forked from WA-Catalog/th_ulb
614 lines
176 KiB
Plaintext
614 lines
176 KiB
Plaintext
|
\id DAN Unlocked Literal Bible
|
||
|
\ide UTF-8
|
||
|
\h DANIEL
|
||
|
\toc1 Daniel
|
||
|
\toc2 Daniel
|
||
|
\toc3 dan
|
||
|
\mt1 DANIEL
|
||
|
|
||
|
|
||
|
\s5
|
||
|
\c 1
|
||
|
\p
|
||
|
\v 1 ในปีที่สามของรัชกาลเยโฮยาคิม กษัตริย์ของยูดาห์ เนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์ของบาบิโลนได้เสด็จมายังกรุงเยรูซาเล็ม และได้ทรงล้อมเมืองไว้เพื่อเป็นการตัดเสบียงทั้งหมดที่จะผ่านเข้าไปในเมือง
|
||
|
\v 2 องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงมอบชัยชนะให้แก่เนบูคัดเนสซาร์เหนือเยโฮยาคิมกษัตริย์ของยูดาห์ และพระองค์ได้ทรงมอบวัตถุศักดิ์สิทธิ์บางชิ้นจากพระนิเวศของพระเจ้า เนบูคัดเนสซาร์ก็ได้นำวัตถุเหล่านั้นมายังแผ่นดินบาบิโลน มายังนิเวศแห่งพระของพระองค์ และได้ทรงวางวัตถุศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นไว้ในคลังของพระของพระองค์
|
||
|
\s5
|
||
|
\v 3 กษัตริย์ได้ทรงบัญชาอัชเปนัสหัวหน้าข้าราชการของพระองค์ไปนำคนอิสราเอลบางคน ทั้งเชื้อพระวงศ์และเชื้อสายขุนนาง
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 4 พวกหนุ่มๆ ที่ปราศจากตำหนิ มีรูปร่างหน้าตาดี เชี่ยวชาญในสรรพปัญญา มีความรู้ ความเข้าใจ และความสามารถที่จะรับใช้ในพระราชวังของกษัตริย์ พระองค์ทรงให้สอนวรรณคดีและภาษาของคนบาบิโลนแก่พวกเขา
|
||
|
\v 5 กษัตริย์ได้ทรงกำหนดอาหารประณีตสูงและเหล้าองุ่นซึ่งกษัตริย์เสวยแก่เขาเหล่านั้นทุกวัน พวกคนหนุ่มเหล่านี้ได้รับการฝึกฝนอยู่สามปี และหลังจากที่ครบกำหนดเวลานั้นแล้ว พวกเขาก็ได้เข้ารับใช้กษัตริย์
|
||
|
\v 6 ในบรรดาคนเหล่านั้น มีคนดาเนียล ฮานันยาห์ มิชาเอล และอาซาริยาห์ และประชาชนคนอื่นๆ ของยูดาห์
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 7 หัวหน้าเจ้าหน้าที่ได้ตั้งชื่อใหม่ให้พวกเขา ดาเนียลนั้นได้เรียกว่าเบลเทชัสซาร์ ฮานันยาห์ได้เรียกว่าชัดรัค มิชาเอลได้เรียกว่าเมชาค และอาซาริยาห์ได้เรียกว่าอาเบดเนโก
|
||
|
\v 8 แต่ดาเนียลได้ตั้งใจว่าจะไม่ทำให้ตัวเป็นมลทินด้วยอาหารประณีตของกษัตริย์ หรือด้วยเหล้าองุ่นซึ่งพระองค์เสวย ดังนั้นเขาจึงได้ขออนุญาตหัวหน้าข้าราชการเพื่อเขาจะไม่ทำตัวเองเป็นมลทิน
|
||
|
\v 9 บัดนี้พระเจ้าได้ประทานความชื่นชอบและเห็นใจดาเนียลโดยผ่านความนับถือที่หัวหน้าข้าราชการมีต่อเขา
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 10 หัวหน้าข้าราชการได้กล่าวแก่ดาเนียลว่า “ข้าเกรงกลัวกษัตริย์นายของข้า พระองค์ได้ทรงกำหนดอาหารและเครื่องดื่มที่พวกเจ้าควรได้บริโภค เพราะเหตุใดจะให้พระองค์ทรงทอดพระเนตรว่า พวกเจ้ามีหน้าตาซูบซีดกว่าบรรดาคนหนุ่มอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน? กษัตริย์อาจจะตัดหัวข้าเพราะพวกเจ้า"
|
||
|
\v 11 แล้วดาเนียลได้กล่าวแก่มหาดเล็กผู้ที่หัวหน้าข้าราชการกำหนดให้ดูแลดาเนียล ฮานันยาห์ มิชาเอล และอาซาริยาห์
|
||
|
\v 12 เขาได้กล่าวว่า “ขอทดสอบกับพวกเรา ผู้รับใช้ของท่านสักสิบวัน ขอนำผักต่างๆ มาให้เรากินและน้ำมาให้เราดื่มก็พอแล้ว
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 13 แล้วให้ตรวจดูหน้าตาของเรา เทียบกับหน้าตาของบรรดาคนหนุ่มผู้ที่รับประทานอาหารประณีตของกษัตริย์ และจงปฎิบัติกับพวกเรา ผู้รับใช้ของท่าน จากสิ่งที่ท่านได้เห็น”
|
||
|
\v 14 ดังนั้นมหาดเล็กก็เห็นด้วยกับเขาที่จะทำสิ่งนี้ และเขาได้ทดสอบพวกเขาเป็นเวลาสิบวัน
|
||
|
\v 15 เมื่อครบสิบวันแล้วรูปร่างหน้าตาของพวกเขาก็ดูดีกว่า และเนื้อหนังเปล่งปลั่งกว่าบรรดาคนหนุ่มที่รับประทานอาหารประณีตของกษัตริย์
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 16 ดังนั้นมหาดเล็กจึงเอาอาหารประณีตส่วนของพวกเขา และเหล้าองุ่นซึ่งเขาควรจะได้ดื่มนั้นไปเสีย แล้วให้พวกเขาเพียงแต่ผักเท่านั้น
|
||
|
\v 17 สำหรับพวกคนหนุ่มทั้งสี่คนนี้ พระเจ้าได้ประทานความรู้ และความเข้าใจในวรรณกรรมทั้งปวง และปัญญา และดาเนียลก็ได้สามารถเข้าใจนิมิตและความฝันทุกอย่าง
|
||
|
\v 18 พอถึงกำหนดเวลาที่กษัตริย์ทรงบัญชาให้นำเขาทั้งหลายเข้าเฝ้า หัวหน้าข้าราชการจึงนำพวกเขาทั้งหลายเข้ามาเฝ้าเนบูคัดเนสซาร์
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 19 กษัตริย์ก็ได้ตรัสกับพวกเขา ในบรรดาคนหนุ่มเหล่านั้นไม่พบสักคนหนึ่งที่เปรียบเทียบดาเนียล ฮานันยาห์ มิชาเอล และซาริยาห์ได้ พวกเขาได้ยืนต่อพระพักตร์กษัตริย์ พร้อมที่จะรับใช้พระองค์
|
||
|
\v 20 ในบรรดาคำถามทุกอย่างเกี่ยวกับปัญญาและความรอบรู้ที่กษัตริย์ได้ตรัสถามพวกเขา พระองค์ได้ทรงเห็นว่าพวกเขาดีกว่าพวกโหรและพวกที่พูดกับคนตายทั้งหมดซึ่งอยู่ในอาณาจักรของพระองค์สิบเท่า
|
||
|
\v 21 ดาเนียลก็ได้อยู่ที่นั่นเรื่อยมาจนถึงปีแรกของกษัตริย์ไซรัส
|
||
|
\s5
|
||
|
\c 2
|
||
|
\p
|
||
|
\v 1 ในปีที่สองของรัชกาลเนบูคัดเนสซาร์ พระองค์ได้ทรงพระสุบิน พระองค์ได้ทรงทุกข์พระทัย และพระองค์ทรงไม่อาจบรรทมหลับได้ แล้วกษัตริย์จึงได้ทรงบัญชาให้เรียกเหล่านักวิทยาคม และคนเหล่านั้นที่ได้อ้างว่าพูดกับคนตายได้
|
||
|
\v 2 พระองค์ได้ทรงเรียกผู้มีเวทมนตร์คาถาและเหล่านักปราชญ์เข้ามาด้วย พระองค์ได้ทรงประประสงค์ให้พวกเขาทูลพระองค์เกี่ยวกับเรื่องที่ได้ทรงสุบิน ดังนั้นเขาทั้งหลายก็ได้เข้ามาเฝ้ากษัตริย์
|
||
|
\v 3 กษัตริย์ได้ตรัสกับพวกเขาว่า “เราได้ฝัน และจิตใจของเราก็กระวนกระวายอยากรู้ว่าความหมายของสิ่งที่ได้ฝัน”
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 4 แล้วพวกนักปราชญ์ได้ทูลกษัตริย์เป็นภาษาอาราเมคว่า “ข้าแต่กษัตริย์ ขอทรงพระเจริญเป็นนิตย์ ขอเล่าพระสุบินแก่พวกข้าพระองค์ บรรดาผู้รับใช้ของพระองค์ และเหล่าข้าพระองค์จะได้ถวายคำแก้พระสุบิน”
|
||
|
\v 5 กษัตริย์ได้ทรงตอบพวกนักปราชญ์ว่า “เรื่องนี้ได้ตัดสินแล้วว่า ถ้าเจ้าไม่เปิดเผยความฝันให้เรารู้พร้อมทั้งคำแก้ฝัน ร่างของเจ้าจะถูกฉีกออกจากกัน และบ้านเรือนของเจ้าจะถูกทำให้เป็นกองขยะ
|
||
|
\v 6 แต่ถ้าเจ้าเปิดเผยความฝันและคำแก้ฝันให้เรา เจ้าจะได้รับของขวัญจากเรา ได้รับรางวัล และได้รับเกียรติยศยิ่งใหญ่ ดังนั้นจงเปิดเผยความฝันและคำแก้ฝันให้เรา”
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 7 เขาทั้งหลายได้ทูลอีกครั้งว่า “ขอกษัตริย์ทรงเล่าพระสุบินแก่พวกข้าพระองค์ บรรดาผู้รับใช้ของพระองค์ และเหล่าข้าพระองค์จะถวายคำแก้พระสุบิน”
|
||
|
\v 8 กษัตริย์ได้ทรงตอบว่า “เรารู้แน่แล้วว่า พวกเจ้าพยายามจะถ่วงเวลาไว้ เพราะเจ้าเห็นว่าการตัดสินใจของเราเกี่ยวกับเรื่องนี้เด็ดขาด
|
||
|
\v 9 แต่ถ้าเจ้าไม่ได้บอกความฝันให้เราได้รู้ ก็มีคำตัดสินเจ้าอยู่ข้อเดียว พวกเจ้าได้ตัดสินใจที่จะเตรียมคำเท็จและพูดหลอกลวงต่อเราที่พวกเจ้าได้ตกลงกันว่าจะพูดกับเราจนกว่าเราจะเปลี่ยนใจของเรา ดังนั้นแล้ว จงบอกความฝันแก่เรา และเราจะรู้ว่าเจ้าแก้ความฝันให้เราได้”
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 10 พวกนักปราชญ์จึงได้ทูลกษัตริย์ว่า “ไม่มีใครในแผ่นดินจะสามารถตอบสนองพระประสงค์ของกษัตริย์ได้ เพราะว่าไม่มีกษัตริย์ยิ่งใหญ่และทรงฤทธิ์องค์ใดมีพระประสงค์เช่นนี้จากนักเวทย์มนต์ หรือจากผู้ใดก็ตามที่อ้างว่าได้พูดกับคนตาย หรือจากนักปราชญ์
|
||
|
\v 11 สิ่งซึ่งกษัตริย์ได้ทรงพระประสงค์นั้นยาก และไม่มีใครจะสามารถทูลกษัตริย์ได้นอกจากบรรดาเทพเจ้าและพวกเขาผู้ไม่ได้อยู่กับเหล่ามนุษย์”
|
||
|
\v 12 เรื่องนี้ทำให้กษัตริย์กริ้วและทรงพระพิโรธยิ่งนัก และพระองค์ทรงได้มีรับสั่งให้ประหารคนเหล่านั้นในบาบิโลนผู้ซึ่งมีชื่อเสียงในความเฉลียวฉลาดของพวกเขา
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 13 ดังนั้นจึงได้มีพระราชกฤษฎีกาประกาศไปว่าคนเหล่านั้นทั้งหมดที่มีชื่อเสียงในความเฉลียวฉลาดต้องถูกฆ่าตาย เพราะพระราชกฤษฎีกานี้ พวกเขาจึงได้ตามหาดาเนียลและเพื่อนๆ เพื่อจะนำพวกเขาไปประหารชีวิต
|
||
|
\v 14 แล้วดาเนียลก็ได้ตอบด้วยความรอบคอบและฉลาดต่ออารีโอคหัวหน้าราชองครักษ์ของกษัตริย์ ผู้มาประหารคนเหล่านั้นในบาบิโลนที่มีชื่อเสียงในความเฉลียวฉลาดของพวกเขา
|
||
|
\v 15 ดาเนียลได้ถามหัวหน้าราชองครักษ์ของกษัตริย์ว่า "ทำไมพระราชกฤษฎีกาของกษัตริย์จึงเร่งด่วนนัก?” ดังนั้นอารีโอคก็ได้บอกให้ดาเนียลรู้ว่าได้มีอะไรเกิดขึ้น
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 16 แล้วดาเนียลก็ได้ไปและได้ขอกำหนดการเข้าเฝ้ากษัตริย์เพื่อเขาสามารถจะถวายคำแก้พระสุบินแด่กษัตริย์
|
||
|
\v 17 แล้วดาเนียลก็ได้ไปบ้านของเขาและได้อธิบายแก่ฮานันยาห์ มิชาเอล และอาซาริยาห์ว่าได้มีสิ่งใดเกิดขึ้น
|
||
|
\v 18 เขาได้ขอให้พวกเขาให้ทูลขอพระกรุณาจากพระเจ้าแห่งฟ้าเกี่ยวกับเรื่องความลึกลับนี้ เพื่อที่ดาเนียลและเพื่อนของเขาจะไม่ถูกฆ่าพร้อมกับบรรดาคนอื่นๆ ของบาบิโลนผู้มีชื่อเสียงในความเฉลียวฉลาด
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 19 ในคืนนั้นความลึกลับได้เปิดเผยแก่ ดาเนียลในนิมิต แล้วดาเนียลก็ถวายสาธุการแด่พระเจ้าแห่งฟ้า
|
||
|
\v 20 และได้กล่าวว่า “สาธุการแด่พระนามของพระเจ้า สืบไป และสืบไป เพราะพระปัญญาและฤทธานุภาพเป็นของพระองค์
|
||
|
\v 21 พระองค์ทรงเปลี่ยนเวลาและฤดูกาลต่างๆ พระองค์ทรงถอดบรรดากษัตริย์และทรงตั้งบรรดากษัตริย์บนบัลลังก์ของพระองค์ พระองค์ประทานปัญญาแก่นักปราชญ์ และความรู้แก่คนเหล่านั้นที่มีความเข้าใจ
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 22 พระองค์ทรงเปิดเผยสิ่งที่ลึกและสิ่งที่ได้ถูกปกปิดไว้ เพราะพระองค์ทรงทราบสิ่งที่อยู่ในความมืด และความสว่างก็อยู่กับพระองค์
|
||
|
\v 23 พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ขอบพระคุณและสรรเสริญพระองค์ สำหรับปัญญาและพลังที่ได้ประทานแก่ข้าพระองค์ บัดนี้ พระองค์ได้ทรงให้ข้าพระองค์ได้ทราบสิ่งที่พวกข้าพระองค์ทูลขอต่อพระองค์ พระองค์ก็ทรงให้ข้าพระองค์ทราบแล้วเกี่ยวกับเรื่องที่กษัตริย์ทรงกังวล"
|
||
|
\v 24 แล้วดาเนียลก็ได้ไปหาอารีโอค (ผู้ซึ่งกษัตริย์ทรงแต่งตั้งให้ประหารนักปราชญ์ของบาบิโลน) ดาเนียลได้ไปและได้กล่าวกับเขาว่า “ขออย่าประหารนักปราชญ์ในบาบิโลน ให้นำข้าพเจ้าเข้าเฝ้ากษัตริย์ และข้าพเจ้าจะถวายคำแก้ฝันแก่พระองค์”
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 25 แล้วอารีโอคก็ได้รีบนำดาเนียลเข้าเฝ้ากษัตริย์ และได้ทูลพระองค์ว่า “ข้าพระองค์ได้พบชายคนหนึ่งในพวกที่ถูกกวาดเป็นเชลยจากยูดาห์ผู้ชายผู้ที่จะแก้พระสุบินของกษัตริย์ได้”
|
||
|
\v 26 กษัตริย์จึงได้ตรัสแก่ดาเนียล (ผู้มีชื่อว่าเบลเทชัสซาร์) ว่า “เจ้าสามารถให้เรารู้ถึงความฝันที่เราได้ฝันและความหมายได้หรือ?”
