตเพื่อถวายเป็นเครื่องสันติบูชาแด่พระยาห์เวห์ แทนที่การถวายเครื่องบูชาตามท้องทุ่ง
\v 6 ปุโรหิตจะพรมเลือดนั้นบนแท่นบูชาของพระยาห์เวห์ที่อยู่ตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบ ปุโรหิตจะเผาไขมันเพื่อให้เกิดเป็นกลิ่นหอมแด่พระยาห์เวห์
\v 7 ประชาชนต้องไม่ถวายเครื่องบูชาของพวกเขาให้แก่เทวรูปแพะอีกต่อไป เพราะนี่เป็นการกระทำที่เหมือนกับโสเภณีทั้งหลาย สิ่งนี้จะเป็นกฎเกณฑ์ถาวรสำหรับพวกเขาไปตลอดชั่วอายุคนของพวกเขา'
\s5
\p
\v 8 เจ้าต้องบอกแก่พวกเขาว่า 'ชายอิสราเอลคนใด หรือคนต่างชาติคนใดผู้อาศัยอยู่ท่ามกลางพวกเขา ผู้ถวายเครื่องเผาบูชาหรือเครื่องบูชา
\v 9 และไม่ได้นำเครื่องบูชามาที่ทางเข้าของเต็นท์นัดพบเพื่อถวายเครื่องบูชาแด่พระยาห์เวห์ ชายคนนั้นต้องถูกตัดออกจากชนชาติของเขา
\s5
\p
\v 10 ถ้าคนใดในพงศ์พันธุ์อิสราเอล หรือคนต่างชาติผู้อาศัยอยู่ท่ามกลางพวกเขารับประทานเลือดใดๆ เราจะตั้งหน้าของเราต่อสู้กับคนนั้นที่รับประทานเลือด และเราจะตัดเขาออกจากท่ามกลางชนชาติของเขา
\v 11 เพราะว่าชีวิตของสัตว์ตัวหนึ่งก็อยู่ในเลือดของมัน เราได้ให้เลือดของมันแก่พวกเจ้าเพื่อใช้ทำการลบล้างมลทินบนแท่นบูชาสำหรับชีวิตของพวกเจ้า เพราะว่าเลือดนั่นเองที่ทำการลบมลทินได้ เพราะเลือดนั่นเองที่ลบมลทินให้แก่ชีวิต
\s5
\p
\v 12 เหตุฉะนั้น เราได้บอกแก่ประชาชนอิสราเอลว่า ห้ามคนใดในท่ามกลางพวกเจ้ารับประทานเลือด แม้คนต่างชาติที่อยู่ท่ามกลางพวกเจ้าก็ห้ามรับประทานเลือด
\v 13 หากมีคนอิสราเอลคนใด หรือคนต่างชาติคนใดที่อาศัยอยู่ท่ามกลางพวกเจ้า ผู้ออกไปล่าสัตว์และฆ่าสัตว์หรือนกที่สามารถรับประทานได้ คนนั้นต้องเทเลือดของสัตว์ทิ้งและเอาดินกลบ
\s5
\p
\v 14 เพราะชีวิตของสัตว์แต่ละตัวคือเลือดของมัน ด้วยเหตุนี้เราได้บอกแก่ประชาชนอิสราเอลว่า "เจ้าจงอย่ารับประทานเลือดของสัตว์ใด ๆ เพราะชีวิตของสัตว์ที่มีชีวิตทุกตัวคือเลือดของมัน ใครก็ตามที่รับประทานเลือดต้องถูกตัดออก"
\v 15 ทุกคนที่รับประทานสัตว์ที่ตายแล้วหรือที่ถูกสัตว์ป่ากัดตาย ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นชาวเมืองแต่กำเนิดหรือเป็นคนต่างชาติที่อาศัยอยู่ท่ามกลางพวกเจ้า เขาต้องซักเสื้อผ้าของเขาและอาบน้ำ และเขาจะเป็นมลทินไปจนถึงตอนเย็น แล้วเขาจะสะอาด
\v 16 แต่ถ้าเขาไม่ซักเสื้อผ้าของเขาหรืออาบน้ำ เขาก็ต้องแบกรับความผิดของเขา'"
\s5
\c 18
\p
\v 1 พระยาห์เวห์ได้ตรัสแก่โมเสสว่า
\v 2 "จงกล่าวแก่คนอิสราเอล และบอกพวกเขาว่า 'เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าทั้งหลาย
\v 3 เจ้าทั้งหลายต้องไม่ทำตามสิ่งต่าง ๆ ที่ประชาชนทำกันในอียิปต์ ที่ซึ่งพวกเจ้าเคยอยู่อาศัยกันมาก่อน เจ้าทั้งหลายต้องไม่ทำตามสิ่งต่าง ๆ ที่ประชาชนทำกันในคานาอัน ซึ่งเป็นแผ่นดินที่เรากำลังพาเจ้าทั้งหลายไป จงอย่าทำตามขนบธรรมเนียมประเพณีของพวกเขา
\s5
\p
\v 4 เจ้าทั้งหลายต้องทำตามกฎหมายของเรา และเจ้าทั้งหลายต้องรักษาคำบัญชาของเรา เพื่อเจ้าทั้งหลายจะได้ดำเนินตามนั้น เพราะเราคือยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าทั้งหลาย
\v 5 เหตุฉะนั้นเจ้าทั้งหลายต้องรักษากฎเกณฑ์ของเราและกฎหมายของเรา ถ้าใครทำตามนั้น เขาก็จะมีชีวิตอยู่เพราะกฎเหล่านั้น เราคือยาห์เวห์
\s5
\p
\v 6 จงอย่าให้คนใดหลับนอนโดยเปลือยกายของเขากับญาติคนใดก็ตามที่เกี่ยวข้องใกล้ชิดกัน เราคือยาห์เวห์
\v 7 จงอย่าลบหลู่เกียรติบิดาของเจ้าโดยการหลับนอนกับมารดาของเจ้า นางเป็นแม่ของเจ้า เจ้าต้องไม่ลบหลู่เกียรตินาง
\v 8 อย่าหลับนอนกับคนใดที่เป็นบรรดาภรรยาของบิดาเจ้า เจ้าต้องไม่ลบหลู่เกียรติบิดาของเจ้าแบบนั้น
\s5
\p
\v 9 จงอย่าหลับนอนกับพี่สาวหรือน้องสาวคนใดของเจ้า ไม่ว่าเธอจะเป็นบุตรสาวของบิดาเจ้าหรือเป็นบุตรสาวของมารดาเจ้า ไม่ว่าเธอได้ถูกเลี้ยงมาในบ้านของเจ้าหรือที่ห่างไกลจากเจ้า เจ้าต้องไม่หลับนอนกับพี่สาวหรือน้องสาวของเจ้า
\v 10 จงอย่าหลับนอนกับบุตรสาวของบุตรชายของเจ้าหรือบุตรสาวของบุตรหญิงของเจ้า นั่นเป็นสิ่งที่น่าอายต่อตัวเจ้า
\v 11 จงอย่าหลับนอนกับบุตรสาวของภรรยาของบิดาเจ้า ผู้ซึ่งเกิดมาจากบิดาเจ้า เธอเป็นน้องสาวของเจ้า และเจ้าต้องไม่หลับนอนกับเธอ
\s5
\p
\v 12 จงอย่าหลับนอนกับป้าหรืออาหญิงของเจ้า เธอเป็นญาติใกล้ชิดกับบิดาเจ้า
\v 13 จงอย่าหลับนอนกับป้าหรือน้าหญิงของเจ้า นางเป็นญาติใกล้ชิดของมารดาเจ้า
\v 14 อย่าลบหลู่เกียรติลุงหรืออาของเจ้าโดยการหลับนอนกับภรรยาของเขา จงอย่าเข้าใกล้นางเพราะมุ่งหวังเช่นนั้น นางเป็นป้าสะใภ้หรืออาสะใภ้ของเจ้า
\s5
\p
\v 15 จงอย่าหลับนอนกับลูกสะใภ้ของเจ้า นางเป็นภรรยาของบุตรชายเจ้า จงอย่าหลับนอนกับนาง
\v 16 จงอย่าหลับนอนกับภรรยาของพี่ชายหรือน้องชายของเจ้า จงอย่าลบหลู่เกียรติเขาด้วยวิธีนี้
\v 17 จงอย่าหลับนอนกับผู้หญิงและบุตรสาวของนาง หรือบุตรสาวของบุตรชายของนาง หรือบุตรสาวของบุตรหญิงของนาง พวกเขาต่างเป็นญาติใกล้ชิดกับนาง และการหลับนอนกับพวกเขาเป็นสิ่งที่ชั่วร้าย
\v 18 เจ้าต้องไม่แต่งงานกับพี่สาวหรือน้องสาวของภรรยาเจ้าเพื่อให้เป็นภรรยาคนที่สอง และหลับนอนกับเธอในขณะที่ภรรยาคนแรกของเจ้ายังมีชีวิตอยู่
\s5
\p
\v 19 จงอย่าหลับนอนกับผู้หญิงในช่วงที่เธอมีประจำเดือน เธอเป็นมลทินในช่วงเวลานั้น
\v 20 จงอย่าหลับนอนกับภรรยาของเพื่อนบ้านเจ้า และทำตัวของเจ้าเองให้เป็นมลทินกับนางแบบนั้น
\v 21 เจ้าต้องไม่ยกบุตรทั้งหลายของเจ้าเพื่อให้พวกเขาไปลุยไฟ เพื่อที่เจ้าจะได้ถวายพวกเขาให้แก่พระโมเลค เพราะเจ้าต้องไม่ทำให้พระนามของพระเจ้าของเจ้าต้องเสื่อมเกียรติ เราคือยาห์เวห์
\s5
\p
\v 22 จงอย่าหลับนอนกับผู้ชายอื่นๆ เหมือนกับหลับนอนกับผู้หญิง นี่เป็นสิ่งที่ชั่วร้าย
\v 23 จงอย่าหลับนอนกับสัตว์ใดๆ และทำตัวเจ้าเองให้เป็นมลทินเพราะมัน ห้ามไม่ให้ผู้หญิงคิดที่จะหลับนอนกับสัตว์ใดๆ นี่เป็นเรื่องวิปลาส
\s5
\p
\v 24 จงอย่าทำให้ตัวของเจ้าเองเป็นมลทินด้วยวิธีการเหล่านี้เลย เพราะชนชาติทั้งหลายคือชนชาติต่างๆ ที่เราได้ขับไล่ออกไปต่อหน้าเจ้าทั้งหลาย ต่างก็เป็นมลทินด้วยวิธีการเหล่านี้ทั้งหมด
\v 25 แผ่นดินได้กลายเป็นมลทิน ดังนั้นเราจึงได้ลงโทษความบาปของพวกเขา และแผ่นดินได้สำรอกพลเมืองของตนออกมาเสีย
\v 26 เหตุฉะนั้น เจ้าทั้งหลายต้องรักษาคำบัญชาและกฎเกณฑ์ของเรา และต้องไม่ทำอะไรที่เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจเหล่านี้ ไม่ว่าเจ้าทั้งหลายซึ่งเป็นชาวเมืองอิสราเอลมาตั้งแต่เกิดหรือคนต่างชาติที่อาศัยอยู่ท่ามกลางพวกเจ้า
\s5
\p
\v 27 เพราะนี่คือสิ่งชั่วร้ายที่ผู้คนในแผ่นดินคือบรรดาคนที่เคยอยู่อาศัยในที่นี่ก่อนพวกเจ้าได้กระทำกัน และบัดนี้ แผ่นดินนั้นก็เป็นมลทิน
\v 28 เหตุฉะนั้นจงระวัง เพื่อแผ่นดินนั้นจะไม่สำรอกเจ้าทั้งหลายออกมาหลังจากที่เจ้าได้ทำให้แผ่นดินนั้นเป็นมลทิน เหมือนดังที่มันเคยสำรอกผู้คนที่เคยอยู่ก่อนพวกเจ้าออกมาแล้ว
\s5
\p
\v 29 ใครก็ตามที่กระทำสิ่งที่น่ารังเกียจเหล่านี้ คนนั้นที่กระทำแบบนั้นจะถูกตัดออกจากท่ามกลางชนชาติของเขา
\v 30 เหตุฉะนั้น พวกเจ้าต้องรักษาคำบัญชาของเราโดยไม่กระทำตามขนบธรรมเนียมประเพณีที่น่ารังเกียจเหล่านี้ซึ่งเคยถือปฏิบัติกันในแผ่นดินนี้ก่อนพวกเจ้า ดังนั้นเจ้าทั้งหลายจงอย่าทำให้ตัวของเจ้าเองเป็นมลทินเพราะสิ่งเหล่านี้ เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้า'"
\s5
\c 19
\p
\v 1 พระยาห์เวห์ตรัสแก่โมเสสว่า
\v 2 "จงกล่าวแก่ที่ชุมนุมของประชาชนอิสราเอลทั้งหมด และบอกพวกเขาว่า 'พวกเจ้าต้องบริสุทธิ์ เพราะเรายาห์เวห์ พระเจ้าของพวกเจ้าเป็นผู้บริสุทธิ์
\v 3 ทุกคนจงเคารพมารดาของตนและบิดาของตน และพวกเจ้าต้องรักษาวันสะบาโตของเรา เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้า
\v 4 จงอย่าหันไปหารูปเคารพอันไร้ค่า หรือหล่อรูปเคารพเพื่อตนเอง เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้า
\s5
\p
\v 5 เมื่อพวกเจ้าถวายเครื่องสันติบูชาแด่พระยาห์เวห์ พวกเจ้าต้องถวายเครื่องบูชาที่ทำให้ตัวเจ้าเป็นที่ยอมรับ