|
||
|
\v 27 ดาเนียลได้ทูลกษัตริย์ว่า “ความลึกลับที่กษัตริย์ได้ทรงกล่าวถึงนั้นไม่มีนักปราชญ์ หรือคนเหล่านั้นที่อ้างว่าพูดกับคนตายได้ หรือนักมายากล หรือนักโหราศาสตร์จะสามารถแก้พระสุบินของพระองค์ได้
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 28 อย่างไรก็ตาม มีพระเจ้าองค์หนึ่งในฟ้าผู้ทรงเปิดเผยความลึกลับทั้งหลาย และพระองค์ทรงให้พระองค์กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ได้รู้ถึงสิ่งซึ่งจะเกิดขึ้นในอนาคตที่กำลังจะถึงนี้ นี่คือความฝันและนิมิตที่ผุดขึ้นในพระเศียรของพระองค์บนพระแท่นบรรทมของพระองค์
|
||
|
\v 29 ข้าแต่กษัตริย์ ขณะเมื่อพระองค์บรรทมพระแท่น พระดำริเรื่องสิ่งซึ่งจะเกิดในอนาคตได้ผุดขึ้น และพระองค์นั้นผู้ทรงเปิดเผยความลึกลับก็ทรงให้พระองค์ทรงรู้ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น
|
||
|
\v 30 ส่วนข้าพระองค์นั้น ความลึกลับนี้ไม่ได้รับการเปิดเผยต่อข้าพระองค์ ไม่ใช่เพราะว่าสติปัญญาที่ข้าพระองค์มีอยู่มากกว่าคนอื่นๆ ที่ยังมีชีวิตอยู่ ความลึกลับนี้ได้เปิดเผยต่อข้าพระองค์ก็เพื่อที่พระองค์ กษัตริย์จะรู้คำแก้พระสุบิน และเพื่อพระองค์จะเข้าใจพระดำริในพระทัยของพระองค์
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 31 “ข้าแต่กษัตริย์ พระองค์ทรงได้ทบทวน และพระองค์ทรงทอดพระเนตรปฏิมากรขนาดใหญ่ ปฏิมากรนี้ ซึ่งมีอำนาจมากและสุกใสยิ่งนัก ได้ตั้งอยู่เฉพาะพระพักตร์พระองค์ ความสดใสของมันน่ากลัวยิ่ง
|
||
|
\v 32 หัวของปฏิมากรนี้ได้ทำด้วยทองนพคุณ หน้าอกและแขนเป็นเงิน ส่วนตรงกลางท้องและโคนขาเป็นทองสัมฤทธิ์
|
||
|
\v 33 และส่วนขาได้ทำด้วยเหล็ก ส่วนเท้าทั้งสองข้างของมันเป็นเหล็กส่วนหนึ่งและดินเหนียวส่วนหนึ่ง
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 34 ขณะพระองค์ได้ทรงทบทวน และมีหินก้อนหนึ่งได้ถูกตัดออกมาแม้ว่าไม่ใช่ด้วยมือมนุษย์ หินนั้นกระทบปฏิมากรที่เท้าอันเป็นเหล็กปนดินเหนียว ทำให้มันแตกเป็นชิ้นๆ
|
||
|
\v 35 แล้วส่วนเหล็ก ดินเหนียว ทองสัมฤทธิ์ เงิน และทองคำ ก็แตกเป็นชิ้นๆ พร้อมกัน กลายเป็นเหมือนแกลบจากลานนวดข้าวในฤดูร้อน ลมก็พัดพาเอาไปทั่ว จึงหาร่องรอยของมันไม่พบอีกเลย แต่ก้อนหินที่กระทบปฏิมากรนั้นกลายเป็นภูเขาใหญ่จนเต็มพิภพ
|
||
|
\v 36 นี่เป็นพระสุบิน บัดนี้เหล่าข้าพระองค์ขอกราบทูลคำแก้พระสุบินให้กษัตริย์ทรงทราบ
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 37 ข้าแต่กษัตริย์ พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์เหนือกษัตริย์ทั้งหลาย ผู้ซึ่งพระเจ้าแห่งฟ้าได้ประทานราชอาณาจักร อานุภาพ ฤทธิ์เดช และเกียรติยศ
|
||
|
\v 38 พระเจ้าได้ทรงมอบไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์สถานที่ที่มนุษย์ได้อาศัยอยู่ พระเจ้าได้ทรงมอบให้ปกครองบรรดาสัตว์แห่งท้องทุ่ง และบรรดานกในท้องฟ้าไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์ แล้วพระองค์ทรงมอบให้พระองค์ทรงปกครองทุกสิ่งทุกอย่าง พระองค์คือเศียรทองคำนั้น
|
||
|
\v 39 ต่อจากพระองค์ไป จะมีราชอาณาจักรด้อยกว่าของพระองค์ปรากฏขึ้น และยังมีราชอาณาจักรที่สามเป็นทองสัมฤทธิ์ ซึ่งจะปกครองอยู่ทั่วพิภพ
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 40 จะมีราชอาณาจักรที่สี่ แข็งแรงดั่งเหล็ก เพราะว่าเหล็กตีสิ่งทั้งหลายให้หักและแตกเป็นชิ้นๆ อย่างไร ราชอาณาจักรนั้นจะหักและทุบสิ่งเหล่านี้ดังเหล็กซึ่งทุบให้แหลกอย่างนั้น
|
||
|
\v 41 ดังที่พระองค์ได้ทรงทอดพระเนตร บรรดาเท้าและนิ้วเท้าเป็นดินเหนียวของช่างปั้นหม้อบ้าง เหล็กบ้าง ดังนั้นจะเป็นราชอาณาจักรที่ถูกแยก แต่ความแข็งของเหล็กจะยังอยู่ในนั้นบ้าง ดังที่พระองค์ได้ทรงทอดพระเนตรเหล็กปนดินเหนียว
|
||
|
\v 42 และนิ้วของบรรดาเท้าเป็นเหล็กปนดินอย่างไร ราชอาณาจักรนั้นจึงแข็งแรงบ้างเปราะบ้างอย่างนั้น
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 43 ดังที่พระองค์ได้ทรงทอดพระเนตรเหล็กปนดินเหนียว ดังนั้นประชาชนจะผสมปนเปกัน พวกเขาจะไม่ยึดกันแน่น เช่นเดียวกับที่เหล็กไม่ประสมเข้ากับดิน
|
||
|
\v 44 ในสมัยของกษัตริย์เหล่านั้น พระเจ้าแห่งฟ้าจะทรงสถาปนาราชอาณาจักรหนึ่ง ซึ่งไม่มีวันถูกทำลาย หรือถูกเอาชนะโดยชนชาติอื่น ราชอาณาจักรนั้นจะทำให้ราชอาณาจักรเหล่านี้ทั้งหมดแตกเป็นชิ้นๆ และให้อาณาจักรเหล่านั้นสูญสิ้นไป และราชอาณาจักรนั้นจะตั้งมั่นอยู่เป็นนิตย์
|
||
|
\v 45 ดังที่พระองค์ได้ทอดพระเนตรก้อนหินถูกตัดออกจากภูเขา ไม่ใช่ด้วยมือมนุษย์ และก้อนหินนั้นได้ทำให้เหล็ก ทองสัมฤทธิ์ ดินเหนียว เงิน และทองคำแตกเป็นเสี่ยงๆ พระเจ้ายิ่งใหญ่ได้ทรงให้กษัตริย์ทรงรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ พระสุบินนั้นเป็นจริง และคำแก้พระสุบินนั้นก็เชื่อถือได้”
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 46 กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ก็ทรงซบพระพักตร์ลงต่อดาเนียลและให้เกียรติเขา พระองค์ทรงบัญชาให้นำเครื่องบูชาและเครื่องหอมมาให้ดาเนียล
|
||
|
\v 47 กษัตริย์ได้ตรัสกับดาเนียลว่า “แน่นอนทีเดียว พระเจ้าของท่านทรงเป็นพระเจ้าเหนือเทพเจ้าทั้งหลาย และทรงเป็นพระผู้เป็นเจ้าเหนือกษัตริย์ทั้งปวง ทรงเป็นผู้เปิดเผยความลึกลับ เพราะท่านสามารถเปิดเผยความลึกลับนี้ได้”
|
||
|
\v 48 แล้วกษัตริย์ทรงให้ดาเนียลได้รับเกียรติอย่างสูง และประทานของกำนัลใหญ่จำนวนมาก อีกทั้งทรงแต่งตั้งให้เป็นผู้ครอบครองมณฑลทั้งหมดของบาบิโลน ดาเนียลได้เป็นประธานผู้ว่าการของยอดนักปราชญ์สิ้นของบาบิโลน
|
||
|
\v 49 ดาเนียลก็ได้ทูลขอต่อกษัตริย์ และกษัตริย์ได้ทรงตั้งชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโก เป็นผู้บริหารทั่วมณฑลบาบิโลน แต่ดาเนียลยังคงอยู่ในพระราชวังของกษัตริย์
|
||
|
\s5
|
||
|
\c 3
|
||
|
\p
|
||
|
\v 1 กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ทรงสร้างปฏิมากรทองคำสูงหกสิบศอก กว้างหกศอก พระองค์ได้ทรงตั้งปฎิมากรนี้ไว้ที่ราบดูราในมณฑลบาบิโลน
|
||
|
\v 2 แล้วกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ได้ทรงรับสั่งให้ประชุมพวกผู้ว่าการมณฑล ผู้ว่าการเขต และผู้ว่าการท้องถิ่น พร้อมด้วยองคมนตรี นายคลัง ผู้พิพากษา ตุลาการ และบรรดาเจ้าหน้าที่ชั้นสูงของมณฑล ให้เข้ามาในงานฉลองปฏิมากรซึ่งกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ได้ทรงตั้งขึ้น
|
||
|
\v 3 แล้วพวกผู้ว่าการมณฑล ผู้ว่าการเขต และผู้ว่าการท้องถิ่น พร้อมด้วยองคมนตรี นายคลัง ผู้พิพากษา ตุลาการ และบรรดาเจ้าหน้าที่ชั้นสูงของมณฑลได้เข้ามาประชุมเพื่องานฉลองปฏิมากร ซึ่งกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ได้ทรงตั้งขึ้น พวกเขาทั้งหลายได้มายืนอยู่ต่อหน้าปฎิมากรนั้น
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 4 แล้วโฆษกได้ประกาศเสียงดังว่า “บรรดาประชาชนทั้งหลาย ทุกชาติ และทุกภาษา พวกท่านได้รับพระราชโองการมายังชนทุกชาติทุกเผ่าทุกภาษา
|
||
|
\v 5 เมื่อท่านทั้งหลายได้ยินเสียงเป่าเขาสัตว์ ขลุ่ย พิณเขาคู่ พิณสี่สาย พิณใหญ่ ปี่ถุง และเครื่องดนตรีทุกชนิด พวกท่านจะต้องกราบลงนมัสการปฏิมากรทองคำ ซึ่งกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ได้ทรงตั้งไว้
|
||
|
\v 6 ผู้ใดไม่กราบลงนมัสการในเวลานั้น ก็จะต้องถูกโยนเข้าไปในเตาที่ไฟลุกอยู่”
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 7 ดังนั้นเมื่อประชาชนทุกคนได้ยินเสียงเป่าเขาสัตว์ ขลุ่ย พิณเขาคู่ พิณสี่สาย พิณใหญ่ ปี่ถุง และเครื่องดนตรีทุกชนิด ประชาชนทุกชาติทุกเผ่าทุกภาษาก็ได้ก้มกราบนมัสการปฏิมากรทองคำซึ่งกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ได้ทรงตั้งไว้
|
||
|
\v 8 บัดนั้น ในเวลานั้นพวกเคลเดียบางคนได้มาเข้ามาและนำข้อกล่าวหาต่อพวกยิวทั้งหลาย
|
||
|
\v 9 พวกเขาได้ทูลกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ว่า “ข้าแต่กษัตริย์ขอทรงพระเจริญเป็นนิตย์
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 10 ข้าแต่กษัตริย์ พระองค์ได้ทรงออกพระราชกฤษฎีกาแล้วว่า ทุกคนที่ได้ยินเสียงเป่าเขาสัตว์ ขลุ่ย พิณเขาคู่ พิณสี่สาย พิณใหญ่ ปี่ถุง และเครื่องดนตรีทุกชนิด จะต้องก้มกราบนมัสการปฏิมากรทองคำ
|
||
|
\v 11 ผู้ใดก็ตามที่ไม่กราบลงนมัสการก็จะต้องถูกโยนเข้าไปในเตาที่ไฟลุกโชนอยู่
|
||
|
\v 12 บัดนี้มีคนยิวบางคนที่พระองค์ได้ทรงแต่งตั้งให้เป็นผู้บริหารมณฑลบาบิโลนคือ ชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโก ข้าแต่กษัตริย์ พวกคนเหล่านี้ไม่ได้เชื่อฟังพระราชกฤษฎีกาของพระองค์ พวกเขาไม่ยอมนมัสการหรือปรนนิบัติบรรดาเทวรูปของพระองค์ หรือหมอบกราบต่อปฏิมากรทองคำซึ่งพระองค์ได้ทรงตั้งไว้”
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 13 แล้วเนบูคัดเนสซาร์จึงกริ้วจัด ได้ทรงมีรับสั่งให้นำตัวชัดรัค เมชาคและอาเบดเนโกเข้ามาเฝ้าพระองค์ แล้วพวกเขานำคนเหล่านี้เข้ามาเฝ้ากษัตริย์
|
||
|
\v 14 กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ตรัสแก่เขาว่า “พวกเจ้าเปลี่ยนใจหรือยัง ชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโก ที่เจ้าไม่ยอมปรนนิบัติบรรดาพระของเราหรือนมัสการปฏิมากรทองคำซึ่งเราได้ตั้งไว้?
|
||
|
\v 15 บัดนี้ถ้าเจ้าพร้อมแล้ว พอเจ้าได้ยินเสียงเป่าเขาสัตว์ ขลุ่ย พิณเขาคู่ พิณสี่สาย พิณใหญ่ ปี่ถุง และเครื่องดนตรีทุกชนิด เจ้าจงกราบนมัสการปฏิมากรซึ่งเราได้สร้างไว้ ทุกอย่างจะดี แต่ถ้าเจ้าไม่นมัสการ เจ้าจะถูกโยนลงไปในเตาที่ไฟลุกโชนทันที แล้วเทพเจ้าองค์ไหนจะช่วยกู้เจ้าให้พ้นจากมือของเราได้?”
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 16 ชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกทูลกษัตริย์ว่า “ข้าแต่เนบูคัดเนสซาร์ ข้าพระองค์ทั้งหลายไม่จำเป็นจะต้องตอบพระองค์ในเรื่องนี้
|
||
|
\v 17 ข้าแต่กษัตริย์ ถ้าพระเจ้าของพวกข้าพระองค์ ผู้ซึ่งพวกข้าพระองค์ได้ปรนนิบัตินั้น พอพระทัยจะช่วยกู้พวกข้าพระองค์ให้พ้นจากเตาที่ไฟลุกโชนอยู่ และพระองค์ก็จะทรงช่วยกู้พวกข้าพระองค์ให้พ้นจากพระหัตถ์ของพระองค์
|
||
|
\v 18 แต่ถ้าไม่เป็นเช่นนั้น ข้าแต่กษัตริย์ ขอพระองค์ทรงทราบว่า พวกข้าพระองค์จะไม่ปรนนิบัติพระของพระองค์ และพวกข้าพระองค์จะไม่นมัสการปฏิมากรทองคำซึ่งพระองค์ได้ทรงตั้งขึ้นนั้น"
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 19 แล้วเนบูคัดเนสซาร์ทรงเกรี้ยวกราดยิ่งนัก พระพักตร์ของพระองค์จึงแสดงความไม่พอพระทัยชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโก พระองค์ได้ทรงมีรับสั่งให้ทำเตาไฟให้ร้อนกว่าปกติอีกเจ็ดเท่า
|
||
|
\v 20 แล้วพระองค์ทรงมีรับสั่งให้ทหารที่มีกำลังมากในกองทัพมามัดตัวชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโก และให้โยนพวกเขาเข้าไปในเตาที่ไฟลุกโชนอยู่
|
||
|
\v 21 พวกเขาถูกมัดไว้ขณะที่ยังสวมเสื้อคลุม กางเกง หมวก และเครื่องแต่งกายอื่นๆ และพวกเขาก็ถูกโยนเข้าไปในเตาที่ไฟที่กำลังลุกโชนอยู่
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 22 เนื่องจากพระบัญชาของกษัตริย์นั้นได้ถูกปฏิบัติตามอย่างเข้มงวดมาก และเตาไฟก็ร้อนจัด เปลวไฟจึงได้ฆ่าคนที่อุ้มชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโก
|
||
|
\v 23 ผู้ชายทั้งสามคนนี้คือ ชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกได้ตกลงไปในเตาไฟที่ลุกโชนอยู่ทั้งๆ ที่ยังถูกมัด
|
||
|
\v 24 แล้วกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ทรงประหลาดพระทัย และได้ทรงลุกขึ้นโดยฉับพลัน พระองค์ตรัสกับบรรดาองคมนตรีของพระองค์ว่า “เราได้มัดสามคนโยนเข้าไปในเตาไฟไม่ใช่หรือ?” พวกเขาทูลตอบกษัตริย์ว่า “ข้าแต่กษัตริย์ เป็นความจริงแน่นอน”
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 25 พระองค์ได้ตรัสว่า “แต่เราเห็นสี่คนกำลังเดินอยู่กลางไฟ ไม่ถูกมัดและไม่เป็นอันตราย รูปร่างของคนที่สี่นั้นดูเหมือนพระบุตรของเหล่าเทพเจ้า”
|
||
|
\v 26 แล้วเนบูคัดเนสซาร์ก็ได้เสด็จมาใกล้ประตูเตาที่ไฟลุกโชนอยู่นั้น และตรัสว่า “ชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกผู้รับใช้ของพระเจ้าสูงสุด จงออกมาเถิด จงมาที่นี่” แล้วชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกก็เดินออกมาจากเตาไฟ
|
||
|
\v 27 พวกผู้ว่าการมณฑล ผู้ว่าการเขต และผู้ว่าการอื่นๆ และองคมนตรี ได้ห้อมล้อมชายหนุ่มเหล่านี้ เห็นว่าไฟไม่ได้ทำอันตรายร่างกายของคนเหล่านี้ ผมบนศีรษะของพวกเขาก็ไม่งอ เสื้อคลุมของพวกเขาก็ไม่เสียหาย และไม่มีกลิ่นไฟที่ตัวพวกเขาเลย
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 28 เนบูคัดเนสซาร์ได้ตรัสว่า “ขอให้พวกเราสรรเสริญพระเจ้าของชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโก ผู้ได้ทรงใช้ทูตของพระองค์และทรงส่งสารของพระองค์มาให้ผู้รับใช้ของพระองค์ พวกเขาได้วางใจในพระองค์ และไม่ได้ไม่ฟังคำบัญชาของเรา และพวกเขาได้ยอมพลีชีวิตของพวกเขามากกว่าที่จะปรนนิบัติและนมัสการพระอื่นใดนอกจากพระเจ้าของพวกเขาเอง
|
||
|
\v 29 เพราะฉะนั้นเราจึงออกพระราชกฤษฎีกาว่า ประชาชนไม่ว่าชาติใด หรือภาษาใด ที่กล่าวลบหลู่พระเจ้าของชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโก จะต้องถูกแยกร่างกายออกจากกันเสีย และบ้านเรือนของพวกเขาจะถูกทำให้เป็นกองเศษขยะ เพราะไม่มีเทพเจ้าอื่นใดที่สามารถช่วยกู้แบบนี้ได้”
|
||
|
\v 30 แล้วกษัตริย์ทรงเลื่อนยศชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโก ให้สูงขึ้นอีกในมณฑลบาบิโลน
|
||
|
\s5
|
||
|
\c 4
|
||
|
\p
|
||
|
\v 1 กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ ได้ทรงส่งสาสน์ไปยังประชาชนทั้งสิ้น ทุกประชาชาติ และทุกภาษา ซึ่งอาศัยอยู่บนแผ่นดิน "ขอให้ความสุขความเจริญเพิ่มพูนแก่ท่าน
|
||
|
\v 2 เราได้เห็นสมควรที่จะบอกให้พวกท่านถึงหมายสำคัญต่างๆ และการอัศจรรย์ต่างๆ ซึ่งองค์ผู้สูงสุดได้ทรงกระทำแก่เราเอง
|
||
|
\v 3 หมายสำคัญของพระองค์ใหญ่ยิ่ง และการอัศจรรย์ของพระองค์มีอานุภาพยิ่ง ราชอาณาจักรของพระองค์ถาวรเป็นอาณาจักรนิรันดร์ และการปกครองของพระองค์นั้นดำรงอยู่ทุกชั่วอายุ"
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 4 เราเอง เนบูคัดเนสซาร์ได้มีชีวิตอยู่อย่างมึความสุขในนิเวศของเรา และมีความยินดีอยู่ในพระราชวัง
|
||
|
\v 5 แต่ความฝันที่เราได้ฝันเห็นได้ทำให้เรากลัว ขณะเมื่อเรานอนบนพระแท่นบรรทม เราได้เห็นและนิมิตผุดขึ้นในใจของเราได้รบกวนจิตใจของเรา
|
||
|
\v 6 ดังนั้นเราก็ได้สั่งให้ออกพระราชกฤษฎีกาให้เรียกคนในบาบิโลนที่เป็นนักปราชญ์ของบาบิโลนทั้งสิ้นมาหาเรา เพื่อพวกเขาจะสามารถแก้ความฝันให้เรา
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 7 แล้วพวกนักวิทยาคม คนเหล่านั้นที่ได้อ้างว่าพูดกับคนตายได้ นักปราชญ์ และบรรดาโหราจารย์ก็ได้มาเข้าเฝ้า เราก็เล่าความฝันแก่พวกเขา แต่พวกเขาก็ไม่สามารถแก้ฝันให้เราได้
|
||
|
\v 8 แต่ในที่สุดดาเนียลก็ได้เข้ามาเฝ้าเรา คนที่มีชื่อว่าเบลเทชัสซาร์ ตามนามเทพเจ้าของเรา และเขามีวิญญาณของเหล่าเทพเจ้าองค์บริสุทธิ์ และเราก็ได้เล่าความฝันให้เขาฟังว่า
|
||
|
\v 9 "เบลเทชัสซาร์ หัวหน้าของพวกนักวิทยาคม เราทราบว่าวิญญาณของบรรดาเทพผู้บริสุทธิ์อยู่ในเจ้า และไม่มีความลึกลับใดที่จะยากเกินไปสำหรับเจ้า จงบอกเราว่าเราได้เห็นอะไรในความฝันของเรา และมันมีความหมายว่าอย่างไร
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 10 เหล่านี้คือนิมิตที่เราได้เห็นในจิตใจของเราเมื่อนอนอยู่บนพระแท่นบรรทม คือเราได้เห็นและมีต้นไม้ต้นหนึ่งท่ามกลางแผ่นดินและมันสูงมาก
|
||
|
\v 11 ต้นไม้นั้นได้เติบโตและแข็งแรง มันได้เสียดยอดขึ้นไปถึงฟ้า ซึ่งสามารถที่จะมองเห็นมันได้จากสุดปลายแผ่นดิน
|
||
|
\v 12 เหล่าใบของมันก็งดงาม ผลของมันก็อุดมสมบูรณ์ และจากต้นไม้นั้น มีอาหารให้แก่สิ่งมีชีวิตทั้งปวง สัตว์ในท้องทุ่งอาศัยก็ได้อยู่ใต้ร่มของมัน บรรดานกบนฟ้าก็ได้อาศัยอยู่ที่กิ่งก้านของมัน และสิ่งมีชีวิตทั้งปวงก็เลี้ยงชีพจากมัน
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 13 เราได้เห็นในนิมิตของเราเมื่อเราอยู่บนพระแท่นบรรทม และเราได้เห็นทูตผู้บริสุทธิ์องค์หนึ่งได้ลงมาจากฟ้า
|
||
|
\v 14 เขาได้เปล่งเสียงดังและได้กล่าวว่า ‘โค่นต้นไม้นี้และตัดกิ่งออกเสีย ลิดใบออก และให้ผลของมันกระจายไป ให้สัตว์ป่าหนีไปจากใต้ต้น และให้นกหนีไปจากกิ่งของมัน
|
||
|
\v 15 แต่จงปล่อยให้ตอของรากอยู่ในดิน มีแถบเหล็กและทองสัมฤทธิ์มัดไว้ ให้อยู่ท่ามกลางหญ้าอ่อนในทุ่งนา ให้เปียกน้ำค้างจากฟ้า ให้มีชีวิตอยู่กับสัตว์ป่าท่ามกลางต้นไม้ต่างๆ บนพื้นดิน
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 16 ให้จิตใจของเขาได้เปลี่ยนจากจิตใจมนุษย์เป็นจิตใจสัตว์ป่า และปล่อยให้เป็นอยู่อย่างนั้นจนครบเจ็ดปี
|
||
|
\v 17 คำตัดสินใจนี้เป็นคำสั่งของบรรดาทูต คำตัดสินนั้นเป็นคำตัดสินของผู้บริสุทธิ์ทั้งหลาย ผู้ที่ได้มีชีวิตอยู่จะได้ทราบว่าพระองค์ผู้สูงสุดทรงปกครองบรรดาราชอาณาจักรของประชาชน และประทานราชอาณาจักรนั้นแก่ผู้ที่พระองค์ทรงพอพระทัย แม้แต่ผู้ต่ำต้อยที่สุด’
|
||
|
\v 18 ตัวเราเอง กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ได้มีความฝันนี้ บัดนี้ เจ้าเอง เบลเทชัสซาร์ เจ้าจงบอกเราเกี่ยวกับการแก้ฝัน เพราะไม่มีพวกนักปราชญ์ทั้งสิ้นแห่งราชอาณาจักรของเราสามารถให้คำแก้ความฝันแก่เรา แต่เจ้าสามารถทำได้ เพราะวิญญาณของบรรดาเทพผู้บริสุทธิ์อยู่ในตัวเจ้า”
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 19 แล้วดาเนียล ผู้มีชื่ออีกชื่อหนึ่งว่าเบลเทชัสซาร์ก็ได้วุ่นวายใจอยู่ขณะหนึ่ง และความคิดของเขาก็ทำให้เขาหวาดวิตก กษัตริย์ได้ตรัสว่า “เบลเทชัสซาร์ อย่าให้ความฝันหรือคำแก้ความฝันทำให้เจ้าตกใจเลย” เบลเทชัสซาร์ได้ทูลตอบว่า “เจ้านายของข้าพระองค์ ขอให้ความฝันนั้นเป็นของบรรดาผู้ที่เกลียดพระองค์เถิด และขอให้คำแก้ความฝันนั้นตกแก่พวกศัตรูของพระองค์
|
||
|
\v 20 ต้นไม้ที่พระองค์ได้ทรงทอดพระเนตร ซึ่งได้เติบโตขึ้นและแข็งแรง และได้เสียดยอดขึ้นไปถึงฟ้า และซึ่งสามารถมองเห็นได้จากสุดปลายของแผ่นดิน
|
||
|
\v 21 เหล่าใบก็งดงามและผลก็อุดมสมบูรณ์ ดังนั้นจากต้นไม้นั้น มีอาหารให้แก่สิ่งมีชีวิตทั้งปวง และสัตว์ในท้องทุ่งอาศัยอยู่ใต้ร่มไม้ และบรรดานกบนฟ้าก็ได้อาศัยอยู่
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 22 ข้าแต่กษัตริย์ ต้นไม้นี้คือพระองค์เอง ผู้ได้ทรงจำเริญขึ้นอย่างเข้มแข็ง ความยิ่งใหญ่ของพระองค์ได้เจริญขึ้นไปถึงฟ้า และอำนาจสิทธิ์ขาดของพระองค์ก็ได้ไปถึงสุดปลายแผ่นดิน
|
||
|
\v 23 ที่พระองค์ กษัตริย์ได้ทรงทอดพระเนตรทูตผู้บริสุทธิ์ลงมาจากฟ้า และได้พูดว่า ‘จงโค่นต้นไม้นี้ลงและทำลายเสีย แต่จงปล่อยให้ตอของรากอยู่ในดิน มีแถบเหล็กและทองสัมฤทธิ์ล่ามไว้ ให้อยู่ท่ามกลางหญ้าอ่อนในทุ่งนา ให้เปียกน้ำค้างจากฟ้า ให้อยู่ร่วมกับสัตว์ในท้องทุ่ง และปล่อยให้อยู่อย่างนั้นจนครบเจ็ดปี’
|
||
|
\v 24 ข้าแต่กษัตริย์ นี่เป็นคำแก้พระสุบิน เป็นพระราชกฤษฎีกามาจากองค์ผู้สูงสุด ซึ่งมาถึงพระองค์ กษัตริย์เจ้านายของข้าพระองค์ว่า
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 25 พระองค์จะทรงถูกขับไล่ไปจากท่ามกลางมนุษย์ และพระองค์จะอยู่กับสัตว์ในท้องทุ่ง พระองค์จะต้องเสวยหญ้าอย่างกับโค และต้องทรงเปียกน้ำค้างจากฟ้า จะทรงเป็นอยู่อย่างนั้นจนครบเจ็ดปี จนกว่าพระองค์จะทรงทราบว่า องค์ผู้สูงสุดนั้นทรงปกครองราชอาณาจักรของประชาชน และพระองค์จะประทานราชอาณาจักรนั้นแก่ผู้ที่พระองค์พอพระทัย
|
||
|
\v 26 และที่ทรงบัญชาให้เหลือตอของรากต้นนั้นไว้ ในทางนี้ ราชอาณาจักรจะกลับมาเป็นของพระองค์ นับตั้งแต่เมื่อพระองค์ทรงยอมรับว่าการปกครองนั้นเป็นของฟ้า
|
||
|
\v 27 ข้าแต่กษัตริย์ ขอทรงรับคำแนะนำของข้าพระองค์ ขอพระองค์ทรงเลิกทำบาปเสียโดยการทำความชอบธรรม และเลิกทำบาปชั่วโดยการสำแดงความกรุณาต่อผู้ถูกบีบบังคับ และบางทีความรุ่งเรืองของพระองค์อาจจะขยายออกไปอีกได้”
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 28 สิ่งเหล่านี้ทั้งสิ้นได้เกิดขึ้นแก่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์
|
||
|
\v 29 ต่อมาอีกสิบสองเดือน พระองค์ได้ทรงดำเนินอยู่บนดาดฟ้าพระราชวังที่บาบิโลน
|
||
|
\v 30 และพระองค์ได้ตรัสว่า “นี่ไม่ใช่บาบิโลนอันยิ่งใหญ่ ซึ่งเราได้สร้างไว้ด้วยอำนาจใหญ่ยิ่งของเรา ให้เป็นพระราชฐานและเพื่อเป็นศักดิ์ศรีอันสูงส่งของเราหรือ?”
|
||
|
\v 31 ขณะที่ถ้อยคำของพระองค์ยังอยู่ที่ริมฝีพระโอษฐ์ของกษัตริย์ ก็มีเสียงมาจากท้องฟ้าว่า “โอ กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ นี่เป็นประกาศแก่เจ้าว่า ราชอาณาจักรได้พรากไปจากเจ้าแล้ว
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 32 เจ้าจะถูกขับไล่ไปจากประชาชน และบ้านของเจ้าจะอยู่กับสัตว์ในท้องทุ่ง เจ้าจะต้องกินหญ้าอย่างกับโค จะเป็นอยู่อย่างนั้นจนครบเจ็ดปี จนกว่าเจ้าจะได้เรียนรู้ได้ว่า องค์ผู้สูงสุดทรงปกครองบรรดาราชอาณาจักรของประชาชน และประทานราชอาณาจักรเหล่านั้นแก่ผู้ที่พระองค์พอพระทัย”
|
||
|
\v 33 พระราชกฤษฎีกานี้มีผลต่อเนบูคัสเนสซาร์อย่างทันที พระองค์ทรงได้ถูกขับไล่ไปจากท่ามกลางประชาชนพระองค์ได้เสวยหญ้าอย่างกับโค และพระกายก็ได้ทรงเปียกน้ำค้างจากฟ้า พระเกศาของพระองค์ก็ได้ทรงงอกยาวอย่างกับขนนกอินทรี และเล็บของพระองค์ก็เหมือนเล็บนก
|
||
|
\v 34 เมื่อสิ้นสุดวาระนั้นแล้ว ตัวเราเอง เนบูคัดเนสซาร์ก็ทรงแหงนหน้าดูท้องฟ้า และจิตใจของเราก็ได้กลับคืนเป็นปกติ "เราก็ได้ร้องสาธุการแด่องค์ผู้สูงสุดนั้น และสรรเสริญถวายพระเกียรติแด่พระองค์ผู้ดำรงอยู่เป็นนิตย์ เพราะการปกครองของพระองค์เป็นการปกครองนิรันดร์ และราชอาณาจักรของพระองค์ดำรงอยู่ทุกชั่วอายุ
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 35 พระองค์ทรงถือว่าชาวแผ่นดินโลกทั้งสิ้นนั้นเป็นคนที่ไร้ค่า พระองค์ทรงทำตามชอบพระทัยท่ามกลางกองทัพแห่งฟ้า และท่ามกลางชาวแผ่นดินโลกตามที่พระองค์ทรงชอบพระทัย ไม่มีผู้ใดยับยั้งพระหัตถ์ของพระองค์ได้ หรือทูลถามพระองค์ได้ว่า “ทำไมจึงทรงทำเช่นนี้?”'