\v 6 เครื่องบูชานั้นต้องรับประทานในวันเดียวกับที่เจ้าถวาย หรือในวันถัดไป ถ้ามีอะไรเหลือจนถึงวันที่สามจะต้องเผาเสียด้วยไฟ
\v 7 ถ้ายังเอามารับประทานในวันที่สามก็เป็นมลทิน ต้องไม่เป็นที่ยอมรับ
\v 8 และทุกคนที่รับประทานก็ต้องแบกรับความผิดของตนเอง เพราะเขาลบหลู่สิ่งที่บริสุทธิ์แด่พระยาห์เวห์ คนนั้นต้องถูกตัดออกจากชนชาติของเขา
\s5
\p
\v 9 เมื่อพวกเจ้าเก็บเกี่ยวจากแผ่นดินของพวกเจ้า พวกเจ้าต้องไม่เก็บเกี่ยวตามมุมของทุ่งนาของพวกเจ้าจนเกลี้ยง และจะไม่เก็บเกี่ยวผลผลิตไปจนหมด
\v 10 พวกเจ้าต้องไม่เก็บผลองุ่นทุกเมล็ดจากสวนองุ่นของพวกเจ้า หรือเก็บผลองุ่นที่ร่วงบนพื้นในสวนองุ่นของพวกเจ้า พวกเจ้าต้องเหลือไว้สำหรับคนยากจนและสำหรับคนต่างชาติ เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้า
\s5
\p
\v 11 อย่าลักขโมย อย่าโกหก อย่าหลอกลวงกันและกัน
\v 12 อย่าสาบานเท็จโดยอ้างนามของเราและทำให้พระนามของพระเจ้าของพวกเจ้าถูกเหยียดหยาม เราคือยาห์เวห์
\v 13 อย่ากดขี่เพื่อนบ้านของพวกเจ้าหรือปล้นเขา ต้องไม่ค้างค่าแรงของลูกจ้างข้ามคืนจนถึงตอนเช้า
\v 14 อย่าด่าคนหูหนวกหรือวางสิ่งสะดุดขวางคนตาบอด แต่จงเกรงกลัวพระเจ้าของพวกเจ้า เราคือยาห์เวห์
\s5
\p
\v 15 อย่าทำให้การตัดสินเป็นเท็จ พวกเจ้าต้องไม่แสดงความลำเอียงต่อบางคนเพราะเห็นว่าเขายากจน และพวกเจ้าต้องไม่แสดงความลำเอียงแก่บางคนเพราะเห็นว่าเขาเป็นคนสำคัญ แต่จงตัดสินเพื่อนบ้านของพวกเจ้าอย่างยุติธรรม
\v 16 อย่าเที่ยวเดินไปทั่วเพื่อนินทาเรื่องเท็จให้กระจายไปในท่ามกลางประชาชนของพวกเจ้า แต่จงหาทางที่จะปกป้องชีวิตของเพื่อนบ้านของพวกเจ้า เราคือยาห์เวห์
\s5
\p
\v 17 อย่าเกลียดชังพี่น้องของพวกเจ้าอยู่ในใจ พวกเจ้าต้องตักเตือนเพื่อนบ้านด้วยความจริงใจ เพื่อจะไม่ได้มีส่วนในความบาปเพราะเขา
\v 18 อย่าแก้แค้นหรือคิดปองร้ายคนในชนชาติเดียวกัน แต่จงรักเพื่อนบ้านของพวกเจ้าเหมือนรักตนเอง เราคือยาห์เวห์
\s5
\p
\v 19 พวกเจ้าต้องรักษาคำบัญชาของเรา อย่าผสมพันธุ์บรรดาสัตว์ของพวกเจ้ากับสัตว์อื่นที่ต่างชนิดกัน อย่าหว่านเมล็ดสองชนิดที่แตกต่างกันผสมกันเมื่อหว่านในทุ่งนาของพวกเจ้า อย่าสวมชุดที่ทำมาจากผ้าสองชนิดผสมกัน
\v 20 ผู้ใดที่หลับนอนกับทาสหญิงซึ่งได้หมั้นหมายไว้แล้วสำหรับสามี แต่ยังไม่ได้รับการไถ่ถอนหรือยังไม่ได้รับอิสระของเธอ พวกเขาต้องถูกลงโทษ แต่พวกเขาต้องไม่ถูกทำให้ตายเพราะว่าเธอยังไม่ได้รับอิสระ
\s5
\p
\v 21 ชายนั้นต้องนำเครื่องบูชาไถ่ความผิดของตนมาถวายแด่พระยาห์เวห์ตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบ โดยนำแกะตัวผู้มาเป็นเครื่องบูชาไถ่ความผิด
\v 22 แล้วปุโรหิตจะทำการลบมลทินให้แก่เขาด้วยแกะตัวผู้ให้เป็นเครื่องบูชาไถ่ความผิดต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์ สำหรับความบาปที่เขาได้กระทำลงไป แล้วความบาปที่เขาได้กระทำลงไปก็จะได้รับการอภัย
\s5
\p
\v 23 เมื่อพวกเจ้าเข้ามาในแผ่นดินและได้ปลูกต้นไม้หลายชนิดไว้เพื่อเป็นอาหาร แล้วพวกเจ้าต้องถือว่าผลที่ออกมานั้นเป็นสิ่งที่ห้ามรับประทาน ผลไม้นั้นเป็นที่ต้องห้ามสำหรับพวกเจ้าเป็นเวลาสามปี ห้ามรับประทานผลไม้นั้น
\v 24 แต่ในปีที่สี่ ผลไม้ทั้งหมดจะบริสุทธิ์ เป็นเครื่องบูชาเพื่อถวายสรรเสริญแด่พระยาห์เวห์
\v 25 ในปีที่ห้า เจ้าทั้งหลายจึงจะรับประทานผลไม้นั้นได้ การที่รอคอยแบบนั้นก็เพื่อให้ต้นไม้ทั้งหลายได้ออกผลเพิ่มมากขึ้น เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้า
\s5
\p
\v 26 อย่ารับประทานเนื้อที่ยังมีเลือดอยู่ข้างในนั้น อย่าปรึกษาวิญญาณต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องอนาคต อย่าหาทางควบคุมคนอื่นโดยใช้อำนาจเหนือธรรมชาติ
\v 27 อย่าทำตามนิสัยของคนต่างชาติ เช่น การโกนด้านข้างศีรษะหรือตัดปลายเคราของพวกเจ้า
\v 28 อย่าเชือดร่างกายของพวกเจ้าเพื่อไว้ทุกข์แก่คนตาย หรือสักลายบนร่างกายของพวกเจ้า เราคือยาห์เวห์
\s5
\p
\v 29 อย่าทำให้บุตรสาวของพวกเจ้าขายหน้าโดยการทำให้เธอเป็นโสเภณี มิฉะนั้นชนชาติก็จะล้มลงต่อการขายตัวและแผ่นดินจะเต็มไปด้วยความชั่วร้าย
\v 30 พวกเจ้าต้องรักษาบรรดาสะบาโตของเราและให้เกียรติแก่สถานนมัสการแห่งพลับพลาของเรา เราคือยาห์เวห์
\s5
\p
\v 31 อย่าหันไปหาบรรดาคนที่ติดต่อพูดคุยกับคนตายหรือกับวิญญาณต่างๆ อย่าเที่ยวเสาะหาพวกเขา มิฉะนั้นพวกเขาจะทำให้พวกเจ้าเป็นมลทิน เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้า
\v 32 พวกเจ้าต้องคำนับต่อผู้ที่มีผมหงอกแล้วและให้เกียรติต่อหน้าผู้อาวุโส พวกเจ้าต้องยำเกรงพระเจ้าของพวกเจ้า เราคือยาห์เวห์
\s5
\p
\v 33 ถ้ามีบรรดาคนต่างชาติที่อาศัยอยู่ท่ามกลางพวกเจ้าในแผ่นดินของพวกเจ้า พวกเจ้าต้องไม่ทำผิดต่อพวกเขา
\v 34 พวกเจ้าต้องถือว่าคนต่างชาติที่อาศัยอยู่กับพวกเจ้าก็เป็นเหมือนชาวอิสราเอลโดยกำเนิดที่อยู่ท่ามกลางพวกเจ้า และพวกเจ้าต้องรักเขาเหมือนตัวเอง เพราะพวกเจ้าก็เคยเป็นคนต่างชาติในแผ่นดินอียิปต์ เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้า
\s5
\p
\v 35 อย่าโกงเครื่องวัดที่ใช้วัดความยาว ชั่งน้ำหนัก หรือตวงปริมาณ
\v 36 พวกเจ้าต้องใช้เครื่องชั่งที่เที่ยงตรง ลูกตุ้มที่เที่ยงตรง ถังเอฟาห์ที่เที่ยงตรง และถ้วยตวงที่เที่ยงตรง เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้า ผู้ได้นำพวกเจ้าออกมาจากแผ่นดินอียิปต์
\v 37 พวกเจ้าต้องเชื่อฟังทำตามกฎเกณฑ์ทั้งหมดของเราและกฎหมายทั้งหมดของเรา และทำตามนั้น เราคือยาห์เวห์'"
\s5
\c 20
\p
\v 1 พระยาห์เวห์ได้ตรัสแก่โมเสสว่า
\v 2 "จงกล่าวแก่ประชาชนอิสราเอลว่า 'คนใดในท่ามกลางประชาชนอิสราเอลหรือคนต่างชาติคนใดที่อาศัยอยู่ในอิสราเอลที่ได้ยกบุตรทั้งหลายของตนให้แก่พระโมเลค ต้องมีโทษถึงตายอย่างแน่นอน ประชาชนในแผ่นดินนั้นต้องเอาหินขว้างเขา
\v 3 เราจะตั้งหน้าของเราสู้กับคนนั้นด้วย และจะตัดเขาออกจากท่ามกลางชนชาติของเขา เพราะเขาได้ยกบุตรทั้งหลายของเขาให้แก่พระโมเลค ทำให้สถานบริสุทธิ์ของเราเป็นมลทินและทำให้นามบริสุทธิ์ของเราถูกเหยียดหยาม
\s5
\p
\v 4 ถ้าประชาชนแห่งแผ่นดินนั้นปิดหูปิดตาของพวกเขาต่อชายคนนั้นเมื่อเขาได้ยกบุตรทั้งหลายของเขาให้แก่พระโมเลค ถ้าพวกเขาไม่ลงโทษชายคนนั้นถึงตาย
\v 5 เราก็จะตั้งหน้าสู้คนนั้นและตระกูลของเขา และเราจะตัดเขาและคนอื่นๆ ผู้ได้ร่วมการแพศยากับเขาในการเล่นชู้กับพระโมเลค
\s5
\p
\v 6 คนใดที่หันไปหาบรรดาคนที่ติดต่อพูดคุยกับคนตาย หรือไปหาบรรดาผู้ที่ติดต่อพูดคุยกับวิญญาณต่างๆ ก็เอาตัวเข้าร่วมทำการแพศยากับพวกเขา เราจะตั้งหน้าสู้คนนั้น เราจะตัดเขาออกจากท่ามกลางชนชาติของเขา
\v 7 เหตุฉะนั้นจงชำระตัวของเจ้าและจงบริสุทธิ์ เพราะเราคือยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้า
\s5
\p
\v 8 พวกเจ้าต้องรักษาคำบัญชาของเราและทำตามนั้น เราคือยาห์เวห์ผู้ได้แยกพวกเจ้าไว้ให้บริสุทธิ์
\v 9 ทุกคนที่แช่งด่าบิดาของเขาหรือมารดาของเขาต้องมีโทษถึงตายอย่างแน่นอน เขาได้แช่งด่าบิดาของเขาหรือมารดาของเขา ดังนั้นเขามีความผิดและสมควรตาย
\s5
\p
\v 10 ชายคนใดที่ล่วงประเวณีกับภรรยาของชายอีกคนหนึ่ง คือคนใดที่ล่วงประเวณีกับภรรยาของเพื่อนบ้านของตน ผู้ล่วงประเวณีทั้งชายและหญิงต้องมีโทษถึงตายทั้งคู่อย่างแน่นอน
\v 11 ชายคนใดที่นอนร่วมกับภรรยาของบิดาของตน เขาเปิดเผยความเปลือยเปล่าของบิดาของเขา ทั้งบุตรชายและภรรยาของบิดาของเขาต้องมีโทษถึงตายอย่างแน่นอน โลหิตของพวกเขาก็อยู่เหนือพวกเขา
\s5
\p
\v 12 ถ้าชายคนหนึ่งหลับนอนกับลูกสะใภ้ของเขา พวกเขาทั้งสองคนต้องมีโทษถึงตายอย่างแน่นอน พวกเขาได้ทำการวิปลาส พวกเขามีความผิดและสมควรตาย
\v 13 ถ้าชายคนหนึ่งหลับกับชายอีกคนหนึ่ง เหมือนดังหลับนอนกับผู้หญิง พวกเขาทั้งคู่ได้ทำสิ่งที่น่ารังเกียจ พวกเขาต้องมีโทษถึงตายอย่างแน่นอน พวกเขามีความผิดและสมควรตาย
\s5
\p