|
||
|
\v 36 ในเวลาเดียวกันที่จิตใจของเราก็กลับคืนเป็นปกติ ความสูงส่งและสง่าราศีกลับมาสู่เราอีก เพื่อศักดิ์ศรีแห่งราชอาณาจักรของเรา บรรดาองคมนตรีและบรรดาราชวงศ์ก็ได้แสวงหาความโปรดปรานของเรา บรรลังก์ของเราก็ได้กลับคืนมา และความยิ่งใหญ่กลับเพิ่มพูนแก่เราขึ้นอีก
|
||
|
\v 37 บัดนี้ เราเอง เนบูคัดเนสซาร์ ขอสรรเสริญ ยกย่อง และถวายพระเกียรติแด่องค์กษัตริย์แห่งฟ้า เพราะว่าพระราชกิจของพระองค์ถูกต้อง และพระมรรคาของพระองค์ก็เที่ยงธรรม พระองค์ทรงทำให้บรรดาผู้ดำเนินอยู่ในความเย่อหยิ่งของพวกเขาได้ถ่อมตัวเอง
|
||
|
\s5
|
||
|
\c 5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 1 กษัตริย์เบลชัสซาร์ได้ทรงจัดงานเลี้ยงใหญ่แก่บรรดาเชื้อพระวงศ์หนึ่งพันคน และพระองค์ได้เสวยเหล้าองุ่นต่อหน้าคนหนึ่งพันคนนั้น
|
||
|
\v 2 ขณะที่เบลชัสซาร์ได้เสวยเหล้าองุ่นแล้ว พระองค์ได้ทรงบัญชาให้นำภาชนะทองคำและเงิน ซึ่งเนบูคัดเนสซาร์พระราชบิดาของพระองค์ได้ทรงยึดมาจากพระวิหารในกรุงเยรูซาเล็ม ออกมาให้กษัตริย์และบรรดาเชื้อพระวงศ์ของพระองค์และพระมเหสีและนางสนม เพื่อใช้ใส่เหล้าองุ่นดื่ม
|
||
|
\v 3 พวกคนรับใช้จึงได้นำภาชนะทองคำซึ่งยึดมาจากพระวิหารคือ พระนิเวศของพระเจ้าในกรุงเยรูซาเล็มออกมา กษัตริย์และบรรดาเชื้อพระวงศ์ของพระองค์ทั้งมเหสีและนางสนมก็ได้ดื่มจากภาชนะเหล่านั้น
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 4 พวกเขาได้ดื่มเหล้าองุ่นและสรรเสริญรูปเคารพทั้งหลายที่ทำด้วยทองคำ เงิน ทองสัมฤทธิ์ เหล็ก ไม้ และหิน
|
||
|
\v 5 ในทันใดนั้นมีนิ้วมือคนหลายนิ้วได้ปรากฏขึ้นและได้เขียนลงที่ผนังพระราชวังของกษัตริย์หน้าคันประทีป และกษัตริย์ก็ได้ทรงทอดพระเนตรส่วนหนึ่งของมือที่เขียนนั้น
|
||
|
\v 6 แล้วพระพักตร์ของกษัตริย์ก็ซีดไป และพระองค์ทรงตกพระทัย จนกระทั่งพระเพลาก็ทรงอ่อนเปลี้ย พระชานุก็ทรงสั่น
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 7 กษัตริย์ได้ทรงมีรับสั่งเสียงดังให้นำคนเหล่านั้นที่อ้างว่าพูดกับคนตายได้ เหล่านักปราชญ์ และเหล่าโหราจารย์เข้ามาเฝ้า กษัตริย์ได้ตรัสกับคนเหล่านั้นที่มีชื่อเสียงว่าเป็นพวกคนมีปัญญาของบาบิโลนว่า “ผู้ใดก็ตามที่อธิบายสิ่งที่เขียนไว้นี้และแปลความหมายให้เราได้ เราจะให้ผู้นั้นสวมเสื้อสีม่วงและสวมสร้อยคอทองคำรอบคอเขา และเราจะตั้งให้เป็นอุปราชตรีในราชอาณาจักรของเรา”
|
||
|
\v 8 แล้วพวกนักปราชญ์ของกษัตริย์ก็เข้ามาทั้งหมด แต่พวกเขาไม่สามารถอ่านข้อเขียน หรือแปลความหมายให้กษัตริย์ได้
|
||
|
\v 9 แล้วกษัตริย์เบลชัสซาร์ทรงตกพระทัยอย่างมาก และพระพักตร์ของพระองค์ก็ได้ทรงซีดไป บรรดาเชื้อพระวงศ์ทั้งหลายของพระองค์ก็ได้ฉงนสนเท่ห์
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 10 บัดนี้ พระราชินีได้เสด็จเข้ามาในการเลี้ยง เพราะได้ยินถ้อยคำของกษัตริย์และเจ้านายทั้งหลาย และพระราชินีได้ตรัสว่า “ข้าแต่กษัตริย์ ขอทรงพระเจริญเป็นนิตย์ ขอพระองค์อย่าได้ทรงตกพระทัย หรือให้พระพักตร์ของพระองค์ซีดไปเลย
|
||
|
\v 11 ในราชอาณาจักรของพระองค์มีผู้ชายคนหนึ่งมีวิญญาณของบรรดาองค์ผู้บริสุทธิ์ในตัวเขา ในสมัยรัชกาลของเนบูคัดเนซาร์พระราชบิดาของพระองค์ ความสว่าง และความเข้าใจ และปัญญาเหมือนปัญญาของบรรดาเทพเจ้าทั้งหลายได้พบในตัวผู้ชายคนนี้ กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ พระราชบิดาของพระองค์ ได้ทรงแต่งตั้งให้เขาเป็นหัวหน้าคนเหล่านั้นที่อ้างว่าพูดกับคนตายได้ เหล่านักปราชญ์ และเหล่าโหราจารย์
|
||
|
\v 12 เขามีวิญญาณเลิศ มีความรู้และความเข้าใจที่จะแก้ความฝัน แก้ปริศนาและแก้ปัญหาต่างๆ เขาคือดาเนียล ซึ่งกษัตริย์ได้ประทานนามว่าเบลเทชัสซาร์ บัดนี้ขอทรงเรียกดาเนียลมา และเขาจะแปลความหมายของสิ่งที่ได้เขียนไว้นั้นถวายพระองค์”
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 13 แล้วดาเนียลจึงได้ถูกนำให้เข้าเฝ้าต่อพระพักตร์ของกษัตริย์ กษัตริย์ได้ตรัสถามดาเนียลว่า “เจ้าคือดาเนียลคนนั้นในพวกที่ถูกกวาดเป็นเชลยมาจากยูดาห์ ที่กษัตริย์เสด็จพ่อของเรานำมาจากยูดาห์
|
||
|
\v 14 เราได้ยินว่าเจ้ามีวิญญาณของบรรดาเทพเจ้าในตัวเจ้าและเจ้ามีความสว่าง ความเข้าใจ และปัญญาเลิศประจำตัว
|
||
|
\v 15 พวกนักปราชญ์และคนเหล่านั้นที่อ้างว่าพูดกับคนตายได้ ได้ถูกเรียกมาต่อหน้าเราให้อ่านข้อความนี้ และแปลความหมายให้เรา แต่พวกเขาไม่สามารถแปลความหมายของเรื่องราวนี้ได้
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 16 เราได้ยินว่าเจ้าสามารถแปลความหมายและแก้ปัญหาได้ บัดนี้ถ้าเจ้าสามารถอ่านข้อความและแปลความหมายให้ได้ เจ้าจะได้สวมเสื้อสีม่วงและสวมสร้อยคอทองคำรอบคอของเจ้า และเป็นอุปราชตรีในราชอาณาจักร”
|
||
|
\v 17 แล้วดาเนียลได้ทูลกษัตริย์ว่า “ขอทรงเก็บของพระราชทานไว้เป็นของพระองค์เถิด และขอประทานรางวัลแก่ผู้อื่น ส่วนข้าพระองค์จะขออ่านข้อเขียนถวายกษัตริย์และถวายคำแปลความหมายให้พระองค์ทรงทราบ ข้าแต่กษัตริย์
|
||
|
\v 18 สำหรับพระองค์เอง พระเจ้าสูงสุดได้ประทานราชอาณาจักร ความยิ่งใหญ่ ศักดิ์ศรี และบารมีแก่เนบูคัดเนสซาร์ราชบิดาของพระองค์
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 19 เพราะความยิ่งใหญ่ซึ่งพระเจ้าได้ประทานแก่เนบูคัดเนสซาร์ ชนทุกชาติทุกภาษาจึงได้สั่นสะท้านและเกรงขามพระองค์ พระองค์จะทรงประหารผู้ใดที่ทรงพระประสงค์ก็ได้ทรงประหารเสีย จะทรงให้ผู้ใดดำรงชีวิตอยู่ก็ทรงให้ดำรงชีวิต จะทรงแต่งตั้งผู้ใดก็ทรงแต่งตั้ง จะทรงทำให้ผู้ใดต่ำต้อยลงก็ทรงทำตามที่พระองค์ทรงต้องพระประสงค์
|
||
|
\v 20 แต่เมื่อพระทัยของพระราชบิดาทรงผยองขึ้น และจิตวิญญาณของพระองค์ก็ได้ทรงแข็งกระด้างไป จึงได้ทรงประกอบกิจด้วยความเห่อเหิม พระเจ้าจึงได้ทรงถอดพระองค์จากราชบัลลังก์ และพวกเขาได้ริบศักดิ์ศรีของพระองค์ไปเสีย
|
||
|
\v 21 พระเจ้าทรงขับไล่เนบูคัดเนสซาร์ไปจากท่ามกลางมนุษย์ พระองค์ทรงมีพระทัยเป็นเหมือนใจสัตว์ป่า และพระองค์ประทับอยู่กับลาป่า พระองค์เสวยหญ้าเหมือนโค พระกายของพระองค์ก็ทรงเปียกน้ำค้างจากฟ้า จนกว่าจะทรงสำนึกว่าพระเจ้าสูงสุดทรงปกครองราชอาณาจักรของประชาชนและทรงแต่งตั้งผู้ใดก็ตามที่พระองค์ทรงพระประสงค์จะทรงให้ปกครองพวกเขา
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 22 ข้าแต่เบลชัสซาร์ พระองค์ทรงเป็นพระราชโอรส แม้พระองค์ได้ทรงทราบสิ่งเหล่านี้แล้ว ก็ไม่ได้ถ่อมพระทัยของพระองค์
|
||
|
\v 23 แต่กลับทรงยกพระองค์เองขึ้นสู้กับองค์พระผู้เป็นเจ้าแห่งฟ้า และทรงให้นำภาชนะแห่งพระนิเวศของพระองค์มาต่อพระพักตร์ของพระองค์ แล้วพระองค์เอง พวกเจ้านายของพระองค์ ทั้งมเหสี และนางสนมของพระองค์ก็ดื่มเหล้าองุ่นจากภาชนะเหล่านั้น และพระองค์ได้ทรงสรรเสริญรูปเคารพที่ทำด้วยเงิน ทองคำ ทองสัมฤทธิ์ เหล็ก ไม้ และหิน ซึ่งจะดูหรือฟังหรือเข้าใจก็ไม่ได้ แต่พระองค์ไม่ได้ถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า ผู้ซึ่งลมปราณของพระองค์อยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ และทางทั้งสิ้นของพระองค์ก็ขึ้นอยู่กับพระองค์
|
||
|
\v 24 แล้วพระเจ้าได้ทรงส่งมือจากเบื้องพระพักตร์พระองค์ และข้อเขียนก็ได้ถูกจารึกไว้
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 25 ต่อไปนี้เป็นข้อเขียนที่จารึกไว้คือ 'เมเน เมเน เทเคล และฟารสิน'
|
||
|
\v 26 ต่อไปนี้เป็นคำแปลข้อความนั้น 'เมเน' 'พระเจ้าได้ทรงคำนวณวาระสิ้นสุดแห่งราชอาณาจักรของพระองค์ไว้แล้ว'
|
||
|
\v 27 'เทเคล' 'พระองค์ได้ทรงถูกชั่งในตราชู และได้ทรงพบว่ายังขาดอยู่'
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 28 'เปเรส' 'ราชอาณาจักรของพระองค์ได้ถูกแบ่งออกให้แก่คนมีเดียและคนเปอร์เซีย”'
|
||
|
\v 29 แล้วเบลชัสซาร์ก็ได้ทรงมีพระบัญชา และพวกเขาก็ได้สวมเสื้อผ้าสีม่วง สร้อยคอทองคำก็ได้สวมรอบคอของเขา และกษัตริย์ได้ทรงจัดทำพระราชกฤษฎีกาเกี่ยวกับเขาว่า เขาได้แต่งตั้งและมีอำนาจหน้าที่เป็นอุปราชตรีในราชอาณาจักร
|
||
|
\v 30 ในคืนวันนั้นเอง เบลชัสซาร์กษัตริย์คนบาบิโลนก็ได้ทรงถูกสังหาร
|
||
|
\v 31 และดาริอัสชาวมีเดียก็ได้ทรงรับราชอาณาจักร ขณะเมื่อพระองค์ทรงมีพระชนมายุประมาณหกสิบสองพรรษา
|
||
|
\s5
|
||
|
\c 6
|
||
|
\p
|
||
|
\v 1 ดาริอัสได้ทรงพอพระทัยแต่งตั้งผู้ว่าราชการแคว้นจำนวน 120 คน เพื่อให้ปกครองทั่วราชอาณาจักร
|
||
|
\v 2 และทรงตั้งอธิบดีสามคนอยู่เหนือพวกผู้ว่าราชการแคว้น และดาเนียลเป็นอธิบดีคนหนึ่ง ซึ่งจะรับรายงานจากผู้ว่าราชการแคว้น คณะอธิบดีที่ได้รับแต่งตั้งเหล่านี้จะดูแลบรรดาผู้ว่าราชการแคว้น เพื่อกษัตริย์จะไม่ขาดประโยชน์
|
||
|
\v 3 ดาเนียลก็ได้มีชื่อเสียงกว่าอธิบดีคนอื่นๆ และผู้ว่าราชการแคว้นทั้งหลาย เพราะว่าเขามีวิญญาณเลิศสถิตกับเขา กษัตริย์ได้ทรงมีแผนจะแต่งตั้งให้เขาดูแลราชอาณาจักรนั้นทั้งหมด
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 4 อธิบดีและผู้ว่าราชการแคว้นทั้งหลายจึงได้หาความผิดในงานที่ดาเนียลทำในเรื่องราชอาณาจักร แต่พวกเขาก็หาความผิดหรือความบกพร่องในงานของเขาไม่ได้ เพราะเขาเป็นคนซื่อสัตย์ จะหาความผิดพลาดหรือการทุจริตในตัวเขาไม่ได้เลย
|
||
|
\v 5 แล้วคนเหล่านี้จึงได้พูดกันว่า “พวกเราไม่สามารถหาเหตุที่จะฟ้องดาเนียลได้ นอกจากเราจะหาเหตุในเรื่องธรรมบัญญัติแห่งพระเจ้าของเขา”
|
||
|
\v 6 แล้วพวกอธิบดีและพวกผู้ว่าราชการแคว้นเหล่านี้ก็ได้นำแผนถวายต่อพระพักตร์กษัตริย์ พวกเขาได้ทูลว่า “ข้าแต่กษัตริย์ดาริอัส ขอทรงพระเจริญเป็นนิตย์
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 7 อธิบดีทุกคนแห่งราชอาณาจักร ทั้งเหล่าองคมนตรี และเหล่าผู้ว่าราชการแคว้น เหล่าที่ปรึกษา และผู้ว่าราชการทั้งสิ้นได้หารือร่วมกันและได้มีมติว่า กษัตริย์ควรจะตรากฎหมายและออกพระราชกฤษฎีกาและให้มีผลใช้บังคับทันทีว่า ในสามสิบวันนี้ ถ้ามีใครทูลขอต่อเทพเจ้าหรือมนุษย์นอกเหนือจากพระองค์ ข้าแต่กษัตริย์ ก็ให้โยนคนนั้นลงในถ้ำสิงโต
|
||
|
\v 8 บัดนี้ ข้าแต่กษัตริย์ ขอพระองค์ทรงประกาศพระราชกฤษฎีกาและทรงลงพระนามในพระราชกฤษฎีกานั้น เพื่อจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ตามกฎหมายของคนมีเดียและคนเปอร์เซีย”
|
||
|
\v 9 ดังนั้นกษัตริย์ดาริอัสจึงได้ลงพระนามในหนังสือสำคัญและให้พระราชกฤษฎีกานั้นเป็นกฏหมาย
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 10 เมื่อดาเนียลได้ทราบว่ากษัตริย์ลงพระนามในเอกสารเป็นกฏหมายแล้ว เขาก็ได้กลับบ้านของเขา (บัดนี้ หน้าต่างของเขาได้เปิดที่ห้องชั้นบนหันหน้าไปยังกรุงเยรูซาเล็ม) และเขาก็ได้คุกเข่าลง เขาได้ทำวันละสามครั้ง และได้อธิษฐานและขอบพระคุณพระเจ้าของเขาอย่างที่ได้เคยทำก่อนหน้านี้
|
||
|
\v 11 แล้วพวกคนเหล่านั้นที่ได้วางแผนด้วยกันได้เห็นดาเนียลกำลังอธิษฐานและขอการช่วยเหลือจากพระเจ้า
|
||
|
\v 12 แล้วพวกเขาก็ได้ไปเข้าเฝ้ากษัตริย์และได้ทูลพระองค์เกี่ยวกับพระราชกฤษฎีกาว่า “ข้าแต่กษัตริย์ พระองค์ได้ทรงลงพระนามในหนังสือสำคัญฉบับหนึ่งไม่ใช่หรือว่า ถ้ามีใครทูลขอต่อเทพเจ้าหรือมนุษย์ภายในสามสิบวันนี้นอกเหนือจากพระองค์ ข้าแต่กษัตริย์ ก็ให้โยนคนนั้นลงในถ้ำของพวกสิงโต?” กษัตริย์ได้ตรัสตอบว่า “เรื่องนั้นยังคงอยู่ ตามกฎหมายของคนมีเดียและคนเปอร์เซีย ซึ่งจะแก้ไขไม่ได้เป็นอันขาด”
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 13 แล้วพวกเขาจึงได้ทูลต่อกษัตริย์ว่า “ข้าแต่กษัตริย์ ดาเนียลคนนั้นแหละที่เป็นคนหนึ่งในพวกที่ถูกกวาดเป็นเชลยจากยูดาห์ ไม่ได้เชื่อฟังพระองค์ และไม่เชื่อฟังพระราชกฤษฎีกาซึ่งพระองค์ได้ลงพระนามไว้ เขาได้ทูลขอต่อพระเจ้าของเขาวันละสามครั้ง”
|
||
|
\v 14 เมื่อกษัตริย์ได้ทรงสดับถ้อยคำเหล่านี้แล้ว พระองค์ก็ได้ทรงโทมนัสยิ่งนัก และทรงตั้งพระทัยหาทางช่วยกู้ดาเนียลให้รอดจากกฏหมายนี้ พระองค์ได้ทรงพยายามหาทางช่วยดาเนียลจนถึงเวลาดวงอาทิตย์ตก
|
||
|
\v 15 แล้วคนเหล่านั้นที่ได้วางแผนร่วมกันก็พากันมาเข้าเฝ้ากษัตริย์และทูลว่า “ข้าแต่กษัตริย์ ขอพระองค์ทรงทราบว่าไม่มีกฎหมายของคนมีเดียและคนเปอร์เซียที่ประกาศห้ามหรือกฏหมายซึ่งกษัตริย์ได้ทรงประทับตราแล้วจะสามารถเปลี่ยนแปลงได้”
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 16 แล้วกษัตริย์ได้ทรงบัญชาและพวกเขาก็ได้นำดาเนียลเข้ามา และพวกเขาก็โยนดาเนียลเข้าไปในถ้ำสิงโต กษัตริย์ได้ตรัสแก่ดาเนียลว่า “ขอพระเจ้าของเจ้าผู้ที่เจ้าปรนนิบัติอยู่ตลอดมานั้น ทรงช่วยกู้เจ้าเถิด”
|
||
|
\v 17 แล้วหินก้อนหนึ่งก็ถูกนำมาปิดทางเข้าถ้ำ และกษัตริย์ก็ได้ทรงประทับตราด้วยพระธำมรงค์ของพระองค์ และด้วยตราของแหวนบรรดาเชื้อพระองค์ เพื่อว่าจะไม่มีใครมาเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ของดาเนียลได้
|
||
|
\v 18 แล้วกษัตริย์ก็ได้เสด็จกลับพระราชวังของพระองค์ และได้ทรงอดอาหารตลอดคืนนั้น ไม่ให้นำสิ่งบันเทิงมาถวายพระองค์ด้วย และพระองค์ทรงบรรทมไม่หลับ
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 19 แล้วในตอนเช้าตรู่ กษัตริย์ก็ได้ตื่นจากบรรทมและได้รีบเสด็จไปยังถ้ำสิงโต
|
||
|
\v 20 เมื่อพระองค์เสด็จมาใกล้ถ้ำ พระองค์ก็ได้ตรัสเรียกดาเนียลด้วยเสียงโทมนัสต่อดาเนียลว่า “โอ ดาเนียลผู้รับใช้ของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ พระเจ้าของเจ้าซึ่งเจ้าได้ปรนนิบัติอยู่เนืองนิตย์นั้น ทรงสามารถช่วยกู้เจ้าจากสิงโตได้แล้วหรือ?”