\v 14 ถ้าชายคนหนึ่งแต่งงานกับผู้หญิงคนหนึ่งและก็แต่งงานกับมารดาของเธอด้วย นี่เป็นความชั่วร้าย พวกเขาต้องถูกเผา ทั้งชายและหญิงทั้งสองคน เพื่อจะไม่มีความชั่วร้ายในท่ามกลางพวกเจ้า
\v 15 ถ้าชายคนหนึ่งสมสู่กับสัตว์ เขาต้องมีโทษถึงตายอย่างแน่นอน และพวกเจ้าต้องฆ่าสัตว์ตัวนั้น
\v 16 ถ้าผู้หญิงคนหนึ่งเข้าหาสัตว์ใดเพื่อสมสู่กับมัน พวกเจ้าต้องฆ่าผู้หญิงและสัตว์นั้น พวกเขาต้องมีโทษถึงตายอย่างแน่นอน พวกเขามีความผิดและสมควรตาย
\s5
\p
\v 17 ถ้าชายคนหนึ่งหลับนอนกับพี่สาวหรือน้องสาวของเขา ไม่ว่าเป็นบุตรสาวของบิดาของเขาหรือบุตรสาวของมารดาของเขา และเขาเปิดเผยความเปลือยเปล่าของเธอ และเธอมองเห็นความเปลือยเปล่าของเขา นั่นเป็นสิ่งที่น่าอาย พวกเขาต้องถูกตัดออกจากท่ามกลางชนชาติของเขา เพราะเขาได้หลับนอนกับพี่สาวหรือน้องสาวของตนเอง เขาต้องแบกรับความผิดของเขา
\v 18 ถ้าชายคนหนึ่งหลับนอนกับผู้หญิงในช่วงที่เธอมีประจำเดือนและได้ร่วมหลับนอนกับเธอ เขาได้เปิดแหล่งเลือดของเธอทำให้เลือดเธอไหล ทั้งชายและหญิงนั้นต้องถูกตัดออกจากท่ามกลางชนชาติของเขา
\s5
\p
\v 19 เจ้าต้องไม่หลับนอนกับพี่สาวหรือน้องสาวของมารดาเจ้า หรือพี่สาวหรือน้องสาวของบิดาเจ้า เพราะว่าเจ้าจะทำให้ญาติใกล้ชิดของเจ้าขายหน้า เจ้าต้องแบกรับความผิดของตน
\v 20 ถ้าชายคนหนึ่งหลับนอนกับป้าของเขา เขาได้ลบหลู่เกียรติลุงของเขา พวกเขาจะต้องรับผิดชอบความบาปของพวกเขา และพวกเขาจะตายโดยไม่มีบุตร
\v 21 ถ้าชายคนหนึ่งแต่งงานกับภรรยาของพี่ชายหรือน้องชายของตนในขณะที่พี่ชายหรือน้องชายยังมีชีวิตอยู่ นี่เป็นสิ่งที่ขายหน้า เขาได้ลบหลู่เกียรติพี่ชายหรือน้องชายของเขา เราจะเอาทรัพย์สมบัติใดๆ ที่บรรดาบุตรทั้งหลายอาจได้รับเป็นมรดกจากบิดามารดาไปจากพวกเขาเสีย
\s5
\p
\v 22 เหตุฉะนั้นพวกเจ้าต้องรักษากฎเกณฑ์ทั้งสิ้นของเราและกฎหมายทั้งสิ้นของเรา พวกเจ้าต้องเชื่อฟังทำตาม เพื่อแผ่นดินที่เราจะพาพวกเจ้าเข้าไปอยู่นั้นจะไม่สำรอกพวกเจ้าออกมา
\v 23 พวกเจ้าต้องไม่ทำตามขนบธรรมเนียมประเพณีของชนชาติต่างๆ ที่เราจะขับไล่ออกไปต่อหน้าพวกเจ้า เพราะพวกเขาได้กระทำสิ่งทั้งหมดนี้ และเรารังเกียจพวกเขา
\s5
\p
\v 24 เราได้บอกพวกเจ้าแล้วว่า "พวกเจ้าจะได้รับแผ่นดินของพวกเขาเป็นมรดก เราจะให้พวกเจ้าถือกรรมสิทธิ์เหนือแผ่นดินนั้น เป็นแผ่นดินที่มีน้ำนมและน้ำผึ้งไหล เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้า ผู้ได้แยกพวกเจ้าออกจากชนชาติอื่น
\v 25 เหตุฉะนั้นพวกเจ้าต้องแยกแยะให้ออกระหว่างบรรดาสัตว์ที่สะอาดและสัตว์ที่เป็นมลทิน ระหว่างบรรดานกที่เป็นมลทินกับนกที่สะอาด พวกเจ้าต้องไม่ทำตัวให้เป็นมลทินด้วยบรรดาสัตว์หรือนกที่เป็นมลทิน หรือด้วยสัตว์ใดๆ ที่เลี้อยคลานไปบนดิน ซึ่งเราได้แยกออกจากพวกเจ้าให้เป็นสิ่งที่เป็นมลทิน
\s5
\p
\v 26 พวกเจ้าต้องบริสุทธิ์ เพราะเราคือยาห์เวห์ผู้บริสุทธิ์ และเราได้แยกพวกเจ้าออกจากชนชาติอื่นๆ เพื่อให้พวกเจ้าเป็นของเรา
\v 27 ชายหรือหญิงใดที่ติดต่อพูดคุยกับคนตายหรือคนที่ติดต่อพูดคุยกับวิญญาณต่างๆ ต้องมีโทษถึงตายอย่างแน่นอน ประชาชนจะต้องขว้างพวกเขาด้วยก้อนหิน พวกเขามีความผิดและสมควรตาย'"
\s5
\c 21
\p
\v 1 พระยาห์เวห์ได้ตรัสแก่โมเสสว่า "จงกล่าวแก่บรรดาปุโรหิต บุตรชายทั้งหลายของอาโรน และบอกแก่พวกเขาว่า 'อย่าทำตัวเองให้เป็นมลทินด้วยเรื่องบรรดาผู้เสียชีวิตท่ามกลางชนชาติของเขา
\v 2 นอกจากบรรดาญาติใกล้ชิดของเขา มารดาของเขา บิดาของเขา บุตรชายของเขา บุตรสาวของเขา พี่ชายน้องชายของเขา
\v 3 หรือน้องสาวพี่สาวของเขาผู้เป็นพรหมจารีซึ่งยังพึ่งพาเขา เพราะเธอยังไม่มีสามี เขาอาจยอมเป็นมลทินเพราะเธอได้
\s5
\p
\v 4 แต่เขาต้องไม่ทำให้ตัวเองเป็นมลทินด้วยเรื่องญาติคนอื่นๆ และทำให้ตนเองเป็นมลทิน
\v 5 ปุโรหิตต้องไม่โกนศีรษะหรือกันปลายเคราของเขา และไม่เชือดร่างกายของพวกเขาเอง
\v 6 พวกเขาต้องบริสุทธิ์ต่อพระเจ้าของพวกเขาและไม่ทำให้พระนามของพระเจ้าของพวกเขาถูกเหยียดหยาม เพราะพวกปุโรหิตต้องถวายเครื่องบูชาแห่งพระกระยาหารของพระยาห์เวห์ เป็นพระกระยาหารของพระเจ้าของพวกเขา เหตุฉะนั้นพวกปุโรหิตต้องบริสุทธิ์
\s5
\p
\v 7 พวกเขาต้องไม่แต่งงานกับผู้หญิงใดที่เป็นโสเภณีและคนที่เป็นมลทิน และพวกเขาต้องไม่แต่งงานกับผู้หญิงคนใดที่หย่าร้างจากสามีของนาง เพราะพวกเขาถูกแยกไว้สำหรับพระเจ้าของพวกเขา
\v 8 พวกเจ้าจะต้องแยกเขาไว้ต่างหาก เพราะเขาเป็นผู้ถวายพระกระยาหารแด่พระเจ้าของพวกเจ้า เขาต้องบริสุทธิ์สำหรับพวกเจ้า เพราะเราคือยาห์เวห์ผู้ทำให้พวกเจ้าบริสุทธิ์ เราบริสุทธิ์
\s5
\p
\v 9 บุตรหญิงของปุโรหิตคนใดที่ทำตัวเธอเองให้เป็นมลทินโดยการเป็นโสเภณีทำให้บิดาของเธอขายหน้า เธอต้องถูกเผา
\v 10 ผู้ที่เป็นมหาปุโรหิตในท่ามกลางพี่น้องของเขา ผู้ที่ถูกเจิมศีรษะด้วยน้ำมันแห่งการทรงเจิม และผู้ที่ได้ชำระตัวให้บริสุทธิ์เพื่อสวมเครื่องแต่งกายพิเศษของมหาปุโรหิต ต้องไม่ปล่อยผมหรือฉีกเสื้อผ้าของตน
\s5
\p
\v 11 เขาต้องไม่ไปที่ไหนก็ตามที่มีศพอยู่และทำตัวเองให้เป็นมลทิน แม้ว่าเพื่อบิดาหรือมารดาของเขาก็ตาม
\v 12 มหาปุโรหิตต้องไม่ออกจากบริเวณสถานนมัสการแห่งพลับพลา หรือทำให้สถานนมัสการของพระเจ้าของเขาถูกเหยียดหยาม เพราะเขาได้รับการชำระให้บริสุทธิ์แล้วในฐานะมหาปุโรหิตโดยน้ำมันแห่งการทรงเจิมของพระเจ้าของเขา เราคือยาห์เวห์
\s5
\p
\v 13 มหาปุโรหิตต้องแต่งงานกับหญิงพรหมจารีเพื่อให้เป็นภรรรยาของเขา
\v 14 เขาต้องไม่แต่งงานกับหญิงม่าย หญิงที่หย่าร้าง หรือหญิงที่เป็นโสเภณี เขาจะไม่แต่งงานกับผู้หญิงแบบนี้ เขาจะแต่งงานกับหญิงพรหมจารีจากชนชาติของตนเองเท่านั้น
\v 15 เพื่อเขาจะไม่ทำให้ลูกหลานของพวกเขาป็นมลทินท่ามกลางชนชาติของเขา เพราะเราคือยาห์เวห์ผู้ทำให้เขาบริสุทธิ์'"
\s5
\p
\v 16 พระยาห์เวห์ตรัสแก่โมเสสว่า
\v 17 "จงกล่าวกับอาโรนและบอกเขาว่า 'คนใดในเชื้อสายของพวกเจ้าในตลอดชั่วอายุที่มีร่างกายพิการ เขาต้องไม่เข้ามาถวายพระกระยาหารแด่พระเจ้าของเขา
\s5
\p
\v 18 ชายใดที่มีร่างกายพิการต้องไม่เข้าไปใกล้พระยาห์เวห์ เช่นคนตาบอดหรือคนที่ไม่สามารถเดินได้ คนที่รูปร่างไม่สมประกอบหรือพิกลพิการ
\v 19 คนที่พิการที่มือหรือเท้า
\v 20 คนหลังค่อม หรือคนผอมหรือเตี้ยผิดปกติ หรือคนที่ตาของเขาพิการ หรือมีโรค ขี้กลาก หิด หรือคนที่ลูกอัณฑะฝ่อ
\s5
\p
\v 21 ห้ามคนใดในท่ามกลางเชื้อสายของอาโรนผู้เป็นปุโรหิตที่มีร่างกายพิการเข้ามาใกล้เพื่อถวายเครื่องบูชาด้วยไฟแด่พระยาห์เวห์ เพราะคนแบบนั้นมีร่างกายพิการ เขาต้องไม่เข้ามาใกล้เพื่อถวายพระกระยาหารแห่งพระเจ้าของเขา
\v 22 แต่เขาสามารถรับประทานพระกระยาหารของพระเจ้าของเขาได้ ไม่ว่าจะเป็นบางส่วนจากของที่บริสุทธิ์ที่สุดหรือบางส่วนจากของที่บริสุทธิ์
\s5
\p
\v 23 อย่างไรก็ตาม เขาต้องไม่เข้าไปภายในม่านหรือเข้ามาใกล้แท่นบูชา เพราะเขามีร่างกายพิการ เพื่อเขาจะไม่ทำให้สถานบริสุทธิ์ของเราเป็นมลทิน เพราะเราคือยาห์เวห์ ผู้ทำให้พวกเขาบริสุทธิ์'"
\v 24 ดังนั้นโมเสสจึงได้กล่าวถ้อยคำเหล่านี้ให้แก่อาโรน แก่บุตรชายทั้งหลายของเขา และแก่ชนชาติอิสราเอลทั้งปวง
\s5
\c 22
\p
\v 1 พระยาห์เวห์ตรัสแก่โมเสสว่า
\v 2 "จงกล่าวแก่อาโรนและแก่บุตรชายทั้งหลายของเขา จงบอกพวกเขาให้อยู่ห่างจากสิ่งบริสุทธิ์ของประชาชนอิสราเอล ซึ่งพวกเขาได้แยกไว้เพื่อเรา พวกเขาต้องไม่ทำให้นามของเราถูกเหยียดหยาม เราคือยาห์เวห์
\v 3 จงบอกพวกเขาว่า 'ถ้าเชื้อสายของพวกเจ้าคนใดในตลอดชั่วอายุของพวกเจ้าเข้าใกล้สิ่งที่บริสุทธิ์ที่ประชาชนอิราเอลได้แยกไว้แด่พระยาห์เวห์ ในขณะที่เขาเป็นมลทิน คนนั้นจะต้องถูกตัดออกจากเบื้องหน้าเรา เราคือยาห์เวห์
\s5
\p
\v 4 ห้ามบรรดาเชื้อสายของอาโรนคนใดที่มีโรคผิวหนังติดเชื้อ หรือมีสิ่งที่ติดเชื้อไหลออกจากร่างกายของเขารับประทานเครื่องบูชาใดๆ ที่ถวายแด่พระยาห์เวห์จนกว่าเขาจะบริสุทธิ์ คนใดก็ตามที่แตะต้องสิ่งที่เป็นมลทินใดๆ โดยการแตะต้องศพ หรือโดยแตะต้องชายใดที่หลั่งน้ำกาม
\v 5 หรือคนใดแตะต้องสัตว์เลื้อยคลานที่ทำให้เขาเป็นมลทิน หรือแตะต้องคนใดที่ทำให้เขาเป็นมลทิน ไม่ว่าเป็นมลทินแบบไหนก็ตาม