|
||
|
\v 21 แล้วดาเนียลได้ทูลกษัตริย์ว่า “ข้าแต่กษัตริย์ ขอทรงพระเจริญเป็นนิตย์
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 22 พระเจ้าของข้าพระองค์ทรงใช้ทูตของพระองค์มาปิดปากเหล่าสิงโตไว้ และพวกมันไม่ได้ทำอันตรายแก่ข้าพระองค์ เพราะข้าพระองค์ไร้ความผิดต่อพระพักตร์พระองค์ ข้าแต่กษัตริย์ ข้าพระองค์ไม่ได้ทำผิดประการใดต่อพระพักตร์พระองค์ด้วย”
|
||
|
\v 23 แล้วกษัตริย์ก็ได้ทรงโสมนัสยิ่งนัก พระองค์ได้ทรงบัญชาให้นำดาเนียลออกมาจากถ้ำ ดังนั้นดาเนียลก็ได้ถูกดึงขึ้นมาจากถ้ำ ไม่ปรากฏว่ามีอันตรายอย่างใดที่ตัวเขาเลย เพราะเขาได้วางใจในพระเจ้าของเขา
|
||
|
\v 24 กษัตริย์ได้ทรงบัญชา และพวกเขาได้นำคนเหล่านั้นที่ใส่ร้ายดาเนียล และได้โยนทิ้งในถ้ำสิงโต ทั้งตัวเขา และบุตรทั้งหลาย และภรรยาของพวกเขาด้วย ยังไม่ทันตกไปถึงพื้นถ้ำ พวกสิงโตก็ขย้ำพวกเขา และหักกระดูกของเขาทั้งหลายจนแหลกเป็นชิ้นๆ
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 25 แล้วกษัตริย์ดาริอัสได้ทรงมีพระราชสาสน์ไปถึงชนทุกชาติทุกภาษาที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินทั้งสิ้นว่า “สันติสุขจงมีแก่ท่านทั้งหลายอย่างทวีคูณ
|
||
|
\v 26 เราออกพระราชกฤษฎีกาว่า ให้คนทั้งหลายในราชอาณาจักรทั้งหมดของเรากลัวและยำเกรงพระเจ้าของดาเนียล เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ ทรงดำรงอยู่เป็นนิตย์ และราชอาณาจักรของพระองค์จะไม่ถูกทำลาย และการปกครองของพระองค์จะดำรงจนถึงที่สุด
|
||
|
\v 27 พระองค์ได้ทรงช่วยกู้และได้ช่วยให้พ้นภัย พระองค์ทรงทำหมายสำคัญและการอัศจรรย์ในฟ้าและบนพื้นแผ่นดินพระองค์ได้ทรงช่วยดาเนียลให้รอดจากอำนาจของเหล่าสิงโต”
|
||
|
\v 28 ดังนั้นดาเนียลจึงได้เจริญก้าวหน้าในรัชสมัยของดาริอัส และในรัชสมัยของไซรัสพระราชาแห่งเปอร์เซีย
|
||
|
\s5
|
||
|
\c 7
|
||
|
\p
|
||
|
\v 1 ในปีที่หนึ่งแห่งรัชกาลเบลชัสซาร์กษัตริย์ของบาบิโลน ดาเนียลได้มีความฝันและนิมิตในความคิดของเขาขณะที่เขานอนบนที่นอนของเขา แล้วเขาจึงได้บันทึกสิ่งที่เขาได้เห็นในความฝันนั้นไว้ เขาได้บันทึกเหตุการณ์สำคัญที่สุดนั้นไว้
|
||
|
\v 2 ดาเนียลได้อธิบายว่า “ในนิมิตของข้าพเจ้าเวลากลางคืน ข้าพเจ้าได้เห็นลมทั้งสี่ของฟ้าได้ปลุกปั่นทะเลใหญ่นั้น
|
||
|
\v 3 สัตว์มหึมาสี่ตัว แต่ละตัวก็มีลักษณะแตกต่างกัน ได้ขึ้นออกมาจากทะเล
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 4 ตัวแรกเหมือนสิงโตแต่ได้มีปีกนกอินทรี เมื่อข้าพเจ้ามองดูอยู่นั้น ปีกทั้งสองข้างของมันก็ถูกฉีกออกไป และมันถูกยกขึ้นจากพื้นดิน และถูกทำให้ยืนสองเท้าเหมือนมนุษย์ ใจของมนุษย์ถูกมอบให้มัน
|
||
|
\v 5 แล้วมีสัตว์ตัวที่สองเหมือนหมี และมันได้ขยับตัวข้างหนึ่งขึ้น มันมีกระดูกซี่โครงสามซี่ระหว่างฟันในปากของมัน มีเสียงบอกมันว่า ‘จงลุกขึ้นและกินประชาชนมากมายอย่างตะกละ’
|
||
|
\v 6 หลังจากนั้น ข้าพเจ้าได้มองดูอีกครั้ง มีสัตว์อีกตัวหนึ่ง ที่มองดูเหมือนเสือดาว บนหลังของมันมีปีกสี่ปีกเหมือนปีกนก มันมีหัวสี่หัว และมันได้รับสิทธิอำนาจในการปกครอง
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 7 ต่อจากนั้น ข้าพเจ้าได้เห็นนิมิตในเวลากลางคืนสัตว์ตัวที่สี่ มันร้ายกาจ น่ากลัว และแข็งแรงยิ่งนัก มันมีฟันเหล็กที่ใหญ่ มันกินอย่างตะกละตะกลาม ได้หักเป็นชิ้นๆ และกระทืบสิ่งที่เหลือกินนั้นให้อยู่ใต้เท้า มันต่างกับสัตว์อื่นทั้งหมด มันมีเขาสิบเขา
|
||
|
\v 8 ขณะที่ข้าพเจ้าพิเคราะห์เขาเหล่านั้น ข้าพเจ้าได้มองดูและได้เห็น มีเขาเล็กๆ อีกเขาหนึ่งงอกขึ้นมาท่ามกลางเขาเหล่านั้น เขารุ่นแรกสามเขาได้ถูกถอนรากออกไป ข้าพเจ้าได้เห็นเขานี้มีตาเหมือนตามนุษย์ และมีปากพูดคุยโวแต่เรื่องยิ่งใหญ่
|
||
|
\v 9 เมื่อขณะที่ข้าพเจ้าได้มองดู มีหลายบัลลังก์มาตั้งไว้ องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ประทับบนบัลลังก์ ฉลองของพระองค์ก็ขาวอย่างหิมะ พระเกศาของพระเศียรของพระองค์ก็เหมือนขนแกะที่บริสุทธิ์ พระบัลลังก์ของพระองค์เป็นเปลวเพลิง และพวกล้อนั้นเป็นไฟลุกอยู่
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 10 แม่น้ำแห่งไฟก็ไหลพุ่งออกมาเฉพาะพระพักตร์พระองค์ คนนับล้านได้ปรนนิบัติพระองค์ และคนนับร้อยล้านได้เข้าเฝ้าพระองค์ ศาลก็ได้เริ่มกระบวนการ บรรดาหนังสือก็เปิดออก
|
||
|
\v 11 ข้าพเจ้าก็ยังคงมองดูต่อไป เพราะถ้อยคำโอ้อวดที่พูดออกมาจากเขานั้น ข้าพเจ้าได้จ้องดู ขณะที่สัตว์ตัวนั้นก็ถูกฆ่า และร่างของมันก็ถูกทำลายไป และได้ถูกมอบให้เผาด้วยไฟ
|
||
|
\v 12 ส่วนเรื่องสัตว์สี่ตัวที่เหลืออยู่นั้น อำนาจปกครองของพวกมันก็ถูกถอนไป แต่ชีวิตของพวกมันได้ถูกยืดต่อไปในช่วงเวลาหนึ่ง
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 13 ในนิมิตของข้าพเจ้าในคืนนั้น ข้าพเจ้าได้เห็นคนหนึ่งกำลังเหมือนบุตรมนุษย์ มาพร้อมกับบรรดาเมฆของฟ้า พระองค์มาพร้อมกับองค์พระผู้เป็นเจ้าและเฝ้าเฉพาะพระพักตร์พระองค์
|
||
|
\v 14 พระราชอำนาจในการครอบครอง และศักดิ์ศรีกับฤทธิ์อำนาจราชวงศ์ได้ทรงมอบไว้กับพระองค์ เพื่อประชาชนทุกชาติและทุกภาษา จะปรนนิบัติท่าน อำนาจสิทธิ์ขาดในการครอบครองจะไม่สิ้นสุดไป และอาณาจักรของพระองค์เป็นอาณาจักรซึ่งจะไม่ถูกทำลายเลย
|
||
|
\v 15 ส่วนข้าพเจ้า ดาเนียล จิตใจของข้าพเจ้าเป็นทุกข์อยู่ภายใน และนิมิตที่ข้าพเจ้าได้เห็นในของข้าพเจ้าทำให้ข้าพเจ้าไม่สบายใจ
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 16 ข้าพเจ้าได้เข้าไปใกล้ผู้หนึ่งในพวกเขาที่ยืนอยู่ที่นั่น และได้ขอให้เขาแสดงต่อข้าพเจ้าถึงความหมายของเรื่องราวนี้
|
||
|
\v 17 ‘สัตว์มหึมาทั้งสี่คือกษัตริย์สี่พระองค์ซึ่งเกิดมาจากแผ่นดินโลก
|
||
|
\v 18 แต่บรรดาผู้บริสุทธิ์ขององค์ผู้สูงสุดจะรับราชอาณาจักร และพวกเขาถือกรรมสิทธิ์ราชอาณาจักรนั้นสืบไปเป็นนิตย์นิรันดร์’
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 19 แล้วข้าพเจ้าก็อยากทราบความจริงเกี่ยวกับสัตว์ตัวที่สี่นั้น ซึ่งมันผิดแปลกจากสัตว์อื่นทั้งสิ้น และร้ายกาจเหลือเกิน ด้วยฟันเหล็กและเล็บเท้าทองสัมฤทธิ์ ซึ่งมันได้กินและได้ฉีกออกเป็นชิ้นๆ และได้กระทืบสิ่งที่เหลือนั้นเสียด้วยเท้าของมัน
|
||
|
\v 20 ข้าพเจ้าต้องการที่จะรู้เกี่ยวกับเขาสิบเขาบนหัวของมัน และเขาอีกเขาหนึ่งซึ่งงอกขึ้นมาต่อหน้าเขารุ่นแรกสามเขาที่หลุดไป ข้าพเจ้าต้องการรู้เรื่องเขาซึ่งมีตาและมีปากที่พูดโอ้อวดเรื่องใหญ่โตกว่าเหล่าเพื่อนของมัน
|
||
|
\v 21 เมื่อข้าพเจ้าได้มองดู เขานี้ทำสงครามกับบรรดาผู้บริสุทธิ์และได้มีชัยชนะเหนือพวกเขา
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 22 จนกว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าได้เสด็จมาถึง และความยุติธรรมได้ถูกมอบให้แก่บรรดาผู้บริสุทธิ์ขององค์ผู้สูงสุด แล้วเวลากำหนดได้มาถึงที่บรรดาผู้บริสุทธิ์จะรับราชอาณาจักร
|
||
|
\v 23 นี่คือสิ่งที่บุคคลนั้นได้กล่าวว่า ‘เรื่องสัตว์ตัวที่สี่นั้น จะมีราชอาณาจักรที่สี่บนแผ่นดินซึ่งจะแตกต่างจากราชอาณาจักรอื่นๆ มันจะกินทั้งแผ่นดินนี้เสีย และเหยียบแผ่นดินลง และทำให้เป็นชิ้นๆ
|
||
|
\v 24 ส่วนเรื่องเขาสิบเขานั้น จากราชอาณาจักรนี้จะมีกษัตริย์สิบพระองค์เกิดขึ้น และมีกษัตริย์อีกองค์หนึ่งเกิดขึ้นภายหลังพวกเขา เขาจะแตกต่างจากคนที่มีมาก่อนหน้า และเขาจะโค่นกษัตริย์สามพระองค์เสีย
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 25 เขาจะพูดคำกล่าวร้ายองค์ผู้สูงสุด และจะข่มเหงบรรดาประชาชนผู้บริสุทธิ์ขององค์ผู้สูงสุดนั้น เขาจะพยายามเปลี่ยนแปลงงานฉลองต่างๆ และธรรมบัญญัติต่างๆ สิ่งเหล่านี้จะถูกมอบไว้ในมือของท่านหนึ่งปี สองปี กับครึ่งปี
|
||
|
\v 26 แต่การพิจารณาคดีก็จะดำเนินต่อไป และพวกเขาจะนำเอาราชอำนาจของเขาไป เพื่อจะทรงเผาผลาญและทำลายเสียให้สิ้นสุด
|
||
|
\v 27 ราชอาณาจักรกับราชอำนาจ และความยิ่งใหญ่แห่งบรรดาราชอาณาจักรภายใต้ฟ้าทั้งสิ้น จะต้องถูกมอบไว้แก่บรรดาประชาชนผู้บริสุทธิ์ขององค์ผู้สูงสุดนั้น แผ่นดินของท่านเหล่านี้จะเป็นแผ่นดินนิรันดร์ และราชอาณาจักรทั้งสิ้นจะปรนนิบัติและเชื่อฟังท่าน’
|
||
|
\v 28 นี่เป็นการสิ้นสุดของเรื่องนี้ ส่วนข้าพเจ้า ดาเนียล ความคิดของข้าพเจ้าก็ทำให้ข้าพเจ้าตกใจมาก และหน้าของข้าพเจ้าก็ซีดไป แต่ข้าพเจ้าก็เก็บเรื่องราวนี้ไว้ในใจ”
|
||
|
\s5
|
||
|
\c 8
|
||
|
\p
|
||
|
\v 1 ในปีที่สามแห่งรัชกาลกษัตริย์เบลชัสซาร์ ข้าพเจ้า ดาเนียลได้เห็นนิมิตปรากฏแก่ข้าพเจ้า (หลังจากนิมิตที่ได้ปรากฏแก่ข้าพเจ้าครั้งแรกนั้น)
|
||
|
\v 2 ข้าพเจ้าได้เห็นในนิมิต ขณะที่ข้าพเจ้าได้กำลังมองดู ปรากฏว่า ข้าพเจ้าได้อยู่ที่ป้อมของเมืองสุสา ซึ่งอยู่ในมณฑลเอลาม ข้าพเจ้าได้เห็นในนิมิตซึ่งข้าพเจ้าได้อยู่ที่ริมคลองอุลัย
|
||
|
\v 3 ข้าพเจ้าได้เงยหน้าดูและเห็นแกะตัวผู้ตัวหนึ่งมีเขาสองเขากำลังยืนอยู่ที่ข้างลำคลอง เขาข้างหนึ่งก็ยาวกว่าอีกข้างหนึ่ง แต่เขาที่ยาวนั้นงอกมาช้ากว่าเขาที่สั้นกว่าและได้งอกออกมาเรื่อยๆ แล้วก็เป็นเขาที่ยาว
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 4 ข้าพเจ้าได้เห็นแกะผู้ตัวนั้นขวิดไปทางตะวันตก แล้วก็ทางเหนือ และต่อมาก็ทางใต้ ไม่มีสัตว์ตัวไหนสู้มันได้ ไม่มีตัวไหนในพวกมันช่วยให้พ้นจากอำนาจของมันได้ มันทำตามใจชอบและมันก็ได้กลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่
|
||
|
\v 5 เมื่อข้าพเจ้ากำลังตรึกตรองเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ ข้าพเจ้าได้เห็นแพะผู้ตัวหนึ่งมาจากทิศตะวันตก มันได้ข้ามผิวหน้าพื้นแผ่นดินทั้งหมดไป วิ่งอย่างเร็วมาก จนดูเหมือนว่าไม่แตะต้องพื้นดินเลย และแพะตัวผู้นั้นได้มีเขาใหญ่อยู่ในระหว่างตาของมันเขาหนึ่ง
|
||
|
\v 6 มันได้เห็นแกะตัวผู้ที่ยืนอยู่ที่ฝั่งคลอง และแพะได้วิ่งเข้าใส่แกะผู้ตัวนั้นด้วยความโกรธเกรี้ยว
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 7 ข้าพเจ้าได้เห็นแพะตัวผู้เข้ามาใกล้แกะตัวผู้ มันโกรธแกะตัวผู้มาก และมันได้ชนแกะตัวผู้และทำให้เขาทั้งสองของมันหักไป แกะตัวผู้ก็ไม่มีกำลังที่จะยืนต่อหน้ามันได้ แพะได้เหวี่ยงแกะตัวผู้ลงที่พื้นดินและเหยียบมัน ไม่มีใครสามารถช่วยแกะตัวผู้ให้พ้นอำนาจของมันได้