\v 6 แล้วปุโรหิตผู้ที่แตะต้องมลทินใดๆ จะเป็นมลทินไปจนถึงเวลาเย็น เขาต้องไม่รับประทานสิ่งบริสุทธิ์ใดๆ นอกจากเขาได้อาบน้ำแล้ว
\s5
\p
\v 7 เมื่อดวงอาทิตย์ตกแล้ว เขาจึงจะสะอาด หลังจากดวงอาทิตย์ตกเขาจึงสามารถรับประทานของที่บริสุทธิ์นั้นได้ เพราะว่าเป็นอาหารของเขา
\v 8 เขาต้องไม่รับประทานอะไรที่พบว่าตายไปแล้วหรือถูกสัตว์ป่าฆ่า ซึ่งจะทำให้เขาเองเป็นมลทิน เราคือยาห์เวห์
\v 9 ปุโรหิตทั้งหลายต้องทำตามคำสั่งสอนของเรา มิฉะนั้นพวกเขาจะมีความผิดบาปและอาจตายเพราะลบหลู่เรา เราคือยาห์เวห์ผู้ทำให้พวกเขาบริสุทธิ์
\s5
\p
\v 10 ห้ามคนภายนอกครอบครัวของปุโรหิต รวมถึงแขกทั้งหลายของปุโรหิต หรือลูกจ้างของเขารับประทานสิ่งใดที่เป็นของบริสุทธิ์
\v 11 แต่ถ้าปุโรหิตได้ซื้อทาสคนใดด้วยเงินของเขาเอง ทาสนั้นก็รับประทานของที่ได้แยกไว้แด่พระยาห์เวห์ได้ สมาชิกในครอบครัวของปุโรหิตและทาสทั้งหลายที่เกิดในบ้านของเขา พวกเขาสามารถรับประทานของเหล่านั้นร่วมกับเขาได้
\v 12 ถ้าบุตรหญิงของปุโรหิตได้แต่งงานกับคนที่ไม่เป็นปุโรหิต เธอไม่สามารถรับประทานของถวายใดๆ ที่บริสุทธิ์ได้
\s5
\p
\v 13 แต่ถ้าบุตรหญิงของปุโรหิตเป็นหญิงม่าย หรือหย่าร้าง และถ้าเธอไม่มีลูก และถ้าเธอได้กลับมาอาศัยอยู่บ้านบิดาของเธอเหมือนเมื่อตอนเป็นสาว เธอสามารถรับประทานอาหารของบิดาของเธอได้ แต่ห้ามคนที่ไม่อยู่ในครอบครัวของปุโรหิตรับประทานอาหารของปุโรหิต
\v 14 ถ้าผู้ชายคนใดรับประทานอาหารบริสุทธิ์โดยไม่รู้ตัว เขาต้องชดใช้คืนให้แก่ปุโรหิต เขาต้องเพิ่มให้อีกหนึ่งในห้าและมอบคืนแก่ปุโรหิต
\v 15 ประชาชนอิสราเอลต้องไม่ลบหลู่เกียรติสิ่งที่บริสุทธิ์ที่ได้ยกขึ้นและถวายแด่พระยาห์เวห์
\v 16 ทำให้พวกเขาต้องแบกรับความบาปที่ทำให้พวกเขามีความผิดแห่งการรับประทานอาหารที่บริสุทธิ์ เพราะเราคือยาห์เวห์ผู้ที่ทำให้พวกเขาบริสุทธิ์'"
\s5
\p
\v 17 พระยาห์เวห์ตรัสแก่โมเสสว่า
\v 18 "จงกล่าวแก่อาโรนและบุตรชายทั้งหลายของเขา และแก่ประชาชนอิสราเอลทั้งปวง จงบอกพวกเขาว่า 'คนอิสราเอลหรือคนต่างชาติคนใดที่อาศัยอยู่ในอิสราเอล เมื่อพวกเขาถวายเครื่องบูชา ไม่ว่าเป็นเครื่องบูชาเพื่อแก้บน หรือไม่ว่าเป็นเครื่องบูชาด้วยใจสมัคร หรือพวกเขาถวายเครื่องเผาบูชาแด่พระยาห์เวห์
\v 19 ถ้าจะให้เป็นเครื่องบูชาที่โปรดปราน พวกเขาต้องถวายสัตว์ตัวผู้ที่ปราศจากตำหนิที่เอามาจากฝูงโค ฝูงแกะหรือฝูงแพะ
\s5
\p
\v 20 แต่พวกเจ้าต้องไม่ถวายสิ่งใดๆ ที่มีตำหนิ เราจะไม่โปรดปรานสิ่งที่พวกเจ้าถวาย
\v 21 คนใดถวายเครื่องสันติบูชาที่เอามาจากฝูงโคหรือฝูงแพะแกะแด่พระยาห์เวห์เพื่อแก้บน หรือเป็นเครื่องบูชาด้วยใจสมัคร เครื่องบูชานั้นจะต้องไม่มีตำหนิจึงจะเป็นที่โปรดปราน สัตว์นั้นต้องไม่พิการ
\v 22 พวกเจ้าต้องไม่ถวายสัตว์ใดๆ ที่ตาบอด พิการ หรือเป็นแผลที่มีสิ่งที่ไหลออก เป็นขี้กลาก หรือเป็นหิด พวกเจ้าต้องไม่ถวายสิ่งเหล่านี้แด่พระยาห์เวห์ให้เป็นเครื่องเผาบูชาด้วยไฟบนแท่นบูชา
\s5
\p
\v 23 เจ้าสามารถถวายเครื่องบูชาด้วยใจสมัครด้วยโคหรือลูกแกะที่พิการหรือตัวเล็กได้ แต่เครื่องบูชาแบบนั้นจะไม่เป็นที่โปรดปรานถ้าถวายเพื่อแก้บน
\v 24 อย่าถวายสัตว์ใดๆ แด่พระยาห์เวห์ที่มีลูกอัณฑะช้ำ ถูกทุบ ฉีกขาด หรือมีรอยตัด อย่ากระทำแบบนี้ในแผ่นดินของพวกเจ้า
\v 25 พวกเจ้าต้องไม่ถวายพระกระยาหารของพระเจ้าของเจ้าจากมือของคนต่างชาติ สัตว์ต่างๆ เหล่านั้นมีตำหนิและพิการ พวกเจ้าจะไม่ได้รับความโปรดปราน
\s5
\p
\v 26 พระยาห์เวห์ตรัสแก่โมเสสว่า
\v 27 "เมื่อโค หรือแกะ หรือแพะคลอดออกมา มันต้องอยู่กับแม่ของมันเจ็ดวัน แล้วตั้งแต่วันที่แปดเป็นต้นไป มันสามารถเป็นเครื่องบูชาสำหรับถวายแด่พระยาห์เวห์ด้วยไฟซึ่งเป็นที่โปรดปรานได้
\s5
\p
\v 28 อย่าฆ่าแม่โคหรือแม่แกะพร้อมกับลูกของมันในวันเดียวกัน
\v 29 เมื่อพวกเจ้าถวายเครื่องบูชาแห่งการขอบพระคุณแด่พระยาห์เวห์ พวกเจ้าต้องถวายเครื่องบูชาให้เป็นที่โปรดปราน
\v 30 เครื่องบูชานั้นต้องถูกรับประทานในวันเดียวกันกับที่ถวายเครื่องบูชา พวกเจ้าต้องไม่เหลืออาหารไว้จนถึงเช้า เราคือยาห์เวห์
\s5
\p
\v 31 ดังนั้นพวกเจ้าต้องรักษาบัญญัติของเราและทำตามนั้น เราคือยาห์เวห์
\v 32 พวกเจ้าต้องไม่ลบหลู่เกียรติพระนามอันบริสุทธิ์ของเรา ประชาชนอิสราเอลต้องยอมรับว่าเราบริสุทธิ์ เราคือยาห์เวห์ผู้ทำให้พวกเจ้าบริสุทธิ์
\v 33 ผู้ที่ได้นำพวกเจ้าออกมาจากแผ่นดินอียิปต์เพื่อเป็นพระเจ้าของพวกเจ้า เราคือยาห์เวห์"
\s5
\c 23
\p
\v 1 พระยาห์เวห์ได้ตรัสแก่โมเสสว่า
\v 2 "จงกล่าวแก่คนอิสราเอล และบอกพวกเขาว่า 'ต่อไปนี้คือเทศกาลเลี้ยงต่างๆ ที่ถูกกำหนดไว้แด่พระยาห์เวห์ที่พวกเจ้าต้องประกาศให้เป็นการประชุมบริสุทธิ์ เป็นเทศกาลเลี้ยงเป็นประจำของเรา
\s5
\p
\v 3 พวกเจ้าทำงานได้ในหกวัน แต่วันที่เจ็ดเป็นสะบาโตแห่งการหยุดพักอย่างสมบูรณ์ เป็นการประชุมบริสุทธิ์ พวกเจ้าต้องไม่ทำงานเพราะเป็นสะบาโตแด่พระยาห์เวห์ในทุกแห่งที่เจ้าอาศัยอยู่
\v 4 ต่อไปนี้เป็นเทศกาลเลี้ยงที่กำหนดไว้ของพระยาห์เวห์ เป็นการประชุมบริสุทธิ์ที่พวกเจ้าต้องประกาศให้ทราบเมื่อถึงเวลาที่กำหนดไว้
\s5
\p
\v 5 ในเวลาเย็นของวันที่สิบสี่ เดือนที่หนึ่ง เป็นปัสกาของพระยาห์เวห์
\v 6 ในวันที่สิบห้าของเดือนเดียวกันเป็นเทศกาลกินขนมปังไร้เชื้อแด่พระยาห์เวห์ พวกเจ้าต้องรับประทานขนมปังไร้เชื้อเป็นเวลาเจ็ดวัน
\s5
\p
\v 7 ในวันแรก พวกเจ้าต้องจัดให้มีการชุมนุมพร้อมกัน พวกเจ้าจะไม่ทำงานประจำของพวกเจ้า
\v 8 พวกเจ้าจะถวายเครื่องบูชาพระกระยาหารแด่พระยาห์เวห์เป็นเวลาเจ็ดวัน ในวันที่เจ็ดเป็นการประชุมที่จัดไว้แด่พระยาห์เวห์ และในวันนั้นพวกเจ้าต้องไม่ทำงานประจำ'"
\s5
\p
\v 9 พระยาห์เวห์ได้ตรัสกับโมเสสว่า
\v 10 "จงกล่าวแก่คนอิสราเอลและบอกพวกเขาว่า 'เมื่อพวกเจ้าเข้ามาในแผ่นดินซึ่งเราจะให้แก่พวกเจ้า และเมื่อพวกเจ้าเก็บเกี่ยวจากแผ่นดินนั้น พวกเจ้าต้องนำเอาผลรุ่นแรกหนึ่งฟ่อนไปให้ปุโรหิต
\v 11 และปุโรหิตจะชูฟ่อนข้าวนั้นขึ้นต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์ เพื่อพวกเจ้าจะเป็นที่โปรดปราน ในวันถัดจากสะบาโตเป็นวันที่ปุโรหิตจะยกเครื่องบูชาขึ้นและถวายให้แก่เรา
\s5
\p
\v 12 ในวันที่พวกเจ้าชูฟ่อนข้าวนั้นขึ้นและถวายให้แก่เรา พวกเจ้าต้องถวายลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งปีที่ปราศจากตำหนิหนึ่งตัวให้เป็นเครื่องเผาบูชาแด่พระยาห์เวห์
\v 13 เครื่องถวายธัญบูชาต้องเป็นแป้งอย่างดีเคล้าน้ำมันสองในสิบเอฟาห์ เป็นเครื่องบูชาด้วยไฟถวายแด่พระยาห์เวห์ เพื่อให้เกิดกลิ่นหอม พร้อมกับเหล้าองุ่นหนึ่งในสี่ฮินเป็นเครื่องบูชาดื่มถวาย
\v 14 พวกเจ้าต้องไม่รับประทานขนมปัง ข้าวคั่วหรือข้าวดิบ จนกว่าจะถึงวันเดียวกับวันที่พวกเจ้าได้ถวายเครื่องบูชานี้แด่พระเจ้าของพวกเจ้า นี่จะเป็นกฎเกณฑ์ถาวรไปตลอดชั่วชาติพันธุ์ของพวกเจ้าในทุกแห่งที่พวกเจ้าอาศัยอยู่
\s5
\p
\v 15 เริ่มต้นจากวันถัดจากวันสะบาโตซึ่งเป็นวันที่พวกเจ้านำฟ่อนข้าวแห่งเครื่องบูชามาโบกถวาย จงนับให้ครบเจ็ดสัปดาห์
\v 16 พวกเจ้าต้องนับไปถึงห้าสิบวัน ซึ่งจะเป็นวันถัดจากวันสะบาโตที่เจ็ด แล้วพวกเจ้าต้องถวายเมล็ดใหม่แด่พระยาห์เวห์เป็นเครื่องถวายธัญบูชา
\v 17 พวกเจ้าต้องนำขนมปังสองก้อนทำจากแป้งสองในสิบเอฟาห์จากที่อาศัยของพวกเจ้า ขนมปังนั้นต้องทำจากแป้งอย่างดีใส่เชื้อยีสต์และอบ นั่นจะเป็นเครื่องบูชาโบกถวายแห่งผลรุ่นแรกแด่พระยาห์เวห์
\s5
\p
\v 18 สิ่งที่พวกเจ้าต้องถวายพร้อมกับขนมปังนั้นคือ ลูกแกะเจ็ดตัวที่มีอายุหนึ่งปีและปราศจากตำหนิ โคหนุ่มหนึ่งตัว แกะตัวผู้สองตัว มาเป็นเครื่องเผาบูชาแด่พระยาห์เวห์ พร้อมกับเครื่องถวายธัญบูชาและเครื่องดื่มบูชาของพวกเขา เป็นเครื่องบูชาถวายด้วยไฟและเกิดเป็นกลิ่นหอมแด่พระยาห์เวห์
\v 19 พวกเจ้าต้องถวายแพะตัวผู้หนึ่งตัวเป็นเครื่องบูชาลบล้างบาป และลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งปีสองตัวเพื่อถวายเป็นเครื่องสันติบูชา
\s5
\p
\v 20 ปุโรหิตต้องโบกเครื่องบูชาถวายพร้อมกับขนมปังซึ่งเป็นผลรุ่นแรกต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์ และถวายเครื่องบูชาเหล่านั้นพร้อมกับลูกแกะสองตัวแด่พระองค์ เครื่องบูชาเหล่านั้นจะเป็นของถวายบริสุทธิ์แด่พระยาห์เวห์สำหรับปุโรหิต
\v 21 และในวันเดียวกันพวกเจ้าต้องประกาศให้มีการประชุมบริสุทธิ์ และพวกเจ้าต้องไม่ทำงานประจำ นี่จะเป็นกฎเกณฑ์ถาวรตลอดชั่วชาติพันธ์ุของเจ้าในทุกแห่งที่พวกเจ้าอาศัยอยู่
\s5
\p
\v 22 เมื่อพวกเจ้าเก็บเกี่ยวพืชผลจากแผ่นดินของพวกเจ้า พวกเจ้าต้องไม่เก็บเกี่ยวตามมุมของทุ่งนาจนหมด และพวกเจ้าต้องไม่เก็บเมล็ดที่ตก พวกเจ้าต้องทิ้งไว้สำหรับคนยากจนและสำหรับคนต่างด้าว เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้า'"
\s5
\p
\v 23 พระยาห์เวห์ตรัสแก่โมเสสว่า
\v 24 "จงกล่าวแก่คนอิสราเอลว่า 'ในวันที่หนึ่งของเดือนที่เจ็ดจะเป็นวันหยุดพักอย่างจริงจังสำหรับพวกเจ้า เป็นอนุสรณ์ด้วยการเป่าแตร และเป็นการประชุมบริสุทธิ์
\v 25 พวกเจ้าต้องไม่ทำงานประจำ และพวกเจ้าต้องถวายเครื่องบูชาด้วยไฟแด่พระยาห์เวห์'"
\s5
\p
\v 26 แล้วพระยาห์เวห์ได้ตรัสแก่โมเสสว่า
\v 27 "ในวันที่สิบของเดือนที่เจ็ดนี้เป็นวันลบล้างมลทิน เป็นการประชุมบริสุทธิ์ และพวกเจ้าต้องถ่อมตัวลงและถวายเครื่องบูชาด้วยไฟแด่พระยาห์เวห์
\v 28 พวกเจ้าต้องไม่ทำงานในวันนั้นเพราะเป็นวันลบมลทิน ที่จะทำการลบมลทินของตัวพวกเจ้าเองเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้า
\s5
\p
\v 29 ในวันนั้น ถ้าผู้ใดไม่ถ่อมตัวเองลงจะต้องถูกตัดออกจากชนชาติของเขา
\v 30 ถ้าผู้ใดทำงานใดๆ ในวันนั้น เรายาห์เวห์จะทำลายผู้นั้นไปเสียจากท่ามกลางชนชาติของเขา
\s5
\p
\v 31 พวกเจ้าต้องไม่ทำงานใดๆ ในวันนั้น นี่จะเป็นกฎเกณฑ์ถาวรตลอดชั่วชาติพันธ์ุของเจ้าในทุกแห่งที่พวกเจ้าอาศัยอยู่
\v 32 วันนี้ต้องเป็นวันสะบาโตแห่งการหยุดพักอย่างจริงจังสำหรับพวกเจ้า และพวกเจ้าต้องถ่อมตัวเองลงเริ่มตั้งแต่เวลาเย็นวันที่เก้าของเดือนนั้น พวกเจ้าต้องถือรักษาวันสะบาโตของพวกเจ้าจากเวลาเย็นจนถึงเวลาเย็น"
\s5
\p
\v 33 พระยาห์เวห์ได้ตรัสแก่โมเสสว่า
\v 34 "จงกล่าวแก่คนอิสราเอลว่า 'ในวันที่สิบห้าของเดือนที่เจ็ดจะเป็นวันเทศกาลอยู่เพิงถวายแด่พระยาห์เวห์จะถืออยู่เจ็ดวัน
\s5
\p
\v 35 ในวันแรกต้องมีการประชุมบริสุทธิ์ พวกเจ้าต้องไม่ทำงานประจำ
\v 36 พวกเจ้าต้องถวายเครื่องบูชาด้วยไฟแด่พระยาห์เวห์เป็นเวลาเจ็ดวัน ในวันที่แปดจะต้องมีการประชุมบริสุทธิ์ และพวกเจ้าต้องถวายเครื่องบูชาด้วยไฟแด่พระยาห์เวห์ นี่เป็นการประชุมตามพิธี และพวกเจ้าต้องไม่ทำงานใดๆ
\s5
\p
\v 37 ต่อไปนี้เป็นเทศกาลเลี้ยงตามกำหนดแด่พระยาห์เวห์ ซึ่งพวกเจ้าต้องประกาศเป็นประชุมบริสุทธิ์เพื่อถวายเครื่องบูชาด้วยไฟแด่พระยาห์เวห์ คือเครื่องเผาบูชาและเครื่องถวายธัญบูชา เครื่องสัตวบูชาและเครื่องดื่มบูชา ให้ถวายแต่ละอย่างตามที่กำหนดไว้ในแต่ละวัน
\v 38 เทศกาลเลี้ยงเหล่านี้จะเพิ่มเติมเข้าไปนอกเหนือจากวันสะบาโตของพระยาห์เวห์และของถวายของพวกเจ้า การแก้บนทั้งหมดของพวกเจ้า และเครื่องบูชาด้วยใจสมัครของพวกเจ้าที่พวกเจ้าถวายแด่พระยาห์เวห์
\s5
\p
\v 39 ในเรื่องเกี่ยวกับเทศกาลอยู่เพิง ในวันที่สิบห้าของเดือนที่เจ็ด เมื่อพวกเจ้าได้รวบรวมพืชผลที่ได้มาจากแผ่นดินนั้นแล้ว พวกเจ้าต้องรักษาเทศกาลเลี้ยงนี้แด่พระยาห์เวห์เป็นเวลาเจ็ดวัน ในวันแรกจะเป็นวันหยุดพักอย่างจริงจัง และในวันที่แปดก็จะเป็นวันหยุดพักอย่างจริงจังด้วย
\v 40 ในวันแรกพวกเจ้าจะต้องเอาผลที่ดีที่สุดจากต้นไม้ต่างๆ ใบอินผลัม กิ่งที่มีใบมาก และกิ่งต้นหลิวมา และพวกเจ้าจะชื่นชมยินดีต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้าเป็นเวลาเจ็ดวัน
\s5
\p
\v 41 พวกเจ้าต้องฉลองเทศกาลเลี้ยงนี้แด่พระยาห์เวห์เป็นเวลาเจ็ดวันในแต่ละปี นี่จะเป็นกฎเกณฑ์ถาวรตลอดชั่วชาติพันธุ์ของพวกเจ้าในทุกแห่งที่พวกเจ้าอาศัยอยู่ พวกเจ้าต้องฉลองเทศกาลเลี้ยงนี้ในเดือนที่เจ็ด
\v 42 พวกเจ้าต้องอาศัยอยู่ในเพิงเล็กๆ เป็นเวลาเจ็ดวัน ชาวอิสราเอลโดยกำเนิดทุกคนต้องอยู่ในเพิงเล็กๆ เป็นเวลาเจ็ดวัน
\s5
\p
\v 43 เพื่อเชื้อสายของพวกเจ้าจากรุ่นต่อรุ่นจะได้เรียนรู้ว่า เราได้ทำให้คนอิสราเอลอาศัยอยู่ในเพิงพักแบบนั้นอย่างไรเมื่อเราได้นำพวกเขาออกจากแผ่นดินอียิปต์ เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้า'"
\v 44 ดังนั้นแหละ โมเสสจึงได้ประกาศให้คนอิสราเอลทราบถึงเทศกาลเลี้ยงต่างๆ ที่ได้กำหนดไว้เพื่อพระยาห์เวห์
\s5
\c 24
\p
\v 1 พระยาห์เวห์ได้ตรัสแก่โมเสสว่า
\v 2 "จงสั่งให้คนอิสราเอลนำน้ำมันบริสุทธิ์ที่ได้คั้นจากผลมะกอกมาให้แก่เจ้าเพื่อใช้เติมตะเกียง เพื่อให้มีแสงสว่างลุกอยู่เสมอ
\s5
\p
\v 3 ภายนอกม่านหน้าหีบแห่งพันธสัญญาที่อยู่ในเต็นท์นัดพบ อาโรนต้องคอยดูแลให้ตะเกียงนี้มีไฟลุกอยู่เสมอต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์ตั้งแต่เวลาเย็นจนถึงเวลาเช้า นี่จะเป็นกฎเกณฑ์ถาวรตลอดชั่วชาติพันธุ์ของเจ้า
\v 4 มหาปุโรหิตต้องคอยรักษาตะเกียงที่อยู่บนคันประทีปทองคำบริสุทธิ์ให้มีไฟลุกอยู่เสมอต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์
\s5
\p
\v 5 เจ้าต้องเอาแป้งอย่างดีที่อบแล้วมาสิบสองก้อน แต่ละก้อนต้องทำจากแป้งสองในสิบเอฟาห์
\v 6 แล้วเจ้าต้องวางเรียงให้เป็นสองแถว แถวละหกก้อน บนโต๊ะทองคำบริสุทธิ์ต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์
\v 7 เจ้าต้องโรยเครื่องหอมบริสุทธิ์ระหว่างแต่ละแถวของขนมปังเหล่านั้นเพื่อเป็นเครื่องบูชาที่เป็นส่วนที่แทน เครื่องหอมนี้จะถูกเผาแด่พระยาห์เวห์
\s5
\p
\v 8 ทุกวันสะบาโต มหาปุโรหิตต้องวางขนมปังหน้าพระพักตร์พระยาห์เวห์เสมอในนามของคนอิสราเอล เป็นเครื่องหมายแห่งพันธสัญญานิรันดร์
\v 9 เครื่องถวายนี้จะตกเป็นของอาโรนและบรรดาบุตรชายของเขา และพวกเขาจะรับประทานเครื่องบูชานั้นในสถานที่บริสุทธิ์ เพราะนี่เป็นส่วนหนึ่งจากเครื่องถวายแด่พระยาห์เวห์ที่ถวายด้วยไฟ"
\s5
\p
\v 10 บัดนี้ เกิดมีเรื่องว่าบุตรชายของผู้หญิงอิสราเอลคนหนึ่ง ซึ่งบิดาของเขาเป็นคนอียิปต์ ได้ไปในท่ามกลางคนอิสราเอล บุตรชายคนนี้ของผู้หญิงชาวอิสราเอลได้ทะเลาะกับชายอิสราเอลคนหนึ่งในค่าย
\v 11 บุตรชายของผู้หญิงชาวอิสราเอลคนนั้นจึงได้หมิ่นประมาทพระนามของพระยาห์เวห์และได้แช่งด่าพระเจ้า ดังนั้นประชาชนจึงได้พาเขามาหาโมเสส มารดาของเขาชื่อเชโลมิทบุตรหญิงของดิบรีที่มาจากเผ่าดาน
\v 12 พวกเขาได้ขังคนนั้นไว้จนกว่าพระยาห์เวห์จะทรงแจ้งพระประสงค์ของพระองค์เองต่อพวกเขา
\s5
\p
\v 13 แล้วพระยาห์เวห์ได้ตรัสแก่โมเสสว่า
\v 14 "จงเอาชายคนนั้นที่ได้แช่งด่าพระเจ้าออกไปภายนอกค่าย ทุกคนที่ได้ยินคำด่าของเขาต้องเอามือวางบนหัวของเขา หลังจากนั้นที่ชุมนุมทั้งหมดจะต้องเอาหินขว้างเขา
\s5
\p
\v 15 เจ้าต้องอธิบายให้แก่คนอิสราเอลว่า "ผู้ใดแช่งด่าพระเจ้าของเขาต้องแบกรับความผิดของตน
\v 16 ใครที่หมิ่นประมาทพระนามของพระยาห์เวห์ต้องได้รับโทษถึงตายอย่างแน่นอน ที่ชุมนุมทั้งหมดต้องเอาหินขว้างเขาให้ตาย ไม่ว่าผู้นั้นเป็นคนต่างชาติหรือคนอิสราเอลโดยกำเนิด ถ้าผู้ใดหมิ่นประมาทพระนามของพระยาห์เวห์ เขาต้องได้รับโทษถึงตาย
\s5
\p
\v 17 ถ้าใครทำร้ายอีกคนจนตาย เขาต้องรับโทษถึงตายอย่างแน่นอน
\v 18 ถ้าใครทำร้ายสัตว์ของคนอื่นถึงตาย เขาต้องจ่ายชดเชย ชีวิตทดแทนชีวิต
\v 19 ถ้าผู้ใดทำร้ายเพื่อนบ้านของเขา เขาต้องถูกกระทำเช่นเดียวกับที่เขาได้กระทำต่อเพื่อนบ้านของเขา
\v 20 กระดูกหักทดแทนกระดูกหัก ตาแทนตา ฟันแทนฟัน เขาได้ทำให้อีกคนบาดเจ็บอย่างไร เขาก็ต้องถูกกระทำแบบเดียวกัน
\s5
\p
\v 21 ผู้ใดที่ฆ่าสัตว์สักตัวหนึ่งต้องจ่ายค่าชดใช้ ผู้ใดที่ฆ่าคนก็ต้องรับโทษถึงตาย
\v 22 เจ้าต้องมีกฎหมายอย่างเดียวกันทั้งกับคนต่างชาติและคนอิสราเอลโดยกำเนิดด้วย เพราะเราคือยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า'"