|
||
|
\v 8 แล้วแพะตัวผู้ก็ใหญ่โตขึ้นอย่างมาก แต่เมื่อมันแข็งแกร่งขึ้น เขาใหญ่ของมันก็หัก และในที่นั้นก็มีเขาอีกสี่เขางอกขึ้นแทนที่ตรงจุดนั้น หันไปทางทิศลมทั้งสี่ของฟ้าทั้งหลาย
|
||
|
\v 9 และจากเขาหนึ่งในบรรดาเขาเหล่านี้ มีเขาเล็กๆ อีกเขาหนึ่งได้งอกออกมา ตอนแรกก็เป็นเขาเล็กๆ แต่ได้กลายเป็นเขาใหญ่โตขยายไปทางใต้ ไปทางตะวันออก และไปยังแผ่นดินอันสวยงาม
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 10 มันได้ใหญ่โตมากจนเข้าสู้รบในสงครามกับกองทัพแห่งฟ้า บางคนในกองทัพนั้นและดาวบางดวงถูกเหวี่ยงลงมายังพื้นดิน แล้วมันได้เหยียบย่ำเสีย
|
||
|
\v 11 มันได้ทำตัวของมันเองโตขึ้นอีกจนเหมือนผู้บัญชาการกองทัพ และเครื่องเผาบูชาเนืองนิตย์ก็ถูกชิงไปจากเขา และสถานนมัสการของเขาก็ถูกทำให้เสื่อม
|
||
|
\v 12 เนื่องจากการขบถ กองทัพจะถูกมอบให้แก่เขาของแพะตัวผู้ และเครื่องเผาบูชาจะถูกหยุดยั้ง เขานั้นจะเหวี่ยงความจริงลงพื้นดิน และเขานั้นจะได้รับผลสำเร็จในสิ่งที่มันทำ
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 13 แล้วข้าพเจ้าได้ยินผู้บริสุทธิ์ท่านหนึ่งกำลังพูดอยู่ และผู้บริสุทธิ์อีกท่านหนึ่งได้มาตอบเขาว่า “สิ่งนี้จะอยู่อีกนานเท่าใด นิมิตนี้ที่เกี่ยวกับเครื่องเผาบูชา ความบาปที่นำไปสู่การพินาศ และเรื่องการยกสถานนมัสการให้ไป และกองทัพของฟ้าที่ถูกเหยียบย่ำลง?”
|
||
|
\v 14 เขาได้ตอบข้าพเจ้าว่า “มันจะอยู่นาน 2,300 เวลาเย็นและเวลาเช้า หลังจากสถานนมัสการนั้นจะกลับสู่สภาพอันควร”
|
||
|
\v 15 เมื่อข้าพเจ้า ดาเนียลได้เห็นนิมิตนั้นแล้ว ข้าพเจ้าก็พยายามเข้าใจ สิ่งหล่านั้น แล้วมีผู้หนึ่งที่ได้มองดูแล้วเหมือนมนุษย์ยืนอยู่หน้าข้าพเจ้า
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 16 ข้าพเจ้าได้ยินเสียงของชายคนหนึ่งกำลังเรียกระหว่างทั้งสองฝั่งคลองอุลัย เขาได้พูดว่า “กาเบรียลเอ๋ย จงทำให้ชายคนนี้เข้าใจนิมิตนั้นเถิด”
|
||
|
\v 17 ดังนั้นเขาจึงได้มาใกล้ที่ซึ่งข้าพเจ้ายืนอยู่ และเมื่อเขามา ข้าพเจ้าก็ตกใจซบหน้าลงบนพื้นดิน เขาได้กล่าวแก่ข้าพเจ้าว่า “มนุษย์เอ๋ย จงเข้าใจเถิดว่า นิมิตนั้นเป็นเรื่องของกาลอวสาน”
|
||
|
\v 18 เมื่อเขาพูดอยู่กับข้าพเจ้า ข้าพเจ้าได้สลบไปด้วยซบหน้าติดดิน แล้วเขาได้แตะต้องข้าพเจ้า และทำให้ข้าพเจ้ายืนขึ้น
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 19 เขากล่าวว่า “นี่แน่ะ ข้าพเจ้าจะทำให้ท่านทราบถึงสิ่งซึ่งจะเกิดขึ้นภายหลังในช่วงเวลาแห่งพระพิโรธ เพราะนิมิตนนั้นเกี่ยวกับวาระกำหนดแห่งอวสาน
|
||
|
\v 20 เรื่องแกะตัวผู้ที่ท่านเห็น ตัวที่มีสองเขา พวกเขาเป็นกษัตริย์ของคนมีเดียและคนเปอร์เซีย
|
||
|
\v 21 แพะตัวผู้คือกษัตริย์ของกรีก และเขาใหญ่ระหว่างนัยน์ตาของเขาคือกษัตริย์องค์แรก
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 22 สำหรับเขาที่หักไปนั้น มีเขาอีกสี่เขางอกขึ้นมาแทนในที่นั้นคืออาณาจักรสี่อาณาจักรจะเกิดขึ้นจากชาติของเขา แต่จะไม่ได้ด้วยอำนาจยิ่งใหญ่ของเขา
|
||
|
\v 23 ตอนปลายรัชสมัยของเขาทั้งหลายนั้น เมื่อผู้ละเมิดได้ทำความชั่วเต็มขนาดแล้ว จะมีกษัตริย์พระพักตร์ดุร้ายองค์หนึ่งเกิดมา พระองค์ทรงฉลาดมาก
|
||
|
\v 24 อำนาจของพระองค์จะใหญ่โตมาก แต่ไม่ใช่อำนาจของพระองค์เอง พระองค์จะทรงทำให้เกิดความพินาศอย่างน่าประหลาดใจ พระองค์จะทรงกระทำการและประสบความสำเร็จ พระองค์จะทรงทำลายชนชาติที่มีกำลังมาก คือประชาชนของบรรดาผู้บริสุทธิ์
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 25 ด้วยความฉลาดของพระองค์ พระองค์จะทรงทำให้การล่อลวงแพร่ขยายขึ้นด้วยน้ำมือของพระองค์ พระองค์จะคิดว่าตัวพระองค์เองนั้นยิ่งใหญ่ พระองค์จะทรงทำลายคนมากมายเกินกว่าที่จะคาดคิดได้ พระองค์จะทรงลุกขึ้นต่อสู้กับจอมเจ้านาย และพระองค์จะต้องทรงถูกหักทำลาย แต่ไม่ใช่ด้วยมือมนุษย์
|
||
|
\v 26 นิมิตเรื่องเวลาเย็นและเวลาเช้าซึ่งได้เคยบอกเล่านั้นเป็นความจริง แต่จงผนึกนิมิตนั้นไว้ เพราะเป็นเรื่องของอีกหลายวันข้างหน้า”
|
||
|
\v 27 แล้วข้าพเจ้า ดาเนียลก็อ่อนเพลียและนอนหมดแรงอยู่หลายวัน แล้วข้าพเจ้าได้ลุกขึ้น ไปปฏิบัติราชการของกษัตริย์ แต่ข้าพเจ้าไม่สบายใจเพราะนิมิตนั้น และไม่มีใครที่เข้าใจเรื่องราวเลย
|
||
|
\s5
|
||
|
\c 9
|
||
|
\p
|
||
|
\v 1 ดาริอัส โอรสกษัตริย์อาหสุเอรัส เชื้อสายของคนมีเดีย อาหสุเอรัสนี่แหละผู้ที่ได้เป็นกษัตริย์เหนืออาณาจักรของบาบิโลน
|
||
|
\v 2 บัดนี้ในปีที่หนึ่งแห่งรัชกาลของดาริอัส ข้าพเจ้า ดาเนียล กำลังศึกษาดูในหนังสือที่บันทึกพระวจนะของพระยาห์เวห์ พระวจนะที่มาถึงเยเรมีย์ผู้เผยพระวจนะ ข้าพเจ้าได้รับรู้ว่าจะเป็นเวลาเจ็ดสิบปีจนกระทั่งความร้างเปล่าของกรุงเยรูซาเล็มสิ้นสุดลง
|
||
|
\v 3 ข้าพเจ้าได้หันหน้าไปหาพระเจ้าองค์พระผู้เป็นเจ้า เพื่อแสวงหาพระองค์ด้วยการอธิษฐานและการวิงวอน ด้วยการอดอาหาร และนุ่งห่มผ้ากระสอบและนั่งบนขี้เถ้า
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 4 ข้าพเจ้าได้อธิษฐานต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพเจ้า และข้าพเจ้าได้สารภาพความบาปของพวกเราว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ใหญ่ยิ่งและน่าเกรงขาม ผู้ทรงรักษาพันธสัญญาและความรักมั่นคงต่อผู้ที่รักพระองค์และปฏิบัติตามพระบัญญัติของพระองค์
|
||
|
\v 5 ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ทำบาปและทำสิ่งที่ผิด พวกข้าพระองค์ได้ก่อการอธรรมและได้ทำการกบฏ และหันจากพระบัญญัติและกฎหมายของพระองค์
|
||
|
\v 6 ข้าพระองค์ทั้งหลายไม่ได้ฟังบรรดาผู้เผยพระวจนะผู้รับใช้ของพระองค์ ผู้ได้กล่าวในพระนามของพระองค์ต่อบรรดากษัตริย์ของข้าพระองค์ทั้งหลาย ทั้งต่อบรรดาผู้นำและบรรพบุรุษของเหล่าข้าพระองค์ รวมทั้งประชาชนทุกคนของแผ่นดิน
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 7 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ความชอบธรรมเป็นของพระองค์ สำหรับพวกข้าพระองค์ในวันนี้มีแต่ความอับอายขายหน้าของประชาชนยูดาห์ และคนเหล่านั้นที่อาศัยอยู่ในกรุงเยรูซาเล็ม และคนอิสราเอลทั้งหมด นี่รวมทั้งคนเหล่านั้นผู้ที่อยู่ใกล้และคนเหล่านั้นที่อยู่ไกลออกไป ในแผ่นดินทั้งหลายซึ่งพระองค์ทรงขับไล่พวกเขาไปนั้น นี่เป็นเพราะว่าการทรยศอย่างร้ายแรงที่พวกข้าพระองค์ได้กระทำต่อพระองค์
|
||
|
\v 8 ข้าแต่พระยาห์เวห์ สำหรับพวกข้าพระองค์ความอับอายขายหน้าเป็นของพวกข้าพระองค์ กษัตริย์ทั้งหลาย บรรดาผู้นำและบรรพบุรุษทั้งหลายของพวกข้าพระองค์ เพราะข้าพระองค์ทั้งหลายได้กระทำบาปต่อพระองค์
|
||
|
\v 9 พระกรุณาและการอภัยโทษเป็นขององค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย เพราะว่าพวกข้าพระองค์ได้กบฏต่อพระองค์
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 10 ข้าพระองค์ทั้งหลายไม่ได้เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลายโดยการปฏิบัติตามธรรมบัญญัติของพระองค์ที่ได้ประทานผ่านบรรดาผู้เผยพระวจนะผู้รับใช้ของพระองค์
|
||
|
\v 11 อิสราเอลทั้งหมดได้ทำผิดต่อธรรมบัญญัติของพระองค์และได้หันไปเสีย ได้ปฏิเสธที่จะเชื่อฟังพระสุรเสียงของพระองค์ คำสาปแช่งและคำปฏิญาณซึ่งจารึกไว้ในธรรมบัญญัติของโมเสสผู้รับใช้ของพระเจ้า จึงได้เทลงเหนือข้าพระองค์ทั้งหลาย เพราะพวกข้าพระองค์ได้ทำบาปต่อพระองค์
|
||
|
\v 12 พระองค์ได้ทรงยืนยันถ้อยคำของพระองค์ ซึ่งพระองค์ได้ตรัสกล่าวโทษข้าพระองค์ทั้งหลาย และกล่าวโทษผู้ซึ่งปกครองพวกข้าพระองค์ โดยนำวิบัติอย่างใหญ่หลวงมาเหนือข้าพระองค์ทั้งหลาย เพราะภายใต้ท้องฟ้าทั้งสิ้น ไม่มีสิ่งใดเลยที่ได้ทำแล้วที่สามารถจะเปรียบเทียบกับสิ่งที่ได้ทำแก่เยรูซาเล็มแล้วนั้น
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 13 ดังที่ได้จารึกไว้ในธรรมบัญญัติของโมเสสแล้ว วิบัติทั้งสิ้นจึงได้ตกอยู่เหนือข้าพระองค์ทั้งหลายแล้ว แต่พวกข้าพระองค์ยังไม่ได้ทูลวิงวอนขอพระกรุณาจากพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย ด้วยการหันจากความผิดของข้าพระองค์ทั้งหลาย หรือใส่ใจในความจริงของพระองค์
|
||
|
\v 14 ดังนั้นพระยาห์เวห์ได้ทรงเตรียมความวิบัติไว้พร้อม และทรงนำมาเหนือข้าพระองค์ทั้งหลาย เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลายทรงเป็นผู้ชอบธรรมในพระราชกิจทั้งสิ้นซึ่งพระองค์ได้ทรงกระทำ แต่พวกข้าพระองค์ก็ยังไม่ได้เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระองค์
|
||
|
\v 15 บัดนี้ ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย พระองค์ได้ทรงนำประชาชนของพระองค์ออกจากแผ่นดินอียิปต์ด้วยพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ และพระองค์ได้ทรงทำให้พระนามของพระองค์เลื่องลือมาจนทุกวันนี้ แต่ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ทำบาปและทำส่ิ่งชั่วร้ายทั้งมวล
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 16 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะตามการกระทำอันชอบธรรมทั้งสิ้นของพระองค์ ขอให้ความกริ้วและพระพิโรธของพระองค์หันกลับจากเยรูซาเล็มเมืองของพระองค์ ภูเขาบริสุทธิ์ของพระองค์ เพราะบาปของข้าพระองค์ทั้งหลาย และเพราะความผิดของบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลาย กรุงเยรูซาเล็มและประชาชนของพระองค์จึงกลายเป็นที่เยาะเย้ยในชนชาติทั้งสิ้นที่อยู่รอบข้างพวกข้าพระองค์
|
||
|
\v 17 บัดนี้ ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย ขอพระองค์ทรงสดับคำอธิษฐานของผู้รับใช้ของพระองค์และคำวิงวอนเพื่อความเมตตาพวกเขา ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า เพื่อเห็นแก่พระองค์ ขอพระพักตร์ของพระองค์ทอแสงเหนือสถานนมัสการของพระองค์ซึ่งร้างเปล่านั้น
|
||
|
\v 18 ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอทรงเงี่ยพระกรรณ และขอทรงลืมพระเนตรดู ข้าพระองค์ทั้งหลายถูกทำให้รกร้างว่างเปล่า ขอทรงทอดพระเนตรดูนครซึ่งมีชื่อตามพระนามของพระองค์ ข้าพระองค์ทั้งหลายไม่ได้ทูลขอการทรงช่วยต่อพระองค์เพราะเหตุความชอบธรรมของข้าพระองค์ทั้งหลาย แต่เพราะพระกรุณายิ่งใหญ่ของพระองค์
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 19 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงฟังสดับฟัง ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงให้อภัย ขอทรงใส่พระทัยและทรงจัดการ เพื่อเห็นแก่พระนามของพระองค์ ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขออย่าทรงเนิ่นช้าเลยเพราะว่านครของพระองค์และประชาชนของพระองค์ก็มีชื่อตามพระนามของพระองค์
|
||
|
\v 20 ขณะที่ข้าพเจ้ากำลังพูด กำลังอธิษฐานและกำลังสารภาพบาปของข้าพเจ้าและบาปของประชาชนอิสราเอลของข้าพเจ้า และกำลังเสนอคำวิงวอนต่อพระพักตร์พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพเจ้าในนามของภูเขาบริสุทธิ์ของพระองค์
|
||
|
\v 21 ขณะเมื่อข้าพเจ้ากล่าวคำอธิษฐาน ผู้ชายที่ชื่อกาเบรียล ซึ่งข้าพเจ้าได้เห็นในนิมิตครั้งแรกนั้น ได้บินลงมาหาข้าพเจ้าอย่างรวดเร็ว ในเวลาถวายเครื่องบูชาตอนเย็น
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 22 เขาได้กล่าวอธิบายให้แก่ข้าพเจ้าเข้าใจ และกล่าวกับข้าพเจ้าว่า “ดาเนียล ข้าพเจ้าออกมา ณ บัดนี้ เพื่อจะให้ความกระจ่างและความเข้าใจแก่ท่าน
|
||
|
\v 23 เมื่อท่านเริ่มวิงวอนขอความเมตตา ได้มีคำสั่งและข้าพเจ้าก็มาแจ้งคำตอบแก่ท่านทันที เพราะท่านเป็นผู้ที่ทรงรักมาก เพราะฉะนั้นจงพิจารณาถ้อยคำนี้และเข้าใจการวิวรณ์นั้น
|
||
|
\v 24 เจ็ดสิบสัปดาห์ของปีต่างๆ ได้กำหนดไว้สำหรับประชาชนของท่านและนครบริสุทธิ์ของท่าน เพื่อยุติความผิดและให้บาปจบสิ้น ให้ลบมลทิน เพื่อนำความชอบธรรมนิรันดร์เข้ามา ให้นำนิมิตและคำของผู้เผยพระวจนะออกไป และเพื่อจะเจิมอภิสุทธิสถาน
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 25 จงรับรู้และเข้าใจว่า นับตั้งแต่การประกาศพระดำรัสสั่งนั้นออกไปให้ปรับปรุงและสร้างกรุงเยรูซาเล็มขึ้นใหม่ จนถึงการมาของผู้ที่ทรงถูกเจิมไว้ (ผู้ที่จะเป็นผู้นำ) จะมีเจ็ดสัปดาห์ และหกสิบสองสัปดาห์ กรุงเยรูซาเล็มจะถูกสร้างขึ้นใหม่พร้อมด้วยถนนและคูเมือง แต่จะเกิดขึ้นในช่วงเวลายากลำบาก
|
||
|
\v 26 หลังจากหกสิบสองสัปดาห์ของปีต่างๆ แล้ว ผู้ที่ถูกเจิมจะต้องถูกทำลายลงและจะไม่มีอะไรเหลือ กองทัพของผู้ปกครองผู้ที่จะมานั้นจะทำลายเมืองและสถานบริสุทธิ์ ความสิ้นสุดจะมาถึงด้วยน้ำท่วม และจะมีสงครามจนกระทั่งในตอนสุดท้าย การร้างเปล่าได้ถูกกำหนดไว้แล้ว
|
||
|
\v 27 เขาจะยืนยันพันธสัญญากับคนเป็นอันมากอยู่หนึ่งสัปดาห์ ในกลางสัปดาห์เขาจะหยุดการถวายสัตวบูชาและเครื่องบูชา ในปีกของสิ่งน่าสะอิดสะเอียนจะมาถึงคนที่ทำให้ร้างเปล่าตั้งอยู่ การอวสานและการทำลายได้ถูกกำหนดไว้ให้ถูกเทลงเหนือผู้ทำให้เกิดความร้างเปล่านั้น”
|
||
|
\s5
|
||
|
\c 10
|
||
|
\p
|
||
|
\v 1 ในปีที่สามแห่งรัชกาลไซรัสกษัตริย์แห่งเปอร์เซีย มีข่าวสารได้เปิดเผยแก่ดาเนียล ผู้ซึ่งมีอีกชื่อหนึ่งว่า เบลเทชัสซาร์ ข่าวสารนี้ก็เป็นความจริง เป็นเรื่องเกี่ยวกับมหาสงคราม ดาเนียลได้เข้าใจถึงข่าวสารนี้เมื่อเขาได้มีความเข้าใจจากนิมิตนั้น
|
||
|
\v 2 ในสมัยนั้น ข้าพเจ้า ดาเนียลไว้ทุกข์อยู่สามสัปดาห์
|
||
|
\v 3 ข้าพเจ้าไม่ได้รับประทานอาหารชั้นสูง ข้าพเจ้าไม่ได้รับประทานเนื้อ ข้าพเจ้าไม่ได้ดื่มเหล้าองุ่น และข้าพเจ้าไม่ได้ชโลมตัวข้าพเจ้าเองด้วยน้ำมันจนกระทั่งสามสัปดาห์เต็ม
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 4 เมื่อวันที่ยี่สิบสี่ของเดือนที่หนึ่ง ขณะที่ข้าพเจ้ายืนอยู่ที่ฝั่งแม่น้ำใหญ่ (นั่นคือแม่น้ำไทกริส)
|
||
|
\v 5 ข้าพเจ้าได้แหงนขึ้นและมองดู ผู้ชายคนหนึ่งสวมเสื้อผ้าป่าน พร้อมด้วยเข็มขัดที่ทำจากทองเมืองอุฟาสรอบเอวของเขา
|
||
|
\v 6 ร่างกายของเขาเหมือนดังบุษราคำ และหน้าของเขาก็เหมือนฟ้าแลบ ดวงตาของเขาก็เหมือนกับเปลวไฟของคบเพลิง และแขนของเขาและเท้าของเขาเป็นเงางามเหมือนกับทองสัมฤทธิ์ขัด เสียงถ้อยคำของเขาเหมือนเสียงมวลชนขนาดใหญ่
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 7 ข้าพเจ้า ดาเนียลได้เห็นนิมิตแต่เพียงผู้เดียว บรรดาคนที่อยู่กับข้าพเจ้าไม่ได้เห็นนิมิตนั้น อย่างไรก็ตามพวกเขากลัวจนตัวสั่น และพวกเขาได้วิ่งไปซ่อนตัว
|
||
|
\v 8 ดังนั้นข้าพเจ้าจึงถูกทิ้งให้อยู่แต่ลำพัง และได้เห็นนิมิตใหญ่ยิ่งนี้ ข้าพเจ้าก็สิ้นเรี่ยวสิ้นแรง ใบหน้าที่ใสกระจ่างของข้าพเจ้าได้เปลี่ยนไปจนดูไม่ได้ และข้าพเจ้าจึงหมดแรง
|
||
|
\v 9 แล้วข้าพเจ้าจึงได้ยินเสียงถ้อยคำของท่าน เมื่อข้าพเจ้าได้ยินเสียงถ้อยคำนั้น ข้าพเจ้าก็ฟุบหน้าลงหลับสนิทด้วยใบหน้าของข้าพเจ้าซบกับพื้นดิน
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 10 มีมือได้มาแตะข้าพเจ้า ทำให้อุ้งมือและเข่าของข้าพเจ้าสั่น
|
||
|
\v 11 ทูตสวรรค์กล่าวแก่ข้าพเจ้าว่า “ดาเนียล ผู้เป็นที่รักอย่างยิ่ง จงเข้าใจบรรดาถ้อยคำที่เรากำลังพูดกับท่าน จงยืนขึ้น เพราะว่าเราถูกใช้ให้มาหาท่าน” เมื่อเขาได้กล่าวข่าวสารนี้แก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าได้ยืนสั่นสะท้านอยู่
|
||
|
\v 12 แล้วเขาพูดกับข้าพเจ้าว่า “ดาเนียลเอ๋ย อย่ากลัวเลย ตั้งแต่วันแรกที่ท่านตั้งใจจะเข้าใจและถ่อมตัวลงเฉพาะพระพักตร์พระเจ้าของท่านนั้น พระเจ้าทรงฟังถ้อยคำของท่าน และเราได้มาด้วยเรื่องถ้อยคำของท่านนั้นเอง
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 13 เจ้าผู้ครองอาณาจักรเปอร์เซียได้ขัดขวางเรา และเราถูกกักตัวไว้กับเหล่ากษัตริย์ของเปอร์เซียถึงยี่สิบเอ็ดวัน แต่มีคาเอล เจ้าผู้ครองที่มีอำนาจสูงสุดผู้หนึ่งได้มาช่วยเรา
|
||
|
\v 14 บัดนี้เราได้มาเพื่อช่วยให้ท่านเข้าใจถึงสิ่งซึ่งจะเกิดขึ้นกับประชาชนของท่านในวันสิ้นยุคเพราะนิมิตนั้นเกี่ยวกับเวลาภายหน้า”
|
||
|
\v 15 ขณะที่เขากำลังพูดกับข้าพเจ้าโดยใช้ถ้อยคำเหล่านี้ ข้าพเจ้าได้ก้มหน้าลงดินและไม่สามารถพูดได้
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 16 มีผู้หนึ่งที่ดูเหมือนบุตรมนุษย์ ได้มาแตะริมฝีปากข้าพเจ้า และข้าพเจ้าได้อ้าปากและพูดกับเขาที่ยืนอยู่ข้างหน้าข้าพเจ้าว่า “นายของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าอยู่ในความเจ็บปวดเหตุเพราะนิมิต ข้าพเจ้าก็หมดแรง
|
||
|
\v 17 ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้ของท่าน ข้าพเจ้าจะพูดกับเจ้านายของข้าพเจ้าได้อย่างไร? เพราะบัดนี้ไม่มีกำลังเหลืออยู่ในข้าพเจ้าเลย และไม่มีลมหายใจเหลือในข้าพเจ้าแล้ว”
|
||
|
\v 18 ผู้มีรูปร่างอย่างมนุษย์นั้นได้แตะต้องข้าพเจ้าอีกครั้งหนึ่ง และให้กำลังแก่ข้าพเจ้า
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 19 เขาได้กล่าวว่า “ท่านผู้เป็นที่รักยิ่ง อย่ากลัวเลย ขอให้สันติสุขจงมีแก่ท่าน จงเข้มแข็ง บัดนี้ จงเข้มแข็งเถิด” ขณะที่เขากำลังพูดกับข้าพเจ้านั้น ข้าพเจ้ามีกำลังขึ้น ข้าพเจ้าจึงพูดว่า “ขอเจ้านายของข้าพเจ้าพูดเถิด เพราะท่านได้ให้กำลังข้าพเจ้าแล้ว”
|
||
|
\v 20 เขาได้กล่าวว่า “ท่านทราบหรือไม่ว่าเรามาหาท่านทำไม? ในไม่ช้าเราจะกลับไปต่อสู้กับเจ้าผู้ครองเปอร์เซีย เมื่อเราไปแล้ว เจ้าผู้ครองกรีซจะมา
|
||
|
\v 21 แต่เราจะบอกท่านตามสิ่งซึ่งบันทึกไว้ในหนังสือแห่งความจริง ไม่มีใครที่แสดงตัวของเขาร่วมแรงกับเราต่อสู้พวกเขาเลย นอกจากมีคาเอล เจ้าผู้ครองของท่าน"
|
||
|
\s5
|
||
|
\c 11
|
||
|
\p
|
||
|
\v 1 ในปีที่หนึ่งแห่งรัชกาลดาริอัสชาวมีเดีย เราได้มาเพื่อสนับสนุนและปกป้องมีคาเอล
|
||
|
\v 2 บัดนี้เราจะบอกความจริงแก่ท่าน จะมีกษัตริย์อีกสามพระองค์ขึ้นครองเปอร์เซีย และองค์ที่สี่จะมั่งคั่งยิ่งกว่าองค์อื่นทั้งหมด เมื่อพระองค์ทรงมีอำนาจด้วยความมั่งคั่งของพระองค์แล้ว พระองค์ก็จะทรงปลุกปั่นให้ทุกคนต่อสู้กับราชอาณาจักรกรีก
|
||
|
\v 3 แล้วจะมีกษัตริย์ผู้เก่งกล้าขึ้นมา พระองค์จะทรงปกครองด้วยราชอำนาจยิ่งใหญ่ และทำตามที่พระองค์ทรงพอพระทัย
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 4 เมื่อพระองค์ทรงเกิดขึ้นมาแล้ว ราชอาณาจักรของพระองค์ก็จะแตก และถูกแบ่งแยกออกไปตามทางลมทั้งสี่แห่งฟ้า แต่จะไม่ตกอยู่กับรัชทายาทของพระองค์ และจะไม่มีราชอำนาจอย่างที่พระองค์ทรงปกครองอยู่ เพราะว่าราชอาณาจักรของพระองค์จะถูกถอนออก และตกไปเป็นของผู้อื่นนอกจากรัชทายาทของพระองค์
|
||
|
\v 5 กษัตริย์แห่งถิ่นใต้จะทรงเข้มแข็งขึ้น แต่แม่ทัพคนหนึ่งในเหล่าแม่ทัพของพระองค์จะเข้มแข็งกว่าพระองค์ และจะครอบครองอาณาจักรของพระองค์ด้วยอำนาจยิ่งใหญ่
|
||
|
\v 6 ต่อมาอีกสองสามปี เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม กษัตริย์ทั้งสองพระองค์จะทรงเป็นพันธมิตรกัน พระธิดาของกษัตริย์แห่งถิ่นใต้จะมาหากษัตริย์แห่งถิ่นเหนือ เพื่อยืนยันข้อสัญญา แต่เธอจะไม่รักษากำลังแขนของเธอ และอำนาจของกษัตริย์จะไม่ยั่งยืน หรือแขนของพระองค์ เธอจะถูกละทิ้ง เธอและบรรดาผู้ที่นำเธอมา และพระราชบิดาของเธอ และผู้ที่สนับสนุนเธอในเวลานั้น
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 7 แต่คนหนึ่งจากเชื้อสายของเธอจะขึ้นมาแทนที่เธอ พระองค์จะทรงยกมาต่อสู้กับกองทัพ และเข้าในป้อมของกษัตริย์แห่งถิ่นเหนือ พระองค์จะทรงรบกับพวกเขาและจะชนะพวกเขา
|
||
|
\v 8 พระองค์จะทรงขนไปยังอียิปต์ คือบรรดาพระพร้อมทั้งรูปหล่อโลหะของพระทั้งหลาย และบรรดาภาชนะมีค่าที่ทำด้วยเงินและทองคำของพวกเขา เพราะว่าในบางปีพระองค์จะทรงอยู่ห่างจากกษัตริย์แห่งถิ่นเหนือ
|
||
|
\v 9 แล้วกษัตริย์แห่งถิ่นเหนือจะบุกรุกเข้ามาในเขตกษัตริย์แห่งถิ่นใต้ แต่พระองค์ก็จะถอยกลับไปยังแผ่นดินของพระองค์เอง
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 10 บุตรทั้งหลายของพระองค์เตรียมพร้อมและรวบรวมกองทัพยิ่งใหญ่มาก ซึ่งจะยกมาต่อเนื่องและจะท่วมทุกสิ่ง และจะผ่านไปจนถึงป้อมปราการของพระองค์
|
||
|
\v 11 แล้วกษัตริย์แห่งถิ่นใต้จะทรงพระพิโรธมาก พระองค์จะทรงยกออกมาต่อสู้กับกษัตริย์แห่งถิ่นเหนือ กษัตริย์แห่งถิ่นเหนือจะจัดกองทัพยิ่งใหญ่มาก แต่กองทัพนั้นก็จะถูกมอบไว้ในมือของพระองค์
|
||
|
\v 12 กองทัพจะถูกรวบไป และพระทัยของกษัตริย์แห่งถิ่นใต้ก็ผยองขึ้น และพระองค์จะทรงทำลายคนเป็นหมื่นๆ แต่พระองค์ไม่ได้รับชัยชนะ