\v 23 ดังนั้นโมเสสจึงได้บอกแก่คนอิสราเอล และประชาชนได้พาชายคนนั้นที่ได้แช่งด่าพระยาห์เวห์ออกไปภายนอกค่าย พวกเขาได้เอาก้อนหินขว้างชายคนนั้น คนอิสราเอลได้ทำตามพระบัญชาของพระยาห์เวห์ที่มีมายังโมเสส
\s5
\c 25
\p
\v 1 พระยาห์เวห์ได้ตรัสแก่โมเสสบนภูเขาซีนายว่า
\v 2 "จงกล่าวแก่คนอิสราเอลและบอกพวกเขาว่า 'เมื่อพวกเจ้าเข้าสู่แผ่นดินที่เรายกให้แก่พวกเจ้า ต้องให้แผ่นดินนั้นถือสะบาโตแด่พระยาห์เวห์
\v 3 พวกเจ้าต้องหว่านในทุ่งนาของพวกเจ้าในหกปี และในหกปีนั้นพวกเจ้าต้องตัดแต่งสวนองุ่นของพวกเจ้าและรวบรวมผลผลิต
\s5
\p
\v 4 แต่ในปีที่เจ็ด ต้องถือเป็นปีสะบาโตแห่งการหยุดพักของแผ่นดินอย่างจริงจัง เป็นสะบาโตแด่พระยาห์เวห์ พวกเจ้าต้องไม่หว่านในทุ่งนาของพวกเจ้าหรือตัดแต่งสวนองุ่นของพวกเจ้า
\v 5 พวกเจ้าต้องไม่ทำการเก็บเกี่ยวสิ่งใดที่เติบโตขึ้นเอง และพวกเจ้าต้องไม่ทำการเก็บเกี่ยวองุ่นใดๆ ที่เติบโตบนเถาองุ่นที่ไม่ได้ลิดแขนงของพวกเจ้า นี่จะเป็นปีแห่งการหยุดพักของแผ่นดินอย่างจริงจัง
\s5
\p
\v 6 สิ่งใดที่เติบโตบนแผ่นดินที่ไม่ได้เพาะปลูกในช่วงปีสะบาโตจะเป็นอาหารแก่พวกเจ้า ทั้งตัวพวกเจ้า และทาสชายหญิงของพวกเจ้า ลูกจ้างของพวกเจ้าและคนต่างด้าวที่อาศัยอยู่ท่ามกลางพวกเจ้าจะได้เก็บอาหาร
\v 7 ทั้งฝูงสัตว์ของพวกเจ้าและสัตว์ป่าจะได้กินสิ่งที่เกิดขึ้นเองบนแผ่นดิน
\s5
\p
\v 8 พวกเจ้าต้องนับปีสะบาโตเจ็ดปีเจ็ดครั้ง นั่นคือนับเจ็ดคูณเจ็ดปี นั่นจะเป็นเจ็ดปีสะบาโต รวมทั้งหมดเป็นสี่สิบเก้าปี
\v 9 แล้วพวกเจ้าต้องเป่าเขาสัตว์ให้ดังทั่วทุกหนแห่งในวันที่สิบของเดือนที่เจ็ด ในวันแห่งการลบมลทินนั้นพวกเจ้าต้องเป่าเขาสัตว์ให้ทั่วทั้งแผ่นดินของพวกเจ้า
\s5
\p
\v 10 พวกเจ้าต้องตั้งปีที่ห้าสิบไว้แด่พระยาห์เวห์และประกาศอิสรภาพทั่วทั้งแผ่นดินแก่ทุกคนที่อาศัยอยู่ในนั้น นั่นจะเป็นการเฉลิมฉลองสำหรับพวกเจ้า ที่ทั้งที่ดินและบรรดาทาสต้องกลับคืนสู่ครอบครัวของพวกเขา
\v 11 ปีที่ห้าสิบจะเป็นปีแห่งการเฉลิมฉลองสำหรับพวกเจ้า พวกเจ้าต้องไม่หว่านหรือทำการเก็บเกี่ยว จงรับประทานทุกสิ่งที่เติบโตขึ้นเอง และเก็บผลองุ่นที่เติบโตตามแขนงที่ไม่ได้ลิด
\v 12 เพราะว่านี่เป็นปีแห่งการเฉลิมฉลองที่บริสุทธิ์สำหรับพวกเจ้า พวกเจ้าต้องรับประทานพืชผลที่เติบโตขึ้นเองตามทุ่งนา
\s5
\p
\v 13 พวกเจ้าต้องส่งทุกคนให้กลับคืนไปยังที่ดินของพวกเขาเองในปีแห่งการเฉลิมฉลองนี้
\v 14 ถ้าพวกเจ้าขายที่ดินให้แก่เพื่อนบ้านของเจ้า หรือซื้อที่ดินจากเพื่อนบ้านของพวกเจ้า พวกเจ้าต้องไม่โกงหรือทำผิดต่อกัน
\v 15 ถ้าพวกเจ้าซื้อที่ดินจากเพื่อนบ้านของเจ้า ให้พิจารณาจำนวนปีและพืชผลที่สามารถเก็บเกี่ยวได้ ไปจนถึงปีแห่งการเฉลิมฉลองในครั้งต่อไป เพื่อนบ้านของพวกเจ้าที่ขายที่ดินก็ต้องพิจารณาถึงเรื่องนั้นด้วยเช่นกัน
\s5
\p
\v 16 ถ้าจำนวนปีที่เหลือก่อนจะถึงปีแห่งการเฉลิมฉลองครบรอบในครั้งต่อไปเหลือมาก ที่ดินก็มีราคาเพิ่มขึ้น และถ้าจำนวนปีก่อนที่จะถึงปีแห่งการเฉลิมฉลองครั้งต่อไปเหลือน้อย ราคาที่ดินก็น้อยลง เพราะจำนวนครั้งที่เจ้าของใหม่จะทำการเก็บเกี่ยวผลผลิตจากแผ่นดินจะขึ้นอยู่กับจำนวนปีที่เหลือก่อนที่จะถึงปีแห่งการเฉลิมฉลองครั้งต่อไป
\v 17 พวกเจ้าต้องไม่โกงกันหรือทำผิดต่อกัน แต่พวกเจ้าต้องถวายเกียรติแด่พระเจ้าของพวกเจ้า เพราะเราคือยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้า
\s5
\p
\v 18 เหตุฉะนั้นพวกเจ้าต้องเชื่อฟังทำตามกฎเกณฑ์ของเรา จงรักษากฎหมายของเราและกระทำตาม แล้วพวกเจ้าจะอาศัยอยู่ในแผ่นดินอย่างปลอดภัย
\v 19 แผ่นดินจะเกิดผล และพวกเจ้าจะได้รับประทานจนอิ่มและอาศัยอยู่อย่างปลอดภัย
\v 20 พวกเจ้าอาจพูดว่า "แล้วพวกเราจะรับประทานอะไรในปีที่เจ็ดเล่า? ดูสิ เราไม่สามารถหว่านหรือรวบรวมพืชผลของเราได้"
\s5
\p
\v 21 เราจะบัญชาพรของเราให้มาเหนือพวกเจ้าในปีที่หก และนั่นจะทำให้เก็บเกี่ยวได้เพียงพอสำหรับสามปี
\v 22 พวกเจ้าจะหว่านในปีที่แปดและจะยังได้รับประทานผลผลิตจากหลายปีก่อนหน้านั้นและจากยุ้งฉาง จนกว่าจะถึงการเก็บเกี่ยวในปีที่เก้า พวกเจ้าจะยังสามารถรับประทานจากที่เก็บสะสมไว้ในหลายปีก่อนหน้านั้น
\s5
\p
\v 23 ที่ดินต้องไม่ถูกขายให้แก่เจ้าของใหม่อย่างถาวร เพราะแผ่นดินเป็นของเรา พวกเจ้าทั้งปวงต่างเป็นคนต่างด้าวและผู้อาศัยอยู่ชั่วคราวในแผ่นดินของเรา
\v 24 พวกเจ้าต้องให้มีสิทธิ์แห่งการไถ่ถอนสำหรับที่ดินทั้งหมดที่พวกเจ้าถือครองอยู่ พวกเจ้าต้องยอมให้ครอบครัวที่เจ้าซื้อที่ดินจากเขาได้ซื้อที่ดินคืน
\s5
\p
\v 25 ถ้าพี่น้องคนอิสราเอลของเจ้ายากจนลง เพราะเหตุนั้นจึงได้ขายที่ดินบางส่วนของเขา หลังจากนั้นญาติสนิทของเขาก็สามารถมาซื้อที่ดินที่เขาขายแก่เจ้านั้นคืนกลับไปได้
\v 26 ถ้าชายคนนั้นไม่มีญาติมาไถ่ถอนที่ดินของเขา แต่ถ้าเขาร่ำรวยขึ้นและเขาก็มีความสามารถไถ่ถอนคืนได้
\s5
\p
\v 27 ก็ให้เขาคำนวณย้อนไปถึงปีที่ถูกขายไปและจ่ายคืนให้แก่คนที่ซื้อไปนั้น แล้วเขาจึงสามารถกลับไปยังที่ดินของตนเองได้
\v 28 แต่ถ้าเขาไม่สามารถไถ่ถอนที่ดินกลับมาได้ ที่ดินที่เขาขายไปนั้นก็จะยังเป็นของคนที่ซื้อไปจนกว่าจะถึงปีแห่งการเฉลิมฉลอง เมื่อถึงปีแห่งการเฉลิมฉลอง ที่ดินก็จะถูกคืนให้แก่ผู้ที่ขายไป และเจ้าของเดิมก็จะกลับไปอยู่ในที่ดินของตนเองได้
\s5
\p
\v 29 ถ้าชายใดขายบ้านในเมืองที่มีกำแพง เขาก็สามารถซื้อคืนได้ภายในหนึ่งปีหลังจากที่ได้ขายบ้านไปแล้ว เขามีสิทธิ์ไถ่ถอนได้ในตลอดหนึ่งปี
\v 30 ถ้าบ้านนั้นไม่ได้ถูกไถ่ถอนภายในหนึ่งปี บ้านที่อยู่ในเมืองที่มีกำแพงนั้นก็จะกลายเป็นทรัพย์สินถาวรของชายผู้ได้ซื้อบ้านนั้นไปตลอดชั่วชาติพันธุ์ของเขา บ้านหลังนั้นจะไม่ต้องคืนในปีแห่งการเฉลิมฉลอง
\s5
\p
\v 31 แต่บรรดาบ้านตามหมู่บ้านที่ไม่มีกำแพงล้อมรอบจะถือว่าเป็นเหมือนที่ดินทุ่งนา เป็นที่ดินที่สามารถไถ่ถอนได้ และที่ดินนั้นจะต้องถูกส่งคืนในปีแห่งการเฉลิมฉลอง
\v 32 แต่อย่างไรก็ตาม บรรดาบ้านที่เป็นของคนเลวีที่อยู่ในเมืองต่างๆ ของพวกเขาสามารถไถ่ถอนได้ทุกเวลา
\s5
\p
\v 33 ถ้าคนเลวีคนหนึ่งไม่ได้ไถ่ถอนบ้านที่เขาขายไป บ้านในเมืองที่ถูกขายไปนั้นจะต้องส่งคืนในปีแห่งการเฉลิมฉลอง เพราะบรรดาบ้านในเมืองของคนเลวีนั้นเป็นทรัพย์สินของพวกเขาในท่ามกลางคนอิสราเอล
\v 34 แต่ทุ่งนาที่อยู่ล้อมรอบเมืองของพวกเขาจะขายไม่ได้เพราะทุ่งนาเหล่านั้นเป็นทรัพย์สินถาวรของคนเลวี
\s5
\p
\v 35 ถ้าพี่น้องร่วมชาติของพวกเจ้ายากจนลง จนเขาไม่สามารถเลี้ยงดูตนเองได้ต่อไป พวกเจ้าก็ต้องช่วยเขาเหมือนดังที่พวกเจ้าช่วยคนต่างด้าว หรือคนอื่นๆ ที่อาศัยอยู่เหมือนแขกเมืองในท่ามกลางพวกเจ้า
\v 36 อย่าคิดดอกเบื้ยจากเขาหรือพยายามหากำไรใดๆ จากเขา แต่จงถวายเกียรติแด่พระเจ้าเพื่อพี่น้องของพวกเจ้าจะได้อยู่ร่วมกับพวกเจ้า
\s5
\p
\v 37 พวกเจ้าต้องไม่ให้เขากู้เงินและคิดดอกเบี้ย หรือขายอาหารให้เขาโดยคิดกำไร
\v 38 เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้า ผู้ได้นำพวกเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์ เพื่อเราจะได้ยกแผ่นดินคานาอันให้แก่พวกเจ้า และเพื่อจะได้เป็นพระเจ้าของพวกเจ้า
\s5
\p
\v 39 ถ้าพี่น้องร่วมชาติของพวกเจ้ายากจนลงและขายตัวเขาเองแก่พวกเจ้า พวกเจ้าต้องไม่บังคับให้เขาทำงานเหมือนทาส
\v 40 จงปฏิบัติต่อเขาเหมือนลูกจ้าง เขาต้องเป็นเหมือนคนที่อาศัยอยู่กับพวกเจ้าเพียงชั่วคราว เขาจะรับใช้พวกเจ้าจนถึงปีแห่งการเฉลิมฉลอง
\s5
\p
\v 41 หลังจากนั้นเขาก็จะจากเจ้าไป ทั้งตัวเขาและลูกๆ ที่อยู่กับเขา และเขาจะกลับไปยังครอบครัวของเขาและไปยังที่ดินของบิดาของเขา
\v 42 เพราะพวกเขาเป็นผู้รับใช้ของเราผู้ซึ่งเราได้นำออกจากแผ่นดินอียิปต์ พวกเขาจะไม่ถูกขายให้เป็นทาส
\v 43 พวกเจ้าต้องไม่ปกครองพวกเขาอย่างทารุณ แต่พวกเจ้าต้องถวายเกียรติแด่พระเจ้าของพวกเจ้า
\v 44 ส่วนเรื่องทาสชายหญิงของพวกเจ้า ที่พวกเจ้าได้มาจากชนชาติต่างๆ ที่อาศัยอยู่ล้อมรอบพวกเจ้า พวกเจ้าสามารถซื้อทาสจากพวกเขาได้
\s5
\p
\v 45 พวกเจ้าสามารถซื้อทาสจากคนต่างด้าวที่อาศัยอยู่ท่ามกลางพวกเจ้า ซึ่งมาจากครอบครัวของพวกเขาที่อยู่กับพวกเจ้า บรรดาเด็กๆ ที่เกิดในแผ่นดินของพวกเจ้า พวกเขากลายเป็นทรัพย์สินของพวกเจ้าได้
\v 46 พวกเจ้าสามารถยกทาสเหล่านั้นให้เป็นมรดกแก่ลูกหลานของพวกเจ้าต่อไปได้เหมือนดังเป็นทรัพย์สิน และทำให้พวกเขาเป็นทาสไปได้ตลอดชีวิต แต่พวกเจ้าต้องไม่ปกครองเหนือพี่น้องของพวกเจ้าจากท่ามกลางคนอิสราเอลด้วยความรุนแรง
\s5
\p
\v 47 ถ้าคนต่างด้าวหรือบางคนที่อาศัยอยู่ชั่วคราวกับพวกเจ้าร่ำรวยขึ้น และถ้าพี่น้องคนอิสราเอลสักคนหนึ่งของพวกเจ้ายากจนลง และขายตัวเองให้แก่คนต่างด้าวคนนั้นหรือบางคนในครอบครัวของคนต่างด้าวนั้น
\v 48 หลังจากที่พี่น้องคนอิสราเอลของพวกเจ้าถูกซื้อไป เขาก็สามารถถูกซื้อคืนได้ บางคนในครอบครัวของเขาสามารถไถ่ถอนเขาได้
\s5
\p
\v 49 อาจเป็นลุงของคนนั้น หรือลูกพี่ลูกน้องของเขาที่จะไถ่ถอนเขา หรือคนใดที่เป็นญาติสนิทของเขาจากครอบครัวของเขา หรือถ้าเขาร่ำรวยขึ้น เขาอาจไถ่ถอนตัวเองได้
\v 50 เขาต้องต่อรองกับคนที่ซื้อเขาไป พวกเขาต้องนับจำนวนปีจากปีที่เขาขายตัวเองให้แก่ผู้ซื้อไปจนถึงปีแห่งการเฉลิมฉลอง ค่าไถ่ถอนของเขาต้องคิดตามอัตราที่จ่ายให้แก่ลูกจ้าง ตามจำนวนปีที่เหลือที่เขาสามารถทำงานให้แก่ผู้ที่ได้ซื้อเขาไป
\s5
\p
\v 51 ถ้ายังมีเหลืออยู่หลายปีกว่าจะถึงปีแห่งการเฉลิมฉลอง เขาต้องจ่ายค่าไถ่ถอนตัวเองคืนตามจำนวนปีที่เหลือนั้น
\v 52 ถ้าเหลือไม่กี่ปีก่อนที่จะถึงปีแห่งการเฉลิมฉลอง เขาต้องต่อรองกับผู้ชื้อเขาเพื่อดูจำนวนปีที่เหลือก่อนจะถึงปีแห่งการเฉลิมฉลอง และเขาต้องจ่ายค่าไถ่ถอนตนเองตามจำนวนปีที่เหลือ
\s5
\p
\v 53 เขาต้องได้รับการปฏิบัติเหมือนลูกจ้างปีต่อปี พวกเจ้าต้องไม่ปฏิบัติต่อเขาด้วยความทารุณ
\v 54 ถ้าเขาไม่ได้ไถ่ถอนตัวตามที่ได้กล่าวมาแล้ว เขาก็ต้องรับใช้จนกว่าจะถึงปีแห่งการเฉลิมฉลอง ทั้งตัวเขาและบุตรทั้งหลายที่อยู่กับเขา
\v 55 สำหรับเราแล้ว คนอิสราเอลต่างเป็นผู้รับใช้ พวกเขาเป็นผู้รับใช้ของเราผู้ซึ่งเราได้นำออกจากแผ่นดินอียิปต์ เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้า'"
\s5
\c 26
\p
\v 1 "พวกเจ้าต้องไม่ทำรูปเคารพ พวกเจ้าต้องไม่ตั้งรูปแกะสลักหรือเสาหินศักดิ์สิทธิ์ และพวกเจ้าต้องไม่ตั้งรูปหินแกะสลักใดๆ ในแผ่นดินของพวกเจ้าเพื่อที่พวกเจ้าจะกราบไหว้ เพราะเราคือยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้า
\v 2 พวกเจ้าต้องถือสะบาโตทั้งหลายของเราและให้เกียรติแก่สถานนมัสการของเรา เราคือยาห์เวห์
\s5
\p
\v 3 ถ้าพวกเจ้าดำเนินอยู่ในกฎหมายของเราและรักษาบัญญัติต่างๆ ของเราและทำตามนั้น
\v 4 เราก็จะประทานฝนตามฤดูกาลของมัน แผ่นดินจะเกิดพืชผลของมัน และต้นไม้ต่างๆ ในท้องทุ่งจะเกิดพืชผลของมัน
\v 5 การนวดข้าวของพวกเจ้าจะยาวไปจนถึงเวลาเก็บเกี่ยวผลองุ่น และการเก็บเกี่ยวผลองุ่นจะยาวไปจนถึงฤดูหว่าน พวกเจ้าจะรับประทานอาหารของพวกเจ้าจนอิ่มและอยู่อย่างปลอดภัยในบริเวณที่พวกเจ้าสร้างที่อาศัยของพวกเจ้าในแผ่นดินนั้น
\s5
\p
\v 6 เราจะให้เกิดความสงบสุขในแผ่นดิน พวกเจ้าจะนอนลงโดยไม่มีอะไรมาทำให้พวกเจ้ากลัวได้ เราจะเอาบรรดาสัตว์ร้ายทั้งหลายไปเสียจากแผ่นดิน และดาบจะไม่ผ่านไปในแผ่นดินของพวกเจ้า
\v 7 พวกเจ้าจะไล่ตามศัตรูของพวกเจ้า และพวกเขาจะล้มลงด้วยดาบต่อหน้าพวกเจ้า
\s5
\p
\v 8 พวกเจ้าห้าคนจะไล่ได้หนึ่งร้อยคน และพวกเจ้าร้อยคนจะไล่ได้เป็นหมื่นคน ศัตรูทั้งหลายของพวกเจ้าจะล้มลงด้วยดาบต่อหน้าพวกเจ้า
\v 9 เราจะมองพวกเจ้าด้วยความชื่นชมและทำให้พวกเจ้าเกิดผลและทำให้พวกเจ้าทวีขึ้น เราจะทำพันธสัญญาของเรากับพวกเจ้า
\v 10 พวกเจ้าจะรับประทานอาหารที่เก็บสะสมไว้เป็นเวลานาน พวกเจ้าจะเอาอาหารที่เก็บไว้ออกไปเพราะพวกเจ้าจะต้องการพื้นที่สำหรับการเก็บเกี่ยวใหม่
\s5
\p
\v 11 เราจะตั้งพลับพลาของเราไว้ท่ามกลางพวกเจ้า และเราจะไม่เกลียดชังพวกเจ้า
\v 12 เราจะเดินไปท่ามกลางพวกเจ้าและเป็นพระเจ้าของพวกเจ้า และพวกเจ้าจะเป็นประชากรของเรา
\v 13 เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้า ผู้ได้นำพวกเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์ เพื่อพวกเจ้าจะไม่เป็นทาสของพวกเขา เราได้หักไม้แห่งแอกของพวกเจ้าและช่วยให้พวกเจ้าเดินตัวตรงได้
\s5
\p
\v 14 แต่ถ้าพวกเจ้าจะไม่ฟังเรา และจะไม่ทำตามบัญญัติทั้งปวงเหล่านี้
\v 15 และถ้าพวกเจ้าปฏิเสธกฎเกณฑ์ของเราและเกลียดชังกฎหมายของเรา พวกเจ้าจึงไม่ทำตามบัญญัติทั้งปวงของเรา แต่ทำลายพันธสัญญาของเรา
\s5
\p
\v 16 ถ้าพวกเจ้ากระทำดังนั้น เราก็จะกระทำดังต่อไปนี้แก่พวกเจ้า เราจะนำสิ่งที่น่ากลัวมาบนพวกเจ้า โรคต่างๆ และความเจ็บไข้ที่จะทำลายดวงตาทั้งหลายและจะทำให้ชีวิตของพวกเจ้าทรุดโทรมลง พวกเจ้าจะหว่านเมล็ดโดยเปล่าประโยชน์ เพราะศัตรูของพวกเจ้าจะกินพืชผลของพวกเจ้า
\v 17 เราจะตั้งหน้าสู้พวกเจ้า และพวกเจ้าจะถูกปกครองโดยศัตรูของพวกเจ้า คนทั้งหลายที่พวกเจ้าเกลียดชังจะปกครองเหนือพวกเจ้า และพวกเจ้าจะวิ่งหนีแม้ว่าไม่มีใครไล่ตามพวกเจ้า
\s5
\p
\v 18 ถ้าพวกเจ้าไม่ฟังบัญญัติต่างๆ ของเรา เราก็จะลงโทษพวกเจ้าเจ็ดเท่าอย่างรุนแรงสำหรับความบาปทั้งหลายของพวกเจ้า
\v 19 เราจะทำลายความเห่อเหิมในอำนาจของพวกเจ้า เราจะทำให้ท้องฟ้าเหนือพวกเจ้าเป็นเหมือนเหล็กและแผ่นดินของพวกเจ้าเป็นเหมือนทองสัมฤทธิ์
\v 20 กำลังของพวกเจ้าถูกใช้ไปอย่างไร้ประโยชน์ เพราะแผ่นดินของพวกเจ้าจะไม่เกิดผลให้เก็บเกี่ยว และต้นไม้ทั้งหลายในแผ่นดินของพวกเจ้าจะไม่ออกผลของมัน
\s5
\p
\v 21 ถ้าพวกเจ้ายังดำเนินการต่อต้านเราและไม่ฟังเรา เราจะนำวิบัติมายังพวกเจ้าเจ็ดเท่าของขนาดบาปทั้งหลายของพวกเจ้า
\v 22 เราจะส่งสัตว์ร้ายทั้งหลายมาต่อสู้พวกเจ้า ซึ่งจะมาขโมยลูกหลานของพวกเจ้า ทำลายฝูงสัตว์ของพวกเจ้า และทำให้พวกเจ้าเหลืออยู่จำนวนน้อย ถนนของพวกเจ้าก็จะกลายเป็นที่ร้างเปล่า
\s5
\p
\v 23 แม้ประสบสิ่งเหล่านี้แล้ว พวกเจ้ายังไม่ยอมรับการสั่งสอนของเราและพวกเจ้ายังคงดำเนินการต่อต้านเรา
\v 24 เราก็จะดำเนินการต่อต้านพวกเจ้าด้วย และเราเองจะลงโทษพวกเจ้าเจ็ดเท่าเพราะความบาปทั้งหลายของพวกเจ้า
\s5
\p
\v 25 เราจะนำดาบมายังพวกเจ้าที่จะทำการแก้แค้นเพราะการฝ่าฝืนพันธสัญญา พวกเจ้าจะรวมตัวกันอยู่ในเมืองต่างๆ และเราจะส่งโรคมายังท่ามกลางพวกเจ้าในที่นั่น แล้วพวกเจ้าจะถูกมอบไว้ในมือของศัตรูของพวกเจ้า
\v 26 เมื่อถึงตอนที่เราตัดแหล่งเสบียงอาหารของพวกเจ้า ผู้หญิงสิบคนจะสามารถอบขนมปังโดยใช้เตาอบเพียงเตาเดียว และพวกเขาจะแบ่งขนมปังของพวกเจ้าโดยการชั่ง พวกเจ้าจะกินแต่ไม่อิ่ม
\s5
\p
\v 27 ถ้าพวกเจ้าไม่ฟังเราในเรื่องเหล่านี้ แต่ยังคงดำเนินการต่อต้านเรา
\v 28 แล้วเราก็จะดำเนินการต่อต้านพวกเจ้าด้วยความโกรธ และเราจะลงโทษพวกเจ้าให้มากกว่าความบาปทั้งหลายของพวกเจ้าเจ็ดเท่า
\v 29 พวกเจ้าจะกินเนื้อลูกชายของพวกเจ้า พวกเจ้าจะกินเนื้อลูกสาวของพวกเจ้า
\s5
\p
\v 30 เราจะทำลายสถานสูงของพวกเจ้า และตัดแท่นเครื่องหอมของพวกเจ้าลง และโยนศพของพวกเจ้าบนซากรูปเคารพทั้งหลายของพวกเจ้า และเราเองจะเกลียดชังพวกเจ้า
\v 31 เราจะเปลี่ยนเมืองของพวกเจ้าให้กลายเป็นซากปรักหักพังและทำลายสถานนมัสการของพวกเจ้า เราจะไม่โปรดปรานกลิ่นหอมแห่งเครื่องบูชาของพวกเจ้า
\s5
\p
\v 32 เราจะทำให้แผ่นดินร้างเปล่า ศัตรูของพวกเจ้าผู้อาศัยอยู่ที่นั่นจะตกใจกับความร้างเปล่านั้น
\v 33 เราจะให้พวกเจ้ากระจัดกระจายไปท่ามกลางชนชาติต่างๆ และเราจะชักดาบของเราออกและไล่ตามพวกเจ้า แผ่นดินของพวกเจ้าจะถูกทิ้งร้าง และเมืองต่างๆ ของพวกเจ้าจะกลายเป็นซากปรักหักพัง
\s5
\p
\v 34 แล้วแผ่นดินนั้นจะยินดีในสะบาโตของแผ่นดินนานเท่าที่แผ่นดินนั้นว่างเปล่าและพวกเจ้าก็อยู่ในแผ่นดินของศัตรูทั้งหลาย ในช่วงเวลานั้นแผ่นดินก็จะได้หยุดพักและยินดีในสะบาโตของแผ่นดินนั้น
\v 35 นานตราบเท่าที่แผ่นดินนั้นว่างเปล่า แผ่นดินก็จะได้หยุดพัก ซึ่งจะเป็นการหยุดพักที่แผ่นดินนั้นไม่เคยมีในสะบาโตทั้งหลายของพวกเจ้า เมื่อพวกเจ้าอาศัยอยู่ในแผ่นดินนั้น
\s5