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 13 แล้วกษัตริย์แห่งถิ่นเหนือจะจัดกองทัพอีกกองทัพหนึ่ง ใหญ่โตกว่าครั้งแรก ต่อมาอีกหลายปี กษัตริย์แห่งถิ่นเหนือจะยกกองทัพใหญ่นั้นมาพร้อมกับเสบียงอุดมสมบูรณ์อย่างแน่นอน
|
||
|
\v 14 ในเวลานั้นหลายกลุ่มจะยกขึ้นต่อสู้กับกษัตริย์แห่งถิ่นใต้ บุตรชายทั้งหลายที่หัวรุนแรงท่ามกลางประชาชนของพระองค์ก็จะยกตัวขึ้นเพื่อจะทำให้นิมิตสำเร็จ แต่พวกเขาจะล้มเหลว
|
||
|
\v 15 กษัตริย์แห่งถิ่นเหนือจะมาเทเนินดินเพื่อล้อมไว้และยึดเมืองที่มีป้อมแข็งแรง ส่วนกำลังกองทัพของถิ่นใต้จะสู้ไม่ไหว แม้ว่าจะมีบรรดาทหารที่ดีที่สุดของพวกเขา จะไม่มีกำลังยืนหยัดอยู่ได้
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 16 แต่ผู้ยกมาต่อสู้กับพระองค์จะทำตามที่พระองค์ทรงพอพระทัย จึงไม่มีใครต่อสู้พระองค์ได้ และพระองค์จะยั่งยืนอยู่ในแผ่นดินอันรุ่งโรจน์ และการทำลายจะอยู่ในอำนาจของพระองค์
|
||
|
\v 17 กษัตริย์แห่งถิ่นเหนือจะมุ่งหน้ามาด้วยกำลังของราชอาณาจักรทั้งหมดของพระองค์ และพระองค์จะนำข้อตกลงมาเสนอและพระองค์จะทรงทำกับกษัตริย์แห่งแผ่นดินใต้ และพระองค์จะทรงยกพระราชธิดาองค์หนึ่งเพื่ออภิเษกเพื่อให้ทำลายราชอาณาจักรแห่งถิ่นใต้ แต่แผนการจะไม่เป็นผลสำเร็จหรือเป็นประโยชน์แก่พระองค์
|
||
|
\v 18 ภายหลังจากนี้กษัตริย์แห่งถิ่นเหนือจะมุ่งสนพระทัยเมืองชายฝั่งทะเล และจะทรงยึดได้หลายเมือง แต่แม่ทัพคนหนึ่งจะกำจัดความผยองของพระองค์เสีย และจะเอาความผยองนั้นมาสนองพระองค์
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 19 แล้วพระองค์จะทรงหันหน้ามุ่งตรงไปยังบรรดาป้อมปราการแห่งแผ่นดินของพระองค์เอง แต่พระองค์ก็จะทรงสะดุดและทรงล้มลง จะหาตัวพระองค์ไม่พบอีกต่อไป
|
||
|
\v 20 แล้วจะมีผู้หนึ่งขึ้นมาแทนที่พระองค์ ผู้นี้จะส่งเจ้าพนักงานเก็บส่วยให้ไปทั่วเพื่อความรุ่งเรืองของราชอาณาจักร แต่ไม่กี่วันเขาก็ประสบหายนะ ไม่ใช่ด้วยความโกรธหรือสงคราม
|
||
|
\v 21 ในตำแหน่งของเขาจะมีคนน่าเกลียดคนหนึ่งตั้งตัวขึ้นแทนที่ผู้ซึ่งประชาชนไม่ได้ให้เกียรติของอำนาจราชวงศ์ เขาจะยกเข้ามาโดยไม่บอกกล่าว แล้วชิงเอาราชอาณาจักรนั้นด้วยเล่ห์กล
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 22 กองทัพทั้งหลายจะถูกกวาดไปหมดเหมือนโดนน้ำท่วมต่อหน้าพระองค์ ทั้งกองทัพและผู้นำแห่งพันธสัญญาจะถูกทำลายด้วย
|
||
|
\v 23 ตั้งแต่เวลาที่เป็นพันธมิตรกับพระองค์ พระองค์จะทำการล่อลวงอยู่เสมอ ด้วยจำนวนประชาชนไม่มากพระองค์จะทรงเข้มแข็งขึ้น
|
||
|
\v 24 โดยไม่มีการเตือนพระองค์จะทรงยกเข้ามาในส่วนของมณฑลซึ่งอุดมที่สุด และพระองค์จะทรงทำสิ่งที่ปู่ทวดหรือบรรพบุรุษของพระองค์ไม่ทำ พระองค์จะทรงเอาทรัพย์ที่ปล้นมา ของที่ริบมาได้ และข้าวของต่างๆ มาแจกกระจายกันในพวกที่ติดตามพระองค์ พระองค์จะทรงออกอุบายต่อสู้กับที่กำบังเข้มแข็ง แต่ก็ชั่วเวลาหนึ่งเท่านั้น
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 25 และพระองค์จะปลุกปั่นกำลังของพระองค์และความกล้าหาญ ยกไปสู้กับกษัตริย์แห่งถิ่นใต้ด้วยกองทัพยิ่งใหญ่ และกษัตริย์แห่งถิ่นใต้จะทำสงครามด้วยกองทัพเข้มแข็งมหึมายิ่งนัก แต่พระองค์ก็สู้ไม่ได้เพราะจะมีการปองร้ายพระองค์
|
||
|
\v 26 ถึงแม้ผู้ร่วมรับประทานอาหารชั้นสูงของพระองค์ก็จะหักหลังพระองค์ กองทัพของพระองค์ก็จะถูกกวาดไป ที่ถูกฆ่าฟันล้มตายจะมีมาก
|
||
|
\v 27 ส่วนกษัตริย์สององค์นั้น จิตใจต่างคิดปองร้าย จะนั่งร่วมโต๊ะและพูดมุสากัน แต่ก็ไม่ได้ผล เพราะวาระสุดท้ายก็จะมาตามเวลากำหนด
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 28 แล้วกษัตริย์แห่งถิ่นเหนือก็จะกลับเข้าบ้านเข้าเมืองพร้อมกับทรัพย์สมบัติมากมาย แต่จิตใจก็มุ่งร้ายต่อพันธสัญญาบริสุทธิ์ พระองค์จะลงมือทำตามใจชอบ และกลับเมืองของพระองค์
|
||
|
\v 29 พอถึงเวลากำหนด พระองค์จะเสด็จกลับมาที่ถิ่นใต้ แต่ครั้งนี้เหตุการณ์จะไม่เป็นไปอย่างครั้งก่อน
|
||
|
\v 30 เพราะว่ากองทัพเรือของเมืองคิทธิมมาปะทะกับพระองค์ พระองค์จะกลัวและกลับไป และจะเกรี้ยวกราดต่อพันธสัญญาบริสุทธิ์ และลงมือปฏิบัติงานพระองค์จะทรงหันกลับมาสนใจบรรดาผู้ทิ้งพันธสัญญาบริสุทธิ์
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 31 กองทัพของพระองค์จะยกมาทำให้สถานนมัสการคือป้อมปราการเป็นมลทิน พวกเขาจะให้เลิกเครื่องเผาบูชาเนืองนิตย์นั้นเสีย และพวกเขาจะตั้งสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียน ซึ่งทำให้เกิดการร้างเปล่าขึ้น
|
||
|
\v 32 สำหรับคนเหล่านั้นที่ใช้เล่ห์กลล่อลวงผู้ละเมิดพันธสัญญา แต่บรรดาประชาชนที่ซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าของตนจะยืนหยัดต่อสู้
|
||
|
\v 33 และคนเหล่านั้นที่ฉลาดจะทำให้คนเป็นอันมากเข้าใจ แต่พวกเขาจะล้มลงด้วยดาบหรือด้วยเปลวไฟ ด้วยการเป็นเชลยหรือด้วยถูกปล้นสักระยะเวลาหนึ่งก็ตาม
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 34 เมื่อพวกเขาล้มลงนั้น พวกเขาจะได้รับความช่วยเหลือเล็กน้อย และจะมีคนจำนวนมากที่เข้าร่วมอย่างไม่จริงใจ
|
||
|
\v 35 คนฉลาดบางคนจะล้มลงเพื่อพวกเขาจะถูกถลุงและชำระให้หมดจดกว่าจะถึงวาระสุดท้าย เพราะวาระก็จะมาตามเวลากำหนด
|
||
|
\v 36 กษัตริย์จะทรงทำตามที่พระองค์ทรงพอพระทัย พระองค์จะทรงยกตนขึ้น และพองตัวขึ้นเหนือเทพเจ้าทุกองค์ และจะพูดสิ่งที่น่าเกลียดต่อสู้พระเจ้าแห่งเทพเจ้าทั้งหลาย พระองค์จะทรงเจริญขึ้นจนกว่าพระพิโรธจะครบถ้วนเพราะสิ่งใดที่ทรงกำหนดไว้จะต้องสำเร็จ
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 37 พระองค์จะไม่เชื่อฟังบรรดาเทพเจ้าแห่งบรรพบุรุษของพระองค์ หรือพระที่ผู้หญิงปรารถนา พระองค์จะไม่เชื่อเทพเจ้าอื่นใดเลย เพราะพระองค์จะถือว่าตัวเองใหญ่กว่าทุกสิ่งทุกอย่าง
|
||
|
\v 38 พระองค์จะทรงยกย่องเทพเจ้าของบรรดาป้อมปราการแทนสิ่งเหล่านี้ เทพเจ้าอีกองค์หนึ่งที่บรรพบุรุษของพระองค์ไม่รู้จัก พระองค์ก็จะให้เกียรติด้วยทองคำและเงิน ด้วยเพชรนิลจินดาและของถวายอันมีค่า
|
||
|
\v 39 พระองค์จะสู้รบกับป้อมปราการที่แข็งแรงที่สุดความช่วยเหลือของพระต่างด้าว ใครๆ ที่นับถือพระองค์ พระองค์ก็ทรงมอบเกียรติให้อย่างมาก พระองค์จะทรงแต่งตั้งให้พวกเขาครอบครองคนเป็นอันมาก และพระองค์จะทรงแบ่งที่ดินให้เป็นสิ่งตอบแทนเป็นสิ่งตอบแทน
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 40 พอถึงวาระสุดท้าย กษัตริย์แห่งถิ่นใต้จะมาโจมตี กษัตริย์แห่งถิ่นเหนือจะพุ่งเข้าใส่พระองค์อย่างลมบ้าหมู พร้อมด้วยรถม้าศึก พลม้า และเรือรบเป็นอันมาก พระองค์จะรุกเข้าประเทศต่างๆ แล้วยกกองทัพผ่านเหมือนน้ำท่วม
|
||
|
\v 41 พระองค์จะเข้ามาในแผ่นดินอันรุ่งโรจน์ และประชาชนจะตายเป็นหมื่นๆ แต่เอโดม โมอับ และส่วนใหญ่ของคนอัมโมนจะพ้นจากมือของเขา
|
||
|
\v 42 เขาจะขยายอำนาจครอบครองประเทศต่างๆ แผ่นดินอียิปต์ก็จะไม่มีใครช่วยได้
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 43 พระองค์จะครอบครองทรัพย์สมบัติที่เป็นทองและเงิน และสิ่งมีค่าทั้งหลายของอียิปต์ คนลิเบีย และคนเอธิโอเปียก็จะตามพระองค์ด้วย
|
||
|
\v 44 แต่ข่าวจากทิศตะวันออกและทิศเหนือจะทำให้พระองค์ตกพระทัย และพระองค์จะทรงยกออกไปด้วยความเคียดแค้นอย่างยิ่ง มุ่งจะทำลายและล้างผลาญคนเป็นอันมากอย่างสิ้นซาก
|
||
|
\v 45 พระองค์จะทรงกางเต็นท์หลวงระหว่างทะเลและภูเขาบริสุทธิ์รุ่งโรจน์ แล้วก็จะสิ้นพระชนม์โดยไม่มีใครช่วยพระองค์เลย
|
||
|
\s5
|
||
|
\c 12
|
||
|
\p
|
||
|
\v 1 “ในครั้งนั้น มีคาเอล เจ้าผู้ครอบครองที่ยิ่งใหญ่ ผู้คุ้มกันประชาชนของท่านจะลุกขึ้น จะเกิดความยากลำบากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนตั้งแต่ครั้งเริ่มต้นของประชาชาติต่างๆ จนถึงสมัยนั้น ในครั้งนั้นประชาชนของท่านทุกคนผู้ซึ่งมีชื่อบันทึกไว้ในหนังสือจะรอดชีวิต
|
||
|
\v 2 คนเป็นอันมากในพวกคนเหล่านั้นที่หลับในผงคลีแห่งแผ่นดินโลกจะตื่นขึ้น บ้างก็จะเข้าสู่ชีวิตนิรันดร์ และบ้างก็เข้าสู่ความอับอายและการดูหมิ่นชั่วนิรันดร์
|
||
|
\v 3 บรรดาคนเหล่านั้นที่ฉลาดจะส่องแสงเหมือนแสงจ้าของท้องฟ้าเบื้องบน และบรรดาคนเหล่านั้นที่ได้นำคนเป็นอันมากมาสู่ความชอบธรรม จะเหมือนกับดวงดาวทั้งหลายตลอดไปและเป็นนิตย์นิรันดร์
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 4 แต่ตัวเจ้า ดาเนียลเอ๋ย จงปิดถ้อยคำเหล่านี้ไว้เป็นความลับ และปิดผนึกหนังสือนั้นเสียจนกระทั่งวาระสุดท้าย คนเป็นอันมากจะวิ่งไปวิ่งมา และความรู้จะทวีขึ้น”
|
||
|
\v 5 แล้วข้าพเจ้า ดาเนียลก็ได้มองดู และมีอีกสองคนยืนอยู่ คนหนึ่งได้ยืนอยู่ที่ฝั่งแม่น้ำข้างนี้ อีกคนหนึ่งได้ยืนอยู่ที่ฝั่งแม่น้ำข้างโน้น
|
||
|
\v 6 คนหนึ่งในพวกเขาก็ได้พูดกับผู้ชายที่สวมเสื้อผ้าป่าน ผู้ซึ่งอยู่ทวนน้ำตลอดแม่น้ำนั้นว่า "ยังอีกนานเท่าไรกว่าเหตุการณ์ซึ่งทำให้ประหลาดใจเหล่านี้จะสิ้นสุดลง?"
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 7 ข้าพเจ้าได้ยินผู้ชายที่ได้สวมเสื้อผ้าป่าน ผู้ซึ่งได้อยู่เหนือน้ำแม่น้ำนั้น เขาได้ยกมือขวาและมือซ้ายของเขาสู่ท้องฟ้า และได้ปฏิญาณโดยได้อ้างพระผู้ทรงพระชนม์อยู่เป็นนิตย์ว่ายังอีกวาระหนึ่ง หลายวาระ และครึ่งวาระ เมื่ออำนาจของประชาชนบริสุทธิ์ได้ถูกทำลายในที่สุด สิ่งทั้งหมดนี้ก็จะจบสิ้นไปด้วย
|
||
|
\v 8 ข้าพเจ้าได้ยินแต่ข้าพเจ้าไม่เข้าใจ ดังนั้นข้าพเจ้าจึงได้ถามว่า “เจ้านายของข้าพเจ้า อะไรคือสิ่งที่จะเป็นผลของสิ่งเหล่านี้?”
|
||
|
\v 9 เขาได้พูดว่า “ดาเนียลเอ๋ย ไปตามทางของเจ้าเถอะ เพราะว่าถ้อยคำเหล่านั้นก็ถูกปิดไว้แล้ว และถูกประทับตราไว้จนถึงวาระสุดท้าย
|
||
|
\s5
|
||
|
\p
|
||
|
\v 10 คนเป็นอันมากจะถูกชำระให้บริสุทธิ์ สะอาดและทำให้ดีขึ้น แต่คนชั่วจะยังทำการชั่วอยู่ ไม่มีคนชั่วสักคนหนึ่งจะเข้าใจ แต่บรรดาคนเหล่านั้นที่ฉลาดจะเข้าใจ
|
||
|
\v 11 ตั้งแต่เวลาที่เครื่องเผาบูชาตามปกตินั้นได้ถูกยกเลิกไป และสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดการร้างเปล่าอย่างสิ้นเชิงนั้นจะถูกตั้งขึ้น จะเป็นเวลา 1,290 วัน
|
||
|
\v 12 ความสุขจะมีแก่ผู้รออยู่ได้จนถึงวันสิ้นสุดของ 1,335 วัน
|
||
|
\v 13 เจ้าต้องดำเนินไปตามทางของเจ้าจนถึงที่สิ้นสุด และเจ้าจะได้พักสงบ เจ้าจะยืนขึ้นในสถานที่ได้ถูกกำหนดให้เจ้า เมื่อสิ้นสุดวันทั้งหลายนั้น”
|