\p
\v 36 สำหรับบรรดาพวกเจ้าที่เหลืออยู่ในแผ่นดินของศัตรูทั้งหลายของพวกเจ้า เราจะส่งความกลัวมาเข้ามาในใจของพวกเจ้า ดังนั้นแม้แต่เสียงใบไม้ปลิวตามลมก็จะทำให้พวกเจ้าสะดุ้ง และพวกเจ้าจะหนีเหมือนดังพวกเจ้ากำลังหนีจากดาบ พวกเจ้าจะล้มลงแม้ไม่มีใครไล่ตามพวกเจ้า
\v 37 พวกเจ้าจะสะดุดซึ่งกันและกันเหมือนกับพวกเจ้ากำลังวิ่งหนีจากดาบ แม้ไม่มีใครไล่ตามพวกเจ้า พวกเจ้าจะไม่มีกำลังที่จะยืนอยู่ต่อหน้าศัตรูทั้งหลายของพวกเจ้า
\s5
\p
\v 38 พวกเจ้าจะพินาศไปในท่ามกลางประชาชาติ และแผ่นดินของศัตรูทั้งหลายของพวกเจ้าจะกลืนกินพวกเจ้า
\v 39 บรรดาพวกที่เหลืออยู่ในท่ามกลางพวกเจ้าจะทรุดโทรมไปในความบาปทั้งหลายของพวกเขาเมื่ออยู่ในแผ่นดินของศัตรูทั้งหลายของพวกเจ้า และเพราะความบาปของบรรพบุรุษของพวกเจ้า พวกเขาก็จะทรุดโทรมไปด้วย
\s5
\p
\v 40 แต่ถ้าพวกเขาสารภาพความบาปทั้งหลายของพวกเขาและความบาปของบรรพบุรุษของพวกเจ้า และการทรยศของพวกเขาที่พวกเขาไม่ซื่อสัตย์ต่อเรา และการที่พวกเขาได้ดำเนินการต่อต้านเราด้วย
\v 41 ซึ่งทำให้เราหันไปต่อต้านพวกเขา และเราได้นำพวกเขาไปสู่แผ่นดินของศัตรูทั้งหลายของพวกเขา ถ้าจิตใจที่ไม่ได้เข้าสุหนัตของพวกเขาได้ถ่อมลง และถ้าพวกเขายอมรับการลงโทษสำหรับการบาปทั้งหลายของพวกเขา
\s5
\p
\v 42 แล้วเราก็จะระลึกถึงพันธสัญญาของเรากับยาโคบ พันธสัญญาของเรากับอิสอัค และพันธสัญญาของเรากับอับราฮัม และเราจะระลึกถึงแผ่นดินนั้น
\v 43 แผ่นดินจะถูกทิ้งไว้ให้ร้างโดยพวกเขา ดังนั้นแผ่นดินจะยินดีกับสะบาโตของแผ่นดินในขณะที่ถูกทิ้งไว้ให้ร้างโดยไม่มีพวกเขา พวกเขาจะต้องได้รับโทษสำหรับความบาปทั้งหลายของพวกเขา เพราะพวกเขาเองปฏิเสธกฎเกณฑ์ของเราและเกลียดชังกฎหมายของเรา
\s5
\p
\v 44 แต่นอกเหนือจากเรื่องทั้งหมดนี้ เมื่อพวกเขาอยู่ในแผ่นดินของเหล่าศัตรู เราจะไม่ปฏิเสธพวกเขา เราจะไม่เกลียดชังพวกเขาจนทำลายพวกเขาให้หมดสิ้นและไม่สนใจพันธสัญญาของเราที่มีกับพวกเขา เพราะเราคือยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขา
\v 45 แต่เพื่อเห็นแก่พวกเขา เราจะระลึกถึงพันธสัญญากับบรรพบุรุษของพวกเขา ผู้ที่เราได้นำออกจากแผ่นดินอียิปต์ต่อหน้าต่อตาบรรดาประชาชาติ เพื่อเราจะได้เป็นพระเจ้าของพวกเขา เราคือยาห์เวห์"
\s5
\p
\v 46 เหล่านี้เป็นบัญญัติ กฎเกณฑ์ และกฎหมายต่างๆ ที่พระยาห์เวห์ได้ทรงกระทำไว้ระหว่างพระองค์เองกับคนอิสราเอลที่ภูเขาซีนายโดยผ่านทางโมเสส
\s5
\c 27
\p
\v 1 พระยาห์เวห์ได้ตรัสแก่โมเสสว่า
\v 2 "จงกล่าวแก่คนอิสราเอลและบอกพวกเขาว่า 'ถ้าผู้ใดปฏิญาณตนเป็นพิเศษต่อพระยาห์เวห์ ให้ใช้การประเมินค่าดังต่อไปนี้
\v 3 มาตรฐานราคาของพวกเจ้าสำหรับผู้ชายหนึ่งคนจากอายุยี่สิบถึงหกสิบปีต้องมีค่าเป็นเงินห้าสิบเชเขล ตามเชเขลของสถานนมัสการ
\s5
\p
\v 4 สำหรับผู้หญิงหนึ่งคนที่มีอายุุช่วงอายุเท่ากัน มาตรฐานราคาของพวกเจ้าต้องมีค่าสามสิบเชเขล
\v 5 จากอายุห้าปีถึงอายุยี่สิบปี มาตรฐานราคาของพวกเจ้าสำหรับผู้ชายต้องมีค่ายี่สิบเชเขลและสำหรับผู้หญิงมีค่าสิบเชเขล
\v 6 จากอายุหนึ่งเดือนจนถึงอายุห้าปี มาตรฐานราคาของพวกเจ้าสำหรับผู้ชายต้องมีค่าเป็นเงินห้าเชเขล และสำหรับผู้หญิงมีค่าเป็นเงินสามเชเขล
\s5
\p
\v 7 จากอายุหกสิบปีขึ้นไป สำหรับผู้ชายคนหนึ่ง มาตรฐานราคาของพวกเจ้าต้องมีค่าสิบห้าเชเขล และสำหรับผู้หญิงคนหนึ่งมีค่าสิบเชเขล
\v 8 แต่ถ้าคนที่ทำการปฏิญาณตนไม่สามารถจ่ายตามราคามาตรฐานได้ ก็ต้องให้คนที่จะถวายไปพบปุโรหิต และปุโรหิตจะตีค่าราคาบุคคลนั้นตามราคาที่ผู้ที่ทำการปฏิญาณตนนั้นสามารถจัดหามาได้
\s5
\p
\v 9 ถ้ามีบางคนต้องการถวายสัตว์ตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาแด่พระยาห์เวห์ และถ้าพระยาห์เวห์ทรงยอมรับเครื่องบูชานั้น สัตว์นั้นก็จะถูกแยกไว้แด่พระองค์
\v 10 คนนั้นต้องไม่เอาอะไรมาแทนหรือสับเปลี่ยนสัตว์ตัวนั้น ไม่ว่าจะเอาตัวที่ไม่ดีมาแทนตัวที่ดีหรือเอาตัวที่ดีมาแทนตัวที่ไม่ดี ถ้าเขาได้เอาตัวหนึ่งมาสับเปลี่ยนอีกตัวหนึ่ง ทั้งตัวที่นำมาเปลี่ยนและตัวที่ถูกสับเปลี่ยนจะกลายเป็นของบริสุทธิ์ทั้งคู่
\s5
\p
\v 11 แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าของถวายที่คนนั้นได้ปฏิญาณที่จะถวายแด่พระยาห์เวห์เป็นของมลทิน พระยาห์เวห์ก็จะไม่ทรงยอมรับของถวายนั้น แล้วคนนั้นต้องนำสัตว์นั้นไปหาปุโรหิต
\v 12 ปุโรหิตจะตีราคาสัตว์นั้นตามราคาตลาดของสัตว์นั้นๆ ไม่ว่าปุโรหิตตีราคาสัตว์นั้นเท่าไรก็จะเป็นราคาของสัตว์นั้น
\v 13 ถ้าเจ้าของต้องการไถ่คืน ก็ต้องเพิ่มราคาอีกหนึ่งในห้าของราคาไถ่
\s5
\p
\v 14 เมื่อผู้ใดถวายบ้านของตนให้เป็นของถวายบริสุทธิ์แด่พระยาห์เวห์ ปุโรหิตก็จะตีราคาทั้งของที่ดีและไม่ดี ไม่ว่าปุโรหิตตีราคาเท่าไรก็จะเป็นไปตามนั้น
\v 15 แต่ถ้าเจ้าของที่ถวายบ้านของตนต้องการไถ่บ้านคืน เขาก็ต้องเพิ่มอีกหนึ่งในห้าของราคาไถ่ถอนบ้านนั้น แล้วบ้านก็จะเป็นของเขา
\s5
\p
\v 16 ถ้าผู้ใดถวายที่ดินบางส่วนของเขา ราคาของที่ดินนั้นจะไปเป็นตามปริมาณของเมล็ดที่ได้หว่านลงไป ข้าวบาร์เล่ย์หนึ่งโฮเมอร์จะมีค่าเท่ากับเงินห้าสิบเชเขล
\v 17 ถ้าเขาถวายที่ดินของเขาในช่วงปีแห่งการเฉลิมฉลอง ที่ดินก็จะมีราคาเต็ม
\v 18 แต่ถ้าเขาถวายที่ดินหลังจากปีแห่งการเฉลิมฉลอง ปุโรหิตก็ต้องคำนวณราคาของที่ดินตามจำนวนปีที่เหลือจนกว่าจะถึงปีแห่งการเฉลิมฉลองในครั้งต่อไป และต้องหักราคานั้นออกเสีย
\s5
\p
\v 19 ถ้าผู้ใดที่ถวายที่ดินนั้นอยากจะไถ่ที่ดินคืน เขาก็ต้องเพิ่มราคาอีกหนึ่งในห้าเข้าไป แล้วที่ดินก็จะเป็นของเขา
\v 20 ถ้าเขาไม่ไถ่ถอนที่ดินคืน หรือถ้าเขาได้ขายที่ดินนั้นให้แก่อีกคนหนึ่ง ก็ไม่สามารถไถ่ที่ดินนั้นคืนได้อีก
\s5
\p
\v 21 แต่เมื่อที่ดินนั้นถูกปลดปล่อยในปีแห่งการเฉลิมฉลอง ก็จะตกเป็นของถวายบริสุทธิ์แด่พระยาห์เวห์แทน เหมือนเป็นที่ดินที่ได้ถวายแด่พระยาห์เวห์อย่างสมบูรณ์ ที่ดินนั้นจะเป็นกรรมสิทธิ์ของปุโรหิต
\v 22 ถ้าผู้ใดถวายที่ดินที่เขาได้ซื้อไว้ แต่ที่ดินนั้นไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งจากที่ดินของครอบครัวของเขา
\s5
\p
\v 23 แล้วปุโรหิตก็จะประเมินราคาที่ดินไปจนถึงปีแห่งการเฉลิมฉลอง และผู้นั้นต้องจ่ายราคาที่ดินในวันนั้นให้เป็นของถวายบริสุทธิ์แด่พระยาห์เวห์
\v 24 ในปีแห่งการเฉลิมฉลองที่ดินนั้นก็จะกลับคืนให้แก่คนที่เขาได้ไปซื้อมา แก่เจ้าของที่ดินเดิม
\v 25 การประเมินราคาทั้งหมดต้องเป็นไปตามน้ำหนักเชเขลของสถานนมัสการ ยี่สิบเก-ราห์ต้องมีค่าเท่ากับหนึ่งเชเขล
\s5
\p
\v 26 ไม่ให้ใครเอาลูกสัตว์หัวปีจากฝูงมาถวาย เพราะลูกสัตว์หัวปีเป็นของพระยาห์เวห์อยู่แล้ว ไม่ว่าโคหรือแกะ สัตว์นั้นเป็นของพระยาห์เวห์
\v 27 ถ้าเป็นสัตว์ที่เป็นมลทิน เจ้าของก็สามารถซื้อกลับคืนได้ตามราคาของมัน และต้องเพิ่มราคาอีกหนึ่งในห้า ถ้าสัตว์นั้นไม่ถูกไถ่คืน ก็จะถูกขายตามราคาที่กำหนดไว้
\s5
\p
\v 28 แต่อะไรที่เขาอุทิศถวายแด่พระยาห์เวห์ จากทุกสิ่งที่เขามีไม่ว่าเป็นคนหรือสัตว์ หรือที่ดินของครอบครัว จะถูกขายหรือถูกไถ่ถอนไม่ได้ ทุกสิ่งที่ได้อุทิศถวายเป็นสิ่งบริสุทธิ์ที่สุดแด่พระยาห์เวห์
\v 29 ไม่มีการจ่ายค่าไถ่ถอนสำหรับคนที่ถูกมอบไว้เพื่อให้ถูกทำลาย คนนั้นต้องมีโทษถึงตาย
\s5
\p
\v 30 สิบลดทั้งหมดของแผ่นดิน ไม่ว่าเป็นเมล็ดข้าวบนแผ่นดินหรือผลจากต้นไม้ต่างๆ เป็นของพระยาห์เวห์ เป็นของบริสุทธิ์แด่พระยาห์เวห์
\v 31 ถ้าคนใดไถ่ถอนสิบลดใดๆ ของเขา เขาต้องเพิ่มราคาเข้าไปอีกหนึ่งในห้า
\v 32 และทุกตัวที่สิบตัวของฝูงโคหรือฝูงแพะแกะ ไม่ว่าอะไรที่ผ่านการถูกนับด้วยไม้เท้าของผู้เลี้ยงแกะ หนึ่งในสิบนั้นต้องถวายแด่พระยาห์เวห์
\s5
\p
\v 33 ผู้เลี้ยงแกะต้องไม่มองหาสัตว์ที่ดีกว่าหรือแย่กว่า และเขาต้องไม่สับเปลี่ยนกับอีกตัวหนึ่ง ถ้าเขาสับเปลี่ยน ทั้งตัวที่นำมาเปลี่ยนและตัวที่ถูกสับเปลี่ยนก็จะเป็นของบริสุทธิ์ ไม่สามารถไถ่ถอนได้'"
\v 34 เหล่านี้เป็นพระบัญญัติต่างๆ ที่พระยาห์เวห์ประทานให้แก่โมเสสสำหรับคนอิสราเอลที่ภูเขาซีนาย